ญี่ปุ่นรู้ดีว่ามาตรการตัดเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของแดนโสมได้ผล จึงได้ทีขี่แพะไล่ ขู่ว่าจะตัดเกาหลีใต้ออกจาก “บัญชีสิทธิพิเศษทางการค้า” ซึ่งจะทำให้การส่งออกเครื่องจักร และวัตถุดิบต่าง ๆ จากญี่ปุ่นไปยังเกาหลีใต้ ต้องใช้เวลาขออนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นนานถึง 90 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทของเกาหลี จะต้องพักการผลิตนานถึงขนาดนั้น

ญี่ปุ่นยังขู่ว่า ถ้าเกาหลียังไม่ยอมศิโรราบ ญี่ปุ่นจะขยายการควบคุมวัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งรวมถึงแบตเตอรีของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทมัตสึชิตะ คือเบอร์หนึ่งของเทคโนโลยีนี้ และกล่องควบคุมความเร็วในรถยนต์ ก็เป็นเทคโนโลยีของบริษัทไอซิน ของญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

หากญี่ปุ่นลบดาบซ้ำที่อุตสาหกรรมรถยนต์ ยักษ์ใหญ่อย่าง ฮุนได แดวู ก็ต้องเจ็บสาหัสไม่แพ้ซัมซุง

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีดาบ “ตัดเงินทุน” เพราะบริษัทเกาหลีมากถึง 1 ใน4 กู้เงินจากธนาคารของญี่ปุ่น เพียงแค่ธนาคารของญี่ปุ่นไม่ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือไม่ปล่อยเงินกู้เพิ่มเติมให้กับธุรกิจของเกาหลี วันโลกาวินาศก็จะมาถึงอย่างแน่นอน

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของซัมซุงจากเกาหลีใต้นั้น จำเป็นต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากญี่ปุ่นมากกว่า 90% และวัตถุดิบเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ไม่สามารถมีประเทศอื่นผลิตทดแทนได้ หมายความว่า บริษัทของเกาหลีใต้อาจถึงกับต้องหยุดการผลิต ถ้าหากบริษัทญี่ปุ่นไม่ส่งวัตถุดิบให้

เจอท่านชินโซะเล่นไป ประธานาธิบดี​เกาหลี ดากติดไฟอยู่ไม่สุขเลยค่ะ

มุน แจอิน ต้องเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วย 30 บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ แต่ก่อนการประชุมครั้งนี้นายใหญ่ของซัมซุง ลี แจยง กลับเดินทางไปญี่ปุ่น กรั่กๆๆๆๆ

ซัมซวยนี่ส่อแววเจ๊งได้เลยด้วยซ้ำนะคะ เพราะการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขาย ​คือธุรกิจหลัก ที่สร้างรายได้หลักให้บริษัท

บอกแล้วค่ะ มึงอย่ามาเล่นกับพี่ยุ่นค่ะ อีกากเกาแดกหมา

องค์ความรู้ know how วัตถุดิบต้องพึ่งพาเขาทั้งนั้น

ทำเป็นมาปลุกระดมด้วยความแค้นหนหลัง

มึงไม่เล่นตั้งแต่สมัยอีจีนเข้ายึดครองเลยหล่ะอีสัตว์

รายต่อไปคืออีแกวหน่ะแหล่ะ มั่นหน้ามั่นห้ามั่นสิย

สามสารชนิดที่ว่านี้ คือ Fluorinated Polyimide (ใช้ผลิตหน้าจอแสดงผล),
Photosensitising Agent Resist (ใช้ชิปประมวลผล เซ็นเซอร์กล้อง) และ Hydrogen Fluoride (สารกึ่งตัวนำ ใช้ผลิตชิป แรม และหน่วยความจำ)​

