We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

PalmPlaza.us

Subject: "My First Boyfriend "     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #378
Reading Topic #378
katesnk
Guest

"My First Boyfriend "
 
04-Feb-12, 03:04 PM (SE Asia Standard Time)
 
   สวัสดีค่ะ

เอานิยายมาลง ฉลองเปิดห้อง Story ที่จริงเห็นห้องนี้ตั้งนานแล้ว เข้ามาสังเกตการณ์บ้าง บางครั้ง แต่ยังไม่ได้เอานิยายมาลง ดีใจที่มีห้องนิยายเป็นเรื่องเป็นราว ให้ผู้อ่านกับนักเขียนได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนสิ่งที่ชอบแ่ก่กัน

พี่เคทเกิดและเติบโตจากบ้านหลังนี้ เอานิยายมาลงที่นี่ เรื่องแรกคือ หนุ่มโสดในฝัน ปรุงรักปรุงรส และเรื่องที่ทำให้คนรู้จักก็คือ My First Boyfriend คราวนี้ก็ขอเอาผลงานที่เคยลงที่นี่เหมือนห้าหกปีก่อน นำมาลงอีกครั้งค่ะ

..............................................

My First Boyfriend

บทที่ 1

เช้าวันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาเหมือนกับทุกๆวัน แต่มันกลับเป็นเช้าที่ทำให้ชีวิตผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่ตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่ใช่ของตัวเอง มีคนแปลกหน้าที่ผมไม่เคยรู้จักอยู่ในห้องกับผมด้วย ผมไม่มีอิสระในการที่จะเคลื่อนไหวไปมาได้ เนื่องจากมือทั้งสองข้างของผมถูกพันธนาการด้วยผ้ามัดติดอยู่กับหัวเตียงอย่างแน่นหนา ในขณะที่เท้าทั้งสองก็ถูกมัดติดกับปลายเตียงทั้งสองด้านด้วยเช่นกัน
สภาพของผมตอนนี้ คล้ายกับตัวอักษร “x” ในภาษาอังกฤษ เสื้อผ้าที่ผมใส่มายังอยู่กับเนื้อตัวเรียบร้อย เพียงแต่มันหลุดลุ่ยยับยู่ยี่จากการดิ้นรนเพื่อให้เป็นอิสระของผม ที่ปากมีผ้าเช็ดหน้าอุดไว้ ทำให้ผมส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาไม่ได้
ขณะที่ผมตกใจในสภาพของตัวเอง และพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการถูกจองจำ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับที่ร่างสูงร่างหนึ่งเดินเข้ามา คนแปลกหน้าที่ต้องสงสัยว่าลักพาตัวผมมาที่นี่ คนที่ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าเขานอนอยู่ข้างๆผมตลอดทั้งคืน

ความที่ผมสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์ยาสลบที่มีคนโปะใส่ผม ทำให้จำรายละเอียดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของคนที่พาผมมาได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ตอนนี้ผมมองเห็นทุกๆรายละเอียดบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน

เขาเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งไทยกับฝรั่ง คิ้วหนาเข้ม ตาโตสวยสีน้ำตาล ขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มเต็ม มีรอยเคราเขียวครึ้มที่ข้างแก้มและคาง ผมดกหยิกสลวยสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนคลื่นยาวระต้นคอ ผิวสีน้ำตาลทอง ไม่ขาวเผือกแบบฝรั่ง รูปร่างดี โครงสร้างร่างกายแข็งแรง คาดคะเนจากหน้าตา และกริยาท่าทาง เจ้าเด็กคนนี้คงจะอายุน้อยกว่าผมสัก 5 ปีขึ้นไป
เขาถือถาดอาหารเดินตรงมาที่ผม จากนั้นก็ทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง แล้ววางถาดอาหารไว้ตรงโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ ใบหน้าคมคายก้มมองลงมา เขาฉีกยิ้มกว้างให้ผม เป็นยิ้มประจบประแจงเหมือนเด็กที่กำลังอ้อนผู้ใหญ่เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ เวลาเขายิ้ม หน้าตาของเขาดูสดใสมาก ฟันขาวเรียงเรียบสะอาดตา แถมซ้ำยังมีลักยิ้มที่สองข้างแก้มอีกด้วย

เห็นหน้าซื่อๆ และตาเป็นประกายวาววามของเขาแล้ว ทำให้ผมเริ่มสับสนในความคิดของตัวเอง ไม่แน่ใจว่าเขามาดีหรือมาร้าย ใช่คนที่พาผมมามัดหรือไม่ แล้วเขาใช่คนที่นอนเคียงข้างผมเมื่อคืนหรือเปล่า บางทีผมอาจจะกล่าวโทษผิดคนก็ได้
แต่จากการที่เขาไม่แสดงท่าประหลาดใจที่เห็นผมถูกมัด มีเพียงแววตายิ้มได้ที่คอยจ้องมองผมอย่างสำรวจตรวจตรา ทำให้ผมเริ่มเอนเอียงมาทางความคิดเดิมที่ว่าเขาน่าจะเป็นพวกผู้ร้าย หรืออย่างน้อยก็น่าจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องที่ผมถูกจับมาที่นี่


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
katesnk
Guest

1. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #0
 
04-Feb-12, 03:06 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ไม่อยากจะเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเองว่าหน้าตาอย่างนี้จะเป็นใบหน้าของพวกมิจฉาชีพ เขาดูไม่ใช่คนโหดร้ายอะไร ไม่มีท่าทีดุดันเหี้ยมเกรียม หรือกรรโชกโฮกฮากใส่ อายุอานามก็ไม่น่าจะมากพอที่จะทำเรื่องเลวร้าย ผมพยายามภาวนาว่าการที่เขาจับตัวผมมา อาจจะเป็นเพียงการล้อเล่น หรือเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

ในที่สุดผมก็สลัดความคิดในแง่ดีเกี่ยวกับตัวเขาทิ้งไปด้วยเกรงจะกลายเป็นมองคนร้ายกลายเป็นคนดี และพยายามจับจ้องเขาทุกอิริยาบถ เพื่อจะจำรายละเอียดให้ได้มากที่สุด อันจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เมื่อผมสามารถหลุดจากการคุมขังออกไปแจ้งความกับตำรวจได้ และหากเขาเป็นคนร้ายจริง

บอกกับตัวเองว่าจะต้องไม่ใจอ่อน เห็นแก่หน้าเปื้อนยิ้มไร้มลพิษนั่น บางทีความร้ายกาจอาจจะแฝงมาพร้อมกับความเป็นมิตรก็ได้ ในสภาวะที่ผมกำลังเป็นเหยื่อถูกจับมัด ทำให้ผมต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากที่จะต้องรักษาตัวรอด นอกเหนือไปจากการตัดสินคนที่อยู่ร่วมห้องอย่างรอบคอบ เพื่อจะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำเสียทีเอาง่ายๆ

มีผมกับเขาสองคนอยู่ในห้องตามลำพัง ผมคือคนถูกมัด ส่วนเขาคือคนที่ได้รับอิสระ เขาไม่ได้มาช่วยเหลือ แถมเมินเฉยต่อการดิ้นรนเอาตัวรอดของผม ดูตามรูปการแล้ว เขาต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ เพียงแต่จะเป็นผู้บงการ หรือเป็นแค่คนรับคำสั่งเท่านั้น

“ทานอาหารเช้าก่อนนะครับ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานนี้”

ประโยคแรกที่เขาเอ่ยปากพูดกับผมหลังจากจ้องหน้าตาหวานเยิ้ม ท่าทางที่ปฏิบัติต่อผมดูอ่อนโยนเหลือเกิน แต่ผมสนใจเรื่องนั้นเพียงเล็กน้อย รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดเขามากกว่า เพราะมันแปลความหมายได้ว่า เขาอยู่ด้วยตอนที่ผมถูกจับมาเมื่อคืนวาน

“ผมออกไปซื้อโจ๊กหมูใส่ไข่มาจากร้านอร่อยแถวตลาด แต่มันอาจจะไม่ถูกปากเท่ากับอาหารที่คุณเคยทานมา ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

คนแปลกหน้าพูดจากับผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คำพูดของเขาสุภาพไม่จาบจ้วงก้าวร้าวเยี่ยงวิสัยโจรร้ายทั่วไป จนผมเกิดความลังเลไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่จับผมมามัดไว้อย่างที่ผมสงสัยหรือไม่ ถ้าใช่ ก็แสดงว่าผมเจอเข้ากับโจรที่มีมารยาทดี หรือไม่ก็การศึกษาสูงพอสมควร ความหวังที่จะเจรจาต่อรองให้ปล่อยตัวผมคงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ผมจ้องหน้าโจรลักพาตัวเขม็ง พยายามค้นหาความจริงจากสีหน้า และกริยาอาการของเขา ซึ่งเด็กหนุ่มก็จ้องผมกลับด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มดุจเดิม

