เรื่องนี้อิสราเอลส่งเป็นหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมชิงมงออสการ์ด้วยนะคะ
คิดว่าก็มีสิทธ์ได้ แต่ไม่ขาด ไม่เหมือน Fantastic woman ปีที่แล้ว
ดูปุ๊บ รู้เลยอีนี่ได้ชัวร์ ชีวิตหญิงรันทด (อีกละ) หญิงจะไม่สู้กลับ จนจบนู่น
ถึงระเบิดใส่แล้วก้าวต่อไปสวย ๆ

http://www.palm-plaza.com/CCforum/DCForumID3/202452.html?1

เดี๋ยวจะหา the guilty กะ L'apparition มาดู
ส่วนอี loveless ยังไม่ได้ดูจนปัจจุบัน

ตัวเรื่องใช้โทนแบบหม่นๆทั้งเรื่อง เลยพอเดาออกว่าเนื้อหาไปทางหนักแน่ๆ แต่เอาจริงๆแล้วหนังเยอรมันปกติชอบโทนแบบนี้หมดอยู่แล้ว ถ้าคนชอบดูหนังฟรุ้งฟริังอาจไม่ถูกจริตกับหนังแถบเยอรมันเท่าไหร่ คนเยอรมันจะชอบใส่เนื้อหาหนักประมาณนึง หนังเกย์น่ารักดูแล้วอมยิัม ฟิน จิกหมอน แบบ Love, Simon ไม่ค่อยเจอในประเทศนี้

หนังเรื่องนี้ดูข้ามเรื่องประเด็นเกย์ไม่เกย์ของตัวเอกนะ โทมัส ดูเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง ไม่ได้มี gay lifestyle ชัดเจน(เท่าที่ดูจาก trailer) ฮีอาจเป็นไบ เปิดกับทุกเพศ หนังเพียงแต่เล่าเรื่องว่าฮีแค่เจอผู้ชายคนนึงแล้วชอบ หรือไม่ก็หนังก็พยายามนำเสนอเรื่อง sexual fluid ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ชอบให้ใครมายัดเยียดคอนเซปนี้เท่าไหร่ เพราะแม้ความชอบทางเพศจะมีหลายระดับ แต่ exclusive homo และ hetero ก็ยังมีอยู่ ไม่ควรยัดเยียดความเป็น bi fluid ให้ทุกคน ไม่ใช่เกย์ทุกคนบนโลกใบนี้จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงได้ และก็ไม่ใช่ผู้ชายแท้ทุกคนจะยอมมีอะไรกับคนเพศเดียวกัน นี่ยังไม่นับ asexual หรือคนประเภทอื่นๆ จากเหตุผลข้างต้น อาจเรียกไม่ได้เต็มปากว่านี่คือหนังเกย์ ที่ผู้ชมจะคาดหวังเกย์ซีนจัดเต็ม หนังแค่หนังเล่าเรื่องถึงผู้ชายคนนึงในพาร์ทที่ไปชอบผู้ชาย

ถึงได้บอกว่าถ้าคาดหวังหนังเกย์ที่ฟินๆจิกหมอนให้ข้ามเรื่องนี้ไปเลย แต่ถ้าชอบบทหนักๆ ชอบดราม่า ความดาร์คก็น่าควรพิจารณาเรื่องนี้ซะหน่อย

หนังเกย์เยอรมันที่จบดีๆหรือไม่แย่นักก็มี แต่สังเกตได้ว่าตัวเอกมักจะอายุน้อยๆ เด็กหนุ่ม coming of age เช่น Sasha เนื้อหาจะไม่หนักมาก แต่ conflict ระหว่างตัวละครเป็นสิ่งที่เห็นแทบทุกเรื่องในหนังเยอรมัน ขนาดซีรี่เยอรมันที่มีคู่เกย์แบบ happy ending ฟินๆ ยังมีฉากหนักๆเยอะมาก

มีคนเคยเก็บสถิติทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่ผลออกมาตรงกันว่า เกย์เยอะขึ้น และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ในหมู่เจนเนอเรชั่นใหม่ๆของเยอรมันและยุโรปทั้งหมด ในเยอรมันผู้ชายเพิ่งแต่งงานกันได้แค่เพิ่งปีสองปีนี่เอง เราน่าจะได้เห็นทิศทางของหนังเกย์ในแถบนี้มาในโทนใหม่ที่สดใส วาบหวิว มากกว่านี้

คิดว่าเรื่องนี้อาจตั้งใจทำ ending แบบนั้นออกมา เพื่อต้องการให้คนได้รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมของวงการฟุตบอลกับนักฟุตบอลเกย์มากกว่า คือ หนังตั้งใจส่งสารออกมาตรงๆว่า homophobic ในวงการกีฬามันดูทุเรศแบบนี้นะ คนในวงการ ผู้ชม สปอนเซอร์ ควรให้ความสนใจกับเรื่อง homophobic ในวงการนี้ และร่วมกันจริงจังมากกว่านี้ ทางฟีฟ่าพยายามหนักมากที่จะจัดการเรื่องนี้แต่มันต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายแหละ ประเทศเยอรมัน สวิต อังกฤษค่อนข้าง active เรื่องนี้เลย แต่ก็ยังต้องพัฒนาอีกมาก บอลโลกรอบที่แล้วก็พึ่งจัดการเชือดเม็กซิโก โดยให้จ่ายค่าปรับเรื่องที่แฟนบอลเม็กซิโกไปตะโกนดูถูกเกย์เป็นภาษาสเปนในนัดที่เม็กซิโกแข่งกับเยอรมัน ตัวนักบอลเม็กเองก็พยายามร้องขอแล้วว่าอย่าให้แฟนบอลทำแบบนี้แต่เรื่องนี้มันขึ้นกับจิตสำนึกส่วนตัวของแต่ละคน ก็น่าจะมีทั้ง film และ mini film มาเล่นประเด็นนี้กันอีกนานนะ

สิ่งที่ Mario เลือกในตอนท้ายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้นะ และก็โทษฮีไม่ได้เพราะสังคมรอบด้านกดดันมาให้ฮีต้องเลือกแบบนี้ ซึ่งฮีก็ต้องจ่ายคืนในสิ่งที่ฮีเลือก คือ ไม่ได้มีชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แม้ตอนหลังจะอยากกลับไปเลือกอะไรใหม่ แต่อะไรที่ผ่านมาแล้ว ไม่สามารถคืนมาเหมือนเดิมได้