ถ้าญี่ปุ่นจะจัดหนักเกาหลีใต้จริง บอกเลยว่าหายนะ​แน่ๆ เพราะสินค้าไอทีทั้งโลกจะถูกปรับราคาสูงขึ้นและอาจจะทำให้มีหน้าจอ และ ชิปประมวลผล แรม ผลิตออกมาได้น้อย ไม่ทันต่อความต้องการ

ต้องท้าวความก่อนว่า ก่อนที่เราได้ใช้จอ LCD หรือแม้แต่จอ OLED โค้งได้ ม้วนได้ มันก็ต้องใช้เคมีภัณฑ์​เป็นวัตถุดิบ​มาผลิตใช่ไหม ซึ่งตัววัตถุดิบ​ที่ว่านี่คือ Fluorinated Polyimide ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นคนส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยถือครองสารตัวนี้กว่า 90% ของทั้งโลก

เช่นเดียวกับสาร Photosensitising Agent Resist ที่ใช้ผลิตช้ปประมวลผล​ ญี่ปุ่นก็ถือครองกว่า 90% ของโลก และ Hydrogen Fluoride หรือสารกึ่งตัวนำ ที่ญี่ปุ่นก็เป็นรายใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 70% ของทั้งตลาดเลยทีเดียว

ซึ่งญี่ปุ่นส่งออกสารเหล่านี้ไปให้บริษัทเกาหลีอย่าง Samsung และ LG ใช้ผลิตจอ แรม ชิปหน่วยความจำ เซ็นเซอร์กล้อง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของประเทศเกาหลี คิดเป็น 20% ของจีดีพีประเทศเกาหลีใต้

ว้ายยยย อีควายนี่โง่เนาะ

คนญี่ปุ่นเขาไม่ใข้สินค้าเกาหลีค่ะ ไม่แลด้วยซ้ำ

ถ้าเขาไม่ใข้สินค้าประเทศตัวเอง เขาก็ใช้ของฝรั่งไปเลย

อย่างทีวี คนญี่ปุ่น เขาใช้ Sony, Panasonic, Sharp, Toshiba

สมาร์ทโฟน​ คนญี่ปุ่น​ เขาใช้แต่ iPhone ทั้งประเทศ เดินไปไหนก็เจอแต่ iPhone อาจจะมี Sony บ้างประปราย

แต่ไม่เขาไม่ใข้ Samsung ค่ะ เห็นเป็นแบรนด์ภาษาเกาหลีเขาก็เบ้ปากใส่แล้วค่ะ

Samsung ขายไม่ออกนะคะในญี่ปุ่น ต้องใข้ชื่อแบรนด์ว่า Galaxy แทน เพราะถ้าใข้เป็นภาษาเกาหลี คนญี่ปุ่นเขาไม่ซื้อค่ะ

ไม่จริงคะ
Samsung คือแบรนด์มือถือที่ขายดีที่สุดในโลก
เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี
ญี่ปุ่นต้องติดตามและเลียนแบบเทคโนโลยีของเกาหลี
ถ้าไม่มีแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ล้าหลังไป 20-30 ปี

samsung กำลังจะขึ้น 10% ค่ะ ถึงไม่มีเรื่องญี่ปุ่นก็เถอะ

ดีค่ะ พวกกูจะได้ค่าโอที เพราะยอดสั่ง HDD สูงขึ้น

ขรรรม อีสัส ติ่งเกามันโง่แบบมึงทุกตัวไหมวะ?

