We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Subject: "เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #249
Reading Topic #249
Bond
Guest

"เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
 
19-Oct-11, 06:29 PM (SE Asia Standard Time)
 
  


เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY

CREDIT :

รถสองแถววิ่งจากคิวรถในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอกุมวาปีผ่านเส้นทางถนนใหญ่ ลาดยางนักเรียนชายหญิงแน่นขนัดเต็มคนรถ นักเรียนชายตัวซนส่วนใหญ่จะขึ้นไปนั่งบนหลังคาซึ่งในนั้นรวมกระทั่งผมด้วย ผมชอบเวลาทีลมพัดโกรกมากระทบใบหน้ามันรู้สึกเย็นสบาย สายตาผมกวาดมองไปตามสองข้างทางที่รถวิ่งซึ่งก็มีแต่ไร่สวนของชาวบ้านส่องสี เขียวอมเหลืองชอุ่มดูสบายตานัก รถโดยสารใช้เวลาวิ่งไม่นานก็มาถึงหน้าโรงเรียนซึ่งห่างกันแค่เพียง 2 กิโลเมตรเป็นก้าวแรกของการย่างเท้าเข้ามาเรียนที่นี่เป็นครั้งแรก ทุกอย่างดูแปลกตาไม่เคยชิน ผมค่อยๆปีนป่ายลงมาจากลังคารถ ล้วงเศษเหรียญบาทสองเหรียญในถุงกางเกงออกมายื่นให้คนขับรถแล้วปรี่ตัวเดิน ออกมายืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนแห่งใหม่พร้อมสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจ ปีแรกของการเรียนมัธยมศึกษาในระดับ ม.1 รู้สึกตื้นเต้นบอกไม่ถูก เอาละวะยิ้มสู้ไว้ก่อน
"เฮ้ย !! ไม่รอผมเลยนะคุณ" เสียงแว่วๆมาด้านหลังพร้อมกับแรงหนักๆตกลงที่บ่าผม "ตุ้ง" นั่นเอง หรือ "สุรศักดิ์" ผมหันหลังควับมองหน้ามันค้อนๆ ให้รู้ว่าผมเจ็บ ตุ้งเป็นเพื่อนผมที่เรียนประถมมาด้วยกันและก็ยังตามมาเรียนที่นี่กับผมอีก ทั้งๆ ที่โรงเรียนประถมที่ผมเคยเรียนนั้นก็เปิดพิเศษถึงระดับมัธยมต้นแล้ว แต่ผมกับตุ้งก็พยายามกระเสือกกระสนมาเรียนที่นี่ ตุ้งเป็นคนน่ารักใบหน้าเรียวรีรูปไข่คมคาย คิ้วดกหนาเรียงเส้นสวย ดวงตาคมซ่อนความทะเล้นไว้ข้างใน ยิ่งเวลายิ้มเหมือนกับว่าโลกทั้งใบเป็นของมันคนเดียว

และในที่สุด ผมก็ได้ย่างก้าวผ่านประตูโรงเรียนนี้เข้ามาสายตาผมกวาดมองไปรอบๆ แปลกตายิ่งนัก ด้านหน้าโรงเรียนมีหนึ่งสระใหญ่ข้างๆ มีศาลาตั้งประพุทธรูปด้านฝั่งซ้ายของสระและถัดไปเป็นเรือนพักครูมีถนนคั่น ขวางไว้ ขณะที่ผมเดินมองไปรอบๆตัวไม่สนใจผู้คน จนในที่สุดผมก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่างแล้วผมก็ทับลงไป
"โอ้ย !!" เสียงร้องของเด็กรุ่นเดียวกับผมร้องขึ้น ให้ตายเถอะผมชนกับเขาหรือเนี่ย ทำไมเขาไม่ดูทิศดูทางมั่งนะ ทางก็ออกโล่งยังมาชนเราอีก ใจผมคิด แต่เมื่อสายตาจดสายตาผมก็อึ้งไปทันทีให้ตายสิน่ารักจังสเป็คผมเลย ดวงหน้าสดใสแต่ตอนนี้ถูกกลบไปด้วยหน้าที่บึ้งบูด ริมฝีปากบางๆ ช่างน่าบรรจงจูบลงไปเสียจริงๆ ผมอึ้งอยู่นานในที่สุดก็ต้องตื่นจากภวังค์
"ไอ้ นี่ทำซึ้งอยู่ได้" ตุ้งจับไหล่ผมดึงขึ้นแต่ผมยังไม่ละสายตาจากผู้ที่ผมล้มทับเขาไปเมื่อกี้ คนอะไรช่างน่ารักเสียจริงๆ อยากเข้าไปกอดเสียจริง แต่แล้วผมก็ต้องกลับเข้ามาสู่ความจริงเมื่อ "ตุ้ง" หยิกเข้าที่เอวผม จึงคืนได้สติเห็นเด็กนักเรียนมากมายต่างทอดสายตามาทางจุดที่ผมยืนอยู่
"ขอโทษครับ,ผมวิ่งไม่ดูเองละครับ" เด็กหนุ่มกล่าวขึ้น คนอะไรขนาดเสียงยังชวนให้หลงใหลขนาดนี้ อยากจะรู้จักให้มากกว่านี้แล้วสิ
"ไม่ เป็นไรครับ, ผมเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน" ผมพูดได้เท่านี้ เขาก็ยิ้มรับพลางปัดฝุ่นออกตามตัวซึ่งเขาก็ปัดอยู่แล้วตั้งแต่ตอนลุกขึ้นได้ และในที่สุดเขาก็วิ่งกลับไป ผมมองจนเขาวิ่งไปสุดทางตาผมที่จะเห็นเขาได้แล้วเผลอยิ้มออกมาลืมนึกไปว่ามี คนๆหนึ่งคอยจ้องมองกิริยาผมอยู่
"คุณชอบเขาละซี้" ตุ้งกอดคอผมก้าวเดินต่อไปพร้อมกระซิบที่ข้างหู
"ก็ น่ารักออกขนาดนี้ สเป็คเลยวะ" ผมพูดอย่างไม่อาย เพราะมันก็รู้ว่าผมเป็นยังไง แต่มันผมไม่รู้เพราะมันไม่เคยจีบใครเลยไม่ว่าจะหญิงจะชายเห็นสนุกฮาๆ ไปวันๆ
"เฮ้ย !! ไอ้เต้ เอาจริงเหรอวะ" เต้ คือชื่อเล่นผมครับ "ชานนท์" เป็นชื่อในสำเนาครัวเรือน
"เอ้าก็จริงดิ ชอบวะน่ารักชิบเป๋ง, กูอยากจะรู้ชื่อแล้วสิ"
"โหยๆ ให้มันน้อยหน่อยๆครับคุณ" ตุ้งพูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ ตลอดทางที่เดินไปผมเห็นแต่หน้าเด็กหนุ่มคนนั้นลอยเวียนวนอยู่หน้ามันซึมลึก เข้าไปฝังไว้ในหัวสมองผมหมดแล้ว ใจผมมันเร่าๆ อยากจะพบเขาอีกให้ได้

8.00 นาฬิกาเวลารวมตัวเคารพธงชาติผมกับตุ้งต้องแยกกันเพราะเรียนคนละห้องผมเรียน อยู่ ม. 1/3 ส่วนตุ้งอยู่ ม.1/2แต่ละห้องยืนแยกหญิงชายอย่างละแถว และผมก็ไปยืนอยู่หน้าแถวด้วยชื่อในนักเรียนชายผมมาก่อนเพื่อน ระหว่างที่ยืนเคารพธงชาติผมหันหน้ามองไปยังด้านซ้ายมองเห็นเด็กหนุ่มคนนั้น ยืนอยู่หน้าแถวชายเหมือนกัน ใจผมเต้นโครมครามรู้สึกดีใจยิ่ง เขาอยู่ห้องเดียวกับตุ้งเพื่อนผมนี่เองโชคดีจริงๆ จะได้หาเรื่องไปเล่นห้องเรียนตุ้งบ่อยๆ ผมมองเขาอยู่นานเลยละ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาเริ่มสวดมนต์แล้ว และแล้วเขาก็หันหน้ามาทางผมแล้วยิ้มให้ ผมงี้ดีใจสุดตัวแค่รอยยิ้มก็ทำให้แทบคลั่งแล้ว ผมจึงยิ้มตอบเห็นเขาทำปฏิกิริยาบางอย่างที่มือ เขาไหวมือที่พนมอยู่หน้าอกผมจึงรู้ว่าเขาบอกให้ผมพนมมือ เมื่อผมรู้ตัวจึงยิ้มแห้งๆไปด้วยความอาย จนในที่สุดประธานนักเรียนบอกเลิกแถว นักเรียนทุกชั้นก็แยกแถวเป็นแนวออกไปอย่างสวยงาม ผมเดินมานั่งอยู่ที่ม้านั่งข้างๆตึกเรียนหลังแรก ที่มานั่งเพราะเดินตามเขามา เขาเดินไปซื้อน้ำอัดลมที่ซุ้มขายข้างๆ ตึกเรียนนั่นละ
"ยังมองไม่พออีกเหรอครับ ไอ้คุณเต้, มองตั้งแต่อยู่ในแถวเคารพธงชาติแล้ว, อะไรนักหนาของคุณครับผม" ตุ้งทำให้ผมตื่นจากภวังค์อีกครา ให้ตายสิชอบมาขัดเวลาดีๆ อยู่เรื่อย ผมจึงด่ามันไปแต่มันก็ทำเฉยๆ หน้ากวนๆ ของมัน แล้วผมก็เบนสายตามาที่ความสนใจของผมต่อ เขายืนถือแก้วน้ำอัดลมยืนเก้ๆ กังๆ เหลียวซ้ายแลขวาเหมือนไม่รู้จะไปทิศทางใด และในที่สุดสายตาเขาก็มาบรรจบทางที่ผมนั่งอยู่ เอาแล้วไง เขาเดินมาทางนี้แล้ว ตื้นเต้นเสียกระไร
"นั่งด้วยคนนะครับ" เขาพูดแล้วส่งยิ้มตามมา โอย...หัวใจจะสลาย น่ารักอะไรเช่นนี้ เขาทรุดตัวนั่งลงที่ม้านั่งอีกตัวข้างๆ ผม
"ไม่ว่านะครับ"
"โอ้ย จะว่าอะไรละครับ" ตุ้งตอบกลับรวดเร็ว ขณะที่ผมเพิ่งเพยอปากจะพูดแต่ก็ต้องหุบลงตามเดิม ไอ้เพื่อนบ้าหนิ ให้กูพูดหน่อยก็ไม่ได้
"รุ่นผมทั้งหมู่บ้านมีผมมาเรียนที่นี่คนเดียวนะครับผมเลยไม่มีเพื่อนมาด้วย แต่ก็มีพี่ชายครับอยู่ ม.4" เขาสาธยายทั้งที่ยังไม่ได้ถาม
"ครับ" ผมตอบ ให้ตายสิพูดได้แค่นี้เองเหรอวะกูเนี่ย รู้สึกประหม่าไงไม่รู้
"แล้วชื่ออะไรกันมั่งครับ, ผมอ๊อฟครับ"
"ผมอะตุ้งส่วนมันนะเต้" เอาอีกแล้วให้กูพูดมั่งสิให้เพื่อนบ้า
"ยินดี ที่ได้รู้จักครับผมกับคุณอยู่ห้องเดียวกันหนิครับ" ตุ้งพูดต่อแล้วร่ายเป็นฉากๆ สนทนากับเขาไป ออรู้แล้วเขา ชื่อ "อ๊อฟ" นี่เองหรือ "อภิสิทธิ์" ชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อนักเรียนเขา ผมแอบมองดูอ๊อฟเขาช่างเป็นคนที่ร่าเริงสดใสเสียกระไร ผิวเข้มสีแทน ดวงตาใสๆจมูกโด่งรับริมฝีปากบางๆ น่าจูบ ผมมองอ๊อฟอยู่นานโดยไม่สนเลยว่าเขากับตุ้งสนทนาอะไรกัน แต่ก็ต้องมารู้สึกสะดุดหูกึก หน้าแดงฉาดเพราะความอายไม่คิดว่าเพื่อนผมมันจะกล้าพูดออกมาโต้งๆ อย่างนี้ ดีนะที่ไม่มีใครอื่นอยู่บริเวณนั้นพอได้ยิน
"อ๊อฟ, ไอ้เต้เพื่อนเราชอบนายวะ" ตายแล้วไอ้บ้านี่พูดออกมาได้ยังไง กูอายนะเว้ย อ๊อฟไม่พูดอะไรเขานิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะลุกเดินหนีไปต่อหน้าต่อตาผม บ้าเอ้ย หมดกันพอดี
"ไอ้เลวตุ้ง พูดบ้าๆ อะไรวะ"
"เอ้าคุณชอบ ผมก็บอกให้แล้วไง จะอ้ำอึ้งทำไม"
"กูมีวิธีของกู"
"แล้วเมื่อไรจะได้... มันง้างปากจะพูดต่อแต่ก็หุบลงเมื่อผมค้อนสายตาให้มันหยุด
"เขาเดินหนีอย่างนี้...,โอ้ย !! ถ้าเขาเอาไปพูดว่ากูชอบผู้ชาย
ไม่อยากจะคิดเลยกูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
"ก็ไว้บนคอคุณนั่นละ"
"สร้างเรื่องยังมากวนอีก" ผมชักโมโห
"คุณไม่ต้องกลัวหรอกครับ,ผมดูก็รู้แล้ว, มันไม่มีใจไม่เดินมานั่งด้วยหรอก" มันพูดยังกับหยั่งรู้ฟ้าดินงั้นละ
"คุณรู้ได้ไง พูดมั่วๆ"
"ก็ผมเห็นหนิครับ,มันแอบมองคุณ" มันพูดหน้าตาเฉย แต่ก็แอบให้ผมดีใจจนฟองฟู่เลยละ
"ไรว๊าผมหล่อกว่าคุณตั้งเยอะมันยังไม่มองกู,สงสัยมันจะตาถั่ว" ตุ้งพูดเหน็บผม
"น้อยๆ หน่อยคุณ, หล่อจริงไม่เห็นมีใครมาจีบ" ผมย้อนกลับ ก็ตามที่เห็นที่รู้จักกันมาผมไม่เห็นเลยว่าตุ้งมันจะไปจีบใครเห็นตลกฮาๆไป วันๆ
"กูมีคนรักของผมแล้วเว้ย" มันเอนตัวพิงพนักม้านั่งพูดกระหยิ่ม
"ใคร วะ กูรู้จักเปล่า,ไอ้เลวนี่ซุ่มเหรอคุณ แนะนำให้รู้จักหน่อยดิ" แต่มันก็นิ่งพูดกวนตามประสามัน เออปากแข็งไปเถอะ กูสืบเอาก็ได้ว่ะ ไม่เกินความสามารถหรอกเว้ย

เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณให้นักเรียน เข้าห้องเรียนผมจึงแยกกับตุ้งเพื่อเข้าห้องเรียน แต่ทุกคาบช่วงเช้าผมไม่เป็นอันเรียนเลยมันแต่คิดเรื่องอ๊อฟ อยากจะบ้าตายกลัวก็กลัวหากเขาเอาเรื่องผมชอบผู้ชายไปพูด หากเป็นเช่นนั้นผมจะเรียนที่นี่ต่อไปไหวไหมเนี่ย จะกล้ามาโรงเรียนอีกไหมหนอ แต่ใจนึงก็หวังลึกๆ เหมือนที่ตุ้งบอก ภาวนาให้เป็นอย่างหลังมากกว่า เวลาผ่านไปจนคาบสุดท้ายของช่วงเช้าออดดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณพักทานอาหาร กลางวัน ผมเดินออกจากห้องแล้วสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อที่จะไปชวนตุ้งไปทานข้าว ที่สูดลมหายใจเนี่ยเพราะกลัวจะไปเจอกับอ๊อฟ กลัวมองหน้าเขาไม่ติด ดีหน่อยห้องเรียนผมกับห้องตุ้งติดกันไม่ต้องทำใจนาน ผมเดินเข้าไปมองไม่เห็นมันอยู่ในห้อง กวาดสายตาไปทั่ว แล้วสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่เขาคนนั้น "อ๊อฟ" นั่นเองแต่ก็เพียงแว๊บเดียวเพราะไม่กล้าสู้หน้าเขา
"เอ่อ...ไม่ทราบว่ารู้จัก เด็กชายสุรศักดิ์หรือเปล่าครับ" ผมตะโกนถามนักเรียนทั้งห้อง
"อ๋อ...เห็น ชม. 2 เขาบอกอาจารย์ว่าปวดหัวมากไม่สบายจึงขอพักนะ สงสัยอยู่ห้องพยาบาลมั้ง" เสียงนักเรียนหญิงคนหนึ่ง
เอา ละสิไอ้นี่ชอบนักละความขี้เกียจเนี่ย ป่านนี้มันคงนอนหลับสบายกายมันไปแล้วมั้ง ช่างมันเถอะห้องพยาบาลอยู่ไหนกูยังไม่รู้เลยปล่อยมันหิวตายซะเลย ผมกล่าวขอบคุณเธอไปแล้วหันตัวออกมาเดินฉับๆ ลงตามบันได ให้ตายเถอะมาปีแรก ก็เรียนซะสูงเชียวตั้งชั้น 4 เหนื่อยๆ ผมเดินลงบันไดมาได้ชั้น3 ก็ต้องลดฝีเท้าลง เมื่อมีใครเรียกตามหลังผมมา
"เต้...จะไปไหนครับ" ผมหันไปมองต้นเสียง เขานะเอง "อ๊อฟ" เด็กหนุ่มที่ผมหลงไหลได้ปลื้มยิ่งนัก หัวใจผมตอนนั้นมันเต้นโครมๆ แทบจะทะลัก
"เอ่อ...ไปโรงอาหารนะ, จะไปกินข้าว" ผมตอบแล้วก้มหน้าเดินลงบันไดต่อ หูผมได้ยินเสียงวิ่งลงบันไดมาตึกๆ จนมาถึงใกล้ๆผม
"เรากินด้วยคนนะ,ไม่มีเพื่อนเลยกลัวไม่อร่อย"
"ดะ..ได้สิครับ ยินดีมากเลย" ผมตอบตกลง โอยให้ตายจะเป็นลมสุขใจอะไรเช่นนี้ หรือจะเป็นอย่างที่ไอ้ตุ้งเพื่อนระยำผมบอกจริงๆ

