We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

PalmPlaza.us

Subject: "รักไร้เหตุผล"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #384
Reading Topic #384
sadboy
Guest

"รักไร้เหตุผล"
 
15-Feb-12, 02:10 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ผมไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นระหว่างตัวผมเองกับหลานของผมได้อย่างไรดี เพราะมันไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ จึงได้แค่ระบายออกมาในรูปตัวหนังสือเท่านั้น กิจ เป็นชื่อหลานของผม จริงๆแล้วเป็นสายโลหิตเดียวกัน เขาเกิดมาหลังจากผมเกิดมาแล้วได้ 16 ปี ผมจึงเห็นเขามาตั้งแต่เกิด และด้วยบ้านเราอยู่ใกล้กัน เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก พี่ๆเพื่อนๆ ของผมในสมัยนั้นก็มีพ่อของกิจ ด้วย วันที่พ่อแม่ของกิจแต่งงานผมก็ไปงานด้วย หลังจากที่กิจเกิด ผมก็เข้ามาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ เรียนจบและทำงานที่กรุงเทพ แต่ทุกๆ ปี ผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านครั้ง หรือ สองครั้ง ผมก็จะเจอกิจทุกครั้ง กิจเป็นคนผิวขาวมาตั้งแต่เด็ก น่าตาน่ารักมาก เป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบคุย ขี้อายบ้าง ผมจะเห็นเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งยืนดูผมอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้ามาหาผมหรอก แต่จะคอยรับของฝากจากผมผ่านคนอื่น ผมจึงได้เห็นการเจริญเติบโตของกิจมาตลอด นั่นอาจเป็นสาเหตุเริ่มต้นที่ผมรู้สึกผูกพันกับกิจก็เป็นได้
จนกระทั่งกิจเรียนจบชั้นมัธยมปลาย และสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎในตัวจังหวัด เชื่อไหมครับเราทั้งสองไม่เคยคุยกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากมองหน้ากันเหมือนๆจะยิ้มให้กันแต่ก็ไม่กล้า ช่วงปิดภาคเรียนก่อนขึ้นปี สอง ผมได้คุยกับพ่อแม่ของกิจ (จริงๆแล้วกับพ่อแม่กิจเราจะคุยกันตลอด ) ได้รู้ว่ากิจมาทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ระยอง ช่วงนั้นผมก็มีลูกค้าที่ระยองเหมือนกันและต้องขับรถผ่านห้างฯ ที่กิจทำงาน ผมตัดสินใจขับรถเพื่อไปหากิจในที่ทำงาน โชคดีที่เจอพอดี กิจถามผมว่ามาได้ยังไง ผมบอกกิจ ว่ารู้จากแม่ของกิจ บังเอิญว่ามีลูกค้าที่ระยอง เลยแวะมาหา(ความจริงผมตั้งใจไปหา)