ก่อนมาบอก ญี่ปุ่นล้าหลัง เกาหลีของมึงหยุดซื้อสิทธิ​บัตรและเทคโนโลยีขั้นสูงจากญี่ปุ่นไปทำสินค้าขายให้ได้ก่อนนะคะ

ทุกวันนี้ เบื้องหลังคือบริษัทเกาหลี ต้องพึ่งเทคโนโลยี​ชั้นสูงจากญี่ปุ่นในการผลิตสินค้า​ทั้งสิ้นค่ะ

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของเกาหลี ต้องพึ่งวัตถุดิบจากญี่ปุ่น ซัมซุง คือ เบอร์ 1 ของโลกในการผลิตสมาร์ทโฟนและจอภาพ โดยยึดสัดส่วน 70% ของ DRAM และ 90% ของจอ OLED

แต่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของเกาหลีใต้นั้น จำเป็นต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากญี่ปุ่นมากกว่า 90% และวัตถุดิบเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ไม่สามารถมีประเทศอื่นผลิตทดแทนได้ หมายความว่า บริษัทของเกาหลีใต้อาจถึงกับต้องหยุดการผลิต ถ้าหากบริษัทญี่ปุ่นไม่ส่งวัตถุดิบให้

เจอท่านชินโซะเล่นไป ประธานาธิบดี​เกา ดากติดไฟอยู่ไม่สุขเลยค่ะ Samsung นี่ส่อแววเจ๊งเล่นด้วยซ้ำนะคะ เพราะรายได้จากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์​คือหลายได้หลักของบริษัท กรั่กๆๆๆๆ

ประธานาธิบดีมุน แจอิน ต้องเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วย 30 บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ แต่ก่อนการประชุมครั้งนี้นายใหญ่ของซัมซุง ลี แจยง กลับเดินทางไปญี่ปุ่น กรั่กๆๆๆๆ

น้องเข้ามาขำค่ะ 555

อี่ยุ่นก็สวยๆ มองแล้วขำๆ แร่ธาตุหายากที่ว่านี้นะเหรอ กูมีอีกเป็นกระบุง ไม่ต้องโอ้อวด ปล่อยมันโชว์พาวกัดกันไป ของกูอยู่ใต้มหาสมุทร หลายสิบล้านตัน คาดว่าจะใช้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆให้โลกไปได้อีกหลายร้อยปี เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่ได้ขุดขึ้นมาใช้ค่ะ เชิญตีกันไปเลยค่ะ สุดท้ายอนาคตพวกมึงก็ต้องมากราบตีนกูอยู่ดี คิคิ

ปล.จริงๆอี่ยุ่นก็คือเจ้าของ ARM ที่เป็นหมัดน็อคของฝั่งอี่กัน อี่ยุ่นนี่ไม่ธรรมดาค่ะ กูบอกเลย

" ญี่ปุ่นพบ แร่หายาก จำนวนมากในมหาสมุทรแปซิฟิก "

https://www.posttoday.com/world/547750

อิดอก เริ่ดไปอี๊กกกกก

ยังไม่ยอมจบ สงครามจบไปตั้งนานมากแล้ว ยุโรปเข่จบกันแล้ว ญี่ปุ่นเขาก็จบกับประเทศสมัยสงครามหมดแล้ว แต่เกายังประสาทแดก เงิดหมดก็จะมาไถญี่ปุ่นอีก

นี่ไงตัวโลกเขาถึงไม่อินด้วยกับเกาหลี อิสัส ลำไย

ตุ๊ดคะ
เนินสูงนี่มันอยู่จันทบุรีไม่ใช่เหรอ
หรือที่นั่นมีซีเกทด้วย
โคราชจะมีสูงเนิน กับโนนสูง

หลายปีก่อนเทคโนโลยี่ HDD ล้ำไปอีกสมัยนะค่ะ เป็นการใช้เลเซอร์ทำให้เพิ่มความเร็ว HDD เป็นร้อยเท่า แต่เนื่องจากต้นแบบมีขนาดใหญ่เลยยังไม่ได้เอามาใช้จริง ๆ ผ่านมาหลายปีไม่รู้ถึงไหนแล้วนะค่ะ

