ขอจัดอันดับ เป็น Ct (กะรัต) นะคะ ไม่เกี่ยวของ Qetour ควอลิตี้อันนี้ คือ ขนาดจริงของเพชรนะคะ
.
.
.
.
เสริมข้อมูลหน่อยนะคะ ให้เป็นวิทยาทาน เพื่อ กะเทย จะไปซื้อเพชร มาใส่นะคะ
.
.
ส่วนการดูว่าเป็นเพชรแท้หรือเปล่านั้นง่ายนิดเดียว เพราะเพชรแท้สมัยนี้ ส่วนใหญ่ถ้ามีน้ำหนักเกิน 30 ตัง ก็มักจะมีใบเซอร์จากสถาบันติดมาด้วย เพียงแค่คุณรู้ว่า เพชรเม็ดนั้นมีใบเซอร์เพชร คุณก็สามารถใช้วิธีที่ผมแนะนำง่ายๆเพียง 2 ขั้นตอนเท่านั้น
1. ถามหาใบเซอร์ GIA/HRD/IGI
ก่อนที่คุณจะซื้อ ให้คุณถามทางร้านเลยว่ามีใบเซอร์มาให้หรือเปล่า ร้านเพชรทั่วไปควรจะสามารถหาเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันที่น่าเชื่อถือได้ เช่น GIA HRD IGI มาให้คุณ เนื่องจากสถาบันเหล่านี้มีชื่อเสียงดีอันดับต้นๆ และเป็นที่ยอมรับในวงการ
คุณต้องเช็คให้แน่ใจ ว่าใบเซอร์นั้นเป็นของ Lab จริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงใบเซอร์ที่ทางร้านออกให้เองเพียงอย่างเดียว เพราะหลายร้านมักจะออกใบเซอร์ด้วยตัวเอง โดยแจ้งว่าเป็นเพชรคุณภาพสูงกว่าความเป็นจริงเพื่อเพิ่มมูลค่า
.
.
.
2. ดูขอบเพชร เพื่อหา Laser Inscription
สำหรับการดูเพชรแท้ที่มีใบเซอร์ GIA ผมแนะนำให้คุณลองนำกล้องขยาย 10 เท่า ส่องไปตรงขอบเพชรเพื่อหาเลข Laser Inscription 10 หลัก ซึ่งจะสลักอยู่สักมุมหนึ่งของเพชร โดยที่เลขนั้นจะต้องตรงกับเลขของใบเซอร์ที่คุณถืออยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าตรงกันจริง
วิธีดูเพชรแบบนี้อาจจะง่ายสำหรับเพชรที่่ฝังแบบหนามเตย คือ เพชรที่ชูออกมาจากตัวเรือนแหวน เมื่อส่องเข้าไปจะเห็นเลขได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นเพชรฝังสอด คือ ขอบเพชรไปอยู่ด้านใน ก็จะไม่สามารถดูได้
.
.
.
เพื่อดูว่าเพชรเม็ดเล็กนั้นแท้หรือเทียม.
.
.
1. วางเพชรบนหมึกปากกาลูกลื่น (Dot Test)........... ด้านซ้ายของจริง (ด้านขวา ของปลอม)
วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทดสอบ เพียงแค่คุณวาดจุดลงบนกระดาษสีขาวด้วยปากกาลูกลื่นหมึกสีน้ำเงิน จากนั้นให้คุณทำการพลิกตัวเพชรให้หน้าเพชรคว่ำไปบนจุด
เพชรแท้ที่เป็นธรรมชาติจะมีเหลี่ยมทั้งหมด 58 หน้า สำหรับเพชรกลม จึงทำให้หมึกถูกสะท้อนไปทั่วทุกทิศ คุณจะไม่สามารถมองเห็นจุดนั้นได้เลย
แต่ในกรณีเพชรเทียมหรือ Cubic Zirconia (CZ) คุณจะสามารถมองเห็นสีหมึก ลอดออกมาได้อย่างชัดเจน ราวกับวางเศษแก้วทับลงไปเฉยๆ
.
.
.
2. ชั่งน้ำหนัก (Precision Test)
3.เครื่องทดสอบเพชร (Diamond Tester)
.
.
. ทริค เล็กๆน้อยๆ
1. ดูรอยขีดข่วน
ก่อนอื่นขออนุญาตเตือนคุณก่อน ว่าคุณไม่ควรตั้งใจนำเพชรไปขูดกับอะไรทั้งสิ้น ถ้าคุณไม่อยากให้เพชรคุณเสียหายโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าเครื่องประดับคุณจะเป็นเพชรแท้หรือเทียมก็ตาม
ถ้าคุณมีเครื่องประดับเพชรเก่าๆที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ให้คุณลองนำมาดูเนื้อของเพชรว่ามีรอยขีดข่วนหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นเพชร CZ ที่ได้รับการสวมใส่เป็นประจำ จะมีรอยขีดข่วนให้เห็นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าเป็นเพชรแท้จะไม่มีรอย เนื่องจากเพชรเป็นวัสดุที่แข็งที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงเกิดเป็นสุภาษิตที่ว่า เพชรตัดเพชร เพราะมีวิธีเดียวที่จะทำให้เพชรเป็นรอยได้ คือการนำเพชรอีกเม็ดมาตัดนั่นเอง
.
.
2.เป่าลมหายใจ
เพชรแท้จะมีคุณสมบัตินำความร้อนที่ดี เพราะฉะนั้นหากคุณลองเป่าลมหายใจออกใส่เพชร เหมือนกับที่คุณทำใส่กระจก เพชรแท้จะขุ่นมัวเพียงครู่เดียว แล้วจะมีสีใสเหมือนเดิมในทันที.
.
.
3. ตีกล้องส่อง (เป็นวิธีที่ง่ายสุด และใช้กันมายาวนาน)
ก็คือการส่องเพชรด้วยกล้องกำลังขยาย 10 เท่า (กล้องส่องพระ) เพื่อไม่เพียงแต่เช็คว่าเป็นเพชรแท้หรือเทียม แต่เป็นวิธีดูคุณภาพเพชร โดยอาศัยประสบการณ์ส่วนตัวของมืออาชีพล้วนๆ
ในกรณีทั่วไป หากคุณส่องกล้องลงไปในเพชร ถ้าเป็นเพชรเทียม หรือ Moissanite คุณจะสามารถเห็นเส้นคู่ตรงส่วนหน้าเพชรแต่ละหน้า
นอกจากนั้น หากคุณส่องกล้องลงไปบนขอบเพชรแท้ คุณจะเห็นเนื้อเพชรที่คล้ายๆกับคราบน้ำแข็ง หรือจะเห็นเม็ดหยาบๆเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงพื้นผิวธรรมชาติที่แท้จริง แต่ถ้าเป็น CZ คุณจะเห็นเพียงผิวเรียบๆ เพราะเป็นเพชรที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมาเอง
เพชรแท้ เหลี่ยมจะคม................. CZ (เพชรรัสเซีย) เหลี่ยมไม่คม