แต่ต้องยอมรับ ช่วงหลังๆ น้อยลงไปเยอะ คะ เพราะเด็กรุ่นหลังๆ ก็หัวแข็งขึ้น ไม่ยอมเหมือนเด็กสมัยก่อน

อย่างสมัยกู มึงรู้ไหม กูโดนอะไร อีดอก กูโดนรุ่นพี่ ผช โกนขนหมอยคะมึง จับเข้าเต้น ทีละคน โดนรุ่นพี่ ผช 4-5 คน รุ่มโกนขนหมอยคะ มึง ก่อนโกนแม่งใช้ไฟแช๊ก จุดเผาขนหมอยหน่อยนิดก่อนเดียว

จนพอรุ่นกู ขึ้นเป็น ปีสอง ก็ประชุมรุ่นกัน ตกลงจะเอาไง

สรุป คือ ยังเหลือกิจกรรมรับน้องอยู่ แต่การโกนหมอย เลิกคะ

มันก็จะทยอยลดๆไปเรื่อยคะ

เห็นว่าช่วงหลังๆ กิจกรรมรับน้อง ตจว ในสาขากูก็งดแล้ว 1 ประหยัด 2 อาจารย์สั่งห้าม

3 เด็กไม่ให้ความร่วมมือด้วย 4 รุ่นพี่บางคนก็ขี้เกียจไงมึง

จนตอนนี้มีแต่รับน้องในมอ กันแต่ก็รับถึงแค่ช่วงเย็นๆ 5-6 โมงเย็นก็ปล่อยน้อง แล้ว

รับน้องก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ซ้อมเชียร์ แนะนำตัว นิดๆหน่อยๆคะ

แต่อยู่ในสถานะที่เราทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องรับไป แต่พอเปลี่ยนมาเป็นรุ่นเราเป็นรุ่นพี่

เราก็เอามาปรับปรุงคะ ของแบบนี้ มันก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่คะ

ก็ต้องคอยๆปรับกันไปคะ อย่างรุ่นฉัน ถ้าเพื่อนคนอื่นๆยื่นกร่าน ไม่เอาจะให้มีเหมือนเดิม

ฉันจะทำไรได้คะ ก็ต้องตามเสี่ยงส่วนใหญ่คะ แต่เรื่องนี้มันก็ต้องมีการคุยกันคะ

ปรับปรุ่งกันไป คะฉันถึงบอกไงคะ ว่าทุกที มันมีดี และไม่ดี

แต่แต่ ม.ที่เป็นข่าว คณะที่เป็นข่าว ฉันก็เชื่อว่า มีคนที่ไม่เห็นด้วย และคณะดีๆ ก็มีคะ

เข้าทำนองปลาเน่าตัวเดียว แต่เหม็นทั้ง ม. คะ

ของแบบนี้ มันอยู่ที่สำนึกคะ เราทำอะไรไม่ได้

เป็นฉัน ฉันจะเข้าไปปะฉะดะ กะอีรุ่นพี่พวกนั้นเลยคะ บอกมึงจะหยุดไม่หยุด คณะอนุญาติ เหรอ

ยิ่งสมัยนี้ ข่าวมันเร็วคะ แค่โพสลงเฟส นี้ก็จบแล้ว สมัยฉัน มันโบราณคะ ไม่เหมือนสมัยนี้

ทำอะไรหน่อยก็ รู้กันหมดคะ