คุยกันอยู่สักพักเนื่องจากไม่สะดวก ผมจึงให้เบอร์โทรกิจไว้ และบอกว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ให้โทรมาบอกแล้วจะไปรับ จนกระทั่งใกล้เปิดเทอม กิจโทรมาหาผม บอกว่ากำลังจะกลับบ้านและมาต่อรถที่กรุงเทพ เนื่องจาก กิจ ไม่เคยไปต่างจังหวัดจึงนั่งรถธรรมดา จากระยองอ้อมมาสัตหีบ พัทยา ชลบุรี จนถึง กรุงเทพ ใช้เวลานานมากผมจึงขับรถไปรับที่ ชลบุรีแล้วขึ้นทางด่วนเข้ากรุงเทพ เร็วกว่ามาก(ลงทุน) หลังจากนั้นมาเราก็ติดต่อกันมาตลอด ผมรู้ตัวมานานแล้วว่าผมชอบกิจนานมาแล้วชอบมาตลอด จบ ป. 6 ม. 3 ม. 6 กิจ เป็นคนน่ารักในสายตาผม สะอาด ผิวขาว ปากแดง ช่วงที่กิจเรียนมหาวิทยาลัย เราคุยกันเกือบทุกอาทิตย์ เท่าที่มาดูค่าโทรศัพท์มือถือโทรแต่ละครั้งเป็นเงินหลายร้อยบาท จนกระทั่ง กิจขึ้นปี 2 มีเพื่อน กิจเข้ามาเรียนและมาอยู่ร่วมกันกับกิจอีก 2 คน ผมมีโอกาสมาเที่ยวที่หอหักของกิจ ไม่รู้ว่าเกิดจากการท้าทายอะไรกันจำไม่ได้ และเราก็นั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวที่ไร่องุ่นแห่งหนึ่ง และก็ค้างที่ห้องกับกิจ กิจเล่าให้ผมฟังว่า ช่วงปี 1 กิจอยู่หอพัก ในมหาวิทยาลัย ผมรู้เรื่องราวของกิจหลายเรื่องในช่วงอยู่ปี 1 หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาตลอด ผมไม่รู้ว่ากิจ เข้าใจและคิดอย่างไรกับการได้ยินคำพูดของผม คำพูดที่เป็นห่วง บางคำอาจสื่อความหมายถึงคำว่ารัก บางครั้งผมก็ซื้อเสื้อผ้าฝากให้ กิจไปทางมหาวิทยาลัย หรือก็ฝากเงินเข้าบัญชีให้ มาเรื่อยๆเราคุยกันมาตลอด ถ้าผมไปต่างจังหวัดผมก็จะไปค้างที่หอพัก ของกิจ ทุกครั้งตื่นเช้ามาก็ไปเที่ยวกันต่อ แต่ไปกันหลายๆคน เว้นแต่เรื่องการคุยโทรศัพท์ซึ่งไม่มีใครรู้เรื่องของเราทั้งสองคน ผมเคยถามกิจ เหมือนกันว่ามีใครรู้เรื่องของเรามัย กิจบอกว่า ไม่มี ผมไม่รู้ว่าทำไมผมจึงรักกิจได้มากมายขนาดนี้ คิดถึงกิจมากมายเหลือเกิน แคร์กิจอย่างที่ไม่เคยเป็น รู้สึกผูกพันกับกิจได้มากมายเหลือเกิน ผมคิดว่ากิจคงเข้าใจความคิดและความรู้สึกของผม เพียงแค่เรามองหน้ากันเราก็รู้และเข้าใจกัน เหมือนว่ารู้เรื่องราวของกันและกันมาตลอด
จนกระทั่งกลางปี 2549 ผมไม่แน่ใจ กิจมาซื้อกล้องถ่ายรูปที่ กรุงเทพ ผมเป็นคนชวนมาเอง ผมสมทบเงินบางส่วนช่วย เราไปเดินดูที่เซ็ลทรัลลาดพร้าว จนมาตัดสินใจซื้อที่สยามพารากอน และช่วงเย็นเราไปกินข้าวที่โรงเบียร์เยอรมันรามอินทรา จำได้ว่ากินเบียร์สดหลอดกันสองคน จำนวน 2 หลอด ต่อด้วยอีคนละแก้ว และกลับบ้าน อาบน้ำนอน ก่อนการอาบน้ำกิจ ถอดเสื้อออก ยิ่งเห็นใกล้ๆ ตอนเมาๆ ผิวขาวๆ รูปร่างนักกีฬา เพราะเป็นนักฟุตบอล หน้าอกสวยๆ ปากแดงๆ ผมเห็นแล้วผมห้ามความรู้สึกและใจตัวเองไม่ไหว ผมถามกิจว่าโรคผิวหนังหายดีหรือยัง ผมรู้ว่ากิจเป็นโรคผิวหนัง และเคยซื้อยาไปให้ทา กิจเดินเข้ามาใกล้ๆ ผมมองที่หน้าท้องของกิจเรื่อยต่ำลงมาเห็นไรขนขึ้นบางๆพองาม ผมเอื้อมมือไปลูปและไล่ให้ไปอาบน้ำ และกิจหันหลังมาได้ดู ยังไม่หายดีเท่าไร และเข้าไปอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ กิจถามผมว่าจะให้เข้านอนที่ไหน ผมบอกว่าด้านล่าง หรือถ้าไม่รังเกียจก็นอนด้วนกันบนเตียงก็ได้ กิจไม่ตอบแต่ก็นอนบนเตียงด้วยกัน สักพักด้วยที่อารมณ์ผมที่ไม่สามารถบังคับได้ ผมพูดกับกิจเบาๆ ว่าขอกอดหน่อยนะ แต่มือไปกอดกิจแล้ว กิจไม่ตอบเพียงแค่ ร้องเบาๆ ว่าโอ๊ะ ผมกอดกิจไป และบอกความรู้สึกที่มีต่อกิจให้เขาฟังและเรื่องราวตั้งอดีตทำไมกิจไม่มาคุยด้วยเมื่อเจอกันสมัยเด็กๆ กิจบอกว่าเขาไม่กล้า แต่อยากคุยด้วยเหมือนกัน และกิจก็ถามผมว่าทำไมผมไม่ไปคุยกับเขา ผมบอกกิจว่า ผมรู้สึกว่ากิจดูหยิ่งๆ ก็ไม่กล้าเหมือนกัน จริงๆเราคิดผิดกันทั้งสองคน ผมนอนกอดกิจและเราคุยกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็ทำผิดต่อกิจ
ตื่นเช้ามาผมขอโทษกิจ แต่กิจไม่พูดอะไรเลย จนผมมาส่งที่สถานีขนส่งเพื่อกลับบ้าน จนเย็น กิจ ส่งข้อความสุดท้ายมาบอกผมว่า กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว หลังจากนั้นมาผมก็โทร หา ส่งข้อความไป แต่ทุกอย่างของการติดต่อก็เงียบสนิท ผมรู้สึกผิดมาก หากรู้ว่าการที่เราอยากได้อะไร จากใคร เมื่อได้แล้วก็ต้องเสียไป หากเลือกได้ผมขอไม่เสียอะไรดี กว่า กิจคงเสียความรู้สึกเคารพ ความนับถือที่มีต่อผม หรือแม้แต่มิตรภาพที่มีต่อกัน ผมทำสิ่งที่โง่ที่สุดลงไป กับเด็กที่นับถือ และเคารพ ผมทำลงไปได้อย่างไร แต่ในเวลานี้มันคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ต้องยอมรับความจริง การเสียใจจากการสูญเสียนี้มันมากมายจริงๆ ผมไม่กล้ากลับบ้านอีกเลย จนมาถึงปลายปี 2549 ผมได้รับข้อความจากเด็กของผม เด็กต่างจังหวัด (ผมลืมบอกว่าผมจะเรียกกิจว่าเป็นคนต่างจังหวัด กิจเรียกผมว่าคนกรุงเทพ) ว่า “นั่งกินเหล้าคนเดียวเหงาจัง อยากมีคนนั่งกินเป็นเพื่อน” ผมดีใจมากรู้ไหมครับ วันถัดมาผมจึงส่งข้อความไปสวัสดีปีใหม่ และวันเกิดของเรา หลังจากนั้นมาเราก็ติดต่อกันมาตลอดมาอีกครั้ง แต่ผมก็ไม่กล้าทำอะไรเกินเลยนะ และผมก็กลับบ้านทุกครั้งก็จะเจอกัน กินเหล้าด้วยกัน ก็มารู้ภายหลังว่าช่วงที่กิจหายไป กิจไปอยู่กับแฟน ผมเคยถามกิจว่าเรื่องของเรามีคนอื่นรู้ไหม กิจบอกว่าแฟนเขาน่าจะรู้ หลังจากนั้นกิจก็เลิกกันกับแฟนคนนั้น ไม่ใช่เพราะผมนะครับ กิจมันเป็นคนเจ้าชู้เอง