น้องขี้ตัวปลอมทำไมโง่จังคะป้า น่านน้ำสากลใครจะให้ไปขุด

10 10 10

ญี่ปุ่นอ้างเหตุผลในการจำกัดการสิ่งวัสดุไฮเทคใช้กับเกาหลีใต้ว่า เพราะเกาหลีใต้อาจนำวัสดุเหล่านี้ไปให้กับเกาหลีเหนือ เพื่อใช้ผลิตเป็นอาวุธ แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังของเรื่องนี้คือการ “ชำระแค้น” ในกรณีสงครามโลก

เกาหลีใต้เป็นฝ่ายเปิดศึกครั้งนี้ก่อน ตั้งแต่ประธานาธิบดีมุน แจอิน เข้ารับตำแหน่งก็ผลักดันนโยบายญาติดีกับเกาหลีเหนือ และหันปลายหอกมายังญี่ปุ่น ทั้งยกเลิกเงินกองทุนที่ญี่ปุ่นมอบให้เพื่อยุติเรื่องทาสกามสมัยสงครามโลก

หลังจากนั้น ศาลเกาหลีใต้ยังมีคำพิพากษาให้บริษัทของญี่ปุ่นจ่ายเงินชดใช้ให้กับอดีตแรงงานชาวเกาหลีใต้ ที่เคยถูกบังคับใช้แรงงานในโรงงานของญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ฝ่ายญี่ปุ่นอ้างว่าเคยจ่ายเงินชดใช้ให้เกาหลีไปแล้วหลังสงครามสิ้นสุด ทั้งสองชาติยังทำสัญญาร่วมกันในปี 1965 ว่าจะยุติการเรียกร้องใด ๆ อีก และปรับความสัมพันธ์สู่ระดับปกติ โดยเกาหลีใต้ได้นำเงินจากญี่ปุ่นไปฟื้นฟูประเทศขึ้นมาได้

หากแต่เกาหลีใต้กลับอ้างว่า คำพิพากษาของศาลเป็นการชดเชยให้กับอดีตแรงงานและครอบครัว ไม่ใช่รัฐบาล และหากญี่ปุ่นไม่จ่าย ศาลเกาหลีใต้ก็จะออกคำสั่งยึดทรัพย์สินของบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในเกาหลีใต้

รัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ จึงเดินหมาก โดยตัดเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ซะเลย

อย่าโชว์โง่สิ ถ้าเค้าจะขุดขึ้นมาย่อมทำได้ ถ้าสถานการณ์โลกเอื้ออำนวย "ทำเหมืองใต้มหาสมุทรมันยากลำบาก" อี่ดอก ก๊าซธรรมชาติ กลางอ่าวไทย อยู่ในชั้นหินลึกใต้ทะเลอีกทีนึง ยากมั้ยละคะ แต่ถึงจะยากยังไงคงไม่ยากไปกว่าเชลออยหรอกค่ะ

บางทีอีเกาก็มั่นหน้าไป อียุ่นมันคงจะรำคาญมากแล้วจริงๆ ปล่อยให้อีประเทศเกิด​ใหม่จอมโอ้ มาเบ่งใส่

แบบนี้เขาเรียก ตบให้เด็กมันดู

อินี่ก็แสดงความคิดเห็นแบบตื้นเขินสุด แต่กรุจะไม่บอกว่าโง่หรอก
ศาสตร์ทางด้านวัสดุศาสตร์ นี่แหละคือพื้นฐานของ
Innovation ทั้งหลายแหล่ที่หล่อนกล่าวอ้าง
เห็นชื่อ Fluorinated Polyimide ไหม ดูแค่นี้ก็รู้ว่ามันคือ
สารผสม และการที่ญี่ปุ่นผลิตได้มากกว่า 90 % ทั้งโลก
ก็เพราะองค์ความรู้วัสดุศาสตร์ที่ไม่ได้บอกและถ่ายทอดให้ใครรู้
ยังไงล่ะค่ะ ญี่ปุ่นถึงได้ถือครองอยู่ฝ่ายเดียว