กิน ข้าวเสร็จเขาก็ชวนผมไปนั่งเล่นใต้ร่มต้นมะม่วงใหญ่ที่มีม้านั่งอยู่ใต้นั้น ไปถึงผมจึงนั่งลงด้านหนึ่งของม้านั่ง ผมมองอ๊อฟที่ก้มตัวเก็บอะไรสักอย่างที่พื้นดินแล้วเขาก็เดินมานั่งฝั่งตรง ข้าม
"เล่นหมากรุกกัน" ออเขาเก็บก้อนหินนี่เอง
"ได้ครับ" ผมกับอ๊อฟก็นั่งเล่นกันไปคุยกันไปจนเริ่มรู้สึกคุยสบายขึ้นคลายความอึดอัดใน ใจผมลงไป ปลื้มใจที่สุด เราสองคนสนทนากันไปเรื่อย แล้วในที่สุดอ๊อฟก็มาหยุดตรงเรื่องที่ตุ้งพูดจนได้
"ที่เพื่อนเต้พูดอะจริงมั้ยครับ" อ๊อฟพูดพลางเหลือกตัวหมากเดิน ผมอึกอักไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีจึงใช้วิธีเงียบ
"เงียบ,ไม่พูดแปลว่าจริงสินะ" เขาเสริมต่อ "ชอบผมจริงๆเหรอ?" ผมเงียบอีกเช่นเคยก้มหน้ามองดูกระดานหมากรุก
"ไม่ ตอบผมหอมแก้มเต้โชว์คนแถวนี้นะ" เฮ้ย...เอางี้เลยเหรอ จะกล้าเหรอ ผมประสานตามองเขาที่จดจ้องผมอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะเอาจริง ผมจึงโพล่งออกไปในที่สุด
"ครับ,เราชอบอ๊อฟ"
"ก็แค่นั้น" แล้วอ๊อฟก็หัวเราะออกมา ยิ่งทำให้ผมเขินแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
"เวลาเต้เขินนี่น่ารักนะ,อยากจูบเต้จัง"
"พูดบ้าๆ" ผมค้อนอ๊อฟ เราสองคนมองจ้องกันก่อนที่ผมจะยิ้มออกมาและหัวเราะไปตามเขา
"ดีนะที่เพื่อนเต้พูด ไม่ต้องเสียเวลาจีบให้เหนื่อย" อ๊อฟพูดมาทำให้ผมอึ้งไปเลย ให้ตายสิเขาชอบเราเหมือนกันเหรอเนี่ย
"ตกลงเราคบกันนะ" ผมยิ้มแล้วตอบรับ แบบนี้ต้องขอบคุณตุ้งเพื่อนเกลอผมซะแล้วสิที่ทำให้เป็นความจริงได้ มันนี่เยี่ยมจริงๆดูคนออกด้วย

เหตุการณ์ ล่วงเลยผ่านมา 3 เดือน เราคบกันมาด้วยดี แต่ด้วยความที่เรายังเด็กเพิ่ง 13 ปี ก็ไม่ได้หวานชื่นกันมากนักเพราะก็ยังติดนิสัยเด็กเล่นซุกซนอยู่ เช้าวันนี้หลังเลิกแถวเคารพธงชาติ ผมกับตุ้งเพื่อนสนิทเดินปลีกจากแถวออกไปทางม้านั่งใต้ร่มมะม่วงจุดที่อ๊อฟ บอกคบกันผมนั่นเอง
"พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปน้ำตกดีมั้ย" ตุ้งชวนผม
"ก็ดีไม่ได้ไปนานแล้วเหมือนกัน"
"เออ...งั้นผมจะขี่รถไปรับคุณที่บ้าน"
"อย่านอนจนลืมนะเว้ย ไอ้ขี้เซา" ผมแขวะมัน
"จะ กินตีนผมเหรอคุณ" โหพูดซะแรง ใครจะไปกินวะ... ผมก็ตุ้งสนทนากันรอเสียงออดดังเพื่อขึ้นเรียน สัพเพเหระเรื่องที่จะคุยกัน สักพักอ๊อฟสุดที่รักผมก็เดินมาตรงเราสองคนนั่งอยู่แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม
"พรุ่งนี้ว่างกันมั้ย" อ๊อฟถามเราสองคนพลางเอามือทาบโอบไหล่ผม
"ว่าง... ทำไมหรืออ๊อฟ" ผมตอบรวดเร็ว แต่รู้สึกเจ็บที่หน้าขาเมื่อตุ้งเต่ะเข้ามา ตาจ้องผมเขม็งเหมือนจะบอกว่าเมื่อกี้ตกลงอะไรกันไว้ ผมจึงยิ้มแห้งๆ ให้มันไป
"งั้นไปเที่ยวบ้านผมนะ พรุ่งนี้งานวันเกิดพี่ผม"
"หือ... พี่อ๊อฟเหรอ เราไม่เห็นรู้จักจะไปได้ไง" ใจจริงก็อยากไปงะ แต่ไปในฐานะไรนะ พี่ชายเขาเรายังไม่รู้จักทั้งๆ ที่เขาก็เรียนอยู่ในโรงเรียนนี้เหมือนกัน หรือผมเคยเห็นหน้าแล้วแต่ไม่รู้จักชื่อเขากันนะ
"เถอะน่า...เราอยากให้ไป,ตุ้งก็ไปนะ"
"ไม่ ว่างนะ" ตุ้งตอบแต่เมินหน้าไปทางอื่น ผมก็แปลกใจอยู่เช่นกันว่าทำไมสองคนนี้ถึงไม่สนิทกันทั้งๆที่ก็เรียนอยู่ห้อง เดียวกัน ผมเคยถามตุ้ง มันก็ตอบผมน่าตาเฉยว่า ไม่ถูกชะตา ผมแทบจะบ้าทำไมมันต้องมาไม่ถูกชะตากับคนที่ผมชอบด้วยนะ อ๊อฟก็ไม่เห็นแย่ตรงไหน ออกจะน่ารักออก
"ครับ, งั้นเต้ไปนะเดี๋ยวเราไปรับตอนบ่าย,โอเคนะ" อ๊อฟกล่าว
"เฮ้ย !! เต้ กูขึ้นห้องก่อนนะครับ" ตุ้งบอกผมแล้วลุกเดินฉับๆ ลับหายขึ้นตึกใหม่ไป ปล่อยให้ผมกับอ๊อฟนั่งสนทนากันไปจนถึงเวลาขึ้นเรียน


12.30 นาที ของวันเสาร์ผมนั่งดูทีวีอยู่บนบ้านรอเวลาที่อ๊อฟจะมารับ ไม่นานผมนักผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดที่ถนนหน้าบ้าน ผมรีบลุกขึ้นเดิมฉับๆลงมาจากชั้นบนของบ้าน พอลงมาถึงก็เห็นตุ้งนั่งคุยอยู่กับแม่ผมที่ตอนนี้แกนั่งทำหมอนอยู่บนแคร่ ตุ้งเหลียวมองมาทางผมแล้วก็ทักขึ้นดังๆ
"จะไปชุดนี้เหรอวะ"
"ไปไหน" ผมถามกลับแล้วก้มมองตัวเองที่ตอนนี้ใส่กางเกงยีนส์ฟูกเนื้อละเอียดกับเสื้อยีดแขนสั้น
สีน้ำเงิน
"เอ้าก็ไปน้ำตกไง ตกลงกันไว้แล้วหนิ ลืมเหรอคุณ, ไปเปลี่ยนชุดเลย"
"กู ไม่ไปได้ไหมว่ะ,นัดกับอ๊อฟไว้แล้วนะ" ผมตอบมันไปแต่รู้ละว่ามันคงโกรธ เพราะสังเกตจากสีหน้ามัน ตุ้งมันเงียบแล้วหันไปลาแม่ผมแล้วเดินออกไปสตาร์ทรถขับออกไป ก่อนที่มันจะขับออกไปผมได้ยินเสียงแว่วๆ
มาว่า "ไปคนเดียวก็ได้วะ" ผมกำลังจะกลับขึ้นไปบนบ้านแต่แม่ผมก็เรียกให้ไปนั่งข้างๆ แล้วก็เขกหัวผมก๊องหนึ่ง
"นัดกันไว้แล้ว,ทำไมไปนัดซ้อนอีกละ ไอ้ลูกคนนี้"
"โธ่แม่..." ผมลูบหัวตัวเอง
"อ๊อฟนี่ใคร? เต้" แม่ผมถาม
"เพื่อนที่โรงเรียนนะครับ ชวนไปงานวันเกิดที่บ้านเขานะครับ เขาก็ชวนตุ้งเหมือนกันละ
แต่มันไม่ไป"
"อืม...,แล้วเขามาบ้านเราถูกเหรอ แม่ไม่เคยเห็นเขามาบ้านเราเลยหนิ"
"เขาก็มาตั้งหลายครั้งแล้ว แม่ไม่อยู่เอง"
"เออะๆ " แม่ผมตัดบทแล้วก็ลุกขึ้นเอาหมอนที่เย็บเสร็จไปผึ่งแดด แล้วกลับมานั่งบบแคร่ทำหมอนลูกต่อไป
ผม ก็นั่งคุยกับแม่จนอ๊อฟมารับผม ก่อนไปก็บอกว่าถ้างานเลิกดึกก็ขอแม่ให้ผมนอนที่นั่นเลย ซึ่งแม่ผมก็ติติงนิดหน่อยตามประสาแม่ห่วงลูก ก็ด้วยวัยผมเพิ่ง 13 เอง แต่แม่ก็เออออยินยอม ทำไงได้ก็ลูกคนเดียวหนิต้องตามใจกันหน่อย

งาน วันเกิดพี่ชายอ๊อฟเริ่มขึ้นตอน 2 ทุ่ม ผู้คนมากหน้าหลายตาซึ่งล้วนแต่เป็นเด็กนักเรียนเพื่อนเขาทั้งนั้น ช่วงมาถึงผมยังไม่เห็นพี่ชายเขาเลยจนงานเริ่มผมถึงเห็นหน้า ให้ตายสิทำไมน่ารักอย่างนี้ โคลงหน้าคล้ายกับอ๊อฟเสียจริง แต่จะคมกว่าอ๊อฟ ถูกใจผมจัง ไม่ไม่ในใจผมค้านนั่นพี่ชายแฟนตัวเอง ไม่ดีไม่ดี ผมเตือนใจตัวเอง ผมมองดูผู้คนรอบๆ มีทั้งรู้จักเคยเห็นหน้าไม่เคยพบหน้า เพราะส่วนมากเพื่อนพี่ชายเขาที่มาก็เพื่อนที่โรงเรียนทั้งนั้น หลังจากเป่าเค้กวันเกิดเสร็จ เสียงเพลงแดนซ์ก็กระหึ่มขึ้น อ๊อฟพาผมไปแนะนำให้พี่ชายเขารู้จัก จนผมได้รู้ว่าพี่แกชื่อ "โต้ง" แล้วผมกับอ๊อฟก็แยกตัวออกมานั่งโต๊ะงานเลี้ยงมุมที่มืด สักพักออฟลุกขึ้นหายเข้าไปในบ้าน ปล่อยผมไว้คนเดียว ผมนั่งมองดูพวกเพื่อนๆพี่โต้งเต้นรำกันสนุกสนาน แต่สายตาผมกลับจ้องมองอยู่เป้าหมายเดียวคือพี่โต้ง แกเต้นได้เย้ายวนเหลือเกิน บาดใจผมยิ่งนัก แต่เมื่อแกมองมาผมก็เบือนหน้าหนี พอแกละสายตายไปผมก็กลับไปจ้องมองอีก แกมองจ้องมาอีกผมก็หลบ น่ารักออกขนาดนั้น ใครจะไปกล้ามองซึ่งๆ หน้าละ สักพักอ๊อฟก็ออกมาจากบ้านผมพร้อมกับขวดเบียร์เย็นๆ 3 ขวดพร้อมแก้วในมืออย่าว่านะจะเอามาดื่ม ให้ตายสิผมไม่เคยดื่มจะปฏิเสธยังไงดี ถ้าเขาชวนดื่ม
"มาดื่มกันดีกว่า" นั่นไงจริงๆ ด้วย
"ไม่อะเราไม่เคย"
"เอาหน่อยน่า ลองดูไม่เสียหาย" อ๊อฟชวน พลางเปิดฝาเบียร์แล้วรินใส่แก้ว แล้วยกให้ ผมอึกอักไม่ดื่ม แต่ก็ถูกคะยั้นคะยอ
"เอา น่า เราก็ไม่เคยนี่แอบกินนะนี่,เร็วเดี๋ยวพี่เรามาเห็น" ผมมองไปยังพี่โต้งที่เต้นรำอยู่กับเพื่อนๆ แก หึ ! คงมาเห็นละสนุกอยู่ตรงนั้น ผมคิดในใจ (พ่อกับแม่เขาไปนอนบ้านยาย สงสัยกลัวนอนไม่หลับเพราะเสียงดัง)ในที่สุดผมก็ดื่มมันไปจนหมดแก้ว ให้ตายสิแสบคอเสียจริง ไม่ไหวเลย ผมกับอ๊อฟนั่งกินเบียร์กันจนหมด 3 ขวดแล้วเขาก็ไปเอามาอีก คราวนี้ยกเอามาซะ 6 ขวดให้ตายสิแค่นี้ก็จะแย่แล้ว ไม่ไหวแล้วนะ

23 นาฬิกา อ๊อฟลุกออกไปเข้าห้องน้ำ บอกว่าแป๊บเดียวเดี๋ยวมา แต่ทำไมนานจัง ผมนั่งผงกศีรษะด้วยความมึนเมา รู้สึกว่าตาปรือแทบจะลืมไม่ขึ้น ท้องใส้ปั่นป่วนผะอืดผะอม เลี่ยนๆ อยู่ที่คอ และในที่สุดผมก็ฟุบศีรษะบนโต๊ะ พึมพรำในลำคออือ...ทรมาน โอยไม่น่ากินเลยใจผมคิด และในที่สุดก็หลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมีใครมาสะกิด
"เฮ้ย ! เต้ตื่นๆ เมาเหรอวะเนี่ย"
"ฮือ...อ๊อฟเหรอ" ผมงัวเงียตื่นขึ้น
"โห...นักนะเนี่ยแล้วไอ้น้องตัวดีมันหายไปไหนวะ ปล่อยให้เพื่อนอยู่คนเดียวเนี่ย"
"พี่ โต้ง..." ผมฝืนพูดออกมาจากปากที่แทบจะขยับกว้างไม่ได้ ผมเหลียวหน้ามองดูรอบๆ สังเกตเห็นว่าทุกอย่างเวิ้งว้าง เงียบเสียงดนตรี สงสัยงานจะเลิกแล้ว
"ไม่ไหวเลยพากันทำงี้ได้ไงเนี่ย ลุกๆ เดี๋ยวพี่พาขึ้นนอน" ผมยื้อกายลุกขึ้นตามแรงพยุงของพี่โต้ง แต่แล้วพี่เขาก็ผลักผมออกจากตัวพี่เขา แต่มือยังรั้งตัวผมอยู่ สงสัยกลัวผมล้ม ก็แหงละจะลุกเดินก็ไม่ไหว
"เฮ้ย ! เล่อะพี่หมดเลย" ผมอ๊วกใส่แกนั่นเอง แล้วตามออกมาอีกเป็นกระพวน แต่รู้สึกดีขึ้นไม่ผะอืดผะอมเหมือนเคย แต่ก็ยังมึนๆ เบลอๆ อยู่ แล้วพี่โต้งก็พยุงผมเข้าไปในบ้าน ได้ยินแกบ่นพำๆ เมื่อเห็นอ๊อฟนอนหลับนิ่งอยู่บนโซฟา แกเอาเท้าไปเขี่ยน้องแกปลุกให้ลุกขึ้นไปนอนบนห้อง แต่อ๊อฟเงียบหลับเป็นตาย ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ แล้วแกก็พยุงผมขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เข้าห้องนอนไป ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นห้องนอนแก นึกว่าแกพาผมไปยังห้องของอ๊อฟเสียอีก พอแกทิ้งผมลงบนเตียงเสร็จ แกก็ถอดเสื้อที่เปื้อนอ๊วกผมออกทิ้งลงบนพื้นห้อง แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำออกมาพร้อมกับขันน้ำพร้อมผ้าชุ่มๆ
"เช็ดตัว หน่อยนะ จะได้รู้สักดีขึ้น" แล้วแกก็ถอดเสื้อถอดกางเกงผมออก ปล่อยให้ตัวผมโล่งมีแค่กางเกงในตัวเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นด้วยความเมาผมก็ไม่มีความอายอะไรเลยมีแต่มึนเบลอไร้เรี่ยวแรง พี่โต้งแกก็เช็ดไปบ่นไปลูบไล้ผ้าชุ่มๆไปตามตัวผม ผมสลึมสลือคล้ายจะหลับแล้วแต่ก็ต้องสดุ้งนิดนึงเมื่อแกสอดผ้าชุ่มๆนั้นเข้า ไปภายใต้กางเกงในผม แกถูผ้าวนๆอยู่ตรงนั้นนานมากจนควยผมตื่นตัวแข็ง แกคงจะรู้ว่าควยผมแข็งจึงดึงมือออกแล้วแกก็ยิ้มให้ผม เอื้อมมือมาลูบศีรษะผมแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ หน้าผม
"สบายตัวขึ้นยัง,หลับซะนะ พี่ไปอาบน้ำก่อน"
"ครับ" เสียงลากยาวออกจากปากผมที่เผยอไม่ขึ้น แล้วผมก็หลับตาลงหลับไปในขณะนั้นด้วยความเมา

