>แต่ละคนก็มีแรงจูงใจกันทั้งนั้น
>แต่เรื่องยังไม่เปิดเผยอดีตอะไรมากเลยไม่รู้ใครจะแค้นเฮียเสริฐทื่สุด
>
>แต่สงสัยเรื่องที่เฮียเสริฐมีเมียสองคน
>อีกคนหาว่าคนที่เป็นมะเร็งเป็นเมียน้อยทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้จดทะเบียนสมรส
>แต่แต่งงานกันแล้ว? แล้วคนเป็นลูก(เจเจ)
>จะมีสิทธิทางกฏหมายได้รับมรดกได้จริงหรอ
>คือไม่รู้กฏหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้อะอย่าด่านะยะ
มีครับ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๗ บุครนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน เสมือนบุตรทีชอบด้วยกฎหมายการรับรองบุตรนอกกฎหมายในที่นี้ ไม่ใช้การจดทะเบียนรับรองบุตร เนื่องจากบุตรที่จดทะเบียนรับรอง นับเป็นบุตณที่ชอบด้วยกฎหมาย การรับรองในที่นี้จึงเป็นการกระทำใดๆที่บุคคลทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นว่าเด็กคนนั้นเป็นบุตร เช่น เอารูปไปอวดต่อเพื่อนที่ทำงานบอกว่าเป็นลูกตน เป็นเจ้าภาพงานบวช อุปการะเลี้ยงดู ให้ใช้นามสกุล
ละครพลาดมหันต์อย่างนึงคือทรัพย์สมบัติทั้งปวงที่อากงถือครองอยู่ เมื่ออากงเสียชีวิตแล้ว ย่อมตกเป็นของอาม่าครึ่งหนึ่งในฐานะสินสมรส ดังนั้นพินัยกรรมจึงย่อมมีผลบังตับเพืยงครึ่งหนึ่งนอกส่วนของสินสมรสของอาม่าเท่านั้น ลูกชายทั้งสามคนและตั้วซุงจึงย่อมได้รับหุ้นของบริษัทจิรานันตาเพียงร้อยละ ๑๒.๕ ต่อคน ภัสสรก็ย่อมได้รับเงินในบัญชีธนาคารในชื่อของอากงเพียง ๑๐๐ ล้านบาท
อาม่าจะได้รับทรัพย์สินต่างๆดังนี้
ในฐานะสินสมรส
หุ้นของบริษัทจิรานันตาครึ่งหนึ่ง
กรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งในบ้านของอากง
ครึ่งหนึ่งของเงินในบัญชีธนาคารในชื่อของอากง ซึ่งมีมูลค่า ๑๐๐ ล้านบาท
ครึ่งหนึ่งของพันธบัตรรัฐบาลที่อากงซื้อไว้ ซื่งมีมูลค่า ๑๐ ล้านบาท
ในฐานะทายาทตามพินัยกรรม
กรรมสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งในบ้านของอากง (หมายความว่าบ้านทั้งหลังเป็นของอาม่า)
อีกครึ่งหนึ่งของพันธบัตรรัฐบาลที่อากงซื้อไว้ (หมายความว่่าพันธบัตรทั้งหมดเป็นของอาม่า)
แม้นหากว่าอากงและอาม่าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน อาม่าก็ยังมีสิทธิ์ในทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของอากงในฐานะกรรมสิทธิ์รวม
ดังนั้น หากนี่เป็นเรื่องจริง ทางออกของปัญหาก็ง่ายมากๆคือให้อาม่าโอนหุ้นของบริษัทจิรานันตาส่วนหนึ่งให้แก่ภัสสร