ทุกวันนี้พยาบาลแม่งก็เปิดคลินิคหีแตด หาแดกกับชาวบ้านอยู่แล้วหนิคะ
ยังจะอยากจ่ายยาเพิ่มอีกหรอ คือแม่งกะจะเอาแต่ได้ทุกอย่าง

ต่อไปเดี่ยวแม่งก็ขอเจาะเลือดค่ะ
ได้อีก เดี่ยวแม่งขอทำฟันด้วยเลยทีนี้

เอาให้สุด แล้วหยุดที่ระบบพัง ไปเลยค่ะ ยมพยาบาล !

แล้วมึงจะมีวิชาชีพไว้ทำหอกหักทำไมคะ

ต่อไปเภสัช ทันตะ แม่งก็เรียนครอบจักรวาลไปเลย (เรียนแค่ 3 หน่วยกิตด้วยเลยเอ๊า)
แล้วมาร้องเรียนเอาแบบพยาบาลนี่แหละ ถ้ามึงเป็นเจ้าของวิชาชีพ มึงจะยอมไหม

กฎหมายมันก็ขัดเจน ไม่มีเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ เวลานั้น
จะขายยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษบางประเภท ไม่ได้

ปัญหามันอยู่ที่ การบังคับใช้ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่มีปัญญาจัดการปัญหาอากงอาม่า นั่งขายยาแทน

แต่เวลามีปัญหาเกิดขึ้น คนที่ต้องรับผิดชอบ นอกจากคนขายแล้ว เภสัชกรที่ต้องอยู่ควบคุม ก็ต้องรับผิดชอบด้วยค่ะ
ต่อให้ใครขายก็เถอะ แต่ถ้าเกิดปัญหากับคนไข้ขึ้น เภสัชมักง่าย ที่ยอมให้แขวนป้าย มึงก็ต้องรับผลกรรมโดนฟ้องโดนคดีกันไป

เพราะงั้น คนซื้อมึงก็แหกตาดูหน่อย ป้ายผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ สีน้ำเงิน
รูปก็มีหรา คนขายไม่ตรงกับชื่อก็ไม่ต้องซื้อมัน

หรือจะสละเวลาซักนิด ร้องเรียนไปที่อย. ก็ถือว่ามึงช่วยลดปัญหาพวกนี้ได้แล้วค่ะ

ส่วนในรพ. อยู่ในความรับผิดชอบของหมออยู่แล้ว (ข้อยกเว้นในกม.)
เพราะงั้น เอามาเทียบกับกม.ยา ตัวใหม่ ที่อยู่นอกเหนือค.รับผิดชอบของหมอ ไม่ได้

ปล. ละเรื่องปัญหาการบังคับใช้ไปแล้วกันค่ะ
เพราะปัญหาการบังคับใช้ ต่อให้พยาบาลขายยาได้จริง ปัญหาคนอื่นขายแทน มันก็ยังเกิดค่ะ

ทันตแพทย์สมัยป้าเรียน ช่วงพรีคลีนิคเรียนฟาร์มาโค 5 หน่วยกิต พอขึ้นชั้นคลีนิคเรียนวิชาศัลย์ฯ ยังมีเลคเช่อร์ และ สัมมนาเพิ่มเกี่ยวกับยาที่ต้องใช้บ่อยๆในวิชาชีพอีก เช่นยา antibiotic , analgesic , local anesthetic อีกหลายชั่วโมง นับรวมแล้วก็อีกหลายหน่วยค่ะ

แต่ทันตแพทย์ไม่มาเรียกร้องอะไรแบบนี้แน่นอนเพราะทุกวันนี้งานที่ทำก็ล้นมืออยู่แล้ว

หัตการบางอย่างก็ไม่ได้อยู่ในบทบาทวิชาชีพ อย่างเจาะเลือด เป็นบทบาทของนักเทคนิคการแพทย์
แต่เทคนิคการแพทย์คงไม่ขึ้นมาเจาะคนไข้เองที่งอร์ด

ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพยาบาลสิ

ในรพ. นั่นก็อีกเรื่องค่ะ ต่อให้พยาบาลจ่ายยา ในกม.เดิม มันยังไม่ผิดเลย

แต่ประเด็นคือ.. นอกสถานพยาบาลค่ะ !
เช่น คลินิกห่าแตด ที่พยาบาลออกมาเปิดหาแดก กับชาวบ้านที่ไม่รู้ห่าอะไร

ตอนนี้หมอฟันออกมาแหกหี พรบ. นิวเคลียร์แทนค่ะป้า เพราะตามกฎใหม่ ที่ไหนมีเครื่อง x-ray ต้องมีนักรังสีเทคนิคประจำสแตนบายด์ตลอดค่ะ แล้วคลินิกหมอฟันทั่วไปที่ไหนจะจ้างนักรังสีเทคนิกกันล่ะคะ จริงมั้ยคะป้า