ผม ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปชั่วแปบเดียว คงอย่างนั้นเพราะผมเห็นพี่โต้งยืนอยู่หน้ากระจกส่อง สงสัยเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ใจผมรู้สึกเต้นโครมๆ แทบจะปลิดความเมาทิ้งไป เมื่อมองดูร่างอันเปลือยเปล่าด้านหลังพี่โต้งที่แกยืนเอาผ้าขนหนูเช็ดหัวหัน หน้าไปทางกระจก ผิวเนียนๆ ที่ต้องกับแสงโคมไฟตรงกระจกเงาดูมีเสน่ห์นักก้นทวารแน่นๆ ท่อนขากำยำ แผ่นหลังกว้างน่าหลงไหล ผมมองตาไม่กระพริบ หัวใจผมยิ่งเต้นโครมครามขึ้นเมื่อพี่โต้งหันหน้ามาให้เห็นถึงความเป็นชายของ แก ผมรู้สึกคับแน่นตรงกางเกงในผม ใช่ละควยผมแข็งตัว พอพี่แกเห็นผมจ้องมองแกอยู่ แกก็เอาผ้าขนหนูมาพันรอบเอวแกไว้ แล้วยิ้มให้ผม แล้วเดินมายังเตียงที่ผมนอนอยู่
"นอนไม่หลับหรือไง"
"ละ...หลับไปแปบนึงครับ" ผมกระตุกกระตักตอบ
"เอ่อ...นี่ห้องพี่โต้งหรือครับ"
"ครับ"
"อ้าว ! งั้นผมไปนอนห้องอ๊อฟดีกว่าครับ" ผมลุกขึ้นแล้วเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นแล้วจะเดินออกไป แต่ด้วยความมึนเมาทำให้ผมเดินไม่นิ่งต้องค่อยๆ มองทางแล้วเดิน แต่แล้วผมก็รู้สึกวาบที่ด้านหลัง
"ไม...นอนห้องพี่ไม่ได้หรือไง" พี่โต้งเข้ามาสวมกอดเอาคางมาซบที่ไหล่ผม ไม่พูดเปล่า พี่โต้งกลับเอาจมูกมาคลอเคลียที่คอผม ปล่อยลมหายใจทอดออกมาช้าๆ กระทบที่คอผม หัวใจผมเต้นระรัว วาบหวิวไปทั่วกาย
"พี่โต้ง..." ผมเรียกชื่อแก
"ครับ ผม" แกตอบผมแล้วพูดต่อ "นอนกับพี่โต้งนะครับ" ผมยังไม่ทันตอบ แกพูดจบก็ประโคมจูบไปทั่วคอผม แล้วเลื่อนไปที่ใบหู สองมือที่แกกอดผมไว้ แกค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปภายใต้กางเกงในผมบีบคลำควยผมที่แข็งสู้อยู่แล้ว ผมครางเบาๆเอื้อมมือขึ้นไปโอบคอแกไว้
"พี่โต้ง...อืม..." แกจับผมผลิกตัวให้เผชิญหน้ากับดวงตาแกที่เพ่งมองผมอยู่
"น่ารักจัง" พี่โต้งพูดออกมา ทำให้ผมอาย หลุบตาก้มหน้าต่ำหลบสายตาแก
"น่า รักอย่างนี้ต้องทำโทษฐานให้พี่โต้งหลงรักนะครับ" ผมอึ้งแหงนหน้าขึ้นสบตาแก พี่โต้งยิ้มแบบมีเลศ แล้วจับมือผมให้ไปเกาะกุมลำควยแกที่แข็งตัวชันดันผ้าขนหนูออกมา แล้วแกก็ดึงผ้าขนออกร่วงกองบนพื้น
"จับดูสิครับ เต้" ผมเอื้อมมือไปจับควยแข็งเขื่องของพี่โต้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้จับควยของคนอื่น ตื่นเต้นฉิบหาย อา...ใหญ่ดีจัง ทอดลำยาวสวย หัวบานสีแดงคล้ำ ไรขนขึ้นดกดำไล้ขึ้นไปถึงสะดือบางๆ ผมจับควยแกรูดช้าๆ เหมือนอย่างที่รูดควยตัวเองตอนชักว่าวตัวเอง
"ชอบไหมครับ" พี่โต้งถามขึ้น
"ชะ...ชอบครับ"
"เดี๋ยว พี่โต้งให้จับทั้งคืนเลย แต่ตอนนี้พี่...." แกลากเสียงแล้วไม่พูดอะไร แต่เชิงคางผมขึ้นแล้วโน้มศีรษะลงมาประกบปากจูบ ตัวผมรู้สึกเกร็งไปหมดปล่อยให้แกบดขยี้ที่ริมฝีปากผมโดยไม่ตอบโต้ แล้วแกก็ค่อยๆ แยงลิ้นเข้ามาในปาก ผมขบกัดลิ้นแกจนพี่เขาต้องถอนออกรวดเร็ว
"อย่างเกร็งสิครับ,เวลาพี่จูบเต้ก็ต้องจูบตอบพี่ด้วย ถ้าพี่แยงลิ้นเข้าไปในปากก็อย่ากัดลิ้นพี่"
"ก็ผม..."
"เอา น่าเดี๋ยวพี่โต้งสอน" แกลูบศีรษะผมแล้วเริ่มบทรักอีกครา แกบดจูบผมดูดด่ำกลิ่นอุ่นๆ จากริมฝีปากแกมันช่างเย้ายวนใจผมเหลือเกิน ผมค่อยๆ จูบตอบแกเหมือนอย่างที่แกกระทำกับผม แกดึงรั้งผมเข้าไปกอดลูกมือไปตามหลัง ผมโอบมือรั้งคอแกไว้ยืนด้วยปลายเท้าเพื่อส่งจูบให้ถึงแก พี่โต้งค่อยๆแยงลิ้นเข้ามาใหม่คราวนี้ผมเผยอออกให้แกได้เข้ามาสัมผัส ผมครางออกมาเป็นทอดๆ เรียกชื่อแก "พี่โต้ง อาว์...." "พี่โต้งครับ...โอว์" ผมขยับตัวเบียดกายให้แนบชิดแก สองมือแกลากต่ำลงมาสอดเข้าไปในกางเกงในผมขยำก้นผมบีบแน่น แล่วค่อยๆ เลื่อนมือมาด้านหน้าเกาะกุมควยและรวงไข่ผมบีบคลำ สร้างความเสียว โอว์...ช่างสุขอะไรเช่นนี้ ดีมากเลยครับพี่โต้ง แกตวัดลิ้นกลับไปแล้วผมก็แยงลิ้นเข้าไปในโพลงปากพี่โต้งบ้าง แกดูดด่ำลิ้นผมไว้อย่างสมอารมณ์ ก่อนที่มือแกจะกระตุกฉีดกางเกงในผมขาดออกแล้วโยนมันทิ้งไป แกดันผมไปทางด้านเตียงแล้วพลักผมล้มนอนบนเตียง แกโน้มตัวลงมานอนทับกายผม ประกบปากจูบดื่มด่ำแลกลิ้นสอนเชิงสวาทให้ผม
อาว์...โอว์...สุดยอดเหลือ เกินพี่โต้งครับ...แกดันขาผมให้กางออกแล้วประกบควยและรวงไข่แนบชิดกันแล้วแก ก็ค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นๆ ลงๆ บนลำตัวผม ท่อนควยที่เบียดเสียดสีกันสร้างอารมณ์เสียวให้ผมต้องร้องครางออกมา หนังหุ้มควยผมเริ่มร่นลงจนสุดปล่อยหัวให้บานเบ่งปล่อยน้ำใสๆ รื่นออกมาผสมกับน้ำของพี่โต้ง
"ซีสสสส" ผมครางออกมากเมื่อแกเร่งจังหวะการเบียดสีของควยปลายหัวควยที่แบนติดกันอีก ด้านราบติดกับหน้าท้องมันเสียดสีกันเกิดความเสียวสะท้านไปทั้งกาย อารมณ์เร่าร้อนมันก่อตัวขึ้นสุมใจ
"โอว์...โอว์...พี่โต้ง"
"ชอบ มั้ยครับ, มาพี่โต้งจะพาเสียวกว่านี้" แกประกบปากลงจูบผมแล้วเลื่อนลงไปซุกชอนที่ลำคอ ก่อนจะลากลิ้นระดมจูบไปหยุดที่หัวนมผม ความรู้สึกแรกที่แกประกบปากลงดูดด่ำที่หัวนมนั้นมันเสียววาบสะท้อนไปจนถึงใจ ผมครางซีสปากออกมา แกยิ่งชอบใจระดมดูด จูบ ทั้งขบกัดหัวนมผมทั้งสองด้านผมกดหัวแกลงแน่นเมื่อเวลาแกขบกัดเบาๆ ครางอาว์ๆออกมา ผมชอบเวลาที่หัวนมโดนขบกันมันสะท้านอารมณ์ให้เสียวสุดขีด เหมือนพี่แกจะรู้ก็ยิ่งขบกัดบ่อยๆ ก่อนที่แกจะเลื่อนตัวต่ำลงไปใช้มือรูดควยผมก่อนที่ครอบปากคงไปดูดรูดขึ้นๆ ลงๆ ผมดิ้นเร่าๆ เมื่อปากแกดูดรูดควยผม อาว์ โอว์...เสียวเหลือเกิน พี่โต้งครับ เต้เสียวเหลือเกิน โอว์...ดีเหลือเกิน ผมกดหัวแกลงเพื่อให้แกดูดให้สุดโคนควย
"ซีสสสสสสสส" ผมครางเสียงดังเมื่อแกตวัดสิ้นเขี่ยที่เส้นสองสลึงผม โอว์...แทบขาดใจ เสียว เสียวเหลือเกิน พี่โต้งทั้งดูดทั้งรูดตวัดลิ้นเลียไปทั่วหัวควยลำควยแล้วลากลิ้นไปตวัดเล่น ที่รวงไข่ผมก่อนที่จะดูดมันเข้าไปในปากแนบแน่น
"อาว์...ซีสสสส" ผมดิ้นเร่าๆ ครางสะท้านจะขาดใจให้ได้
"พี่ โต้ง...ซีสสสส...เต้...เสียว" ยิ่งพูดแกยิ่งรุกหนักขึ้น แกรูดหนังหุ้มควยผมลงจนหัวควยผมตึงรั้งไว้อย่างนั้นแล้วใช้ปากครอบลงดูด ขึ้นๆลงๆ รัวเร็ว ลิ้นตวัดเวียนรอบหัวควยผ่านเส้นสองสลึงทำผมคลั่งไปหมด
"ซี สสสสสสสสสสสสส...อาาาาว์" ผมครางเสียงดัง แอ่นกายขึ้นดิ้นพล่านๆ ด้วยความเสียวที่แทบจะขาดใจ พี่โต้งดูดรูดควยเก่งเหลือเกินผมครางไม่มีหยุดเลย จนในที่สุดผมทนฤทธิ์สวาทแกไม่ไหวปล่อยน้ำรักพ้นเข้าไปในปากแกทะลักแกดูดด่ำ กลืนกินไปจนหมด ผมครางฮือออกมาทอดยาวผ่อนผมหายใจแรงๆ เสียวเหลือเกิน ไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อนเลย
"ชอบมั้ยครับ" แกถามเมื่อเลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับกายผม มองจ้องหน้าผมที่หอบหายใจแรงๆ แล้วยิ้ม
"สุดๆ เลยครับ ไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อน"
"งั้น เต้ดูดควยให้พี่โต้งมั้งนะครับ" แกรั้งตัวขึ้นยืนเข้ากางขาระหว่างตัวผม แล้วรูดควยตัวเองช้าๆ รอให้ผมไปดูดควยแกผมค่อยๆ รั้งตัวขึ้นนั่งตรงกลางระหว่างขาแก แล้วค่อยๆ ประกบปากลงไปครอบดูดควยอันใหญ่เขื่องของแก ผมค่อยๆดูดเข้าๆ ออกๆ ช้าๆ ก่อนจะเร่งจังหวะรัวขึ้นๆ
"โอ้ย" พี่โต้งร้องใช้มือจับศีรษะผมไว้
"อย่า ให้โดนฟันสิครับ" แล้วแกก็ปล่อยมือออกไปค้ำเอวตัวเองปล่อยให้ผมหัดรูดดูดควยให้ชำชาญการเมื่อ ผมเริ่มชินผมก็เร่งจังหวะดูดเร็วขึ้นและดูดแรงขึ้น ความใหญ่ของควยแกมันคับปากผมไปหมด พี่แกครางเสียวเสียงดังไม่ขาดระยะ แกจับศีรษะผมกดลงเพื่อให้ดูดให้มิดโคนควย แต่ด้วยความยาวของควยพี่แกมันทำให้ผมกระอักกระอ่อนเมื่อหัวควย แต่ล้วงเข้าไปลึก ผมพยายามฝืนดูดต่อไปโดยเอามือมาช่วยรั้งไว้ เสียงครางพี่โต้งช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก มันทำให้ควยผมจากที่แข็งอยู่แล้วกลับยิ่งแข็งขึ้นจนปวดจนผมต้องใช้มือรูดควย ตัวเองตามไป พี่โต้งผลักผมนอนลงเอาหมอนมารองศีรษะผมสองใบก่อนที่จะกระแทกควยเข้าปากผมรัว เร็วถี่ๆ พี่โต้งดันเข้าไปจนสุดลำควยพร้องปล่อยเสียงครางซีสๆ ออกมาไม่ขาดระยะ สักพักแกก็ถอนควยออกจากปากผมใช้มือรูดควยตัวเองตรงหน้าผมก่อนที่ควยจะกระตุก พ่นน้ำรักออกรดทั่วใบหน้าผมไปหมด น้ำควยพี่แกเยอะมากเหลือเกิน แกห่อปากร้องซีสๆ อาว์ๆ แล้วเอาควยมาแต่เลื่อนเล่นที่ริมฝีปากผม ก่อนที่แกจะก้มลงมาประกบดูดปากผม โลมเลียลิ้นไปทั่วไปหน้าชำระน้ำควยของแกออกแล้วนำมันมาป้อนเข้าไปในปาก ผมกลืนน้ำควยที่ผสมด้วยน้ำลายแกอย่างไม่รักเกียจ
"เดี๋ยวพี่โต้งจะพาเสียวกว่านี้อีกนะ" แกพูดเสียงหอบๆ
"กว่านี้..." ผมทวนผม
"ครับ, พี่โต้งจะพาเต้เสียวทั้งคืนเลย,แต่ตอนนี้ขอนอนกอดคนน่ารักสักแปบนึง" ผมพี่แกก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมรั้งตัวเข้าไปในอ้อมกอดแก อา...ช่างอุ่นอะไรเล่นชี้ ความรู้สึกอบอุ่นมันแผ่ซ่านเข้าไปถึงใจผม มีความสุขเหลือเกินนี่ผมรักชอบพี่โต้งเข้าแล้วเหรอเนี่ย หรือด้วยหน้าตาสเป็คผม จึงทำให้ผมเผลอไผลได้ง่ายขนาดนี้ หรือจะเป็นเพราะความเมาที่ปลุกอารมณ์ปราถนาให้ติดง่ายขนาดนี้ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามเถอะ ผมรู้แต่ว่าในใจผมตอนนี้มีพี่โต้งเข้าไปอยู่แล้ว รัก...รักเหลือเกิน
"เต้ครับ" พี่โต้งกระซิบชื่อผมแผ่วเบาที่ข้างหูด้วยเสียงที่กระเส่าเสน่หา แกจับผมผลิกตัวหันหน้าไปหาประสานตากัน แล้วเริ่มบทรักกันอีกครั้ง พี่โต้งบรรจงจูบแผ่วเบาก่อนที่จะเน้นหนักบดขยี้ลงมาดูดดื้มชอนลิ้นเข้าไปใน โพรงปากตวัดชอนไชตามไรฟัน ลิ้นพัวพันฉวัดกัน มือหนึ่งแกจับขาผมหนึ่งข้างขึ้นก่ายไว้ตรงเอว แกแอ่นเอวพยายามเบียดควยเข้ามาประชิดสัมผัสกัน ไออุ่นทุกอณูในร่างโอบกอดเราสองคนไว้ในห้วงแห่งไฟกามที่ลุกโชน โอว์...ปรารถนาที่ยากจะถอนออกได้ ผมเอื้อมมือบีบคลำรวงไข่พี่โต้งรูดเร้าท่อนควยที่แข็งตัวเปล่งหัวบานใหญ่
"อืม... ดีมากครับเต้ อย่างนั้นๆ" ผมกำควยแกแน่นมือขึ้นแล้วรูดขึ้นลงหนักๆ แกครางอาว์...อาว์...เล็ดลอดออกมาจากปากที่ประกบจูบกันนั้น มือแกไล้ลูบมาบีบคลำก้นทวารผมแล้วกดแน่นดันเข้าไปให้ควยผมกระทบควยแก
"พี่ โต้ง...ดูดนมให้เต้หน่อย" ผมบอกพี่โต้งด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ร่างกายมีแต่ความรุ่มร้อนที่ถูดแผดเผาด้วยความใคร่ พี่โต้งยิ้มแล้วพลิกตัวขึ้นมาทาบทับตัวผม แล้วซุกไซ้ริมฝีปากบันเลงจูบไปทั่วลำคอผม พี่แกดูดเน้นหนักคลายจะกัดผม อาว์...ผมครางซีสปากเสียว ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย มือหนึ่งผมลูบไล้บนแผ่นหลังเนียนพี่แก อีกมือสอดส่ายซุกซนบนศีรษะ แกค่อยๆเลื่อนปากลงไปบนอกผม แล้วระดมเม้มจูบหนักๆไปทั่วก่อนจะลงลิ้นตวัดขบกัดดูดด่ำที่หัวนมทั้งสองถัน
"ซีสสส...โอว์" ผมครางพลางแอ่นตัวขึ้นเมื่อพี่โต้งเม้มขบที่หัวนม ชั่วนานที่แกซุกซนอยู่ที่หัวนมผมก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปดูดด่ำกับท่อนควยและรวง ไข่ผม แกรูดปากตวัดลิ้นที่ปลายหัวควยผมพัลวัน โอว์...เสียวเสียวเหลือเกิน พี่โต้ง..... ผมกระดกก้นขึ้นลงกระแทกควยเข้าไปแกเหมือนอย่างที่แกเคยทำ เวลาที่ควยผมล้วงลึงเข้าไปในปากแกแล้วปลายหัวสัมผัสกับอะไรบางอย่างมันยิ่ง เสียวสะท้านแทบจะขาดใจเสียให้ได้ไม่นานนักน้ำควยผมก็แตกปรี่ออกมาในปากแก แต่คราวนี้พี่โต้งไม่ดูดกินน้ำควยผมกลับปล่อยมันให้อาบไหลรินลงไปตามร่องรู ตูด แกจับขาผมยกกางขึ้นให้ก้นผมลอยในอากาศเล็กน้อย พี่โต้งค่อยๆตวัดลิ้นเลียที่โคนควยไต่ลงไปดูดเลียรวงไข่ผม ซีสสสส....สุดยอดแห่งปรารถนา แล้วแกก็เลื่อนสัมผัสอย่างช่ำชองลงไปตวัดลิ้นไชลงไปในร่องรูก้นผม สัมผัสแรกที่ไออุ่นจากลิ้นเข้าสัมผัสกับผนังหุ้มตูด ผมสะดุ้งโหยซีสปากเสียง
"พี่ โต้ง...ตะ..เต้...เสียว" แกไม่ตอบรับแต่สนองด้วยการแยงนิ้วเข้าไปในรูทวารผม วับแรกที่เข้าไปผมรู้สึกเจ็บอึดอัด ต้องขมิบตูดรัดนิ้วแก
"พี่โต้ง...เต้...เจ็บ"
"อย่า เกร็งสิครับ เจ็บแปบเดียว, อย่าเกร็งนะครับเชื่อพี่โต้ง" แกปลอบผมให้ผ่อนคลายแล้วค่อยๆ ดันนิ้วเข้าไปจนสุด เจ็บเหลือเกิน ความรู้สึกอึดอัดที่ตรงนั้นมันวิ่งเข้าไปบีบหัวใจผมให้ทรมาน ภาวนาให้พี่โต้งถอนนิ้วออก แต่แกก็ดึงนิ้วออกแล้วก็ดันเข้ามาใหม่ ตูดผมตอดนิ้วแกปิบตลอด
"อย่าเกร็งครับเต้" โอย...ทรมานเหลือเกิน ผมขอร้องให้พี่โต้งเอานิ้วออก แต่ก็ฝืนความอยากของพี่แกไม่ได้แกปลอบปะโลมผม แกใช้ต้นขาของแกดันต้นขาผมเพื่อให้ก้นยกขึ้นแล้วเอื้อมมือมารูดควยให้ผม แต่อีกด้านก็ไม่ลดละพยายามดันนิ้วเข้าๆ ออกสร้างใจหวะ นิ้วที่แกสอดเข้าไปมันฝืดแน่นเป็นสัมผัสหยาบๆตรงผิวรูก้นผม ผมสูดปากครางซีสๆ บอกพี่แกว่าเจ็บๆ เมื่อแกดันเข้าออก แต่สักพักผมรู้สึกว่าตรงรูตูดผมมันมีน้ำมาหล่อลื่นความฝืดแน่นหายไป ความเจ็บที่ทรมานเมื่อกี้ลดน้อยลง คงเหลือไว้แต่ความเสียวซ่านที่แผ่สะท้านมาถึงหัวใจผม
"อาว์...ซีสสสส" ผมครางไม่ขาดระยะเมื่อพี่ต้องดันเข้าเร็วขึ้นๆ ตรงส่วนต้นขาลงไปผมรู้สึกว่ามันจะหมดแรงเสียให้ได้ แล้วสักพักเมื่อพี่โต้งเห็นว่าผมผ่อนคลายก็ดันนิ้วเข้ามาอีกนิ้ว
"โอ ว์....ซีสส...พี่โต้งงงง" ผมเรียกชื่อแกเหมือนแกจะรู้ว่าผมเจ็บอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่มีคำปลอบโยนจากแกพี่โต้งค่อยๆดันเข้าดันออก ผมได้แต่ร้องครางซีสปาก มือซัดซ่ายไปบนเตียง ขยุ้มผ้าปูที่นอนให้ยุ่ยยับไปหมดสักพักแกถอนนิ้วออกแล้วใช้มือทั้งสองด้าน จับขาผมยกขึ้นกางออกเท่าที่ขาผมจะกางออกได้ ผมรู้สึกตึงแน่นต้นขาไปหมด
"เต้... เป็นของพี่โต้งนะครับ" เสียงแกหนักแน่น ผมไม่ตอบได้แต่หลับตาเคลิ้มกับอารมณ์ที่ไม่หยุดนิ่ง เป็นของพี่โต้ง...ผมก็เป็นของพี่แล้วหนิ ทำไมต้องขออีกด้วย ผมคิด ผมยอมแกทุกอย่างแล้ว เพราะในตอนนี้มีแต่ความปรารถนาแห่งใคร่เท่านั้นที่ผมต้องการ แล้วพี่โต้งก็ดันควยเข้ามาในรู้ทวารผม เพียงแค่หัวควยผ่านเข้ามาเท่านั้นผมรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าการสอดนิ้วไม่นานมา นี้เสียอีก
"พี่โต้ง...เจ็บ...เต้เจ็บ" ผมบิดตัวพยายามดิ้นให้หัวควยหลุดออกจากตูดผมแต่ก็ไร้ผม พี่โต้งจับขาผมไว้แน่น
"เจ็บ แป็บเดียวครับ,พี่โต้งสัญญาจะไม่ให้เจ็บมาก, ผ่อนคลายนะครับ" ผมนิ่งเงียบไม่พูด แต่ตอนนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าจะเป็นจะตาย พี่โต้งค่อยๆ ดันควยเข้ามาช้าๆ จนในที่สุดก็มิดลำควย ตูดผมขมิบตอดตลอดเวลามันรู้สึกจุดอัดอัดบีบแน่นตรงส่วนนั้นคล้ายจะหายใจไม่ ออกแล้ว เจ็บเหลือเกิน โอ...ทรมานเหลือเกิน
"เจ็บ...พี่โต้ง...เจ็บมาก เลย" ผมพูดปากสั่นเหมือนจะไม่มีแรงพูดแล้ว โอย...มันรู้สึกแสบๆที่ร่องรูตูด ในใจผมคิดว่ามันคงฉีกขาดแน่เลย คงแน่ละควยแกใหญ่ยาวขนาดนั้นและคงด้วยครั้งแรกมันจึงเป็นเช่นนี้ ตูดผมยังขมิบตอดไม่หยุด ผมใช้มือดันหน้าท้องแกไว้เหมือนจะบอกให้ถอนควยออกไป แกคงรู้ว่าผมเจ็บจึงแช่ควยนิ่งไว้แล้วใช้มือมารูดควยผมให้ผ่อนคลาย ผมเริ่มอ่อนตัวลงไม่แข็งขืนอีก แกจึงค่อยๆดันควยออกช้าๆ แล้วดันเข้ามาอีกทุกครั้งที่แกดันเข้ามา ผมป้องปากร้องครางซีสๆ คล้ายจะเป็นจะตาย มันรู้สึกแสบๆที่ก้น ไม่นานนักเมื่อตูดผมเริ่มปรับตัว ความฝืดแน่นหายไปด้วยน้ำที่ไหลออกมาหล่อลื่นเหมือนรู้งาน พี่โต้งเริ่มโยกตัวเร็วขึ้นแรงขึ้น ดันควยเข้ามาถี่ๆมิดโคน ผมครางไม่หยุดและดูเหมือนเสียงจะดังขึ้นๆ ก็กลับยิ่งทำให้พี่แกโหมสัดกระหน่ำบทกามลงมาอย่างหนักหน่วง พี่โต้งหลับตาซูดปากครางซีสซาส ผมยิ่งมองยิ่งเร้าอารมณ์เหลือเกิน อาว์....ซีสส....
"เสียวจัง...เต้...เสียว..พี่โต้ง" ผมทั้งครางทั้งพูดบอกเสียว เมื่อความเจ็บมันหายไปอย่างน่าแปลกใจ
"พี่โต้ง..กะ..ก็เสียววว" แกตอบผมแต่ก็ยังกระเด้าควยเข้าตูดผมไม่หยุดยั้ง
"ตูดเต้ฟิตมาก...ตอดดีด้วย...อาว์...ซีสส"
"อาว์...ซีสสส" ผมครางรับแก สุดยอดแห่งปรารถนา ความเสียวซ่านปะทุตัวลุกโชนแผดเผาเราสองคนให้หลงไหลไปกับสวาทกาม
"ดะ..ดูด นม..เต้..หน่อย" ผมบอกปรารถนาที่ใคร่อยาก พี่โต้งโน้มตัวลงมาประกบปากจูบดูดดื่มที่หัวนมผมพลางตวัดลิ้นลากวนเลียรอบๆ บั้นท้ายยังส่งแรงกระเด้าควยไม่หยุดหยั้ง เสียงแกครางงึมๆ ออกจากปากที่บดขยี้บนถันนมผม มือผมสอดซุกไปบนศีรษะแกพลางกดลงแน่นแนบชิดหัวนม อาว์...ซีสส..พี่โต้ง...พี่โต้ง....โอว์...ซีสสสส ผมครางกระเส่าขานชื่อแกตลอดเวลา สุดยอดเหลือเกิน ไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อนรัก รักเหลือเกิน ผมรักพี่โต้ง รักบทสวาทจนยากจะถอนขึ้นแล้ว สักพักแกหยุดกระเด้าควยแล้วค่อยๆอุ้มผมขึ้นช้าๆ เพื่อไม่ให้ควยหลุดจากตูดผม ก่อนที่แกจะพลิกตัวนอนลงให้ผมนั่งทับควย แล้วแกจับขาผมที่นั่งยองๆ ให้กางออก
"ขย่มควยให้พี่โต้งหน่อย" ผมจึงเริ่มยกก้นขึ้นแล้วปล่อยลงมาจนควยเข้าไปมิดลำ เสียงแกครางซีสปาก
"อย่าง นั้นแหละ ๆ ขย่มให้มิดเร็วๆ เลยครับ" นั่นเป็นความต้องการของแก ผมก็เริ่มตามความปรารถนานั้นยิ่งผมขย่มลงจนสุดผมก็ยิ่งรู้สึกมากไม่ต่างจาก แกเลย ควยที่ยาวของแกมันดันตัวเข้าไปลึกแทบจะติดผนังท้องตามที่ผมรู้สึก ผมทั้งขย่มรัวเร็วถี่ๆ ร้องครางซีสซาสเสียงดังประสานกันกับเสียงครางพี่โต้ง
"อา ว์...เต้...สุดยอด..ขย่มเก่งมาก...ซีสสส...อาว์...แบบนั้นละ" แกซีสปากครางตลอดเวลา พลางกระเด้าควยขึ้นลงรับประสานกับการขย่มของผม โอว์....ซีส...สุดออด พี่โต้ง ...พี่โต้ง...เสียว...เสียว... ยิ่งเสียว ผมก็ยิ่งครางครวญ ซีสปากร้องโอว์...อาว์...ไม่หยุด มันเยี่ยมเหลือเกิน สุดยอดปรารถนา....พี่โต้งหยึดตัวผมไว้ให้หยุดขย่มแล้วถอนควยออกจับผมผลิก คว่ำนอนยกก้นขึ้นแล้วแกก็สอดควยเข้ามาใหม่
"อาว์...ซีสสสสสสส" ผมครางทอดยาวเมื่อพี่โต้งดันควยเข้ามาพรืดเดียวมิดด้ามมันฝืดเล็กน้อยก่อให้ เกิดความเจ็บนิดๆ แต่ผมรู้แล้วว่าต่อไปก็คงจะมีแต่ความเสียวจึงทนต่อความเจ็บนั้นได้ แกค่อยๆเร่งเครื่องยนต์ขึ้นกระเด้าสร้างจังหวะช้าๆ แล้วเร่งถี่ขึ้นๆ เสียงปับๆ ของแรงกระทบหน้าท้องกันก้นเสียงดังประสานกับเสียงครางของเราสองคนที่ซีสซา สระคนกัน มือแกจับก้นผมไว้มั้นส่งแรงกระเด้าควยเข้ามาถี่เร็วไม่ยั้ง
"ตอด... ดีจัง" พี่เต้คราง ผมแอ่นหน้าสูดปากในอากาศครางซีสๆ มือหนึ่งยันตัวเองไว้ อีกมือหนึ่งเอื้อมไปสาวรูดควยตัวเองเพิ่มความเสียวกระสันให้ทวี อาว์...อาว์...ซีสสสสส พี่โต้ง....เต้...เสียวเหลือเกิน...
พี่โต้ง ...เต้...อาว์....เสียว.... ผมครางเสียงดังขึ้นๆ เมื่อแกกระเด้าเข้ามาแรงๆ หนักหน่วงแบบไม่ยั้ง ก่อนที่แกจะกระตุกควยฉีดน้ำควยเข้าไปในตูดผมและไหลเยิ้มออกมา แกฟุบตัวลงนอนราบทับบนหลังผมปล่อยควยให้แช่อิ่มเอมอยู่ในตูดผมที่ขมิบตอดไม่ หยุด
"เสียวมั้ยครับ...พี่โต้งเสียวมากเลย" เสียงแกหอบกระเส่า หายใจรดต้นคอผมแรงๆ
"เสียวครับ,เต้ไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อนเลย" สักพักแกก็ถอนควยออกลงนอนข้างๆผม แล้วรั้งตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดแก
"เต้เป็นของพี่โต้งแล้วนะ" แกพูดแล้วจูบที่ต้นคอผม
"ครับ,เต้เป็นของพี่"
"เป็นเมียพี่แล้วต้องเชื่อฟังพี่โต้งนะครับ"
"ครับ" ผมตอบแค่นั้นแล้วซุกตัวให้แนบชิดในอ้อมกอดพี่โต้ง แล้วหลับไหลไปอย่างมีความสุข

