เรื่องคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะปี พ.ศ. 2510 ณ ตลาดอำเภอชุมแสง ในจังหวัดนครสวรรค์ ย้อย เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสี ผู้เจ้ากี้เจ้าการกับทุกเรื่องของทุกคนในครอบครัว ย้อยแต่งงานกับเจ๊กเซ้งและมีลูกชายด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือ ปฐม, ประสงค์, กมล และ มงคล
ปฐม ลูกชายคนโต กลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากไปเป็นทหารที่ตาคลี เขากลับมาพร้อมกับเรณู หญิงสาวที่ทำอาชีพขายบริการในบาร์ที่ตาคลี ปฐมต้องพาเรณูกลับมาด้วยเพราะเรณูบอกว่าท้องกับเขา ย้อยเห็นลูกชายพาผู้หญิงขายบริการเข้าบ้านก็ไม่พอใจอย่างมาก เพราะปฐมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็คือพิไล ลูกสาวเถ้าแก่โรงสีที่ตลาดทับกฤช ซึ่งเพียบพร้อมด้วยหน้าตา ฐานะ และการศึกษา ย้อยไม่อยากให้เรณูอยู่บ้านเดียวกันกับเธอ จึงให้ไปอยู่ที่บ้านในตรอกซึ่งเขาได้จากการรับจำนองมา ย้อยไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของพิไล จึงไปหาประสงค์ซึ่งบวชอยู่ที่วัด และขอให้เขาสึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทนปฐม แม้ว่าประสงค์จะไม่อยากแต่งงาน เพราะเขาแอบชอบจันตา ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านสังฆภัณฑ์ของนางป่วยฮวย แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดใจแม่ได้ จึงตอบตกลง
ย้อยจึงไปบอกข่าวกับพิไล แต่พิไลยื่นข้อเสนอว่าขอสินสอดทองหมั้นใหม่ทั้งหมด และให้นางย้อยเป็นคนรับผิดชอบค่าจัดงานด้วย แม้ย้อยจะไม่พอใจแต่ก็ตอบตกลงเพราะไม่อยากเสียหน้า และอยากให้เรณูถูกเปรียบเทียบและกดดันโดยลูกสะใภ้ด้วยกัน เมื่อได้ฤกษ์แต่งงาน ย้อยก็ไล่เรณูไปอยู่ที่บ้านหลังโรงสี และเอาบ้านในตรอกเป็นเรือนหอของประสงค์และพิไล ด้านเรณู หลังจากเรณูย้ายไปอยู่ที่หลังโรงสี ก็สร้างกระท่อมใหม่ขึ้นมาอีกหลังหนึ่งเพื่อไว้ใช้ทำขนมขาย โดยได้ความช่วยเหลือจากเจ๊กเซ้งและกมล
มงคลไปเรียนช่างที่ปากน้ำโพ นั่งรถไฟกลับมาเยี่ยมบ้านที่ชุมแสง บังเอิญเจอวรรณา น้องสาวของเรณู ที่เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ปากน้ำโพเหมือนกัน มงคลจีบวรรณาตามประสาคนเจ้าชู้ แต่วรรณาไม่สนใจ วรรณามาตามเรณูกลับบ้านซึ่งอยู่ที่ปากน้ำโพโดยด่วน เพราะเรไร แม่ของเธอ ป่วยหนัก เรณูจึงรีบไปเยี่ยมแม่ทันที หลังจากสั่งเสียกันเสร็จ แม่ของเรณูก็สิ้นลม เรณูจึงต้องอยู่ช่วยจัดงานศพที่บ้าน 3 วัน โดยงานศพถูกจัดขึ้นที่ปากน้ำโพ หลังจากแม่ตาย เรณูก็ตั้งใจว่าจะเอาป๊อก ลูกของเธอซึ่งเกิดจากการถูกพี่เขยข่มขืน ไปอยู่ด้วยกันที่ชุมแสง แต่สุดท้ายป๊อกก็ตัดสินใจอยู่กับหลวงพ่อที่วัดไปก่อน
