ต่อไปสามารถยืนยันตัวตนจากที่บ้าน หรือจากที่ไหนบนโลกก็ได้นะคะ เพราะเทคโนโลยี​ไบโอเมทริกซ์ เช่น สแกนหน้า สแกนม่านตา สแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ (ในอนาคตอาจจะมีการสแกนเม็ดเลือดเลยด้วยซ้ำค่ะ)​ กำลังคืบคลานเข้ามาในวงการธนาคารแล้วค่ะ

เทคโนโลยี​นี้จะทำใข้ชีวิตเราสะดวกขึ้นสบาย และปลอดภัยขึ้นค่ะ

ต่อไปสมาร์ทโฟน​ หรือนาฟิกาอัจฉริยะ​ อาจจะผนวกเทคโนโลยี​ไยโอเมทริกซ์​ต่างๆนี้เข้าไปด้วยแน่นอนค่ะ

เทคโนโลยีการอ่านเส้นเลือดดำถูกนำไปใช้หลายๆด้าน ไม่เฉพาะการบริการด้านการเงิน ในอเมริกาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และโรงงานชีววัตถุอันตรายได้ติดตั้งเครื่องอ่านเส้นเลือดดำไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นอีกที่ทำการติดตั้ง เช่น บ่อนการพนัน(เพื่อป้องกันห้องเก็บเงิน)

สนามบินระดับโลกหลายๆแห่งก็เอาเทคโนโลยี​สแกนเส้นเล่อดดำนี้มาใช้ ในหน่วยงานระดับสูงๆ อย่างแพนทากอน ธรรมเนียบขาว พิพิธภัณฑ์​ลูฟ และ ทางการแพทย์เขาก็ใช้กันมาเยอะนะคะป้า

ถ้าแฮคได้ง่ายๆเหมือนที่ป้าเข้าใจจริงๆ องค์กร​ใหญ่ๆของโลกเขาไม่เอาระบบนี้ไปใช้หรอกค่ะป้า คิดสิคะคิด โง่แล้วอย่าพยายามอวดฉลาดค่ะ

Palm Vein Pattern เป็นรูปแบบการยืนยันตัวตนที่อาศัยการสแกนเส้นเลือดดำบนฝ่ามือของผู้ใช้ที่ให้ความแม่นยำสูงและปลอดภัย ฝั่งตัวผู้ใช้เองก็ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านค่าลักษณะเส้นเลือดโดยตรงด้วย

บริษัท Fujitsu คือหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีนี้ในญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ธนาคารของญี่ปุ่นหลายๆ ค่ายเช่น ซุรุกะ (Suruga), โตเกียว-มิตซูบิชิ (Tokyo-Mitsubishi), ฮิโรชิม่า (Hiroshima Bank) และอิเคดะ (IKEDA) ได้นำเครื่องอ่านเส้นเลือดบนมือมาใช้กับลูกค้าธนาคารโดยไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็มหรือสมุดบัญชีในการทำธุรกรรม รวมถึงพนักงานของบริษัท เพื่อตรวจสอบกรณีการฉ้อโกงและการทุจริต โดยผลการทดสอบด้านความแม่นยำชี้ว่าโอกาสเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมีเพียง 0.00008% เท่านั้น

ฝั่งธนาคารบันโค บราเดสโค (Banco Bradesco) ในประเทศบราซิลเองเป็นอีกเจ้าที่นำระบบนี้ของ Fujitsu มาใช้​ จากการเก็บข้อมูลยังพบว่าธุรกรรมจำนวนกว่า 700 ล้านรายการที่ลงทะเบียนเข้าใช้งานด้วยการยืนยันตัวตนผ่านเส้นเลือดดำ บัตรเอทีเอ็ม และรหัสโค้ด กลับไม่พบกรณีการทุจริตเลย ตรงข้ามกับการลงทะเบียนเข้าทำธุรกรรมด้วยรหัสบัญชี รหัส PIN หรือบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งยังมีข้อผิดพลาดและการทุจริตเกิดขึ้นให้เห็นอยู่ เพราะรูปแบบเส้นเลือดดำถือเป็นอัตลักษณ์ทางกายภาพที่ไม่สามารถลอกเลียนหรือปรับเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดได้อีกด้วย