กิจเรียนจบปี 2551 ก่อนที่จะย้ายหอพักกลับบ้าน ผมก็มีโอกาสไปนอนห้องกิจกันสองต่อสองแต่เราก็ไม่มีอะไรกัน จนกิจรับปริญญาเดือนพฤศจิกายน 2552 ผมส่งเงินไปให้เพื่อเลี้ยงฉลองกัน แต่กิจบอกว่าซื้อเสื้อกันหนาว ร้องเท้า ต่างๆ แต่ผมก็ไม่ได้ว่ากิจหรอกครับ เพราะก่อนนั้นผมก็ให้ เงินกิจ บ่อยๆ และเมื่อช่วงวันพ่อปี 2552 ที่ผ่านมาผมกลับบ้านและชวนกิจไปฉลองรับปริญญาที่ผับในตัวเมือง เราไปกินกันหลายคนและทุกคนก็เมา ผมเมาไม่มากเพราะต้องขับรถ ผมนั่งติดกับกิจในร้าน ก็ไม่รู้เหมือนกันเวลาไปไหนกันหลายๆคนหลานผมทุกคนมักให้กิจมานั่งใกล้ผม เหมือนนั่งรถกิจจะเป็นคนนั่งหน้าข้างผมเสมอ ทุกคนก็จะรู้ เว้นแต่ไปกับเพื่อนๆ ผม ไม่ว่าคนอื่นจะตัวใหญ่แค่ไหนก็ตาม และระหว่างที่นั่งกินเหล้ากันผมแอบเอามือจับขากิจ กิจหันมามองเฉย สักพักผมก็เอามือไปจับมือของ กิจ ก็เฉยๆผมจึงลองบีบมือกิจเบาๆ สักพัก กิจบีบมือผมกลับ เรามองหน้ากันอยู่เรื่อยๆ สลับกับการทำตัวให้ไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น สักพักกิจบอกว่าจะมารอที่รถเพราะเมามากไม่ไหวแล้ว ผมจึงพากิจมาส่งที่รถและเราคุยกันนานมาก คุยกันในทุกเรื่อง ระหว่างคุยกันผมก็เอามือจับคางของกิจอยู่ตลอดบางครั้งก็ลูบที่หน้าอกของกิจ ลงมาเรื่อยๆแต่ไม่เกินเลยครับ กิจก็ไม่ว่าอะไร จนเพื่อนๆ ออกมาเพราะผับเลิกจึงกลับบ้านกัน
หลังจากส่งทุกคนแล้วผมก็เดินไปส่งกิจที่บ้าน ก่อนขึ้นบ้าน ผมหอมแก้มกิจหนึ่งครั้ง กิจเพียงแค่หัวเราะในเบาๆ ผมก็กลับบ้านนอนอย่างมีความสุข จากนั้นวันต่อมาผมก็กลับกรุงเทพ ทุกครั้งผมต้องกลับมาคิดว่า เรากำลังทำอะไรกันอยู่ เราตัวรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ความเจ็บปวด ความผิดหวัง คงจะเกิดขึ้นในไม่ช้าหากสักวันหนึ่ง กิจต้องมีครอบครัว คนที่เจ็บปวดมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผม ผมเคยคิดหลายครั้งว่าจะพยายามถอยห่างๆ ออกมา แต่ก็ทำได้แค่ไม่โทร หา ไม่ติดต่อ แต่เราต้องเจอกันอยู่เป็นประจำ ต้องคุยกันแล้วก็จบลงตรงที่พูดเรื่องเดิมๆ เพราะผมอดไม่ที่จะถาม ครั้งหนึ่งหลังจากกลับมาจากเที่ยวปี ใหม่ปลายปี 2551ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 52 เราขาดการติดต่อกันแม้จะเจอหน้ากันช่วงสงกรานต์ แต่ก็ไม่คุยกันแค่มองหน้ากันเฉยๆ ตอนหลังผมพยายามจะไม่คิดถึงกิจ แต่ทุกอย่างก็จบลงช่วง มิ.