ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มีรับสั่งให้ทีมกฎหมายขวางเมแกน ดึงดันจะใช้ตราสัญลักษณ์ Sussex Royal ต่อไป แม้ถูกสั่งห้าม หลังมีข่าว เมแกน บอกเพื่อน จะใช้คำนี้ต่อไป เพราะไม่มีกฎหมายอะไรมาห้ามได้

เมื่อ 22 ก.พ. 63 เว็บไซต์มิร์เรอร์ และเดอะ ซัน สื่อหัวสีดังในอังกฤษยังคงเกาะติดกรณีสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ มีพระราชกระแสรับสั่ง ห้ามเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ใช้ตราสัญลักษณ์ ‘Sussex Royal’ เพื่อแสวงประโยชน์ทางการตลาด เนื่องจากทั้งสองได้ขอลดบทบาทจากการเป็นสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษ และจะทำงานเพื่อหารายได้เอง ว่า ขณะนี้ ความฝันของเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ที่จะยังคงอยากจะรักษาชื่อ ‘Royal’ ต่อไปดูจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมอบหมายให้ทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายระดับสูงขัดขวางความพยายามของเมแกนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา

มิร์เรอร์ เผย มีรายงานเมแกน ได้รับคำแนะนำว่าเธอสามารถขัดขืนคำสั่งห้ามดังกล่าวของราชวงศ์อังกฤษ หลังจากเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนได้ไปตามทางของตนเอง ได้รับอิสระไม่ได้เป็นสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษใน 31 มี.ค.63 ทว่าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้ดำเนินการในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการเรียกทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายระดับสูงของพระองค์มาเข้าเฝ้าฯ เพื่อร่างกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามใช้คำว่า ‘Royal’ เพื่อหารายได้ทางการเงิน

นั่นหมายถึง เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ไม่สามารถใช้ชื่อแบรนด์ Sussex Royal รวมทั้งในการขายสินค้า ถึงแม้เพิ่งจ่ายเงินหลายพันปอนด์ในการติดตราโลโก้นี้บนสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เสื้อยืด ไปจนถึง ผ้าพันคอ นอกจากนั้นทั้งสองจะต้องเลือกชื่อใหม่สำหรับชื่อมูลนิธิการกุศลที่มีแผนจะตั้งขึ้น

ขณะที่ แหล่งข่าวในพระราชวังบักกิงแฮม ระบุว่าสถานการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ความตึงเครียดยังทวีสูงขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ส่วนโฆษกของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน กล่าวว่า ขณะที่ดยุคและดัชเชสได้โฟกัสในเรื่องแผนงานตั้งองค์การไม่แสวงกำไรนั้น ทั้งสองจะไม่ใช้ชื่อมูลนิธิว่า Sussex Royal Foundation อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะไม่ใช้ชื่อนี้ในกิจการทุกๆ อย่างของพระองค์

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มีรับสั่งให้ทีมกฎหมายขวางเมแกน ดึงดันจะใช้ตราสัญลักษณ์ Sussex Royal ต่อไป แม้ถูกสั่งห้าม หลังมีข่าว เมแกน บอกเพื่อน จะใช้คำนี้ต่อไป เพราะไม่มีกฎหมายอะไรมาห้ามได้

เมื่อ 22 ก.พ. 63 เว็บไซต์มิร์เรอร์ และเดอะ ซัน สื่อหัวสีดังในอังกฤษยังคงเกาะติดกรณีสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ มีพระราชกระแสรับสั่ง ห้ามเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ใช้ตราสัญลักษณ์ ‘Sussex Royal’ เพื่อแสวงประโยชน์ทางการตลาด เนื่องจากทั้งสองได้ขอลดบทบาทจากการเป็นสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษ และจะทำงานเพื่อหารายได้เอง ว่า ขณะนี้ ความฝันของเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ที่จะยังคงอยากจะรักษาชื่อ ‘Royal’ ต่อไปดูจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมอบหมายให้ทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายระดับสูงขัดขวางความพยายามของเมแกนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา

ราชวงศ์อังกฤษช็อกอีก หลานคนโต-สะใภ้ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ประกาศหย่าขาด
นัดเวิร์กช็อปท่องเที่ยว
ท่องเที่ยวไทยกระอักพิษ "โคโรนา"

มิร์เรอร์ เผย มีรายงานเมแกน ได้รับคำแนะนำว่าเธอสามารถขัดขืนคำสั่งห้ามดังกล่าวของราชวงศ์อังกฤษ หลังจากเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนได้ไปตามทางของตนเอง ได้รับอิสระไม่ได้เป็นสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษใน 31 มี.ค.63 ทว่าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้ดำเนินการในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการเรียกทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายระดับสูงของพระองค์มาเข้าเฝ้าฯ เพื่อร่างกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามใช้คำว่า ‘Royal’ เพื่อหารายได้ทางการเงิน
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเมแกน ในวันแต่งงาน

นั่นหมายถึง เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ไม่สามารถใช้ชื่อแบรนด์ Sussex Royal รวมทั้งในการขายสินค้า ถึงแม้เพิ่งจ่ายเงินหลายพันปอนด์ในการติดตราโลโก้นี้บนสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เสื้อยืด ไปจนถึง ผ้าพันคอ นอกจากนั้นทั้งสองจะต้องเลือกชื่อใหม่สำหรับชื่อมูลนิธิการกุศลที่มีแผนจะตั้งขึ้น

ขณะที่ แหล่งข่าวในพระราชวังบักกิงแฮม ระบุว่าสถานการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ความตึงเครียดยังทวีสูงขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ส่วนโฆษกของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน กล่าวว่า ขณะที่ดยุคและดัชเชสได้โฟกัสในเรื่องแผนงานตั้งองค์การไม่แสวงกำไรนั้น ทั้งสองจะไม่ใช้ชื่อมูลนิธิว่า Sussex Royal Foundation อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะไม่ใช้ชื่อนี้ในกิจการทุกๆ อย่างของพระองค์

มิร์เรอร์ยังเผยด้วยว่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 และเจ้าหน้าที่อาวุโสในสำนักพระราชวัง เห็นตรงกันว่า เมแกน วัย 38 ปี และเจ้าชายแฮร์รี่ พระชันษา 35 ปี ไม่สามารถใช้คำว่า Sussex Royal อีกต่อไป แต่มีการอ้างกันว่าเมแกน ได้บอกกับเพื่อนๆ ของเธอหลายคนว่า ไม่มีกฎหมายใดๆ มาห้ามเธอและเจ้าชายแฮร์รี่ได้ ในการใช้คำว่า Sussex Royal นอกจากนั้น ทั้งสองยังคงใช้บัญชีอินสตาแกรม ชื่อ Sussex Royal ที่มีคนฟอลโลว์นับ 11.2 ล้านคน และหน้าเว็บไซต์อยู่ ถึงแม้มีพระราชกระแสรับสั่งห้ามใช้แล้วก็ตาม

ก่อน หน้านั้น

เลิกนั่งเครื่องบินส่วนตัว.. เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน เดินทางโดยเครื่องบินโดยสารพาณิชย์จากสหรัฐฯกลับมายังแวนคูเวอร์ แคนาดา สื่อเผยทั้งคู่ไปสหรัฐฯ เพื่อหางานใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

เดอะ ซัน ระบุใต้ภาพหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าชายแฮร์รี่ถือกระเป๋าเดินทางด้วยพระองค์เองลงจากเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ว่า ‘แฮร์รี่และเมแกน อาจเปลี่ยนมาใช้ชื่อเรียบง่ายว่า นายและนางซัสเซกซ์’ ขณะหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากเครื่องบินพาณิชย์โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยอารักขาใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รี่ ชันษา 35ปี และเมแกน วัย 38 มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุขขณะลงจากเครื่องบินที่สนามบินในรัฐวิกตอเรีย ประเทศแคนาดา เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ทั้งสองเดินทางจากแคนาดาไปสหรัฐฯ เพื่อต้องการหางานใหม่เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดย 10 วันก่อน เจ้าชายแฮร์รี่ยังได้ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม JP Morgan ในเมืองไมอามีด้วย

เดอะ ซัน เผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน พำนักอยู่ที่บ้านของเซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสชื่อดังฝีมือเฉียบ เพื่อนสนิทของเมแกน ที่ปาล์มบีช ก่อนจะไปที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในเมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันอังคารที่ 11 ก.พ.โดยสัปดาห์ก่อน แหล่งข่าวเผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ได้ปลดทีมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 15 คนในสหราชอาณาจักร และจะตั้งทีมทำงานใหม่ในอเมริกาเหนือ

ยังไงนะคะ? เห็นใจ สงสาร หรือ เข้าใจ หรือ อยากสบาย หรือ ยังไง นะคะ บลาๆๆๆ

กฏระเบียบ ราชวงศ์อังกฤษ มันเข้มงวดขนาดไหน เรื่องไหน? ถึง
ขนาด เมแกน นางไม่เอาแล้ว

เมแกนนางไม่ปรับตัวเองหรือเปล่า

นางเป็นดารา เคยอยู่ในแสงสีมาก่อน เจอสื่อมาก็มาก

ส่วนเคท เป็นแค่นักศึกษา ใช้ชีวิตธรรมดาจนมาแต่งงาน

แต่ก็นั่นแหละ นางอาจคิดว่าปรับไปก็เท่านั้น

สามีนางอยู่ตั้งอันดับหก ยังไงก็นางไม่ได้เป็นควีน

นอกจากจะวางยาสลบพี่เขยยกครัวแล้วเผาวัง

........................................................................................................................

แอ๋วมาเดินตามฝันค่ะ

.

ดูเหมือนใช้ชีวิตแบบสบายๆแต่จริงๆแล้ว

มีกฎที่เข้มงวดเยอะเหมือนกันแล้วก็เป็นราชวงศ์

ที่ถูกจับตามองเป็นอันดับต้นๆของโลก

.

.

.

.