เด็ก(ลูกมึง) กับ หมา เกี่ยวไรด้วย

อยากรู้คือพร้อมใจกันตาย หรือ คนแค่คนเดียว ฆ่าอีก 10 ชีวิตที่เหลือ

แต่กูเชื่อว่ายังไง เด็ก กับ หมา ยังไม่อยากตายแน่นอน

ปรสิตสังคมไม่จำเป็นต้องสตรองค่ะ เกาะ ดูด แขวะ พอแล้วค่ะ

เหรอข๊ะะ ตามเลียตีนกูจังอีห่า 5555

ไม่ใช่ดูไม่งาม เขาเรียกว่าดูโง่ ไม่รู้จักกาละเทศะ อีควาย

นอกจากเฮียแล้ว ลูกเมียพี่สาวแกพร้อมตามไปด้วยกันจริงเหรอ ลูกชายหนะไม่รู้เรื่องแน่นอน
แต่คนตายพูดไม่ได้ ขอให้ไปสู่สุคติครับ

ปล.เพื่อนข้างบ้านหุ่นแซ่บมาก

ด้วยความเคารพ​ ​!! เพื่อนบางคนอาจจะยังไม่ทราบ
ตามกฎหมาย​เมื่อลูกหนี้เสียชีวิต..แต่สภาพหนี้ยังคงอยู่
*(ย้ำกันรัวๆๆๆ)​ เลยน่ะว่า​ "สภาพหนี้..ยัง​อยู่​ ​!!

ซึ่งทรัพย์มรดกของลูกหนี้ จะตกทอดสู่ทายาทโดยธรรม
หรือทายาทตามพินัยกรรม รวมไปถึงสิทธิ หน้าที่และ
ความรับผิดชอบของลูกหนี้​ ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
ซึ่งนั่นอาจหมายถึงหนี้สินที่ยังไม่หมดภาระ ตกทอดสู่ผู้รับ
มรดกให้ต้องรับผิดชอบภาระนั้นต่อไปด้วยเช่นกัน

เสี่ยแกเลยวางยาพากันไปหมดทั้้งบ้านไงคะ เพราะรู้ว่าถ้าไปคนเดียวภาระมาตกที่ลูกเมียแน่นอน

คนที่ด่าๆเค้าน่ะ ถ้าไม่ไปอยู่ในจุดเดียวกับเค้า เจอปัญหาภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับเค้า ยังไงเราก็ไม่มีวันเข้าใจเค้าอย่างแท้จริงหรอก ก็ได้แต่วิจารณ์ระดับเปลือก ว่าลูกเมียหมาผิดอะไรทำไมต้องเอาไปตายกับตัวเองด้วย แต่เค้าคงตรองมาแล้วล่ะว่าทิ้งไว้ให้อยู่กันเองจะต้องเจออะไรหนักหนาแค่ไหน เลยเลือกที่จะเอาไปด้วยกันดีกว่า

ลืมไป ข่าวบอกว่าเมียก็รู้เห็นและตกลงกันแล้วนะว่าจะให้ลูกกับหมาไปด้วย

แล้วมึงมีสิทธิ์ไปฆ่าชีวิตบริสุทธิ์หรอ

ฆ่าลูกตัวเอง เหี้ย จัญไร

ธุรกิจพ่อแต่ต่อยอดไม่เป็น พ่อช่วยมาเยอะแล้ว จริงๆต้องนับถือความแมนของแกที่ไม่อยากรบกวนพ่ออีกถึงจะรู้ถ้าขอจริงๆพ่อก็คงช่วยน่ะแหละ แต่มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้ชายไง คงละอายแก่ใจแล้ว ส่วนเรื่องยืมเงินเพื่อนไม่ได้ยืมแค่คนเดียวนะ ยืมเป็นสิบคน แล้วแต่ละคนก็เป็นหลักล้าน มีคนนึงยืมแบบนอกระบบหลักสิบล้าน คิดดูว่ามันจะพอกหางหมูขนาดไหน ทั้งหมดทั้งปวงไม่ได้บอกว่าเค้าทำถูก เพราะต้นเหตุก็มาจากการวางแผนธุรกิจไม่เป็น แต่พอถึงจุดที่มันพีคจริงๆ ก็เลือกจะไปเลยทีเดียว ไม่อยู่รอหาทางออกแล้วไง

*เมื่อเจ้าหนี้ตาย​ มี 2 แนวทาง​แบ่งรับ-แบ่งสู้​
สำหรับ "ทายาทผู้รับมรดกหนี้" ตามกฎหมาย​ คือ...
1.) กรณีทายาทปฏิเสธไม่รับทรัพย์สิน
สถาบันการเงินในฐานะเจ้าหนี้ จะทำการยึดทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาดและนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระหนี้บ้านต่อไป ซึ่งหากจำนวนเงินมากพอชำระหนี้ได้หมด ทายาทก็ไม่ต้องรับภาระใด ๆ แต่ในการขายทอดตลาดมักได้ราคาที่ต่ำกว่ายอดหนี้ จึงทำให้ทายาทยังคงต้องรับภาระหนี้ที่เหลือต่อไป
​!!