จริงค่ะ. เรื่องนี้เรื่องใหญ่สำหรับพวกป้าค่ะ

หนูลองคิดดูว่าขนาดพรบอะไรเนี่ยยังไม่ผ่าน ยังมีพวกหาแดกเริ่มส่งไลน์มาชวนไปติวเพื่อสอบใบรับรองเป็นนักรังสีบ้าบอนี่ คิดค่าติวไม่ใช่ถูกๆ พอโดนแหกหีประจานก็เงียบไป

กลิ่นคอรัปชั่นรีดไถเงินลอยมาแต่ไกลค่ะ

ปล. นี่เป็นกระทู้พรบยา เราพูดเรื่องไม่เกี่ยวข้องเดี๋ยวโดนด่าว่าเสียมารยาทนะคะ

เรื่องยานี่เรื่องสำคัญนะคะทั้งยากินยาฉีด ดิชั้นเคยร้องเรียนไปหลายปีแล้วตอนที่ไปคลินิคแห่งหนึ่งย่านสุทธิสาร ทางคลินิคให้ใครไม่รู้มาฉีดยาคิดว่าไม่ใช่พยาบาลแน่นอนเพราะพูดไทยไม่ชัด อย่าว่างั้นงี้เลยนะพวกจบสาธาหลายคนก็แอบเปิดคลินิคลับๆจ่ายยาชุดให้ตาสีตาสากันเลยชาวบ้านก็เรียกกันหมอๆๆ

แต่ฝ่ายที่สนับสนุนคือสภา มันมีการล้อบบี้มาจากนายทุนที่อยากเปิดร้านขายยาแบบปูพรม แต่ติดขัดตรงกฏหมายต้องให้มีเภสัชกรประจำร้านยาทำให้ไม่มีบุคลากรเพียงพอ ถ้าพยาบาลจ่ายยาได้ก็ฉลุย

พยาบาล = Drug administration
เภสัช = Drug dispensing, drug information service and drug profile
ฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องมีความทับซ้อนใดๆ
เภสัชไม่จำเป็นต้องฉีดยา ส่วนพยบ.ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายยานะคะ

แพทย์ไม่ได้รู้จักยาเท่าเภสัช ให้ไปดูแลพยาบาลคนไข้ก็ทำให้ดีเท่าพยาบาลไม่ได้แน่นอน

เภสัชกรก็วินิจฉัยอาการไม่ได้เหมือนหมอ ฉีดยาอย่างพยาบาลไม่ได้

พยาบาลก็มีหน้าที่ในแบบที่หมอกับเภสัชไม่สามารถทำได้

หน้าที่ตัวเองต้องทำยังเหนื่อยไม่พอเหรอ ทำไมต้องมั่นหน้าวัลลาบีอยากทำเกินหน้าที่ถ้าไม่ใช่เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

พอปล่อยให้วิชาชีพอื่นขายยา ไม่ว่าวิชาชีพนั้นๆจะให้ใครจ่ายยา กม.ยาก็เอาผิดไม่ได้ เพราะงั้น เราจึงเห็นบางวิชาชีพ เรียกร้องให้วิชาชีพตัวเองจ่ายยาได้บ้าง โดยไม่อยู่ในค.ควบคุมของวิชาชีพที่กม.ยา ยกเว้นให้

ก.แก้ปัญหาหมอตี๋ โดยก.เพิ่มจน.บุคลากรให้เข้าถึงก.จ่ายยาให้มากขึ้น ก็เหมือนก.แก้ปัญหาสลากกินแบ่งฯโดยผลิตเพิ่ม ซึ่งเป็นก.แก้ที่ปลายเหตุ แนวทางที่ควรจะเป็นควรบังคับใช้กม.ที่มีอยู่เดิม ให้เด็ดขาด แล้วออกกม.อุดช่องโหว่ที่กฤษฎีกาเคยวางแนวทางเอาไว้เกี่ยวกับเวลาปฏิบัติการของภก/ภญ.

ทั้งปัญหาม.13 พรบ.ยา2510 หรือแนวทางกฤษฎีกา ตลอดก.บังคับใช้กม. ล้วนเป็นปัญหาที่หลายคนมองเห็นแต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจาก.. มันกระทบกับหลายๆวิชาชีพ เพราะงั้น เวลาพูดถึงปัญหาหมอตี๋ หลายคนก็จะเลี่ยงประเด็นเหล่านี้ เพราะจนท.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนั้น

เห็นยังคะว่าใครของจริง

ส่วนพยาบาล หล่อนกลับไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวคนไข้ต่อไปนะคะ