**********************************************************




  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
Bond
Guest

1. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #0
 
19-Oct-11, 06:36 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ผมงัว เงียลืมตาตื่นขึ้น ผมหลับอยู่ในอ้อมกอดพี่โต้งทั้งคืนแม้ตอนนี้ผมตื่นขึ้นแกก็ยังกอดผมไว้ ผมเลื่อนมือพี่โต้งออกหวังจะลุกขึ้น เช้าแล้วต้องรีบกลับบ้าน แต่ใจไม่อยากไปไหนเลย อยากนอนอยู่อย่างนี้ร่ำไป ไม่ได้สิเดี๋ยวใครมาเห็นใจหนึ่งผมค้าน ใครที่ว่าก็คืออ๊อฟนั่นเอง ผมกลัวยิ่งนักเมื่อนึกเห็นหน้าเขาขึ้นมา ผมกำลังจะเหยียดกายขึ้นแต่พี่โต้งก็รั้งผมไว้
"อย่าเพิ่งลุกเลย,ให้พี่โต้งนอนกอดนานๆหน่อย" แกพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา
"เช้าแล้วครับ เต้ต้องรีบกลับบ้าน"
"น่า น๊ะ นอนต่อเถอะนะครับ" แกลืมตาขึ้นมองผมพูดเสียงอ้อน ผมแพ้อีกแล้ว เสียงอ้อนหวานๆ มีเสน่ห์ของพี่โต้งทำให้ผมไม่อาจจะขืนแกได้ ผมจึงได้แต่ทอดตัวลงนอนตามเดิม แกรั้งผมเข้าแนนชิดก่อนจะจูบที่แก้มผม
"เดี๋ยวบ่ายๆ พี่โต้งจะไปส่งนะ,ตอนนี้ให้พี่โต้งนอนกอดให้ชื่นใจก่อน" ในที่สุดผมก็หลับอยู่ในอ้อมกอดแกอีกครา...

แต่ ไม่นานนักผมสะดุ้งเฮือกจากหลับอันเป็นสุขเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูปังๆ เสียงดัง หัวใจผมวาบสั่นเต้นโครมๆ นั่นไงสิ่งที่ผมกลัว มันใกล้คืบคลานมาถึงแล้ว
"พี่โต้ง ๆ" เสียงอ๊อฟเรียก พลางเคาะประตูปังๆเสียงดัง ผมนอนนิ่งเงียบ ใจกระวนกระวายเหลือกำลัง ฟังเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นๆ เรื่อยๆ จนในที่สุดพี่โต้งก็รู้สึกตัวงัวเงียลงจากเตียงแล้วก้มหยิบผ้าขนหนูขึ้นมา พันรอบเอวปกปิดกายที่เปลือยเปล่ามาทั้งคืน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูออกเพียงเล็กน้อยแล้วใช้ตัวบังช่องนั้นไว้ ผมได้แต่จดจ่อฟังการสนทนาของคนสองคน
"อะไรเล่าอ๊อฟ มาเคาอะไร พี่นอนอยู่นะ" แกพูดเสียงเหนื่อยๆ ทำเหมือนไม่ชอบใจ
"พี่โต้งเห็นเต้ไหม?, เมื่อคืนนี้..." อ๊อฟจบประโยคกลางคัน แล้วพี่โต้งเสริมต่อ
"เมามาก, เอ็งนี่มันแย่จริงๆ ปล่อยให้เพื่อนเมาอยู่ข้างนอก ตัวเองดันมาหลับสบายในบ้าน"
"แล้วเต้ละพี่"
"พี่ ไปส่งแล้วเมื่อคืน, รู้มั้ยพี่ต้องโดนแม่เต้ด่ามาเนี่ย ทำไมถึงให้ลูกเขากินเหล้ากินเบียร์ แล้วอย่างเนี่ยเอ็งจะมองหน้าแม่เขาติดเหรอ เอาลูกเขามาเมามายอย่างนี้" ตายละเราอยู่ในห้องนี้แท้ๆ พี่โต้งพูดไปได้ แม่ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้นสักหน่อย
"ก็นิดหน่อยเอง"
"ไม่หน่อยเลย, พี่โดนแม่เต้ด่าก็ความผิดเอ็ง, พี่ต้องคาดโทษแกไว้จะไม่บอกพ่อ, เออ...แล้วพ่อกับแม่มายังวะ"
"ยังเลยพี่ ถ้ามาผมก็แย่นะสิยังไม่ได้อาบน้ำชำระตัวเลย กลิ่นยังติดอยู่เลย, งั้นผมไปอาบน้ำนอนต่อดีกว่า,
ขอบใจนะที่ไม่ส่งเต้ให้ผม" อ๊อฟขอบคุณพี่ชายแล้วก็ถอยร่นไป
"เออ... ไม่ต้องมาปลุกอีกนะจะนอน" พี่โต้งพูดจบปิดประตูลงล็อกแล้วหันมายิ้มหวานให้ผม ก่อนจะเดินมามานอนทับตัวผมแล้วพลิกตัวลงข้างๆ สบายอารมณ์
"พี่โต้งโกหกลื่นจัง" ผมหันหน้าเข้าหาแก แล้วพูดออกมาด้วยความโล่งใจที่สิ่งที่ผมคาดคิดว่ามันจะเกิดผ่านไปด้วยดี
"เอ้า ! แล้วจะให้พี่โต้งบอกว่าเต้นอนอยู่กับพี่หรือไง" ผมเห็นแกพูดแบบนั้นจึงอึกอักพูดไม่ออกได้แต่หลุบตาหนีหน้าแก
"พี่โต้งรู้ว่าเต้กับออฟคบกันอยู่, พี่โต้งดูออกน่า"
"พี่โต้งรู้..." ผมคราง
"ครับ,ถ้าพี่โต้งบอกว่าเต้นอนอยู่กับพี่, อ๊อฟมันก็เอาพี่ตายนะสิยิ่งเอาแต่ใจอยู่ไอ้นี่"
"พี่รู้...แล้วทำไมถึง..."
"ก็ พี่โต้งชอบเต้หนิครับ,เดินผ่านกันที่โรงเรียนก็บ่อยพี่ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มตอบ" ให้ตายสิทำไมผมไม่เคยเห็นเลย หรือผมไม่ใส่ใจเองคงเพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบสู้หน้าใคร เวลาเดินจะชอบชายตาต่ำๆ มองที่พื้นมากกว่า แต่ไม่ใช่ก้มศีรษะนะ เป็นเพียงการมองลงพื้นในระยะ 45 องศามากกว่า
"นอนต่อเถอะครับ บ่ายๆ ค่อยตื่นกัน, แล้วเรื่องเราสองคนพี่จะบอกอ๊อฟเอง, แต่ต้องคิดก่อนว่าจะบอกยังไง
อ๊อฟยิ่งเป็นคนขี้น้อยใจอยู่ บอกตรงๆ ไป เดี่ยวทำอะไรบ้าๆ เข้า"
"พี่โต้ง..."
"ครับ"
"เต้ว่าเต้บอกเองน่าจะดีกว่า"
"เอา งั้นก็ได้ครับ, นอนเถอะ" พูดจบแกรั้งผมเข้าไปกอด ลูบศีรษะผมเล่นไปมาและในที่สุดแกก็หลับไป ปล่อยให้ผมใช้ความคิดว่าจะบอกยังไงดี จนในที่สุดผมก็ตกลงกับตัวเองได้ว่า ไม่บอกเห็นจะดีกว่า ทำไมนะเหรอ คงเพราะผมก็ยังชอบออฟอยู่ไม่อยากจะเสียเขาไป ทั้งที่เพิ่งคบกันได้ไม่นานแบบนี้ ตราบใดที่ผมจะเก็บความลับไว้ได้นานเท่าใด ตราบนั้นผมก็จะปล่อยเหตุการณ์ให้ดำเนินไปตามปรกติของมัน ให้ผมเลือกตอนนี้ไม่ได้หรอกว่าจะอยู่กับใครพี่โต้งหรืออ๊อฟ ในที่สุดผมก็หลับ
ตามพี่โต้งไป...

14.23 นาฬิกา เวลาจากเรือนนาฬิกาที่แขวนอยู่ติดผนังห้องบอกเวลาเมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมา ด้วยการปลุกของพี่โต้งแกจูบลงที่หน้าผากผมแล้วบอกให้ไปอาบน้ำกัน ผมบอกให้แกไปอาบก่อนแล้วผมจะอาบทีหลัง แต่แกไม่ยอมบอกให้ไปอาบพร้อมกัน ผมขัดขืนแต่ก็ไร้ผลเมื่อแกชอนอุ้มกายผมที่เปลือยเปล่าขึ้นตรงดิ่งเข้าไปใน ห้องน้ำ แล้วค่อยๆ วางผมลงยืน แกเปิดฝักบัวปล่อยน้ำออกมาอาบกายเราทั้งสองคน น้ำเย็นๆ ไหลอาบกายลงไปถึงร่องตูดผม มันรู้สึกแสบๆ เมื่อโดนน้ำ ยิ่งขมิบก็ยิ่งแสบ
"โอ้ย...แสบ" ผมผลั้งปาก
"ครั้งแรกก็แบบนี้ละครับ" แกพูดออกมา
"พี่ โต้งรู้ดีจัง, เหมือน..." ผมไม่อยากจะพูดต่อเลยว่าผมไม่ใช่คนแรกของแก แต่ก็คงจะเช่นนั้นเพราะบทรักอันเร่าร้อนเมื่อคืนนี้ก็คงจะบอกผมได้เป็นอย่าง ดี ว่าแกช่องชำนาญเพียงใด
"พี่สารภาพนะว่าเต้ไม่ใช่คนแรกของพี่โต้ง" นั่นไงละดังที่ผมคาดไว้ไม่ผิด พี่โต้งเอื้อมมือมาตะปบที่ก้นผมแล้วขยำ
"อย่าสิพี่โต้ง...เต้แสบนะ" ผมปัดมือแก
"ต้องให้พี่เอาบ่อยๆ แล้วจะหาย, มา...ว่าแล้วก็เอาตอนนี้เลยละกัน"
"พี่ โต้งก็..." ผมพูดไม่จบแกก็ประกบปากลงมาบดจูบขยี้ปากผมเร่าร้อน หัวใจผมเริ่มเต้นระส่ำ เผยอปากรับสัมผัสนั้น กายผมดังจะหมดเรี่ยวแรงระทวยลงไปตรงนั้นกับบทสวาทที่เร่าร้อน ผมครางในลำคอ สองมือโอบคอแกไว้มั่น ยื้อตัวขึ้นยืนด้วยปลายเท้ารั้งตัวให้แบบชิดกัน พี่โต้งรั้งตัวผมรัดแน่น ก่อนจะเลื่อนไล้ปากลงมาซุกซอนที่ต้นคอไล้ลงไปขบกัดนมผมสุดปรารถนาที่ผมชอบ ยิ่งนัก ผมครางแข่งกับสายน้ำที่สาดซัดออกมาจากฝักบัว แกจับผมหันหลังบอกให้ก้มตัวกางขางออก แล้วแกก็ค่อยๆ ยัดควยที่แข็งใหญ่เข้ามาในรูตูดผม อาว์...เริ่มแล้วปรารถนาที่เฝ้ารอ พี่โต้งสาดซัดบทกามเข้ามาไม่ขาดสาย เสียงครางของผมระงมแข่งกับเสียงน้ำซู่ซ่า เนิ่นนานที่กามสวาทก่อตัวแผดเผาเราภายในห้องน้ำเล็กๆ นั้น ความรุ่มร้อนที่แม้สายน้ำก็ไม่อาจจะดับมันลงได้ ห้องน้ำเล็กๆ บัดนี้ได้กลายเป็นที่เริงสวาทใคร่ของเราสองคน อาว์....ความสุขที่ปรารถนาไม่อยากจะให้จบสิ้นลงแม้แต่วินาทีเดียว...

********************************************


หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จก็ออกจากห้อง พี่โต้งเดินโอบไหล่ผมลงมา ผมรู้สึกอายยิ่งนักเมื่อลงมาเห็นแม่พี่โต้งนั่งมองอยู่ ผมก็แต่ยิ้มเฝื่อนรับเมื่อแม่พี่โต้งยิ้มมา
"หิวจังเลย...แม่มีอะไรกิน ป๊ะ" พี่โต้งพูดกับแม่ เมื่อได้คำตอบว่าไม่มีอะไรเลย ก็ด้วยความที่เมื่อคืนนี้พ่อกับแม่พี่โต้งไปนอนที่บ้านยายกัน ผมยกมือไหว้ลาแม่พี่โต้งก่อนออกไปด้วยกันกับพี่โต้ง ทีแรกนึกว่าพี่โต้งจะพาผมกลับบ้านเสียทีเดียว แต่นี้แกกลับเลี้ยวรถไปทางตัวอำเภอเข้าตลาดไปซื้อของกัน มีอยู่ร้านหนึ่งที่ผมอายสุดๆ คือไปซื้อกางเกงใน แกถามขึ้นมาโดยไม่สนคนขายเลยว่าผมใส่ยี่ห้ออะไร ผมกระตุกกระตักตอบพี่โต้ง มองหน้าคนขายที่ยิ้มให้ผม เมื่อพี่โต้งหยิบขนาดที่ผมใส่อันนี้พี่แกไม่ถามสงสัยจะรู้เมื่อคืนนี้ว่า size ไหน ผมรีบพาพี่โต้งเดินออกมาจากนั้นโดยเร็ว จากนั้นเราก็ไปหาข้าวกินกัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 6 โมงเย็นเกือบจะค่ำ แกอยู่คุยกับพ่อแม่ผมนานจนล่วงเวลาทานข้าวเย็นแกก็อยู่ทานด้วย กว่าแกจะลาพ่อกับแม่ผมกลับไปก็ 3ทุ่มได้ ผมเดินออกมาส่งแกที่หน้าบ้าน มองแกขับรถออกไปจนสุดสายตา แล้วหันตัวจะเดินเข้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดเท้าลงเมื่อมีเสียงเรียกชื่อผมมาด้าน หลัง
"ไงเต้...กลับซะค่ำเลยนะ" เสียงตุ้งเพื่อนผมทักมา ผมแปลกใจทำไมมันมาดึกๆ แต่ก็ดีใจที่เห็นมัน ผมมีเรื่องจะพูดกับมันเยอะแยะเลย และก็อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อวานที่ผมไม่ไปน้ำตกกับมัน
"เอ้า...มาทำไมดึกๆ ตุ้ง"
"ก็มาดูคุณนั่นแหละครับ,มาไม่ได้เหรอไง,งั้นผมกลับก็ได้" มันหันหลังกลับ ผมรีบทักไว้
"น้อยใจไปได้"
"มันน่าน้อยใจมั้ยละ เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน"
"เออ...ผมขอโทษคุณละกัน" ผมแกล้งพูดสำนวนของตุ้ง "คืนนี้มานอนกับกูนะมีเรื่องจะคุยด้วย"
"ทีงี้ละเห็นหัวเลยนะ"
"แล้วจะนอนมั้ยละ" ผมย้ำ
"ก็ ได้,งั้นผมไปบอกพ่อก่อน เอางี้แล้วกันคุณไปกับผมด้วยแล้วกัน" ไม่พูดเปล่าตุ้งฉุดมือผมตามไปขึ้นขี่รถมอ'ไซต์ออกไป ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลยเมื่อกี้หรือมันมานานแล้วแต่ไม่เข้าบ้าน

ผม ขึ้นบ้านเข้าห้องนอนไปพร้อมกับตุ้งหลังจากที่กลับจากบ้านมันแล้ว ผมเปิดไฟในห้องแล้วทิ้งตัวลบบนเตียงแล้วถอนหายใจแรงๆ ทอดยาว เฮ้อ.... ตุ้งเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ ผม มันจ้องมองผมตาไม่กระพริบ จนผมท้วงมันว่าจะมองอะไรนักหนา อยู่ดีๆ มันก็ก้มหน้าลงมาแทบชิดหน้าผม จนผมท้วงว่าจะทำอะไร แต่มันก็บอกให้ผมอยู่เลยๆ มันเอามือเปิดคอเสื้อเชิ้ตผม
(เสื้อพี่โต้ง ซึ่งทั้งกางเกงก็ของพี่แก ส่วนเสื้อผ้าผมทุกชิ้นทิ้งอยู่ในห้องแก) แล้วมันก็อุทานออกมา ทำเสียผมตกใจ
"อะไรตุ้ง" ผมเด้งตัวลุกขึ้น
"ทำ อะไรมาละ,ก็ดูเอาเองสิ" ตุ้งบุ้ยหน้าไปทางกระตกตรงตู้เสื้อผ้า ผมรีบลุกเดินไปดูผลี่คอเสื้อเปิดดูก็เห็นรอยจ้ำๆ สีคล้ำ มันทำให้ผมตกใจ ผมคิงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตายแล้วสิ บทรักสวาทพี่โต้งมันติดตัวผมมาด้วย ผมรีบแกะกระดุมเสื้อออกเปิดอกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรอยจ้ำๆ อีกหลายที่แถบหัวนมทั้งสองข้าง ผมเดินมาทางตุ้งนั่งลงข้างๆ แล้วบอกให้ดู
"จะทำไงดีละ,เพื่อนที่โรงเรียนเห็นคงล้อแน่เลย"
"ก็ทำตัวเอง" มันตอกย้ำการกระทำของผมด้วยคำพูดเนิบๆ
"ไอ้บ้า ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือไง" ผมค้อนมันแล้วพูดต่อ
"ที่อกไม่เท่าไรหรอกเสื้อนักเรียนมันปิดแต่ที่คอนี่สิ, ทำไงดีวะตุ้งช่วยกูหน่อยสิ กูไม่อยากให้ใครเห็นโดยเฉพาะ..." ผมหยุดไม่กล่าวต่อ
"พ่อกับแม่คุณนะเหรอ"
"ก็ใช่แต่อีกคนนะ..., อ๊อฟนะ" ผมตอบเสียงแผ่วเบา
"ห๊าาา" ตุ้งอุทาน เบิกตาทำหนาตกใจ งวยงง สงสัยมันคิดว่ารอยรักนี่เป็นของอ๊อฟที่ฝากไว้ให้ผม แต่มันใช่ซะที่ไหนละ
"ทำไมคุณต้องกลัว, ก็คุณกับมัน..." มันไม่พูดคำต่อไปสงสัยจะระคายปาก
"ก็ นี่แหละที่กูให้คุณมานอนด้วย, กูจะเล่าให้คุณฟัง" แล้วผมก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้มันฟัง ผมสังเกตดูสีหน้ามันที่ทำหน้าเหลือเชื่อ คงไม่คาดคิดว่าผมจะง่ายเสียขนาดนี้ ให้ตายสิ...จะทำได้ไงละก็พี่โต้งมีเสน่ห์ออกขนาดนั้น
"กูคิดว่าจะยังไม่บอกอ๊อฟหรอก, ก็ยังชอบเขาอยู่นะถึงจะมีอะไรกับพี่โต้งแล้วก็เถอะ"
"แล้วคุณชอบพี่โต้งมั้ย?"
"ชอบสิ" ผมตอบฉับพลัน
"เออ..งั้นแล้วแต่คุณจะทำยังไง" มันสรุปจบ แล้วเอนตัวลงบนเตียงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
"อือ...เรื่องนั้นไว้ก่อนแต่เรื่องรอยที่คอกูนี่สิจะทำไง"
"เออๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปซื้อพาสเตอร์แก้ปวดมาให้ คุณก็ทำเป็นติดที่ขมับอันทำเป็นปวดหัว
อีกอันก็ปิดคอกลับรอยก็เสร็จแล้ว"
"เออ...ความคิดดี, ขอบใจคุณวะตุ้ง"
"ช่าง มันเถอะ, ตอนนี้นอนเถอะกูง่วง" มันตัดบทแล้วดันตัวขึ้นไปให้หัวถึงหมอนแล้วหลับตาลงสนิท ผมลุกไปปิดไฟ ด้วยความโล่งใจที่มีวิธีแก้ปัญหา แล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ตุ้ง ผมนอนคิดถึงพี่โต้งกระวนกระวาย ยิ่งคิดก็ยิ่งรุ่มร้อนใจคิดถึงบทสวาทที่แกมอบให้ ไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ดิ้นกระสับกระส่วยไปมา มองดูตุ้งก็หลับนิ่งไปนานแล้วผมจึงพยายามข่มตาหลับเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว ในขณะที่ผมกำลังเคลิ้มหลับนั้นตุ้งอยู่ดีๆ ก็พาดมือมากอดผม ผมมองไปทางมัน แสงจันทร์ที่ลอดผ่านมาทางหน้าต่างกระทบตรงหน้าตุ้งลางๆ ทำให้ผมเห็นว่ามีน้ำไหลลื่นออกจากดวงตามัน
สองข้าง แล้วมันก็กอดผมแน่นขึ้นๆ จนผมตกใจ ผมเรียกชื่อตุ้งเบาๆ เพื่อให้รู้สึกตัวแต่ก็ไม่มีผลอะไร จนต้องเขย่าตัวมันแรงๆ พลางตบไปที่ต้นแขนมัน
"ตุ้ง...ตื่นๆ เป็นอะไรไป" ตุ้งดึงมือจากตัวผมกลับไปรวดเร็ว แล้วลุกขึ้น นั่งเอามือปาดน้ำตาทิ้งไป
"ร้องไห้ทำไมตุ้ง, เป็นอะไรเปลา" ผมถามด้วยความห่วงใยเพื่อน ค่อย ๆ กลับสติให้ใจสงบจากอาการตกใจเมื่อกี้
"ฝันร้ายนะ" ตุ้งเอ่ยออกมา
"ฝันอะไรจนต้องร้องไห้, กูกลัวเลยเมื่อกี้ตกใจหมด"
"อือไม่มีอะไรหรอก, ฝันว่ามีคนมาแย่งเอาของรักไปนะ"
"สงสัยของสิ่งนี้จะรักมากละสิถึงได้ร้องให้ออกมาด้วย"
"ก็คงงั้น" ตุ้งตอบสั้นๆ
"เล่า ให้ฟังหน่อยสิ" ผมรบเร้าให้ตุ้งเล่าความฝันให้ฟัง ทั้งที่จริงก็อยากรู้นั่นแหละว่าของรักนะคืออะไร แต่ตุ้งก็ปฏิเสธบอกให้นอนต่อ ตุ้งเอนตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้ผม ค่อยถามพรุ่งนี้ก็ได้ ผมคิดแล้วจึงหลับตานอนตามไปอีกคน...

เวลาล่วง มาสองปี ผมขึ้น ม. 2 ตอนนี้ก็ช่วงเทอม 2 ฤดูหนาวของเดือนตุลาคม ช่วงพักเที่ยงของวันฟฤหัสฯ ผมนั่งเล่นคุยกันอยู่กับอ๊อฟกลับตุ้งต่างๆ นาๆ ส่วนมากผมกับอ๊อฟจะคุยกันมากกว่า ส่วนตุ้งจะนั่งฟังมากกว่า บ่อยครั้งที่ตุ้งจะเดินหนีออกไป แต่ผมก็อ้อนวอนด้วยสายตาให้ตุ้งอยู่ด้วยไม่รู้สิผมไม่อยากให้ตุ้งไปไหน อยากให้อยู่เป็นเพื่อนผมตรงนี้มากกว่า ผมไม่เคยคิดว่าจะเป็นกอ ขอ คอ อะไร เหมือนคู่รักอื่นๆ เขา ผมอยากให้ตุ้งอยู่กับผมรับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับผม ช่วงหลังๆ มานี่ตุ้งจะเงียบๆ ถึงจะอยู่กับผมสองคนก็ไม่ค่อยคุยเหมือนดังเก่า ผมถามว่าเป็นอะไรมั้ย
ก็ ปฏิเสธไม่เป็นอะไร สักพักพี่โต้งก็เดินมานั่งสมทบ ซึ่งจากคืนนั้นมาเวลาอยู่ที่โรงเรียนแกก็จะหาเวลามาคุยกับผมบ่อยๆ หรือช่วงไหนคาบเรียนอิสระของผม พี่แกก็จะโดดเรียนคาบของแกหลบเข้าห้องสมุดไปนั่งคุยกับผม วันนี้แกใส่ชุด รด. รัดกายแน่นเผยให้เห็นอกกำยำ ต้นขาที่รัดแน่นชวนให้หลงไหล ดูมีเสน่ห์ยิ่งนัก ส่วนพวกผม อ๊อฟ และตุ้งก็อยู่ในชุดลูกเสือ ซึ่งผมรู้สึกอึดอัดเหลือเกินกับชุดนี้ ให้ตายสิไม่ชอบใส่เลย แกกลบเกลื่อนความจริงระหว่างผมกับแกได้เนียนมาก อ๊อฟไม่รู้สึกเอ่ะใจอะไรเลย มีแต่ตุ้งเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เรานั่งคุยกันจนเสียงออดดังเป็นสัญญาณขึ้นเรียน จึงต่างแยกย้ายกันไป ผมรอเวลานึดนึงให้อ๊อฟเดินขึ้นไปก่อน แน่ละตุ้งเป็นคนพาเขาไป ด้วยความที่รู้ว่าผมต้องมีอะไรคุยกับพี่โต้งต่อ
"เต้...วันนี้พี่โต้งไปส่งที่บ้านนะครับ"
"ครับ... ผมรอหน้าโรงเรียนประตูทางเข้านะ" ผมตอบรับแล้วบอกสถานที่รอ พี่โต้งขับรถไปส่งผมบ่อยๆ หลังจากคืนนั้นมาส่วนอ๊อฟนะเหรอ หลังจากวันที่พี่โต้งพูดดักไว้ว่าโดนแม่ด่าเรื่องพาผมไปเมา ก็ไม่กล้าไปส่งผมที่บ้านอีกเลย ช่างเป็นแผนที่แยบยลเสียจริง บางทีพี่โต้งก็จะถือโอกาสนอนที่บ้านผมด้วยบางครั้งที่มาส่งผม ซึ่งแม่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร จนพี่โต้งสนิทกับพ่อกับแม่ผมแล้ว เหตุที่ค้างนั่นนะเหรอ หึๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องรักบทสวาทใคร่ที่พี่แกต้องการไม่ต่างจากผม เรื่องของผม
กับ พี่โต้งผมไม่รู้ว่าแม่กับพ่อผมรู้หรือเปล่า แต่เวลาที่แกมาที่บ้านผม พ่อกับแม่ผมชอบพูดเสมอว่า อย่าทิ้งน้องนะ รักกันนานๆผมก็แปลกใจว่าทำไมถึงพูดเช่นนั้น พี่โต้งก็ตอบรับให้คำมั่นสัญญาเป็นอย่างดี ผมมารู้ทีหลังว่า แม่ผมมาเห็นผมกับพี่โต้งกำลังระเริงรักกันอยู่ (ลืมล็อกประตูห้องนอน) ตอนแรกแม่แกเสียใจร้องให้ จนไปปรึกษากับพ่อเรื่องของผม โชคช่างเข้าข้างผมเสียจริงเมื่อผู้เป็นหัวเรือใหญ่อย่างพ่อผมรับสภาพนี้ได้ แต่แกก็ทำใจอยู่นานเหมือนกัน...

ผมยืนรอพี่โต้งที่หน้าประตูโรงเรียน ด้านเข้า รถวิ่งมาจอดตรงหน้าผม แต่รถคันนี้เป็นของตุ้ง มันบอกให้ผมขึ้นรถ แต่ผมก็ปฏิเสธไป บอกว่าพี่โต้งจะไปส่ง แต่ตุ้งก็ขอร้องอ้อนวอนให้ผมไปด้วยให้ได้
"เออ...ก็ได้, งั้นรอบอกพี่โต้งก่อนแล้วกัน" ผมตอบรับแต่ก็ยังยืนรอพี่โต้งต่อไป ตุ้งเลี้ยวรถกลับเข้าไปในโรงเรียนสักพักก็กลับออกมาแล้วบอกผมว่า พี่โต้งรู้แล้ว ผมจึงยินยอมขึ้นรถไปกับตุ้ง ตุ้งออกตัวรถแรงมากและขับไปเร็วเหมือนคลั่งอะไรมา จนผมต้องเอามือกอดเอวตุ้งไว้ รถมาจอดที่หน้าบ้านผม ผมลงจากรถแล้วตะคอกใส่หน้าตุ้งด้วยความโกรธ
"เป็นบ้าอะไรวะขับรถอย่างนี้ " แล้วเดินเข้าบ้านไปตุ้งเดินตามผมมาเข้าไปในห้องนอน ตุ้งปิดล็อกลูกบิดประตู แล้วยืนพิงประตูผมโยนกระเป๋าไปบนเตียงนอน แล้วปล่อยตัวเองตามลงไป รู้สึกหงุดหงิด และโกรธตุ้งด้วยที่ทำอย่างนี้ ผมพลิกตัวนอนหงายหน้าขึ้นมองดูตุ้งที่ยืนพิงประตูอย่างด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
"มีอะไรก็พูดมาสิ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ผมขอโทษที่ทำให้โกรธ, แต่ผมอยากจะคุยกับคุณให้รู้เรื่องวันนี้เลย, ผมอึดอัดมานานแล้ว"
"ก็ ว่ามาสิ" ตุ้งนิ่งอยู่นานก่อนจะเดินมาแล้วโน้มตัวลงมาทับตัวผม สองมือตุ้งกดทับข้อมือผมไว้ทั้งสองข้าง ตุ้งมองตาผมอยู่นานแล้วก้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ จนลมหายใจอุ่นๆของตุ้งสัมผัสเข้าที่หน้าผม ตุ้งประกบปากลงมาจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากผมแล้วเงยหน้าขึ้นมองตาผม ตุ้งเห็นผมนิ่งไม่ขัดขืนจึงก้มลงจูบอีกครั้ง คราวนี้เนิ่นนานหนักหน่วง ใจผมเต้นเร่าๆ เผยอปากรับสัมผัสนั้นอย่างไม่อิดเอียน แปลกเหลือเกินทำไมผมไม่ขัดขืนการกระทำของตุ้งเลย ใจผมมันกลับยินยอมให้ตุ้งกระทำได้ชอบใจ ตุ้งตวัดลิ้นแยงเข้ามาในปาก ผมดูดซับไออุ่นนั้น
"ตุ้งรักเต้นะ...รักมานานแล้ว" ตุ้งกระซิบแผ่วที่ข้างหูผม ก่อนระเรงจูบซุกไซ้ไปตามลำคอผม มือเขาค่อยๆ ปลดกระตุมเสื้อลูกเสือผมออกแล้วลากจูบลงไปพรมบนหัวนมผม อาว์...ช่างดีเหลือเกิน ผมแอ่นอกขึ้นสนองรับสัมผัสจูบนั้น ตุ้งลากลิ้นวนเวียนตรงปลายหัวถันแล้วเลื่อนต่ำลงไปจูบสัมผัสตรงสะดือผม มือเขาแกะเข็มขัดออกแล้วรั้งกางเกงผมออกไปจากกายผม เขาเลื่อนปากต่ำลงไปใช้ลิ้นระเริงเล่นตรงดงหมอยจนมันเปียกชุ่มแล้วลากต่ำไป ดูดอมรวงไข่ มือรูดควยผมจนมันแข็งตัวตื่นเต็มที่ อาว์...แบบนั้น
ละตุ้ง...ผมยกขากางออกเมื่อตุ้งลากลิ้นแยงตวัดตรงรูก้นผม
"อืม...." ผมคราง ตุ้งตวัดลิ้นวนเลียร่องตูดผม สูดดมเสียงดัง ยิ่งทำให้ใจผมเร่าร้อนกระสันอยากเป็นทวี ตุ้งปลดเข็มขัดแล้วดึงกางเกงตัวเองลงกองที่พื้น แล้วจับควยตัวเองมาจ่อที่รูตูดผมแล้วค่อยๆ ยัดเข้าไป ช้าๆ ช้าๆ จนสุดโคน เสียงครางของตุ้งที่เล็ดลอดออกจากปากที่ขบเม้ม ผมพยายามขยับก้นบอกให้รู้ว่า ทำสักทีเถอะ ต้องการมากแล้ว ตุ้งค่อยๆ เริ่มจังหวะกระเด้าเหมือนพึ่งฝึกงานแล้วค่อยๆ เข้าที่รู้จังหวะ ตุ้งกระเด้าสอยเข้ามาถี่ๆ ร้องเสียงครางดังกว่าผมเสียอีก ตุ้งก้มตัวลงมาจูบผมบั้นท้ายก็ส่งแรงกระเด้าปับๆ เข้ามาตลอด ผมครางอือๆ ออกจากปากที่ประกบแลกลิ้นกันพัลวันนั้น สองมือโอบกอดแผ่นหลังตุ้งไว้มั่นแล้วเลื่อนมันไปขยำก้นตุ้งบีบแน่นตามจังหวะ กระเด้านั้น ตุ้งเลื่อนปากลงมาขบกัดที่หัวผมดูดด่ำ ตวัดลิ้นวนเลียรอบถันนั้น เขากระเด้าถี่ขึ้นปับๆ เร็วขึ้น ก่อนที่ควยเขาจะกระตุกฉีดน้ำเข้าไปในรูตูดผม เขากัดหัวนมผมแน่นจนผมรู้สึกเจ็บ ต้องแผ่นอกขึ้นรับสนองสัมผัสนั้น ผมรูดควยตัวเองตามสักพักน้ำควยผมก็ฉีดพุ่งเปรอะตามเสื้อลูกเสียสีกากีเข้ม ของตุ้งนั้น
ตุ้งครางซีส ๆ หอบหายใจแรงๆ แล้วฟุบหน้าลงบนอกผม รำพันว่ารักผม รักเต้ รักมาตลอด ... ผมรู้สึกว่าอกผมเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของตุ้ง เขาร้องไห้ หรือนี่ เมื่อไฟกามดับมอดลง ทุกอย่างกลับคืนสู่ปรกติสภาพ ผมจับตุ้งพลิกออกจากตัวผมให้นอนข้างๆ
"เต้...ตุ้งรักเต้นะ เราทนมานานกับความเจ็บปวดเมื่อเห็นตุ้งอยู่กับคนอื่น มันเจ็บมาก เจ็บที่ใจ
จนตุ้งไม่อาจจะทนได้อีกต่อไปแล้ว ตุ้งขอโทษนะที่ทำกับเต้แบบนี้ แต่ตุ้งห้ามใจตัวเองไม่ไหว
มัน อัดอั้นมานาน, เต้...ตุ้งรักเต้นะ รักมากด้วย จนไม่อยากจะเสียเต้ไปให้ใคร" ตุ้งพูดยาวเหยียดบรรยายความรู้สึกตัวเองที่มีต่อผม เขาร้องไห้ไม่หยุด เอื้อมมือมากอดผมแล้วซุกหน้าร้องไห้
"เต้รักเราได้ไหม?"
"ตุ้ง...เราเป็นเพื่อนกันนะ" ในที่สุดผมก็พูดออกมาหลังปล่อยให้ตุ้งพูดอยู่นาน
"แต่ตุ้งไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว, ตุ้งรักเต้มากกว่าเพื่อนนะ รักแบบคนรัก"
"เราเป็นแบบนั้นกันไม่ได้หรอก"
"แล้ว เมื่อกี้เต้ทำไมยอมให้ตุ้งเอาละหรือก็แค่แก้ความอยาก..." ผมไม่รอให้ตุ้งพูดพบ ผมดีดตัวขึ้นนั่ง มองตุ้งด้วยความโกรธ ทำไมถึงพูดอย่างนี้นะ แก้อยาก งั้นหรือ
"ใช่, ก็แค่ก็อยาก, กลับไปเลยนะไม่ต้องมาคบกันอีก อย่ามาเรียกเราว่าเพื่อนอีก" ผมพลั้งปากพูดด้วยความโกรธ
"เต้..."
"ไปสิ...ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก ทำเป็นไม่รู้จักกันเลยยิ่งดี"
"ตุ้งขอโทษ" ตุ้งเอ่ยเสียงสลด
"ไม่ ต้องมาขอโทษ, เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกแล้ว นับแต่นี้ไปเราไม่รู้จักกัน" ตุ้งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาไม่หยุด ตุ้งโผเข้าสวมกอดผมแน่นซบหน้าที่เอ่อด้วยน้ำตาลงบนอกผม พร่ำพูดขอโทษที่พูดแบบนั้น ผมพลักไสตุ้งออกจากตัวไล่เขาให้ไปด้วยอารมณ์ที่โกรธ
"ไปนะ ไปเลย" ผมพูดทั้งร้องไห้พลางพลักไสเขาให้พ้นตัว
"เต้...เราขอโทษ, ให้อภัยเรานะ"
"ไม่ ! อภัยอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น ออกไป...คุณไม่ใช่เพื่อนผม เราไม่รู้จักกันอีกแล้ว" ตุ้งคลายกอดจากผม มองผมทั้งน้ำตา ดวงหน้าเขายิ่งเศร้าลงไปอีก เขาครางแผ่วเบาออกมา
"คุณ..." ก่อนจะกลืนน้ำตาลงคอ ตุ้งค่อยเหยียดกายลงจากเตียง เขาก้มเก็บกางเกงแล้วสวมมันเข้า ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไป
"ถ้าเต้...ไม่สิ..." เขาหยุดกลืนก้อนสะอื้นลงคงแล้วพูดต่อ
"ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น...ผมก็จะไม่มายุ่งกับคุณอีก" ตุ้งเน้นคำว่า "ผม" และ "คุณ" ชัดเจน
"เรื่อง วันนี้ผมขอโทษแล้วกัน, แล้วมันจะไม่เกิดขึ้นอีก...ลาก่อน...." ตุ้งเปิดประตูจากไป เหลือแต่ผมที่อยู่ในห้องเงียบงันนี้คนเดียวต่อไป ตุ้งจากไปแล้ว น้ำตาผมปรี่ออกมาเหมือนเขื่อนแตก ล้มตัวลงนอนร้องไห้ซุกหมอนปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างบ้าคลั่ง สมองมืดมนสับสน มันมืดไปเสียทุกอย่าง ยิ่งคิดยิ่งปวดมันปวดเจ็บไปถึงหัวใจ
บ้าเอ้ย !! ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้
ทำไม ทำไม ?
ลาก่อน อย่างนั้นหรือ...
ช่างเขาสิ จะไปก็ไป เชิญเลย ไม่มีนายฉันก็อยู่ได้...
อย่างนั้นหรือ...จะอยู่ได้จริงหรือ...
ความคิดผมสับสนไปหมด ความโกรธความเสียใจมันปะทุเข้ามาบีบอัดหัวใจให้เจ็บปวด ผมพยายามกลั้นร้องไห้...แต่ยิ่งห้าม
น้ำตา ก็ยิ่งไหลทะลักออกมา ทำไม ? มันต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยนะ ทำไม ? ผมปล่อยตัวเองนอนร้องไห้ปล่อยใจให้จมไปกับความเจ็บปวดผิดหวังเนิ่นนาน แล้วพล่อยหลับไปในที่สุด...

********************************************

ความลับ...ไม่มีในโลก
ตั้งแต่ วันนั้นมาตุ้งไม่เคยมาหาผมที่บ้าน ไม่มาเรียกเมื่อจะไปโรงเรียนหรือไปไหน ไม่มาคุยกัน ไม่มาเดินข้างๆทุกอย่างดูเปลี่ยนไปหมดเวลาที่ไม่มีเขาอยู่ข้างๆ กาย ชีวิตมันเหมือนขาดอะไร มีปัญหาก็ไม่รู้จะหันหน้าเข้าหาใคร บางครั้งก็รู้สึกเหงาๆ ไม่คุ้ยเหลือเกินกับการที่เป็นเช่นนี้ อยากให้ตุ้งกลับมาเหลือเกิน...แต่ด้วยทิฏฐิไงละ ที่เป็นตัวนำทางมันบังคับให้เราหยิ่งผยอง แม้ผมจะรู้ว่าตุ้งก็อยากจะกลับมาหาผมเช่นกัน สายตาที่เขามองมามันอ้อนวอน อยากจะขอโทษ อยากจะเริ่มต้นใหม่ แต่ดูเหมือนเขาก็ยับยั้งใจตัวเองไว้เช่นกัน คงจะทิฏฐิอีกสินะที่ทำให้คนเราไม่ยอมทำตามใจตัวเอง...

สองสัปดาห์ ล่วงเลยถึงเวลาที่นักเรียนมัธยมต้นทุกระดับชั้นต้องทำภาระกิจลูกเสือเนตร นารี เป็นเวลาที่นักเรียนทุกคนต้องมาค้างแรมที่โรงเรียน ด้วยการกางเต้นท์ขึงรอบๆ สนามฟุตบอลที่ตรงกลางสนามได้ก่อกองฝืนไว้กองใหญ่ เพื่อจะจุดมันแทนไฟฟ้าเมื่อยามค่ำคืน วันแรกของกิจกรรม ลูกเสือเนตรนารีทุกคนต่างมาชุมนุมกันพร้อมหน้าที่สนามฟุตบอลในช่วงเช้าตรู่ 6 นาฬิกา มีพี่ แยกตั้งแถวกันตามกลุ่ม ในกลุ่มผมนั้นมีด้วยกัน 8 คน ก็มีผม ตุ้ง อ๊อฟ ดี้ โม ด้วง เตื๋อย และออยที่เป็นเพื่อนร่วมห้องเพียงคนเดียวของผม ทุกคนก็สนิทกันดีในระดับหนึ่ง สามารถคุยล้อหนักๆ กันได้ ผมมาต่อแถวหลังสุดเพื่อนเนื่องจากเป็นรองหัวหน้ากลุ่ม ในกลุ่มผมมีอ๊อฟเป็นหัวหน้า เขาจึงอยู่หน้าแถว ผมดูเพื่อนๆ ในกลุ่มดูเหมือน
จะ ขาดไปคนหนึ่ง แล้วใครละ "ตุ้ง" นั่นเอง ทำไมยังไม่มานะ ผมแลซ้ายมองขวากระวนกระวายใจ ถ้าตุ้งไม่มาคงต้องไม่ผ่านลูกเสือเป็นแน่ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นที่มาไม่ได้ สักพักผมมองเห็นตุ้งวิ่งสพายกระเป๋ามา ผมยิ้มออกมาโล่งอก เขาวิ่งมาถึงแถวหยุดพักเหนื่อย แล้วตุ้งก็แทรกตัวเข้าแถว มันควรจะเป็นที่ใกล้ผมสิ ทำไมเขาเลือกที่จะไปอยู่ต้นแถวละ ผมรู้สึกน้อยใจขึ้นมา ช่างเขาปะไร จะอยู่ตรงไหนก็เรื่องของเขาแล้วหนิ ไม่เห็นเกี่ยวกับเราซะหน่อย จะสนใจทำไม ผมยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา
เข้าไปใหญ่บางทีอาจจะขัดใจเลยก็เป็นได้ เมื่อนักเรียนหญิงกลุ่มนึง 4 คน เดินถือถุงขนมถุงใหญ่มา พวกเขาเป็นรุ่นพี่ ม.3มาหยุดอยู่ที่หน้าแถวสนทนาอยู่กับตุ้ง
"ตุ้งเราเอาขนมมาให้, เอาไว้กินตอนเดินทาง"
"โห...ขอบคุณครับ เยอะเลยให้หมดเลยเหรอ?" ตุ้งถามพลางรับถุงขนมมา ก่อนจะเปิดกระเป๋าใส่ถุงขนมเข้าไป
"อือ...ให้หมดเลย"
"อยากได้ไรเปล่าหนิ เอาขนมมาให้" เขาปิดซิบกระเป๋าแล้วสะพายกลับหลังตามเดิม
"ได้ก็ดีสิ"
"หือ...อะไรละ"
"ก็ หัวใจตุ้งไง" เพื่อนๆในกลุ่มฮิ้วขึ้นเมื่อนักเรียนหญิงคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น ชิ...หัวใจ อยากได้หัวใจ ผมตั้งใจฟังคำตอบตุ้งเขาจะว่าไง
"โอ้ย...ให้ทั้งตัวเลยยัง งี้" แล้วเขาก็หัวเราะออกมา เพื่อนๆ ในกลุ่มก็ยิ่งแซวกันเสียงใดสนุกสนาน ให้ทั้งตัวงั้นเหรอ ช่างกล้าพูด ไม่อาย ก็ให้ไปซะสิ ให้ตอนนี้เลยยิ่งดี ผมฝืนทนฟังพวกเขาคุยกันได้สักพัก ก็อดรนทนไม่ไหวหาวิธีให้พวกนักเรียนหญิงกลุ่มนี้กลับไปเข้าแถวตัวเองซะที และในที่สุดตัวช่วยผมก็มา
"พี่ๆ ครับ อาจารย์คุมมาแล้ว ไปเข้าแถวสิครับ" ผมพูดเสียงดังแทบจะเป็นตะโกนอยู่แล้ว เนตรนารีมองซ้ายแลขวารอบๆตัว แล้วพวกก็ร่ำลาเดินจากไป เออ..ไปซะได้ก็ดี เบื่อนานแล้วคุยกันอยู่ได้ ไร้สาระ ผมรำพันเบ้ปากเล็กน้อย

อาจารย์ ควบคุมท่านหนึ่งเดินขึ้นเวทีชักธงชาติแล้วพูดสิ่งต่างๆ ที่พวกลูกเสือเนตรนารีที่จะปฏิบัติต่อจากนี้ไปแกก็พูดไปเรื่อยๆ หลายเรื่อง และบอกว่าแต่ละกลุ่มจะมี พี่ รด. มาดูแลกลุ่มละ 1 คน ขอให้เชื่อฟังพี่ รด. ด้วยเขาบอกอะไร พูดอะไรต้องเชื่อ สุดท้ายขอให้เดินทางกันด้วยความแข็งขันอดทน และสนุกไปกับมัน แล้วแกก็เดินจากไปเมื่อพูดเสร็จ
"เอ้ยกลุ่มเรานี่ใครวะจะมาคุม" ด้วงเพื่อนในกลุ่มพูดขึ้น
"พี่ กูเอง" อ๊อฟตอบแล้วเพื่อนๆ ในกลุ่มก็พากันดีใจที่เจอคนใกล้ตัว หือ..พี่โต้งเหรอ ? ผมครางในใจ ทำไมไม่เห็นบอกกันเลยนะ เมื่อคืนก็มานอนที่บ้านเรา กะจะให้ประหลาดใจเล่นสิท่า...

ไม่นานนัก เมื่อ รด. เข้าประจำกลุ่มที่ได้รับมอบหมายหรือมอบหมายให้ตัวเองก็ไม่รู้ แล้วพี่ๆ รด. ก็นำพาแต่ละกลุ่มออกเดินทาง ออกประตูทั้ง 4 ด้านของโรงเรียน กลุ่มพวกผมเดินออกจากโรงเรียนทางประตูด้านหลังโรงเรียนออกไปสู่ถนนลูกรัง แล้วลัดเลาะลงข้างทางที่มีถนนเล็กๆ เข้าไป ไม่สิคงไม่ใช่ถนน อาจจะเป็นแค่ทางที่เดินเหยียบย่ำบ่อยๆจนทำให้หญ้าแถวนั้นเรียบเตียนลง ระหว่างเดินทางก็มีภาระกิจประจำซุ้มต่างๆ ที่อาจารย์ไปตั้งรอท่าไว้แล้ว พี่โต้งเดินนำหน้าพวกเรา คุยกันครื้นเครง ไม่ค่อยทำตามกฏลูกเสือเท่าไรที่ต้องเสียงเบา เมื่อเดินป่า สายตาสอดส่องระวังภัย
หรือไม่ก็สอดส่องหาแผ่นผ้าหรือป้ายที่จะบอกทางไป ซุ้มกิจกรรม ซักพักพี่โต้งก็ปล่อยให้อ๊อฟเดินนำหน้าไป แกค่อยๆถอยร่นลงมาเดินเคียงข้างผม เดินคุยกันไปตลอดทาง ระยะทางผ่านไปได้สัก 5 กิโล ผมทำหน้าอิดโรยกับกระเป๋าหนักที่สะพายอยู่ด้านหลัง จะบ้าตายจะให้แบกมาทำไมก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องวกกลับไปที่โรงเรียนอยู่ดี
"หนักจะตายอยู่แล้ว ไม่รู้จะให้แบกมาทำไมกระเป๋าเนี่ย" ผมบ่น
"เออวะ...กูก็ว่างั้นละ" เตื๋อยเสริม
"เอ้า..อย่าบ่นเลยยังไงก็แบกมาแล้ว จงเดินต่อไป, พี่ยังไม่บ่นเลย" ชิ...บ่นบ้าไรละ ตัวเองไม่ได้แบกอะไรมาซักอย่าง
"หือ..พี่ก็พูดได้สิ, เดินตัวปลิวเลยหนิ" ผมค้าน
"ใครว่าตัวปลิวละ, เนี่ยรองเท้าก็หนัก เสื้อกับกางเกงเนี่ยก็รัดซะเหลือเกินอึดอัดจะตายแล้ว"
"เออ...ช่างเถอะไม่อยากคุยแล้ว" ผมหน้าบุ้ยเดินต่อท้ายแถวเรื่อยไป
"มาๆ เดี๋ยวแบกให้จะหนักแค่ไหนเชียว"
"แน่ใจนะ"
"เอาไปแล้วอย่าส่งคืนนะ จนกว่าจะถึงโรงเรียน" ผมไม่พูดเปล่ายื่นปลดกระเป๋าลงยื่นให้แก ส่วนตัวเองก็เดินถือไม้ง่ามต่อไปอย่างโล่งสบาย
"เอ้ยพี่โต้ง, เอาของผมไปด้วยสิ" โมแทรกขึ้นมา
"ช่วย ได้คนเดียววะ, อย่ากินแรงสิ, อาจารย์ส่งพี่มาคุมนะไม่ได้ส่งมารับใช้" แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นออดๆ จากเพื่อนในกลุ่มในเชิงแหย่กันเล่นๆ มากกว่าที่เห็นผมเดินตัวปลิวอยู่คนเดียว ในระหว่างทางที่ผ่านเราก็เจอกับด่านภาระกิจต่างๆบางครั้งก็เดินทันเพื่อนๆ กลุ่มอื่นที่เดินมาก่อน และก็หยุดนั่งกินข้าวเที่ยงจากห่อข้าวที่นำมาด้วย

16.45 นาฬิกาโดยประมาณในที่สุดเราก็มาอยู่ที่โรงเรียนอีกครั้ง พากันเปลี่ยนจากชุดลูกเสือมาเป็นชุดลำลองช่วยกันกางเต้นท์ แต่ดูเหมือนผมจะโดนเพื่อนใช้ให้ไปหยิบนั่นหยิบนี่มาให้ซะบ่อย น้ำบ้างละ อะไรบ้างละสารพัดที่จะสั่งโทษฐานที่เดินสบายปล่อยภาระหนักให้พี่โต้งมาตลอด ทางกว่า 30 กิโล ไม่นานนักกลุ่มเราก็กางเต้นท์เสร็จ โดยกลุ่มเรามีเต้นท์ 2 เต้นท์ โดยแบ่งกันอยู่เต็นท์ละ 4 คน ส่วนพี่ รด. ที่ควบคุมในแต่ละกลุ่มนั้นพักอยู่ที่ตึกเรียนหลังแรก แต่บางคน
ก็เลือก ที่จะมานอนกับลูกเสือมากกว่า สำหรับพี่ รด. ที่ได้คุมกลุ่มหญิงบางคนก็ไปนอนบนอาคารเรียนบางคนก็ไปนอนปนกับลูกเสือกลุ่ม อื่นที่สนิทกัน ทุกคนต้องอยู่ด้วยกันที่นี่ 2 คืน 3 วัน...

ในวันที่ 2 หลังจากทำกิจกรรมผจญภัยตามซุ้มต่างๆ ที่ตั้งไว้ทั่วโรงเรียน เวลา 17.00 น. ลูกเสือเนตรนารีทุกคนก็ต่างพากันแยกไปอาบน้ำชำระตัว บางพวกก็อยู่เต้นท์หุงข้าว ทำอาหารรอเวลามาผลัดพวกที่ไปอาบน้ำมาเปลื่ยนเพื่อจะได้
ไปอาบบ้าง และผมก็อยู่ในกลุ่มหลังรวมกระทั่งอ๊อฟด้วย นอกนั้นก็พากันไปอาบน้ำ เวลา 21.30 นาทีมีกิจกรรมรอบกองไฟเป็นเวลานัดหมายอีกครา
"เต้, เรามีเรื่องจะคุยด้วย" อ๊อฟพูดขึ้นเมื่ออยู่กันสองต่อสอง
"พูดมาสิ"
"ไม่ใช่ตอนนี้, กินข้าวเสร็จไปเจอเราที่ห้องพยาบาลอาคารสองนะ"
"ทำไมละ, คุยตอนนี้ไม่ได้เหรอ?"
"เอา เถอะแล้วเราจะรอที่นั่น" อ๊อฟจบสนทนาเมื่อเพื่อนๆ ที่ไปอาบน้ำกลับมาแล้ว ผมกับออฟจึงไปอาบน้ำกันบ้าง ไปถึงก็เจอลูกเสือหลายนายอาบน้ำกันอยู่ ผมกับออฟเดินหาที่อาบน้ำจนได้ในที่สุด แล้วถอดเสื้อผ้ากางเกงออกพาดไว้บนราวเหลือไว้แต่กางเกงในห่อหุ้มอวัยวะควย ไว้ ซึ่งลูกเสือทุกๆ นายก็ถอดกันหมดเหมือนกัน จะมีก็แต่พวกกลุ่มกระเทยที่อาบน้ำทั้งชุดคือไม่ยอมถอดอะไรสักชิ้นเหมือนจะ อายอะไรนักหนา แต่ดูสายตาที่มองมายังเป้าผมแล้วคงไม่ใช่อายหรอก มันมีแค่ความอยากใคร่ได้ทั้งนั้น จนผมต้องหันหลังให้ มองตูดกูแทนละกัน ผมคิดในใจ

หลังจากกินข้าวเสร็จผมมองดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลา 18.41 นาที ยังมีเวลาอิสระอีกเยอะกว่าจะถึงเวลารวมรอบกองไฟ ผมเดินหาอ๊อฟรอบๆ เต้นท์ และในเต็นท์ ก็ไม่เจอ คงไปรอผมแล้วสินะ ระหว่างที่ผมไปดูอ๊อฟว่ายังอยู่หรือเปล่าขณะที่ผมลอดตัวเข้าไปในเต็นท์หลัง ที่ผมนอน ก็เห็นแต่ตุ้งที่นอนมือก่ายหน้าผาก ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง เขามองสบตาผมเมื่อหน้าผมโผล่เข้าไปในเต้นท์ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอย่างเฉยฉา ไม่สนใจ ให้มันได้อย่างนี้สิ นึกว่าจะสนหรือไงไม่มาคุย ไม่คืนดีก็เรื่องของนาย กูไม่ผิดหนิที่จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มเข้าไปคุยด้วยก่อน ความจริงผมเลิกโกรธไปนานแล้วละมีแต่อยากให้ตุ้งกลับมาอยู่ข้างกายเหมือนเดิม เวลามีเขาอยู่ด้วย คุยด้วยมันมีความสุขเหลือเกิน เวลาขาดเขาไปมันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน แต่ให้ตายเถอะทำไมเขาใจแข็งซะเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะฝืนใจตัวเองได้ขนาดนี้ ก็คงไม่ต่างจากผมหรอกที่ฝืนใจตัวเองยิ่งผยองพอกัน...

ผมเดินขึ้นไปบน ชั้น4 ของตึกสองตรงไปที่ห้องพยาบาล ซึ่งในช่วงปฏิบัติลูกเสือฯ นี้มีกฏห้ามให้ลูกเสือเนตรนารีขึ้นมาบนตก ผมจึงแอบๆ เข้ามาเพื่อไม่ให้ใครเห็น ผมเปิดประตูเข้าไปกวาดรอบไปทั่วห้องพยาบาลมองเห็นอ๊อฟนอนรอที่เตียงตัวสุด ท้ายที่มุมห้อง ความมืดค่อยๆ ปกคลุมเข้ามาในห้องที่ไร้แสงไฟที่ปิดไว้เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตว่ามีใคร
อยู่บนนี้หรือเปล่า ผมเดินเข้าไปแล้วนั่งลงที่ขอบเตียงข้างๆ กายอ๊อฟที่นอนลืมตาเหมือนคนคิดล่องลอยไปไกล
"อ๊อฟจะคุยอะไรกับเต้เหรอ?" ผมถามขึ้นก่อน อ๊อฟก็ยังเงียบซึ่งปรกติอ๊อฟเวลาอยู่กับผมเขาจะคุยสนุกสนานยิ้มง่าย
แต่ดูวันนี้เขาแปลกๆ ไป และในที่สุดเขาก็พูดออกมา
"นอนลงก่อนสิ"
"หือ, ทำไมละ"
"นอน เถอะ" อ๊อฟย้ำ แล้วผมก็เอนตังลงนอนข้างๆ เขาเบียดตัวชิดกันเนื่องด้วยเตียงคนไข้พอประมาณแค่คนๆ เดียวเท่านั้นอ๊อฟพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาทางผมแล้วเอื้อมมือหนึ่งมาสวมกอด ผมไว้ เขาหลับตาลงซุกหน้าตรงไหล่ ผมปล่อยให้อ๊อฟนอนกอดไปโดยที่เราสองคนไม่พูดอะไรนาน จนอ๊อฟโพล่งออกมาทั้งที่ตายังหลับอยู่
"เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานยัง"
"เรื่องอะไรอ๊อฟ" ผมมึนงงไม่รู้ว่า "เรื่อง" ที่ว่าคือเรื่องอะไร
"เรื่อง ...พี่โต้งกับเต้" ผมลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจ หัวใจเต้นระส่ำคึกโครมแทบจะหลุดออกมา ดวงหน้ารู้สึกชาไปหมดเขารู้แล้ว ให้ตายสิ จะทำยังไงดี มันแก้ตัวไม่ได้เลย
"พี่โต้งบอกเราแล้ว" อ๊อฟเสริมขึ้นมา
"พี่โต้งบอก..."
"ใช่, บอกวันนี้ละ, เราถึงอยากคุยกับเต้ไง" ผมมองดูอ๊อฟที่ยังนอนอยู่แบบนั้น
"เต้ รักเราไหม?" อ๊อฟพูดออกมาแต่ดูเหมือนว่าเสียงเขาจะสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ อย่าร้องนะ ผมคงทนไม่ได้แน่ถ้าอ๊อฟร้องไห้ อย่าร้องนะ อย่าร้อง
"รักไหม? เต้รักอ๊อฟไหม?" อ๊อฟย้ำเสียงเครือ ผมมองไม่เห็นหรอกว่าน้ำตาเขามีไหมเพราะความมืดมันปกคลุมไปทั่วห้อง
"ทำไม ไม่ตอบละ,หรือว่าไม่รักอ๊อฟแล้ว" อ๊อฟดึงตัวผมลงไปนอนแล้วสวมกอดแนบแน่น รั้งผมเข้าไปกอดเหมือนกลัวจะสูญเสียไป อ๊อฟย้ำถามแต่ว่าผมรักเขาไหม? ตลอด ผมมึนตื้อปากขยับแทบไม่ออก ผมเอื้อมมือไปทาบบนแก้มเขา ให้ตายสิเขาร้องไห้จริงๆ น้ำตาผมไหลออกมาอัตโนมัติ รู้สึกเศร้าสะเทือนอารมณ์ไปด้วย
"รักสิ, รักมากๆ ด้วย" ผมพูดกับอ๊อฟทั้งน้ำตา อ๊อฟเงียบเสียงสะอื้นเขากอดผมแน่นขึ้น แล้วค่อยๆบรรจงทับรอยจูบที่ริมฝีปากผมก่อนจะขยับบดขยี้ดูดดื่ม ผมสนองรับจูบสนองปรารถนานั้น แต่แล้วก็ผละออก
"ไม่ได้, เต้ทำแบบนี้ไม่ได้" ผมพูดออกไป
"หรือเต้ไม่ได้รักเราจริง"
"ไม่ใช่นะ, เรารักอ๊อฟรักมากๆ ด้วย"
"แล้วทำไมให้เราไม่ได้"
"คือ..." ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี อยากจะบอกเหลือเกินว่า ผมได้มีอะไรกับพี่ชายของเขาแล้ว ผมรู้สึกไม่แฟร์เท่าไรท้าผมจะมีอะไรกับอ๊อฟผู้ซึ่งเป็นน้องชายของพี่โต้ง
"เพราะ พี่โต้งใช่ไหม?" อ๊อฟแทรกขึ้นแล้วพูดต่อ "อ๊อฟไม่สนหรอกถึงเต้จะเคยเอากับพี่โต้งแล้วก็ตาม,อ๊อฟไม่สนอะไรทั้งนั้น, อ๊อฟอยากให้เต้เป็นของอ๊อฟ, เป็นของอ๊อฟนะ" พูดจบอ๊อฟไม่สนว่าผมจะตอบยังไง เขาประกบปากลงจูบขยี้ลงมาดูดด่ำ ชอนไชลิ้นเข้าไปตวัดตามไรฟัน ผมครางอือออกมาเมื่อใจได้ยินยอมไปตามความปรารถนานั้นอ๊อฟถอนปากออกลุกขึ้น ยืนข้างๆ เตียงแล้วถอดกางเกงลงรวมทั้งกางเกงในทำให้มองเห็นควยอ๊อฟที่แข็งตัวเด่นจาก แสงไฟสปอร์ตด้านนอกที่ส่งเข้ามาได้เพียงน้อย อ๊อฟขึ้นมานั่งคร่อมผม เอาควยมาจ่อตรงปากผม
"ดูดให้หน่อย.." ผมอ้าปากเข้าครอบควยที่อ๊อฟสอดเข้ามาในปากผมผมห่อปากรูด จนหนังหุ้มถอดหัวควยให้เบ่งบานอ๊อฟกระแทกควยแข็งใหญ่เข้าปากผมกระเด้าๆ เร่งจังหวะถี่ๆ ครางซีสๆ โอว์...อาว์...ออกมาหน้าตาเหยเกบิดเบี้ยวสูดปากครางในอากาศดูเขาจะชอบใจยิ่ง อ๊อฟกระแทกเข้าไปจนสุดโคนควยผมแทบจะหายใจไม่ออก ผมห่อปากดูดควยเขาแรงๆ เพื่อเร่งให้เขาปล่อยน้ำควยออกมา หากไม่ทำมีหวังผมตายด้วยหายใจไม่ออก และในที่สุดอ๊อฟก็กระตุกควยตึกๆ พ่นน้ำควยเข้าปากผม เขาครางอาว์....ถอดยาวและหายลงไปในลำคอ ผมดูดซับกลืนน้ำควยเขาจนหมดสิ้น อ๊อฟถอนควยออกจากปากผมแล้วประกบปากลงจูบดูดด่ำเขาเลื่อนปากต่ำลงไปไซ้ตามคอ ผม ความเสียวสั่นไหวพุ่งสะท้านเข้าไปถึงหัวใจผม เขาใช้ปากดีเหลือเกินเหมือนช่ำชองมาก่อน เขาลากลิ้นขึ้นไปสัมผัสที่ติ่งหูผมแล้วจูบพรมไปทั่วใบหูผมครางซีสๆ เสียว โอว์...ช่างเก่งเหลือเกินแค่ปากและลิ้นยังทำให้อารมณ์ผมกระเจิงจนหมดสิ้น อ๊อฟจับขาผมให้ตั้งชันขึ้นแล้วถอดกางเกงผมออกโยนไปกองไว้ที่พื้น ก่อนเขาจะจับขาผมกางออกพาดที่บ่าทั้งสองข้างของเขา แล้วอ๊อฟก็ดันควยเข้ามาพรวดเดียวจนมิดโคนควย ผมครางซีสออกมาเสียงดัง รู้สึกเจ็บเล็กน้อย อ๊อฟเริ่มกระเด้าเข้าๆ ออกๆ เป็นจังหวะ
เนิบนาบหา จังหวะที่เหมาะก่อนจะเร่งสปีดโหมกระหน่ำซัดกระเด้าเสียงดังปับๆ ผมครางโอว์...ซีสประสานเสียงครางที่อ๊อฟซีสออกมา เสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงดังเป็นจังหวะตามแรงกระเด้าของอ๊อฟ อ๊อฟกระแทกกระเด้าเข้ามาสุดโคนตลอดเวลา ผนังตูดผมที่เสียดสีกับท่อนควยมันเสียวสะท้านส่งไปตามร่างกายผม โอว์...ซีส...เสียวเหลือเกิน อาว์...อาว์...กระเด้าแรงๆ แบบนั้นละอ๊อฟ...อาว์...ซีส....

อ๊อฟค่อยๆ ผ่อนแรงกระเด้าลงแล้วจับผมนอยตะแคงคู้ขาผมเข้าในลักษณะนอนตัวงอแล้วเริ่ม ส่ายควยวนในรูตูดผมก่อนจะกระเด้าปับๆ เข้ามา โหมกระหน่ำแรงถี่ขึ้นไม่ลดละ เสียงครางดังแข่งกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงโอว์...ซีส...ยิ่งครางอ๊อฟก็ ยิ่งรัวกระเด้าถี่ๆ เข้ามาหนักหน่วงดังปับๆ ปับๆ ผมเอื้อมมือไปรูดควยตัวเองเพิ่มความเสียวให้ลุกโชนยิ่งขึ้น อะ..อ๊อฟ...อาว์... สักพักอ๊อฟจับขาข้างหนึ่งผมยกขึ้นแล้วดันกระแทกควยเข้ามาปับๆ อ๊อฟยิ่งกระเด้าลึกผมยิ่งเสียงครางซีสซาสไม่หยุด ไม่ต่างจากอ๊อฟที่ครางกระเส่าบิดหน้าเหย่เก สูดปากซีสๆ ตลอดเวลา อ๊อฟกระหน่ำแรง
เข้ามาปับๆ ถี่ๆ อย่างบ้าคลั่ง ปากร้องคราง อาว์...อาว์...อาว์...ก่อนที่ควยกระตุกแล้วฉีดน้ำควยเข้าไปในรูตูดผม อ๊อฟซีสปากทอดยาวผ่อนหายใจแรงขาดเป็นห่วงๆ ผมรูดควยตัวเองต่อสักพักแล้วเกร็งพ้นน้ำควยออกมาตามอ๊อฟถึงฝั่งกามอีกคน อ๊อฟถอนควยออกแล้วล้มตัวลงนอน ผมขยับตัวเข้ามาอ๊อฟแนบชิดกายโอบกอดเขาไว้ ซุกหน้าตรงอกเขา ไม่พูดจาอะไรออกมาท่ามกลางความมืด ผมนอนกอดอ๊อฟด้วยความสุขถวิล ต่อไปนี้ผมจะรักอ๊อฟให้มากขึ้น อย่างที่เขารักผม
เขาไม่รังเกียจว่าผมเคยมีอะไรกับพี่โต้งพี่ชายของเขา แค่นี้ก็ทำให้ผมไม่อาจทิ้งเขาไปได้หรอก ถึงแม้ว่าในห้วงลึกของใจยังเฝ้ารอปรารถนาของพี่โต้งก็ตาม ผมจะรักอ๊อฟ จะรักอ๊อฟ และจะรักให้มากๆ ต้องตัดขาดพี่โต้งให้ได้ อย่าได้ทำลายหัวใจคนที่รักเราไปกว่านี้อีกเลย
ผมรำพันในใจซบหน้าหลับตาบนอกอ๊อฟเนิ่นนาน ไร้คำใดออกจากปากเราทั้งสองคน

***************************************************************


"เต้" หลังจากที่เราสองคนอยู่ในความเงียบมานานอ๊อฟเรียกชื่อผมออกมา แต่ตัวเขายังคงนิ่งเหมือนเดิม ผมกอดอ๊อฟแนบชิดขึ้นกว่าเดิมเป็นการรับรู้แทนวาจา อ๊อฟนิ่งไปอีกอึดใจหนึ่งก่อนจะโพล่งคำที่ผมแทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ได้รวดเร็วขนาดนี้ มันไม่มีเวลาให้ผมได้ตั้งตัวหรือทำใจอะไรทั้งนั้น อยู่ดีๆ มันก็ถาโถมซัดครืนเข้าไปกระแทกในหัวใจดังคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง ผมนิ่งงันดังคนหมดลมหายใจ ไม่คาดคิดว่าอ๊อฟจะพูดออกมาเช่นนี้
"เต้...เรา เลิกคบกันเถอะ" ประโยคที่อ๊อฟพูดออกมาเปรียบดังเป็นก้อนเสลดตีบตันในลำคอผม ยากที่จะกลืนและยากที่จะถ่มทิ้ง สมองผมมืนตื้อ ดวงตาเริ่มพร่ามัว ปากสั่นระริก กระชับกอดอ๊อฟแน่นกว่าเดิม
"อ๊อฟคิดดูแล้วเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า"
"เพื่อน...ทำไมอ๊อฟว่าอย่างนี้ละ" ผมพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตามันไหลออกมาดังเขื่อนแตกดูทีท่าไม่มีวันหยุด
เพื่อน..งั้นเหรอ แล้วเมื้อกี้ละมันคืออะไร
ไม่ใช่บอกว่ารักเหรอ ทำไมถึงพูดอย่างนี้ละ
"เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ" อ๊อฟยื้อตัวขึ้นนั่ง มือผมเลื่อนจากอกมาโอบเอวเขาไว้
"อ๊อฟ ไม่ได้รักเต้..." ผมอยากจะพูดต่อให้ยาวกว่านี้ แต่ดูเหมือนน้ำตามันจะเข้าไปจุดที่หลอดลมไม่ให้พูดอะไรต่อ ผมร้องไห้ออกมาไม่หยุด ขณะที่อ๊อฟแม้น้ำตาเพียงหยดหนึ่งก็ไม่มี ช่างต่างจากเมื่อกี้เหลือเกินเขาร้องไห้ได้จนผมสงสารยินยอมแต่พอได้แล้ว เขาช่างดูเย็นชาเหลือเกิน ไม่สนใจผมที่ร้องไห้ทุกข์ทนต่อหน้าเขาตรงนี้เลย
"อย่าพูดอย่างนั้นสิ,ไม่ใช่สักหน่อย แต่...เราเป็นเพื่อนกันนะดีกว่า"
"เหตุผลละ ? เพราะอะไรอ๊อฟถึงคิดอย่างนี้" ผมสะอื้น
"โธ่ ! เต้" เสียงเขาดูหงุดหงิด "อย่าทำอย่างนี้สิ"
"เต้ทำอะไร ? อ๊อฟต่างหากละ"
"พูด ไม่ฟัง, หรือไม่อยากให้เหลือแม้ความเป็นเพื่อน" อ๊อฟเสียงดังไม่พอใจ เขาดึงมือผมออกจากเอวเขาแล้วลุกขึ้นไปสวมกางเกงเข้าอย่างเดิมแล้วพูดขึ้นมา
"เชื่ออ๊อฟเถอะ, เราเป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว"
"อ๊อฟ..." ผมเรียกชื่อเขาเสียงสั่นเครือ แต่ดูเขาไม่สนใจอะไรอีกเลย อ๊อฟหันหลังเดินออกจากห้องไปทิ้งผมไว้คนเดียวตามลำพังกับห้องที่เงียบงันนี้ ผมนั่งคู้เข่าซบหน้าลงร้องไห้ถอนสะอื้นอยู่เพียงลำพัง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมเมื้อกี้ยังบอกว่ารักเรา ไม่สนอะไรที่มันเกิดขึ้นมาก่อน แต่พอได้เสพสุขผ่านไปไม่นานกลับบอกเลิกกัน นี่หรือคนรักกันผมตัดพ้อตัวเอง ความเจ็บปวดมันทะลวงใจผมจนบอบช้ำ มันซาดสัดเข้ามาไม่หยุดหย่อนดังจะเอาให้ตายสิ้นลมกันทีเดียว
ผมสะอื้น ร้องไห้เสียงดังกับความเจ็บปวดทรมาน ที่มันเข้ามายามที่ผมไม่ทันได้ตั้งรับหาเครื่องป้องกันต้านทานไว้เลยความ ท้อแท้สิ้นหวังมันสุมรุมผมอย่างไม่ปราณี ทรมานเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน ใจผมระร่ำรำพัน...

ผมปาดน้ำตาตัวเองพยายามฝืนไว้ไม่ให้ร้อง กลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ หยิบกางเกงมาสวม สูดลมหายใจลึกๆชะล้างก้อนสะอื้นให้จางไปแล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป ด้วยหัวใจที่แห้งแล้งเต็มที
"เต้ !" เสียงคุ้นหูเรียกชื่อผมขึ้น ผมเหลียวมองไปตามเสียงก็ต้องตกใจแทบทรุด
"พี่ โต้ง..." ผมครางในลำคอ พี่โต้งเดินเข้ามาใกล้ผม สายตาแกที่จ้องมองผมมันแฝงไว้แต่ความโกรธ แกตบหน้าผมเข้าอย่างจังจนหน้าผมหันไปตามแรงที่แกฟาดกระทบมา ผมเจ็บแสบไปทั้งหน้า แกคงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ น้ำตาผมเริ่มไหลรินออกมาอีกครั้ง ผมหันหน้ามาจ้องประสานแกแต่ไม่พูดอะไรออกมา
"เป็นไงละโดนมันเอาแล้วโดน ทิ้ง" แกเย้ยหยัน ผมเจ็บแปลบเข้าไปในหัวใจ รู้สึกเสียใจ น้ำตาก็ยิ่งไหลปรี่ออกมาท้วมทวีไม่มีสักคำที่ปลอบปโลม ไม่มีสักคำที่แสดงออกว่าห่วงใย มีแต่คำเย้ยหยันเสียดสีจะให้กันตายไปข้างเลยหรือไร
"ถ้าจะมาตอกย้ำเยาะ เย้ยก็ไปเลยนะ" ผมกลืนก้อนสะอื้นลงคอ "ไปเลย พี่กับน้องก็คงไม่ต่างกันหรอก" สิ้นประโยคฝ่ามือก็เข้ากระทบกับหน้าผมอีกครั้ง
"เอาอีกสิ ตบอีกสิ" ผมพูดเสียงดังด้วยความน้อยใจและเสียใจ จ้องหน้าสู้แก พี่โต้งรั้งตัวผมเข้าไปหาแล้วประกบปากลงบดขยี้ริมฝีปากผมรุนแรง ผมกัดปากแกด้วยความโกรธ คนใจร้าย ทำไมต้องทำกันอย่างนี้ด้วย พี่โต้งร้องเสียงหลงออกมามีเลือดไหลที่ริมฝีปาก แกเอามือแตะปากดูแล้วทำหน้าแหยงด้วยความเจ็บ แกมองจ้องตาผมอย่างโกรธแค้น ดวงตาแดงกล่ำคล้ายจะร้องไห้ออกมา ก่อนที่แกจะเดินจากผมไปโดยไม่พูดอะไร ผมร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง อยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นบีบอัดอยู่ในหัวใจ จบกัน ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือใครอีกแล้ว เขาทิ้งเราไปหมดแล้ว ผมทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้เนิ่นนาน ปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความผิดหวัง เศร้า เสียใจ ดวงใจแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บช้ำมันไม่เคยปราณีใครอยู่แล้ว มีแต่จะให้ทุกข์ทรมาน ให้เจ็บปวดแสบแสนปางตาย...

เสียงประกาศเรียก ลูกเสือเนตรนารีให้พร้อมกันรอบกองไฟใหญ่กลางสนามฟุตบอล ผมค่อยๆ เหยียดตัวลุกขึ้นปาดน้ำตาให้สิ้นไป กลั้นเสียงสะอื้นให้เบาบางลง แล้วเดินลงบันไดเพื่อไปรวมกลุ่ม พอผมไปถึงทุกคนก็ล้อมวงรอบกองไฟกันหมดแล้ว เสียงอาจารย์ผู้คุมเรียกตัวผมให้ไปยืนตรงกลางวงล้อม แล้วถามทำไมถึงมาช้า ไปอยู่ไหน และผมก็บอกว่าไปแอบงีบอยู่บนตึกห้องพยาบาล แต่ใช่ที่ไหนละ แล้วอาจารย์ผู้คุมก็เรียกพี่ รด. ที่ดูแลกลุ่มผม นั่นก็คือพี่โต้งนั่นเอง
แก บอกว่าให้พี่ รด. ที่ดูแลลูกเสือ ทำโทษลูกน้องตัวเองฐานที่ทำผิดกฏ แล้วอาจารย์ผู้คุมก็ป้องปากพูดกับลูกเสือเนตรนารีทั่วกองไฟในการรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ กฎเกณฑ์ มีเสียงปฏิญาณรับของลูกเสือฯ ดังกึกก้อง สายตาทุกคู่ที่มองมายังผมจุดเดียวเป็นดังเข็มทิ่มแทงผมให้เจ็บลึกขึ้นไปอีก
"เอาละ จะให้พี่เขาทำโทษยังไงดี" อาจารย์วกกลับมาถามผม
"แล้วแต่ครับ " ผมพูดเสียงเบาเนิบๆ จึงถูกตวาดแล้วให้พูดใหม่ให้เสียงดังหนักแน่น แล้วอาจารย์ก็เดินไปจุดที่นั่งเดิม ปล่อยให้ผมยืนอยู่กับพี่โต้ง แล้วสักพักพี่โต้งก็สั่งทำโทษผมขึ้น
"ปั่นจิ้งหรีด 20 ครั้ง ปฏิบัติ" ผมก้มลมทำตามโดยไม่หันไปมองหน้าพี่โต้งแม้สักครั้งเดียวเมื่อครบจึงพยามทรง ตัวขึ้นรู้สึกว่าโลกมันคว้างไปหมด แต่ดูเหมือนยังไม่เป็นที่พอใจของอาจารย์ แกพูดกับลูกเสือฯ ว่าทำโทษแค่นี้เพียงพอหรือยังมีเสียงตอบกลับดังก้องว่ายังไม่เพียงพอ ดูท่าผมจะเป็นของเล่นยามค่ำคืนนี้แล้วสิ พี่โต้งจึงสั่งให้ผมปั่นจิ้งหรีดอีก 20 ครั้งพอผมทำเสร็จอาจารย์คนใหม่ก็ออกมาพูดกับลูกเสือฯ ว่าพอยัง และเสียงตอบรับก็เช่นเดิม "ยังไม่พอ" แต่มีเสียงหนึ่งที่ดังก้องออกมาหลังสุดว่า "พอแล้ว" ผมมองไปตามเสียงเห็นตุ้งลุกขึ้นแล้วขานอีกว่า "พอแล้ว" และก็ตามมาด้วยเสียงเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกับผมขานออกมาพร้อมเพียง ผมตื้นใจเล็กน้อยกับน้ำใจของเพื่อน แต่อีกคน "อ๊อฟ" ผมไม่รู้ว่าเขา
เต็ม ใจหรือเปล่า ดูจากสีหน้าแล้วคงแค่เออออไปตามทุกคนในกลุ่มเท่านั้นเอง เขาคงไม่เหลือน้ำใจอะไรให้ผมอีกแล้วละแล้วพี่โต้งกลับเรียกพวกเขาออกมากัน หมด
"ดี...ลูกเสือกลุ่มนี้รักกันดีเห็นเพื่อนโดนทำโทษก็มีน้ำใจช่วย, งั้นปั่นจิ้งหรีดแทนเพื่อน 50 ครั้ง ปฏิบัติ" สิ้นเสียงพี่โต้งทุกคนก็ปฏิบัติอย่างไม่อิดออด มีผมคอยนับรอบให้ หนึ่ง สอง สาม...สิบ...ยี่สิบ...ห้าสิบ...ในที่สุดก็ครบเสียที ทุกคนต่างพากันทรงตัวไม่ขึ้น พากันล้มนอนหลับตาอยู่ตรงนั้น ก่อนจะปรับตัวเข้าสภาพเดิมลุกขึ้นยืนตามคำสั่ง
"ส่วนคนที่ทำผิดกฏคืนนี้ต้องเฝ้ายามแทนเพื่อนจนเช้า" พี่โต้งสั่งเสียงหนักแน่นก่อนจะปล่อยตัวผมและเพื่อนให้ไปนั่งที่

แล้ว กิจกรรมรอบกองไฟก็เริ่มขึ้นจนถึงเวลาเที่ยงคืนก็ถึงเวลาแยกย้ายกันเข้านอน ตามเต้นท์ต่างๆ คืนนี้ทั้งคืนผมต้องนั่งเฝ้ายามตลอดตามคำสั่ง เริ่มดึกอากาศยิ่งหนาวผมนั่งคู้เข่ากอดตัวเอง กายสั่นระริกสะท้านไปถึงหัวใจ ถึงแม้ไม่ให้ผมมานั่งเฝ้ายามตลอดคืนผมก็คงหลับไม่ลงอยู่ดี เหตุการณ์แห่งความเจ็บปวดผิดหวังมันตามมาหลอกหลอนผมไม่อาจที่จะข่มตาหลับได้ เป็นแน่
"ห่มซะเดี๋ยวหนาวตายซะก่อน" พี่โต้งออกมาจากเต้นท์โยนผ้าห่มใส่หน้าผมอย่างแรง แกยืนสอดมืออยู่ในถุงกางเกงสายตาเหม่อมองไปทางอื่นไม่สนใจผม
"ลำบากนัก,ทีหลังก็ไม่ต้อง" ผมประชด แล้วโยนผ้าห่มคืนให้แก พี่โต้งจับผ้าห่มออกคลี่แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังผมแล้วห่มมันให้ผม
"อย่า ดื้อน่า" แกพูดแล้วเดินไปนั่งอีกฝากเต้นท์ตรงข้ามผม กองไฟเล็กๆ ที่ก่อเพื่อให้ไออุ่นตรงหน้าเต้นท์ ผมเหยียดมือออกไปผิงรับไออุ่นให้กาย แต่หัวใจก็อยากมีใครสักคนมาโอบกอดให้ความอบอุ่น แต่มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นกันหมดแล้ว
เลิกคิดซะทีได้ไหม จะคิดไปทำไม
ยิ่งคิดก็ยิ่งจะร้องไห้ออกมา ร้องไห้ก็ไม่มีใครเหลียวแลหรอก
โน่นคนหนึ่งก็นอนอยู่ในเต้นท์ ไม่มีท่าทีว่าจะห่วงใยอะไรเราเลย
อีกคนก็นั่งนิ่ง จะเอ่ยวาจาใดออกมาก็เปล่า
ผม ตัดพ้อตัวเอง รู้สึกว่าตาเลือนพร่าเพราะน้ำตาเริ่มเอ่อคลอแต่ก็ฝืนไว้ไม่ให้ไหลรินออกมา ผมซบหน้าซุกผ้าห่มปาดน้ำตาทิ้งไป ตลอดคืนผมกับพี่โต้งนั่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่คุยอะไรกันเลยจนสว่าง มันช่างเป็นความอึดอัดที่ทรมานเสียเหลือเกินแล้วต่อจากวันนี้ผมจะเป็นเช่นไร เมื่อหัวใจได้แตกสลายสิ้นคนรัก คงต้องอยู่ตามลำพังกับหัวใจที่แตกร้าวทรมาน...

********************************************



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โอ
Guest

2. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #1
 
23-Oct-11, 09:22 PM (SE Asia Standard Time)
 
   มารออ่านนานแล้วคร้าบบบ ต่อๆๆๆ หน่อย
ขอบคุณครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
คุณผู้อ่าน
Guest

3. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #2
 
29-Oct-11, 11:03 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ช่วยดัน นะจ๊ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
fan
Guest

4. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #1
 
30-Oct-11, 01:50 AM (SE Asia Standard Time)
 
   มารอด้วยคน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เบน
Guest

5. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #4
 
30-Oct-11, 05:28 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Singlia
Guest

6. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #5
 
02-Nov-11, 10:55 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เข้ามารอตอนต่อไปด้วยความระทึก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ข่าวดีคับ
Guest

7. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #6
 
03-Nov-11, 11:05 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนนี้เว็บห้องสมุดไม่ซ่อนนิยายแล้ว ไม่เป็นสมาชิคก้อ่านได้

มีตั้งหลายเรื่องแน่ะไปดุกันสิคับ

http://www.g-gang.com/board/forumdisplay.php?f=16


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ตั้ม
Guest

8. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #7
 
12-Nov-11, 10:04 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เข้าปมาละ http://www.g-gang.com/board/forumdisplay.php?f=16
แต่เขาให้อ่านได้เฉพาะกลุ่มครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
รออ่าน
Guest

9. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #8
 
25-Nov-11, 06:00 PM (SE Asia Standard Time)
 
   อยากอ่านต่อ จะหาอ่านได้ที่ไหนล่ะครับเนี่ย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
beyonce
Guest

11. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #1
 
03-Mar-12, 00:14 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ลุ้น ว่าจะเป็นยังงัยต่อ คับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Bimai0257
Guest

12. "RE: เย็ดเหนือเมฆ (เรื่องยาวที่ไม่ควรพลาด)COPY"
In response to message #11
 
13-Sep-19, 08:19 AM (SE Asia Standard Time)
 
   สนุกครับ
ขอบคุณ ครับ🙏

รออ่านต่อนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters