หมอแห่แชร์ภาพให้เห็นว่าการรักษาเหยื่อกราดยิงนั้นหม่นหมองสยองแค่ไหน หลังสมาคมปืนบอกการคุมปืนไม่ใช่กงการของคนเสื้อกาวน์
กลายเป็นเรื่องที่สร้างความไม่พอใจ แก่บุคลากรในแวดวงการแพทย์อเมริกันอย่างกว้างขวาง เมื่อสมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (เอ็นอาร์เอ) กลุ่มลอบบีทรงอิทธิพลทางการเมืองสหรัฐ ตำหนิรายงานฉบับใหม่ของวิทยาลัยแพทย์อเมริกัน ที่จัดทำข้อเสนอแก้ไขความรุนแรงจากปืน รวมถึงการคุมเข้มการซื้อขาย
ด้วยการทวิตว่า ใครสักคนไปบอกพวกหมอต่อต้านปืนที่คิดว่าตนเองสำคัญให้หน่อยว่ายุ่งกับเรื่องของตัวเองพอ และว่า ครึ่งหนึ่งของบทความในวารสาร Annals of Internal Medicine คือการผลักดันควบคุมปืน น่าผิดหวังที่สุด คนในวงการแพทย์ไม่ได้สอบถามคนอื่นเลยนอกจากปรึกษาหารือกันเอง
ทวิตของเอ็นอาร์เอ มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน สัปดาห์เดียวกับที่เกิดเหตุนองเลือดล่าสุดจากมือปืนกราดยิงใส่ในบาร์เมือง ทาวนด์ซัน โอคส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย คร่าเหยื่อ 12 ราย
เอ็นอาร์เอจ่ายเงินโปรโมททวิตนี้ ซึ่งมียอดกดถูกใจ 3,000 ไลค์ แต่มีคนเข้าไปตอบซึ่งส่วนใหญ่ต่อว่า กว่า 2 หมื่น
จูดี เมลีเน็ก นักนิติพยาธิวิทยา ในแคลิฟอร์เนีย เห็นทวิตของเอ็นอาร์เอ ขณะกำลังเตรียมผ่าชันสูตรเหยื่อที่เสียชีวิตจากถูกยิง เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว เธอจึงตอบกลับด้วยอารมณ์โกรธก่อนเข้าห้องดับจิตว่า รู้มั้ยว่าฉันต้องคีบกระสุนออกจากศพสัปดาห์ละกี่ลูก หมอเมลีเน็ค ให้สัมภาษณ์กับ ว็อกซ์ ว่า หมอมีความรับผิดชอบที่จะต้องพูดเรื่องการคุมปืน เหมือนกับการผลักดันควบคุมบุหรี่เพื่อยับยั้งมะเร็งปอด ในฐาะนักวิทยาศาสตร์และผู้รักษาดูแล หมออยู่ในสถานะที่เข้าใจความทุกข์ทรมานอันเกิดจากปืนเป็นอย่างดี ไม่อาจจะนิ่งเฉยอีกต่อไปได้
รอเบิร์ต ไลออนส์ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก กล่าวว่า การเสียชีวิตของเหยื่อมีผลกระทบต่อครอบครัวและต่อทุกคนที่พยายามช่วยชีวิต ไปตลอดกาล สิ่งที่ไม่ได้เห็นในภาพถ่ายก็คือจำนวนแพทย์ หมอ ช่างเทคนิคและทีมงานมากมาย ที่ทุ่มเทแรงกายและใจรักษาเหยื่อ
แม้แต่นักรังสีวิทยา ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดว่าเกี่ยวข้อง แต่ต้องเกี่ยวอย่างมากในการวางแผนและรักษาบาดแผนกระสุนปทน นี่ไม่ใช่แค่กงการของเราเลย แต่มันเป็นเรื่องของทุกคนที่พยายามแก้ไข
ขอบคุณแหล่งข่าว https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_426513
https://hilight.kapook.com/view/180246