ย้อยไปที่ทับกฤชและแวะพักที่ปากน้ำโพหนึ่งคืน บังเอิญได้ยินคนในตลาดคุยกันว่าเรณูมีลูกมาก่อนแล้ว ย้อยแค้นใจที่เรณูหลอกลูกชายของเธอ เมื่อกลับไปถึงชุมแสงก็เอากุญแจไปล็อกบ้านหลังโรงสีของเรณู เมื่อเรณูกลับมาจึงเข้าบ้านไม่ได้ เรณูจึงไปขอกุญแจที่ร้านของย้อยก็บอกให้รอวันรุ่งขึ้นจึงจะให้ เรณูจึงขอไปนอนที่บ้านของจันตาหนึ่งคืน แล้วรีบออกมาที่หน้าร้านของย้อยแต่เช้า ทำเหมือนว่าเธอนั้นนอนหน้าบ้านมาทั้งคืนให้ชาวบ้านเห็นใจและไปต่อว่าย้อยว่าใจดำกับคนท้อง หลังจากนั้นไม่นาน เรณูก็ปล่อยข่าวว่าแท้งจากการลื่นล้มเพราะทำงานหนักเกินไป ย้อยได้ยินก็ไม่เชื่อและพยายามคิดหาทางกำจัดเรณูให้เร็วที่สุด
หลังงานแต่งงานของประสงค์และพิไลผ่านพ้นไป ทั้งสองคนก็ไปอยู่ที่บ้านในตรอกของย้อย แต่พิไลทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่างเพราะปกตินางพิกุล ผู้เป็นแม่ ทำให้อยู่เสมอ พิไลจึงขอจ้างคนอื่นมาทำงานบ้านแทนทุกอย่าง แม้ประสงค์และย้อยจะไม่พอใจ แต่เมื่อแต่งเข้ามาแล้วก็จำใจต้องหาทางอยู่ด้วยกันให้ได้ ป้อมกับบุญปลูก สองพี่น้อง ซึ่งทำงานอยู่ในร้านย้อย ก็ขยันขันแข็ง และเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นที่รู้ดีของย้อย บุญปลูก แอบรักประสงค์อยู่เงียบ ๆ ยิ่งเห็นประสงค์ต้องทำงานบ้านแทนพิไล ก็นึกสงสาร จึงมาช่วยประสงค์กับพิไลทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง ความรักที่เธอมีต่อไปประสงค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ประนอมกับติ๋ม เพื่อนที่เคยทำงานในบาร์กับเรณู มาธุระที่ชุมแสง เรณูเล่าชีวิตของเธอให้ฟัง ติ๋มฟังเรื่องที่ย้อยรังแกเรณูอย่างไรบ้าง ก็แนะนำให้เรณูไปทำเสน่ห์ใส่ย้อยเหมือนที่เคยทำใส่ปฐม ย้อยรู้ว่าเรณูพาเพื่อนขายบริการมาที่บ้านก็ตามไปด่าทอถึงบ้าน เรณูหลุดปากพูดเรื่องที่ปฐมหลงคนหัวปักหัวปำ ย้อยจึงคิดขึ้นมาได้ว่าเรณูอาจจะทำเสน่ห์ใส่ปฐม ย้อยจึงนั่งเรือไปหาหมอมีที่เกยไชย หมอมีตรวจดูแล้วพบว่าปฐมถูกเสน่ห์จริง แต่ถ้าอยากถอนเสน่ห์จะต้องพาปฐมมาด้วยเท่านั้น เรณูรู้ข่าวว่าย้อยไปหาหมอมีก็กลัวปฐมถูกถอนเสน่ห์ จึงรีบไปหาหมอก้อน คนทำเสน่ห์ให้ ติ๋มจึงแนะนำให้เรณูทำของใส่ย้อยด้วย โดยติ๋มเป็นคนออกเงินให้ เพราะติ๋มเองก็มีความแค้นกับย้อยที่ยึดบ้านของเธอไป ทำให้เธอต้องไปขายบริการที่ตาคลี และอยากให้เรณูแก้แค้นแทนเธอ