ต่อไปกะเทยก็นั่งทำธุรกรรม​สวยๆอยู่ที่บ้านได้ ไม่ต้องแหกหีไปถึงธนาคาร

ปังมากค่ะ scb ต้องรอดูว่าจะจีบพันธมิตร​มาร่วมได้กี่ราย

มันจะเริสมาก ถ้าเข้าเซเว่น เดินห้าง ดูหนัง ก็แค่สแกนฝ่ามือ ล้ำไปอี๊กกก

สแกนหน้าผ่าน Alipay ซื้อของได้เกือบทุกอย่าง

กับมีพยาธิไชตามผิวหนังทำไงค่ะ ระบบนึกว่าเป็นเส้นเลือดดำหรือเปล่าค่ะ

ถ้าเอาปากกาดำมาวาดบนมือ ระบบจะโดนหลอกไหมค่ะ

สแกนควยกำเนิดมาพร้อมกับความสามารถของกะเทยตนแรกบนโลกแล้วค่ะ

นอกจากไม่ขำ ยังไม่สร้างสรรค์อีก

ที่แย่ไปกว่านั้น การตอบกระทู้แบยนี้ มันส่อให้เห็นถึงกำพืดต่ำๆของคุณด้วยนะครับ

เป็นกะเทยหน้าตาอัปลักษณ์​ยังน่าสมเพชไม่พอหรือ คุณถึงต้องทำนิสัยต่ำๆ บัดซบๆ เยี่ยงสวะแบบนี้

บุญแค่ไหนแล้วครับ ที่ผมต้องลงมาด่าโปรดสัตว์กะเทยซากชีวิต น่าสมเพชแบบคุณ

ไม่ใช่ไม่มีใช้นะคะ แต่ว่ามันมีข้อเสียด้วย เขาถึงใช้เป็นแค่ optional ค่ะ ขนาดตัวบริษัทผู้ผลิตรู้ว่านักวิจัยเยอรมันสามารถแฮคระบบด้วยวิธีการง่ายๆ ยังปฏิเสธที่จะมาตอบเลยค่ะ

อัพเดตข่าวล่าสุดด้วยค่ะ ปี 2019 แล้วนะคะ
https://www.planetbiometrics.com/article-details/i/9867/desc/company-refutes-potential-hack-of-palm-vein-scanner/

บริษัทด้านความปลอดภัย ที่ดูแลระบบการเข้ารหัสให้ธนาคารในยุโรปอย่าง BioSec เขาออกมาชี้แจ้งว่า

จะเอาการแฮคนี้ มาใช้อ้างอิงไม่ได้ เพราะมันเป็นการแฮค​บ้านๆ สั่วๆ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนมาตรฐาน​ความปลอดภัยใดๆเลย

ใข้มือประดิษปลอมๆขึ้นมาไม่พอ ใช้ทดลองกับเซ็นเซอร์เดโม่รุ่นเก่า และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุ้มไว้อย่างไม่ปลอดภัย คือไม่มีการอัพเดตความปลอดภัยใหม่ให้ และเป็นการแฮคลวกๆสามสเต็ป คือ เข้าใช้ ยืนยัน และระบุตัวตน ซึ่งการแฮคกากๆแบบนี้ เทียบไม่ได้ระบบ palm vein เวอร์ชั่นจริง ที่ธนาคารเข้า​เอาไปใช้จริงนะคะ ซึ่งจะมีซอฟแวร์ควบคุมแบบเต็มศักยภาพ​ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลกในส่วนของการยืนยันตัวตนกับส่วนกลาง มันต่างกันมากนะคะป้า

ทาง BioSec ยังบอกอีกว่า ระบบ PalmSecure ของ Fujitsu นั้น จะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อธนาคารแต่ละรายโดยเฉพาะ ซึ่งจะมันจะวิเคราะห์คะแนนระดับความปลอดภัยจากแม่แบบไบโอเมตริกจริงๆที่ถูกจัดเก็บไว้แต่แรก ซึ่งต่างกับสิ่งที่แฮคเกอร์สั่วๆกลุ่มนี้ทำนะคะ ที่ไปเอามือประดิษฐ์​มาจำลอง