แต่ถ้าหากทายาทไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ต่อหรือกู้ไม่ผ่าน นั่นหมายความว่าแนวทางการชำระหนี้จะเหมือนกับกรณีทายาทปฏิเสธไม่รับทรัพย์สิน ในข้อที่ 1. สถาบันการเงินในฐานะเจ้าหนี้ จะทำการยึดทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาดและนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระหนี้บ้านที่เหลือต่อไป
#ด้วยความเคารพ...ที่โพสก์เพื่อให้ความรู้ทางกฎหมาย
#ต้องเข้าใจซะใหม่ว่าการมีชีวิตอยู่..นี่แหละสำคัญที่สุด

หรือเป็นโรคซึมเศร้าด้วย จึงตัดสินใจแบบนี้

พ่อของ "เฮียตี๋" เสี่ยเต็นท์รถ ตายยกครัว 5 ศพ ยังติดใจ ไม่เชื่อลูกชายมีหนี้นับสิบล้าน

พ่อของ "เฮียตี๋" เสี่ยเต็นท์รถ ที่รมควันเสียชีวิต 5 ศพ ยังติดใจ ไม่เชื่อสาเหตุการตาย ขณะที่เจ้าหนี้ของเฮียตี๋ต่างพร้อมใจนำหลักฐานและข้อมูลมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ความคืบหน้า กรณีเหตุสลดใจของ นายกัณ หรือ เฮียตี๋ อายุ 40 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่ใช้เตาอั้งโล่รมควันพร้อมกับคนในครอบครัว ประกอบด้วย นางสุ อายุ 60 ปี มารดาเฮียตี๋, น.ส.พร อายุ 45 ปี พี่สาวเฮียตี๋, นางยอด อายุ 41 ปี ภรรยาของเฮียตี๋ และ ด.ช.รชฏ อายุ 13 บุตรชายของทั้งสองคน ก่อนจะกินยาฆ่าตัวตายจนเสียชีวิตรวมกันถึง 5 ศพ

นอกจากนี้ ยังมีสุนัขอีก 6 ตัว พันธุ์บีเกิล 2 ตัว ชิสุ 3 ตัว และ ปอมปอม 1 ตัว ถูกรมควันตายไปด้วย ที่เกิดเหตุภายในห้องพบยานอนหลับชนิดกล่อมประสาทวางอยู่ในห้อง และมีเตาอั้งโล่ที่ใช้จุดรมควันเหลือเพียงกองเถ้าถ่านวางอยู่ในห้องน้ำซึ่งเปิดประตูเอาไว้ด้วย คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 ก.พ. ) ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 12.00 น. กลุ่มเจ้าหนี้ของ นายกัณ หรือ เฮียตี๋ จำนวนกว่า 10 คน ได้รวมตัวกันไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อนำหลักฐานเอกสาร และข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินของเฮียตี๋ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ นำโดย นายภิชาติ ญาติของเฮียตี๋

นายภิชาติ หนึ่งในเจ้าหนี้ของเฮียตี๋ กล่าวว่า ตนเองนั้นได้นำเงินมาลงทุนร่วมกับนายกัณ หรือ เฮียตี๋ และให้ยืมเงินมาโดยตลอด ซึ่งตนเองนั้นก็โน้ตเอาไว้ว่ามีการคืนเงินเมื่อไร นอกจากนี้ เฮียตี๋ก็ไปขอยืมน้องสาวของตนเอง มีหลักฐานการยืมเงินอีกกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งตนเองและเพื่อนๆ ที่เป็นเจ้าหนี้เฮียตี้อยากให้สบายใจทุกฝ่าย จึงนำหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่

ขณะนี้ นายธง หรือ ตี๋สั้น อายุ 61 ปี พ่อของนายกัณ ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมขอเอกสารเพื่อนำไปประกอบในการรับศพทั้งหมดที่นิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช และนำไปทำเพ็ญกุศล

นายธง กล่าวว่า ตนเองยังไม่ปักใจเชื่อสาเหตุการตายของลูกชายและครอบครัว ซึ่งอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งตนเองถึงแม้ว่าจะแยกครอบครัวกันอยู่ แต่ก็ติดต่อกันตลอดเวลา คนภายนอกจะไม่รู้เรื่อง ลูกชายมีปัญหาเรื่องหนี้สิน 1-2 ล้าน ตนเองก็หยิบยื่นให้ เพราะการทำธุรกิจก็ต้องมีเงินหมุนเวียนเป็นเรื่องธรรมดา

แต่จะมาบอกว่าลูกชายติดสิ้นนับ 10 ล้านบาท ตนไม่เชื่อแต่อย่างใด อีกทั้งสาเหตุการตายก็ไม่ชัดเจน จะต้องมีการผ่าพิสูจน์จากแพทย์นิติเวช ให้ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากลูกสาวก็จบปริญญาโท จากลอนดอน สายภาษา ส่วนลูกชายก็จบเตรียมทหาร ก็คิดว่าไม่น่าจะคิดสั้นเช่นนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งก็ได้ข้อมูลมามากพอสมควร ว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นไปกู้เงินจากธนาคารใดบ้าง

ส่วนเงินกู้นอกระบบนั้นก็เป็นกลุ่มของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันจำนวนรวมถึงมากกว่า 10 ล้านบาท มีการเสียดอกเบี้ยต่อเดือนถึงหลักแสน จึงอาจจะทำให้หมุนเงินทางธุรกิจหลายอย่างที่เพิ่งลงทุนไปไม่ทัน อาทิ เต็นท์รถยนต์มือสอง สถานตรวจสภาพรถเอกชน ร้านกาแฟ ธุรกิจส่งน้ำแข็ง เป็นต้น จึงมุ่งไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สิน

ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ระบุว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มาก อีกทั้งในห้องที่เกิดเหตุมีการนำเอาถุงพลาสติกปิดช่องระบายอากาศเอาไว้ เพื่อมิให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากเตาอั้งโล่ ออกไปด้านนอกได้

ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตตามธรรมชาติทั่วไปแผ่นหลังจะมีเลือดตกสีดำคล้ำ แต่ถ้ามีสารพิษเข้าสู่ร่างกายที่แผ่นหลังจะมีเลือดตกเป็นสีแดงสด จึงสอดคล้องกับหลักฐานทางนิติเวชในที่เกิดเหตุ

https://www.sanook.com/news/8038114/

น่าสงสัย

https://www.youtube.com/watch?v=VqgWB_hach4

สมมติหนูเป็นทายาทของนางซาตาน นามสกุลสาวเสียบ วันนึงนางซาตานไปมอมเหล้าเย็ดตูดผู้ชาย แต่ผู้ชายตื่นระหว่างโดนเย็ดเลยกระทืบนางซาตานจนตาย

หนูได้มรดกเป็นเงินติดบัญชี100บาท. แต่นางซาตานมีหนี้100000บาท หนูต้องใช้หนี้แค่100หรือต้องใช้ทั้ง100000คะ

2)คู่สมรส+ผู้สืบสันดาน+บิดามารดา = แบ่งเท่ากัน

3)คู่สมรส+บิดามารดา =คู่สมรสครึ่งนึง อีกครึ่งคือบิดามารดาแบ่งกัน

4) คู่สมรส+พี่น้องร่วมบิดามารดา = คู่สมรสครึ่งนึง อีกครึ่งพี่น้องร่วมบิดามารดาแบ่งกัน

5)คู่สมรส+พี่น้องร่วมแต่บิดา/มารดา = คู่สมรสได้2/3 อีก1/3พี่น้องร่วมแต่บิดา/มารดาแบ่งกัน

** ทายาทลำดับ บิดามารดา กับ ปู่ย่าตายาย ไม่มีผู้รับมรดกแทนที่

กูไปส่องเฟสดู​ ทั้งผัวเมีย​ ก็ไม่ได้ดูติดหรูอะไรนะ​ แต่ธุรกิจสาขาเยอะรายจ่ายเยอะนะ​ ชั้นว่าแปลกๆ

ขอเฟสเค้าหน่อยได้ปล่าวครับ อยากไปส่องดู เอาไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ

คงคิดว่า ตายไปพร้อมกัน จะได้ไปอยู่ด้วยกันมั้งคับ...

กฎหมายน่าจะเข้ามาคุ้มครอง กรณีนี้ที่ลูกหนี้เป็นเยาวชน ไม่ค้องรับหนี้ตกทอดแบบนี้

เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิด

ไม่ต้องคุ้มครองหรอกค่ะ แค่ไม่รับมรดกมา ก็ไม่ต้องรับหนี้มาด้วยไงค่ะ กฏหมายบอกแบบนี้อยู่แล้ว

คือ เด็ก เดี๋ยวก็มีพ่อแม่พร้อมใจ adopt ต่อคิวยาว

แล้วทำไมต้องปิดกล้องวงจรปิดด

แอบได้กลิ่นฆาตรกรรมอำพรางคับ เจ้าหนีี้เยอะด้วย

เด็กมีคนพร้อมเลี้ยงดูอยู่แล้ว อยู่กับคุณตา หรือ ป้าก็ได้ ตาก็เป็นเจ้าของธุรกิจ ป้าก็เป็นปลัด

เป็นงงกับเฮียมาก แต่ก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคเครียดที่ทำให้คิดทำร้ายตัวเอง

ประเด็นฆาตกรรมอำพรางก็ยังไม่อยากให้ตัดออกเหมียนกัน อยากให้ตำรวจสืบคดีนี้ให้เคลียร์ กระจ่างไปเลย

https://www.thairath.co.th/news/society/1779048

พ่อเฮียตี๋ เจ้าของเต็นท์รถดับยกครัว เผย ยินดีใช้หนี้ให้ลูกชายทั้งหมด หลังเสร็จสิ้นงานศพ วอนเจ้าหนี้หาหลักฐานมายืนยัน พร้อมเจรจาทันที

จากกรณีเฮียตี๋ เจ้าของเต็นท์รถที่จังหวัดพิษณุโลก ดื่มยาพิษและรมควันตัวเองพร้อมแม่ พี่สาว ภรรยา และลูกชาย เสียชีวิตภายในบ้านพัก 5 ศพ พร้อมทั้งสุนัขอีก 6 ตัว เบื้องต้นตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้สินที่หยิบยืมเพื่อนฝูงมาลงทุนจำนวนหลายล้านบาท แล้วหมุนเงินไม่ทัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ครูสาวไม่ไปสอน เพื่อนมาตาม ช็อก เจอเป็นศพคู่สามีในแฟลตตำรวจ
สาวแบงก์ซิ่งเก๋งหลุดโค้งปราบเซียน ชนต้นไม้รถพังเละดับคาที่
ลวงฆ่าทนายหนุ่ม ลูกความโทรนัด สั่งจอดรถกะพริบไฟ ส่งมือปืนเด็ดชีพ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 63 นายธงชัย แป้นวงศ์ หรือ ตี๋สั้น พิษณุโลก บิดาของเฮียตี๋ เปิดเผยว่า วันนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้ ที่สุดแล้วก็จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าผลออกมาว่าลูกตนฆ่าตัวตาย ตนก็พร้อมที่จะเชื่อตามการพิสูจน์หลักฐานตามกฎหมาย แต่ส่วนตัวแล้วตนก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อว่าลูกตนไม่ได้ฆ่าตัวตาย

ส่วนในเรื่องของหนี้สินต่างๆ ที่มีเจ้าหนี้ออกมาพูดจาว่า ลูกของตนเป็นหนี้มากมายหลายสิบล้านบาท หากไม่มีหลักฐานขอให้หยุดพูดจาให้ลูกตน ครอบครัววงศ์ตระกูลตนเสียหาย แต่ถ้าหากมีหลักฐานในการกู้ยืมเงิน ตนขอร้องให้นำหลักฐานในการกู้ยืมมาแสดงได้เลย มานั่งพูดคุยกันได้ ไม่ต้องกลัวอะไรตนเลย ตนยินดีรับฟัง ในวันพรุ่งนี้ที่งานฌาปนกิจศพลูกชาย ที่วัดท่าตะเคียน และยืนยันว่าหากลูกเป็นหนี้ใครจริงๆ และมีหลักฐาน ตนพร้อมที่จะคืนเงินให้ทุกบาททุกสตางค์แน่นอน

นายธงชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของที่ดิน 4 ไร่เศษที่ตั้งร้าน และตัวบ้าน ตนพอทราบมาว่าลูกของตนนำไปเข้าแบงก์ และนำเงินออกมาลงทุนนั้น หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานศพแล้ว ตนก็จะไปติดต่อเพื่อชำระหนี้และไถ่ถอนที่ดินแปลงนี้มาเก็บไว้แน่นอน เพราะเป็นที่ดินที่ตนซื้อให้ลูกๆ และรักที่ดินผืนนี้มาก อยากจะเก็บไว้ เพราะหากอยากจะขายคงขายไปนานแล้ว คงไม่ยกให้ลูกๆ หรอก

ส่วนรถมือสองตอนนี้มีอยู่ 4 คัน คือ รถตู้ 1 คัน ที่จะมอบคืนให้กับฝั่งพี่สาวของลูกสะใภ้กลับคืนไป เพราะรถเป็นชื่อเขา ส่วนรถเก๋งอีก 3 คันที่จอดอยู่ก็รอเจ้าของรถมาติดต่อรับคืนไป และในวันนี้ก็มีหุ้นส่วนของลูกชายที่ลงทุนทำโรงน้ำแข็งนำเอกสารมาติดต่อของรับรถน้ำแข็ง 4 คัน ที่จอดอยู่หลังบ้านกลับคืนไปแล้ว

"เมื่อคืนก่อนตนฝันว่าลูกสาวมาหา นั่งข้างๆ ร้องไห้เสียใจ และพูดว่า ความจริงเราไม่ได้เป็นหนี้เขา แต่เขานั่นแหละที่เป็นหนี้เรา ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันเป็นเพียงความฝันเท่านั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ความจริงก็ว่ากันไปตามกฎหมาย"

รอผลพิสูจน์เลือด

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชัดเจนว่าไม่พบความผิดปกติจากสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากมีการล็อกกลอนจากภายในห้อง จากการสอบสวนพยานแวดล้อม พบว่าก่อนเกิดเหตุ 1 - 2 วัน เฮียตี๋สั่งให้ทำกลอนภายในห้องใหม่ พร้อมมีการนำพลาสติกแบบกันกระแทกและพลาสติกใสมาอุดตามช่องประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันอากาศไม่ให้เข้ามาภายใน หรือออกไปภายนอกได้

อีกทั้งยังมีการล็อกกลอนประตูถึง 2 ชั้น ทั้งกลอนเก่าและกลอนใหม่ ก่อนมีการเปิดแอร์จุดไฟเตาอั้งโล่ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครมาทำอะไรได้ ในกรณีการฆ่าตัวตายเสียชีวิตยกครัวนี้ และผลจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุสอดคล้องกัน ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ

นอกจากนี้ การตรวจชันสูตรพลิกศพ ไม่พบสารพิษในกระเพาะอาหาร ทางตำรวจจึงต้องพิสูจน์ว่า การตายผิดธรรมชาติ หรือผิดอาญาหรือไม่ แน่นอนว่าทั้ง 5 คนทราบว่าจะต้องฆ่าตัวเสียชีวิต แต่ต้องดูว่าใครเป็นคนลงมือในการก่อไฟให้เกิดการเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งคนลงมือจะมีความผิดอาญาด้วย ที่กระทำการทำให้ผู้อื่นขาดอากาศหายใจ จนเกิดการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์ออกมา พบว่าหลักฐานต่างๆ มีเพียงรอยนิ้วมือของเฮียตี๋เพียงคนเดียว เฮียตี๋ก็จะกลายเป็นผู้กระทำความผิดทางอาญาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนอีก 4 รายที่เสียชีวิต ก็จะได้รับค่าชดเชยสินไหมจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นค่าสินไหมจากเหยื่ออาชญากรรม วงเงินประมาณ 1 แสนบาทต่อราย

ขณะนี้ทาง ศพฐ.6 ส่งเลือดผู้เสียชีวิตไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่กรุงเทพฯ คาดว่าผลจะได้ภายใน 1 เดือน ว่ามีสารพิษหรือสารยากล่อมประสาทชนิดใดอยู่ภายในเลือดด้วยหรือไม่ และจะมีการตรวจลายนิ้วมือในการซีนพลาสติก ว่ามีรอยนิ้วมือของใครที่ทำบ้าง

โดยคดีนี้เราคงต้องมีความละเอียดรอบคอบ ต้องมีการแยกสารพิษในเลือด 4 - 5 คน คาดว่าคงต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน อาจนานถึง 2 เดือน จึงจะสรุปผลได้ ส่วนยอดหนี้สินยังไม่มีความชัดเจนจากยอดในธนาคาร 4-5 แห่ง วงเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนการพิจารณาหลักฐานการเป็นหนี้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินต้องทำความเข้าใจกับครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง