เรื่องของคู่สามีภรรยา ดร.บิล กับ อลิซ (และเป็นคู่ในชีวิตจริงตอนนั้น ทอม ครูซ กะ นิโคล คิดแมน)
ไปงานปาร์ตี้ของคนไข้ในความดูแลของดร.บิล ในงานก็แยกย้ายกันไป โดนคนอื่นคั่วอ่อยกันไป
ดร.บิล เจอเพื่อนเก่าที่เคยเรียนแพทย์ด้วยกัน นิค ไนติงเกล แต่ดรอปเรียนไปก่อน มาเล่นเปียเยสเป็นอาชีพ
ก็คุยกันไป ถ้าสนใจ ไปฟังฮีเล่นได้ที่บาร์ แล้วค่ำคืนที่ยาวนานก็จบลง แต่เกือบจบไม่ดี เพราะอีคนไข้
ดร.บิลที่จัดงาน เอาชะนีมาเย็ด แล้วชะนีไฮ เกือบตาย แต่ดีที่ดร.บิลไปช่วยทัน อีคุณเมียอลิซก็เมาแอ๋
เกือบโดนลากไปเช่นกัน (หรือตัดสินใจอยู่ แต่สร่างพอดี)
คืนต่อมา ความเครียด เคลือบแคลง หึงหวงใด ๆ ยังครุกรุ่น อีคุณเมียเลยปุ๊นแม่ง แล้วก็มาคุยกะผัว
เมื่อคืนอะไรยังไง อีผัวก็คิดอะไรตรงไปตรงมาซื่อ ๆ บื้อ ๆ ไม่นอกใจ เมียไม่นอกใจแน่ ไม่ขาวก็ดำใด ๆ
ไม่หึง ไม่หี ไม่แตด อีเมียก็ระเบิดพลังหีใส่เลย บรึ้มมมม กูเป็นคนนะ อารมณ์ซับซ้อน อีดอก
พร้อมเล่าเรื่องความลับที่อยู่ในใจ เป็นความลับที่อยู่ข้างใน ว่าตอนไปวาเคฌึ่นกันที่วอดก้า แครนเบอร์รี่
(เคป คอด) นางป๊ะผู้ Naval Officer (เป็นไทย ยศอะไรไม่รู้ ทหารเรือ ประมาณนั้น) นางอยากได้มาก
พร้อมยอมแลกชีวิตแต่งงาน ลูก อนาคตใด ๆ เพื่อคืนเดียวก็เสียวได้ เท่านั้น
ผัวอึ้งแดกสิ เมียกู อะไรจะขนาดนี้ ดีที่ระฆังพักยกช่วยชีวิต โทรศัพท์มา ผู้ป่วยคนนึงของฮีเสียแล้ว
ดร.บิลเลยได้โอกาสหนีออกไปข้างนอก
ไปถึงบ้านผู้ป่วย เจอลูกสาวคนไข้ สารภาพรักอีก ดร.บิล ก็งง ๆ ก่งก๊ง อีดอก อะไรจะซื่อขนาดนี้
(ภาพสะท้อนคุณเมียชัด ๆ ยอมแลกชีวิตอนาคตที่จะแต่งกะผัว เพื่ออี ดร.บิล ที่เจอไม่กี่ครั้ง)
ดีที่ผัวนางมาก่อน ดร.บิล เลยขอตัวออกมา แล้วการเดินทางของค่ำคืนที่ยาวนานก็เริ่มขึ้น
(นานจริง ๆ ประมาณครึ่งเรื่องได้)
ดร.บิล ไม่อยากกลับบ้านเลยเดินไป เดินมา เจอกะหรี่ลากเข้าบ้านก็ไปกะเขาซะงั้น (ชีใช้ชื่อโดมิโน)
ดวงยังไม่ถึงฆาต ออกมาได้ เดินไป เดินมาเจอผับที่คุณเพื่อนเล่นเปียเยส ก็เข้าไปฟัง นั่งคุย
สู่รู้เรื่องราวความลับของเขาได้อี๊กกก ว่าจะไปเล่นเปียเยสต่อที่งานลึกลับ ต้องใส่หน้ากากกะผ้าคลุมเข้าไป
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดร.บิลก็ไฟท์ อ่ะ ไปร้านคอสตูม ดึกแค่ไหนก็ไม่หวัน เพราะเป็นหมอ เส้นเยอะ
ผู้ป่วยเยอะใด ๆ ก็ไป ไปเช่าชุดก็เจอเรื่องเย็ด ๆ อีก ดวงอะไรจะสมพงษ์ขนาดนี้
และฉากฮือฮาทั้งโลกก็มา งานใส่หน้ากากที่เสี่ยงถึงชีวิต
ดร.บิลรอดกลับบ้าน เจอเมียนอนละเมอหัวเราะ เมียก็เลยเล่าว่าฝันว่าเย็ดกะผู้ทหารเรือคนนั้น
แล้วผัวก็เห็นใด ๆ เหมือนตบหน้า ดร.บิล กลางห้าแยก
เช้ารุ่งขึ้น ดร.บิล ก็ตามสืบ หาเพื่อนนิค กลัวจะเป็นอะไร พบว่านิคเช็คเอาท์ไปแล้น พร้อมผู้ชายมาคุมสองคน
พนง.โรงแรมก็เล่าเม้าท์มอยไป อ่อยดร.บิลไป คันสุด อะไรสุด ชักมีเงี่ยนงำ เลยตามสืบ ไปที่จัดงานเมื่อวาน
ก็โดนเตือนว่าอย่ายุ่ง เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย ไปคืนชุดใด ๆ ไปเจอกะหรี่เมื่อวานอีกรอบ ไปดูศพ
สุดท้าย ผู้ป่วยที่จัดงานเลี้ยงในคืนแรก เรียกไปพบ พร้อมเล่าความจริง? อันแสนน่าตกใจ
ดร.บิล กลับบ้านไป เจอเมียนอนอยู่กับสิ่งที่หลอกหลอนฮี เลยระเบิดร้องไห้ พร้อมสารภาพความจริงทั้งหมด
รุ่งเช้าวันใหม่มา สองผัวเมียก็เริ่มต้นใหม่กับชีวิต รึเปล่า?
https://www.youtube.com/watch?v=YEfyfcEdW4Y
สรุป
นิโคลเล่นดีมากกกกก มาน้อยแต่ใส่เต็ม มันคือใช่ คือโดนมาก เสียดายนางไม่ได้รางวัล
หรือนางไม่อยากชิงสมทบหญิงก็ไม่รู้ (แต่คุณเธอก็ออกน้อยจริง ๆ อ่ะแหละ ทั้งเรื่องเป็นทอมเดิมไป เดินมา)
กลับกัน อีทอม ดูยังไง ๆ ก็ท๊อม ทอม ครูซ สมแล้วที่โดนไป 90 กว่าเทคแค่เดินผ่านประตู
หนังเรื่องนี้ว่าด้วยอัตลักษณ์ที่ถูกปกปิดไว้ภายใต้หน้ากากที่เราเลือกที่จะสวมใส่
ลองเทียบกับโลกความเป็นจริงสมัยปัจจุบันนี้ อ่ะ สังคมออนไลน์ อ่ะ บอร์ดเรานี่แหละ
ใช้ชื่ออะไรก็ได้ แอ๊บเป็นใครก็ได้ ใส่หน้ากากปกปิดตัวจริงกันเข้ามา เพื่อปลดปล่อย
ดังนั้น หากรู้ตัวตนจริง ๆ ก็อาจเป็นอันตรายได้ (ด่าเขาไว้เยอะ โป๊ะ IP บ้าง GPS บ้าง ก็โดนตามสืบ
ตามแหก ถึงที่อยู่บ้าน น่ากลัวจริง ๆ ฮาาาาา) เพราะในสังคมจริง เขาเหล่านั้นอาจมีหน้ามีตา มีตำแหน่งใด ๆ
ทีสำคัญมากกกก แต่ขอให้ลองคิดกลับกัน ทั้งเรื่อง อีดร.บิล ไปไหนมาไหนก็โชว์บัตรว่าตัวเองเป็น ดร.นะเออ
นั่นก็คือหน้ากากหนึ่งของบิล แต่เป็นหน้ากากที่สังคมยอมรับ บิลถอดหน้ากากหมอ มาใส่หน้ากากแฟนซี
เข้างานลึกลับ บิลก็เป็นแค่หนึ่งในสมาชิก ไม่ได้มีสิทธิ์เหนือใครทั้งนั้น
หรืออีเจ้าของร้านชุดแฟนซี คุยกะหมอบิลก็เป็นหน้ากากเจ้าของร้าน profession ธุรกิจ กำไรใด ๆ
เจอลูกตัวเองปุ๊บ ใส่หน้ากากคุณพ่อทันที แล้วก็สลับหน้ากากเจ้าของร้านตอนคุยกะหมอ สลับกะคุณพ่อไปมา
ถ้าคนจนเก็บเห็ดขาย กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ โดนรถชนพร้อมกัน เข้าโรงพยาบาล ก็ต้องถอดหน้ากากในสังคม
ที่ให้นิยามคน ๆ นั้นออก ใส่ชุดผู้ป่วย นั่นก็คือหน้ากากใหม่ที่ทั้งคู่ต้องใส่ในโรงพยาบาล คือเป็นผู้ป่วย
ต้องให้หมอรักษาเหมือนกัน นั่นแล
ทั้งเรื่องการใส่หน้ากาก ดร.บิล, คุณเมีย อยู่บ้านใส่แว่น ทำตัวแบบนึง ออกนอกบ้าน ถอดแว่น แต่งตัวสวยเด้ง
นั่นก็เป็นอีกหน้ากากนึงที่ไว้ใส่ออกงาน ใช่ไหม?
ดังนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่นอนด้วยกัน เย็ดกันอยู่ทุกวัน ไม่ได้กำลังใส่หน้ากากอะไรอยู่?
ทั้งเรื่องอี ดร.บิล แลดูอ่อนต่อโลกมากอีดอก นี่เข้าข้างคุณเมียเลยนะ
หึย อีเหี้ย คิดอะไรตื้น ๆ ได้ยินแล้วก็แอบขึ้นเบา ๆ เพราะคนเรามันซับซ้อนมากกว่า ไม่ขาวก็ดำ
บางทีจิตใจมันก็มีอะไรลึก ๆ มีแฟนตาซี อะไรบางอย่างอยู่ในใจ เข้าใจกันด้วย
ส่วนเรื่องอื่น อันนี้อ่านมา เขาว่า เรื่องนี้แสดงพลังหี feminine ข่มพลังผู้ชาย ดู ๆ ไปก็คิดได้แบบนั้น
ทั้งต้นเรื่องที่สองชะนีจะลากคุณหมอไปแดก ทั้งคุณเมียที่คุมเกมต้อนเต้นรำอ่อยผู้
ทั้งความซวยที่จะเกิดกับอีคนไข้เพราะชะนีไฮจะตายเอา หรือชะนีกะหรี่ลากเข้าบ้าน หรือชะนีช่วยชีวิตในงาน
เป็นต้น ก็ว่ากันไป แต่ขอให้ดูการใช้สีในเรื่อง ช่วงที่ตัวละครเดินไปตรงที่มีสีฟ้า ๆ นำ้เงิน ๆ จะเป็นช่วง
สารภาพ เล่าความจริง หรือแค่แฟนตาซีที่แต่งขึ้นมากันนะ?
เขาว่า หน้ากากที่ใส่ในงานทั้งหมดมีความหมาย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แม้แต่ชื่อกะหรี่ ชื่อโดมิโน
นั่นก็เป็นชื่อหน้ากากประเภทนึงเช่นกัน
สุดท้ายตอนจบเรื่องที่นิโคล พูดว่า Fuck. สั้น ๆ แต่ทรงพลังมาก ห้ามพลาดค่ะ
Printer-friendly copy
Email this topic to a friend
