การเสี่ยงทาย

การดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลนั้นย่อมต้องประสบปัญหาต่างๆนานามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปํญหาใหญ่ ซึ่งแต่ละปัญหานั้นย่อมจะมีทางออกเสมอ

ตรงกับวลีที่ว่าทุกปัญหามีทางออกโดยผู้เป็นเจ้าของปัญหานั้นต้องหาคำตอบให้กับปัญหาที่ตนเองกำลังประสบอยู่

การหาคำตอบของปัญหานั้นมีได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรู้ความสามารถ,ทัศนคติ,ประสบการณ์ของเจ้าของปัญหาและสถานการณ์แวดล้อมที่เกี่ยวข้อง

บางปัญหานั้นมองเพียงด้านเดียวหรือไม่กี่ด้านก็สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นก็จำเป็นที่จะต้องมองหลายๆด้าน

โดยในบางครั้งก็ต้องอาศัยข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือรวมทั้งความคิดเห็นและ/หรือประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญแล้วนำผลที่ได้จากการมองในแต่ละด้านมาผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบของปัญหาดังกล่าว
บุคคลผู้ซึ่งกำลังประสบปัญหาสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับคำตอบที่ถูกต้องเหมาะสมในเวลาที่จำกัด

เพราะถ้าได้รับคำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือถูกต้องแต่ล่าช้าเกินไปย่อมเกิดผลเสียอย่างรุนแรงต่อผู้นั้น จัดได้ว่าบุคคลดังกล่าวตกอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า มืดแปดด้าน

นับเป็นสถานการณ์ที่คับขันที่สุด เมื่อมองทุกด้านของปัญหาแล้วด้วยตนเองร่วมกับข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้วยังไม่สามารถหาคำตอบก็ยังคงมีวิธีการสุดท้ายที่น่าจะช่วยในเรื่องของการหาคำตอบของปัญหาที่แก้ไม่ตก

นั่นคือ การเสี่ยงทาย

การเสี่ยงทายเป็นการหาคำตอบวิธีสุดท้ายสำหรับปัญหาที่มีความสำคัญอย่างมากและยังหาคำตอบไม่ได้ด้วยวิธีการอื่นๆ

โดยการนำผลลัพธ์ที่ได้ตามเงื่อนไขที่ระบุและระยะเวลาที่กำหนดมาเป็นคำตอบให้กับปัญหาดังกล่าว โดยก่อนที่จะตัดสินใจทำการเสี่ยงทายนั้นจะต้องทราบและปฏิบัติตามสิ่งสำคัญของการเสี่ยงทาย ดังต่อไปนี้

1.การเสี่ยงทายจะต้องเสี่ยงทายด้วยความมั่นใจและยอมรับซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าผลลัพธ์นั้นจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม

เช่น เสี่ยงทายว่าถ้าฝนไม่ตกภายใน 1 ชั่วโมงก็จะออกไปทำธุระนอกบ้านซึ่งถ้าฝนไม่ตกภายใน 1 ชั่วโมงจริงก็ต้องออกไปทำธุระนอกบ้านและอาจจะนำร่มติดตัวไปด้วย

ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าจะมีฝนตกกลางทางหรือไม่ก็ได้

2.การเสี่ยงทายจะต้องระบุถึงเงื่อนไขอันมีผลลัพธ์ที่สามารถเกิดจริงเพียงสองด้านตรงข้ามกันเท่านั้นเพื่อความชัดเจนของคำตอบ เช่น แพ้-ชนะ, ได้-ไม่ได้, ใช่-ไม่ใช่ เป็นต้น

ซึ่งความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ในแต่ละด้านอาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ จำเป็นที่จะต้องคิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำการเสี่ยงทาย

ในกรณืที่โอกาสในการเกิดผลลัพธ์ด้านใดด้านหนึ่งสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง

3.การเสี่ยงทายเป็นความลับส่วนบุคคลไม่ควรเปิดเผยให้ผู้อื่นรับรู้เพราะอาจทำให้เงื่อนไขของการเสี่ยงทายมีการเปลี่ยนแปลง

จนไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือมีการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ เช่น เสี่ยงทายว่าถ้าพบบุคคลหนึ่งโดยบังเอิญในเวลาที่กำหนด

แล้วจะขอความช่วยเหลือจากบุคคลดังกล่าว ซึ่งถ้าบุคคลที่สามรับรู้ถึงการเสี่ยงทายนี้ก็ย่อมสามารถสร้างสถานการณ์ให้ทั้งสอง
ได้พบกันโดยตั้งใจซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ได้พบกันก็ได้
4.การเสี่ยงทายจะต้องกระทำเมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันและหาทางออกโดยวิธิการอื่นๆไม่ได้แล้วจริงๆเท่านั้น
กล่าวคือถ้าไม่เข้าทำนองที่ว่า มืดแปดด้าน ห้ามนำการเสี่ยงทายมาใช้เด็ดขาด

5.การเสี่ยงทายจะต้องเสี่ยงทายในผลลัพธ์ที่เป็นอิสระไม่เปลี่ยนแปลงไปตามการกระทำหรือสุขภาพของผู้เสี่ยงทาย เช่น ห้ามเสี่ยงทายในการสอบแข่งขันหรือการแข่งขันกีฬา

เพราะผลลัพธ์ดังกล่าวแปรเปลี่ยนตามการกระทำของผู้เสี่ยงทาย

ห้ามเสี่ยงทายว่าเมื่ออยู่ถึงอายุที่กำหนดแล้วจะทำงานอดิเรกเพราะสังขารจัดเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แปรเปลี่ยนได้เสมอ เป็นต้น

นอกจากสิ่งสำคัญดังกล่าวแล้วยังมีข้อควรปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติเมื่อทำการเสี่ยงทาย ดังนี้

1. ผู้เสี่ยงทายควรปฏิบัติตนให้เป็นปกติทั้งการทำงานและกิจวัตรประจำวัน ไม่ควรวิตกกังวลหรือมีความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมจนก่อให้เกิดความสงสัยต่อบุคคลใกล้ชิด เพราะอาจทำให้บุคคลใกล้ชิดล่วงรู้ถึงการเสี่ยงทาย

2. ผู้เสี่ยงทายอาจจะเสี่ยงทายโดยระลึกถึงสี่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือเพื่อเป็นกำลังใจในการเสี่ยงทายได้

3.ผู้เสี่ยงทายควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะอาศัยพยากรณ์ศาสตร์แขนงต่างๆในการหาผลลัพธ์ระหว่างทำการเสี่ยงทายเพราะเมื่อทราบคำทำนายแล้ว

อาจก่อให้เกิดอคติหรือยกเลิกการเสี่ยงทายได้

การเสี่ยงทายเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่จะต้องกระทำเมื่อมีความจำเป็นด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งโดยต้องปราศจากอคติหรือการเข้าข้างตัวเอง

ซึ่งเมื่อการเสี่ยงทายสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แล้วสิ่งที่ตามมาคือผลลัพธ์โดยไม่ว่าผลลัพธ์นั้นจะเป็นอย่างไรนั่นคือคำตอบของปัญหา

แต่ถ้าผู้เสี่ยงทายยังคงหลอกตัวเองว่าผลลัพธ์นั้นไม่ใช่คำตอบแต่ก็ยังคงไม่สามารถหาคำตอบด้วยวิธีอื่นใดได้อีก ก็คงต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า มืดแปดด้าน ต่อไป