ก็ลองไปซื้อรัสเซียดูสิค่ะ แต่จะได้ความบริสุทธิ์และคงที่เท่าญี่ปุ่นไหม
ก็อีกเรื่อง

แหวะ วัศดุศาสตร์ขี้หีอะไร USA นำหน้าไปหลายขุมแล้วคร๊าาาา

อีสัสนรกไอซ์จิตเภทดิ้นพล่าน โคลนเสี้ยมทั้งกระทู้แล้สคร่าาา

ขำตัวเองก่อนมั้ยคะ Innovation อี่ซัมซุง ให้ได้ครึ่งของโซนี่ก่อน ค่อยมามโน

สิทธิบัตรของอี่เกาทั้งประเทศ เทียบกับ บริษัทนวัตกรรมสัก 1-2แห่ง ของญี่ปุ่น นับใส่กันก็สู้ไม่ได้แล้วค่ะ

ไปดูโนเบลสายวิทย์ เคมี ฟิสิกส์ บลาๆ อี่เกาเคยมีสักคนมั้ยคะ สร้างสรรค์สิ่งเปลี่ยนโลกเคยทำรึยังคะ

เข้าใจคำว่า Innovation จริงๆรึยัง ไม่ใช่อยากจะพูดก็พูด เพราะเห็นคำศัพท์มันเก๋ๆ

อีเกายังพยายามดราม่าหาเรื่องญี่ปุ่นไม่หยุด

ที่ทั่วโลกเขาไม่อินกับอีเกา เพราะอีเกามันเวิ้นเว่อไม่จบไม่สิ้นนี่แหละ

ถ้าทำสงครามการค้ากันจริงๆ อิเกาสู้อิยุ่นไม่ได้แน่ๆ

เศรษฐกิจใหญ่กว่ากันตั้ง 3 เท่า.... แถมเงินอิยุ่นก็มากกว่ามหาศาล

สูสีไม่สูสีไม่รู้ แต่คนญี่ปุ่นเองออกมาด่านายกตัวเองที่ออกกฎนี้ออกมา ถึงญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าตลาด แต่ก็ไม่สามารถผูกขาดตลาดโดยสมบูรณ์ มีจีนเป็นผู้ผลิตรายย่อยอยู่ซึ่งเน้นผลิตส่งให้บริษัทจีนด้วยกันเอง (หัวเหว่ย, เสี่ยวมี่ อปโป้ ฯลฯ) พอญี่ปุ่นออกกฏมา เกาหลีไม่มีทางเลือกต้องไปซื้อสารเคมีจากจีนซึ่งเล็งโขกราคาอยู่ แถมกำลังการผลิตของจีนยังน้อยจะทำให้ทางเกาก็ต้องลดปริมาณสินค้าที่ผลิตออกมา ฝั่งญี่ปุ่นก็ขายสารไม่ได้เพราะที่ผ่านมาสารที่ว่าขายให้เกาหลีกว่า 6 ใน 10 ส่วน ตลาดหายวับไปเกินครึ่ง

งานนี้เสียทั้งเกาหลีและญี่ปุ่น เข้าทำนอง หยิกเล็บเจ็บเนื้อ มีจีนนั่งยิ้มเป็นตาอยู่อยู่คนเดียว

แถมถ้าฝ่ายเกาหลีกับจีนเกิดสร้างสัมพันธ์อันดีกันได้และจีนเพิ่มกำลังการผลิตได้ ต่อให้ญี่ปุ่นยกเลิกกฎนี้ในภายหลัง เกาหลีก็ไม่กลับไปซื้อของญี่ปุ่นแล้ว เพราะเกาหลีก็ชังญี่ปุ่นอยู่แล้วและซื้อจากจีนที่ไม่มีเรื่องแคลงใจกันทดแทนได้ อเมริกาเองก็จะต้องเต้นเพราะนี่ทำให้จีนยิ่งมีอำนาจทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก

แล้วถ้ากฎนี้ชอบธรรมจริง ทำไมต้องตอแหลว่าออกกฎมาเพราะกลัวมีการลักลอบส่งสารไปเกาหลีเหนือครับ

จีนไม่มีสัตถุดิบไฮเทคพวกนี้จ้าาาา นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ก็มีแค่ไต้หวัน ที่สามารถผลิตวัตถุดิบ​ขั้นสูงพวกนี้ได้

เกมนี้เกาหลีต่างหากที่จะตาย จีนรอซื้อวัตถุดิบ​ชั้นสูงจากญี่ปุ่นอยู่ตลอด แต่ญี่ปุ่นไม่ขายให้ เลือกที่จะขายให้เกาหลีใต้ และไต้หวันแทน เพราะไม่อยากให้ know-how ไหลเข้าจีน

เกมนี้ญี่ปุ่นเขาวางแผนจะให้ซัมซุงเป็นอัมพาต​ไปเลย เพราะไม่มีวัตถุดิบ​ ก็เดินสายการผลิตไม่ได้ รอที 3 เดือน ซัมซุงก็เจ๊งอ่ะ

จีนก็จ้องจะซื้อวัตถุดิบ​ขั้นสูงพวกนี้จากญี่ปุ่นอยู่ตลอด

เกาหลีไม่มีญี่ปุ่นตาย แต่ญี่ปุ่นไม่มีเกาหลี ญี่ปุ่นยังมีไต้หวัน อเมริกา หรือยอมกลืนน้ำลายขายวัตถุดิบ​ไฮเทคพวกนี้ให้กับผู้ผลิตจีน ต่อไปจีนก็จะกลายทาเป็นผู้นำการผลิตจอแทนเกาหลีแน่นอน

ญี่ปุ่นคงจะรวยกว่าป่ะ ถ้าเป็นพัทธมิตรกับจีน แต่ที่ผ่านทาญี่ปุ่นมันไม่ไหวใจจีนต่างหาก

อ่านเกม ต้องอ่านให้ขาดนะจ๊ะ

พวกบริษัทเกาหลีหลายๆแห่ง แม้แต่ซัมซุงเอง ก็ยังเคยกู้ธนาคารแห่งชาติของญี่ปุ่น ตั้งไม่รู้เท่าไร

จะบอกว่าสัมพันธ์​ทางเศรษฐกิจ​ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีมันโยงใย​กันแน่นมากกว่าที่หลายคนรู้ เหมือนผัวเมียอ่ะ

ญี่ปุ่นจะบีบเกาหลีเรื่องนี้เศรษฐกิจ​ให้ล้มเป็นโดมิโนไปเลย ก็ทำได้ แต่เขาคงไม่ทำ เพราะสุดท้ายมันก็จะมีผลกระทบมาหาญี่ปุ่นเช่นกัน ไม่ทางใดก็ทางนึง

ไปลองค้นมาแล้วทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์เชิงพึ่งพากันนะครับ

เกาหลีต้องพึ่งพาการนำเข้า fluorinated polyimide, photoresists และ hydrogen fluoride จากญี่ปุ่นเพื่อไปผลิตชิปและจอ oled ซึงมีมูลค่า 1 ใน 5 ของสินค้าส่งออกของเกาหลี ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสารเหล่านี้ของญี่ปุ่นก็ต้องพึงพาเกาหลีในฐานะตลาดส่งออก หากไม่มีเกาหลีมาซื้อก็ขายสินค้าไม่ได้

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องพึ่งพาชิปและจอ oled จากเกาหลีมาประกอบในสินค้าอิเลกทรอนิกส์ของตัวเอง เกาหลีเป็นผู้ผลิตชิปและจอ oled อันดับหนึ่งของโลกโดย 70% ส่งออกไปญี่ปุ่น หากเกาหลีไม่สามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ สินค้าเหล่านี้จะขาดตลาดส่งผลให้ญี่ปุ่นก็ไม่สามารถผลิตสินค้าของตัวเองได้เช่นกัน ทั้งสองประเทศรวมกันเป็นวงจรการผลิตเดียวกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งพังอีกฝ่ายก็อยู่ไม่ได้

นอกจากนี้ ตอนนี้เกาหลีหาผู้ขาย hydrogen fluoride รายใหม่ได้แล้วครับ หมีขาวเสนอตัว

นักวิชาการการเมืองระหว่างประเทศบางส่วนมองว่านี่เป็นเพียงการเล่นเกมการเมืองเพื่อเร๊ยกคะแนนเลือกตั้งของนายกอาเบะ หลังเลือกตั้งคงมีการผ่อนคลายหรือยกเลิกกฎ

วันที่ญี่ปุ่นตั้งตัวได้แล้วกลับมารวยมากกกกช่วง 1980-2000 อีญี่ปุ่นมันให้เงินช่วยเหลืออีเกาหีมากกว่าสามล้านล้านล้านบาท รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงให้ สนับสนุนการศึกษาจัดตั้งโรงเรียน มหาลัยให้อีเกาหี แต่รัฐบาลเกาหีไม่เอาเงินไปจ่ายประชาชนที่ได้รับความทุกข์จากสงคราม รัฐเก็บเงินไว้เองแล้วไปปั่นหัวประชาชนให้เกลียดญี่ปุ่น เพื่อความนิยมของรัฐบาลตัวเอง จนกระทั่งอีเกาหีเริ่มตั้งตัวได้จากเงินค่าไถ่ เริ่มพัฒนามีซัมซุง ฮุนได ฯลฯ เน้นราคาถูกภาพลักษณ์สวยหรูแต่คุณภาพห่วย มาตีตลาดแย่งเงินญี่ปุ่นจนสาหัสจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัว

ทีนี้พออีจีนผงาด อียุ่นที่กำลังแย่ ก็แย่ลงไปอีก ส่วนอีเกาเวรกรรมตามสนองก็แย่ตามไปด้วย ดีว่าได้เงินจากเคป็อปหลอกเงินกะเทยหัวโปกตามอาเซียนมาหล่อเลี้ยงบ้าง ส่วนอียุ่นไม่มีเคป็อปมีแต่หนังเอวี เลยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแลกเงินซึ่งก็ประสบความสำเร็จมาก

ปี 2011 อียุ่นเจอทสึนามิพินาศฉิบหายประเมินค่าไม่ได้ อีเกาหีชิงซ้ำเติมทันทีไม่นำเข้าอาหารจากญี่ปุ่นตั้งโต๊ะประจานออกทีวีไปทั่วโลกว่าเป็นอาหารกัมตรังสีนิวเคลียร์ แถวสร้างศาลากลางเมืองเป็นรูปคลื่นตั้งชื่อว่า Tsunami กัดอียุ่นยั่วๆ คนญี่ปุ่นไม่ชอบใจมากเพราะเหมือนอีเกาไปซ้ำเติมและแสดงความสมน้ำหน้าที่ญี่ปุ่นโดนทสึนามิถล่ม

มาปี 2019 อีเกาหีไม่ยอมเลิก ตามราวีอียุ่นต่อจะเรียกเอาเงินต่อ ทีนี้อียุ่นเหลืออด ผ่านมาตั้ง 80 ปีแล้วอีดอก สัญญาสงบศึกเลิกลาต่อกันหลังสงครามก็ทำกันไปแล้วแต่ยังไม่จบ อียุ่นเลยจะตอบโต้ทางเศรษฐกิจ อีเกาหีเลยเหวอ เลยพาลไปหาพวกดีกะอีเกาหีเหนือแอบส่งแร่ธาตุผลิตขีปนาวุธเอาไว้ยิงใส่อีญี่ปุ่นยั่วๆ

ก็รอดูดราม่าของ Peninsula นี้กันต่อไปค่ะ

เกาหลียึดญี่ปุ่นเป็น benchmark ในการพัฒนา​ประเทศมาแต่ไหนแต่ไร

ย้อนแย้งสัสๆ

อย่างจอ oled พวกเกาหลี มันไปเช่าซื้อเทคโนโลยี​ของบริษัทเมกันอย่าง kodak และ udc มาทำเป็นสินค้าทั้งนั้น และเทคโนโลยีพวกวัตถุดิบ​ก็เช่นกัน ก็ต้องพึ่งหลายๆบริษัทของญี่ปุ่น

เกาหลีอยู่ใต้ตีนญี่ปุ่นค่ะ ร้องถึง wto ก็ไม่มีใครช่วย สะใจ

รมต.ญี่ปุ่นเพิ่งเห็นชอบ ปลดเกาหลีใต้ออกจากสิทธิพิเศษทางการค้าค่ะ

ดาบที่สอง

เพราะการผลิตหน้าจอกับ เซมิคอนดักเตอร์ เป็นรายได้หลักของธุรกิจ
อิเลคทรอนิคส์อิเกาตอนนี้เลย

ส่วนพวกจอ oled คิดว่าคงยากแล้วที่ค่ายญี่ปุ่นจะลงมาแข่งกับเกาหลี เพราะสู้ต้นทุนถูกของฝั่งเกาไม่ได้

samsung นี่มันผลิต oled มาก็เอามาใส่กับสมาร์ทโฟน​ตัวเอง ที่ครองส่วนแบ่งเบอร์หนึ่งของโลก แค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว

samsung มันเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน​รายใหญ่อยู่แล้ว ทำ oled มายังไงก็ขายได้ แล้วยังขายให้ชาวบ้านอีก

ผิดกับ sharp หรือ panasonic ทำจอ oled ขาย มันก็ทำมาเพื่อขายให้ apple เท่านั้นแหละ

เพราะ sharp กับ panasonic ไม่ได้ขายสมาร์ทโฟน​ดีเหมือน samsung

ทำมาขายให้เกาหลีก็ไม่ได้ เพราะเกาหลีเขามี samsung กับ lg อยู่แล้ว ขายให้จีน จีนก็มีบริษัทผลิต oled หลายเจ้าอยู่แล้ว เช่น boe, au optic ต้นทุนถูกมาก

ญี่ปุ่นวิเคราะห์​แล้ว ว่ามันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม ไม่ใช่บริษัทญี่ปุ่นทำไม่ได้นะ แต่มองในแง่ของการทำธุรกิจ มันไม่คุ้ม เหมือนเอาเงินไปทิ้ง

ญี่ปุ่น ตอนนี้เหมือน ประเทศยุโรป อเมริกา ที่กลายมาเป็นเจ้าของเทคโนโล​ต้นน้ำแทน เป็นเจ้าของเทคโนโล​ยีชั้นสูง แล้วผลักหน้าที่การผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์​ ในประเทศที่ค่าครองชีพต่ำกว่า เป็นแหล่งผลิตแทน

sony เองยังสั่งจอ oled ของ LG เลย ง่ายกว่า เจ็บตัวน้อยกว่า เอาเวลาไปพัฒนาชิปประมวลผลภาพและการจูนค่าสีแทน

อ้าวกรูเพิ่งอ่านข่าวไปหยกๆ วันก่อน
ว่าจีนกับไต้หวัน จะร่วมมือพัฒนาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ
ให้มากขึ้นกว่าเดิม

ไม่มีทาง ไต้หวันเกลียดจีนจะตาย

งานนี้ญี่ปุ่นบอกชิวๆจ้า ประเทศกูมี Toshiba Memory และเตรียมสั่ง Micron แทนได้

คนที่จะเดี้ยงคือ Samsung มากกว่า ที่จะสูญเสียรายได้

ต้องบอกว่าเกาหลี กากมาก ทำไรญี่ปุ่นไม่ได้เลย 55555