ย 52 เพราะหลานผมบวช ก็เพื่อนกิจนั่งแหละครับ ผมฝากเงินกิจไปฉลองกัน เราคุยกันจึงรู้ถึงความรู้สึกในช่วงที่เราไม่คุยกันว่ามันคืออะไร กิจว่าผมหยิ่ง ผมก็ว่ากิจหยิ่ง สรุปว่าต่างคนต่างหยิ่ง และเราก็กลับมาคุยกันอีก
ผมรู้ว่ากิจก็ไม่รังเกียจผม จะบอกว่ารักก็ไม่ได้เพราะกิจเองก็มีแฟนแล้ว และคงเป็นไปไม่ได้ ผมเคยถามว่าเราเป็นอะไรกัน กิจได้แค่ยิ้มและตอบแบกวนๆว่าไม่รู้ แต่ผมรู้ว่าเรารักกัน ปัญหาตอนนี้คือผมจะทำอย่างไรดี ผมพยายามลืมกิจแล้วแต่ทำไม่ได้ มันเหมือนความรัก ความห่วงใย ความผูกพันกัน ผมมองหน้ากิจผมก็รู้ถึงความรู้สึกของกิจ เช่นที่กิจมองผม ไม่ว่าเราจะหายเงียบกันไป แต่เมื่อเจอกันก็จะเล่าให้กันฟังตลอด (เพราะก่อนหน้านั้นผมเคยเล่าเรื่องของผมให้กิจฟัง และกิจก็รู้ว่าผมมีคนอื่น กิจก็แซว ผมเรื่องรถบ้าง ว่าเข้าใจมีคนใช้อยู่แล้ว กิจแซว ว่าเข้าใจ) รักกิจ ผมจะดูแลเขาเอง และตลอดไป กิจเองก็รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเขา ปัญหาอยู่ที่ว่า สักวันคนอื่นจะรู้เรื่องของเราเมื่อใด แล้วเราจะทำอย่างไรเมื่อถึงวันนั้น ผมเคยบอกกิจครั้งนึ่งช่วงที่กิจเรียน ว่าผมจะลบเบอร์กิจทิ้ง และเราก็เลิกคบกัน กิจบอกว่าใจร้าย ผมเองก็รู้ถึงอนาคตของตัวเองแต่ก็ปฏิเสธหรือลบความคิดความรู้สึกที่มีต่อกิจไม่ได้
ยิ่งแย่ไปกว่านั้นช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมาเรามีโอกาสไปกินเหล้าในเมืองด้วยกันสองคน เรากินกันพอสมควร ผมให้กิจขับรถขากลับบ้าน ผมนั่งรถมาอดไม่ได้ที่ต้องหอมแก้มกิจ และกอดกิจมาตลอดทางจนถึงบ้าน หลังจากวันนั้นเราก็มีโอกาสฉลองปีใหม่กันหลายคนก่อนกลับบ้านหลังจากที่เราเดินไปส่งทุกคนหมด ผมคุยกับกิจกันสองคน ผมบอดกิจว่าผมมีกิจคนเดียวนะ และผมจะไม่มีใครตลอดไป และระหว่างที่คุยกันเราก็จับมือกันตลอด จนผมอดใจไม่ไหวจะหอมแก้มกิจ กิจบอกว่าตรงนี้สว่างไป แล้วพาผมไปที่มืดกว่า และผมก็หอมแก้มกิจ และลองยื่นแก้มผมเพื่อให้กิจหอมแก้ม กิจก็หอมแก้มผมตอบกลับ แล้วจะให้ผมรู้สึกอย่างไร และไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยครับ ที่ผมหอมแก้มกิจ และยื่นแก้มให้กิจหอมคืนและกิจก็หอมแก้มผม มันหมายความว่าอย่างไร กิจตอบได้ไหมว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เกรงใจ หรือ เต็มใจ นั่นคือปริศนา