สรุปคืออีแฮคเกอร์กลุ่มนี้แทนที่จะไปแฮคระบบ Palm Vein รุ่นใหม่ หรือเทคโนโลยี​เต็มรูปแบบที่ระดับองค์กร​เขาซื้อไปใช้ กับมาแฮคโดยจำลองสภาพแวดล้อม​ขึ้นมาโดยใช้เซ็นเซอร์​เก่าๆตกยุค ไม่ใช่เทคโนโลยี​เต็มรูปแบบที่องค์กรเขาซื้อไปติดตั้งนะคะ

มันจริงเอามาเทียบกันไม่ได้เลย เพราะปกติแฮคเกอร์เขาจะต้องแฮคกับระบบเต็มรูปแบบของจริง หรือเซ็นเซอร์รุ่นใหม่ๆ

สิ่งที่แฮคเกอร์​กระจอกกลุ่มนี้ทำ เหมือนไปเอา iOS 5 ใน iPhone 5 ที่ไม่ได้รับการอัพเดตใดๆ มาแฮค แล้วพูดอย่างกับว่าแฮค iOS 12 ใน iPhone XS ที่ถูกปรับแต่งขึ้นมาพิเศษเพื่อให้ประธานาธิบดี​ใช้ ได้อย่างนั้นอ่ะค่ะ ซึ่งไม่สมเหตุสมผล​เลย

ฮิตาชิ ยุโรป (Hitachi Europe) ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลัง ระบบ ATM ของโปแลนด์ เน้นย้ำว่าการใช้รูปแบบเส้นเลือดดำ โดยใช้แสง Near-infra-red ซึ่งถูกซึมผ่านนิ้วมือ หรือฝ่ามือ และถูกดูดซึมบางส่วนด้วยฮีโมโกลบินในเส้นเลือดดำและจับภาพลักษณะรูปแบบเส้นเลือดดำที่นิ้วมือ หรือ​ฝ่ามือ ให้จับคู่กับภาพก่อนๆในฐานข้อมูลเพื่อพิสูจน์ลักษณะเฉพาะ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการู้จำเส้นเลือดดำ(vein recognition) มีความปลอดภัยการการสแกนลายนิ้วมือ เพราะการใช้การจำเส้นเลือดดำ จะทำได้ต่อเมื่อยังมีชีวิตเท่านั้น จึงป้องกันการตัดนิ้วเพื่อเอาไปปล้นเงินออกจากบัญชี

น้องว่าป้ากะเทนแก่น้ำคิดย้ำทำ ต้องไปศึกษาหาความรู้เยอะๆกว่านี้นะคะ ป้าจะทราบว่า biometrics โดนสแกนเส้นเลือดดำ ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิถีที่ปลอดภัยมากที่สุดวิธีนึงแล้ว ในการยืนยันตัวตน
เทคโนโลยีการอ่านเส้นเลือดดำถูกนำไปใช้หลายๆด้าน ไม่เฉพาะการบริการด้านการเงิน ในอเมริกาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และโรงงานชีววัตถุอันตรายได้ติดตั้งเครื่องอ่านเส้นเลือดดำไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นอีกที่ทำการติดตั้ง เช่น บ่อนการพนัน(เพื่อป้องกันห้องเก็บเงิน)

สนามบินระดับโลกหลายๆแห่งก็เอาเทคโนโลยี​สแกนเส้นเล่อดดำนี้มาใช้ ในหน่วยงานระดับสูงๆ อย่างแพนทากอน ธรรมเนียบขาว พิพิธภัณฑ์​ลูฟ และ ทางการแพทย์เขาก็ใช้กันมาเยอะนะคะป้า

ถ้าแฮคได้ง่ายๆเหมือนที่ป้าเข้าใจจริงๆ องค์กร​ใหญ่ๆของโลกเขาไม่เอาระบบนี้ไปใช้หรอกค่ะป้า คิดสิคะคิด โง่แล้วอย่าพยายามอวดฉลาดค่ะ

แบบนี้รู้เลยว่าตัวเหี้ยตัวเดิมๆ ที่โมเคยลงดาบนี่เอง ถ้ามันดีจริงคงแฮคไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าโดนแฮคได้ก็แสดงว่ายังไม่ดีจริงค่ะ นักวิจัยไม่ได้เก่งแค่คนเดียว มีที่เดียวซะที่ไหน

เคยได้ยินไหมคะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ส่วนป้าก็แค่เศษขยะไร้ค่า ถึงจะอวยอะไรไปยังไงเขาก็ไม่ให้หุ้นส่วนป้าหรอกค่ะ รับยาต้านโรคจิตแล้วไปสู่ยมโลกเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระสังคมนะคะ คริๆ

ขอหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยค่ะ นี่มีแต่น้ำและไม่มี References อ้างอิงเลย มโนแบบนี้ แบบนี้เด็กประถมก็โม้ได้คะ ถ้าว่างจัดก็ไปรับจ้างพิมพ์ดีดหาเงินแลกมาม่ากินดีกว่านะค่ะ

หยุดเหี้ยป่วนบอร์ดเถอะค่ะป้า ยิ่งรีพลาย ยิ่งปล่อยไก่ว่าป้าไม่มีความรู้พื้นฐานหีแตดอะไรเลย

ในบ้างครั้งถ้ามีความรู้ มันไม่ต้องมาโง่ขอ ref ให้เสียเวลาหรอกค่ะ เพราะคือ fact ที่รู้กัน ที่ดำเนินเกิดขึ้นไปอยู่ทุกวัน เป็นสิ่งที่คนมีความรู้ เขารู้กันนะคะ นอกซะจากว่าโง่เป็นควาย แล้วชอบอวดฉลาดแบบป้า

อ่านสิคะ

อย่างที่หนูบอก ถ้ามีความรู้ มีการศึกษา อยู่ในวงการนี้ จะต้องทราบทั้งนั้นแหละค่ะว่า โรงงานนิวเคลียร์​ และ โรงงานชีวเคมี​ในอเมริกา สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือเขาจะติดตั้งเครื่องสแกนเส้นเลือดดำ สำหรับระบุตัวตนบุคคลระดับสูง เพื่อใช้ยืนยันคำสั่งสำคัญๆหลายๆอย่าง

ตามสายการบิน ก็เริ่มใช้กันแล้ว

แต่เอาเถอะ น้องถือว่าการมามอบความรู้เล็กๆน้อยๆแบบนี้ ถือว่าได้โปรดสัตว์(นรก)​แบบป้า ให้ฉลาดขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ

สรุปคือระบบ Biometric Palm Vein Scan โดนแฮคได้ไม่ยากชิมิค่ะ น่าสงสารจังเลยนะค่ะ แบบนี้ป้ากะเทยเหี้ยจิตเภทที่โดนพี่ๆโมแบนประจำก็หน้าแหกอีกแล้วซินะค่ะ

ปล. จขกท. นี้เข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่าเทคโนโลยีชีวภาพพอควร
คำว่าเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ไม่ได้เป็นการเรียนสร้างระบบ biometric system แบบนี้นะจ๊ะ

sensor หรือ system อะไรที่แฮคเกอร์ เอามาแฮคคะ?

sensor สแกนฝ่ามือ ตัวไหนคะ?

มันคือ platform เดียวกันกับที่ธนาคาร หรือ โรงงานนิวเคลียร์ ​เขาใช้กันอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่าคะ?

ตอบทีค่ะ?

ประเด็นคือ อีผลการแฮคนี้ มันเอาไปใช้แฮคตู้ ATM ที่ติดตัง Vein Scanner จริงๆไม่ได้นะคะ

เพราะมันเป็นการแฮคเซอร์เซอร์เก่า ที่ไม่มีการอัพเดตซอฟแวร์ ไม่ซอฟแวร์ด้านความปลอดภัย ไม่ส่วนกลาควบคุม ไม่ใช่เป็น full productive system เหมือนที่ธนาคาร และองค์กร​เขาใช้

เขาใจสิ่งที่บริษัทด้านความปลอดภัยเขากำลังบอกไหมคะ?

ไหนคุณป้า ลองตีข่าวบทควานด้านบนนี้หน่อยสิคะ น้องอยากรู้ค่ะ ว่าป้าอ่านภาษาอังกฤษ​เข้าใจไหม ถ้าอ่านแล้วยังดึงดัน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

น้องว่าป้าก็แค่กะเทยจิตเภทดีๆนี่เองนะคะ ที่กำลังจะเกรียน ป่วนกระทู้ชาวบ้านเขา หยุดเหี้ยเถอะค่ะป้า หนูขอ

555 ตอบได้สมเป็นกะเทยปาล์มโดยแท้
//กดไล้ค์ 3 ที

อีกอย่างอะไรก็ตามที่สร้างด้วยมนุษย์ก็ถูกล้มด้วยมนุษย์ได้เช่นกันค่ะ

10 10 10

ส่วนอีรี 15 สันดานเลวเช่นเดิม เขียนเรียงความด่าชาวบ้านไปทั่ว ชื่อนิวนี่จำได้ว่าพี่โมเคยแบนและเปิด IP มันด้วย
บางทีตัวมันไม่ขำ ก็ไม่ควรไปด่าคนอื่นมั่วๆนะคะ อีนี่เส้นเลือดสมองคงจะแตกตายแน่ๆเพราะเฝ้าบอร์ดและเขียนเรียงความด่าชาวบ้านมั่วๆ ทุกวัน

สะใจหวะ อีแก่เหี้ยสัตว์หมาจิตเภท ป่วนบอร์ด โคลนเป็นคนโน้นคนนี้ แยกร่าง เปลี่อนชื่อ มาอวยตัวเอง แล้วยังหน้าด้านไปด่าคนอื่นอีก สุดท้ายโดนโมลบรีพลาย รัวๆ

เปลี่ยชื่อไปเรื่อย แล้วรีพลายด่าคนนั้นคนนี้ว่าอีแก่ คุยอวยตัวเอง​ คุยตอบโต้กับตัวเอง ฟลัดกระทู้ จนโดนโมลบรีพลายหายแว๊บ 555555555

นี่ขนาดโมลบรีพลายมัน ยังหน้าด้านตีมึนไม่หยุดเหี้ย เข้ามาป่วนกระทู้อีก รี 31 32

เหี้ยไม่เหี้ย โรคจิตไม่โรคจิต เพื่อนๆก็ดูเอานะ ไม่ต้องพูดไรมากล่ะ เจ็บคอ

โอเค เข้าเรื่อง ส่วนตัวขอบอกว่า Palm Vein Scanning ของไทยพาณิชย์​ น่าสนใจ แต่ยังต้องทดสอบอีกสักพักแหละ

แต่ที่ไม่ต้องรอนาน แล้วกำลังจะได้ใช้กันแน่ๆ เดือนตุลานี้ คือ Face Scanning​ เพื่อจ่ายเงิน เปิดบัญชี​ โอนเงิน ถอนเงิน ผ่านแอพ ไม่ต้องไปธนาคารให้เหนื่อยแล้ว

ตุลานี้ พร้อมกันทุกแบงก์​แน่นอนจ้าาา

เพราะมันปลอดภัยและแม่นยำสูง high level accuracy กันเลยทีเดียว ใช้ได้กับผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติ แม้แต่ผู้ป่วยที่บาดเจ็บภายนอก ถูกไฟเผา จนผิวหนังด้านนอกเสีย ก็ยังใช้ระบุตัตนและประวัติการรักษาได้

และเป็นเทคโนโลยี biometric ​เดียว ที่เขาใช้หาศพผู้ป่วยที่ระบุตัวตนไม่ได้ อีกด้วย

จะเห็นนะคะว่า Palm Vein มันใช้งานแพร่หลายในหลายวงการ แค่กะเทยจิตเภทบางตัว มันไม่รู้เท่านั้นเองนะคะ

นี่ก็คงไม่ต้องพูดไรมากแล้วเนาะ เห็นๆกันอยู่

โมเห็นถึงความโง่เหี้ยและจังไรของมัน จึงลบรีพลายมันซะเกลี้ยง 5555 ไม่วาย ก็ยังหน้าด้านกลับมาตอแหลอีก ในรี 31

หมาขี้เรื้อนขี้แพ้ มันก็ขี้แพ้วันยังค่ำ เพราะสมองหมาปัญญาควายไร้การศึกษาแบบนี้ จะเอาอะไรมาบลัฟกับคนที่เขามีความรู้ล่ะ

อย่างดีก็ป่วนบอร์ด ป่วนกระทู้ไปวันๆ วนลูปเป็นวงจรเหี้ยๆแบบนี้ไปจนมันตายแหละ กิ้วๆๆๆๆ