“เสียดายที่นี่ไม่มีครัว ไม่งั้นผมจะลงมือทำอาหารอร่อยๆให้คุณทาน เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับ ผมจะทำอาหารอย่างสุดฝีมือเลย รับรองคุณทานแล้วต้องติดใจแน่ๆเลยครับ”

หนุ่มลูกครึ่งยังคงพูดจาสุภาพกับผม ใบหน้ายิ้มละไม ท่าทางเป็นมิตรจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นโจร เขาคงต้องการล้อผมเล่นแน่ๆ

“ผมจะเอาผ้าออกจากปากให้นะครับ คุณจะได้ทานได้”

เขาเอื้อมมือมาดึงผ้าออกจากปากผม แล้วรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าที่ผมจะงับมือเขาได้ทัน ผมนึกอยากทำร้ายเขาด้วยความขุ่นเคืองคำพูดเขาเมื่อสักครู่ ไม่มีวันที่ผมจะยอมถูกจับมัดอีก และจะไม่ยอมกินอะไรของเขาด้วย เด็กหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นว่าปากของผมพลาดเป้า พลางทำน้ำเสียงหยอกล้อ

“ดุจังเลยนะครับ เห็นท่าทางใจดี ไม่คิดว่าจะใจร้ายอย่างนี้”

ไม่พูดเปล่า คนแปลกหน้ายังเอามือมาลูบไล้ที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบาและเลยมาที่ริมฝีปากก่อนจะชะงักค้างอยู่ตรงนั้น ท่าทางเขาพึงพอใจมากที่ได้สัมผัสผิวเนื้อของผม แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และมีประกายบางอย่าง ที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“นายเป็นคนจับฉันมามัดไว้ที่นี่หรือเปล่า”

เอ่ยปากถามให้แน่ใจ ถ้าเขาไม่ใช่คนทำ ผมก็จะได้ขอร้องให้เขาช่วย บางทีเขาอาจจะเป็นเพียงแค่ลูกน้องก็ได้ ท่าทางเป็นมิตรอย่างนี้ คงพูดง่าย และหากเขาต้องการเงินทองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ผมก็ยินดีให้ เพื่อแลกกับอิสรภาพของผม
เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มกริ่ม ผมรู้สึกผิดหวังที่เขายอมรับตรงๆ ด้วยหวังว่าเขาจะเป็นเพียงคนที่ถูกใช้มาดูแลผมเท่านั้น พร้อมๆกับรู้สึกโกรธตัวเองที่คิดกับเขาในแง่ดีเพียงเพราะเห็นหน้าตาซื่อใสและท่าทางเป็นมิตร ที่แท้เขาก็เป็นโจรอย่างที่ผมคิดไว้แต่แรก เขาเป็นคนจับผมมามัด คนที่โปะยาสลบผมก็คงเป็นเขานี่เอง ทำไมเขาต้องทำอย่างนี้กับผมทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แล้วเขาทำคนเดียว หรือมีคนอื่นๆคอยช่วยเหลือ ??

“นายเป็นใคร จับฉันมาทำไม เราเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันไหม”

ตั้งคำถาม พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง

“เปล่าครับ เราไม่เคยมีเรื่องอะไรโกรธเคืองกันแม้แต่น้อย”

เขาตอบ หน้ายังคงระรื่น ยิ่งทำให้ผมรู้สึกงุนงงแกมหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
“ถ้าเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน แล้วนายจับฉันมาทำไม นายเป็นโจรลักพาตัวหรือไง ถ้าต้องการเงินหรือรถก็เอาไปเถอะ แล้วปล่อยฉันไป รับรองฉันไม่เอาเรื่องนายหรอก”

ยื่นข้อเสนอให้เพื่อไถ่ตัวเองให้เป็นอิสระ ถ้าเขาเป็นโจรลักพาตัว เขาก็ต้องเห็นแก่เงินที่ผมหยิบยื่นให้ จะมากเท่าไหร่ ก็ยอมเสีย เงินทองของนอกกาย หาเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ชีวิตสำคัญกว่า ปรากฏว่าเขาส่ายหน้า ไม่มีทีท่าสนใจสิ่งที่ผมเสนอแม้แต่น้อย

“ผมไม่ใช่โจรเรียกค่าไถ่ครับ”

“ไม่ใช่โจร แถมไม่มีเรื่องบาดหมางกัน ถ้างั้นนายจับตัวฉันมาทำไม หรือว่าใครใช้ให้นายมาจับตัวฉัน”

ถามด้วยความงุนงง พยายามนึกว่าเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร หรือเคยทำให้คนบางคนไม่พอใจ จนถึงขนาดปองร้ายกับชีวิตของผมหรือเปล่า แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เท่าที่จำได้ผมไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง หรือทำให้ใครโกรธอย่างรุนแรง
แฟนสาวคนล่าสุดของผม เราก็จากกันด้วยดี แม้ว่าผมจะเสียใจอยู่บ้างที่เธอทรยศผมไปมีคนอื่น ทิ้งให้ผมต้องช้ำใจ แต่ผมก็ไม่คิดจะไปทำร้ายเธอหรือแฟนคนใหม่แต่อย่างใด ส่วนเธอเองก็ไม่น่าจะทำร้ายผม เพราะเธอไม่ได้เป็นฝ่ายถูกทิ้ง ผมต่างหากที่โดนหักหลัง ประเด็นของการแก้แค้นเพราะผิดหวังในความรักจึงน่าจะตัดออกไปได้

กับเจ้านายถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนจู้จี้ขี้โมโห และไม่พอใจการทำงานของผมบ้างในบางครั้ง มันก็แค่เรื่องของงานเท่านั้น เขาเป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่ง โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้เกลียดชังเขา แล้วเขาก็ไม่ได้รังเกียจผมแต่อย่างใด

เวลามีงานรื่นเริงที่บริษัท ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานทำให้ผมต้องนั่งโต๊ะเดียวกับเขาเกือบจะทุกครั้ง เราเคยดื่มเหล้าชนแก้วต่อแก้วด้วยกัน โดยปราศจากความขุ่นเคืองใจ เขามักจะคอยบอกสอนผมเรื่องงานเสมอ ผมให้ความเคารพเขา เราทำงานด้วยกันมานาน จนพอจะรู้นิสัยใจคอกัน เราไม่มีเรื่องบาดหมางกัน จึงเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เขาจะเกลียดชังจนมุ่งร้ายชีวิตผม

ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว และเพราะผมอกหัก จึงทำให้ผมทุ่มเทเอาใจใส่กับงานเพื่อให้ลืมความเจ็บปวด นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว ผมก็แทบจะไม่ได้ไปไหน หรือสังสรรค์กับใคร เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน เล่นกับหมาไปตามเรื่อง ชีวิตของผมค่อนข้างเรียบง่ายไม่ผาดโผน ไม่เป็นหนี้สินใคร ไม่เล่นการพนัน ไม่มั่วสุมอบายมุข กับเพื่อนบ้านก็อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ดังนั้นเมื่อต้องหาเหตุผลให้ตัวเองเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจึงตัดประเด็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งออกไป เหลือเพียงแค่การเรียกค่าไถ่ หรือปล้นทรัพย์อย่างเดียว ทว่าเมื่อคนลักพาตัวผมตอบปฏิเสธก็เลยทำให้ผมสับสนงุนงงมากยิ่งขึ้น

“ไม่มีใครสั่งให้ผมมาจับตัวคุณทั้งนั้นครับ นอกจากตัวผมที่สั่งตัวเองว่าจะต้องจับคุณมาให้ได้ แล้วก็ไม่มีใครร่วมมือกับผมทั้งนั้น ผมจับคุณมาด้วยตัวเองครับ”
เขาตอบด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม จับคนมามัด มาทรมานให้เขาได้รับความเดือดร้อนทั้งกายและใจ แล้วยังยิ้มอยู่ได้ แสดงว่าเลือดเย็นพอควร ไม่คิดเลยว่าคนหน้าตาดีๆอย่างเขาจะทำร้ายคนอื่นได้ลงคอ

แต่อย่างที่มีคนพูดเอาไว้ รู้หน้าไม่รู้ใจ คนที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย กลับกลายเป็นคนร้ายที่ทำเรื่องเลวทรามต่ำช้ามีอยู่เป็นจำนวนมาก มีข่าวลงหนังสือพิมพ์หรือในทีวีให้เห็นบ่อยๆ คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อก็เพราะเชื่อว่าตัวเองดูคนไม่ผิด ทำให้พวกหน้าซื่อใจคดสบช่องทางหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจ หลงเชื่อว่าเป็นคนดี เด็กคนนี้ก็คงจะใช้วิธีแบบเดียวกัน แต่ถึงจะทำดีกับผมแค่ไหน มันก็ยังลบความจริงไม่ได้ที่ว่าเขาคือโจรลักพาตัวผม


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

2. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #1
 
04-Feb-12, 03:08 PM (SE Asia Standard Time)
 
   “ขอเหตุผลหน่อยได้ไหม ทำไมนายถึงจับฉันมาแบบนี้ ในเมื่อเราก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน นายเองก็ไม่ได้เป็นโจร ไม่ได้ถูกใครใช้ไหว้วาน แล้วมันมีเหตุผลอะไรนายถึงต้องจับฉันมามัดด้วย”

อยากรู้คำตอบจากปากเขาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยไม่ต้องคาดเดา ทำไมผมถึงต้องโดนจับตัวมากักขัง หน่วงเหนี่ยวจนสิ้นอิสรภาพ เขาจะแค่จับมัดผมเพื่อข่มขู่เรียกร้องเอาสิ่งที่ต้องการ จะทำร้าย หรือฆ่ากันให้ตายก็ไม่อาจจะรู้ได้

“นายอยากได้ชีวิตของฉันหรือเปล่า”

ในหัวของผมสับสนปนเปกันไปหมดทั้งความหวาดระแวง ความโกรธ และความกลัว อย่างน้อยๆ ถ้าจะต้องตายจริงๆ ผมก็ควรจะได้รู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะอะไร

“หมายถึงอยากฆ่าคุณน่ะหรือครับ”

คิ้วเข้มของเขาเลิกขึ้นขณะถาม ผมพยักหน้าอย่างหวาดๆ เขาหัวเราะกับคำตอบของผม

“ผมอยากให้ชีวิตของคุณเป็นของผม แต่จะไม่มีการฆ่ากันเกิดขึ้นครับ”

ตอบพลางยิ้ม

“จับฉันมาทำไม???”

ถามย้ำเพื่อให้เขาตอบ โจรลักพาตัวนิ่งอึ้งไปนิดหนึ่ง เหมือนจะไม่ตอบ แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจยอมปริปาก ซึ่งก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากมายนัก

“มันเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างไร้สาระนิดหน่อย แต่ผมรับรองว่ามันต้องเป็นเรื่องดีๆสำหรับเราสองคนแน่นอนครับ”

เด็กหนุ่มยิ้มปากกว้างมากกว่าเดิม ตาก็จับจ้องผมไม่วางตา เห็นท่าทางของเขาแล้ว มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดระแวง ถึงแม้เขาจะปฏิบัติต่อผมอย่างดี นอกเหนือจากการจับผมมามัดแล้วก็ไม่มีท่าทีคุกคามอย่างอื่น และจากคำตอบของเขาที่ยืนยันว่าไม่ต้องการทำร้ายผม หรือต้องการเงินทองแต่อย่างใด ก็ทำให้ผมรู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ หน้าตาดี แต่จิตใจอำมหิตก็มีถมไป ผู้คนสมัยนี้สามารถจะฆ่ากันได้ง่ายๆ แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม บางทีเขาอาจจะหลอกผมก็ได้ พอผมเผลอไม่ระวัง เขาก็จัดการกับผมอย่างง่ายดาย

ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของผมจะตายหมดแล้ว เหลือผมอยู่ตัวคนเดียว แต่ผมก็ยังอยากจะอยู่ดูโลกนี้นานๆ การต้องมาตายทั้งที่วัยเพียงแค่ 27 ปี เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ผมยังมีอะไรที่อยากทำอีกตั้งเยอะ ผมยังเห็นโลกไม่มาก ยังอยากท่องเที่ยวไปทั่วโลก
ผมยังไม่ได้สร้างครอบครัว ยังไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเยี่ยงคนร่ำรวยมีเงินหนา ในเมื่อผมยังมีอะไรหลายอย่างที่อยากทำแต่ทำไม่ได้ ผมจึงจำเป็นต้องรักษาชีวิตที่มีค่าน้อยนิดของผมเอาไว้ อย่างน้อยการเจรจาต่อรองมันอาจจะช่วยทำให้ผมมีโอกาสรอดเพื่อที่จะได้กลับไปทำสิ่งที่ต้องการ

“เรื่องดีๆอะไรของนาย ถ้าจะตกลงอะไรกันทำไมต้องจับฉันมัดด้วย”

คำถามของผมไม่ได้รับการตอบ เขาเพียงแต่นั่งยิ้ม ตาเป็นประกายขณะจ้องมองผม จนผมรู้สึกฉุน

“ปล่อยฉันเถอะ แล้วเราค่อยมาพูดกันว่านายต้องการอะไร อยากได้รถ อยากได้เงิน แก้วแหวนเงินทองของมีค่า อะไรก็ตามที่ฉันมี ฉันก็พร้อมจะให้นายหมด ขอเพียงปล่อยตัวฉัน อย่าจับฉันมัดอย่างนี้”

พยายามข่มความโกรธ ขอร้องวิงวอนเขา ในเมื่อเราไม่มีอะไรที่ผิดใจกัน หากผมพูดดีๆกับเขา หว่านล้อมเขาได้ และให้ในสิ่งที่มีค่ามากพอ เขาก็น่าจะปล่อยตัวผมไป

“ฉันพูดจริงๆนะ”

ย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นโจรหนุ่มยังเงียบ กลัวว่าเขาจะเข้าใจว่าผมแค่พูดเพื่อเอาตัวรอด แต่ผมตั้งใจจะให้เขาจริงๆ และไม่เอาเรื่องกับเขาด้วย เพราะเห็นว่าเขายังเด็กอยู่ และไม่มีท่าทางร้ายกาจเหมือนโจรเลยแม้แต่น้อย เขาอาจจะแค่หลงผิดไปเท่านั้น หรือไม่ก็กำลังขัดสนเดือดร้อน บางทีถ้าเขาได้เงินเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาอาจจะกลับตัวกลับใจกลายเป็นคนดีของสังคมก็ได้

“อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ดีกว่าครับ สิ่งที่ผมต้องการจากคุณน่ะมีแน่ อยู่ที่ว่าคุณจะสามารถให้ผมได้หรือเปล่าเท่านั้น”

คำพูดแฝงนัยที่มาพร้อมกับตาวาววามของเขายิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจมากยิ่งขึ้น อะไรคือสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้ต้องการจนถึงขั้นจับผมมามัด ขอร้องกันดีๆไม่ได้เหรอ ถ้าผมมีผม และผมให้ได้ ผมให้เขาอย่างแน่นอน ไม่ต้องจับมามัดอย่างนี้หรอก

“ก็บอกมาสิว่าอะไร ถ้าฉันมี ฉันให้นายได้แน่”

ผมเอ่ยปากถามอย่างสงสัย

“แต่นายต้องปล่อยฉันก่อน ตกลงเจรจากันแบบนี้ คุยกันไม่รู้เรื่องแน่”

เขายกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก ส่ายหน้าเป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่ต้องการพูดเรื่องนี้ แล้วหันไปหยิบถาดมาวางบนตักตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ผมขออนุญาตที่จะไม่แก้มัดมือให้คุณนะครับ เพราะไม่อยากให้คุณหนี แต่เพื่อให้คุณทานข้าวได้ ผมจะอาสาเป็นคนป้อนข้าวให้เอง”

เขาใช้ช้อนตักโจ๊กในถ้วยยื่นมาที่ตรงหน้าผม แต่ผมไม่อยากกินอาหารที่เขาป้อนให้ อยากตกลงพูดคุยกันก่อน ผมไม่อาจจะทนใจเย็นกินข้าวเช้าทั้งที่ไม่รู้อนาคตของตนเอง จึงเบี่ยงหน้าหนี เม้มปากแน่น ตั้งใจว่าจะไม่ยอมกินจนกว่าผมจะได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระหรืออย่างน้อยก็ได้รู้ว่าตัวเองถูกจับมาเพื่อจุดประสงค์ใด
มีเสียงหัวเราะเบาๆจากคนข้างๆ ดังให้ได้ยิน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

3. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #2
 
04-Feb-12, 03:10 PM (SE Asia Standard Time)
 