คืนวันที่ 14 มกราคม 2553 ที่ผ่านมาผมส่งข้อความไปว่าอยากคุยด้วย และอยากได้ยินเสียง สักพักกิจก็โทรมาคุยกันชั่วโมงกว่าๆ กิจมาสัมมนากับโรงเรียนที่จังหวัดจันทบุรี กิจสอนหนังสือให้โรงเรียนที่บ้าน 3 เดือน เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย ก็หนีไม่พ้นคุยเรื่องเดิมๆ แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขมาก กิจถามว่าได้ข่าวว่าผมไม่สบาย ผมปวดขาซ้าย กิจแซวว่าก็ขับรถไม่มีครัชจึงปวดขา ลองมาขับรถไถดูคงไม่ปวดหรอก ผมบอกว่ากลัวมือด้านเหมือนบางคนก็มือกิจนั่นแหละคับเพราะผมก็จับมือกิจตลอด เพราะมือเรานิ่ม ก่อนเลิกคุย ผมก็บอกกิจทุกครั้งว่า ผมห่วง หวง และ หึง นะ กิจก็ตอบว่าคร๊าบผม แล้วยิ่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 53 มีคอนเสริต์นักร้องที่กิจชอบ แต่กิจไม่ได้ชวนผมตรงๆ หรอกแต่ผมก็รู้ว่ากิจอยากให้ผมไปด้วยเหมือนกัน แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไป จะไม่กลับบ้านด้วย
หลายครั้งที่เราคุยกันทางโทรศัพท์ มันมีความสุข ความสบายใจของผม ผมไม่เคยคุยกับใครแล้วมีความสุข เท่ากับคุยกับกิจ ครั้งหนึ่ง ผมขับรถไปกินข้าว กินเหล้า และค้างกับ กิจ และเพื่อนของกิจ ตอนที่กิจไปฝึกงานที่ ศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสิมา ก่อนสำเร็จการศึกษา ผมขับรถไปไกลมาก แต่ก็มีความสุข ลึกๆๆ คิดว่ากิจมีความสุข เช่นกัน ผมเคยขับรถไปงานบวช ที่กำแพงเพชร และขับรถกลับมารับกิจที่ปักธงชัย และกินข้าวกันที่ร้านตอไม้ เพื่อกลับบ้านด้วยกัน ผมรู้ว่ามันเหนื่อย แต่ผมกลับมีความสุขที่ได้เห็นหน้ากิจ ได้คุย ถึงแม้จะอยู่กันหลายๆคนก็ตาม กิจเองก็เคยนั่งรถจากเมืองเลยเพื่อมาช่วยผมขับรถ จากกรุงเทพกลับบ้าน โดยเรามาเจอกันที่จังหวัดชัยภูมิ ทำไมเราทำอะไรได้อย่างนี้ หลายครั้งที่กิจ โทรมาและเล่าให้ฟังในหลายๆเรื่อง ยกเว้นเรื่องผู้หญิง หรือเพื่อนผู้หญิงของกิจ ผมรู้ที่กิจไม่พูดกลัวผมเสียใจ ถ้าเราอยู่ด้วยกัน ผมก็รอฟังเหมือนกัน ว่ากิจจะพูดหรือเปล่า กิจเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ถ้าพูดแล้ว กิจจะพูดแรง บางครั้งกิจ จะเป็นคนขี้น้อยใจเพื่อนเหมือนกัน เพราะกิจเป็นคนที่ ไม่มีอะไร อยู่คนเดียวก็ได้ ไปไหน กับเพื่อนได้ตลอด ให้เพื่อนได้เสมอ กิจเป็นคนดื้อมาก เชื่อมั่นในความคิดตนเอง แต่สักวันหนึ่งกิจ จะเจอหลายๆปัญหา นั่นเองที่กิจ อาจเปลี่ยนมุมมองซึ่งผมเคยคุยกันหลายครั้ง
ถึงแม้ตอนนี้กิจ จะ อายุ 25 ปี และมีงานทำโดยทำงานที่บ้าน แต่ก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม และทุกครั้งที่ผมกลับบ้านเราก็จะเจอกัน แต่ไม่มีอะไรกันนะ เรายังเหมือนเดิมกันทุกคน คุยกันสนุกสนาน เจอกันยิ้มให้กันโดยมีความซ่อนเร้นอยูข้างใน ซึ่งยากที่คนจะเข้าใจ
ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกกิจว่า ผมมีความรักอีกแล้ว แปลกนะ ยังมีเด็กเข้ามาในชีวิตผมอีก คราวนี้เป็นเด็กรุ่นลูกเลย อายุ แค่ 15 ปี เรียนอยู่ ม. 2 ทำไงได้ก็ชอบเด็กนิครับ ชอบกินหญ้าอ่อนด้วย เป็นนักมวยด้วยครับ โดยที่เริ่มรู้จักกันช่วงปลายปี 52 ที่ผ่านมา น่ารักแบบเด็กๆ มันจะเรียกผมว่าน้าทุกครั้ง ไม่รู้สิ แต่แปลกผมรักมันแบบไหนไม่รู้ เอ็นดู ห่วงใย มันจะโทรหาผมเกือบทุกวัน ช่วงก่อนที่ และหลังเลิกเรียน ไปไหนด้วยกันมันทำให้ผมมีความสุข ทำให้จิตใจมีชีวิตชีวาอยู่ตลอด เดินกับเด็กในชุดนักเรียนนี้มันเท่ห์นะ แบบภูมิใจ พวกเกย์จะมองกันเป็นแถวๆเลย ไม่รู้เขาคิดอย่างไง ช่างเถอะ เราคงไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หรอก อิอิ คิดๆไป แต่มันทุเรจชอบกล คนอื่นคงมองแบบแปลกๆ
แปลกนะครับผมมีความรู้สึกกับเด็กคนนี้ต่างจาก กิจ ผมเฉยๆ ไม่ร้อนใจ ร้อนรุ่ม ไม่คิดว่าเขาจะไปไหน กับใคร หรืออยู่กับใครก็ตาม ลืมบอกครับมันชื่อโอ๊ต ครับ แต่เวลาไปไหนกันเดินด้วยกันผมกอดคอมันเดิน บางครั้งแอบจับมือ มันแบบไม่น่าเกียจนะ มันก็ไม่ว่าอะไร บางครั้งนั่งอยู่ในรถ ผมก็จับแก้มมัน จับริมฝีปาก จับหน้าท้อง และเอามือวางบนตักมัน มันก็ไม่ว่าอะไร ก็จับมือมันวางบนตักมันนั่นแหละครับ เวลาไปห้องมันผมก็กอดมันบ้างแต่แบบพอประมาณนะ เวลาผมจะกลับกลับห้อง มันก็มองแบบยิ้มๆ มันคงรู้ว่าผมไม่อยากกลับหรอก ครับ แม้แต่เวลามันจะกลับห้องเมื่อลงจากรถมันก็จะบอกว่า น้า โอ๊ต กลับนะและมองมาแบบยิ้มๆให้ ผมรู้ว่ามันคิดอะไร และมันก็รู้ว่าผมคิดอะไร ไว้ก่อนเถอะมึง อิอิ



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
อเทตยา
Guest

1. "RE: รักไร้เหตุผล"
In response to message #0
 
15-Feb-12, 02:50 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณครับ แล้วอย่างไรต่อครับ อย่าเขียนเบียดกันนีักนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
คุณป้าทึนทึก
Guest

2. "RE: รักไร้เหตุผล"
In response to message #1
 
16-Feb-12, 09:12 AM (SE Asia Standard Time)
 
   น่าติดตามมาก ขอบคุณค่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters