ป้าไม่เคยทำงานหนักล่ะสิ มีคนทำงานหนักกว่าป้าอีกเยอะมากกกกกกกก อาชีพอื่นๆ เขาก็ทำงานหนักนะป้า พวกครูผู้ช่วยใหม่ๆ เนี่ยทำงานเหมือน 10 วันต่ออาทิตย์เลย ไม่ได้พัก มีเวรโรงเรียนตลอด พา นร.ไปสอบแข่งขันนั่นนี่ ประเมินนั่นนี่ ทำงานตลอดเวลา นอนไม่ถึง 3 ชม. ต่อวัน สุขภาพเสื่อมโทรม แต่ได้เงินเดือน 15,000 หมอน่ะยังดีกว่าครูเยอะมาก แค่ว่าหมอส่วนใหญ่เป็นพวกมักสบาย เรียนแต่พิเศษ ติวๆ แล้วก็มาเรียนหมอ ไม่เคยใช้ชีวิตลำบากเท่าไหร่ ก็เลยรับไม่ได้ บ่นนั่นนี่

นอกจากครูอาจารย์ยังมีอีกหลายอาชีพทำงานหนักกว่าหมอมาก แต่เงินเดือนก็น้อย ลองให้หมอไปแบกหามดูสิ ทำได้ไหม ทำก็ไม่ได้ ก็อย่าไปเที่ยวเปรียบตัวเองว่าทำงานยังกับกรรมกร ลองไปเป็นกรรมกร กับพนักงาน 7/11 ดูสิ เขาทำงานหนัก เงินเดือนน้อยมากๆ พวกหมอจะทำแบบนั้นได้ไหมล่ะ ตัวเองดีแล้วทำงานที่ยังมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิต ไม่ใช่จะทำแบบนั้นไปตลอดชีวิตเลยนะป้ากะเทยและป้าเกย์

รุ่นพี่ ๆ เขาทำกันแบบนี้มาตลอด ทำไมถึงทำกันได้ล่ะ ถ้ามันไม่ดีก็คงมีคนโวยวายตั้งแต่นานมาแล้ว แบบว่าเขาเริ่มหัดตั้งแต่เป็น นศพ จนชินและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พิศูจน์ว่ามีสมรรถภาพ

แล้วการอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่ามันผิดตรงไหน ทำไมต้องเปรียบเทียบกับพนงเซเว่น นี่หมอค่ะ ตื่นค่ะ

คนรุ่นก่อนรับได้ก็เรื่องของนางสิคะ คนรุ่นนี้รับไม่ได้ทำไมคนรุ่นก่อนต้้้้้้้องเปรียบเทียบต่างๆนานา งงมากค่ะ

ไม่มีใครอยากเปรียบพนักงาน 7 กับหมอหรอกพนักงานเขาเองก็ไม่เคยคิดไปเทียบเท่าด้วย

แต่เห็นพวกหมอต่างหากที่ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับพนักงาน 7 หาว่าตัวเองทำงานแบบพนักงาน 7

แต่ขอโทษนะ ถ้าพวกหมอลองมาทำงานแบบพนักงาน 7 และได้เงินแบบเขาจริงๆ พวกนี้ทำได้ไม่ถึง 2 วันหรอก ลาออกแน่นอน

หมอส่วนใหญ่ ย้ำว่า ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบประคบประหงม และงานหนักไม่เอา งานเบาไม่ค่อยสู้ เน้นแต่เรียนและท่องหนังสือไง เลยทำอะไรไม่ค่อยเป็น

พอจบมาทำงานจริงๆ ก็เลยบ่นๆ และทำอะไรก็บ่นๆ บ่นน่ะได้ แต่บ่นและก็ด่าๆๆ ตลอด ไปสังเกตดูเลย หมอเกย์ หมอตุ๊ดนี่ยิ่งปากจัดมาก อะไรๆ ก็ไม่เคยพอใจ

ส่วนหมอที่พื้นฐานทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยนัก และถูกเลี้ยงดูมาแบบให้ทำอะไรด้วยตัวเองแต่เด็ก มักจะเป็นหมอที่ทำงานอดทนและดีกว่าหมอกลุ่มแรกๆ แต่เสียดายที่กลุ่มหลังนี่มีน้อยไม่น่าจถึง 20%

แต่ก่อนเคยคิดว่าหมอทำงานหนักกว่าอาชีพอื่น แต่พอไปดูอาชีพอื่นที่ทำงานหนักและได้เงินน้อยกว่าหมอเยอะมาก ทำให้รู้เลยว่าจริงๆ อาชีพหมอไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย

ที่บ่นเรื่องนอนไม่พอ มันคือช่วงเวลาบางวันในสัปดาห์ ซึ่งหลายอาชีพแทบจะเป็นแบบนี้หรือมากกว่านี้ก็มี แต่ไม่ได้อยากให้หมออดหลับอดนอนแล้วมาตรวจนะ

แค่จะบอกว่า บางทีมันต้องอดทนกว่านี้ ไม่ใช่จะเอาสบายทุกอย่าง พวกนี้ส่วนใหญ่ต่อให้ไม่มีเวรค่ำก็บ่นและไม่พอใจระบบอยู่ดี สังเกตมานานล่ะ คนไม่เคยพอใจอะไร ก็จะไม่พอใจอะไรสักอย่าง

นิสัยคนเนาะ ได้ถูกเลี้ยงมาแบบสบาย เคยตัว เคยชินอะไรกับการแค่นั่งอ่านหนังสือและทำข้อสอบ มันก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะ

ถ้ามองหาความน่าพอใจในอาชีพตัวเองได้ จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบพวกนี้หรอก

น่าจะเห็นใจหมอๆกันบ้าง เค้าไม่ได้เรียกร้องอะไรที่เกินจำเป็นเลย

ออกเวรแล้วก็ควรพักผ่อนนะคะคุณน้องขา อย่าไปนัดเอาท์ดอร์หรือดูดควยทั้งคืนนะคะ ไม่งั้นเวลาพักผ่อนจะไม่มีค่ะ ดิฉันเคยเป็น

มันเป็นเรื่องของการจัดการบริหารเวลา เงินเดือนหมอถือว่าสูงกว่าอาชีพอื่น ขึ้นเวรก็ไม่ได้ขึ้นฟรี หมอหลายคนก็จัดการบริหารเวลาและงานได้ ไม่เห็นเขาออกมาโวยวายอะไรเลย

ที่โพสต์ๆ ในรีข้างบนที่พาพูดเปรียบเทียบกับพยาบาล ก็ไม่ใช่หมอจริงๆ หรอก เพราะถ้าเป็นหมอจริงๆ จะรู้ว่าพยาบาลก็ทำงานนอกเวลาเยอะไม่ได้ด้อยกว่าหมอ เขาจัดการบริหารเวลากันเป็น

หมอไม่ได้ทำงานเป็นวัวเป็นควายเลยสักนิด มีแต่พูดเปรียบเทียบเอง ลองไปทำอาชีพอื่นดูได้เลยจะได้รู้ว่ามันไม่ได้สวยหรูแบบคนพวกนี้คิดสักนิด ก็แค่ทำงานหนักนิดหน่อยก็ไม่ได้ เลยพูดว่าตัวเองทำงานหนัก

อ.หมอหลายคนทำงานหนักกว่าพวกหมอมือใหม่ซะอีก และเขาก็ไม่ได้พูดในทางแย่เลย เพราะมันขึ้นอยู่กับการจัดการเวลาทั้งนั้น แต่พวกมาพูดว่าทำงานเหมือนวัวเหมือนควาย คือที่บ้านใช้ล้างจาน มันยังไม่ทำเลยด้วยซ้ำ เพราะขี้เกียจเรื่องแรงงานเป็นทุนเดิม ใช้ชีวิตสบายมาแต่กำเนิดไง แต่หัวดี เลยมาเรียนหมอ หวังรวยสบายๆ

ไม่รู้บ้านเราทำได้รึเปล่า แต่ที่อเมริกา พวกหมอที่เรียนต่อหลังจบ (postgraduate training) เป็นพวกแพทย์ฝึกหัด (intern) แพทย์ประจำบ้าน (resident) และแพทย์เรียนเฉพาะทาง (?fellow) ล้วนแต่ต้องได้ใบประกอบโรคศิลปะ (medical license) กันมาแล้วทั้งนั้น เลยเปิดโอกาสให้ไปหากินพิเศษนอกเวลา (moonlighting) ตาม รพ ที่ไม่มีหมอพวกนี้อยู่ แล้วเกือบทั้งหมดก็ทำกันทั้งนั้นทั้งหมอต่างชาติที่เรียกกันเล่น ๆ ว่า "กะเหรี่ยง" และหมอมริกันเองด้วย เพราะเงินตัวเดียวแท้ ๆ เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป ทั้ง รพ หมอและคนไข้ไม่เห็นมีใครบ่น ทุกวันนี้ก็ยังมี