   “พยศจริงเชียว ไม่กินข้าวปลา ระวังจะเป็นโรคกระเพาะถามหานะครับ เราต้องกินอาหารให้ครบสามมื้อนะ โดยเฉพาะอาหารเช้าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก”

เขาวางช้อนลงหลังจากพูดจาเชิงสอนผมเสร็จ แล้วยื่นมือมาใกล้ใบหน้าผม จากนั้นจึงใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งของตัวเองบีบปลายคางผมเบาๆ บังคับให้หน้าหันมาทางเขา ผมมองเขาตาขุ่น รู้สึกโกรธที่เขาไม่ยอมปล่อยตัวผมแถมยังมาล่วงเกินแตะเนื้อต้องตัวผมอีก แต่เขากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำหูตาแพรวพราวใส่ ยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิม ขณะโน้มน้าวให้ผมยอมกินอาหารที่เขาป้อนให้

“ทานเสียหน่อยนะครับ ไม่ทานอะไร ร่างกายจะแย่นะครับ หรือว่ากลัวผมจะใส่ยาให้กิน”

โจรลักพาตัว ถามผมด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ตาหวานๆจ้องมองผมฉ่ำเยิ้ม จนผมรู้สึกกังวลกับสายตาเจ้าชู้ของเขาที่มองมา ไอ้เด็กคนนี้ ทำท่าทางเหมือนคนบ้ากามมาก จุดประสงค์ที่ลักพาผมมาก็ไม่แน่ชัด ทำให้ผมรู้สึกกลัวว่าเขาจะทำอย่างอื่นกับผม นอกเหนือจากการจับตัวมาเรียกค่าไถ่

“ผมไม่ๆได้ใส่ยาอะไรให้คุณหรอกน่า ทั้งยาพิษ ยานอนหลับ ยาปลุกเซ็กส์ไม่มีทั้งนั้น”
ปากเขาฉีกยิ้มกว้างมากกว่าเดิม ดูเหมือนเขากำลังขำผม

“ไม่ทานข้าวก็ไม่มีแรงนะ จะสู้รบปรบมือกับใครก็คงไม่ไหว”

น้ำเสียงยั่วเย้าดังมาให้ได้ยินอีก จนผมเริ่มรู้สึกโกรธเคืองคนที่มัดผมมากยิ่งขึ้น

“แล้วสถานการณ์ของฉันตอนนี้ มันดีกว่าหรือไง”

ย้อนถามเสียงขุ่น โมโหที่เขาไม่ยอมแก้มัดให้ ไม่ยอมตอบคำถามของผม แอบแตะต้องตัวผม แถมยังบังคับให้ผมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่ถามผมสักคำว่าผมอยากทำหรือไม่ ผมไม่พอใจ และไม่อยากฝืนพูดดีกับคนที่จับตัวผมมาอีกแล้ว

“ไม่มีอะไรที่ดูเลวร้ายนี่ครับ”

ไอ้หนุ่มนั่นยักไหล่ พลางยิ้มทะเล้นให้ ผมกระแทกมือเข้ากับหัวเตียง แล้วสะบัดแข้งขา ให้เขาดู ก่อนจะพูดด้วยเสียงโกรธจัด มีความคิดใหม่ๆอยู่ในหัวของผม เจ้าเด็กคนนี้ดูแล้วคงอายุไม่มากสักเท่าไหร่ ถ้าผมแข็งใส่ แล้วขู่เขาเยอะๆ เขาอาจจะกลัวความผิดจนปล่อยผมก็ได้

“นี่นะไม่เรียกว่าเลวร้าย นายจับฉันมัด ไม่ให้ฉันได้มีอิสระ แล้วยังจะมาลอยหน้าลอยตาพูดยังกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้ไหมสิ่งที่นายกำลังทำอยู่มันเรียกว่า

อาชญากรรม นายจะต้องถูกจับ และนายจะต้องติดคุก”

เขายังคงยิ้ม ไม่พูดอะไร ท่าทางไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของผมสักนิด มันเลยยิ่งทำให้ผมคลั่งหนัก ร้องสั่งเสียงดังลั่น

“ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นนายโดนดีแน่”

“จะทำอะไรผมหรือครับ”

คิ้วหนาเข้มเลิกขึ้นสูง นอกจากจะไม่แสดงอาการว่ากลัวแล้ว ยังหัวเราะใส่ผมราวกับขำเสียเต็มประดา

“ฉันจะแจ้งความจับนาย ข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยวให้หมดอิสรภาพ และทำร้ายร่างกาย”

ขู่เขาเสียงดัง

“โห...แต่ละข้อหาที่ยัดเยียดมานี่ ผมคงเข้าไปอยู่ทัณฑ์สถานสำหรับเด็กและเยาวชนหลายปีแน่ๆ แต่ไหนๆ จะโดนจับทั้งที เพิ่มข้อหาข่มขืนกระทำชำเราไปด้วยดีไหมครับ”

ไอ้เด็กบ้านั่นขู่กลับมาเสียงเข้มกว่า แล้วส่งยิ้มเหี้ยมเกรียมมาให้ ตามองผมอย่างโลมเลีย ไล่มาตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ และอ้อยอิ่งแถวกลางลำตัวของผม ก่อนจะตวัดสายตาหื่นๆขึ้นมามองผมอีกครั้ง

ผมมองหน้าเด็กหนุ่มแล้วนึกตกใจที่ได้ยินคำตอบนั้น ยิ่งเห็นสายตาของเขาก็ยิ่งตระหนกมากกว่าเดิม นึกโทษตัวเองที่แสดงอารมณ์โกรธออกไปจนทำให้เด็กหนุ่มไม่พอใจ ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผมจำเป็นต้องนิ่งเงียบ และพูดจาดีๆกับเขา เพื่อลดความโกรธเกรี้ยวของเด็กหนุ่มลง อย่าให้ต้องถึงขนาดลงไม้ลงมือฆ่าแกงหรือข่มขืนกระทำชำเราเลย ผมเองก็รักชีวิต ยังอยากอยู่ดูโลกนี้ต่อไปอีกนาน และไม่อยากเสียตัวให้กับโจรลักพาตัวคนนี้

“อย่าเลย ทำแบบนั้นไม่ดีหรอก นายยังเป็นเด็ก อนาคตน่าจะสดใสกว่านี้ อย่าให้มันต้องไปจบในสถานกักกันเยาวชนเลยนะ”

ร้องห้ามออกไปปากคอสั่น อย่างน้อยๆก็เตือนสติเขาไม่ให้ทำตามใจคิด

“นายต้องการอะไรก็บอกมา เงินทองข้าวของอยากได้ก็เอาไป ฉันยกให้ ไม่ติดใจเอาความด้วย แต่ขอให้ปล่อยฉันไปจากที่นี่ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ไปแจ้งความ จะลืมเรื่องทั้งหมด เหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”

ผมลดน้ำเสียงให้ดูอ่อนลง กลับคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ พร้อมเสนอที่จะให้เงินกับรถ และข้าวของที่ติดตัวผมมา เพื่อแลกกับอิสรภาพ เด็กหนุ่มส่ายหน้า ท่าทางไม่ได้ใส่ใจกับข้าวของเงินทองของผมเหมือนเดิม

“สิ่งนั้นไม่มีค่าสำหรับผม”

“มันน้อยไปหรือไง ฉันไม่มีสมบัติติดตัวมามากหรอกนะ ถ้าจะเอาจากฉันตอนนี้ ฉันคงไม่มีให้ ต้องรอให้ฉันกลับบ้านก่อน”

รีบบอกเขา ยังไงก็ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ เสียเงินเสียทองช่างมันไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าตายแล้ว ต่อให้มีสมบัติมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์

“เอาอย่างนี้ นายบอกมาว่านายต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันพอจะมีสะสมอยู่บ้างในธนาคาร ถ้านายก็ปล่อยฉันไป พอฉันถึงบ้านปุ๊บ ฉันก็จะโอนเงินให้นายตามที่ต้องการทันที”


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

4. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #3
 
04-Feb-12, 03:13 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พยายามหว่านล้อม ด้วยการเสนอเงินสะสมทั้งหมดที่ผมมีอยู่ให้กับเด็กหนุ่ม ผมหวังว่ามันคงมีค่ามากพอเมื่อเทียบกับชีวิตของตัวเอง เพราะถ้าเขาฆ่าแกงผม เขาก็จะไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้าเขายอมตกลงเขาก็จะมีเงินไปใช้ และผมก็คิดว่าจะไม่แจ้งความอะไรด้วย ถือเสียว่าเป็นการฟาดเคราะห์ให้กับตัวเอง เขาก็จะได้ทั้งเงิน และอิสรภาพนอกคุก

แทนที่เขาจะตาโต เจ้าโจรลักพาตัวกลับหงายหน้าหัวเราะราวกับว่าได้ฟังเรื่องตลก

“อายุเท่าไหร่แล้วคุณ ทำไมถึงได้คิดว่าคนอื่นจะเชื่อคำพูดของคุณ ถ้าผมปล่อยคุณไป คุณก็เอาตำรวจมาลากคอผมน่ะสิ ผมถูกคุมขัง ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนคุณก็ลอยนวลหนีผมไปโดยง่าย ...ใครเชื่อก็บ้าแล้ว”

เขาทำเป็นรู้ทัน ท่าทางไม่ใช่คนโง่สักเท่าไหร่ อันที่จริงผมยังไม่ได้คิดถึงประเด็นนั้น คิดแค่ว่าถ้าเขายอมปล่อยผมไปดีๆ ผมก็คงไม่เอาเรื่องเอาราวอะไร ท่าทางเขาไม่เหมือนโจรมืออาชีพ ยังดูเป็นเด็กที่น่าจะยังเรียนไม่จบ เขาอาจจะเดือดร้อนอะไรบางอย่างจนต้องจับผมมา ผมไม่อยากจะตัดอนาคตของเขา แค่อยากรู้ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม ถ้าเหตุผลพอรับได้ ผมก็คงปล่อยเขาไป ไม่เอาความ

ทว่าพอเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันของเขา เมื่อได้ฟังผมพูดจบ มันก็ทำให้ผมเกิดเปลี่ยนใจ เด็กนี่คงไม่ใช่คนใฝ่ดีอย่างที่ผมคิด เขากล้าที่จะจับตัวผมมาได้โดยไม่กลัวโดนจับ แสดงว่าเขาอาจจะเคยทำเรื่องเหล่านี้มาก่อน เขาอาจจะเป็นอาชญากรเด็กก็ได้ ความอ่อนเยาว์และท่าทีสุภาพไม่ได้การันตีว่าคนนั้นจะต้องเป็นคนดี ถ้าผมหนีรอดออกไปได้ คงจะต้องแจ้งความให้ตำรวจมาเอาโทษกับเขา เพราะไม่อยากให้เขาทำแบบนี้กับเหยื่อรายอื่นๆอีก

“ก่อนที่เราจะตกลงเจรจากัน ผมอยากจะแก้ความเข้าใจผิดจากคุณสักเรื่องหนึ่ง ก่อนที่คุณจะคิดไปใหญ่โต”

เด็กหนุ่มโน้มตัวลงมา และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ตาหวานพราวระยับ

“มองหน้าผมสิ.......”

เขาบังคับให้ผมมองหน้าเขาด้วยการใช้สองมือประคองหน้าผมไว้ ผมจะหันหนีก็ไม่ได้ เพราะมือแข็งแรงของเขากดที่หน้าผมอยู่

“ผมหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้ หุ่นก็ดี เสียงก็เพราะ เป็นพระเอกหนัง นักร้อง หรือ นายแบบก็ยังได้ มีหนทางหาเงินได้มากมายกว่าการเป็นโจรเรียกค่าไถ่ หรือมือปืนเสียอีก ได้เงินดี แถมซ้ำไม่ต้องเสี่ยงต่อคุกตารางด้วย...แล้วผมจะเป็นโจรผู้ร้ายไปเพื่ออะไร ลองใช้สมองของผู้ใหญ่ของคุณคิดดูสิ”

เด็กหนุ่มพูดทำนองประชดประชัน ผมมองหน้าเขาและเห็นคล้อยตาม เจ้าหมอนี่หน้าตาดีจริงๆ ยิ่งเห็นใกล้ๆก็ยิ่งรับรู้ได้ว่าหน้าตาของเขาหล่อเหลาเหมือนเทพสร้าง หล่อๆอย่างนี้ แค่เดินเข้าสู่วงการบันเทิงก็จับเงินแสนเงินล้านได้สบาย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเที่ยวจับตัวคนมาเรียกค่าไถ่ให้เสียประวัติตัวเอง

“แล้วผมก็ไม่ได้จับตัวคุณมาเพื่อต้องการเงิน หรือต้องการทรัพย์สินอะไรทั้งนั้น... เข้าใจไว้ด้วย”

เขาพูดอย่างหยิ่งๆ ก่อนจะคลายมือที่จับหน้าผมออก

“ถ้านายไม่ได้เป็นโจรลักพาตัวคนมาเรียกค่าไถ่...งั้นนายจับฉันมาเพื่ออะไร นายมีเรื่องโกรธแค้นฉันรึ หรือมีใครที่แค้นเคืองฉันอยู่ จ้างวานนายให้มาเก็บฉันใช่ไหม”
ซักถามอย่างอยากรู้ เพื่อประเมินสถานการณ์ตัวเองว่า มีโอกาสที่จะเอาตัวรอดหรือไม่ ถ้าหากมีใครจ้างวานเขามา ผมก็จะเสนอค่าจ้างที่มากกว่า และหากเรามีเรื่องเข้าใจผิดกันโดยที่ผมไม่รู้ ก็จะได้หาโอกาสเคลียร์กัน เขาจะได้เลิกเข้าใจผิดและปล่อยตัวผมไปเสียที

เด็กหนุ่มหัวร่องอหายกับคำถามของผม แม้จะรู้สึกขุ่นเคืองใจนิดๆแต่ผมก็ไม่กล้าแสดงความรู้สึกอะไรออกมา ด้วยกลัวตัวเองไม่ปลอดภัย และเหนือสิ่งอื่นใด ผมกลัวจะถูกเขาข่มขืนจริงๆ

“ไม่ใช่อีกนั่นแหละ ผมไม่ได้มาเอาชีวิตคุณเพราะใครจ้างวานมาหรอก ผมจับคุณมาด้วยเหตุผลส่วนตัวของผมเอง”

ตอบเหมือนเมื่อครู่นี้ เพียงแต่ไม่บอกรายละเอียด ยิ่งทำให้ผมรู้สึกคับข้องใจเป็นอย่างมาก

“เหตุผลอะไรของนาย”

ถามด้วยความงุนงง เหตุผลส่วนตัวที่เขาว่ามันคือเรื่องใดกันหนอ ไม่ใช่โจร ไม่ต้องการเงิน ไม่ได้ถูกใช้ไหว้วานมา ทำเองด้วยความสมัครใจ แล้วมันจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาต้องจับตัวผมมา หน้าตาของเขาผมก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ไปทำร้ายอะไรเขาแน่ๆ

“ทานข้าวก่อน แล้วผมจะบอก”

เด็กหนุ่มไม่ตอบ กลับเฉไฉไปเรื่องอื่น ยิ่งทำให้ผมหัวเสียมากยิ่งขึ้น

“จะบอกตอนไหนก็เหมือนกัน ช้าหรือเร็วนายก็ต้องบอกฉันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่บอกฉันมาเสียตอนนี้เลย จะได้หมดเรื่องหมดราวกันไปซะที”

“ก็นั่นน่ะสิ ยังไงคุณก็ต้องได้รู้ แล้วจะรีบร้อนทำไม ทำใจให้สบาย ทานข้าวทานปลาให้อิ่มท้อง ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่เครียดเวลาผมเล่าให้ฟัง”

เขาย้อนกลับ พลางยิ้มทะเล้น

“ฉันไม่กิน ฉันอยากพูดคุยกับนายให้รู้เรื่องว่าจับฉันมาทำไม”

ผมปฏิเสธ เขายักไหล่แล้วพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย

“ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะที่จะยอมอดข้าว เดี๋ยวน้ำย่อยกัดกระเพาะคุณจนเป็นแผลหรอก เรื่องทุกอย่างมันจะดูยุ่งขึ้น เพราะคุณไม่ให้ความร่วมมือ แล้วคุณก็อาจจะถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวให้อยู่ในบ้านนี้ต่อไป อยู่กับผม ไม่ต้องออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันกันอีก”

“พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าทางนาย”

ร้องห้ามเสียงดัง เริ่มรู้สึกชังน้ำหน้าเด็กหนุ่มคนนี้มากขึ้น นอกจากจะปล่อยให้ผมถูกมัดแผ่หลาอยู่บนเตียง ปวดเมื่อยมือไปหมด เขายังพูดจาโยกโย้ถ่วงเวลาอยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่ผมจะได้รู้เสียทีว่าตัวเองถูกจับมามัดติดกับเตียงเพราะอะไร

“ไม่ว่าฉันจะปฏิเสธอย่างไร นายก็คงไม่ฟังใช่ไหม เพราะนายจับฉันมาเพื่อบังคับขู่เข็ญให้ทำตามใจนายอยู่แล้วนี่”

อดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชันเขา แต่ครั้นจะดื้อดึงต่อไป ก็กลัวว่าเขาจะทำตามที่พูดจริงๆ จับผมขังเอาไว้ เจ้าเด็กนี่อาจจะทำมิดีมิร้ายกับผมก็ได้

“ถ้าฉันกินข้าว นายก็จะบอกใช่ไหม ว่าจับฉันมาทำไม แล้วนายก็จะปล่อยฉันใช่ไหม”

ข่มความโกรธเคืองถามออกไปหลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คงไม่มีทางไหนที่จะเอาตัวรอดได้นอกจากยินยอมโจรลักพาตัวไปก่อน แต่เพื่อไม่ให้เขาโยกโย้ได้อีก ผมจึงต้องการคำยืนยันว่าเขาจะปล่อยผม จำเป็นต้องยอมทำตามบางอย่างเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และเผื่อว่าผมจะมองเห็นลู่ทางที่จะหนีไปจากที่นี่ได้

ถ้าตัดความรู้สึกไม่พอใจที่ถูกบังคับข่มขู่ออกไป การกินข้าวให้เขาเห็น เพื่อที่เขาจะได้สบายใจแล้วยอมเล่าทุกอย่างให้ฟังก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร ผมทำได้อยู่แล้ว

“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ขึ้นอยู่กับการร่วมไม้ร่วมมือของคุณ ถ้าทำตัวดีๆ ก็ถูกปล่อยตัวเร็ว”

เด็กหนุ่มยักไหล่ แล้วทำหน้ายียวน แม้จะเป็นคำตอบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ผมก็เห็นว่ามันเป็นโอกาสที่จะเป็นอิสระ ผมควรจะคว้ามันเอาไว้ ดังนั้น ผมจึงฝืนใจยินยอมทานข้าวเช้าที่เขาเตรียมมาให้โดยไม่พยายามแสดงความหงุดหงิดออกมา

“แก้มัดฉันก่อนสิ ทำอย่างนี้ฉันจะกินได้อย่างไรล่ะ”

ต่อรองอีก เพื่อหาทางหนีทีไล่ ถึงตัวผมจะเล็กกว่าเขา แต่ถ้าหากใช้ช่วงเวลาที่หมอนี่เผลอไม่ทันระวังตัว ผมอาจจะสู้ชนะได้

เขาส่ายหน้า ยิ้มกรู้มกริ่ม ท่าทางไม่เชื่อใจผม

“ผมไม่โง่หรอกนะ ถ้าผมปล่อยมือคุณเป็นอิสระ คุณก็จะก่อเรื่องขึ้นมา ด้วยการพยายามหนี ผมไม่ไว้ใจคุณ อุตส่าห์เสี่ยงตายไปจับคุณมา ขืนปล่อยให้หนีง่ายๆก็เหนื่อยฟรีน่ะสิ”

ช้อนถูกยื่นมาใกล้ๆปากของผมอีกครั้งหลังเด็กหนุ่มพูดจบ

“ผมจะเป็นฝ่ายป้อนคุณเอง”

เขาสรุปเอาดื้อๆ แววตาของเขาที่มองมา มันมีประกายบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Lola( Katesnk Fc.)
Guest

5. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #4
 
05-Feb-12, 10:46 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แวะมาให้กำลังใจพี่เคธค่ะ นิยายเรื่องนี้อ่านกี่ทีก็ไม่มีเบื่อนะคะ

ใครที่เป็นแฟนคลับของพี่เคธเจอกันที่เคธคาเฟ่นะคะ แล้วไปคุยกันชิลชิลค่ะ

http://www.ohlalamag.com/.a/6a00e54fb7301c8834015435a1e94a970c-800wi


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

6. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #5
 
08-Feb-12, 01:32 AM (SE Asia Standard Time)
 
   >แวะมาให้กำลังใจพี่เคธค่ะ
>นิยายเรื่องนี้อ่านกี่ทีก็ไม่มีเบื่อนะคะ
>
>ใครที่เป็นแฟนคลับของพี่เคธเจอกันที่เคธคาเฟ่นะคะ
>แล้วไปคุยกันชิลชิลค่ะ
>
>
>
>http://www.ohlalamag.com/.a/6a00e54fb7301c8834015435a1e94a970c-800wi


สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ดีใจที่ได้เจอแฟนๆของเดียร์กับเรียวนะคะ
ว่าแต่ เคธ คาเฟ่ อยู่ไหนคะ ??????

ไปคุยด้วย


ตอบช้า....เพราะติดแอดมิน 5 งงมาก ยังไม่ทันโพสต์ ก็ติดแระ งง????


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

7. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #6
 
25-Mar-12, 01:31 AM (SE Asia Standard Time)
 
   สวัสดีค่ะ หายไปเสียนาน คอมเสียด้วย แล้วก็ติดแอดมิน 5 ด้วย T_T วันนี้ลองเสี่ยงโพสต์ดูอีกสักครั้ง จะติดหรือเปล่าหนอ

ว่าแต่ห้องนี้เงียบจัง ......

.................................................

"จะดีเหรอ"

ผมทำเสียงขึ้นจมูก

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ"

"เอาน่า นึกเสียว่าทำตัวเป็นเด็กดีสักวัน ผมจะได้ใจอ่อนไง"

เขายิ้มยั่ว ผมทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ก็ยอมให้เขาป้อนข้าวโดยดี ผมกินไปได้แค่คำสองคำ ก็ทำท่าจะอิ่ม แต่เขาทำท่าไม่พอใจ ผมเลยต้องฝืนกินข้าวที่เขาป้อนให้จนหมด เพราะกลัวว่าหากขัดใจเขามากๆ ผมจะไม่ได้รับอิสรภาพ

เขารินน้ำให้ผมดื่ม เมื่อผมทานโจ๊กจนเกลี้ยงถ้วย เขามีสีหน้าพอใจที่ผมว่าง่าย เมื่อผมดื่มน้ำเสร็จ ผมก็ทวงสัญญากับเขา

"เอ้าทานเสร็จแล้ว ก็บอกมาซะทีสิ"

เขาทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด กลับมองสำรวจไปทั่วเรือนร่างของผม แล้วพูดว่า

"คุณยังไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่เมื่อวาน เดี๋ยวผมจะไปเอาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้"

"นี่อย่ามาเฉไฉเปลี่ยนเรื่องสิ นายสัญญากับฉันแล้วว่า ถ้าฉันยอมทานอาหารที่นายป้อน แล้วนายจะบอกทุกอย่าง"

ผมเสียงแข็งใส่เขา ชักนึกโมโหขึ้นมาแล้ว

"ใจเย็นๆน่า ผมก็รักษาคำพูดเป็นเหมือนกันนะ แต่ผมอยากให้คุณอยู่ในสภาวะจิตใจที่ผ่องใสเบิกบานมากกว่านี้ เวลาที่คุณฟังสิ่งที่ผมพูด คุณจะได้ไม่หงุดหงิดมากอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้"

เด็กหนุ่มพูดยิ้มๆ ท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับอารมณ์โกรธของผมที่ก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ

"นี่ คนที่ถูกจับมาโดยที่ไม่รู้ว่าเราเคยไปทำอะไรไว้กับใครจนเขาไม่พอใจบ้างอย่างฉันนี่ จะมาเที่ยวทำเป็นอารมณ์ดี เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติไม่ได้หรอก ถ้านายปล่อยมัดฉัน ฉันก็อาจจะอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง นายปล่อยฉันสิ......"

"นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ"

เขาส่ายหน้าแล้วยิ้มกวนๆ

"แต่ถ้าคุณยอมเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หายมอมแมมกว่านี้ ผมก็อาจจะปล่อยให้คุณได้เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง.........."

......................................................

เขาพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วก็นั่งจ้องหน้าผมเงียบๆ ผมเบือนหน้าหนีเขา เม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากจะเจรจาต่อรองกับหมอนี่สักเท่าไหร่ โจรก็ยังเป็นโจรอยู่วันยังค่ำ

ผมไม่เชื่อว่าเขาจะทำตามสัญญา แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการยอมทำตามในสิ่งที่เจ้านี่บอก ถึงแม้จะฝืนใจก็ตาม แต่ก็เพื่อรักษาชีวิตตนเองไว้

"ก็ได้ ดีเหมือนกัน ฉันก็เหนียวตัวอยู่พอดี แต่นายต้องรับปากนะ ว่าพอเช็ดเนื้อตัวเสร็จ แล้วนายจะปล่อยฉัน แล้วก็บอกฉันทั้งหมด"

ผมบอกเขาเสียงแข็ง ตาจ้องเขาเขม็ง พยายามบอกเขาด้วยสายตาว่า ถ้าเขาโกหก คงได้มีเรื่องกันแน่ อันที่จริงก็แกล้งทำเข้มไปงั้นแหละ ในใจนึกหวาดวิตกอยู่ หากไอ้หมอนี่ ไม่มีความดีในใจหลงเหลืออยู่บ้าง การพูดกระด้างเช่นนี้กับเขาก็วอนให้เจ็บตัวได้เหมือนกัน

"ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ"

เขาทำท่าตะเบ๊ะและยิ้มประจบประแจงอีกครั้ง ผมแอบนึกในใจ ถ้ายื่นมือออกไป หมอนี่จะเอา ขาหน้า เอ๊ย มือของเขาวางบนมือของผมไหมหนอ แล้วเขาจะแลบลิ้น แผล่บๆ แล้วก็แกว่งหางไปมาไหมนะ ท่าทางหมอนี่ เหมือนหมาตัวโตๆ ที่ขี้อ้อนยังไงไม่รู้

"งั้นให้ผมเช็ดตัวให้นะ ผมรับรองว่า จะเช็ดตัวให้สะอาดสะอ้านเลย"

เขาทำท่าอ้อนขอผม เจ้าโจรนี่ มันประสาทพิลึก เป็นโจรโรคจิตหรือเปล่านะ ผมชักแหยงเสียแล้วสิ

"ไม่ต้อง ก็ปล่อยฉันสิ ฉันเช็ดตัวเองได้ แก้มัดฉันก็พอ "

"เรื่องอะไร พอคุณเป็นอิสระ เดี๋ยวคุณหนีผมไป ผมจัดการให้คุณเองดีกว่า"

เขาทำหน้าทะเล้นใส่ผม ก่อนที่จะลุกเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุด ผมเพิ่งสังเกตห้องนี้อย่างละเอียด จากการตกแต่ง ผมว่าผมต้องอยู่ที่บ้านพักที่เป็นแฟลต หรืออพาร์ตเม้นท์ที่ไหนสักแห่ง

เขากลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวที่ชุบน้ำจนเปียกชื้นและบิดน้ำออกแล้ว เขานั่งลงบนเตียง แล้วเอื้อมมือมาที่เสื้อเชิ้ตที่ผมใส่อยู่ ผมมองตามมือของเขา ก่อนที่เขาจะปลดกระดุมเม็ดแรกออกจากเสื้อของผม ผมก็ระล่ำระลักพูดขึ้นว่า

"นี่นาย ไม่ต้องถึงขนาดเช็ดตัวให้ฉันหรอกนะ ปล่อยฉันเถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่หนี นายแก้มัดให้ฉันเช็ดตัวเอง แล้วค่อยมัดกลับก็ได้"

"เฉยเหอะน่า แล้วทุกอย่างจะดีเอง ยิ่งพูดมาก ก็จะยิ่งยุ่งนะ"

"แต่นี่มันเกินไปหน่อยแล้วนะ"

ผมทำเสียงโกรธๆ

เขาหันมาทำหน้าบึ้งใส่ผม

"เมื่อไหร่จะเลิกสติแตกเสียทีนะคุณ แทนที่จะโวยวายให้มันเสียเรื่อง ก็สู้นั่งนิ่งๆ
ให้ผมจัดการมันให้เสร็จสิ้นไปซะ แล้วผมก็จะได้ปล่อยคุณ พร้อมบอกในสิ่งที่อยากรู้ ยิ่งคุณเล่นตัวกระบิดกระบวนแบบนี้ การที่คุณจะเป็นอิสระ มันก็จะกลายเป็นเรื่องยากนะ เพราะผมอาจจะไม่พอใจ แล้วมัดคุณไว้แบบนี้ตลอดเลยก็ได้"

เขาทำเสียงดุ ผมเลยปิดปากเงียบ ไม่อยากขัดใจเขา กลัวหมอนี่โมโหขึ้นมา ปาดคอผมตายคาเตียง ผมยังไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ด้วยเรื่องสยดสยองแบบนี้ นึกในใจว่า เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ทนอับอายนิดหนึ่ง เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

8. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #7
 
25-Mar-12, 01:34 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เจ้าโจรลักพาตัว แกะกระดุมเสื้อผมออกทุกเม็ด แล้วแบะเสื้อออกจากกัน เขาเอาผ้าชุดน้ำค่อยๆเช็ดเนื้อตัวของผม เริ่มจากใบหน้า ลำคอ แล้วเลื่อนต่ำลงมาที่แผ่นอก หน้าท้องเหนือกางเกงที่ผมใส่ไปทำงาน แขนทั้งสองข้าง และมือที่ถูกพันทนาการไว้กับหัวเตียง ตัวของเขาโน้มเข้ามาใกล้ชิด ใบหน้าของเขาห่างจากผมไม่กี่คืบ

ใกล้จนกระทั่งไออุ่นจากลมหายใจของเขาเป่ารดหน้าและต้นคอของผม ผมจับจ้องมองเขาอย่างไม่วางตา กลัวว่าเขาจะทำอะไรเกินเลย อยู่ๆเขาก็เงยหน้ามายิ้มให้ผม มันเหมือนยิ้มของเด็กๆเวลาที่ได้เล่นของเล่นที่ถูกใจ

"เอาล่ะข้างบนเสร็จแล้ว ก็เหลือแต่ข้างล่าง"

เขาทำหน้าทะเล้น ยิ้มเห็นฟันขาวสะอาด และลักยิ้มข้างแก้มของเขา ผมใจหายแว๊บ ส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ยินยอม แล้วพยายามเบี่ยงตัวหนีมือของเขาที่ยื่นมาตะปบที่เข็มขัด พยายามหนีบขาให้ชิดกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ กริยาของผมเหมือนผู้หญิงที่กำลังดิ้นรนป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากการถูกข่มขืน

"ไม่เอา ไม่ต้องเช็ดหรอก" ผมบอกเขาเสียงดังลั่น

"มันจะอับแย่นะ ไม่ดีหรอก ทำความสะอาดให้ดูสดชื่นดีกว่า"

เขาไม่ฟังสิ่งที่ผมพูดแม้ผมจะบ่ายเบี่ยงอย่างไรก็ตาม ผมพยายามเบี่ยงเอวดิ้นหนีมือเขา ทำให้เขาถอดเข็มขัดไม่ถนัด เด็กหนุ่มเลยเปลี่ยนจากการนั่งตะแคงข้างเป็นก้าวขึ้นมานั่งบนเตียง แล้วกางขาออกกว้างคร่อมทับร่างกายท่อนล่างตั้งแต่หน้าขาลงมาของผมไว้

จากนั้นเขาก็ใช้ขาทั้งสองข้างกดทับขาของผมไม่ให้ดิ้นหนีได้ เขาปลดเข็มขัดผมออก แล้วปลดตะขอกางเกง แล้วรูดซิบลง เจ้าเด็กลูกครึ่งค่อยๆรูดกางเกงของผม ลงไปที่หน้าขา และก่อนที่ผมจะทันห้าม เขาก็รูดเจ้ากางเกงในสีขาว ปราการด่านสุดท้ายของผมลงมา ผมเบือนหน้าหนีไปอีกทาง หลับตาลง ด้วยความรู้สึกอับอายที่ต้องเปลือยร่างต่อหน้าคนอื่น

อันที่จริง ผมก็ไม่ใช่คนขี้อายอะไรนัก ผมเคยเปลือยกายต่อหน้าเพื่อนผู้ชายด้วยกันเวลาที่เราอยู่ในห้องอาบน้ำ หลังจากเล่นกีฬาด้วยกันจนเหงื่อโชก กับผู้หญิงเวลาที่มีอะไรกัน ผมก็ชอบที่จะเปลือยกายให้เธอเห็น แต่ต้องไม่ใช่ในสถานการณ์ที่ดูอิหลักอิเหลื่อแบบนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าคนแปลกหน้าที่ลักพาตัวผมมาอย่างไม่มีวัตถุประสงค์แน่ชัด

"น้องชายของคุณสวยจังเลย ไม่ใหญ่มาก แล้วก็ไม่เล็กเกิน ดูน่าทะนุถนอม ผิวพรรณก็นุ่ม
ไม่มีเส้นเอ็นปูดโปนให้เห็นเลย ป่าของคุณก็ไม่รกทึบจนเกินไป ดูเป็นป่าละเมาะสวยดี"

เขาพูดยิ้มๆ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่น้องชายของผมสักพัก จากนั้นเขาก็หันมาส่งสายตาหวานเยิ้มให้ มือที่จับผ้าขนหนู เลื่อนจากหน้าท้องที่เขากำลังเช็ดถูลงต่ำมาถึงท้องน้อย แล้วหยุดนิ่งไม่ไปที่อื่น นอกจากวนเวียนเช็ดถูอยู่กับเจ้าหนูน้อยของผม

ผมอายหน้าแดงก่ำ เปลือยกายให้ผู้ชายด้วยกันมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ก็แย่พออยู่แล้ว แถมซ้ำเจ้าโจรลักพาตัวนิสัยประหลาดคนนี้ยังมาวิพากษ์วิจารณ์สรีระของผมให้ได้อายหนักยิ่งขึ้นไปอีก มือของเจ้านี่ก็ซุกซนไม่อยู่สุข หลายต่อหลายครั้งที่มือของเขาเผอิญมาโดนเจ้าน้องชายของผมโดยตรง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

9. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #8
 
25-Mar-12, 01:38 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ใช้เนตทรู หน้าเวปมันไม่ค่อยอัพเดท แก้พร็อกซี่ก็ไม่หาย เมื่อสองสามวันก่อน ก็เข้าปาล์มไม่ได้เลย ใจจะขาดอ่ะ ตามปกติ ต้องเข้ามาอ่านอะไรในปาล์มทุกๆวัน จัดเป็นหน้าโปรดหน้าหนึ่งเลย ชอบเข้ามาซุ่มอ่าน คนที่นี่คุยกัน ที่นี่เป็นศูนย์รวมของกูรูมากมาย ได้อะไรดีๆไปเยอะ จัดเป็นเอนไซโคพีเดียได้เลยนะเนี่ย บางอย่างก็มารู้จากปาล์มนี่แหละ เอิ้กๆๆๆๆ

แล้วก็ชอบให้ Try Again บางทีกดส่งไปสามสี่รอบ ก็ติดแอดมิน ซะงั้น ฮ่าฮ่าฮ่า

.................................................................

ไม่รู้ว่าเป็นการบังเอิญหรือจงใจ มันทำให้ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกลวนลามจากผู้ชายด้วยกัน แล้วเจ้าความคิดนี้มันก็ส่งให้ผมเกร็งตัวขึ้นมา

"หยุดวิจารณ์เสียทีได้ไหม แล้วก็รีบเช็ดตัวเร็วๆเข้า"

ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เขา แต่เด็กหนุ่มนั้นไม่แสดงท่าทีโกรธตอบ เขากำลังตั้งอกตั้งใจทำความสะอาดให้กับร่างกายท่อนล่างของผม ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ลำตัวของผมในส่วนนั้นอย่างไม่วางตา

"เฮ้ น้องชายของคุณเขาตื่นแล้วล่ะ"

เด็กหนุ่มหันมาหัวเราะกับผม ผมเม้มริมฝีปากแน่น เพื่อสะกดกั้นความรู้สึกภายใน

"มันเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติน่ะ ออกมาถูกอากาศเย็น มันก็เลยตื่นตัว"

ผมบอกเขาเหมือนกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติไม่เห็นจะต้องตกใจเสียหน่อย

"นายก็รีบเช็ดตัวฉันเร็วๆสิ อย่ามัวอ้อยอิ่ง ฉันหนาวนะ"

ผมหันไปเร่งเขา ด้วยความที่อยากจะหลบเลี่ยงไปจากสถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้

"แล้วจะจัดการอย่างไรกับน้องชายคุณดี" เขาเลิกคิ้วถามผม

"เฉยๆเหอะน่า เดี๋ยวมันก็สงบเอง"

ผมบอกอย่างไม่สนใจใยดี แต่ใจก็นึกภาวนา ให้หมอนี่เลิกยุ่งเกี่ยวกับอวัยวะของผมเสียที นึกโทษตัวเองที่ร่างกายบางส่วนทำให้ขายหน้า ยิ่งตื่นเต้นแบบนี้ มันยิ่งคึกคักใหญ่

"ผมจัดการให้มันสงบลงดีกว่า"

เขาพูด ผมรีบส่ายหน้า ร้องห้ามเสียงหลง

"ไม่ต้องงงงงงงง...."

แต่ช้าไปเสียแล้ว เจ้าโจรร้ายรูปหล่อเอื้อมมือมาเกาะกุมของรักของหวงของผม เขาลูบไล้หยอกล้อ จนมันคึกคักยิ่งขึ้น ผมพยายามจะกระเถิบก้นหนี ปากก็ร้องห้าม แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวมือ เขาลงน้ำหนักที่ขาสองข้างที่ทับขาผมไว้ แล้วใช้มือข้างที่ว่างหยิบผ้ามาอุดที่ปากผมอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ผมโวยวาย

มือของเขาเคลื่อนไหวขึ้นลงบนตัวน้องชายของผม ทั้งหยอกเอินอย่างรุนแรง และลูบไล้อย่างทะนุถนอม แรกๆผมก็เบี่ยงก้นหนีมือเขาอุดตลุด แต่เจ้ามือปลาหมึกนั้นก็เคลื่อนไหวตามผมไปอย่างไม่ลดละ เขาขยับมือขึ้นลงทำราวกับว่ากำลังรูดเมือกออกจากตัวปลาไหล

น่าแปลกที่สัมผัสของไอ้โจรโรคจิตคนนี้กลับปลุกเร้าความรู้สึกภายในกายของผม
ในยามนี้ผมไม่รู้ว่า ควรจะเรียกร้องให้เขาหยุดดี หรือ ให้ทุกอย่างมันดำเนินต่อไปจนถึงที่สุดของมัน ทั้งกลัว ทั้งอาย และทั้งหวาบหวามเสียวซ่านจนผมใจสั่น ผมหลับตาปี๋ กัดผ้าที่อยู่ในปากแน่น พยายามที่จะไม่มองในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เพราะคิดว่ามันอาจจะช่วยให้ผมสงบลงได้บ้าง แต่ก็เปล่าเลย ร่างกายของผมตื่นตัวอยู่ในมือของเขา อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของมือผู้ทรงพลัง

อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านถึงขีดสุด ร่างกายเกร็งเขม็ง รู้สึกได้ถึงความสุขสุดยอดที่ไม่เคยมีใครทำให้ผมได้ขนาดนี้มาก่อน สักพัก ผมก็ทะลักทะลายความสุขออกมาจนเลอะรดมือเขา

ผมลืมตาขึ้น ก็เห็นเด็กหนุ่มจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้วด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม เขายิ้มให้ผม แล้วยกมือที่เลอะๆนั้นขึ้นมาดม มีแววพออกพอใจในดวงตาคู่นั้น และแล้ว เขาก็ทำในสิ่งที่ต้องอึ้ง เมื่อเขาแลบลิ้นสีชมพูของเขาออกมาเลียมือที่เลอะไปด้วยน้ำจากร่างกายของผมออกจนหมด

"อื้อ กลิ่นหอม และรสชาติดีทีเดียว"


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

10. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #9
 
13-Apr-12, 04:22 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เรื่องนี้ควรอัพต่อไปดีหรือเปล่าคะ ไม่แน่ใจว่า เคยอ่านกันหมดแล้วหรือยัง ถ้าอ่านกันหมดแล้ว จะได้ไม่ต้องเอามาลง หรือไม่ก็ลงลิงค์ให้ไปอ่านจากเวปเอา เราจะได้ไม่ต้องโพสต์ เพราะไม่มีฟีดแบ็คจากคนอ่านเลย ว่ายังตามอ่านกันอยู่หรือเล่า


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
นืเ
Guest

12. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #9
 
18-Apr-12, 05:38 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ผมก็รออ่านอยู่นะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

14. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #12
 
21-Apr-12, 02:44 PM (SE Asia Standard Time)
 
   >ผมก็รออ่านอยู่นะครับ


ขอบคุณเช่นกัน ดีใจที่มีคนรออ่านค่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ต้้้น
Guest

11. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #0
 
13-Apr-12, 05:28 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ผมเข้ามาเช็คทุกวันครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
katesnk
Guest

13. "RE: My First Boyfriend "
In response to message #11
 
21-Apr-12, 02:39 PM (SE Asia Standard Time)
 
   >ผมเข้ามาเช็คทุกวันครับ


ขอบคุณมากๆค่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters