We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

UploadGIG.com

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Subject: "ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #417
Reading Topic #417
Jookoo
Guest

"ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
 
25-Apr-12, 01:12 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พอดีได้อ่านถึง ตอนที่ 33 แล้วอยากอ่านต่อมากๆๆๆ แบบจะคลั่งเลยอ่้ะ ใครมีช่วยสงเคาะห์หน่อยนะครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล คิดถึงพีเ่อ๋จัง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
popokomon
Guest

1. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
06-May-12, 04:15 PM (SE Asia Standard Time)
 
   มาช่วยดัน รอเจ้เอ๋มานานแล้วนะ
สงสัยเจ้เอ๋ติดแอดมิน จึงมาโพสต่อไม่ได้


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เซียนเป็ด
Guest

2. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #1
 
06-May-12, 07:05 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เอ๋CT เป็นนักเขียนของเว็บเล้าเป็ดนะคะ ทางเล้าได้เป้นผู้อบรมสั่งสอนมากับมือ

ถ้าหากอยากอ่านนิยายเรื่องนี้ต้องมาสมัครเป็นสมาชิกที่เล้าค่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ค่ะ กูเอง
Guest

3. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #2
 
24-May-12, 10:26 PM (SE Asia Standard Time)
 
   >เอ๋CT เป็นนักเขียนของเว็บเล้าเป็ดนะคะ
>ทางเล้าได้เป้นผู้อบรมสั่งสอนมากับมือ
>
>ถ้าหากอยากอ่านนิยายเรื่องนี้ต้องมาสมัครเป็นสมาชิกที่เล้าค่ะ

กะเทยเล้าเป็ดนี่ตอแหลกันไม่เลิกนะคะ อีดอกทอง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
mate_utt
Guest

4. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #3
 
30-May-12, 11:18 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ผมยังไม่เคยเห็นคุณเอ๋เขียนเรื่องในเล้าเลย หรือว่าผมไม่เจอช่วยแนะนำหน่อยน่ะครับ

ผมอ่านเรื่องนี้ของเอ๋ในปาล์มมาตั้งแต่ยังไม่เห็นเล้าเลย จะว่าปั้นมาประการใด สงสัยครับ

ผมเซฟไว้จนครบทุกตอนแต่ว่า...........

เก็บไว้ในฮาร์ดดิสค์อยู่หลายลูก ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไม่สะดวกจะมาโพสให้ได้

ไว้พร้อมจะมาลงให้ครับ


รักและรอคุณเอ๋มาเล่าชีวิตต่อน่ะครับ


เมท

ปล. อีกอย่างน่ะครับ ไม่ต้องเป็นสมาชิก ทางเล้าก็ใจดีให้เข้าไปอ่านได้ครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Joyce Karuther
Guest

5. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #4
 
31-May-12, 12:49 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คุณเมทละก็ ไปเชื่ออะไรกับอีกพวกกะเทยเล้าเป็ดคะ

หนูเห็นมีอีพวกตอแหลนี่คอยมาล่อลวงนักเขียนกับสมาชิกไปอยู่เว็บมันเท่านั้นแหละ

เคยพูดเรื่องอะไรจริงซะที่ไหนล่ะ เว็บมันก็มีแต่ลูกกะหรี่ทั้งนั้นแหละ ถึงเหี้ยเหมือนกันหมด

ที่ปาล์มเค้าถึงได้แบนเว็บมันไงคะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
mate_utt
Guest

6. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #5
 
02-Jun-12, 05:37 AM (SE Asia Standard Time)
 
   สังคมทุกที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ทั้งนั้นครับ แต่ในเวปก็มีสิ่งดีๆอยู่น่ะครับ
ผมคนหนึ่งก็เป็นสมาชิกของเวปเค้าเหมือนกันครับ

อย่าไปเหมาเข่งเลยครับ เลือกที่จะรับและเสพสิ่งดีๆ ดีกว่าครับ

เอาเป็นว่าฆ่าเวลากับเรื่องนี้ทั้งหมด เอาตอนที่ผมมีในเครื่องไปอ่านก่อนแล้วกันครับ


"ความทรงจำ...ไม่เคยเลือน"


ชีวิต ของกระเทยอย่างเรา อยู่กับความเหงามานาน แต่ในความเงียบเหงานั้นก็มีความรู้สึกดีๆ มีอดีตที่บางครั้งก็ทำให้ยิ้มคนเดียว บางครั้งก็ทบทวนกับสิ่งที่ผ่านมา ประสบการณ์ชีวิต ของเราอาจจะเปรียบเทียบไม่ได้กับเพื่อนคนอื่น แต่เราก็คิดว่าแต่ละคนทางเดินชีวิตไม่เหมือนกัน เราอาจจะไม่ได้คำตอบเดียวกันเหมือนเพื่อนเรา หรือโชคดีเหมือนคนอื่น


...........................................................................

ตอนที่ 1 – 5 ภาคประถม


ตอนที่ 1 เปิดตัว

เราเป็นลูกแม่ค้า มีเชื้อจีนญวนผสมกัน ตอนเด็ก ๆ ผิวพรรณดีหน้าตาก็ธรรมดา เพราะไม่เคยมีใครชมว่าน่ารัก เพียงแต่มีคนบอกว่าหน้าตาเหมือนแม่เท่านั้น
ชีวิตในวัยเด็กก็วนเวียนอยู่ในตลาด ช่วยพ่อแม่ค้าขาย อายุห้าขวบก็วิ่งเล่นในตลาดแล้ว ที่ตลาดมีโรงหนัง ตอนเด็ก ๆ เราชอบดูโปรแกรมหนัง ดูเขาวาดรูปคัตเอ้าท์ที่ติดหน้าโรงหนัง วันไหนคนน้อยก็ไปขออาที่เป็นพี่เลี้ยงตอนเราเกิด ที่เป็นคนเก็บตั๋ว เข้าไปดูหนัง ดูแค่หนังตัวอย่างก็กลับบ้านแล้ว เพราะดูไม่รู้เรื่อง
เราเป็นเด็กที่เรียนเร็ว อายุห้าขวบก็อยู่ ป. สองแล้ว ด้วยความที่ช่างพูดช่างคุยตั้งแต่เด็กเลยเป็นที่เอ็นดูของพี่ ๆ ที่โรงหนัง จนเราได้รู้จักพี่คนหนึ่ง....

วันนั้นก็ไปเล่นหน้าโรงหนังตามปกติ มีพี่ที่เป็นวัยรุ่น อายุคงไม่เกินสิบแปดเข้ามาคุยด้วยบอกว่า พี่สังข์ (พี่เลี้ยงของเราเอง) ไม่มา แต่ถ้าอยากดูหนังพี่จะพาเข้าเอง อยากดูไหม

.. ไม่มี ตังค์ เราตอบพี่เขาไปตามประสาเด็ก

..ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่พาเข้าเอง ไม่เสียตังค์ด้วย

..พี่เขาจูงมือเราไปที่หน้าประตูทางเข้า
ตอนนั้นเป็นหน้าหนาวยังเช้าอยู่ หนังจะฉายประมาณเที่ยง เราก็แกะมือออก

..พี่โกหกหนังยังไม่ฉายจะดูได้ยังไง....พี่เขาก็ก้มหน้าลงกระซิบที่หู

..อย่าเสียงดังสิ ไม่ตีตั๋วก็ต้องเข้าไปแอบในโรงหนังก่อนแล้วพอหนังฉายเราก็ค่อยๆออกมานั่งเก้าอี้ไง...พี่เป็นคนฉายเข้าได้ตลอดแต่หนูต้องไปแอบก่อน...เข้าใจมั้ย

...เราก็พยักหน้าแล้วเดินตามพี่เค้าเข้าไป เด็กก็คือเด็ก...ว่านอนสอนง่ายไม่รู้อะไรมาก
พี่พามานั่งที่เก้าอี้ด้านหลังสุดและมืดที่สุด พอเห็นเก้าอี้เราก็รีบหาที่นั่งทันที พี่ก็ดึงมือไว้...อย่าดื้อสิมานั่งตักพี่นี่จะได้หลบง่ายเวลาคนเข้ามา เราก็ว่าง่าย พี่จับเรานั่งตักแล้วก็จับเอวเอาไว้ มือเราก็จับที่พนักของเก้าอี้ตัวหน้ากระดิกเท้าไปมาด้วยความดีใจที่จะได้ดูหนัง แล้วก็หันหน้ามาถามพี่เค้าว่า

..เมื่อไหร่หนังจะฉาย..พี่เขาไม่ตอบกลับหอมแก้มเราแทน...เราก็ถามว่าพี่หอมแก้มหนูทำไม

..ก็หนูน่ารักนี่...เราก็หัวเราะ พี่เขาเลื่อนจากแก้มมาที่คอรู้สึกขนลุก เพราะหนวดที่ทิ่มที่คอ เราหันหน้าหนีเขาก็จับหน้าเราไว้แล้วจูบซุกไซ้ไปทั้งหน้า หน้าเรามีแต่น้ำลายของพี่เขา เราเริ่มดิ้นเพราะรู้สึกรำคาญและแฉะไปทั้งหน้า ...เขาก็กดตัวเราไว้แน่น

..จะดิ้นอะไรนักหนาวะ นั่งเฉยๆสิ...จากน้ำเสียงใจดีกลายเป็นดุ เราก็กลัวแล้วก็นั่งนิ่งๆตามที่เขาบอก

สักพักเขาก็รูดกางเกงเราออก เราตกใจก็ถามว่าถอดกางเกงทำไม เขาไม่ตอบแต่รัดเราแน่นกว่าเดิม พร้อมกับยกตัวเรานั่งทับที่เป้ากางเกงของเขา พร้อมกับซุกไซ้เราอีกครั้ง
ตอนนี้เรารู้สึกกลัวมาก สักพักเขาหยุด เราก็หันไปมองหน้าเขาแล้วบอกว่า...ขอหนูไปหาแม่นะ ไม่ดูหนังแล้ว...เดี๋ยวให้ไปแต่ต้องนั่งกับพี่ก่อนนะ...เสียงเขาอ่อนลงมาก

..ไม่ต้องกลัว....เราก็พยักหน้า แล้วเขาก็ปลดกระดุมและรูดซิบกางเกงลงพร้อมกับจับมือเราล้วงเข้าไป...มันอุ่นๆ เขาบีบมือเราแล้วบอกว่า

...จับให้พี่หน่อยนะ แล้วจะให้กลับบ้าน เราก็พยักหน้าแต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร...เพราะมันต่างจากเรามาก มีขน และมันก็ค่อยๆพองขึ้นจนแข็ง...พอก่อนนะ เอ้านั่งดีๆ พี่เขาค่อยยกตัวเราขึ้นให้ก้นเราอยู่ตรงระดับเดียวกันกับ เคของเขาแล้วกดเราลงนั่งทับ เขาก็จับก้นเราให้ส่ายไปมาจนถึงตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร เรารู้สึกว่ามันอุ่นและก็สนุกดี สักพักพี่เขาก็จับสะโพกเราให้ก้นของเราบดบี้กับเคเขามากขึ้น
สักพักเขาก็หอบหายใจแรงมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าก้นเราเปียกและเหนียวเราก็จับดู มันเหนียวๆเหมือนขี้มูก เรารู้สึกอย่างนั้นและก็เหม็นคาว พี่น้ำอะไร เขาไม่ตอบแต่หอมแก้มเราแรงๆอีกครั้ง ...เขาเช็ดน้ำเหนียวๆนั้นกับเบาะข้างพร้อมกับเอาชายเสื้อเช็ดก้นเรา แล้วใส่กางเกงให้เรา

..เสร็จแล้วก็ใส่กางเกงตัวเอง ...เราทั้งคู่ค่อยๆเปิดประตูด้านหลังโรงหนังที่เป็นห้องวาดรูป...แล้วเดินอ้อมมาหน้าโรง...พี่จูงมือเรามาที่ร้านขนมแล้วซื้อขนมให้ห่อหนึ่ง แล้วตบหัวเราเบาๆและยิ้มให้ แล้วก็เดินเข้าโรงหนังไป....เราก็วิ่งกลับเข้าไปตลาดหาแม่
...เพราะหิวข้าว


ตอนที่2 ...พี่ชาติ ______>


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT - ตอนที่ 34คือตอนนี้ใช่มั๊ยคะ
Guest

7. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #6
 
09-Jun-12, 08:46 AM (SE Asia Standard Time)
 
   34
...เรารู้สึกตัวอีกขึ้นมากลางดึก แปลกใจว่าทำไมมันหลับๆตื่นๆอย่างนี้อาจจะแปลกที่ก็เป็นได้ รู้สึกหนักขาพี่โด่งที่ก่ายอยู่ ค่อยๆดันออกตอนจับขาแกก็คิดอกุศลขึ้นมาจนได้ พี่โด่งใส่กางเกงเลบางๆ วางขาแกลงแล้วก็ผงกหัวดูอาจารย์กว่าสายตาจะชินกับความมืด อาจารย์ยังนอนตะแคงอยู่อีกฟากนึงหันหน้าไปอีกด้าน เรามองหน้าพี่โด่งแกยังหลับอยู่ คิดอยู่สักพักจะทำดีมั๊ย สองจิตสองใจแต่ใจอยากมันมีมากกว่า นึกถึงคำพูดพี่เพลินว่าอย่าให้เสียเที่ยว ทำให้กล้าขึ้นมาเยอะ เราค่อยๆลูบเบาๆที่ตัวพี่โด่ง แกไม่รู้สึกตัว แล้วเราก็ค่อยๆวางมือตรงที่ท้องของแก ช่วงท้องขยับขึ้นลงตามการหายใจ เหมือนเหงื่อเราเริ่มซึมดูแล้วยังกะขโมยเลย จากท้องๆก็ค่อยๆคืบคลานมาที่ปมของกางเกงเล ตาก็ยังมองหน้าแกอยู่ เรากับพี่โด่งนอนหมอนใบเดียวกัน พี่โด่งขยับตัวเรารีบดึงมือกลับ แกเอาขามาก่ายท้องเราไว้ทำให้ยากขึ้นกว่าเดิมมันไม่ค่อยถนัด รู้สึกแขนไม่เป็นอิสระเราค่อยๆพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพี่โด่ง กินเหล้าจางๆออกมากับลมหายใจ เราจูบที่ปากเขาเบาๆ หยั่งเชิงก็ยังนิ่งอยู่ เมื่อหันหน้าให้กันแล้ว ไม่น่าจะยาก มาคิดดูแล้วช่างมีความพยายามยิ่งนักขำตัวเองเหมือนกัน มือซ้ายของเราคลำหาปมกางเกงเล มันค่อนข้างหลวมแล้วเราค่อยๆแกะอย่างเบามือ ตายังมองแกหน้าแกอยู่ แกะยากจริงๆ กว่าปมจะคลายเหงื่อก็ซึมหน้าผากอีกระลอก พอปมหลุดเราก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปอย่างเบาที่สุด หน้าท้องแบน พี่โด่งไม่ได้ใส่กางเกงใน ขนฟูหนาเต็มมือ เราลูบแพรไหมนั้นเบาๆ ปลายนิ้วเราถึงโคนมันแล้ว สองนิ้วไล่ไปตามยาวช้าๆส่วนฝ่ามือก็ค่อยกุมที่พวง เคแกยาวเหมือนตัวเราไล่นิ้วไปจนถึงปลาย หัวไม่บานเหมือนอาจารย์แต่ยาวกว่า ค่อยๆกำแล้วรูดเบาๆ ขาพี่โด่งขยับที่สะโพกเรา เราตกใจรีบดึงมือออก แต่ไม่ทัน พี่โด่งจับมือเราไว้ พอเงยหน้ามองก็เห็นว่าแกลืมตามองเราอยู่ เรามัวแต่สนใจปมผ้าเลยลืมระวัง โดนจับได้คาหนังคาเขาขโมยอย่างเราก็เหงื่อแตกพลั่ก
"ทำอะไร" แกยังจับมือเราไว้ "เดี๋ยวต้องคุยกันหน่อยแล้วเอ๋" แกลุกขึ้นนั่งผูกปมกางเกงเล แล้วดึงตัวเราขึ้นจากเตียง เราลุกขึ้นตามอย่างกลัวๆ ตามองที่อาจารย์แกยังนอนกรนเหมือนเดิม มองเข้าไปอีกก็มืด พี่โด่งเดินจูงมือเราออกไปที่ชายหาด นี่เขาจะทำอะไรเรานี่ มือพี่โด่งเหมือนคีมบีบมือเราแน่น คงราวๆตีห้าเห็นจะได้รอบข้างยังมืดมาก พี่โด่งนั่งลงที่พื้นทราย
"นั่งสิ" แกมองไปที่ท้องทะเลที่มืดมิด "ทำอย่างนี้ไม่ดีรู้มั๊ยครับเอ๋" แล้วก็หันมามองหน้าเรา เราพยักหน้าเพราะรู้ว่าทำผิดแต่ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากก้มหน้า "ขอโทษนะฮะ" พี่โด่งไม่ได้พูดอะไรต่อ แกปล่อยมือเรา เราเห็นแกนั่งนิ่ง"พี่จะว่าอะไรเอ๋ก็ว่ามาเถอะ ยอมรับผิดทุกอย่าง" เครียดเลยเรา
"จะให้พูดยังไงหล่ะ"
"เอ๋เข้าใจแล้วหล่ะ ขอโทษพี่อีกที ถ้าพี่โด่งโกรธ และไม่ยกโทษให้ เอ๋ก็คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ มันผิดไปแล้ว" คิดขึ้นมาตอนนั้นก็ต้องโทษความคนองของตัวเองที่ทำให้มิตรภาพดีๆแหลกสลาย เรื่องอย่างนี้มันไม่ใช่ว่าจะจบลงเหมือนกันทุกกรณี ทำให้เรารู้ได้ว่าผู้ชายไม่เหมือนกันทุกคน ถ้าคนที่เขาจะเล่นกับเรา เขาจะเสนอตัวเองทุกครั้ง แต่พี่โด่งไม่ได้เสนอตัวมันเป็นการพลาดของเราเอง แกไม่พูดอะไรอีก นอกจากลุกขึ้นยืนปัดทรายที่กางเกงแล้วเดินกลับบังกาโลไป เรานั่งอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน จนพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าฝั่งตรงข้าม เป็นภาพที่สวยงามแต่ใจเราเศร้าเหลือเกิน น้ำตามันแห้งไปแล้ว เราลุกขึ้นตั้งใจจะไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า คิดว่าจะกลับบ้านดีกว่า คงอยู่ไม่ได้แน่คืนนี้ แต่จะบอกอาจารย์ยังไงดี เดินมาถึงบังกาโลพี่โด่งนั่งเก้าอี้อยู่ที่ระเบียง มองหน้าเราอยู่ เราต้องหลบสายตาเดินเลี่ยงเข้าไปในห้อง ตาเรายังแดงอยู่ ไม่กล้าสบตาเขา รีบอาบน้ำแล้วเก็บเสื้อผ้า มองอาจารย์ที่ยังนอนอยู่ก็อยากจะขอโทษแก
"ทำอะไร" เสียงพี่โด่งถามขึ้นมา "แล้วนี่เก็บของทำไมครับ" แกเดินเข้ามาใกล้ๆ เราชะงักมือ แล้วตอบไปว่า
"เอ๋จะกลับแล้วหล่ะพี่ ไม่สบายใจ อาย" เราหันไปเก็บเสื้อผ้าต่อ พี่โด่งหยิบกุญแจรถที่หัวเตียง แกคงจะไปส่งเรา "ขอบคุณฮะที่จะไปส่ง บอกอาจารย์ด้วยนะฮะว่าเอ๋กลับแล้ว" เราบอกเขาอย่าจริงใจที่สุด
"ใครจะไปส่ง เรื่องอะไรจะให้กลับ" พี่โด่งดึงแขนเราให้ลุกจากที่นั่งแล้วจูงมือเราไปที่รถเปิดประตูแล้วก็ผลักเราเข้าไป เราไม่เข้าใจเขาเล่นอะไรนี่ ประจำที่คนขับได้แกก็หันมามองหน้าเรา มือแข็งๆจับหน้าเราให้หันไปหาแก "ถึงกับร้องไห้เลยเหรอ เรื่องแค่นี้" แกหัวเราะเสียงดัง แล้วแกก็สตาร์ทรถแล้วออกตัวอย่างแรง
"พี่จะไปไหน" พี่โด่งไม่ตอบขับไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้าน จนลึกเข้าไปสองข้างทางเปลี่ยวมีแต่ต้นไม้ แล้วก็จอด
"อยู่บ้านมันอันตราย ไม่อยากให้พี่โตรู้" แกดับเครื่องเปิดแค่แอร์
"ก็ไม่รู้แล้วนี่ เดี๋ยวเอ๋ก็กลับแล้ว" เราเถียง
"เอ๋นี่พูดไม่รู้เรื่องแฮะ พี่รู้นะว่าเราเป็นเด็กพี่โตทำอะไรในห้องนะมันไม่ดีรู้มั๊ย"
"ก็นึกว่าพี่จะเล่นด้วย และ เอ๋ไม่ได้เป็นของใคร ขอโทษแล้วพี่ไม่ยกโทษให้ก็เรื่องของพี่" เรายังเถียงไม่ลดละ
"พี่บอกเราเมื่อไหร่ว่าพี่โกรธ เรานี่ดื้อจริงๆ" แกตบหัวเราเบาๆ เราปัดมือพี่โด่งออก แล้วหันหน้าหนีพี่โด่งขยับมาใกล้ๆ
"แล้วจะงอนอะไรเนี่ย หันมาคุยกันหน่อย" เราหันหน้ากลับ
"พี่โตกับพี่นับถือกันนะ เอ๋ทำแบบนี้มันเสี่ยง" เราอ้าปากจะเถียงแกเอามือปิดปากเราไว้ "ไม่ต้องพูดอะไร ทำไมยิ่งงอนยิ่งน่ารักวะนี่" กลายเป็นเราที่โกรธแทน พี่โตโอบไหล่แล้วดึงเรามาใกล้ๆ "ตีโพยตีพายไปได้ มานั่งใกล้สิ" แกดึงตัวเราเข้ามาใกล้แล้วแกก็ปลดปมกางเกงเลออก " เอาสิเอ๋อยากจะทำอะไรก็ทำ" พี่โด่งรูดกางเกงลง เคยาวสวยยังนอนสงบนิ่งอยู่ เรามองหน้าแกอีกครั้ง "เอาให้เสร็จเลยนะ" แกหอมแก้มเราแล้วกดหัวเราลงไป เราไม่แน่ใจเมื่อหน้าจ่ออยู่ที่เคแล้ว พี่โด่งค่อยๆจับมันตั้งขึ้นแล้วป้อนเข้ามาในปาก " อา...ดีเอ๋ ตรงนั้นแหละ เน้นอีกนิดนึง ดีๆ โอยเสียว เลียไข่ด้วย มืออย่าหยุด โอยๆ" พี่โด่งสวนสะโพกขึ้นตามแรงดูดของเราไม่นานแกก็พุ่งเข้ามาในปาก น้ำหวานๆปนคาวค่อยๆไหลเข้าคอเราช้าๆ จนหมด เราถอนปากออก พี่โด่งหยิบทิชชู่ให้เราเช็ดเคให้ จับเช็ดจนแห้งสนิทแกก็ใส่กางเกง "หายงอนรึยัง" ยิ้มหล่อทรมานใจอีกแล้ว
"เดี๋ยวไปตลาดกันนะ ไปซื้ออาหารทะเลมาทำกินกัน" พี่โด่งออกรถแล้วขับเข้าตลาด ....ตลาดตอนเช้าของทะเลสดๆมีเยอะ เราซื้อเตาและที่ย่าง จ้างแม่ค้าที่ตลาดทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด แวะซื้อผักกับแม่ค้า
"หนูรับอะไรลูก" เราเลือกผักแล้วหยิบ "มากับแฟนเหรอคะ แกมองหน้าเรากับพี่โด่ง สมกันดีนะ" เรามองหน้าพี่โด่งแล้วบอกแม่ค้าว่า
"หนูเป็นผู้ชายครับ" แม่ค้าหัวเราะ "ขอโทษๆ หน้าตาเหมือนผู้หญิงเลยทักผิด ยกโทษให้ป้าด้วยนะ ป้าแก่แล้ว" น้ำเสียงเหน่อของแกน่ารัก เราหันไปมองพี่โด่ง แกหน้าแดงก้มหน้างุดแล้วนึกขำ...เรานั่งขำไปตลอดทาง พี่โด่งตีหัวเราเบาๆ "ตัดผมหน่อยนะจะได้ดูเป็นผู้ชาย" เราลูบผมที่ระต้นคอเบา "เรื่องอะไรจะตัด"
รถกลับมาถึงบังกาโลทุกคนตื่นกันหมดแล้วจับกลุ่มที่ร้านกาแฟข้างๆ อาจารย์กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ นนท์กับนะวิ่งมาช่วยขนของ ส่วนสามเกลอยังคงนั่งเฉย รู้สึกเกลียดขี้หน้าจริงๆ เตรียมอาหารกันจนหน้ามันย่อง พี่โด่งยืมเครื่องครัวจากเจ้าของบังกาโลมาหลายชิ้น เรากับนะช่วยกันติดไฟเพื่อย่างอาหารทะเล ตรงพื้นหน้าบังกะโลจนหน้าตามอมแมมกันทั้งคู่ นนท์เข้ามาดูใกล้ๆแล้วหัวเราะที่ทำยังไงไฟก็ไม่ติด ก็เคยใช้แต่เตาแก๊สตอนเรียนลูกเสื้อก็แอบเอาน้ำมันราดฟืนและจุดไฟ ไม่ได้ทำด้วยวิธีแบบนี้ พี่โด่งต้องเข้ามาช่วยจนได้ แกคล่องแคล่วมากแป็บเดียวก็ติด มือเปื้อนถ่านเผลอเช็ดหน้าตัวเองหลายครั้งจนแก้มดำเป็นปื้น
"เอ๋ไปล้างหน้าไป เป็นขวานฟ้าหน้าดำแล้ว" พี่โด่งบอกไปหัวเราะไป กำลังยืนล้างหน้าในห้องน้ำ พี่โด่งก็เดินตามเข้ามา เราหยิบผ้ามาซับหน้าเบาๆ แล้วขยับตัวออกจากอ่างล้างหน้าให้พี่แกแทน
"นี่ล้างยังไง คางยังดำอยู่เลย" แกเอามือชี้ เราก็ก้มลงไปล้างใหม่
"หมดรึยัง" กระจกมีก็ไม่ดู ถามพี่โด่ง พี่แกก็จับหน้าพลิกไปมาหมดแล้ว "ตาพี่มั่ง" พี่โด่งล้างหน้าเสร็จ "ขอผ้าหน่อยสิ" แกค่อยๆซับเบาๆ พี่โด่งตัวสูงคุยกันทีต้องแหงนหน้าช่วงที่ตอนแกก้มหน้าเช็ดคอด้านหลังแก เราฉวยโอกาสหอมแก้มแกไปหนึ่งที เรารีบเดินออกจากห้องน้ำ พี่โด่งเดินตามมาเขกหัวเบาๆทีหนึ่งก่อนจะโอบไหล่เดินออกจากบังกาโล เราพยายามทำสีหน้าปกติ มานึกดูตอนนี้ไม่รู้ว่าเราจะกลัวอาจารย์ทำไมในตอนนั้นเพราะจริงๆแล้วผู้ชายไม่ได้สนใจอะไรในกระเทยหรอก หลังจากมีอะไรกัน ส่วนใหญ่กระเทยจะคิดไปเองเป็นตุเป็นตะว่าตัวเองเป็นเมียเขาแล้วพอทำอะไรก็จะคอยระมัดระวังกลัวผู้ชายจะโกรธ เราเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันในตอนนั้น ทุกคนนั่งล้อมวงเรียบร้อย เตาย่างอยู่ด้านข้าง ใครจะกินก็ต้องช่วยตัวเอง ทุกคนจึงต้องผลัดกันลุกผลัดกันนั่งแย่งกันย่าง แม่ค้าส้มตำถูกเรียกมาบริการเพิ่ม กินได้ไม่นานก็อิ่มเราลุกทันที อาจารย์บอกให้สามสหายเป็นคนเก็บและล้างเพราะไม่ได้ช่วยทำ พอมีคำสั่งก็ไม่เห็นมันขี้เกียจนี่นา แต่ถ้าให้ทำเองจะไม่ทำ
เรา นะ นนท์ วิ่งไปเช่าห่วงยางกันคนละอันแล้วกลิ้งลงน้ำ ลากห่วงยางลอยคอไปจนได้ระดับเราก็ดันตัวขึ้นนอนหงายบนห่วงยาง สองมือสองเท้าใช้แทนพาย นะกับ นนท์เลียนแบบ คราวนี้สนุกมาก ดันห่วงย่างไปชนกันแล้วก็แกล้งพลิกห่วงยางของอีกฝ่าย สองคนเข้าขากันกลายจนเรากลายเป็นสาวน้อยตกห่วงยางตลอด นนท์หัวเราะชอบใจ นนท์ว่ายน้ำมาล็อคเราข้างหลังแล้วหลายครั้ง เราดิ้นจนหลุดแล้วว่ายน้ำหนี ไปทางนะ นนท์ตามมากวนอีกจนได้เราก็เลยแกล้งกลับบ้างด้วยการจับที่เป้าของมันใน้ำ
"แกล้งดีนัก" เราว่ายน้ำตามนนท์ที่ว่ายหนี แล้วก็กอดเอวนนท์จากข้างหลังมั่ง แล้วสอดมือเข้าไปในกางเกงขาสั้นอย่างรวดเร็ว เคที่หดตัวอยู่ในมือเราแล้วเราก็ขยับมือ นนท์เลิกดิ้นเกาะห่วงยางลอยคอ โดยมีเราอยู่ข้างๆ นะเห็นพวกเราเลิกเล่นกันก็สงสัยหันมาถาม
"เฮ้ยทำอะไรกันวะ" นะ ว่ายน้ำมาใกล้
"จับแมงกระพรุน" มือยังสาวอยู่ นะทำหน้าเหมือนกลัว "ไหนๆ พี่เอ๋" เขาว่ายน้ำมาใกล้ เรารีบเอามือออก นนท์หน้าแดงเคกำลังแข็งได้ที่ ของมันเคยกันแล้วจูนติดกันได้ ทำกับนนท์ได้ก็ย่ามใจ
"ไอ้นนท์เป็นอะไรวะ แมงกระพรุนกัดมึงเหรอ แล้วมันลอยไปรึยัง" นะว่ายน้ำมาถึงข้างพวกเรา "ไหนละพี่เอ๋" นะอยู่ในระดับมือแล้วเราก็เลยจับที่เป้าของนะ นะสะดุ้ง
"นี่ไงแมงกระพรุน"
"พี่เอ๋ เล่นบ้าอะไรนี่" เขาเบี่ยงตัวหลบแล้วว่ายน้ำหนี เรากับนนท์ก็ลอยคอเล่นแมงกระพรุนกันไปเรื่อยๆ จนมันคลายพิษใส่มือเรา
"พี่เอ๋ ขึ้นเถอะ หนาวแล้ว นนท์ดันตัวขึ้นห่วงยางแล้วลอยคอเข้าฝั่ง ว้ายังไม่หายสนุกเลย
สามเกลอกำลังเตะฟุตบอลชายหาดกับอาจารย์ โดยมีนนท์กับนะเสริมทีมทีหลัง ขาดแต่พี่โด่งไปไหนนะเรานึกในใจ ก็เดินเข้าบ้าน พี่โด่งแอบมาหลับในห้องนอนนั่นเอง ไม่อยากจะกวนก็เลยหยิบผ้าเช็ดตัวเดินไปอาบน้ำ.....กลับเข้าห้องมาเช็ดตัวพี่โด่งค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
"พี่ไม่ไปเตะบอลกับเขาเหรอ"
"ไม่ไหว เพลีย" แกยังไม่ยอมลุกจากที่นอน "ปวดเมื่อยไปหมด เอ๋นวดเป็นมั๊ย นวดให้พี่หน่อย" เรารู้สึกแสบจิ๊ดตอนทาโลชั่น พี่โด่งขยับตัวนอนกลางเตียงให้ใกล้ตัวเรา เราค่อยๆนวดให้แกที่แขน บีบเหมือนบีบให้เตี่ย พี่โด่งพลิกตัวนอนคว่ำ เรานั่งบนก้นแกแล้วนวดที่ไหล่และแผ่นหลัง ก่อนจะมาบียที่ก้น พี่โด่งนุ่งกางเกงตัวเดิมกับเมื่อเช้าตอนที่นวดก้นก็รู้สึกได้เลยว่าแกไม่ใส่กางเกงใน นวดหลังขาลงไปจนถึงปลายเท้า เราชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพวกข้างนอกกำลังวิ่งลงน้ำกัน ยามปลอดเลยลุกไปปิดประตู พี่โด่งนอนหงายสิจะนวดข้างหน้าให้ แกพลิกตามอย่างว่าง่ายเริ่มต้นที่แขนทีละข้าง และขาทีละข้าง บีบเน้นๆบริเวณต้นขา เราจับแกกางขาออก แล้วนั่งตรงกลางสองมือบีบไล่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงโคนขา พี่โด่งลืมตา
"เอ๋ อย่ากดตรงนั้นสิ มันเสียว" เราไม่ยอมหยุดเลื่อน กดนิ้วหัวแม่มือตตงข้างซอกไข่เบาๆ เคพี่โด่งกระดกขึ้นมาแล้ว แกชะโงกหัวมอง "ยุ่งแล้วสิ" เรามองหน้ากันพี่โด่งยิ้มๆแต่ไม่ได้บอกอะไร เราค่อยๆ ปลดปมกางเกงเลออก แล้วดึงมันลงไปที่เข่า เค ยาวเหมือนตัว หัวไม่บานแต่โคนใหญ่ กระดกตัวอย่างท้าทายกลางแพรไหมหนาสีดำ ปลายแดง เราขยับบีบข้างๆซอกขาอยู่ ยังไม่จับ เพราะอยากเห็นชัด พี่โด่งผงกหัวขึ้นมามอง "ซนจริงๆ นะเรา เดี๋ยวต้องทำโทษซะแล้ว"....
พี่โด่งพูดจบก็พลิกตัวขึ้นนั่งคร่อมเรา เคราสากๆไซ้ที่ซอกคอ ขนลุกเกรียวจนต้องหนีบคอไว้ สองมือของแกกดสองมือเราไว้แน่น
"ไม่เอาแล้ว มันจักกะจี้" เราดิ้นหนี แล้วพี่แกก็เปลี่ยนจากไซ้คอมาดูดแรงๆแทน เสียวจี๊ดๆอีกครั้ง แกผละจากต้นคอเรา แล้วประคองหน้าเราไว้ตรงๆ ก่อนจะเลื่อนเคที่ยังคงแข็งมาจ่อปาก กลิ่นคาวๆของมันยังกรุ่นเพราะพี่โด่งคงยังไม่ได้ล้างตั้งแต่เมื่อเช้า เราก็โรคจิตกลับมีความรู้สึกว่ามันหอม สูดกลิ่นคาวนั้นอย่างแรง พี่โด่งเอามือจับเคแล้วป้ายไปมาตามรูปปากของเราก่อนจะบรรจงยัดเข้าไป ทีละนิดทีละนิด พอได้ที่พี่โด่งก็ปล่อยมือจาหน้าเราเราค้ำเอวตัวเองซอยปากเราอย่างเนิบๆไป ครางไป เราหายใจไม่ออก พยายามดันตัวแกออก แกไม่ยอมท่าเดียวเราต้องยกมือขึ้นจับที่แขนแกไว้
"มีอะไรเอ๋" แกหยุดแล้วดึงออกมาพร้อมน้ำลายเราที่ยืดตาม
"หายใจไม่ออก พี่โด่งทำอย่างอื่นกันเถอะ" เราชวนเขาเลย
แกเช็ดเค
"พี่ชอบให้ดูดมากกว่า ถ้าเอามันนาน กว่าจะเสร็จ"
"แต่เอ๋อยากให้พี่เอานี่" เคยังจ่ออยู่ที่ปากเราเลียปลายเบาๆ
"แล้วจะเอากันยังไง พวกนั้นขึ้นมาก็จบเห่นะสิ"
"ไม่รู้หล่ะ เรื่องอะไรพี่โด่งจะสนุกคนเดียวหล่ะ" เราเอานิ้วเขี่ยปลายที่เริ่มเยิ้มแล้วเบาๆ วนตรงรอยแยก พี่โด่งงอตัว
"น่าเอ๋ ดูดให้พี่ก่อน มันจะเสร็จอยู่แล้วนะครับ" แกอ้อนเราก็ต้องตามใจ ค่อยละเลียดอีกครั้ง คราวนี้แกรัวไม่ยั้ง เราตาเหลือกเลย น้ำพุ่งปรี๊ดไหลลงคอเราเป็นระลอก แกทำท่าจะเอาออกเราไม่ยอมปล่อยดูดตามพร้อมกันดันตัวตาม แกดันหัวเราไว้แต่เราไม่ยอมคลายดูดจนมันเหี่ยว ถึงปล่อยให้มันเป็นอิสระ พี่โด่งถึงกับนอนแผ่หราหายใจรวยริน
"เสียว" มือกำพวงไว้แล้วคอยดันตัวเราออก "พอแล้วครับ พี่เสียว โอย" แกใส่กางเกง แล้วผูกไว้อย่างแน่นหนา
"พี่โด่ง ไม่ไปล้างหล่ะ" เราเตือน "เดี๋ยวก็เหม็นหรอก มันเริ่มมีกลิ่นแล้วนะ"
"ขอนอนก่อนแล้วกัน" พี่โด่งนอนตะแคงข้างให้เราแล้วหลับไปจริงๆ เรารีบเปิดประตูออกไปล้างปาก มองเห็นพวกนั้นยังเล่นน้ำกันอยู่ก็ใจชื้น ล้างหน้าล้างปากแล้วก็เดินไปเช่าจักรยานไปปั่นเล่น นะมาจากไหนไม่รู้วิ่งมาซ้อนท้ายทั้งๆที่ตัวเปียก จักรยานสองตอนช่วยกันปั่นไปเรื่อยๆ พระอาทิตย์ตอนเย็นสวยงามเหลือเกินตัดกับขอบฟ้า ต้นไม้ข้างทางร่มรื่น ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลย พอได้เคค่อยสนุกขึ้นมา เฮ้อ เอ๋นะเอ๋ ให้มันได้อย่างงี้สิ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT-35
Guest

8. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #7
 
09-Jun-12, 08:47 AM (SE Asia Standard Time)
 
   35
จากด้านที่ยืนชมวิวกับนะ ขอบฟ้าอีกฝั่งของทะเลดวงอาทิตย์ค่อยๆจมลงไปในผืนน้ำอันกว้างใหญ่ ลมเย็นเอื่อยๆ โชยมา เราทั้งคู่ปั่นจักรยานกลับบังกาโลกันหลังจากชมวิวเสร็จ
"พี่เอ๋ เมื่อกี๊เล่นอะไรกันในน้ำกับไอ้นนท์" นะเหมือนนึกขึ้นมาได้ ขากลับเราเปลี่ยนหน้าที่ให้นะปั่นตอนแรกแทน
"ไม่บอก"
"บอกหน่อยสิอยากรู้ ทำอะไรกันในน้ำ" นะยังไม่เลิกสงสัย
"อยากรู้ก็ต้องลงไปในน้ำด้วยกันสิ" เราตอบทีเล่นทีจริง "ว่าไงหล่ะ"
"ไม่เอาหรอกเย็นแล้ว"
"ก็แล้วแต่" เราสองคนช่วยกันเร่งสปีดจนถึงบังกาโล ทุกคนปูเสื่อนั่งร้องเพลงดีดกีตาร์กันที่ชายหาด อาจารย์เหมาอาหารจากแม่ค้ามากิน พวกเรากินกันแค่พอหายหิวเท่านั้นไม่ได้เน้นรสชาดอะไร หนุ่มดีดกีตาร์ เพื่อนอีกสองคนเคาะขวดให้จังหวะ ส่วนอาจารย์เป็นนักร้อง นนท์ทำหน้าที่ผสมเหล้า นะกับเรากินข้าว มองไม่เห็นพี่โด่งก็ถามหา
"อาจารย์ พี่โด่งไปไหนหล่ะ"
"ยังนอนไม่ตื่น เอ๋ไปปลุกมากินข้าวหน่อยซิ" อะไรจะนอนนานขนาดนี้หมดแรงข้าวต้มเลยเหรอ เรานึกในใจแล้วก็ลุกไปดู ในห้องนอนเงียบและมืดปรับสายตากับความมืดได้ก็ไม่มีใครพบว่าไม่มีใคร เปิดไฟดูให้แน่ใจก็เห็นเตียงว่างเปล่าได้ยินเสียงกุกกักในห้องน้ำก็เลยเดินไปชะโงกดู พี่โด่งกำลังล้างหน้าแปรงฟันที่อ่าง
"พี่โด่ง กินข้าวรึยัง" มือที่กำลังสีฟันหยุดชะงักแล้วหันหน้าส่ายหน้า แกบ้วนปากแล้วเช็ดหน้าเร็วๆพอหมาดๆ
"รีบอาบน้ำสิพี่ แล้วลงไปกินข้าวเก็บไว้ให้แล้วนะ" แกก็เดินตามออกมา
"ไม่อาบหรอก"
"เหม็น" เราทำท่ายี้ใส่ "เมื่อเช้าก็ไม่อาบ"
"แต่อย่างอื่นหอมนี่" พี่โด่งเดินตามเราเข้ามาในห้อง กอดเอวเราไว้
"น้ำไม่อาบ" แกหอมแก้มเรา
"ตัวดี ทำเอาเมื่อยไปหมด" พี่โด่งเขกหัวเราเบาๆ
"ไม่รู้หล่ะ พี่ยังค้างเอ๋อยู่นะ"
"มีหนี้อะไรกันอีก" พี่โด่งเกาหัว เราเองก็ไม่กล้าพูดตรงๆว่าพี่โด่งยังไม่เอาเรา เพราะรู้สึกกระดากปากที่จะบอกให้เขาเอา ได้แต่อ้อมๆแอ้มๆบอกเขาว่า "พี่โด่งยังไม่ได้ทำให้เลย" แกหัวเราะก๊าก
"นี่เป็นเอามากแฮะ ทำเป็นเรื่องจริงจังไปได้ แล้วจะไปทำได้ที่ไหน พี่โตก็นอนอยู่ทนโท่ พี่ว่าไม่แน่คงไม่ถึงพี่หรอกมั๊ง ระวังพี่โตเถอะ" แกทำหน้าล้อ เรานึกหมั่นไส้ก็บีบที่พวงแกทันที พี่โด่งสะดุ้ง
"โตแล้วยังหลอกเด็ก" เราหน้างอ
"เออน่า ถ้ามีโอกาสค่อยคุยกัน" แกตอบเหมือนขอไปที
"ไม่ยอม" เรายังจับแขนแกไว้ พี่โด่งหันมาอีกครั้ง
"แล้วจะทำยังไง" แกเกาหัว
"ต้องมัดจำก่อน"
"เอ๋นี่ ดื้อจริงๆ" พี่โด่งเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วหันหลังกลับมา ยืนหน้าเตียง
"แล้วจะเอาอะไร เรื่องเยอะระวังจะอดนะ" พี่โด่งเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงขาสั้นแล้ว เราคลึงเป้าเบาๆแล้วเอามือล้วงไปจับ พร้อมกับงัดมันออกมาเลียที่ปลายเบาๆสองสามที
"ล้างแล้ว หอมมั๊ย" เราก็เก็บไว้เหมือนเดิม
พี่โด่งก็จับเราลุกขึ้นยืนแล้วโอบไหล่เดินออกจากบังกาโล ท่าเดินก็เหมือนผู้ชายโอบคอกัน แต่ผู้ชายคนนี้ถ้าดูข้างหลังจะรู้ว่าเดินบิดมากที่สุด พี่โด่งจับเราไปนั่งติดกับอาจารย์ส่วนตัวแกก็นั่งฝั่งตรงข้ามกับเรา หัวยุ่งๆของพี่โด่งทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยมาก จมูกโด่งได้รูปรับกับรูปหน้า ผมแกหยักศก เรามองหน้าอาจารย์โตมันคนละแนวกันเลย อาจารย์หน้าเข้มๆเหมือนผู้ชายไทยแท้ คิ้วเป็นปื้นตาดูเหมือนดุ มีเคราเขียวๆรำไร กินข้าวกันครบเรียบร้อยก็เป็นการดื่ม มองเห็นขวดเหล้าแล้วนึกในใจว่าจะหมดได้ไง อาจารย์ซื้อมาเป็นลัง กินไปเมื่อวานครึ่งนึงที่เหลืออีกครึ่งเพิ่งจะหมดไปสอง
"พี่เอ๋ ยก ยก " ไอ้หนุ่มชนแก้วกับเรา เรามัวแต่ละเลียดอยู่มันก็เร่งใหญ่ "กินให้หมดเลยนะคนอื่นเขาหมดไปหลายแก้วแล้ว" พี่โด่งเก็กหล่อ ทำทีเป็นยกแก้วขอชน เราก็ต้องยกจนหมด ร้อนท้องวูบ
"แหวะ ขมชะมัด" ไม่ใช่เหล้าขาวผสมน้ำแดง ฝืดคอจังเลย อาจารย์กินเหล้าไม่ผสมรินแล้วยก รินแล้วยกรวดเดียวทุกครั้ง แกมองหน้าเราด้วยแววตาที่มุ่งมาด พี่โด่งก็ยักคิ้วเป็นเชิงล้อ ทั้งวงส่งเสียงคุยแข่งกัน เรานั่งมองหน้าพี่โด่งคนเดียวไม่สนใจคนอื่น พี่เขาก็รูว่ามองก็ทำทีหันไปคุยกับคนโน้นคนนี้ แบบแม่สนใจ อาจารย์เริ่มร้องเพลงไม่ถูกเนื้อแล้ว แกยังกินแบบนั้นอยู่ สักพักก็ค่อยๆเอนเมื่อเหล้าหมดไปขวดที่ห้า อาจารย์นั่งสับปะหงกกินเหล้า พอมีเราปลุกให้ไปนอนก็ยกแก้วเหล้าใส่ปากอีก แกเมาเร็วคงเกิดมาจากเราที่ชนบ่อยแต่เราไม่กิน มารยาหญิงที่พี่เพลินสอนเริ่มถูกนำมาใช้ หลอกให้อาจารย์กินเหล้าจนเมา ส่วนแก็งค์หนุ่มน้อยทั้งหลายก็เริ่มมีอาการเดียวกัน เพื่อนสองคนของหนุ่มก็นอนหงายลงบนเสื่อ หลับไปแล้ว เราปลุกอาจารย์อีกสองสามที แกก็คว่ำลงมาเลย
"นนท์ กับ หนุ่ม พาพี่โตไปนอนที่บ้านหน่อย" คนเมาลากคนเมาพี่โด่งสั่ง นะเมาจนนั่งหลับพิงกระติก
สองคนเดินเซพยุงอาจารย์เข้าบ้านเหมือนแกรู้สึกตัวก็โบกมือไล่ แล้วบอกว่าช่วยตัวเองได้ สักพักแกก็คลานขึ้นบันไดบังกาโล แล้วฟุบอยู่ที่ระเบียง พี่โด่งตะโกนบอกเด็กๆ ให้พาแกเข้าห้อง แต่ก็ไม่มีใครยกไหว สุดท้ายก็ต้องกลับมานั่งกินเหล้าต่อ เรานั่งมองพฤติกรรมอาจารย์ แกค่อยๆลุกขึ้น เรากลัวแกจะตกบันไดเลยรีบวิ่งไปพยุง อาจารย์เซไปเซมาตัวหนักเหลือเกิน กว่าจะพยุงเข้าบ้านได้ ประตูซ้ายเป็นห้องเรา แต่เราเลือกประตูขวาแล้วพาอาจารย์ไปนอน ในห้องนักกีฬาแทน....
...ส่งอาจารย์เสร็จ ก็กลับมานั่งที่วงเหล้าต่อ เหล้าขวดสุดท้ายใกล้จะหมดแล้ว กินกันเก่งจริงๆเลย พี่โด่งไม่เมา หนุ่มกับนนท์ยังคงคุยเรื่องชีวิตนักเรียนให้พี่โด่งฟังมีบางครั้งที่พาดพิงมาถึงเรากับนาจพอเป็นกระสาย แต่เราไม่ตอบโต้ได้แต่นั่งฟังพยักหน้าไปตามเรื่อง พี่โด่งยังลีลาเยอะ นั่งฟังเด็กๆคุยแล้วหัวเราะ ส่วนเราก็จิบๆรสขมของเราเฝื่อนคอจริงๆ
"พี่เอ๋ ยกหน่อย" หนุ่มยังไม่เลิกละที่จะให้เรากินเหล้าให้หมดให้ได้เรากลั้นใจ แก้วสุดท้ายแล้ว หลับตาปี๋กระดกพรวดจนหมด เหล้าขมเพราะไม่มีมิกซ์เซอร์ตาลายเลย นนท์ส่งขวดน้ำมาให้ ค่อยหวานขึ้นมาหน่อย คองี้ร้อนผ่าวโอยไม่ไหว จริงๆ นะ งัวเงียจากกระติกน้ำแข็ง นั่งตาแป๋วเหมือนไม่มีสติ สามคนยังคงนั่งจิบไปเรื่อยๆ เรารู้สึกโลกหมุนไม่เอาแล้วไม่รอพี่โด่งแล้วมึนหัว ก็เลยลุกขึ้น
"พี่เอ๋ จะไปไหน เหล้ายังไม่หมดเลย" มองดูเหล้าอีกเกือบครึ่งขวดน้ำแข็งก็ไม่มี โซดาหมด มีแต่น้ำ เราส่ายหน้า
"พี่ไปนอนแล้ว ไม่ไหว เมา" เราตอบ
"คออ่อนจังเลย ทีเมื่อก่อนนั่งกินกับพวกเราได้เยอะกว่านี้อีก" หนุ่มต่อว่า
"ไม่ได้กินนาน แค่นี้นะ ไปนอนแล้ว" เรามองหน้าพี่โด่งอีกทีแกก็เฉยๆ ยิ้มให้เหมือนคนไม่มีอะไรกัน โกรธชิบ ค้อนเขาไปทีนึงก็เดินไปบังกาโล
"พี่เอ๋ไปด้วย" นะเดินโงนเงนตามเรามามือแตะไว้ที่บ่าพยุงตัว เราเดินผ่านห้องนอนจะไปเข้าห้องน้ำ นะก็ยังเดินตามอยู่
"ปวดเยี่ยวพี่เอ๋ ขอเข้าก่อน" นะ บอกตอนเราจะเข้าไปแปรงฟัน
"ก็เยี่ยวไปสิพี่จะแปรงฟัน ง่วงแล้ว" นะไม่ว่าอะไร ยืนหันข้างให้ฉี่ใส่โถเสียงดังเราก็แปรงฟันไปเรื่อยๆ หางตาก็คอยมองแต่ไม่เห็น เพราะแขนบัง นะยืนฉี่อยู่นาน เราแปรงฟันแบบเร็วสักพักก็บ้วนปาก นะสบัดแล้วเก็บเคเข้ากางเกง แล้วยืนโงนเงนรอเรา
"พี่เอ๋เสร็จยัง" เรากำลังซับหน้า "เสร็จแล้วก็ไปสิ รออะไร"
"พยุงหน่อยเดินไม่ไหว" ก็ต้องพยุงไปส่งที่ห้อง ห้องมันมืดไม่ได้เปิดไฟค่อยเดินพานะไปที่เตียง นะล้มตัวลงนอน ไม่รู้นึกยังไงมันอยากขึ้นมาซะแล้ว เหล้าทำให้อารมณ์พลุ่นพล่านขึ้นมา ยืนมองนะนอนหงายแผ่อยู่บนเตียงแล้วอยากขึ้นมา
"นะ นะ" เราสะกิดเขาเบา
"อือ ง่วงนอนแล้วพี่" เราทรุดนั่งที่เตียงลูบไปตามตัวเขาลองเอามือจับที่เป้ากางเกง มันพองตัวเล็กน้อย นะพยายามจะปัดมือเราก็จับแขนเขาเอาไว้ แล้วเอนตัวนอนข้างๆ เลียที่ใบหู ไซ้ซอกคอ มือก็ลูบที่หัวนมเขา ไล่ลงไปเรื่อยๆ นะ เริ่มรูสึกตัวมากกว่าเดิม ตามองเราในความมืดใสแป๋ว เราค่อยๆสอดมือเข้าไปในกางเกง ขนมีนิดเดียวบางแทบจะไม่รู้สึกว่ามีขนสักนิด เคไม่ถึงกับเล็ก แต่ก็ไม่ได้มาตรฐานนึกในใจรูปหล่อทำไมเคเล็กจัง เรารูดไปจนมันแข็งตัวเต็มที่ ก็เลื่อนตัวระดับเดียวกับเค ถอดกางเกงนะ ออก นะยกก้นตามเพื่อให้ถอดง่ายแล้วก็ครอบปากลงไป ไม่แน่ใจว่าเคนะเล็กหรือปากเรากว้างก็ไม่รู้ นะจับหัวเราไว้ เราดูดแล้วรัวลิ้นแบบเน้นๆ กลิ่นฉี่ยังคงจางๆ ดูดเข้าดูดดออก ยังไม่ถึงสิบทีนะก็แตกคาปากเราแล้ว ว้ายังไม่อิ่มเลย เช็ดเคให้เสร็จนะก็ใส่กางเกงแล้วพลิกตัวนอนหันข้างให้ คงจะอายมั๊ง อาจารย์นอนกรนติดกับฝา รู้งี้พาอาจารย์ไปนอนที่ห้องดีกว่า เซ็งจริงๆ ใจมันรุ่มร้อนอาบน้ำคงจะช่วยได้ คิดได้อย่างนั้นก็ไปเอาผ้ามาอาบน้ำ น้ำเย็นๆค่อยดับความร้อนรุ่มลงได้บ้าง ตาสว่างเลย หนุ่มกับนนท์เดินสวนกับเราที่หน้าห้อง
"เฮ้ย อาจารย์มานอนนี่ได้ไงวะ" หนุ่มส่งเสียงโวยวาย
"เงียบๆหน่อยให้แกนอนไปเถอะ มึงก็นอนตรงกลางสิวะ"
เราได้ยินเสียงทั้งคู่คุยกันแล้วรีบล็อกห้องเพราะกลัวว่าจะย้ายมาที่ห้องนี้แทน สักพักก็เงียบไป เลยลุกไปเปิดประตูออกไปดูที่หน้าบังกาโล เพื่อนไอ้หนุ่มนอนอยู่ที่ระเบียงทั้งคู่ แต่ไม่เจอพี่โด่ง นึกโกรธเขาขึ้นมา เพื่อนไอ้หนุ่มสองคนเกลียดกระเทยนักเหรอ เรานึกในใจมันจะแค่ไหนกันนะ เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นใคร ก็ค่อยๆเดินไปที่ระเบียงยืนมองดูสักพัก มันใส่กางเกงบอลกันทั้งคู่ไม่น่าจะยาก ค่อยๆสอดมือเข้าไป เหมือนมันรู้สึกตัวพลิกตัวนอนคว่ำ ไม่เอาดีกว่านึกได้แค่นั้นก็เข้าห้องไปนอน นอนกระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่ยังไงก็ไม่หลับ เงาคนเดินเข้ามาในห้องคงจะเป็นพี่โด่ง แกปิดประตูแล้วโผลงมาที่เตียง นอนคว่ำบนที่นอน เราพลิกกลับมาดูแล้วต้องก่ายหน้าผากสุดท้ายก็อดเหรอเนี่ย แล้วจะทำไงดี พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว ยังมาไม่ถึงชะอำเลย กลั้นใจขยับมานอนชิดพี่โด่ง แล้วเขย่าตัวแก พี่โด่งนอนแล้วเหรอ
"อือ อือ" แกครางอยู่ในลำคอ
"พี่โด่ง เมื่อกี๊ยังไม่เห็นเมาเลย" เราเขย่าแกอีก "อือ" แกพาดมือมาที่ท้องเราแทน"นอน นอน เอ๋" เราตืชีมือลงบนเตียงอีกด้านมองแกอีกครั้ง ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร ก็เลยพลิกตัวนอนตะแคงข่มใจให้หลับ
พี่โด่งพลิกตัวมาก่ายเราแล้วเอามือบีบแรงๆ ตามตัว เราเจ็บและรำคาญก็คอยปัดมือแกออก "ไม่ต้องมาแกล้งจะนอนแล้ว" พี่โด่งก็ก่ายมาทับทั้งๆที่เรายังตะแคงแล้วทำทีเป็นกระเด้า แต่มือแกยังคอยบิดที่เอว และตีตามตัวเราเหมือนเวลาที่ตอนเรามันเขี้ยวแอบบิดเด็กๆ แต่มันแรงจนเราเจ็บ
"พี่โด่ง เจ็บนะ " เราพลิกตัวนอนหวายแกก็ยังทับเราอยู่
พี่โด่งซุกหน้ากับหมอนยังคงบีบเราอีก เราหมดความอดทนก็ออกแรงดันตัวแกออก พี่โด่งขืนตัวเกี่ยวขาล็อกเราเอาไว้
"วางแผนเก่งนักนะเรา เอาพี่โตไปนอนที่อื่นเนี่ย"
"นอนเถอะพี่ ไม่ทำก็ไม่ทำ เอ๋เจ็บนะ"
"ไม่ให้นอน " เสียงแกคล้ายเมา เราปัดมือแกออกเป็นพัลวัน "ไม่เอาแล้ว"เรากัดฟันพูดเสียงแข็ง
"แต่พี่จะเอา"....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
J
Guest

9. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #8
 
20-Jun-12, 08:12 PM (SE Asia Standard Time)
 
   อยากอ่านแต่แรกจัง เจอในกระทู้เก่ามีถึงแค่ 18 ตอนเอง (http://74.55.90.235/CCforum/DCForumID4/731.html)

ถ้าใครมีไฟล์ถึงตอนที่ 33 รบกวนขอหน่อยได้มั้ยคะ
แต่ยังไงก็รออ่านต่อด้วยคน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
( - - ) click here to view user rating
Member since 9-Nov-10
260 posts, 2 feedbacks, 4 points

10. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #9
 
29-Jun-12, 01:54 AM (SE Asia Standard Time)
Click to send private message to %28%20-%20-%20%29 Click to add this user to your buddy list  
ถ้าเอ๋ยังโพสได้สะดวกน่าจะลงต่อนะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
กรี๊ดดดดดด
Guest

11. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #10
 
01-Jul-12, 03:34 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณที่รีโพสนะคะ มีอีกไหมคะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
GT
Guest

12. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #11
 
30-Jul-12, 03:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
  
เข้ามาให้กำล
ังใจคุณเอ๋และตัวแทนนะคะ หวังไว้ว่าคงได้อ่านอีกหลายๆตอน
ขอบคุณนะคะ



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
TNT
Guest

13. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #12
 
06-Aug-12, 01:14 AM (SE Asia Standard Time)
 
   มาต่อเร็วๆนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Guest

14. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
05-Apr-14, 07:54 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คุณเอ๋หายไปเลย อยากให้มาต่อครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT
Guest

15. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #14
 
15-May-14, 11:49 PM (SE Asia Standard Time)
 
   โดนบล็อกแอดมินเข้าไม่ได้มาเป็นปีแล้วแม้จะพยายามอย่างไรใช้เนทตามร้านหรือตามโรงแรมทั้งในและนอกประเทศก็โพสต์ไม่ได้ค่ะ

ยังคงสบายดีนะคะหวังว่าเพื่อนๆก็คงสบายดีเช่นกัน

รักและคิดถึงค่ะ
เอ๋CT


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
คุณหญิงศรี
Guest

16. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #15
 
16-May-14, 11:41 AM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงหล่อนเสมอย่ะแม่เอ๋

คิดถึงผู้ชายของหล่อนทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆกรุบกริบๆ

โดยเฉพาะเจ้าอั๋น คิดถึงมันมากเป็นพิเศษ หล่อนยังเจอเจ้าอั๋นบ้างมั้ย

ตอนนี้เดี๊ยนก็ไม่ค่อยขาดเอ็นท่อนหรอกค่ะ เปรูเอา

เจ้านักมวยรูปหล่อนานๆก็มาส่งส่วยตอนนี้มันมีลูกชายแล้วสามขวบมีแววหล่อกว่าพ่อมันอีก

ต๊ายยยยเดี๊ยนเป็นคุณย่าซะแล้ว

เด็กในเล้าคนล่าสุดเป็นนายแบบอายุ 20 เปด้วยห้องพักย่านปิ่นเกล้า ให้อยู่ฟรีค่ะ ไม่ถึงกับยกให้หรอกนะคะ

ว่างๆหล่อนเข้ามาอัพเดทบ้างนะยะ เดี๊ยนคิดถึงหล่อน และเรื่องราวของหล่อนมาก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
น้องระเบิด
Guest

17. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #16
 
18-May-14, 07:57 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พี่เอ๋คร่า กลับมาต่อไวๆนะคะ น้องอ่ายนิยาย Y สมัยนี้ไม่ไหวเลยคะ ต้องแบบของคุณพี่เท่านั้น


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

18. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
02-Aug-14, 02:28 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พี่เอ๋ พี่เอ๋ พี่เอ๋
คิดถึง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT
Guest

19. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #18
 
08-Nov-14, 00:50 AM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงนะคะทุกคน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
nana
Guest

20. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #19
 
27-Nov-14, 07:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงพี่เอ๋คะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT
Guest

21. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #20
 
12-Dec-14, 11:27 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ลองเข้ามาทักทายพอโพสต์ได้ก็กะจะโพสต์ต่อแล้วก็ติดแอดมิน จนปัญญาไม่รู้ทำไมใครรู้เหตุผลการบล็อคบ้างคะ

เอ๋


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

22. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
16-Dec-14, 10:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงพี่เอ๋ คิดถึงที่สุด

ใครที่รู้วิธีแก้ไข ช่วยให้พี่เอ๋กลับมาโพสลงเรื่องราวดีๆได้ กรุณาด้วยนะคะ

พี่เอ๋คะ พี่เอ๋พอจะมีช่องทางที่ให้แฟนคลับติดต่อพี่เอ๋ได้ อีเมล์ facebook หรืออะไก็ได้ เผื่อว่าผู้รู้จะได้ติดต่อประสานพี่เอ๋ได้
และแฟนคลับที่ติดตามเรื่องราวมาตั้งแต่เริ่มแรก จะได้ส่งความห่วงใย ความคิดถึงพี่เอ๋

ขอบคุณค่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
tikwatt
Guest

23. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #22
 
01-Jun-15, 05:12 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ใครเซฟเรื่องของพี่เอ๋ไว้บ้างครับ เอามาลงใหม่ให้ทีดิคับ อยากอ่านมากกก ตามหาไม่เจอเลย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
nbnbn
Guest

24. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #23
 
04-Jun-15, 06:10 PM (SE Asia Standard Time)
 
   bnbn


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT-35
Guest

25. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #24
 
04-Jun-15, 06:14 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่35

...เรารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ กลิ่นเราที่ระเหยออกมากับลมหายใจรุนแรงพอดู
"ไง อยากนักเหรอ" พี่โด่งยังคงพูดต่อ
"พี่โด่ง เอ๋กลัวแล้ว นอนเถอะนะ กลัวแล้ว" เราบอกเขาเบา พี่โด่งจ้องหน้า เราลูบหลังเขาขึ้นลง "กลัวแล้ว พี่โด่งอย่าทำเลย" ความรู้สึกตอนนั้นคิดว่าเขาคงแกล้งที่จะไม่เอาเราพี่โด่งมองหน้าเราครู่นึง ก็พลิกตัวนอนหงายลงข้างๆ เราโล่งอก พลิกตัวนอนกอดเขา
"กอดกันเฉยๆ ก็ได้" เราหนุนหัวบนแขนเขา พี่โด่งลูบตัวเราเบาๆ แล้วหันหน้ามาจูบหน้าผาก "ขอโทษที่ทำให้กลัว" พูดเสร็จแกก็ยกสะโพกขึ้นดึงกางเกงออก "มันคึกแล้วสิเอ๋" เงาดำๆของเคตั้งตะหง่านในความมืด พี่โด่งพลิกตัวมาทาบอีกครั้ง จูบปากเราแรงๆ ขบไปทั้งหน้าจนเจ็บหน้าเราถอยหน้าหนี แกจับหน้าเรามาจูบต่อแล้วกัดที่ริมฝีปากเบา
"เจ็บ พี่" เราบอกแกตอนที่แกถอนปากออก แกจูบลงมาอีกครั้งแบบนุ่มนวลกว่าเดิม ไซ้ซอกคอพร้อมทั้งดูดคอจนเสียงลอดออกมา มือนึงก็ดึงเสื้อกล้ามเราออก ไล่ลิ้นที่นมทั้งสองข้างจนถึงสะดือ พี่โด่งพยายามจะจับเจ้าหนูของเรา เราเอามือจับไว้ แกเงยหน้ามอง
"ขอดูหน่อยสิ"
"อย่าพี่" เราจับมือแกออก แล้วพยายามพลิกตัวเรารู้สึกหมดอารมณ์ ทุกครั้งถ้าหากมีใครพยายามจะยุ่งกับส่วนนั้นของเรา แกตามมาประกบข้างหลังแล้วดึงกางเกงเราออก เรายกสะโพกให้แกถอดง่ายขึ้น กางเกงหลุดไปแล้ว เคพี่โด่งดีดตัวอยู่ที่แก้มก้นเราแกเบียดมันแนบชิดจนแพรไหมสีดำเบียดอยู่กับก้นเรา พี่โงยกขาเราขึ้นไขว้ที่สะโพกแก เอามือจับเคครูดไปมาตามยาวของร่อง
"พี่ทาครีมก่อนนะ"
"ไม่ต้องหรอก" หัวมันค่อยๆมุดเข้ามาทีละนิด ทีละนิด ถึงจะเคยโดนมามากแล้วแต่ก็เจ็บอยู่ดี
"พี่เอ๋เจ็บ"
"เฉยๆน่า เงียบไปเลยอย่าพูดมาก" ใจทั้งกลัวทั้งอยากแต่อย่างหลังมีมากกว่า เข้าไปได้ครึ่งลำ"ฟิตฉิบหาย" แกพูดออกมาเบาๆ พี่เพลินเคยเล่าให้ฟังถึงการขมิบก้นเราไม่แน่ใจว่าทำยังไงก็เกร็งให้มันแน่นแต่เหมือนไม่ได้ผลอะไรเพราะ มันมีดุ้นคาอยู่ พี่โด่งสูดปากเรากัดหมอนไว้เพราะมันยังเจ็บอยู่ เขาจับสะโพกเราไว้จนแน่นแล้วดันเข้าไปจนสุด แล้วแช่ไว้สักพัก
"หมดแล้วเอ๋ เป็นไง ดีมั๊ย" พี่โด่งพูดที่ข้างหู พอได้ที่แกก็ขยับสะโพกเป็นจังหวะไม่เร็วไม่ช้า อาจจะเพราะมันฝืดด้วย "โอย.." เราโดนสอยจนชาไปทั้งรู เมื่อยขาที่ถูกยก
"เอ๋ช่วยหน่อยเหนื่อย" แกดึงออกไปสูดปากไป เราลุกไปควนหาโลชั่นแล้วค่อยทา โลชั่นมีอัลกอฮอล์ก็ยิ่งแสบอีก ไม่อนากจะทำแล้ว
"เร็วๆ " พี่โด่งเร่ง แกนอนจับเครออยู่เรานั่งคร่อมลงไปพยายามให้ตรงที่สุด หัวเข้าไปง่ายกว่าเดิม พี่โด่งกดสะโพกเราลงมาพร้อมกับเด้งสวนจนมันมิดด้าม จุกจริงๆ
"อ้าวเร็วสิเอ๋" นั่งเทียนที่ไม่ค่อยคุ้นเลย บดสะโพกแบบงูๆปลาๆ พี่โด่งก็สวนตามเร็วและแรง
"ไม่ได้เรื่องเลย"แกบ่น พร้อมกับดันตัวขึ้น ดันตัวเราลง
"เบาๆเดี๋ยวหลุด เอ๋"เรานอนอยู่บนขาของแก พี่โด่งเปลี่ยนท่าทั้งๆที่ยังคาอยู่ในตัวเรา แกจับตัวเราพับครึ่งตัวขาพาดที่บ่า เข่าของเราชิดกับคาง พี่โด่งโหย่งตัวขึ้นลงช้าๆ มันบาดลึกอยู่ข้างใน แกเริ่มคล่องแล้วก็โยกอย่างดุเดือด เราเสียวจนน้ำตาซึม พี่โด่งไม่ยอมเสร็จซะที แกถอนออก เสียงมันดังบ็อกซ์ แล้วลากตัวเราไปที่ปลายเตียง พี่โด่งลงไปยืนที่พื้นจับสะโพกเรายกลอยแล้วเสยพรวดอีกครั้งขาเขาแหกกว้างตัวพี่โด่งอยู่กลางตัว แกยืนสอยเรานานจนเมื่อยขา ก็ดึงออก
"ทำไมไม่เสร็จซะทีวะ" แกบ่นพึมพำ ร่วมชั่วโมงแล้ว พี่โด่งจับเรานอนคว่ำท่าเบสิก ตัวเราอยู่ข้างล่างแกก็รัวสะโพกพร้อมทั้งคว้านข้างใน จูบที่หูเราและดูดซอกคอจากนั้นก็รัวเร็วๆถี่ .."อา อา.." พี่โด่งซอยอย่างไม่คิดชีวิตม้วนเดียวจบน้ำฉีดเข้ามาในตัวเราอย่างแรงแกแช่ไว้จนมันหดก็ดึงออก เรารูระบม เหงื่ออกเต็มตัวลุกคว้าผ้าเช็ดตัวห่อตัว แล้วเดินออกจากห้อง พี่โด่งก็หยิบผ้าขนหนูเดินตามมา
"อาบน้ำให้หน่อย" พี่โด่งกับเรายืนจูบกันใต้ฝักบัวอยู่นาน เราถูสบู่ให้แกฟอกเค ปลิ้นเข้าปลิ้นออก จนแกเสียวร้องลั่น
"อย่ารูด มันเสียว" ล้างนอกล้างในเสร็จก็ออกจากห้องน้ำ
ถึงห้องก็เปิดไฟ พี่โด่งยืนแก้ผ้าเช็ดตัว เคสวยยังแกว่งขยับตามแรงที่แกเช็ดตัว พี่โด่งเช็ดตัวจนแห้งก็หยิบกางเกงขาสั้นมาใส่แล้วปิดไฟนอนลงมาข้างๆ
"ไงดีมั๊ย" แกหอมแก้มเราแรงๆ เราพลิกตัวมากอดแก ช่วงล่างเสียวจนรู้สึกโหวงๆพิกล เราสอดมือเข้าไปในกางเกงพี่โด่งกาขาออกให้จับง่ายขึ้น เรากุมมันไว้จนหลับไปในที่สุด....


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT-36
Guest

26. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #25
 
04-Jun-15, 06:15 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่36

..รู้สึกตัวขึ้นมาเช้ามืดเหราะพี่โด่งตื่นไปเข้าห้องน้ำ แกหายไปสักพักก็กลับมานอนต่อ เรานอนลืมตาอยู่
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอ โทษทีนะเมื่อคืนหนักไปหน่อย" เราไม่ตอบแต่นอนซุกที่อกแกแทนพี่โด่งเอามือลูบผมเราเบาแล้วจูบหน้าผากทำไมถึงหวานขนาดนี้นะ
"กี่โมงแล้วพี่"
"ตีห้า" พี่โด่งตอบ
"เราจะกลับกันกี่โมงพี่"
"คงสายๆมั๊ง รอพวกนั้นตื่นก่อน" อาจารย์บอกตั้งแต่ขามาแล้วว่า ขากลับพี่โด่งจะและส่งที่หมอชิตส่วนแกก็จะกลับบ้านที่ระนองต่อเลย พี่โด่งลาพักร้อนมาหนึ่งอาทิตย์แวะมาหาอาจารย์ก่อนเพราะไม่ได้เจอกันนานซึ่งก็เป็นช่วงโรงเรียนหยุดหลายวันพอดี
"เดี๋ยวเราก็ต้องแยกกันแล้วสิพี่" เราถามแก
"นั่นนะสิ"
"พี่โด่งจะกลับไปเยี่ยมบ้านเหรอ" เรายังคงถามต่อ
"ก็กะจะไปเยี่ยมแม่ แม่อยู่คนเดียว เอ๋อยากไปเที่ยวบ้านพี่มั๊ย" พี่โด่งถามแล้วหอมแก้มเบาๆ
"อยาก แต่จะไปได้ยังไง ในเมื่อทุกคนกลับ"พี่โด่งคงแกล้งถามไปยังงั้น
"จริงด้วย ถ้ามีคนไปต่อก็คงไปได้" พี่โด่งพลิกตัวมานอนทับเรา
"พี่นอนพอรึเปล่าเดี๋ยวขับรถไม่ไหวนะ"
"แล้วเอ๋ หล่ะ"
"หลับสบายเลย"
"สบายรูหล่ะสิ" พี่โด่งพูดไปไซ้ซอกคอไป "อีกยกนะเอ๋ ยังไม่หายมันส์เลย" เราดันหน้าแกออกจากคอ
"พี่โด่งชอบผู้ชายด้วยกันรึเปล่า" แกส่ายหน้า
"ชอบแบบเอ๋นี่แหละ เห็นหน้าก็อยากจะเอา"
"เอ๋ ชอบพี่นะ" เราจูบที่คางแกเบาๆ พี่โด่งถอดกางเกงออก เคแกโด่แล้ว มันผงกหัวอยู่ต่อหน้า เราจับมันแน่นแล้วเยที่ปลายแซะไปตามรอยแยกมือก็ลูบไข่ใบโตจนมันค่อยๆหดรั้งขึ้นมา พี่โด่งกำลังเอาปากเราอยู่ เราดูดแรงขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ มันชึกจนถึงคอหอยเลย พี่โด่งค่อยๆดึงออก แล้วจับเรานั่งตักเรารีบหยิบโลชั่นมาป้าย พี่โด่งหย่อนขาลงข้างเตียงแล้วยกตัวเราขึ้น แกจับเคตั้งรอแล้วให้เราหย่อนลงนั่งเบาๆ มันค่อยๆเข้าไปทีละนิด ทีละนิด..." อา..." พี่โด่งครางเบาๆ เราขย่มตอพี่โด่งในท่านั้นนานพอดู
"พี่จะเสร็จรึยัง" เราถามไปจูบที่ซอกคอแกไป
"เสียวดีเอ๋" เรากอดแกแน่นเพราะเสียวเหมือนกัน ตามองไปที่หน้าต่างฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว เริ่มมองเห็นหน้าพี่โด่งชัดมากขึ้น ยิ่งดูก็ยิ่งหล่อ แกยิ้ม
"มองอะไร" ช่วงล่างยังคงเนิบๆอยู่
"มองคนหล่อ" พูดเสร้จก็หอมแก้มแกที แกก็หอมตอบ
"เอ๋จะเช้าแล้ว พี่เร่งนะ" เราค่อยๆลุกขึ้น พี่โด่งจับเราโก้งโค้งแล้วเสยพรวดทีเดียวจนมิดด้ามจากนั้นก็เย่อเราเร็วและแรง จนตัวเราสะเทือนตามแรงของแก เสียงเนื้อกับเนื้อกระเทกกันแรงขึ้นเรื่อยๆ พี่โด่งชักออกเกือบสุดแล้วดันพรวดเข้ามาแรงจนหนอกแนบกับก้นเรา ก่อนจะดันให้เรานอนลงที่เตียงพร้อมทาบทับลงมาเวลาเดียวกับน้ำเชื้อที่ฉีดตามมาอย่างแรง พี่โด่งทาบเราอยู่อย่างงั้นสักพัก ก็สะกิดเราให้ลุกขึ้น เคแกหลุดออกไปแล้ว เราแฉะไปทั้งก้น
"ไปอาบน้ำแล้วไปตลาดกันเถอะเอ๋" พี่โด่งหยิบผ้าเช็ดตัวเดินตัวปลิวไปแล้ว เราถึงตามไปประตูยังไม่ปิด
"เร็วมาอาบน้ำด้วยกัน ทำเวลาหน่อย" เราช่วยกันอาบน้ำอย่างเร็วพี่โด่งเสร็จก่อน แล้วค่อยๆเปิดประตูชะโงกดูให้แน่ใจก่อนจะก้าวออกไป "พี่ไปห้องก่อนนะ" พี่โด่งรีบวิ่งเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว เราก็อาบน้ำต่อ แปรงฟันล้างซอกล้างหลืบหลายครั้ง ในใจก็นึกกลัวเอดส์ขึ้นมา นี่เรามั่วรึเปล่า ได้แต่ถามตัวเอง แล้วเอดส์มันเป็นยังไงนะ ความรู้ตอนนั้นมันช่างน้อยนิด นึกได้อย่างนั้นรีบฟอกสบู่แหย่เข้าไปล้างอีกหลายรอบจนอาบเสร็จ
พี่โด่งแงตัวเสร็จแล้ว เราเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้า หันมองตัวเองในกระจกตู้เสื้อผ้าก็ตกใจ ตัวเราเขียวเป็นจ้ำๆ ตั้งแต่ซอกคอ ราวนมทั้งสองข้าง ดูใกล้ๆมันเป็นรอยกัดชัดเจน ช่วงเอวก็มี
"พี่โด่งนั่งเช็ดผมอยู่ก็สงสัยที่เราไม่ยอมใส่เสื้อ
"ส่องอยู่นั่นแหละ ใส่เสื้อผ้าเร็วๆสิครับ"
"พี่โด่ง เอ๋เป็นอะไร" เราเดินทั้งๆที่ถอดเสื้อมาให้แกดู แกปล่อยมือจากผ้าแล้วจับเอวเรา มองตามที่บอก แล้วก็หัวเราะเบาๆ
"พรายขย้ำมั่ง นอนแปลกที่"แล้วแกก็หัวเราะที่เราทำหน้าไม่เข้าใจ
"พรายที่ไหน ก็มีแต่พี่นะแหล่ะที่นอนด้วย" รอยบางรอยที่ไม่มีรอยฟันก็มีเขียวๆบ้างเหมือนช้ำ แต่จับดูก็ไม่ถึงเจ็บ
"เด็กดื้อก็ต้องโดนดีอย่างนี้แหละ ทีหลังอย่าดื้อนะครับ"
นึกขึ้นได้ว่ามันคล้ายรอยที่อาจารย์ดูดเมื่อครั้งไอ้ตั้มถาม เพียงแต่ตกใจว่ามันชัดมาก
"แล้วอีกกี่วันมันจะจาง"
"ไม่จางหรอก จะได้จำนานๆไง" แกพูดตีหัวเราเบาๆ "ใส่เสื้อเร็ว พี่เที่ยวตลาดกัน" เราทำตามอย่างว่าง่าย พี่โด่งลงไปติดเครื่องรอ ออกจากห้องก็สวนกับอาจารย์ที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำ
"เอ๋ จะไปไหนกัน"
"ไปตลาด"
"เออดีแล้ว หาอะไรมากินตอนเช้าด้วยนะหิวแล้ว" พูดเสร็จแกก็เดินไปห้องน้ำ ดีจริงที่อาจารย์ไม่สงสัย....

..ถึงโลกจะแหลกสลาย จันทร์จะมืดแลหาย ฉันไม่คลายสัมพันธ์ ขอเธออย่าลืมเลือนฉัน แล้วเราคงพบกัน เหมือนจันทร์ที่คู่ดารา แต่ฉันยังนึกหวั่นเสมอรักเธอเลือนเหมือนม่านบังตา บางวันฉันเฝ้าคอยหา.....
"เพลงอะไรพี่" เสียงเพลงหวานครวญมาจากวิทยุ
"ม่านบังตา" พี่โด่งตอบ "ฟังรู้เรื่องมั๊ย" เราพยักหน้าเพลงแนวนี้แม่เปิดประจำ เพียงแต่ไม่รู้ชื่อเท่านั้น วันนี้ทำไมฟังแล้วดูเศร้ากินใจนัก พี่โด่งหันหน้ามายิ้ม
"เด็กดื้อ" แกบีบมือเราเบาๆ
"เอ๋อยากไปเที่ยวบ้านพี่จัง" เรามองหน้าพี่โด่ง แกยิ้มกับตัวเองแต่ไม่ตอบอะไร ถึงตลาดแวะกินโจ๊ก และซื้อกาแฟกับปาท่องโก๋ ข้าวและกับหลายอย่าง ผ่านแผงแม่ค้าผักเมื่อวานแกจำได้ ยิ้มทักทาย
"วันนี้ไม่อุดหนุนเหรอลูก"
"วันนี้จะกลับแล้วฮะ"
"เออ ดูใกล้ๆก็เด็กผู้ชายนี่นา" พี่โด่งหัวเราะเบาๆแล้วจูงมือเราเดินจากร้านป้าแก
ทุกคนตื่นและเก็บเสื้อผ้ารอที่ด้านล่างแล้ว กินข้าวกัยอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นรถ อาจารย์ไปคืนห้อง เวลาของเราหมดแล้วเหรอ เราถามตัวเองในใจตอนที่นั่งอยู่กระบะหลัง มองหน้านะ นะหน้าแดงหลบสายตาเราเรายิ้มให้เขาแต่นึกขอโทษอยู่ในใจ เรานั่งเงียบไปตลอดทาง บางครั้งก็งีบหลับ ไม่นานรถก็มาถึงหมอชิต ทุกคนลุกขึ้นกระโดดลงจากรถ
"เสียดายนะที่ไม่ได้ไปส่งพี่ที่โรงเรียน"
"โอ๊ย ย้อนไปย้อนมา" แกตบบ่า "อยากเจอก็ไปเที่ยวอีกสิวะ" อาจารย์เท้าสะเอวยืนคุยกับพี่โด่งใกล้ๆกับเรา "ไงเราสนุกมั๊ย" แกหันมาถาม "สนุกฮะ"
"เมื่อกี๊ผมชวนเอ๋ไปเที่ยวต่อ "
"ฮั่นแน่" อาจารย์ชี้หน้าพี่โด่ง"ว่าไงเราอยากไปมั๊ยหล่ะ" เราพยักหน้า อาจารย์ลูบหัวเราเบาๆ "คงกลัวพ่อกับแม่ละสิ" แกมองหน้าเรา"จะยากอะไร โทรไปขอสิ"
"แล้วจะบอกว่าไง ในเมื่อทุกคนกลับแล้ว"
"ก็แค่บอกว่าขอเที่ยวต่อวันสองวัน เพราะมีบางคนไปต่อไม่ต้องพูดมาก ถ้าพ่อแม่อนุญาตก็ไป ถ้าไม่ก็อด แค่นั้นเอง" อาจารย์แนะ ขอแม่ง่ายกว่าเตี่ย
"จะไปไหนต่อหล่ะ แล้วจะมีเงินพอเหรอ" แม่ถามมาจากปลายสาย เงินเรายังอยู่ครบบวกลบค่ารถแล้วคงพอ บัตรเอทีเอ็มก็มี "ระวังตัวด้วยนะ ขึ้นรถขึ้นรา " แม่บอกเหมือนยอมแล้ว "เดี๋ยวแม่จะบอกเตี่ยให้ ไม่ต้องกลัวหรอก เที่ยวให้สนุก" แม่วางหูไปแล้ว เรารู้สึกไม่ดีที่ติดผู้ชาย แต่สมองอันน้อยนิดตอนนั้นมีอยากจะทำตามใจอยากเท่านั้น
..อาจารย์กำลังจะซื้อตั๋ว หันมามอง
"ว่าไง"
"แม่ให้ไป"
"ก็แค่นั้น ทีนี้ก็ถามเจ้าภาพเขาดูว่าเขาเลี้ยงไหวมั๊ย" พี่โด่งอมยิ้มอาจารย์เอาศอกกระทุ้งที่ท้องแกเบาๆ พร้อมกับแซวว่า" ดูลูกเขาดีๆนะโว๊ย พ่อแม่เขาหวง" แกหัวเราะร่า
"พี่เอ๋ไม่กลับด้วยกันเหรอ" นนท์เดินมาถาม "ว้าเสียดายจังพรุ่งนี้โรงเรียนเปิดแล้วไม่งั้นจะตามไปด้วย" คนอื่นได้แต่ทำหน้าแปลกใจเมื่อรู้ว่าเราไม่กลับ ยืนส่งทุกคนจนรถออกแล้วกลับมาที่จอดรถ ตั้งแต่ในหมอชิตพี่โด่งไม่ได้พูดอะไรสักคำ
"เราจะไปไหนกันดี" แกหันมาถาม เราส่ายหน้า "ไม่รู้สิ"
รถค่อยๆออกจากบริเวณนั้นขับไปเรื่อยๆ เราดูหน้าพี่โด่งแล้วก็คิดไปเองว่าแกคงคิดผิดที่ชวนเรา จึงถามขึ้นมาจากความเงียบ
"พี่โด่ง อยากให้เอ๋ไปด้วยรึเปล่า" กรุงเทพฯกับเราเป็นเรื่องธรรมดาไปกลับคนเดียวทุกปิดเทอมอยู่แล้ว แวะไปนอนบ้านป้าก่อนกลับสักคืนคงดี เรานึกในใจ พี่โด่งนิ่งสักพักแล้วหันหน้ามาตอบ
"ไม่อยากจะชวนเรอะ แต่ไม่รู้จะไปไหนดีเท่านั้น ตอนนี้เหนื่อย อยากจะพักสักหน่อย" แกหันหน้ามามอง "ไปห้องพี่ก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วแกก็ออกเลนขวาขับเร็วกว่าเดิม......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
CT-37-38
Guest

27. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #26
 
04-Jun-15, 06:17 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่ 37

...อพาร์ทเมนต์พี่โด่งอยู่แถวฝั่งธนห้องชายโสด ค่อนข้างจะรกแต่ไม่ถึงกับเละเทะ มีโด่งมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพียบจนเราไม่แน่ใจว่านี่อยู่คนเดียวเหรอ มีเครื่องครัว เครื่องซักผ้าพร้อม
"รกหน่อยนะ ไม่ค่อยได้เก็บ"
"พี่อยู่คนเดียวเหรอ" เราแปลกใจที่เห็นข้าวของเครื่องใช้
"เคยอยู่กับแฟน ตอนนี้เลิกกันแล้ว" หน้าแกเมื่อพูดถึงแฟน "พี่เหนียวตัว ขออาบน้ำก่อน เอ๋ดูแลตัวเองนะ" เรานั่งอยู่เก้าอี้รับแขกหน้าทีวี ชั้นวางทีวีกั้นส่วนห้องนอนกับห้องนั่งเล่นแยกจากกัน ห้องน้ำลึกเข้าไปข้างใน แอร์เย็นทำให้ง่วง ตัวเราค่อยๆเอนไปกับโซฟา แล้วหลับ สะดุ้งตื่นเมือได้ยินเสียงเคาะประตู พี่โด่งยังคงอาบน้ำอยู่ เราเดินดูที่ตาแมวหน้าประตู เป็นผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับพี่แก ค่อยๆแง้มประตูออก
"โด่งอยู่มั๊ยน้อง" เขาใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนอยู่กับบ้าน
"กำลังอาบน้ำ" เขาทำทีเหมือนจะเข้ามาแต่เราไม่กล้าเปิดให้
"ใครเหรอ เอ๋ พี่โด่งใส่ผ้าเช็ดตัว เดินมาที่ประตู"
"ไง พี่"
"เห็นรถจอดเลยมาชวนไปกินเหล้าตอนเย็น ที่ร้านเดิม"
"โอเคพี่ เดี๋ยวตามไป" พี่โด่งไม่ได้แนะนำให้รู้จัก ผู้ชายคนนั้นเดินกลับห้องไปแล้ว พี่โด่งบอกให้ล็อกประตูแล้วตัวแกก็เดินไปด้านใน เรายังสงสัยไม่หายว่าถ้าแกจะไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเราจะอยู่ยังไงนี่ พี่โด่งนอนใส่กางเกงในตัวเดียวอยู่ที่เตียง
"เอ๋ พี่เมื่อยนวดให้หน่อยสิ" แกนอนกระดิกเท้าอยู่ที่เตียงออกคำสั่ง เรานั่งลงข้างๆแล้วค่อยๆบีบไปตามขาไล่เรื่อยไปที่ต้นขา ขายาวรกขนดูแล้วเกิดอารมณ์นัก พี่โด่งคอยกำกับให้นวดอย่างที่แกบอก "อย่าเล่นเหมือนเมื่อวานนะพี่เหนื่อย" แกคงกลัวเราคลึงอีกเลยรีบออกตัว "อย่างนั้นแหละดีแล้ว" ตัวร้ายยังคงนอนสงบนิ่งอยู่
"เหนื่อยแล้วพี่" เราปวดมือ
"กำลังสบายเลย" เรานอนลงข้างๆ พี่โด่งนอนก่ายขามาทับที่ท้อง เรามันเคยมือก็คว้าที่เป้าทันที กลายเป็นคนบ้าค-ย พี่โด่งเอามือกุมไว้แล้วบอกทั้งที่หลับตา
"นอนเฉย" อย่าเพิ่งกวนใจ" สักพักก็หลับกันทั้งคู่ ตื่นขึ้นก็เย็นมากแล้ว พี่โด่งชวนลงไปหาอะไรกินที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนท์ อพาร์ตเมนท์ไม่ใหญ่มากมีแค่สามชั้น ชั่นละประมาณสิบห้อง คนทำงานเริ่มกลับกันแล้ว พี่คนเมื่อเช้าตั้งวงกับเพื่อนที่ร้านฝั่งตรงข้าม พี่โด่งโบกมือทักทายสั่งอาหารกินกัน
"เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ เอ๋ไปรอที่ข้างบนห้องนะ" แกยื่นกุญแจให้ "เดี๋ยวพี่จะไปร่วมวงกับเขาหน่อย"
"พี่ไม่กลับระนองคืนนี้เหรอ" เราซัก
"เปลี่ยนแผนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคิดกันว่าจะไปไหนดี"
"ว้า ไม่สนุกเลย" เราพึมพำออกมาเบา แกจ้องหน้า
"สนุกสิ รับประกันครับ รอพี่แป็บนึง วันนี้เหนื่อยจริงๆ เพราะเอ๋นะแหล่ะ" แกทำทีเป็นถลึงตาใส่ ยิ่งดูยิ่งหลงจริงๆคนอะไรมีหลายบุคลิก จัดการอาหารตรงหน้าเสร็จแล้วพี่โด่งก็จ่ายเงิน เราจะช่วยออก แกก้หันมาตีมือแล้วบอกว่า
"ไม่เป็นไร สำหรับเอ๋พี่เลี้ยงได้"
"เลี้ยงตลอดไปได้มั๊ย" ทวนคำอย่างคนองปาก
"ไม่ไหว กลัวซีด"พี่โด่งหัวเราะเสียงดัง แล้วไล่เรากลับห้อง เราทำหน้างอ
"อย่างอแงนะ เดี๋ยวตามไป" เรางอนมองแกเดินข้ามไปอีกฝั่งที่เป็นเพิงขายอาหาร ผู้ชายเต็มห้าหกคนนั่งรอพี่โด่งอยู่ เราเดินช้าๆขึ้นบันไดกลับห้อง รุ่นใหญ่กำลังไขกุญแจห้องตรงข้ามอยู่ แต่งตัวชุดทำงานแต่ดูลักษณะก็รู้ว่าพวกกัน แกมองเราแปลกๆ ก่อนจะปิดประตูห้อง กลับมาในห้องแล้วไม่มีอะไรทำก็ดูทีวี มีหนังโป๊สองสามเรื่อง อยากดูก็เลยเปิดดู หนังผู้ชายผู้หญิงธรรมดา เราforward ไปเฉพาะตอนมีผู้ชายเยอะๆ ดูทีวีก็แล้ว เวลาผ่านไปช้ามาก จนเบื่อเพิ่งจะสองทุ่ม อยากจะลงไปก็กลัวแกโกรธ เลยรื้อค้นหนังสือเก่าๆที่โต๊ะ ทำงานมาอ่าน ในลิ้นชักมีอัลบั้มรูปอยู่หลายเล่มเราเปิดดูไปเรื่อยๆ รูปรับปริญญา อาจารย์ก็มา มีผู้หญิงสวยยืนข้างทุกรูปคงเป็นแฟน รูปไปเที่ยวต่างจังหวัดและมีรูปอีกเซ็ตที่ชวนสงสัย เหมือนงานวันเกิด ในรูปมีผู้ชายที่มาชวนกินเหล้า ส่วนติดกันกับพี่โด่งก็เป็นพี่รุ่นใหญ่หน้าห้อง ท่าทางเมาทั้งคู่ในภาพ พี่โด่งเหนี่ยวคอพี่แกไว้แล้วเอาหน้าแนบชิดพร้อมชูแก้วเหล้ามาที่กล้อง ส่วนรุ่นใหญ่นั้นเอียงคอยิ้มเอียงอาย เราพลิกดูเร็วหารูปอื่นอีกจนหมดเล่มก็ไม่มีเลยเก็บใส่ลิ้นชักตามเดิม..นั้งเล่นนอนเล่นก็เบื่อและรู้สึกหิวขึ้นมาอีกก็เลยลงไปข้างล่างที่ร้านอาหารอาหารฝั่งตรงข้ามโตธของพี่โด่งกลุ่มใหญ่ขึ้น และในนั้นก็มีพี่ห้องตรงข้ามด้วย พี่โด่งคงจะเมาแล้วคุยกันอย่างออกรส เราเดินเล่นไปตามถนนหน้าอพาร์ตเมนท์ ซอยเล็กๆ ไม่นานก็มาโผล่ถนนใหญ่ มีร้านหนังสือและแผงขายของรอบค่ำ เรียงรายอยู่ เดินดูนั่นดูนี่ในร้านหนังสือฆ่าเวลา แล้วก็ซื้อของกินเล่นกลับด้วย สามทุ่มกว่ายังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกเขาสังสรรค์อะไรกันนะ หงุดหงิดขึ้นมาทีละนิดทีละนิด ทำอะไรไม่ด้นอกจากนั่งเฝ้าหน้าจอทีวี เบื่อไปหมด เราค่อยๆเอนตัวลงนอนกับโซฟาดูทีวีรายการดึกแล้วก็หลับไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้นราวๆเที่ยงคืน พี่โด่งยืนเมาแอ่นอยู่หน้าห้องโดยมีพี่ผู้ชายที่ชวนมาส่ง ส่วนพี่ห้องตรงข้ากำลังไขกุญแจ เข้าห้องแก
"น้องช่วยพี่พยุงหน่อย ไอ้โด่งเมาเละเลยวันนี้" เราช่วยกันวางพี่โด่งที๋โซฟา
"น้องนี่หน้าตาคุ้นๆนะ เคยมาที่นี่รึเปล่า" เราส่ายหน้า
"พี่โด่งเอนตัวนอนกับโซฟาแบหมิ่นเหม่เหมือนจะตก พี่ผู้ชายยังใช้ความคิด แล้วแกก็คิดออกหันหน้ามามอง"นึกออกแล้วถ้าผมยาวกว่านี้อีกหน่อยก็เหมือนเมียเก่าโด่งมัน เป็นน้องเมียเหรอ" เราก็ส่ายหน้าอีก
"เป้นญาติเราตัดความรำคาญแล้วปิดประตู คนเมานี่จินตนาการได้ร้อยแปด ดูรูปแล้วเมียพี่โด่งไม่เห็นจะเหมือนเราตรงไหนเลย หรือว่าเหมือนดึงรูปในลิ้นชักออกมาดูอีกทีให้แน่ใจ ดูไม่ออก จะเหมือนได้ไงผู้หญิงกับผู้ชาย มัวแต่เพลินดูรูปพี่โด่งก็กลิ้งตกจากโซฟาลงมานอนแอ้งแม้งที่พื้นซะแล้ว .....

...เราค่อยๆดันตัวพี่โด่งขึ้นจากพื้น ตบแก้มแกเบาแกงัวเงียโวยวายแล้วคออ่อนลงไปอีก ลุกขึ้นลากแกเข้าไปที่ด้านในที่เป็นเตียงนอน หนักเอาการหมดแรงจนนั่งหอบ
"พี่โด่ง" เราเรียกแกเบาๆที่หู "ลุกขึ้นนอนที่เตียงเร็วจะได้นอนสบาย"
"อือ อือ" แกค่อยๆดันตัวลุกขึ้นตามแรงดึงของเรา"ใครวะ"
"เอ๋ไง" พี่โด่งปัดมือเรา แล้วทิ้งตัวนอนหงายลงบนเตียงเราค่อยๆจัดท่าทางให้แก
"ร้อนโว๊ย"พี่โด่งงัวเงียมาถอดเสื้อยืดออก แอร์เย็นขนาดนี้ยังร้อน เราสงสารรีบวิ่งไปหยิบผ้ากับชามเล็กๆใส่น้ำบิดหมาดๆเช็ดหน้าและตามลำตัว พี่โด่งยังครางฮือเหมือนไม่ได้สติเช่นเดิม เอาผ้ากับชามไปเก็บแล้วนั่งมองหน้าแก เราหลงรูปแกมาก ผู้ชายที่ผ่านมาไม่มีใครหล่อจนเราเทใจให้ขนาดนี้ นึกถึงนาจ ความรักในตอนนั้นมันผ่านไปแล้วมีแต่ความทรงจำดีๆที่เหลืออยู่ แต่สำหรับพี่โด่งเราเองตอบตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้คิดอะไรอยู่ จะเรียกว่ารักได้หรือไม่ ไม่แน่ใจ พี่โด่งยังคงรำคาญตัวเองอีกสักพักแกก็ลุกขึ้นยืนโงนเงนเราเองก็ตกใจว่าแกจะทำอะไร พี่โด่งถอดกางเกงยีนส์แต่เพราะถอดยากก็ล้มลง เราต้องช่วยประคองแกลุกขึ้น
"เดี๋ยวช่วยถอดพี่" พี่โด่งนอนหงายลงกับเตียงอีกครั้งกว่ากางเกงจะหลุดไปจากตัวก็ยากเอาการ นอนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวแล้วคงจะดีขึ้น เราคลุมผ้าให้แกแล้วปิดไฟในห้องสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ มือก่ายหน้าผากมันไม่สนุกเท่าที่ควร ถามตัวเองซ้ำซากว่าพรุ่งนี้จะเอายังไง ถ้าหากมันเป็นอย่างนี้อีก พี่โด่งกรนเบาๆแสดงว่าคงหลับ แต่เราสิไม่ได้เงี่ยนหากแต่นอนไม่หลับ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนหลับไป แล้วก็สะดุ้งตื่นเพราะพี่โด่งดีดตัวลุกจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำไปฉี่ ไม่นานแกก็ล้มตัวลงนอน
"ใครวะ" แกถามขึ้นมาเมื่อพลิกตัวมาทับเรา เราไม่ตอบนอกจากขยับตัวหนี "ถามว่าใคร"แกขยับตาม
"เอ๋ เอง" เราตอบ
" นึกว่าอีพงษ์" พี่โด่งก็นอนต่อ ใครคืออีพงษ์ยิ่งสงสัยขึ้นมาอีก สักพักพี่แกก็ก่ายขามาทับเรา "มานอนใกล้ๆหน่อยสิ" เราซุกตัวไปตามคำสั่ง "ทำไมไม่กลับบ้าน" อ้าวไหงถามงั้นหล่ะ เมาจนลืมเลยเรอะ เรานึกในใจ "ถามไม่ตอบเดี๋ยวเถอะมึง เจอดีแน่" พี่โด่งลุกจากเตียงไปห้องน้ำอีก เรานึกรำคาญเลยลุกไปนอนที่โซฟา "อยู่ไหนวะ" แกออกมาที่โซฟา "มานอนทำไมที่นี่"
"ก็พี่เมา พูดไม่รู้เรื่อง"
"ใครพูดไม่รู้เรื่อง ใครวะมันดื้อตามมา แค่ชวนเล่นๆเท่านั้น"นี่แกพูดจริงเหรอนี่
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวเช้าแล้วกลับก็ได้" เราปัดมือแกออก
"ดี กลับไปเลย" แกเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากเรา
"งั้นพี่ก็ไปนอนที่เตียง เอ๋จะนอนตรงนี้แหล่ะ" เราดันตัวแกที่พิงเราออก
"ไม่นอน มานี่เลยเอ๋ ลุกขึ้นมา" เรายังนั่งเฉย "บอกให้ลุก" เสียงแกดังขึ้นเรื่อยๆ เราก็นั่งเฉย "จะลุกไม่ลุก" แกกระชากแขนเราจนเจ็บแล้วลากตัวเราไปที่เตียง "เจอดีแน่เอ๋" เราชักจะชินแล้วก็ไม่ตกใจเท่าไหร่ ก็ทำตามอย่างที่แกบอก "นอนข้างๆนี่" แกดึงตัวเรามาใกล้ๆ เรารำคาญจนถึงขีดสุดคงเพราะง่วงด้วย พี่โด่งลุกไปปิดไฟ แล้วทิ้งตัวมาทับเราทั้งตัว นอนกอดเราแน่นจนอึดอัดแกฟุบอยู่บนตัวเราสักพักเราก็ดันตัวแกออก พี่โด่งก็รู้สึกตัว "เอ๊ะไอ้นี่ บอกให้นอนเฉยๆ" แกผงกหัวมองหน้าเราในความมืดแล้วเอามือบีบที่คาง
"พี่โด่ง เอ๋เจ็บนะ" เสียงออกกระท่อนกระแท่นแกก็ไม่ยอมปล่อยมือ เราเอามือแกะมือแกออก แกะยังไงก็ไม่หลุดเราก็เลยกัดที่มือแก พี่โด่งสะบัดมือออกแล้วตบเราฉาดนึง หน้าชาหูอื้อ น้ำตาไหลพรากเจ็บใจที่โดนตบ "มึงกัดกูเหรอ" แกนั่งคร่อมตัวเราไว้เรายกมือปัดป้องมือแกแล้วจับมือแกทั้งสองข้างบีบไว้แน่น
"พี่โด่ง คุยกันก่อน ฟังหน่อยสิพี่"
เสียงเราดังขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนแกจะสงบลงแต่ยังนั่งทับตัวเราอยู่ "พรุ่งนี้เอ๋จะกลับแล้ว ขออาศัยนอนให้ถึงเช้าแล้วจะกลับ เอ๋ไม่รบกวนพี่แล้ว" ยิ่งพูดน้ำตายิ่งไหลออกมา "ถ้าพี่ไม่เต็มใจ เอ๋ก็ไม่อยู่แล้ว เอ๋ขอโทษทุกอย่างที่ล่วงเกินพี่ พี่นอนเถอะนะอีกไม่นานก็เช้าแล้ว " เราสะอื้นปล่อยมือแกออกแล้วเอามือปาดน้ำตาที่มันไหล พี่โด่งทิ้งตัวลงนอนโดยไม่ตอบโต้อะไร เราขยับตัวไปนอนหันหลังให้ที่ด้านริมสุดของเตียง รู้สึกเค็มในปากเหมือนตอนเลือดออกเลยวิ่งเข้าห้องน้ำไปดู เลือดกลบปากเลย บ้วนเลือดทิ้งแล้วล้างปากมุมปากที่โดนตบช้ำจับดูก็เจ็บ เห้นหน้าตัวเองแล้วอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ นึกถึงหน้าแม่กับเตี่ย อยากกลับบ้านเหลือเกิน
"เป็นอะไร" พี่โด่งยืนถามที่หน้าห้องน้ำ เลือดยังซึมออกมาอีกเราก็บ้วนทิ้ง ยกชายเสื้อขึ้นเช็ดปากเลือดติดกับเสื้อขาวชัดเจน เราล้างหน้าเสร็จแล้วมองหน้าแก
"เอ๋กลัวพี่แล้วละฮะ พี่ไม่รักไม่ชอบ ก็ขออย่าทำร้ายกันเลย มันเจ็บ" เราทรุดตัวนั่งลงที่เตียงอีกฝั่งแล้วเอนตัวลงนอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก เสียงน้ำฝักบัวดังสักพักก็หยุด พี่โด่งเดินกลับมานอนที่เตียง มือเย็นของแกลูบแขนเราเบาๆ
"เอ๋ เจ็บมากมั๊ย" เราไม่ตอบพี่โด่งนอนตะแคงกอดเราจากข้างหลัง "พี่ขอโทษนะ พี่ลืมตัว" เรายังนอนนิ่ง "โกรธพี่เหรอครับ" แกจับเราพลิกตัวมาหาแล้วมองหน้าเรา เราหลบสายตามองไปทางอื่น "มือพี่โด่งลูบหน้าเราเบาๆ ป้ายน้ำตาทั้งสองข้างให้ "ยกโทษให้พี่นะครับ" เรายังนิ่งอยู่อย่างนั้นพี่โด่งจูบหน้าผากเราหลายที ก่อนจะนอนกอดเราไว้จนเราหลับไปทั้งน้ำตา..........

ตอนที่ 38

....เราตื่นขึ้นมาเกือบเที่ยง พี่โด่งไม่อยู่ในห้อง เจ็บปากเล็กน้อยตอนแปรงฟัน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นั่งรอพี่โด่งที่โซฟาพร้อมกระเป๋า สักพักก็ได้ยินเสียงไขกุญแจ พี่โด่งถือกับข้าวมาสองสามถุง
"อ้าวตื่นแล้วเหรอเรา" แกวางถุงกับข้าวที่โต๊ะกินข้าว แล้วมานั่งที่โซฟา จับหน้าเราดูรอยช้ำที่ปากและคาง
"ยังเจ็บอยู่รึเปล่า จะกินข้าวได้มั๊ย" แกเอามืออังที่หน้าผาก "ตัวร้อนนี่" พี่โด่งทำทีเหมือนสนอกสนใจตัวเราเป็นพิเศษ
"เจ็บ" เราพยักหน้า
"แล้วนี่จะไปไหน" พี่โด่งมองกระเป๋าแล้วถาม
"กลับบ้าน รอลาพี่ก่อน พี่มาก็ดีแล้วเอ๋จะได้กลับ" เราจับกระเป๋าทำท่าจะลุกก็รู้สึกหน้ามืด ทั้งๆที่เมื่อกี๊ตอนอาบน้ำยังรู้สึกเฉยๆ สะบัดหัวก็ยิ่งมึนเหมือนจะล้ม เรายืนนิ่งพักนึงแล้วค่อยๆเปิดเปลือกตา เห็นหน้าพี่โด่งซ้อนกันแต่ก็พยายามฝืน ในใจคิดว่าในเมือ่เขาไม่ต้องการจะอยู่ทำมให้เสียเวลา แข็งใจก้มหยิบกระเป๋าเป้คล้องที่ไหล่ แล้วยกมือไหว้พี่โด่ง
"ขอบคุณนะพี่ สำหรับทุกอย่าง"
"แล้วเอ๋จะไปยังไงไปถูกเหรอ"
"ก็นั่งรถเมล์ไป ไม่ยากหรอกพี่โด่งไม่ต้องเป็นห่วง" พี่โด่งมองหน้าเราแล้วเดินเข้ามาหา
"นี่เราโกรธพี่มากขนาดนี้เลยเหรอ" พี่โด่งเอานิ้วจิ้มที่หน้าผาก
"ไม่ได้โกรธ แต่เจ็บและกลัวด้วย พี่ไม่ได้อยากให้อยู่แล้วเอ๋จะอยู่ทำไม" รู้สึกเปลือกตาร้อน
"เป็นเอามากแฮะเรานี่ ทำไมขี้ใจน้อยอย่างนี้" แกดึงตัวเราเข้าไปแนบอกแล้วลูบหลังเบาๆ
"ตัวร้อนขนาดนี้เป็นอะไรไปกลางทางจะทำยังไง ไว้หายไข้ก่อนค่อยกลับ เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ถึงบ้านเลย" แกจับเรานั่งลงแล้วดึงกระเป๋าออก "ไปกินข้าวก่อน พี่หิวแล้ว" พี่โด่งจูงมือเราลุกขึ้น แกไม่พูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนหากแต่อาการก็เหมือนรู้สึกผิด กับข้าวสำเร็จรูปสามอย่างกับข้าวร้อนๆ รู้สึกแสบปาก ฟันเราคงไปกัดเอากระพุ้งแก้มตัวเองตอนถูกตบหน้า พี่โด่งเห็นอาการก็หน้าเสีย
"กินได้มั๊ย"
"ได้เดี๋ยวเอ๋ เคี้ยวด้านที่ไม่เจ็บ" พี่โด่งคอยมองอากัปกิริยาเราอยู่ตลอดเวลา มือก็คอยลูบหัวเล่น เราอิ่มแกก็กุลีกุจอเอายาแก้ไข้กับน้ำมาให้ "กินยานะ" รับยามาสองเม็ดค่อยๆกลืนกินยาเสร็จก็ช่วยแกเก็บถ้วยจานไปล้าง พี่โด่งจะแช่ไว้ก่อน เราก็เลยจัดแจงล้าง แกยืนดูอยู่ใกล้ซิงค์แต่ไม่พูดอะไร เรานึกขึ้นมาได้ว่าเสื้อผ้าที่เตรียมมาไม่มีใส่แล้วคงต้องซักก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้าน จัดแจงรื้อเป้หอบเสื้อผ้าใส่แล้วโยนเข้าเครื่อง รวมทั้งเสื้อผ้าพี่โด่งด้วย
"ซักทำไม มานอนได้แล้ว"
"ไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว"
"อ้าวไหนว่าจะกลับ" แกกอดเอว "จะกลับแล้วมาซักผ้าทำไม"
"ไล่อีกแล้ว ให้หายไข้ก่อนเถอะ" แกโอบเอวเราแบ้วเอาคางมาเกยที่บ่ามองต้นคอเรา รอยดูดที่ต้นคอยังชัดอยู่
"โดนใครดูดคอมา" แกดูดว้ำลงไปที่รอยเดิมอีก
" พี่โด่งเดี๋ยวก็ติดไข้หรอก"
"ไม่มีทาง"
"ว่าแต่คนป่วยเถอะ เมื่อไหร่จะไปพัก" เครื่องซักผ้าเริ่มทำงาน เราหันหลังไปเผชิญหน้า พี่โด่งยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอว มิหนำซ้ำกับกอดเราแน่นจนตัวเราแนบกับอก แกเอาคางกดที่หัว แล้วก้มหน้าลงมามอง "ถ้ากินยาแล้วไม่หาย เดี๋ยวจะฉีดยาให้"
"พี่ไม่ได้เป็นหมอจะฉีดยาได้ไง" นึกตามไม่ทัน
"ฉีดได้แล้วกัน รับรองหายสนิท" ว่าแล้วแกก็เบียดเป้ามาแนบเราแน่น "เชื่อมั๊ย" เรามองหน้าแกแล้วก็ขำยิ้มกว้างจนเจ็บที่มุมปากจนได้.................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ฟำ
Guest

28. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
06-Jun-15, 07:54 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณที่เอาเรื่องราวที่อยุ่ในความทรงจำมาให้อ่านอีกครั้งครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
tikwatt
Guest

29. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #28
 
07-Jun-15, 05:20 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอตอนต่อไปอีกได้ป่าวคับ ใครมีเซฟไว้บ้าง เอามาลงให้หน่อยครับ ชอบพี่โด่งมาตั้งแต่อ่านครั้งแรกแล้วอ่ะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
tikwatt
Guest

30. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #29
 
07-Jun-15, 05:27 PM (SE Asia Standard Time)
 
   CT นี่ พี่เอ๋ ตัวจริงป่าวคับ พี่เอ๋เอามาลงให้ครบทุกตอนได้ป่าวคับ อยากอ่านตอนของที่โด่ง นก พี่แขก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
นานะ
Guest

31. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #30
 
07-Jun-15, 06:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ดีใจมากๆได้อ่านเรื่องพี่เอ๋อีก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Tomm
Guest

32. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #30
 
07-Aug-15, 08:49 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พี่เอ๋หายไปเลยนะครับ มีใครมีต้นฉบับที่พี่เอ๋โพสมั่งอ่ะคับ เอามาโพสหน่อยคับ อยากอ่านต่อ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
นิว
Guest

33. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #32
 
14-Apr-16, 03:26 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ชอบเรื่องนี้ครับ แต่ยังอ่านไม่ครบทุกตอน พี่เอ๋ไม่มาต่อแล้วหรอคับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

34. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
31-Jul-16, 12:30 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงพี่เอ๋


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

35. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
31-Jul-16, 12:41 PM (SE Asia Standard Time)
 
   พี่ๆใจดีท่านใด
มีเรื่องของพี่เอ๋ ขอความเมตตานำมาให้อ่านกันต่อนะคะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

36. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:21 PM (SE Asia Standard Time)
 
   คิดถึงพี่เอ๋


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

37. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:26 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เราไปค้นเจอแผ่นซีดีที่เราได้สำรองข้อมูลไว้แล้วก็พบเรื่องของพี่เอ๋ บางส่วนที่เราเก็บไว้อ่านแต่เรามีไม่ครบทุกตอนนะ มีบ่งช่วงก็หายไป

ใครที่มีครบรบกวนขอด้วยนะ เรื่องนี้อ่านทีไรก็มีความสุขทุกครั้งเลย
ตอนที่ 37 ที่เรามีจะต่อเนื่องกันกับกระทู้สุดท้าย

37
...เรานั่งดูทีวีด้วยกันจนซักผ้าเสร็จตากผ้าเรียบร้อย ฤทธิ๋ยาทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะแต่ยังเหนื่อยอยู่อาจจะเป็นเพราะเราตกใจเลยทำให้ไม่สบาย พี่โด่งนั่งอ่านหนังสือที่โซฟา
"พี่ไม่ออกไปไหนเหรอ" เราถามเพราะรู้สึกเบื่อที่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนานๆ เดินไปเดินมาก็ไม่รู้จะทำอะไร
"เอ๋จะไปไหนหล่ะ" แกวางหนังสือดึงมือเราเข้าไปนั่งข้างๆ
"หิวข้าวแล้ว" ท้องเริ่มร้องเหมือนไม่ใช่คนป่วย
"ไปกินอาหารทะเลกันมั๊ย"เราพยักหน้าแทนคำตอบพี่โด่งขับรถไปแถวที่ขายอาหารทะเลเราไม่ได้สังเกตชื่อร้านแต่พอจำได้ว่าร้านยื่นลงไปในทะเลมีอาหารสดให้เลือก สั่งมาหลายอย่างจนแทบจะกินไม่หมด
"ไม่ต้องรีบหรอกยังมีของกินอีกเยอะ" เพราะหิวทำให้ไม่ระวัง หายหิวก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเยอะเกือบจะเย็นแล้วนั่งนานเหมือนกัน พี่โด่งสั่งเบียร์
"พี่โด่งมีแฟนแล้วเหรอ" แกชะงักมือที่กำลังยกแก้วก่อนที่จะดื่มรวดเดียวจนหมด
"ถามทำไม" น้ำเสียงเหมือนหงุดหงิดขึ้นมา เบียร์ถูกรินใส่แก้วอีก นึกในใจหาเรื่องรึเปล่าวะเรา "ไม่อยากพูดถึง เลิกกันแล้ว อย่าให้อารมณ์เสีย" เราก็จ๋อยไปเลย เลยมองไปที่ทะเลแทน พี่โด่งยังคงสนุกกับเบียร์ในแก้วจนหมดไปอีกขวด
"พี่โด่งกลับกันเถอะ เดี๋ยวเมาขับรถไม่ไหว" เราเรียกเก็บเงิน ดูบิลล์แล้วก็เยอะเหมือนกันไม่เป็นไรหักค่ารถพรุ่งนี้แล้วก็ยังเหลือซื้อของฝากอีก ล้วงเงินออกจากกระเป๋าค่อยๆนับ พี่โด่งดึงบิลล์กับมือเราควักเงินจ่ายแล้วลุกขึ้นโดยไม่รอ แกเดินไปที่รถอย่างรวดเร็วเราวิ่งตามแทบไม่ทัน แกนั่งขับรถเงียบๆไปตลอดทางจนถึงห้องจอดรถแล้วเดินแกมวิ่งขึ้นห้อง เราได้แต่เกาหัวเดินตาม พี่รุ่นใหญ่เดินมาตบบ่า แกเพิ่งสวนกับพี่โด่งที่ราวบันได
"ไงน้อง ไปแหย่รังแตนอะไรเข้า" เราส่ายหน้า"คนมันบ้าเอาใจยากผีเข้าผีออก อย่าไปกวนใจมันมาก" แกมองหน้าเรา "แล้วปากไปโดนอะไรมา" เราเอามือปิด "อย่าให้สอนกันเลยเป็นกระเทยเหมือนกัน อย่ายอมเป็นที่รองมือรองตีนผู้ชายนะจำไว้ มือตีนเราก็มี" เรางงพี่เขาเป็นใครเนี่ยอยู่ๆก็มาสั่งสอน
"พี่ชื่ออะไร" ไม่รู้จะถามอะไรแก
"ชื่อพงษ์" คนเดียวกับที่พี่โด่งพูดถึงเมื่อคืนแน่ๆเลย อีพงษ์เรานึกในใจ "พี่เป็นแฟนเขาเหรอ" ถามควายๆออกไปได้
"โอย แดกยาก มือหนักตีนหนักไม่กล้ายุ่งหรอก แล้วเรามาเจอมันได้ไง" พูดว่ามันแสดงว่าคงจะสนิทกัน
"เขาเป็นเพื่อนอาจารย์ที่โรงเรียน" พี่พงษ์ทำตาโตเหมือนพี่เพลินตอนพูดถึงผู้ชายที่ชอบ
"พี่โตเป็นไงบ้าง ไม่มาเที่ยวกรุงเทพฯนานแล้ว"
"สบายดี" แกทำท่าเหมือนจะถามต่อ พอดีมีเพื่อนผู้หญิงเดินมาหา
"ใครยะหล่อน หน้าเหมือนแฟนไอ้โด่งจัง" อีกคนแล้ว "ลูกศิษย์พี่โต" ทั้งคู่กรี๊ดกร๊าดสนอกยนใจข่าวตราวพี่โตอีกแล้ว
"เอ๋ไปก่อนนะพี่" เราตัดบท ทั้งคู่ยังคุยถึงอาจารย์ไปตลอดทางที่เดินออกจากประตูอพาร์ทเมนท์ เราเดินขึ้นชั้นบน ประตูห้องยังเปิดอยู่ พี่โด่งนั่งกินเบียร์ต่อในห้อง เมาจนได้คืนนี้ เรานึกในใจ กลัวจะเจ็บตัวอีกก็ทำตัวเลี่ยงออกไประเบียงเก็บเสื้อผ้ามาพับ ลมเย็นเหมือนฝนจะตกนั่งพับผ้าตัวเองที่เตียงแล้วเก็บของพี่โด่งเข้าตู้ พี่โด่งลุกขึ้นปิดประตูห้องแล้วไปนั่งกินเบียร์ที่ระเบียงหลังแทน เป็นอะไรวะ คันปากอยากจะถามแต่กลัวเจอดีอีกไม่เอาดีกว่า แต่บรรยากาศอย่างนี้ทำให้อึดอัด เราเดินไปนั่งใกล้ๆแล้วมองหน้า พี่โด่งกำลังพ่นควันบุหรี่อย่างใช้ความคิด
"พี่โกรธเอ๋เหรอ" แกหันมามองหน้าแต่ไม่มีคำตอบอะไรจากปากพี่โด่ง เราก็นั่งนิ่งลองซบที่ไหล่ก็เห็นยังเฉย ฝนตกแล้ว ละอองฝนสาดเข้ามาเบาๆ
"ไม่สบาย เข้าไปในห้องไป" แกหันมาบอก
"หายแล้ว" เราเอามือคล้องแขนแกไว้ จูบไหล่เปลือยของแกมือก็ลูบไปตามแขน เรานั่งมองดูฝนตกด้วยกัน ฝนเริ่มสาดแรงขึ้นจนระเบียงเปียก เราขยับขาเข้ามาฝั่งตรงข้ามยังเป็นที่ดินว่างเปล่า ป่านนี้คงมีตึกสูงขึ้นแล้วสินะ
"พรุ่งนี้เอ๋กลับบ้านนะพี่" เราบอกแกเบาๆ พี่โด่งหันหน้ามามองแล้วถาม
"เบื่อแล้วเหรอ หรือว่ากลัวพี่" แกจ้องหน้ารอคำตอบ
"คิดถึงบ้าน ตอนกลางวันโทรหาแม่ แม่รออยู่นะพี่ไม่อยากให้อยู่นานเดี๋ยวจะรบกวนพี่" เราบอกไปตามตรง
"อย่าเพิ่งกลับสิ ยังไม่ได้พาไปเที่ยวบ้านเลย" น้ำเสียงเหมือนอารมณ์ดีขึ้นกว่าที่ร้านอาหาร เราไม่ตอบรับหรือปฎิเสธ ฝนตกเหมือนฟ้ารั่ว เราลุกขึ้นเมื่อพี่โด่งกินเบียร์หมดไปอีกขวด ง่วงแล้วงีบหลับไปได้สักพักก็รู้สึกตัวพี่โด่งนอนลงข้างๆ เนื้อตัวเปลือยเปล่า
"หายไข้รึยัง" แกก่ายขามาทับเรา กลิ่นเบียร์รุนแรงพอดูเรากลัวจะเจ็บตัวอีกก็ไม่กล้าขัดใจ ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกหมดเช่นกัน ตัวเรากับพี่โด่งมีเพียงผ้าแพรบางๆคั่นระหว่างช่วงล่างเท่านั้น พี่โด่งนอนทับเราเอามือลูบที่หน้าผากเสยผมที่หน้าผากออกแล้วจูบเบาๆ
"อย่าเพิ่งกลับเลยนะ อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน" เรามองหน้ากันนาน เรารู้สึกเห็นใจก็พยักหน้า "ตัวยังอุ่นๆอยู่นี่ เดี๋ยวจะฉีดยาให้นะ"
"ยาอะไรพี่" แกหัวเราะในลำคอท่อนล่างเริ่มขยายตัวแล้ว"เข็มใหญ่ขนาดนี้ ยาคงเยอะ คงหายเร็วขึ้นนะพี่"พี่โด่งหัวเราะเบากับคำพูดของเรา แล้วแกก็ไม่พูดพบล่ามทำเพลง พลิกตัวเรานอนเคถูกับร่อง
"พี่ เอ๋ทาครีมก่อนนะ"
"พี่ไม่ชอบมันเหนอะ ทนนิดเดียวนะ" มันคงไม่เจ็บมั๊ง ส่วนหัวค่อยๆชำแรกเข้าไปช้าๆ เหมือนผนังข้างในจะฉีกออกจากกันพี่โด่งกดตัวเราไว้ไม่ให้หลบ
"เจ็บ" มันค่อยๆแทรกตัวเข้ามาช้าๆ เรากัดฟันแน่น"พี่โด่งใช้ครีมเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว"
"เอางี้แล้วกัน" แกยังหยุดคาไว้แค่ครึ่งลำ"จะได้เจ็บทีเดียว"ยังไม่ทันจะพูดจบแกก็กดพรืดเข้ามาจนมิดด้าม
"โอ๊ย" แกรีบอุดปากเราไว้
"หมดแล้ว ๆ" พี่โด่งขยับตัวช้าๆจนคล่องตัวแล้วรัวถี่ยิบ ไข่ของแกฟาดหว่างขาเราเป็นจังหวะมันอุ่นดีพิลึก พี่โด่งหอบหายใจแรงมือกดที่ไหล่เราแน่น ดันตัวขึ้นครึ่งท่อนเพื่อให้เข้าลึกที่สุด แกบดสะโพกดันเข้าอย่างเดียวจากเจ็บเป็นเสียวท่อนล่างของเราบดอยู่กับที่นอนจนเสียวไปหมด พอได้ยินเสียงเราครางพี่โด่งก็ได้ใจถอยออกมาจนเกือบสุดแล้วอัดแรงๆครั้งแล้วครั้งเล่านานจนเราเหนื่อย
"พี่โด่ง ไม่ไหวแล้วจุกไปหมดแล้ว" รู้สึกหนาวเหลือเกิน แกชักออกมาจนสุดแล้วดึงออกนอนหงายก่ายหน้าผาก เคชี้เด่ในความมืด
"ไม่เสร็จ" พี่โด่งบีบเคแล้วรูดขึ้นรูดลง เราจูบแกเบาๆ
"นอนเถอะพี่ พี่อาจจะเครียด พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้" เราหันมาจูบปากกันแทน เคค่อยๆหดตัวลงแล้ว พี่โด่งกอดเราไว้กับอกแล้วหลับไป เขาคิดอะไรกับเรานะ อยากรู้จริงๆ............

ส....หลับไปจนเช้ากันทั้งคู่ ตื่นขึ้นมารู้ว่าขาพี่โด่งที่ก่ายมามันร้อนเหลือเกิน เอามืออังที่หน้าผากพี่โด่งตัวร้อนจี๋ จนน่าตกใจจะทำยังไงดีเนี่ยๆ วิชาปฐมพยาบาลจำได้พอลางๆ เล่นแก้ผ้านอนในห้องแอร์ไม่เป็นไข้ก็เก่งเกินคนแล้ว เราจูบหน้าผากแกแล้วปลุกเบาๆ
"พี่โด่ง" เรียกสองสามครั้งก็ไม่ตื่น เราลุกไปหยิบผ้ามาเช็ดตามตัวให้เพื่อให้ลดอุณหภูมิ เช็ดตั้งแต่หน้าลงมาที่ลำตัว ทุกซอกทุกมุม จับเคยาวที่ยังนอนสงบนิ่งเช็ดเบาๆส่วนนี้ดูจะร้อนที่สุด
"พี่โด่ง" เราปลุกแกอีกครั้ง พี่โด่งงัวเงียลืมตาขึ้นพร้อมกุมขมับ แกพยายามดันตัวลุกขึ้นแต่พิษไข้ก็ต้องทำให้ทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม
"พี่โด่ง ไม่สบายแล้วนะ" เราบอก แล้วจับแกใส่เสื้อผ้าตอนจะใส่กางเกงยังดื้อเอามือกระตุกเคตัวเองให้มันลุก
"พี่โด่ง นอนก่อนนะ"แกเริ่มงอแงพยยามจะกดตัวเรานอนลงข้างๆเหมือนเมาไม่สร่าง
"พี่โด่ง พี่ติดไข้เอ๋แล้วนะนอนก่อน" แกค่อยๆเอนกายลงหลังจากที่เราใส่กางเกงให้เสร็จ เราลุกไปต้มข้าวเตรียมไว้ให้คนป่วย เออดีนะผลัดกันป่วยจนได้
"พี่โด่งกินข้าวนะ เดี๋ยวจะได้กินยา" แกงอแงเล็กน้อยเราช่วยจัดตัวแกให้นั่งพิงหมอนที่หัวเตียง ตอนนี้ไม่ยักกะมีฤทธิ์แฮะ เราป้อนข้าวให้คนป่วยจนเกือบหมดก็เช็ดตัวให้อีกที แกว่าง่ายเหมือนเด็ก จับแก้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น บริเวณช่วงล่างดูมันร้อนกว่าที่อื่น พี่โด่งเอาหมอนปิดหน้าตอนที่เราจับเคเช็ดทั้งลำและซับความร้อนตามซอกไข่ คงจะอายจับพี่โด่งใส่เสื้อผ้าแล้วป้อนยาแก้ไข้อีกครั้ง..


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

38. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:27 PM (SE Asia Standard Time)
 
   38
"กลายเป็นว่าคุณหมอป่วยแทน" เรามองหน้าพี่โด่งหลังจากป้อนยาเสร็จ
"ไม่ได้เป็นอะไร เอ๋เว่อร์ไปรึเปล่า" แกเถียง "ทำยังกะพี่เป็นคนป่วยอาการหนัก"
"อ้าวก็ตัวร้อนขนาดนั้น" เราเอามืออังหน้าผาก ความร้อนมันลดลงไปมากแล้วผิดกับเมื่อครู่ "ไข้ลดแล้วนี่" นึกแล้วก็สงสัยเราวินิจฉัยผิดรึเปล่า "แต่ยังไงพี่โด่งต้องนอนพักก่อน วันนี้ก็ห้ามกินเหล้ากินเบียร์ด้วย" เราสั่ง
"เรื่องอะไรมาสั่งพี่ วันนี้มีนัดด้วย"
"พี่มีนัดตอนกี่โมง พาเอ๋ออกไปด้วยนะจะได้กลับบ้าน"
"อะไรวะ เอะอะก็จะกลับท่าเดียว คนป่วยนอนอยู่นี่ทั้งคนไม่ห่วงเลยเรอะ"
"ก็ตัวไม่ร้อนแล้วนี่"เราเอามืออังที่หน้าผากอีกที.ยาก็กินแล้ว" พี่โด่งมองหน้า "เดี๋ยวพี่นอนพักอีกหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว เอ๋ก็ติดรถไปลงข้างทางไง" พี่โด่งหันหลังให้ทำทีเป็นไม่สนใจ ผู้ชายงอนเป็นด้วยเหรอนี่ เราขยับไปนั่งใกล้ๆแล้วชะโงกหน้าไปดูเห็นแกหลับตา ขนตายาวเป็นแพเหมือนผู้หญิง เราหอมแก้มไปทีนึงแล้วก็ทำท่าจะลุกจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าต่อ พี่โด่งพลิกตัวมาอย่างเร็วล็อกเอวไว้ พร้อมกับดึงเราลงไปนอนที่เตียงแล้วแกก็ทับลงมา
"พี่นี่เล่นอะไรยังกะเด็ก เมื่อกี๊งอนเหรอ ไม่พักผ่อนก่อนเดี๋ยวจะไม่มีแรงนะ มีนัดทั้งที" พี่โด่งเอามือวางไว้ข้างๆหัวเรามือซ้ายลูบหน้าผาก
"เอ๋นี่ยิ่งดูยิ่งเหมือนแฟนเก่าพี่นะ"
"คนในรูปรับปริญญานะเหรอ" พี่โด่งส่ายหน้า
"อันนั้นพี่สาว รูปไม่มีแล้วพี่ทิ้งไปหมดแล้ว"
"แล้วเขาไปไหน"
"แต่งงานไปแล้ว" พี่โด่งไม่ได้มีสีหน้าเสียใจอะไร หน้าตาเป็นปกติ
"พี่ก็หาใหม่สิ เอาให้สวยกว่าเดิมเลย หล่อๆอย่างนี้หาได้อยู่แล้ว วันนี้มีนัดด้วยต้องให้หล่อที่สุดนะเผื่อจะเจอใครสักคน" เราพูดออกไปอย่างลำบากใจที่สุดแต่ก็คงสีหน้าให้ดูสนุกสนานเข้าไว้
"ว่าแต่ว่าพี่โด่งจะไปไหนเหรอ"
"ก็นัดกับคนแถวนี้ว่าจะพาเขาไปเที่ยว แต่เขาจะกลับบ้านแล้วก็คงต้องไปส่งหมอชิตแทน" เราอึ้งในคำตอบ
"จะกลับไม่ว่ายังเอาไข้มาติดอีก ใจดำจริงๆ"พี่โด่งพูดใส่หน้าเราอย่างน้อยอกน้อยใจทำเป็นกระพริบตาปริบๆ
"ก็หมอไม่รักษาให้หายเองนี่" แค่นี้แกก็ยิ้มแล้วดันตัวเองลุกขึ้นขยับตัวขึ้นมาจนเป้าอยู่ที่หน้าเรา เข็มฉีดยาพองตัวจนดันกางเกงใส่นอนแล้ว เรามองหน้า
"พี่โด่งจะทำอะไรเหรอ" ถามเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสา
"เมื่อวานยามันค้างที่กระบอกฉีดยานะ เอ๋ช่วยเอายามันออกทีสิ ค้างไว้นานๆกระบอกจะเสีย" มือพี่โด่งค้ำอยู่ที่หัวเตียง เราเปิดกางเกงออกช้าๆ พร้อมกับรูดมันลง ตัวดีเหมือนอึดอัดทันทีที่กโผล่พ้นกางเกงก็ดีดตัวออกมาเหมือนดีใจที่หลุดจากการคุมขัง ปลายเริ่มปริ่มแล้วทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรซักนิด เรารูดกางเกงพี่โด่งลงจนถึงต้นขา มือซ้ายลูบที่ก้นแกเบา ส่วนมือขวาค่อยๆประคองเข็มไว้ น้ำยามันปริ่มออกมาแล้ว ตวัดลิ้นเลียที่ปลายเข็มตามรอยแยก ลากยาวพร้อมกับแซะลิ้นเข้าไปตามขอบกระบอกถึงหนังด้านใน ก่อนจะอมเอาไว้ดูดเน้นที่หัว เราเหลือบไปเห็นเงาสะท้อนที่กระจกของตู้เสื้อผ้าซึ่งมันอยู่ในระดับเดียวกันกับเตียง ในกระจกนั้นเป็นสะท้อนภาพของเราที่กำลังถูกพี่โด่งสอยปากอยู่อย่างเมามันส์ พี่โด่งคงไม่สังเกต เหมือนกับว่ากำลังดูตัวเองเล่นหนังโป๊ พี่โด่งเริ่มเร่งเครื่องใหญ่จนเราต้องดันแกออกไปสักนิด เพราะมันยาวมาก จะอาเจียนน้ำตาแทบไหล มือเราทั้งสองข้างบีบที่ก้นแก ส่วนแกก็ยึดเอาหัวเตียงเป็นหลัก โหย่งขึ้นโหย่งลงกับปากเราตอนขึ้นก็ต้องผงกหัวดูดตาม ตอนกดลงมาก็ต้องรับให้ได้ให้หมด พี่โด่งปล่อยมือออกจากหัวเตียงแล้วเอามาเท้าสะเอวไว้ เปลี่ยนท่ายกข้าข้างหนึ่งคร่อมตัวเรา
"เอ๋ ดูดเฉพาะที่หัวนะ ดูดเน้นๆเลย" พี่โด่งสั่งแล้วแกก็สอยเข้าสอยออกแค่ครึ่งลำ เราก็ดูดอย่างที่บอกทุกอิริยาบถมันกระจ่างแจ้งอยู่ที่กระจกตู้เสื่อผ้า หยดแรกของยาออกมาพร้อมกลิ่นคาวหอม จากนั้นยาก็ทยอยเคลื่อนตัวออกมาเป็นชุดตามแรงดันของกระบอกฉีดยาจนหมด กระบอกฉีดยาก็เบาโหวงเพราะไม่มียาติดค้างแล้ว พี่โด่งดันเคเข้ามาจนหัวเหน่าติดอยู่กับจมูกเราขนรุงรังเกือบทำให้จาม มือเรายังคงลูบไล้แผ่นก้นแกเบาๆ
"โอย..เสียว เอ๋พี่เสียว อย่าเลีย" พี่โด่งกระดกตัวออกเวลาที่เราเลียที่ตรงปลาย แต่ไม่ยักดึงออกจากปากเราลิ้นยังคงตวัดไปตามลำกล้องเหมือนยังไม่อิ่ม กลืนยาเข้าไปจนหมดแล้ว พี่โด่งค่อยๆดึงออกพร้อมกับสูดปาก แล้วแกก็นอนหงายแผ่หราอยู่บนเตียง พร้อมกับดึงเราเข้าไปกอด มือเรายังกุมกระบอกฉีดยาอยู่
"เป็นไงกินยาแล้วดีขึ้นกว่าเดิมมั๊ย" พี่โด่งกอดเราแน่นเราลุกขึ้นไปหยิบผ้าที่ใช้เช็ดตัวแกเมื่อครู่ บิดน้ำหมาดพี่โด่งผงกหัวมองตามเหมือนสนใจ เรานั่งลงข้างๆสะโพกแก แล้วจับเคที่เพิ่งเสร็จกิจบรรจงเช็ด ตั้งแต่ปลายจนถึงโคนรกขน เคค่อยๆสงบนิ่งเพราะความเย็นของผ้าชุบน้ำเราก้มหน้าลงไปดูใกล้ๆจับมันตั้งขึ้นปลายเปิดหมดแล้วหัวยังแดงอยู่ไม่คล้ำเหมือนอาจารย์ จับพี่โด่งกางขาออก แล้วลุกขึ้นนั่งตรงกลางเอาผ้าเช็ดไปตามไข่ซอกของข้างๆ
"เอ๋ จะทำอะไร" เรานอนคว่ำที่หว่างขาแกแล้วมองใกล้ๆ พี่โด่งดันตัวขึ้นมานั่งดูเรา "ดูอะไร พี่อายนะครับ"
เรายังพินิจพิจารณาเหมือนประหนึ่งว่ากำลังตรวจคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกสู่ตลาด แกเอามือปิดไว้ "เล่นอะไรไม่รู้ขนลุก" พี่โด่งตีหัวเราเบาๆพร้อมดึงตัวเราขึ้นมานั่งข้างๆ
"เดี๋ยวมันก็ลุกอีกหรอก คราวนี้จะเจ็บตัวนะครับ" เราไซ้ที่ซอกคอแกเบา ขบที่ติ่งหูสองสามที พร้อมกระซิบ "พี่โด่ง ค-ยสวยจัง" เหมือนแกหน้าแดง แต่ก็หันมาตอบ "แล้วชอบมั๊ย" เราพยักหน้า
"ถ้าชอบก็ยังไม่ต้องกลับ อยู่กับพี่จนหมดพักร้อนเลยนะ" แกถาม "แล้วจะให้เล่นจนเบื่อเลย"
"พี่ลาถึงวันไหนหล่ะ"
"วันจันทร์ก็ไปทำงานแล้ว" วันนี้วันพฤหัส เหลือเวลาอีกสามวันเท่านั้น
"แล้วหลังจากนั้นหล่ะพี่ เรามองหน้าแก"
"อย่าคิดไปไกลเลย เอาแค่สามวันที่เหลือนี่ เราจะทำอะไรกันดีกว่า ว่ามั๊ย นี่สิบโมงกว่าแล้ว ไปอาบน้ำกันเถอะ"
"พี่หายไข้แล้วเหรอ"
"เอ๋ รีดพิษไข้จนหมดแล้ว คราวนี้พี่ต้องฉีดยาให้เอ๋แล้วหล่ะ เดี๋ยวไข้มันกลับซ้ำนะ อดไปเที่ยวกันพอดี" พูดเสร็จกระบอกยาก็เริ่มขยายตัว พี่โด่งลากเราเข้าห้องน้ำ เข็มกระบอกนี้มันดีจริงๆ ฉีดทีไรเหมือนมีพลังต่อสู้กับพิษไข้ ไม่รู้พี่โด่งเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ดันเราจนแทบหายใจไม่ทัน เราอาบน้ำกันนาน ตอนแกชักออก ร่างกายของเราเหมือนเป็นหลุมลึก มันเบาโหวงคล้ายกับมีใครฉีดลมเข้ามาในตัว ขาสั่นระริกจนพี่โด่งต้องประคองเอาไว้
"ไง ขาสั่นเลยสิ"
"พี่โด่ง แกล้งเอ๋ เร่งจนหายใจไม่ทัน" เราตีที่ปลายเคที่ยังกระดกยืดด้วยน้ำกาม หัวมันแดงกล่ำ พี่โด่งทำให้มันกระดกใส่เรา
"ระวังนะ เด็กดื้อ ดื้อจะถูกทำโทษ" พี่โด่งหัวเราะแล้วบอก"เอ๋ หรือว่าชอบให้ทำโทษ" พี่โด่งทำทีเป็นเบียดตัวเข้ามาที่ก้นอีก เรากุมมันไหวแล้วเบี่ยงตัวออก
"ไม่ไหวแล้ว รีบอาบน้ำกันเถอะ" ......
โยนเป้ไว้ที่หลังรถ พี่พงษ์เดินเข้ามาที่อพาร์ทเม้นท์ พอดี ก็ทักทาย
"ไง โด่ง แกจะไปไหน" พี่พงษ์ดูแก่กว่าพี่โด่งเล็กน้อย
"พาน้องไปส่ง" พี่โด่งตอบอย่างอารมณ์ดี
"อายุเท่าไหร่แล้วเรา" พี่พงษ์หันมาถาม
"สิบเจ็ด" เราตอบเพราะไม่รู้ว่าแกถามทำไม
"ระวังเจอข้อหาพรากผู้เยาว์นะยะ" พี่พงษ์สาวแตกทั้งๆที่อยู่ในชุดทำงาน แล้วทำทีเป็นค้อนเราก่อนจะเดินหนี
"ปากหมา" พี่โด่งไล่เตะแก พี่พงษ์ก็วี๊ดวายวิ่งหนีเข้าอพาร์ทเม้นท์ไป เราเห็นท่าทางของทั้งคู่แล้วอดขำไม่ได้ นึกทีไรก็หัวเราะออกมา พี่โด่งถอยรถออกมาข้างนอกแล้วหันมาถาม
"หัวเราะอะไร" แกทำหน้าฉุนเฉียว
"ก็เด็กมันสมยอมนี่นา ใช่มั๊ยพี่"แกเขกหัวเราเบาๆอีกทีแล้วก็อมยิ้ม
"ไม่รู้ว่าพี่พรากผู้เยาว์ หรือเอ๋พรากผู้ใหญ่กันแน่" แกหันมาทำหน้าทะเล้นเหมือนล้อ เราเลยเอื้อมมือไปบีบที่เป้าแกทีนึง พี่โด่งไม่ใส่กางเกงในจึงโดนเข้าเต็ม ๆ
"โอ๊ย ระวังมันเคล็ดแล้วจะอดนะ"พี่โด่งทำเหมือนกับเจ็บ
"พี่โด่ง ทำไมไม่ใส่กางเกงใน"
"อึดอัด" แกผิวปากไปตามเพลงในวิทยุ รถเคลื่อนตัวออกจากเมืองไปช้าๆ นี่จะไปไหนกันนะไม่เห็นพี่เขาบอกเลย.............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

39. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:29 PM (SE Asia Standard Time)
 
   39
..รถมาถึงอัมพวาก็ค่อนข้างเย็นทีเดียวพี่โด่งขับมาเรื่อยๆช้าๆ
"พี่จะไปไหนเนี่ย" เราถามเมื่อแปลกใจที่ทางเริ่มเปลี่ยวขึ้นเรื่อยๆต้นไม้รกครึ้มระหว่างสองข้างทาง หน้าฝนทำให้ต้นไม้เขียวสด ถนนไม่ค่อยดีนักทางแคบพี่โด่งต้องใช้สมาธิพอสมควร รถแล่นเข้าทางเล็กๆแล้วมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งมองผ่านตัวบ้านไป ก็เห็นแม่น้ำแม่กลองอยู่อีกด้านนึงของบ้าน พี่โด่งลงจากรถแล้วเรียกเราให้ลง
"ถึงแล้ว" แกบิดขี้เกียจข้างๆรถ เราไม่เคยมาที่นี่
"อ้าวโด่ง มาซะค่ำเลยลูก" ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับยายเราเดินออกมาดูที่หน้าบ้าน "พี่โด่งยกมือไหว้เราก็ทำตามอัตโนมัติ พี่โด่งแนะนำเรากับย่าว่าเป็นน้องที่อพาร์ทเม้นท์เดียวกันติดรถมาเที่ยวด้วย เราแวะโทรหาแม่เมื่อตอนกินข้าวกลางวันแล้ว แม่ค่อนข้างจะเป็นห่วง ยังดีที่อาจารย์ไปบอกให้ก่อน มีแต่สั่งว่าอย่าทำให้เจ้าของบ้านเดือดร้อนเราก็รับคำแต่โดยดี พี่โด่งพาเราเดินเข้าบ้านหลังจากปิดประตูเราเดินทะลุตัวบ้านไปอีกด้านนึง บ้านย่าพี่โด่งเข้าได้สองทาง ทางเรือก็ได้ ทางรถก็ได้ ระเบียงด้านที่ติดแม่น้ำทอดตัวยาวลงไปในน้ำ แม่น้าแม่กลองกว้างไกลสุดตามองหินอีกฝั่งลิบๆ น้ำขุ่นเพราะหน้าฝน ลมเย็นโชยเอื่อย พ่อพี่โด่งเสียไปแล้วเหลือแต่แม่อยู่ที่ระนองคนเดียว พี่สาวพี่โด่งทำงานในกรุงเทพฯเหมือนกัน ส่วนย่าก็อยู่บ้านหลังนี้กับปู่สองคน พี่โด่งเป็นหลานหนึ่งในสองที่มี และบ้านหลังนี้ก็คงเป็นมรดกตกทอดถึงแกในไม่ช้า ถึงไม่ใช่หลังใหญ่โตแต่บรรยากาศรายล้อมดูอบอวลด้วยความรักของผู้ใหญ่ จึงหล่อหลอมให้พี่โด่งเป็นคนอารมณ์ดี ยกเว้นความรุนแรงซึ่งเราไม่เข้าใจอาจจะเป็นเพราะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กก็เป็นได้ ปู่เป็นข้าราชการบำนาญอยู่บ้านเฉยๆไม่ทำอะไร ผิดกับก๋งของเรายังทำมาหากินอยู่เพราะมีเมียและลูกเยอะไหนจะหลานอีก อาม่าเราเป็นเมียหลวงแต่แยกกันอยู่กับก๋งแล้วส่วนก๋งอยู่กับเมียคนเล็กคือคนที่สาม เรากินข้าวเย็นกันที่ระเบียงหลังบ้าน พี่โด่งกินเหล้ากับหลังข้าวเย็นส่วนเรากับย่าช่วยกันเก็บถ้วยจานไปล้าง ผู้ใหญ่สมัยนั้นคงยังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่อย่างนี้นัก พี่โด่งบอกยังไงแกก็เชื่อตามนั้น
"มาเที่ยวไกลๆนี่ พ่อแม่ไม่ห่วงเรอะลูก"
"ขออนุญาตแล้วคับ" เราพูดครับไม่ค่อยเต็มเสียงไม่ถนัดปาก เก็บจานเสร็จย่าก็ปลอกผลไม้เราก็เป็นลูกมือ แต่เพราะเป็นคนไม่ละเอียดจึงทำเสียเป็นส่วนใหญ่
"เด็กผู้ชายนี่มือหนัก งานแบบนี้ไม่ค่อยถนัดละสิ มาย่าทำเองเดี๋ยวมีดบาดมือเปล่าๆ ไปนั่งกับพี่เขาที่ระเบียงไป" เราทำท่าจะลุก "เอ๋ เอาผลไม้ไปให้พี่เขาด้วย" ช่วงที่เราเอื้อมมือไปหยิบจานที่ข้างหน้าแก ย่าก็วางมีดลงแล้วจับหน้าเราพินิจพิจารณา "เด็กสมัยนี้ผิวพรรณ สวยนะ พ่อแม่คงไม่ให้ทำงานหนักเลยละสิ เป็นเด็กผู้ชายอย่าสำอางค์มากนัก ต้องทำตัวให้เข้มแข็งจะได้เป็นที่พึ่งของลูกเมีย" ย่าพูดอะไรนี่ เราหน้าแดง อีกหน่อยต้องมีลูกมีเมียเหรอนี่ ขนลุก รีบหยิบจานแล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปที่ระเบียงบ้านทันที ปู่เดินสวนเข้าบ้าน
"ปู่ไปเอนหลังก่อนนะ เจ้าโด่งนั่งคนเดียว นี่เรายังเด็กอย่าริกินเหล้าหล่ะ ไอ้นั่นมันเก่งก็ให้มันกินคนเดียว" เห็นผู้ใหญ่ปรามอย่างนี้ พลางนึกในใจหนูไม่เด็กแล้วคะ มีผัวเยอะแล้ว มองตามจนปู่เข้าบ้านไปแล้ว พี่โด่งนั่งเอกเขนกพิงกับพนักม้านั่งอย่างสบายอารมณ์ ระเบียงไม่มีหลังคา ถ้าฝนตกก็ต้องรีบวิ่งเข้าบ้าน เหล้าดองยาของปู่พร่องไปเยอะ กินเป็นทุกอย่างเลยนะพี่โด่งนี่ ตางี้หวานเยิ้มเราเดินไปนั่งที่ด้านริมสุดของระเบียง ห้อยขาลงไปในน้ำแกว่งเท้าไปมา พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว เรือหางยาวหลายลำแล่นผ่านคลื่นเล็กๆสาดมาเป็นระลอก มันสงบยิ่งนัก มองไปข้างหน้าแล้วชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก พี่โด่งถือแก้วเหล้ามานั่งใกล้ๆ
"เป็นไง ชอบมั๊ย" อยากจะซบลงที่บ่าเหลือเกิน
"คืนนี้เราจะนอนกันที่ไหนพี่" พี่โด่งชี้ไปห้องเล็กๆถัดจากระเบียงซึ่งแยกออกจากตัวบ้าน ด้านล่างเป็นน้ำ ต้องเดินบนสะพานไม้ทำเองเล็ก
"นั่นไงบ้านพี่ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกเรือนหอ" พี่โด่งพูดขำๆ
"พี่นี่พูดเล่นทุกทีเลย"
"เอ๋ กินเหล้ามั๊ย" เราส่ายหน้า "กลัวเมา เดี๋ยวเสียตัว"
"ยังเหลืออีกเรอะ" พี่โด่งนั่งเอนไปข้างหลัง เรามองไปข้างหน้าอย่างนิ่งนาน รู้สึกดีจริงๆ ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่รักอย่างนี้ อยากให้เวลาหยุดอยู่แค่นี้จริงๆ ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เมฆดำบดบังดวงจันทร์ ดูท่าแล้วคืนนี้ฝนคงจะตกอีก กลิ่นฝนลอยมาเอื่อยๆ เหล้าหมดแล้วพี่โด่งชวนเราเข้าบ้าน ปู่กับย่านอนดูข่าว เรานั่งคุยกับผู้ใหญ่จนถึงสามทุ่ม
"โด่ง ย่าไปดูห้องให้แล้ว เดินดีๆนะลูก ย่าบอกพร้อมหยิบกุญแจให้ เราทั้งคู่สะพายเป้เดินตามกันไป พี่โด่งแกล้งขย่มสะพานไม้เล็กๆนั่น เรากลัวจนไม่กล้าเดินต้องรอให้แกเดินถึงฝั่งก่อน ห้องเล็กๆ มีหน้าต่างรอบตัวบ้าน เราเปิดหน้าต่างออกหมด พี่โด่งกางมุ้ง เปิดพัดลมแรง ฝนตกแล้วดีที่ไม่สาดเข้ามาคืนนี้คงฝันดีนอนฟังเสียงฝนกับคนที่รัก พี่โด่งหน้าแดงกล่ำ ตัวแดงไปทั้งตัว ถอดเสื้อนอนบนฟูก เราอาบน้ำท่ามกลางสายฝนที่ตุ่มหลังบ้าน หลังคาบ้านบังตัวไม่ให้ถูกฝนแค่นิดเดียว ถึงเป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกันก็ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อน พี่โด่งไปอาบน้ำสิ เราเรียกเพราะเห็นแกหลับ ฝนตกหนักขึ้นทุกที ............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

40. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:33 PM (SE Asia Standard Time)
 
   40
"พี่โด่ง" เราเขย่าตัวแกเบาๆ น้ำก็ไม่อาบตัวเหนียวไปหมดเฮ้อจะนอนกันยังไงนี่ ที่นอนสำหรับคนเดียว ยืนเกาะขอบหน้าต่างดูฝน ทำไมนะพี่เขาถึงต้องกินเหล้าทุกวัน หวานกันได้ไม่เท่าไหร่ก็เมาอีกแล้ว เหมือนอยากจะตัดโลกแล้วอยู่คนเดียวยังงั้นเลย เราดับไฟในห้องแล้วปีนไปนั่งที่ขอบหน้าต่างยื่นมือไปรองน้ำฝน นึกถึงตอนเด็กๆที่วิ่งเล่นไล่จับปลาที่ทุ่งนาหลังบ้าน มันผ่านมานานแล้วนะ เวลานั้นน้องๆทุกคนก็เริ่มโตแล้ว เรานั่งคิดถึงอนาคตของตัวเองว่าจะเป็นยังไง รวมถึงคิดถึงเวลาที่จะต้องจากกันกับพี่โด่ง เราจะทนได้แค่ไหนนะ พี่เขาหลับไปแล้วทำไมเหงาจังทั้งๆที่เขานอนอยู่ใกล้ๆ แค่เอื้อมมือคว้าเท่านั้น ณ เวลานั้นชีวิตยังไม่ได้ผ่านอะไรมามาก ยังยึดติดกับความสุขที่เข้ามาเรื่อยๆเมื่อเปรียบเทียบดูกับปัจจุบันแล้ว ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตหล่อหลอมให้เราดำเนินชีวิตแบบนี้ เราเหมือนไขว่คว้าหาความรักอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่เราเองก็ไม่เคยขาดเรื่องผู้ชาย ถึงจะไม่ได้มากมายเหมือนเพื่อนๆคนอื่น แต่ทุกครั้งก็เกิดจากความเต็มใจของเราและอีกฝ่าย เราติดสุขจนยากจะถอนตัวเสียแล้ว
ดึกขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับสายฝนที่ซาลงเราดึงมุ้งลงมาท่ามกลางความมือแล้วเบียดตัวนอนตะแคงข้าง พี่โด่งป้อนเราจนเราสำลักแล้วคืนนี้เลยไม่นึกอยาก พี่เขาเองคงเหนื่อยเสียน้ำไปสองรอบแล้วไหนจะขับรถมาไกลอีก เสียงกรนเบาๆ แกคงหลับอย่างมีความสุข พัดลมที่ปลายเท้ายังคงส่ายเป็นจังหวะกอรปกับอากาศเย็นๆหลังฝนตก ไม่รู้สึกร้อนสักนิด เรานอนตะแคงตัวบนฟูกที่เหลือมือกอดที่ตัวพี่โด่ง เรารักเขาแล้วสินะ จิตใจมันอ่อนไหวง่ายซะจริงๆ พี่โด่งขยับตัวเล็กน้อยเหมือนรู้สึกตัว งีบหลับไปซักพักเสียงฝนกระทบหลังคาก็ทำให้ตื่นอีก ตกอีกแล้วคราวนี้เหมือนมันจะสาดเข้ามา ลุกออกจากมุ้งจะไปปิดหน้าต่าง ก็ทำให้พี่โด่งตื่นจนได้
"จะไปไหนเอ๋"
"จะไปปิดหน้าต่าง พี่ไปอาบน้ำซิจะได้นอนสบายๆ" พี่โด่งลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เสียงน้ำในตุ่มสาดลงถึงพื้นไม่นานพี่โด่งก็เดินกลับมาในสภาพเปลือยเปล่า เช็ดตัวลวกๆ ตัวเย็นๆของแกมาจับที่ขาทำเอาสะดุ้ง
"นอนแล้วเหรอเอ๋" เราลุกขึ้นนั่ง
"ฝนตกหนักจังเลย พี่โด่งเอามือสลัดผมที่เปียกจนหยดน้ำกระเด็นใส่หน้าเราเต็มๆ" มือเราลูบผมแกเบาๆ ยื่นหน้าไปจูบที่ปากพี่โด่งจูบตอบหากแต่หนักและรุนแรงแกขยไปทั้งหน้า กลิ่นเหล้าแม้จะแปรงฟันแล้วก็ยังไม่หมด เราถอยหน้าออกเพราะเจ็บ
"พี่โด่งจะทำเอ๋ เจ็บอีกแล้วนะ" เราจับหน้าแกไว้ แกดึงมือเราออกแล้วไซ้ที่ซอกคอดูดแรงๆ ที่ไหล่พร้อมกัดเบา ตัวเจ็บแต่ใจเหมือนกับว่าสะใจในอารมณ์เหลือเกิน ความรู้สึกเราพลุ่งพล่านตาม ยิ่งเวลาที่ถูกกัดเบาๆที่หัวนม ทั้งเสียวทั้งเจ็บ
"พี่โด่ง ไหวเหรอ วันนี้สองรอบแล้วนะ" แกเอาปากมาบดปากเราแน่น หนวดที่เริ่มขึ้นหลังจากไม่ได้โกนมาสองวันแทงที่หน้าเรา เจ็บๆคัน
"เอ๋ วันนี้ตามใจพี่หน่อยนะ"
"ตามใจยังไงพี่" ก็ตามใจอยู่แล้วนี่ พี่โด่งไม่ตอบหากแต่กัดที่แก้มเรา เราดิ้นจนหลุด เจ็บจัง
"พี่โด่งไม่เอา ไม่ทำอย่างนี้นะ" เราจับแก้มที่ยังเจ็บอยู่ แกเบียดตามมาอีก กัดที่ไหล่แล้วดูดที่คอดังจิ๊ดๆ เหมือนคอจะหลุดไปกับฟันแก มือที่ค่อยๆลูบตามตัวเปลี่ยนเป็นบีบและขยำ เต้านมถูกบิดจนเจ็บเราดิ้น
"เอ๋" เสียงพี่โด่งสั่น เราดันตัวลุกขึ้นแล้วออกจากมุ้ง ทนไม่ไหวแล้วเจ็บเหลือเกิน พี่โด่งลุกตามมา
"พี่โด่ง เจ็บนะพี่" พี่โด่งกอดเราแน่นจนตัวเราแนบกับขอบหน้าต่าง ฝนสาดใส่แผ่นหลังเปลือยของเราพี่โด่งไม่ยอมหยุด ยังจูบเราอย่างรุนแรง
"เอ๋ นะตามใจพี่หน่อย" มือฟาดทีหลังจนแสบ
"พี่โด่งเอ๋เจ็บ" แกดึงหน้าออก แล้วมองหน้าเรา เงาลางๆท่ามกลางความมืด มองเห็นแค่เพียงตวงตาเท่านั้นมันดูคาดคั้นและน่กลัวเหมือนแกโกรธใครมา พี่โด่งจับเราพลิกตัวมือเราควานไปถูกเคแกมันแข็งและดูใหญ่กว่าเมื่อเช้าอีก ทั้งลำร้อนผ่าว พี่โด่งดันเราให้จับขอบหน้าต่างพอได้ที่ก็จับเคร่อยๆไล่หาทางเข้า คลำอยู่เป็นนานก็เจอแล้วเสียบเข้ามาทั้งๆที่ไม่มีหล่อลื่น รู้สึกว่าฉีกข้างในอย่างรุนแรงไม่รอให้เราร้อง เขาเอามืออุดปากเราไว้ ช่วงล่างก็ดันอย่างกระแทกกระทั้นเอาเป็นเอาตาย เสียงลมหายใจหอบฮืดฮาด ฟังดูหื่นกระหายยิ่งนัก ชักเข้าชักออกจนเหนื่อยแกก็ดึงออก เราเป็นอิสระก็รีบหลบจากการเกาะกุมของตัวแก แต่ก็ไม่รอดมือแกเร็วไม่แพ้กัน พี่โด่งดันเราจนเราล้มลงไปกับพื้น
"พี่โด่งพอเถอะ เจ็บจริงๆ" เหมือนยิ่งได้ยินเสียงร้องขอความปราณียิ่งได้ใจ
"ไม่ต้องกลัวเอ๋ไม่ต้องกลัว" เรายังนอนอยู่ข้างล่างตัวแก พี่โด่งยกตัวขึ้นแล้วพับตัวเราครึ่งตัวจนก้นเราลอยแกคลำหาร่องจนเจอก็แหย่เข้าไปอีก
"ดีมั๊ย ดีมั๊ย" ถามไปกดไป ทั้งจุกทั้งเสียวพี่โด่งสนุกกับการกระแทกจนไม่ฟังเสียงร้องเรา ยิ่งตอนที่แกเร่งเหมือนโลกทั้งใบอยู่ในกำมือของแก เสียงกระโปกฟาดที่ขาเราพร้อมๆกับเสียงเนื้อกระทบกัน แกอัดเข้ามาจนสุดแล้วฉีดน้ำเชื้อเข้ามาอย่างแรงก่อนจะดึงออก เราค่อยลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตูสงสัยว่าเลือดจะออก นั่งเปลือยล้างทำความสะอาด แสบจริงๆ พี่โด่งก็ยังเดินตามมาอีก แกราดน้ำใส่ตัวแล้วลากเรากลับไปข้างใน นอนทับและกอดเราแน่น
"พี่โด่ง เมารึเปล่า" เราถามอย่างหวาดๆกลัวจะโดนเบิ้ลอีก
"ไม่เมา ถ้าเมาจะเอาได้เหรอเอ๋"
"พี่ทำให้เจ็บ อีกแล้ว เนี่ยแสบมากเลย"
"เดี๋ยวซ้ำบ่อยๆก็หาย"
"บ้าเหรอพี่" พี่โด่งเหมือนอารมณ์เย็นลงแล้วนอนกอดเรา
"ขอบใจนะ"
"เรื่องอะไรพี่" แสบรูจริงๆ
"เอ๋คงไม่ว่านะถ้าพี่จะขออีกที"
"พี่โด่ง" เราร้องเสียงหลง "ทำไมพี่เซ็กส์จัดอย่างงี้" ตกใจเมื่อแกเอามือไปจับที่เค มันแข็งตัวอีกแล้ว "นี่พี่กินอะไรมานี่"
"น่า เอ๋ จะได้หายเจ็บ ไง" เราก็บ้าพอกัน "คราวนี้พี่จะทำเบา นะขอเถอะปวดไข่จะแย่อยู่แล้ว แกยกขาเราขึ้นท่าเดิมแล้วก็ชำแรกเข้ามาอีก นานจนเมื่อยแล้วก็ชักออก "เอ๋ร้อนมั๊ย" ฝนเริ่มซาลงแล้ว "ทำไมเหรอพี่"
"ไปอาบน้ำกันเถอะ" เรางงแกหยิบผ้าให้เราผืนส่วนแกใส่แค่กางเกงในแล้วค่อยๆหย่อนตัวลงน้ำหน้าบ้านลอยอยู่ข้างๆบันได
"พี่เอ๋กลัว" มันมืดเหลือเกินเสียงกบร้องระงม เรานั่งที่บันไดหย่อนขาลงไปแล้วก็หดขึ้นมา น้ำเย็นมาก พี่โด่งดึงมือเรา
"เอ๋เกาะบันไดไว้แน่นๆนะ ผ้าเราถูกถอดกองที่บันไดแล้วสักพักปลาตัวใหญ่ก็มุดเข้ามาในไซจนได้ ทั้งหนาวทั้งมันสนุกและกลัวในเวลาเดียวกันมือพี่โด่งกระตุกให้เราไปจังหวะเดียวกันกับแกไม่นานเราก็เสร็จพี่โด่งรีบตามจนฉีดเข้ามาอีก จากนั้นก็รีบขึ้นจากน้ำเพราะพอหายมันแล้วมันหนาวอย่างเดียว ล็อกประตูห้องแน่นหนาก็ทิ้งตัวลงนอนกอดกันอย่างมีความสุข
"พี่โด่ง คิดยังไงกับเอ๋" เราอยากรู้เหลือเกิน
"ชอบตั้งแต่เห็นวันแรกแล้ว มันถูกชะตาบอกไม่ถูก แล้วยิ่งเอ๋เป็นอย่างนี้ก็เลยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่"
"พี่คงมีประสบการณ์มาเยอะสิ" พี่โด่งหันมามองหน้า "ถ้าแค่ให้ดูดนะเยอะแต่เอานี่ต้องเลือกหน่อย" หมายความว่าเราถูกเลือกละสิ
"นอนเถอะเอ๋ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเที่ยว"
"พี่จะพาไปไหน"
"ไปนั่งเรือหางยาวกัน ไปเที่ยวตลาดแล้วตกเย็นก็เที่ยวถ้ำกันไง" แกหันมางับที่ติ่งหู "พี่ชอบเซ็กส์นะ ทั้งวันก็เคยมาแล้ว"
"มิน่าแฟนถึงหนี" หลุดปากพูดออกไปจนได้
"คงจะจริง แล้วเอ๋จะหนีพี่มั๊ยหล่ะ"
"ติดแล้ว คงหนีไม่รอดมั๊ง"................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

41. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:34 PM (SE Asia Standard Time)
 
   41
ตื่นเช้าก็พบว่าตัวเองนอนหนุนแขนพี่โด่งอยู่ ผ้าคลุมช่วงล่างหลุดลุ่ย เรามีแค่กางเกงในกับเสื้อกล้าม ส่วนพี่โด่งเปลือยเปล่า น้องพี่โด่งกำลังโงนเงนบิดขี้เกียจอยู่ รู้สึกแสบเล็กตอนเกร็งแต่ก็เป็นอย่างที่พี่เขาบอกว่าซ้ำแล้วก็จะหาย มองดูน้องชายพี่โด่งแล้วนึกขำ เอ้อมมือไปตีมันทีนึงแถมมันยังกระดกตัวเล่นด้วยอีก พี่โด่งลืมตาแล้วเอามือกุมไว้สองมือกำไม่มิด ส่วนปลายยังคงโผล่ออกมา
"กวนแต่เช้าเลยนะเนี่ย"
"ไม่ได้กวนซักหน่อย เห็นมันตื่น ก็เลยหยอกมันเล่น"
"เดี๋ยวจะโดนอีก เมื่อคืนไม่เข็ดเหรอ"
"ไม่กลัวแล้ว" พี่โด่งดันตัวลุกขึ้นนั่ง มองหน้าเราพร้อมกับลูบตั้งแต่หน้าลงมาจนถึงคอและไหล่ เรามองตามมือของพี่โด่งที่ลูบไปตามตัว รอยเขียวช้ำที่หัวไหล่พราะโดนกัดเมื่อคืน พี่โด่งจูบเบาตรงรอยนั้น แล้วจูบอีกทีตามซอกคอ
"เจ็บมากมั๊ย"
"เจ็บ" เราตอบแกเบาๆ "พี่โด่งชอบความรุนแรงเหรอ"
"พี่ไม่รู้หรอก พี่อยากให้เอ๋สนุกเต็มที่"
"เอ๋ ระบมไปทั้งตัวแล้วพี่ ทั้งบน ทั้งล่าง" เรานั่งหันหน้าเข้าหาพี่โด่ง สองขาพาดกับสะโพกแกพร้อมกับโอบรอบคอแกไว้ พี่โด่งสวีทเหลือเกินวันนี้ ตาสวยใต้ขนตาหนามองเราจนเราเขิน
"โด่ง ตื่นรึยังลูก รีบอาบน้ำแล้วมาใส่บาตรกัน" เสียงย่าตะโกนได้ยินมาแว่วๆ พี่โด่งรีบลุกไปชะโงกที่ริมหน้าต่าง
ตะโกนตอบย่า แล้วชวนเราอาบน้ำ
สองคนนั่งคนละข้างกับย่า เด็กวัดพายเรือพาพระท่านมาบิณฑบาตร ย่ากับปู่เริ่มก่อน ตามด้วยพี่โด่งแล้วเราเป็นคนสุดท้าย ตักบาตรเสร็จย่าก็พาไปกรวดน้ำ ตอนเทน้ำที่โคนต้นไม้หน้าบ้านพี่โด่งเดินตามมาดูอยู่ห่างๆ เรายิ้มให้พี่โด่งพร้อมอธิษฐานในใจตอนที่กรวดน้ำว่าขอให้เรากับพี่โด่งดีต่อกันอย่างนี้ไปอีกนานนาน
หลังอาหารเช้า พี่โด่งปล่อยเชือกเรือหางยาวแล้วติดเครื่ง เรไม่เคยนั่งเรือแบบนี้ก็กลัวๆกล้าๆ
"โด่ง เอ๋ว่ายน้ำเป็นรึเปล่าจะพากันไปไหนนั่น"
"เป็นครับ" พี่โด่งตอบแทนเรา เรานั่งหันหน้าไปทางหัวเรือ มีพี่โด่งเป็นคนบังคับหางเสือ ความเร็วเรือพอประมาณ เราใส่เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้น เพราะพี่โด่งบอกว่าจะได้กระโดเล่นน้ำได้ง่ายๆ พี่โด่งสามส่วนสีดำ เชิร์ตลายสก็อต เปิดกระดุมออกสามเม็ด เราหันหลังไปดูหน้าคนขับเรื่อยๆ ผมหยักศกของแกลู่ตามลม พี่โด่งหรี่ตาเพราะแสงแดด หล่อจริงๆเลยคะ
เลียบท่าที่ตลาดเดินขึ้นไปหาของกินกันไม่นานก็กลับ
"พี่โด่ง อยากขับเรือเป็นบ้าง"
"ไม่เอา มันอันตราย เดี๋ยวไปถึงบ้านเอาเรือพายมาเล่นก็แล้วกัน"
"ก็ได้" เรือเทียบท่าพี่โด่งกระโดดขึ้นฝั่งไปผูกเรือไว้ เราลุกขึ้นเรือยืนก็โคลงเคลง น้ำหนักไม่สมดุล พี่โด่งยื่นมือมาให้จับแล้วแกก็ยิ้มจากจับกลายเป็นปล่อย เราเสียหลัก ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นท่าแตะกับอากาศแล้วตกน้ำไป น้ำในแม่น้ำเย็นและเชี่ยวเราดีดตัวขึ้นลอยคอ พี่โด่งหัวเราะเสียงดังที่ท่าน้ำ เราโกรธค่อยๆปีนขึ้นท่าไม่ยอมให้แกจับมือ แล้วเดินหนีไปที่บ้านพัก ย่าเดินผ่านมาพอดี
"อ้าวโด่ง ไปแกล้งน้องจนตกน้ำตกท่าละซิ เล่นไม่ยอมเลิกเลยนะ โตแล้วนะลูก"
"เอ๋มันซุ่มซ่ามนี่ย่า" พี่โด่งเดินแกมวิ่งตามมาแกล้งอีกตอนที่เรากำลังข้ามสะพาน แล้วก็เซหงายหลังตกน้ำอีกเป็นครั้งที่สอง เราเกาะสะพานไว้
"พี่โด่ง เนี่ยเล่นบ้าอะไรไม่รู้ จมน้ำมาจะทำยังไง" เราลอยคอไปบันไดขึ้นบ้าน แดดบ่ายเริ่มเบาลงแล้วราวห้าโมงเย็นเห็นจะได้ ขึ้นจากน้าก็รีบเข้าบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่โด่งตามมาแกล้งอีก
"พี่โด่ง นี่" เราดึงผ้าขนหนูกลับ แกไม่ยอมปล่อยเราขี้เกียจเล่นด้วย "ไม่เช็ดมันแล้ว" รู้สึกโกรธมาก แกหัวเราะ
"เด็ก ซุ่มซ่าม" พี่โด่งล้อแล้วยื่นผ้าให้เช็ดผม "จะเช็ดทำไม เดี๋ยวเย็นลงไปเล่นน้ำที่หน้าบ้านกัน"
"ไม่มีห่วงยางเล่นไม่สนุกหรอก น้ำเชี่ยวอย่างนี้น่ากลัว"
"เราก็พายเรือไปเล่นที่ตื้นๆสิ ผ่านบ้านย่าไปหน่อยมีระดับที่ไม่ลึกมาก มืดแล้วไม่มีคนจะพาไปเที่ยวถ้ำ" พี่โด่งมากระซิบข้างหู
"มีถ้ำด้วยเหรอแถวนี้ เห็นมีแต่ต้นไม้ ไหนไม่เห็นมีถ้ำเลย"
"ก็ถ้ำอยู่ข้างหลังเอ๋จะมองเห็นได้ยังไง" ยิ่งพูดยิ่งงง" ปากถ้ำอยู่นี่ไง" พี๋โด่งพูดพร้อมกับล้วงไปบีบก้นเราในกางเกงทีนึง
"บ้า มันใหญ่ขนาดเป็นปากถ้ำก็เพราะพี่แหละ ขุดอยู่ได้" เราตอบอายๆ
"เอ๋" แกนั่งลงคร่อมเราข้างหลัง "ซักยกก่อนแล้วกัน อยากแล้วสิ"
"เดี๋ยวย่าก็มาเรียกกินข้าวแล้ว" พูดไม่ทันขาดคำ ย่าก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ที่ชาน
"เห็นมั๊ยหล่ะ ย่ามาตามแล้ว"
"โอย เอาไงดีนี่ พี่โด่งเอามือกุมเคที่ดันกางเกงออกมา
"พี่ก็ใส่กางเกงในสิ มันจะได้ไม่โผล่" แกรีบถอดกางเกงหยิบกางเกงในมาใส่ ตัวร้ายแกว่งไปแกว่งมาอยู่ข้างหน้า เเห็นแล้วรู้สึกหิวขึ้นมาจนได้
"พี่โด่ง" เราเรียกพร้อมเดินไปหา พี่โด่งกำลังสอดขาเข้ากางเกงใน "เอ๋ หิว ขอหน่อยพี่" ไม่รอแกตอบ เราเอื้อมมือไปจับเคพี่โด่งแล้วขยับตัวเข้าไปหา ดูดเลียอย่างหื่นกระหาย พี่โด่งก็ช่วยทำอารมณ์ตัวเองไปด้วย แกย่อเข่าเล็กน้อยสองมือประคองหัวเราแล้วกระเด้าเข้ามาในปากอย่างเมามัน จนน้ำพุ่งเข้ามาในปากเรา เราค่อยๆเล็มปลายเหมือนเสียดายทุกหยาดหยด จนมันหดพี่โด่งเก็บเคอย่างรวดเร็วก่อนบอกว่า
"พี่ไปรอที่บ้านนะ เอ๋ล้างหน้าหน่อยนะก่อนไป"
ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง หน้ามันดูไม่ได้เลยเรา
เรานั่งสมทบวงข้าวเป็นคนสุดท้าย ย่ามองหน้าใกล้ๆแล้วทำท่าสงสัย "เอ๋ทำไมปากบวมหล่ะลูก กินอะไรผิดสำแดงรึเปล่า" เราไม่กล้าตอบได้แต่ยิ้ม
"เมื่อกี๊ไปตลาด เห็นดูดหัวปลาช่อนนะย่า" พี่โด่งพูดแล้วหัวเราะ
"ใครเขาดูดกันหัวปลาช่อน แถวบ้านเอ๋กินกันแบบนั้นเหรอลูก" อายย่ากับปู่จนหน้าแดง มองหน้าพี่โด่งอย่างโกรธจัด คอยดูเถอะ พี่โด่งยักคิ้วแล้วเลียนแบบท่าดูดของเรา ปู่ขำ "ไปล้อเด็กมัน เอ้ากินๆ กับข้าวเย็นหมดแล้ว"......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

42. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:35 PM (SE Asia Standard Time)
 
   42
กินข้าวเสร็จแกก็นอนหงายผึ่งอยู่ชานระเบียง หนุนตักย่าขี้อ้อนเราหมั่นไส้
"ย่า พรุ่งนี้ผมกลับกรุงเทพฯแล้วนะ"
"ทำไมรีบกลับนักละ มาไม่กี่วันเอง" ย่าใช้พัดโบกไล่ยังให้
"วันจันทร์ทำงานแล้ว กลับวันอาทิตย์มันเหนื่อย และอีกอย่าง" พี่โด่งปรายตามามองที่เรา ที่กำลังนั่งดูบีบขาให้ปู่ พี่โด่งนิ่งอยู่อึดใจก่อนบอกว่า" เอ๋ต้องกลับบ้านแล้วนะครับ เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง" ย่าลูบผมพี่โด่งอย่างเอ็นดู
"ไม่เป็นไรเดี๋ยว วันหยุดหน้าก็มาหาใหม่ เออนี่อย่าลืมไปหาแม่เขาด้วย เห็นแม่เขาบ่นว่าตั้งแต่เลิกกับแฟน โด่งไม่กลับไปบ้านเลยรึ"
"ไม่อยากเจอหน้า" พี่โด่งตอบเลี่ยงๆ
"จะหนีความจริงไปทำไม เป็นลูกผู้ชายกะแค่ผู้หญิงทิ้ง ทำให้หมดสนุกไปเลยเรอะ" ปู่เอียงข้างมาบอกหลาน
"นึกว่าเขาไม่ใช่คู่เรา ทำบุญกันมาแค่นี้ ย่าเชื่อว่าโด่งต้องเจอคนดีๆสักคน" ย่าบีบขมับให้พี่โด่ง
"คนเรามีพบก็ต้องมีจาก ถ้าหากเขาไม่ใช่ของเรามันก็มีเรื่องให้คลาดแคล้วกันจนได้" ย่ายังคงสอน ปู่นอนคว่ำให้เราบีบที่ก้น แกหยิบผลไม้ใส่ปาก แล้วพูดต่อว่า
"ปู่จะสอนอะไรให้อย่างนะโด่ง คนเรามีพบก็ต้องมีจาก ถึงไม่จากเป็นก็จากตายอยู่วันยังค่ำ วันนี้เรารัก เราก็อยากจะอยู่ด้วยจนตายเหมือนปู่กับย่า แต่วันไหนเราเบื่อเราก็อยากจากไปทั้งๆที่ยังเป็นๆนี่แหละ ทำใจให้สบายยังหนุ่มยังแน่นถือว่ามันเป็นบทเรียน" ปู่ซบหน้าลงกับวงแขนของตัวเอง
"อย่าเอาเรื่องไม่อยากเห็นหน้าแฟนเก่าเป็นข้ออ้าง ที่ไม่ยอมกลับบ้าน แม่เรามีคนเดียวนะโด่ง ไปหาให้เขาชื่นใจบ้าง"
"ครับ" พี่โด่งรับคำเรานั่งนิ่งฟังผู้ใหญ่คุยกันพลอยเครียดไปด้วย ความรักมันยิ่งใหญ่จนทำให้คนๆนึงเสียใจได้ขนาดนี้เลยเหรอ ตอนเราโดนทิ้งเราก็แค่บอกกับตัวเองว่าจะลืมคนนี้ให้ได้แล้วก็ไปหาอะไรอย่างอื่นทำ พี่โด่งคงอาการหนักน่าดู
"แล้วเราหล่ะ เอ๋ฟังรึเปล่า" ปู่หันหน้ามาบอก "เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาละสิ เด็กสมัยนี้ ตั้งใจเรียนอย่าริมีแฟน ดูพี่เขาเป็นตัวอย่างคนอกหักมันทุกข์นะ เออเจ้านี่นวดเก่งจริงๆ เล่นเอาปู่หายง่วงเพลียเลย กระชุ่มกระชวยดีวะ ขอบใจนะ"ปู่ลุกขึ้นพยุงย่าให้ลุกตาม ย่ามองหน้าเรา "แล้วเอ๋มีแฟนรึยังละลูก" อยากจะบอกว่านอนอยู่บนตักย่านั่นไง พี่โด่งดันตัวลุกขึ้นนั่ง เรามองหน้าย่าแล้วตอบว่า
"มีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรักผม รึเปล่า" พยายามไม่มองหน้าพี่โด่ง "มันคงเป็นไปไม่ได้"
"แล้วเอ็งสู้รึยังหล่ะ เจ้าหนู" ปู่ตบไหล่
"มีแต่ยอม" เราพูดเสียงในลำคอแล้วละสายตาจากปู่กับย่าลุกขึ้นเดินไปที่บันไดที่ชานระเบียง ย่ากับปู่เดินเข้าบ้านไปแล้ว รวมทั้งพี่โด่งก็เดินเหมือนคิดหนักเข้าบ้านหลังเล็กไป เรานั่งอยู่คนเดียวที่ตีนบันไดแกว่งขาเล่นในน้ำ พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะปิดฉากลงอีกแล้ว ความรักครั้งนี้ของเรามันเศร้านัก เรามองไม่เห็นความเป็นไปได้ในเรื่องขิงเรากับพี่โด่ง ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกปวดหัวใจ เจ็บปวดกับความเป็นไปไม่ได้ คำพูดของย่า ดังก้องอยู่ในหู
"ของถ้าไม่ใช่ของเรา ก็ต้องมีอันแคล้วคลาดจากกัน" เราเองก็รู้ทั้งรู้ว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของเราแต่เรายังหยิบฉวยมาป็นเจ้าของ พอต้องคืนมันกลับไว้ที่เดิมกลับเสียดายนัก
แหงนมองฟ้าที่มืดครึ้มเพราะเมฆฝน ยิ่งทำให้ใจเศร้าหนักกว่าเดิม ฝนหยดลงมาแล้วหยดแรกกระทบกับหน้าผากแล้วตามมาอีกซู่ใหญ่เรายืนให้ฝนชะล้างความหมองหม่นที่ระเบียงนั้นเป็นนานจนหนาว ไม่ได้ต้องการจะลงโทษตัวเอง ต้องการเพียงแค่อยากจะร้องไห้ไปพร้อมกับฝนให้ทุกๆอย่างมันหมดสิ้นไปจากใจ แล้วพรุ่งนี้เราจะยิ้มรับกับการจากลาอย่างเต็มที่ เราบอกตัวเองอย่างนั้นก่อนจะเดินไปที่บ้านเล็ก ที่ๆมีคนที่เรารักนั่งรอเราพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนเท่ของเขา ตาสวยคงจะมองเราอย่างเคย เราคิดได้แค่นั้นก็รีบจ้ำอ้าวไปที่ห้องพักทันที อยากนอนกอดพี่โด่งมาก.........
..พี่โด่งคงนอนหลับไปแล้วเรารีบเปลี่ยนผ้าไปอาบน้ำอีกทีเพราะกลัวเป็นหวัด หาเรื่องตากฝนจนหนาวซะตัวสั่นปากสั่นไปหมด เช็ดตัวให้มันแห้งให้เร็วที่สุดก่อนใส่เสื้อผ้ายืนมองฝนตกที่ขอบหน้าต่าง ป่านนี้ที่บ้านจะเป็นยังไงบ้างนะ หลังจากที่ได้ยินพี่โด่งบอกว่าจะกลับแล้วก็อยากเดินผ่านประตูเปลี่ยนสถานที่ของโดเรมอนให้เปิดเจอห้องนอนเลย แสงไฟที่ระเบียงทำให้มองเห็นเม็ดฝนหล่นกระทบผิวน้ำ ฟ้าร้องคำรามดังสนั่นจนแสบแก้วหู เราแง้มหน้าต่างไว้พอให้มีลมโกรกบ้าง ตลบมุ้งแล้วค่อยๆคลานเข้าไป พี่โด่งกำลังหลับสบายนอนตะแคงข้างไปอีก เราเอนตัวลงหันหลังให้เหมือนกัน เห็นซึมตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วไม่อยากกวนใจ หนาวจริงๆเลย เราดึงผ้าห่มที่คลุมขาพี่โด่งอยู่ขึ้นมาห่มตัว แรงดึงคงทำให้แกตื่น พี่โด่งพลิกตัวกลับมา
"ไปไหนมา รอจนหลับ"แกโอบไว้ "ทำไมตัวเย็นๆ เล่นน้ำฝนมาเหรอ"
"ไม่มีอะไรทำ" ไม่รู้จะตอบอะไร พี่โด่งไม่เมาแล้วกวนยาก"วันนี้ตัวหอมจัง ไม่มีกลิ่นเหล้า" เรายกมือแกขึ้นมาจูบพลางหันหน้าไปมอง หน้าพี่เขาชิดอยู่ที่ปลายผม เราพลิกตัวหันหน้าเข้าหา
"อาบน้ำรอ ก็ไม่เห็นมาสักที"
"นึกว่าพี่เซ็ง เห็นเดินซึมเข้าบ้าน เลยไม่อยากกวน"
"ใครว่า เอ๋นี่ชอบคิดไปเอง เรื่องนั้นมันนานแล้ว ทั้งปู่ทั้งย่า และแม่อีก พูดเหมือนเดิมทุกที ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา ตอนนี้พี่อยากเที่ยวให้หายเบื่อซะก่อน" น้ำเสียงฟังดูก็ท่าจะจริง
"พี่โด่งรู้มั๊ยเวลาพี่ไม่เมา พี่น่ารักมาก แต่เวลาพี่เมาก็เร้าใจดี"
"แล้วเอ๋ ชอบแบบไหนหล่ะ"
"ชอบแบบผสมสองอย่าง เมามากก็เจ็บตัวมาก นี่เอ๋ชอบความรุนแรงไปแล้วรึเปล่านะพี่" พี่โด่งจูบที่ปากแล้วขบเบา
"อย่างนี้แรงพอมั๊ย"
"นอนเถอะพี่ พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพฯแล้วนะ เดี๋ยวขับบรถนานๆเหนื่อยแย่"
"กรุงเทพฯ ใกล้แค่นี้เอง ไปเมื่อไหร่ก็ได้"
"แล้วพี่จะไปไหนอีก"
"พรุ่งนี้แวะนอนกับแม่สักวัน แล้วค่อยกลับ" พี่โด่งบอก
"งั้นเอ๋ก็ต้องแยกกับพี่ที่ บขส.เหรอ"
"ใครบอก มาด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ"
"แล้วพี่โด่งจะบอกแม่ว่าไง"
"ไม่เห็นจะยาก พี่ไม่ได้ฉุดลูกสาวใครไปนี่" แกพูดขำๆ
"ใช่สินะ มีแต่ลูกชายใครก็ไม่รู้หอบผ้าตามมา" พี่โด่งเอาขามาทับเรา ส่วนนั้นยังคงสงบนิ่ง "กี่ทุ่มแล้วฝนตกไม่ลืมหูลืมตาเลย"
"สามทุ่มกว่า"เราตอบ "ยังไม่ดึก"
"เอาไงวันนี้" แกถามเอาดื้อๆ"บรรยากาศมันเป็นใจนะ"
"นอนเถอะพี่"ให้ตายสิไม่ได้ปลุกอารมณ์สักนิดไม่รู้มีอารมณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ "ปวดหลังจะแย่เมื่อคืน"
"แล้วจะให้พี่ปวดไข่จนจุกอีกเหรอ กลางวันก็ไม่ยอมแล้วรอบนึง" พูดทวงเอาดื้อๆอีกแล้ว
"ก็ดูดแล้วไง" เราบ่ายเบี่ยงเมื่อแกจับที่ก้น
"หรือจะต้องเจ็บตัวก่อน จะยอมมั๊ย" แกทำทีเป็นตีก้นเราแรงๆสองสามครั้ง
"พี่โด่งไม่เหนื่อยบ้างเหรอ"
"จะได้นอนสบายไง เอ๋" ปากบอกไต่ตัวนอนคว่ำอยู่ข้างล่างแล้ว "วันนี้ท่าเบสิกนะ" ก็กางขาช่วยเขาเปิดทางเข้าถ้ำจนได้ "เอวันนี้หลวมพิกลใครแอบเข้ามาเที่ยวถ้ำนี่"
"บ้า ก็เที่ยวอยู่คนเดียว " ท่อนล่างขยับเน้นๆแบบจงใจพี่โด่งก็ยังชวนคุยอยู่ไม่เลิก จริงๆเคพี่โด่งไม่แข็งเหมือนเมื่อคืน แต่แกก็บดสะโพกจนมันแข็งข้างในตัวเราจนได้ เราเสียวจนต้องซุกหน้ากับหมอนหลับตาปี๋
"เอ๋" พี่โด่งเรียก "กินยาหน่อยสิ กันหวัด" เราพลิกตัวนอนหลายพี่โด่งกระตุกมืออยู่แป็บเดียวก็จ่อยาเหนียวใส่ปาก "น่านยังงั้นแหละ เด็กดี" ป้อนยาใส่ปากจนหมดเรากลืนแล้วเล็มตามริมฝีปาก นอนก่ายกันทั้งๆที่แก้ผ้าผ้าห่มผืนเล็กคุมด้านบน ส่วนตัวเรานั้นนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดพี่โด่งจนถึงเช้า ยาพี่โด่งดีจริงๆ ทั้งฉีดทั้งกินในหลอดเดียวกัน................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

43. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:37 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่43เราไม่มี
มีต่อตอนที่44เลย

44
..ออกจากบ้านปู่และย่าราวเจ็ดโมง ถนนค่อนข้างจะขับยากเพราะฝนที่ตกหนัก พี่โด่งหน้าตาดูเนือยๆเห็นแล้วน่าสงสาร เรายื่นมือไปบีบที่ต้นคอให้ แกสะดู้งแล้วหันมาพยักหน้า เราบีบไปเรื่อยๆจนรถออกสู่ถนนใหญ่ นานแค่ไหนไม่รู้จากอัมพวามาระนอง เราแวะกินข้าวกันกลางทาง ถึงตัวจังหวัดประมาณบ่ายแล้วต้องออกไปอำเภอด้านนอนกอีก ขับไปได้สักระยะผ่านตลาด เข้าซอยเล็กๆ ก็เห็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ้งตึก รอบบ้านมีบริเวณพอสมควร แม่พี่โด่งกำลังเก็บผ้าที่ราวหน้าบ้าน พี่โด่งเดินแกมวิ่งไปหาแม่ ดูท่าทางแม่ดีใจมาก เกือบปีแล้วที่พี่โด่งไม่ได้กลับมาบ้าน เรายืนดูแม่ลูกเขาทักทายกันให้เต็มที่ก่อนจะเดินไปหาเพื่อแนะนำตัว พี่โด่งโอบไหล่พร้อมเขย่าที่บ่าแรงๆตอนแนะนำ
"น้องเพื่อนครับแม่ พามาเที่ยว" ภาษาใต้ฟังยากแต่ต้องพยายามจับใจความ
"ฟังออกมั๊ย" แม่พูดภาษากลางออกทองแดงนิดหน่อย น่ารักดี "หิวข้าวกันมั๊ย" พี่โด่งยกตะกร้าผ้าเดินตัวปลิวเข้าไปในบ้าน บ้านแบบสมัยเก่า แม่เดินนำไปที่ครัว อุ่นกับข้าวให้กิน พี่โด่งชวนเราขึ้นไปเก็บของข้างบน ห้องพี่โด่ง ยังมีกลิ่นไอเมื่อตอนแกเป็นวัยรุ่นอยู่มากโข ตามฝาบ้านติดรูปนักฟุตบอลอังกฤษที่แถมมากับสตาร์ซอคเกอร์ ห้องเก็บเรียบร้อย ผ้าขาวคลุมเตียงไม้อีกที เราวางเป้ไว้ที่เก้าอี้ทำงาน พี่โด่งปิดประตู พอพี่แกหันมาจากประตูเราก็สวมกอดแกอย่างแรง พี่โด่งตกใจ เอามือดันตัวเราออกนิดนึงเพื่อมองหน้า
"เป็นอะไร" เรากอดแกแน่นแล้วซุกหน้าที่อก พี่โด่งลูบผมเบาๆ ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายพี่โด่งเองน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเราเป็นอะไร แกกดคางลงมาที่ผม แล้วดันตัวเราออกเบาๆ
"ลงไปข้างล่างเถอะ แม่รอกินข้าว" แกบีบมือเบาๆก่อนจะเดินนำหน้าลงบันได
"ทำไมมาแค่วันเดียวละ" แม่ตักข้าวใส่จานให้แล้วนั่งข้างๆเรา "กินเป็นม๊าย" กับข้าวใต้เผ็ดทั้งนั้น รสชาดจัดจ้านไม่คุ้นลิ้น แม่ดูสนอกสนใจเราเป็นพิเศษ
"เหมือนคนจีน แต่บางทีก็ไม่เหมือน"
"ผมว่าเหมือน ไอ้เพ็ญ" พี่โด่งพูดถึงแฟนเก่า
"ไม่เหมือน ไอ้เพ็ญไม่ขาวแบบนี้ แล้วตาก็ไม่เหมือน" นี่แม่สนใจอะไรกันนักหนา เผ็ดกับข้าวมากจนแลบลิ้นออกมาเป่า "เดี๋ยวแม่เอาของหวานมาให้" ของหวานของแม่คือ อินทผาลัมแห้งๆ ที่มีขายแถวปักษ์ใต้ อันนี้ก็ไม่เคยกินอีก
กินข้าวเสร็จช่วยแม่เก็บจาน พี่โด่งก็เดินสำรวจบ้านไปรอบๆ บ่ายแก่ๆอย่างนี้อบอ้าวพอดู แม่ชี้ส่วนที่ต้องซ่อมแซมหลายจุด พี่โด่งหยิบค้อนกับตะปู ไปตามที่แม่ชี้ เรานั้งดูอยู่ห่างๆที่แคร่หน้าบ้าน ร้อนมาก แม่มานั่งข้างๆ
"โด่งขยันนะเอ๋ มาทีไรไม่เคยพักหรอก ดูโน่นดูนี่ เสียดายเอ๋มาเที่ยวแค่วันเดียว ไม่งั้นจะพาไปเที่ยวสวน" เราได้แต่ยิ้ม
"แม่อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอครับ"
"ชินแล้ว อยู่ตั้งแต่พวกพี่เขาไปเรียนหนังสือกรุงเทพฯ ไม่เหงาหรอกลูก งานในสวนเยอะแยะ"
"บ้านเอ๋ทำอะไรกันหล่ะ"
"ขายของชำในตลาดฮะ" เราบอกที่อยู่แม่ก็ยิ่งสงสัยว่ารู้จักกันได้ไง
"อ๋อ เป็นลูกศิษย์ ของพี่โต คนนี้ก็ดี อ่อนน้อม รักโด่งมันมาก ตอนโด่งอกหัก ก็มาอยู่ด้วยเลยพาเพื่อนมาเป็นโขยง"
"พี่โด่งอาการหนักอย่างนั้นเลยเหรอแม่"
แม่มองไปที่ พี่โด่งแล้วพยักหน้า "เห็นเอ๋แล้วถูกชะตาเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน เผลอเล่าออกไปจนได้"
"พี่โด่งคงรักแฟนเก่าแกมากนะแม่ " แม่พยักหน้าอีก
"เขาเป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมัธยมที่นี่ เรียนต่อกรุงเทพฯก็ไปด้วยกัน เกือบจะแต่งงานกันแล้ว แต่แม่ก็ไม่รู้ว่า เพ็ญถึงเลิกกัน เพ็ญกลับมาอยู่บ้าน พี่เขาก็ตามมาง้อหลายครั้ง แต่เพ็ญมันใจแข็ง นี่โด่งยังไม่รู้นะนี่ว่าเพ็ญไปอยู่เมืองนอกกับผัวมันแล้ว" แม่ส่ายหน้ามองพี่โด่งอย่างห่วงใย พี่โด่งถอดเสือพาดไว้ที่รั้ว แม่เดินเอาน้ำเย็นไปให้ หยอกล้อกันตามประสาแม่ลูก เราดูห่างไกลเหลือเกิน เหมือนเป็นบุคคลที่สาม พี่โด่งเพียงแต่คอยมองมาเป็นระยะหากเราก็ต้องคอยระงับอาการไม่ให้สาวแตก เพราะกลัวว่าแม่จะสงสัยขึ้นมา
"เย็นนี้จะกินอะไรดี"
"เดี๋ยวเอ๋ช่วยแม่นะครับ อยากดูว่าอาหารใต้ทำยังไง"
"ดีๆ มาเป็นลูกมือกันหน่อยคงสนุกนะ " แม่หัวเราะเสียงดังชวนเราปั่นจักรยานไปตลาด เราเป็นคนปั่นแม่ซ้อนท้ายทิ้งพี่โด่ง ซ่อมบ้านต่อไป แม่ค้าในตลาดรู้จักแม่หลายคน ทักทายเด็กแปลกหน้าอย่างเอ็นดู ซื้อกับข้าวหลายอย่าง ถึงบ้านก็ไม่เห้นพี่โด่ง ไม่รู้ไปไหน แม่ให้ขึ้นไปดูที่ห้องนอน ก้ไม่เจอ รถก็ยังจอดอยู่หายไปไหนนี่พี่โด่ง เฮ้อ.....
หาพี่โด่งยังไงก็ไม่เจอ เลยเข้าครัวเตรียมอาหารกับแม่ แม่จะทำแกงส้มปลากระบอก หมูหวาน แล้วก็แกงฟักใส่ไก่ วิธีทำก็ไม่ได้ต่างกันมากยกเว้นแค่ตอนเข้าเครื่องพริกแกงที่ใช้ไม่เหมือนแถวบ้าน รสชาดอาหารใต้จะจัดจ้านทุกอย่างแม่กลัวเชว่าเราจะกินไม่ได้ก็เลยเจียวไข่อีก เสียงดังกุกกักอยู่ข้างหลัง พี่โด่งกลับมาแล้วเหงื่อท่วม แม่หันมาถาม
"ไปไหนมา" เป็นภาษาใต้พี่โด่งบอกว่าไปเดินเล่นในสวนมาแกกินน้ำอึกใหญ่ ท่อนบนยังเปลือยเปล่าหน้าท้องแบนราบเป็นมันเงาเพราะเหงื่อ พี่โด่งมายืนใกล้เราที่กำลังปลอกฟัก แล้วอมยิ้ม เราอยากจะหอมแก้มแกจังแต่กลัวแม่หันมาเจอ แม่ตั้งน้ำสำหรับแกงฟักแล้วโยนไก่ลงไปในหม้อ ตามด้วยตะไคร้ พอน้ำเดือดกลิ่นหอมชื่นใจนัก เตาที่ว่างก็ตั้งไฟเทน้ำมันรอให้มันร้อน เรารีบตีไข่รอ กว่ากับข้าวจะเสร็จเล่นเอาหน้ามันทีเดียวเราผละไปล้างหน้าแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเช็ดหน้า พี่โด่งช่วยแม่ตั้งโต๊ะ สำรวจหน้าตาตัวเองในกระจกเรียบร้อยก็เดินลงมา ทั้งคู่นั่งรออยู่แล้วบนเสื่อหน้า ทีวี เรานั่งข้างๆพี่โด่ง
"กินข้าวกันลูก เอ๋ลองดู วันนี้แม่ทำไม่เผ็ดเท่าไหร่"
"เอ๋ ทานเผ็ดได้แต่ยังไม่คุ้นอาหารใต้ฮะเลยเผ็ด" แม่ตักแกงส้มให้เรา แล้วบอกให้ลอง พี่โด่งอมยิ้มดูแกมีความสุขดี ทั้งเปรี้ยวทั้งเผ็ด นี่ขนาดแม่บอกว่าเบามือแล้วนะ
"แก้มแดงเลย เผ็ดเหรอลูก"แม่ตักหมูหวานกับไข่เจียวให้อีก เรากินข้าวกันคุยกันไป แปลกพี่โด่งเป็นแค่ผู้ฟังเท่านั้น
"วันหลังก็มากับพี่เขาอีกนะ มาอยู่หลายๆวัน จะพาไปทำสวน" แม่ชวน เรามองหน้าพี่โด่งเหมือนจะถามแต่แกไม่พูดอะไร "ไม่ต้องรอพี่เขาหรอก เอ๋อยากมาก็มา แม่อยู่คนเดียว พาเพื่อนมาเที่ยวก็ได้จะได้สนุกกันนะ ห้องก็ว่าง"
"แม่ใจดีจัง" เราเองไม่รู้ว่าแกถูกชะตาอะไรนัก เจอกันแค่แป็บเดียวก็ชวนมาเที่ยวบ้านอีก
"แม่พี่ใจดี ถ้าแกรักใครนะ ตามใจหมดแหล่ะเอ๋"
"ก็น้องมันน่ารัก พวกโด่งไม่ค่อยอยู่บ้านกัน แม่ก็อยากมีเพื่อนคุยบ้างสิ แล้วเอ๋มาเองถูกมั๊ยหล่ะ"
"ถ้านั่งรถประจำทางก็คงมาถูกฮะ"
"วันไหนจะมาก็โทรมาบอก" เราช่วยแม่เก็บจานแล้วล้างให้แก แม่เห็นเราช่วยก็ไปอาบน้ำปะแป้งแล้วนั่งดูโรทัศน์ พี่โด่งนอนเอกเขนกหนุนตักแม่อยู่หน้าจอ ท่าจะติดแม่เอาการตามประสาลูกชายคนเล็ก เราขอตัวไปอาบน้ำบ้าง ขัดสีฉวีวรรณ ซะเรี่ยม วัยยังให้อยู่หน้าก็ยังใส แต่งตัวเสร็จพี่โด่งก็ขึ้นมาแกอาบน้ำเสร็จแล้วขึ้นมาใส่เสื้อผ้า
"วันนี้พี่นอนกับแม่นะครับ เอ๋นอนคนเดียวได้มั๊ย" เราพยักหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากดึงผ้าที่คลุมที่นอนออกพับไว้ที่เก้าอี้
"เป็นอะไร ไม่ตอบ" พี่โด่งใส่เสื้อผ้าเสร็จ
"ไม่มีอะไรฮะ พี่นอนกับแม่เถอะ แกไม่มีเพื่อน คงเหงาน่าดู" เราเอนตัวลงบนที่นอน "ปิดไฟให้ด้วยนะ พี่" พี่โด่งยืนมองเราที่ปลายเตียงแล้วทรุดตัวลงนั่ง เอามือดึงเราขึ้นจากที่นอน เรากอดเอวแกไว้แล้วซบหน้าลงที่ไหล่
"พี่โด่งไม่ต้องเป็นห่วง เอ๋สบายดีพี่ นอนคนเดียวได้" เราหมายความเช่นนั้นจริงๆ
"แน่ใจนะ" แกยังมองหน้าเราเหมือนชั่งใจ
"แน่ใจ" เราจูบที่คางแกเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง พี่โด่งปิดไฟแล้วปิดประตูเบาๆ เหมือนใจจะขาดวันนี้ต้องนอนคนเดียว น้ำตามันเอ่อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่เราร้องไห้ทำไม เราตอบตัวเองไม่ได้ ได้แต่สะอื้นเบาๆท่ามกลางความมืดเท่านั้น............
พี่โด่งกับแม่ออกไปสวนตั้งแต่เช้าทั้งคู่ไม่ได้ปลุกเรา ตื่นขึ้นมาไม่มีใครยิ่งเศร้าใจนัก วันนี้วันอาทิตย์แล้ว ไม่อยากจะคิดต่อเลย อีกกี่ชั่วโมง กี่นาที ที่จะได้อยู่กับเขา เรานั่งรอทั้งคู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน เกือบสิบโมงทั้งคู่ก็เดินกลับมาด้วยกันแม่ทำกับข้าวให้กิน พี่โด่งกินเงียบๆ ส่วนแม่ก็ยังดูแลเราเหมือนเดิม กินเสร็จพี่โด่งก็ไล่เราไปเก็บเสื้อผ้าข้างบน เรายืนมองห้องหลังจากก่อนอยู่พักใหญ่ เราจะมีโอกาสได้มาที่นี่อีกรึเปล่า หลังจากวันนี้แล้วจะมีวันไหนอีกที่จะได้ใช้ชีวิตด้วยกันกับพี่โด่ง รู้สึกตื้ออย่างบอกไม่ถูก อยากจะร้องไห้ ค่อยๆปิดประตูช้าๆ เป้สองใบถูกวางที่ตำแหน่งเดิม แม่เขียนเบอร์โทรให้พร้อมกำชับอีกครั้งก่อนขึ้นรถ
"มีโอกาสก็มาเที่ยวแม่นะเอ๋ มาถึงโทรมานะแล้วแม่จะไปรับ" เราไหว้ลา พี่โด่งกอดแม่ทีนึงแล้วพูดกันสองสามคำก่อนขึ้นรถ แม่ยืนโบกมือพร้อมรอยยิ้ม ผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งมากในสายตาของเรา แกอยู่คนเดียวดูแลสวนทำงานบ้าน นั่งรอลูกๆที่จะกลับมาเยี่ยมบ้าน นึกถึงแม่ขึ้นมาทันที ป่านนี้แม่คงจะรอเราเช่นกัน รอลูกที่หลงระเริงว่าเมื่อไหร่กลับบ้าน มีแต่ความเงียบในรถหันไปมองพี่โด่ง แกก็ตั้งอกตั้งใจอยู่กับถนนข้างหน้าเหมือนใช้ความคิด แกหันมามองเราแล้วตบที่บ่าเบาๆ
"เป็นอะไรเอ๋ ทำไมหน้าตาดูไม่สบายเลย เหนื่อยรึเปล่า" พี่โด่งชะลอรถที่ข้างทางแล้วหันมาคุยกับเรา"บอกพี่หน่อยสิไม่สนุกเหรอ" เราซบหน้าลงที่ไหล่พี่เขา
"เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกหล่ะพี่" พูดได้แค่ไหน บ่อน้ำตาก็ทะลัก
"ร้องไห้ทำไม"พี่โด่งลูบผมเบา "จำปู่กับย่าสอนไม่ได้เหรอ มีพบก็ต้องมีจาก ถ้าเอ๋ไม่มีประสบการณ์แล้วเอ๋จะโตเป็นผู้ใหญ่ได้เหรอ" พี่โด่งค่อยๆเคลื่อนรถออกจากไหล่ทางอีกครั้ง
"เอ๋รักพี่โด่งแล้วนี่" พี่โด่งหันหน้ามามอง
"พี่รู้ แต่พี่ไม่อยากให้เอ๋คิดไปไกลขนาดนั้น เรามาสนุกด้วยกัน เราก็ควรจะจากกันด้วยรอยยิ้มนะครับ" แกละสายตาจากถนนแล้วหันมามองหน้าเราอีกครั้ง "ไม่เอา เอ๋อย่าร้องไห้ พี่ไม่สบายใจ"
"ก็เอ๋เสียใจนี่นา เอ๋ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอะพี่อีก หรือว่าจะไม่ได้เจอกันอีกก็ไม่รู้"
"ใครว่าจะไม่เจอ เอ๋รู้แล้วนี่ว่าพี่อยู่ที่ไหน" รถขับเร็วขึ้นเรื่อยๆ
"พอถึงกรุงเทพฯ เอ่ก็ต้องขึ้นรถกลับบ้านคนเดียว"
"กว่าจะถึงก็มืด พี่ไม่ให้เอ๋กลับตอนกลางคืนหรอก พี่เป็นห่วง พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปส่งเอ๋ก่อนไปทำงาน รถเที่ยวแรกออกตอนหกโมงใช่รึเปล่า" เราพยักหน้า "คืนนี้เราจะอยู่ด้วยกันนะ"
พี่โด่งคอยบีบมือเราเป็นระยะ ไปตลอดทาง จนถึงอพาร์ทเม้นท์ พี่คนเดิมโบกมือเรียกพี่โด่งไปร่วมวง เราแวะกินข้ากันที่ร้านเดิม พี่พงษ์เดินเตร่เข้ามา
"ไปเที่ยวกันมาไม่ชวนเลยนะ" แกตีไหล่พี่โด่งเบาๆ เรารีบกินให้เสร็จเพราะไม่อยากนั่งอยู่ที่นั่นนานๆ พี่พงษ์มานั่งข้างๆจนได้
"ไงเรากลับบ้านเมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้เช้า" พี่โด่งลุกขึ้นจ่ายเงินแล้วเดินลิ่วขึ้นอพาร์ทเม้นท์ไปแล้ว พี่พงษ์เดินตามมากระซิบก่อนเราเดินขึ้นบันได
"รีบตามผัวไปสิ"
"พี่พูดอะไร" เราชักสีหน้า รู้สึกไม่ดีที่แกพูดแบบนี้
"เด็กหนอเด็ก" แกมองหน้าเรา" พี่ไม่อยากจะสอนแต่มันคันปากนะ อย่าปล่อยเวลาให้มันผ่านไป พี่ก็เคยมีความสุขแบบนี้ตอนยังสาว ทำตัวให้สนุก ผู้ชายแบบนี้หายากนะ อายุขนาดเรานี่ยังหาผู้ชายได้ง่าย ถ้าเมื่อไหร่อายุเท่าพี่แล้วเราจะรู้เองว่าหาผู้ชายมันยากแค่ไหน แก่มาก็ต้องซื้อเอา จำไว้" พี่พงษ์เดินแกมวิ่งออกไปหลังจากพูดเสร็จไปสมทบ
กับวงเหล้าร้านเดิม เรายืนงงอยู่สักพักนี่พี่พงษ์ทำไมต้องมาสอนเราด้วยนะ แต่นึกคำพูดของแกตอนนี้มันก็จริงบางส่วนเพราะยิ่งอายุมากขึ้น ก็หาผู้ชายยากขึ้นไอ้รุ่นเดียวกันก็มีลูกมีเมียไปหมดแล้ว จะคั่วเด็กก็ต้องจ่าย ทำไมชีวิตกระเทยมันยากจังนะ.................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

44. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:40 PM (SE Asia Standard Time)
 
   45
พี่โด่งยกเบียร์จากขวดดื่มที่ระเบียงหลังห้อง เราปิดประตูห้องเบาๆ พี่โด่งหันมามอง
"ช้าจัง มานั่งใกล้ๆซิ" เรานั่งลงข้างๆพี่โด่ง แกคล้องคอเราไว้แล้วยื่นขวดเบียร์ "เอ้า กินหน่อย" รับเบียร์มาแล้วยก "เป็นอะไรนักหนา" ได้แต่แต่เอนหัวพิงที่ไหล่
"พอดีหมดสนุกกัน" พี่โด่งยังจิบเบียร์ไปเรื่อยๆ"เอ้ากอดเข้าไป" มือเราโอบรอบเอวแกแน่นขึ้น แกเอียงหน้ามอง
"ขี้แยอีกแล้ว" ตาเราเริ่มแดงๆน้ำตาคลอเบ้า เอ๋ในวันนั้นมันอ่อนไหวมาก
"พี่โด่งยกขวดเบียร์จนหมด แล้วลุกเดินเข้าไปในห้อง เปิดทีวีดู เราหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนพรุ่งนี้คงต้องตื่นแต่เช้ามืด จัดการกับตัวเองเสร็จก็เข้านอน พี่โด่งยังคงดูทีวีอยู่ ไฟในห้องยังสว่าง เราข่มตาให้หลับเท่านั้น แต่ใจไม่หลับสักนิด เสียงทีวีเงียบไปแล้ว พี่โด่งคงกำลังอาบน้ำ เราลุกไปปิดไฟกลางห้อง แล้วเปิดไฟที่หัวเตียงแทนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เตียงยุบลงอีกฝั่งเหมือนคนนอน เราเปิดเปลือกตาขึ้น พี่โด่งนอนหันหลังให้ เราเศร้าใจหนักกว่าเดิมอีก พี่โด่งไม่เล่นด้วยเหมือนเคย อีกใจก็บอกตัวเองให้กอดเขา แต่อีกใจก็บอกว่าอย่าทรมานตัวเองอีกเลย พี่โด่งกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาเราก็เลยหันไปมอง แกทำทีเหมือนงอนเบือนหน้าไปอีกทาง แล้วพูดขึ้นมาลอยๆ
"เบื่อคนพูดไม่รู้เรื่อง" พูดจบก็หันหลังให้อีก เรากลัวแกงอนก็โผเข้าซบที่ข้างหลังพร้อมซุกหน้ากับแผ่นหลัง พี่โด่งทำเหมือนรำคาญขยับตัวออกห่าง เราก็ชะงักมือออกแล้วขยับกลับไปนอนที่เดิม นิ่งกันอยู่พักแล้วแกก็หันหน้ามาหา
"เอ๋" แกสะกิดเราที่แก้ม เราลืมตาขึ้นมอง พี่โด่งประกบปากลงมาช้าๆเราจูบกันอย่างนั้นนานมาก
"เด๊ยวเราก็เจอกันอีกได้นี่เอ๋จะเศร้าทำไม เอ๋กลับบ้านพี่ก็อยู่คนเดียวเหมือนกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันเลยนี่"
"แต่เอ๋กลัวว่าจะไม่ได้เจอพี่โด่งอีกเท่านั้น"
"พี่ดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ" ตัวแกเริ่มทับเราลงมาทั้งตัว มือเสยผมเรา
"ดีมาก ดีจนไม่อยากจากไปเลยแหละ"
"เอ๋ไม่โกรธพี่เหรอ ที่ทำให้เจ็บตัวบ่อยๆ"
"ไม่โกรธ"
"แต่เอ๋พูดไม่รู้เรื่องนะ พี่ชักจะโกรธแล้ว" เราลูบคางแกเบาๆ "คิดไปใหญ่โตไปได้ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เอ๋จะกลัวเลย คิดถึงพี่ก็โทรมาคุยสิ เบอร์โทรศัพท์ก็มีหมด กรุงเทพฯนั่งรถมาเมื่อไหร่ก็ได้ พี่โตก็อยู่ พี่มองไม่เห็นว่าเราจะขาดการติดต่อกันได้เลยนี่"
"แล้วพี่โด่งจะรับโทรศัพท์เหรอ ถ้าเอ๋โทรมา"
"แล้วโทรมารึยัง เอ๋จำไว้นะ อะไรที่ยังไม่เกิดไม่ต้องไปคิดไปล่วงหน้า มันจะทำให้เสียใจเปล่าๆ ไว้ให้มันกิดขึ้นมาก่อน เดี๋ยวไม่มีน้ำตาเหลือไว้ร้องไห้ตอนเสียใจเข้าจริงๆนะ" พี่โด่งพลิกตัวลงนอนข้างๆ เราเองก็เหมือนจะได้คิด นึกตามคำพูดแก
"มันก็จริงอย่างที่พี่พูดนะ นี่เอ๋จะคิดมากไปทำไม" แค่นี้ก็เราก็ยิ้มออก เลยพลิกตัวไปนอนเอาหน้าเกยที่อกของแก พี่โด่งเหลือบตามองแล้วยิ้มให้
"แล้ววันนี้ พี่โด่งไม่สั่งลาหน่อยเหรอ" เราถามตรงๆ พี่โด่งเอานิ้วจิ้มที่หน้าผาก
"สรุปว่าที่ร้องไห้เนี่ย เพราะไม่อยากกลับบ้าน หรือเพราะกลัวไม่ได้นอนกับพี่อีก" พี่โด่งทำหน้าตาจริงจัง
"ก็ทั้งสองอย่าง"
"ก็แค่นั้น นั่งร้องไห้อยู่ได้ เสียเวลาชะมัด วันนี้คงไม่ได้แล้วมั๊ง หมดอารมณ์แล้ว" พี่โด่งเอามือปิดที่เป้าไว้
"พี่โด่งอ่ะ" เราเหมือนงอนๆขึ้นมาอีกจนได้ เลยพลิกตัวนอนหันหลังให้แก สักพักแกก็มากระซิบที่หู
"นี่จะบอกข่าวดีให้" เรายังไม่หันกลับ "พี่โทรไปขอหัวหน้าที่บ้านขอลาต่ออีกสองวัน อยากรู้มั๊ยข่าวดีคืออะไร" เหมือนใจชื้นขึ้นมารอฟังคำตอบด้วยใจระทึก"หัวหน้าก็อนุญาตด้วย"
"ยังไงเอ๋ก็ต้องกลับอยู่ดี"
"ใช่ยังไงก็ต้องกลับ แต่จะมีคนรูปหล่อไปส่ง ไม่ดีเหรอ"
"จริงเหรอพี่" เราหันหลังมาหา
"งั้นวันนี้ไม่ต้องสั่งลาแล้วนะ" พี่โด่งหอมแก้มทีนึง
"ก็ได้ งั้นเอ๋นวดให้นะพี่จะได้หายเมื่อย"
"ไม่ไหวมั๊ง เดี๋ยวเป็นเหมือนวันนั้นอีก" เราลุกขึ้นนั่งคร่อมที่ท้องแกแล้วก้มหน้าลงไปกระซิบที่หู
"หรือพี่ไม่อยาก"...........
พี่โด่งหน้าแดง ขึ้นมาพยักหน้ารับคำ
"ก็อยากเหมือนกัน".................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

45. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:41 PM (SE Asia Standard Time)
 
   46
ไม่มีอะไรต้องให้ต้องเสียใจอีก เรายังคงนั่งคร่อมที่ตัวพี่โด่งจูบแกไล่ตั้งแต่หน้าผาก มาที่เปลือกตาทั้งสองข้าง สันจมูกและที่ปาก ค่อยๆสอดลิ้นเข้าทีละนิดทีละนิด พี่โด่งจ้องมองอย่างแปลกใจ จากปากมาที่คางซอกคอ ดูดต้นคออย่างที่แกเคยทำกับเรา พี่โด่งเกร็งมือบีบที่ไหล่เราแน่น ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนทีละเม็ดๆ แล้วกางเสื้อออก และเล็มที่ปลายหัวนมทีละข้าง พร้อมลูบมือไปตามร่างกายเบาๆ จากหน้าอกอราแตะปลายลิ้นตามความยาวของตัวแล้วไว่วนรอบสะดือโดยที่ไม่ได้สัมผัสส่วนนั้นของพี่แกเลย พี่โด่งเกร็งตัวตามลิ้นที่ลากยาว แกถอดเสื้อออก มือยังบีบที่ต้นแขนเราแน่นเรารู้สึกถึงอาการเกร็งเป็นจังหวะ พี่โด่งหายใจเบาๆ เราอ้าปากงับที่เป้ากางเกงนอน ส่วนนั้นมันเริ่มต่อต้านการสัมผัสแล้ว ขบเบาๆตามไปตามลำนอกกางเกง มือที่ว่างก็บีบไปตามต้นขาที่รกขนนั้นลูบขึ้นลูบลง พี่โด่งยกตัวขึ้นเพื่อรูดกางเกงออก เราจับมือแกไว้แล้วหยุดมองหน้า สายตาของพี่เขาเหมือนเว้าวอน เราค่อยๆรูดกางเกงลงช้าๆ พี่โด่งยกตัวขึ้นตามเพื่อให้มันถอดง่ายขึ้น มันค่อยๆโผล่ออกมาสู่สายตาเราเริ่มส่วนปลายแดงระเรื่อ ไปเรื่อยๆจนถึงโคนที่รกด้วยขนดำเป็นเงา เจ้าตัวร้ายค่อยๆบิดขี้เกียจงัวเงีย ก่อนจะกระดกตัวทักทายผู้มาเยือน กางเกงหลุดจากปลายเท้าแล้ว ลิ้นค่อยๆตวัดที่ปลายช้าๆตามร่อง แล้วอ้าบากขย้อนเข้าไปทีละนิด ทีละนิด ห่อปากให้แคบลงแล้วดูดเฉพาะที่ปลายแรงยังกับกระหายน้ำ ลำตัวมันยาวนักเก็บไม่หมด ถอนปากออกช้าๆ มือที่ว่างจับมันพาดขึ้นแล้วใช้ลิ้นลากตั้งแต่ปลายถึงโคน ก่อนจะแวะทักทายแฝดคู่ที่มาด้วยกันทีละข้าง ปลายลิ้นเตาะมันให้รั้งขึ้นมา พี่โด่งจับหัวเราแน่น สูดปากครวญครางเมื่อไข่ทั้งสองใบถูกรวบเข้าไปในช่องปากอุ่นๆพร้อมกัน แกยกตัวลอยขึ้น
"อา" เราค่อยๆคลายออกทีละเม็ด มันหดรั้งดันตัวอยู่ทีโคน จากนั้นเราก็นั่งมองมือถอกไปเรื่อยจนสุดรั้ง พี่โด่งบิดตัว แล้วเราก็หยุดมือที่เคลื่อนไหว นั่งบีบขาที่โคนทั้งสองข้าง กดระหว่างซอกไข่และหัวเหน่าแรงๆ เน้นๆ ลำตัวยาวของตัวร้ายกระดกตัวสู้
"เอ๋ พอก่อนพี่เสียวจนทนไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งดันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับผลักเรานอนลง
"แกล้งพี่ทำไม เสียวมากรู้มั๊ย"
"อยากให้พี่มีความสุขมากๆนะสิ"
"ใจจะขาดให้ได้เลย ระวังเถอะจะเอาคืน"
"ไม่กลัว" เราจ้องตาพี่โด่ง ท่อนล่างเราหลุดออกไปแล้ว พี่โด่งจับตัวเราพับไว้ครึ่งตัว เราเอามือบังส่วนนั้นไว้ สองขาอยู่ในระดันเดียวกันกับหน้า
"คราวนี้จะเอาคืนหล่ะ" พี่โด่งลุกขึ้นย่อเข่ากดปลายลงมาที่ทางเข้าหากแต่ไม่ดันเราหลับตาเพราะกลัวจะเจ็บ นอนท่านี้ทำให้มันเข้าได้สะดวกขึ้นพี่โด่งยังจ่อหัวที่ปากทางไม่ยอมเข้าไป
"เอ๋ ดูนี่" เราลืมตาพี่โด่งย่อเข่าค่อยๆปักหัวลงมาทีละนิดๆ มันความอุ่นค่อยๆแผ่ซ่านไปทั้งตัวเรา เรามองการชำแรกของพี่โด่งอย่างไม่วางตาทรมานเหลือเกิน ทั้งเจ็บทั้งเสียว
"พี่โด่ง เอาเข้ามาเร็ซๆ หน่อย ไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งยิ้มก่อนจะดึงออกเกือบสุด
"ได้เลยครับ" แล้วแกก็กดพรืดเข้ามาจนมิด แช่ไว้สักพักก่อนจะขย่มเราอย่างแรงและเร็ว พี่โด่งเหมือนคนบ้าคลั่งกระหน่ำเข้ามาในตัวเราครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งลึกและเร็วนับจังหวะไม่ทัน หน้าขากระทบกับก้บตัวเราเสียงดังพั่บพั่บ เราส่ายหน้าเสียวเหลอเกิน มือทั้งสองข้างกำหมอนไว้แน่น บางครั้งก็เผลอยกตัวตามขึ้นมาแต่แล้วก็โดนดันกับแรงเป็นสองเท่า
"พี่โด่ง" เสียงเราสั่น เราตีที่ขาแกหลายครั้งเหมือนกับยิ่งเสริมให้แกฮึกเหิมมากขึ้น นานแสนนานพี่โด่งยกขาเราพาดบ่าแล้วโล้ตัวเร่งเฉพาะช่วงแรกถี่ๆ ก่อนที่จะหอบหายใจกระเส่า
"โอย โอย เอ๋ " แกไม่เปิดช่วงจังหวะให้หายใจซักนิด "เสร็จแล้ว "ถอนออกไปเกือบสุดก่อนจะดันเข้ามาใหม่พร้อมฉีดน้ำเข้ามาที่ตัวเรา น้ำอุ่นๆแผ่ซ่านเข้ามาในตัวอย่างแรง พี่โด่งปล่อยขาเราลงแต่ยังคาท่อนเอาไว้อย่างนั้น แล้วซบลงที่ตัวเราจูบปากเราอย่างแรง หัวใจแกเต้นแรงมาก ตัวเราเป๊ยกไปด้วยเหงื่อของพี่โด่ง แกยังคงนอนทาบทับหอบหายใจถี่บนตัวเราก่อนที่เจ้าตัวร้ายจะค่อยๆหดตัว เราดึงมันออกช้าๆ เหนียวมือไปหมด .........
อย่าเพิ่งเบื่อพี่โด่งกันนะคะ นึกถึงแกทีไรเราก็เล่าให้ฟังได้ไม่รู้เบื่อจำได้ทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน พี่โด่งน่ารักคะเสมอต้นเสมอปลาย เราพยายามเรียบเรียงถ้อยคำเพื่อให้เพื่อนๆทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด เพื่อนหลายคนอาจจะลุ้นให้เราโชคดี ถ้าอยากรู้ว่าเรากับพี่โด่งจะลงเอยแบบไหน ก็ต้องรอลุ้นต่อไป
อยากถามเพื่อนๆว่า สรุปแล้วเราเนี่ยรักใครที่สุดในบรรดาชายหนุ่มที่ผ่านมา ?
แต่ยังก่อนนะคะยังมีอีกหลายคน รออยู่อย่างที่เคยบอกและตอนนี้กับคนปัจจุบัน ยากที่จะบรรยายและเป็นคนที่ทำให้เราเสียใจที่สุดด้วย จนทำให้เราต้องมาพล่ามเรื่องเก่าๆให้ทุกคนฟัง เพื่อที่จะบำบัดจิตใจหลังจากที่ปรึกษาเพื่อนซี้ทั้งหลายจนทุกคนเลิกฟังกันหมดแล้ว อยากรู้จักเขามั๊ยคะ
ช่วงนี้งานหนักและเลิกดึกมาก ทุกครั้งที่เข้ามาเล่าก็จะเห็นรีของทุกคน ขอบคุณมากๆคะทุกกำลังใจ ทำให้หายเหนื่อยจากงานเลย
ตอบรีของ 1 คะ pocket book คงจะเป็นเรื่องยากเพราะมันมีตอนโป๊ๆเยอะไม่ไหวมังคะ แต่ก็ไม่แน่เพราะcopy เป็น word ไว้แล้ว คงต้องตรวจคำผิดและเรียบเรียงทุกอย่างใหม่อีกรอบ ขยายความให้เป็นนิยาย เรื่องเล่านี่เหมือนเป็นไดอารี่เล่มนึงเท่านั้นคงต้องใช้เวลามาก
รักทุกคนคะ
เอ๋/CT


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

46. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:42 PM (SE Asia Standard Time)
 
   46
ไม่มีอะไรต้องให้ต้องเสียใจอีก เรายังคงนั่งคร่อมที่ตัวพี่โด่งจูบแกไล่ตั้งแต่หน้าผาก มาที่เปลือกตาทั้งสองข้าง สันจมูกและที่ปาก ค่อยๆสอดลิ้นเข้าทีละนิดทีละนิด พี่โด่งจ้องมองอย่างแปลกใจ จากปากมาที่คางซอกคอ ดูดต้นคออย่างที่แกเคยทำกับเรา พี่โด่งเกร็งมือบีบที่ไหล่เราแน่น ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนทีละเม็ดๆ แล้วกางเสื้อออก และเล็มที่ปลายหัวนมทีละข้าง พร้อมลูบมือไปตามร่างกายเบาๆ จากหน้าอกอราแตะปลายลิ้นตามความยาวของตัวแล้วไว่วนรอบสะดือโดยที่ไม่ได้สัมผัสส่วนนั้นของพี่แกเลย พี่โด่งเกร็งตัวตามลิ้นที่ลากยาว แกถอดเสื้อออก มือยังบีบที่ต้นแขนเราแน่นเรารู้สึกถึงอาการเกร็งเป็นจังหวะ พี่โด่งหายใจเบาๆ เราอ้าปากงับที่เป้ากางเกงนอน ส่วนนั้นมันเริ่มต่อต้านการสัมผัสแล้ว ขบเบาๆตามไปตามลำนอกกางเกง มือที่ว่างก็บีบไปตามต้นขาที่รกขนนั้นลูบขึ้นลูบลง พี่โด่งยกตัวขึ้นเพื่อรูดกางเกงออก เราจับมือแกไว้แล้วหยุดมองหน้า สายตาของพี่เขาเหมือนเว้าวอน เราค่อยๆรูดกางเกงลงช้าๆ พี่โด่งยกตัวขึ้นตามเพื่อให้มันถอดง่ายขึ้น มันค่อยๆโผล่ออกมาสู่สายตาเราเริ่มส่วนปลายแดงระเรื่อ ไปเรื่อยๆจนถึงโคนที่รกด้วยขนดำเป็นเงา เจ้าตัวร้ายค่อยๆบิดขี้เกียจงัวเงีย ก่อนจะกระดกตัวทักทายผู้มาเยือน กางเกงหลุดจากปลายเท้าแล้ว ลิ้นค่อยๆตวัดที่ปลายช้าๆตามร่อง แล้วอ้าบากขย้อนเข้าไปทีละนิด ทีละนิด ห่อปากให้แคบลงแล้วดูดเฉพาะที่ปลายแรงยังกับกระหายน้ำ ลำตัวมันยาวนักเก็บไม่หมด ถอนปากออกช้าๆ มือที่ว่างจับมันพาดขึ้นแล้วใช้ลิ้นลากตั้งแต่ปลายถึงโคน ก่อนจะแวะทักทายแฝดคู่ที่มาด้วยกันทีละข้าง ปลายลิ้นเตาะมันให้รั้งขึ้นมา พี่โด่งจับหัวเราแน่น สูดปากครวญครางเมื่อไข่ทั้งสองใบถูกรวบเข้าไปในช่องปากอุ่นๆพร้อมกัน แกยกตัวลอยขึ้น
"อา" เราค่อยๆคลายออกทีละเม็ด มันหดรั้งดันตัวอยู่ทีโคน จากนั้นเราก็นั่งมองมือถอกไปเรื่อยจนสุดรั้ง พี่โด่งบิดตัว แล้วเราก็หยุดมือที่เคลื่อนไหว นั่งบีบขาที่โคนทั้งสองข้าง กดระหว่างซอกไข่และหัวเหน่าแรงๆ เน้นๆ ลำตัวยาวของตัวร้ายกระดกตัวสู้
"เอ๋ พอก่อนพี่เสียวจนทนไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งดันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับผลักเรานอนลง
"แกล้งพี่ทำไม เสียวมากรู้มั๊ย"
"อยากให้พี่มีความสุขมากๆนะสิ"
"ใจจะขาดให้ได้เลย ระวังเถอะจะเอาคืน"
"ไม่กลัว" เราจ้องตาพี่โด่ง ท่อนล่างเราหลุดออกไปแล้ว พี่โด่งจับตัวเราพับไว้ครึ่งตัว เราเอามือบังส่วนนั้นไว้ สองขาอยู่ในระดันเดียวกันกับหน้า
"คราวนี้จะเอาคืนหล่ะ" พี่โด่งลุกขึ้นย่อเข่ากดปลายลงมาที่ทางเข้าหากแต่ไม่ดันเราหลับตาเพราะกลัวจะเจ็บ นอนท่านี้ทำให้มันเข้าได้สะดวกขึ้นพี่โด่งยังจ่อหัวที่ปากทางไม่ยอมเข้าไป
"เอ๋ ดูนี่" เราลืมตาพี่โด่งย่อเข่าค่อยๆปักหัวลงมาทีละนิดๆ มันความอุ่นค่อยๆแผ่ซ่านไปทั้งตัวเรา เรามองการชำแรกของพี่โด่งอย่างไม่วางตาทรมานเหลือเกิน ทั้งเจ็บทั้งเสียว
"พี่โด่ง เอาเข้ามาเร็ซๆ หน่อย ไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งยิ้มก่อนจะดึงออกเกือบสุด
"ได้เลยครับ" แล้วแกก็กดพรืดเข้ามาจนมิด แช่ไว้สักพักก่อนจะขย่มเราอย่างแรงและเร็ว พี่โด่งเหมือนคนบ้าคลั่งกระหน่ำเข้ามาในตัวเราครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งลึกและเร็วนับจังหวะไม่ทัน หน้าขากระทบกับก้บตัวเราเสียงดังพั่บพั่บ เราส่ายหน้าเสียวเหลอเกิน มือทั้งสองข้างกำหมอนไว้แน่น บางครั้งก็เผลอยกตัวตามขึ้นมาแต่แล้วก็โดนดันกับแรงเป็นสองเท่า
"พี่โด่ง" เสียงเราสั่น เราตีที่ขาแกหลายครั้งเหมือนกับยิ่งเสริมให้แกฮึกเหิมมากขึ้น นานแสนนานพี่โด่งยกขาเราพาดบ่าแล้วโล้ตัวเร่งเฉพาะช่วงแรกถี่ๆ ก่อนที่จะหอบหายใจกระเส่า
"โอย โอย เอ๋ " แกไม่เปิดช่วงจังหวะให้หายใจซักนิด "เสร็จแล้ว "ถอนออกไปเกือบสุดก่อนจะดันเข้ามาใหม่พร้อมฉีดน้ำเข้ามาที่ตัวเรา น้ำอุ่นๆแผ่ซ่านเข้ามาในตัวอย่างแรง พี่โด่งปล่อยขาเราลงแต่ยังคาท่อนเอาไว้อย่างนั้น แล้วซบลงที่ตัวเราจูบปากเราอย่างแรง หัวใจแกเต้นแรงมาก ตัวเราเป๊ยกไปด้วยเหงื่อของพี่โด่ง แกยังคงนอนทาบทับหอบหายใจถี่บนตัวเราก่อนที่เจ้าตัวร้ายจะค่อยๆหดตัว เราดึงมันออกช้าๆ เหนียวมือไปหมด .........
อย่าเพิ่งเบื่อพี่โด่งกันนะคะ นึกถึงแกทีไรเราก็เล่าให้ฟังได้ไม่รู้เบื่อจำได้ทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน พี่โด่งน่ารักคะเสมอต้นเสมอปลาย เราพยายามเรียบเรียงถ้อยคำเพื่อให้เพื่อนๆทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด เพื่อนหลายคนอาจจะลุ้นให้เราโชคดี ถ้าอยากรู้ว่าเรากับพี่โด่งจะลงเอยแบบไหน ก็ต้องรอลุ้นต่อไป
อยากถามเพื่อนๆว่า สรุปแล้วเราเนี่ยรักใครที่สุดในบรรดาชายหนุ่มที่ผ่านมา ?
แต่ยังก่อนนะคะยังมีอีกหลายคน รออยู่อย่างที่เคยบอกและตอนนี้กับคนปัจจุบัน ยากที่จะบรรยายและเป็นคนที่ทำให้เราเสียใจที่สุดด้วย จนทำให้เราต้องมาพล่ามเรื่องเก่าๆให้ทุกคนฟัง เพื่อที่จะบำบัดจิตใจหลังจากที่ปรึกษาเพื่อนซี้ทั้งหลายจนทุกคนเลิกฟังกันหมดแล้ว อยากรู้จักเขามั๊ยคะ
ช่วงนี้งานหนักและเลิกดึกมาก ทุกครั้งที่เข้ามาเล่าก็จะเห็นรีของทุกคน ขอบคุณมากๆคะทุกกำลังใจ ทำให้หายเหนื่อยจากงานเลย
ตอบรีของ 1 คะ pocket book คงจะเป็นเรื่องยากเพราะมันมีตอนโป๊ๆเยอะไม่ไหวมังคะ แต่ก็ไม่แน่เพราะcopy เป็น word ไว้แล้ว คงต้องตรวจคำผิดและเรียบเรียงทุกอย่างใหม่อีกรอบ ขยายความให้เป็นนิยาย เรื่องเล่านี่เหมือนเป็นไดอารี่เล่มนึงเท่านั้นคงต้องใช้เวลามาก
รักทุกคนคะ
เอ๋/CT


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

47. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:44 PM (SE Asia Standard Time)
 
   47
...ผละจากที่นอนลุกไปทำความสะอาดร่างกายแล้วกลับมานอนข้างๆพี่โด่ง แกคงจะเหนื่อยมากนอนหงายเปลือยอย่างไม่อายเราเลย ผ้าชุบน้ำผืนเล็กเช็ดทำความสะอาดท่อนลำให้พี่โด่ง แกกางขาออกกว้างเพื่อให้เราทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่ ตัวร้ายสงบลงไปแล้วหลังจากกรำศึกหนัก ไฟหัวเตียงดับลงทั้งห้องอยู่ในความมืด เราสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วคลุมตัวให้พี่โด่ง เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหันมากอดเรา พี่เขาเอียงหน้ามาชิดกับหน้าเราสองมือกอดที่เอวเราไว้
"เหนื่อยจริงๆ" พี่โด่งพึมพำเบาๆแล้วเอาจมูกชนแก้มเรา เราเอียงแก้มให้ได้รับการสัมผัสนั้นให้มากที่สุด ก่อนที่เราทั้งคู่จะหลับไปในอ้อมกอดกันและกัน.......
ฟ้าเริ่มจะสางแล้วแสงรำไรลอดเข้ามาในห้อง ตัวเราหนักอึ้งเพราะพี่โด่งก่ายขามาทับไว้ ท่อนเคที่เบียดอยู่กับหน้าท้องเรามันอุ่นๆพิกล เราค่อยๆขยับขาแกออก ผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่แค่อก เราลุกขึ้นนั่งมองอาวุธของพี่แกแล้วจับเบาๆ ก้มหน้าลงไปหามันจูบที่ปลายเบา กลิ่นคาวของเมื่อคืนยังอยู่จางๆ เราสูดดมมันเข้าไปอย่างไม่รู้สึกรังเกียจ ถึงแม้ใครอาจจะคิดว่าสกปรกแต่กลิ่นของคนที่เรารักมันยังหอมหวนเสมอสำหรับเรา จูบเบาๆหลายครั้งทั้งพวงก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้า เราเสร็จธุระแต่พี่แกยังหลับอยู่ เลยนั่งดูหน้าแกตอนหลับใกล้ๆ ลูบผมและหน้าผาก แล้วจูบแรงๆที่หน้าผากแก และที่ปากเบาๆ ก่อนจะย้ายมาที่แก้ม พี่โด่งยังคงหลับตาเหมือนไม่รู้สึก
"เอ๋ รักพี่โด่งนะฮะ" เราลูบผมแกเบาๆ อยู่ๆแกก็ลืมตาเรารู้สึกเขินที่แกแกล้งหลับ
"ใจง่ายจัง พาเที่ยวไม่กี่วันรักซะแล้ว"
"แล้วพี่หล่ะ ไม่เห็นเคยตอบซักที"
"รัก" เราจูบเบาที่คางพี่โด่งอีกที "จะรีบหนีพี่ไปไหนครับ ทำไมตื่นซะเช้าเลย"
"ว่าจะลักหลับ"
"ไม่มีทาง รู้สึกตัวตลอดทั้งคืนเลย ใครไม่รู้กวนทั้งคืน มือไม่ยอมห่างเลย" เรามองตากันแล้วพี่โด่งก็บุ้ยใบ้ไปที่ท่อนล่างให้เรามอง "เอ๋ น้องชายพี่ตื่นแล้ว" น้องพี่โด่งผงกหัวทักทายเราอย่างคุ้นเคยหลายครั้ง
"ทะลึ่งแต่เช้าเลยนะ"
"จะกลับแล้วนา" แกพูดยานคาง
"พี่ไม่เหนื่อยเหรอ"
"เช้าๆเนี่ยดี จะได้โล่ง เมื่อคืนนอนเต็มอิ่ม แรงเหลือเฟือครับ" แกเขย่าแขนเป็นเชิงเร่ง แล้วเอาสองมือกำน้องใข้ไว้แน่นปลายโผล่ออกมาแดงสวย "หรือจะไม่เอา"
"ก็ได้" เราตอบเสียงอ่อย
"งั้นอย่าลีลา เดียวน้องมันงอนไม่เล่นด้วยจะอดนะ"
เรานอนคว่ำลง พี่โด่งสอดเข้ามาช้าๆ
"เอ๋หลวมหมดแล้วนะครับ" แกกระซิบที่หูเมื่อเข้าไปทั้งลำ
"ก็พี่โด่งนะแหละ นับดูสิว่ากี่ครั้งแล้ว เกือบทุกวันเลย"
แกตบหัวเราเบาๆ "ว่าแต่พี่ใครวะที่ งอแงตลอด เจอกันคราวหน้าต้องฟิตกว่านี้นะ" พี่โด่งดันเนิบๆพร้อมซบหน้าที่คอเรา
"เอ๋อยากให้พี่ค้างไว้อย่างนี้นานๆ" พี่โด่งหยุดกระเด้าแล้วแช่ไว้
"ตัดเอาไว้เหน็บเลยมั๊ย"
"บ้า ถ้าไม่มีเจ้าของมันจะทำงานได้ไง" พี่โด่งเริ่มโยกต่อ
"ดีมั๊ย" แกยังคงชวนคุย
"แล้วพี่หล่ะ"
"มันเสียวตุบๆอีกแบบนึง เฉพาะที่ตรงหัว"
"พี่โด่งชอบแบบนี้เหรอ" พี่โด่งหยุดซอย"เอ๋ไม่เคยรู้ใจพี่โด่งเลยว่าพี่โด่งคิดอะไรกับเอ๋" พี่โด่งกดสะโพกแนบตัวเรายิ่งขึ้น
"เอาขนาดนี้ยังจะต้องบอกอีกเหรอครับ ผู้ชายเขาไม่พูดบ่อยๆหรอกมันเลี่ยน"
"แต่ก็อยากได้ยินบ้างนี่" พี่โด่งดูดที่คอเราแรงๆ
"ถ้าไม่รัก ก็คงไม่ลางานต่อหรอกนะครับ ถึงพี่จะชอบผุ้หญิง แต่พี่ก็มีประสบการณ์แบบนี้ตั้งแต่เรียนแล้ว เพิ่งจะมีคราวนี้แหละที่ได้อยู่ด้วยกันนานๆ"
"แล้วพี่คิดว่าเป็นไง"
"เอ๋ไม่เหมือนคนอื่น พี่เห็นเราครั้งแรกมันก็สะดุดตา และเราก็เล่นพิเรนในรถอีก ตั้งแต่ตอนนั้นรู้มั๊ยพี่คิดอะไร"
แกทิ้งระยะจนเราต้องถาม
"คิดอะไรหล่ะ"
"ก็กะว่าจะหลอกให้ดูด ให้เท่านั้น ไม่คิดว่าจะเจอของจริง พี่โตคงสอนมาดีหล่ะสิ"
"บ้า อาจารย์ไม่เคยสอน ไม่ได้พูดอะไรเลย"
"ไม่เชื่อ" สะโพกยังกดเนิบๆอยู่อย่างนั้น
"มีแต่พี่แหละเล่นยาก จีบยาก ท่าเยอะ ทำเอากลัวไปหมด"
"ของดี ต้องยากหย่อย"
"คนหล่อเรื่องมากนะสิ แล้วนี่พี่โด่งเล่นอะไร" เรารู้สึกว่าน้องแกเริ่มหดตัวแล้ว "พี่โด่งอย่าเพิ่งเอาออกนะแช่ไว้นานๆ"
แกทับมาบนตัวเราแล้วซุกหน้าที่คอ พี่โด่งไม่ทำให้เสร็จมันคงแข็งเพราะธรรมชาติของมันมั๊ง
สายน้ำจากฝักบัวราดรดไปทั้งตัว สบู่ค่อยๆฟอกไปตามตัวทุกซอกทุกมุม พี่โด่งยืนหลับตาให้เราทำความสะอาดเราเน้นเป็นพิเศษที่น้องชาย มันหดตัวเพราะหนาว พี่โด่งแกล้งจนได้เบียดมันเข้ามาหาปากเราพอเราจะงับก็หลบแล้วหัวเราะเสียงดัง เรารีบอาบน้ำจนเสร็จ แล้วแต่งตัวเก็บเสื้อผ้า เก้าโมงกว่าแล้ว
"เราจะขับไปเรื่อยๆนะเอ๋ ไม่ต้องเร่งบ้านเอ๋แค่นี้เอง"
"ฮะ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ"
พี่โด่งหันหน้ามามองแล้วยิ้มให้เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกันกับที่เจอกันวันแรกรอยยิ้มนี้แหล่ะ ที่ทำให้เราลืมทุกอย่างตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
"ไม่เศร้าแล้วนะ" เราส่ายหน้า
"จะเศร้าทำไม สุขมากกว่า ที่ได้รู้จักกับพี่" มือแกละจากพวงมาลัยมาขยี้ผม
"พี่ก็ดีใจนะ ที่ได้เจอเอ๋ " เราขยับไปใกล้ๆแก
รักเพื่อพบแล้วพลัดพราก ไม่เคยคิดจากรักจริงจับใจ รักชั่วนิรันดร์รักกันเรื่อยไป ดื่มด่ำฤทัยไม่คลายรักกัน.....
เพลงเก่าที่พี่โด่งชอบฟัง ดังขึ้นเบาๆ ..
เอารักฝากโลกลอยลมไว้สิ้นใจ รักยังไม่ตายไม่ตรม รักปักตรึงถึงภพหน้า ความรักเหนือกว่าคำกวีเอ่ยชม
ถึงโลกมลายสูญตามสายลมไม่เคยระทมชื่นชมเพียงรักเดียว
ใครที่เคยเดินทางกับคนรักในสภาวะที่ยังรู้สึกดีๆต่อกันอยู่คงรู้ถึงความละเมียดละไมนั้นดี ลองนึกดูนะคะสองข้างทางต้นไม้ครึ้ม มีเพียงเราและพี่โด่งในรถทะยานไปบนถนนที่เงียบเส้นนั้น พี่โด่งใช้ทางที่ตัดใหม่ที่คนขับรถยังไม่คุ้น หน้าฝนใบไม้เขียวขจี ความโศกเศร้ามันหายไปหมดแล้วเหลือแต่ความปิติจนน้ำตาซึม มันอิ่มเอิบอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายคนนี้ผ่านเข้ามาในชีวิตได้อย่างไร เรานั่งลำดับภาพในใจพลางมองหน้าพี่โด่งไปแล้วยิ้ม
"ถ้าจะบ้าอยู่ๆก็ยิ้มคนเดียว" พี่โด่งหันมาบอก แล้วขยี้ผมเราอีกครั้งก่อนจะหันหน้าไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

48. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:45 PM (SE Asia Standard Time)
 
   48
ตอนที่ 48....
แวะซื้อของที่ระลึกข้างทางระหว่างเดินทางพร้อมกินข้าวกลางวัน ถึงบ้านเมื่อก็เกือบห้าโมงเย็นเพราะพี่โด่งขับรถไม่เร็วมาก วันนี้ฟ้ามืดทั้งวันแต่ฝนยังไม่ตก ยิ่งเข้าสู่ตัวอำเภอแล้วฟ้ายิ่งมืดสนิท
"พี่โด่งค้างที่บ้านเอ๋สักคืนนะพรุ่งนี้ค่อยกลับ"
"เอาสิ พี่อยากจะพักซักหน่อย พ่อแม่ไม่มีปัญหานะ"
"ไม่มีหรอก" เราแวะไปหาแม่ที่ตลาดพี่โด่งเดินตามมาด้วย น้องๆกลับจากโรงเรียนแล้วช่วยกันรื้อของฝาก แนะนำพี่โด่งกับเตี่ยและแม่
"ขอบคุณมากนะคะ รบกวนแย่เลย" แม่ขอบคุณพี่โด่ง "ใช่ๆ อาเอ๋นี่มันดื้อ" เตี่ยนั่งกินขนมที่ซื้อมาฝาก
"แล้วนี่จะกลับเลยรึเปล่าค่ะ ค้างก่อนแล้วกัน คงต้องเลี้ยงขอบคุณกันหน่อย เอ๋โทรไปชวนอาจารย์ด้วยนะ"
"เกรงใจครับ"
"ไม่ได้ ไม่ได้ เดี๋ยวไปทานข้าวกัน ไปทานที่ร้านอาหารของน้าเอ๋มันกันนะคะ" แม่รู้สึกเกรงอกเกรงใจมาก พี่โด่งพยักหน้า เราโทรบอกอาจารย์ที่โรงเรียน แล้วให้แม่ชวนอีกคนอาจารย์รับปากว่าจะมา พี่เพลินเดินมาหาที่ร้านเข้ามาทักทาย เตี่ยก็ชวนพี่เพลินอีกคน พี่เพลินมองหน้าเรายังไม่ได้คุยกันมีเพียงสายตาที่รู้กันว่าเข้าใจในสิงที่เป็นอยู่ พี่เพลินบอกว่าจะตามไปแล้วแกก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้าน
"เอ๋พาพี่เขาไปบ้าน อาบน้ำอาบท่าไป " เราหยิบกุญแจแล้วขึ้นรถ พี่โด่งจอดรถไว้หน้าบ้านก่อนจะเดินตามมาที่ประตู วันนี้บ้านอาไม่เปิดไปไหนกันหมดนะ นึกแปลกใจ พี่โด่งเหลียวมองไปรอบๆบ้าน
"อยู่กันกี่คนครับ"
"เจ็ดคน" พี่โด่งเดินตามขึ้นข้างบน "เอ๋นอนคนเดียว เตี่ยเพิ่งจะกั้นห้องใหญ่เป็นสองห้องให้น้องเดือนที่แล้ว โตกันหมดแล้ว ตอนนี้น้องอีกคนไปเรียนหนังสือในจังหวัด บ้านก็เหลือ หก"
พี่โด่งวางกระเป๋าลงที่พื้นห้อง เราล็อกประตูห้องไว้แล้วกอดเอวแกจากข้างหลัง พี่โด่งหันหน้ามากอดตอบเราซบหน้าที่อกแกกดคางไว้ผมเรา
"พี่โด่งเหนื่อยมั๊ย"
"เหนื่อยครับ นวดให้พี่หน่อยสิ จะได้ไปอาบน้ำ" เรามองที่นาฬิกาหกโมงเย็นแล้ว แม่บอกให้ไปที่ร้านของน้าตอนทุ่ม ส่วนแม่กับเตี่ยจะพาน้องๆไปรอที่ร้านเลย
"พี่โด่งถอดเสื้อผ้าสิ"
"นวดทั้งอย่างนี้แหละ"
"ไม่เอาไม่ถนัด" พี่โด่งตามใจนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนอนหงายให้เรานวดที่ขาเราแกะปมผ้าขนหนูออก
"เอ๋ ไม่ซนนะครับ" พี่โด่งท้วงขึ้นเมื่อเราเลิกนวดแล้วมาเล่นกับน้องชายแกแทน มือเรายังสาวต่อไปไม่หยุด
"เดี๋ยวคืนนี้ อดนะ ถ้าทำตอนนี้คืนนี้งดนะ" เรางอนแล้วลุกขึ้นยืนไม่พูดอะไร พรุ่งนี้ก็กลับแล้วยังจะ เฮ้อ เลิกคิดแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่โด่งลุกขึ้นขยับผ้าขนหนู
"ไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวสาย แม่จะรอ" พี่โด่งดันตัวเราออกจากห้องลงบันได พี่โด่งกำลังจะปิดประตูห้องน้ำแต่แล้วก็ชะงัก
"งอนอีกแล้ว"
"เปล่า " เราตอบแล้วก็นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว พี่โด่งเดินออกมาจากห้องน้ำ มาสะกิดที่แขน "อาบพร้อมกันเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ" เรายิ้มออกแล้วเดินตามเข้าห้องน้ำ เคยาวยังสงบนิ่งอยู่ เราจูบพี่โด่งอยู่นาน ฝอยของน้ำทำเอาหนาวเหมือนกัน
จนอาบน้ำเสร็จขึ้นไปแต่งตัวจนเสร็จ ก่อนจะออกรถพี่โด่งก็บอกว่า
"วันนี้พี่กินเหล้าได้มั๊ย"
"ก็กินสิพี่" เรางงกับคำถาม"ทำไมต้องขอ"
"วันนี้ขอเมา"
"เมาแล้วเดี๋ยวก็หลับไม่รู้เรื่อง"
"เดี๋ยวก็รู้" แกเอามือเราไปวางที่เป้ากางเกง แล้วแขม่วท้องให้เราสอดมือเข้าไปข้างใน
"พี่โด่งทำไมไม่ใส่กางเกงในอีกแล้ว" มันค่อยๆพองตัวช้าๆ
"ขอคึกเต็มที่นะเอ๋ คืนนี้เจอดีแน่" แกยิ้มแล้วเอามือเราออกจากกางเกง
"ให้มันจริงเถอะ เดี๋ยวเมาแล้วก็หลับ"
ทุกคนรอที่ร้านแล้ว มีเหล้ารออยู่น้องๆนั่งแยกอีกโต๊ะนึง พี่โด่งนั่งติดกับอาจารย์
"ไง เอ๋ สนุกมั๊ย" เราพยักหน้า "ดีๆ เดี๋ยววันหลังครูพาไปเที่ยวอีก เดือนหน้าก่อนปิดเทอมนี่กำลังเก็บเงินกันอยู่คราวนี้จะไปเที่ยวเพชรบูรณ์กัน"
"คงไปไม่ได้แล้วแหล่ะ จารย์ แม่ไม่มีคนช่วย" เราชายตามองที่พี่โด่ง แกหัวเราะ
"นั่นสิ พักร้อนผมก็หมดแล้ว"
"เพลินไปแทนได้มั๊ยจ๊ะ" พี่เพลินเบียดตัวเข้าใกล้อาจารย์ เตี่ยกับแม่หัวเราะ เราคิดว่าท่านคงเข้าใจเราแล้วว่าเราเป็นอะไร เพราะแม่มีน้องสาวเป็นทอม น้าเราเป็นทอมก็มีแฟนผู้หญิงเยอะแยะไปหมด เตี่ยเลิกสนใจเราในเรื่องส่วนตัวแล้วนอกจาก สอนให้เราทำมาหากินเท่านั้น พี่เพลินยกแข่งกับผู้ชายจนหน้าแดง เราไม่กล้ากินต่อหน้าเตี่ยกับแม่ เราสนุกสนานกันมากจนกือบสี่ทุ่ม น้องๆเริ่มงอแง เตี่ยกับแม่เคลียร์บิลล์ แล้วพาน้องๆกลับ พวกเรานั่งต่อสักพักเหล้าก็หมด อาจารย์ชวนกลับ พี่เพลินไม่ได้เอารถมาอาจารย์เลยอาสาไปส่ง
"แล้วโด่งจะไปค้างกับพี่มั๊ย" อาจารย์ถามที่หน้าร้าน
พี่โด่งบอกเบาๆ ว่า "ไม่เป็นไรพี่ วันนี้จะนอนบ้านแฟน" หน้าแดงๆ ตาเยิ้มหันมามองที่เรา เมาแล้วคงคนองปากพูดเล่นอีกแล้ว อาจารย์มองหน้าเราแล้วบอกว่า
"ดูแลพี่เขาดีๆนะ อย่าหักโหมมาก เดี๋ยวไม่มีแรงขับรถ"แล้วแกก็หัวเราะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ พี่โด่งขึ้นไปรอในรถแล้ว พี่เพลินยืนมองหน้าเรา
"เต็มที่นะเอ๋ อย่าให้วันนี้ผ่านไปอย่างไม่มีความหมาย พี่ไปแล้วนะ"
"หวังว่าพี่คงโชคดีเหมือนกัน"พี่เพลินซ้อนท้ายอาจารย์กอดเอวซะแน่นเลย พรุ่งนี้คงมีข่าวดี
"พี่โด่งเมารึเปล่า"
"ไม่เมา ไงเจอหน้าแฟนเก่า" พี่โด่งหมายถึงอาจารย์ น้ำเสียงฟังแล้วแปร่งหู
"พี่หึงเหรอ" เรานึกสนุกก็ต่อปากต่อคำ
พี่โด่งเลี้ยวรถไปอีกทาง "พี่หลงทางแล้ว ไปบ้านต้องเลี้ยวขวา นี่มันไปฝายน้ำล้นนะคนละทางแล้ว" พี่โด่งไม่ตอบจอดรถที่ทางเข้าฝายแต่ไม่ดับเครื่อง
"เอ๋รักพี่จริงรึเปล่า" พี่โด่งเมาจริงๆ แกเดินลงจากรถบิดขี้เกียจ เราเดินตามลมเย็นๆเหมือนฝนจะตก
"พี่กลับบ้านเถอะเดี๋ยวฝนตก"
"ยังไม่ตอบพี่เลย" แกหันหน้ามาแล้วเดินเข้ามาหา ดันตัวเราไว้ที่ประตูรถ บีบที่หน้าคางเราจนเจ็บ "ตอบสิ ว่ารักพี่รึเปล่า" เราพยักหน้าแกะมือแกออก
"พี่โด่ง เมาเหรอ หรือว่าแกล้ง" แกยืนหัวเราะใส่หน้า เรากอดเอวแกแล้วมองหน้า ตาพี่โด่งเยิ้มเพราะเมา
"รักสิ" เราเอามือบีบเบาๆ ที่เคซึ่งตอนนี้มันพองตัวเต็มที่แล้ว "กลับบ้านกันเถอะพี่ เดี๋ยวจะทำให้รู้ว่ารักแค่ไหน"
พี่โด่งประจำที่คนขับแล้วออกรถแรง เราต้องคอยตีมือเบา เกียร์พี่โด่งอยู่ในอุ้งมือเราแล้วมันร้อนผ่าว รถจอดเสร็จน้องมาเปิดประตูให้ แล้วขึ้นนอน ทุกคนนอนกันหมดแล้ว พี่โด่งเข้าห้องน้ำยืนฉี่เสียงดัง เรารีบเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน
พี่โด่งเสร็จธุระก็เดินขึ้นข้างบนโดยไม่รอ เราเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำติดมือไปด้วย แกนอนหลับที่เตียงเหมือนเราส่ายหน้าทำเป็นเก่ง เปลี่ยนชุดนอน ปิดไฟแล้วเปิดแอร์ ถึงอดก็ไม่เป็นไรหรอก พี่เขาอุตส่าห์มาส่ง เรานอนลงข้างๆ
"อ้าวแล้วนอนทำไม" พี่โด่งพูดขึ้นมาในความมืด
"ก็พี่ นอนแล้วนี่"
"ใครบอกว่าจะทำอะไร" พี่โด่งยังนอนอยู่ท่าเดิม
"พี่ก็ถอดเสื้อผ้าสิ"
"อยากได้ก็ถอดเอง"
"งั้นไม่อยากได้" พี่โด่งพลิกตัวมากอด "อย่างอแงเร็วค-ยแข็งแล้ว" พี่โด่งพูดตรงกับเราแล้วแกก็จัดการถอดเสื้อผ้าออกหมด เราเปิดไฟที่หัวเตียงมองหาผ้าเช็ดหน้าที่ติดมือมา เอาผ้าเช็ดที่ลำ
"เช็ดทำไม" แกจับมือแล้วดึงผ้าออก "รังเกียจพี่เหรอ"
"พี่โด่งก็จะทำความสะอาดให้ไง"
"เอ เอ๋ทำไมแปลกๆ ที่อยู่กับพี่ไม่เห็นต้องทำแบบนี้นี่" พี่โด่งลุกขึ้นนั่งโยนผ้าทิ้ง แกลุกขึ้นยืนเคโด่อยู่กลางห้องเราค่อยๆนั่งลงแล้วดูดที่ปลายแรงๆ วันนี้แปลกดูดได้ไม่นานพี่โด่งก็ทะลักใส่ปากเรา ไหลลงคอไปหมดแล้ว
"อ้าวไหงงั้นหล่ะพี่" พี่โด่งล้มตัวลงนอนคว่ำซุกหน้ากับหมอน แล้วหันหน้ามาหาเรา "โทษที มันอยากตั้งแต่กลางวันแล้ว กะว่าจะเก็บแรงไว้คืนนี้เลยไม่เอาตอนเย็น"
"พี่โด่งโกรธเอ๋ เรื่องอะไร"
"ไม่ได้โกรธ แต่ไม่อยากห่างเรานะสิ ไม่ไว้ใจพี่โต"
"แล้วเอ๋ ไว้ใจพี่ได้เหรอ"
"ได้สิ" แกนอนหงายรูดเคให้มันแข็ง จนแล้วจนรอดก็ไม่มีปฏิกิริยา "สงสัยกระสุนหมดมั๊ง"
"พี่โด่งหายอารมณ์เสียรึยัง" เราคร่อมตัวแกไว้ "เอ๋รักพี่นะ และหวังว่าพี่โด่งคงไม่ลืมเอ๋" เราประกบปากกันนานก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดกันจนหลับ...........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

49. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:46 PM (SE Asia Standard Time)
 
   49
เสียงฝนกระทบกันสาดด้านนอกทำให้เราตื่น งัวเงียดูนาฬิกาตีสองกว่าแล้ว พี่โด่งนอนหลับอุตุอยู่ใกล้ๆ เราเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาจนได้ เอื้อมมือไปจับเคพี่เขาในผ้าห่ม มันยังคงสงบนิ่งอยู่ ขนหนาเต็มหัวเหน่าเราลูบไล้เบามือก่อนจะกุมทั้งพวงไว้ พี่โด่งกางขาออกเหมือนจะให้เราจับได้ง่ายขึ้น ค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งในห้องเย็นมาก ปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างแง้มเอาไว้ ละอองฝนจางสาดเข้ามา พี่โด่งขยับตัวเล็กน้อย เราค่อยๆเปิดผ้าห่มออกคลำหาจุดหมายท่ามกลางความมืด ก่อนจะซุกหน้าลงไปโลมไล้ ท่อนล่างของแก เลียลุกแฝดติดพ่อเบาๆทั้งสองข้าง จากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นตวัดขึ้นจากโคนจนถึงปลาย กลิ่นคาวยังอยูที่ปลายมันกระตุ้นอารมณ์ของเรามากขึ้นอีก มันเริ่มมีปฏิกิริยาแล้ว แต่พี่โด่งยังคงนอนเฉย เราดูดเน้นขบเบาๆ จนมันลุกโชนและเล็มไปเรื่อยๆตามเนินหัวเหน่า ก่อนจะขยับตัวไล่มาตามหน้าท้องและหัวนม กัดเบาที่ต้นคอพี่โด่ง แกครางฮือๆ แล้ว พยายามจะพลิกตัว เราขืนตัวแกไว้ พี่โด่งคงเหนื่อยถึงหลับสนิทอย่างนี้ สุดท้ายเมื่อไม่มีคนขับจรวดก็ไม่ทำงานเราซุกตัวลงนอนอีกครั้ง หากแต่หลับตาไม่ลงความอยากมันครอบงำจิตใจ สูดลมหายใจลึกแล้วข่มตาพร้อมกับสะกดใจตัวเองให้หยุดคิดแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่หาย ลุกขึ้นนั่งที่เตียง แล้วล้มตัวลงนอนอีก พี่โด่งพลิกตัวมานอนกอดมือแกลูบที่ก้นเราเหมือนเคย เราค่อยๆรูดกางเกงนอนลงจนหลุดไปจากตัวขยับก้นเข้าหาเคพี่โด่ง มันแข็งตัวอีกแล้วเราเบียดไปจนติด จับมันถูกับร่องตัวเองช้า อุ่นดีเหลือเกินพี่ โด่งแนบมันเข้ามาจนชิด
"ทำอะไร เอ๋" เราหยุดมือ "มีอารมณ์เหรอ" พี่โด่งถามเบาๆ
เราไม่ตอบหากแต่ปล่อยมือออก แล้วนอนคว่ำหน้ากับหมอนแทน บอกไม่ถูกว่าจะตอบยังไง ทำไมอารมณ์มันพลุ่งพล่านอย่างนี้ พี่โด่งก่ายตัวมาทับแล้วขยุกขยิกที่ก้นดันพลาดหลายครั้งเพราะมันมืด แกลุกขึ้นกางขาเราออกแล้วตั้งหลักใหม่ เจ็บจี๊ดเลยเคพี่โด่งแข็งมาก พี่โด่งนอนทับด้านหลังเราก่อนจะซอยเนิบๆ แกยังคงหลับตาอยู่ท่อนล่างทำงานเหมือนถูกไขลาน เรารู้สึกไม่ได้อารมณ์ ทั้งหนักที่โดนทัยทั้งตัว พยายามดันตัวลุกแต่พี่โด่งยังกดตัวเราไว้ท่ข้างล่าง
"ทำให้แล้วไง เป็นอะไรอีกหล่ะ"
"ไม่สนุก" พี่โด่งตีหัวเราเบาๆ
"พี่ไม่มีอารมณ์เลย นอนก่อนนะเดี๋ยวเช้าจะทำให้" แกดึงออกทั้งๆที่ยังแข็งแล้วจับเราพลิกตัวไปกอดไว้วางแขนใหเราหนุน พร้อมลูบหัวเบาๆ "นอนกันเถอะนะ ฝนตกกำลังสบายเลย" เราเหมือนสะอื้นอยู่ในอกคนเดียวแล้วก็หลับไปพร้อมกับพี่โด่ง
ตื่นมาแต่เช้าทุกคนออกไปตลาดหมดแล้วทั้งบ้านมีเพียงเรากับพี่โด่ง น้องๆจะไปกินข้าวที่ตลาดก่อนไปโรงเรียน บ้านที่ไม่มีพี่เลี้ยงทุกคนต้องช่วยตัวเอง เราเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ รู้สึกเสียดายจริงๆ พี่โด่งยังหลับสนิทเมื่อตอนที่เราตื่น
เสียบปลั๊กหม้อต้มน้ำ อยากกินกาแฟขึ้นมาร่างกายดหมือนไม่สดชื่นคงเพราะนอนน้อย เปิดประตูหลังบ้าน ทางเดินไปบ้านเล็กเจิ่งนองฝนเมื่อคืน เรานั่งที่เก้าอี้หินอ่อนหลังบ้าน เช้านี้ยังไม่มีแดด ครึ้มไปด้วยเมฆฝนนั่งคนเดียวจนกาแฟหมด หมดเวลาแล้วสินะเราตอบคำถามตัวเอง แล้วกลับขึ้นข้างบน พี่โด่งกำลังบิดขี้เกียจบนที่นอน
"เอ๋ มานอนใกล้ๆนี่ จะกลับแล้วนะครับ"
"เราลงนอนใกล้ๆ"
"ไง ไปไหนมา"พี่โด่งเอาขาเกี่ยวตัวเราไว้ "ขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้ทำงาน เหนื่อยจริงๆ"
"เอ๋ก็ไม่กล้าปลุกพี่ ขอโทษเหมือนกันที่ทำให้ตื่น พี่โด่งหลับสบายมั๊ย"
"เต็มอิ่มเลย นี่ไปไหนกันหมด บ้านเงียบจัง"
"ไปตลาดกันหมดแล้ว"
"ว่ายังไงครับ"พี่โด่งลุกขึ้นมานั่งที่หัวเตียงเปิดผ้าออก"พร้อมแล้วครับผม" เราลุกขึ้นนั่งคร่อมตัวแกค่อยกดตัวลงครอบท่อนลำช้าๆ สองแขนโอบคอพี่โด่ง ท่านี้ทำให้เรามองเห็นหน้ากันตลอดเวลา ทั้งจุกทั้งเสียว พี่โด่งจูบปากเราเบาๆ นานพอดูจนเกร็งที่ต้นขา
"พี่โด่งจะเสร็จยัง"แกยังคงเด้งสวนอยู่ไม่หยุด
"เปลี่ยนท่านะ" เราลุกขึ้นท่อนยาวหลุดออกไปแล้วพี่โด่งจับเราโก้งโค้งที่โต๊ะทำการบ้านแล้วทิ่มพรวดจนมิดลำ ดันเข้าดันออกจนโต๊ะสะเทือน แรงขึ้นแรงขึ้นมือแกก็ตีสะโพกเราไปด้วยจนแสบไปหมด พี่โด่งเอาสองมือจับสะโพกเราแล้วดึงเข้าหาตัวแกอย่างแรงก่อนจะฉีดเข้ามาในตัวเราแกดึงออกแล้วนอนแผ่หราบนเตียง เรานอนลงไปข้างๆมือยังจับเคแกไว้ไม่ปล่อย เรามองหน้ากันแล้วก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข.......
พี่โด่งแวะไปตลาดกับเราลาเตี่ยกับแม่เรียบร้อย เตี่ยฝากฝังเรากับพี่โด่ง "ถ้าเอ๋ไปเรียนกรุงเทพฯฝากดูด้วยนะครับ" เรากินข้าวเช้าด้วยกันพี่โด่งรู้สึกเป็นกันเองกับบ้านเรามากขึ้น...เราติดรถมากับพี่โด่งจนถึงทางแยกเข้าถนนหลักที่ไปกรุงเทพฯ ลงตรงนี้ก็นั่งสามล้อไปตลาดได้สบาย พี่โด่งจอดรถเลียบข้างทางใต้ต้นไม้ แล้วหันหน้ามามอง เราเอนหัวพิงที่ไหล่พี่โด่งจูบที่หน้าผากเบาๆ
"ไม่เสียใจนะ" พี่โด่งถาม เราส่ายหน้า"ดีมาก น้องพี่ "ไว้ไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่โทรหาพี่แล้วกัน พี่จะมารับ"
"พี่โด่งจะเป็นคนแรกที่เอ๋ไปหาเลยแหล่ะ"
เรากอดแกอีกครั้งพี่โด่งลูบหลังเราเบา "อย่าคิดมากนะ คิดถึงพี่ก็โทรไปคุยนะ กลางคืนพี่อยู่ห้อง"เราเดินลงจากรถ ชะโงกหน้าที่ประตูบอกแกอีกครั้ง "พี่โด่งถึงกรุงเทพฯแล้วโทรบอกด้วยนะ"เราแลกเบอร์กันตั้งแต่ตอนอยู่กรุงเทพฯแล้ว
"รักพี่โด่งมาก ขอบคุณนะพี่สำหรับทุกอย่าง แล้วเจอกันนะพี่โด่ง" เรายกมือไหว้แก พี่โด่งรับไหว้
"แล้วเจอกันเอ๋" พี่โด่งยิ้มให้พร้อมทำโบกมือก่อนจะออกรถ รถค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ถนนใหญ่จากนั้นก็ไกลออกไปเรื่อยๆ เรายืนอยู่ตรงนั้นจนมองไม่เห็นรถพี่โด่ง จิตใจเราล่องลอยไปกับพี่โด่งแล้ว จนรถสามล้อเครื่องมาถึงตลาด พี่เพลินเดินมาเรียกไปหาที่ร้านแก
"ซึมเลยเหรอ เอ๋" พี่เพลินนั่งจ้องหน้า "ไม่เป็นไรนะ คิดถึงเขาก็โทรไปหา อีกหน่อยเอ๋ก็จะไปเรียนกรุงเทพฯแล้วนี่ คงมีโอกาสเจอกันอีก"
"เอ๋ก็ว่าอย่างนั้นแหละ" เรายิ้มออกได้แล้ว "แล้วพี่เพลินหล่ะ เมื่อคืนเป็นไง" พี่เพลินอาย
"เห็ดโคนดีๆนี่เอง" เรามองหน้าแก"พี่ทำอะไรเหรอ"
"ดูดไอติม แค่นั้นก็พอแล้ว ลาภปาก ขอบใจนะเอ๋ ที่แบ่งมาให้กิน
"บ้าพี่เพลินนี่" เราสองคนสนิทกัน "พี่เพลินหันไปรอบๆแล้วถามเบาๆว่า
"เอ๋ โดนรึยัง" เรารู้สึกอาย
"ก็โดนทั้งคู่นั่นแหละ" พี่เพลินตบโต๊ะเสียงดัง แล้วมองหน้าเรา "เก่งมาก ไม่เสียแรงที่สอน จำไว้โอกาสไม่ได้มาง่ายๆ กระเทยมันมีกรรมไม่มีทางสมหวังหรอก เราควรจะเก็บเกี่ยวความสุขเท่าที่ยังมีแรงหาได้นะ เออแล้วใส่ถุงรึเปล่า" เราส่ายหน้า พี่เพลินทำท่าตกใจ"เอ๋ต้องระวังนะ ตอนนี้เอดส์มันดังมากไว้ใจใครไม่ได้เลย ยิ่งเป็นกระเทยด้วยไอ้พวกผู้ชายมันชอบว่าพวกเราแพร่เชื้อ เดี๋ยวเย็นนี้จะขอถุงยางที่อนามัยมาให้" สนุกจนลืมระวังพี่เพลินพูดก็กลัวขึ้นมาแต่ก็ปลอบใจตัวเองคงไม่เป็นไรมั๊งคราวหน้าค่อยระวังแล้วกัน..................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

50. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:47 PM (SE Asia Standard Time)
 
   50
ความรักลอยลมไปไกลแล้วพี่โด่งไม่ได้โทรหาเลยตั้งแต่วันนั้นเราโทรไปก็ไม่มีคนรับ ปรึกษาพี่เพลินแกก็บอกได้เพียงว่า
"ผู้ชายมันก็แค่นี้แหล่ะ จากกันก็ลืม คิดอะไรมาก" พี่เพลินพูดพร้อมยื่นกล่องถุงยางอนามัยให้
"อะไรพี่" เรารับมาแล้วทำหน้างงงง
"ก็ถุงยางไง" กล่องบรรจุประมาณ100 ชิ้นได้
"นีพี่เอามาหมดอนามัยเลยรึเปล่านี่" เรายังงง
"ก็น้องสาวพี่เขาเป็นพยาบาล มันมีไว้แจกอยู่แล้ว เก็บเอาไว้เถอะ ใช้ได้นานที่เดียว เผื่อไว้ใช้ที่กรุงเทพฯด้วย" พี่เพลินมานั่งเล่นที่ร้านเป็นเพื่อนตอนเราอยู่คนเดียวทุกวัน
"เอ๋ หมู่นี้ไอ้ตั้มมันหายไปไหนเหรอ"
"พี่สาวมันที่มีผัวญี่ปุ่นมาเยี่ยมบ้าน มันคงเห่อ ก็เลยหยุดงานไปหลายวัน เอ๋ไม่เห็นตั้งแต่วันกลับจากเที่ยวแล้ว"
"เป็นผู้หญิงก็ดีนะ หาผัวคนไทยไม่ได้ก็หาผัวฝรั่ง ผัวญี่ปุ่น นึกแล้วอยากมีจิ๋ม"พี่เพลินนั่งดูหนังสือดารา
"เออ แล้วเอ๋เจอรูปหล่อของพี่บ้างมั๊ย" เรางง
"คนไหนหล่ะพี่"
"น้องนะไง" เรานึกถึงวันที่เรามีอะไรกันกับนะ ไม่ประทับใจสักนิด
"อย่าไปยุ่งกับเด็กเลยพี่ ได้อาจารย์แล้วจะเอาลูศิษย์อีกเรอะ"
"แหมก็เด็กมันหล่อนี่นา เออแล้วคนที่เอานมมาฝากขายก็หล่อดีนะ" พี่เพลินหมายถึงพี่แขก ตอนนี้วัวที่บ้านเริ่มให้นมได้แล้วที่บ้านพี่แขกทำเป็นถุงแล้วมาฝากร้านเราขายถุงละห้าบาท แม่เห็นว่าเป็นลูกค้าก็เลยรับฝากไม่ได้เอากำไร พี่แขกก็จะแบ่งไว้ให้พวกเราวันละสี่ถุงทุกวัน
"แฟนเพื่อน แต่ตอนนี้ไอ้นามันไปเรียนกรุงเทพฯ คงเลิกกันแล้วเห็นพี่แขกเขามากับแฟนใหม่ทุกวันนี่" เราสาธยาย
"แล้วเอ๋ไม่ชอบเหรอ" พี่เพลินซักไซ้
"เอ๋มีพี่โด่งแล้วนี่"
"อู๊ย...ฝันเฟื่อง" พี่เพลินนั่งจ้องหน้าเราอีก
"ก็ชอบอยู่ แต่ยากไม่รู้จะหาโอกาสอะไร" นั้นนะสิพี่แขกกับเราเจอกันแค่ตอนมาส่งนมและก็มีแฟนมาด้วย จริงๆเราก็ปลื้มตั้งแต่ตอนเขาเป็นรุนพี่แล้ว
"แล้วไอ้ต้อ ลูกครูเสมหล่ะ เพื่อนเอ๋ไม่ใช่เหรอ"
"นี่พี่ เขามีเมียมีลูกแล้ว เอ๋กับต้อไม่เคยเจอกันเลย ว่าแต่พี่ไปเจอเขาที่ไหนหล่ะ"
"ก็มาตลาดทุกวัน หล่อจังเลย"
"พี่เพลินอ่านนิยายมากไปหล่ะสิ ถึงเอามาเพ้อทำตัวเป็นนางเอกไปได้"
นั่งคุยกับพี่เพลินจนมืด กำลังจะปิดร้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"ขอสายเอ๋ครับ" เสียงคุ้นดังมาตามสาย มือเราสั่นระริก ดีใจจนบอกไม่ถูก
"พี่โด่ง คิดถึงจังเลย ทำไมเงียบไป เอ๋โทรหาก็ไม่มีคนรับสาย แล้วพี่สบายดีมั๊ย" เรายิงคำถามรัวเป็นชุด พี่โด่งหัวเราะ
"เชื่อแล้วว่าคิดถึงมาก เอ๋ทำอะไรอยู่ เนี่ยพี่อยู่บ้านแม่นะ แม่เขาอยากคุยด้วย"
"สบายดีม๊าย" เราคุยกับแม่พี่โด่งไม่กี่คำแกก็ให้พี่โด่งคุยต่อ
"คิดถึงหว่ะ เอ๋มาเที่ยวกรุงเทพฯได้มั๊ย สักวันสองวัน"
"พี่โด่งพูดจริงๆ เหรอ อยากไปอยู่นะแต่ คงไปไม่ได้หรอก" ใจเราล่องลอยไปถึงระนองเมื่อวางหูโทรศัพท์ ปิดร้านอย่างอารมณ์ดี ยังไงพี่โด่งก็โทรมาหาแล้วนี่นา นับดูแล้วกว่ารามจะเปิดก็อีกหลายเดือน เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก
"ไอ้ตั้มมึงไปไหนมาวะ" ตั้มแต่งตัวหล่อเฟี้ยวอยู่หน้าบ้าน"โอ้โฮยกเครื่องใหม่เลย" เราจอดมอเตอร์ไซค์ไปยืนดูมันใกล้ๆ
"ไปเที่ยวกรุงเทพฯ กับพี่สาวพี่เขย" มันพูดอย่างเยาะเย้ย"เอ๋พี่กูจะพากูไปทำงานที่ญี่ปุ่นนะโว๊ย ทำงานโรงงานเป็นช่างไม้ พี่เขยกูจะรับรองให้ แต่ต้องรอเรียนจบก่อน เขาจะมารับ กลับไปคราวนี้เขาจะเตรียมเอกสารแล้วจะมารับกูปีหน้า" ไอ้ตั้มยืดอก พูดอย่างภูมิใจ
"ดีนี่ จะได้มีเงินเยอะๆ" ทำงานเมืองนอกเหมือนนาจอีกคนแล้ว เราเดินเข้าบ้านพร้อมถุงใส่กล่องถุงยางอาบน้ำเตรียมตัวจะนอน ขาประจำก็มาเคาะจนได้
"มีอะไรเหรอ" เราถามตั้ม มันดันประตูเข้ามา
"กูมีของมาฝากมึงด้วย" ตั้มกางเสื้อยืดที่ซื้อแถวสยามให้ดู "หลายร้อยนะโว๊ย พี่เขยกูรวยจริงๆ" เพราะค่าเงินมันต่างกัน เรามองเสื้ออย่างเฉยๆ แต่ก็ต้องแสดงออกว่าดีใจตามมารยาท
"มึงไปเที่ยวเป็นไงมั่งวะ"
"ก็ดี"
"แล้วทำไมอยู่ต่ออีกเป็นอาทิตย์ มึงไปไหนกับใครเหรอ" ไอ้ตั้มสำรวจหน้าตาเราเหมือนจะค้นเอาความจริง เราลืมไอ้ตั้มไปหมดแล้วมั๊งมองเขาอย่างไม่มีความรู้สึกยินดียินร้ายอะไร แต่เพื่อนก็คือเพื่อนความรู้สึกวาบหวิว ท่วงหามันหมดไปตั้งแต่รู้จักพี่โด่ง ลืมทุกคนไปหมด
"ง่วงแล้วหล่ะ" เราลุกขึ้นไปนั่งที่เตียง
"กูนอนด้วยนะ"
"ตามใจ" เราปิดไฟทั้งห้องมีแต่ความเงียบนอนไม่หลับรูสึกแปลกๆกับตั่มจนได้ เขาลุกข้นถอดเสื้อผ้าแล้วโยนไปที่พื้น
"เอ๋ กูอยากหว่ะ มึงไม่อยู่กูชักว่าวทุกวันเลย" ไอ้ตั้มยกขาเราพาดที่บ่าแล้วค่อยๆสอดเข้ามามันไม่รู้สึกเจ็บเลย
"วันนี้เข้าง่ายดีหว่ะ" มันโน้มตัวมากอดเราอารมณ์เรากระเจิงไปแล้วแต่มันไม่เต็มมที่เรากัดมันที่บ่าเบาๆ
"มึงกัดกูทำไมวะ" ไอ้ตั้มตกใจยกตัวขึ้นเหมือนเดิมแล้วชักเคมากระตุกข้างนอก น้ำของมันเลอะที่ขาเราไปหมดลุกขึ้นหยิบทิชชู่มาเช็ด แล้วนอนกันหลังให้มัน ไอ้ตั้มเพลียเลยหลับไปแล้ว เรายังตาค้างอยู่นี่ทำไมมันแทนพี่โด่งไม่ได้นะ เราถวิลหาพี่โด่งจนอยากจะร้องไห้ นอนงอตัวกอดตัวเอง ..เหงาเหลือเกิน....


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

51. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:49 PM (SE Asia Standard Time)
 
   51
วันเวลาผ่านไปช้าเหลือเกินยิ่งเรานับวันนับคืนเท่าไหร่ดูเหมือนเวลาจะยิ่งคล้ายหยุดนิ่ง งานประจำปีก่อนปีใหม่มาพร้อมกับลมหนาว พี่เพลินชวนไปเดินเล่น งานมีห้าวันเราเลือเอาวันสุดแรกเพราะคนจะเยอะ ที่ว่าการอำเภอถูกแต่งคล้ายงานวัด หนังกลางแปลงชนโรงล้อมผ้าใบ เวทีรำวง เมียงู ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ ดนตรีลูกทุ่ง ยิงเป้า บ้านผีสิง ลิเก หมอลำ งิ้ว ร้านขายของ สนามข้างอำเภอก็มีกีฬาประชาชนอีกรอบ มีตะกร้อเช่นเคย อำเภอติดกับตลาดโต้รุ่ง ปีละครั้งที่จะมีหอยทอด ออส่วนแบบเต็มรูปจากต่างถิ่นมาตั้งขายเดินไปทางไหนก็มีของขายเต็มไปหมด คึกคักดี พวกผุ้ชายเมาได้ที่ก็ไปออกันที่เวทีรำวง จำได้ตอนมอห้าไอ้วัฒน์กับไอ้นกขึ้นไปเต้นรำวงโดนฝ่ายปกครองจับได้ โดนตีหน้าเสาธงให้ได้อายกันเลย เราไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องผิดร้ายแรงอะไรนักหนากะอีแค่เต้นรำวงถ้าเทียบกับเด็กสมัยนี้เทื่ยวRCA อตก รัชดาซอย4 มันน่าจะถูกตีมากกว่า พี่เพลินชวนเราไปดูผุ้ชายเตะตะกร้อ แกบอกว่า
"เวลามันยกขาทีนะเอ๋" สปอร์ตไลท์สว่างไสว อาจารย์โตยืนหน้ามันอยู่ข้างๆสนาม หนุ่ม นนท์ และ เพื่อนอีกคนเป็นตัวแทนโรงเรียนรุ่นปัจจุบัน กำลังวาดลวดลายกับศิษย์เก่ากันอย่างถึงพริกถึงขิง พี่เพลินขยับตัวเบียดจนได้ไปยืนใกล้ๆอาจารย์ อาจารย์หันมาทักทายเมื่อตอนนักกีฬาพักครึ่ง
"อ้าวไม่เจอกันนานเลยเอ๋" แกตบไหล่เราเบาๆ "โด่งติดต่อมามั่งรึเปล่า"
"ครั้งเดียวฮะ" นะกำลังนวดขาให้เพื่อนมองหน้าเราแล้วหลบสายตา ตัวนะดูแน่นขึ้นไรหนวดเขียวๆเห็นชัด เขากับเราอายุเท่ากัน หน้าเรายังเนียนอยู่กลัวเหมือนกันว่าหนวดจะขึ้นมองหน้าพี่เพลินถ้าหากว่าเป็นกระเทยคางเขียวๆคงตลกพิลึก เราย่อเข่านั่งใกล้ๆนะ
"เมื่อไหร่ นะจะเตะให้ดูสักที"
"ก็รอให้ไอ้พวกนี้มันเจ็บก่อน พี่เอ๋ จัดการมันหน่อยสิ" นนท์ที่นั่งกางขาให้เพื่อนนวดยกเท้าใส่นะ "ผมเตะตะหกร้อลอดห่วงตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว ได้เข้ารอบไปชิงวันสุดท้ายแล้ว"
นะอวด
"แล้วนี่แข่งเสร็จไปไหนกันเหรอจ๊ะ รูปหล่อ" พี่เพลินยื่นหน้าขาวๆพร้อมเคราเขียวๆไปใกล้นะ นะทำท่าสะดุ้งพี่เพลินเลยตีที่ขาแรงๆ ทีนึง "กลัวอะไรยะ" แกนั่งกับพื้นข้างสนามไม่ลุกไปไหนตั้งใจจะดูใต้ขานักตะกร้อให้ได้ กรรมการเรียกนักกีฬา เราขี้เกียจดู
"พี่เพลิน งั้นเอ๋กลับนะ ขี้เกียจดู" พี่เพลินพยักหน้า เราค่อยๆเบียดคนออกมา จนเกือบจะออกจากวงล้อมได้ก็มาเจอพี่แขกยืนกอดอกดูตะกร้ออยู่ห่างๆ
"พี่แขก มาคนเดียวเหรอ"
"อ้าวเอ๋จะไปไหน" เจอพี่แขกก็เปลี่ยนใจแล้ว
"ไปหาอะไรกินหน่อย หิว พี่กินรึยัง หนาวๆอย่างนี้อยากกินเบียร์" ดัดจริตนิดนึง ไม่ได้คุยนะคะงานประจำปีสมัยนั้นก็มีซุ้มเบียร์มาตั้งด้วย เป็นของร้านขายหมูสะเตะ เสริฟเบียร์อยู่ใกล้ๆกับวิกหนังกางแปลง
"แล้วนี่พี่มากับใครหล่ะ" เราถามอีกครั้งเมื่อชวนพี่แขกมาด้วยได้
"มาคนเดียว เบื่อๆก็เลยออกมาเที่ยว" ถึงร้านเบียร์กับหมูสะเตะก็มาวาง หยั่งเชิงไม่ถูกไม่รู้ว่าพี่แขกคออ่อนหรือคอแข็ง เราทำท่าเหมือนนางร้ายชวนแกคุยเรื่อยเปื่อย ไอ้นามันทิ้งพี่แขกเพราะแกโลเล ไม่เลือกใครสักคน ระหว่างไอ้นากับแฟนเก่าที่หมู่บ้านเดียวกัน พี่แขกเป็นลูกสัตวแพทย์ที่โยกย้ายมาจากกรุงเทพฯตั้งแต่เด็ก เลยตั้งรกรากที่หมู่บ้านถัดจากเขตอำเภอ พี่แขกกินเก่งไม่ใช่ย่อยเรากินแต่กับ ตาคอยมองหยั่งเชิง นึกถึงตัวเองตอนนั้นมันร้ายจริงๆ บอกกับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยให้รอดไปได้แน่ๆคืนนี้ พี่แขกก็รู้ว่าเราเป็นกระเทย ถึงเราจะไม่ออกท่าทางมากแต่หน้ามันฟ้อง หกขวดแล้วแต่เราหมดไปแค่แก้วครึ่ง พี่แขกคงมีเรื่องในใจมากมั๊งกินเอากินเอา พูดถึงนังนาบ่อยๆด้วยคงเสียดาย เรานึกในใจเพื่อนฉันสวยขนาดนั้น ครอบครัวก็ดี ทำไมไม่ชอบ คิดยังไงไปเอาสาวรุ่นเดียวกันที่เคยทิ้งตัวเองไปอยู่กับผู้ชายอีกคน พอเลิกกับผู้ชายก็กลับมาหา เราไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงทนได้จนเจอกับตัวเองถึงรู้ว่า ความประทับใจในความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน พี่แขกเมาแล้งเรากระหยิ่มในใจ แต่คราวนี้จะเอายังไง เรียกเก็บเงินพี่แขกยืนโงนเงนล้วงกระเป๋าหากุญแจรถ แล้วเดินไปที่รับฝากรถ
"พี่ขับรถไหวมั๊ย"
"ไหวๆ "บอกเหมือนคนเมา
"เอางี้เอ๋ไปส่งดีมั๊ย แล้วเอ๋ยืมรถกลับ"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ไปส่งเอ๋เอง" พี่แขกสตาร์ทรถ เราหล่ะกลัวจริงๆ
"พี่แขกเอ๋ขับดีกว่า กลัวง่ะ" เราขึ้นคร่อมข้างหน้าแกแย่งหน้าที่ พี่แขกก็ใช่ว่าจะเมามากคงแค่ชาๆ เราขับรถเข้าร้านที่ตลาด
"พี่แขกเอ๋ลืมของที่ร้าน" เราแกล้ง จอดรถแล้วเปิดประตูร้าน "พี่แขกมารอข้างในสิข้างนอกเดี๋ยวยุงกัด แกเดินตามมาแบบงงงง
"ปวดเยี่ยววะเอ๋ ห้องน้ำอยู่ไหน"
เราปิดประตูแล้วเปิดไฟใต้บันไดแล้วเดินพาพี่แขกไปห้องน้ำ พี่แขกยืนฉี่อย่างไม่ได้มังเห็นแล้วอยากจริงๆ ตัวสูงๆกับเคยาวๆ ตอนที่ไม่แข็งก็ใช่ย่อย มือแกจับมันสะบัดนึกว่าถ้าหากโดนฟาดใส่หน้า เราจินตนาการเลยเถิด พี่แขกทุลักทุเลจับมันยัดเข้ากางเกง แบบเมาๆแล้วเดินออกมา ยิ้มเผล่เสร็จแล้วโล่งเลย เรายืนกันที่ทางเข้าใต้บันได
"มีอะไรเหรอ"
"พี่แขกไม่ได้รูดซิบ" เราเอามือจับที่สอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างซิบทันที
"เฮ้ย ฮั่นแน่ รู้นะคิดอะไร" พี่แขกชี้หน้า "เจ้าอย่าหวัง" แหมเรียกชื่อเป็นดาราหนังจีน เรายังยืนอยู่ไม่หลบ
"พี่แขก ส่งเอ๋ที่นี่แหละ เอ๋จะนอนข้างบน ไม่กลับบ้านแล้ว"
เตี่ยติดแอร์ข้างบนแล้วและขยายห้องให้กว้างขึ้น ห้องน้ำก็ทำใหม่ บ้านในตลาดก็สามารถนอนได้เลย บางวันเราก็นอนที่นี่ ถ้าวันไหนดูหนัง
"พี่แขกกินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อยสิ" คนเมาแล้วก็อยากจะต่อเราหยิบแม่โขงแบนนึงร้านยกให้แกดู พี่แขกเหมือนคิดไม่รู้คิดออกรึเปล่า แค่นี้ก็เข้าล็อคนางมาร เดินนำขึ้นชั้นบนพร้อมโซดาน้ำแข็ง เรานั่งกินกันที่พื้นเปิดเพลงเบา กินกันไปเรื่อยๆ พี่แขกก็เริ่มง่วงส่วนเราเริ่มเมา เราขยับไปนั่งใกล้ๆลูบที่ขาแกเบาๆ พี่แขกชี้หน้าแล้วยิ้มตาหวานเยิ้ม มือไต่ไปเรื่อยๆจนถึงเป้าแกก็ไม่ได้ปัดมือออก กลับลุกขึ้นไปนอนบนเตียงแทน เราลุกตามปลดตะขอกางเกงแล้วถอดออกพี่แขกยกตัวตามอย่างว่าง่าย เหลือแต่กางเกงในแล้วมันตุงนูนเด่นอยู่กลางตัว เราไซ้ที่ซอกคอแก ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปในกางเกงใน เคแฉะเพราะเยี่ยวเมื่อกี๊เอาไงเอากันวะมันสู้มือดีเหมือนกัน เรางัดมันออกมา ค-ยแข็งจนแดงกล่ำกลางแสงไฟ
"ดูดให้หน่อยสิ" ได้เลยเราดูดเคพี่แขกทั้งๆที่เมาปากชาดูดยังไงก็ไม่เสร็จ จนเหนื่อยอยากจะนอน
"พี่แขกเสร็จรึยัง" แกลุกขึ้นนั่ง จับเคตัวเองรูดอยู่นาน "ทำไงดีเนี่ยมันไม่เสร็จ" เราขยับไปใกล้แล้วพูดเบาๆ คงต้องเอามั๊งพี่ เราดันตัวแกลง บนที่นอนถอดกางเกงออกแล้วนั่งคร่อมลงไปค่อยๆกดตัวลงช้าๆ พี่แขกเหมือนเสียวจัด เราเกร็งตัว เล่นเอาต้องสูดปากขนาดไม่ได้ย่อมไปกว่าพี่โด่งเลย เหมือนกินพริกเผ็ดๆหายเมาเป็นปลิดทิ้ง นั่งควบจนเตียงลั่น ไม่ยอมเสร็จซักที
"มาพี่ทำเอง" แกผลักเรานอนคว่ำ แล้วจับมัดยัดเข้าไปกว่าจะเข้าได้กลัวเคจะหักจริงๆ คงไม่เคยเข้าละสิเรานึกในใจ ปลายมันมุดเข้ามาจนได้คราวนี้ทั้งตัวก็หลุดเข้ามาหมด โอเราสะใจจริงๆ โดนคนเมาเอานานร่วมชั่วโมงกว่าพี่แขกจะฉีดเข้ามาในตัวเรา เสร็จแล้วแกก็นอนหงายถ่างขาอวดเคยาวอยู่อย่างนั้นจนหลับไป เราตั้งนาฬิกาไว้ตีสี่เดี๋ยวความแตกต้องตื่นก่อนเตี่ยมาเปิดร้าน แล้วหลับไปหน้าเราฟุบอยู่ที่เคของพี่แขก จนตื่นตอนเสียงนาฬิกาดังขึ้น พี่แขกตกใจสะบัดหัวเล็กน้อยลุกขึ้นใส่กางเกง..
"อาบน้ำก่อนสิพี่จะได้สร่าง" แกเดินตามมาเข้าห้องน้ำ เราก็เดินตามเข้าไปอีกพี่แขกทำหน้างงงง
"เมื่อคืนพี่เอาเอ๋เหรอ" ยังจะถาม
"จำไม่ได้ เอ๋เมา ถ้าพี่จะทำใหม่คงจะจำได้" เราไม่รอให้แกตอบล้างเคพี่แขกแล้วก็ทรุดนั่งดูดอย่างเอาเป็นเอาตายพี่แขก ประคองหน้าเราแล้วซอยไม่คิดชีวิตเหมือนกัน จนแตกคาปาก แล้วแกก็ร้องโอดโอย ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัว เรายืนส่งพี่แขกที่หน้าร้าน พี่แขกสตาร์ทรถแล้วหันมามองหน้าอีกที
"ว่างๆพี่จะแวะมากินเหล้าด้วยนะ" เราอมยิ้มมองพี่แขกขับรถกลับบ้านแล้วปิดประตูร้านเดินไปขอกาแฟอาโกกินที่ร้านในตลาด เรื่องแค่นี้เองไม่เคยยากเลย ขอให้จูนกันติดเงียบๆนิ่งๆนี่แหละตัวดี.......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

52. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:50 PM (SE Asia Standard Time)
 
   52
คราวนี้ไม่เหงาแล้วละคะ เจ็ดโมงพี่แขกก็เอานมมาส่งเรายืนอยู่ได้เพราะกาแฟ ขายังสั่นเหมือนจะล้มพี่แขกยักคิ้วให้นับเงินที่ขายได้เมื่อวาน ค่อนข้างขายดีเหมือนกันวันละเกือยร้อยถุงแล้ว แกรับเงินเสร็จแล้วก็รีๆรอๆ อยู่ตอนที่เราจัดของให้ลูกค้า ลูกค้าผละไปแล้วพี่แขกก็เดินเข้ามาแทนที่ มองหน้าเรา
"มีอะไรพี่แขก" เราปรายตามองเตี่ยกับแม่ แกกำลังจัดของอีกฝั่งนึงของร้าน
"เอ๋ วันนี้ว่างรึเปล่า" พี่แขกถามเบาๆ
"ว่างเฉพาะตอนกลางคืน" เราจ้องตาแกตอบพี่แขกดูเหมือนอายๆ
"จะมารับไปเที่ยวงานงิ้ว"
"ไม่เอากลัวเมา" เราทำหน้าล้อๆ แล้วเดินไปยืนใกล้ๆ "ไม่อยากเสียตัว"
"ใครปล้ำใครกันแน่"พี่แขกชี้หน้า "แล้วว่าไง"
"แฟนพี่ไม่ว่าเอาเหรอ"
"โอ๊ย แฟนที่ไหนผุ้หญิงเอาใจยากมาเอาใจผู้ชายด้วยกันดีกว่า" เรานึกขำ
"แล้วจะเจอกันกี่โมงหล่ะ จะได้บอกเตี่ยว่าจะนอนที่นี่"
"ไปนอนบ้านพี่ดีกว่า พ่อกับแม่พี่พาน้องไปกรุงเทพฯ พี่อยู่คนเดียว"
"ไม่ดีมั๊ง เดี๋ยวนังนิดรู้ มันจะมาฉีกอกเอา เหมือนที่มันด่าไอ้นามาแล้วว่าไปแย่งของมัน" พี่แขกหูแดงเหมือนโกรธ
"งั้นก็ตามใจไม่ไปก็ไม่ไป" เขาหยิบกระติกใส่นมเดินตัวปลิวไปที่มอเตอร์ไซค์ เราเดินตามไปจับที่แฮนด๋รถไว้
"แหมแค่นี้ก็งอน มารับแล้วกันสองทุ่มนะ"
พี่แขกทำหน้าเหมือนยังโกรธ "อย่าโกรธเลยเดี๋ยวหมดหล่อพอดี นะนะ มารับนะครับ "
พี่แขกพยักหน้าแล้วขับรถออกไปทันที พี่เพลินมารับของที่ร้านพอดีเห็นทุกพฤติกรรม แต่ไม่ได้ยินเรื่องที่เราคุยกัน
"จีบกันเหรอ"
"วันนี้แต่งตัวสวยแฮะ" พี่เพลินคงนึกว่าตัวเองเป็นนางแบบวัยน่ารัก ใส่เสื้อรูปแตงโมตรงกลาง สีแดงสด กับกางเกงสีขาว หน้าขาววอกปากมันเยิ้ม ยืนหมุนตัวอวดเสื้อใหม่
"นี่เมื่อคืนสนุ๊กสนุก เอ๋ไปไหนพี่ตามหาก็ไม่เจอ" แกถาม
"ก็กลับมานอน แล้วพี่สนุกอะไรหล่ะ" เราทำหน้าเหมือนรู้ทัน พี่เพลินยักไหล่
"ไม่อยากอยู่เอง พี่ไปกินเหล้ากับนักกีฬาโรงเรียนเอ๋หล่ะ พี่โตเขาชวน"
"กินได้ไง นักเรียนทั้งนั้น"
"ก็ไปกินที่บ้านพี่"
"แล้วใครเลี้ยง" เราซัก
"แหมก็เจ้าของบ้านนะสิ นิดๆหน่อยๆ เอ๋เอ๊ยพอเมากันนะคุยกันโขมงโฉงเฉงเลย" พี่เพลินขยับมาช่วยยกลังน้ำปลาอีกข้างขึ้นรถเข็น วางลังน้ำปลาลงแล้วแกก็หยิกที่เอวเรา เราสะดุ้งโหยง
"นี่บอกมาดีๆนะว่า คนไหนที่ยังไม่ได้ฟาด"
"บ้า มันพูดอะไรกัน"
"คนนั้นก็พี่เอ๋ คนนี้ก็พี่เอ๋ แล้วก็ชี้หน้าหัวเราะกันใหญ่ สุดท้ายก็ทั้งวงตะกร้อเลยมั๊ง" แกค้อน
"แล้วสรุปว่าไง ได้มั๊ย" เราทำหน้าล้อๆ
"ก็ลูบๆคลำๆ เอาตอนมันนอน ไอ้หนุ่มนะใหญ่ ไอ้นะเฮ้อลุ้นแทบตาย"
"แหมพี่เด็กกำลังโต เจอหน้าฝนบ่อยๆเดี๋ยวก็เป็นเห็ดโคนให้พี่กินเองแหละ" เรายกของที่เหลือตามมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้ววางลงเมื่อมาถึง พี่เพลินนับเงินจ่ายแล้วชี้หน้าพร้อมพูดเบาๆ
"เจ๊จะบอกแม่เอ๋ให้ซื้อยาคุมให้กิน"
"ไม่ใช่ผู้หญิงจะท้องได้ไง" เราเถียง
"ยาคุมความแรดไง เนี่ยมีขายที่ไหนจะไปซื้อมายัดใส่ปากเลย วันนี้ไปเที่ยวงานกันมั๊ย" พี่เพลินชวนหลังจากเม้าเสร็จ
"วันนี้ไม่ว่าง"
"จะไปไหนยะ"
"มีนัดกับหัวใจ" เราพูดเสร็จแล้วก็หัวเราะ วิ่งกลับไปที่ร้านทันทีนั่งอมยิ้มทั้งวันอย่างอารมณ์ดี อดอยากมานานไอ้ตั้มก้ไม่ได้อย่างใจไม่พัฒนาเลย คงไม่มีใครเอาเราอยู่แล้วมั๊งตั้งแต่เจออาจารย์ แล้วพี่โด่ง คราวนี้พี่แขก คิดแล้วก็ขนลุก นี่มันเข้าไปได้ไงเนี่ยแต่ละคน เอี้ยวคอไปดุก้นตัวเองนี่มันบานรึยัง แล้วก็สะดุ้งเฮือก
"อาเอ๋ ทำอะไรอยู่ มาช่วยจัดของหน่อย" เตี่ยนะทำให้ตกใจเลย กำลังเพลินๆอยู่เชียว............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

53. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:51 PM (SE Asia Standard Time)
 
   53
กลับไปอาบน้ำแต่ตัวที่บ้านไม่ลืมที่จะหยิบถุงยางใส่กางเกงคงต้องระวังแล้ว เราบอกกับตัวเอง ไอ้ตั้มป้วนเปี้ยนอวดของจากกรุงเทพฯ ให้น้องๆเราดูที่ห้องรับแขก เราเดินลงมามันแปลกใจก็ถามขึ้นมา
"เอ๋มึงจะไปไหนวะ"
"ไปเที่ยวงานงิ้ว"
"กูไปด้วยคนสิ" ไอ้นี่จะมาเป็นก้างขวางคอเรอะยาก
"กูจะไปกันสองคนกับพี่เพลิน" เราบอกมันแล้วเดินไปถอยรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน ไอ้ตั้มยังไม่ลดละความพยายาม เดินตามมาจะขึ้นรถ
"มึงหลบหน้ากูทำไม เมื่อคืนมึงก็ไม่นอนบ้าน" ไอ้ตั้มต่อว่าเรา
"วันนี้กูขอแล้วกัน พรุ่งนี้จะไปกับมึง งานมีตั้งห้าวัน อย่าโกรธเลยนะ" เรามองหน้ามันอย่างขอร้องให้ดูสวยที่สุด "นะตั้ม แล้วพรุ่งนี้จะตามใจทุกอย่าง" ไอ้ตั้มยังไม่หายโกรธ เราบีบมือมันเบาๆ "มึงรักกูเหรอ" ตั้มหน้าแดงน่รักอีกแล้ว
"ตอนนี้กูมีมึง ที่คุยกันรู้เรื่องคนเดียว อีกหน่อยกูกับมึงก็แยกกันแล้ว"
"อีกตั้งหลายเดือน มึงบอกกูว่าไง อย่าคิดอะไรเลยเถิด ตอนนี้กูไม่คิดแล้ว แต่มึงจะทำให้กูคิดอีกจนได้ ตั้มเราเป็นเพื่อนกันนะ ยังไงกูก็ไม่ทิ้งมึงหรอก" เราใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ไอ้ตั้มค่อยๆคลายมือจากรถ
"ก็ได้ พรุ่งนี้มึงอย่าเบี้ยวแล้วกัน" เราพยักหน้าแล้วสตาร์ทรถขับออกไปอย่างเร็วจนลมหนาวปะทะแก้มอย่างแรง เสียเวลาจริง เก็บรถไว้ในร้าน แล้วนั่งลอพี่แขกเสียงรถดังมาแล้วหยุดที่หน้าประตู พี่แขกชะโงกหน้าเข้ามา
"ไปกันรึยัง" เราดับไฟปิดร้านแล้วขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ กอดเอวพี่แขกแน่น เราขับรถผ่าเข้าไปมนงานช้าๆ พี่แขกชี้ให้ดูโน่นดูนี่อย่างใจเย็นแล้วแวะที่ร้านโต้รุ่ง กินข้าวกินเบียร์กันเหมือนเดิม เราชะโงกไปปรามหน้าเมื่อเนแกชักยกถี่
"พี่แขกเดี๋ยวเมาไม่รู้เรื่องหรอก"
"เออน่า ขออีกหน่อย พ่อแม่ไม่อยู่" เด็กต่างจังหวัดถึงจะดื้อยังไงพ่อแม่ยังอยู่ในหัวเสมอ เยกเก็บเงินแล้วก็ขับรถตรงดิ่งไปที่บ้านพี่แขก บ้าพี่แขกเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง ลานข้างล่างเป็นห้องครัว ห้องน้ำ แยกกันเป็นส่วนต้นไม้ร่มครึ้ม คอกวัวอยู่ห่างจากตัวบ้านไปอีกไกล พี่แขกจอดรถแล้วเดินนำขึ้นข้างบนเราเคยมากับนาหลายครั้งแล้วมานั่งรอมันกับพี่แขกจีบกัน เป็นวันก็เคยมาแล้ว นาชอบอ้างกับพ่อแม่ว่ามาเที่ยวบ้านเรา ที่ไหนได้มันมาช่วยแม่พี่แขกทำงานบ้านทุกวันหยุด อีนี่มันบ้าสุดท้ายก็น้ำตาแตก มันอกหักพร้อมๆกับเราอกหักจากนาจ ตอนนั้นนั่งร้องเพลงชรัสด้วยกัน จำได้ลางๆว่าเพลงนั้นร้องว่า
ฉันรู้ต้องจำตัดใจ มืดมนหนทาง..รักเธอมากแต่เสียใจมากกว่าก่อนจากลาใจพร่ำรำพัน จำได้กระท่อนกระแท่นมานึกดูตอนนี้ตลกน่าดู เด็กสองคนปั่นจักรยานร้องเพลงเศร้าไปตามถนน เฮ้อ ป่านนี้นาจะเป็นยังไงบ้างตั้งแต่แยกกันมอหกจนถึงปัจจุบันเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
พี่แขกติดลมหิ้วเบียร์มาอีกสามขวดนั่งจิบเอื่อยๆอยู่ในห้องรับแขก เปิดวีดีโอโป๊ย้อมใจเราไม่เคยพิศวาสจะดูหนังโป๊กับผู้ชาย รู้ว่าเป็นการปลุกอารมณ์แต่ว่าเหมือนกับผู้ชายมันเอากับผู้หญิงในวีดีโอ ไม่ใช่เอากับเรา เบียร์หมดไปแล้ววันนี้ไม่เมาแฮะ พี่แขกปิดวีดีโอแล้วเตินไปอาบน้ำ เราก็งง อะไรวะเนี่ย ชวนมานอนเฉยๆเหรอ เราเดินขึ้นห้องพี่แขก นอนหงายรอ พี่แขกนุ่งผ้าเข็ดตัวเดินเข้ามา แก้ผ้าเช็ดตัวต่อหน้าเรา เคยาวแกว่งไปแกว่งมา เราลุกขึ้นนั่งมอง พี่แขกเช็ดตัวเสร็จใส่เสื้อกล้ามแต่ไม่ใส่กางเกงเดินมาทิ้งตัวนอนข้างๆ เรายิ่งงงเข้าไปใหญ่ เราเองก็ไม่เมาเลยไม่รู้ว่ามาทำไมนี่
"พี่แขกชวนเอ๋มาทำไม" เราพลิกตัวมาถาม
"แล้วเอ๋นั่งเป็นท่อนไม้ทำไม ทำงานสิ"เราเกาหัวทำงานอะไรวะนี่ ไม่มีบิลด์กันเลย แกกดหัวเราลงไปที่เคแก เราอ้าปากดูดรัวลิ้นตามรอยแยก ขบเบาที่ปลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าพี่แขกสูดปากกางขา เอามือกดหัวเราขึ้นลงเป็นจังหวะแล้วเด้งตัวขึ้นแดน้ำเข้าปากเรา เราอมไว้แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำบ้วนปาก แล้วกลับขึ้นมานอน นึกในใจแค่ดูดค-ยทำไมต้องมาไกลขนาดนี้ก็ไม่รู้ ลมหนาวพัดเข้ามาในห้องขนลุกซู่เลย นอนลงข้างๆพี่แขก หล่อดีแต่ไม่ได้รัก ไม่เหมือนพี่โด่ง นึกแล้วอยากโดนกัดอีก
เรานอนหลับสนิทชดเชยกับเมื่อคืนที่ไม่ได้นอน เสียงไก่ขันดังมาแว่วๆตกใจตื่นเพราะต้องรีบกลับ เดี๋ยวไม่ได้ช่วยแม่เปิดร้านดูนาฬิกาไม่ทันแล้วตีห้าแล้ว เขย่าตัวพี่แขกให้ตื่น
"พี่แขก เช้าแล้วไปส่งหน่อยสิ" พี่แขกงัวเงียลุกขึ้นนั่งค-ยแข็ง มันผงกหัวส่ายไปมา
"อ้าวเผลอหลับไปจนได้" แกลุกขึ้นจะใส่กางเกงเรารีบคว้าเคแกไว้
"ไม่ทันแล้วพี่ ไหนๆก็สายแล้ว" เรารูดเคแกเบาๆ พี่แขกตัวงอเอามือกุมไว้แล้วผลักเรานอนหงาย แยกขาแล้วเสียบเข้ามา ขนาดใกล้เคียงกัยพี่โด่งเรารู้จังหวะ ถ่างขาออกกว้างขึ้นจนมันเข้ามาได้หมด พี่แขกกระเด้าเร็วและแรงเหมือนเร่งให้เสร็จๆ แป็บเดียวก็แตก แกรีบใส่ผ้าขนหฯวิ่งลงมาข้างล่างยืนฉี่โดยไม่ปิดประตู
"พี่แขกเล่นอะไรก็ไม่รู้ ยังไม่รู้เรื่องเลย" เราบอกตอนรถเริ่มเคลื่อนออกจากบ้าน
"ก็มันสายแล้วนี่ เดี๋ยวแก้ตัวใหม่"
"ไม่เอาแล้ว ตั้งใจมากเลยเสร็จเร็ว เอางี้แล้วกันวันไหนพี่อยากก็มาตอนหกโมงเย็นแล้วกัน เตี่ยกับแม่กลับแล้วเอ๋อยู่คนเดียว จะรอนะ" เราหยิกเอวพี่แขก เขาสะดุ้งจนรถเซ รถมาจอดที่ด้านหลังตลาด เราเดินเข้าร้านช้าๆ รู้สึกผิด
"เอ๋ไปไหนมา เถลไถลใหญ่แล้วนะ " เตี่ยบ่นเมื่อเห็นหน้า
"เที่ยวดึกไปหน่อย เอ๋ขอโทษเตี่ย "เราไม่รอฟังแกยกโทษเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำแล้วออกมาช่วยขายของเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

54. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:52 PM (SE Asia Standard Time)
 
   54
งานงิ้วผ่านไปแล้วเราทำตามสัญญากับไอ้ตั้มก็อย่างที่บอกเรื่องของเรากับตั้มมันไม่มีให้ลุ้นเหมือนสมองไม่ได้ใช้ความคิด ไปเรื่อยๆเปื่อยๆคนเราก็ต้องมีอะไรที่ท้าทายให้ทำบ้างไม่อย่างนั้นเซ็งแย่ หลังจากวันนั้นพี่แขกมาส่งนมตามปกติแต่ไม่ได้มาหาเราอย่างที่เคยบอก พักนั้นเราก็ชักห่างกิจกรรมเข้าจังหวะ วันนี้นั่งอยู่ตลาดคนเดียวเตี่ยกับแม่ไปธุระต่างจังหวัดฝนหลงฤดูตกมากลางหน้าหนาว หนาวชิ รีบปิดร้านกลัวฝนสาด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกแล้ว
"เอ๋ พี่โด่งนะ ปีใหม่ไปเที่ยวไหนมั๊ย" พี่โด่งส่งเสียงมาตามสาย หายไปนานจนเราคิดว่าตายจากกันไปแล้ว หากมีบางคนสงสัยว่าทำไมเราไม่เป็นคนโทรหาเอง เราเพียรพยายามโทรหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสายในช่วงที่โทรไปแม้แต่วันหยุดก็ไม่มี พี่เพลินถึงแม้จะเป็นคนบ้านนอกแต่แกก็มีอะไรดีๆสอนเยอะ
"ผู้ชายยิ่งตามยิ่งหาย เอ๋อยู่เฉยๆนิ่งๆแหล่ะเดี๋ยวดีเอง" บวกอกับคำสอนของปู่ย่าพี่โด่ง" อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ทำยังไงก็ไม่ใช่"
"พี่โด่งจะพาไปไหนหล่ะ" เราถามโดยไม่ทักทาย
"พี่หยุดห้าวันเราไปเที่ยวเชียงใหม่กันมั๊ย" เชียงใหม่นี่ไกลโขทีเดียว
"แล้วจะไปยังไง"
"ก็รถคู่ชีพนี่แหละ ที่พักมีแล้วพักบ้านเพื่อนพี่ แล้วเราขับรถเล่นไปเรื่อยๆ"
"ไปกันกี่คนพี่โด่ง"
"หลายคนจากที่ทำงาน แต่พี่ไม่ให้ใครนั่งตำแหน่งเอ๋หรอกนะ"
"เอ๋ขอเตี่ยกับแม่ก่อนนะแล้วจะโทรไปบอก" พี่โด่งวางสายไปแล้ว เราบอกไม่ถูกลึกๆเรายังคิดถึงเขา ก็เหมือนคิดถึงนาจ คิดถึงต้อ แต่มันห่างกันนานแล้ว ความรักอยู่ก้นบึ้งของหัวใจเหมือนจะจำได้แค่ลางๆว่าพี่โด่งเป็นยังไงเท่านั้น มานั่งดูฝนตกหน้าร้าน แหงนมองที่ฟ้าเพลงเศร้าของลูกชายร้านขายผลไม้ที่ไปเรียนกรุงเทพฯดังแข่งกับเสียงฝน
หยาดฝนโปรยปรายฉันไม่อาจหมายให้เธอกลับคืน ฉันอยากลืมรักทุกวันทุกคืน รักเคยหวานชื่นไม่อยากจำ
เพลงอะไรเนี่ย ไม่เคยได้ยิน เรากำลังบ้าเพลงแหวนแลกใจอยู่ ก็รู้สึกว่ามันสะดุดหูมาก เดินฝ่าฝนไปที่ร้านผลไม้ หนุ่ยลูกชายเจ้าของร้านที่พูดถึงก็แปลกใจ
"มีอะไรเอ๋" หนุ่ยกับเราเคยเรียนอนุบาลด้วยกันแล้วก็แยกโรงเรียนตอนขึ้นปอหนึ่ง เราจำไม่ได้ว่าเคยเป็นเพื่อนกับหนุ่ยมีแต่พ่อแม่เท่านั้นคุยกัน
"เพลงอะไร เพราะจังเลย"
"ไม่ลืม" หนุ่ยยื่นตลับเทปเบิร์ทกะฮาร์ทให้ดู นึกในใจต้องไปซื้อ
"ที่นี่บ้านนอกไม่มีขายหรอก เทปออกตั้งนานแล้ว"
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวฝากโอซื้อก็ได้" หนุ่ยเป็นแนวติส ไม่ค่อยพูดบางวันก็นั่งวาดรูปทั้งวัน เรียนศิลปะอยู่ในกรุงเทพฯ มาเยี่ยมบ้านบ่อย เรายังสงสัยเลยว่ายังเรียนอยู่รึเปล่าผมยาวรุงรังอย่างนั้น วันไหนถ้ามัดก็ดูเรียบร้อยดี เราเป็นกระเทยยังไม่อยากไว้ผมยาวขนาดนั้นเลย กลับไปนั่งที่ร้านต่อจนเก็บร้าน
โอซื้อเทปมาให้แล้ว เปิดฟังอยู่เพลงเดียวจนเบื่อ ตอนเย็นหนุ่ยจะชอบตั้งวงเหล้ากับลูกจ้างหลังเก็บแผงผลไม้ พี่เพลินเดินผ่านก็โดนแซวทุกวันเด็กในร้านก็เป็นผัวพี่แกหลายคน
"เจ้าของร้านไม่เอาหรอก กลัวโดนตีน มันเป็นเพื่อนเอ๋นี่ก็เอาเลยสิ" พี่เพลินพูดแล้วมองไปยังวงเหล้า เราเห็นแล้วก็ขยาดเหมือนกันปล่อยผมทียังกะโจร หนวดขึ้นหรอมแหรมรุ่นเดียวกันเหรอนี่
"เอ๋ซื้อเหล้าหน่อย"เรากำลังจะปิดร้าน หนุ่ยเดินเข้ามาหยิบโซดาเอง คุ้นที่อยู่แล้วเพราะซื้อทุกวัน หนุ่ยยืนโงนเงนวันนี้กินตั้งแต่บ่ายแล้วตาแดงกล่ำ เราหยิบแล้วแล้วหันหลังก้มหยิบเงินทอนในลิ้นชัก หนุ่ยเอาเป้ามาถูที่ก้น เราตกใจรีบหันกลับ
"บ้า ทำอะไร" หนุ่ยยืนยิ้ม
"ระวังข้างหลังนะ" เราพูดกวนๆ เรายื่นเงินทอนให้
"เอ๋ไปเที่ยวภูกระดึงมั๊ยวันเสาร์นี้ เพื่อนเราจะมารับ" หนุ่ยกับเราก็คุยกันอยู่บ้างแต่ไม่สนิทนัก เรามองหน้าอย่างไม่แน่ใจ "ขอเตี่ยก่อน"
"วันนี้เก็บร้านกี่โมง"
"จะเอาอะไรก็ซื้อไปเลยสิเดี๋ยวเก็บร้านแล้ว ไม่ต่อเนื่องนะอีกร้านอยู่หลังตลาดโน่น" เรามองหน้าหนุ่ย อยู่ๆมันก็จับหน้าเรา เอไอ้นี่เราปัดมือมันออก หนุ่ยวางขวดเหล้าที่โต๊ะแล้วดันเราเข้าฝา ไซ้ที่ซอกคอเบียดเป้ากับเป้าเรา เราดันมันออกเหม็นเหล้าชะมัด
นี่ไอ้หนุ่ยเมารึไง" หนุ่ยผละตัวออกแต่ยังมองหน้าอยู่
"เดี๋ยวมา" ว่าแล้วหนุ่ยก็หิ้วเหล้าออกไป เรายืนงงอยู่นี่เรากับหนุ่ยไม่เคยจะคุยอะไรกันนอกจากพุดคุยกันตามประสาคนทำมาหากิน จะเอาอะไรกับคนเมา วันนี้จะนอนที่ร้านเพราะมีหนังเรื่องที่อยากดูมาเข้าว่าจะดูสักหน่อย ปิดประตูแล้วเข้าไปอาบน้ำๆ กำลังอาบน้ำเสียงออดที่ประตูก็ดังขึ้นถี่ๆ ใครวะนึกในใจ ใส่เสื้อผ้าโดยไม่เช็ดตัวแล้วไปดูที่ประตู
"เอาอะไร" เราเปิดประตูให้หนุ่ยเดินเข้ามาแล้วหนุ่ยหันไปปิดประตู รู้สึกหวาดๆ
"ขอเข้าห้องน้ำหน่อย" เรารออยู่ที่ประตูจนหนุ่ยเสร็จธุระแต่ไม่ยอมออกมา สักทีเลยเดินไปดูหนุ่ยยังยืนโงนเงนอยู่ในห้องน้ำคงจัดการกับชีวิตไม่ถูก
"หนุ่ยเสร็จรึยัง" หนุ่ยเดินออกมามองหน้าเรายิ้มๆ นี่มันไม่ได้เมาเท่าไหร่นี่ "จะปิดร้านแล้ว" มันรวบตัวเราไว้แล้วลากเราเข้าไปในห้องน้ำ กลิ่นเหล้าอบอวลไปทั้งหน้าเราเราดิ้น
"เฮ้ยเล่นอะไรวะ" เราดันหนุ่ยออก แล้ววิ่งออกมาจากห้องน้ำ มาตั้งหลักข้างๆบันได หนุ่ยเดินตามมาเล้วดันหลังเราขึ้นบันไดอย่างแรงจนมาถึงห้องข้างบน
"นี่นายจะทำอะไร"
"อย่าเล่นตัวน่า" มันทับลงมาทั้งตัวมือจับที่มือเราไว้แรงเยอะมาก "อย่าดิ้นสิวะ" หนุ่ยบีบนมเราแรงๆพร้อมใซ้ที่ซอกคอจนตัวเราอ่อนไปหมด แรงหื่นกระหายทำให้เรานึกถึงรสชาดของพี่โด่ง มารู้ตัวอีกทีก็ถูกจับนอนคว่ำแล้วถูกแทงข้างหลังแล้ว หนุ่ยลากขาเราไปที่ปลายเตียงยืนซอยเราแรงๆ ทั้งเจ็บทั้งเสียวจนมันเสร็จ ถึงปล่อยเราลง
"แค่นี้เอง นึกว่าจะแน่" หนุ่ยบอก เราใส่กางเกงแล้วลงไปล้างในห้องน้ำอย่างเร็ว หนุ่ยยังยืนรอที่เปิดประตูให้
"ทำเราทำไม" เรามองหน้า
"มันเงี่ยนนี่หว่า" หนุ่ยพูดตรงๆ เราเปิดประตูให้หนุ่ย แล้วถอยมอเตอร์ไซค์ออกจากร้าน ปิดประตูเรียบร้อย หมดอารมณ์ดูหนังแล้วไปนอนบ้านดีกว่า วงเหล้ายกแก้วให้พร้อมกับเสียงเฮกันลั่น เราก้มหน้ารู้สึกอายและเจ็บใจที่ยอมให้เขาเอาง่ายๆ หนุ่ยยกแก้วเหล้าแล้วยักคิ้วใส่เรา เจ็บใจนัก...............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

55. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 08:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
   55
เช้าวันถัดมาก็มองหน้ากันไม่ติดเรารู้สึกอายไอ้หนุ่ยลูกจ้างมันก็ผิวปากแซวเป็นระยะ เรากลัวเตี่ยกับแม่จะรู้พยายามไม่ยุ่งกับพวกมัน แม่ยืนเลือกผลไม้อยู่ยืนคุยกับแม่ของหนุ่ยอยู่นาน เรื่องหวย เรื่องแชร์ตามประสาแม่ค้า แม่กวักมือเรียกให้ไปหา เอาละสิ แม่กำลังเลือแอปเปิ้ลใบโตลูกละหลายสิบหากินยากไม่เหมือนปัจจุบัน ถ้าไม่โอกาสดีจริงก็ไม่ได้กินหรอกไม่เหมือนสมัยนี้ซื้อมาโยนเล่นยังได้เลย แม่หยิบมาสองลูกกะว่าจะไหว้เจ้าที่ในร้านแล้วค่อยปลอกกิน
"เอ๋ เอาอะไรมั๊ยลูก" ผลไม้หลายอย่างลานตา
"ลูกชายขยันนะ ช่วยแม่ทุกวันเลย จะไปเรียนต่อทำไมขายของอยู่ที่บ้านก็รวยได้นี่" ป้าถาม "เสียดายมีลูกสาวแค่คนเดียวมีผัวไปแล้ว ไม่งั้นจะขอมาเป็นลูกสะใภ้สักคน"
"ใช่แม่ ถ้าเอ๋เป็นผู้หญิงผมจับทำเมียไปแล้ว" หนุ่ยพุดดังๆมาสมทบ เราสะดุ้งเฮือก พี่สาวเราตั้งแต่แต่งงานกับหนุ่มในจังหวัดก็ไปช่วยครอบครัวผัวทำมาหากินมันไม่ค่อยได้กลับบ้าน มีโอที่ไปพักด้วย พี่ห่างเราประมาณห้าปี มีผัวตั้งแต่เด็กเพราะผู้ใหญ่ฝ่ายชายชอบพอกับอาม่า นึกถึงชีวิตพี่แล้วก็เสียดายแทนพี่ไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเลย ทำบัตรเสร็จก็แต่งงานเรียนแค่ม.ศ.3 เท่านั้น แต่ชีวิตของเขาก็มีความสุขดี
"ไม่ได้หรอก เตี่ยมันอยากให้เรียนสูงๆ จะได้มีงานดีๆทำ ขายของขึ้นๆลงๆอย่างนี้ มันยาก"
"ว่าไปแล้วหน้ามันก็เหมือนพี่มันนะ ชั้นละนึกว่าฝาแฝด" แม่ลูบหัวผมเราเบาๆ
"ไปเรียนกรุงเทพฯ ก็คงไม่ได้กลับบ้านเท่าไร ไม่รู้จะทนคิดถึงได้รึเปล่า"
"เธอก็ไปซื้อบ้านที่กรุงเทพฯไว้สิ ลูกจะได้สบาย"
"ต้องใช้เงินเยอะนี่อีกสี่คนยังต้องเรียนกันอีกอยุ่กันใกล้ยังหาแทบไม่ทันเลยเธอเปิดเทอมทีหมุนเงินจนหน้ามืด ไปฝากป้ามันเลี้ยงไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน" แม่เลือกผลไม้เสร็จแล้วชั่งกิโลจ่ายเงินแล้วเดินกลับร้าน เราถือถุงผลไม้ตามหลังเข้าบ้าน หนุ่ยแวะมาหาตอนเตี่ยกับแม่นอนกลางวัน
"เอาแอ็ปเปิ้ลมาให้" หนุ่ยวางไว้ที่โต๊ะ "ขอโทษนะเรื่องเมื่อคืน เราไม่ไหวจริงๆ" เรามองแอ็ปเปิ้ลบนโต๊ะ
"แม่ไม่ได้ลืมนี่" เพิ่งกินหมดไปเมื่อกี๊
"เอามาให้เอ๋ต่างหาก เมื่อคืนเจ็บมั๊ย" เราส่ายหน้า
"ไม่รู้สึก" เราบอกหนุ่ยอย่างเซ็งๆ "หนุ่ยทำกับเราแบบนี้ ลูกจ้างรู้กันไปทั่ว เรากลัวว่าเตี่ยกับแม่จะรู้เรื่อง"
"แต่เอ๋ก็ไม่ใช่ย่อยนี่นา เล่นกับพี่เพลินทุกวัน จนคนเขารู้ทั้งตลาดแล้ว" หนุ่ยเถียง เราลุกขึ้นยืน
"แต่ไม่ได้เอากับใครแบบนี้นี่"
"น่า ยกโทษให้เราเถอะ เมื่อเช้าเห็นหน้าแล้วรู้สึกผิดหว่ะ"
วันนี้หน้าตาหนุ่ยแจ่มใสดีผมเผ้ามัดไว้เรียบร้อย
"ไม่ยกโทษให้หรอก ถ้าไม่มาทำให้อีก" พูดออกไปได้ไงนี่หนุ่ยหัวเราะเบาๆ
"แล้วว่าไงจะไปเที่ยวภูกระดึงกันมั๊ย จะแนะนำเพื่อนให้รู้จักด้วย ผู้ชายล้วน หล่อๆทั้งนั้น" พูดถึงผู้ชายก็หูผึ่งขึ้นมาทันที
"ไม่รู้ ยังไม่ได้ขอแม่ แล้วทำไมอยากให้เราไป"
"ไม่รู้เหมือนกัน เห็นหน้ากันทุกวันแล้วมันแปลกๆหว่ะ" หนุ่ยพูดได้แค่นั้นลูกค้าก็เดินเข้ามาในร้าน เขาผละไปนั่งที่แผงต่อ
พี่เพลินเดินเข้ามาหลังจากนั้น
"เอ๋ เมื่อวานมีอะไรเหรอ" แกหยิบหนังสือดารามานั่งอ่านนิยายต่อ
"เรื่องอะไรพี่"
"ไอ้พวกนั้นมันไปแซวเอ๋กับพี่ว่า ลูกร้านขายของโดนข่มขืนตอนเย็น เจ๊ละตกอกตกใจรีบมาหานี่แหล่ะ" ขนาดรีบก็ปาไปค่อนวัน
"ใครโดนข่มขืน เขามาชวนไปเที่ยวภูกระดึงต่างหาก" เราก้มหน้าบวกบัญชีต่อ
"ชวนเที่ยวภูกระดึง ก็เลยพาไปดูกระดอก่อนไปละสิ หน้าถึงสดชื่นอย่างนี้" พี่เพลินนั่งแซวแต่ตายังสนใจรูปดาราต่อ
"ระวังเตี่ยกับแม่จะรู้นะ จะหาว่าไม่เตือน เจ๊ไม่อยากให้เอ๋เป็นกระเทยจนแก่อย่างเจ๊ "พี่เพลินพูดเหมือนปลงๆ
"แต่เอ๋ก็ไม่อยากมีเมีย" เราบอกพี่เพลินไปตรงๆเช่นกัน
"ไอ้หนุ่ยถ้ามันตัดผมซะหน่อยก็คงจะหล่อดีนะ" พี่เพลินพูดแล้วมองไปที่แผงผลไม้ แล้วหันมามองเราอีกทีอย่างเป็นห่วง "อย่าลืมใช้ของที่ให้ไปนะ พี่ไปเก็บร้านหล่ะ" นึกถึงถุงยางที่พกไว้กับตัวตลอดมันไม่มีโอกาสได้ใช้เลยสักครั้ง.....
รถประจำทางจอดที่จังหวัดเลย จุดมุ่งหมายที่จะไปต้องเดินถึงแม้จะเป็นหน้าหนาวแต่ก็ร้อนมากตอนกลางวัน เหงื่อเราโทรมกายหนักทั้งเป้ ทั้งร้อนเดินกันซะขาแทบลากกว่าจะถึงที่หมายบนภู ช่วยกันกางเต็นท์ เพื่อนของหนุ่ยก็มีหล่อๆอย่างหนุ่ยบอกจริงๆนับได้หกคนรวมเราเป็นเจ็ด เราเริ่มสนิทกันมากขึ้นดีที่ไม่มีคนรังเกียจ ทุกคนอารมณ์ศิลปิน นั่งผิงไฟหน้าเต็นท์ สามเต็นท์ถูกกางไว้ใกล้ๆกัน เรานั่งกินไมโลอุ่นๆคุยกัน ถึงชีวิตของแต่ละคนยิ่งดึกยิ่งหนาว หนุ่ยแยกไปนอนอีกเต๊นท์กับเพื่อนตัวใหญ่ เรานอนกับพวกผอมๆด้วยกัน เต๊นท์เราก็มี พี และ อั๋น เรานอนชิดใน คืนนี้หนาวจริงพรุ่งนี้ต้องรีบไปดุพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนที่ในส.ค.ส.ปีใหม่ให้ทัน ยิ่งดึกยิ่งหนาวนอนไม่หลับเลย พีพลิกตัวมากอดเราแน่น มือเย็นเฉียบของเขาทำให้เราขนลุกพีสอดมือเข้ามาในเสื้อเพื่อหาความอุ่นในตัวเรา แปลกๆแฮะ เราเอียงหน้าไปมองให้แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าส่วนล่างแนบชิดกับก้นเราแน่น นี่อะไรกันนะลมหายใจที่รดที่ต้นคอยิ่งทำให้ขนลุกพวกนี้กินเหล้ากันนิดหน่อยเราเอามือจับไปที่เป้าแล้วลองบีบดู มันไม่ได้หดเพราะอากาศหนาวเลยนี่บีบอยู่นานก็ไม่เห็นเขาขยับหนี ค่อยๆดันมือเข้าไปในกางเกง พี่แขม่วท้องให้มือเราหลุดเข้าไปได้ง่าย อุ่นดีจริงแต่ค่อนข้างเกะกะมือตัวเอง มันแข็งแล้วเรารูดไปเรื่อยๆ พีก็ขยับเอวที่ก่ายตามมือไม่นานมือเราก็แฉะ เรากำมันไว้แล้วดึงมืออกมาเช็ดกับชายผ้าห่ม เพราะไม่รู้จะทำยังไงเสร็จไวจริงๆ พีกอดเราแน่นกว่าเดิมพร้อมสะกิดเราให้หันหน้าไปหา จูบหน้าผากเราแล้วนอนหันหน้ากอดกัน เรายังงงอยู่เลย นึกไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ กอดกันอย่างนั้นจนหลับ....
ดวงอาทิตย์ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นมาอย่างงดงาม สีส้มอ่อนๆตัดกับหมอกตอนเช้า งดงามเหลือเกิน เรายืนตาค้างมองภาพตรงหน้าโดยมีพีโอบไหล่ชี้ให้ดูทีละจังหวะของการเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์ คุ้มค่าจริงกับการมาครั้งนี้ เรามัวแต่เกี่ยงอากาศหนาวสมัยเรียนหนังสือ ภาพข้างหน้าถึงแม้ว่าอากาศจะเย็น แต่มันอุ่นใจ เราซาบซึ้ง จนน้ำตาซึมที่หางตา ไม่อยากกระพริบตาเลย..........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

56. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:00 PM (SE Asia Standard Time)
 
   56
ภูกระดึงทริปผ่านไปอย่างน่าจดจำมากหลังจากคืนแรกก็ไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรกับพีอีกนอกจากนอนกอดกันเฉยๆ มันหนาวมาก ทั้งยังไม่มีโอกาสจะจีบพีเลย และอีกอย่างลองนึกดูเคผู้ชายไม่อาบน้ำหลายวันจะเป็นยังไง เราเคยล้วงอั๋นไปที ต้องรีบชักมือกลับมันดูไม่ค่อยสะอาด พูดแล้วกลิ่นยังติดที่ปลายจมูกอยู่เลย ก็เลยเปลี่ยนแผนมาเป็นเพื่อนเกลอดีกว่า พวกเรากลับมาถึงบ้านกันตอนเย็นอีกสองวันถัดมา หน้าเราแดงเนื้อตัวคันยิบๆเพราะผิวแห้งโลชั่นที่เตรียมไปเอาไม่อยู่ แม่ต้องเอาขี้ผึ้งจากหมอมาทาให้ถึงได้หายคัน บรรดาเพื่อนๆของหนุ่ยยังไม่กลับเกาะกลุ่มกันที่ตลาด สาวๆในตลาดก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก ทั้งผู้หญิงจริงๆและผู้หญิงอย่างพี่เพลิน พี่เพลินมาด้อมๆมองที่ร้านเราบ่อยครั้ง
"นี่พวกหนุ่มๆกรุงเทพฯจะกลับกันเมื่อไหร่" แกถามเรา"พี่ชอบน้องอั๋น น้องพี น้องโย" เราเอามือปิดปากแก
"ไม่ต้องพูด เอาเป็นว่าชอบหมด พี่เพลินอย่าเพิ่งกลับบ้านสิ" พี่เพลินเก็บของเสร็จแล้ว
"ทำไมเหรอ"
"ก็เดี๋ยวเย็นกว่านี้ก็กินเหล้ากันอีก เห็นมั๊ยจะตั้งวงกันแล้ว"
เราบุ้ยใบ้เมื่อเห็นหนุ่ยปูเก็บของเสร็จ
"แล้วเอ๋หล่ะ"
"เอ๋นอนที่นี่" เราลอยหน้าลอยตาตอบ
"ร้ายนะยะ กะจะเปิดถ้ำสิท่า" พี่เพลินรู้ทัน
"จะทันอีนังเด็กสาวๆร้านขายผ้าเหรอ แหมพวกนี้เห็นผู้ชายไม่ได้เลยนะ" พี่เพลินค้อนเมื่อเห็นคนงานผุ้หญิงร้านขายผ้าเดินวนเวียนอยู่แถวนั้น
"แล้วพี่หล่ะ"
"พี่มันแก่แล้ว"
"ว่าแต่เขา" พี่เพลินมองหน้าเรา "แล้วนี่ถึงขนาดลงทุนทาแก้มเลยเรอะเรา ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ"
"บ้า แพ้อากาศหนาว คันจะตายชัก จะเกาก็เจ็บเห็นมั๊ยหน้าตึงจนยิ้มจะไม่ได้อยู่แล้ว" แกทำหน้าไม่เชื่อ
"เจ๊ว่า เอ๋คันอย่างอื่นจนมันขึ้นหน้าละสิ ทำเป็นวางมาดไม่สนใจ เชอะไปถึงโน่นคงจะอิ่มแปร้ละสิ" แกเดาไปเรื่อยเปื่อย
หนุ่ยเดินลงจากแผงตรงมาที่ร้าน
"เอ๋ซื้อเหล้าหน่อย" เรากับพี่เพลินหัวเราะคิก หนุ่ยแปลกใจ
"มีอะไรกันเหรอ"
"เปล่า ก็แค่เดาไม่ผิดเท่านั้น จะเอาอะไรมั่ง" หนุ่ยล้วงเงินในกระเป๋ามานับ "มีแค่นี้เอง ได้อะไรมั่ง" เรานับดูแค่สองร้อย "ได้แค่กลมกับแบนมั๊งถ้าเป็นแม่โขง แต่ถ้าเป็นเหล้าขาวก็ได้เยอะ แล้วตังไปไหนหมด"
หนุ่ยเกาหัว "ก็ไปเที่ยวหมดไง ไอ้พวกนั้นมันพกมาแต่ค่ารถ เด็กนักเรียนจะมีตังเท่าไหร่กัน"
"เถ้าแก่หนุ่ยก็ต้องเลี้ยงสิ เป็นเจ้าของบ้านนี่" เราเดินไปหยิบเหล้าในร้าน พี่เพลินยืนมองเหมือนอยากจะช่วยเหลือ
ยื่นเหล้าให้หนุ่ยเงินที่เหลือก็พอจะได้ค่าโซดาบ้าง "เอ้าเราแถมน้ำแข็งกับโซดาให้ กินเสร็จก็เอาขวดโซดามาคืนนะ"
หนุ่ยรับ
"แล้วเอ๋ไม่กินด้วยกันเหรอ"
"คนจะกินเขาก็ยืนอยู่ข้างๆไง" เราชี้ไปที่พี่เพลิน"ไม่แน่นะอาจจะได้สปอนเซอร์ขวดต่อไปก็ได้" พี่เพลินยกมะเหงกใส่หน้าเรา
"พี่เพลินเลี้ยงเหล้าหน่อยสิ"หนุ่ยเหมือนรับมุขทัน "เดี๋ยวจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก" เข้าใจคิดนะเอาผู้ชายมาล่อให้กระเทยเลี้ยงเหล้า พี่เพลินกระบิดกระบวนเล็กน้อยก่อนเดินตามไปนั่ง เราไม่สนใจเดินเข้าร้านไปเปิดทีวีดูการ์ตูนตอนเย็นแทน เครื่องเสียงแผดเสียงลั่นในวงเหล้า ยังดีที่ยังไม่มืด พี่เพลินนั่งชนเหล้ากับผู้ชายท่าทางแกเซียนน่าดู ยกพรวดเดียวจนหมดแก้วแถมยังท้าคนโน้นคนนี้ จังหวะของเพลงเริ่มคึกคัก "บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก....หนึ่งในนั้นตะเบ็งเสียงแข่งกับเพลง แล้วพี่เพลินก็ต้องเสียค่าเหล้าจนได้ หนุ่ยวิ่งมากับพี โชว์แบงค์ห้าร้อยใส่หน้าเรา
"โตแล้วยังดูการ์ตูนอีก ไปกินเหล้ากันดีกว่า" เราจัดเหล้าตามวงเงินแล้วส่งให้ เก็บเงินใส่กระเป๋า
"ไม่กิน แต่จะกินอย่างอื่น" เราบอกหนุ่ยแต่ตามองไปที่พี
"งกไปได้ ใจไม่ถึงจะได้กินอย่างอื่นเร้อ" หนุ่ยแหย่ แล้วหอบเหล้าเดินกลับไป เราส่งสายตาให้พีอีกทีก่อนจะหยิบน้ำแข็งกับโซดาใส่ถุงให้
"เอ๋ไปนั่งด้วยกันสิ" พีชวนอีกครั้ง
"อยากกินกับพีสองคนมากกว่า"
"ว้าเพื่อนก็ว่าเอาสิ แล้วนี่ไม่เก็บร้านกลับบ้านเหรอ"
"ไม่กลับจะนอนที่นี่ นอนด้วยกันมั๊ยหล่ะ"
"ไม่อาว กัว" พี่หิ้วโซดากับน้ำแข็งตามหนุ่ยไป อีกพักพี่เพลินก็เดินเข้ามาหน้าแดงกล่ำ
"นี่เอ๋ไปช่วยหน่อยสิ เด็กเวรกินกันเก่งชิบหาย เหล้าจะหมดอีกแล้ว"
"พี่ก็ชวนไปต่อที่บ้านสิ เอ๋ไม่เอาหรอกเดี๋ยวกินกันเลยเถิดเก็บเงินไม่ได้เตี่ยด่าแน่ "
"พี่เพลินนั่งกุมขมับที่เก้าอี้"
"เมาแล้วเหรอพี่ กลับไหวรึเปล่า" รู้สึกเป็นห่วงแกซ้ำยังเสียดายเงินแทน
"พี่เพลินอยู่ไหนเหล้าหมดแล้วครับ" หนุ่ยเดินเข้ามานั่งที่เท้าแขนบีบนวดพี่เพลินเหมือนเอาใจ
"เหล้าหมดก็พอสิหนุ่ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกินต่อ" พี่เพลินพูดทั้งๆหลับตา "พรุ่งนี้ก็กลับกันหมดแล้ว นะพี่เพลิน นะนะ" พี่เพลินใจอ่อนหยิบเงินให้อีก อะไรดลใจแกนี่แป็บเดียวเงินหมดเป็นพันแล้วโดยไม่ได้อะไร หนุ่ยได้ของก็เดินกลับวงเหล้า
"พี่เพลิน" พี่เพลินโบกมือ
"ไม่เป็นไรหรอกเอ๋ เมื่อวานเพิ่งถูกหวย"
"แต่ว่า"
"อย่าคิดว่าเสียเปรียบสิ คิดว่าผูกมิตรไปก่อน ผู้ชายยังมีอีกหลายรูปแบบ เรื่องเล็ก" พี่เพลินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำแล้วกลับไปกินต่อ เรานึกโทษตัวเองที่ไม่น่าชี้โพรงให้กระรอกเลย นึกแล้วเซ็งลุกขึ้นเก็บของเข้าร้านปิดประตูจนเหลือด้านเดียวแล้วเดินไปที่วงเหล้านั่งลงข้างๆพี่เพลิน ดุแกสนุกมากเวลากินเหล้ากับผู้ชายเราไม่เคยเห็นพี่เพลินเวลาเมาดูแกน่ารักดีจริตจะก้านแพรวพราวเหมือนสาวน้อย แกคงมีความสุข
"พี่เพลิน เอ๋ปิดร้านนะพี่จะกินต่ออีกนานรึเปล่า"
"นั่งก่อนนั่งก่อน ของเหลือตั้งเยอะ" พี่เพลินดึงแขนเรานั่งใกล้ๆ วงเหล้าอนาถานั่งกินกันบนแผงขายของ พียื่นแก้วที่กำลังกินอยู่ให้เรา ร้านใกล้ๆกันปิดหมดแล้วค่อยสบายใจหน่อย จิบนิดเดียวแล้วส่งแก้วคืน
"ไม่ไหว เอาอีกเอาอีก " ทุกคนส่งเสียงเชียร์พีเอามือดันแก้วใส่ปากเรา กลั้นหายใจยกจนหมด ไม่ไหวแล้ว
"พอแล้วๆ " เราโบกมือเมื่อเห็นแก้วที่สองลอยมาอีก
"อีกแก้วนะ แก้วแรกจะมันจะมึนแต่แก้วต่อไปจะดีขึ้น"เราหน้าตาเหยเก ยกจนหมดไปอีกจนได้
"เนี่ยแก้วที่สามจะได้คล่องคอ" ตามมาอีกจนได้อีกหลายแก้ว นีทันมอมกันนี่หว่า มึนหัวเลยเราห่างเหล้ามานานแล้ว ยกมือ"ไม่ไหวแล้ว" เราลุกขึ้นยืนโงนเงนเหมือนจะล้ม ตัวร้อนผ่าว "ไปแล้วไม่ไหวแล้ว" เราประคองตัวเองให้ลุกแล้วก้าวลงจากแผง เซนิดๆ "อ้าวเอ๋เป็นอะไร" พี่เพลินไม่เมา
"พีไปส่งหน่อยซิ เดี๋ยวมันล้ม" เราโบกมือ
"ไม่ต้องหรอก ไม่ได้เมาเท่าไหร่ พีไปกินต่อเถอะ" พีประคองเราให้นั่งที่เก้าอี้ในร้าน
"ไม่ได้เมา แกล้งเมาจะได้หยุดกินต่างหาก"เราสะบัดหน้าแรงๆ แล้วลุกขึ้นเดินเซเข้าห้องน้ำ พียังเดินตามมากลัวว่าเราจะล้ม
"เอ๋นายเมานี่ ยังจะปากแข็งอีกคออ่อนหว่ะ แล้วเป็นเพื่อนไอ้หนุ่ยได้ไงเนี่ย" น้ำเย็นๆล้างหน้าแล้วดีขึ้นเล็กน้อย เราเช็ดหน้าแล้วเดินไปที่ประตู พีกำลังจะเดินออกจากร้าน เราก็เอาตัวกันทางออกไว้ ประตูเหล็กเปิดแค่พอคนเข้ามาได้
"เราจะไปกินเหล้าต่อแล้ว"
"แต่เราอยากกินพี" เราบีบที่เป้าเขา พีปัดมือเราออก
"บ้าน่า" เขาดันตัวเราให้พ้นประตูแล้วเบี่ยงตัวออกไป เราไม่เคยถูกผู้ชายปฎิเสธรู้สึกเสียหน้าอย่างแรง เลยปิดประตูบ้านเสียงดังแล้ววิ่งขึ้นข้างบนทันที ไม่ห่งไม่ห่วงแล้วพี่เพลิน ซุกหน้าลงกับหมอนโกรธจนนอนไม่หลับ............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

57. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:01 PM (SE Asia Standard Time)
 
   57
พี่เพลินมากดออดอยู่ข้างล่าง เราต้องจำใจลงมาเปิดประตูให้
"เอ๋ขอเข้าห้องน้ำหน่อย" วงเหล้าเริ่มสลายตัวแล้ว หนุ่ยกับพี กำลังเก็บของส่วนอีกสี่คนนั่งรออยู่ช้างๆรถมอเตอร์ไซค์พี่เพลิน เราแง้มประตูแล้วเดินไปเก็บขวดโซดา ยังคงโกรธที่เสียหน้า บ้านหนุ่ยอยู่หลังตลาด เดินจากนี้ไปไม่ไกล
"เฮ้ยพวกมึงเดินไปก่อน ไม่ต้องรอกูก็ได้" หนุ่ยตะโกนบอกเขาต้องเก็บของให้เรียบร้อยทุกวันไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะเสียเวลาเพราะผลไม้จะมาส่งประมาณตีสี่ ขวดโซดากลิ้งไปคนละมุมกว่าจะรวบได้ครบ พี่เพลินก็เสร็จธุระพอดี
"พี่เพลินขับรถไหวมั๊ย"
"โอ๊ยสบายยิ่งกินยิ่งสร่าง" แกขับรถกลับบ้านไปแล้วตอนนั้นยังไม่ดึกมากแค่สี่ทุ่ม เราเดินกลับเข้าร้านกำลังจะปิดประตู หนุ่ยก็เดินมาหา
"เอ๋วันนี้ขอได้มั๊ยวะ อยากมากเลย"
"แล้วเพื่อนนายหล่ะ" เราถามเบาๆ "เดี๋ยวก็ไล่มันกลับไปก่อนไง เราขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ" หนุ่ยเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว พียังนั่งเล่นที่เก้าอี้หน้าร้านทำเฉย
"พีกลับไปก่อนสิเดี๋ยวหนุ่ยตามไป มันปวดท้อง"
"รอได้ เป็นห่วงเพื่อน" เรานึกในใจน่าห่วงตาเพื่อนตัวดี พีมองหน้าเราอย่างรู้ทัน แล้วก็ผิวปาก หมั้นไส้นัก หนุ่ยเสร็จธุระแล้วก็ออกมา
"พีมึงเดินไปก่อนไป กูมีเรื่องจะคุยกับเอ๋มัน"
"เรื่องอะไรวะ มึงก็คุยไปสิ"
พีเดินเข้ามาในร้าน ยืนมองหน้าเรากับหนุ่ย "พวกมึงจะเล่นอะไรกัน"
เรามองหน้าทั้งคู่ "คุยกันไม่รู้เรื่องก็กลับกันทั้งคู่นั่นแหละ"
เราเดินไปที่ประตู หนุ่ยวิ่งขึ้นบันไดไปแล้ว พีก็วิ่งตาม เราปิดประตู นึกงงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เหล้าขวดแบ่งขายที่เหลือหยิบติดมือขึ้นไปพร้อมขวดน้ำ วางไว้ตรงหน้า หนุ่ยเปิดเพลงนอนผังอย่างสบายอารมณ์ พีนั่งซดเราต่อจนหมด เรานั่งอยู่ตรงกันข้าม สักพักพีก็ลุกขึ้นถอดเสื้อถอดกางเกง
"ไอ้หนุ่ยกูก่อนนะ" แล้วพีก็ผลักเราลงไปที่พื้น หนุ่ยลุกจากเตียงมาช่วยจับตัวเราคว่ำ
"หนุ่ย ทำดีๆก็ได้ ไม่ต้องบังคับ"
"มันไม่สนุกต้อง แบบนี้ถึงจะมัน" ....

เราดิ้นจากการจับกุมของหนุ่ยแล้วถอยไปชิดฝา
"ไม่เอา ไม่เล่นแบบนี้นะหนุ่ย" หอบหายใจแฮ่กๆ เหนื่อยเพราะดิ้น "เล่นแบบนี้ลงไปเลย ไม่คุยด้วยแล้ว" เราออกปากไล่
"นึกว่าจะแน่" รู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ ไอ้หนุ่ยก็เพื่อนกันเห็นหน้ากันทุกวันยังเล่นพิเรนอีก
"เอ๋ จะเล่นตัวไปทำไมวะ "หนุ่ยยังไม่ลดละ " "เห็นมั๊ยพีมันพร้อมแล้ว" พีเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว
"ก็แกเล่นพิเรนทำไมหล่ะ เรื่องอะไรจะมาเซ็กส์หมู่"
"เฮ้ยพี เอาไงวะ"
"ก็เอ๋มันไม่เอาด้วยนี่หว่า หมดอารมณ์หว่ะ" เราเองเห็นหน้าพีก็นึกเสียดายแต่มันไม่ไหว ถ้าต้องโดนรุมแบบนี้ หุ่นสูงผอมเพรียว หน้าแนวติส ผมเผ้าไม่รุงรังอย่างหนุ่ย
เราทั้งสามนั่งเผชิญหน้ากัน
"เราเล่นด้วยก็ได้ แต่ต้องทีละคน พีว่าไงหล่ะ ให้หนุ่ยกลับบ้านไปก่อน" ยื่นไม้ตายโดยไม่ได้หวังอะไรมาก
"อ้าวไหงพูดงั้นหล่ะ เราเป็นคนชวนมันมานี่นา" เราทั้งสามต่างเมากันได้ที่
"งั้นแกก็ไปรอข้างล่างสิ"
"มันจะยากอะไร ปิดไฟก็สิ้นเรื่อง"พีคงคิดว่าเราอาย หยิบแก้วเหล้าวางไว้ชิดฝาแล้วเอื้อมมือปิดไฟ ท่ามกลางความมืด พีขยับตัวเข้ามาหาเราแล้วจูบปากมือของเราล้วงเข้าไปในกางเกงในเขาทันที เคยาวไม่อวบอ้วนเหมือนที่เคยโดน ท่ามกลางความมืดนั้น เราค่อยๆกลืนกินมันเข้าไปช้าๆ พีกดหัวเราเป็นจังหวะพร้อมเด้งสวน แล้วก็ชวนเราขึ้นไปที่เตียง หนุ่ยนอนรออยู่ข้างๆ เอามือเราไปรูดเคมัน เราโดนพีจับขายกขึ้นพาดแล้วแทงเข้ามา ตัวผอมดูคล่องแคล่วเร็วและหัว เขาหอบหายใจถี่ เรากลับเฉยๆเหมือนไม่สะใจ รู้สึกแค่เพลินๆเท่านั้น
"เอ๋ ทำเองหน่อยเหนื่อยแล้ว" เขาจับเราพลิกนั่ง "ระวังเดี๋ยวหลุด เราก็ขย่มต่อยังไงก็ไม่เสร็จ ร้อนไปหมด หนุ่ยรอจนหลับไปแล้ว
"พีลงไปข้างล่างเถอะ ร้อน อยากอาบน้ำ"
เราทั้งคู้นั่งอยู่ด้วยกันในห้องน้ำ อาบน้ำทำความสะอาดให้พี
"ดูดอีกทีสิเผื่อเสร็จ" เคของพียังกระดกอยู่ไปมา " ทำไมมันค้างอย่างนี้หละ"
"เป็นงี้ทุกทีกินเหล้าแล้วทำไงก็ไม่เสร็จ" เรารู้สึกเห็นใจเขาจริงๆ พียืนรูดช่วยตัวเองอยู่ตั้งนาน แล้วก็ตามเราขึ้นข้างบนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ หลับไปทั้งๆที่ยังคงแข็งตัวอยู่อย่างนั้น หนุ่ยนอนกรนไปแล้ว พีกระซิบข้างๆหูว่า
"พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปลองเอากันดูอีกทีนะ"
"ไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องขายของ"
"พีกลับกี่โมงหล่ะ"
"ตอนเกลางคืนสี่ทุ่ม"
ถ้าปล่อยไว้นานอารมณ์ก็ไม่ต่อเนื่องแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อผู้ชายไม่เสร็จคงได้แค่กุมมันไว้อย่างนั้น แล้วทิ้งตัวลงนอน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีสี่เหมือนเคย.............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

58. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:03 PM (SE Asia Standard Time)
 
   58
ทั้งสามคนงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก เราเขย่าตัวทั้งคู่ให้ตื่นอย่างเร็วที่สุดแล้วรีบลงไปเปิดประตูให้ทั้งสองออกจากร้าน หมดอารมณ์จะต่อแล้ว เตี่ยกับแม่จะมาร้าน ราวๆตีสี่ครึ่ง
"เอ๋ ไม่ต่อก่อนเหรอ" พีถามก่อนออกจากร้าน
"ไว้วันหลังเถอะ เรากลัวเตี่ยกับแม่มาเจอ" อากาศข้างนอกเย็นมาก หนุ่ยเดินไปที่แผงนั่งรอเปิดร้าน เรารีบขึ้นข้างบนเก็บที่นอนและทำความสะอาดห้อง ผ้าปูที่นอนหลุดลุ่ยเก็บเตียงเสร็จเตี่ยก็เปิดประตูพอดี รีบลงมารายงานตัว
"เอ๋ ทำไมไม่ไปนอนบ้าน " เรากลับดึกบ่อยจนเตี่ยไม่รู้ว่าเราอยู่ไม่อยู่เพราะถ้ากลับบ้านก็จะขลุกอยู่แต่ในห้อง ช่วยเตี่ยขยับแผงหน้าร้านแล้วเรียงของ พียังนั่งอยู่ที่เดิม คงหายง่วงแล้วจัดของเสร็จเราก็ไปซื้อกาแฟให้เตี่ย เลยถือโอกาสซื้อมาเผื่อทั้งคู่ด้วย ปาท่องโก๋กับกาแฟร้อนๆคงทำให้หายง่วงได้
"ขอบใจ" พีรับไปกินกับหนุ่ย เรากลับเข้าไปในร้านหยิบเงินขายของได้ให้เตี่ย
"ใครมาซื้อเหรอ เยอะแยะเลย"
"พวกไอ้หนุ่ยมันกินเหล้ากันตอนเย็นนะเตี่ย"
"แล้วลื้อกินกับเขารึเปล่า" เรายังไม่ได้ตอบเตี่ยก็ให้โอวาทเลย" อย่าริกินเหล้า มันไม่ดี เพื่อนคนไหนมันกินเหล้าก็หลีกให้ห่าง" เรายืนฟังไปจัดร้านไปนึกเถียงเตี่ยในใจ ถ้าไม่คบเพื่อนกินเราแล้วมันจะได้เหรอ แม่พาน้องมาตอนหกโมงเช้า หนุ่ยกับพีกำลังช่วยแม่ขายผลไม้ เช้านี้ตลาดค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษ ยุ่งจนลืมที่จะคุยกับพีต่อ จนสายเราก็ง่วงเลยขอเตี่ยไปนอนที่บ้าน เราแกล้งเดินเฉียดไปที่แผงผลไม้ยืนใกล้ๆพี
"จะกลับบ้าน ไปด้วยกันรึเปล่า" พยายามไม่ให้หนุ่ยผิดสังเกตุ พีมองหน้าเราเหมือนไม่แน่ใจ ทำท่าจะปฎิเสธอีกรอบ เรายักไหล่ "ไม่ไปก็ไม่ไป" ไม่เห็นจะง้อเลย เด็กๆ เราเลยขับรถกลับบ้านคนเดียว ไอ้ตั้มเพิ่งมาถึงบ้านอายังไม่เข้าไปข้างใน เรากวักมือเรียกมัน อารมณ์ค้างตั้งแต่เมือคืนเจอเหยื่อจนได้
"มีอะไรวะ" เราลากแขนมันเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตู ผลักมันลงบนโซฟาแล้วคร่อมตัวมันไว้
"มึงเล่นอะไร เอ๋" ไอ้ตั้มยังงง
"ตั้ม กูอยากช่วยกูหน่อยสิ" เราจูบไซ้ที่ซอกคอมัน ไอ้ตั้มดันหน้าเราออก "มึงอย่ามาแกล้งกูเลย กูมาหามึงเมื่อคืนมึงก็ไม่อยู่ ลุกๆจะไปทำงาน" ไอ้ตั้มดันตัวเราออก แล้วมันก็ลุกขึ้น เรากอดมันไว้ข้างหลัง สะกิดหัวนมมันเบาๆ
"เอ๋ เดี๋ยวกูสาย มึงเป็นอะไรวะ" มือเราล้วงเข้าไปในกางเกงเดี๋ยวกูสาย แต่ค-ยแข็งโด่ เราขี้เกียจขอมันจับมันหันหน้ามาแล้วก้มหน้าลงไปดูดทันที อาบน้ำมาใหม่ซะด้วยหอมไปทั้งพวงเลย ตั้มซีดซะลั่นเพราะนานแล้วที่ไม่ได้มีอะไรกัน
"เอ๋ กูจะแตกแล้ว" พูดไม่ทันขาดคำตั้มก็งอตัว เราถอนปากออก หยดแรกกระเด็นหัว ไอ้ตั้มเหมือนโรคจิตเอาน้ำมาละเลงใส่หัวเรา
"ไอ้บ้า" เราเอามือปาดน้ำว่าวไอ้ตั้มออกจากผม มันรีบใส่กางเกงแล้วผิวปากเดินออกไป เราตะโกนเรียกให้มันหยุด
"อะไรอีกวะ" ตั้มทำหน้ากวนตีน
"มึงลืมอะไรรึเปล่า" เราหน้าด้านซะแล้ว
"ลืมอะไร"มันยิ่งสงสัยหนัก
"ยังไม่ได้เอาเลย"เราบอกไปตรงๆเราเซ้าซี้
"อะไรวะดูดแล้วนี่" วันนี้ไอ้ตั้มทาแป้งซะหล่อยิ่งกระตุ้นอารมณ์อยากมากขึ้น "เอาให้หน่อย"
"มันหดแล้ว เดี๋ยวก่อนกลับบ้านจะมาเอาให้" ตั้มพูดเสร็จก็เดินไปทำงานทิ้งเรายืนเงี่ยนอยู่ตรงนั้น หมดหนทางก็ต้องช่วยตัวเองจนได้ไม่อยากจะทำเลยจริงๆ ซี๊ด อา....
ไม่ต้องรอถึงเย็นเที่ยงตั้มก็เข้ามาหา เรานอนหลับอยู่บนดซฟา
"เอ๋ขึ้นห้อง" เรางอนแล้วพลิกตัวหนี ตั้มปิดประตูแล้วถอดกางเกงออกทั้งของเราและของมัน
"ไงเงี่ยนนักเหรอ" มันสอดเข้ามาแรงๆ มันจริงๆ เราครางเสียงดังจนไอ้ตั้มต้องเอามือปิดปากแล้วขักเคออก "ไปข้างบนเถอะเอ๋เร็ว" ตั้มหอบเสื้อผ้าวิ่งไปรอที่ห้องแล้ว มันจับเราโก้งโกค้งแล้วยืนสอยจนเสร็จ ...ค่อยยังชั่ว นอนแผ่สองสลึงทั้งคู่ก่อนจะแยกย้ายจากกัน เราไปตลาดขายของตอนบ่าย อย่างอารมณ์ดี.............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

59. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:04 PM (SE Asia Standard Time)
 
   59
หนุ่มๆจากกรุงเทพฯกลับไปหมดแล้วทิ้งไว้แต่ความเสียดายทั้งเราและพี่เพลิน แต่เรายังโชคดีกว่าพี่เพลินที่อย่างน้อยยังได้มาคน หนุ่ยก็กลับไปพร้อมกับเพื่อนๆ ไม่ได้มาสั่งลาเรา ชีวิตก็กลับคืนมาสู่ความเงียบเหงาอีกครั้งอีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ยังไม่ได้ตอบพี่โด่งเรื่องเที่ยวเชียงใหม่ แกเองก็เงียบ เรานึกในใจว่าคงจะมีคนไปแทนเราแล้ว
แม่อนุญาตตั้งแต่ขอ เราเองก็พอมีเงินเดือนจากการช่วยขายของบ้างไม่มีปัญหาที่จะไปเที่ยว โทรหาพี่โด่งตอนกลางคืนเสียงแกงัวเงีย
"พี่โด่ง เรื่องไปเชียงใหม่ว่าไง"
"มะรืนนี้ก็ไปแล้ว แล้วนี่ทำไมเพิ่งตอบมา"
"พี่มีคนไปด้วยแล้วเหรอ"
"ไม่มี คืนนี้นั่งรถมาที่กรุงเทพฯได้มั๊ย ตอนเช้าพี่จะไปรับที่หมอชิต" กระทันหันจริงๆ
"ทำไมต้องไปก่อนด้วยหล่ะ"
"อย่าโยกโย้บอกมาก็มา" เสียงเหมือนดุเล็กน้อย กระทันหันอย่างนี้เตี่ยกับแม่ก็ด่าเปิง พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เรากลับไปเก็ยของแล้วแวะซื้อตั๋วรถทัวร์ กว่ารถจะออกก็ห้าทุ่ม อำเภอเราเป็นทางผ่านแต่ไม่ใช่ต้นสาย รถทัวร์จะกันที่ไว้เที่ยวละสี่ถึงห้าที่นั่งตามยอดคนจอง เตี่ยมาส่งที่ท่า
"ไปเที่ยวระวังตัวนะลูก"แกลูบหัวเบาๆ เตี่ยไม่ค่อยอยากให้ไป เราบอกว่าเราโตแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง ลูกทุกคนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนถ้าเตี่ยกับแม่ไม่พาไปแต่โอกาสจะมีได้ยังในเมื่อต้องเปิดร้านทุกวัน บางทีวันสะดวกก็ไปกันได้ไม่ครบ รถทัวร์มาแล้วเราถูกพาไปนั่งด้านในสุดข้างหลังเป็นห้องน้ำ มีคนนั่งติดหน้าต่างแล้วเสียดายจริงๆ เราชอบนั่งติดหน้าต่าง อีกฝั่งเป็นสองผัวเมียนอนเหยียดยาว เขาหันมาเก็บของที่วางไว้บนที่นั่งเราออก หน้าตาหล่อดี เรายิ้มให้ตามมารยาท แต่เขาไม่ยักกะยิ้ม คงเป็นนักศึกษากลับบ้านมั๊ง รถเคลื่อนตัวออกจากท่าเรารับผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ แล่นมาได้สักพักรถก็ดับไฟ เราปรับพนักได้เล็กน้อยเท่านั้นเพราะติดฝาห้องน้ำ แล้วมองไปที่คนข้างๆก่อนหลับตาเห็นเขามองความมืดอยู่ด้านนอก หน้าหนาวแอร์ในรถทัวร์ยิ่งหนาว เราหยิบเสื้อกันหนาวในเป้มาใส่ หนาวขาด้วย หนาวจนนอนไม่หลับแฮะ หนุ่มข้างๆหลับไปแล้วหัวมาพาดที่ไหล่เรา เราต้องคอยหลบเพราะรำคาญเล็กน้อยบางครั้งเขาก็รู้ตัวรีบเอาหัวกลับ เรารู้สึกตัวแล้วนอนไม่หลับ เลยหยั่งเชิงเบียดตัวให้ชิดกลับเขา เขาก็รู้ตัวเหมือนกันว่าเราคิดอะไร
คราวนี้เอาหัวมาพิงไหล่เราเลยเต็มๆ มือวางทับกันบนที่เท้าแขนเราเองก็แกล้งหลับแล้วทำมือตกไปที่ตัวเขา เขาเองก็ไม่เอาออก นานเข้าก็แกล้งนอนไม่รู้เรื่องจนมือไปวางที่เป้าพอดี เขาเหมือนรูสึกตัวเรารู้สึกได้ที่หน้าเพราะลมหายใจอุ่นมันรดที่แก้มแต่เรายังหลับตาอยู่ เขาจับมือเราขึ้นแล้วเอาผ้าห่มของเขามาคลุมมือเราตอนนี้มือวางอยู่บนเป้ากางเกงแล้ว ทำไงดีวะเนี่ยไม่รู้จักกันเลย เป้ามันตุงๆแล้วด้วย เขาขยุกขยิกที่เป้ารูดซิบออกแล้วเอามือเราสอดไว้ข้างในกางเกงกดมือเราลงไปในกางเกงใน ตายแล้วนี่เขาจะทำอะไร เขากำกับมือเราเป็นจังหวะ เคอุ่นๆกระดกตัวรับอุ้งมือมันคงอึดอัดเล็กน้อย เราเลยลืมตาขึ้นมาหันหน้าไปดูเขาก็มองหน้าเหมือนหยั่งเชิง แต่ไม่พูดอะไรนอกจากยกตัวขึ้นรูดกางเกงลงจนทั้งพวงเป็นอิสระ มือเรายังกุมอยู่ค่อยๆรูด ค่อยๆรูดมันช้าๆ เขาหลบสายตาเราเสมองไปที่ด้านนอก เรารูดไปเรื่อยๆ จนมันแข็งตัวเต็มที่ แล้วเอนหัวไปพิงที่ไหล่เขา อยากเห็นหน้าตามันจังเลย จินตนาการไปตามที่สัมผัส ขนบางๆ เคอวบๆ ไม่สั้นไม่ยาว ไข่ใบโต เขากุมมือเราอีกครั้ง กำกับเองรูดขึ้นรูดลงคราวนี้หันมามองหน้าเราอีกและก็ยิ้ง เราหันไปดูเบาะข้างๆเห็นนอนกันหลับสนิท เราลองจูบที่แก้มเขา เขาก็เอียงคอให้จูบอีก เออะไรกันเนี่ย เขาเอียงหน้ามาเลียที่หู แล้วกระซิบเบาๆ
"ดูดมั๊ย" ไม่ต้องรอคำตอบเนาโอบมาที่ไหล่แล้วดันให้เราก้มตัวลงไปหา เรามุดเข้าไปในผ้าห่ม ค่อนข้างทุลักทุเล เพราะติดที่เท้าแขน เขาแอ่นตัวขึ้นมารอ เราเลียที่ปลายมันเยิ้มได้ที่แล้ว ดูดเบาๆเขากระดกตัวตามเนจังหวะไม่นานเราก็ได้กลิ่นคาวๆลอยมารีบดึงหน้าออกแล้วเอามือกระตุกให้ไม่นานทำนบก็พัง ชายผ้าห่มคือที่ทำความสะอาด เช็ดจนแห้งก็เขาก็เก็บมันไว้เหมือนเดิมเราหันหน้าไปนอนพิงขอบหน้าต่างต่อ รถวิ่งมาได้ระยะก็ถึงที่พักกินข้าว ไฟในรถสว่าง เรามองหน้าเขาแล้วรู้สึกอาย ควรจะพูดอะไรดีมั๊ย เขาไม่พูดอะไรเราก็เลยลงไปข้างล่าง เอาคูปองแลกของกิน เขาเดินตามมาห่างๆ แล้วมานั่งด้วยโตะของเรามีแค่เรากับเขา เขากินข้าวแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพอเรามองหน้าเขาก็อมยิ้ม เรารู้สึกเขินจริงๆ ซื้อขนมกับหมากฝรั่งส่วนตัวเขาก็แวะไปเข้าห้องน้ำ เราขึ้นไปรอในรถแล้วส่วนเขายังยืนสูบบุหรี่อยุ่ข้างล่างต่อจนหมดมวนถึงเดินขึ้นมานั่งที่เดิม ไฟในรถยังไม่ดับมองหน้ากันสักพักเราก็ยื่นหมากฝรั่งให้ เขารับไปเคี้ยว
"นายจะไปไหนเหรอ" ลองถามดูกลัวเหมือนกันว่าจะไม่ตอบ
"กลับกรุงเทพฯ " ตอบสั้นๆ "แล้วนายหล่ะ"
"ไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ" เราพูดกันไม่ดังมาก ก็พอรู้เรื่องเป็นว่าเขาสอบได้ที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดเราแล้วจะกลับบ้านตอนปีใหม่ ไฟในรถดับอีกแล้วต่างคนต่างนอนจนเกือบตีห้ารถก็เข้าสู่รังสิต คนในรถลงข้างมางเยอะเบาะหน้าและเบาะข้างไปหมดแล้ว รถก็เปิดไฟ เห็นหน้ากันชัดขึ้นอีกรอบ
"ไง จะลงที่ไหน" เขาถามเราเบาๆ เรายังอยากอยู่แกล้งสอดมือเข้าไปในผ้าห่มบีบที่เป้าเบาๆ เขาตีมือพอดีพนักงานมาเก็บผ้าห่มก็ต้องชักมือออก พนักงานเดินผ่านไปแล้วเอาก็สะกิดเราแล้วเอามือบีบตามเคนอกกางเกง มันอัดแน่นแทบจะดันกางเกงออกมาให้ได้ เรามองอย่างน้ำลายสอ รถมาถึงกอนเวลาเร็วมากฟ้ายังไม่สว่างเลย แล้วพี่โด่งจะมากี่โมง หมอชิตเก่าไม่ค่อยมีที่ทางมากนัก เรายังยืนอยู่ด้วยกัน ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน อยากไปต่อแต่ก็กลัวทั้งพี่โด่งจะไม่เจอและกลัวว่าเขาจะอันตราย ทั้งๆที่ตัวเราอันตรายกว่า
"นายชื่ออะไร เราชื่อเอ๋" เราถาม
" เราชื่อพัฒน์" เขายังเดินตามเราอยู่
"แล้วเราจะติดต่อกันได้มั๊ย" จีบผู้ชายเข้าแล้วสิเรา
"ได้สิ ไปหาเราที่หอสิ"เขาพูดถึงหอพักในมหาวิทยาลัย
"แล้วจะไปหาได้ยังไงหล่ะ" เขาเขียนเบอร์โทรให้ เราก็เขียนเบอร์เราให้เหมือนกัน
"โรไปนะ ถ้าจะไปหา" รถเมล์ของเขาเคลื่อนตัวเข้ามาที่ป้าย เขาตบไหล่แล้วบอก" ไปก่อนนะ อย่าลืมโทรหาหล่ะ อยู่ใกล้ๆกันแค่นี้เอง" เขานั่งติดหน้าต่างส่งยิ้มให้ก่อนรถจะออก เราเดินหาตู้โทรศัพท์อยู่นาน โทรหาพี่โด่ง แกนัดให้เรารอที่ป้ายรถเมล์แถวประตูแรกของหมอชิต จริงๆเรานั่งรถเมล์ไปก็ได้ แต่แกบอกให้รอ ยืนรอจนเกือบหกโมง รถพี่โด่งก็มาจอดต่อหน้า พี่โด่งดูเหมือนน้าหนักขึ้นไม่เจอกันหลายเดือน นั่งประจำที่ได้แล้วก็คว้าหมับ
"ฮั่นแน่ คิดถึงมันละสิ" พี่โด่งหัวเราะแล้วตีหัวเราเบาๆ
"ไปเชียงใหม่วันไหนพี่" เราถามแก
"วันที่28"พี่โด่งตอบแล้วเชี่ยงรถออกเลนที่จะไปฝั่งธน
"อีกตั้งสองวัน"
"รอไม่ไหวแล้ว มาหาก่อนสิ"
"แล้วพี่ทำไมไม่ไปหาหล่ะ" เราหันหน้าไปถาม
"ก็อยากจะลองใจเอ๋ไง ว่าจะมาจริงรึเปล่า นี่ถ้าเอ๋ไม่โทรมา ก็จะชวนอีพงษ์ไปด้วยแล้ว"
"ลองชวนดูสิ จะโกรธ" เราบีบมือที่เป้าแรงๆ พี่โด่งร้องจ๊าก
"กลัวแล้วครับ" แกมองหน้าเราอีกครั้ง
"ไม่เจอกันนาน คิดถึงนะ" พี่โด่งหันมาหวานใส่ พร้อมรอยยิ้มที่คุ้นตา.......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

60. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:05 PM (SE Asia Standard Time)
 
   60
เช้าวันเสาร์อพาร์ตเมนท์ค่อนข้างเงียบ ทุกห้องคงยังนอนอยู่ พี่โด่งไขกุญแจเขเช้าห้องเบาๆ ทันทีที่เปิดประตูห้อง ลมแทบจับห้องรกมากหนังสือพิมพ์วางอยู่ไปทั่วทุกมุมห้อง เสื้อผ้าก็ยังไม่ซัก ไหนจะขวดเบียร์ที่ระเบียงอีก ห้องน้ำก็เปื้อนเป็นคราบดำๆที่พื้น จานข้าวกินแล้ววางกองสุมกันอยู่
"พี่โด่งอะไรเนี่ย" มองไปบนที่นอนก็รก
"ขอโทษทีพักนี้ฉลองกันทุกวัน เมื่อคืนก็เพิ่งกินกันมันหนาวก็เลยกินเหล้ากัน" พี่โด่งเดินเก็บกวาด เราเดินไปจัดการเก็บขวดเหล้าขวดเบียร์หลังห้องใส่ถุงออกไปทิ้ง แล้วก็ล้างจานเก็บเพราะมันเริ่มส่งกลิ่นแล้ว หน้างอไม่พูดไม่จาพี่โด่งเก็บของในห้องแต่ดูเหมือนยิ่งเก็บก็จะยิ่งรก ย้ายจากตรงโน้นก็ไปกองตรงนี้ ของมันเยอะจริงๆ ล้างถ้วยเสร็จก็จัดการซักผ้าต่อ โยนผ้าลงถังตั้งเวลา เสร็จก็ต้องเก้บเตียงดูแล้วตัวเองเหมือนซูเปอร์วูแม่น เราอยู่ไม่ได้แน่ถ้ารกอย่างนี้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ พี่โด่งมาเดินทำเกะกะเราก็ไล่ให้ไปดูโทรทัศน์ จัดการเก็บกวาดห้องนอนเสร็จ ก็ต่อที่หน้าทีวี วีดีโอที่เช่ามาดูวางระเกะระกะนอกกล่อง ปัดฝุ่นที่ชั้นทีวีแล้วจับตลับเทปใส่กล่องตามชื่อมัน เราค้อนพี่โด่งหลายที กวาดบ้านเสร็จฝุ่นเพียบ เอาม็อบมาถูสองรอบ พอดีผ้าก็ซักเสร็จ หยิบผ้าไปตาก แล้วก็ซักผ้าห่มผ้าปูที่นอนที่รื้อเมื่อกี๊ สุดท้ายก็คือห้องน้ำ นั่งขัดห้องน้ำอยู่นาน อุปกรณ์ก็มีพร้อมหมดวันละห้านาทีสิบนาทีก็ไม่ทำแล้วรับแขกกันยังไงนี่ ตู้เย็นก็มีแต่ของเหลือที่ไม่ได้เอาไปทิ้ง เอนี่พี่โด่งเป็นอะไรเหมือนไม่ใส่ใจห้องเลย เสร็จเอาเกือบบ่ายหหิวจนแสบท้อง เจ้าของห้องนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่โซฟา
"พี่โด่ง หิวข้าว" เราเขย่าตัวแก แกไม่ยอมตื่นเราก็ต้องลงไปซื้อข้าวหน้าอพาร์ทเมนท์ขึ้นมากินบนห้อง เทกับข้าวจัดโต๊ะเสร็จก็ต้องปลุกให้กินข้าว
"บอกให้มาหา แล้วก็มานอน" พี่โด่งหลับจริงๆ เรานั่งกินข้าวคนเดียวอย่างเหงาๆ พี่โด่งคงหนักจริงๆเมื่อคืนเราเชื่อสายตาแล้วว่าแกดูเหมือนจะฉุขึ้นเล็กน้อย กินข้าล้างจานเสร็จก็อาบน้ำ เราเหนื่อยในที่สุดก็นอนหลับอยู่ที่พื้นหน้าระเบียงหลัง
"เอ๋" พี่โด่งมาปลุก "มานอนทำไมที่พื้น ไปนอนบนเตียงสิ"
"นอนนี่แหละเย็นดี" เราหลับตานอนต่อพี่โด่งอุ้มเราขึ้นเดินไปที่เตียงนานแล้วที่ไม่มีใครอุ้ม เตี่ยอุ้มครั้งสุดท้ายก็ตอนนั่งดูทีวีจนหลับตอนนี้เตี่ยคงอุ้มไม่ไหวแล้ว วางเราบนเตียงพี่โด่งก็นอนทับลงมาลูบหน้าเรา
"บ้านก็ไม่เก็บอยู่ได้ยังไง"
"รอให้เมียมาเก็บ"
"โอ๊ย เมียที่ไหนจะมาเก็บให้ ใครเห็นก็วิ่งหนีหมดแหละ" เราหลับตาต่อเพราะเมื่อยจริงๆ อดนอนบนรถยังมมาเจองานหนักอีก
"เมียมาแล้วนี่ คิดถึงผัวมั๊ย" แกซุกหน้าที่ซอกคอตัวพี่โด่งหนักกว่าเดิม
"เมื่อกี๊ พี่โด่งพูดว่าไงนะ ใครเมีย" เรามองค้อน
"ก็นอนทับอยู่นี่ไง"
"ไม่เป็นหรอกเมีย ผัวอะไรไม่รู้ทิ้งขว้าง ได้แล้วก็เอาไปปล่อยที่บ้าน" เรามองหน้าพี่โด่ง แกจูบเราเบา
"เหนื่อยมั๊ย"
"เหนื่อยมาก เห็นหน้าพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว พี่เป็นไงบ้าง" พี่โด่งพลิกตัวลงนอนข้างๆ แล้วจับมือเรา
"ไม่รู้ส่งเอ๋แล้วพี่ก็ทำงานวันหยุดก็กลับไปนอนกับแม่ ชุดทำงานก็จ้างคนซัก ตกเย็นก็กินเหล้า"
"พี่เป็นอะไรเหรอ" เราพลิกตัวแนบหน้าที่อกเหมือนเคย
"คิดถึงเอ๋มั๊ง"
"ไม่เชื่อ คิดถึงทำไมไม่โทรหาบ่อยๆ"
"พี่สับสนว่า พี่ชอบผู้ชายด้วยกันรึเปล่า แต่แล้วพี่ก็ลืมไปว่าเอ๋เป็นผู้ชายทุกทีที่พี่โทรไปหา"
"พี่โด่งคิดอย่างนั้นเหรอ"
"ฮื่อ" เรานอนกอดพี่โด่งแน่นขึ้น
"พี่โด่งจะบังคับตัวเองทำไม พี่อยากทำอะไรก็ทำสิ ไม่เห็นต้องหลอกตัวเองเลยว่าใช่ไม่ใช่ พี่ตอบตัวเองให้ได้สิว่าพี่คิดอะไรต้องการอะไร อย่าเอาคำว่าผู้ชายผู้หญิงมาวัดเอ๋เลย เอ๋ลำบากใจที่จะฟัง" เราพูดได้เป็นวรรคเป็นเวรคงเพราะอ่านนิยายมาก เราชอบชีวิตของนิราจากใบไม้ที่ปลิดปลิวมาก เลยซึมซับความรู้สึกนึกคิดมาเยอะ แต่พี่โด่งไม่ใช่อาของเรา เรานิ่งกันไปทั้งคู่ไม่รู้ว่าพูดแรงเกินไปรึเปล่าเห็นพี่แกเงียบไปก็เลยพลิกตัวหันหลังให้แล้วหลับตานอนต่อ ทั้งห้องเงียบไปอึดใจก่อนพี่โด่งจะลุกขึ้นไปห้องน้ำ อาบน้ำอยู่นาน เราเองก็คิดว่าพูดอะไรผิดนอกจากพูดในสิ่งที่อยู่ในใจออกไปเท่านั้นถ้าหากพูดไปแล้วสิ่งที่ตั้งใจไว้จะเปลี่ยนไปคงไม่น่าเสียใจ เวลาห่างกันนานเหมือนกันมันพอที่ทำให้เราซึมซับกับความผิดหวังจนชินซะแล้ว เรื่องของเรากับพี่โด่งเรามองไม่ออกว่ามันจะดำเนินไปถึงไหน เหมือนกับเราเอาใจไปผูกไว้กับเขา และก็ดูเหมือนเขาอยากจะผูกใจเราไว้แต่ตัวเขาเองกลับมีเรื่องของความใช่ไม่ใช่มาคั่นไว้อีก พี่โด่งจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วก็ลงมานอนข้างๆอีกที
"เมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำ ไปล้างมาแล้ว แกจับมือเราไปจับเคแก"
เราพลิกตัวกลับอีกครั้งมองมือของตัวเองที่กุมลำของพี่โด่งอยู่ พี่โด่งดันเอวขึ้นเหมือนเตือน ก่อนที่จะจับหัวเราลงไปซุกที่ท่อน เราเลียที่ปลายช้าๆทักทายกับมันก่อนก่อนที่จะอมมันเข้าไปทีละนิด พี่เพลินคงนึกว่าเราไม่เคยดูดผู้ชายแกแนะนำให้อมเข้าไปให้ลึกที่สุดก่อนที่จะใช้ลิ้นตวัดไปมาในปาก เราทำตามถ้าเคไม่ยาวก็คงทำได้ง่ายแต่เคพี่โด่งมันยาว ทำได้ไม่นานก็เหมือนจะสำลักย้ำลายตัวเอง พี่โด่งดึงกางเกงเราออก
"ไหนดูสิ ยกเครื่องใหม่รึยัง แกตันเข้ามาแล้วมันบาดระริก
โคนพี่โด่งใหย่กว่าปลายถึงปลายจะเข้าง่ายแต่โคนก็ทำให้จุก พี่โด่งโยกเราท่าเดียวคือดันเข้าแรงๆจนแกเสร็จ ดึงมันออกแล้วก็นอนหงาย
เราไม่รู้สึกอะไรเลย คงเป็นเพราะเหนื่อย หรือเครียดกับความคิดตัวเองก็ไม่รู้ พี่โด่งเองก็เหมือนดูออก
"พี่ขอโทษนะที่ทำให้เอ๋ไม่สบายใจ"
"ไม่มีอะไรหรอกพี่" พี่โด่งเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับเรา
"สัญญาว่าจะไม่ทำให้งอนอีก รักพี่มั๊ย"
เราซุกหน้าที่อกปลือยแกอีกครั้ง
"รักที่สุด" เราบอกไปจากใจจริงของเรา
แต่ฉันยังนึกหวั่นเสมอ รักเธอเลือนเหมือนม่านบังตา บางวันฉันเฝ้าคอยหา เหนื่อยอุราพาให้อาวรณ์.......


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

61. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:06 PM (SE Asia Standard Time)
 
   61
"เมื่อไหร่นะพี่โด่งจะรักเอ๋เหมือนที่เอ๋รักพี่" เราถามกับพี่โด่งเบาๆใกล้ๆหูของแก ไม่มีคำตอบจากปากของพี่เขา มีเพียงสายตาที่มองมา ซึ่งไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลยสักนิด ความรู้สึกนั้นยังคงคุกรุ่นต้องการคำตอบจากปากพี่โด่ง จากใจเบื้องลึกของแกเท่านั้น
พี่โด่งมีเพียงสัมผัสเบาๆที่ไหล่ของเราเท่านั้น หากเป็นปัจจุบันแล้วเรามีคำตอบให้กับคำถามในวัยเด็กแล้ว ผู้ชายไม่สามารถบอกรักกับกระเทยหรอก ความรู้สึกที่เขามอบให้ได้คือความรู้สึกที่ดีเท่านั้น เหมือนกระเทยเป็นที่สงบ เป็นดินแดนแห่งความลับที่บางครั้งเขาอยากจะปลีกตัวมาพักผ่อน ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใข่แฟน ธรรมชาติของผู้ชายคงเป็นเหมือนกันหมดไม่อยากจะรู้สึกอ้างว้างและเหงาต่อหน้าผู้หญิงและเพื่อน กระเทยบางครั้งก็เป็นที่พักพิงใจของเขาได้บ้างก็เท่านั้น
เราทั้งคู่ออกจากบ้านเข้ากรุงเทพฯ ขับรถวนรอบสนามหลวงแล้วออกไปยังเยาวราช พี่โด่งจอดรถแถวที่ใกล้ร้านอาหารข้างทางแล้ว พาเราเดิน เยาวราชตอนนั้นไม่เหมือนตอนที่เตี่ยพามา แถวนั้นเราเรียกไม่ถูกจำได้ว่าเตี่ยจะมากับอาแปะเพื่อซื้อของที่ วรจักรแล้วแวะดูหนังที่โรงหนังกรุงเกษม กลางคืนก็จะพักที่โรงแรมไทเป เรานั่งกินข้าวกันพี่โด่งดูขรึมไปนิด เราเหลียวมองไปรอบๆร้านอาหารมากมาย มีแต่สิ่งที่น่าสนใจทั้งนั้น
"พี่โด่ง" เราเรียกความรู้สึกกลับคืนมานี่เรามาหาเขามาตามหาหัวใจตัวเองแล้วทำไมจะต้องเอาเรื่องอื่นมาทำให้หมดสนุกเนี่ย เราเรียกพี่โด่งให้กลับมาเป็นคนเดิมของเรา แกทำหน้าเหรอหรา พี่โด่งใจลอยไปถึงไหนนะ
"คิดอะไรอยู่เหรอ" เราลุกออกจากที่นั่งเดินดูโน่นดูนี่อยู่นานกว่าจะขึ้นรถ
"พี่โด่ง เอ๋ขอโทษนะ ที่อาจจะพูดอะไรบ้าๆออกไป" พี่โด่งละสายตาจากถนนเล้วหันมามอง
"เอ๋พูดอะไรไม่ดี เรื่องอะไรครับ คิดมากน่า พี่ไม่เป็นอะไรหรอก" แกขับรถไปเรื่อยๆแล้วลดความเร็วตอนข้ามสะพานพุทธ คนยืนเป็นระยะพร้อมคันเบ็ดยาวๆ ตกปลากันแปลกๆนะคนกรุงเทพฯนี่ รถมาถึงอพาร์ทเม้นท์ พี่โด่งอาบน้ำเสร็จก็เปิดทีวี รอเราอาบน้ำเสร็จต่อจากแก สภาพห้องดูน่าอยู่กว่าเมื่อเช้า
"พี่โด่ง ไม่เอาอย่าเงียบแบบนี้สิ พี่เป็นอะไร"
"ไม่ได้เป็นอะไร"แกยังคงสนใจหน้าจออยู่
"พรุ่งนี้เราจะทำอะไรกันดีพี่" เรานอนหนุนตักแกที่โซฟา
"เอ๋จะไปไหนหล่ะ"
"ไม่รู้ พี่โด่งพาเที่ยวหน่อยสิ"
"ไปไหนดี" แกทำท่าใช้ความคิด "ไปเที่ยววัดพระแก้วมั๊ย"
"ไปบ่อยแล้ว เอ๋ไม่ได้มาทัศนศึกษานะพี่" เราซุกหน้าลงที่เป้าแก แกก็แกล้งเอามือกดหัวเราไว้ตรงนั้นจนหายใจไม่ออก
เราพลิกกลับมาหนอนหงายเหมือนเดิม แล้วดูทีวีด้วยกัน "ง่วงแล้ว" เราหลับไปบนตักของพี่โด่ง มารู้สึกตัวก็ถูกอุ้มมาวางที่เตียง
"ตัวหนักไม่ใช่เล่นนะเรา" พี่โด่งนอนลงข้างๆ เอามือเราวางไว้บนอก หลับรวดเดียวจนถึงเช้า


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

62. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:07 PM (SE Asia Standard Time)
 
   62
"พี่โด่ง พรุ่งนี้ออกเดินทางกี่โมงพี่"
"หกโมงเช้า ต่างคนต่างไปแล้วไปเจอกันที่เชียงใหม่เลย"
"พวกเพื่อนพี่ไปกันยังไง"
"ไปรถตู้ของเจ้าของบ้าน พวกนั้นอยุ่เคาน์เตอร์คงต้องปิดบัญชีเสร็จก่อนแล้วจะตามมา สิ้นปีจะยุ่งมาก" แกอธิบาย "
"แล้วพี่ไม่ต้องช่วยเขาเหรอ"
"พี่อยู่ธุรการไม่ต้องวุ่นกับพวกนั้น ขับรถไปรอดีกว่า มีเอ๋มาด้วยอย่างนี้ไม่ต้องรอใครแล้ว เวลาเจอเพื่อนพี่แล้วอย่าแรดนะ"
"บ้าพี่โด่งใครแรด" เราเถียง แรดตรงไหนวะ
"ห้ามงอน แล้วก็ทำตัวให้เป็นปกติด้วย"
"พี่ว่าเอ๋ผิดปกติเหรอ" เรามองหน้าพี่โด่งอีกที "เอ๋คงเก็บความเป็นกระเทยไม่มิดมั๊งพี่"
"ไม่ได้ห้ามขนาดนั้น แต่ว่าเอาเป็นว่าให้ลดลงนิดนึงนะครับ"
พี่โด่งลูบหัวเราเล่น
"พี่โด่งสบายใจรึยัง" เราถามแกอีกครั้ง
"พี่ไม่ได้เป็นอะไรนี่"
"จริงเหรอ" เราเอามือไปลูบที่เคแก "แล้วทำไมเช้านี้น้องไม่ตื่นหล่ะ" ลูบไปตามลำช้าๆบีบเบาๆ
"เห็นมั๊ยกวนจนน้องตื่นแล้ว" เคพี่โด่งพองตัวขึ้นแล้วกระดกอยู่ในกางเกง "เอ๋ดูน้องหน่อย" พี่โด่งยกขาชันขึ้นข้างนึงน้องชายโผล่ออกมาจากขากางเกงใส่นอนบานๆ แกกระดกมันเล่นพร้อมกับรูดมันเล่น หันหน้ามามองเราแล้วยกตัวถอดกางเกง ออกไป เรานอนอยู่ข้างล่างพี่โด่งลุกขึ้นคร่อมที่หน้า แต่ยังไม่ให้เราดูดแกจับมันตีที่ปากเราแรงๆหลายที
"เมื่อวานพูดไม่ดี ต้องตี" แกดีดเคกับปากเราหลายทีมือของเราบีบก้นแน่นๆของพี่โด่งเล่น กลิ่นอ่อนๆจากปลายเคมันเร้าใจจนน้ำลายสอ พี่โด่งยังคงแกล้งเราต่อด้วยการจับมันถูไปทั้งหน้าเรา แล้วแกก็ลุกจากเตียงเราตามจะไปจับ
พี่โด่งวิ่งเข้าห้องน้ำ "เดี๋ยวๆ ปวดเยี่ยว"
"เซ็งเลย" พี่โด่งล้างเคอย่างดี แต่เล่นยังไงก็ไม่ลุก พี่โด่งหัวเราะ
"อด" แกหันหน้ามาทำหน้าทะเล้นใส่ "สมน้ำหน้าเมื่อคืนอยากนอนหลับเอง"
"พี่ทำไมไม่ปลุกหล่ะ"
"ปลุกทำไม พี่จัดการไปแล้วนี่ตอนกลางวัน ใครอยากได้อีกก็ต้องอยู่รอ" เราก็งอนขึ้นมาอีก หันหลังให้ เตียงขยับเล็กน้อยพี่โด่งคงนอนเขย่าตัวเล่น เราคิดไปอย่างนั้นก็เลยหลับตานอนต่อ จนเคลิ้มๆไปแล้ว รู้สึกว่ามือพี่โด่งกำลังรูดกางเกงเราออก มันคุ้นกันแล้วเรานอนคว่ำเพราะกลัวแกจะมาจับน้องเราเหมือนกัน พี่โด่งตีหัวเบา "ตื่นๆ " เราแกล้งนอนต่อ "ง่วง" พี่โด่งไม่ว่าอะไรนอกจากขยับตัวเรามาที่กลางเตียง แล้วนอนทับลงมา เรารู้สึกถึงการล่วงล้ำมันเจ็บพอดู
"พี่โด่ง เจ็บอีกแล้ว เอาออกเถอะ"
"ไม่เอา นอนเฉยๆ"
"เฉยได้ไงก็มันเจ็บ"
"เข้าไปจนหมดลำแล้วเพิ่งบอกว่าเจ็บ" แกนอนทับลงมาจูบแก้มเรา "แล้วดันพรวดเข้ามาจนสุด "โอย"
"พี่โด่งโกหก"
"เอาน่า เอาน่า หมดแล้วจริง" แสบก้นจังเลยแต่สักพักมันก็กลายเป็นความเสียว เจ็บ แสบ เสียว สามรสเลย
"นอนนิ่งเลยนะ"พี่โด่งพูดอยู่ข้างๆหู "ชอบละสิ" พี่โด่งคว้านเป็นวงข้างใน มันเหมือนกับอะไรดิ้นอยู่ในตัวเรากล้ามเนื้อเหมือนถูกรบกวน พี่โด่งก้มหน้าก้มตาซอยได้สักพักก็ดึงออกเอาเคมาถูกับร่องก้นแล้วก็กระตุกไปมา น้ำหยดแรก กระทบที่แก้มก้นแล้วหยดต่อมาก็ละเลงอยู่ที่หลัง พี่โด่งยังคงเอาปลายกดไปตามตัวเราอยู่ เราเสียวจนซึมไปแล้ว
พี่โด่งเดินจูงมือเราเข้าห้องน้ำแล้วล้างที่หลังให้เราก็ฟอกเค แก จนสะอาดทั้งคู่ ทำท่าว่าจะกินงูพี่โด่ง พี่โด่งดันตัวไว้ "อย่าเพิ่งเลย เจ็บปลายอยู่" พี่โด่งเดินแก้ผ้าอยู่ในห้องจนสาย ค-ยแกว่งไปแกว่งมาต่อหน้าเรา อยู่อย่างนั้นเหมือนแกยั่ว เรากำลังนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่พื้น ก็มานั่งชันเข่าที่หน้า เคอยู่ในระดับสายตาเราพอดี พอเราจะจับแกก็ลุกขึ้น แล้วก็มานอนทับเราทำทีเป็นกระเด้า เราก็หันหลังไปมอง พี่โด่งก็หยุดทำแล้วลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า
"ไปกินข้าวกันเอ๋" เราแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเลยลงไปรอที่รถ อพาร์ทเม้นท์เล็กๆอย่างนี้คงรู้จักกันหมด หนุ่มหล่อหลายคนเดินผ่านจนต้องมองตาม คันขึ้นมาอีกแล้ว พี่พงษ์เดินลงมาพร้อมหนุ่มหน้าใส เราได้แต่ยืนมองที่รถ จนเด็กหนุ่มเดินไปแล้ว พี่พงษ์ก็เดินมาหาที่รถ
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่" แกเดินมาทัก
"เมื่อวาน"
"มิน่า ไอ้โด่งปิดห้องเงียบเลย "
"คนที่ลงมากับพี่ ใครเหรอหล่อจัง"
"หล่อ แล้วมีเงินซื้อรึเปล่า" เรางงในคำตอบของแก
"ทำไมต้องซื้อด้วย" เด็กบ้านนอกอย่างเราไม่ทันกับสิ่งที่แกพูด
"กินของฟรีนะแหละดีแล้ว ทำงานแล้วค่อยซื้อกิน" แกพูดเป็นนัยๆ "ไอ้โด่งก็แปลก เราอยู่ใกล้ๆ ไม่ยักชวนเราเลย หล่อนอยู่ไกลจะตายชักกลับชวน มีอะไรดียะ"พี่โด่งเดินตามมาแล้ว
"ก็ไม่มีอะไรนี่ " เราตอบไปตามเรื่อง พี่โด่งเดินมาถึงรถพี่พงษ์ก็คว้าหมับที่เป้าพี่โด่งไม่ยักหลบ พี่พงษ์ก็บีบเบาๆอญุ่นาน เรางงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
"ไปไหนกันรูปหล่อ" แกเอามือออกแล้วถาม
"พาเมียไปกินข้าว" พี่โด่งตอบพี่เพลิน
"อ้าวงั้นก็ต้องให้แนไปด้วยสิ ก็เมียเหมือนกัน"
"อย่างแกเรียกว่าทำบุญโว๊ย" พี่โด่งพูดเสร็จก็เดินหัวเราะ ขึ้นรถประจำที่คนขับ เรายืนเซ่ออยู่เป็นนาน มองตามหลังพี่พงษ์ไป พี่โด่งบีบแตรเรียกเราขึ้นรถ รถออกจากอพาร์ทเม้นท์แล้ว คำพูดของพี่เพลินก็ก้องเข้ามาในหู "เอ๋ ต้องระวังตัวบ้างนะ ผู้ชายเราไม่รู้หรอกว่ามั่วรึเปล่า ถ้าเอ๋ป้องกัน อย่างน้อยเราก็ระวังตัวได้ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ผัวใช่เมียกัน โรคยังไม่มียารักษานะ น้องพี่มันบอกแล้วนี่เมืองไทยก็เจอเยอะแล้วด้วย เจ๊ละเกลียดจริงๆ ไอ้โรคบ้านี่ทำไมมันมาเกิดกับพวกเราก่อนนะ" ความรู้ของเรากับพี่เพลินก็เป็นไปตามข่าวที่หนังสือพิมพ์นำเสนอเท่านั้น ว่าพวกรักร่วมเพศเป็นตัวแพร่เชื้อ บางส่วนก็คงถูก เพราะพฤติกรรมมั่วอย่างที่น้องพี่เพลินเล่าให้ฟัง แล้วหันไปมองหน้าคนขับ แล้วพี่โด่งมั่วรึเปล่านะ ส่วนเราเราคิดว่าเรามั่วอย่างแน่นอน อยู่กันสองคนไม่ได้คิดอะไร ถ้าไม่เจอพี่โด่งกับพี่พงษ์ แสดงต่อกันอย่างนี้เรารู้สึกกลัวกระเทยด้วยกันขึ้นมา แล้วนี่พี่พงษ์กับพี่โด่งไปถึงขั้นไหนแล้ว และเราจะทำยังไงดีนี่ หมดสนุกเลย
"เป็นอะไร"
"พี่โด่งมีอะไรกับพี่พงษ์แล้วเหรอ" เราถามโดยไม่หันไปมองหน้า
"เชื่ออีพงษ์มัน แค่เมาหลับแล้วมันแอบดูดพี่ไปทีเดียวก็คุยเป็นวรรคเป็นเวร"
"แต่พี่โด่งก็ไม่ได้ปฏิเสธ ตอนที่เขาจับเล่นนี่"
"เพื่อนกัน ก็ให้มันจับอย่างนี้ทุกวันแหละ ไม่เอาหรอก ถามอย่างนี้กลัวอะไรอยู่ใช่มั๊ย" เราหันหน้าไปมอง บรรยากกาศจะพาให้หมดสนุกอีกแล้ว "พี่โด่งหันหน้ามามอง ตั้งแต่มีเรื่องโรคบ้านี่ พี่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนก่อน อยากทีก็ต้องใส่ถุงป้องกัน ข่าวก็มาทุกวัน มีเอ๋นี่แหละที่พี่มีอะไรด้วยเป็นเรื่องเป็นราว สำคัญว่าเรานะมั่วหรือเปล่า" เรารู้สึกสะอึก พูดไม่ออก ส่ายหน้าโกหก
"ถ้าเอ๋ไม่สบายใจด้วยเรื่องแค่นี้ เราก็ไม่ต้องยุ่งกันอีกก็ได้นะครับ เที่ยวๆกันแล้วก็แยกย้ายกันกลับ" เราเชื่อใจพี่โด่งแต่ตัวเราเราไม่เชื่อใจตัวเอง
"ว่าแต่เอ๋จะทนได้เหรอ อยู่กับพี่ทุกวัน แบบนี้ของมันเคยๆกันแล้วนี่" พี่โด่งพูดยาวกว่าทุกที
"งั้นก็ใส่ถุงสิพี่"
"โอยไม่มันหรอก ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องเอากันเลย" พี่โด่งหน้าตายังคงราบเรียบไม่มีอะไรผิดปกติที่สีหน้าและแววตา
"เราไม่ไว้ใจพี่แล้วละสิ เสียดายที่พี่ไว้ใจเอ๋นะ" พี่โด่งหันหน้ามามองอีกครั้ง เราเอนหน้าไปพิงที่ไหล่แก
"เอ๋ไม่ได้คิดขนาดนั้น เอ๋แค่กลัวเท่านั้นเอง" จูบที่ไหล่แกเบา พี่โด่งละมือจากพวงมาลัยข้างนึงมาลูบที่ผม
"พี่คิดว่าพี่ชอบเอ๋แล้วนะ อยู่ใกล้ๆแล้วมีความสุขดี ถึงเอ๋จำไม่ใช่ผู้หญิง พี่คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าเราจะคบกันไปแบบนี้ เพราะถึงเวลาของมันแล้วก็คงจะแยกย้ายกันไปเอง"
"เอ๋ก็คิดอย่างนั้นแหละ อีกไม่นานพี่ก็มีครอบครัว เอ๋ก็ต้องโตขึ้นทุกวัน" เราพูดเบาๆ
"คิดได้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่เสียใจตอนที่พี่ไปอยู่กับคนอื่น ตอนนี้พี่มีเวลาให้เราเต็มที่ คิดเอาเองว่าต้องการอะไรนะครับ"
รถจอดที่ร้านอาหารเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เราเลือกที่นั่งที่ติดกับแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก แสงแดดส่องกระทบกับผิวน้ำเป็นประกาย เรือข้ามฝาก เรือหางยาวแล่นผ่านไปมา บนผืนน้ำ พี่โด่งทานอาหารช้าๆพร้อมกับมองหน้าเราบ่อยครั้ง แกดูแลเราดีจนเรารู้สึกว่าเราเองต่างหากที่ไม่ดี นึกแล้วเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาช่วงห่างจากพี่โด่ง ผู้ชายกี่คนที่ผ่านมาในระหว่างสี่ห้าเดือน พี่แขก หนุ่ย พี และขาประจำ ..ตั้ม
ล่าสุดก็รถทัวร์มหาสนุก พัฒน์ เราคิดว่าตัวเองสกปรกเหลือเกินไม่คู่ควรกับความดีของพี่โด่งเลยสักนิด
"กินสิเอ๋ กับข้าวอร่อยดีนะร้านนี้พี่มาบ่อย"
"พี่โด่ง เอ๋ขอโทษนะ"
"เฮ้ยนี่ขอโทษกันกี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาเนี่ย ทำอะไรผิดเหรอ ดีแล้วที่คุยกับแบบนี้ นี่ละผู้ชายเขาคุยกัน จะมาอ้ำอึ้งเหมือนผู้หญิงกว่าจะเคลียร์กันได้ ดีแล้วละเอ๋ พูดออกมาตรงๆจะได้คุยกันได้ทกเรื่อง เอ้าๆกินข้าวเร็ว " ค่อยกินข้าวได้ขึ้นมา เรายิ้มออก พี่โด่งชวนคุยเรื่องสนุกๆจนความหดหู่เมื่อกี๊มันมลายหายไปจนสิ้น
...หากดวงใจฉันมีปีกบิน เหลิงลอยเมฆินทร์ได้ดังฝัน จะอยู่ไหนไม่เคยหวั่น ฉันบินมาพลันอยู่ใกล้เธอ แต่บัดนี้เราห่างกันสุดกู่ เธอคงไม่รู้ว่าฉันพร่ำเพ้อ ค่ำเช้าทุกวันฉันเฝ้ามองเหม่อ คร่ำครวญถึงเรียกเธอหาเธอเรื่อยมา
...เฝ้าแต่ครวญเสียงเพลงฝากลมเพื่อคลายทุกข์ตรมท่วมอุรา ฝากกระซิบถึงเธอว่าทุกคำสัญญาจดจำมั่น.........
....อีกไม่ช้าคงกลับมาสู่เคลียคลอชื่นชู้เหมือนดังใฝ่ฝัน ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น..........หากเธอแปรผันฉันคงขาดใจ
......ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น..........หากเธอแปรผันฉันคงขาดใจ

เราฮัมเพลงนี้ตามร้านอาหาร เตี่ยมีแผ่นของจิตติมา เจือใจที่บ้าน รู้สึกชอบเหมือนกัน เปิดบ่อยจนร้องเป็น พี่โด่งมองหน้าแล้วเขินสายตาเรา หลบสายตาอมยิ้มมองไปที่แม่น้ำแทน..............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

63. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:08 PM (SE Asia Standard Time)
 
   63
พี่โด่งจะไปไหนเหรอฮะ" เราถามเมื่อพี่แกขับรถผ่านสนามหลวง
"จะพาไปไหว้พระ" บ่ายแก่แล้ว รถขับไปเรื่อยๆ วันเสาร์ถนนโล่งเกือบห้าโมงเย็น พี่โด่งก็พาเรามาถึงอยุธยา ไหว้พระอยู่หลายวัด แต่ที่ชอบมากที่สุดคือวัดชัยวัฒนาราม เราเดินไปรอบๆ บริเวณโบราณสถานแห่งนั้นในตอนใกล้จะมืด แสงแดดยามโพล้เพล้ทำให้ดูขลัง เหมือนมีความสงบวังเวงหากแต่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบใจจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ยิ่งเมื่อมาอ่านเรือนมยุราในพลอยแกมเพชร อีกหลายปีต่อมาทำให้เห็นภาพวันนั้นชัดเจนมากขึ้น คุณพระนายไปไกลจากนกยูงแล้ว เรายังวนเวียนอยู่ในเรือนมยุราของเราอยู่อย่างนี้ ไม่สามารถเปิดเงื่อนเวลาออกมาหาพระนายคนนี้ได้อีกเลย พี่โด่งเดินนำไปดูตามทุกซอกทุกมุมของประวัติศาสตร์
"พี่ยังไม่ได้บอกเอ๋เลยว่า พี่ไปเรียนเป็นมัคคุเทศน์มานะ" แกอธิบายประวัติศาสตร์อยุธยาได้เป็นฉากๆ ทำให้เราอินนึกว่าตัวเองเป็นนางในกำลังเดินห่มสไบเฉิดฉายอยู่ไปมา ณ บริเวณนั้นพร้อมองครักษ์หนุ่มรูปงาม อารักขาอยู่ใกล้ๆ
"พี่อาจจะลาออกจากงาน ไปเป็นไกด์พาฝรั่งเที่ยวสักวัน"
"แล้วมันมั่นคงเหรอพี่" เราถามพี่โด่ง
"อยู่ธนาคารมั่นคงก็จริง แต่ชีวิตไม่มีสีสัน ยิ่งอยู่ธุรการอย่างพี่มันก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่โตหรอก พวกรุ่นพี่ในออฟฟิศก็แก่ๆทั้งนั้น พี่อยากใช้ชีวิตอิสระมากกว่า งานที่ทำก็ไม่ใช่ว่าชอบนัก กินเงินเดือนไปวันๆ สิ้นปีก็พอจะยิ้มออกตอนรับโบนัสเท่านั้นแหละ แต่ต้องหาอะไรทำเท่านั้น ไม่งั้นต้องขอเงินแม่ใช้นะสิ" พี่โด่งใช้เงินเก่งพอตัวเพราะแค่ที่พาเราไปโน่นมานี่ก็จ่ายไปเยอะเหมือนกัน เงินเดือนพนักงานธนาคารคงไม่มากพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างนี้ ถ้าไม่มีแบ็คที่ดีจากครอบครัว รถที่ใช้แม่ก็ซื้อให้
"แล้วเอ๋ เรียนจบอยากทำอะไรหล่ะ" ยังไม่ได้เรียนเลยก็ถามอนาคตแล้ว อนาคตที่วาดไว้มันเขวตั้งแต่เอ็นท์ไม่ติดแล้ว
"คงขายของที่บ้านมั๊ง เรียนให้จบแล้วไปช่วยพ่อแม่ขายของ" ตอนนั้นสมองตื้อยังมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง และยังแปลกใจว่ามายืนอยู่ที่ปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อมองกลับไปดูมีหลายอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตสิบกว่าปีกับการทำงานหนัก กับการทิ้งความฝันหลายๆอย่าง ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันก็คุ้มค่าพอตัว
"พี่โด่งจะออกจากงานจริงเหรอ"
"ฮื่อ ไม่นานหรอก พี่ทำงานมาสามปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบทำงานก็มีคนฝากให้ เขาจ้างไปเตะบอลมากกว่า ไม่ค่อยได้ทำอย่างอื่น บางทีเสาร์อาทิตย์ก็ไปช่วยเพื่อนที่เขาเป็นไกด์ นะ พาทัวร์จีนเที่ยววัดพระแก้ว เที่ยววัง เที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถึงมีเงินพิเศษมาใช้ไง"
"แล้วพี่เลิกเตะบอลล์แล้วเหรอ"
"มันเป็นฤดูนะ ปีนี้ตกรอบก็เลยเหนื่อยน้อยหน่อย"
"เอ๋ เรียนภาษาอังกฤษเยอะๆนะ" พี่โด่งบอก"บ้านเราเดี๋ยวนี้ใช้ภาษาเยอะ" พี่โด่งแนะนำเหมือนเป็นพี่ชายที่แสนดี
"ขับรถกลับถึงอพาร์ทเม้นท์เกือบสามทุ่ม ปาร์ตี้ที่ห้องพี่พงษ์แผดเสียงดังลั่น อพาร์ทเม้นท์เงียบไปเยอะเพราะคนเริ่มกลับบ้านต่างจังหวัดกันเยอะแล้ว เราชะโงกหน้าไปมองในห้องพี่พงษ์ ผีอย่างเรานั่งกันอยู่หลายคน ในนั้นก็มีหนุ่มๆที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน ล้อมวงเหล้ากันอยู่ พี่พงษ์กระวีกระวาดเดินออกมา
"โด่ง เอ๋ กินเหล้ากัน ฉลองปีใหม่ล่วงหน้าหน่อยเร้ว" มือถือแก้วเหล้าออกมาชวนด้วย "พี่โด่ง ชนกันหน่อย" เสียงหนุ่มร่วมอพาร์ทเม้นท์ตะโกนออกมา "มาเอ๋ เข้ามานั่งก่อน" พี่พงษ์ลากแขนเราเข้าไปข้างใน "วี๊ดวิ๊ว" เด็กหนุ่มผิวปากใส่เรา พี่โด่งกับเรานั่งอยุ่คนละฝั่ง พี่พงษ๋กระแซะตัวเข้าใกล้ๆพี่โด่ง ตอนนี้พี่โด่งถูกขนาบข้างด้วยสองสาวรุ่นใหญ่
"นี่น้องเอ๋" พี่พงษ์ แนะนำให้เรารู้จักทุกคน และแนะนำพี่โด่งกับเพื่อนสาว "และนี่โด่งแฟนชั้น"
"แฟนหล่อนะยะ" เพื่อนสาวกรี๊ดกร๊าด
"อ้าวแล้วผมหล่ะพี่พงษ์" หนุ่มที่นั่งข้างๆเราแย้ง
"อุ๊ย มาเรียกอะไรพงษ์ น่าเกลียด เรียกพัชนีสิคะ" พี่พงษ์ถ้าจะเมามากจนเปลี่ยนชื่อ พี่โด่งนั่งขำหากแต่ก็จิบเหล้าไปเรื่อยๆ เพื่อนพี่พงษ์ก็อยู่ในวัยทำงานเป็นพวกหัวโปกเหมือนเรา เพียงแต่จริตจะก้านเยอะเรากับพี่เพลินยังสู้ไม่ได้เลย กับกระเทยเมืองหลวงนี่ดูแล้วต้องฝึกอีกเยอะ พี่เพลินกินไปก็โอบเอวพี่โด่งไป
"คิดได้ยังไงชื่อพัชนี เนี่ย" หนุ่มคนเดิมยังถามต่อ
"ก็พัดอีชนีทั้งหลายออกจากผู้ชายนะสิ"
"ชะนี คืออะไรพี่" ศัพท์ใหม่ไม่เคยได้ยิน
"ชะนี ก็คือผู้หญิงไง" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับเราบอก
"แล้วทำไมถึงเรียกชะนี" เราก็ยังสงสัยอีก
"ก็เวลามันร้องไง ผัวผัวผัว อีพวกนี้มันร้องหาผัวตลอด ก็เลยเรียกมันชะนี" เหรอ เราเองก็ไม่เคยได้ยินชะนีร้องแต่ก็พอเข้าใจ
"โด่งขายกสิคะ" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับพี่โด่งอีกข้างชนแก้วแล้วกระดกเฮือก มือแกวางที่ต้นขาพี่โด่งแล้วลูบเบาๆ พี่โด่งก็เป็นใจยกถาม
"อีนี่" พี่พัชนีปัดมือเพื่อนออกจากขาพี่โด่ง "อย่ามาปาดหน้าเค๊กนะ" โอยพูดอะไรกันนี่ ฟังไม่รู้เรื่อง หนุ่มข้างๆยังเป็นวัยรุ่นถัดไปอีกสองสามคนก็รุ่นเดียวกัน "ชนครับ น้องเอ๋" เราชนแก้วแล้วยก "หมดเลยนะ" สบายอยู่แล้ว เราชอบกินเร่งในตอนแรกให้หัวเชื้อติด แล้วค่อยผ่อนทีหลังเพราะถ้าหากจิบๆแล้วมันจะเมาเร็ว พี่โด่งยังคงสนุกสนานกับคุณพัชนีอย่างลืมตัว พี่ที่นั่งติดกับเรายื่นแก้วไปชนกับพี่โด่ง แล้วท้ากันให้หมดแก้ว ของกล้วยๆสำหรับพี่โด่งอยู่แล้ว "เก่งค่า เก่ง นี่น้องเอ๋ กินซะมั่งยุงไข่แล้ว"
"เอ๋ยังเด็กกินได้ไม่เยอะหรอก" พี่โด่งมองหน้าแล้วยกแก้วเหล้ามองหน้าเรา "เด็กอะไรมีผัวแล้วนี่" เราหน้าชาที่พี่พงษ์พูดมากลางวงเหล้า
"อ้าวงั้นผมก็อกหักสิ" หนุ่มข้างๆหันมามองหน้าตอนที่เรายกแก้วเหล้าประชดพี่โด่ง
"มีผัวก็มีชู้ได้ ปีนต้นงิ้วสนุกดี"เราพูดเหมือนให้พี่โด่งฟังเพราะรู้สึกหึงสองนางที่นั่งขนาบข้างมากพี่โด่งก็ไม่ยักสนใจนอกจากพูดตอบกลับมาว่า
"โดนผัวเตะแล้วทิ้งจะรู้สึก"
"อุ๊ยซาดิสม์จัง ชอบจังเลย"พี่พงษ์แนบหน้าทีไหล่ เพลงลูกทุ่งจากเครื่องเสียงคงเป็นเพลงที่พี่พงษ์ชอบ
"ชาตินี้ที่รักเราคงรักกันไม่ได้......" พี่พงษ์ลุกขึ้นทำมิวสิคประกอบ...ฉันรักเธอยิ่งกว่าใครๆ เธอจะรู้หรือไม่ว่าใจฉันมั่นเสมอ...พร้อมเอามือมาจับที่หน้าพี่โด่งให้หันไปมอง.....เพราะเธอมีคู่อยู่แล้วเธออย่ามารัก แม้หากชาติหน้ามีรักขอเป็นคนรักคนแรกของเธอ.......เพลงจบก็นั่งคลอเคลีย หนุ่มในวงเริ่มเมาขึ้นเพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งข้างเราลุกไปห้องน้ำแล้วมาแทรกนั่งติดกับเขาแทนเราลูบแขนลูบขาผู้ชาย บางทีก็เอามือล้วงเข้าไปในกางเกง "อย่าพี่เดี๋ยวมันลุก" เขาแกล้งตีมือเบาๆ หากแต่ก็ปล่อยให้ล้วงอยู่อย่างนั้น เริ่มนัวเนียกันแล้วผู้ชายห้า กระเทยสาม ไม่รวมเรากับพี่โด่ง พัชนี หันไปหยอกหนุ่มที่นั่งข้างเหมือนเพื่อน เหลืออีกนางที่ยังคุยกับพี่โด่งอยู่ เรามองหน้าพี่โด่งเพราะอยากกลับห้องแล้ว พี่โด่งลุกไปเข้าห้องน้ำนางนั้นก็ทำท่าจะเดินเข้าไปด้วยแต่แกปิดประตูทัน เจ้าหล่อนก็มานั่งที่เดิมกระฟัดกระเฟียด ...
"ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกล" พี่โด่งขอตัวแล้วเดินไปเปิดประตู พี่พงษ์ก็ทำมิวสิคอีก ..สี่ในสี่ห้องหัวใจฉันให้คุณหมด หมดไม่มีเหลืออยู่..ทำหน้าตาหวานซึ้งพี่โด่งเอาแกะมือแกออกจากการเกาะกุมแล้วเดินออกไปเปิดประตูห้อง เราก็ลุกตาม เพื่อนพี่พงษ์มองค้อนตามพี่โด่ง
"เอ๋ ไปนะพี่ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนฮะ" คนที่อยากเป็นชู้โบกมือให้ "ยินดีครับน้องเอ๋" เหตูการณืจากนั้นคงจะนัวเนียกันชุลมุนแน่ เพราะบางคนนอนหงายที่เตียงพี่พงษ์แล้ว เราปิดประ๖ห้องพี่พงษ์เบาๆ แล้วผลักประตูเข้าห้องปิดเบาๆ พี่โด่งไม่เปิดไฟ เราคลำหาสวิตช์ไฟ แล้วก็มีมือมาอุดปากในความมืด ยกตัวเราลอยขึ้นมาเดินฝ่าความมืดแล้วดยนลงเตียง ถอดเสือผ้าเราออกอย่างเร็ว "พี่โด่งเล่นอะไร"
"เอ๋พี่เงี่ยน" พี่โด่งแทงผิดแทงถูกอยู่นาน ลมหายใจหอบแรงมากกว่าจะเอาเข้าไปได้ แกกดเราเร็วๆนานมาก กัดที่ต้นขอมือที่บีบนมเราแรงจนแทบจะหลุดติดมือ จูบปากก็ขบไปที่หน้า เราไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแต่กลับรู้สึกมันคล้อยตาม เราก็ตีก้นแกแรงๆตอบ ขบปากพี่โด่งกลับเหมือนกัน ท่อนล่างพี่โด่งยังทำงานต่อเนื่องลูกสูบฟาดที่แก้มก้นจนร้อน เหงื่อเหนียวๆบริเวณไข่ทำให้อบอุ่นมาก
"อา อา" พี่โด่งพอใจที่เรารุนแรงกับแกตอบ แกจับเราลุกขึ้นแล้วตัวแกก็เอนลงที่ที่นอนแทน เรานั่งบดสะโพกกระแทกกระทั้นตามอารมณ์ของแก พี่โด่งสวนมาแรงๆเหมือนกัน มือทั้งสองทั้งสองของเราบีบแน่นที่บ่าทั้งสองข้างแรงจนเหมือนเล็บจะจิกลงบนเนื้อแก พี่โด่งตีทีต้นขาเราพร้อมบิดไปด้วยเมาจนตัวชาไม่รู้สึกเจ้บ นั่งโยกจนเหนื่อยก็โน้มตัวลงให้พี่โด่งแทนสวนขึ้นมาเอง เราดุดที่ต้นคอของพี่โด่งแรงจนแกหดคอหนี ทำนบมันทะลักเข้ามาในรูแล้วจนไหลย้อยเปรอะหน้าขาพี่โด่งเปียกแฉะกันทั้งคู่ถอนตัวออก แล้วลากกันเข้าห้องน้ำ อาบน้ำด้วยกัน เรายืนจูบกันแรงๆใต้ฝักบัวอยู่นานเหมือนไม่รู้สึกอิ่มในรสรัก เวลาเมานี่ร่วมรักได้อย่างถึงรสชาดมากที่สุดเลย ...เราทั้งคู่นอนแก้ผ้ากอดกันแน่นใต้ผ้าห่มอย่างมีความสุขเหลือคณานับ.................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

64. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:12 PM (SE Asia Standard Time)
 
   64
เราตื่นขึ้นมาก่อนพี่โด่งชะโงกดูแกยังหลับอยู่ ความสุขที่ล้นทะลักเมื่อคืน ตื่นเช้ามากลับโหยหามันอีกจนได้ อยากจะลักหลับพี่โด่งจัง นั่งชั่งใจสักพักก็เลิกผ้าห่มขึ้นจนถึงเอว น้องพี่โด่งยังนอนหลับสนิทเหมือนพี่ชายเห็นแล้วน้ำลายสอ เราชอบเคแกตอนที่มันสงบมากกว่า ชอบจับเล่นแต่ไม่อยากให้มันตื่น อยู่ด้วยกันก็จะจับเล่นทุกคืน จนหลับ ขยับขาพี่โด่งให้กางออก แล้วนอนคว่ำหน้าลงไปส่วนนั้น เอาจมูกซุกไซ้ไปมาทั้งพวง จับมันพาดขึ้นแล้วศูดดมที่ไข่ใบโต กลิ่นเหงื่อสาบๆกระตุ้นอารมณ์เราจนกระเจิงไปหมดแล้ว จับเคพลิกไปพลิกมาตรวจตราอย่างละเอียดอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน เราได้แต่สูดดมเหมือนเด็กติดทินเนอร์อยู่อย่างนั้น แล้วต้องเขินเมื่อพี่โด่งขยับขาเด้งเข้าใส่หน้า
"เออ เล่นเข้าไป" พี่โด่งตื่นแล้ว แกเอามือกุมมันไว้แต่ไม่มิดส่วนปลายยังโผล่อยู่
"พี่โด่งเอามือออกฎ เราพยายามแกะมือ แต่พี่โด่งไม่ยักเล่นด้วย พลิกตัวนอนเอามือสอดไว้ระหว่างขาเหมือนกลัวใครล่วงล้ำ เราพยายามจับตัวแกหงายแต่แกขืนตัว เรางอนก็เลยลุกจากที่นอน
"ไม่เล่นก็ได้" พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำ กำลังอาบน้ำก็มีเสียงก็อกแก็กที่หน้าประตู เอากันขนาดนี้ถ้าให้แก้ผ้าต่อหน้าพี่โด่งเราก็ยังอายอยู่ดี
"พี่โด่งอย่าเพิ่งเข้ามา ขออาบน้ำก่อน" ห้องน้ำไม่มีกลอยพี่โด่งหาอะไรมาบิดที่กุญแจรูตันด้านนอกประตูก็เปิดจนได้ เรารีบคว้าผ้าขนหนูมาห่อตัว แล้วเบี่ยงตัวหลยให้แกเดินเข้ามา
"ทำอะไร ช่วยตัวเองอยู่เหรอ" แกเดินกำเคที่แข็งโด่ แล้วยืนแอ่นฉี่ที่โถหันข้างให้เราเห็นอย่างชัดเจน จนสุดก็สะบัดแรงๆ พร้อมยักคิ้วให้เรา จากนั้นก็เปดฝักบัวฟอกสบู่รูดเข้ารูดออกต่อหน้าเรา ทั้งยังผิวปากกวนอีก เรางี้น้ำลายกลืนน้ำลายเลย แต่ก็ยังต้องวางฟอร์มเพราะยังงอนอยู่
"เสร็จยัง จะอาบน้ำต่อ" แกยังมองหน้ากวนๆอีก
"ยังไม่เสร็จ มานี่เลยตัวแสบ" แกคว้าแขนเราออกจากห้องน้ำ ผลักให้นอนหงายบนเตียงแล้วยืนคร่อมที่หน้าเรา
"ดูด" พูดเหมือนกัดฟัน เราหันหน้าหนีแกก็จับคางเราไว้ "ดูดไม่ดูด" มือบีบที่คางจนเราต้องอ้าปากแลบลิ้นเลียเบาๆ ที่ปลายวนตามหัวและรอยแยก
"ไม่มันเลย ดูดดีๆสิเอ๋ ทำปากห่อๆด้วย" พี่โด่งกดสะโพกอยุ่บนหน้าเราจนเราสำลักดันตัวแกออก
"ไม่ไหวพี่โด่ง มันลึกถึงคอหอยแล้ว" พี่โด่งทิ่งตัวลงนอนจับเคตั้งอวดสายตาเราอีก เราลุกขึ้นนั่งคร่อม จับมันจ่อแล้วกดสะโพกลงไป "อี๋" เราหลับตาปี๋พอนั่งจนมิดโคน
"เป็นไง" เราโน้มตัวไปกอดแก
"พี่โด่ง ทำไมเช้านี้แข็งจังเลย"
"เมื่อคืนไม่อิ่ม เช้าเลยหิวอีก" ช่วงบ่างเรายังกดเนิบๆ พี่โด่งเหมือนไม่สะใจ ก็ดันตัวเรานอนแล้วเอาขาเราพาดไว้ที่บ่าขย่มตัวแรงๆ จนเราจุก
"พี่โด่ง แรงอีก แรงอีก" คราวนี้พี่โด่งเอาเราไม่อยู่แล้ว เรากระเจิงไปตามแรงพี่โด่ง สองมือทุบตีที่เตียง "โอ๊ย โอ๊ย" เราสะบัดหน้าไปมา ทั้งเหนื่อยทั้งมัน
"เสร็จแล้วเอ๋ เสร็จแล้ว" แกดึงออกเสียงมันดังเหมือนเปิดขวดโซดา จับเคมาจ่อที่ปากกระตุกสองสามที ยางขาวก็ไหลออกมา เราดูดแรงๆจนมันไหลลงคอ พี่โด่งบิดตัวพยายามจะดันหัวเราออก แต่เรากอดแกไว้แน่น ก้นแน่นของพี่โด่งถูกเราบีบไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พี่โด่งร้องเสียงหลงเมื่อเราดูดแรงกว่าเดิมอีก
"โอยๆ มันส์มากเลยเอ๋" นอนหงายเคเป็นมันเลื่อมเพราะน้ำลาย เราลุกขึ้นนุ่งผ้าขนหนู เดินเข้าห้องน้ำ ไม่เข็ดแฮะยังเดินตามมาอีก จูบกันใต้ฝักบัวเหมือนเมื่อคืนอีก ทั้งกัดทั้งขบ พี่โด่งรู้สึกจะพอใจทุกครั้งที่เรารุนแรงตอบ
เดินลงมาขึ้นรถก็เจอพี่พงษ์นั่งหน้าเสียอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์
"เป็นอะไรวะ" พี่โด่งเดินเข้าไปถาม
"ไอ้เด็กเวรที่เพื่อนฉันพามานะสิ หยิบทองฉันลงมาด้วย นี่วิ่งตามก็ไม่ทัน"
พี่โด่งชะโงกมองตาม "รู้จักมันมั๊ยหล่ะ"
"อีเพื่อนบอกว่าอยู่แถวบ้านมัน มันจิกมาให้ เงินก็ให้แล้วแท้ๆ ไอ้เราก็มัวแต่อาบน้ำ มันก็ค้นห้องใหญ่เลย ชั้นได้ยินเสียงกุกกัก ก็รีบออกมา กำลังแต่งตัวมันก็บอกว่า ผมกลับแล้วนะ แล้วมันก็รีบวิ่งลงมาชั้นนึกขึ้นได้ว่าเก็บทองไว้ในตู้เสื้อผ้า เจ็บใจจริงๆ ที่วิ่งตามไม่ทัน" พี่พงษ์เสียดายของจนพูดออกมาไม่หยุด พี่พงษ์เดินหน้าเมื่อยกลับห้องไปแล้ว
เรารู้สึกเห็นใจแกจริงๆ
พี่โด่งขับรถไปเรื่อยๆ เรามองภูเขาสองข้างทางอย่างไม่นึกเบื่อ เราแวะกินข้าวที่สุโขทัย แล้วขับวนดูเมืองเก่าก่อนจะขับต่อไปเชียงใหม่ แวะเติมน้ำมันเรารีบจ่ายเงิน พี่โด่งทำหน้างง แกหยิบค่าน้ำมันในกระเป๋ามาคืน เราไม่รับ
"ให้เอ๋ออกช่วยพี่บ้างนะ เกรงใจพี่โด่ง" พี่โด่งหยิบเงินจากกระเป๋าทั้งหมดแล้วยัดใส่มือเรา
"ให้เอ๋ทำไม"
"ใช้ด้วยกัน นะ จะได้ไม่ต้องแย่งกันจ่ายอีก"
"ก็หารกันก็ได้นี่พี่โด่ง เอ๋เกรงใจพี่" เราย้ำอีกที
"เกรงใจอะไร เงินผัวก็เหมือนเงินเมีย" เราไม่เชื่อหู
"พี่พูดอะไรนะ" พี่โด่งไม่ตอบหากแต่หูแดง "ไม่ได้ยินเมื่อกี๊พี่พูดว่าอะไร" เราขยับไปหาใหล้ๆพร้อมจะคืนเงินให้แก
"ผัวให้แล้วยังไม่เอาอีก" หูฝาดแน่ๆเลยเรา พี่โด่งเขินจนไม่มองหน้าเราอีก เราก็อมยิ้มไปเท่านั้น เอียงหน้าชิดหน้าต่างยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข
มาถึงเชีบงใหม่ก็ค่ำแล้ว แถมยังหลงทางอยู่แถวคูเมืองวนกันหลายรอบกว่าจะเจอไนท์ กินข้าวเย็นกันก็เดินชอปปิ้งได้ของนิดหน่อย หาโรงแรมไม่ได้เลยพี่โด่งหน้างอเพราะง่วงส่วนเราก็ล้า
"เอาไงดี เอ๋นอนในรถกันเถอะคืนนี้"
"จะแข็งตายมั๊ยพี่"
"ไม่หรอก เดี๋ยวดึงผ้าใบกระบะลงมาลมก็ไม่เข้าแล้ว" พี่โด่งยังขับรถวนอยู่
"เอ๋รอในรถนะ เดี๋ยวพี่เข้าไปถามก่อนว่ามีห้องมั๊ย" พี่โด่งวิ่งเข้าไปในโรงแรม เรานั่งมองแกวิ่งเข้าไปด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก...............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

65. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:14 PM (SE Asia Standard Time)
 
   65
กรุ๊ปทัวร์เชียงใหม่มากันเต็มรถตู้ เรานัดเจอกันที่กาดหลวงคืนที่ผ่านมาเรากับพี่โด่งต้องนอนในรถด้วยกันเพราะหาโรงแรมไม่ได้หน้าเทศกาลโรงแรมเต็มทุกที่ทีเข้าไปถาม เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ถึงบ้านเพื่อนแกที่หางดงก็อาบน้ำกินนอนพักกันงีบนึงก่อนที่จะไปเที่ยวดอยสุเทพกัน ฟวกพี่ผู้หญิงดูสนอกสนใจพฤติกรรมของเราเป็นพิเศษ ทุกคนยิ่งแปลกใจเมื่อพี่โด่งแนะนำว่าเป็นญาติห่างๆ เราเองก็ต้องเก็กชงทุกครั้งที่คุยกับพวกเขาไม่อยากให้สาวแตก ไว้หน้าพี่โด่งด้วย ไหว้พระธาตุเสร็จก็แวะดูโน่นดูนี่ไปตามทาง จนเย็นก็แวะกินอาหารเมือง ตั้งใจกันว่าพรุ่งนี้จะไปดอยอินพทนนท์ เรานั่งรถกับพี่โด่งสองคนไปตลอดทางเหมือนแตกกลุ่มมีบ้างที่พวกเพื่อนมานั่งเหยียดแข้งเหยียดขาที่กระบะหลัง เพราะนั่งรถตู้นานๆมันเมื่อยแต่เราไม่เปิดโอกาสให้ใครมานั่งที่ประจำเราหรอก ตกกลางคืนพวกผู้หญิงก็รบเร้าให้พาไปเที่ยวในเมือง เราไม่อยากไปก็เลยนอนเล่นที่บ้านเพราะไปมาแล้วเมื่อคืน พี่โด่งก็ขอตัวเพราะอยากจะพัก พ่อแม่เจ้าของบ้านนอนกันแต่หัวค่ำ สมาชิกรถตู้เฮละโลกันเข้าเมืองหมด
"อ้าวเอ๋ไม่ไปกับเขาละ" พี่โด่งเปิดประตูมาเจอเรานอนอ่านการ์ตูนในห้อง
"ขี้เกียจ นึกว่าพี่ไปด้วย" เราเองก็แปลกใจเหมือนกัน
"เมื่อย ขับรถนานๆ แล้วเมื่อคืนก็ไม่ได้นอน ไงสนุกมั๊ย"
พี่โด่งเอาขาก่ายมาทับก้นเราที่นอนคว่ำอยู่บนฟูกบางๆ
"สนุกดี เพื่อนพี่คุยสนุกทุกคนเลย" เราวางหนังสือลง
"พี่จะนอนแล้ว เอ๋ปิดไฟนะ" เราลุกไปปิดไฟแล้วคล้มตัวลงนอนที่เดิมสอดตัวเข้าผ้านวม อากาศเย็นแต่ก็ยังดีกว่าภูกระดึงเยอะ พี่โด่งตะแคงข้างมากอดเราซุกตัวอยู่ในวงแขนแกไม่อยากจะทำอะไรเพราะมันไม่ใช่ที่ทางของพวกเรา
"ยังหัวค่ำอยู่เลย เอ๋จะนอนแล้วเหรอ"
"แล้วจะให้ทำอะไรหล่ะพี่" เราจูบคางแกเบาๆ
"ดูดให้หน่อยสิ" พี่โด่งกระซิบ
"ไหนว่าเมื่อย"
"เมื่อยด้วยเงี่ยนด้วย หรือว่าไม่อยาก"พี่โด่งรุก
"เดี๋ยวเพื่อนพี่กลับมา พอดีรู้หมด"
"ทันอยู่แล้ว มัวแต่พูดอยู่ได้เร็วพี่ถอดกางเกงแล้วนะ" เรามุดเข้าไปในผ้าห่มขยุกขยิกปากอยู่กับเคแก พี่โด่งไม่ยักหดเหมือนอากาศ เลียปลายและไข่เบาๆ ก่อนจะโยกหัวอย่างเร็วพร้อมชักช่วย ไม่นานพี่โด่งก็กดหัวเราไว้กับป่าหญ้าของแกฉีดน้ำเข้ามาในปากเราน้ำเหนียวๆไหลลงคอช้าๆ กลืนค่อนข้างลำบาก อมไว้จนมันเหี่ยวค่อยคลายออก พี่โด่งใส่กางเกงเหมือนเดิม เราลงไปบ้วนปากแปรงฟันอีกรอบก็กลับมานอน พี่โด่งหลับไปแล้วคนอะไรเงี่ยนบ่อยเหลือเกินเรานึกในใจ แต่เราก็ชอบนะ
"เฮ้ยพี่น้องคู่นี้รักกันดีหว่ะ" กลุ่มผู้ชายแยกมานอนรวมกับพวกเราเปิดไฟเห็นพี่โด่งนอนก่ายเราอยู่ พี่โด่งก็ขยับตัวลุกขึ้นส่วนเราอายจนต้องแกล้งหลับ
"มันหนาวนี่หว่า" แกงัวเงียตอบ"ไปกันถึงไหนวะ กลับดึกเลย" แวะไปกินเบียร์กันต่อแก้หนาว" ห้องโล่งๆปูที่นอนไว้สำหรับห้าคน "น้องมึงหลับแล้วเหรอวะ" เจ้าของบ้านมาชะโงกดูที่หัวเรา
"นอนแล้ว"
"มันเป็นกระเทยรึเปล่า" ยังจะสงสัยอะไรกันเนี่ย
"ไม่มั๊ง เด็กพ่อแม่มันหวง ก็เป็นยังงี้แหละ ถามทำไมวะ นอนได้แล้วกูแสบตา " เราทำทีเป็นเหมือนจะตื่นพี่เขาก็ดับไฟทันที แกมาเบียดข้างๆตัวเรา ส่วนอีกสามคนนอนถัดไปจากพี่โด่ง เหม็นกลิ่นเบียร์มาก เราพลิกตัวหนีลมหายใจนั้นนอนหันหน้าเข้าหาพี่โด่งแทน พี่โด่งเอาแขนให้หนุนเหมือนเคยจนหลับ กลางดึกก็รู้สึกตัวเพราะพี่เจ้าของบ้านนอนกอดเราแน่น เราเบียดตัวหนีจนทำให้พี่โด่งตื่นแกกระซิบถามเบาๆ
"เป็นอะไร"
"เพื่อนพี่เบียดมา" พี่โดงลูบหัว"นอนนิ่งๆแล้วกันแกลุกขึ้นวดันตัวเพื่อนแกออกจากเรา แล้วล้มตัวลงนอนต่อ เหมือนโดนแกล้งเจ้าของบ้านยังไม่ยอมหยุดยุ่งกับตัวเราจากเบียดเฉยกลายเป็นลูบคลำแล้วทำเสียงอืออาเหมือนหลับสนิท เรากลั้นใจลุกขึ้นนั่งเพราะรำคาญ ข้ามตัวพี่โด่งไปนอนอีกฝั่งนึง กว่าจะหลับได้ก็ข่มตาอยู่นาน
"เอ๋ หลับสบายมั๊ย" ตื่นเช้ามาเจ้าของบ้านยังมีหน้ามาถามอีก "เมื่อคืนพี่ฝันว่าได้นอนกับสาว กอดซะแน่น ตื่นมากลายเป็นไอ้โด่งไปได้" หนุ่มเหนือผิวสวยแกล้งแหย่
"นี่พี่วง เห็นหน้าละอ่อนเป็นไม่ได้เลยนะ ผู้ชายก็ไม่เว้น"
"อีน้องอย่าว่าปี้จายจะอี้นะ" พี่วงทำเป็นพูดภาษาเหนือตอบโต้พี่ผู้หญิง พวกเรานั่งกินกาแฟกันตอนตีห้า กะจะไปดอยแต่เช้า รถตู้นำทางไปแล้วเรากับพี่โด่งก็ขับตาม
"เมื่อคืนเป็นอะไรเหรอ นอนดิ้นจนพี่พลอยไม่หลับด้วย"
"หนีพี่วง ก็มาเจออีกคนนึงก่ายอยู่นั่นแหละ กางแขนกางขาทับจนหนัก" เราหน้างอเพราะนอนไม่พอ
"พี่โด่งไม่เห็นดิ้นอย่างนี้เลย เอ๋ว่าเขาแกล้งเอ๋มากกว่า เห็นเป็นกระเทยก็เลยอยากจะหยอกมั๊ง"
"คิดมากนา พี่เขาคงนอนกันแบบนี้แหล่ะ" พี่โด่งมองตามรถตู้ไปเรื่อยๆ นานร่วมสองชั่วโมงกว่าจะถึง เรางีบหลับไปตื่นมาอีกทีรถกำลังไล่ระดับและเลี้ยวเข้าสู่สูงสุดยอดแดนสยาม ทะเลหมอกอยู่เบื้องหน้า เย็นยะเยือก หนาวจนแก้มสั่นระริก ภูเขาที่อยู่เบื้องหน้าลดหลั่นเป็นระดับทั้งที่สายแล้วแต่ยังไม่มีแสงแดดเลย มีเพียงแสงสว่างเท่านั้น พี่โด่งโอบไหล่ยืนมองด้วยกันกับเรา
"เราน่าจะมากันสองคนนะพี่"
"ไว้คราวหน้าสิ ดีมั๊ย พี่ขับไปรับเอ๋ที่บ้านแล้วมากันเอง ปีนี้ต้องพึ่งเจ้าถิ่นก่อนเพราะไม่เคยมา"
ลงมาข้างล่างแล้วอากาศเป็นอีกแบบร้อนมาก แดดหน้าหนาวสว่างจ้าจนแสบตา ขับรถเที่ยวกันต่อในเมือง พรุ่งนี้จะเลยไปแม่ฮ่องสอนกันต่อ เที่ยวกันให้คุ้มไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย...............
คืนวันที่31 พวกเรานั่งเคาน์ดาวน์กันอยู่หน้ากองไฟที่แม่ฮ่องสอน ทุกคนกระโดดดีใจกับเพื่อนร่วมทางทีมอื่นฉลองกันอย่าสนุกสนาน
"Happy New Year " เราทั้งคู่ชนแก้วกันพร้อมส่งสายตาที่บอกความนัยกันได้ดี จนเวลาผ่านมันใหม่มาถึงตีหนึ่งจึงแยกย้ายกันเข้านอนในเต๊นท์ เป็นครั้งแรกที่ได้นอนกับพี่โด่งสองคนตั้งแต่มาเที่ยวเหนือ เรารู้สึกเป็นลุขอย่างมาก จูบปากพี่โด่ง สอดลิ้นเข้าไปช้าๆพี่โด่งกระหวัดลิ้นตอบแล้วดันตัวเราให้นอนทับอยู่ข้างบน ใต้ผ้าห่มผืนนั้นมีแต่ความอบอุ่นอบอวลไปหมด
"อยากให้เวลาหยุดแค่นี้จังเลย" เราบอกพี่โด่งเบาๆ
"ทำไมหล่ะ"
"จะได้อยู่ด้วยกันนานนานไง"
"นี่ก็นานแล้ว" พี่โด่งลูบตัวเราเรานอนหนุนที่อกของแกจนเช้า................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

66. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:16 PM (SE Asia Standard Time)
 
   66
กลับมาถึงกรุงเทพฯเช้าวันที่ 2 พี่โด่งขับรถมากลางคืนเราเป็นห่วงแกตลอดทางนั่งบังคับตัวเองไม่ให้หลับเพราะไม่อยากให้พี่โด่งคิดว่าขับรถอยู่คนเดียว หาเรื่องคุยกัน กลุ่มเพื่อนของพี่โด่งยังอยู่ที่เชียงใหม่ต่ออีกเพราะเพื่อนทีมปิดบัญชีเพิ่งเดินทางมาถึงคืนวันที่ 31 จะกลับตอนเช้าพี่โด่งมีเหตุผลสั้นๆตอบเพื่อนไปว่า
"มีธุระต้องทำตอนเช้า" เท่านั้นเอง
"พี่อยากพักสักคืน วันที่2 หยุดอีกวันวันจันทร์ก็ไปทำงานแล้วไม่อยากเหนื่อยมาก เราเองจำวันที่ไม่ถูกพอกลับไปดูปฏิทินเวลานั้นเช้าวันที่4 เป็นวันจันทร์แก่แล้วเลอะเลือน แล้วเราจะกลับวันไหนหล่ะ"
"กำลังนั่งเพลินก็ถูกถามถึงวันกลับ"
"อยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย พี่โด่งจะให้อยู่รึเปล่า" เราหันไปมองหน้าแก
"แล้วจะทำอะไรตอนกลางวันพี่ไปทำงาน"
"ไม่รู้ รู้แต่ว่ายังไม่อยากกลับ ลองดูก่อนว่าถ้าไม่มีอะไรทำจริงๆก็คงกลับวันพรุ่งนี้เลยก็ได้" เราตอบอย่างไม่แน่ใจนัก ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่เราจะห่วงหาอาวรณ์อีกเพราะมีประสบการณ์แล้ว ทำได้อย่างเดียวคือทำใจไม่ต้องคิดอะไรมากอีก ถ้ากลับไปแล้วไม่มีโอกาสเจอกันอีกมันก็แล้วแต่โชคชะตา ของอย่างนี้ ถ้าพี่โด่งเป็นของเรายังไงก็เป็นของเราวันยังค่ำ คิดดูว่าจู่ๆก็ได้เจอกัน ได้รู้จักกันมันก็น่าจะพอใจแล้ว เรานั่งคิดคำนึงไปคนเดียวแต่ไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจอะไรเลย มีแค่เสียดายนิดเดียวเท่านั้น
เข้าห้องอาบน้ำแล้วนอนกันทั้งคู่หลับสนิทจนเวลาล่วงมาถึงบ่าย วันนี้ไม่อยากแกล้งพี่โด่งเท่าไหร่นักเลยเดินลงมาข้างล่าง เราคงจะอยู่ไม่ได้จริงๆแหละทั้งวันจะคุยกับใครจะทำอะไร คิดได้อย่างนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านพรุ่งนี้เช้าเลยก็แล้วกัน รถคงจะว่างแล้วเพราะคงมีแต่คนกลับกรุงเทพฯ
พี่โด่งตื่นมานั่งกินกาแฟพร้อมกับดูทีวี เราเทกับข้าวแล้วเอามาวางหน้าโต๊ะถึงที่
"กินมารึยัง"
"กินมาแล้วที่ข้างล่าง เห็นพี่ยังไม่ตื่นก็เลยซื้อมาไว้ให้" กินเสร็จเราก็เก็บไปล้าง ไม่รู้จะทำอะไรก็กวาดบ้านถูบ้าน พี่โด่งก็นั่งดูแต่ไม่ยักลุกมาช่วย ไม่เป็นไรหรอกน่า
"พี่ เอ๋กลับพรุ่งนี้นะ"
"อ้าวทำไมรีบกลับหล่ะ ไหนว่าจะอยู่ต่อ" พี่โด่งเปลี่ยนความสนใจจากจอมาเป็นหน้าเราแทน
"ก็ไม่มีอะไรจะทำนี่ พี่โด่งไปทำงานแล้วเอ๋จะอยู่แต่ในห้องอย่างงี้ คงเหงาแย่"
"พรุ่งนี้วันอาทิตย์ พี่ก็อยู่อีกวัน วันจันทร์เช้าพี่ไปส่งหมอชิตแล้วกัน"พี่โด่งออกความเห็น
"ยังไม่อยากให้กลับเลย" แกทำหน้าอย่างนั้นจริงๆ
"แล้วจะให้อยู่ทำอะไรหล่ะพี่" เรานั่งลงบนโซฟาพี่โด่งนอนหนุนที่ตัก
"ยังจะมาถาม แล้วอยู่มาทุกวันนี้ทำอะไรกันละครับ"
"พี่โด่งน่าจะอยู่ต่อกับเพื่อนนะ"
"เพื่อน อยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้ว แต่เอ๋นะนานนานเจอที"
"พี่โด่งอย่ามาหวานเลย"
"วันนี้เราฉลองกันสองคนนะ พี่กินเหล้าได้มั๊ย"
"กินก็กินสิ ไม่เห็นต้องขอ"
"ก็ต้องบอกก่อน ถ้ากินเหล้าแล้วคึกขึ้นมาก็ต้องรบกวนเอ๋นี่"
"แล้วถ้าไม่เมามันคึกรึเปล่าหล่ะ" เราพูดเสร็จก็สอดมือเข้าไปในกางเกง พี่โด่งแขม่วท้องให้มือเราสอดเข้าไปได้
"ไม่รู้เป็นอะไรเนี่ย อยู่กับเอ๋มันคึกทั้งวันเลย"แกรูดกางเกงลงนอนให้เรารูดเล่นแต่ไม่ชวนให้ทำอะไร
"เก็บแรงไว้ตอนกลางคืน เสร็จแน่ ถึงบานแน่"
"แค่นี้ก็กลวงหมดแล้ว" เรามองเคแข็งๆที่มือ "พี่โด่งทำไมมีอารมณ์บ่อยจัง"
"อย่างเอ๋นี่ยังน้อยนะ ยังไม่เคยล่อกันทั้งวันเหมือนกับแฟนเก่าพี่เลย"
"แล้วทำไมไม่ทำหล่ะ"
"มันฝืดใช้แรงเยอะกว่ากัน ก็เลยเหนื่อย แต่รับรองก่อนกลับนี่ ขาถ่างแน่"
"บ้า พูดอะไรไม่รู้" พี่พงษ์มาเคาะประตูห้อง ผัวเมียจะหยอกกันก็เสียอารมณ์ แกเดินเข้ามาหน้ายังเมื่อยเหมือนก่อนเราไปเชียงใหม่
"เป็นอะไรวะ"
"ไม่รู้จะไปไหน เพื่อนก็กลับบ้านนอกกันหมด"
"แล้วแกทำไมไม่กลับ"
"บ้านชั้นอยู่แค่นี้เอง ไปวันเดียวก็เบื่อแล้ว แล้วนี่สองผัวเมียทำอะไรกัน" พี่พงษ์มองหน้าเรา พี่โด่งจะเป็นกันเองกับพี่พงษ์มากกว่าคนอื่นเพราะรู้เขารู้เรากันหมดแล้ว
"กำลังหลอกจะกินกลางวันเมียอยู่ แกก็เข้ามา"
"ไอ้บ้า ป่านนี้เอ๋มันไม่บานหมดแล้วเรอะเดี๋ยวก็หนีไปอีกคนหรอก" พี่พงษ์พูดขำๆ
"ไม่หนีหรอกพี่ ติดแล้ว" เราพูดติดตลกแล้วลุกไปจัดที่จัดทาง
"กินเหล้ากันสิ ห้องเรานี่แหละ " พี่โด่งชวน
"ดี ชวนไอ้กฤษ กับไอ้ยัน ด้วยนะมันเพิ่งกลับเหมือนกัน บ่นว่าหิวเหล้าอยู่พอดี" เกือบจะเย็นแล้ว พี่โด่งพยักหน้า กฤษกับยันอยู่ชั้นล่าง เป็นเพื่อนที่ทำงานเดียวกันกับพี่พงษ์ แบ่งห้องเช่ากันเพิ่งทำงานไม่นาน พี่พงษ์ก็ฟาดหมดแล้ว นี่คงหมดอพาร์ทเมนท์ละมั๊ง เราถึงเงินถึงอย่างนี้เรานึกในใจ ตั้งวงกันแล้วพี่โด่งให้เรานั่งใกล้ๆกัน ของมันเคยอยู่แล้วพอเมาก็เกิดการลวนลามแทะโลมด้วยคำพูด โดยเฉพาะยัน เหมือนกับเขาจะสนใจเรา เราแอบมองหน้าพี่โด่ง กลัวเหมือนกันแต่แววตาที่มองตอบก็เป็นประกายเจิดจ้า เราไม่เคยเห็นหน้าตาตัวเองเวลามองผู้ชายขณะที่เมามีแต่เพื่อนสนิทบอกว่า
"เวลามองผู้ชายหน่ะ หลบสายตาบ้าง"
"ทำไมเหรอ"
"มันบอกว่ามึงอยาก มันเยิ้มจนกูเองยังกลัวเลย ระวังเถอะผู้ชายจะหนีหมดเพราะกลัวมึงมองนะสิ" ต้องหัดหลบสายตาบ้าง ทิ้งระยะห่าง ยกแก้วเป็นระยะ อีนี่เล่นจ้องเอาจ้องเอา จะพาลนกกันหมด อย่ามองจิกและก็อย่าอ่อยมากนัก " โอยแล้วสรุปว่าเป็นยังไงเนี่ย เราไม่สนใจหรอกจะอะไรก็ช่าง ได้ก็ได้ไม่ได้ก็นั่งรถกล้บบ้าน นอนเงี่ยนคนเดียวดีกว่า

ยันก็คงถูกเรามองอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆ บางครั้งเขาก็แกล้งหลบตาหันไปคุยเรื่องอื่นกับพี่พงษ์ พี่โด่งหันมามองหน้าเราเพราะเหมือนจับได้ แกขมวดคิ้วคงเพิ่งสังเกตแล้วกระซิบที่หูเบาๆว่า
"เงี่ยนเหรอ" เราตีขาแก แล้วลุกไปห้องน้ำ พี่โด่งลุกตาม
"เดี๋ยวมานะเพื่อน"
"เป็นอะไร ทำไมมันเยิ้มอย่างนั้นหล่ะเอ๋"
"เมื่อไหร่จะเลิกสักทีพี่โด่ง"
"เดี๋ยวเหล้าก็หมดแล้ว" มือเราควานไปทั่วตัวแก "จะทนไม่ไหวแล้วพี่" เรารูดกางเกงขาสั้นแกลงแล้วนั่งลงดูดพี่โด่งดันหัวออก
"เดี๋ยวๆ พอก่อน " แกดึงเราลุกขึ้น "เดี๋ยวพี่ทำให้นะครับ ตอนนี้ยังไม่เหมาะ ไปกินเหล้าต่อนะ" แกเดินออกไปแล้วเราก็เดินตาม
"ไปกล่อมเด็กละสิท่า" พี่พงษ์แซว
"เด็กมันง่วง"พี่โด่งมองมาที่เรา
"เด็กง่วงหรือผู้ใหญ่มันเงี่ยนยะ" ทั้งวงก็ฮาครืน พี่โด่งก็เขินเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
"ไม่ต้องเลยโด่ง ชั้นรู้นิสัยแกดี ต้องมอมให้เมาจนลุกไม่ขึ้นนั่นแหละถึงจะสงบ เอ้ายก ดับเงี่ยนให้พี่โด่งเขาหน่อย" ทั้งวงพร้อมใจกันยก เราทำตามช้าๆ เราต่างหากที่เงี่ยน ยิ่งกินก็จะยิ่งสร่างคืนนี้ไม่ต้องนอนกันแน่ ระวังดีๆเถอะพี่โด่ง...........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

67. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:17 PM (SE Asia Standard Time)
 
   67
67…..
“ไปซื้อเหล้ามาเติมเร็วเดี๋ยวร้านปิด” พี่พงษ์ควักเงินให้ยัน เขารีบวิ่งออกไป เรากับพี่โด่งมองหน้ากันเหมือนอ่อนใจ กฤษออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงพ่นควันขาวอย่างอารมณ์ดี เราเดินไปเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านเขา กฤษสะกิดเอวเรา วัยเรากับเขาไม่ห่างกันมากเหมือนพี่โด่งกับเรา
“เอ๋ ไปหาเราที่ห้องได้มั๊ย” กฤษชวนเราดื้อๆ
“มีเรื่องอะไรเหรอ” เราถาม
“เรากับยัน อยากจะล่อเอ๋ นะสิ พี่พงษ์หน้าไม่เหมือนผู้หญิงเหมือนนายไม่มีอารมณ์” เราอึ้งในคำพูดของเขา
“ไม่ได้หรอก พี่โด่งจะเตะเอานะสิ” เราชำเลืองมองไปในห้อง
“ยิ่งหวงยิ่งอยากลุ้น เอากับผู้ใหญ่จะมันส์อะไร สู้เอารุ่นเดียวกันไม่ได้” กฤษลุกต่อ เราไม่กล้าให้คำตอบนอกจากก้มหน้าดูที่พื้นแทน เราไม่อยากนอกใจพี่โด่ง
“ไม่ดีหรอก” เราสะกดอารมณ์ของตัวเองให้จมลง นั่งตรงข้ามพี่โด่งคุยกับพี่พงษ์แทน พี่พงษ์มองหน้าพี่โด่ง สมาชิกยังกลับมาไม่หมด
“โด่ง ชั้นถามจริงๆ แกเป็นเกย์รึเปล่า” คำว่าเกย์สำหรับเรายังไม่กระจ่างชัด พี่ทั้งสองคนสนิทกันมากกว่าเรา พี่โด่งมองหน้าพี่พงษ์แต่ไม่มีคำตอบออกมาซึ่งตัวเราเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน พี่พงษ์เมื่อไม่ได้คำตอบก็ไม่เซ้าซี้ ให้ได้คำคอบ ยันกลับมาจากซื้อเหล้า
“เราไปต่อที่ห้องพี่ดีกว่า เจ้าของห้องเขาง่วงแล้ว” พี่พงษ์ลุกขึ้นยืน เดินกลับห้อง ทั้งสองทำหน้าเหรอหราแต่ก็ตามไปโดยดี เราปิดประตูห้อง แล้วทำความสะอาด พี่โด่งอาบน้ำเสร็จแล้ว เราก็อาบต่อ มันเมาจนหมดอารมณ์ไปแล้วน้ำเย็นชำระความรุ่มร้อนในใจจนหมด ซุกตัวลงที่นอน นอนห่อตัวเหงาเหลือเกิน กินเหล้าทีไรหลังจากใจกระเจิงแล้วกลับรู้สึกหนาวเหน็บมากกว่าเดิม อาการอย่างนี้เป็นอยู่ไม่หายจนถึงปัจจุบัน พี่โด่งคคคงหลับไปแล้ว เรานอนกอดตัวเองแล้วถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นในใจ เรียกร้องหาคนตอบในใจดังลั่น สิ่งที่ต้องการนั้นในตอนนี้ตอบได้คือความรักเท่านั้น ยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อให้ได้เจอกับความรักแต่ยิ่งตามหายิ่งห่างออกไปทุกวัน พี่โด่งไม่มีคำตอบให้พี่พงษ์แต่เรากลับมีคำตอบให้กับตัวเอง เรารักเขาเกินกว่าที่จะตัดใจจากเสียแล้ว ความเย็นของห้องยิ่งทำให้หนาวยะเยือกเข้าไปในใจมากขึ้น พลิกตัวไปกอดพี่โด่งแน่น จนพี่โด่งตื่น เราร้องไห้ออกมาจนได้น้ำตาหยดลงที่อกของแก
“เอ๋ร้องไห้ทำไม” พี่โด่งลุกขึ้นมามองหน้า
“ไม่รู้ เอ๋รักพี่โด่งเหลือเกิน เอ๋จะทำยังไงดี เอ๋ต้องการความรักจากพี่ เอ๋ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ใจของพี่ เอ๋ไม่รู้อะไรเลย” เรายังคงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของพี่โด่ง
“อย่าร้องไห้สิ บอกพี่เอ๋ต้องการอะไร” เรากอดแกแน่นแต่ยังสะอื้นอยู่
“พี่โด่งช่วยเอ๋ด้วย ใจมันจะขาดแล้ว”
“หยุดร้องได้แล้ว พี่ทำอะไรให้ไม่พอใจเหรอครับ”
“ไม่ พี่โด่งไม่ได้ทำ แต่เอ๋” เราดันตัวแกออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ถึงอากาศจะเย็นแค่ไหนแค่ก็ยังยืนอยู่ใต้ฝักบัว พี่โด่งยืนมองเราอยู่หน้าห้องน้ำเอื้อมมือดึงแขนเราออกมาจากสายน้ำ ถอดเสื้อผ้าเราออก
“ เดี๋ยวเป็นหวัดพอดี” แกจับเราเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วดันตัวเรานอนลง
“เอ๋ ต้องการอะไรครับ”
“พี่โด่ง เอ๋ไม่ได้แกล้งนะพี่ ไม่ได้มารยาเลย เอ๋อยากถามพี่ว่า พี่รักเอ๋บ้างม๊ย”
“อยากให้ตอบจริงๆเหรอ” เราพยักหน้า “ไม่รัก ไม่เคยรักเลย พอใจรึยัง” คำตอบนั้นยิ่งทำให้ใจสลายมากกว่าเดิมอีก
“เอ๋เข้าใจแล้วพี่ เข้าใจทุกอย่างแล้ว” เราหันหน้าหนี พี่โด่งดึงตัวเรากลับ แล้วนอนทับไว้
“พี่บอกเอ๋ได้แค่ว่า พี่เองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ ถ้าเอ๋คาดคั้นพี่แบบนี้ ก็ตอบได้แบบนี้ แต่บอกเอ๋ได้แค่ว่าทุกวันที่อยู่ด้วยกันพี่มีความสุข จนพี่ไม่อยากทิ้งความสุขนั้ไป พี่เห็นแก่ตัวนะ”
“เอ๋อยากได้คำว่ารักจากพี่เท่านั้นเอง เพื่อที่จะทำให้เอ๋มั่นใจที่จะเดินต่อไป”
“แต่ที่พี่จะบอกเอ๋ได้ แค่อย่างเดียวว่า ทุกอย่างที่ทำมันมาจากใจเท่านั้น และวันนี้ทุกอย่างจะป็นอย่างที่เอ๋ต้องการ”
พี่โด่งดึงกางเกงเราออกแล้วชำแรกเข้ามาในร่างกายเรา นิ่มนวลกว่าทุกครั้งทุกการเข้าออก เต็มไปด้วยความมั่นคงและหนักแน่น แกจูบเราไม่ยอมละจากริมฝีปาก ทั้งกัดและขบอย่างเคย เรารู้สึกเป็นสุขกัยรสรักครั้งนี้กว่าทุกครั้ง ...อา......พี่โด่งฉีดความอบอุ่นเข้ามาแล้วพร้อมทรุดตัวลงทับเราพร้อมกอดเราแน่น
“พี่รักเอ๋ นะครับ” เรานอนยิ้มทั้งน้ำตา “พี่ไม่อยากให้เวลาเราหมดลงไปแบบนี้ เอ๋กลับมาเป็นเอ๋คนเดิมของพี่ได้มั๊ย เอ๋คนที่อารมณ์ดีเข้าใจทุกอย่างง่ายๆหายไปไหนครับ เอ๋คนที่พี่รักหายไปไหน”..........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

68. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:18 PM (SE Asia Standard Time)
 
   68...............
"พี่รักเอ๋ อย่างที่เอ๋ต้องการไม่ได้ แต่พี่ก็รักเอ๋ได้อย่างน้องคนหนึ่ง น้องที่พี่สามารถให้อะไรได้ทุกอย่าง เอ๋เข้าใจมั๊ย"
พี่โด่งยังกอดก่ายเราไว้ เรานอนลืมตามองแก แววตาที่อ่อนโยนนั้นเหมือนย้ำให้เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาพูด
"เอ๋ เข้าใจฮะ" เรารับคำเบาๆ
"สักวันนึงเอ๋ โตกว่านี้เอ๋จะมองเห็นความรักในหลายรูปแบบ บางทีมันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าเรายังเชื่อมั่นในสิ่งที่เราคิดและตั้งใจ พี่คิดว่าทุกอย่างมันไม่ได้อยากเลย"
"เอ๋อายพี่โด่งจังเลย ที่รู้สึกอะไรบ้าๆแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้นิสัยเอ๋ดี ถึงจะดื้อแต่สุดท้ายเอ๋ก็จะคิดได้และเข้าใจทุกอย่าง"
"ฮะ" เรารับคำเบา เคที่อ่อนตัวไปเมื่อครู่เริ่มขยายตัวอีกครั้ง ความอุ่นที่นาบอยู่บนท้องทำให้ใจเราลิงโลดขึ้นมาอีก
"พี่โด่ง"เรามองตาแก
"ให้มันได้อย่างนี้สิเมาเมื่อไหร่เป็นเรื่อง" พี่โด่งมองหน้าเราเหมือนอ้อนวอน "นะเอ๋นะ อย่าเพิ่งเบื่อพี่เลย"
"พี่ชอบเหรอ เอ๋ก็ชอบ พี่โด่งปลุกอารมณ์เอ๋อีกจนได้ วันนี้ไม่ต้องนอนกันหรอกนะ" พี่โด่งแนบมันจนแน่น
"พี่รู้ปล่าว่า วันนี้ตอนที่เอ๋ชวนพี่ มันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว"
"งั้นก็จัดการเลยสิ" พี่โด่งนอนหงายลงที่เตียงเราขยับตัวขึ้นนั่ง แล้วกดสะโพกเหมือนควบม้า พี่โด่งเด้งอานสวนทั้งเร็วและแรงโต้ตอบกันอย่างออกรส
"เอ๋ พี่ไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งดันตัวขึ้นแล้วผลักเรานอนก่อนที่แกจะบรรเลงเอง "โย อย่าเกร็งมันเสียวปลาย" พี่โด่งร้องเสียงหลง"ไม่ไหวแล้ว" พี่โด่งก็พุ่งอีกจนได้
"พี่แพ้เอ๋แล้วนะ ยกนี้"
"โอย" พี่โด่งวิ่งเข้าห้องน้ำหน้าแกยังเสียวไม่หายเราฟอกสบู่ล้างทำความสะอาดกันทั้งคู่ก่อนนอน
"พรุ่งนี้ระวังตัวดีๆนะพี่โด่ง" เรามองแกอย่างหมายมาด
"ก็ไม่แน่" พี่โด่งยังเดินแก้ผ้าโทงๆ อยู่ในห้องเปิดวิทยุ เราเดินไปโอบเอว แล้วจับเคแกเล่น พี่โด่งเปิดวิทยุฟัง มันทั้งสร่างทั้งสุข เสียงเพลงดังแผ่วๆจากดีเจเพลงแล้วเพลงเล่า นอนคลอเคลียอยู่กับเคพี่โด่งท่ามกลางความมืดมิด เพลงหวานๆดังขึ้นมาเบาๆจนเราร้องคลอ
"บัดนี้ทุกนาทีเป็นแสงทอง ที่เคยหม่นหมองกลับมีความหมาย ฉันเพิ่งได้รู้รักทำให้ความทุกข์คลาย ยาอื่นไม่หายไม่เลือนเหมือนเธอเป็นยา............"
"ยาหลอดนี้รักษาหายทุกโรค" พี่โด่งพูดอย่างภาคภูมิใจ
"เอ็นท่อนคารูหลับ" ชื่อยาที่พี่เพลินเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ ทำให้พี่โด่งขำ "ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเรา นอนกันเถอะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า"
"เพียงอยู่ในวงแขนคุณ อบอุ่นในหัวใจ เพียวได้เดินเคียงข้างคุณดั่งพรมละมุน ทอดพาดวงใจไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล ที่ไม่มีใครเคยก้าวล้ำข้ามผ่านพ้นไป...........ดีเจเหมือนนั่งอยู่ข้างๆ อบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด พี่โด่งเอียงแก้มให้จูบก่อนนอน มีความสุขจริงๆ
"


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

69. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:19 PM (SE Asia Standard Time)
 
   69
"สวัสดีครับ" คำทักทายสำหรับเช้าวันใหม่ที่สดใส พี่โด่งตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนจะออกไปข้างนอก
"พี่จะไปไหนเหรอ"
"จะไปทำธุระหน่อย เอ๋จะเอาอะไรมั๊ย"
"ให้เอ๋รอที่ห้องเหรอพี่" พี่โด่งพยักหน้า เรารู้สึกเซ็งขึ้นมาหน่อยแต่ก็ทำใจได้บ้าง พี่เขาคงต้องมีสังคมมีโลกของเขาบ้างสินะ เราส่ายหน้า
"ไม่เอาอะไรหรอก พี่รีบไปรีบกลับนะ เดี๋ยวเอ๋กินข้าวข้างล่างได้" พี่โด่งเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกไปแล้ว เราจัดการเก็บที่นอนทำตัวเป็นแม่บ้านทุกอย่าง ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น
"โด่งเหรอคะ" ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิง แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
"ไม่ใช่ฮะ"
"แล้วนั่นใครพูดคะ ขอสายโด่งคะ" ถามแต่ไม่รอคำตอบ
"พี่โด่งออก ไปข้างนอก"
"ไปนานรึยัง"
"เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จะให้บอกว่าใครโทรมาฮะ"
"ไม่เป็นไรคะ เพราะรออยู่ ขอบคุณคะ" เจ้าหล่อนวางหูไปแล้ว คงเป็นเพื่อนมั๊งเราคิดไปเรื่อยเปื่อย เดินลงไปหาอะไรกินข้างล่าง สวนกับยันที่กำลังจะเดินไปกินข้าวเหมือนกัน
ก็เลยชวนกันไปนั่งที่ร้าน สักพักพี่พงษ์ก็ตามมาสมทบ
"อ้าว ผู้ปกครองไปไหนเหรอ" แกมองหาพี่โด่ง
"ไม่รู้ ออกไปแต่เช้า"
"แล้วนี่เขาทิ้งหนูไว้คนเดียวเหรอ เหงารึเปล่าคะ" แกทำเสียงเล็กเสียงน้อย
"บ้า พี่พงษ์ เอ๋ไม่ใช่เด็กซะหน่อย"
"ไม่มีอะไรทำก็ไปเล่นห้องพี่สิ จะได้มีเพื่อนคุย" เราส่ายหน้า
"ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวเอ๋ว่าจะงีบสักหน่อย ง่วงมากเลย"
"ตามใจ แล้วจะหาว่าไม่ชวน"
พี่พงษ์เดินตามยันเข้าห้องไปแล้ว เราก็เดินกลับห้อง เสื้อผ้าเก็บเรียบร้อย ไม่กล้าสานต่อกับยันเพราะเริ่มไม่ไว้ใจและไม่อยากจะเสี่ยงอีกแล้ว ทั้งนั่งทั้งนอนพี่โด่งก็ยังไม่กลับจนมืดเราอาบน้ำเสร็จก็เตรียมเข้านอน พรุ่งนี้กลับบ้านแต่เช้า ไม่ได้อยู่กับพี่โด่งทั้งวันก็ไม่นึกเสียใจอะไรเลยรู้สึกเฉยๆ อากาศเย็นจนไม่ต้องเปิดแอร์เลยหลับสนิทจนมารู้สึกตัวอีกที เมื่อพี่โด่งเปิดประตูเข้ามา หน้าตาแดงๆเหมือนเมา แกคงไปฉลองกับเพื่อนมา พี่โด่งยิ้มทักแล้วเดินมานั่งใกล้ๆ เอามือตีที่ก้นเรา
"เฮ้ย นอนทำไมวะเอ๋"
"ง่วงแล้ว พี่ไปไหนมา"
"ไปเที่ยวกับเพื่อนมา"
"พี่โด่งไปอาบน้ำสิจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว เดี๋ยวตื่นสาย"
"ยังไม่นอน"พี่โด่งเริ่มงอแง ลุกๆ แกปลดเข็มขัดแล้วรูดซิบถอดกางเกงออกทั้งนอกทั้งใน เคยังนอนสงบนิ่ง"ดูดให้นอน" เรามองหน้าแก นี่เมาหรือเลี่ยนกันแน่นะ เอาเถอะไหนๆก็จะกลับบ้านแล้วบริการพี่เขาหน่อย เอื้อมมือไปจับรู้สึกว่ามันแฉะๆเหนียวๆ พี่โด่งกดหัวเราลงไปที่เค เราต้องหันหน้าหนี กลิ่นน้ำกามยังกระจายอยู่ ปลายก็แฉะเยิ้มเหมือนทำอะไรมา เราเบือนหน้าหนี
"พี่ไปไหนมา" เราซักไซ้
"จะถามทำไม ดูดเร็ว" เราลุกขึ้นยืน "ไปอาบน้ำก่อนเถอะพี่" เราไม่อยากต่อกรเพราะเดี๋ยวเจ็บตัว
"เออ ไม่ดูดก็ไม่ดูด พี่โด่งทิ้งตัวลงนอนทั้งอย่างนั้น เราปิดไฟแล้วก็นอน สักพักพี่โด่งก็ก่ายมาบีบนมและยังเรียกชื่อเราเป็นคนอื่น เราไม่อยากพูดถึงชื่อนั้น เราเริ่มเข้าใจว่าแกไปไหนมา เลยนอนนิ่งให้แกจับไปตามตัว แล้วพี่โด่งก็ชะงักที่นมเรา
"อ้าว ไม่ใช่นี่หว่า" แกก็หันกลับไปนอนที่เดิม เราก็เศร้าใจอีกจนได้ นี่มันอะไรกัน พี่โด่งทิ้งเราไว้ที่ห้องแล้วตัวเองก็คงไปมีความสุขกับคนอื่น ก็ดีแล้ว เรานึกในใจ แล้วข่มตาให้หลับไปในที่สุด ตื่นมาตอนเช้าไม่มีการพูดอะไรกันนอกจากต่างคนต่างอาบน้ำแต่งตัว พี่โด่งขับรถพาเราออกจากอพาร์ทเมนท์ตั้งแต่ตีห้า ขับไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งร้อน เราเองก็อยู่ในความเงียบตั้งแต่ตื่นยังไม่ได้คุยกันสักคำ
"เอ๋จะกลับรถรอบกี่โมง"
"ไปถึงถ้ามีตั๋วก็กลับเที่ยวแรก" พี่โด่งไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนและเราเองก็ไม่อยากซักไซ้ เพราะคำตอบมันอยู่ในตัวมันแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะพูดถึงมันอีก
"เอ๋ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ ที่พี่พาเทียว"
"ไม่เป็นไร" พี่โด่งยังสนใจกับถนนข้างหน้า ยังเช้ามากรถยังไม่ติดเท่าไหร่
"เราจะเงียบอย่างนี้ไปตลอดทางเลยเหรอเอ๋" พี่โด่งถามแต่ตายังมองที่ถนนอยู่
"ไม่มีอะไรจะถามพี่เหรอ"
"ไม่มีหรอกฮะ ถ้าพี่โด่งอยากจะเล่าพี่คงจะเล่าเอง" เราตอบไปโดยไม่มองหน้า
"หึงพี่เหรอ"
"เปล่า เอ๋คิดแค่ว่าพี่ก็ต้องมีโลกส่วนตัวของพี่งเท่านั้น ตอนนี้พี่ก็คงกลับไปโลกของตัวเองแล้วเท่านั้น" เราไมใอยากดูถูกตัวเองกับพี่โด่ง ทั้งที่ใจจริงอยากจะตัดพ้อมากกว่านี้ แต่นึกได้ว่าไหนๆก็จะจากกันแล้วไม่ควรที่จะชวนทะเลาะ
"ดีที่เข้าใจ เขาเป็นคนที่พี่กำลังคบอยู่ ก็คนที่ชวนไปเป็นไกด์นั่นแหละ" เราหันไปมองหน้า "ขอโทษนะ"
"ไม่เป็นไรฮะ ก็เอ๋เป็นน้องพี่นี่นา ไม่ใช่คนที่พี่อยากจะร่วมชีวิตด้วย"
"มันยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า"
"แต่พี่ก็มีอะไรกับเขาแล้ว" เราย้อน
"ผู้ชายกับผู้หญิง เรื่องธรรมชาติ"
"งั้นเรื่องผู้ชายกับผู้ชายก็ผิดธรรมชาติสิพี่" พี่โด่งหยุดรถ
"เอ๋จะยอกย้อนทำไมครับ"
"ขอโทษ เอ๋กำลังทำใจอยู่ มันหลุดปากไปเอง"
"พี่บอกเอ๋แล้วไง ว่าเรื่องของเรา มันเป็นเรื่องที่เฉพาะเราสองคนเท่านั้น คนอื่นไม่เกียว พี่จะไปไหน ไปทำอะไรกับใคร หรือเอ๋ก็ตาม แต่ถ้าอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่เราก็เป็นเหมือนเคยไง" พี่โด่งวนรถกลับที่ยูเทิร์นข้างหน้า
"พี่โด่งจะไปไหน" รถออกจากซอยแล้วย้อนกลับ
"ไม่ต้องกลับมันแล้วถ้าพูดไม่รู้เรื่อง" เราได้แต่งง
" พี่ไม่ไปทำงานเหรอ"
" ไม่ไปแล้ว เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง พี่ไม่ชอบที่เอ๋พูดแบบนี้กับพี่
"เอ๋ พูดอะไร ก็พูดตรงอย่างที่พี่บอกไง มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่ดีเหรอฮะ"
"ดี แต่ไม่อยากให้ประชดประชันแบบนี้ มันเหมือนย้ำว่าพี่ทำผิด" รถขับเร็วขึ้นจนถึงอพาร์ทเมนท์
"ทำไมพี่ต้องโกรธขนาดนี้" พี่โด่งดันตัวเราเข้าห้องแล้วปิดประตู แกชี้หน้าเรา
"รู้ตัวมั๊ยว่าเราแสดงออกมากไป"
"พี่พูดอะไร พี่จะชวนทะเลาะทำไม ถ้าพี่โกรธ เอ๋ขอโทษมากๆ เลย"
"อย่าทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของพี่ " พี่โด่งถอดไทเขวี้ยงไปที่โซฟา เรากอดแกไว้ก่อนที่อารมณ์แกจะรุนแรงกว่าเดิม แกดันตัวเราออกแล้วไปนั่งยืนบุหรี่ที่ระเบียง เราเองก็ทำตัวไม่ถูก
เราไหว้แกที่อก "ยกโทษให้เอ๋เถอะนะ เอ๋ปากไม่ดีเอง"
พี่โด่งบี้บุหรี่ทิ้ง
"เรารู้บ้างมั๊ยว่า พี่อยู่กับเรานานจนแยกไม่ออกแล้วว่าพี่ชอบอะไรกันแน่" เราเองก็หาคำตอบให้แกไม่ได้เลยเดินหนีเข้ามาในห้อง พี่โด่งตามมาอีกเอานิ้วจิ้มที่หน้าผาก
"อย่าทำให้พี่โกรธ เพราะถ้าพี่โกรธแล้วคนจะเดือดร้อนคือเอ๋"
"ไม่ยอมหายโกรธ ก็ไม่พูดด้วยแล้ว ไม่กลับก็ไม่กลับ จะอยู่ให้เลี้ยงให้เข็ดเลย" เราต่อปากต่อคำ พี่โด่งหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้อง แกขู่ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าเรา
"กลับมาถ้าไม่เจอละก้อ น่าดู" พี่โด่งขับรถออกไปแล้ว เรายังยืนเซ่ออยู่อย่างนั้นก่อนที่จะรีบโทรศัพท์ไปบอกแม่ว่า พวกพี่ๆ เขายังไม่กลับกันไม่ต้องเป็นห่วง ...แล้วนี่เราจะอยู่กับเขาอีกไปจนถึงเมื่อไหร่ ไม่ได้กลัวแต่ก็ไม่อยากจากไปทั้งสภาพอย่างนี้เหมือนกัน.................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

70. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:20 PM (SE Asia Standard Time)
 
   70
เราถูกทิ้งไว้ในห้องจนเที่ยงพี่โด่งก็ยังไม่กลับ เบื่อจนต้องออกไปเดินเล่นข้างนอก หน้าปากซอยเดินไปเรื่อยเปื่อยในใจนั้นอยากจะกลับบ้านเป็นที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมตอนนั้นถึงไม่อยากกลับก็ไม่รู้ นั่งรถเมล์ไปโน่นไปนี่เรื่อยเปื่อย เข้าห้างโน้นออกห้างนี้เพื่อฆ่าเวลาจนเย็นถึงกลับอพาร์ทเมนท์ พี่โด่งคงออกไปทำงานนั่นเองถึงได้หายไปทั้งวันแบบนี้ รถจอดอยู่แล้วเมื่อเรามาถึง เรารีบเดินขึ้นห้อง เคาะประตูให้แกเปิดด้านในให้ เพราะต่อให้มีกุญแจสำรองมันก็เข้าไม่ได้อยู่ดีเพราะด้านในใส่กลอน เคาะอยู่นานก็ไม่เปิด เลยนั่งลงที่หน้าประตูมองหน้าห้องพี่พงษ์ พี่โด่งเปิดประตูแง้มออกมาดูพอเห็นเป็นเราก็เปิดประตูค้างไว้แล้วกลับไปสนใจงานที่โต๊ะต่อ ไม่พูดไม่จาอะไร เราทำทีไปเดินวนเวียนไปมาให้แกสนใจแกก็ทำเฉย
"เกิดมาเพิ่งเคยเห็นผู้ชายงอน" เราเอ่ยขึ้นเบาๆแต่กะให้ได้ยิน พี่โด่งหน้างอมากกว่าเดิม เราชะโงกหน้าไปดูแกใกล้ๆแกก็ยังทำเป็นไม่สนใจ หมั่นไส้นักก็เลยหอมแก้มไปแรงๆหนึ่งที
"เดี๋ยวโดนชกหรอก"
"ไม่กลัว" พี่โด่งทำทีเป็นเงื้อกำปั้นใส่พร้อมถลึงตา ลมวืดอยู่ข้างหู"หลบทำไมไหนว่าไม่กลัว" พี่โด่งลุกจากเก้าอี้
"ไปไหนมา"
"เที่ยวห้าง"
"นึกว่าหนีกลับซะแล้ว"
"ไม่ให้กลับจะกลับทำไม " เราลอยหน้าลอยตาตอบ แล้วตามไปนั่งข้างๆที่โซฟาแล้วนอนหนุนตักแกเล่น เอามือลูบคางบริเวณเคราเขียวสากมือดี
"เมื่อเช้าเป็นอะไร อยู่ๆก็อาละวาด" พี่โด่งไม่ตอบ"ทำเป็นงอน"
"ใครมันหึงจนทำให้โกรธ"
"แล้วหายโกรธรึยัง"
"ไม่หายง่ายๆหรอก"
"จริงอะ"เราลุกขึ้นจากตักแล้วนั่งทับแกไว้ โอบที่รอบคอพี่โด่งจับเอวทั้งสองข้าง
"เอ๋ขอโทษนะพี่" เราซุกหน้าที่ลำคอของพี่โด่งแล้วและเล็มที่ใบหู พี่โด่งเกร็งมือที่บีบเอวเราแน่น"ทำยังไงน๊า พี่ถึงจะหายโกรธ"
"ผิดธรรมชาติ" พี่โด่งลุกขึ้นยืนมั้งที่ตัวเราเกี่ยวเอวแกอยู่เรากลัวตกก็ยิ่งโอบแน่นขึ้น พี่โด่งเหมือนอุ้มเราไปวางที่เตียงแล้วนอนทับลงมา พี่โด่งบดขยี้ริมฝีปากกับเราอย่างแรง กอดที่ต่างคนต่สงช่วยกันเปลือยร่างกายของตัวเองยิ่งกว่าประจุไฟ้ฟ้า เครื่งติดแล้วทั้งคู่
เราเป็นฝ่ายรุกก่อน ก่อนที่พี่โด่งจะตั้งตัวติด จ็อกกี้สาวก็ควบม้าไปไกลแล้ว
มีแค่ความรู้สึกที่อยากจะง้อพี่โด่งอยู่ในหัวเท่านั้น หลังจากมีปากเสียงกันเล็กน้อย ซึงเราก็พอดุออกจากการแสดงออกของพี่เขาก็เหมือนกับตัวแกเองก็ค่อนข้างจะแคร์ความรู้สึกเราบ้างเหมือนกัน แม้จะไม่ได้พูดอะไรกันมาก แต่เราคิดว่าการที่มีเซ็กส์กับพี่โด่งเพื่อเคลียร์ความขุ่นเคืองใจคงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
"พี่โด่ง พอก่อนเอ๋หายใจไม่ออก" พี่โด่งกำลังขยับสะโพกอย่างแรงเข้าออกในปากเราแต่ละครั้งที่กดลงมาหน้าท้องจะแนบกับจมูกเรา ความเร็วลดลงเล็กน้อยหลังจากนั้นทำนบก็แตก เราก็จูงมือแกลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปทำความสะอาด มีเซ็กส์กันโดยที่ยังไม่มีอารมณ์กันเต็มที่ต่างคนต่างก็เหนื่อย ได้แต่หัวเราะกันตอนที่อาบน้ำด้วยกัน
"ไปกินข้าวกันเถอะ พี่หิวแล้ว" พี่โด่งหยิบกุญแจรถยังหัวค่ำอยู่ แถวฝั่งธนร้านอาหารเยอะแยะ พี่โด่งเลือกร้านที่ติดแม่น้ำ
"เอ๋เคยกินข้าวบนเรือรึยังครับ"
"ยัง พี่แล้วเราจะไปยังไง"
"เราก็เอารถไปจอดที่ร้านแล้วก็รอขึ้นเรือ เรือก็จะแล่นไปตอนเรากินข้าวไง ไปเที่ยวนึงแล้วก็กลับมาที่เดิมก็กินเสร็จพอดี" โรแมนติกดีจัง โต๊ะที่เรานั่งมองเห็นแสงไฟระยิบระยับ ที่กระทบกับแม่น้ำผ่านวัดอรุณ ผ่านท่าเรือต่างๆ โป๊ะไฟเล็กบนโต๊ะส่องกระทบหน้าพี่โด่ง นานทีเดียวที่ไม่ได้ซ฿มซับบรรยากาศหวานๆแบบนี้อยู่นาน
"พี่ยังไม่บอกเลยว่าหายโกรธรึยัง" พี่โด่งจ้องหน้า
"บอกแล้วไงไม่หายง่ายๆ"
"ว๊า แย่จังทำให้พี่โด่งโกรธ แล้วนี่ใครจะหาเลี้ยงละเนี่ย"
"นั่นนะสิ" พี่โด่งตอบสั้นๆ
"นะ ดีกันะพี่" เรายื่นหน้าไปใกล้ๆ พี่โด่งเองก็คงจะเขินเพื่อนร่วมทางบนเรือ แกก็เฉไฉไปมองอย่างอื่นแทน เพลงที่เปิดในร้านก็ช่างบาดใจเรานัก...............

เธอมีรักใหม่รักใหม่ จึงได้หลงลืมรักเก่า
จำได้หรือเปล่าว่าเรารักกัน อันน้ำคำฉันจำได้มั่น แต่เธอสิพลันผันพรากไป
เมื่อฉันต้องแพ้เพราะทน หลงพะวงอาลัย โอ้คนใหม่ชนะไงเล่า
ฉันไม่อาจชิงดีแพ้ด้วยมีอันเป็นจึงยากเย็นอับเฉา บาปอะไรหนอพรากเราความทุกข์โศกไม่บรรเทา จึงแสนเศร้าอับเฉาไป
ดวงใจหมองหม่น จำใจฝืนทนวิโยก อารมณ์ฉันโศกระกำช้ำใจ
เป็นเพราะเธอพบคู่คนใหม่ เธอจึงตัดใจทิ้งให้ตรม
จึงเป็นผู้แพ้ง่ายดาย ฉันไม่วายระทม สุดจะข่มให้หายไปได้
ฉันเคยปลอบวิญญาน์เช็ดน้ำตาให้เธอ เคยบำเรอปลอบใจ นี่จะลืมหรือว่าไร ความรักล่วงห่วงอาลัยยังฝันใฝ่อยู่ทุกวัน....
เรามองหน้าพี่โด่งเพราะรู้สึกคล้อยตามไปกับเพลง เหมือนอยากจะขอคำตอบว่าเราเป็นผู้แพ้ใช่มั๊ย เจ้าของที่แท้จริงกับมาแล้วเหรอ ถึงแม้จะบอกแกว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ใจของเราก็ยอมรับไม่ได้ เราไม่ต้องการที่จะให้พี่โด่งเจือจานความสุข ให้คนอื่นนอกจากเรา แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่โด่งสักนิด
เดินลงจากเรือพี่โด่งโอบไหล่เราไว้ แต่ตายังมองไปข้างหน้า ที่จอดรถด้านนอกต้นไม้ร่มครึ้มหากมาตอนกลางวันคงร่มรื่นดี
เราเอนตัวไปใกล้พี่โด่ง แกละมือจากพวงมาลัยมาลูบหัวอักครั้ง
"พี่ขอโทษนะ เรื่องเมื่อเช้า พี่ค่อนข้างหงุดหงิดเท่านั้น"
"พี่โด่ง หงุดหงิดจากที่ไหนเหรอฮะ"
"หลายเรื่อง แต่ปัญหามันคลายแล้วหล่ะ"
"ไง อยากจะกลับบ้านรึยัง" ถามหรือว่าไล่ เราสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม นอกจากตอบว่า
"แล้วแต่พี่ก็แล้วกัน อยากให้กลับก็กลับ"
"พี่กลัวว่าพ่อแม่เราจะเป็นห่วงนะสิ"
"เอ๋โทรไปบอกแม่แล้ว"
"ตัวเอ๋หล่ะ อยากอยู่หรืออยากกลับ"
"ถ้าอยู่ด้วยกันตลอดไปคงดี แต่พี่โด่งจะรำคาญเอานะสิ"
"ตามใจเอ๋นะ เบื่อก็บอกพี่ ไม่ต้องกังวลว่าพี่จะเบื่อหรือรำคาญ"
"ฮะ" กระเทยส่วนใหญ่ตอบอะไรไม่ตรงคำถามต้องมีถ้า ต้องมียังงั้นอย่างงี้ แทนที่จะพูดออกไปว่าจะอยู่ต่อ หรือจะกลับ รถมาถึงอพาร์ทเมนท์ตอนสี่ทุ่มกว่า พี่โด่งกลับมาเป็นพี่โด่งคนเดิมที่แรกรู้จักซึ่งมันก็นานมาแล้ว เหมือนกับว่าไม่สนิทใจกันเหมือนที่ผ่านมา...............
เราซื้อตั๋วรถแล้ว พี่โด่งจ่ายเงินให้ เราเองก็บอกไม่ถูกกับความรู้สึกแบบนี้ไม่อยากกลับแต่ต้องตัดใจ ถึงแม้คืนที่ผ่านมาจะนอนด้วยกัน แต่ก็เหมือนคนแปลกหน้า พี่โด่งดูคล้ายกับมีอะไรในใจไม่ลื่นไหลเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา สิ่งที่ดีที่สุดที่เราบอกตัวเองได้ก็คือ ควรจะปลีกตัวออกจากกันสักพัก ระหว่างนั่งรอรถโดยสารพี่โด่งก็นั่งเป็นเพื่อน อีกเกือบครึ่งชั่วโมงรถถึงจะออก เราเดินคุยกันฆ่าเวลา
"พี่โด่ง ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่ากินเหล้ามากเดี๋ยวเสียสุขภาพ"
"เหล้านะเป็นอาหารแล้ว ขาดไม่ได้หรอก" แกตอบเหมือนติดตลก
"ถ้าเอ๋อยากจะมาหาพี่อีกจะได้มั๊ยฮะ"
"ก็โทรมาก่อนสิ ว่าจะมาวันไหน เพราะบางอาทิตย์พี่อาจจะต้องไปทำทัวร์"
"ฮะ" เรารับคำสั้นๆ
"ดูแลตัวเองนะ โชคดีเอ๋ แล้วเจอกัน" พี่โด่งส่งเราขึ้นรถแล้วเดินมองอยู่จนรถออก
ผู้แพ้รักกำลังเดินทางกลับบ้านด้วยหัวใจที่สับสน งุนงง เราหันหน้าออกไปที่กระจก น้ำตาไหลลงมาเองโดยอัตโนมัติ รถเที่ยวเช้าคนน้อยได้นั่งคนเดียวที่เบาะด้านหลัง
...จึงเป็นผู้แพ้ง่ายดาย ฉันไม่วายระทมสุดจะข่มให้หายไปได้...........นี่จะลืมหรือว่าไร ความรักล่วงห่วงอาลัยยังฝันใฝ่อยู่ทุกวัน.............
ฉันไม่อาจชิงดีแพ้ด้วยมีอันเป็นจึงยากเย็นอับเฉา บาปอะไรหนอพรากเราความทุกข์โศกไม่บรรเทา จึงแสนเศร้าอับเฉาไป


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

71. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:21 PM (SE Asia Standard Time)
 
   71
เราเอาผลไม้อบแห้งของฝากจากเชียงใหม่ไปให้พี่เพลินที่บ้านตลาดทันทีที่ไปถึง
"ขอบใจเอ๋ ไงสนุกมั๊ย ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหล่ะ เพิ่งไปเที่ยวกับแฟนมานี่" พี่เพลินซักพร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งคุย แกกำลังเก็บร้านอยู่
"ก็สนุก แต่เอ๋คิดว่าเขาคงไม่ใช่แฟนเอ๋อีกแล้วหล่ะพี่"
"ทำไมหล่ะ" เราก็เล่าเรื่องราวในความคิดของตัวเองให้แกฟัง พี่เพลินส่ายหน้า
"กระเทยก็อย่างนี้ ทุกที ไม่ว่ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่ พี่เคยบอกเอ๋ว่าไง จำไม่ได้เหรอ" เราส่ายหน้า
"อยู่กับความสุขสิ วันนี้ได้แค่นี้ก็ต้องเอาแค่นี้ ไม่ต้องคิดเผื่อแผ่ไปจนถึงวันข้างหน้า เจ๊มีประสบการณ์มาหมดแล้ว มันก็รูปแบบเดียวกันทั้งนั้น เอ๋ก็รู้นี่นาว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงจะวาดฝันวิมานไปทำไม" พี่เพลินแกะของฝากกินเล่นมองหน้าเรา
"เอ๋ก็เห็นนี่นา ขนาดเจ๊ทำมาหากินเองได้แล้วอยากจะเลี้ยงผู้ชาย อยากจะมีผัวกี่คนก็ทำได้ แต่ทำไมเจ๊ไม่ทำ ความรักของกระเทยมันเศร้า เอ๋ก็รู้ แล้วไอ้นิยายกระเทยแปลงเพศที่เราอ่าน ตอนจบมันเป็นไง ผ่าแล้วก็ใช่ว่าเขาจะรัก สุดท้ายก็ใส่ชุดแต่งงานนอนตายอยู่คนเดียว"
"แต่ว่า...." พี่เพลินเอามือจุ๊ปาก
"ไม่มีแต่ยะ อย่าคิดไปเองอย่าเหมาเอาเองว่าที่เขาเอากับเรา เพราะเขารักเรา เจ๊ไม่อยากให้เอ๋คิดแบบนี้ มันไม่ค่อยถูกต้องสำหรับกระเทย"
"แล้วเขาคิดอะไรกับเอ๋หล่ะ" เรายังไม่ยอมง่ายๆ
"ถ้าให้เจ๊คิดเองก็คือไม่ได้คิดอะไร แต่สำหรับใจเขาเจ๊ไม่รู้จริงๆ ที่ดีที่สุดตอนนี้คือใจเราเองเท่านั้น ถ้าเอ๋ยังคิดตามความคิดของเอ๋ เจ๊ก็ไม่รู้จะบอกยังไง ของอย่างนี้ต้องหาคำตอบให้กับตัวเอง แล้วไม่นานหรอกเอ๋จะตอบคำถามตัวเองได้หมด โดยไม่ต้องถามใครเลย"
"แล้ว พี่โด่งเขาจะโทรมาหาเอ๋มั๊ยพี่ เขาจะคิดถึงเอ๋มั๊ย"
"เด็กเอ๋ย เราหล่ะคิดถึงเขารึเปล่า" เราพยักหน้า
"คิดถึงก็โทรไปหาเลยสิ จะอ้ำอึ้งชักช้าอยู่ทำไม"
"เอ๋กลัว ว่าเขาจะไม่รับโทรศัพท์"
"แล้วเราโทรหาเขาแล้วเหรอ ถึงรู้ว่าเขาจะไม่อยากรับ" พี่เพลินส่ายหน้า "จะต้องให้บอกให้สอนอีกเมือ่ไหร่ ว่าชีวิตกระเทยต้องหาแต่ความสุขใส่ตัวไม่ต้องคิดมาก ถ้าทำแล้วมีความสุขและไม่เดือดร้อนใคร ก็ทำไปเถอะ อย่างน้อยก็จะได้สบายใจ โทรไปถ้าไม่เจอเขา เขาก็อาจจะติดธุระอยู่ก็ได้ หรือเขาอาจไม่สะดวกในตอนที่เราโทรไป อย่างน้อยเราก็ได้ทำแล้ว" พี่เพลินผละไปเก็บร้านต่อทิ้งให้เรานั่งเซ็งอยู่คนเดียว ทุกคำพูดที่เพลินพูดกรอกหูเรายังคงจำได้ทุกครั้งและมันดังชัดขึ้นมาทุกทีที่อกหัก
เรากลับมาที่ร้านนั่งจ่อมอยู่หน้าเครื่องโทรศัพท์เหมือนรอให้มันดังขึ้นมาเอง เตี่ยกับแม่กลับบ้านไปแล้วเราเก็บของในร้านเสร็จ ก็นั่งชั่งใจอีกพักว่าจะทำยังไง มือคว้าหูโทรศัพท์ แล้วค่อยๆหมุนเบอร์อพาร์ทเมนท์พี่โด่ง โอเปอเรเตอร์ต่อสายให้แล้ว เสียงสายว่างดังกังวานอยุ่นานพอดูกว่าจะมีคนรับ เราใจสั่นเกือบสองทุ่มแล้วทำไมพี่โด่งยังไม่กลับอีก เรานึกในใจว่าจะรอให้สายตัดไปเองแล้วค่อยวางหู
"ฮัลโหล" เสียงคุ้นๆรับสายแล้ว "ใครครับ" เหมือนน้ำลายมันเต็มปากกว่าจะพูดกลับไปได้
"เอ๋ฮะพี่"
"เออ ลืมไปพี่ว่าจะโทรหาพอดี ไงถึงบ้านรึยัง"
"ถึงแล้วพี่ พี่โด่งทำอะไรอยู่เหรอ รบกวนรึเปล่า"
"กำลังอาบน้ำ นี่ยังอาบไม่เสร็จเลย เอ๋มีอะไรรึเปล่า"
"ก็จะโทรมาบอกว่าถึงบ้านแล้ว" น้ำเสียงของเราเหมือนสั่นและขาดหายเป็นห้วงๆ ดูเหมือนเราไม่มั่นใจที่จะคุยกับพี่โด่ง
"แล้วเป็นไงบ้าง" พี่โด่งถามมาอีก
"คิดถึง"
"พี่ก็คิดถึงเราเหมือนกันแหล่ะ แล้วนี่กินข้าวรึยัง"
"กินแล้ว แล้วพี่หล่ะ"
"วันนี้จะออกไปข้างนอกกับเพื่อนพอดี แค่นี้ก่อนนะเอ๋เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำต่อ"
"เดี๋ยวก่อนพี่"
"มีอะไรครับ"
"เอ๋รักพี่นะฮะ" เรายังควบคุมน้ำเสียงตัวเองไม่ได้
"ฮื่อ แค่นี้ก่อนนะครับ" เราขยับปากจะพูดอะไรอีกแต่ปลายสายก็วางหูไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ที่วางสายแล้วยังดังกังวานอยู่ในหูกว่าเราจะวางมันลง เหงายิ่งนัก เหมือนขอบตามันร้อนผ่าว เราได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้วนี่ พี่โด่งก็ไม่สะดวกที่จะคุยด้วยอย่างที่พี่เพลินพูดจริงๆ ถอยรถออกจากร้าน แล้วปิดประตู เราขับมอเตอร์ไซค์ไปตามทางเรื่อยๆ วนไปตามถนนสายต่างๆ จนเบื่อถึงเลี้ยวกลับบ้าน เตี่ยกับแม่กำลังดูทีวี น้องๆกำลังทำการบ้านหน้าจอทีวีเหมือนกัน
"เอ๋ ทำไมกลับดึกนักหล่ะ" แม่ละสายตาจากละครมาถาม
"ไปขี่รถเล่นมา"
"เดี๋ยวก็ไม่สบาย ยังเที่ยวไม่อิ่มเหรอ"
"ไม่ได้อยู่บ้านนานก็เลยคิดถึงนะแม่"
"เออ น้าอ๊อดมาแล้วนะ เห็นเขาถามหาเอ๋แหน่ะลูก เห็นว่าจะชวนไปกรุงเทพฯ" แม่ลูบหัวเรา "ก็เพิ่งกลับมานี่นาคงไม่อยากไปแล้วมั๊ง" น้าอ๊อดเป็นน้องชายแม่ที่ทำงานโรงแรมในกรุงเทพฯ เรามีน้าสามคนที่ทำงานโรงแรม "เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปถามเขาที่บ้านยายนะว่ามีเรื่องอะไร พอดีมัวแต่คุยเรื่องอื่นเลยลืมถาม" ครอบครัวแม่จะมีสังสรรค์ปีใหม่ทุกปีที่บ้านยาย ลูกทุกคนจะกลับมาฉลองกับตาและยายทุกปี เราพยักหน้าก่อนจะแยกตัวไปอาบน้ำและขึ้นนอน เราไม่คุ้นกับห้องนอนเราเท่าไหร่นัก การนอนคนเดียวโดยไม่มีพี่โด่งกอดก่ายในคืนนั้น ทำให้นอนไม่หลับ ได้แต่ลืมตาอยู่ในความมืดเอาหมอนมากอดแล้วสมมติว่าเป็นพี่โด่ง และพูดคนเดียวกับหมอน เหมือนมันรับฟัง ท่าจะบ้าไปแล้วเรา เรานอนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้......................
"เอ๋ เมื่อไหร่จะไปเรียนหนังสือ" น้าอ๊อดถามเมื่อเจอหน้าที่ตลาด น้าจะมาเล่นกับแม่ที่ร้านทุกครั้งที่มา
"ก็มันยังไม่เปิดเทอมนี่นา"
"ไปทำงานกรุงเทพฯกับน้ามั๊ย"
"ใครจะช่วยเจ๊ขายของ" แม่บอก
"เดี๋ยวมันไปเรียนหนังสือ ก็ต้องหาลูกจ้างแล้ว เพื่อนผมมันให้หาคนไปทำงาน นายมันเปิดร้านอาหาร อยากได้เด็กไปเสริฟ"
"อะไร จะให้เอ๋ไปเป็นเด็กเสริฟ"
"เสริฟฝรั่งในโรงแรมเหมือนผมไง ไม่ได้เสริฟตามร้านอาหารข้างถนนนะ เงินดี มีทิปด้วย"
"แล้วเขาจะเอาเหรอ เด็กบ้านนอก วุฒิแค่มอหก"
"สบายมาก น้าก็จบเหมือนกัน จบแค่ม.ศ.ห้า ไม่ได้เป็นผู้จัดการนี่หว่า"
"ว่าไงเฮีย ให้ไปรึเปล่า"
"ถามมันดูเอง เพราะพักนี้มันก็ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่แล้ว"
"ใครจะช่วยเตี่ยขายของหล่ะ" เราถาม
"อยู่กันหลายคน โตๆกันแล้วคงช่วยได้ เอ๋จะได้มีประสบการณ์งัย แม่ก็ว่าดีนะดูน้าๆเขาสิทำงานโรงแรมฟู่ฟ่ากันทั้งนั้น"
"ตอนกลางวันก็ไปเรียนได้สบาย ไม่ต้องห่วงเลยเรียนรามอ่านหนังสือเอาที่บ้านก็ได้ เหมือนน้างัย"
"แปดปี เหมือนน้านะสิ" แม่ย้อน "แล้วนี่เมื่อไหร่จะจบ"
"เรียนไปเรื่อยๆ เจ๊" น้าเปลี่ยนเรื่อง แล้วหันมาที่เรา "ว่าไงจะไปมั๊ย"
"แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหน"
"ก็ไปอยู่กับเจ๊ใหญ่ไง" น้าหมายถึงป้า "พวกผมก็นอนที่ร้าน ส่วนเจ๊เขาไปนอนในหมู่บ้าน ผมจะได้ดูแลมันด้วย
"เออ เดี๋ยวเจ๊กับเฮียจะคุยกับเจ๊เขาก่อน" ทุกคนตัดสินชีวิตให้เราหมดแล้ว ทุกอย่างมันเร็วจนตั้งตัวไม่ติด ถัดจากนั้นสองวันเราก็ขนของมาอยู่ชั้นบนร้านขายของในตลาดของป้าแล้ว บ้านป้าจะขายเทปเพลง กับรับถ่ายเอกสารให้นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแถวนั้น นักศึกษาเต็มร้านทุกวัน น้าอ๊อดโทรนัดเพื่อนแล้วจับเราไปตัดผม ผมที่ระต้นคอถูกตัดสั้นเรียบร้อย ถ่ายรูปเพื่อสมัครงาน วันต่อมาพวกเรายืนรอเพื่อนน้าอ๊อดด้านล่างของตึกสูงปรี๊ดข้างหน้า เราแหงนมองสีรุ้งของมันจนคอตั้งบ่า ตอนนั้นที่นี่ยังไม่ใช่โรงแรมเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโรงแรมในภายหลัง พี่ชัยพาเรากับน้าไปที่ชั้นสิบเอ็ด ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและร้านอาหารสำหรับแขกที่พักข้างบน แนะนำตัวกับผู้จัดการเสร็จก็ถูกมอบหมายให้มาทำงานพรุ่งนี้เลย ทำงานสี่โมงเย็นเลิกตีหนึ่ง ได้เงินเดือนพันห้า และมีทิปรายอาทิตย์อีกอาทิตย์ละ สามร้อย เบ็ดเสร็จก็ สองพันเจ็ด มากพอดูสำหรับสมัยนั้น แต่ยังน้อยกว่าค่าแรงที่เตี่ยให้อีก เราได้วันละร้อย โดยแม่จะฝากธนาคารไว้ให้ แต่ไม่รวมที่เราหยิบใช้เองอีกต่างหาก
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ กลางคืนน้าเลิกงานห้าทุ่มจะแวะมารับ พาขึ้นรถเมล์รอบดึก แล้วเอ๋จะได้กลับเองได้ถูก" พรุ่งนี้ก็ได้ทำงานแล้วแปลกดีเหมือนกัน จะต้องทำอะไรบ้างนะนี่ น้าอธิบายคร่าวๆแค่ว่าเสริฟอาหาร เก็บโต๊ะ กางโต๊ะนอนให้แขกที่มาว่ายน้ำ มันน่าจะง่าย มีความตื่นเต้นอันใหม่จนทำให้ลืมเรื่องพี่โด่งไปได้....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

72. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:22 PM (SE Asia Standard Time)
 
   72
เราทำงานมาเรื่อยๆ หลายเดือนจนสนิทกับทุกคนโดยเฉพาะพี่ทักษ์ เลือดสีเดียวกันมันเข้มข้นแต่แกบอกว่าแกไม่ใช่พวกแต๋วอย่างเรา แกเป็นเกย์แถมยังเป็นเทรนฝรั่งด้วย ตัวดำๆผอมๆ ฟังเพลงแปลกโดยเฉพาะ Tracy Chapman เราหูไม่ถึงแกก็เพียรเปิดให้ฟังตอนที่ไม่มีแขก
"พรุ่งนี้วันหยุดเราทั้งคู่คืนนี้ชั้นจะพาแกไปเปิดหูเปิดตา"
"ไปไหนเหรอ" เราถาม "ไปเที่ยวสีลม"
"เฮ้ยไอ้ทักษ์ เดี๋ยวเด็กก็เสียคนหรอก" พี่ชัยบอก
"ใช่ๆ "พี่ศักดิ์คนที่เราแอบปิ๊งบอก พี่ศักดิ์เป็นกุ๊กอายุมากกว่าเราปีนึงหน้าแนวตี๋หล่อ แก้มใส ปากแดง พี่ทักษ์ชอบเรียกไอ้หน้าตูดเด็กอยู่บ่อยๆ
"อยู่กับพวกมึง พอดีหน้าหม้อ เสียเด็กกว่าอีก"
"ไอ้นี่คงอยากเที่ยวละสิ" พี่ศักดิ์ตีหัวเราทีนึง แล้วแกก็แยกจากพวกเราไปหลังจากตอกบัตร
"วันนี้เราจะไปไหนเหรอพี่"
"โรมคลับ" เราไม่รู้หรอกว่าเป็นแบบไหนรู้แต่ว่าพี่ทักษ์พูดถึงบ่อยๆ และเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่เราได้เหยียบย่างไปที่นั่น มืดและแคบเพราะคนเยอะมาก เปิดเพลงที่เราไม่รู้จัก พี่ทักษ์ชวนเราไปเต้นแล้วเดินทัวร์ตามห้องน้ำ ฝรั่งก็เยอะเรารู้สึกเลยว่าที่นี่ไม่ใช่แบบที่เราชอบ มองไปทางไหนก็มีแต่แบบพวกเราเต็มไปหมด
"เอ๋ไปเต้นต่อกันเถอะ" เราก็บ้าเหล้าเข้าปากก็ออกสาวลงไปยืนขยับหาจังหวะไม่เจอเต้นมันไปมั่วๆ พี่ทักษ์จิกฝรั่งได้แล้วแกก็ปลีกตัวออกไปยืนคุยกันข้างนอกทิ้งเราไว้บนฟลอร์คนเดียว เราเต้นอยู่คนเดียวตั้งนานก็ต้องชะงักเพราะมีคนมอง เลยหยุดแล้วเดินตามหาพี่ทักษ์ ผู้ชายคนนั้นเดินตามเราออกมา พี่ทักษ์ยืนคุยกับฝรั่งอยู่ข้างนอก
"เอ๋ กลับเองถูกมั๊ย"
"นั่งแท็กซี่กลับก็ได้" เราบอกแก"พี่จะไปไหนเหรอ"
"จะไปโรงแรมกับฝรั่งหน่อย"
"อะไรนะ ไปกับฝรั่งเหรอ พี่ไม่กลัวเหรอ"
"กลัวอะไร ถุงยางเกลื่อนกลาดไปหมด" พูดเสร็จแกก็บุ้ยใบ้ให้เราหันไปมองข้างหลัง "ชั้นเห็นเขาตามแกออกมาด้วย"
"ใคร" เราหันไปมอง
"ฝากน้องด้วยนะครับ" พี่ทักษ์ตะโกนบอก "พี่ไปนะ" แล้วแกก็โบกไม้โบกมือ ฝรั่งที่ยืนด้วยก็ทำตาม เราทำตัวไม่ถูกพอเขาเดินมาใกล้ๆ เป็นคนไทยรูปร่างดีเหมือนเล่นกีฬาแต่งตัวเหมือนเพิ่งเลิกจากงาน เหมือนผู้ชายทั่วไป
"น้องชื่ออะไร"
"ชื่อเอ๋ฮะ" เราเริ่มเดินออกจากหน้าโรมไปเรื่อยๆจนเจอถนนใหญ่ผู้คนเริ่มออกจากที่เที่ยวกันแล้วดูวุ่นวายไปหมด
"แล้วพี่หล่ะ ชื่ออะไร" เราไม่รู้สึกปิ๊งสักนิดทั้งๆที่เขาก็หน้าตาใช้ได้
"ชื่อบอย คืนนี้ว่างมั๊ย"
"ทำไมเหรอ"
"ว่าจะชวนไปเที่ยวห้อง" เกย์เขาจู่โจมกันรวดเร็วอย่างนี้เหรอเนี่ย
"มีอะไรฮะ ถึงต้องไปคุยกันที่ห้อง" เราไม่แน่ใจ
"จะได้รู้จักกันไง" เราไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆ หารถยากจังเลยเดินข้ามถนนไปฝั่งสวนลุม แล้วเดินลงไปที่ถนนราชดำริ เราพอจำได้ว่าตรงแยกราชประสงค์รถเมล์เราจะผ่านโรงแรมเลอ เมอริเดียนท์ ก็กลับบ้านได้ ดีอีกที่มีเพื่อนคุย
"บ้านพี่อยู่ไหนหล่ะ" เราหันมาถาม
"ห้วยขวาง" เราไม่รู้จักแต่ก็สองจิตสองใจขึ้นมา
"ไปยังไงหล่ะพี่ นั่งแท็กซี่ไปเถอะเมื่อยขาแล้ว" เดินกันมาจนถึงเอยูเอ ว่าจะข้ามฝั่งไปเรียกแท็กซี่แต่เขาก็จับมือไว้ เดินคุยกันไปเรื่อยๆก็แล้วกัน แล้วมาหยุดที่โรงแรมไฮแอทซึ่งตอนนั้นกำลังก่อสร้างอยู่
"พี่จะเอายังไงเนี่ย ไหนว่าจะชวนไปเที่ยวบ้าน นี่ข้ามถนนก็ถึงป้ายรถเมล์เอ๋แล้วนะ " เราทั้งง่วงทั้งหงุดหงิดจะเอายังไงนะนี่ ตีสี่แล้วด้วย คุณบอยถึงได้เรียกรถแท็กซี่ เขาบอกทางแล้วนั่งเงียบไปตลอดทาง รถจอดหน้าบ้านใกล้ๆตลาดห้วยขวาง
"ถึงแล้ว" พวกเราลงจากรถ เขาเป็นคนแปลกไม่ค่อยชวนคุย ลงจากรถก็ไม่เปิดประตูบ้าน
"อ้าว พี่ทำไมไม่เข้าบ้านหล่ะ" เราทั้งคู่นั่งอยู่หน้าบ้านเราชักเริ่มรำคาญ "แล้วยังไงเนี่ย พี่บอยชวนเอ๋มาทำไม"
"ผมชอบหุ่นคุณนะ ตอนเต้นดูมีความสุขดี อยากดูบอดี้" เรางงนี่อะไรกัน "เข้าบ้านแล้วถอดให้ดูได้มั๊ย" เรื่องแก้ผ้าให้คุณดูนี่ไม่ถนัดเลย เราเริ่มมีเนื้อมีหนังมากกว่าเดิมผมสั้นหน้าขาว คงเข้าตาเขาละสิ
"ไม่เคยแก้ผ้าให้ใครดู แต่ยังไงก็เข้าบ้านกันก่อนเถอะพี่ ยุงกัด จนคันไปหมดแล้ว"
"เดี๋ยวก่อนนะ พี่สาวผมเขาจะออกไปทำงานตอนตีห้ารอสักครึ่งชั่วโมงเขาก็ออกแล้ว แล้วค่อยเข้าไป ผมไม่อยากให้เขารู้ว่าพาคนเข้าบ้าน" เรามองหน้าคุณบอยแล้วถามเขาไปตรงๆ
"ตกลงว่าชวนมานี่จะทำอะไรฮะ"
"ก็อย่างที่บอก ผมอยากดูคุณเปลือย แล้วเราค่อยมีอะไรกัน" เขาบีบที่แขนเรา "แต่ต้องรอก่อน" เราดูนาฬิกา อีกครึ่งชั่วโมงจริงๆ เราไม่อดทนหรอก
"กลัวเขาจะรู้ว่าเป็นเกย์เหรอฮะ ที่พาผู้ชายด้วยกันเข้าบ้าน" เขาพยักหน้า
"งั้นคุณบอยก็ไม่ต้องลำบากหรอกฮะ เพราะเอ๋เป็นกระเทยไม่ใช่เกย์ และก็ไม่กล้าที่จะแก้ผ้าให้ใครดูหรอก เคยแต่จับผู้ชายแก้ผ้า เอ๋กลับหล่ะ"เรารักษาระดับเสียงใหเป็นปกติ
"อีกแป็บเดียวก็ตีห้าแล้ว" เขาเดินตามมาที่ปากซอย
"รถเมล์มาแล้วฮะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เราขึ้นรถอย่างอารมณ์เสียโดยไม่หันกลับไปมองเขาเลย คุณบอยเป็นข้าราชการต้องปกปิดตัวเองอย่างมาก ชีวิตน่าสงสารนะพวกเราสมัยก่อน แต่เราก็ไม่เคยปิดตัวเองเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น และอีกอย่างเรารู้ตัวตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าเราชอบผู้ชายจริงๆมากกว่าพวกเดียวกัน นั่งรถเมล์หลายต่อกว่าจะถึงบ้านก็เช้า ป้าเปิดร้านแล้ว เราสวัสดีป้าแล้วเดินก้มหน้าขึ้นข้างบน
"ไปไหนมาเหรอเอ๋ กลับซะเช้าเลย" ป้าถาม
"นอนที่ทำงานฮะ เมื่อคืนแขกเลิกตีสอง เอ๋ง่วงเลยขอผู้จัดการนอนรอรถตอนเช้า" โกหกป้าจนได้
"ไปอาบน้ำก่อนนะแล้วจะได้นอนสบาย วันนี้ไม่ต้องลงมาช่วยหรอกตอนเช้า พักผ่อนนะลูก" ป้าใจดีเสมอ เราก็รู้สึกผิดที่คันอยากหาอะไรแหย่รูจนเป็นเรื่อง ..เฮ้อ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

73. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   73
"เป็นไงบ้างเอ๋ " พี่ทักษ์แทบจะรอให้เราเล่าไม่ไหวทันทีที่เจอกันแกก็ลากแขนเราเข้าห้องยิม ที่อยู่ด้านล่างของห้องอาหาร พวกเราต้องดูแลแขกที่ลงมาเล่นซาวนาและออกกำลังกายด้วย
"ไม่เห็นมีอะไรเลยพี่" เราก็เล่าทุกอย่างให้แกฟัง
"แกก็ใจร้อน แทนที่จะรออีกสักหน่อย เห็นมั๊ยเลยอดกินของอร่อยเลย"
"ไม่เอาหรอก คนอะไรจะให้เราไปแก้ผ้าให้ดู" พี่ทักษ์หัวเราะลั่น
"ต๊าย หล่อนดูแมนมากเลยนะนี่"
"แล้วของพี่หล่ะ เป็นไง"
"ก็โอเค นี่ได้เบอร์โทรศัพท์มาด้วยเขาเป็นฝรั่งทำงานในเมืองไทย"
"พี่คงอยากมีผัวฝรั่งมากสิท่า" เราถามแกไปตรงๆ
"ไม่รู้อะไร มีผัวฝรั่งสบายจะตายเอาอกเอาใจสารพัด ยิ่งแก่ๆยิ่งดี ไม่มีแรงเอาหรอก ดูอย่างไอ้ฟีสิ" แกหมายถึงแขกข้างบนที่เคยเป็นเด็กบาร์แล้วถูกฝรั่งเอามาชุบเลี้ยง กำนอนเสวยสุขอยู่ที่ห้องพักข้างบน สามเดือนผัวมาที เธอก้เป็นคุณนายช็อปปิ้ง เรียนภาษาไว้รอท่า
"แล้วเอ๋ ไม่อยากมีคนเลี้ยงเหรอ จริงๆแล้วเรื่องผัวไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่พี่อยากไปใช้ชีวิตเมืองนอกมากกว่า"
"ถ้าไปอยู่เมืองนอกก็น่าไป แต่ให้มีผัวฝรั่งแก่ๆ ไม่อยากได้หรอก อีกอย่างต้องเป็นทั้งรุกทั้งรับด้วย"
"มันก็ต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป อุ๊ยสายแล้ว เดี๋ยวว่างๆค่อยคุยกันอีกที" พวกเราสลายตัวประจำที่ของแต่ละคน วันนี้แขกลงมาเล่นน้ำบางตา เลยไม่ต้องดูแลมาก ยมมีหน้าที่ขึ้นส่งรูมเซอร์วิส ช่วงแรก นึกถึงยมเราชอบแอบมองเวลามันเดิน กางเกงรัดๆแข้งขาแน่น แถมมีก้นอีกต่างหาก โดยเฉพาะเป้ากางเกงมันเด่นมาก กางเกงตัวเล็กขนาดนี้ยังไม่คิดจะเปลี่ยนอีก พี่ทักษ์ชอบเล่นกับยมเหมือนหมาหยอกไก่ จนมันเขิน รู้สกว่ายมจะเด็กกว่าเราเล็กน้อยไม่ถึงปี หนวดไรเขียวๆที่เริ่มเห็นชัด ยิ่งเวลาที่เหงื่ออกที่จมูกยิ่งดูเซ็กซี่
"เอ๋เห็นก้นไอ้ยมรึเปล่า" เรามองไปตามตาพี่ทักษ์
"ทำไมเหรอ"
"น่าจับมาเสียบ" เรามองหน้าแกอีกทีอย่างไม่เชื่อหู
"พี่เสียบผู้ชายด้วยเหรอ"
"โอ๊ย แน่นอน เรื่องอะไรจะให้เขาเสียบฝ่ายเดียว แล้วเราหล่ะเคยเห็นเคผู้ชาย บ้างรึยัง กระเทยบ้านนอก มัวแต่ทำนาทำไร่อยู่หล่ะสิ" เราไม่เคยพูดเรื่องประสบการณ์เซ็กส์ให้แกฟัง ถึงแม้จะคุยกันมากแต่ส่วนใหญ่จะปรึกษาเรื่องเรียน เรื่องการดุหนังฟังเพลงมากกว่า เราส่ายหน้า
"เดี๋ยวจะพาไปดูของดี คืนนี้เลยเป็นไง" เราก็พยักหน้าของดีคืออะไรนะพี่ทักษ์ไม่ยอมบอก
"คุยอะไรกัน" ผู้จัดการเดินมาดุจนได้เพราะเรายืนเกาะเคาน์เตอร์แคชเชียร์อยู่ "ไอ้เอ๋นีอยู่ไปนานๆแล้วชักจะแปลกๆน่าดู ดูเดินสิอย่าส่ายมากนัก มันคงจำจากแกมาละสิ" ผู้จัดการแซวให้เราได้ยิน แกเข้าใจโลกของพวกเราดีมากแล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่น
"เดินบิดตรงไหนเนี่ยเรา "อู๊ยป๋า ไอ้เอ๋เนี่ยแมนมากๆเลยนะ ไปเที่ยวกับผมมีคนชวนไปนอนด้วยแล้ว เขาบอกว่ามันหุ่นแมน" เราสะอึกกับคำพูดพี่ทักษ์ รีบวิ่งไปสำรวจหน้าตาที่กระจกในห้องน้ำข้างซาวนา นี่ความหวานมันหายไปแล้วมีแต่เด็กผู้ชายผมสั้นหน้าขาวส่องกระจกแทน ยมเข้ามาฉี่ข้างๆ เราปลายตามองมันก็ผิวปากไม่ได้ระวังอะไร เห็นวับๆแวม เท่านั้นพอเดินมาล้างมือก็แกล้งเอามือมาตีก้นเรา ซึ่งก็หยอกกันอย่างนี้ประจำ ก่อนออกไปยังพูดให้เคลิ้มอีกว่า "ตูดน่าล่อจริงๆ" เราขนลุกแล้วยมก็รีบเดินออกไป นึกในใจไอ้นี่เดี๋ยวเถอะ เราเริ่มนึกหมายมาดยมขึ้นมาจนได้
...คืนนั้นกว่าจะถึงสุรวงศ์ก็เกือบตีหนึ่งครึ่ง พี่ทักษ์พาเราเดินขึ้นไปในร้านที่ชื่อทไวไลท์ ร้านใกล้ปิดแล้วแต่ยังเป็นรอบบิ๊กค็อกอยู่ ผู้ชายเดินแก้ผ้าปั่นเครอบเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเสียงกระเทยเชียร์แขก ดูให้เต็มตานะคะ จับได้แต่ห้ามดูด นะคะ ออฟน้องแล้วไปดูดกันต่อข้างนอกนะคะ อ้าวหนูคนนั้น งับปากด้วยค่าน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว" พี่ทักษ์สะกิดเรา เมื่อเห็นเราถูกแซว จะไม่ให้อ้าปากค้างได้ยังไงหล่อ ดอใหญ่มายืนยักคิ้วอยู่ข้างหน้า
"เอาไงเอ๋ จะออฟมั๊ย" พี่ทักษ์ถาม
"แล้วจะไปไหนหล่ะ"
"ก็ไปโรงแรม" นึกดูสนนราคาบวกกันดูแล้วไม่ต่ำกว่าพัน ก็ต้องตัดใจ เราส่ายหน้า "ไม่เอาหรอกพี่ เอาวันเดียวอดข้าวไปครึ่งเดือน"
"อีงก แล้วเมื่อไหร่จะได้ค-ย"
"ก็หาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคงเจอ" เราบอกแกเมื่อลงมายืนข้างล่างแล้ว
"จริงเหมือนกัน แพงนะ ก็ดูแค่หายอยากก็แล้วกัน เอ๋เห็นร้านนั้นมั๊ย"
แกยืนชี้ไปที่ฝั่งตรงข้าม ขื่อบาร์เบียรี่นะ ที่โน่นมีโชว์สนุกมาก ไว้วันหยุดนี้เรานัดเจอกัน มาดูโชว์กัน แล้วก็ไปโรมต่อ นัดหมายไว้ล่วงหน้า พี่ทักษ์พาไปเดินในสวนลุมนิดหน่อยชี้ให้ดูพฤติกรรมของชาวเรา เงาตะคุ่มๆ เป็นคู่ๆ
"นี่ไงวิธีที่ประหยัดตังค์"
"พี่เคยทำเหรอ" พี่ทักษ์ส่ายหน้า "เอ๋อย่าทำนะเดี๋ยวตำรวจจับ" เราแยกย้ายกันที่หน้าสวนลุมคืนนั้นเรานอนไม่หลับเลย เคยาวๆห้อยกวัดแกว่งให้ไล่งับในความฝัน และเห็นเคพี่โด่งด้วย
ตื่นเช้ามาก็นึกขึ้นได้ว่าเราไม่ได้ติดต่อพี่โด่งนานแล้วป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ งานเราสนุกจนลืมวันลืมคืนแล้วน่าจะลองโทรหาแกสักครั้ง เพราะแม่บอกว่าหลังจากที่เรามากรุงเทพฯไม่ถึงอาทิตย์แกก็โทรหาเรา เพียงแต่ว่าตอนนั้นเรายังไม่กล้าที่จะโทรกลับเพราะไม่มั่นใจในตัวเองหลายอย่าง แล้วมีโอกาสจะลองโทรหาพี่โด่งดู เผื่อจะแทนที่เด็กทไวไลท์ได้บ้าง พอไปทำงานก็แอบมองเป้าไอ้ยมจนมันรู้สึกตัว
"เฮ้ย นายมองอะไรวะเอ๋" ยมเอามือกุมเป้า เราหลบสายตา
"เดี๋ยวสวยแน่" ยมพูดเหมือนหยั่งเชิง แล้วเดินลงไปห้องน้ำ เราเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่มีแขกก็เลยเดินตามไปห้องน้ำ ใกล้เลิกงานแล้วไม่ค่อยมีคนสนใจมากพี่ทักษ์ก็ง่วนกับการทำรีพอร์ตกับตัวเลขอยู่ ยมยืนรอหน้าห้องซาวน่า เราทั้งคู่เข้าไป
"ดูดให้หน่อยสิวะ ทำเป็นรึเปล่า" เราส่ายหน้าแต่ในใจนึกว่าหวานคอแร้ง ลองเอามือคลำมันเริ่มแข็งพากเป็นลำแล้ว ยมงัดออกมา เคพอดีตัวม่เร้าใจเหมือนตอนอยู่ในกางเกง มันคงไม่มีเงินเที่ยวเหมือนเรา แป็บเดียวก็เสร็จเรารีบวิ่งออกไปบ้วนปากในห้องน้ำ ยมก็มายืนล้างมือใกล้ๆแล้วเอามือตีตูด
"ลิ้นดีนี่หว่า วันหลังต้องมาใช้บริการบ่อยๆแล้ว ไม่ต้องเมื่อยมือ" มันตีก้นเราแล้วเดินแกมวิ่งผิวปากกลับขึ้นข้างบน
เราหิวมากไม่อิ่มเลยจะทำยังไงดีเนี่ย.........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

74. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:25 PM (SE Asia Standard Time)
 
   74
ตัวตึกจากชั้นสิบสองขึ้นไปเป็นห้องพักแขก มีหมดทุกชาติทุกห้องเป็นห้องสวีทมีห้องน้ำห้องรับแขก ที่ทำครัว ห้องน้ำอยู่ด้านใน ระเบียงยื่นออกไปมองเห็นกรุงเทพฯได้ทุกมุมของตึก เราเพิ่งได้มีโอกาสส่งของขึ้นห้อง น้ำถังยี่สิบลิตรยกไม่ค่อยไหวทั้งลากทั้งดึงอยู่นาน กว่าจะถึงห้องแขกแล้วก็เจอแจ็คพ็อตจนได้ เป็นห้องของครอบครัวแขกขาวที่มาซื้อเสื้อผ้าไปขายที่ประเทศเขา มีลูกเล็กสองๆคนวันนี้ผัวอยู่คนเดียว เขามองหน้าแปลกตอนหยิบเงินให้ แถมยังทิปต่างหากอีกร้อยนึง ก่อนเราจะเปิดประตูห้องออกมาก็หยิกแก้มเราทีนึง ได้แต่งงไปเท่านั้น ภาษาของเราก็แค่พูดทักทายได้ นับเงินทอนเงิน ถ้าแขกถามประโยคยาวๆก็ตอบไม่ได้เพราะฟังไม่รู้เรื่องต้องโทรลงไปหาแคชเชียร์ข้างล่างบ่อย จนถูกพี่ทักษ์ด่าว่าไม่รู้จักไปเรียน เราก็ฉุนของมันไม่ได้ใช้จะให้พูดคล่องได้ไง นั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่อยากให้เราขึ้นฟลอร์เพราะกลัวพูดไม่ได้ เรานึกในใจไอ้ยมก็พูดไม่ได้เหมือนกัน แต่อาศัยที่มันกะล่อนกับแขกก็เลยรับออร์เดอร์ได้
"อีโง่ ก็ไปเรียนสิภาษาอังกฤษ" พี่ทักษ์แนะนำเอยูเอให้เราแกจบสิบห้าคอร์สตั้งนานแล้วคงเตรียมตัวโกอินเตอร์ตั้งแต่เนิ่นๆ
"ของอย่างนี้ต้องลงทุน"น้าก็บอก "ถ้าชอบทำงานบริการก็ต้องไปเรียน แล้วมีเงินมั๊ย" เราตัวคนเดียวไม่ได้ใช้อะไรกินข้าวที่ทำงานทุกวัน เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยวนอกจากจะไปดูหนังก็เลือกที่จะดูหนังวนเท่านั้น โดยเฉพาะหนังไทย จินตหราคือดาราที่ปลื้มที่สุด ดูทุกเรื่อง แวะเรียนเอยูเอก่อนเข้างานทุกวันผ่านไปได้หลายคอร์ส ความมั่นใจก็เกิดขึ้น เรามีทุนเดิมตอนเรียนมัธยมอยู่แล้ว เลยฟื้นไม่นาน คราวนี้ก็หมูขึ้นลงห้องพักแขกได้สบาย แขกห้องเดิมยังเป็นลูกค้าน้ำถังปกติเราเองก็แปลกใจที่เขาอยู่คนเดียวตลอด เวลาที่สั่งของ และก็จะสั่งโน่นสั่งนี่จนเจอเรา นานๆเข้าก็คุ้นเคยกัน เรากำลังเก็บน้ำไว้ใต้ซิงค์เขาก็เดินมาใกล้ๆ กางเกงขาสั้นหลวม เวลาเดินมันแกว่งๆ รู้ได้เลยว่าไม่ได้ใส่กางเกงใน
"เอ มาเอาเงินในห้อง" ฟีดัสบอกให้เราเดินตามเข้าไปในห้อง ทุกทีก็หยิบมาให้นี่นา เราก็เดินตามเข้าไปเอาแต่ตาก็แอบชำเลืองมองเวลาเขาขยับตัว น้ำลายสอเลยนึกในใจใหญ่ชิบ
"Where's your wife?" เขาหัดพูดภาษาไทยเราก็หัดพูดภาษาอังกฤษ
"Shopping" ฟีดัสดึงเงินออกมาแต่ยังไม่ยอมให้
"ไอจะทิปยูนะ เอ" ก็ทิปปกติอยู่แล้วทำไมจะต้องบอก ฟีดัสกอดเราไว้จริงๆเราก็ชอบเขาเหมือนกันแขกขาวตัวสูงมีหนวดพองาม หน้าตาหล่อดี เราขนลุกเกรียวเมื่อเขาดันตัวเราลงไปที่เตียงแล้วซุกไซ้ คนมันห่างมานานอารมณ์ก็เลยเตลิด นอนนิ่งให้เขาซุกไซ้
"ไอชอบยูนะ"ภาษาไทยแปร่งๆ "I'll pay you a tuition fee if you" ไม่ต้องรอให้เขาพูดจบมือเราก็ล้วงไปในกางเกงแล้ว โอแม่เจ้าใหญ่อย่างไม่เคยพบเห็นจะตายมั๊ยนี่ ฟีดัส จับตัวเราหันหลังเขาถอดกางเกงออก แล้วหยิบถุงยางในลิ้นชักมาใส่ เราเห็นมันชัดแล้วรู้สึกกลัวลุกขึ้นจากเตียงทันทีไม่เอาแล้วอยากแค่ไหนก็ไม่เอา ฟีดัสหยิบเงินออกมาสองพันใส่มือเราเรารับมาอย่างงงงง ก่อนที่เขาจะดันตัวเราลงที่เตียงอีกครั้งความอยากมันมากกว่าความกลัว กางเกงเราหลุดออกไปแล้ว หัวมันกำลังมุดเข้ามาช้าๆ เราเจ็บจนเกร็งไม่มีหล่อลื่นไม่มีทางจะเข้าได้ ฟีดัสฮึดฮัดอยู่นานที่เราไม่ร่วมมือก่อนจะลุกไปหยิบสบู่เหลวมาชะโลม มันเข้าไปจนได้ เจ็บที่สุดเราดิ้นพร้อมบอกให้เอาออก เขากดหลังเราไว้กระเด้าจนมันเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวแล้วแทงเข้าแทงออก เจ็บเหมือนอึจะราด
"It's cumming" น้ำแตกในถุงแล้ว เราปวดท้องที่สุดรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแต่ไม่มีอะไรออกมารู้แต่ว่าเจ็บมากๆ ฉีกหมดแล้ว ฟีดัสยังยืนแก้ผ้าอยู่อย่างนั้น
"ยูไม่บริสุทธิ์แล้วนะ" ไม่รู้ใครสอนเรานึกในใจ บริสุทธิ๋กะผีนะสิ ค-ยใหญ่ขนาดนี้จะรู้ได้ไงว่าซิงไม่ซิง เดินขาถ่างออกจากห้องกำเงินสองพันแน่น แล้วยัดใส่กระเป๋า
"Don't tell anybody อย่าบอกใคร" ฟีดัสเดินตามมาบอกหน้าลิฟต์ เราเดินเข้าลิฟต์พร้อมกับถามตัวเองว่านี่เราเป็นกระหรี่ไปแล้วเหรอเนี่ย เหงื่อซึมหน้าผากคิดถึงเตี่ยกับแม่ ที่อยากให้ลูกมีประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ แต่นี่มันไม่ใช่
"เอ๋ทำไมขึ้นไปนานนัก" ผู้จัดการถาม
"แขกใช้ให้ล้างถ้วยให้นะป๋า ให้ทิปมาร้อยนึงด้วย" เรามีเงินสแปร์ต่างหาก เรากำลังจะหยอดลงกล่อง ป๋าก็บอกว่า
"ไม่ต้องหรอก เก็บไว้เถอะ" เรามองหน้าทุกคนเรื่องทิปเป็นเรื่องใหญ่ มีคนเคยถูกไล่ออกเพราะอมทิปบนฟลอร์มาแล้ว แต่เราก็หยอดมันลงไปส่วนไอ้เงินสองพันนั่นมันคนละเรื่อง "ไม่รู้ฉลองอะไรกันถ้วยจานเยอะไปหมด" เราสร้างเรื่องขึ้นมาจนได้
เจ็บรูชิบนึกในใจ อย่าหวังว่าจะได้แอ้มอีกเลยฟีดัส ตอนเย็นเขาก็พาครอบครัวลงมากินข้าว ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักเรา เชอะสันดานผู้ชายต่อหน้าผู้หญิงทำเป็นไม่รู้จักกระเทย .........นี่ถือว่าโกอินเตอร์รึเปล่านะ อยากจะถามพี่ทักษ์แต่ก็กลัวความแตก.........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

75. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:26 PM (SE Asia Standard Time)
 
   75
เจ็บก้นอยู่หลายวันก็เริ่มซ่าขึ้นมาอีก ฟีดัสไม่น่าปลุกวิญญาณเลย เช้าวันหยุดนึกยังไงไม่รู้เลยลองโทรหาพี่โด่งที่ตู้สาธารณะ รอไม่นานก็มีคนรับสาย
"ฮัลเหล พี่โด่งเหรอฮะ" เสียงพี่โด่งรับสายเหมือนงัวเงียเพิ่งตื่น "จำเอ๋ได้รึเปล่า" เราย้ำเพื่อปลุกแกอีกที
"เอ๋ เหรออยู่ไหนหล่ะเรา หายหัวไปเลยนะ" พี่โด่งต่อว่ามาตามสาย
"เอ๋อยู่กรุงเทพฯแล้วตอนนี้ทำงาน" เราบอกสถานที่
"แล้วไม่เรียนหนังสือเหรอ" แกถาม
"เดือนหน้ามหาลัยถึงเปิดรับสมัคร วันนี้พี่ว่างมั๊ย" เช้าวันเสาร์พี่โด่งน่าจะอยู่ห้องเรานึกในใจ
"ว่างตอนกลางคืน ทำไมหล่ะ"
"ไปหาได้มั๊ย" ไม่กล้าตอบตัวเองถ้าหากแกปฏิเสธจะทำยังไงดี
"กลางคืนค่อยมาแล้วกัน เดี๋ยวสายๆพี่จะพาแขกไปทัวร์วัด"
"พี่ไม่ว่างนี่ แล้วกี่โมงถึงจะกลับ"
"ก็ทัวร์วัดเสร็จบ่าย ก็พาไปกินข้าวต่อ ดึกโน่นแหละถึงจะกลับห้อง" ไม่รู้แกอยากให้ไปรึเปล่า
"งั้นเอ๋ ไม่ไปแล้วหล่ะ พี่ไม่สะดวก"
"อย่างอแง บอกให้มาก็มาสิ มารอห้องพี่พงษ์ก่อนพี่จะบอกเขาให้ มาถูกมั๊ย"
"ถูก พี่อยากให้ไปแน่นะ" เราย้ำ
"เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจหรอก แล้วเจอกันตอนเย็น" พี่โด่งวางหูไปแล้ว เราเองก็สองจิตสองใจว่าจะไปดีไม่ไปดี แต่เอาไงเอากันวะ ออกจากร้านห้าโมงเย็นนั่งรถไปสนามหลวงแล้วไปต่อรถข้ามไปฝั่งธน ถึงหน้าอพาร์ทเมนท์ก็เกือบทุ่ม พี่พงษ์เปิดห้องรออย่างที่บอก
"ไงเอ๋ ตัดผมซะสั้นเชียว เป็นกระเทยหัวโปกไปแล้วแค่ดูอีกทีก็เหมือนทอมหว่ะ" พี่พงษ์ทักทายแกกำลังรีดชุดทำงานอยู่เรานั่งขวางที่หน้าประตูรอพี่โด่ง พี่พงษ์เก็บชุดที่รีดเสร็จ
"พี่สบายดีมั๊ย" เราถามเมือแกมานั่งข้างๆ
"เรื่อยๆ ไม่เห็นหน้ากันนานดูแปลกๆไปนะ แล้วนี่นึกยังไงถึงมาหาโด่งมัน พี่หล่ะนึกว่าเอ๋เลิกกับมันตั้งแต่ปีใหม่แล้ว"
พี่พงษ์ซัก
"แล้วพี่โด่งว่าไงหล่ะ" แกมองหน้าเราเหมือนไม่อยากจะพูด"พี่พูดมาเถอะ เอ๋กับพี่โด่งห่างกันนานแล้วที่มาก็เหราะคิดถึง"
"ก็เห็นมันคุยๆว่าทะเลาะกับเอ๋ ก่อนกลับวันนึงก็แค่นั้น แล้วโด่งไม่โทรหาเลยเหรอ"
"ครั้งเดียว ตอนเอ๋มาอยู่กรุงเทพฯ" พี่พงษ์มองหน้าเราเหมือนมีอะไรจะพูด
"พี่อยากจะพูดอะไรเหรอ" กระเทยเหมือนกันปิดกันไม่มิดหรอก
"พักนี้พี่ก็ไม่ค่อยได้กินเหล้าด้วยกันหรอก แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำอยู่ใกล้กันแค่นี้ วันเสาร์มันก็ออกไปทำทัวร์ วันอาทิตย์หยุดแต่ไม่ค่อยเจอหน้าไปโน่นมานี่ เอ๋คงรู้เรื่องแล้วสินะ"
"เอ๋รู้ตั้งแต่ปีใหม่แล้วพี่" แค่มองตาเท่านั้น
"นี่ก็ไม่รู้ว่า ยายไกด์นั่นจะมาค้างรึเปล่า ถ้าเขามาเอ๋จะทำยังไง บอกตรงๆพี่ไม่อยากให้เราเสียใจแต่คงต้องบอก เพราะเห็นหน้าแล้วสงสาร กระเทยด้วยกัน" เรามองหน้าพี่พงษ์เพื่อให้แกสบายใจ
"ไม่เป็นไรนี่พี่ ถ้าแฟนเขามาเอ๋ก็กลับ คงไม่ดึกนักหรอก ดีที่พี่บอก" ลึกๆแล้วก็ใจหายถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงจะรู้สึกเจ็บมากกว่านี้ เรานั่งคุยกันอยู่นานเกือบสี่ทุ่มแล้วยังไม่มีวี่แวว
"เอ๋ว่าเอ๋กลับก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวรถหมด" เราลาพี่พงษ์แล้วเดินลงมาข้างล่าง พี่โด่งกำลังจอดรถพอดี เรายืนมองแกจากตัวตึกแล้วยกมือไหว้ พี่โด่งหอบของพะรุงพะรัง พร้อมกันนั้นประตูรถอีกข้างก็มีผู้หญิงอีกคนเดินลงมา ดูแล้วคงอายุมากกว่า แต่ผิวขาวหุ่นอวบอัดสเป็คผู้ชายเลย ขาวอึ๋ม พี่โด่งมาถึงที่ทางขึ้นแล้วแนะนำเราให้รู้จักกัน
"พี่หลิน เพื่อนพี่" เรายกมือไหว้ หน้าหล่อนเฉี่ยวเหมือนพวกคนไต้หวัน แถมพูดไทยก็ไม่ค่อยชัด พี่หลินยิ้มให้แล้วแสร้งยิ้มทักทายและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่พี่หลินจะขอตัวหิ้วของขึ้นข้างบน บอกได้คำเดียวว่าหัวใจแทบสลายเลยทีเดียว
"เอ๋รอแป็บนึงนะเดี๋ยวพี่ลงมา" พี่โด่งหิ้วของวิ่งตามพี่หลินขึ้นไปข้างบน
เขาโกหกเราทำไมว่าว่าง หรือว่าเราแส่มาเอง เราน่าจะกลับตั้งแต่พี่พงษ์เล่าให้ฟังแล้ว อยู่รอเพื่อเจอภาพบาดตาอย่างนี้ทำไม พี่โด่งวิ่งลงมาหาอีกครั้ง แกยิ้มแหยๆ
"เอ๋แวะมาเยี่ยม และกำลังจะกลับแล้ว เห็นว่ามันดึกเลยไม่อยากรอ"
"สบายดีมั๊ย ตัดผมซะจำไม่ได้เลย โทษทีวันนี้หลินเขาจะมาค้างด้วยพรุ่งนี้เขาจะกลับไต้หวัน พี่ก็เลย"
"ไม่เป็นไรฮะ ยังไงก็มาแล้วดีใจที่ได้เจอพี่โด่งอีก"
"เอาไว้วันหลังพี่จะไปหาที่ทำงานนะ มาเดี๋ยวพี่ไปส่ง" แกอาสา แต่เราไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะให้ใครมาอาทรอีกแล้ว
"เอ๋กลับเองได้ เดินไปปากซอยแค่นี้เอง พี่โด่งไม่ต้องลำบากหรอกฮะ" เรายกมือไหว้แกอีกครั้ง
"งั้นก็ตามใจ ไว้เจอกันวันหลังนะ" พี่โด่งตีหัวเบาๆก่อนจะเดินกลับไปข้างบน เราฝืนยิ้มให้แกอย่างร่าเริงเช่นเคยก่อนจะโบกมือลา
อาจจะเป็นทุกข์ อาจจะผิดหวังแต่ยังมีรอยยิ้มให้เธอเรื่อยไป ข้างในจะร้อนจะรนหมองหม่นทนทุกข์เพียงใด ยังอยากจะยิ้มให้เธออย่างนี้ ก็ไม่เคยคิดอยากให้เธอรู้ข้างในที่แท้มันเป็นอย่างไร เพราะความที่รักเหลือเกินไม่อยากถูกหมางเมินไปแค่เพียงเห็นก็ชื่นใจเกินพอ....
แม้ตอนพบกัน ฉันทำร่าเริงแต่รู้ไหมคิดอะไรอยู่ กลับมาล้มตัวลงนอนกอดหมอนน้ำตาพร่างพรู อยากเป็นเหมือนคนที่เธอจูงมือ

เราเดินไปเรื่อยๆ มองอะไรแทบไม่เห็นน้ำตามันรื้นขึ้นมา เดินไปจนไม่รู้ว่าตัวเองมายืนอยู่ที่สะพานพุทธตั้งแต่เมื่อไหร่ หยุดมองจ้องลงไปในแม่น้ำความดำมืดเบื้องล่างเหมือนเรียกร้องให้เราลงไป เราสะบัดหัวกับความคิดบ้าๆนั้นก่อนจะเดินต่อ เราต้องอยู่ต่อไปให้ได้ชีวิตเรายังมีความหวังถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมองไม่เห็น แต่อย่างน้อยเรื่องของเรากับพี่โด่งเราก็มองเห็นทุกอย่างแล้ว น้ำตายังคงไหลไปพร้อมกับทุกย่างก้าวของเรา คำตอบทุกอย่างสำหรับพี่โด่งมันเฉลยออกมาแล้ว ความฝันเมื่อกลางวัน ........เราเพิ่งรู้ว่าเรารักพี่โด่งเหลือเกินก็วันนี้นี่เอง .........แล้วเราจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกมั๊ยนะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

76. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:27 PM (SE Asia Standard Time)
 
   76
...........วันเวลาที่เดินออกจากความรักพี่โด่งผ่านไปอย่างเศร้าสร้อย การจากกันกับคนที่รักที่ผ่านมาไม่เคยร้าวรานอย่างนี้มาก่อน เหมือนชีวิตขาดสีสันทำงานด้วยความเลื่อนลอย อยู่พักใหญ่
"เอ๋ เป็นไงพักนี้ดูเงียบๆไปนะ ทำยังกับอกหัก" พี่ทักษ์ถามขึ้นมา
"ไม่มีอะไรพี่" เราเลี่ยงไม่ตอบคำถาม และมักจะปลีกตัวออกไปเสริฟแขกที่เล่นน้ำอยู้ด้านนอกแทนในร้าน หรือแม้แต่เวลาขึ้นห้องเราก็จะไล่ให้ยมกับเพื่อนอีกสองคนขึ้นแทนและแม้จะเป็นคิวของเรา เราจะคอยเลี่ยงไม่ขึ้นไปเสริฟที่ห้องฟีดัสอีก แต่ฟีดัสก็จะเวียนสั่งของหลายรอบจนถึงคิวเรา เรารู้สึกขยาดถึงแม้ว่าเขาจะพยายามที่จะสนุกกับเราอีกเราก็จะเลี่ยงอ้างว่างานยุ่งทุกครั้ง และอีกอย่างเราไม่อยากขายตัว ถึงแม้ว่าทางนี้จะหาเงินง่ายก็จริง และอาจจะมีโอกาสได้ไปเมืองนอกอย่างที่พี่ทักษ์บอก ก็คงต้องหาคนแก่คราวพ่อแล้วขอเราเป็นบุตรบุญธรรม หรือไม่งั้นก็ขอวีซ่านักท่องเที่ยวไปๆมาๆ แต่ฝรั่งบางคนก็เลือกวิธีเช่าห้องให้อยู่พร้อมส่งเงินมาให้ใช้เพื่อเป็นการตัดปัญหา
"เอ๋ ไปกินเหล้ากันดีมั๊ย" พี่ศักดิ์กับยม ชวน
"ไปสิ " เราเป็นสมาชิกวงเหล้าของทั้งคู่หลายครั้งแล้วนับจากอกหัก ร้านเดิมหลังที่ทำงานกินเสร็จก็ลากกันขึ้นไปนอนบนพ้องพักของยม พี่ชายยมเป็นเซคคิวรอบดึกที่ตึกเดียวกัน พี่ทักษ์ไม่ชอบกินเหล้าก็เลยไม่แจม ผู้ชายสองกระเทยหนึ่งนั่งกินเหล้ากัน พักหลังเราเริ่มกินได้เยอะขึ้น แต่ในกลุ่มก็มีแค่พี่ศักดิ์ที่คออ่อนกินทีไรก็แดงไปทั้งตัว
แล้วนอนหลับคอพับทุกทีต้อง กว่าจะลากขึ้นห้องได้ก็เล่นเอาหอบ อพาร์ทเมนท์เก่ามากแล้วคราคร่ำไปด้วยพวกทำงานรอบกลางคืน ที่เพิ่งกลับจากทำงาน
วางพี่ศักด์ลงบนที่นอนแล้วเราก็ลุกไปอาบน้ำ กะว่าวันนี้จะนอนที่นี่ดีกว่า ยมเคาะประตูห้องน้ำ
"เอ๋เสร็จยังวะ ปวดเยี่ยว" เราใส่เสื้อผ้าทั้งๆที่ตัวยังไม่แห้งดีนัก ยมมองหน้าแล้วยืนฉี่ต่อหน้าเรา เราก็มองเห็นมันไม่อายกันแล้ว
"เงี่ยนหว่ะ" มันยืนสะบัดเคแล้วหันหน้ามา "ออกไปก่อนไปจะชักว่าว" ยมพูดตรงๆ เรารู้ว่ามันแกล้งพูดเล่น เราทิ้งตัวลงนอนข้างพี่ศักดิ์ผู้ซึ่งเมาไม่ได้สติอยู่ใกล้ๆ แขนขายาวๆของเขาพาดเกะกะไปหมด เราไม่มีอารมณ์กับเขาสักนิดอาจจะเป็นเพราะว่านับถือกันก็เป็นได้ เพราะพี่ศักดิ์เป็นคนแรกที่ดูแลเราในวันแรกทำงาน ชวนคุย หาข้าวให้กินตอนเบรค ไม่เหมือนกับพี่ทักษ์ที่พอเห็นกันวันแรกก็เชิดใส่กันตามประสากระเทย เขาเรียกว่าขอวางฟอร์มก่อน เพราะมีน้องใหม่เข้ามากระเทยรุ่นพี่ต้องได้รับการซูฮกก่อน ไอ้ยมล้มตัวลงนอนใกล้ๆเรา แล้วมันก็คร่อมเราทันที ตัวเย็นเพราะเพิ่งอาบน้ำ แล้วทำทีเป็นกระเด้า ทำเสียงฮึดฮัด
"ไอ้บ้า เล่นอะไรวะ" เราถามเมื่อยม ถลกเสื้อกล้ามของเราขึ้น ลิ้นอุ่นๆกำลังเลียที่หัวนมเราเล่นเอาเสียวจนตัวงอ เราดันหัวมันออก แล้วดึงเสื้อลง นอนตะแคงข้างให้ ยมมันก็เล่นแบบนี้ทุกทีที่มาค้าง เหมือนหยอกแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ทำอะไร เรียกว่าดีแต่ปากประสบการณ์ของมันก็แค่โดนกระเทยในห้องเรียนดูดให้เท่านั้น มากกว่านี้ยังแม้แต่แฟนก็ยังไม่กล้าจะทำอะไรกันเพราะกลัวท้อง
"อย่ากวนน่า จะนอน" เราปรามเมื่อนอนหันหลังให้แล้วยังตามมาเล่นอีก ยมก็ยังไม่หยุด เราก็หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเขา
"เป็นอะไร" เราถามไปตรงๆ
"ค-ยแข็ง" ตอบตรงๆเหมือนกัน ยมเอามือกดมันไว้
"แล้วจะทำยังไงดีหล่ะ จะให้ดูดให้เหรอ" ยมพยักหน้า
"เร็วๆสิ"
"ไม่เอาหรอก เหนื่อย" เข็ดแล้วกับการดูดให้คนเมา และตัวเองก็เมาด้วยรู้สึกปากมันชาๆทุกครั้งไม่เห็นมีรสชาดเลย "ทำอย่างอื่นดีกว่า"
"ทำอะไร" ยมถามแต่แล้วก็นึกออก "เอ๋นายจะเสียบเราเหรอ เฮ้ยบ้าน่า" กระเทยของยมคือพวกเอาผู้ชาย
"บ้าเราจะเสียบนายได้ไง นายสิต้องเสียบเรา"
"ทำไม่เป็นหว่ะ แล้วจะติดอึออกมาด้วยรึเปล่า แค่สวนตูดยังถ่ายท้องได้เลย" พูดซะเห็นภาพ
"มันจะออกมาได้ไงก็ต้องมีวิธีทำ"
"ไม่กล้าหว่ะ กลัวจนหดแล้ว" มันหดลงไปจริงๆ อย่างที่บอก
"งั้นก็นอน" เราบอกแต่มือก็ล้วงเข้าไปกุมเคเขาเล่น ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ หัวเพิ่งเปิดนิดเดียวต้องใช้มือรูดนิดนึงปลายถึงจะโผล่ หลับไปทั้งๆที่มือกำเคอย่างนั้นจนตีห้า ต้องรีบลุก เพราะรถจะติดมากถ้าสายกว่านี้ วัยมันช่วยได้เยอะกินเหล้าถึงตีสองนอนแค่สามชั่วโมงก็ลุกกันได้แล้ว เรากับพี่ศักดิ์เดินไปป้ายรถเมล์ด้วยกัน
"เอ๋กลับยังไง" เราอธิบายสายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน แล้วพี่ศักดิ์ก็อธิบายทางไปบ้านแก เหมือนบังเอิญมันก็สายเดียวกับที่ผ่านปากซอยอพาร์ทเมนท์พี่โด่ง แต่ไปอีกไกลกว่า
"โอ้โฮ ไกลขนาดนั้น ทำไมไม่มาอยู่ในเมืองหล่ะ นั่งรถตั้งสองต่อจนเกือบสุดสาย แล้วตอนกลางคืนพี่กลับไงเนี่ย"
"ก็นั่งรถไปลงสนามหลวง ไปต่อเอาแถวนั้น ถึงต้องรีบกลับไง ไม่งั้นรอรถนานมาก พี่ไปหล่ะ" พี่ศักดิ์เดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่ง เราทั้งคู่ ยืนมองกันคนละฝั่งถนน เช้าวันนั้นเรารู้สึกแปลกๆกับพี่เขาขึ้นมาจนได้ ผมระต้นคอ หน้าตี๋ ปากแดง ตัวสูงยืนเอามือล้วงกระเป๋า อยู่ฝั่งตรงข้ามในตอนเช้าตรู่มันเป็นภาพที่ประทับใจเราเหลือเกิน หรือว่า...อาจจะเป็นคนนี้ที่ใจจะไม่โหดร้ายเกินไป.......เรานึกถึงเพลงแหวนขึ้นมา ได้แต่ยืนยิ้มให้กันจนพี่ศักดิ์ขึ้นรถมา เราได้ที่นั่งแล้วมองไปนอกหน้าต่างดูข้างทาง เช้าวันนี้ทำไมมันสดใสยิ่งนัก ผู้คนค่อยๆทยอยเดินมารอรถเมล์กันแล้ว รถสายออกนอกเมืองของเราไม่ค่อยมีคนนั่งสบาย ลมเย็นๆตอนเช้าปะทะแก้ม ....หรือพี่ศักดิ์จะมาแทนที่พี่โด่งในใจเราแล้วนะ เราได้แต่ยิ้มอยู่คนเดียวไปตลอดทาง แต่ติดปัญหาก็แค่ว่าแกชอบผู้หญิงและก็ชอบเล่าเรื่องเด็กที่กำลังจีบให้ฟัง สาวพาณิชย์โรงเรียนใกล้ๆที่ทำงานนั่นแหละ เดินไปเดินมากันทุกวันก็เลยจีบกันจนได้..........เราเองก็ไม่รู้ว่าโอกาสจะเป็นไปได้แค่ไหน ก็แค่รู้สึกว่าเรานึกชอบพี่ศักดิ์ขึ้นมาแล้ว น่าแปลกนะที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องเซ็กส์เลย นึกถึงแต่เรื่องความเอื้ออาทรที่เขามีให้เราเท่านั้นเอง.............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

77. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:28 PM (SE Asia Standard Time)
 
   77
....พี่ศักดิ์เรียกได้ว่าเป็นไก่อ่อนในเรื่องผู้หญิง ถึงจะหล่อแต่คงจะขาดเสน่ห์ จีบแล้วก็วืดทุกราย แต่เราคิดว่าเขาเลือกจีบผู้หญิงผิดประเภทกับตัวเองมากกว่า จริงอยู่สาวๆพวกนั้นน่ารักทันสมัย แต่เงินเดือนแค่นี้จะพอพาสาวเที่ยวหรือดูหนังได้ยังไง ทำได้อย่างดีก็กินข้าวในห้างเท่านั้น สาวๆที่แกจีบแต่ละคนก็ใช่ย่อย ชื่อเสียงโรงเรียนก็พอดูโด่งดังเรื่องล่าผู้ชายอยู่แล้ว เรามองเห็นการเงินของเขาเริ่มติดขัดเพราะเบิกทิปก่อนกำหนดทุกอาทิตย์ ตั้งแต่ที่ทำงานปรับตัวมาเป็นโรงแรม รายได้ก็ดีขึ้นบิลล์ทุกใบมีเซอร์ววิสชาร์จ สิบเปอร์เนต์ รายได้ก็ตกอาทิตย์ละหกร้อยเป็นอย่างต่ำ เราเองดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ เรียนภาษาอังกฤษเสร็จก็มาทำงานมีบ้างที่ไปเที่ยวไปกินเหล้า จนเปิดภาคการศึกษา ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเปิดไม่ได้สนุกอย่างที่คิด ต้องแย่งกันหาที่นั่ง ไปเรียนไกลถึงบางพลี เราตื่นแต่เช้าเลือกเรียนได้แค่วันละวิชาก็ต้องรีบกลับมาทำงานและเรียนภาษอังกฤษ เวลาว่างก็ต้องอ่านหนังสือให้มากที่สุด เพื่อนๆขึ้นปีสองกันกันหมดแล้วก็ย้ายมาอยู่หน้ารามแทน นานๆถึงจะได้เจอกัน โลกของเราเริ่มต่างจากพวกเพื่อนทีละนิด นานเข้าก็เหนื่อย พี่ทักษ์ได้โกอินเตอร์สมใจกว่าจะไปได้เล่นเอาน้ำหูน้ำตาร่วงกับความไม่แน่นอนอยู่นาน แฟนของพี่ทักษ์เกือบหกสิบแล้วเป็นคุณลุงใจดี เช่าอพาร์ทเมนท์ให้พี่ทักษ์อยู่จากนั้นก็ทำวีซ่านักท่องเที่ยวให้แก พี่ทักษ์ไปจากชีวิตของพวกเราได้หลายเดือนแล้วไม่มีข่าวคราวอะไร ส่วนยมก็ได้งานใหม่ไปอยู่กับฝรั่งเยอรมันที่เคยอยู่ที่นี่ พวกเขาย้ายออกเพราะตึกต้องทำเป็นโรงแรม ฝรั่งทำการ์เมนท์ ต้องการเด็กเดินเอกสารและตรวจนับเสื้อผ้า เห็นยมหน่วยก้านดีก็เลยชวนไปอยู่ด้วย เงินเดือนเยอะเกือบหมื่น เป็นใครก็ตาลุกแม้ว่าจะดูไม่มีอนาคตแต่คนสู้ชีวิตอย่างยมก็ต้องเลือกเสี่ยง และเราก็คิดว่ามันเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า เรื่องของเรากับเขา ก็มีแอบไปดุดเคในห้องซาวน่าบ่อยๆเหมือนเดิม เราเองเป็นได้ที่บำบัดความใคร่ของยมเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ พนักงานเริ่มมีผู้หญิงเข้ามาเสริมทีม พี่ศักดิ์ก็ดูลุ่มหลงน้องนีพวกนั้นเหมือนกัน จนทะเลาะกันกับเด็กใหม่ที่คอยตามจีบเจ้าหล่อน ทั้งแขกอพาร์ทเมนท์ที่ทำสัญญาอยู่ยาวก็คอยมาตามมาจีบไม่เว้นแต่ละวัน สุดท้ายพี่ศักดิ์ก็อกหัก ชีวิตของนีทำให้พวกเราสนุกมากเพราะเธอเก่งที่สามารถหลอกแขกให้พาไปเที่ยวได้ พวกแขกตะวันออกกลางชอบพาไปเที่ยวนาซ่า เป็นเธคแรกที่เราไป มันสนุกสุดเหวี่ยง ไปกันทั้งห้องอาหาร เหล้าชีวาสก็ได้รู้จักที่นี่ พวกนี้เงินเหลือกินเหลือใช้กันจริงๆ รวยมาก ก่อนกลับก็จะให้เงินเราไว้เพื่อพานีไปส่งบ้าน พี่ศักดิ์ก็ติดสอยห้อยตามไปส่งทุกครั้ง แล้วก็ต้องมานอนกับเราที่ร้านป้าทุกที พักหลังเราเริ่มเที่ยวบ่อยขึ้นและเรียนหนักไม่มีเวลามาช่วยงานป้าเลย เราเองก็เกรงใจเลยไปหาเพื่อนสมัยมัธยม เพื่อดูหอพักให้
"เอ๋ แกก็มาอยู่หอข้างๆฉันสิ มันกำละจะเปิด ค่าเช่าแค่พันห้าเองมีห้องน้ำด้วยนะ ไม่ต้องไปอยู่ไกลถึงรามสองหรอก เพราะ แกต้องทำงาน ปีหนึ่งอ่านเอาก็ได้ ซื้อข้อสอบเก่ามาอ่านแค่นี้ก็สบายแล้ว" บุ้งเพื่อนสนิทผู้หญิงอีกคนบอก
"เออ ข้างหอเราก็มีนะเปิดใหม่ " อิ๊ดบอก เราอยากอยู่ใกล้พวกผู้ชายมากกว่า เพราะหอที่บุ้งบอกในซอยมันมีแต่หอหญิงไม่น่ารื่นรมย์เท่าไหร่นัก
อี๊ดพาไปดูห้องที่เพิ่งเปิดวางมัดจำ เราได้อยู่ห้องแรกติดทางเข้าเลย อี๊ด กับนกอยู่ที่เดียวกันแต่คนละห้อง ออกเงินกันห้องละสามคน เราชอบหออี๊ดมากกว่าห้องใหญ่กว่าห้องเรา แต่มันแพงกว่าเท่าตัวอยู่คนเพียวคงไม่มีปัญญา พอเราไปบอกป้าเรื่องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกก็โดนด่าเปิง
"ไปอยู่คนเดียวได้ไงหล่ะเอ๋ เป็นอะไรมาใครจะดูแล"
"เพื่อนอยู่หอข้างๆกันก็มีฮะ แล้วเอ๋ก็เกรงใจป้า ที่ไม่ค่อยได้ช่วยงานเลย"
"หลานคนเดียวชั้นเลี้ยงได้ น้าแกตั้งกี่คนป้าก็เลี้ยงมาหมดแล้ว"
"แม่อย่าว่าเอ๋เลย ป้อมว่าเอ๋มันคงลำบาก เดี๋ยวอีกหน่อยเรียนรามหนึ่งก็ไม่ต้องเดินทางไง" พี่ป้อมช่วยพูด
"แล้วพ่อแม่มันจะว่ายังไง ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลยนะเรา เอ้าอยากไปก็ไป ไม่รู้จะห้ามยังไงนี่ เงินค่าห้องก็จ่ายแล้ว แล้วนี่มันจะพอใช้เหรอ"
"พอฮะ ตอนนี้เงินได้ต่อเดือนก็ร่วมห้าพันแล้ว กินข้าวที่ทำงานจ่ายค่าห้อง ค่าเรียนเอยูเอก็พออยู่ได้"
"นั่นคือต้องไม่เที่ยวกลางคืนนะ ป้าก็ไม่รู้ว่าเอ๋คิดอะไรอยู่ อยู่ดีๆก็อยากเสียเงิน"
"เดี๋ยวป้อมไปส่งน้องหน่อยนะ ไปดูที่ดูทางด้วยว่าเป็นยังไง นี่ต้องคุยกับแม่แกยาวแน่เอ๋เอ๊ย"
"เอ๋บอกแม่แล้ว แกบอกว่าตามใจ"
"เออ ไอ้เราก็ห่วงไปแค่นั้นแหละนะ ไปอยู่ที่โน่นขาดเหลืออะไรก็แวะมาหานะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก มีอะไรก็โทรมาคุยกับพี่ป้อมเขา ที่สำคัญอย่าเที่ยวมาก เอาแค่ให้รู้ว่าเป็นยังไงแต่อย่าถลำลึก แต่เอ ป้าว่าเอ๋มาเรียนภาคค่ำที่มหาลัยเอกชนตรงนี้กับพี่ป้อมไม่ดีเหรอ จะได้ไม่ต้องไปอยู่ที่อื่น"
"ไม่เอาหรอกป้า มันแพง เอ๋จะเก็บตังค์ไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า" เงินที่เตี่ยกับแม่โอนมาให้เดือนละสามพันยังอยู่ครบหกเจ็ดเดือนก็สองหมื่นเข้าไปแล้ว ไหนจะเงินเหลือจากเงินเดือนแต่ละเดือนอีกเราคิดว่ามันน่าจะอยู่ได้ ถ้าจะเที่ยวให้น้อยลง
ชีวิตนอกการปกครองของผู้ใหญ่เป็นอีกชีวิตนึง เราได้กลับมาใช้ชีวิตอิสระเหมือนเดิมจะไปไหนมาไหนไม่ต้องระวังอะไรอีก ที่ทำงานก็ยังสนุกสนานเหมือนเดิม ป๋าของนีก็พาพวกเราไปเที่ยวกันอีกครั้ง แต่นีเริ่มมีความรักแล้วกับปาน เด็กเสริฟคนใหม่ ปานก็ตามไปคุมเพราะกลัวพี่ศักดิ์จะมาจีบนี พี่ศักดิ์ ถึงกับซึมเมื่อเห็นปานเอารถมอเตอร์ไซค์มารับนีไปต่อหน้า เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เพื่อนๆคนอื่นก็ทยอยกลับกันหมด นาซ่ากับหน้ารามใกล้นิดเดียว นีเคยบอกเราว่าถึงพี่ศักดิ๋จะหล่อกว่าปานแต่ก็ดีถ้าจะควงไปอวดใครๆ แต่ถ้าให้รักพี่ศักดิ์ไม่มีเสน่ห์ดึงดูด มาทีหลังเรานึกในใจ นีมันคงชอบไอ้ปานที่ฝังมุกหล่ะสิ ไอ้ปานก็แสนจะทะลึ่งชอบเอาเคมาให้ดูในห้องน้ำแล้วไล่มุกให้ดู ทีแรกเราก็กะจะก้มแต่พอเห็นมุกแล้วหมดอารมณ์ เสียดายเหมือนกัน แต่ดีแล้วหล่ะที่นีมันชอบ
“พี่ศักดิ์เอาไง จะกลับรึยังจะได้เรียกรถให้” นึกสงสารในความอุตสาหะของแกที่บ้านอยู่ฝั่งธน ยังเพียรมาเฝ้าสาวอยู่ได้
“พี่ไปบ้านเอ๋แล้วกัน”
“เอ๋ไม่ได้อยู่บ้านแล้วนะ อยู่หอหน้าราม พี่จะไปมั๊ยหล่ะ ไปนอนแล้วพรุ่งนี้ก็ออกไปทำงานพร้อมกันเลย”
“ไปสิ ง่วงแล้วด้วย” เราโบกรถ...นีใจดีแบ่งค่ารถที่ได้มาให้เพื่อนทุกคน เพราะหล่อนบอกว่าถ้าหากพวกเราไม่มาป๋ามันคงพาเข้าโรงแรมแน่ๆ มาอย่างนี้แล้วเป็นเพื่อนกันเยอะๆดีกว่า ป๋าจะได้ไม่กล้าบุ่มบ่ามเพราะป๋าเองก็พาเด็กผู้หญิงมาจากที่อื่นเหมือนกัน กันพลาด พวกเราไม่ได้ตลกแดกแต่ว่าห่วงเพื่อนและท้องอิ่มด้วยก็เลยไม่ขัด อาทิตย์นึงก็แค่สามวันเอง ไม่มากเลย...........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

78. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:30 PM (SE Asia Standard Time)
 
   78
พี่ศักดิ์เอนตัวนอนหนุนตักเราหลังจากขึ้นรถได้ไม่นาน แกหลับไปจนถึงหน้าหอ หอเราไม่เชิงเป็นหอพักนักศึกษา เจ้าของไม่ได้เข้มงวดกับเวลาเข้าออกเพียงแต่แจกกุญแจประตูทางเข้าให้แต่ละห้องดูแลตัวเองตอนกลับดึก พี่ศักดิ์ล้มตัวลงนอนบนเตียงเดี่ยวของเราต่อ เราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเอาผ้าห่มมาปูนอนที่พื้น
"เอ๋ขึ้นมานอนด้วยกันสิ"
"เตียงมันแคบนะเดี๋ยวตก"
"งั้นพี่นอนข้างล่างแทน" พี่ศักดิ์ลุกลงมานอนข้างๆเรา
"พี่ศักดิ์ อกหักแล้วสินะ"
"ยังไม่ถือว่าอกหักหรอก แต่แห้วมากกว่า แปลกนะผู้หญิงยากที่จะเข้าใจ ไปกับเราเที่ยวกับเราออกบ่อย แต่ไม่รักเรา"
"ผู้หญิงดูยาก แต่กระเทยดูง่ายกว่านะ ถ้าชอบก็ตามแจเลยแหล่ะ" เราพูดทีเล่นทีจริง
"เหมือนเอ๋ นะเหรอ"
"ใช่ เอ๋ชอบพี่ศักดิ์นะก็เลยติดแจไง ไปไหนไปด้วยสนุกดี ไม่มีเบื่อ" เราเล่าความในใจให้แกฟัง
"ถามหน่อย กระเทยทำไมชอบจับไอ้นั่นผู้ชาย" อึ้งในคำถามจะตอบไงดีวะเนี่ย
"ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันอุ่นๆ แข็งๆ อยากจับไปเรื่อยๆ" โคมไฟที่ซื้อมาแต่งห้องสว่างเย็นตา ให้บรรยากาศอบอุ่นดีพิกล เรามองหน้าแดงด้วยฤทธิ์เหล้าของพี่ศักดิ์ ไม่กล้าคิดเลยเถิดเหราะกลัวจะเสียใจเหมือนพี่โด่งอีก เราเหมือนไม้เลื้อยใกล้หลักที่ไหนก็จะยึดที่นั่น
"แล้วเอ๋ไม่อยากจับของพี่เหรอ" พี่ศักดิ์เปิดกระดุมกางเกงออกหมด แล้วรั้งกางเกงในจนถึงโคน ขนสีดำขลับเป็นแพรไม่เป็นระเบียบโผล่ออกมาจากขอบกางเกงในแล้ว "มานอนด้วยหลายที ไม่เห็นทำอะไร ตกลงเราเป็นกระเทยเหมือนไอ้ทักษ์รึเปล่า"
"เอ่ไม่กล้าทำหรอก กลัวว่าพี่จะไม่เล่นด้วย เห็นชอบหญิงนี่นา" พี่ศักดิ์งัดมันออกมาแล้วแดงเหมือนเจ้าของ เคยาวเหมือนตัวขาวสะอาดตั้งอยู่กลางห้อง แกพยักหน้าให้เรา มือเราสั่นระริกค่อยๆยื่นไปแตะ ปาฏิหารย์มีจริงเหรอเนี่ยไม่เคยนึกว่าจะมีโอกาสอย่างนี้กับพี่ศักดิ์
"เอ๋ ดูดเป็นยังไง พี่อยากลอง" พี่ศักดิ์เมารึเปล่าวะเนี่ย หรืออกหักจนเสียสติไปแล้วถึงนึกอยากกระเทยขึ้นมา เรามองหน้าเขาให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นนั่ง พี่ศักดิ์อำนวยความสะดวกด้วยดี แกยกก้นขึ้นให้เราถอดกางเกงออก ทั้งนอกทั้งในหลุดออกหมดแล้ว เราถอดเสื้อเขาซุกไซ้ที่ลำคอ แล้วเลื่อนมาที่ปาก เขาหลบ คงไม่คุ้นละสิไม่เป็นไรเราค่อยๆไล่ไปที่หัวนมขบหัวนมแดงๆอยู่นานก่อนจะไล่ละดับลงล่าง มันโงนเงนกระดกตัวเป็นจังหวะรออยู่แล้ว แทนที่พี่โด่งได้เลยเรานึกในใจ พี่ศักดิ์ยกก้นลอยตามเมือเราออกแรงโหมหนักๆที่ปลาย มือแกจับที่แขนเราแน่นหน้าตาเหยเก ก่อนที่จะดันเข้ามาถึงึคอหอยจนมิดลำ น้ำเหนียวๆไหลลงคอเราอีกครั้งในรอบหลายเดือน นับจากพี่โด่งก็มีพี่ศักดิ์นี่แหละที่เรากลืนจนหมด ฤทธิ์อัลกอฮอล์ยังคงอยู่ถึงจะออกแล้วแต่ยังไม่สงบลง
"พี่ศักดิ์ ช่วยเอ๋ได้รึเปล่า" เราถามเบาๆที่ซอกหู
"ช่วยอะไร"
"เอ๋อยากให้พี่ทำให้"
"ดูดนะเหรอ ไม่เอาหรอก พี่ไม่เคย"
"ไม่ใช่ หมายถึงเอาข้างหลัง" พี่ศักดิ์มองหน้าเรา เรายังจำแววตาที่แฝงความสงสัยของแกอยู่ เราไม่รอคำตอบหยิบถุงยางในตู้เสื้อผ้าแล้วค่อยๆใส่ ขนาดถุงยางตอนนั้นเรารู้จักเควายแล้ว พี่ทักษ์ให้เอาไว้ก่อนไปนอก
"เอ๋จะทำยังไง" เราปิดโคมไฟท่ามกลางความมืด มือเราค่อยบีบเควายแล้วสอดเข้าไปทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ทำให้กว้างมากที่สุด แล้วปาดบางๆที่ลำของพี่ศักดิ์ พร้อมยกตัวขึ้นนั่งโหย่งตัวขึ้น จับเคจ่อปลายไม่บานต่อยๆมุดเข้าไปทีละนิดทีละนิดเราขยักคาไว้ก่อนสักพักแล้วค่อยกดลงไปช้าๆ อูยเสียวหน้าท้องจังพี่ศักดิ์เหมือนอายเอาหมอนบังหน้า ใครจะคาดคิดว่ากำลังโดนกระเทยนั่งเทียนง่ายๆแบบนี้ สักพักแกคงเริ่มมันมีสวนตามบ้าง เรายิ้มในใจแล้วหยุดเอียงตัวลงข้างๆ พี่ศักด์ผวาตามเหมือนกลัวว่าจะหลุด
"พี่ศักดิ์ทำให้หน่อยนะ" เราโก้งโค้ง มือจับที่ขาเตียงพ่อไก่อ่อนกำลังโยกเราจากข้างหลังไม่ได้ไก่อ่อนอย่างที่คิดสักนิด เราเสียวจนน้ำตาเล็ดยิ่งตอนใกล้จะเสร็จพี่ศักดิ์ครางฮืดฮาดเสียงดังเร้าอารมณ์มาก ดึงถุงออกแล้วนอนแผ่หราอยู่ข้างๆเราหลับไปทั้งที่แก้ผ้านั่นแหละ เราล้างเนื้อล้างตัวแล้วมานอนลงข้างๆ เหนื่อยเหลือเกินแต่ก็อิ่มดี..........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

79. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:31 PM (SE Asia Standard Time)
 
   79…..
เช้าวันถัดมาเราทั้งคู่ก็มองหน้ากันแปลก พี่ศักดิ์มองเราเปลี่ยนไปแกหลบสายตาเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าหน้าเรากับเคอยู่ในระดับเดียวกัน ก้เลยคร่อมเอามาถูปากเราอีก เราตื่นนานแล้วนอนลืมตามองเคพี่ศักดิ์ที่แกว่งอยู่ข้างหน้าก็เลยไล่งับ
“เล่นเอาหมดแรงเลยนะเรา” เราดูดมันเล่นเหมือนเด็กดูดจุกนม “พอแล้ว พอแล้ว เดี๋ยวมันลุก เอ๋มีอะไรกินมั๊ยแถวนี้”
“มีร้านตามสั่งฝั่งตรงข้าม จะกินอะไรหล่ะจะออกไปซื้อให้”
“อาบน้ำแล้วเดินไปกินด้วยกันดีกว่า” พี่ศักดิ์ลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ เราลุกตามไปติดๆ
“พี่ศักดิ์ อาบด้วยได้ปล่าว”
“ไม่เอาพี่อาย รอก่อนนะแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” นอนหงายให้ดูดทั้งคืนเช้ามายังจะอายอีก แปลกคน
..........เรานั่งรถมาทำงานด้วยกัน มองหน้ากันแล้วก็ขำตัวพี่ศักดิ์ก็คงยังสับสนอยู่เล็กน้อยกับเหตุการณ์เมื่อคืนแต่แปลกนะที่เราไม่ได้รู้สึกรักพี่ศักดิ์มากไปกว่าเดิม รู้แต่ว่ายังคงนับถือเขาเหมือนพี่คนเดิม จิตใจไม่ได้หวั่นไหวไปกับรสรักของเขาเช่นตอนที่เคยมีอะไรกับพี่โด่ง ความรู้สึกที่คงเดิมนี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุด เหมือนที่พี่เพลินเคยบอกว่าสิ่งที่เราทำกับพี่โด่งมันเหมือนการทำตัวเป็นเมีย ซึ่งไม่มีผู้ชายคนไหนจะปลื้มกับคำว่ามีเมียเป็นกระเทยหรอก เขาอาย
“ขอให้คบผู้ชายอย่างเพื่อน เอ๋อาจจะรักเขาก็ได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของความเป็นจริง ไม่มีผู้ชายแท้ๆคนไหนอยากได้เมียเป็นผู้ชายด้วยกันหรอก “ มันก็จริงของพี่เพลินเพราะหากเมื่อไหร่เราลืมคำสอนของแกทีไรเราก็จะตกอยู่ในห้วงลึกที่ยากจะไถ่ถอนตัวเองออกมาทุกครั้ง ความรักเป็นสิ่งที่ดีเสมอ แต่มันต้องมาคู่กับความเข้าใจ กระเทยอย่างเราต้องเข้าใจตัวเองให้ถ่องแท้ก่อนว่าจริงๆแล้วต้องการอะไรกันแน่ ถามตัวเองให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปถามคนอื่น เพราะไม่งั้นต่อให้ใครชี้ทางสว่างให้ก็ไม่มีทางเดินขึ้นจากหลุมที่ขุดด้วยตัวเองหรอก
“เอ๋ กลับรึยัง” พี่ศักดิ์ถามเราอีกหลายวันต่อมาหน้าที่ตอกบัตร พักนี้ป๋าของนีกลับประเทศไปแล้วพวกเราก็ว่างงานอารักขา
“กลับแล้ว พี่ยังไม่กลับเหรอ” เราถามอย่างแปลกใจเพราะตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้ไปไหนกันอีก “เดี๋ยวไม่ทันรถที่สนามหลวงตอนเที่ยงคืนนะ” เราเตือนเพราะเป็นห่วงหากจับรถไม่ทันก็ต้องนั่งแกร่วรอจนถึงเที่ยงคืนครึ่ง ไม่งั้นก็ตีหนึ่ง
“ไปนอนด้วยนะ วันนี้ นั่งแท็กซี่ไปเลยแล้วกัน ทิปออกแล้ว” เราอยู่ยิ้มในใจ
“มีอะไรรึเปล่า” ถามเมื่อตอนที่เดินออกมารอรถแท็กซี่ที่ถนน
“ไม่ต้องถามน่า อยากนอนด้วย” แกหันหน้าไปทางอื่น แปลกอีกแล้วพี่ศักด์นี่
ประตูห้องเปิดออกแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเราเก็บหอมรอมริบ เก็บเล็กผสมน้อยจากเงินเดือนและทิปจนซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกได้หลายอย่าง ทีวีสิบสี่นิ้ว เทป และตู้เย็น หมดไปปมื่นกว่าบาทนึกแล้วก็ภูมิใจที่ตัวเองเก็บเงินได้เยอะอย่างนี้ ทะยอยซื้อทีละอย่าง กาน้ำร้อนจับสลากได้ในงานปีใหม่ หม้อหุงข้าวกับกะทะไฟฟ้าแม่เพิ่งส่งมาให้ เราไม่กล้าขอเงินซื้อทีวี เพราะมันเยอะได้แต่เดินดูในห้างแล้วเก็บเงินทีละนิดเอา เงินที่แม่โอนมาให้ยังอุ่นอยู่ในธนาคารแต่ไม่รู้จะทำอะไร ก็ฝากไปเรื่อยๆ
พี่ศักดิ์นอนเอกเขนกดูทีวีอย่างอารมณ์ดีพร้อมอีกมือยกเบียร์ที่แวะซื้อกินอย่างอารมณ์ดี
“เมื่อไหร่จะซื้อ วีดีโอ” แกถาม
“วีดีโอ เป็นหมื่น ต้องเก็บเงินอีกเหนื่อยเลย อยากดูหนังก็นั่งรถไปดูในโรงดีกว่า แถวพระโขนงมีสองเรื่องวนประหยัดดีออก ดุเสร็จก็ไปทำงานเลย รถผ่านเยอะแยะ”
“ก็เวลาพี่มานอนห้องเอ๋จะได้มีหนังดูไง”
“พี่ก็มาแค่นอนจะดูอะไรนักหนา” เราแกะขนมแล้วนั่งกินข้างๆ
“อยากจะมาอยู่ด้วยเลยแหละ สะดวกดี”
“ไม่ดีหรอก เดี๋ยวพ่อแม่เอ๋มาเยี่ยม พอดีความแตกหาว่าติดผู้ชายแล้วไม่ยอมกลับบ้าน” เราไม่มั่นใจที่จะอยู่ด้วยกันเท่าไหร่เพราะกลัวว่าจะไปไม่รอด
“พูดเล่นน่าคิดมาก แต่พี่อาจมานอนบ่อยๆ เอ๋จะว่าอะไรมั๊ย”
“พี่ก็บอกแล้วกัน แล้วนี่ไม่ค่อยกลับบ้านพ่อแม่ไม่ว่าเหรอ”
“วันวันเจอกันที่ไหน เขาทำงานเป็นกุ๊กโรงแรมทั้งคู่ คนนึงเข้าเช้า คนนึงอยู่ดึก พี่หลับเขาตื่น”
“แล้วทำไมพี่ศักดิ์ไม่เรียนหนังสือหล่ะ “
“เบื่อ เรียนไม่ดีแล้วเก ด้วย พ่อพี่จะฝากงานให้ที่โรงแรมเพื่อนอีกหน่อยก็คงต้องออกจากที่นี่แล้ว”
“ว้า แย่จังมีแต่คนจะออก มันเป็นอะไรกันนะพอเปลี่ยนเป็นโรงแรมพวกเราก็หายหน้าไปหมด นี่เขาจะให้เอ๋ทำแคชเชียร์แล้วเดือนหน้า เขาอยากได้แต่ผู้หญิงมาเสริฟแขก เห็นนีกับปานก็จะออกอีกเดือนหน้า แย่จัง”
“เลิกพูดดีกว่า มาพูดเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องอะไรพี่” เรางงมีอะไรที่ต้องคุยกันอีกวะนี่
“ก็เรื่องอย่างว่าไง”พี่ศักดิ์ลุกขึ้นถอดกางเกงออก มันเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูดให้เราเข้าไปหา เขายืนพิงที่ฝาห้องสองมือจับหัวเราโยกเป็นจังหวะแทงซ้ายแทงขวา ดูดจนน้ำลายเต็มปาก เราก็ถอนปากออก
“หยุดทำไมกำลังมันเลย” เคกระดกน้ำลายจับจนมันแผล่บ
“พี่ศักดิ์ เดี๋ยวก็แตกก่อนพอดี” แกเขกหัวเราทีนึงเบาๆ
“ไม่ได้เลยนะ กลัวเสียเปรียบสิท่า วันนี้ไม่ใส่ถุงนะ”
“จะดีเหรอพี่ ถุงเอ๋มันเล็กมันรัด ตอนถอดมันเจ็บ “ ทำไมไม่กลัวนะเราเหมือนตรึกตรอง ก็เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันแกไม่น่าจะมีอะไรมั๊ง กับพี่โด่งก็ไม่เคยใส่ถุง กลัวแต่ก็โก้งโค้งรอแล้ว รสชาดที่ไม่ใส่ถุงเราว่ามันสนุกกว่าใส่ถุงเยอะ ไม่ได้ต้องการให้ใครเอาอย่างทุกวันนี้จะถวิลหาความอุ่นของเคที่สอดเข้ามาและยิ่งตอนที่น้ำฉีดออกมาเหมือนแต่ก่อนก็ทำไม่ได้แล้ว อยู่รอดมาขนาดนี้ก็ถือว่าดวงดีมากและก็อยากอยู่ไปอีกนานๆด้วย
“พี่ศักดืแสดงฝีมือเต็มที่เลยนะ” เราบอกเมื่อโดนจ่อปากถ้ำแล้ว ครั้งเดียวมิดด้ามจนตัวเราโย้ไปข้างหน้าหัวชนโต๊ะเลย ไม่มีบันยะบันยังเลย พี่ศักดิ์ซอยเร่งๆและเร็วโดยไม่สนใจว่าเราจะเป็นยังไงแล้วแกก็ไปสบายคนเดียวทิ้งให้เราค้าง จนต้องแอบช่วยตัวเองในห้องน้ำ เฮ้อ เห็นเราเป็นรูระบายน้ำหรือไงนะ น้ำแตกแล้วแยกทาง เซ็งจัง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

80. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:37 PM (SE Asia Standard Time)
 
   80…..
เราทำงานหยุดอาทิตย์ละวันเท่านั้นไม่ค่อยได้เจอเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกันเพราะเวลาไม่ตรงกัน เสาร์อาทิตย์พวกมันก็ไปติวกัน จะได้คุยกันก็แค่วันหยุดเราตอนเย็นเท่านั้น นกอยู่กับเพื่อนใหม่อีกสองคน ส่วนอี๊ดอยู่กับเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันแต่คนละห้อง บางคนยังคงความเชยของบ้านนอกอย่างพวกเราครบถ้วน มีนกคนเดียวที่ปรับตัวได้ใส่เสื้อสไตล์เด็กใต้ เสื้อยืดเป็นสีๆตัวเล็กกับกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ หล่อดี แต่จะทำไงได้ก็มันมีแฟนไปแล้วได้แต่น้ำลายหกเท่านั้น อี๊ด เมทและถา เรียนวิทย์คอม เราไม่ค่อยกินเส้นกับถา เพราะมันไม่ชอบกระเทย ถึงขั้นรังเกียจ บางทีก็แสดงออกอย่างน่าเกลียดถึงขั้นว่าเจอกันเดี่ยวๆไม่ทักและยังทำเป็นมองไม่เห็นด้วย เราไปเล่าให้อี๊ดฟังอี๊ดก็หัวเราะร่า
“ท่าจะบ้า เพื่อนกันแท้ๆ มันกลัวกระเทยนะสิ ตอนอยู่รามสอง ไปกินเหล้าหอเพื่อนแล้วโดนกระเทยดูดหว่ะ เพื่อนแซวตลอดเลยมันเลยอาย คนรูปหล่อนี่หว่าทำไงได้ ส่วนกูนะแอ่นให้ดู อีพวกนั้นมันยังไม่มองเลย”
อี๊ดพูดไปขำไป มิน่า เราดูตัวเองที่หน้ากระจกก็ธรรมดา แต่งตัวก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น มิหนำซ้ำยังลากรองเท้าแตะด้วย
“แล้วกูเหมือนกระเทยมากเลยเหรอ”
“อย่างมึงนั่งอยู่เฉยๆ เขาก็รู้แล้วไม่ต้องทำอะไรเลย” เป็นงั้นไปอุตส่าห์แต่งตัวให้ธรรมดาที่สุดแล้วนะเนี่ย
“เอ๋ปิดเทอมมึงจะกลับบ้านมั๊ย” เราส่ายหน้า
“ลางานไม่ได้ นี่เขาย้ายกูไปเป็นแคชเชียร์รอบดึกทำจนถึงเช้า ยังกลุ้มอยู่เลย ว่าจะเรียนได้ไง”
“มึงก็ลาออกสิวะ พ่อแม่ก็มีจะทำไปทำไมงาน ออกมาตั้งใจเรียนให้จบดีกว่า”
“เสียดายหว่ะ งานกำลังไปได้ด้วยดีนี่นา วันมึงกลับกูฝากของไปให้ที่บ้านด้วยนะ”
“ได้เลยเพื่อน มะรืนนี้อย่าลืมลางานนะโว๊ยพวกกูจะฉลองสอบเสร็จที่ห้องไอ้นกกัน” เราพยักหน้า นานแล้วไม่ได้เจอหน้าเจอตากัน ถาเดินสวนที่หน้าปากซอยตอนเรากำลังจะไปทำงานเราก็ยิ้มให้หลังจากที่เคยทำเฉยๆกันมานานเขาเดินหลบสายตาเรา เสมองไปทางอื่นไม่ยิ้มให้เหมือนเดิม ช่างปะไร นึกแล้วก็น่าขำที่ไม่แยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อนก็คือเพื่อน นึกแล้วปลงที่เขามีอคติกับกระเทยทุกคนกะอีแค่เรื่องเท่านี้
เรากับพี่ศักดิ์เหมือนถูกแยกออกจากกันนับแต่เราย้ายไปทำงานรอบดึก พี่ศักดิ์ถูกโอนไปที่ครัวกลางรอบกลางวันแทนไม่มีโอกาสเจอกันเท่าไหร่นัก จนเรารู้สึกเฉยๆกับพี่เขาไปในที่สุดองค์กรใหญ่ขึ้นคนเข้ามาทำงานก็เยอะขึ้น สาวๆมากหน้าที่อยู่แผนกครัวคงทำให้พี่เขา มีความสุขมากขึ้นก็เป็นได้ คำพูดที่เคยบอกว่าจะมาหาที่ห้องบ่อยๆคงเป็นแค่ลมที่พัดผ่านหูไปเท่านั้น หาอะไรแน่นอนไม่ได้ ในเมื่อทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมและเราเองก็ไม่ได้รักพี่ศักดิ์อย่างที่เคยรักผู้ชายคนอื่น เลยไม่เฮิร์ทเท่าไหร่นัก
งานฉลองสอบวันสุดท้ายคราคร่ำไปด้วยเพื่อนๆที่จากกันไปนาน มีทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นกพาแฟนมาด้วย ส่วนคนอื่นยังเกาะกลุ่มกันอยู่ มีบ้างที่จีบกันเอง เราดูแปลกแยกไปจากทุกคน เพราะโลกของเรามันกว้างจนเล่าเรื่องตัวเองทีไรเพื่อนๆกลับไม่เก็ท เลยได้แต่นั่งฟังเขาคุยกันแทน ห้องอื่นก็ฉลองกันประปรายเลยไม่มีปัญหาเรื่องเสียง นกแยกไปส่งแฟนและเพื่อนผู้หญิงคนอื่นแล้วก็กลับมากินต่อ พอเหลือแต่ผู้ชายเราก็เป็นดาวดวงเด่นในกลุ่มขึ้นมาจนได้ ถานั่งประชันหน้าเราตั้งแต่เริ่มกินแล้ว แต่เราสนใจนกมากกกว่า ไม่เห็นนานเลยอย่างจะฟื้นรสรัก
“รู้นะคิดอะไรอยู่” นกแซวเป็นระยะแต่ต้องสงวนท่าทีนิดนึงเพื่อนบางคนยังไม่รู้พฤติกรรมของเรานอกจากความเป็นกระเทยเท่านั้น เรากินเหล้าเก่งกว่าทุกคนอยู่แล้วทั้งจริตมารยาในการกินเหล้าไม่ให้เมาก็เพียบ ยิ่งดึกก็ยิ่งมึนปากเริ่มชา ไอ้พวกบ้าเมาจะแย่ก็ยังไม่ยอมหยุดกิน อี๊ดกับเมธหงายหลังลงไปนอนตั้งนานแล้ว นกยังสนุกอยู่ กินไปนานๆก็ชักเบื่อเลยจนเหล้าหมดเลยขอตัวกลับนกก็ถามขึ้นมา
“เอ๋ ไปไหวมั๊ย”
“มึนๆหว่ะ ไปส่งหน่อยสิวะ นกนายไม่เมานี่” เพื่อนนกกลับไปที่ห้องแล้ว
“เออเดี๋ยวไปส่งขอเยี่ยวก่อน” เหลือแต่เรากับถา เขาระวังตัวมาก
“เป็นอะไรเหรอ ไม่เห็นคุยกับเราเลย อยากถามว่าทำไม เราไปทำอะไรให้ เพื่อนกันแท้ๆ อยู่ๆไม่ชอบขี้หน้ากันได้ไง” เราก็ว่าไปตรงๆ “กระเทยไม่ได้เหมือนกันหมดหรอกนะ” เราทิ้งท้ายไม่รอคำตอบแล้วลุกขึ้นไปรอนกหน้าห้อง
“ไปนอนแล้วโว๊ย” นกโอบคอเราพาเดินลงมาข้างหลังหอติดกันแป็บเดียวก็ถึง เปิดประตูห้องได้เราก็ลากแขนนกเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู กอดเขาแรงๆ
“เอ๋ อะไรวะ เมาเหรอ”
“ไม่เมาหรอกแต่อยาก” เราจับไปที่เป้านกทันที นกทำเหมือนจะหลบ
“เฮ้ย ไม่ดีน่า” เรายังลูบอยู่
“ไม่ดีหรือไม่เอา” เราสอดมือเข้าไปในกางเกงแล้ว นกก็ถามว่า
“มีถุงยางรึเปล่า” เราพยักหน้า ก็แค่นั้น เราดูดเคนกอย่างหื่นกระหาย ไม่ได้เจอมันนานเจ้าตัวดีมันน่ารักขึ้นเยอะ นกประคองหน้าเราไว้ที่เป้า พร้อมดึงออก “ใส่ถุงเร็วเอ๋เดี๋ยวแตกก่อน” เดินจูงกันเข้าห้องน้ำไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร หน้าเราแนบกับผนังห้องน้ำส่วนก้นถูกตำอย่างแรง “โอย เสียวดีวะ เอ๋” เขาชักออกน้ำเต็มถุงเลย เราอาบน้ำและล้างให้นก พร้อมกับบอกเขาอีกว่า
“นก นอนกับเรานะวันนี้ “ นกนอนหงายลงบนเตียงแทนคำตอบ
“หายหน้าไปนานลีลาดีขึ้นเยอะนี่ ใครสอนวะ” นกถามตอนที่เรานั่งเทียนอีกรอบ
“คิดถึงเราบ้างมั๊ย”
“ตอนแฟนไม่ให้เอา อยากให้เอ๋อยู่ใกล้ๆหว่ะ เมื่อยมือชิบ”
“บ้า” พร้อมกับนั่งทับลงไปแรงๆ
“โอย เดี๋ยวหัก” นกร้องเสียงหลงหากแต่สวนขึ้นมาจนเราจุก...........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

81. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:39 PM (SE Asia Standard Time)
 
   81.....
หน้าที่การงานดีขึ้นตามลำดับ เราถูกย้ายไปทำฟร้อนท์แคชเชียร์ของโรงแรมคงเป็นเพราะภาษาที่ดีขึ้นเป็นลำดับได้อยู่รอบเช้าต้องเข้างานตั้งแต่หกโมง การเรียนเอยูเอก็ต้องหยุดไปเพราะไม่มีแรงที่จะเรียนต่อ เนื่องจากต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน ทำงานเสร็จก็ล้าแล้ว แขกทัวร์จีนเยอะมาก พี่ศักดิ์ทะเลาะกับอาตัวเองในครัวถึงขั้นลงไม้ลงมือแกลาออกไปแล้ว เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย หายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าไปทำงานที่ไหนต่อ รู้สึกใจหายเหมือนพี่ชายหายไปจากบ้าน พยายามตามหาก็ไม่ได้คำตอบรู้เพียงแค่ว่าพ่อแกที่เป็นกุ๊กเปิดร้านเบเกอรี่ให้ก็เท่านั้นไม่มีโอกาสที่จะร่ำลากันเลย โรงแรมมีทัวร์จีนมาลงเยอะมาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกวันเพราะค่าห้องถูก เหมือนเรื่องบังเอิญในสิ่งที่ไม่อยากให้มันเป็น พี่โด่งพาแขกกรุ๊ปที่รีโลเคทจากโรงแรมที่มีคอนแทคด้วยมาพักที่โรงแรมเรา เราเจอแกตอนทำเช็คเอ้าท์กรุ๊ป ไกด์รูปหล่อยื่นหน้ามาเล่นเอา รีเซฟชั่นหมู่เฮาถึงกับกรี๊ด เรากำลังโพสท์บิลล์อยู่ได้ยินเสียงคุ้นๆก็เงยหน้าขึ้นมามอง
“เช็คเอ้าท์ ด้วยครับ” เสียงวางกุญแจที่เคาน์เตอร์ใกล้ๆกับที่เรายืนมันคุ้นหู เราชะงักรู้สึกเหมือนเหงื่อออกที่มือ พี่อีกแคชเชียร์อีกคนไปกินข้าวเหลือเราที่เคาน์เตอร์คนเดียว พี่โด่งเดินมาเกาะที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์แล้วยิ้มทัก
”ไงเอ๋ ทำงานที่นี่เหรอ” เราไม่อยากเห็นหน้าพี่โด่ง แม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานแล้วแต่มันยังเจ็บปวดเสมอที่คิดถึง
“ฮะ พี่สบายดีม๊ย” ถามโดยไม่มองหน้าทำทีเป็นสนใจกับบิลล์ของกรุ๊ปทัวร์อยู่
“สบายดี แล้วเอ๋หล่ะไม่เห็นโทรไปหาพี่เลย โตขึ้นเยอะนี่ กี่เดือนแล้วที่ไม่เจอกัน” เราเงยหน้ามองแก พี่โด่งหลบให้ลูกทัวร์เดินเข้ามาจ่ายเงินที่เรา กว่าจะหมดทุกห้องก็ใช้เวลาพอดู
“ สบายดีฮะ”
“เรียนเป็นไงบ้าง”
“ก็เก็บได้ทุกวิชา เทอมสองก็หนักหน่อย เพราะไม่ได้ไปเรียนเลย พี่โด่งมาทำไกด์เต็มตัวแล้วเหรอ”
“ใช่ ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์ รับงานไปเรื่อยๆ”
“พี่แต่งงานรึยัง” เราถามเบาๆดีที่เคาน์เตอร์ข้างๆไม่สนใจ
“ไปเรื่อยๆ วันนี้เลิกงานกี่โมง แล้วหยุดวันไหน” พี่โด่งถามเรา
“บ่ายสาม หยุดพรุ่งนี้” เราตอบสั้นๆไม่ต่อปากต่อคำเหมือนก่อนเพราะคิดว่าแกคงถามไปงั้นๆ
“เดี๋ยวพี่ส่งแขกขึ้นเครื่องแล้ว พี่มารับนะ ไปหาที่คุยกันสักหน่อย ว่าไง” เหมือนใจจะขาดมากกว่าเดิมเราก็สั่งใจตัวเองไม่ได้ในที่สุดได้แต่พยักหน้า
“บ่ายสามครึ่งรอที่เบลล์นะ พี่จะขับรถมารับ ไปหล่ะ” แกโบกมือแล้วเดินตามแขกคนสุดท้ายเข้าลิฟต์ไป
“คุยอะไรกันตัว” รีเซฟชั่นยื่นหน้ามาถามทำให้เราตื่นจากพะวัง “รู้จักกันเหรอ หล่อดีนะไกด์คนนี้”
“รู้จัก พี่เขาเคยอยู่อพาร์ทเมนท์เดียวกัน โลกมันกลมนะ” เราแต่งเรื่องไปเรื่อยเปื่อย
“อยู่หน้ารามเหรอ” เพื่อนสาวเหมือนจะจับโกหก
“ฮื่อ” เราแค่พยักหน้าแล้วก้มลงไปเคลียร์บิลล์ต่อ ไม่อยากจะคุยไม่อยากจะเล่าให้ใครฟังรู้สึกตัวเองไม่ทันโลก เป็นกระเทยโบราณคร่ำครึกับความหวังลมๆแล้งๆ เพราะเทียบกับเพื่อนๆพวกนี้แล้วชีวิตเราไม่มีสีสันเอาซะเลย อุ๊ กับ ต่อ รีเซฟชั่นชอบไปเที่ยวแถวสีลม นั่งร้านเทเลโฟนจีบผู้ชาย ตอนเช้าก็จะมาเม้าท์แตกให้เราอิจฉาเล่นอยู่เรื่อย พวกหล่อนเรียนจบมหาลัยกันแล้วอายุมากกว่าเราสามปีแต่ไม่ยอมให้เราเรียกพี่ เราไม่ค่อยอยากไปกับพี่โด่งนัก แต่พอเลิกงานเปลี่ยนยูนิฟอร์มเสร็จก็มายืนรอที่หน้าโรงแรมตามนัด พี่โด่งขับรถเก๋งคันใหม่เอี่ยมมาจอดเทียบ เราเปิดประตูแล้วรีบเข้ามานั่งในรถคู่คนขับ
“เป็นไง ยังโกรธพี่อยู่รึเปล่า” พี่โด่งยิงคำถามทันที ที่รถเคลื่อน
“เอ๋ ไม่ได้โกรธพี่ แต่เอ๋รู้ตัวว่าพี่โด่งคงจะเจอคนที่ถูกใจแล้ว คิดแค่ว่าตัดใจดีกว่า” พยายามเรียบเรียงคำพูดช้าๆ
“ ถ้าไม่โกรธ ทำไมไม่ติดต่อหล่ะ พี่เคยไปหาเราที่ชั้นบน เขาก็ไม่รู้จักเอ๋สักคน นี่มันบังเอิญที่ได้มาเจอกัน ไม่งั้นก็คงไม่เจอกันเลยสิท่า”
“อยากจะโทรหา แต่กลัวจะเสียใจ เวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก็ค่อยๆดีขึ้นมาก พี่โด่งไม่รู้หรอกว่าเอ๋เจ็บปวดแค่ไหน ที่เวลาอยู่ลำพังแล้วคิดถึงพี่ขึ้นมา” สุดท้ายทำนบก็พังจนได้
“ใครห้ามไม่ให้โทร คิดไปเองทั้งนั้น พี่บอกแล้วไงเรื่องพี่กับหลินมันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่สนุก”
“แล้วเรื่องของเรา ก็แค่สนุกเหรอพี่” เราหันหน้าไปทั้งๆที่ตายังแดงอยู่
“เอ๋เริ่มพูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะครับ” พี่โด่งถอนหายใจ “อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องของเราก็คือเรื่องของเราสองคนเท่านั้นเข้าใจรึเปล่า”
“ไม่เข้าใจหรอก พี่โด่งใจร้าย” เรายังไม่ลดละ
“ใครใจร้ายกว่ากัน อยู่ๆก็หายหัว ไม่ติดต่อทั้งๆที่ก็รู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน” พี่โด่งเลี้ยวรถเข้าโรงแรมอีกที่นึง”พี่ได้ห้องคอมพรุ่งนี้มีส่งแขกแต่เช้า เลยนอนที่นี่” จอดรถแล้วเดินนำเราขึ้นลิฟต์ เราเดินตามเขามาทำไมนี่ พี่โด่งเปิดห้องแล้วดึงตัวเราไปนั่งที่เตียง
“คิดถึงมากเลย” แกหอมแก้มเราเบาๆพี่โด่งเอนตัวทับเราบนเตียง “นอนกับพี่นะวันนี้ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”พี่โด่งประกบปากลงมา รสชาดที่ถวิลหาอยู่ตลอดเวลายังเหมือนเดิม เราปล่อยอารมณ์ไปตามอย่างที่ใจต้องการ มันอิ่มเอมที่สุด เราตัดใจจากพี่โด่งไม่ได้เลยแม้ในขณะนั้นจะมีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าพี่โด่งเป็นอะไรกันแน่แต่ร่างกายก็ตอบสนองแกอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ จนค่ำก็อาบน้ำลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารข้างล่าง พี่โด่งเหมือนไกด์ใหญ่ทุกคนทักทายเป็นอย่างดี นั่งเงียบๆกินข้าวกัน
“ร่าเริงหน่อยสิ ไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอกันอีก”
“ดีใจ จนพูดไม่ออก” เราเพิ่งจะยิ้มออกมาได้ พี่โด่งยักคิ้วยั่ว
“พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวแอร์พอร์ท แล้วไปรื้อฟื้นความหลังกัน” แกพูดยิ้มๆ
“จะพาไปไหนหล่ะ “
“เดี๋ยวก็รู้เอง รับรองต้องชอบ”กินข้าวกันเสร็จพี่โด่งก็พาไปหาซื้อเสื้อผ้ามาไว้เปลี่ยนพรุ่งนี้ หมดเงินไปเยอะเหมือนกัน เราจะจ่ายเองแกก็บอกไม่ต้อง
“พี่จะซื้อให้น้องไม่ได้เหรอ ไม่ได้ดูแลกันนานแล้วนะ แม่พี่ถามถึงเอ๋บ่อยๆ ไม่รู้ว่าติดใจอะไรนักหนา เจอกันแค่ครั้งเดียวเอง”
“ชาติก่อนคงเป็นลูกสะใภ้มั๊ง” เราตอบติดตลก
“ชาตินี้ก็ใช่นี่นา” แกตบก้นเราทีนึง
“แต่ว่าหยิบเพศมาผิดเพราะกลัวเกิดไม่ทันพี่นะสิ” พี่โด่งหัวเราะเสียงใส
“เออต้องแบบนี้สิ ต่อปากต่อคำอย่างนี้ค่อยเป็นเอ๋คนเดิมหน่อย ไม่งั้นพี่เหงาแย่ไม่มีคนคอยแหย่”
“มีแต่พี่แหล่ะ ที่แหย่ เอ๋ไม่เคยแหย่พี่สักหน่อย”
“ทะลึ่ง” แกตบหัวเบาๆ ก่อนเดินออกจากร้าน “อยู่ใกล้ๆแล้วมีความสุขดีนะเราเนี่ย อย่าหน้างอบ่อยนัก เดี๋ยวคนง้อจะเหนื่อย นะเอ๋อย่าคิดมากร่าเริงเข้าไว้ “ ใช่สินะเรื่องแค่นี้เองจะคิดอะไรนักหนา เราลืมคำพูดของพี่เพลินไปได้ไง อยู่คนเดียวคิดไปเองคนเดียว โลกยังกว้างนักอายุก็แค่นี้ จะมัวซึมเศร้าอยู่ทำไม ในเมื่อวันนี้ลมได้พัดพาความรักกลับมาให้ความชุ่มชื่นหัวใจอีกครั้งแล้วนี่....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

82. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:40 PM (SE Asia Standard Time)
 
   82……….
เราช่วยพี่โด่งดูแลกรุ๊ปทัวร์ที่แอร์พอร์ทสนุกมาก แอร์พอร์ตกว้างใหญ่นักท่องเที่ยวคราคร่ำเต็มไปหมด ยืนมองตารางการบินที่ค่อยๆขยับอย่างตื่นตาตื่นใจ พี่โด่งพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทัวร์ที่แกรับครั้งนี้ไม่ค่อยถนัดนักแต่เป็นเพราะไกด์จีนประจำไม่ว่าง เลยเมื่อยมือกันพอสมควร ดีที่ได้ผู้ช่วยที่พูดได้สองภาษาทั้งอังกฤษและจีน ทุกอย่างจึงราบรื่น
“ไง อยากไปเที่ยวเมืองนอกมั๊ย” พี่โด่งถามเมื่อเสร็จภาระกิจ เรามองเครื่องบินลำใหญ่ที่กำลังเหินฟ้าจากในรถ จะมีโอกาสสักครั้งมั๊ยนี่ชีวิตนี้
“อยากสิ ไปไหนก็ได้อยากนั่งเครื่องบินจัง พี่โด่งไปไหนมาบ้างแล้วหล่ะ”
“ก็หลายที่เหมือนกัน แต่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ เอ๋พร้อมรึยัง เราจะไปรื้อฟื้นความหลังกันแล้วนะ วันนี้จะเป็นไกด์พาเอ๋เที่ยวทั้งวันเลย”
“เมื่อคืนก็ย้อนกันไปแล้วนี่นา” เราพูดอายๆ พี่โด่งเล่นเอาเราซะสะบักสะบอม “พี่โด่งย้อนบ่อยจังเลยนะ”
“ก็ต้องเก็บตกหน่อยสิ ห่างไปนาน” แกยิ้มอย่างอารมณ์ดี “รับรองว่ายังฟิตอยู่ แรงไม่มีตก”
“พูดบ้าๆ ว่าแต่จะเริ่มที่ไหนดีหล่ะพี่”
“ก็ห้องพี่ไง” เราทำหน้าตกใจ
“นั่นมันหลังๆแล้ว ถ้าย้อนจริงก็ต้องไปที่ถนนเปลี่ยวๆที่ชะอำสิ “ เราตอบ
“ไม่ใช่มั๊ง น่าจะบนรถคันเก่ามากกว่า” พี่โด่งบอก
“อย่างนี้เหรอพี่” เราวางมือที่คันเกียร์แกแล้วเขี่ยเบาๆ มันสู้มืออีกแล้ว “พี่โด่งไม่ใส่กางเกงในอีกแล้วนะ ดูสิมันกระดกใหญ่แล้ว” แกละสายตาจากถนนแล้วก้มลงมองขำๆ
“ไอ้นี่ ดื้อใหญ่แล้ว” แกเอามือกดมันไว้แล้วอมยิ้มขับรถไปเรื่อยๆ
“พี่พักกี่วันฮะ”
“เดี๋ยวกรุ๊ปออสเตรเลียเข้าพรุ่งนี้ดึกๆ อยู่กับเอ๋ได้ทั้งวันเลยแหล่ะ แล้วเอ๋มีเวลาให้พี่รึเปล่า”
“ก็แค่วันเดียวเอง พรุ่งนี้ก็ทำงานแล้ว” รถเลี้ยวเข้าอพาร์ทเมนท์แล้ว เราเดินเข้าห้องพี่โด่งเหมือนเคย
“พี่อยากคุยกับเอ๋นะ”
“คุยอะไรพี่”
“พี่รู้นะว่าเอ๋คิดยังไงกับพี่ พี่ขอโทษนะที่พี่เป็นคนแบบนี้ พี่อาจจะเห็นแก่ตัว และทำไม่ดีกับเอ๋เยอะหลายเรื่อง แต่จริงๆแล้วพี่เป็นห่วงเรานะ” พี่โด่งจะงัดเอาอะไรมาพูดก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ เราไม่ได้เคลิ้มกับคำพูดของแกเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วเพราะชินนิสัย เอาแต่ใจตัวเอง
“เอ๋รักพี่ แต่พี่ก็ทำร้ายเอ๋บ่อยมาก พี่โด่งอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร แต่เอ๋เจ็บ วันนั้นเอ๋อยากเจอพี่ที่สุด นั่งรอพี่ตั้งแต่เย็นร่วมสี่ห้าชั่วโมง สุดท้ายพี่โด่งก็ไม่รักษาสัญญา เอ๋ไม่ได้ห้ามที่พี่จะคบกับใครเพราะเป็นสิทธิ์ของพี่ แต่เอ๋น้อยใจที่ส่วนที่พี่ให้เอ๋แล้วกลับมีคนอื่นมาฉกฉวยไป ทั้งๆที่พี่รับปากแต่พี่ก็ลืม เหมือนกับลืมที่จะโทรหาเอ๋นั่นแหละ” เรากล้าพอที่จะตอบแกตรงๆ “แต่เอาเถอะทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว วันนี้พี่โด่งก็มานอนอยู่ใกล้ๆอีกแล้ว ใจเอ๋อยู่กับพี่คนเดียว เอ๋อยากขอพี่สักอย่างได้มั๊ยฮะ”
“ให้หมดตัวเลย” พี่โด่งยังพูดเล่นแล้วจูบหน้าผากเราอีกที “ เอ๋ไม่อยากเป็นของเล่นที่พี่หมดสนุกแล้วทิ้งขว้าง พอนึกขึ้นได้จะทิ้งก็เสียดายแล้วก็หยิบมาเล่นอีก “ เรายอมรับว่าพูดออกไปแรงเหมือนกัน
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นหล่ะครับ พี่ไม่เห็นด้วยนะ “ เราเถียงในใจแต่พี่ก็ทำ “ไม่เอาแล้วจริงจังเกินไปแล้ว หาอะไรทำกันดีกว่านะ” พี่โด่งจูบเราแรงๆอีกครั้งขบและกัดที่ปากอย่างเคย มือทั้งสองข้างเหมือนคีมบีบมาตามเนื้อตัวของเราแรงๆ ลมหายใจของพี่โด่งมันร้อนผ่าว เราเองก็โต้ตอบแกไม่แพ้กันดูดที่คอแกอย่างแรงจนพี่โด่งหดคอหนี แล้วดูดที่คอเราแรงๆโต้ตอบ เรากัดที่บ่าพี่โด่งแรงๆหลายทีเหมือนยิ่งกระตุ้นอารมณ์พี่โด่งให้คุโชนมากขึ้น เราจูบกันแรงๆอยู่นานก่อนทีแกจะขบไปทั่วหน้า ถึงจะเจ็บแต่ลึกๆแล้วมันมีความสุขมากกว่า มือใหญ่ๆบีบที่ราวนมแล้วดึงเหมือนโกรธจัด
“เจ็บจังเลยพี่” เจ็บจนต้องออกปาก พี่โด่งจับเรานอนคว่ำถอดกางเกงและเสื้อเราออก “พร้อมรึยังเอ๋” ถามพร้อมกับเอามือลูบไล้ที่ก้นเรา พี่ด่งนั่งทับบนตัวเราอยู่ลูกแฝดห้อยมาวางอยู่ที่ก้นมันอุ่นๆ พี่โด่งจับเคถูไปตามร่องก้นของเราจ่อแต่ไม่เสียบสักที
“พี่โด่ง เร็วๆสิฮะ” เราเร่งเพราะเต็มที่แล้ว
“ได้เลยเอ๋ “พี่โด่งกดหัวมันเข้ามาที่ร่องก้นแล้วเหมือนมันรู้ทาง เรากางขาออกกว้างกว่าเดิมแกโหย่งตัวเหมือนท่าวิดพื้น เมื่อตอนหัวมันปักที่ทางเข้าแล้วจากนั้นก็กดสะโพกดันเข้าม้วนเดียวจบ
“โอ๊ย” เราร้องออกมาเสียงดัง พี่โด่งเอามืออุดปากไว้แต่สะโพกยังทำงานหนักหน่วง ปากแกก็ไซ้ไปตามลำคอข้างๆ “พี่โด่งเอ๋เจ็บ”
“ทนหน่อย เข้าหมดแล้ว” แกไม่ปราณีเราเลยช่องแคบที่ร้างลาเรือใหญ่จอดพักนานกำลังถูกขุดอย่างไม่ปราณีปราศรัย “พี่เอ๋เจ็บ เจ็บจริงๆ น้ำตาเราซึมลงที่หมอนพี่โด่งยังคงเดินหน้าต่อ แกครางเป็นระยะระยะ ขยับเข้าออกอยู่สักพักก็คล่องตัว แต่เราก็ยังเจ็บอยู่ ไม่มีแรงต้านทานเพราะถูกกดทับไว้ พี่โด่งเร่งจังหวะชักเข้าชักออกจนตัวเราลอยติดขึ้นมาตาม น้ำอุ่นๆฉีดเข้ามาในตัวเราแล้ว พี่โด่งก็ยังไม่ยอมหยุด แกครางลั่นแล้วทาบลงมาทับตัวเราไว้ มันยังค้างคาอยู่ในตัวเรา สุดท้ายแล้วพี่โด่งก็เห็นเราเป็นที่ระบายความใคร่เท่านั้นเหรอ เราเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ ที่ต้องยอมทุกอย่างเพื่อหวังให้เขารักแต่แล้วก็ลงเอยแบบเดิม จะมีใครที่ทนอารมณ์พี่โด่งได้นอกจากคนบ้าๆอย่างเรา


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

83. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:42 PM (SE Asia Standard Time)
 
   83……
แสบไปหมดเมื่อตอนที่ทำความสะอาด ดีที่เลือดไม่ออกเหมือนตอนที่โดนไอ้ตั้มทำ เรานั่งจมอยู่ในห้องน้ำเป็นนาน แล้วถามตัวเองว่านี่เราต้องการอะไรกันแน่จากเขา เซ็กส์ หรือว่ารัก จะให้กลับห้องก็ยังไม่อยากกลับอยากอยู่กับพี่โด่งต่อ สับสนไปหมด พี่โด่งหลับสนิทอยู่บนเตียงเพียงเวลาผ่านมาหนึ่งคืนกับครึ่งวัน พี่โด่งตักตวงเอาความสุขทางเพศกับเราไปหลายครั้งแล้ว คืนที่ผ่านมาก็วนเวียนอยู่จนถึงเช้า เรายืนมองดูเขาก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงใกล้ เอามือลูบผมแกเบาๆก่อนจะก้มลงไปจูบที่หน้าผาก ผู้ชายคนนี้คือคนที่เรารักมาตลอด เขาอยู่ในใจเราเสมอถึงแม้ว่าเราจะผ่านประสบการณ์กับคนอื่น แต่เขาก็คือคนเดียวที่เราเฝ้ารอ แล้วเราจะตัดใจจากเขาทำไม พี่โด่งรู้สึกตัวจากการสัมผัสของเราก็ดึงตัวไปกอด
“เป็นอะไรเหรอเอ๋” เราเอนตัวนอนลงตามแรงของแก
“เจ็บ”
“โทษทีนะ” พี่โด่งลูบก้นของเราเบาๆ “เอ๋มาอยู่กับพี่มั๊ย” พี่โด่งถามคำถามที่เราไม่คาดคิดมาก่อน
“ไม่สะดวกมั๊งพี่ เดี๋ยวแฟนพี่เขาแล้วจะอยู่กันยังไง” เราถามพี่โด่ง
“ก็บอกแล้วไง ว่าเขาไม่ใช่” พี่โด่งปฎิเสธ
“เอ๋ก็ไม่ใช่เหมือนกัน”
“ถึงไม่ใช่ก็อยากให้มาอยู่ด้วย” พี่โด่งยังยืนยัน
“เพื่ออะไรฮะ” เรามองหน้าพี่โด่งด้วยสายตาที่คาดคั้นหาคำตอบให้ได้
“เราสองคนมันจูนกันติดแล้วนี่ ลองกับใครก็ไม่เหมือนเอ๋ พี่ไม่เคยเห็นใครที่จะทนพี่ได้อย่างเราสักคน”
“เขาคงแค่อยากนอนกับพี่อย่างเดียวมั๊ง คนหล่อแบบนี้ ใครจะไม่อยากนอนด้วยหล่ะ” เราพูดเป็นเชิงออกความเห็น
“ว่าไง ถามทำไมไม่ตอบ มาอยู่กับพี่นะ”
“เอ๋ไม่สะดวกหรอกพี่ ต้องเรียนหนังสือ ที่นี่ก็ไกลที่ทำงานด้วย” เราหลบสายตาเพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนหอบเสื้อผ้าตามมากับเขาอีกเหมือนก่อน
“เล่นตัว พี่รู้นะว่าเราก็ชอบเหมือนกัน เล่นตัวอยู่ได้ เดี๋ยวไม่รักเลย”
“พี่รักเอ๋เหรอ เห็นมีแต่พูดเล่นทุกที” ไม่ได้ซาบซึ้งกับคำว่ารักของพี่โด่งสักนิดเดียว “เดี๋ยวพอแยกย้ายกันพี่โด่งก็ลืมเอ๋เหมือนเดิม มาอยู่ด้วยนะไม่มีปัญหาหรอก แต่ไม่อยากเสียใจซ้ำซาก เวลาพี่โกรธรืออารมณ์ไม่ดี”
“ทำไมต้องเสียใจ” พี่โด่งทำหน้างง “อยู่ด้วยกันจะเสียใจได้ยังไง พี่ทำงานเอ๋ทำงานตอนเย็นก็เจอกันอยู่แล้ว”
“ขอเอ๋คิดดูก่อนแล้วกันนะฮะ” เราตัดบท “ตอนนี้พี่ไปรับเอ๋ที่ทำงานสิถ้าวันไหนพี่อยากขึ้นมา”
“ให้ไปรับมันดูตั้งใจไปรึเปล่า”
“เอ๋ว่ามันน่าตื่นเต้นดีออก อยากเอาก็ไปรับ น้ำแตกก็แยกทาง ไม่ผูกมัดไม่ผูกพัน ต่างคนต่างอยู่ถึงเวลาก็มานอนด้วยกัน อยู่ด้วยกันนานๆกดีแต่จะทะเลาะกัน และพี่โด่งก็จะไม่มีอิสระ ทำอะไรก็ลำบาก”
“เราคิดอย่างนั้นเหรอ” พี่โด่งเองคงงงกับคำพูดของเรา
“เอ๋ไม่อยากเป็นของตาย นอนแห้งรอพี่โด่งกลับบ้านทุกวันหรอก” เราเริ่มมีสติขึ้นมาทีละนิดไม่ได้พูดประชดประชันเพื่อให้ตัวเองมีค่าอะไรมากเพราะนิสัยพี่โด่งคือไม่ชอบง้อแกก็ว่าตัวเองแน่เหมือนกัน
“ไม่อยู่ก็ไม่อยู่ เฮ้อเรารึก็อยากจะนอนกอดทุกวัน” แกทำทีเหมือนตัดพ้อก่อนจะพลิกตัวลงนอนข้างๆ มารยาผู้ชายเราเริ่มสนุกกับการยั่วพี่โด่งขึ้นมาทีละน้อย
“ถ้าอยู่ด้วยจะแค่นอนกอดเท่านั้นเหรอ” เราพลิกตัวไปนั่งคร่อมตัวพี่โด่ง ก่อนจะก้มหน้าลงไปเลียที่ปลายหู “ถ้าเอ๋มาอยู่จริงๆ พี่โด่งคงซีด และฟ้าเหลืองทุกวันแน่ เพราะเอ๋ติดโรคเซ็กส์จัดจากพี่แล้วนะ ต่อให้พี่หมดแรงเอ๋ก็จะทำ”
เราเลื่อนตัวลงมาที่กลางตัวแกปลดผ้าขนหนูออก แล้วใช้ปากหยอกกับส่วนนั้นแลบลิ้นเลียทั้งแท่งเหมือนไอติม มือก็คลึงไข่แรงๆ ก่อนจะเน้นดูดที่หัวอย่างเดียวเท่านั้น พี่โด่งคงทั้งจุกทั้งเสียวพยายามดันตัวออกแต่เราไม่ยอมปล่อยง่าย นิ้วชี้ไล่ไปตามรอยต่อจากไข่ถึงก้นพี่โด่งกระดกตัวตามแรงดูดของเรา ถึงแม้กระสุนจะหมดตับแต่ปืนใหญ่ก็ยังพร้อมที่จะรบขึ้นมาอีกเคแกแดงกล่ำผงกตามเหมือนเสียดายเมื่อเราถอนปากออก
“เอ๋หยุดทำไม ต่อเร็ว” เราลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือแกขึ้นพี่โด่งลุกตาม....เราดันตัวแกเข้าข้างฝาห้องน้ำแล้วดูดต่อจนพี่โด่งยืนแทบไม่ไหวงอตัวรั้งหน้าเราเอาไว้ “พอก่อนใจจะขาด” พี่โด่งทรุดนั่งกับพื้นห้องน้ำเราหยิบสบู่มาป้ายที่ร่องของตัวเองแล้วนั่งคร่อมทับพี่โด่งแม้มันจะยังแสบแต่เราก็กัดฟันปล่อยให้มันหลุดเข้ามาทั้งลำ ก่อนจะโยกค่อนข้างอึดอัด พี่โด่งดันตัวเราออกแล้วลากเรากลับห้อง จับเรากางขาแล้วสอดเข้ามาอีกครั้งๆขาเราพาดอยู่ที่ไหล่เราเห็นหน้าแกชัดเจนทุกอิริยาบท คนติดเซ็กส์อย่างเรากำลังนอนให้คนเซ็กส์จัดทะลวงอย่างเอาเป็นเอาตาย สะใจตัวเองยิ่งนัก นานเหลือเกินกว่ามันจะสงบได้ พี่โด่งเสร็จแต่ไม่ค่อยมีน้ำออกเท่าไหร่ เราลุกมองเคแกแดงกล่ำอย่างน่าสาแก่ใจ ก่อนจะลุกไปทำความสะอาดตัวเองอีกครั้ง
“พี่โด่ง เอ๋จะกลับแล้วนะ” เราเขย่าตัวหลังจากที่ปล่อยให้แกหลับอยู่เป็นนาน “ไปส่งหน่อยสิ พี่จะได้ไปหาเอ๋ถูกยังไงหล่ะ” พี่โด่งขยับตัวลุกขึ้นสะบัดหัวแล้วเดินไปอาบน้ำ
เรานั่งนิ่งๆมาตลอดทางจนถึงหน้าหอพัก พี่โด่งจอดรถแล้วเดินตามเข้ามาในห้อง ก่อนจะทิ้งตัวนอนที่เตียง
“พี่ขอพักสักงีบนะเอ๋” แกหลับไปแล้ว ในใจก็นึกสงสาร แต่อีกใจสงสารตัวเองมากกว่า ...................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

84. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:43 PM (SE Asia Standard Time)
 
   84....
“พี่กลับแล้วนะเอ๋” พี่โด่งงัวเงียตื่นขึ้นมาก็ค่ำแกหลับไปนานเหมือนกัน
“พี่กินอะไรก่อนมั๊ย เดี๋ยวเอ๋ไปซื้อให้” เรารู้สึกผิดเหมือนกันที่แกล้งแก
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่หิว” พี่โด่งเปิดประตูออกไปเราเดินตามมาส่งที่หน้าหอ ก่อนจะขึ้นรถแกก็หันมาถามเราอีกที
“คิดดูอีกทีนะ ยังไงพี่ก็อยากให้เอ๋ไปอยู่ด้วย” พี่โด่งขับรถออกไปแล้ว เราเองก็คิดเหมือนกัน ทำไมจะไม่อยากไปอยู่ด้วยหล่ะพี่โด่ง แล้วจะให้เอ๋ทำยังไงในเมื่ออยู่กันแบบไม่มีความรักจากพี่ แล้วเอ๋จะอยู่ด้วยได้ยังไง เรายืนถอนหายใจมองตามรถของพี่โด่งจนมันหายลับไปแล้ว รู้สึกหวิวๆเหมือนกันแต่ก็โล่งใจขึ้นมาอีกระดับที่ตัวเองใจแข็งขึ้นมาได้ เพิ่งหัวค่ำป่านนี้เพื่อนๆคงกลับมากันแล้ว เราเดินขึ้นหอที่ติดกันใจอยากจะไปยืมข้อสอบเก่าและไปคุยกับอี๊ดด้วย
“อี๊ดไม่อยู่” ถาเปิดประตูห้องทิ้งไว้ เราเลยถือวิสาสะเดินเข้าไปเพราะเข้าออกจนชินแล้ว “มีอะไรเหรอ” เขาถามเหมือนอยากจะให้เรากลับเร็วๆ
“จะมายืมข้อสอบเก่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเรารออี๊ดก็ได้” ถาไม่สนใจแล้วหันไปดูโทรทัศน์ต่อ แปลกคนเรานึกในใจหยิบหมอนมานอนคว่ำดูทีวีบ้างแล้วก็หลับไปในที่สุด มารู้ตัวตื่นอีกทีอี๊ดก็มาปลุกให้ลุก เรางัวเงียตื่นขึ้นมาเที่ยงคืนกว่าแล้วรีบกลับหอไปนอนต่อโดยลืมที่จะยืมข้อสอบจนได้ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน เดินสวนกับนกที่ทางเข้ากลิ่นเหล้าหึ่งเชียว
“ไงน้องเอ๋” นกเรียกเราเหมือนสมัยเรียน “พี่ไปส่งนะ” นกเดินตามมาจนได้ เราเปิดประตูห้องนกก็เดินตามเข้ามาในห้องอีก ง่วงแสนง่วง
“นกพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน นายจะเอาอะไรเหรอ” นกไม่ตอบแต่ล้มตัวลงที่บนที่นอนแทน
“ไอ้บ้าเอ๊ย แทนที่จะนอนห้องตัวเอง” เราบ่นแล้วรีบจัดแจงปูผ้าที่พื้นขี้เกียจปลุกมันไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยปลุกแล้วกันนกคลานลงจากที่นอนมานอนข้างๆอีกจนได้
“เอ๋นอนรึยังวะ “
“นอนแล้ว”
“จะรีบนอนไปไหน”
“มีอะไรเหรอดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ เดี๋ยวตื่นสาย” นกคร่อมมาที่ตัวเราแล้วซุกไซ้ไปทั่ว เราเหม็นเหล้าจนต้องผละออก เราสะบักสะบอมมาทั้งวันแล้วไม่มีอารมณืจะลุกมาสวีทกับใครอีกแล้ว นกพยายามถอดเสื้อผ้าเราออก เราแกะมือมันออกจากตัวเรา “อย่าน่า ง่วงแล้ว”
“เงี่ยนโว๊ยเอ๋” นกกระซิบที่ข้างหู
“งั้นจะทำอะไรก็ทำแล้วกัน” เราตัดบทมันจะได้เลิกกวนเสื้อผ้ามันหลุดออกไปหมดแล้วทั้งคู่ มันดึงเราไปที่เตียงแล้วดันให้เรานอนคว่ำ เมาแค่ไหนมันก็ถามหาถุงยาง หรือว่ามันแกล้งเมาก็ไม่รู้ เรานอนคว่ำให้นกซอยซ้ำรอยพี่โด่งลำหักลำโค่นไม่ได้ต่างกันนัก พรุ่งนี้จะยืนทำงานไหวมั๊ยนี่ ไอ้บ้านกพอเสร็จแล้วก็ดึงถุงยางออกน้ำหกเลอะตัวเราจนได้ แล้วมันก็หลับฟุบอยู่บนหลังเราทั้งอย่างนั้น ส่วนเรารึก็เสียวเหมือนกัน นึกในใจดีเหมือนกันนะมีอยู่ๆก็มีคนมากระแทกให้ก่อนนอน........................
“ไงยะเอ๋ ” พี่สุเจ้าแม่รอบดึกเป็นรีเซฟชั่นทักเราตอนเราเข้ามารับรอบ “ไปทำอะไรมาเหรอจ๊ะ หน้าโทรมเชียว เหมือนอดนอน”
“โดนเอามั๊ง” เราตอบทีเล่นทีจริง แล้วเก็บเงินโอนรอบเข้าลิ้นชักก่อนจะเดินเข้าไปแพนทรี้ข้างในเพื่อกินกาแฟ ห้องแพนทรี้ยังดับไฟอยู่ พี่สุตามมาบุ้ยใบ้บอกว่ามีคนแอบนอนอยู่ยังไม่ตื่น
“ใครเหรอ” เราถามนี่ “มันตีห้าครึ่งแล้วเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก” พวกรอบดึกหัวเราะกันเบาๆ พวกนี้จะเปลี่ยนรอบกันเข้าไปนอนในนั้นไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการ พี่ผู้ชายที่เป็นออดิท จุ๊ปากบอกเราอย่าเสียงดัง รอบเช้าเพิ่งมีเราคนเดียวที่มาทำงานแล้ว พี่ตู่จะมาหกโมงครึ่ง
“เอ๋เข้าไปปลุกสิ ไอ้หรั่งมันนอนอยู่” หรั่งเป็นอีกคนที่เราปิ๊งเป็นเซ็คคิวรอบดึก หน้าตาดูเป็นลูกครึ่ง ตาสีน้ำตาลใส แต่เป็นคนไทยคงมีเชื้อปลายแถวมั๊ง ที่สำคัญหล่อทรมานใจกระเทยทั้งโรงแรม เรานึกสนุกก็เลยเดินเข้าไปในห้อง หรั่งนั่งหลับบนเก้าอี้ติดประตูทางเข้า แล้วค่อยๆปิดประตู เสียงกรนเบาๆเหมือนหลับจริง ไม่รู้นึกอะไรพอสายตาชินกับความมืดก็โน้มหน้าลงไปใกล้ๆแล้วหอมแก้มแรงๆไปที หรั่งรู้สึกตัวตกใจตื่น เรารีบเปิดไฟ
“เฮ้ยเอ๋ ทำอะไรผม” เขาอายุมากกว่าเราแต่ผู้ชายโรงแรมส่วนใหญ่พูดเพราะกับพวกทำงานฟร้อนท์
“ทำโทษ คนมาแอบหลับ” หรั่งหายตกใจบิดขี้เกียจแล้วหยิบสูทมาใส่ เราเดินไปชงกาแฟที่โต๊ะข้างๆ หรั่งทำทีมาสูดกลิ่นกาแฟใกล้ๆ
“ชงให้ด้วยสิ” พูดซะใกล้หูจนขนลุก จัดแจงชงให้เขาอีกแก้วแล้วยื่นให้
“เมื่อไหร่เอ๋ จะมาอยู่ดึกหล่ะ” เขาถามเรา
“ไม่รู้สิแล้วแต่หัวหน้า อยู่ดึกมีอะไรดีเหรอ ง่วงจะตายชัก เคยอยู่ตอนทำที่ห้องอาหารแล้ว หลับทั้งคืน แล้วเธอเมื่อไหร่จะอยู่รอบเช้าหล่ะ เห็นอยู่ดึกมาตั้งนาน ติดใจพี่สุหล่ะสิ” เราพูดต่อ เมื่อเห็นพี่สุเดินเข้ามา กะให้แกได้ยิน
“อีบ้า” พี่สุนุ่มนิ่มจะพูดจะจาที ดูหวานไปหมดไม่น่าเชื่อว่าจบจากโรงเรียนชายล้วน “ฉันแก่แล้ว ไม่ยุ่งหรอกกับเด็กๆพวกนี้ โน่นอีปุ๊โน่น” พี่สุหมายถึงเพื่อนรอบดึกอีกคน “จริงมั๊ยจะหรั่ง” แต่แกก็ถึงเนื้อถึงตัวหรั่งทันที หรั่งทำทีเหมือนขนลุกแล้วหัวเราะแหะๆ ก่อนจะรีบกินกาแฟจนหมดแล้วรีบออกไป
“เอ๋ฝากล้างแก้วด้วยนะ”
“นี่เอ๋ ไอ้หรั่งนี่เธอว่าไง พี่ว่ามันเล่นกระเทยนะ”
“พี่น่าจะรู้ดีกว่าเอ๋นี่ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน”
“ทำงานด้วยกันพูดให้ถูก ฉันเสียหายนะยะ”
“พี่ชอบเขาเหรอ”
“เปล่าหรอก เห็นอีปุ๊มันคลั่ง ชวนเขาไปดูหนังมั่ง ไปเที่ยวเธคมั่ง แล้วก็เอามาเม้าท์เป็นตุเป็นตะ ว่าเขาไปกับตัวที่ห้อง”
“อาจจะจริงก็ได้นี่”
“เชื่ออีปุ๊มันถ้างั้นนะ ผัวมันทั้งโรงแรมแหล่ะ แต่ถ้าเป็นเอ๋ พี่ว่าไม่แน่”
“เรื่องอะไร มาว่าเรา”
“อย่างหล่อนนะมันแรดเงียบ แค่ดูก็รู้ แต่อย่างนี้แหละดี กินเงียบๆ เก็บๆไปเรื่อยๆ”
“เหมือนพี่หล่ะสิ ที่กินตั้งแต่ลูกน้องจนถึงหัวหน้า” เราหมายถึงผู้จัดการรอบดึก
“อีบ้า อย่าพูดดังสิ เดี๋ยวไม่ได้อีก”
“สาวๆ แขกเช็คเอ้าท์แล้วจ้า” พี่ออดิทรอบดึกปิดประตูมาเรียก เราช่วยพี่สุรับกุญแจเพื่อเช็คลิสต์ห้องเช็คเอ้าท์ก่อนจะเรียกบิลล์มาดู หรั่งยืนถือวอส่งสัญญาณ กับเคาน์เตอร์เบลล์ชั้นล่างถึงขั้นตอนการเช็คเอาท์ของกรุ๊ปเพื่อเคลียร์ที่จอดรถ เรามองหน้าเขาหลังจากทำบิลล์เสร็จ หรั่งยักคิ้วให้แล้วเดินหายเข้าลิฟต์ไป สดชื่นดีนะเช้านี้ พี่สุและรอบดึกออกเวรไปแล้วตั้งแต่หกโมงครึ่ง ก่อนจะไปนังปุ๊ยังพูดเจื้อยแจ้วเหมือนจะให้กระเทยและผู้หญิงรอบเช้ารู้กันทั่ว
“วันนี้ฉันหยุด จะพาแฟนไปเที่ยว”
“เชิญเถอะยะ” พี่ตู่บอก “อีนี่มันแรดจริงๆ คนไหนก็บอกว่าแฟนมันหมด แล้วเอ๋หล่ะมีแฟนกับเขารึยัง”
พี่ตู่พี่สาวที่น่ารักถามเรา “นั่นไงแฟน” เราแกล้งชี้ไปที่หรั่งที่กลับมาตรวจล็อบบี้อีก “ไอ้หรั่งเนี่ยนะ ทะลึ่งจะตายชอบไปได้ยังไง” พี่ตู่กวักมือเรียกหรั่งมาที่เคาน์เตอร์
“นี่เธอ น้องฉันชอบเธอแหนะ” หรั่งทำหน้าเหรอ พี่ตู่นี่แรงจริง เล่นเอาเราหน้าแดง
“พี่ตู่ เอ๋พูดเล่น”
“อ้าวก็นึกว่าชอบจริง บอกให้แล้วนะ แล้วเธอว่าไงหล่ะนายหรั่ง” พี่ตู่ถามซึ่งๆหน้า ดูแล้วหรั่งน่าจะสนใจพี่ตู่มากกว่าเราได้แต่หัวเราะแหะๆตามสไตล์แล้วก็เดินไปจากเคาน์เตอร์
“ไปชอบอย่างนั้นได้ไงเนี่ย พูดก็ไม่รู้เรื่องบ้าๆบอๆ”
“หล่อดีออก”
“ไม่เห็นจะหล่อเลย แค่หน้าคล้ายฝรั่ง เท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ฝรั่งซะหน่อย” พี่ตู่ยังแย้งต่อ “พี่ละงงจริงๆว่าอีพวกนี้ไปชอบได้ยังไง ไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนชอบกันสักคน แต่พวกแต๋วๆกับแย่งกัน”
“เอ๋ไม่ได้แย่งกับใครนะพี่” เราออกตัวก่อนจะหันไปสนใจกับงานอื่นต่อ......................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

85. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:44 PM (SE Asia Standard Time)
 
   85…..
“เอ๋โทรศัพท์” พี่ตู่ยื่นหูให้เรา “ใครไม่รู้” เราย้ายมาอยู่บ่ายแล้วจับคู่กับพี่ตู่เหมือนเดิม เพราะพี่ตู่ไม่ถูกชะตากับอีกรอบเลยไม่อยากแยกคู่กับเรา
“ฮัลโหล เอ๋เหรอ” พี่โด่งนั่นเอง “วันนี้เลิกกี่โมง”
“ห้าทุ่ม พี่มีอะไรเหรอ”
“เดี๋ยวพี่ไปรับนะ” แกไม่รอให้เราตอบรับหรือปฎิเสธ “ที่เดิมนะ” พี่โด่งรีบวางหู จะมารับทำไมเรานึกในใจหายไปเป็นเดือนแล้วยังจะวนกลับมาอีกเหรอ เราเริ่มดีขึ้นมากเป็นลำดับนับจากวันนั้น คงจะเป็นเพราะเพื่อน เพราะงาน และที่สำคัญเพราะห่างกันไป เลยทำใจได้เร็ว สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้นและทำตัวไม่ให้ว่าง เป็นวิธีแก้ปัญหาในใจได้ดีที่สุด
“พี่ตู่วันนี้เอ๋จะกลับกับเพื่อนนะพี่ “ เราบอกพี่ตู่ก่อนกลับบ้านเพราะจะติดรถแฟนแกไปลงข้างทางทุกวัน
“ไปเที่ยวไหนกันเหรอ หน้าตาเหมือนไม่อยากไป” สนิทกันจนดูออกทุกเรื่อง
“ยังไม่รู้เลย ไม่ได้เจอกันนาน ถ้าไม่ไปคงจะน่าเกลียด”
“งั้นพี่กลับนะ” พี่ตู่โบกมือเมื่อรถแฟนแกจอดเทียบที่ทางออกพนักงาน เราเดินมายืนรอที่หน้าโรงแรมเหมือนเดิม หรั่งก็เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น พยายามไม่สนใจแต่ก็มองเห็นเราจนได้ เดินถือวอยิ้มแฉ่งมาหา
“ไม่กลับพร้อมตู่เหรอวันนี้” เราส่ายหน้า “จะไปเที่ยวไหน ไปด้วยคนสิ” หรั่งทำทีเป็นพูดเล่นเหมือนเคย
“ตัวเองทำงานรอบดึกจะไปได้ไง”
“วันไหนเราหยุด ก็ชวนมั่งสิ”
“หยุดไม่ตรงกันอยู่ดีแหล่ะ ไปเที่ยวกับปุ๊โน่น”
“อยากเที่ยวกับเอ๋มากกว่า” พูดเล่นเข้าไปไม่รู้ว่าพูดกับใครซะแล้ว
“อยากไปไหนหล่ะ” เราชักสนใจนายหรั่งจนได้ แพ้ความหล่ออีกแล้ว หรั่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่โด่งแต่ชอบทำตัวเป็นเด็กเลยดูไม่แก่ “หรือจะไปเที่ยวห้องเรา” เราแกล้งทำตาหวานเชื่อม
“ไม่ไปหรอก เจี๋ยว” เขาทำท่าประกอบ
“ไม่ลองไปจะรู้เหรอ ว่าเจี๋ยวเป็นยังไง” เราทิ้งสายตา พี่โด่งจอดรถรอแล้ว “ไปก่อนนะ ไปหาอะไรเสียวๆทำดีกว่า ขี้เกียจคุยกับคนไม่แน่จริง” เราเดินแกมวิ่งไปที่รถ
“พี่โด่งมีอะไรเหรอฮะ” ถามทันทีที่นั่งประจำที่
“จะให้ไปช่วยทำงานหรอก” ใจเรานึกไปถึงงานอย่างว่าที่ห้อง “จะดีเหรอพี่”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก อยากให้เอ๋พาแขกไปเที่ยวหน่อย”
“ใครหล่ะ” พี่โด่งบอกว่ากรุ๊ปทัวร์ที่แกดูแล มีแต๋วฮ่องกงอยู่หลายคนรบเร้าให้พาเข้าบาร์เกย์ ตัวแกก็กระดากที่จะเข้านึกถึงเราขึ้นมาก็เลยโทรมาหาแล้วรีบออกมารับเพราะต้องไปแขกกำลังรอ
“ไม่เห็นมีอะไรนี่ พี่ก็แค่เดินเข้าไปแล้วนั่งดูเฉยๆ ปล่อยเขาสนุกไปสิ”
“มันจะสนุกกะพี่นะสิ แค่พาไปดินเนอร์ก็หลบให้วุ่นแล้ว เกาะแจเลย”
“ก็นึกว่าทำบุญเหมือนพี่พงษ์ ก็สิ้นเรื่อง”
“ไม่ดีมั๊ง รู้สึกแปลกๆ”
“แล้วเขาอยู่ที่ไหนกันหล่ะ”
“รออยู่ร้านอาหาร เอ๋รู้จักร้านเด็ดๆมั๊ย เดี๋ยวพี่ไปส่งแล้ว พี่จะแวะไปรับตอนร้านเลิก”
“นานขนาดนั้นเลยเหรอ กว่าร้านจะเลิกก็ตีหนึ่ง ตีสอง”
“อย่าบ่นไปหน่อยเลยน่า เดี๋ยวไม่รักเลย” เรานึกในใจยังกะเคยรัก เราเองก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าการได้เจอพี่โด่งครั้งนี้ใจเราสงบขึ้นมามากทีเดียวไม่โหยหา ไม่หวั่นไหวอะไร ทั้งๆที่พี่โด่งก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากมายนัก
เราเลือกเอาบาร์เบียรี่ เพราะรู้จักอยู่ที่เดียวเท่านั้นที่มีโชว์ที่เราคิดว่าแขกน่าจะชอบ โชว์เริ่มไปบ้างแล้ว สามสาวฮ่องกงแยกตัวจากกรุ๊ปมาเที่ยวกันเอง พวกหล่อนตื่นตาตื่นใจกับโชว์สบู่ โชว์เทียนลน และเด็ดสุดคือฟักโชว์ที่ใกล้กันจะจะ ถึงที่พักแขนของเราเลยทีเดียว เรากลืนน้ำลายอะไรมันจะขนาดนี้เนี่ย ครั้งแรกที่พี่ทักษ์พามาไม่ได้มาใกล้ขนาดนี้นี่ ร้อนรุ่มไปทั้งตัว เราแนะนำสามสาวว่าควรจะออฟพวกเธอก็เห็นด้วย แถมยังจะออฟให้เราอีก เรารีบปฏิเสธ ฉันไม่มีที่ลงเหมือนพวกเธอนี่ จะเอาไปห้องได้ยังไง เกิดมายังไม่เคยออฟ รู้สึกกระดาก พวกหล่อนชี้นิ้วยังกับซื้อกับข้าวในตลาด เลือกกันอยู่ได้ กว่าจะครบคนก็กินเวลานาน หนุ่มๆเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มานั่งแจม เบียดอยู่ข้างๆตัวเราด้วย ฉันจะทำยังไงดีนี่ ไม่ไหวแล้วเราเรียกให้เด็กมาเคลียร์บิลล์แล้วชวนพวกนี้กลับ พี่โด่งนั่งกินเบียร์อยู่ที่ร้านใกล้รออยูนานแล้ว พอเห็นภาระกิจเรียบร้อยก็ยิ้มออก แกคงฝันเห็นทิปก้อนงามจากบรรดานังหมวยพวกนี้ แล้วก็ได้จริงๆ หมวยทิปเรามาห้าร้อย และก็ ให้พี่โด่งแต่นังหมวยก็มือไว คว้าหมับที่เป้าพี่โด่งจนแกสะดุ้งเขินหน้าแดง พวกหล่อนก็เมาบ้างแล้ว บอกที่บอกทางให้แท็กซี่แล้วก็ขับตาม ถึงโรงแรมก็ช่วยเคลียร์เรื่องจอยเนอร์จนเรียบร้อยก็ร่ำลากัน หนุ่มเดินตามทั้งสามสาวเข้าลิฟต์ไปแล้ว แหมสวรรค์อยู่แค่เอื้อม เสียดายท่อนลำน่าจะออฟมาสักคน
“กลับกันเถอะ ดึกแล้ว” พี่โด่งยัดเงินส่วนของแกให้กับเรา “เอ้าค่าตัว ขอบใจนะที่ช่วยพี่” ก็ดีเรารับเงินมาใส่กระเป๋า ลาภลอยอยู่ๆก็ได้ตังค์ใช้เล่น
“จะกลับไหน ฝั่งธน หรือหน้าราม” พี่โด่งถาม
“หน้ารามสิ ง่วงจะแย่อยู่แล้ว” บอกได้เลยรู้สึกเฉยๆไปแล้ว
“ไม่ได้หรอก พี่ออฟเอ๋แล้วนะวันนี้” พี่โด่งเลี้ยวออกไปทางฝั่งธนอย่างที่พูดจริงๆ เราถอนหายใจพี่โด่งมัดมือชกจนได้
“ค่าตัวถูกจัง” เราแกล้งทำเป็นสนุก
“ถ้าถูกใจมีเบิ้ลน้อง” แกพูดขำๆแล้วลูบผมเราเบาๆ
“พี่ยังอยากนอนกับเอ๋อยู่เหรอ”เรามองหน้าแก
“ทำไมจะไม่อยาก ถามแปลกๆ หรือเราไม่อยากนอนกับพี่แล้ว” เราไม่ตอบหากแต่เลี่ยงไปมองข้างทางแทน อยากใจขาดเหมือนกัน แต่มันก็มีแต่ในใจจนได้ เรากำลังต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง ดีรึเปล่าเนี่ยถ้ามีอะไรขึ้นมาอีกแล้วเราแพ้ใจตัวเองจะเกิดอะไรขึ้น แต่อีกใจกลับอยากพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ได้แต่นั่งนิ่งๆ ฟังเพลงเก่าๆสไตล์พี่โด่ง
……..อย่าเห็นกันดีกว่า ถ้าเห็นแล้วเอื้อมไม่ถึงเหมือนมีใครยุดฉุดดึงตอกติดตรึงขวางคอยกางกั้น ก็คนรักใครย่อมยากจะใกล้ชิดกัน เธอกลับสลัดตัดฉันทำอย่างนั้นฉันน้อยใจ...........................รักก็รู้กันอยู่ว่ารักมันปรารถนายิ่งนักต้องมาเหมือนตัดเหมือนสุดฟากฟ้า...............จะเป็นยังไงนะเราเองก็อยากให้ถึงอพาร์ทเมนท์เร็วๆเหมือนกัน
“อ้าวทำไมรีบนอนหล่ะ เอ๋” เราอาบน้ำเสร็จก่อนพี่โด่งเอนตัวลงนอนตั้งนานแล้ว พี่โด่งเดินแก้ผ้าโทงๆเข้ามาหาแล้วปิดไฟ ก่อนจะนอนลงใกล้ๆ
“ไหนดูสิ ไม่เจอกันนาน ยังจำกันได้รึเปล่า” กลิ่นเบียร์จางๆโชยออกมาจากลมหายใจของพี่โด่ง เรานอนหงายถอดกางเกงนอนออก แล้วเอาขาพาดที่บ่าพี่โด่ง
“เอ๋พร้อมแล้วพี่”
“ยกเครื่องมาใหม่เหรอ ฟิตดีนี่” พี่โด่งดันอยู่นานกว่าจะหลุดเข้ามาได้ ของมันห่างไปนาน เมื่อได้เจออีกครั้งก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาง่ายๆเหมือนกัน
“ทำเลยสิพี่” เราตีที่แขนพี่โด่งเพราะแกค้างไว้เฉยๆ
“ยังไม่อยากเสร็จเร็ว” พี่โด่งจูบปากเราเหมือนเคย หนักแน่น “ใจดำนะ ชวนมาอยู่ด้วยก็ไม่มา”
“กลัวบานมากกว่า” เราชักจะอารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ นึกสนุกจนอยากแหย่พี่โด่งเล่นขึ้นมาจนได้
“ไม่ต้องกลัวหรอก วันนี้บานแน่” พี่โด่งทิ่มพรวด แล้วซอยแรงๆถี่ๆ เล่นเอาเราตาค้างไม่นานก็อุ่นวาบ ข้างใน
“พี่เสร็จแล้วเหรอ” พี่โด่งพยักหน้าเหมือนอาย แล้วก้มหน้า
“พี่ทนไม่ไหวเอ๋” แกชักออกแล้วนอนแผ่กลางเตียง เราจะลุกไปทำความสะอาดพี่โด่งกับเอาขาก่ายไว้
“จะไปไหน” แกกอดเราแน่น “อย่าโกรธนะ เดี๋ยวพี่ทำให้อีกที” พี่โด่งจูบที่ผมเรา แล้วเราทั้งคู่ก็นอนกอกก่ายกันอยุ่ท่านั้นจนหลับไป...............................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

86. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:45 PM (SE Asia Standard Time)
 
   86
เยื่อใยบางๆที่ผูกเราไว้กับพี่โด่งก็คือความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันเท่านั้น แม้จะต้องมีเซ็กส์กันแต่เรากลับคิดว่าเป็นนเรื่องปกติของเราทั้งคู่ไปแล้ว วันไหนที่มาแล้วไม่นอนด้วยนั่นสิแปลก เราไม่เคยปฏิเสธที่พี่โด่งจะแวะเวียนมาหา เพิ่งเข้าใจในสิ่งที่พี่โด่งเคยบอกว่า
"เป็นเรื่องของเราสองคนเท่านั้น" เวลาผ่านไปเรามองเห็นภาพของตัวเองกับพี่โด่ง ระลึกถึงสิ่งที่เคยผ่านมา เราก็สลัดความรู้สึกรักใคร่หลงไหลได้ปลื้มจนไม่ลืมหูลืมตาอย่างแต่ก่อนท้งไปได้ทุกครั้งหลังจากจบเรื่องบนเตียง อาจจะเป็นได้ว่าที่เราเริ่มมีที่หมายใหม่ เรากำลังสนุกกับการหลอกล่อหรั่งอยู่ก็เป็นได้ ทุกวันที่เจอกันก็เพียรที่จะหาหนทางพิชิตเขาให้ได้ ขอแค่ตัวเท่านั้นไม่ใช่ใจ
"ขอต้อนรับสมาชิกใหม่" พี่สุดีใจที่เราถูกจัดให้เป็นรีลีฟรอบดึกอาทิตย์ละสามวัน ดึกสามวันหยุดหนึ่งวันแล้วตอ่บ่ายสามวัน ค่อนข้างเซ็งปรับตัวลำบาก เราไม่ใช่พวกนกฮูกอย่างเขา เกินเที่ยงคืนก็สัปหงกแล้ว นั่งบวกบิลล์ช่วยออดิท ก็ไม่ลงตัว ไนท์ออดิทจะนั่งทำงานกันหลังฟร้อนท์สองคน ส่วนอีกคนเฝ้าเคาน์เตอร์ พี่ๆเห็นเราท่าทางจะไปไม่รอดเลยถูกไล่มาเฝ้าเคาน์เตอร์ ค่อยมีเพื่อนคุยหน่อย พี่สุกำลังบล็อกห้องอยู่พอดี
"เป็นไง ดึกวันแรก" แกหันมามองหน้าขำ หน้าตาเราคงเหมือนเด็กงอแงเพราะง่วง ไฟกลางล็อบบี้ปิดไปแล้ว ความสว่างมีแค่ด้านในเคาน์เตอร์เท่านั้น เมื่อไหร่มันจะเช้าซักทีวะ เรานึกในใจ ยิ่งดูนที่พี่สุทำยิ่งชวนจะหลับ นั่งอ่านใบจอง ดูประเภทห้องที่ต้องบล็อค ดูบริษัท ดูฟลอร์ ดูราคาห้อง โอ๊ยเวียนหัว เราเลยปิดลิ้นชักแล้วเดินออกไปสูดอากาศที่ลานพักพนักงานที่อยู่ด้านบนติดกับล็อคเกอร์ ลานโล่งๆบนชั้นเก้า ลมกลางคืนเย็นดีทำให้หูตาสว่างขึ้นมาก มีใครบางคนฟุบอยู่ตรงนั้น นายหรั่งนั่นเองแอบมาฟุบที่ม้าหินอ่อนที่ใช้เล่นหมากรุก มือยังกำวอพร้อมตอบกลับตลอดเวลา เขาความรู้สึกไว เราเดินผ่านมาใกล้ๆก็รู้สึกตัวทันที
"หลบมาอู้เหรอ เอ๋" ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น
"ดีกว่าแอบมาหลับ"
"ใครหลับ" หรั่งทำหันหน้าหันหลังหาคนผิด ตรงนั้นมีเราแค่สองคนที่ยืนอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะง่ายแต่กับหรั่งยัไม่ค่อยคุ้นยากเหมือนกันที่จะเริ่มต้นคุยก่อน เกือบตีสี่แล้วเราเลยเดินกลับเข้าลิฟต์เขาก็เดินตาม ลิฟท์พนักงานจอดด้านหลังฟร้อนท์ ต้องเดินผ่านออฟฟิศเช่าและห้องน้ำ แวะล้างหน้าหน่อยคงดี นายไร่งก็เดินตามเข้ามาด้วย เราส่องกระจกเอาน้ำลูบหน้าลูบตา ส่วนรูปหล่อก็ยืนฉี่อยุ่ที่โถปากก็ยังชวนคุย
"อะไร เป็นผุ้ชายทำไมไม่ยืนฉี่ที่โถ" หรั่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นเราเข้าไปฉี่ในส้วม
"ใครว่าเป็นผู้ชาย" เราเปิดประตูออกมาแล้วค้อนก่อนจะล้างมือ หรั่งแกล้งวิดน้ำใส่หน้าเราจากซิงค์ของตัวเอง
"เปียกหมดแล้ว" เสื้อเป้นรอยกระเซ็นของน้ำเป็นดวงๆ หรั่งหัวเราะแหะเหมือนสนุก เราก็เอาคืนบ้างแต่เขาหลบทัน
แล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำ
"ไปไหนกันมายะ" นังปุ๊งัวเงียขึ้นมาจากเครื่องพิมพดีดเห็นเราเดินตามนายหรั่งมาที่เคาน์เตอร์ ก็แหวใส่
"ไปห้องน้ำ" เราตอบไปตามตรง แล้วไม่สนใจเดินเข้าห้องแพนทรี้ พี่สุก็เดินตามมาด้วย
"อุ๊ย ฉันรำคาญอีปุ๊ อีหมาหวงก้าง เที่ยวตู่ไปทั่วว่าไอ้หรั่งเป็นแฟนมัน" มือที่กำลังคนกาแฟเราหยุดชะงัก เมื่อได้ยินไอเดียของพี่สุ "พี่ว่าเอ๋จัดการไอ้หรั่งสักทีเถอะ อีบ้านั่นมันจะได้สงบซักที"
"ไม่ดีมั๊งพี่ เดี๊ยวมันบ้าลุกขึ้นมาด่าเอ๋กลางฟร้อนท์ คนอื่นจะได้หัวเราะเอาสิ"
"คุยอะไรกันสาวๆ" หรั่งเดินถือวอคู่ชีพเข้ามายืนใกล้ๆ
"เอ๋ขอกาแฟกินหน่อย"
"ชงเองสิ" เราตอบเพราะกำลังห่วงคุยกับพี่สุ
"ชงให้พี่เขาหน่อยสิเอ๋ พี่สุหัวเราะแล้วทิ้งเราไว้สองคนกับหรั่ง พร้อมทั้งปิดไฟที่ประตูก่อนเดินออกไป.............

พี่สุเล่นอะไรเนี่ย เราวางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะแล้วควานมือสะเปะสะปะไปตามความมืดเพื่อหาประตู มือก็ไปถูกตัวหรั่ง ห้องมืดดูกว้างพิกลเพราะเราไม่ค่อยคุ้นกับมัน หรั่งยืนนิ่งตอนที่มือเราผ่านลำตัวเขาเรารู้สึกร้อนผ่าว อยากจะสัมผัสมากกว่านี้แต่บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยนัก แล้วประตูห้องก็เปิดออกพร้อมแสงไฟสว่างจ้าขึ้นพร้อมกัน
“ทำอะไรกัน ไม่เปิดไฟ” ผู้จัดการถามแกทำหน้าสงสัยแล้วเดินผ่านเราทั้งคู่ไปชงกาแฟ เราอายมากรีบเดินออกไปทันทีพี่สุยืนหัวเราะเมื่อเห็นเรา ชั่ววินาทีที่ผ่านมาเล่นเอาใจเราเต้นไม่เป็นส่ำ เหงื่อซึมรู้สึกเขินหรั่งที่เดินตามออกมา เราเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้า เดินสวนกับปุ๊ที่หิ้วตะกร้าชุดล้างหน้าครบครันเพิ่งเสร็จจากการประทินโฉมหล่ะสิ เตรียมรับรอบ ปุ๊ทาปากด้วยลิปส์มันที่มีสีจางๆ ดูไปก็น่ารักดี ผิดกับเราจริงๆ ดูกระโดกกระเดก ไม่นิ่มนวลอย่างปุ๊และพี่สุสักนิด
“จะไปไหนยะ” ปากมันแผล่บถามมา
“ไปห้องน้ำหน่อย ปุ๊เสร็จแล้วเหรอ” จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรหรอกนอกจากหมั่นไส้กันเล่นๆเท่านั้น
“ฮื่อ” ปุ๊เดินผลักประตูเข้าไปล็อบบี้แล้ว เรายืนมองหน้าตัวเองที่กระจกคืนแรกก็โดนแกล้งซะแล้ว พี่สุน๊า ไม่น่าเลยเล่นเอาใจระทึกไปหมด
“นึกว่าหายไปไหน” หรั่งเหน็บวอไว้ที่เอวแล้วก้มหน้าล้างหน้าที่ซิงค์ เรากำลังยืนแปรงฟันอยู่ ได้แต่มองทุกอากัปกิริยาของเขา จะจีบยังไงดีนะ หรั่งเงยหน้ามาสบสายตาเราพอดีเราก็แกล้งทำเป็นหลบแล้วรีบบ้วนยาสีฟันทิ้งล้างปากล้างหน้า หรั่งเสร็จแล้วก็ไม่ยอมไป
“รออะไรเหรอ เสร็จแล้วไม่ไปอีก” เราถามเขาที่กำลังเสยผมอยู่หน้ากระจก “หล่อแล้ว ส่องมากเดี๋ยวกระจกแตกหรอก” เราเก็บสัมภาระเตรียมจะเดินออก
“กลับบ้านกี่โมง” หรั่งถาม
“เจ็ดโมง”ตอบเสร็จก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเขิน หรั่งยังยืนผิวปากอยู่หน้ากระจกจนเราเดินออกจากห้องน้ำ
แขกเช็คเอ้าท์เยอะกว่าจะโอนรอบกันเสร็จก็เกือบแปดโมง เราทำแคชเชียร์ต้องอยู่โอนเงินฟันด์ให้รอบเช้าโรงแรมเล็กๆใช้เงินกองกลางด้วยกัน เงินหลายหมื่นกว่าจะโอนกันเสร็จ ก็เกือบแปดโมง ป่านนี้รถคงติดน่าดู เรารีบเดินขึ้นลิฟท์ไปล็อกเกอร์ เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็ว
“จะรีบไปไหน” หรั่งเดินมาหยุดที่ล็อคเกอร์ห่างไปจากเราอีกล็อคนึง เราปรายตามอง เขาถอดเสื้อ ผิวขาวตัดกับขนรักแร้ เวลาถอดเสื้อทำเอาเรากลืนน้ำลาย ขนหน้าท้องลามลงไปข้างล่างดำขลับ เขาหันหลังให้เราแล้วถอดกางเกงเรากลัวเขาจะรู้สึกตัวเลยรีบออกจากห้องทันทีที่เปลี่ยนเสร็จ ทำไมวันนี้พี่โด่งไม่โทรมานะ หิวจังเลย ...
ไม่นาเชื่อนายหรั่งอยู่ลาดพร้าว เขาวิ่งขึ้นรถคันเดียวกับเราเสื้อยืดรัดรูปตัวเล็กๆสีเขียวกางเกงยีนส์501 สีซีดเอวต่ำดูเท่จริงๆ เราแอบมองเขาหลายครั้ง หรั่งขยับมาจนยืนชิดกับเราจนได้
“เอ๋ลงที่ไหน”
“หน้าราม” เราบอกซอย หรั่งก็บอกที่อยู่ตัวเอง
“อยู่กับเมียเหรอ”
“อยู่กับพี่”
“แล้วกลางวันทำอะไร”
“นอน” เขาพูดสั้นๆ
เบาะด้านหลังว่างแล้วเราทั้งคู่นั่งด้วยกัน เรานั่งชิดใน ไม่รู้จะคุยอะไรกันนั่งไปนานๆก็ง่วงพยายามกัดฟันไม่ให้หลับแต่นายหรั่งหลับหัวเอนมาพาดไหล่เราแล้ว เหมือนคู่รักเลย เราไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัวเพราะกลัวเขาจะตื่น แค่นี้ก็ดีแล้วนะ ผู้ชายมาซบบ่าอย่างนี้นานๆจะได้เจอ
รถถึงหน้ารามเราสะกิดให้หรั่งรู้สึกตัว
“ถึงแล้ว หรั่งเราลงก่อนนะ” รถใกล้จะถึงป้ายแล้ว หรั่งบิดตัว
“อยู่กับใคร” เขาถามเราก่อนที่เราจะลุกขึ้น
“อยู่คนเดียว”
“ไปเล่นห้องเอ๋ได้มั๊ย” เราพยักหน้าแทนคำตอบ ใจหวิวขึ้นมารู้สึกได้เลยว่ามันดีใจจนออกนอกหน้าแล้วเขาอยากจะมาเล่นห้องเราทำไมนะ.....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

87. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:47 PM (SE Asia Standard Time)
 
   87.................
นั่งกินเหล้าด้วยกันจนถึงเที่ยงความง่วงก็คืบคลานเข้ามา หรั่งบอกว่าอยากหาเพื่อนกินเหล้าก็เลยชวนเรา เขาเป็นเด็กใต้เหมือนกันหน้าอ่อนกว่าอายุ ปีนี้27 เข้าไปแล้วเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆเพราะไม่เดือดร้อนอะไรและไม่ชอบงานที่ผูกมัด ตอนนี้พักที่อพาร์ตเมนท์กับพี่ชายพี่สาวที่ขายของหน้าราม คุยกันหลายเรื่องก็พอจะจับนิสัยได้ว่าเป็นคนชอบสนุกสนาน และไม่ชอบกระเทยมาวุ่นวายกับชีวิตนัก
“แล้วเราหล่ะ”
“เอ๋ไม่เหมือนไอ้ปุ๊ เห็นแล้วอยากจะแหย่เล่น ชอบดูเวลาโกรธ น่ารักดี”
“เป็นผู้ชายดูผู้ชายด้วยกันน่ารักเหรอ” เราถาม
“ก็เอ๋ไม่ใช่ผู้ชายนี่นา” เราเอนตัวลงนอนที่พื้นหลังจากเก็บกวาดเสร็จ
“หรั่งจะกลับเลยรึเปล่า ไม่ได้ไล่นะพอดีมันง่วง”
“เราก็ง่วงเหมือนกัน” เขาหยิบหมอนอีกใบมานอนข้างๆ เมาจังเลยแต่มีผู้ชายมานอนข้างๆนี่จะหลับลงเหรอ หรั่งหลับไปแล้วเสียงกรนเบาๆเหมือนหลับสนิทเราก็ค่อยๆหลับไปเช่นกัน ตื่นมาอีกทีก็ห้าโมงเย็น ลมแรงๆพัดเข้ามาเหมือนฝนจะตก ผ้าม่านปลิวตามแรงลม ฝนเริ่มลงเม็ดแล้วและหนาขึ้นเรื่อยๆ เรารีบลุกไปปิดหน้าต่าง แล้วมานอนลงข้างๆอีกทีตั้งนาฬิกาไว้สองทุ่ม แต่ใจมันไม่หลับอีกแล้ว นอนตะแคงมองหน้าหรั่ง จมูกโด่งเป็นสันเขาอายุห่างจากเราตั้งเจ็ดแปดปี ทำไมดูอ่อนเยาว์จังเลยนะ ชีวิตคงไม่มีความเครียด คิดถึงพี่โด่งขึ้นมาจนได้ ถ้านอนด้วยกันแบบนี้ยิ่งตอนฝนตกเห็ดโคนพี่โด่งจะโตตามฝนรอให้เราเก็บกินอย่างสนุกสนาน พี่โด่งไปทัวร์เมืองนอกเกือบเดือนแล้ว เหงาเหมือนกัน นกก็ติดแฟนไปหาทีไรก็ไม่อยู่แต่พออยู่ก็มักจะเจอถาอยู่แถวๆนั้นทุกที จนป่านนี้ก็ยังงี่เง่าเหมือนเดิม แล้วหรั่งหล่ะ ถ้าหากเราจะบุ่มบ่ามกับเขานี่เขาจะว่าอะไรรึเปล่า มือไม่รอคำตอบแล้วค่อยๆลูบที่หน้าท้องแบนราบของเขาอย่างเบามือ เลิกชายเสื้อขึ้นมาลูบเบาที่ขนหน้าท้อง เซ็กส์ซี่จังเลย ท้องของหรั่งกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ หรั่งนอนกางขามือวางที่หน้าอก เรารู้สึกอึดอัดกับกางเกงยีนส์แทนเขาจัง ลองวางมือที่ขอบกางเกงยีนส์ ลูบไล้ช้าๆแล้วสอดมือเข้าไปทีละนิด ทีละนิด สอดไปตามขอบกางเกงใน ขนสากๆเต็มมือถึงโคนแล้ว เราขยับมือเข้าไปจนสุดฝ่ามือแล้ววางไว้ตามลำยาว จนสุดฝ่ามือก็ยังไม่ถึงปลาย หรั่งขยับตัวนิดนึงเรารีบดึงมือออก เขายังหลับอยู่ เราค่อยๆแกะกระดุมทีละเม็ดของกางเกงยีนส์อย่างยากเย็น เจ็บนิ้วน่าดู ฝนสาดที่ระเบียงหลังแล้วแต่เราไม่ใส่ใจ กางเกงในสีขาวโผล่ออกมาให้เราเห็นแล้วเรารั้งขอบกางเกงในลง แล้วลุกขึ้นดูใกล้ๆ เคยาวสวยนอนสงบนิ่งอยู่ ขนาดยังไม่ลุกยังน่ากินขนาดนี้รูดมันขึ้นลงด้วยใจที่สั่นระรัว ทั้งกลัวทั้งอยาก เรากำลังจะลักหลับอย่างเต็มรูปแบบแล้วนะ เราบอกตัวเองอย่างนั้น มันค่อยๆพองตัวอย่างช้าๆ จนผงาดเต็มที่ อยากจะดูดจังเลย ค่อยๆก้มหน้าลงใช้ปลายลิ้นแตะเบาๆ กลิ่นสาบรัญจวนใจมาก ลิ้นสัมผัสที่คอหยักเบาๆ แล้วลองดูดดูตาก็มองที่หน้าหรั่งเกรงว่าจะตื่น แต่ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นง่ายๆ เพราะฤทธิ์เหล้า ต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด แล้วก็ได้ยินเสียงครางของหรั่ง เราชะงัก หรั่งไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยกเอวขึ้นให้เราถอดกางเกงออก หรั่งนอนกางขาให้เราดูดพร้อมมือคอยกดหัวเราเป็น ปากก็คราง
“เสร็จแล้ว” หรั่งพยายามจะดันหน้าเราออกตอนเขาพุ่ง แต่เรายังสนุกไม่ทันแล้วน้ำพุ่งเต็มปากเลย อมไว้แป็บเดียวก็รีบเข้าห้องน้ำไปคายทิ้ง หรั่งใส่กางเกงในเดินมาฉี่ เราลอบมองอีกครั้ง ยังไม่อิ่มเลยอยากจะขออีกทีก็เกรงใจ
เราเลยเดินออกจากห้องน้ำไปนอนต่อที่เตียง หรั่งกลับมานอนทับที่ตัว
“เอ๋ มีถุงยางมั๊ย” เราพยักหน้าแล้วมองหน้าอย่างไม่แน่ใจนัก “ขอเอาข้างหลังซักทีเถอะ”
“จะดีเหรอ”
“เร็วๆสิ”หรั่งรูดกางเกงในลงมือบีบเคตัวเองเป็นระยะตั้งแต่เมื่อกี๊ตอนฉี่มันยังไม่สงบลงเลย เราใส่ถุงยางลงไปช้าๆ มันเกินมาตรฐานชานไทยรึเปล่านะใส่ยากจังเลย หรั่งก็ได้แต่เสียวแล้วเร่ง
“อย่าเล่นเอ๋ เดี๋ยวแตกก่อน”
“ไม่ได้เล่นซักหน่อย ถุงยางใส่ยาก”
“ใส่ไม่เป็นหละสิ มาเราใส่เอง” หรั่งลุกขึ้นนั่ง ฉีกถุงยางอีกซอง แล้วบีบที่จุกไว้ก่อนจะครอบมันลงที่หัวมือค่อยๆไล่ไปตามลำยาว “ใส่ยากจริงๆแฮะ คราวหลังหาขนาดที่ใหญ่กว่านี้หน่อย”
“ถุงยางมีขนาดด้วยเหรอ แล้วบอกเขายังไง” เราโง่เพราะรู้แต่ว่าใส่ถุงๆแต่ไม่มีความรู้อะไรซักนิด แล้วซื้อที่ไหน”
หรั่งมองแล้วส่ายหน้า
“ก็ถือถุงนี่ไปแล้วบอกว่าเอาใหญ่กว่านี้ ตามร้านขายยาก็มี” หรั่งนอนลงตั้งเคพร้อมรบเรารีบทาหล่อลื่นในช่องก่อนจะก้าวข้ามตัวหรั่งแล้วนั่งลงเบาๆ ใหญ่เอาการกว่าจะเข้าได้ “ช้าจริงๆ” หรั่งเห็นไม่ได้ที “ลงไปที่พื้นสิ อย่าเพิ่งลุกนะเดี๋ยวหลุด” ค่อยๆเกาะเอวกันทั้งๆที่คาอยู่อย่างนั้น เราเอาขาเกี่ยวเอวหรั่งไว้ หรั่งลุกขึ้นแล้ววางตัวเราลงที่พื้น พร้อมเอาขาเราพาดที่บ่าเขา จากนั้นความบันเทิงก็เกิดขึ้น คนละแนวกับพี่โด่งเลยเขาชอบซอยถี่ๆแล้วหยุด และก็ดันให้สุดเวลาเราครางยิ่งเราเสียวเท่าไหร่จะแกล้งหยุด พอเรานิ่งก็จะซอยถี่ๆอีกครั้ง นานร่วมครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ยอมเสร็จ จนเราต้องตีแขน
“หรั่งเดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะ” เราเสียวจนซ฿มที่ปลายแล้วหรั่งก็เร่งเคร่องอีกพักแล้วดึงเคออกเอาถุงยังออกแต่ไม่ทันมันยืดแล้วน้ำของเขหยดตามตัวเราก่อนจะถึงปาก
“ดูดอีกทีเร็ว” เขาอัดหนอกเต็มคนปากเราแล้วแช่ไว้อยู่นาน ก่อนจะลากเราไปห้องน้ำ “ล้างให้ด้วย” เราอาบน้ำด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่ได้จูบกันอย่างนิ่มนวล
โบกแท็กซี่หน้าหอต่างคนต่างไม่พูดอะไร เลือกลงก่อนที่จะถึงโรงแรมเล็กน้อยแล้วเดินมาเหมือนเพิ่งมาเจอกันที่ถนนจนเข้าลิฟต์
“เป็นไง” หรั่งอมยิ้มกวนๆ
“เสียวดี แล้วหรั่งจะไปเล่นที่ห้องเราอีกมั๊ย”
“หยุดวันไหนหล่ะ”
“มะรืนนี้ หรั่งหล่ะ”
“วันเดียวกันแหละ”
“แล้วไงหล่ะ”
“ก็ไม่แน่ ติดใจแล้วหล่ะสิท่า” เราลูบที่เป้าเขาอีกครั้ง
“เดี๋ยวใครเข้าลิฟต์มาเห้น” เสียงลิฟต์เปิด นังปุ๊ยืนรอลิฟต์ลงอยู่ตรงหน้าทำหน้างงงง
“ทำไมมาพร้อมกัน” เราไม่ตอบอะไร เพราะหรั่งตอบไปแทนแล้ว
“อยู่บ้านเดียวกัน ก็มาพร้อมกันสิ จริงมั๊ยเอ๋” หรั่งกวนปุ๊ แล้วทำเป็นดอบคอเราเดินออกจากลิฟต์ รู้ได้แค่ว่าปุ๊โกรธ เราไม่ได้ตั้งใจนะเนี่ย แต่ก็สนุกดีทำทีเป็นเออออกับหรั่ง
“นังแมวขโมย” ปุ๊เดินเข้าลิฟต์แล้วว่าเราก่อนที่ลิฟต์จะเคลื่อนลงข้างล่าง
“มันว่าใครแมวขโมย” เราถามหรั่ง “นายมีอะไรกับปุ๊แล้วเหรอ”
“ไม่มี ..เอ๋หึงเหรอ”
“เปล่า ถ้าหรั่งไม่มีอะไรกับปุ๊จริงๆ เราก็ไม่ใช่แมวขโมย จริงมั๊ย”
“แต่เอ๋ก็ขโมยดูดเราแล้วนี่”
“ก็อยากนอนให้ท่าทำไมหล่ะ” เราเดินไปตอกบัตรเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนหรั่งก็ไปเฮฮากับพวกผู้ชายที่กำลังจะเลิกงานโดยไม่สนใจเราอีก....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

88. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:48 PM (SE Asia Standard Time)
 
   88…
เช้าวันหยุดก่อนกลับบ้านเราแวะกินข้าวเช้าที่canteen กับพี่สุนั่งกินกันเงียบคุยเรื่องสัพเพเหระแล้วความสงบก็หมดไปเพราะราชินีล่าผู้ชายเดินเข้ามาพร้อมส่งเสียงดัง ปุ๊เดินแกมลากหรั่งมาร่วมโต๊ะเรา แล้วเดินไปตักข้าวต้มให้ผู้ชาย
“ทานเยอะๆนะหรั่ง” ปุ๊วางถ้วยข้างๆเราแล้วก็นั่งติดกับเรา
“วันนี้ไปไหนกันดีหล่ะ คืนนี้เราหยุด” ปุ๊เจื้อยแจ้ว
“อีบ้า แกหยุดที่ไหน อย่ามางี่เง่านะ แขกตั้งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์” พี่สุเอ็ดเอาจนได้
“ชั้นเขียนใบลาแล้ว ขอหัวหน้าแล้วด้วย วันนี้พี่สุก็นั่งเฝ้าแท่น กับพี่โจแล้วกัน” พี่โจเป็นหัวหน้ารอบดึก
“พอผู้ชายหยุดก็คันขึ้นมาเลยนะ หรั่งขอเปลี่ยนวันหยุดเลย อย่าไปกับมัน” พี่สุยุ
“อย่ามายุ่งนะ แฟนเขาจะไปเที่ยวกัน อ้าวนังเอ๋ นั่งเงียบอยู่ได้ วันนี้หล่อนก็หยุดนี่ ไม่ไปเที่ยวด้วยกันเหรอ” ปุ๊ปากร้ายแต่ก็ยังชวนไปด้วย
“วันนี้ไม่ว่าง แฟนจะไปหา” เรามองตาหรั่งเขาหลบสายตา แต่พี่สุก็มองออก
“อุ๊ย ไม่สวยอย่างหล่อนนะ มีแฟนกับเขาด้วยเหรอ” ปุ๊หันมาชี้หน้า
“ไม่สวยแต่ก็ไม่ว่างคะ”
“หล่อนนะสวยคนเดียวในโลกเลยหล่ะนังปุ๊” พี่สุกัดจนได้ ปุ๊จะเนียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมจะตั้งกระบังตลอด หน้าก็ไม่เคยห่างแป้ง
“นะหรั่ง เพื่อนเราก็ไปหลายคน เขาอยากเจอหรั่งกันอีก”ปุ๊ยังไม่หมดความพยายาม
“ไม่ไหว ก็เสียตูด” หรั่งตอบกวนๆ
“แต่ชอบเอาตูดละสิ” พี่สุก็เหน็บอีกคน “ตูดขาวๆอย่างน้องเอ๋ ลองดูมั๊ย” หรั่งมองหน้าเราแล้วหัวเราะแหะ
“อยากลองตูดเหี่ยวๆของพี่มากกว่า” เขาสวนตอบ
“นี่พี่สุอย่าเทสิ” ปุ๊รีบออกตัว
เรากินเสร็จพอดีนึกรำคาญ เลยลุกเอาถาดไปเก็บ พี่สุก็เดินตามออกมาด้วยทิ้งให้สองคนนั้นนั่งนัดหมายกันต่อ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินทอดน่องกันไปรอรถเมล์ เช้าวันอาทิตย์ถนนโล่งรถก็น้อยเหมือนกัน
“ฉันละเบื่อนังปุ๊ เสียงดังแสบแก้วหูทุกวัน ทำตัวเอิกเกริกอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้ ผู้ชายกลัวหนีหมด”
“พี่สุก็สอนเขาสิ ว่าเงียบอย่างพี่ กินผู้จัดการได้ยังไง”
“อย่ามาแซวพี่นะ แหมพี่เขาเอ็นดู นะสงสารเห็นว่าแก่แล้ว”
“แล้วพี่ไปกินกันที่ไหนเหรอ” เราชักอยากรู้ขึ้นมาตะหงิดๆ
“ตอนไปเช็คห้องรอบกลางคืนไง ไปกันสองคน พี่เขาก็เคยอยู่กับกระเทยมาก่อนก็เลยง่าย”
“เอ๋ ก็ว่างั้นแหละ ผู้ชายที่เคยมีประสบการณ์แล้วดูแป็บเดียวก็รู้แล้วว่าจะได้หรือไม่ได้”
“แล้วเอ๋ดูไอ้หรั่งออกรึเปล่า” พี่สุบุ้ยใบ้ หรั่งเพิ่งเดินออกมารอรถเหมือนกัน เขายิ้มให้แล้วมายืนข้างๆเรา
“ไม่ไปกับปุ๊หล่ะ” พี่สุแซว
“อายคนตาย ไปกับพี่สุดีกว่า” เขาทำทีโอบเอวพี่สุ “เมื่อไหร่จะชวนผมไปเที่ยวบ้านเหมือนผู้จัดการซักที” ขนาดว่ากินกันเงียบๆนะทำไมคนถึงรู้ไปทั่วอย่างนี้ พี่สุยิ้มเขิน
“พี่แก่แล้ว ขออยู่ส่วนแกเถอะ เอ๋ไง ยังเด็กอยู่ หรั่งไม่ชอบเหรอ” เราชายตามองเขา
“เด็กๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก สู้คนประสบการณ์สูงไม่ได้” หรั่งยังยืนจีบพี่สุอย่างสนุกสนาน รถเรามาแล้ว เราเดินขึ้นโดยไม่ชวนหรั่งโบกมือให้พี่สุ หรั่งรีบกระโดดตาม เรานั่งกันที่เบาะหลังเหมือนเดิม
“นัดกับปุ๊กี่โมง”
“ใครจะไป เอ๋ไปด้วยกันสิ” หรั่งชวน
“ไม่ไปหรอกจะอ่านหนังสือเตรียมสอบ”
“งั้นก็ไปเล่นด้วยไม่ได้สิ” หรั่งพูดทีเล่นทีจริง
“จะไปจริงรึเปล่าหล่ะ ใกล้ถึงแล้วนะ” รถวิ่งเร็วมาก
“ไม่บอก” หรั่งยิ้มยียวนแล้วก็เดินตามเราลงรถจนได้ พอเข้าห้องได้ก็นอนเอกเขนกบนเตียง
“แค่มานอนเหรอ”เรายืนคร่อมอยู่ที่หัวเตียงเมื่อเห็นหรั่งนอนหลับตาอยู่ “สงสัยเก็บแรงไว้ไปเที่ยวกับน้องปุ๊”
“ใครจะไปด้วย เดี๋ยวก็หาว่าเป็นเกย์พอดี เพื่อนไอ้ปุ๊แต่ละคน อย่าให้พูดเลย”
“แสดงว่าเคยไปมาแล้ว”
“ของฟรีใครจะไม่ไป ร้านเลิกก็กลับ”
“เห็นแก่ตัว เขาอุตส่าห์เลี้ยง ยังไม่ไปกับเขาอีก”
“ใครจะเอาหน้ายังกะมด” มดหน้าตาเป็นยังไงวะเรานึกในใจ “เอ๋ไม่เห็นเลี้ยงเรา เรายังมาเลย ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ” หรั่งทำหน้ากวนๆตอนตอบ
“ก็ไม่บอกเขาไปเลยหล่ะ หลอกล่ออยู่ได้ บาปนะ”
“ใครหลอก ปุ๊มันคิดไปเองนี่หว่า พูดถึงคนอื่นอย่างนี้คงจะหึงเราละสิ”
“บ้า” เราหน้าชาเล็กน้อย “ใครหึงไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย ” แอบงอนเล็กๆแล้วเดินไปเปิดทีวีดู หรั่งลงจากเตียงมานอนใกล้ๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรเล๊ย แค่เสียบไปทีเดียว” หรั่งตอบเสียงสูง เราหันไปมองหน้าเขาอีกที
“งั้นเสียบให้อีกทีสิ” เราขยำที่เป้าเขา หรั่งกางขาออกแล้วแขม่วท้องให้เราสอดมือเข้าไป
“ดูดให้หน่อย” หรั่งถอดกางเกงออกนอนเคลุก กางขากว้างให้เราซุกไซ้กับซอกไข่ของเขา ดูดขึ้นดูดลงไม่นานก็เสร็จจนได้ หรั่งนอนหายใจแผ่วๆมือยังกดหัวเราไว้แน่น เรารีบลุกไปบ้วนทิ้งเกือบกลืนลงไปกลิ่นคาวจัดของมันทำให้ผะอืดผะอม
“ทำไมเสร็จเร็วจัง ยังไม่ได้ทำให้เราเลย” เราเขย่าตัว “ทำให้หน่อย”
“จะรีบไปไหนเอ๋ วันนี้ก็จะอยู่ด้วยทั้งวันเลย ขี้เกียจกลับ นอนก่อนเถอะ”
ตื่นขึ้นตอนเย็นออกไปเดินเล่นหน้ารามหรั่งเผลอโอบไหล่เราหลายครั้งจนเราแปลกใจพอหันไปดูหน้าเขา ก็มีแต่รอยยิ้มหากแต่ไม่ได้หันมาสบสายตา จะดีมั๊ยนะถ้าเราจะตัดใจจากพี่โด่งแล้วมาทุ่มหัวใจกับ หรั่ง แต่มันจะเป็นไปได้แค่ไหนกันเชียว กลัวมันจะเหมือนเพลงคริสติน่าที่กำลังโปรโมทอยู่มากกว่า
….พลิกล็อกกันน่าดู ถล่มทลาย พลิกล็อกกันมากมายเกือบเทกระเป๋า.........ได้แต่บอกให้ตัวเองใจเย็นค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวคงดีเอง
ถุงยางไซส์ที่หรั่งกำลังต้องการถูกใช้งาน หรั่งรุนแรงกับเรามากแต่ไม่ถึงซาดิสม์แบบพี่โด่ง แต่แทบจะเอาให้ตายกันข้างนึงเลยทีเดียว เราเสียวจนตัวงอ นั่งคร่อมให้เขาแทงเข้ามาในตัว โอบรอบคอเขาแล้วครางหงิง
“เสียวมั๊ย” ยังมีกะใจถามอีก
“เสียว อู๊ย” เรากัดฟันแน่นขาโอบแน่นกว่าเดิมหรั่งผลักตัวเราลงนอนเอนไปกับพื้น “ไม่ไหวแล้วเอ๋ โอย” หรั่งดันเข้ามาจนสุดแล้วดึงออกอย่างเร็วเอามาออกใส่ปากเราอีก น้ำเขาไหลลงคอจนหมด เราและเล็มกับลำอย่างอดอยากก่อนจะไปทำความสะอาดกัน นอนกอดหรั่งทั้งคืน
“เอ๋อย่าพูดให้ใครฟังนะ”
“ทำไมเหรอ”
“เดี๋ยวคนล้อกัน อยู่ที่ทำงานก็ทำตัวอย่างนี้แหล่ะดีแล้ว” หรั่งหันหน้ามาบอก
“แต่ความลับไม่มีในโลกนะ”
“รู้กันสองคนแค่นี้ เอ๋ไม่พูด เราไม่พูด ก็สนุกกันได้อีกนาน”
“หรั่งมีแฟนรึยัง”
“มีแล้ว มีลูกติดด้วยสอง”
“ทะลึ่ง ไหนพาลูกมาด้วยรึเปล่า” เราควานมือไปคลึงลูกติดพ่อเบาๆ
“ลูกน่ารักมั๊ยเอ๋”
“ฮื่อ” เราเอียงหน้าไปเลียที่หูเขาเบาๆก่อนจะบอกว่า “อย่าไปไหนกับปุ๊นะ เราไม่ชอบ”
“บอกแล้ว เชื่อกันหน่อยสิ” หรั่งจูบตอบ วันนี้มีความสุขจริงๆ ชอบหรั่งดีกว่า...............................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

89. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:50 PM (SE Asia Standard Time)
 
   89........
งานเลี้ยงปีใหม่พนักงานมาถึงแล้ว บริษัทมีกิจการหลายอย่างเป็นครั้งแรกที่จัดที่โรงแรมลานโล่งชั้นสิบ ถูกจัดวางโต๊ะจีนจนแน่น เราโชคไม่ดี ถูกผู้จัดการแผนกบังคับให้เดินแฟชั่นซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้เลยจริงๆ น่าอายมากกว่า ถ้าเดินให้พวกที่ทำงานโรงแรมด้วยกันดูยังพอทนได้ แต่นี่บริษัทในเครือมากันครบและทุกที่ต้องส่งตัวแทนมาเดินด้วย แถมยังมีประกวดกันอีก สิ่งที่เราได้เรามอบหมายให้ทำคือเดินแฟชั่นชุดนอน พี่ตู่ก็สนุกกับเขาด้วยให้ยืมชุดนอนบางๆสีชมพูมาใส่ พี่สุเอาวิกผมมาให้แล้วช่วยแต่งหน้าให้ด้วยเราเขินมากเป็นครั้งแรกที่แต่งหญิง แถมยังเป็นแบบตลกอีกต่างหาก พวกที่ถูกจับมาแต่งก็ผู้ชายล้วน พี่สุให้ใส่กางเกงในตัวเล็กๆและใส่กางเกงขาสั้นทับอีกทีเป้าจะได้ไม่โผล่ แกยังเมคชัวร์ด้วยการให้ใส่ถุงน่องอีกหลายๆชั้น โอ๊ยอึดอัดจะแย่ โชว์ของพนักงานเริ่มไปเรื่อยๆมีทั้งเล่นเกมส์ ชิงรางวัล พี่สุโชคดีได้หม้อหุงข้าว เรานั่งรอหลังเวทีด้วยใจระทึกอยากให้มันจบลงเร็วๆ อายสายตาผู้ชายที่ถูกจับแต่งด้วยกัน บางคนมาจากแผนกช่าง พี่ตู่มาให้กำลังใจหลังเวที
“สวยจังเลยเอ๋ เซ็กส์ซี่มาก”
“พี่ตู่ เอ๋อาย”
“อย่ายอมแพ้ สิ ผู้ชายเขายังไม่อายเลย ดูพวกนั้นสิตลกจะตาย ขนขาเพียบ สุนี่เก่งจริงๆเลย พี่จำเอ๋แทบไม่ได้ ตัวก็ขาวเหมือนผู้หญิงเลย” ปุ๊เดินมาดูใกล้ๆ ยื่นเหล้าให้เรา ถึงเวลาสู้แล้วทุกคนก็มีแต่ความเป็นมิตร “เอ๋ย้อมใจหน่อย จะได้ไม่อาย” เหล้าเพียวๆไหลลงท้องที่ยังว่างอยู่เล่นเอาร้อนวูบ “อย่ายอมแพ้นะ พอเดินออกไปวาดลวดลายเลย”
“จะให้วาดยังไงหล่ะ เราไม่เคยแต่งหญิงเลยนะ”
“ไม่ต้องกลัว เดินส่ายๆไปมุมโน้น มุมนี้ ถลกชายชุดนอนขึ้นสูงๆ เหมือนดาวยั่วเขาทำไง”
“อย่างอื่น มีประกวดตั้งเยอะทำไมมาประกวดแฟชั่นชุดนอนนะนี่”
“เอ๋ พี่ไปรอที่หน้าเวทีนะ จะไปรอให้ดอกไม้” พี่ตู่ท่าจะบ้า เป็นเอามาก เตี่ยกับแม่รู้เข้าคงด่าตายถึงจะเคยเต้นงานโรงเรียนบ่อยๆก็เต้นเป็นผู้ชาย
“พี่ว่าเอ๋ลองถอดกางเกงขาสั้นออกดีกว่านะ มันดูตลก แล้วถุงน่องใส่กี่คู่หล่ะ”
“สี่คู่” เราถอดกางเกงขาสั้นออก พร้อมถลกให้พี่สุดู “มันเนียนดีแล้วนะไม่ปูดออกมาแล้ว “รี่พี่ไปขอตังค์หัวหน้าแล้ววิ่งไปซื้อไอ้นี่มาให้เราใส่แทนกางเกงขาสั้น” โอ้ จอช กางเกงในปาทังก้าสีแดงข้างหน้านิดเดียว ข้างหลังเป็นจีสติง ชุดนอนสีชมพูบางแจ๋ว พี่สุใส่เสื้อในชุดเตียวกันแบบผูกหลังให้ แกดูความเรียบร้อยของขอบถุงน่องกักางเกงใน ให้อยู่ระดับเดียวกันกับสายกางเกงในปาทังก้า
“เหมือนกระหรี่เลย” ปุ๊ชมหรือด่านี่ “เอ้าเอ๋ อีกสักกรึ๊บดับอาย”
“อีนี่เดี๋ยวมันก็เมาเดินตกเวทีหรอก” พวกเราสามคนมะรุมมะตุ้มกันอยู่มุมห้องพี่สุเอาเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมให้ เงามึนจนยืนไม่อยู่ มองพี่สุกำลังใส่รองเท้าส้นสูงปลายแหลมมีเข็มขัด ตายแล้วฉันจะล้มมั๊ยนี่ ขนาดลองเอาไปหัดเดินแล้วยังไม่มั่นใจเลย การแต่งตัวครั้งนี้ดูพี่สุกับปุ๊จะสนุกมากกว่าตัวเราอีก
“ปุ๊ทำไมไม่แต่งเอง”
“ก็เธอเด็กสุดนี่ แล้วอีกอย่างฉันกับพี่สุดูแล้ว เธอลูกบ้ามันเยอะ แถมยังแต่งขึ้นด้วย เห็นมั๊ยดูสิ ขาวไปทั้งตัวอย่างนี้ได้ที่หนึ่งแน่ๆ”
“ปุ๊เหลือเวลาอีกนานมั๊ย” พี่สุถามเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้โชว์”ชั้นว่ามันไม่เนียนถุงน่องหนาไป รอแป็บ เดี๋ยวมา” พี่สุเหมือนนึกอะไรออกแล้วรีบวิ่งไป
“เอ๋ ฉันแอบจิกพิธีกรแล้วให้หล่อนเดินเป็นคนสุดท้าย อย่าให้เสียชื่อโรงแรมนะ”
“โรงแรมจะเสียชื่อเพราะฉันนะสิ” ปุ๊กรอกเหล้าเราไปเรื่อยๆ เริ่มชาและตึงแล้วก็เลิกอายเป็นไงเป็นกันวะวันนี้ พี่สุกลับมาพร้อมเทปสีเทาๆและมีดโกน
“เอ๋ไปห้องน้ำกัน” เราเดินตามอย่างว่าง่าย “พี่จะทำอะไร” แกยื่นมีดโกนให้ “ไปเชฟก่อนเดี๋ยวเจ็บ”
“เชฟ หมายถึงโกนนะเหรอพี่ ขนขาไม่มีนี่”
“ฉันหมายถึง ขนมอยของหล่อนนะ”
“จะดีเหรอ”
“เอาเถอะน่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว” พี่สุรุนหลังให้เราเดินเข้าห้องน้ำ ขนถูกโกนออกจนเกลี้ยงเหมือนเด็กเลย พี่สุตามเข้ามาดึงเทปเทาแล้วให้ถือปลายอีกข้างแกจัดที่จัดทางจนเรียบร้อยแล้วแปะเทปเทาลงบนตัวเรา เจ้าตัวดีหายวับไปกับตา พี่สุพาออกมาที่หน้ากระจกสำรวจด้านหลังว่าไม่มีอะไรโผล่แล้วให้เรานั่งบนซิงค์ช่วยใส่ถุงน่องแค่ชั้นเดียวก่อนจะใส่กางเกงในปาทังก้าตัวเก่งของแกทับอีกครั้ง เรารู้สึกเหมือนยืนแก้ผ้าเลย ทิชชู่ถูกยัดเข้าไปในเต้านมอีกครั้ง ก่อนจะสวมชุดนอนทับแล้วคลุมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วแกก็จูงแกมลากเรากลับหลังเวที
“เร็วขึ้นไปสองคนแล้ว มีทั้งหมดสิบคนรวมหล่อน นี่ดูพวกผู้ชายสิใครแต่งหน้าให้วะยังกะลิงใส่วิกเลย โอ๊ยเป้าโด่งกันทั้งนั้น พวกมันก็บ้ากันจริงๆ มีแต่พวกเราที่สวย” พี่สุจุดธูปแล้วยื่นให้เรา
“ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ต้องไหว้ครูแล้วอธิษฐานให้เราประสบความสำเร็จนะเอ๋” เราตั้งใจอธิษฐานอยู่นานที่หลังเวทีก่อนจะค่อยๆก้าวขึ้นไปอย่างระมัดระวัง ด้านนอกคนเต็มไปหมดพร้อมเสียงเชียร์ผิวปากให้เพื่อนตัวเองดังลั่นแต่ละคนโพสท์ท่าทะลึ่งๆอยู่นานกว่าจะเรียกคนต่อไปให้ออกมา พี่สุกับปุ๊ออกไปรอที่หน้าเวทีแล้ว ตอนนี้ข้างหลังเหลือเราคนเดียว
“ต่อไปเป็นตัวแทนของบริษัทน้องใหม่ครับ ตัวแทนของโรงแรมที่เป็นเจ้าภาพวันนี้นะครับ เธอชื่อน้องเอ๋ มาดูกันครับว่าน้องเอ๋จะสวยสู้น้องๆทั้งเก้าคนรึเปล่า” เพลงเชอร์รี่พิงค์ ดังขึ้นอีกครั้งเราเดินจากด้านหลังด้วยขาที่ยังสั่นออกมาพร้อมเสื้อคลุมยืนนิ่งอยู่ครู่นึงเห็นหน้าพี่สุมาเชียร์หน้าเวทีทุกคนกรูกันมาให้กำลังใจเพลงดังขึ้นกว่าเดิม เราเดินทั้งอย่างนั้นไปมาหนึ่งรอบ แล้ววิญญาณนางโชว์ก็เข้าสิง เราเดินเสยผมแล้วไปหยุดที่กลางเวที ค่อยๆปลดเสื้อคลุมลงช้าๆกองลงที่พื้น เหลือแต่ชุดนอนสีชมพูสั้นแค่ต้นขา ชุดชั้นในสีแดงมันเด่นชัด เราโยกตัวยั่วยวนตามจังหวะเพลง มือค่อยเลิกชายชุดนอนพองาม เสียงกองเชียร์ผู้ชายที่กำลังเมา ตะโกนให้ถอดออก ได้เลยคะเดี๋ยวจัดให้ ชุดนอนแบบผูกค่อยๆแกะพร้อมทิ้งสายตาพลางเดินรอบเวทีอีกรอบ ชุดนอนค่อยๆไหลลงจากตัวผ่านเสื้อในจนถึงขอบกางเกงใน เราจับค้างไว้อย่างนั้นแล้วทำทีเป็นอายก่อนจะปล่อยให้มันลงไปกองที่พื้นกับเสื้อคลุม ร่างเรายืนโดดเด่นในชุดเร้าใจเสือป่าพร้อมกับโยกตัวเหมือนสาวอะโกโก้ที่เคยแอบเห็นที่สีลมพองามผู้ชายหลายคนยื่นดอกกุหลาบที่โต๊ะมาให้ พี่ตู่ถ่ายรูปซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกสะอารมณ์มาก เราทำทีเป็นเหมือนจะปลดสายกางเกงในแต่แล้วก็หยุด เปลี่ยนเป็นก้มหยิบเสื้อคลุมมาสวมแทนแล้วเดินไปรวมกับเก้าคนก่อนหน้าจนเพลงจบ เรายืนเฉิดฉายอยู่อย่างนั้นจนประกาศรางวัล เป็นไปตามที่คาดรางวัลพันนึงแลกกับความหน้าด้านมันดูน้อย แต่ที่มากไปกว่านั้นสิ่งที่ได้รับก็คือความสนุกข้างล่างเวทีมากกว่า เราหลบทุกคนเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ค่อนข้างจะเสี่ยงเหมือนกันผู้ชายเมาลวนลามแทะโลมเรา เราผลักออกทีละคนแล้วหลบเข้าส้วมรอจนเสียงเงียบค่อยๆเปิดออกมา ช่างคุมห้องคอนโทรลรูปหล่อ พี่บอยที่เรากับพี่สุคอยแซวเวลาเขามาทำงานกำลังยืนฉี่ ถ้าจะเมาเหมือนกัน เราชะโงกดูเคแกที่โถ พี่บอยมองหน้าเราแล้วลากเราเข้าห้องส้วมอีกครั้ง ความเมาทำให้ผู้ชายหื่นเราโผกอดเขาแล้วดูดปากกันอย่างแรงพี่บอยลูบไปตามกางเกงในของเราเหมือนหาอะไรที่ชอบอยู่นั้นเราปัดป้องดึงมือแกออกแล้วมองหน้าแกอย่างเชิญชวน พี่บอยกดหัวเราลงที่เป้ากางเกงแล้วงัดเคออกมาจ่อปากเรา เราเองก็เมาไม่พูดพร่ำทำเพลงดูดเคพี่บอยอย่างเอาเป็นเอาตายในห้องส้วม จนน้ำแตกคาปากเราบ้วนทิ้งที่ชักโครก พี่บอยพอเสร็จก็รีบออกไปทันที ห้องน้ำไม่มีคนอยู่แล้วเรายืนมองตัวเองที่หน้ากระจก ปากที่พี่สุบรรจงแต่งแต้มให้ตอนนี้มันเลอะจนไม่เป็นรูป วิกผมก็ดูไม่เป็นทรงเพราะมือของพี่บอย ดูสารรูปของตัวเองแล้วก็หัวเราะคนเคียว ยับเยินไม่มีชิ้นดี พี่สุตามเข้ามาในห้องน้ำ
“พี่นึกว่าหายไปไหน เห็นบอยเพิ่งเดินออกไป เป็นยังไงหล่ะ ปากเลอะเชียวนะ” เราสองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข
“ขอบคุณนะพี่สุ ที่ช่วยแต่งตัว”
“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้ ขอบคุณเอ๋เหมือนกันที่พี่ไม่เสียความตั้งใจ อย่างนี้สิน้องรัก” พี่สุช่วยเราเช็ดเครื่องสำอางค์จนหมด กลับมาเป็นเอ๋คนเดิมแล้ว แต่เอ๋คนนี้น้ำตาแทบร่วงหลังความสุขเมื่อพี่สุช่วยกระชากเทปเทาออกจากตัวแบบเจ็บครั้งเดียว
“โอ๊ย” เราร้องเสียงหลง มันทั้งเย็นทั้งแสบ “เข็ดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว” ได้แต่กระโดดไปมาทั้งจุกทั้งเจ็บกว่าจะใส่กางเกงได้ จุกจริงๆ เรากลับมานั่งที่โต๊ะหน้าซีด พี่ตู่ยิ้มให้
“เก่งมากเอ๋ สวยมากๆเลยเหมือนมืออาชีพเลย” เรานั่งกินข้าวที่โต๊ะจากนั้นก็รอผลจับสลากรางวัลใหญ่ ดนตรีเล่นเพลงให้คนออกไปเต้น จนเวลาล่วงเลยถึงงานเลิกเกือบเที่ยงคืนหัวหน้าใจดีให้หยุดทั้งวัน เราเดินจุกไปรอขึ้นแท็กซี่ที่ปากซอย พี่สุกับปุ๊แยกตัวไปทำงาน ส่วนพี่ตู่และพี่คนอื่นๆกลับกันหมดแล้ว
“เอ๋” หรั่งตะโกนเรียกแล้ววิ่งมาโอบคอ
“กลับรึยัง” หรั่งถามปากจ่อใกล้ๆหู
“วันนี้ไม่ทำงานเหรอ”เรามองเขาที่ยังอยู่ในชุดใส่เล่น
“เมาจนหัวหน้าไล่กลับ”
“ไม่เห็นหรั่งเอาดอกไม้มาให้เลย”
“มีแต่อย่างอื่นจะให้ เอามั๊ย” หรั่งหอมแก้มเรา “ไปกันเถอะ” แท็กซี่มาจอดข้างหน้า เราเอนตัวเอาหัวซบที่ไหล่เขาไปตลอดทาง...........................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

90. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:52 PM (SE Asia Standard Time)
 
   90....
ของที่หรั่งจะให้ก็คือของที่เราต้องการเรานอนนิ่งกอดหรั่งไว้ลูบไล้ไปทั้งตัวของเขา หรั่งนอนหลับตาพริ้มเราเองก็มีความสุข อยากให้เวลาหยุดลงตรงนี้นานๆ ใจเรากระหวัดนึกไปถึงหลายๆคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ค่อยๆลำดับภาพช้าๆ เราไม่เคยประสบความสำเจเลยใร่องความรัก มีเพียงเพศสัมพันธ์เท่านั้นที่เป็นจริง เกิดเป็นกระเทยได้เพียงแค่นี้เท่านั้นเองนะเหรอ เราอยากมีความรักที่อีกฝ่ายก็รักตอบบ้าง จะหาได้ที่ไหน
พี่เพลินบอกกับเราเมื่อครั้งไปเยี่ยมบ้านหลังปีใหม่
"หายากเอ๋ เจ๊ไม่มีคำตอบให้เอ๋หรอกนะ เพราะจนป่านนี้เก็ยังหาไม่เจอเลย ไม่ต้องดูที่ไหนไกลผู้ชายผู้หญิงจริงๆพอมีปัญหาก็เลิกกัน ทั้งๆที่ก่อนจะอยู่กันก็รักกันแทบจะแหกตูดดม นับประสาอะไรกับกระเทยยิ่งไม่ได้เริ่มที่ความรัก"
"งั้นเราก็ต้องตามล่าหาผู้ชายไปตลอดชีวิตอย่างนี้เหรอพี่เพลิน" เรายังข้องใจอยู่
"ถ้าเอ๋ ยังยึดติดก็ไม่มีทางหลุดพ้นวงโคจรนี้หรอก หาอะไรดีทำดีกว่าที่จะหมกมุ่นผู้ชาย คิดแค่สนุก แต่อย่าถึงขั้นมั่ว เอดส์จะถามหา"
"แล้วอย่างเอ๋ถือว่ามั่วมั๊ย"
"เรียกว่าดอกเลยแหละ" พี่เพลินหัวเราะลั่น"แล้วนี่จะอยู่กี่วัน แม่เราเขาจะส่งแผนที่ไปให้อยู่แล้ว หลงกรุงเทพฯจนบ้านช่องไม่กลับ"
"แหม ก็ทำงานหาวันหยุดยากจะตาย นี่ก็มาได้แค่สองวันเอง เสียดายไม่เจอไอ้ตั้มเลย"
"มันสบายไปแล้วป่านนี้คงเก็บเงินได้เยอะนะ ทำงานที่ญี่ปุ่นเงินมันดี"
"พี่รู้มั๊ยว่ามันจะกลับเมื่อไหร่" เราถามพี่เพลินเราเองเหมือนคนใจดำที่ไม่ได้ติดต่อกับตั้มเลยไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนประสาอะไร เราได้ที่อยู่ของตั้มมาแล้ว คงไม่ยากที่จะติดต่อกัน บ้านไม่ค่อยสนุกเหมือนแต่ก่อน เตี่ยกับแม่ก็ขายของที่ตลาดเหมือนเดิม อาจารย์โตแต่งงานกับลูกสาวร้านขายผ้าตอนนี้เมียแกกำลังท้องพอดี เวลาแค่ปีกว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปเยอะมีแต่ตัวเราที่ยังวนเวียนในเกมกามอยู่คนเดียว เราอยู่บ้านสองวัน แม่ไม่อยากให้ทำงานอีกแล้วเพราะไม่ค่อยได้กลับบ้าน
"ขอเวลาเอ๋สักพักแล้วกัน เอ๋อยากทำงานเดี๋ยวเรียนขึ้นปีสูงๆแล้วค่อยเลิก" เราอ้อมแอ้มตอบแม่ไม่เต็มเสียง
"เดี๋ยวพาลเรียนไม่จบพอดี" แม่ถอนหายใจนอนกอดแม่อบอุ่นกว่านอนกอดผู้ชายเพราะไม่ต้องคิดว่าจะได้รับความรักตอบแทนหรือไม่ แม่รักเราอยู่แล้ว
"เอ๋กลับบ้านมาเหรอ เป็นไงมั่ง"อี๊ดถามขึ้นมาตอนที่เราแวะอาของฝากจากที่บ้านของเขาไปให้ที่ห้อง ถานอนเอกเขนกอ่านการ์ตูนอยู่ในห้อง ห้องอี๊ดอยู่ชั้นห้าลมเย็นดี พวกเรานั่งกินข้าวด้วยกันทั้งสามคนตนเย็นที่ระเบียงด้านหลังห้อง
"เอ๋ ใครมาหามึงบ่อยๆวะตอนกลางวัน" อี๊ดคงหมายถึงหรั่ง
"เพื่อนที่ทำงาน"
"วันนั้นตอนมึงไม่อยู่กูไปหา ก็เห็นมันใส่ผ้าขนหนูมาเปิดประตูให้ บอกว่ามึงไปซื้อกับข้าว"อี๊ด พูดเหมือนสงสัย เรารู้สึกอายเหมือนกัน ถามองหน้าเหมือนตั้งใจฟัง
"มึงมีผัวแล้วเหรอ" อี๊ดเป็นคนพูดจาโผงผาง เขารู้จักเพื่อนกระเทยเยอะพอจะเข้าใจโลกของกระเทยอยู่บ้าง
"ไอ้บ้า บอกเพื่อนก็เพื่อนสิ อยู่รอบดึกเหมือนกันแค่แวะมากินเหล้า"
"กูไม่เชื่อ" อี๊ดยังเถียง
"ตามใจมึงสิ พูดแบบนี้ก็เสียหายนะ คนแถวนี้เขายิ่งกลัวกระเทยงาบอยู่ด้วย" เราแกล้วแขวะไปที่ถา
"โอ๊ย ไอ้ถามันไม่กลัวแล้ว มึงระวังตูดมึงดีๆเถอะ" อี๊ดแหย่
"กล้าๆหน่อยเถอะ" เรามองหน้าถา เขาก้มหน้าขำ มันก็อาจจะจริงก็เป็นได้ "แล้วหายกลัวได้ไงหล่ะ"
"ตอนนี้อ้ถา มันมีน้องไก่กระเทยข้างล่างมาตามจีบอยู่ เอาข้าวเอาน้ำมาส่งทุกวัน"
"จริงเหรอ" เรารู้สึกสนุกที่ได้ฟังเรื่องของถา
"อย่าไปเชื่อมันเอ๋ อี๊ดมันขี้โม้"
"ไม่ต้องมาเขิน วันก่อนมึงนอนให้น้องไก่คลำค-ย แล้วกูเปิดประตูมาเจอทำไมไม่อาย กลางวันแสกๆแท้ๆ" เราขำ อ๊ดก็ยังสาธยายไม่หยุด เราชักอยากเห็นหน้าน้องไก่ของถาแล้วสิ เก่งกาจสามารถจัง
"นวดโว๊ย ไม่ใช่คลำ" ถายังปฏิเสธ
"แล้วมึงหล่ะ อี๊ด ไม่มีน้องอะไรกับเขาเหรอ" ยิ่งฟังยิ่งสนุก
"ไม่มีบุญหว่ะ ว่าแต่มึงจะสงเคราะห์กูได้นะเอ๋ ฝนตกให้ทั่วฟ้าสิโว๊ย ทำให้แต่ไอ้นกคนเดียว" เล่นเอาหูอื้อเลย "นะเอ๋นะ "
"ถ้าจะสงเคราะห์ ก็ต้องทั้งหมดแหล่ะ รวมทั้งถาด้วย" พวกเราก็นั่งหัวเราะกันครื้นเครง
"เอ๋ มึงคอยดูนะเดี๋ยวน้องไก่จะถือของหวานมาให้กิน" เสียงเคาะประตูหน้าห้อง น้องไก่ที่เราคาดหมายคงเป็นกระเทยเด็กหน้าใสเหมือนลูกเจี๊ยบชนิดว่าเราสู้ไม่ได้แน่ๆเลย ประตูเปิดออกแล้ว ไม่ใช่ลูกเจี๊ยบอย่างที่คิดแต่เป็นไก่โต้งเลยทีเดียว กระเทยเด็กใส่แว่นหนา รูปร่างท้วม ตัวขาวๆเนี่ยนะ เราหันไปมองหน้าถา นี่คนหล่อมีรสนิยมแปลกๆแบบนี้เหรอ ยิ่งเรายืนใกล้น้องไก่ยิ่งทำให้เราตัวเล็กลีบลงกว่าเดิม
"ไก่ รู้จักพี่เอ๋รึยัง" น้องไก่ทักทาย
"ไม่ต้องไหว้หรอก น่าจะอายุเท่ากันเพราะเราเพิ่งเรียนปีสอง เป็นน้องพวกนี้อีก" เราไม่อยากให้ใครมาทำตัวว่าเราอาวุโสกว่า ถึงจะวัดที่ประสบการณ์ก็เถอะ
"รู้จักแล้ว เจ๊เอ๋หน้าหวานหอติดกัน มีแฟนรูปหล่อหน้าเหมือนฝรั่งมาหาบ่อยๆ"
"อะไรนะ เธอพูดอะไร" กระเทยตัวใหญ่ยืนหนีบกระมิดกระเมี้ยน
"ระเบียงห้องหนูอยู่บนเหนือระเบียงห้องพี่พอดี วันที่พี่นกไปห้องพี่หนูก็เห็น"
"พูดอะไรเรื่อยเปื่อยเป็นตุเป็นตะ อี๊ดกูไปหล่ะ"
"ทนฟังไม่ได้สิมึง" อี๊ดหัวเราะสะใจ น้องไก่หล่อนร้ายนักนะเล่นเอาเรื่องของฉันมาเล่าให้คนอื่นฟัง ยังไม่ทันได้ออกจากห้องนกก็โผล่หน้าเข้ามา
"คุยอะไรกันอยู่ว่ะ เอ๋อยู่นี่เองไปหาที่ห้องไม่เจอ"
"อุ๊ยพระเอกมาเจอนางเอก" นังไก่ตอนเดี๋ยวเถอะแกเรารู้สึกฉุนขึ้นมาเล็กน้อย แล้วรีบเดินออกจากห้อง
"เอ๋ เป็นอะไรวะ" นกงงไม่รู้เรื่อง
"มึงก้ตามไปถามมันสิ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน" นกรีบวิ่งตามมา เราได้ยินเสียงหัวเราะตามหลัง ฉุนจริงๆทำเป็นพูดเจื้อยแจ้วเห็นเรื่องเราเป็นเรื่องสนุก อยากจะจับทำข้าวมันไกตอนจริง ..................
90….
นกเดินตามมาจนถึงห้อง เราหงุดหงิดกับนังไก่ตอนก็เลยลงกับเขา
“ตามมาทำไม ไม่อยู่กินของหวานกับน้องไก่หล่ะ”
“เป็นอะไรวะ โกรธคนอื่นแล้วมาลงกับเรา” นกเกาหัว แล้วไปนั่งเล่นที่เตียงเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวอาบน้ำ ยืนแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ระเบียงของหอติดกัน มองเห็นร่างป้อมๆของนังไก่ตอนแว่บๆ รู้สึกไม่ชอบใจกับการอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นของนังนี่นัก น้ำเย็นๆพอทำให้หายหงุดหงิดได้บ้าง
นกนอนดูทีวีบนเตียง “เอ๋พรุ่งนี้ทำงานรอบไหน”
“ตีห้า” เรานั่งเช็ดผมข้างๆนก “นกมาหาเรามีอะไรเหรอ”
“ไม่เห็นหน้าหลายวัน เลยอยากมาเล่นด้วย” นกก็ตอบเอาใจไปเรื่อยเปื่อย
“มาเล่นอะไรหล่ะ ตัวเองก็หายหน้าหายตาไปเหมือนกัน มีเด็กใหม่อีกละสิ” นกเปลี่ยนหน้าแฟนบ่อยจนเราจำไม่ได้ว่าคนไหน แป็บเดียวก็เลิก
“คนรูปหล่อก้อยังงี้แหละนา บริหารเสน่ห์ไปทั่ว”
“ใครว่า พวกนั้นก็เพื่อนกันทั้งนั้น ใครจะมาเป็นแฟนเรา”
“โกหก นี่นกรู้จักนังไก่ตอนมั๊ย” นกทำหน้างง
“ใครวะไก่ตอน” เขาทำท่านึก “อ๋อ น้องไก่เด็กไอ้ถา ทำไมไปเรียกไก่ตอน”
“ก็มันอ้วน แล้วเป็นเหมือนไก่ตัวผู้ที่ถูกตอนไง” ยิ่งพูดถึงยิ่งหมั่นไส้ท่าเดินหนีบๆและจีบปากจีบคอของไก่
“ไปว่ามัน โกรธมันเรื่องอะไร” เราก็เล่าให้นกฟัง
“แค่เนี๊ยะ ก็โกรธ บ้ารึเปล่า” นกหันหน้ามา
“เราไม่อยากให้มันเอามาพูดให้คนอื่นฟังต่างหาก”
“เพื่อนทุกคนมันรู้กันหมดแล้ว ว่าเราเป็นคู่ซ้อมกัน”
“บ้า คู่ซ้อมอะไรไม่ใช่กระสอบทรายนะ นกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้” เราปิดไฟแล้วนอนลงที่เตียง “จะนอนที่นี่เหรอ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะ”
“เรื่องอะไร จะให้นอนวะ นานๆมาหาทั้งที” นกล้มลงมาทับ เราเอียงหน้าหลบ
“ไม่อาว ง่วงนอน” เราทำทีเป็นลากเสียงยาว “ปิดประตูด้านหลังก่อนสิ เดี๋ยวมีคนแอบดูจากข้างบน
“ห้องมืดขนาดนี้มันจะเห็นได้ไงวะ ระแวงไปได้” เราได้แต่หัวเราะคิกๆตอนที่นกเริ่มปฏิบัติการณ์ แล้วก็เกือบไปทำงานสายจนได้ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็วิ่งกระหืดกระหอบไปรับรอบกับรอบดึก
“ทำอะไรอยู่เอ๋ มาซะเกือบสายเลย หรั่งก็มาทำงานนี่วันนี้” พี่สุถามเราต่อหน้าหรั่งที่ยืนยิ้มแฉ่งอญุ่หน้าเคาน์เตอร์ ยังไม่มีใครรู้เรื่องของเรากับหรั่งสักคน รับปากกันแล้วก็ต้องรักษาสัญญา
“มัวแต่นอนคิดถึงหรั่งอยู่เลยนอนไม่หลับ” เราเลี่ยงตลกไปกับพี่สุ หรั่งแอบถลึงตาใส่ รู้น่าเรามองตอบ
“เอ๋ เดือนหน้า ได้อยู่รอบไหนรู้รึยัง” เราส่ายหน้าไม่อยากเป็นรีลีฟอีกเลย พี่ตู่เดินหน้าสวยมาทำงานแล้ว บ้านแกอยู่ไกล มาได้เร็วสุดก็หกโมงครึ่ง รอบดึกเตรียมตัวกลับบ้านหรั่งทำทีเป็นโบกมือให้
เราโชคร้ายถูกไนท์ออดิทขอคนมาช่วยทั้งเดือนเป็นโชคดีเรื่องงาน แต่โชคร้ายก็คือหรั่งย้ายไปอยู่บ่ายแทน ทั้งเดือนเจอกันแค่ตอนเข้างาน ไม่มีโอกาสได้ไปหากันแม้แต่วันหยุดก็ไม่ตรงกัน หรั่งย้ายไปอยู่บ่ายก็ถูกพวกรอบบ่ายตามจีบ เด็กเสริฟห้องอาหารคอยตามแจ เราเห็นแล้วแสลงใจ และยิ่งรู้จากปากปุ๊ว่าหรั่งไปเที่ยวกับคนนั้นบ่อยๆหลังเลิกงาน ยิ่งรู้สึกเสียใจจนบอกไม่ถูก เรามาทบทวนดูอะไรที่เขาทำเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะเด็กเสริฟคนนั้น หลังเลิกงานจะแต่งตัวเป็นหญิงเลย ตอนทำงานก็จะทาเยลทั้งหัวแต่พอเลิกงานหล่อนก็สะบัดบ็อบใส่เรา เดินเชิดควงแขนหรั่งสวนกับเราหน้าลิฟต์ นี่มันหมายความว่ากระเทยหัวโปกอย่างเราแพ้กระเทยมีนมผมยาวเหรอนี่ เราเกิดอาการเครียดขึ้นมาจนได้เดินสวนกับหรั่งก็ไม่พูดด้วย เก็บตัวทำงานอยู่แต่ด้านใน ยิ่งนับวันความคืบหน้าของทั้งคู่ก็เข้าหูเราตลอดเวลา ปุ๊เล่าให้เราฟังเพื่อตอบใจตัวเอง แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือเราต่างหาก
“เอ๋ เป็นอะไร” หรั่งถามเราเมื่อเขาต้องอยู่แทนรอบดึกวันนึง
“ไม่ได้เป็นอะไร”
“ทำไม ทำท่าเหมือนโกรธเรา” หรั่งดึงแขนเราขึ้นไปที่ชั้นสิบที่เคยจัดงานปีใหม่ ลมเย็นๆพัดจนหน้าชาอีกแล้ว
“ไม่เห็นต้องถามนี่ ตัวเองเปลี่ยนไป ”
“อะไรเปลี่ยน”
“เรื่องของหรั่งกับคนนั้น เรารู้นะว่าไปถึงขั้นไหนแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงเราจะไม่โกรธเลย แต่นี่เราแพ้พวกเดียวกัน แค่มีนมผมยาวเท่านั้นเอง มิน่าถึงหายเงียบไม่ไปหาเลย” เราพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น “ หรั่งคงลืมทุกอย่างแล้วสินะ”เรายืนจ้องหน้าเขาอย่างแสนเสียดาย “เราเสียใจนะ” เดินผละจากเขาออกมา หมดปัญญาที่จะยื้อแย่งในเมื่อเราไม่ใช่คนที่ถูกเลือก เดินสวนกับคู่แข่งที่หน้าลิฟต์ น้องเอ๋ที่เคยเป็นดาวในงานปีใหม่กำลังพ่ายแพ้เด็กใหม่
“พี่เอ๋ ฝากบอกหรั่งด้วยนะ ว่าปอยกลับแล้ว” เราพยักหน้า “สงสารหรั่งจังเลยพี่ ควงงานสองรอบ กว่าจะเลิก”
“ทำไมต้องบอกเขาด้วยหล่ะ ว่าปอยกลับบ้านแล้ว เป็นแฟนเขาเหรอ” เราเสแสร้งพูดดีด้วย
“ก็อยู่ด้วยกันแล้ว ต้องบอกกันหน่อยสิเดี๋ยวเขาเป็นห่วง”
“จริงเหรอ ที่ว่าอยู่ด้วยกัน” เรายังอยากได้ยินคำตอบจากปอย แต่ลิฟต์ก็เปิดก่อน
”อย่าลืมนะพี่” ปอยยังย้ำตอนที่เราเดินออกจากลิฟต์
“เอ๋ เป็นอะไรตาแดงๆ หรั่งเธอทำอะไรเขา” พี่สุถามแล้วหยิบทิชชู่ให้
“คนบ้าพี่ อย่าอยู่ใกล้นะเดี๋ยวบ้าไปด้วย” หรั่งตอบเสร็จก็เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องแพนทรี้
“เอ๋ ไหวมั๊ย ไม่สบายรึเปล่า” พี่ออดิทเป็นห่วงเอามือมาอังที่หน้าผาก “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า”
“ไม่มีพี่ ฝุ่นเข้าตาแล้วไปขยี้เลยแสบตาฮะ” เรานั่งทำงานอย่างเลื่อนลอยงานแต่ละอย่างมันช่างยากเย็นนักสำหรับวันนี้ทำอะไรก็ไม่ลงตัว ใจก็ยังนึกถึงแต่คนที่แอบนอนอยู่ที่ด้านในแพนทรี้ อยากจะเข้าไปหาเขาจริงๆ คืนทรมานกว่าจะผ่านไปได้ พี่สุดูอาการออกตั้งแต่เมื่อคืนแกก็ให้เราอยู่คนเดียวไม่พูดอะไร จนเดินไปที่ป้ายรถเมล์
“พี่ดูออกนะ ว่าเอ๋เป็นอะไร ”
“เอ๋บอกไม่ถูกพี่ ที่ผ่านมาพยายามคิดว่ามันไม่จริง แต่ยิ่งนับวันมันก็ยิ่งกระจ่างขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเราไม่ดีตรงไหน” รู้สึกเจ็บที่ตา
“ก็แค่เขาไม่ได้รักเราเท่านั้น เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ร้องไห้เสียน้ำตาไปเขาก็มองไม่เห็นหรอก คนมันหมดใจแล้ว ไม่มีทางจะดึงเขากลับมาหรอก” พี่สุนั่งรถเมล์มากับเราด้วย
“เอ๋ไม่แน่ใจว่ารักเขารึเปล่าแต่พอรู้ว่าเขาไปยุ่งกับคนอื่น มันทั้งเสียดายและเสียใจ “
“พี่อยากให้เอ๋อย่าคิดมาก ถือซะว่าที่ผ่านมาแป็นกำไรชีวิตก็แล้วกันนะ”
เรานั่งมองไปตามถนนอยู่แต่กับความเงียบ บอกกับตัวเองว่า ปล่อยเขาไปเถอะในเมื่อเขาชอบแบบนั้น หรั่งเองก็ไม่เคยบอกรักเราทั้งนั้น แต่คิดไปคิดมาก็เสียดาย อุตส่าห์ทำตัวเงียบๆเก็บกินไปเรื่อยๆ
“แต่พี่ว่าหรั่ง เขาก็คงอึดอัดนะ เห็นพวกรอบบ่ายบอกว่านังปอย ตามโทรตามจิกทั้งวันเลย”
“แต่เขาก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่นา”
“ไปเห็นแล้วเหรอ เชื่อคนง่ายๆระวังจะเสียใจทีหลังนะ เอ๋ต้องให้เห็นกับตาก่อน บางทีกระเทยอย่างเราก็ต้องมีเม้าท์อัพราคาตัวเองเหมือนกัน จะเอาสิบเอาร้อยหารก็ต้องดูแต่ละคนอีก”
“เอ๋ก็ว่างั้นแหละ ไม่รู้จะมานั่งเสียอกเสียใจทำไม เขาจะไปไหนก็ตามใจเขาเถอะ เราก็หาเอาใหม่” เรายักไหล่
“ดีแล้ว เสียดมเสียดายอะไร กระดอไม่ได้เลี่ยมทองซะหน่อย” พี่สุหัวเราะกับเรา คงยังไม่ถึงขั้นรักหรั่งกระมังถึงรู้สึกแค่หวิวๆเหมือนทำของหายเท่านั้น...........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

91. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:53 PM (SE Asia Standard Time)
 
   91……
ในความทุกข์ใจบางครั้งคนเราก็อาจมีน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจก็ได้ จดหมายฉบับแรกของตั้มมาถึงมือเราตั้มเล่าถึงความลำบากที่อยู่ที่โน่น ถึงแม้พี่เขยจะรับรองแต่ญี่ปุ่นก็ยังไม่มีงานให้แรงงานต่างชาติมากนัก ไหนจะเรื่องโดนกีดกันอีก ตั้มได้รับค่าแรงน้อยกว่ามาตรฐานแต่ก็ต้องทนเพราะยังดีกว่าทำที่เมืองไทย ตั้มพูดภาษาญี่ปุ่นได้เยอะแล้ว ทั้งยังเล่าว่าสาวญี่ปุ่นสวยๆเยอะ เราเก็บจดหมายไว้อย่างดี เพื่อนรัก เราขอโทษนะที่ลืมนายไป เพื่อนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเวลานั้นสำหรับเรา หลังจากตื่นนอนตอนเย็นก็จะไปกินข้าวที่ห้องอี๊ดทุกวันบางทีก็มีแค่ถา ที่นั่งกินเป็นเพื่อน น้องไก่ก็คอยมาด้อมๆมองๆ ไม่ห่างเดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออก บุคลิกของเราถ้าคนไม่รู้จักมักจะบอกว่าเชิด แต่เราไม่ได้เป็นเช่นนั้นสักนิด เพียงแต่ไม่อยากจะพูดกับคนที่ไม่รู้จักเท่านั้น
“พี่เอ๋ พักนี้ไม่เห็นแฟนพี่เลย เขาไปไหนแล้วหล่ะ” เราคิดไปเองว่าถูกเยาะเย้ย
“เรื่องอะไร ของเธอหล่ะ ไก่” เรายังคงหงุดหงิดเสมอถ้ามีใครพูดพาดพิงถึงหรั่ง
“แหม พี่เอ๋ก้อ แค่นี้ก็อารมณ์เสีย” ไก่คงอายเลยเดินกลับห้อง เราเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่กระแทกเสียงไปอย่างนั้น ถาเองก็งง
“เรากลับแล้วนะ” เราลุกขึ้นยืน วันนี้เป็นวันหยุด เราเองก็ไม่รู้จะไปไหน ยิ่งทำงานเรายิ่งสนุกกับงานจนแยกไม่ออกแล้ว ให้นอนเฉยๆเหมือนนักศึกษาคนอื่นคงเป็นบ้า
“อี๊ดยังไม่มาเลย นั่งคุยกันก่อนสิเอ๋” ถาชวนให้อยู่ต่อ
“ก็ขี้เกียจอยู่ ไม่รู้จะคุยอะไร ถาก็ไม่ค่อยคุย”
“เถอะน่า อยู่เป็นเพื่อนเราก่อน ไม่งั้นไก่มันคงเดินเข้ามากวนเราอีก” เรามองหน้าถาแบบงงงง
“นายไม่ชอบเขาแล้ว ไปให้ความหวังเขาทำไมหล่ะ” เราแย้ง
“ผู้ชายกับผู้ชาย นี่นา ถ้าเป็นเพื่อนกันเหมือนเอ๋ เราก็พอจะคุยด้วยสนิทใจหรอก แต่นี่ไก่มันติดเราแจเลย คะขาจนน่ารำคาญ” ถาอธิบายความรู้สึกให้ฟัง เราพลอยนึกสนุกขึ้นมาอีก
“แล้วถารู้ได้ยังไง ว่าเราคิดกับนายแค่เพื่อน” เรามองหน้าถาอย่างท้าทาย “เราก็ไม่ต่างจากไก่หรอกนะ อยู่ใกล้ๆคนหล่อแบบนี้” เราแกล้งเอามือวางที่ขาแล้วบีบเบาๆ ถาสะดุ้งรีบกระเถิบตัวออก
“ขนลุกเลยเอ๋เล่นอะไรไม่รู้” เราหัวเราะหึหึ แล้วเอื้อมมือไปปิดประตู
“จะทำอะไร” ถาทำหน้างง
“หยอกแค่นี้ก็กลัวไปได้ ทำยังกะไม่เคยงั้นแหละ” เราเปิดประตูอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะ
“เฮ้ย ทำอะไรกัน” อี๊ดเสียงดังเหมือนเคย น้องไก่มาอีกรอบแล้ว เราอยากเล่นสนุกกับกระเทยด้วยกันบ้างแก้เซ็ง
“ก็ถานะสิ บอกว่าเมื่อยเลยกะจะนวดให้สักหน่อย มึงไม่น่าขัดจังหวะเลย”
“เฮ้ยไม่ใช่นะโว๊ย” ถารีบปฏิเสธ
“กลัวน้องไก่เข้าใจผิดเหรอ ถึงไม่ยอมรับ” น้องไก่ยืนพุงอืดหน้าตึงอยู่หน้าห้อง “ไปเล่นห้องนกดีกว่า” เราดีดที่พุงของไก่เบาแล้วมองแบบยั่วๆ สนุกดีอีกระเทยบ้าเราด่าตัวเองในใจ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของนก หนุ่มๆนอนเอกเขนกกันหน้าจอทีวี ห้องรกมาก อยู่กันยังไงก็ไม่รู้ เสื้อผ้าแขวนเกะกะไปหมด เราไม่อยากเดินเข้าไปเลยเกาะที่ขอบประตู
“มีอะไรเอ๋” นกละสายตาจากทีวีมาถาม
“ไม่มีแค่แวะมาดู ไปนอนหล่ะ” มันเหมือนเป็นสัญญาณลับระหว่างเรากับนก ถ้าหากเราไปที่หน้าห้องเขาเมื่อไหร่ก็หมายถึงว่านกต้องทำงาน จริงๆแล้วก็ไม่ได้นัดกันหรอก หากแต่มันก็เหมือนบังเอิญทุกที เดินผ่านห้องอี๊ด อีกทีน้องไก่นั่งอ้วนขวางประตู มองเราตาขวาง คนอ้วนเวลาโกรธน่ารักดี
เราก็ไม่รู้นึกครึ้มอะไรเดินแวะเข้าตูโทรศัพท์หน้าหอ กดเบอร์บ้านพี่โด่งเล่นๆ
“เอ๋เหรอ มีอะไร”
“หายไปนานเลยนะพี่โด่ง มีเมียแล้วละสิ ได้หน้าแล้วลืมหลังเลยนะฮะ” น้ำเสียงเราแจ่มใสขึ้นมาทันทีที่พี่หรั่งรับสาย
“อย่ามากวน ทำอะไรอยู่นะเรา ไม่ทำงานเหรอ”
“วันนี้หยุด พี่ก็หยุดละสิ โทรมาถึงมีคนรับ ทำอะไรอยู่”
“ชักว่าวอยู่ กำลังจะเสร็จ” พี่โด่งพูดเสร็จก็หัวเราะ
“อยากอยู่ใกล้ๆจัง จะได้ดูว่าวลอยลมบนด้วย”
“ทะลึ่งนะเดี๋ยวนี้ มาหาพี่มั๊ยครับ” พี่โด่งปลี่ยนเรื่อง
“พี่มาหาเอ๋สิ คิดถึงพี่โด่งจังเลย” เราคันขึ้นมาอีกแล้ว “พี่โด่งจะไปเมืองนอกอีกเมื่อไหร่”เราถามต่อเมื่อเห็นแกเงียบ
“มะรืนก็บินอีกแล้ว มาช่วยพี่เก็บเสื้อผ้าหน่อยเอ๋ นั่งแท็กซี่มาเลย ยังไม่ดึกนี่ มาเอาค่าแท็กซี่กับพี่” พี่โด่งยังชวนต่อ
“จริงรึเปล่า” เรายังเล่นตัวเล็กน้อย
“เร็วๆ วางหูแล้วนั่งรถออกมาเลยนะจะรอ พูดเล่นอยู่ได้” พี่โด่งวางหูไปแล้ว ไม่มีอะไรทำไปเล่นกับพี่โด่งดีกว่า แล้วรถแท็กซี่ก็พาเรามาฝั่งธน ใจเอาน่าดูเลยนะเรานี่ พี่โด่งยืนรออยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้นท์จ่ายค่าแท็กซี่ให้อย่างที่บอก แล้วก็เดินโอบคอเราขึ้นข้างบน
“ไง เราเมื่อไหร่จะมาอยู่ด้วยซักที มาเฝ้าห้องให้หน่อยสิ”
“ไกลจะตายชัก ไปทำงานสายพอดี”
“เอ๋ก็ขับรถพี่ไปสิ ขับเป็นไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ได้ขับนานแล้ว ใบขับขี่ยังไม่มี รถที่บ้านก็แค่ขับไปขับมา จากบ้านไปตลาดแค่นั้นเอง”
“ก็ไปสอบสิ พี่ไม่ค่อยอยู่ห้องห่วงรถเหมือนกัน ดีที่มีแต่คนกันเองอยู่เลยฝากเขาได้”
“กระเป๋าเก็บเสร็จแล้วนี่ โกหกนี่นา” เรากวาดสายตาไปทั่วทั้งห้องพี่โด่งคงไม่มีเวลาหาเมียแน่ๆ บินไปโน่นมานี่บ่อยๆ “พี่จะหาเงินไปทำไมเยอะแยะ ลูกเมียก็ไม่มี”
“น้ำขึ้นต้องรีบตัก อยากมีเมียเหมือนกันนะ แต่ไม่มีเวลาหา เอาเด็กแถวนี้ทำเมียก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วพี่โด่งก็ดันเราลงที่เตียงเหมือนเคย “คิดถึงพี่มั๊ย” เราพยักหน้า เราชอบเวลาที่ผู้ชายถามความรู้สึกของเราทุกครั้งมันเหมือนกับว่าเขายังใส่ใจเราอยู่ตลอดเวลา ฟังแล้วดูหวานและอบอุ่นดี รสจูบพี่โด่งยังร้อนแรงไม่มีใครเทียบได้และนี่คงเป็นเหตุผลนึงที่เราตัดใจไม่ขาด แว่บทีไรก็จะนึกโหยหาอยู่เสมอ รู้สึกดีใจเหมือนกันที่เราเปลี่ยนความรักที่มีต่อพี่โด่งมาเป็นรูปแบบอย่างนี้เพราะเราไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยเวลาจากกัน พี่โด่งพร้อมเต็มที่แล้วเพราะปากเราแกลุกขึ้นไปเอื้อมมือหยิบถุงยางมาใส่ เราลอบมองด้วยความแปลกใจ พี่โด่งยังอารมณ์ดีแม้น้องชายจะโกรธจัด
“ระวังไว้ก่อนนะ ทั้งพี่ทั้งเอ๋” แกเอามือมาปิดตาเรา “มองอยู่ได้” เรี่ยวแรงมหาศาลทะลวงเข้ามาในตัว เราได้แต่เกร็งตามเป็นจังหวะนานมากที่ตามหารสชาดแบบนี้ยังไม่เคยเจอเลยสักคน
“ขอบคุณนะพี่” เราจูบที่หน้าผากพี่โด่งเบาๆ
“ขอบคุณอะไร” พี่โด่งคงงง “ก็ขอบคุณที่ทำให้ไง” เราเองก็อายจะตอบกะจะหวานเหมือนในหนังซักหน่อย
“โรคจิต” พี่โด่งตีหัวเราแล้วกอดเราแน่น ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากตัวพี่โด่งนั้นไม่เคยมีใครเหมือน ถ้าหากย้อนเวลาได้ คงดีเราอยากจะเก็บความรู้สึกดีๆอย่างนี้ตลอดเวลาไม่ใช่เป็นแค่ความทรงจำเก่าๆไว้ให้แค่ระลึกถึงเท่านั้น
…...ยามเมื่อเราเจอกัน เธอสบตาฉันเหมือนดั่งทักทาย ทำให้ใจฉันหายรู้สึกคล้ายๆฉันมีปมด้อย …เราต้องจากกันไกล เราต่างเศร้าใจ เราต่างหลงคอย.....เป็นด้วยบุญฉันน้อยจึงปล่อยเธอคอยจนสายเกินไป......................
เจอะกันครั้งนี้ฉันมีความเศร้าฤทัย กรุ่นอยู่ภายในหมดทางเผยใจให้เธอได้เห็น ได้แต่มองตากันเธอสบตาฉัน ฉันก็คิดเป็น ตาไม่อาจซ่อนเร้นทุกสิ่งที่เห็นนั่นแหละหัวใจ
เราเคลิ้มไปกับเพลงภาษาใจที่พี่โด่งเปิดตอนขับรถมาส่งถึงหน้าโรงแรม พี่โด่งยิ้มหล่อเหมือนเคย
“แล้วเจอกันนะเอ๋”
“เอ๋รักพี่โด่งนะฮะ” เราบีบมือแกเบา
“พี่เข้าใจ ตั้งใจทำงานนะ “เราปิดประตูรถเบาๆแล้วยืนดูจนรถเคลื่อนออกไปช้าๆ มีแค่ภาษาใจโดยผ่านการสัมผัสทางกายเท่านั้นเองที่พี่โด่งจะสื่อให้เรารู้ได้ว่าแกคิดยังไง ไม่เป็นไรหรอกพี่เอ๋ยอมรับทุกอย่างได้หมดแล้ว เรายิ้มกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าที่ทำงานด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมสุข...................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

92. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:55 PM (SE Asia Standard Time)
 
   92........
“เอ๋ มึงไปงานวันเกิดกูมั๊ยพรุ่งนี้” อรเพื่อนแคชเชียร์รอบบ่ายชวน
“จัดที่ไหนหล่ะ”
“บ้านกูไง ไปซื้ออาหารทะเลมาทำกินกัน ตอนเช้าพวกมึงออกเวรก็นั่งเรือไปบ้านกูเลย นอนเอาแรงก่อนแล้วค่อยลุกมาช่วยกูทำกับข้าว มึงหยุดพอดีนี่หว่าคืนหรุ่งนี้ ชวนพี่สุไปด้วย”อรเป็นผู้หญิงใจนักเลงชอบสนุกแต่ไม่ได้รักสนุก บ้านอรอยู่ในสวนบรรยากาศร่มรื่นอยู่กันหลายคนพวกเราเคยไปกันหลายครั้งแล้ว เราชอบนั่งเรือเร็วล่องบนแม่น้ำเจ้าพระยามาก พี่สุกับต่ายแคชเชียร์เพื่อนสาวอีกคนร้องวี๊ดตกอกตกใจไปตลอดทาง
“นี่เอ๋ รถเมล์ก็มีทำไมไม่ไป พี่กลัวจะแย่” พี่สุบ่นเมื่อเรือเทียบท่า
“มาทางเรือสนุกดีออก นั่งรถเมล์เมื่อไหร่จะถึง จริงมั๊ยต่าย” เราหาเพื่อน ต่ายก็หน้าซีดไม่แพ้พี่สุ “ไอ้อรมันพานั่งแล้วติดใจ”
“พี่ไม่เอาด้วยนะ มาทีหลังนั่งรถ” พี่สุงอนพวกเราเดินไปเรื่อยจนถึงปากซอยเข้าบ้านของอร เจ้าของบ้านกำลังง่วนกับการเตรียมงานแต่เช้า “ไปนอนกันก่อนสักงีบบ่ายๆ ค่อยตื่นมาช่วย เดี๋ยวพวกรอบเช้าตามมาจะได้สนุกกัน” พวกเรายื่นของขวัญวันเกิดให้ อรเปิดดูแล้วดีใจ
“กูรู้ว่ามึงชอบ” อร ยิ้มรับเหล้าทั้งสามขวด อย่างน่าชื่น
“เต็มที่เลยวันนี้ เสียดายพี่สุกับต่ายต้องไปทำงานต่อ เอ๋มึงนอนนี่นะคืนนี้”
“ขอคิดดูก่อน กลัวมึงจะเมาหลับก่อนงานเลิกนะสิอีเจ้าภาพ” พวกเราเอนหลังกันในห้องรับแขกจนหลับสนิทตื่นขึ้นมาบ่ายกว่าก็ช่วยกันเตรียมของกับพร ไม่นานรอบเช้าก็ทยอยมากันพี่ตู่พาแฟนมาด้วย แฟนอรพาเพื่อนมาหลายคน พนักงานเสริฟเพื่อนของพรหลายคนก็มา ท่าทางจะสนุกอย่างที่พรบอกถ้าหากไม่มีหรั่งในงาน เราทำตัวเฉยๆไม่อยากยุ่ง วันนี้มาคนเดียวแฮะ ไม่มีเมีย พี่เซคคิวรอบเช้าขาเมาอีกคนที่ชอบคุยกับเราก็มา พี่บอยตามมาทีหลัง งานใหญ่แฮะ
“นังอร ทำไมคนเยอะขนาดนี้ไหนว่าจัดง่ายๆ” เราถามขณะช่วยพี่ตู่ย่างปลาหมึก
“ก็ เพื่อนเขาเห็นมึงไปเล่า ว่าบ้านกูน่าอยู่ กูเลยชวนมาทั้งฟร้อนท์เลย แล้วก็ชวนเพื่อนๆที่ห้องอาหารด้วย และก็แฟนมึง”
“มึงหมายถึงใคร” อรทำหน้าเฉย
“รู้อยู่แก่ใจ กูรู้ว่ามึงอยากเจอมัน ไอ้หรั่งกับกูซี้กัน เพื่อเพื่อนสบายมาก”
“อีนี่ เดี๋ยวเมียมันก็มาด่ากูหรอก”
“เอ๋ มึงไม่รู้อะไร อีปอย อีปอบนั่นนะ กูเห็นทีไรหมั่นไส้ทุกที ทำตัวเป็นเมีย ประกาศไปทั่วเวลาใครไปยุ่งกับไอ้หรั่ง มันด่าพวกกระเทยคนอื่นว่าไงรู้มั๊ย มันว่าใครอยากกินขี้มันก็ตามใจ ไอ้หรั่งมันจะเตะเอาหลายทีที่ที่ตอกบัตร”
“ผัวเมียเขาหยอกกัน มึงก็ไปอิจฉาเขา” เรายังคงเฉยๆ “เขาอยู่ด้วยกันแล้วนี่ เรื่องเล็กน้อยที่จะแสดงความรักให้คนอื่นเห็น”
“มะเหงกนี่ อีนั่นมันโม้ กันท่าคนอื่นนะสิ กูเคยไปกินเหล้ากับพวกมันหลายครั้งก็เห็นมันกลับบ้านทุกที อีปอยนั่นมันพักที่อพาร์ทเมนท์หลังโรงแรม”
“เหรอ” เราพยักหน้าแต่ไม่อยากพูดต่อ เกิดเป็นผู้หญิงและกระเทยลำบากเหลือเกินเวลาผู้ชายกินเหล้าต้องเตรียม ทุกอย่างให้ท่าน กว่าจะได้นั่งก็เหนื่อย อรกระแซะข้างๆแฟนตัวเอง ส่วนเราก็สอดส่ายสายตาหาที่ว่าง พี่สุนั่งกับผู้จัดการ
“เอ๋ มานั่งนี่” หรั่งหน้าแดงแล้ว กวักมือเรียก พี่สมเซคคิว ขยับตัวแล้วดึงแขนเราไปนั่งข้างๆหรั่ง
“มานั่งใกล้ๆกันสิเอ๋” พี่สมทำเป็นดันให้ตัวเราชิดกับหรั่งมากขึ้น หรั่งหัวเราะแหะสไตล์เดิม แล้วชนแก้วกับเรา มืออีกข้างที่ว่างวางไว้ที่ขาเรา นังอรสนุกสนานเป็นพิเศษ เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาพูด แล้วก็ลามปามแซวเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการ
“เมื่อไหร่ พี่จะให้พี่สุอยู่รอบอื่นซักที เนี่ยเห็นมั๊ยอยู่ดึกจนตาเป็นหมีแพนด้าแล้ว” นังอรชี้ที่ตาพี่สุ
“สุเขาอยากอยู่กับพี่เองนี่ จริงมั๊ย” ผู้จัดการพลอยหวานไปด้วย พี่สุยิ้มเขินน่ารักไปอีกแบบ ต่ายก็กำลังหยอกกับเด็กเสริฟห้องอาหารเพื่อนเก่า คุยกันโขมงโฉงเฉงมีเพียงเราที่เงียบ พี่บอยยื่นแก้วมาชนด้วยหลายครั้งเมาแล้วเกิดอาการอีกสิพี่บอย เอ๋ไม่ใช่กับแกล้มนะคะ เรานึกในใจ
“ฉันว่าบางคนมีความสุขจนพูดไม่ออก” นังอรพยักเพยิดมาที่เรา “พี่สมนั่งใกล้ๆไม่ร้อนเหรอ”
“ไม่เห็นร้อนนี่ ลมเย็นดี” พี่สมตามนังอรไม่ทัน
“หนูนั่งตรงนี้ยังร้อนเลย ถ่านไฟเก่ามันคุจนกระเด็นมาทางนี้แล้ว” ต่ายรับมุขกับนังอรได้เป็นอย่างดี เราหันไปมองหน้าหรั่ง เขาก็ทำเฉยๆไม่ยินดียินร้ายคงจะคิดถึงหนูปอยสินะ พี่ตู่ขอตัวกลับคนแรกแล้วต่อจากนั้นก็ตามด้วยรอบดึกทั้งหมดเพราะต้องไปทำงานต่อ สามทุ่มกว่าแล้วเราทยอยเก็บของช่วยอร ตอนนี้เหลือแค่พวกพนักงานห้องอาหารสามคนบางคนเริ่มนอนกินแล้ว แฟนอร หรั่ง พี่สมก็หลับอยู่ข้างๆตัวเรา เราคิดว่าจะกลับดีกว่า ยังไงก็คงทันรถเมล์รอบสุดท้าย
“จะรีบกลับทำไม พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้นี่” อรรั้งเราไว้
“พรุ่งนี้มีธุระ ทำแต่เช้า ไว้วันหลังเดี๋ยวมาใหม่นะ Happy Birthday นะ ขออวยพรให้ถูกปี้ด้วย”
“อีบ้า” อรบอกทางไปขึ้นรถเมล์ เราเดินออกมาอย่างเหงาๆ บรรยากาศอย่างนี้ไม่น่าอยู่ต่อซอยเล็กๆเงียบสงบดีคนเริ่มเข้านอนกันหมดแล้ว แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมีมือมาล็อคคอจากข้างหลัง
“หยุด มีเงินเท่าไหร่” เสียงคุ้นๆ
“เล่นพิเรนท์อะไร ตกใจหมด” เราหันไปว่าหรั่ง
“กลับทางเดียวกัน ไม่เห็นชวนเลย”
“ก็เห็นสนุกกันอยู่นี่”
“เราไปส่งนะ” หรั่งโอบคอเรา เรามองหน้าเขา อะไรกันนี่นายหรั่ง แต่เราก็แพ้ใจตัวเองอีกจนได้
“ตามใจ” หรั่งนอนหนุนตักเราบนแท็กซี่จนถึงหอพัก เราปล่อยให้เขานอนแล้วก็ไปอาบน้ำ ก่อนจะปูที่นอนอีกชุดนึงที่พื้น เอนตัวลงนอนเราไม่มีอารมณ์จะทำอะไรกับหรั่ง เขาอยากมานอนด้วยก็ไม่เป็นอะไรนี่นา หรั่งเอามือมาสะกิดที่ตัว “เอ๋มานอนด้วยกันสิ”
“นอนตรงนี้ดีแล้ว หรั่งนอนเถอะเราง่วง” หรั่งโผเผลงมาจากที่นอนแล้วมานอนใกล้ๆ กลิ่นเหล้าแรงพอดู เขากอดเราแน่น เราซุกหน้ากับอกเขาที่มีแต่กลิ่นเหล้า บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงแล้วสุดท้ายก็เผลอไปจูบเขาจนได้ หรั่งจูบตอบแล้วลูบผมเราเบาๆ เรากังวลใจหลายอย่าง แต่หนึ่งในความกังวลใจนั้นคือความไม่แน่ใจในตัวเองที่ไม่เข้มแข็งพอ ที่จะเดินออกมาทั้งๆที่เคยบอกตัวเองว่า เรื่องแค่นี้เองกับพี่สุ
แค่นอนกอดคงไม่เป็นอะไร เท่านี้ก็พอแล้วมั๊งสำหรับคืนนี้ ฝันดีนะหรั่ง...............................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

93. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:56 PM (SE Asia Standard Time)
 
   93
"หรั่ง ไม่ทำงานเหรอวันนี้" หรั่งงัวเงียขึ้นมาจากการปลุกของเรา
"เข้าดึก เดือนนี้เป็นรีลีฟ"เขาเอียงตัวมากอดเราไว้ให้นอนต่อ นึกขึ้นได้ว่าลืมทำอะไรก็เลยสอดมือเข้าไปในกางเกงของหรั่งแต่มันลำบากเพราะเป็นกางเกงยีนสื หรั่งก็เหมือนรู้เลยลุกขึ้นถอดกางเกงออกเหลือแต่กางเกงในแล้วนอนก่ายเราไว้ เราเหมือนเป็นโรคจิตชอบที่จะลูบคลำส่วนนั้นเล่น พอมันแข็งก็หยุดเล่นแล้วนอนเฉย เล่นๆหยุดๆจนหรั่งรำคาญเลยลุกถอดกางเกงในออกอีกครั้งพร้อมทั้งสะกิดตัวเรา ประจำที่พร้อมรบแล้วนานเป็นเดือนที่ไม่มีอะไรกันกับหรั่งดูรสวดูมันแปลกๆ เหมือนเพิ่งรู้จักกัน เราเองก็ดูขัดเขินเล็กๆตอนที่จะนั่งลงบนตัวเขาเพื่อเบิกทาง กดตัวลงช้าๆจนเก็บเข้าไปได้หมด แล้วมองหน้าหรั่ง เขายิ้มให
"หยุดทำไม ทำต่อสิเอ๋"
"เราเขินไม่กล้าทำ หรั่งหลับตาสิ" ไม่รู้เกิดอายอะไรขึ้นมาดูดัดจริตน่าดูเลยวันนั้น "จำไม่ได้แล่วทำยังไง ห่างไปนาน" แกล้งออดอ้อน
"เราไม่มีแรงทำเมา แต่มันอยากนะ" หรั่งดันสวนขึ้นมาช้าๆ
"นอนก่อนดีมั๊ย เดี๋ยวค่อยตื่นมาทำ"เราถาม
"เอ๋นอนลงแล้วกัน" เรายกตัวขึ้นแล้วนอนคว่ำข้างๆหรั่งนอนทับตัวเราแล้วสอดเข้ามาที่เดียวจนสุดลำ ก่อนที่จะขยับตัวช้าๆไม่โหมไปเรื่อยๆ หน้าของเขาซุกที่คอเรานิ่งแต่บั้นท้ายขยับเข้าออก
"เอ๋วันนี้ฝืดมากเลย เสียววะ"
"เราก็เสียว" ช่วงล่างของเราถูไปกับที่นอนไปด้วยยิ่งทำให้เสียวมากขึ้นอีก
"เอาให้เสร็จอลยนะ จะได้นอนต่อ" หรั่งกลั้นใจรัวกระหน่ำอยู่พักใหญ่ก่อนจะดึงออกมาชักข้างนอกน้ำหยดลงแผ่นหลังเราจนเลอะ ต้องรีบไปล้างตัวอีกรอบ เราลากแขนหรั่งไปอาบน้ำล้างตัวแล้วกลับมานอนกันใหม่
"วันนี้ไม่สนุกเหรอเอ๋" หรั่งถามเรา
"มันแปลกๆ บอกไม่ถูก"
"คิดมาก"
"ไม่รู้สิ เราคงกังวลเรื่องหรั่งกับอีกคนมั๊ง"
"บอกแล้วไง เราไม่ชอบคนพูดมาก"
"ไม่พูดก็ได้" เหมือนจะงอน
"คนมันจะพูดก็ปล่อยมันพูดไป เราบอกเอ๋แล้วไง เหล้าฟรีใครจะไม่กิน "
"เราไม่ได้หึงนะหรั่ง แต่ว่า"
"ไม่ต้องพูดหรอก ถ้าแค่นี้เอ๋ไม่สบายใจ เราไม่มาอีกก็ได้" หรั้งคลายมือที่กอดเราไว้ "เราก็อยากเคลียร์นะว่าอะไรวะ อยู่ดีๆ แค่อยู่คนละรอบก็เป็นเรื่องขึ้นมาได้"
"ก็หรั่งไม่มีเวลาให้เราเลยนี่"
"ใครกันแน่ คอยแต่หลบหน้า"
"เราเปล่าหลบนะ แล้วโกรธเรารึเปล่า ขอโทษนะ"
"ไม่ป็นไรหรอก อุตส่าห์มาหาแล้วทำให้เอ๋ไม่สบายใจก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องมาอีก"
"โธ่ บอกว่าขอโทษแล้วไง ยกโทษให้นะ"เราหอมแก้มเขา หรั่งทำเป็นพลิกตัวเอียงข้าง เราตามไปกอดเขาไว้แน่นจากด้านหลังแล้วจูบเบาๆที่แผ่นหลัง ลากปลายลิ้นเบาๆไปทั่วบริเวณ
"เดี๋ยวก็คึกขึ้นมาอีกหรอก"
"ถ้าคึกก็แลว่าหายโกรธ" มือเราเอื้อมไปด้านหน้ากุมที่อาวุธเขาไว้ มันคึกขึ้นมาจริงๆ หรั่งหงายตัวกลับมา
"เอ๋ ดูดให้หน่อยสิ" เขาเด้งเอวขึ้นมาให้เรารู้ว่าพร้อมแล้ว เราก้มหน้าลงไปซุกไซ้ที่ท่อนของเขาอยู่นาน
"ไม่ต้องหยุดนะ กำลังเสียว" หรั่งนอนหน้าเหยเกสูดปากเป็นระยะ แต่ไม่ยอมเสร็จและก็ไม่ยอมให้เราเลิกดูด จนเขาหลับไปอีกรอบ ส่วนเราก็ฟุบอยู่ที่หว่างขาเขานั่นเอง.............

ปอยเดินมาส่งบิลล์แขกที่เคาน์เตอร์แล้วไม่ทักทายเหมือนปกติ เราเนรับบิลล์แล้วก็ไม่สนใจ ไม่มีอะไรจะพูดต่างคนต่างเงียบและเราก็ไม่รู้สึกผิดอะไรในตอนนี้เราคิดเพียงแต่ว่าฉันมาก่อน ถ้าหาจะมีอะไรกันกับหรั่งแล้วทำให้คนที่มาทีหลังอย่างเธอเสียใจ ฉันก็ไม่ผิด เรื่องของปอยกับหรั่งไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ เป็นแค่ลมปากกระเทยที่สักแต่พูดเพื่อกันคนอื่น
"อย่างนี้ก็ดีแล้วละเอ๋ เรานิ่งๆแบบนี้ผู้ชายเขาจะได้ไม่อึดอัด"
"เราต้องอดทนขนาดนั้นเลยเหรอพี่สุ"
"แน่นอน อย่าลืมตัวสิถ้าจะคบผู้ชาย"
"ลืมตัวเรื่องอะไร"
"ก้มดูหว่างขาตัวเองสิว่ามีอะไร" เรทำตามที่พี่สุบอกก็ไม่เห็นมีอะไร" "เอ๋มีรูข้างหน้ารึเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องอดทนนะจ๊ะ" เราเพิ่งถึงบางอ้อพี่สุนี่เข้าใจยกตัวอย่างประกอบหน้า
"นังปอยคงคิดว่าตัวเองแต่งหญิงแล้วจะชนะคนอื่นสินะ คงจะลืมไปว่าติ่งที่หว่างขานะยาวตั้งแปดนิ้ว" ว่าแล้วพี่สุก็หัวเราะ นังอรยืนอยู่ใกล้ๆก็งง แล้วก็มองหว่างขาของตัวเองบ้าง
"พวกนี้พูดอะไรกันเนี่ย"
"อ๊ยลืมไปว่ามีชะนียืนอยู่ แต่ชะนีอย่างอรเนี่ยคงสู้พวกพี่ไม่ได้หรอก คงนอนหงายใช้อย่างเดียว"นังอรเหมือนโดนจี้จุดเดือด ไม่ยอมแพ้สานกลับมา
"เรียกเราชะนี สาวๆอย่างพวกพี่สู้เราไม่ได้หรอก รูของพวกเธอนะ แค่นี้เอง ใหญ่ไปก็รับไม่ได้" อรทำมือประกอบ "แล้วรู้มั๊ยของชะนีอย่างพวกฉันนะเหมือนสระที่มีแหน เคยเห็นม๊ยแหนสีเขียวๆหน่ะ" เราก็โง่พยักหน้าตาม
"แล้วไง"
"แกเคยโยนเห็นลงไปรึเปล่า" เราพยักหน้าแล้วก็นึกภาพตาม
"ก้อนใหญ่แค่ไหน โยนลงไปก็แหนก็กระจายแล้วก็รวมตัวเหมือนเดิม ใหญ่แค่ไหนก็รับได้หมดหย่ะ" มันเข้าใจยกตัวอย่างนะ เรานึกถึงตอนที่เขวี้ยงหินลงน้ำตามที่มันพูด
"ต๊าย ยายโบกขรณีอยู่นี่เอง เอ๋ หลบอย่าไปยืนใกล้มัน
เดี๋ยวมันดูดเข้าไปทั้งตัว" พูดเสร็จพี่สุก็ทำเป็นวิ่งหนีไปอีกมุมนึง อรวิ่งตามไปตีแล้วพวกเราก็หัวเราะกันลั่นแถวๆนั้น..............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

94. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 09:58 PM (SE Asia Standard Time)
 
   94……….
ไม่รู้อะไรดลใจในช่วงนั้นเหมือนชีวิตย้อนกลับไปสู่สมัยเรียนมัธยมอีก ความรักของเรากับพี่โด่งมันเหมือนถูกเก็บในลิ้นชักเพราะความห่างไกล แม้แต่หรั่งคนที่อยู่ใกล้ๆก็คล้ายกับว่ารู้สึกดีๆเท่านั้น ทุกอย่างมันดีขึ้นเพราะเพื่อนดีๆ ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพิ่อนสมัยเรียนเรารักษาสมดุลของชีวิตได้มากกว่าปัจจุบันด้วยซ้ำไป ทุกวันหยุดก็จะขลุกอยู่ที่ห้องของอี๊ด นอนเล่นคุยกันกับอี๊ดบ้าง ถาบ้างสนุกดี น้องไก่ยังไม่ละความพยายาม ยิ่งดูยิ่งอยากจะแกล้ง เรากับไก่อายุเท่ากันแต่เราไม่ทำตัวไร้เดียงสาขนาดไก่ ดูแล้วรู้สึกเลี่ยน ไม่กล้าตัดสินใจแม้แต่เรื่องง่ายๆจะเอาไม่เอาก็ตอบไม่ได้ บางวันไก่ก็มานั่งเล่นที่ห้อง
“พี่เอ๋ ทำงานน่าสนุกนะ ไม่ค่อยหยุดเลย”
“หยุดอาทิตย์ละวันก็พอแล้ว เลิกเรียกพี่ได้แล้วรุ่นเดียวกัน”
“ก็พี่เป็นเพื่อนพี่ถา ก็ต้องเรียกพี่สิ”
“ไม่ต้องมานับญาติกับฉันหรอก แล้วเรื่องของเธอไปถึงไหนแล้ว” ไก่ทำทีเป็นเขินแต่บิดได้ไม่มากนักเพราะความอ้วน
“ก็เรื่อยๆ ไก่อยากหุ่นพอดีๆอย่างพี่จังเลย นี่ไม่กินข้าวเย็นหลายวันแล้ว ตอนเย็นก็ไปวิ่ง”
“ทำไมถึงอยากลดความอ้วน ทรมานเปล่าๆ” มองแล้วก็น่าเห็นใจกับก้อนเนื้อที่ตรงท้องเรานึกในใจคงอยาก เราเองก็ไม่ใข้คนผอมแต่น้ำหนักมันพอดีตัวไม่อ้วนไม่ผอม
“ก็”
“เธออย่าบอกนะว่าลดเพื่อให้ผู้ชายรัก ผู้ชายไม่มีทางรักกระเทยหรอก” เราแสดงความคิดเห็น ไก่นั่งพลิกดูรูปแต่งหญิงของเรา
“อยากแต่งหญิงสวยๆบ้าง” เราส่ายหน้าไอ้ที่สวยอย่างที่เห็นนี่นึกแล้วขนลุก ไก่ก็เหมือนแต่งหญิงอยู่แล้วเสื้อพริ้วๆกางเกงรัดติ้วจนขาลอยเพราะต้นขาใหญ่
“ไม่เห็นจะอยากแต่งเลย แต่วแล้วตัวใหญ่ยังกะควาย” เราพูดต่อ “ไก่วันนี้ถาอยู่ห้องรึเปล่า”
“อยู่กำลังอ่านหนังสือ”
“ทำไมไม่ไปหาเขา” เราแกล้งเย้า
“ไม่เอาหรอก กวนเขาอ่านหนังสือ” ไก่วางอัลบั้มแล้วนั่งเท้าแขนหยิบขนมในจานกินไปเรื่อยๆ ยะอีลดความอ้วนของหวานทั้งนั้น
“ดีนะ เลยมากวนฉันแทน” ไก่เหมือนรู้ตัวว่าโดนด่าทางอ้อมเลยกระมิดกระเมี้ยนเดินออกจากห้อง เราทิ้งเวลาสักพักนึกในใจ ถาอยู่คนเดียวเหรอไปเล่นด้วยดีกว่า พยายามเดินหลบไม่ให้นังไก่เห็น คุ้นกันแล้วไม่อยากจะทำให้เสียน้ำใจนัก ประตูไม่ล็อคซะด้วย เราชะโงกหน้าไปดู ถานอนหลับอยู่บนที่นอน ค่อยๆปิดแล้วล็อคประตู อีบ้าเราด่าตัวเองในใจ จะทำอะไรวะ เราชะโงกดูถาเช็คดูว่านอนจริงๆรึเปล่า แกล้งแตะตัวแต่ไม่เรียกก็นอนนิ่ง หน้าหล่อๆมันเร้าใจดีนะ กางเกงบอลขาสั้นเลิกขึ้นมาถึงโคนขา กล้ามเนื้อแน่นดีจังอยากลูบจริงๆ ถาจะด่ามั๊ยน๊า เรานั่งลงข้างเตียงอย่างเบา แล้วลูบที่ขาไปมาแบบเบาที่สุด เป้ากางเกงมันนูนขึ้นมาแปลกๆ รูปหล่อซ่อนอะไรไว้ในกางเกงนะนี่ เราวางมือลงเบาตามรอยนูน ขนลุกซู่เลยอยากแล้วสิทำไงดีนะนี่ ลูบๆคลำๆได้ไม่เท่าไหร่ ถาก็รู้สึกตัวเรารีบหดมือกลับ
“เอ๋ ทำอะไรเนี่ย” ระทึกใจเหมือนพี่โด่งอีกแล้ว มันจะด่ามั๊ยนี่
“ก็เห็นมันข็งเลยอยากจับ แหมเสียดายนึกว่าหลับ” เราลุกขึ้นไปนอนทบนที่นอนของอี๊ด
“ทำไมวะกระเทยชอบยุ่งกับเราจัง”ถาเกาหัว ถาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสเป็คของกระเทยได้แต่งง หน้าคมตาสองชั้นยาวรี จมูกโด่ง ปากก็สวย
“ก็อยากหล่อทำไมหล่ะ” เราทำทีไม่สนใจแล้วนอนอ่านการ์ตูนเล่น ถาขยับตัวไปเปิดโทรทัศน์แล้วมานั่งดูใกล้ๆเราก็ทำเป็นวางมือที่ขาเขาแล้วลูบเล่น ขนที่ขาลุกแล้ว ถามองหน้าเราอย่างไม่แน่ใจ เราเห็นไม่พูดก็ได้ใจใหญ่สอดมือเข้าไปในขากางเกง ถาหันมามองอีก ยังไงหล่ะทีนี้ขอบกางเกงในอยู่ที่ปลายนิ้วแล้ว เราค่อยๆขยับนิ้วไปตามรอยนูนนอกกางเกงในจนถึงปลายแล้วเขี่ยเล่นมันเริ่มสู้มือแล้ว ถาจับมือเรานอกกางเกงให้หยุดแล้วพยายามจะอามือเราออกแต่ขอโทษทั้งพวงอยู่ในอุ้งมือแล้ว เราก็มองหน้าเขาอีกทีถาปล่อยมือ เราก็แซะขอบกางเกงในแล้วลูบที่นา ไข่ จากนั้นก็ขยับไปจนถึงลำใช้ปลายนิ้วแตะที่ปลาย แฉะแล้วนี่นา ถาคงทั้งอายทั้งเงี่ยนหน้าแดง
“แล้วไงหล่ะ จะนั่งเฉยๆเหรอ” เราจับเคของเขาออกมาจากขากางเกงในแล้วรูดทันที แล้วพยายามเปิดขากางเกงบอลเพื่อจะดู ถาเอามือปิดไว้
“ไม่ต้องเอาออกมาหรอก”มือเราทำงานไปเรื่อยๆเราแอบมองหน้าเขาหลายครั้งน้ำลายเริ่มสอ ปลายเริ่มแฉะแล้วแต่ทำได้ไม่นานก็มีเสียงไขกุญแจห้อง เรารีบดึงมือออกถารีบเก็บอาวุธแล้วนอนคว่ำ อี๊ดกลับมาแล้ว
“เฮ้ย ล็อคห้องทำไมวะ” อี๊ดทำหน้างงเล็กน้อยที่เห็นเราอยู่ด้วย “ฮั่นแน่เล่นอะไรกัน”
“ไม่มีอะไรนี่ คงเผลอล็อค ตอนเข้ามา” เราโกหก ในใจก็เห็นใจถาเหมือนกัน ถาแกล้งหลับทั้งอย่างนั้นอี๊ดเอาขาไปเขี่ยที่ตัวถา “นอนคุยกันจนหลับแล้ว” เราก็อธิบายต่อ อี๊ดเหมือนว่าจะเชื่อถาแกล้งทำเป็นรู้สึกตัวแล้วเดินไปนอนบนที่นอนตัวเองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ขอโทษทีเถอะตรงเป้ามันยังแข็งอยู่เลย เรารออี๊ดผลัดผ้าจนเดินเข้าห้องน้ำแล้วรีบไปคุยกับถา
“กลับแล้วนะ”
เราเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่คั่งค้างในอารมณ์อย่างมากทำยังไงดีเนี่ย ต้องช่วยตัวเองอีกเหรอ เฮ้อเบื่อจัง แวะไปหาไก่ที่ห้องดีกว่า นู๋ไก่กำลังทำกับข้าวอย่างขะมักเขม้น
“ทำอะไรกิน ไหนบอกว่าลดความอ้วนอยู่ไง”
“วันนี้ไปตลาดเห็นผักน่ากินเลยซื้อมา แล้วก็ทำพะโล้ไว้ด้วย พี่เอ๋มากินด้วยกันสิ” ไก่เป็นแม่ครัวตัวกลั่น เรานึกถึงอาหารเย็นวันนี้ที่ห้องอี๊ดคงอิ่มกันถ้วนหน้า น้องไก่เอ๊ยเสียเงินซะเยอะแยะ คงมีความสุขสินะที่ทำเพื่อผู้ชายที่หลงรักอยู่ เราเข้าใจความรู้สึกของไก่ดี แต่เรามันนางมาร นางฟ้าจะทำอะไรก็เรื่องของนางฟ้าแล้วกัน
กินข้าวด้วยกันเราพยายามมองหน้าถา เขาหลบสายตาเล็กน้อย
“เอ๋ วันนี้ทำงานมั๊ย” อี๊ดถาม
“ไม่ทำ ถามทำไมจะไปหาที่ห้องเหรอ” เราตอบอี๊ดแต่มองไปที่ถาเหมือนส่งสัญญาณ
“ดีไก่จะได้ไปเล่นด้วยอีก ” ตอบผิดคน
“เรื่องอะไรจะไป” อี๊ดตอบกวนๆ แล้วมองไปที่ถา เราไม่รู้สองคนพูดอะไรกันหลังจากที่เราออกจากห้องรึเปล่าแต่ช่างเถอะ มันก็รู้กัหมดในหมู่เพื่อนแล้วนี่ นกเข้ามาแจมข้าวเย็นอีกคนตอนหลัง กินเสร็จก็บกวาดน้องไก่กุลีกุจอล้างถ้วยล้างจานเอง ช่างเป็นกุลกระเทยยิ่งนัก จนหล่อนกลับไปห้อง นกก็แยกย้าย เรามองหน้านกเหมือนเชิญชวนไปที่ห้องแต่เขาส่ายหน้าเหมือนมีธุระ อี๊ดก็ออกไปข้างนอกต่อเหลือเรากับถาอีกแล้ว เราอยากจะปิดการขายให้เสร็จในวันนี้จริงๆ แต่ถาไม่ยอมปิดห้องซักที อดรนทนไม่ไหวเลยขยับเข้าไปปิดเองแล้วลงไปนั่งใก้ๆถาที่กำลังดูโทรทัศน์ ลูบที่ขาเบาๆ
“เอ๋ นอนกี่ทุ่ม” ถามทำไมนะ
“วันนี้คงดึกเพราะไม่ต้องทำงาน มีอะไรเหรอ”
“เปล่า เผื่อว่าบางทีจะไปเล่นด้วย”
“ก็ไปเลยสิ จะรออะไรหล่ะ เดี๋ยวอี๊ดก็กลับมาก่อนอีกหรอก”
“มันไม่กลับมาแล้ว วันนี้มันจะไปนอนกับหอพี่มัน”ถาบอก
“งั้นเรานอนที่นี่นะ” มือเราล้วงไปกุมที่เป้าข้างในอีกก่อนจะลุกขึ้นบอกกับถาว่า “ไม่ต้องล็อคห้องนะเดี๋ยวดึกๆเราจะมาหา” ทางเปิดแล้วเรารีบกลับไปอาบน้ำทำธะส่วนตัวให้เสร็จโดยเร็ว ถุงยางคงใช้ของพี่เพลินได้แล้วเดินนึกกระหยิ่มในใจกลับไปหาถาอีกครั้ง..........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

95. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 10:00 PM (SE Asia Standard Time)
 
   95…..
นังไก่ทำไมยังไม่หลับไม่นอนอีกนะ คนจะเข้าหอสักหน่อยมานั่งเป็นก้างขวางคออยู่ได้ เรารู้สึกไม่สบอารมณ์ที่เห็นเพื่อนสาวนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่กับถาสองต่อสอง
“พี่เอ๋มาทำอะไรเหรอ” ถามอย่างแปลกใจ
“ไม่มีอะไรนอนไม่หลับเลยมาเดินเล่น” เราตอบอย่างเสียไม่ได้
“ไก่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน” เราไม่เข้าไปที่ห้องแต่เลี่ยงไปที่ห้องนกแทน นกนั่งอ่านหนังสือคนเดียวอยู่ในห้องเพื่อนๆไปอ่านกันในรามใต้ตึกเรียน หลายคนบอกว่าอ่านแถวนั้นแล้วมีสมาธิบางทีกลับกันเกือบเช้า ไม่กลัวผีกันรึไงนะ รามตอนกลางคืนมือจะแย่ยิ่งใต้ตึกเรียนยิ่งวังเวง นกละสายตาจากหนังสือวันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวเหมือนฝนจะตก เราได้กลิ่นฝนโชยมาตั้งแต่เย็นแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตกสักนิด
“มาทำไม” นกถามเราเมื่อเห็นเราเดินเข้ามาในห้องแล้วออกไปยืนรับลมที่ระเบียง
“มาเล่นไม่ได้เหรอ” เรายืนเกาะราวระเบียงมองท้องฟ้าที่มีสีแดงอยู่อีกด้าน
“อ่านหนังสือถึงไหนแล้วเอ๋” นกเดินมาที่ระเบียง
“จบแล้วเหลือแต่ทำแบบฝึกหัด” บัญชีต้องขยันทำการบ้านไม่งั้นจะทำข้อสอบไม่ได้ นกดีกว่าไม่ต้องเหนื่อยมากเรียนรัฐศาสตร์ ใช้ความเข้าใจกับหลักการและอ่านหนังสือมากๆ ไม่ต้องมาเดบิต เครดิตเหมือนเรา ฟ้าแล่บไกลๆแล้วจากที่เคยร้อนอบอ้าวเมื่อครู่ ลมฝนเย็นๆเริ่มพัดเอื่อย
“ไม่กวนแล้วกลับหล่ะ” นกจับแขนเราไว้
“งอนอะไรหล่ะ” นกถาม
“ก็เห็นอ่านหนังสืออยู่ขอโทษนะ พอดีนอนไม่หลับ” เราทิ้งนกให้อ่านหนังสือต่อแล้วเดินช้าๆที่ห้องถา ประตูห้องปิดไปแล้ว ไก่คงกลับห้องแล้วมั๊ง เราเคาะประตูเบาๆรออยู่นานไม่มีคนเปิดให้ลองบิดลูกบิดดู ก็ล็อคสงสัยนอนแล้วมั๊ง ไม่กวนดีกว่าฝนจะลงเม็ดอยู่แล้วฟ้าร้องดังกว่าเดิมเรารีบวิ่งลงชั้นล่างเพราะกลัวเปียก ถายืนอยู่ที่ทางออกพอดี
“ไปไหนมา ไปหาที่ห้องไม่เจอ” เรามองหน้าเขา
“ก็ไปหาที่ห้องเหมือนกัน” เราเดินออกประตู ถาตามมาแบบรีบๆ เราทั้งคู่เข้าหอของเราไม่ทัน เปียกเล็กน้อยหนาวชะมัด เรายื่นผ้าขนหนูให้ถาเช็ดผม
“ฝนอะไรมาตกตอนนี้” ถาพึมพำ
“ฝนหลงฤดูนะสิ มาหาเรามีอะไรเหรอ” เราเปิดพัดลมตัวเล็กแล้วเอาหน้าผมไปจ่อ
“เอ๋บอกว่าจะไปหา เห็นดึกแล้วยังไม่ไปก็เลยมาดู”
“งั้นเหรอ เราเห็นไก่นั่งอยู่หน้าห้องเลยไม่อยากเข้าไป แล้วอ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ”
“อ่านรู้เรื่องที่ไหนหล่ะ มานั่งเฝ้าชวนคุยโน่นคุยนี่ เราไล่ให้มันไปนอนแล้วถึงยอมออกจากห้อง” ถาเช็ผมเสร็จก็ยื่นผ้าคืนเรารับมาแล้วเอาไปตากที่ระเบียงหลัง ฝนสาดมาบ้างแต่ไม่ถึงกับเปียกเราเปิดไฟระบียงแล้วแหงนมองข้างบน
“ไก่ยังไม่นอนเลยนะ นั่งอยู่ระเบียงอยู่เลย” เราปิดไฟแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง ดึงผ้าม่านที่หน้าต่างลง ถายืนเก้ๆกังๆเพราะไม่รู้จะทำอะไร เราเดินไปหยุดที่ตรงหน้าเขา
“มีอะไรกับเราเหรอ” มือเราก็คว้าไปด้วยพร้อมยิงคำถาม ลูบมันเล่นนอกกางเกงบอล ผ้าลื่นๆทำให้สัมผัสได้เต็มๆ มันค่อยๆสู้มือแล้ว เราสอดมือเข้าไปที่ขอบกางเกงจนถึงชั้นใน ขนฟูกระจัดกระจายโคนใหญ่เต็มมือดีเหมือนกันขนาดก็ใช้ได้ แต่ปลายยังไม่เปิดดีนัก ถาเพลินกับมือเราสักพักก็จับมือเราไว้
“ดูดดีกว่า” เขากระซิบที่หูเบาๆ
“ดูดให้แล้วจะทำอะไรให้รึเปล่า รูปหล่อ” เราเอามือดึงกางเกงลงช้าๆบีบที่แก้มก้นเล่น
“อย่างอื่นทำไม่เป็นหรอก” ถาก้มหน้ามองตามมือของเราที่ค่อยๆรูดกางเกงขาอยู่มันหล่นไปที่พื้นแล้วตอนนี้เหลือแต่กางเกงใน เป้านูนเด่นเราสัมผัสมันข้างนอกอีกที เปียกเป็นดวงแล้วคงจะอ่านหนังสือจนเครียดสิท่า
“ทำไม่เป็นเดี๋ยวสอนให้” เราดันถาไปที่เตียงเขาหย่อนก้นลงนั่ง
“เอ๋ปิดไฟก่อนสิ”
“ปิดไฟแล้วจะเห็นอะไร” เรามองเขาอย่างยั่วยวน
“นะปิดก่อน”
“อยากเห็น กลางวันก็ไม่ยอมให้ดู”เราเอามือล้วงไปที่กางเกงในแล้ว ถาเอนตัวลงนอนเอาหมอนปิดหน้าแต่ก็ยกก้นลอยตอนที่เราดึงกางเกงในเขาออก อาเร้าอารมณ์จังเลย เราจับมันพลิกซ้ายพลิกขวา หนังยังเปิดไม่หมดปลายโผล่มาหน่อยๆเท่านั้น ลมฝนพัดผ้าม่านปลิวเตียงเราติดที่หน้าต่างละอองฝนเบาๆยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านกว่าเดิม เรารูดหนังจนสุดปลายแดงแจ๋เลยที่รูมีน้ำใสปริ่มแล้ว ครั้งแรกที่ปลายลิ้นเราแตะถาถึงกับสะดุ้งแต่มือหมอนยังปิดหน้าอยู่เราดูดเน้นโยกหัวอย่างแรงเสียงถาครางฮืดฮาดไม่ทันไรนับนังไม่ถึงสิบก็พุ่งเราถอนปากออกใช้มือช่วยกระตุก น้ำขาวทะลักออกมาเลอะเต็มหน้าท้องถาเด้งตัวอีกครั้งเอาหมอนออกจากหน้ามองมือเราที่กำลังรูดมันอยู่จนหมด เราหยิบทิชชู่มาเช็ดที่หน้าท้องของเขาจนหมด ถาจะใส่กางเกงแต่เราดึงมือเขาไว้
“อย่าเพิ่งสิ จะรีบไปไหนฝนยังไม่หยุดเลย”
“ก็เสร็จแล้ว” ถาทำหน้าเหมือนอายๆ เรายังกระตุกมือต่อเรื่อยๆ มันเริ่มสู้มืออีกครั้ง เราเดินไปปิดไฟแล้วไปบ้วนปากที่ห้องน้ำ กลับมานั่งที่เดิม ก้มหน้าไปจูบที่ปากเขาถาหลบ
“ทำไมเหรอ”
“ไม่เคย”
“ก็ลองดูสิ”
“แต่เอ๋เพิ่งดูดเมื่อกี๊”
“ก็ของตัวเองรังเกียจอะไรเหรอ”เราประกบปากเขาอีกครั้งค่อยๆดันลิ้นเข้าไป วิทยายุทธของพี่โด่งถูกงัดมาใช้เรารุกอย่างแรงบางครั้งก็โดนฟัน แต่ก็ต้องพยายามนำให้ดีที่สุด นักเรียนใช้ได้นี่
“ถอดเสื้อเถอะ” ถาทำตามอย่างว่าง่าย ในความมืดนั้นเราควานหาถุงอย่างใต้ที่นอน เราซุกไซ้ไปที่ซอกคอแล้วไล้ตามหัวนมก่อนที่จะมาหยุดที่กลางตัวอีกครั้งทั้งดูดทั้งดุนจนมันแข็งเต็มที่ก่อนจะบรรจงสวมถุงยางช้าๆ
“เอ๋จะทำอะไร เราไม่เคยนะ” ถุงยางใส่จนเสร็จแล้วยังจะถามอีก
“เดี๋ยวก็รู้” ขนาดเท่านี้คงไม่ยากเราปาดเควายแล้วลุกขึ้นคร่อม ค่อยๆจ่อและกดลงไปช้าๆ
“เจ็บหัว” ถาบอกเบาๆ เราไม่รู้ว่าผู้ชายมันเจ็บด้วยเหรอเห็นมีแต่มัน ดันอย่างเดียวพอเข้าไปได้ นี่แบบไหนกัน เรากดสะโพกจนมิดด้ามแล้วเข้าจังหวะ ไม่สนุกเลยนอนนิ่งอยู่ได้
“ถาช่วยหน่อยสิ” เราเอนตัวลงนอนข้างถาขับตัวตามแล้วตัวเราก็อยู่ข้างล่างเขา”ทำเองนะ” ไม่ต้องสอนเลยคะแค่นี้นายถาก็โยกเราอย่างแรง เร่งเครื่องอย่างเดียว จนเราสะเทือนไปทั้งตัวฟ้ายังคำรามนี่จะโดนผ่ามั๊ยนะถาดันจนเสร็จแล้วคาไว้จนมันเหี่ยวข้างในเราก่อนจะหงายหลังไปนอนข้างๆเราดึงตัวออกพร้อมกับดึงถุงยางลุกไปล้างเนื้อล้างตัว เงาของไก่ที่ชั้นบนยังมองเห็นได้ชัด สักวันเถะจะล่อที่ระเบียงให้ดู นังไก่ เรานอนกอดถาแน่นหลับไปพร้อมกับฝนที่ยังคงตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ตื่นมาตอนเช้าเรากลับรู้สึกเขินถาไม่ยอมออกจากห้องง่ายๆจนเราหิวถึงชวนกันออกมากินข้าวที่หน้าหอ แม่บ้านร่างอ้วนเดินหอบกับข้างกลับมาจากปากซอย ยิ้มมาแต่ไกล
“พี่เอ๋ วันนี้จะทำผัดกระเพรากับแกงจืด” ไก่ชูถุงกับข้าว เรานึกถึงเวลาที่ไก่กินข้าวทีไรแล้วสะท้อนใจเมื่อไหร่จะผอมได้นะ วันๆหล่อนคิดถึงแต่กับข้าว ไก่เดินขึ้นหอไปแล้ว ถาก็แยกตัวกลับห้องหลังจากกินเสร็จ เรายืนมองตามหลังเขา เฮ้อเพื่อนฝูงก็ไม่เว้น ทำไมนิสัยชอบเอาชนะมันแก้ไม่หายนะ ยิ่งรู้ว่าต้องแย่งกับใครยิ่งอยากทำ ไก่ไม่ใช่คู่น่อสู้ของเราสักนิด เราเดินไปหาไก่ที่ห้องก็นึกสงสารคนที่คอยดูแลเขาไม่ห่างกับทำได้แค่เพียงกับข้าวเท่านั้นเองรึ แต่เราไม่ต้องทำอะไรสักนิด มารยาร้อยแปดที่งัดมาใช้ก็เท่านี้เองเหรอ ไก่นั่งกินข้าวจานที่สองเงียบไม่พูดมากเหมือนทุกวัน หรือว่าไก่จะรู้ เรามองเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆจากแววตาของไก่ที่มองเราในบางครั้ง เรารู้สึกละอายใจจังที่ทำแบบนั้น คืนที่ผ่านมาหน้ามืดตามัวไปแล้วมันคงแก้ไขอะไรไม่ได้ ยิ่งถาบอกกับเราตอนที่ไก่กลับห้องไปแล้วยิ่งทำให้เราคิดมากขึ้นมาอีก
“เดี๋ยวจะไปเล่นที่ห้องอีกนะ ตอนเย็น”
“ไปเล่นอะไร”
“ไม่น่าถาม มันส์ดีนะเอ๋” บอกแล้วว่าของอย่างนี้อย่าลอง ได้ลองแล้วมันจะติดวัยรุ่นวัยคนองอย่างนี้น้ำมันเยอะต้องรีดกันอีกนานเลยแหละ คืนนั้นเราก็เดินรูโบ๋ไปทำงานขาสั่นเลย ไม่รู้ว่าถามันอดกลั้นมาจากไหนเบิ้ลซะเพลินจนไม่อยากมาทำงาน
“ทำไมหน้าโรยๆยะ ไปทำอะไรมา” พี่สุทักเมื่อเจอหน้ากัน วันนี้หรั่งก็อยู่ดึก เราหลบสายตาหรั่งไม่อยากมองหน้ารู้สึกผิดที่ดอกทอง
“อ่านหนังสือทั้งวัน”
“หนังสือโป๊เหรอ” หรั่งชะโงกหน้ามาแซวที่เคาน์เตอร์
“อ่านทำไม หนังสือโป๊ เล่นเองสนุกกว่า ว่ามั๊ยคะพี่หรั่ง” เราสวนตอบไป หรั่งทำหน้ายี้แล้วเดินออกจาเคาน์เตอร์ไปตรวจความเรียบร้อยต่อ
“เอ๋วันนี้ช่วยพี่ส่งแขกวีไอพี หน่อยนะ หลายห้องมาพร้อมกัน” รอบดึกคนน้อยถ้าแขกวีไอพีมาต้องส่งกันถึงห้องเลย เรารับมาสองส่งแขกเสร็จยืนรอลิฟต์ พอลิฟต์เปิดก็จ๊ะเอ๋กับหรั่งที่กำลังตรวจฟลอร์ เขาเดินไปดูแถวบันไดหนีไฟ เปิดเข้าไปส่องดู แล้วกวักมือเรียกเรา
“มีอะไร”
“เอ๋ดูอะไรนี่ หรั่งเอามือจับเคที่แข็งเป็นลำ นอกกางเกงให้เราดู”
“แล้วไงหล่ะ”
“แล้วไงหล่ะ ทำหน้าที่หน่อย” พวกเราใช้บันไดหนีไฟเป็นที่รีดพิษร้ายของหรั่ง หรั่งจับหัวเราโยกแรงจนแตกขาปากเราบ้วนทิ้งที่พื้นหรั่งก็เอาวอเคาะหัว “ทิ้งหลักฐานได้ไง”
“บ้า ทำไมไม่ไปหาที่ห้องเลย”
“ไม่ว่าง”
“ทุกทีแหละ มีแต่ไม่ว่าง ระวังเถอะจะหาคนมาแทน”
“ใครจะเอาอยู่ ระดับเอ๋”หรั่งน้ำแตกแล้วอารมณ์ดี
“แล้ววันนี้เป็นอะไรขึ้นมาอยากไม่เลือกที่”
“เห็นหน้าแล้วอยากเอาค-ยกระแทกปาก”
“บ้า” เราตีที่เป้าหรั่งอีกที เขาก็แอ่นให้ตีอีก
“หรั่ง กลับด้วยกันนะวันนี้” เป็นครั้งแรกที่เราชวนเขา
“แน่นอนอยู่แล้ว” เขาตอบพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เปิดออก เราทั้งคู่แยกกันเดินไปคนละทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ส่งแขกหรือนอนกับแขกยะ น้องเอ๋ เดี๋ยวต้องเก็บค่าจอยเนอร์ นะ เอามาสี่ร้อยบาท” พี่สุแซวแล้วส่ายหน้า”มีอะไรดีๆไม่เล่าให้ฟังนะ ถ้าเสียใจอีกจะไม่ช่วยเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ แค่” เราทำมือเหมือนโม๊คให้พี่สุดู
“อีทะลึ่ง” พี่สุค้อนแล้วหันไปทำงานต่อ หรั่งยืนยิ้มมองเราจากที่หน้าลิฟต์ ดีจังเลยนะความรู้สึกแบบนี้ ความทรงกจำที่แสนไกล อยากจะนั่งไทม์แมชชีนกลับไปอีกครั้ง...................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

96. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 10:02 PM (SE Asia Standard Time)
 
   96…..
...ของบางอย่างหากได้มาง่ายๆก็รู้สึกเฉยๆ เช่นเรากับถา มันง่ายจนเราเองก็คาดไม่ถึงว่าจะปิดการขายได้อย่างเร็วขนาดนั้น แต่นางมารอย่างเราไม่หยุดอยู่แค่นั้นสิ่งที่ต้องการคือต่อยอดวิทยายุทธออกไปอีก ความไร้เดียงสา อ่อนต่อโลกไม่หลงเหลือ เรามองผู้ชายเป็นของหวานที่อยากจะกินเมื่อไหร่ก็แค่เปิดห่อเท่านั้น กับความรักที่มีต่อพี่โด่งที่ไม่มีคำตอบ หรือแม้แต่ความรู้สึกที่มีกับหรั่งก็แค่คลุมเครือแม้แต่เราเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าคิดอย่างไรรู้แต่ว่าเหมือนเด็กหวงของพอถูกแย่งก็ต้องยื้อกลับคืนมา เราเหมือนคนที่ไร้รักอาจจะเป็นเพราะต้องมีสมาธิกับการเรียนอย่างมากและดูวุ่นวายกับการทำงานที่กำลังไปได้ด้วยดีแต่เราก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองไร้ผู้ชายหรอก
วันเกิดของอี๊ดมาถึงเราลางานเผื่อไว้สองวัน อี๊ดจักปาร์ตี้ง่ายๆหลังสอบเสร็จโดยมีเรากับไก่เป็นแม่ครัว ไก่ดูมีความสุขมากเราก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพื่อนเด็กวิทย์คอมหลายคนที่เราได้รู้จักมีสองสามคนที่พอมีลุ้น
“ไก่ เคยกินผู้ชายบ้างมั๊ย” เราถามตอนที่อยู่กันสองคน
“พี่เอ๋ ถามอะไร” ไก่ทำทีเป็นอาย
“แล้วถาหล่ะ” ไก่ส่ายหน้า
“ไม่รู้จะทำยังไง”
“อย่ามาตอเลย กระเทยด้วยกันฉันพอดูออกหรอก เธอก็จ้องหาโอกาสอยู่หละสิ”
“ยังไม่ได้จริงๆ” ไก่ทำหน้าตาซีเรียส
“แล้วไม่อยากได้เหรอ เฝ้ามาตั้งนาน”
“ก็อยากแต่ว่า อย่าพูดเลย พี่เอ๋จัดการไปแล้วนี่ ไก่เลิกชอบเขาแล้วหล่ะ ชอบพี่เมธดีกว่ายังไม่มีคนจีบ” ไก่พูดถึงเมธที่แยกห้องไปอยู่กับเพื่อนอีกคน
“งั้นฉันจะจีบ” ไก่ทำหน้าขอร้อง “แค่จีบเล่นๆแค่นั้นแหล่ะ คืนนี้เธอก็อย่าทำตัวไร้เดียงสานักนะ ตามกันให้ทันหน่อย” เราเห็นใจไก่ขึ้นมา ไก่พยักหน้า
คืนนี้เป็นคืนปลอด หลายห้องกลับบ้านกันแล้วเพราะปิดเทอมผู้ชายเกือบสิบคนไม่รวมเรากับไก่ล้อมวงกันอย่างกินเหล้าอย่างสนุกสนาน อี๊ดยังไม่มีแฟนงานนี้เลยไม่มีน้องนีมาเป็นก้างขวางคอ นังเพื่อนผู้หญิงของเราก็ไม่ชอบขึ้นมาบนห้องผู้ชายพวกหล่อนเอาของมาให้อี๊ดที่ข้างล่างแล้วขอตัวกลับ เพราะเราบอกว่าผู้ชายเยอะแล้วก็กินเหล้ากันด้วย เพื่อนผู้หญิงก็เบ้หน้า เด็กผู้หญิงสมัยเราถูกเลี้ยงมาอย่างดีแม้จะเป็นเพื่อนกันก็จะไม่ได้ให้ความสนิทสนมถึงขั้นเฮอาปาร์ตี้เข้ารกเข้าพงไปทั่วอย่างสมัยนี้ ไม่ใช่หัวโบราณแต่เป็นเพราะทุกคนมุ่งมั่นในการเรียนและไม่ได้ใส่ใจในเรื่องอื่นมากไปกว่าความรับผิดชอบต่อผลการเรียนพวกมันบอกว่าผู้ชายไร้สาระขอเรียนก่อน เราอยากจะให้พวกมันมาสอนเด็กสมัยนี้จริงๆว่าทำอย่างไรถึงมองว่าผู้ชายไร้สาระ ทั้งๆที่ชีวิตก็รายล้อมด้วยผู้ชายตามจีบ นับถือจริงๆ แต่สำหรับเราผู้ชายมีสาระมากฮิฮิ
“Happy Birthday to you…………..” ในวงเหล้าพอเมาเริ่มครวญครางให้เจ้าภาพ นังไก่ตกม้าตายไปตั้งแต่คนแรกนั่งซึมกระทือคออ่อนคอพับไปแล้ว มิใยที่เราจะสะกิดมันก็งัวเงียมาอือๆอีกแล้วก็โผเผไปนอนบนที่นอน ถาตางี้เยิ้ม ไอ้อี๊ดก็แหกปากคุยเรื่องสาวคนโน้นคนนี้ให้เพื่อนฟังเหมือนว่าตัวเองเก่ง ก็เก่งแต่ปากเท่านั้นแหละ เราจำไม่ได้ว่าเพื่อนใหม่แต่ละคนชื่ออะไร กระเทยถ้ากินเหล้ากับผู้ชายควรจะหาเพื่อนมาคอยเป็นลูกรับลูกส่งด้วยไม่งั้นผู้ชายมันจะคุยถึงแต่เรื่องชะนี กับเรื่องอื่นๆจนลืมพวกเราซึ่งเราก็รู้ถึงความจริงแล้วในคืนนี้ หันไปมองนังไก่แหมมันน่านัก นกมานั่งคร่อมที่ข้างหลังแล้วกระซิบบอกให้กลับห้อง
“เฮ้ยไอ้นก กูรู้นะว่ามึงจะทำอะไร” อี๊ดชี้หน้า “มึงจะชวนอีเอ๋ไปไหนวะ” เมาแล้วมันเรียกเราอี
“ชวนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์” เราลอยหน้าลอยตาบอก
“ดื่มน้ำว่าวหล่ะสิ” อี๊ดแหกปากอีก เพื่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเมาแล้วช่วยโปรโมท
“แค่กระบอกเดียวไม่พอหรอก ไอ้บ้า” ถามองหน้าเราแล้วอมยิ้ม
“ใครมีบ้างวะน้ำว่าว เอ๋มันจะขอซื้อ” ทุกคนเงียบ
“ไอ้เวร พูดอะไรก็ไม่รู้ อย่าไปเชื่อมันนะ” เราทำหน้าไร้เดียงสาแล้วเอนหลังพิงนกทำทีเป็นลูบขาไปด้วย
“เฮ้ยเดี๋ยวทนไม่ไหว” นกก็เล่นด้วยแล้วทำเป็นครางซี๊ดซ๊าดไอ้อี๊ดตัวดีเปิดวีดีโอโป็ให้วงเหล้าดูพ่อแม่มันรวยขอปุ๊บก็ได้ปั๊บส่วนเราก็เก็บเงินอยู่นานกว่าจะได้สักเครื่อง เอาละสิทีนี้นกยิ่งงุ่นง่านใหญ่สะกิดเราอีก
“จะไปไหนวะ” อี๊ดยังไม่ละความสนใจแล้วเดินไปปิดประตูห้องพร้อมกับปิดไฟ “อย่างนี้ค่อยได้อารมณ์หน่อย”
“มึงจะเปิดทำไม เดี๋ยวก็เมื่อยมือหรอก” เราบอกอี๊ดแล้วก็เก็บสถานที่เหล้าหมดไปแล้วถา เพื่อนอี๊ดช่วยกันเก็บจนเรียบร้อยเช็ดพื้นที่เปียกแล้วแต่ละคนก็นั่งกันตามมุมถนัดส่วนอี๊ดมันก็ไปกวนน้องไก่ของมันให้ลุกมาดู ไก่ก็ว่าง่ายตื่นมานั่งดูใกล้ๆ อี๊ดก็แกล้งบีบนมมันเล่นนมคนอ้วนแทบจะแหลกคามือ นังไก่ก็เคลิ้ม เรากลัวอารมณืจะกระเจิงเลยไปล้างถ้วยจานที่หลังห้องตาก็คอยมองพฤติกรรมแต่ละคน อี๊ดเอามือไก่สอดเข้าไปในกางเกงแล้วไก่ก็รูดใหญ่ นกเดินออกมาหาเราที่ระเบียงตอนที่เราเก็บถ้วยจานที่ล้างเสร็จ
“เอ๋ กลับห้องกันเถอะ”เราบุ้ยใบ้ไปที่ห้องน้ำแล้วมองไปในห้องอีกที อี๊ดเอาผ้าห่มคลุมหัวไก่ที่กำลังขยุกขยิกอยู่ในนั้น เราเดินตามนกเข้าห้องน้ำ
“อี๊ดมันทำอะไร” เราถามนก
“อีไก่มันก็ดูดของมันประจำแหละ บอกว่าชอบไอ้ถาก็เห็นมันดูดไอ้อี๊ดแทนทุกที”
“คงจะบ่อยแล้วสินะ ถึงไม่อายแล้วนกจะอายทำไม”
“ไม่ได้อายหรอกแค่ดูด แต่อยากเอามากกว่า”นกถอดกางเกงแขวนไว้ เรายื่นถุงยางให้
“เตรียมมาพร้อมเลยเหรอ”
“ก็ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉิน” เราจูบกับนกอย่างเร่าร้อนมันกระตุ้นอารมณ์อย่างแรงเหมือนกับแอบขโมยกินขนม นกกระแทกเราอย่างแรงจนเราต้องพิงฝาห้องน้ำ จนเขาเสร็จแต่เราไม่อิ่ม
“นกไปต่อที่ห้องกันเถอะ” เราบอกกับนกที่กำลังใส่กางเกงอยู่
“เดี๋ยวเราไปนอนรอที่ห้องเรานะ” นกรีบเดินออกไปทั้งวงก็มีเฮ อี๊ดทำหน้าเหยเก นังไก่เป็นนางเอกหนังเอ็กซ์ไปซะแล้ว หนุ่มๆคอยชะโงกมองอี๊ดกับไก่เรานั่งลงใกล้ๆหนุ่มคอมพ์หน้าหล่ออีกคน แหมจะเก็บของเก่ากินอย่างเดียวก็ใช่ที่ ความเมากับความอยากมันปะปนกันไปหมดแล้ว ก็ได้แต่หวานคอแร้งอีกหนึ่ง
“ดูทำไมคนอื่น” เราเอามือลูบกางเกงยีนส์ของเขาแล้วไล่ไปที่เป้าก่อนจะงับที่ติ่งหู แหมเด็กแนวด้วยนะใส่ตุ้มหูติดข้างนึงซะด้วย พยายามจะล้วงแต่ติดกางเกง “ไปเยี่ยวก่อน” เขาบอกเราเหมือนให้เราตามไปขนาดพอดีตัวไม่เร้าใจมากและแนวเดียวกับถาเลยแป็บเดียวก็เสร็จ ออกจากห้องน้ำคนอื่นๆหลับกันไปบ้างแล้ว เราก็ล้วงคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อวัดขนาดแม้แต่ถาเองก็เถอะ อี๊ดสบายตัวไปแล้ว เสียดายมัวแต่เก็บของเก่าจนผู้ชายหลับกันหมด ไก่ดูเราทำแล้วก็ลองบ้างแต่หล่อนไม่มีเทคนิคผู้ชายพลิกตัวหนี เรากับไก่ตรวจคุณภาพสินค้าเสร็จก็เดินออกจากห้อง แล้วมองหน้ากัน
“ไหนบอกว่าชอบถา ทำไมทำกับอี๊ด”
“ก็พี่ถามันยากนี่”
“ลองหาโอกาสดูสิ ตัวเองชอบก็อย่าปล่อยให้เสียโอกาสไปเดี๋ยวเขาเรียนจบ จะมานั่งเสียดาย”
“เพื่อนไก่ยังชอบเลย บอกว่าแฟนหล่อ เวลามาเล่นด้วยบอกให้ติดต่อให้ประจำ”
“หมายความว่าพาเพื่อนมาจีบแล้วเหรอ” ไก่พยักหน้า “จะบอกอะไรให้นะไก่ กระเทยเขาไม่อดอยากขนาดนั้นหรอก เขาหากินกันเองได้ยิ่งตัวเองทำเอิกเกริกพาเพื่อนมาเที่ยวบ่อยๆ เขารำคาญ เธอจะพลอยนกไปด้วย แล้วอวดว่าเป็นแฟนตัวเองอย่านึกว่าจะได้อะไรนะ ไม่มีใครเขาเชื่อหรอก เก็บไว้กินกันเงียบๆดีกว่านะไก่” ไก่แยกตัวกลับห้อง เรานึกขำอี๊ดสุดท้ายก็มีคนสงเคราะห์ให้แล้ว อี๊ดกับเราสนิทกันเกินกว่าที่จะทำอะไรให้ได้และหน้าตามันก็ไม่ใช่แบบที่เราชอบ อีกอย่างก็กลัวปากแต่อี๊ดน่ารักในจุดที่ว่า ชอบคนไหนอี๊ดจัดให้ เราไม่เคยขาดปากเพราะอี๊ดและนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอี๊ดต้องบอกเราทุกครั้งที่จะกินเหล้ากันที่ห้องให้เรามากินด้วยทุกครั้ง เพื่อนดีๆอย่างนี้หายากจริงๆ เพื่อนกระเทยที่มีอยู่ในปัจจุบันก็เก็บเงียบเหมือนที่เราเคยสอนไก่มิหนำซ้ำยังมาคอยจกกิน คอยแจมตลอดอีก เบื่อ คบผู้ชายสบายใจกว่าเยอะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา ขอแค่เงียบๆสักนิดเดี๋ยวดีเอง จริงมั๊ยคะ….
เราเดินไปหานกที่ห้องอีกครั้ง บอกกับตัวเองว่า คืนนี้ฉันจะไม่นอน นกไม่ได้ล็อคประตูคืนนี้เขาอยู่คนเดียว เราอาบน้ำในห้องของนกและใส่เสื้อผ้าเขานั่นแหละ ก่อนจะไปนอนข้างๆนก แหมอาบน้ำซะตัวหอมแล้ว ไอ้นั่นก็หอม..ชื่นใจจริงๆ
“หลับรึยัง” เราจูบเขาที่แก้มเบาๆนกดันหัวเราไปที่เป้าอีกครั้ง สะใจค่ะ.................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

97. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
03-Aug-16, 10:13 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่เรามีคือ 1-96 ซึ่งเรามาลงให้ตั้งแต่ตอนที่37-96 (ต่อเนื่องจากของเก่านะ)
แล้วเราก็มีอีกช่วงที่เก็บไว้คือตอนที่ 229-259 แล้วก็ 384-393

คือเราก็ติดตามอ่านมาตั้งแต่แรกๆที่พี่เอ๋เขียน แล้วจากนั้นพี่เอ๋ก็ไม่เข้ามาโพสต์อีกเลยเพราะติดขัดจากระบบ

ใครที่มีเก็บไว้ทั้งหมดช่วยๆนำมาลงให้ด้วยนะ
เราอยากอ่านตอนที่พี่เอ๋เริ่มคบกับโมและพี่แขก มันเป็นช่วงเวลาที่เราประทับใจมากๆเลย
ช่วงสำคัญมันขาดหายไป แทบอยากจะร้องไห้

ถ้าพี่เอ๋เข้ามาอ่าน น้องก็อยากจะบอกว่าน้องคิดถึงพี่เอ๋นะ
และก็ยังรอคอยพี่เอ๋กลับมา ลงตอนใหม่ๆ
ขอให้พี่เอ๋มีความสุขนะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
TOOONYYYYY
Guest

98. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #97
 
07-Aug-16, 09:34 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณ POPO มากนะครับ เอาตอนที่เหลือมาลงนะครับ อยากอ่านมากเลย
ใครมีตอนที่เหลือ ช่วยโพสด้วยนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
-*-
Guest

99. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #98
 
12-Aug-16, 11:23 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่ 97

พี่สุได้งานโรงแรมในเครือต่างประเทศแถวสุขุมวิทที่เปิดใหม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสุดท้ายจะเหลือเพียงเรา พี่ตู่แต่งงานและลาออกไปก่อนหน้า ส่วนอรถูกย้ายไปทำบัญชี ปุ๊ไปอยู่บริษัททัวร์เหลือแค่ต่ายที่เราสนิทมากที่สุด แต่ไม่นานก็ลาออกไปอีกคน พี่ๆผู้ชายรอบดึกก็ไม่สนิทกันมากพวกพี่ๆมีลูกมีเมียกันหมดเราก็เป็นแค่น้องสาวตัวน้อยๆท่ามกลางพวกเขาเท่านั้น ตัวเราเองก็ถูกย้ายมาทำแทนพี่สุเป็นรีเซฟชั่นรอบดึก งานที่เคยมองว่ามันไม่มีอะไรก็เป็นเรื่องยากขึ้นทุกที ต้องทนฝืนยิ้มกับทุกสถานการณ์ มีเพียงหรั่งที่คอยเอาใจใส่คอยมาคุยด้วย เรากลับบ้านพร้อมกันทุกวันความใกล้ชิดมันเริ่มผูกพันใจของเราไว้กับหรั่งทีละนิดทีละนิด
“เอ๋ ไม่อยากไปหาที่ทำงานใหม่เหมือนคนอื่นเหรอ”
“เฉยๆ ยังไม่เดือดร้อนอะไร อยู่นี่ไปเรียนหนังสือง่ายกว่า” เราตอบ”แล้วหรั่งละ”
“ก็มองๆอยู่ เบื่อแล้วงานโรงแรมอยากไปทำอย่างอื่น”
“ดีนะที่เรียนจบแล้วไม่ต้องกังวลอะไร” เราเอนไปซบที่ไหล่ของเขาที่กำลังนั่งดูวีดีโออยู่
“เป็นอะไรเหรอ” หรั่งหันมาถาม
“ปล่าว กำลังมีความสุข”เราค่อยๆเอนตัวลงหนุนที่ตักเขา คืนที่ผ่านมามีแต่ความสุข หรั่งบอกเราว่าเขาไม่ใช่เกย์แต่การมีเซ็กส์กับเราคือความชอบส่วนตัวมากกว่า จริงๆแล้วเขายังชอบผู้หญิงอยู่
“เอ๋ อย่าแต่งตัวเป็นผู้หญิงเดินตามถนนนะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่รู้สิ มันตลกผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง”
“เราก็คิดอย่างนั้นแหละ เราเป็นแค่ในใจก็เกินพอแล้ว แค่นี้คนก็มองออกโดยไม่ต้องแต่งหรอก” เราซุกหน้าลงเป้าของเขาที่ปราศจากเสื้อผ้า สูดดมแท่งทวนและลูกแฝดกลิ่นของมันเย้ายวนใจมากปลายลิ้นทักทายเคที่กำลังหดตัวอยู่เล่น หรั่งเอนตัวลงนอนเราก็เลื่อนตัวอยู่ในระดับเดียวกัน ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเราทั้งคู่ไว้ เรานอนหนุนแขนเขาจูบเบาๆ ที่เครารำไรที่แก้ม
“ดีจังวันนี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน”
“เอ๋ ไม่เบื่อเหรอ เล่นอยู่ได้ทั้งวัน” หรั่งถามเมื่อเห็นว่ามือเรายังป้วนเปี้ยนอยู่ที่หว่างขาเขา
“ชอบ” เขาเอามืออีกข้างมาตีที่หัวเราเบาๆทีนึง
“เล่นเอาเราหมดแรงเลยนะ” หมดแรงบ้าอะไรกัน มันกระดกตัวอีกแล้ว เรามองหน้าหรั่ง หรั่งก็พยักหน้า
“อย่าช้านะตัวเอง” เสียวสุดๆอีกแล้วหรั่งบอกว่าหมดแรงแบบไหนกันนี่ ยังเบิ้ลได้อีกต่างหาก
เราไม่คาดคิดว่าวันนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเรากับหรั่ง เพียงรู้แค่ว่าเขามีปัญหาเรื่องการทำงานแต่เขาก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังทุกครั้งที่มาค้างด้วยก็นอนหวานกันอย่างนี้ตลอด หรั่งมีแค่เซ็กส์ที่หยิบยื่นให้กันเท่านั้น หากเมื่อเราถามถึงความในใจหรั่งบอกได้เพียงว่า
“เป็นเพื่อนกันก็ดีแล้วนี่เอ๋ จะถามทำไมว่ารักรึเปล่า ไปกันเรื่อยๆอย่างนี้ไม่ชอบเหรอเอ๋” หรั่งไม่ได้ขยายความอะไรอีกเราก็ต้องเงียบเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจนไม่อยากมาหาอีก
หรั่งมีปัญหาทะเลาะกับหัวหน้าบ่อยจนถูกพักงานและก็ลาออกไปในที่สุด นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ เราพยายามนัดเจอหรั่งแต่เขาก็ไม่มาตามนัด คงเป็นเพราะเขาไปเริ่มงานที่ใหม่ หรั่งไปทำงานเป็นคนส่งเอกสารของบริษัทไฟแนนซ์ พี่สมบอกว่าหรั่งชอบทำตัวเป็นเด็ก สั่งงานอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องหัวหน้าเรียกไปคุยก็ไม่ยอมปรับตัว การเป็นsecurity ไม่ใช่แค่เดินลอยไปลอยมา ต้องดูแลความเรียบร้อยทั้งแขก พนักงาน และทรัพย์สินของบริษัท เรารู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก
เรานัดเจอกับหรั่งจนได้ กินข้าวกันแล้วนั่งคุยกันตรงร้านอาหารแถวที่ทำงานหรั่งที่สีลม
“ทำไมหรั่งต้องหลบหน้าเราด้วย เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้วเหรอ”
“เราอยากอยู่เงียบๆสักพัก”
“เงียบจนไม่รับโทรศัพท์เลยเหรอ แล้วเรื่องของเราสองคนที่เคยคุยกันหล่ะ”
“ลืมมันเถอะ เอ๋ ไม่มีอะไรน่าจดจำหรอก”
“ทำยากนะสิ เราไม่คิดมาก่อนว่าหรั่งจะขาดการติดต่อไปแบบนี้ ยังไงเราก็ยังอยากที่จะคบกับหรั่งเหมือนเดิมนะ แม้แต่เป็นแค่เพื่อนก็ยังดี”
“เอาไว้เราว่างๆ แล้วจะโทรหานะ” เขายิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเรียกเก็บเงิน
“เราจะรอวันนั้นนะ” หรั่งพยักหน้าเหมือนเสริมความมั่นใจ
...........เธอบอกให้ลืมให้หมด ลืมใจที่เคยรักกัน ลืมความผูกพันมานานเกินไป.................ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเธอไม่มีใจให้ฉันเหมือนเคย...................ยังคอยห่วงหาหลับตาภาพเธอชิดใกล้ ลึกในหัวใจเจ็บเพียงใดเจ็บเพียงใดใครเลยจะรู้...............................

หรั่งไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอธิบายมันคงเป็นเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับเขา เขาไม่ได้คิดอะไรเลยมีเพียงเราเท่านั้น ที่เอาใจไปผูกกับตัวเขาเอง หลงคิดว่าสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้มันคือความรัก นี่เราเองต้องกลายมาเป็นคนอกหักซ้ำอีกจนได้สินะ เราเดินเข้าไปนั่งเหม่อในสวนลุมอยู่นานหลังจากที่หรั่งขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านไปแล้วถึงแม้จะไปทางเดียวกันได้แต่เขากลับไม่ชวน แม้ว่าเราจะมีกิจกรรมเข้าจังหวะกับนก หรือถาอีกบ่อยๆ แต่เราก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากหัวใจ มันเกิดจากความต้องการทางร่างกายเท่านั้น เราคิดเสมอว่าหรั่งจะแทนที่พี่โด่งคนที่หายหน้าไปนานได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครแทนที่ใคร เราเปรียบเทียบไม่ได้ว่า เรารักใครมากกว่าใคร รู้แค่ว่าเมื่อนึกถึงแต่ละคนก็เจ็บปวดเหมือนกันหมด พี่สมถึงจะเป็นผู้ชายแต่แกก็เข้าใจเราบ้างเหมือนกัน ทุกครั้งที่แกมาอยู่ดึกก็จะพูดถึงหรั่งให้ฟัง พวกเขายังติดต่อกันอยู่ ยกเว้นเรามั๊งที่หรั่งไม่เคยคิดจะติดต่อมีเพียงเราที่เป็นคนคอยตะเกียกตะกายตามหา เรายังถวิลหาวงแขนของเขาอยู่ทุกวัน แต่วันนี้เขาจากไปแล้ว ไปพร้อมกับบอกให้เราตัดใจ เราทำงานอย่างเหงาๆอยู่ได้ไม่นานก็ลาออก มาเรียนหนังสือแม้ทุกคนที่ทำงานจะรั้งไว้ แต่เราไม่สามารถยืนอยู่กับค่ำคืนที่ไม่มีวงหน้าของคนๆนั้นคอยแวะเวียนมาหยอกทุกคืนได้หรอก เรากลายเป็นเด็กเรียนจนเหลืออีกไม่กี่วิชาก็จะจบ
“ทำไมถึงขั้นต้องลาออกจากงานหล่ะเอ๋” พี่เพลินมองหน้า”เดี๋ยวก็เรียนจบอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องหางานให้ลำบาก”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่เพลิน เพื่อนที่ออกไปทำงานที่อื่นเขาคุยกับหัวหน้าไว้แล้ว เดี๋ยวพักสักเดือนก็เริ่มงานใหม่ได้เลย” แม่ดีใจกับเรามากที่ลาออกจากงานแต่เราก็ไม่อยากให้แม่ลำบากมากนักเพราะรู้ว่าน้องยังเรียนหนังสืออีก เราเลิกให้แม่ส่งเงินมาให้เป็นปีแล้ว ทำมาหากินด้วยตัวเองมีบ้างที่ส่งมาให้ที่บ้านเป็นพิเศษ
“เจ๊บอกแล้วไง ว่าอย่ารักผู้ชาย คบได้ เอาได้แต่อย่ารัก ไม่ยอมโตสักทีนะเรา”
“พี่เพลินทำยังกะไม่เคยรักใครงั้นแหละ ว่าเอ๋อยู่ได้”
“เออ แกเก่ง”
“อย่างอนสิ เอ๋จำคำพี่ทุกอย่างแหละ เอ๋จะเปลี่ยนตัวเองใหม่ไม่ให้เสียชื่อพี่หรอกน่า”
“สำคัญอย่ามั่วนะจ๊ะ ไหนลองนับดูสิกี่ไม้แล้วนี่ตั้งแต่ไปอยู่กรุงเทพฯ เอ๋วันก่อนพวกลูกศิษย์อาจารย์โตมาเที่ยวตลาดกัน โอ้โหมันโตขึ้นเยอะจนจำไม่ได้ ไปเรียนกรุงเทพฯกลับมาโดยเฉพาะไอ้หนุ่ม เจ๊กรี๊ดเลย”
“แล้วนะหล่ะ ไม่ชอบแล้วเหรอ”
“ไม่เร้าใจแล้วกี่ปีก็เหมือนเดิม ไม่ยักเป็นหนุ่มสักที” พี่เพลินส่ายหน้า “อาจารย์โตมีลูกอีกคนแล้วนะ เขาถามถึงเอ๋บ่อยๆว่าไม่ยักมาเที่ยวบ้านบ้าง”
“แล้วพี่เพลินบอกเขาว่าไง”
“ก็บอกว่าเอ๋มันติดค-ยเพื่อนแกนะแหล่ะ เลยกลับไม่ถูก” เราหัวเราะกับคำตอบพี่เพลิน
“แกคงเชื่อหรอก”
“แกเชื่อนะ แกบอกว่าเพื่อนแกก็คงติดรูเอ๋เหมือนกัน ไม่ค่อยติดต่อมาเลย” เราหัวเราะขำๆ พี่โด่งหายไปเกือบปีแล้วสินะแกคงยุ่งจนไม่มีเวลาที่จะโทรมาคุยด้วย หรือเราเองมัวแต่คั่วกับหรั่งจนลืมพี่โด่งไปแล้ว เราหยุดพักที่บ้านหลายวันมาคราวนี้เราไม่ได้กลับไปอย่างเหี่ยวแห้งเพราะอะไรนะเหรอ ก็เพื่อนของโอนะสิมาจากจังหวัดมาเที่ยวที่บ้าน โอกินเหล้าเป็นแล้วด้วย แม่ก็ขี้เกียจจะดุ เราเล็งแมนไว้แล้วตั้งแต่เขามา โอก็รู้ว่าตัวเองมีพี่สาวไม่ใช่พี่ชาย มิใยที่เราจะพยายามทอดสะพานผ่านไปทางโอ โอก็ได้แต่ตอบว่า
“พี่เอ๋ ก็ลองจีบเอาเองสิ แต่ต้องเลี้ยงเหล้านะ” น้องที่รักเสนอไอเดีย
“เตี่ยจะได้ตีเอาสิ มาเลี้ยงเหล้าอะไรในบ้าน”
“โอ๊ย ก็ไปกินที่บ้านตลาดสิ โง่ไปได้ พี่อย่าขี้เหนียวนะ อยากได้ก็ต้องลงทุน”
“ก็ต้องจีบเองอีก ถ้าจีบไม่ติดหล่ะ” โอหันหน้ามาหัวเราะ
“พี่เอ๋นะเหรอ จะจีบไม่ติด อย่าหลอกเด็กแล้วกัน”
แมนกับเอสเดินมาแล้ว เรารู้สึกกระชุ่มกระชวยเมื่อมองดูชุดเด็กช่างกลขากางเกงลีบๆยาวๆ ของแมนและเอส มันน่านัก ทั้งสองคนคนไหนก็ได้เลยวันนี้........................

ตอนที่ 98

เราเลือกเอาร้านอาหารในตลาดเป็นที่กินเหล้ากับโอและเพื่อนกินกันจนร้านปิดแล้วก็เดินมากลับบ้านเราบอกโอว่าไม่ดีนักที่จะไปทำอะไรที่ตลาดเพราะเกรงใจเตี่ยกับแม่ เราโตพอที่แยกแยะได้ว่าที่ทำมาหากินของครอบครัวไม่ควรจะทำอะไรแบบเด็กๆอีก โอไม่ว่าอะไร ถึงบ้านเราอาบน้ำแล้วเตรียมจะเข้านอน โอยังไม่มีห้องของตัวเอง จะมานอนห้องเราตอนที่เราไม่อยู่แทน โอนอนกับน้องเหมือนเปิดโอกาสสำหรับเราแต่เราสิจะทำยังไงดีนะ แมนกับเอสถูกดันเข้ามาที่ห้องเรา เพราะโอบอกว่า
“ห้องกูมันแคบ น้องมันนอนกันแล้ว พวกมึงนอนห้องพี่เอ๋แล้วกัน พี่เอ๋ฝากเพื่อนหน่อยนะ อย่าทำอะไรมันหล่ะ”
โอพูดกวนๆ ไหนว่ายกให้แล้วนี่นา “พวกมึงอย่าทำอะไรพี่กูนะโว๊ย”
“ใครจะไปทำวะ พี่น้องกันจริงมั๊ยเจ๊” แมนตาเยิ้มยักคิ้วให้ แล้วแยกตัวไปอาบน้ำเหลือแต่เอสนั่งคุยกับเราต่อที่ห้อง
“พี่เอ๋ นอนบนเตียงนะเดี๋ยวพวกผมนอนที่พื้นเอง” แมนกลับจากอาบน้ำก็ไล่เอสไปอาบ เอสอิดออดเพราะขี้เกียจ
“เฮ้ย อย่าขี้เกียจสิวะ เดี๋ยวห้องพี่เขาเหม็น” เอสลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปอาบน้ำในที่สุด
“พี่เอ๋มีกางเกงขาสั้นมั๊ย” แมนถาม เราลุกไปรื้อในตู้หากางเกงขาสั้นแล้วยื่นให้แมน แมนใส่กางเกงใส่เสื้อ เราปูผ้าที่พื้นให้แมน แล้วลงไปนั่งใกล้ๆ วาบหวิวอารมณ์บอกไม่ถูก เมื่อมองกางเกงขาสั้นที่รัดเป้าจนนูนของแมน กลืนน้ำลายอย่างลำบากมาก เอสกลับมาแล้วเช็ดตัวเสร็จใส่กางเกงขาสั้นอีกตัวแล้วก็ล้มตัวลงนอน ถัดไปจากแมน เราปิดไฟที่ห้อง พร้อมลืมตาโพรงในความมืดนี่จะหลับได้ยังไงนะ เพื่อนน้องถ้ามีอะไรจะขาดความนับถือกันเปล่าๆ แต่ว่าความอยากของกระเทยมันห้ามได้ที่ไหน เราปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปกับเสียงแอร์ที่ครางเบาๆแล้วนอนคว่ำ มือควานลงไปข้างเตียงที่แมนนอนอยู่ ไล่ไปตามลำตัวก่อนที่จะไปหยุดที่เป้ากางเกงขาสั้นของแมน ลูบคลำให้แน่ใจแมนยังคงนอนนิ่ง จนเราล้วงเข้าไปในกางเกงเขาก็รู้สึกตัว แววตาในความมืดนั้นเรารู้เลยว่าใช่ แมนหันหน้าไปดูเพื่อนแล้วค่อยๆลุกขึ้นมาบนเตียง เอสกรนเบาๆ เราทั้งคู่ชะโงกดูจนแน่ใจ
“พี่เอ๋ แข็งแล้วพี่” เรางัดท่อนของเด็กปวช ปีสุดท้ายออกมา
“แมนเคยโดนดูดรึยัง” ต้องถามย้ำให้แน่ใจ
“เคยสิพี่ ว่าแต่พี่เอ๋จะดูดทำไม เอากันเลยดีกว่า”มือเรายังเค้นอยู่ที่ลำเด็กสิบแปดอย่างหื่นในอารมณ์ เคยาวๆของแมนคงทำให้สนุกได้นะคืนนี้
“แล้วเอาเป็นเหรอ”
“ง่ายจะตาย ว่าแต่พี่เอ๋เคยโดนรึยัง มันดีนะพี่” เราเออออ แล้วหยิบถุงยางมาใส่ให้แมน ก่อนจะนอนหงายเอาขาคร่อมที่บ่าของแมนไว้ หำเด็กกำลังสอดเข้ามาแล้วถึงไม่ใหญ่อย่างคนอื่นแต่แมนก็คล่องตัวดีเล่นเราครางอู้เลยทีเดียว กำลังเพลินๆอยู่เสียงของเราทั้งคู่คงทำให้เอสตื่น เอสงัวเงียลุกขึ้นมามองการออกกำลังกายของเรากับแมนกลางดึก
“ทำอะไรวะ ไอ้แมน” เขาถามเบาๆ เรารู้สึกอายมากเอาจะขาลง
“พี่เอ๋ อย่าเอาขาลงสิใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวหลุด” แมนยังโยกต่อ เอสนั่งมองไม่นานก็ลุกขึ้นมาที่หน้าเรา
“พี่เอ๋ดูดให้หน่อย” ขนาดของเอสใหญ่กว่าแมนเล็กน้อย ปลายเปิดแล้วเราดูดไม่ค่อยถนัดเพราะแรงกระแทกของแมน เอสก้าวมาคร่อมที่หน้าเราแล้วเอามือค้ำฝาไว้ ซอยเป็นจังหวะขนของแอสแทงจมูกจนรู้สึกคันยิบๆ แมนดันเข้ามาแรงๆแล้วก็เสร็จ เขารีบชักออก เอสถามหาถุงยางเขารีบใส่แล้วลากเราลงที่พื้นจัดท่าให้เราโก้งโค้งหน้าเราคร่อมอยู่ที่หว่างขาของแมนเราดูดเคที่เลอะด้วยน้ำว่าวให้แมนอีกรอบ คราบหวานๆยังอยู่ครบ แมนสูดปากเผลอกดหัวเราแรงตามจังหวะที่เอสสอยมาจากด้านหลัง
“พี่เอ๋ ดูดแรงๆ เร็วจะแตกแล้ว” เราทำตามอย่างว่าง่าย น้ำหวานๆไหลระลอกลงคอเราแล้ว แมนกดหัวเราไว้กับพงหญ้าของเขา ส่วนเอสยังขะมักเขม้นพิสูจน์ถ้ำอย่างใจเย็นเขาเอามือมารูดของเราเล่นด้วยเราพยายามปัดป้องแต่เอสก็จับมันไว้แน่นแล้ว เราก็ปล่อยเลยตามเลยเลิกอาย ไม่นานเราก็เสร็จไปพร้อมกับมือของเอส ก่อนน้ำจะออกเรารีบปัดมือเอสออก แล้วเอามือตัวเองกำเอาไว้ เหนียวมือ เอสดันอย่างแรงอีกครั้งก่อนจะดึงถุงยางออกแล้วละเลงลำที่หลังเรา ตายแล้วแฉะทั้งหน้าทั้งหลัง สองหนุ่มนอนแผ่หราเรารีบหาผ้ามาเช็ดแล้วลงไปห้องน้ำ ล้างทำความสะอาด ออกจากห้องน้ำเดินสวนกับเตื่ยที่ตื่นมาอาบน้ำตอนตีสี่
“ตื่นเช้าเลยนะวันนี้”
“นอนไม่หลับเตี่ย มันร้อน เราไม่กล้าสบตาเตี่ย” เรารีบเดินกลับห้องสองตัวแสบ เอาผ้ามาคลุมตัวอยู่แต่ยังเปลือยเหมือนเดิม เราเปิดโคมไฟ พร้อมกับเปิดผ้าคลุม แมนหัวเราะแล้วกระดกเคใส่หน้าเราอีก ส่วนเอสเอามือกุมไว้แล้วนอนหันข้างให้ เหนื่อยจริงๆ กลิ่นสบู่หอมๆของเราคงเร้าอารมณ์แมนอีก เขาขึ้นมานอนบนเตียงกับเรา
“ยังไม่ครบหลักสูตรเลยนะคืนนี้” เราจูบที่ปากบางของแมนแล้วสอดลิ้นเข้าไป ไม่มียึกยักขัดขืน เป็นเหมือนกันนะหนุ่มน้อย
“พี่เอ๋ มันส์จริงๆ พี่ว่ามั๊ย”
“พี่ยังไม่อิ่มเลย พรุ่งนี้แมนก็กลับบ้านแล้วนี่”
“ผมก็มาที่นี่เรื่อยๆแหละ แล้วพี่จะมาบ้านอีกเมื่อไหร่”
“ยังไม่รู้” เรายังจับเคที่เหนียวนั้นรูดเล่นจนมันความเหนียวมันแห้งคามือ เราหลับไปทั้งๆที่กระโปกยังอยู่ในมือ ตื่นมาสายโด่งเพราะโอมาเคาะห้อง สองคนลุกลี้ลุกลนใส่กางเกงแล้วเปิดประตู
“เฮ้ย ทำไมตื่นสายจังวะ ลงไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวกูไปส่งน้องไปโรงเรียนแล้วจะมารับพวกมึงไปส่งบ้าน” สองคนนี้อยู่ต่างอำเภอ โอจะเอารถกระบะไปส่งทุกครั้งที่มา
“ไม่ต้องรีบหรอก ยังนอนไม่พอเลย” เราบอก “โอเอาอะไรมากินด้วยนะ หิวข้าว” โอพยักหน้าแล้วเดินลงไปพร้อมน้องเล็กที่กำลังจะไปโรงเรียน เอสลุกขึ้นไปอาบน้ำ เรากับแมนก็นั่งจูบกันเล่นต่อ แมนลุกอีกแล้ว เราเดินนำแมนลงมารอที่หน้าห้องน้ำ ตัวแมนมีผ้าขนหนูผืนเดียว นั่งรอเอสอาบเสร็จก็ทำทีเดินไปก่อน แมนเดินตามให้เอสเห็นจะจะ เราดูดเคแมนต่ออย่างหื่นกระหายหลังจากที่ทำความสะอาดแล้ว และก็ทำอะไรกันอีกยก อยากจะถอดถุงยางออกจริงๆ มันไม่อุ่นเนื้อไม่ได้แนบเนื้อเลย แต่จะทำยังไงได้ เราต้องระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าที่จะไประแวงคนอื่นในภายหลัง แมนชักออกเอาเคมาจ่อปาก น้ำขาวใสเลอะไปตามรูปปากของเรา เราดูดไข่สมนาคุณอีกรอบก่อนจะชำระร่างกายกันทั้งคู่ แล้วมานั่งหน้าแฉล้มรอกินข้าวหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
“พี่เอ๋ พวกนี้มันทำอะไรพี่รึเปล่า” โอเหมือนเช็คผลงาน
“ไม่ได้ทำอะไรนี่ ก็นอนกันเฉยๆ เด็กดีทั้งนั้น” เราหันไปอมยิ้ม
“ว้า ไอ้พวกนี้ ต่อไปกูไม่เลี้ยงเหล้าอีกแล้ว อุตส่าห์บอกให้เทคแคร์พี่กูดีๆ” เราขำโอแล้วนั่งอมยิ้มคนเดียว
“โอ กูอยู่ต่ออีกวันได้มั๊ย”แมนถามเมื่อเอส เดินไปรอที่รถแล้ว
“ทำไมวะ” เรามองหน้าทั้งคู่ โอเหมือนรู้ทัน
“พี่เอ๋ เดี๋ยวมันก็ซีดหรอก” เราขำน้องชาย แต่ก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร
“เออ เออ พี่เอ๋เขากลับพรุ่งนี้ คืนนี้มึงนอนเป็นเพื่อนเขาอีกคืนก็ได้”
“พูดกูมึงกับกูได้ไงกูเป็นพี่เขยมึงนะโว๊ย”
“ส้นตีนนี่” เด็กพวกนี้พูดกันถึงพริกถึงขิง “มึงเอาพี่กู กูไม่เตะให้ก็บุญแล้ว พี่เอ๋อย่าให้เตี่ยกับแม่รู้นะ”
“จะให้รู้ได้ไง” โอมองหน้าเราอีกที “เพิ่งสังเกตพี่เอ๋วันนี้นี่เอง ทำไมพี่หน้าหวานอย่างนี้” แล้วโอก็ส่ายหน้า เรากับโอสนิทกันทำไมโอไม่เป็นกระเทย แต่เราเป็นแปลกใจอยู่เหมือนกัน เรากินข้าวเที่ยงกันเสร็จก็ออกไปดูหนังกันทั้งสามคน พี่เพลินหมั้นไส้จนเดินมาแซวที่ร้านตอนเย็น เพราะแมนนั่งอยู่กับเรา
“อะไรยะ แมนบ้านช่องไม่กลับ”
“ก็อยู่กับเมียนี่จะกลับทำไม”
“ปาก ระวังเถอะเดี๋ยวเตี่ยได้ยินแน่ โดนตีแน่เอ๋”พี่เพลินจุ๊ปากแล้วหัวเราะร่วน อาจารย์โตอุ้มลูกมาซื้อของที่ร้าน
“หวัดดีฮะ” เราไหว้อาจารย์
“ไงเรา สบายดีมั๊ย โตขึ้นเยอะนี่ โด่งเป็นไงบ้าง กลับจากเมืองนอกรึยัง”
“ไม่รู้ฮะ เขาหายไปนานแล้ว”
“มันก็อย่างนี้แหละ เอาแน่ไม่ได้ คบกับโด่งก็ต้องทำใจกว้างหน่อย”
“พี่โด่งไม่ได้ชอบกระเทยนี่อาจารย์ ทำไมเอ๋ต้องทำใจกว้างด้วยหล่ะ” เราจัดของให้แล้วเดินมาส่งที่หน้าร้าน ลูกคนเล็กกำลังอ้อแอ้น่ารัก “แล้วอาจารย์เป็นไงบ้าง มีลูกซะแล้ว”
“มันถึงเวลาต้องมีแล้วนะสิ เดี๋ยวเอ๋ก็มี”
“ไม่มีทาง เอ๋ไม่ชอบผู้หญิง”
“เพื่อนครูหลายคนก็เคยพูดแบบนี้ ก็เห็นมันมีลูกกันทุกคน” อาจารย์ยังมองภาพกระเทยรุ่นเก่าอยู่
“ดูแลไอ้โด่งมันบ้างนะเอ๋ ครูว่ามันคงชอบเอ๋จริงๆ แต่ว่า”
“แต่ว่า เอ๋ไม่มีจิ๋ม” เราสวนอาจารย์ทันที อาจารย์ส่ายหน้า
“ไม่มีก็ไม่มี นะครูฝากความคิดถึงไปหามันด้วย” อาจารย์ขับรถออกไปแล้ว แกจะมาฝากฝังพี่โด่งกับเราทำไมกัน ในเมื่อทุกอย่างพี่โด่งเป็นคนตัดสินใจเองทั้งนั้น ถ้าแกไม่โทรมาหาเราจะรู้ได้ไงว่าแกอยู่ห้องรึเปล่า จะให้ลองสุ่มโทรไปก็ไม่มีคนรับหลายครั้ง ทำไมจะไม่อยากไปหาแต่ถ้าเขาไม่พร้อมเราจะทำยังไงได้ ได้แต่นั่งรอส่วนบุญที่เขาจะหยิบยื่นให้ก็เท่านั้นแหล่ะสำหรับพี่โด่ง คืนนี้จะมีความสุขกับแมนเองก็เฝือๆ เพราะพี่โด่งมารบกวนจิตใจอีกจนได้ คนอะไรไม่รู้จากกันไปนานแล้วแต่ยังวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเสมอเลย
แมนล่อเราทั้งคืนจนเราอิ่มแทบสำลักเขาอยู่รอจนเราขึ้นรถตอนเช้าอีกวัน
“พี่เอ๋ ตอนผมไปสอบเข้าโรงเรียนที่กรุงเทพฯ ผมไปค้างกับพี่นะ” แมนบอกพร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ไว้
“แล้วโอหล่ะ”
“ไม่เอาหรอก ขี้เกียจไป ได้สิทธิ์เรียนต่อแล้วจะไปทำไม พี่เอ๋อยู่กรุงเทพฯไปคนเดียวเถอะ ไม่เอาด้วยหรอก”เรายักไหล่ ก็ตามใจนะ รถมาแล้วข้างๆเป็นหนุ่มวัยทำงาน แต่มันเป็นตอนกลางวัน เขามองเราแปลกๆเหมือนกลัว เรานึกในใจเรื่องอะไรมากลัวฉัน ฉันออกจะสวยขนาดนี้ รถออกจากท่าตอนเที่ยงกว่าจะถึงกรุงเทพฯก็เย็น เราตั่งใจว่าจะลองโทรหาพี่โด่งดูเผื่อแกจะอยู่เมืองไทยแล้วก็เป็นได้ มันเหมือนมีลางสังหรณ์ว่าแกอยู่
“อยู่ซักที พี่โด่งมารับหน่อยที่หมอชิต กลับหอไม่ถูก”
“เอ๋ออกจากงานทำไมไม่บอกพี่” แกถามมาจากปลายสาย “โทรไปเมื่อวานว่าจะไปหาซักหน่อย”
“ก็เคยอยู่ที่ไหนหล่ะ มารับได้มั๊ย จะไปหาแล้ว”
“นั่งรถมาที่อพาร์ตเมนท์เลยสิ”
“ก็กระเป๋ามันหนัก แบกไม่ไหว”
“กว่าพี่จะไปถึงก็ดึกพอดี นั่งแท็กซี่มานะครับจะได้เร็วๆ เดี๋ยวรถติดมัวแต่อ้อนอยู่ได้”
“คิดถึงพี่จัง” เราอ้อนอีก
“หายคิดถึงแน่” พี่โด่งหัวเราะเบาๆ “พี่รอกินข้าวนะเอ๋ มาเร็วๆ” พี่โด่งวางหูไปแล้วเรานั่งแท็กซี่ไปหาพี่โด่งตามใจนึก เราไม่อิดออดอีกแล้ว ทิฐิมานะต่างๆต้องวางไว้หากรักเขา และขาดเขาไม่ได้จะเล่นแง่ทำไม สิ่งที่ดีที่สุดมองวันนี้แค่วันนี้ อย่ามัวทำตัวเป็นปฏิทินที่มองแต่วันข้างหน้า หรือทำตัวเป็นไดอารี่ที่บันทึกแต่อดีต ต้องทำตัวเป็นนาฬิกา ที่เดินอยู่กับปัจจุบันเท่านั้นชีวิตถึงจะมีความสุข จริงมั๊ยคะ.............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
-*-
Guest

100. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #99
 
12-Aug-16, 11:25 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่ 99

“คิดถึงพี่โด่งจังเลย” เราสวมกอดพี่โด่งทันทีที่เข้ามาในห้องแล้วจูบกันเนิ่นนานพี่โด่งรุนแรงกับเราอีกครั้งทั้งขบทั้งกัดไปทั่วใบหน้า เราถอนริมฝีปากแล้วเอาหน้าซุกไซ้ที่อกพี่โด่งดันตัวออก
“ไหนมองหน้าชัดๆหน่อยสิ” เราจ้องมองกันและกันพี่โด่งยิ้มให้หล่อเหมือนเดิม อากาศหนาวที่เมืองนอกทำให้แก้มพี่โด่งแดงระเรื่อดูแปลกตา เรายิ้มแล้วเอาแก้มซุกที่อกอีกครั้ง
“คราวนี้พี่โด่งจะอยู่เมืองไทยนานมั๊ย” เราถามที่อก
“สองเดือน เอ๋ว่างงานแล้วนี่ มาอยู่กับพี่นะ” พี่โด่งลูบผมเบาๆ เราพยักหน้า
“ได้ฮะ สำหรับพี่โด่งทุกอย่างได้ทั้งนั้น”
“ไม่ใช่สำหรับพี่ แต่สำหรับเราทั้งสองคนต่างหาก” พี่โด่งจูบที่หน้าผากแล้วลูบผมเรา”อย่าเพิ่งตัดผมนะเอ๋”
“ทำไมหล่ะพี่” เราเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่อยากเห็นเอ๋คนเดิมอีกครั้ง ได้มั๊ย” เรามองที่ดวงตาของพี่โด่งเหมือนจะเค้นเอาความหมายที่มากกว่านั้น แกยังสูดดมที่ผมของเราอย่าไม่รู้เบื่อ
“พี่ห้ามใจตัวเองตลอดเลยรู้มั๊ย ตอนที่ไม่เจอเรา พี่อยากจะพิสูจน์ใจตัวเอง”
“แล้วพี่พิสูจน์ได้รึยัง”
“ได้แล้ว พี่ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่พี่ชอบเอ๋ กับเอ๋มันไม่มีเพศสำหรับพี่ เอ๋เป็นคนเดียวที่พี่รู้สึกดีเวลาพี่คิดถึง” เราดีใจที่ได้ยินคำนั้นจากปากของพี่โด่ง คำตอบที่คอยหามันกระจ่างชัดในมโนสำนึก
“เอ๋ ก็ไม่ต่างจากพี่เลย พี่โด่งกินข้าวรึยัง”
“รออยู่ไง ไปไหนกันดี ไปร้านริมน้ำร้านเดิมกันมั๊ย” พี่โด่งขับรถไปยังที่ร้านเดิม แกโอบไหล่เราเดินเข้าไปอย่างไม่อายสายตาใครอีกแล้ว เรามองหน้ากันไปกินข้าวกันไป อย่างมีความสุข นักดนตรีขับกล่อมเพลงเก่าๆที่พี่โด่งชอบ เรานึกบ้าอยากจะร้องเพลง พี่โด่งก็เชียร์นักร้องเชียร์แขกให้ไปร่วมแจมบนเวทีหลายคนแล้ว จนถึงคิวของเรา
“ร้องเพลงอะไรครับ” เรากระซิบบอกนักร้องให้เร่งจังหวะนิดนึง

......ถึงจะอยู่สุดหล้าฟ้าดิน แม้นจะสิ้นสิทธิ์และเสรี แต่วันนั้นใจฉันยังคงที่ ความรักความภักดีไม่มีสิ้นสลาย
......ถึงโลกแตกแหลกเป็นผงคลี รักเต็มปรี่ไม่มีรู้คลาย ชีพถูกฝังความรักความรักยังเวียนว่ายเคียงคู่เธอมิคลายฝากวิญญาณไว้เตือน
..... ด้วยความรักไม่รู้จบ แม้ผืนดินกลบยากลบความรักเลือนจะเนิ่นนานกี่วันกี่ปีกี่เดือน ดินฟ้าจะคล้อยเคลื่อนใจไม่เลือนรักเธอ
......ทุกๆอย่างบนทางรักจริง ทุกๆสิ่งบนทางรักเจอ จะสมหวังหรือพบความเพ้อเจ้อเป็นที่ใจของเธอจะจริงจังฉันท์ใด

พี่โด่งคอยยกแก้วเป็นกำลังใจข้างล่าง แขกผู้หญิงคลอเคลียแฟนแล้วปรบมือให้ตอนที่ร้องจบ เสียงเราก็ธรรมดาดีที่นักร้องคอยช่วยส่งตอนที่จะล่ม เราร้องเพลงรักไม่รู้จบเพื่อจะย้ำความรู้สึกลึกที่มีในใจให้พี่โด่งรับฟัง พี่โด่งให้เราไปนั่งฝั่งเดียวกันกับแก แล้วเด็กเสริฟ ก็เดินมาบอกให้พี่โด่งไปร้องให้ฟัง สาวๆในร้านกรี๊ดกันลั่นพี่โด่งจะร้องเพลงอะไรนะ แกออกจะเขินสายตาคอยมองเราตลอดตอนที่บอกเพลงกับนักร้อง

......จากน้องไปไกล อยู่แห่งไหนดวงใจพี่นี้เป็นห่วง พี่ยังรัก พี่ยังหวง ยังเป็นห่วงหวงเธอเหมือนดั่งดวงใจ
.......ขอบฟ้ากั้นกลาง ใช่กีดขวางแนวทางแห่งรักเราได้ สุดขอบฟ้ากว้างเพียงไหน ยังคงได้หวนคืนรับขวัญแก้วตา ......หมั่นนึกถึงพี่หมั่นสร้างความดีไว้รอคอยพี่กลับมา กอดน้องแนบหมอนนิทรา สุขเถิดหนาแก้วตาจงอย่าโศกศัลย์
......เก็บน้ำตาไว้อย่าให้ไหลพาใจพี่คิดไหวหวั่น ยิ่งได้รู้เจ้าโศกศัลย์พี่ยิ่งหวั่นหวิวทรวงแทบจะขาดใจ

พี่โด่งร้องเพลงจากน้องเพื่อบอกอะไรเราเหรอ สาวๆโต๊ะอื่นวิ่งไปให้ดอกไม้กับนักร้องรับเชิญรูปหล่อกันหลายโต๊ะ พี่โด่งเขินหน้าแดง เดินแจกยิ้มให้สาวๆก่อนกลับมาถึงโต๊ะ
“ใครก็อยากเป็นน้องพี่ทั้งนั้นแหละวันนี้”เราสัพยอก
“พี่ร้องให้น้องคนนึงฟังนะ ถ้าน้องคนอื่นเขาจะตามมาต้องขอน้องคนนี้ก่อน” พี่โด่งชี้มาที่เรา เราหัวเราะแล้วยิ้มให้กับโต๊ะข้างๆ หลายคนยกแก้วให้พวกเราก็ยกตอบ ลมเย็นจากแม่น้ำพัดโชยมาเอื่อยๆ เรานั่งฟังเพลงกันอีกสักพักก็กลับ เสียงสาวๆยังตามมาเป็นระลอก พี่โด่งป็อบดีจริง ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งร้อน พี่โด่งคอยชำเลืองมาที่เราบ่อยๆ
“พี่โด่งมีอะไรเหรอ”
“พรุ่งนี้ไปบ้านปู่กันนะครับ” พี่โด่งบอกขึ้นมา
“ตามใจพี่สิฮะ” เราตอบกับแกตอนที่รถเลี้ยวเข้าที่จอดรถพอดี
“เอ๋น่าจะเกิดเป็นผู้หญิงนะ” พี่โด่งพูดเมื่อสอดใส่เข้ามาในตัวเรา มันบาดระริกของใหญ่ๆไม่ได้เข้ามานานแล้ว
“ถ้าเป็นผู้หญิงจะมานอนกับพี่อย่างนี้ได้เหรอ พอดีท้อง” เราพูดทั้งที่เจ็บแปลบๆ พี่โด่งกระแทกอย่างหื่นกระหายอารมณ์ที่เก็บกดมานานกระพือเข้าหาตัวเราอย่างรุนแรง ทั้งตัวถูกกัดและทึ้งอย่างไม่ปราณี เรากัดฟันทนแสร้งแสดงว่าสุขเหลือคณานับ บางทีก็รุนแรงตอบบ้างพี่โด่งดึงออกมาจนสุดแล้วปลดถุงยางออกก่อนที่จะยัดเข้ามาในปากเราเพื่อให้เรากลืนกิน น้ำเชื้อไหลลงคอช้าๆจนหมดพี่โด่งถึงชักออกแล้วลากเราจากที่นอนไปชำระล้างเราจูบกันนานในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ โผเผกลับมาที่นอนทั้งๆที่ยังเปลือยกันอยู่ทั้งคู่พี่โด่งทิ้งตัวลงมาทาบทับอีกครั้งแล้วบรรจงจูบอย่างไม่รู้เบื่อ
“พี่โด่งจะทำให้เอ๋คลั่งแล้วนะ”เราจูบที่คางแกอีกครั้ง
“ก็จะเอาให้คลั่งเลย ตัวดีทำให้พี่คิดถึงอยู่ได้”
“พี่พูดจริงเหรอ” เรากอดแกแน่นท่อนล่างเราบดเบียดกันอยู่
“ไม่ต้องถามย้ำเหมือนผู้หญิงได้มั๊ยครับ ผู้ชายเขาพูดกันทีเดียวก็รู้เรื่องแล้ว” พี่โด่งเอามือลูบผมเรา”เอ๋ดีกับพี่มากเลยนะ จนพี่ไม่รู้ว่าจะหาใครมาแทนเอ๋ได้”
“ดียังไงฮะ” เรายังไม่หมดข้อสงสัย “พี่โด่งตอบให้หมดซักทีได้มั๊ย พี่โด่งรู้สึกอะไรบ้าง เอ๋จะได้ทำตัวถูก”
“ทุกอย่างที่เราเป็นอยู่นั่นแหละส่วนดีของเรา เอ๋มองโลกในแง่ดี และรู้จักตัวเอง แม้แต่พี่เองยังนับถือเลย และเอ๋ก็พูดตรงๆในสิ่งที่เอ๋คิด” แกบอกกับเราตรงๆอย่างที่เราอยากฟัง
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะพูดตรงๆหล่ะ อ้อมโลกไปไกลแล้ว” เราเอาผ้าสอดมากางตัวรู้สึกอายที่ท่อนล่างเหมือนจะตื่นแล้ว พี่โด่งเอื้อมมือไปเปิดสวิทช์ไฟหัวเตียง แสงไฟเหลืองๆให้บรรยากาศที่อบอุ่นมาก หน้าพี่โด่งหล่อกว่าที่เคยเป็นอยู่ประกายตาแจ่มใสแวววาว รอยยิ้มที่ฝังใจเรามานานกลับมาอีกครั้ง เรายิ้มตอบ
“ถ้าพี่จะขอเอ๋อีกครั้งเอ๋จะให้คำตอบพี่ได้มั๊ย ตอบตรงๆนะ”
“พี่จะขออะไร”
“อยู่ด้วยกันได้มั๊ย ช่วงที่พี่อยู่เมืองไทย” พี่โด่งจูบที่ปากอีกครั้งแล้วถอนออกช้าๆเพื่อฟังคำตอบ
“ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ตอนนี้ตกงานแล้วพี่โด่งจะเลี้ยงไหวเหรอ” เราแกล้งถาม
“เมียทั้งคนเลี้ยงไม่ได้ก็ให้มันรู้ไปสิ”เราหัวเราะระรื่นสะใจในคำตอบ
“เอ๋รักพี่นะ ถึงแม้พี่จะไม่คิดอะไรกับเอ๋ ในใจเอ๋มีพี่โด่งคนเดียวเท่านั้น” เราทำหน้าจริงจัง
“แล้วรู้ได้ไงว่าไม่รัก ผู้ชายถ้าไม่รักจริงไม่พาเข้าบ้านหรอก” เรามองหน้าแกแล้วทำเหมือนไม่เข้าใจ
“ฟังไม่รู้เรื่อง พูดอ้อมโลกอีกแล้ว พี่โด่งบอกดีๆสิ” พี่โด่งก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหู
“พี่รักเอ๋นะครับ” แล้วแกก็จูบเราแรงอีกทีนึงก่อนจะกอดเราแน่นจนแทบจะแหลกคาวงแขน
“เชื่อแล้ว” ที่เชื่อเพราะน้องพี่โด่งดันที่ท้องเราอีกแล้วนะสิ “ลูกพี่ดื้ออีกแล้วนะ แต่วันนี้ต้องขอเพราะเหนื่อยมากปวดหลังจะแย่อยู่แล้ว”
“บ่นทำไม พี่เป็นคนทำยังไม่บ่นเลย”
“ก็เอ๋นั่งรถมาทั้งวันแล้วนะพี่” พี่โด่งคลายวงแขนออกแล้วทิ้งตัวนอนหงายเคชี้ไปที่เพดานห้อง กระดกให้เราดูเล่น
“ไม่ต้องมายั่วเลย” เราเอามือไปกุมมันไว้ “พี่โด่งนอนกอดหน่อยสิเอ๋ อยากให้พี่กอดเหมือนก่อนมาก” เราซุกตัวอยู่ข้างๆ พี่โด่งเอียงตัวมากอดเราไว้แน่นแล้วจูบที่หน้าผาก
“ฝันดีนะครับ”
“พี่โด่งก็เหมือนกัน” เราจูบตอบที่ปลายคางก่อนที่เราทั้งคู่จะหลับไปอย่างฝันดีจริงๆ.............................

ตอนที่ 100

เราเดินทางไปย้อนอดีตกับพี่โด่งอีกครั้งที่อัมพวาในเช้าวันถัดมา ปู่กับย่าดูแก่ลงไปมากไม่เจอกันแค่สองปีกว่าๆ เห็นแล้วสะท้อนใจอีกไม่นานเราก็ต้องเดินทางมาถึงวัยนี้เช่นกัน บ้านหลังเล็กถูกเก็บกวาดอีกครั้งด้วยฝีมือของเราเอง พี่โด่งเป็นแค่ลูกมือเล็กๆน้อยๆ เราเช็ดถูอย่างไม่รู้เหนื่อย ปลายฝนอย่างนี้คงเย็นดีนะ เรามองดูแม่น้ำแม่กลองที่ขุ่นคลั่กเพราะเป็นหน้าฝน ในใจนึกกลัวลึกๆน้ำเชี่ยวเหลือเกิน ปล่อยขาเล่นในน้ำที่ชานบ้านกระแสน้ำซัดเซาะท่อนขาบอกถึงความแรงของกระแสน้ำได้เป็นอย่างดี พี่โด่งพายเรือเล่นอยู่ไกลๆ ดูแล้วเหมือนเด็กหนุ่มที่กำลังสนุกกับการผจญภัยกับกระแสน้ำ ปู่ยืนมองที่ฝั่งข้างๆที่เรานั่งอยู่
“ไอ้หนู พี่เขาสนุกใหญ่แล้วเห็นมั๊ย ไม่ไปเล่นกับพี่เขาหล่ะ” เราโยนเบ็ดลงไปในน้ำที่เชี่ยวกรากเล่น ลองเสี่ยงดูว่าปลาจะติดเบ็ดบ้างรึเปล่า ไม่เห็นจะได้เลย พี่โด่งพายเรือกลับมาที่ฝั่งเหงื่อซึมใบหน้าหล่อเต็มไปหมดส่งยิ้มอย่างมีความหมายให้ตอนที่ขึ้นจากเรือ ย่าเตรียมข้าวเย็นเรียบร้อยเราไม่ต้องช่วยอะไรมากนักเพราะพี่โด่งหาลูกจ้างมาช่วยย่านานแล้ว
“โด่งเมื่อไหร่จะเป็นฝั่งเป็นฝาสักทีหล่ะลูก ย่าจะอยูทันได้อุ้มเหลนรึเปล่า” พี่โด่งหัวเราะหึหึ
“ผมยังไม่อยากมีพันธะนะครับ ย่าก็อุ้มลูกพี่เดือนไปก่อนนะครับ” พี่สาวพี่โด่งเพิ่งมีลูกให้ทวดอุ้มเมื่อไม่นานมานี่เอง
“แล้วเอ๋หล่ะ มีแฟนกับเขารึยัง อย่าเพิ่งมีนะเดี๋ยวเรียนไม่จบ” อย่าถามและห้ามในเวลาเดียวกันจะเอายังไงแน่
“มีแล้วฮะ” เราอ้อมแอ้มตอบไป ถ้าไม่กลัวย่าจะหัวใจวายคงบอกว่าหลานย่านั่นแหละผัวหนู
“อย่าให้เสียการเรียนนะ” ปู่กำหราบอีกรอบ
“ไม่เสียหรอก มีแต่เสียตัวมากกว่า”พี่โด่งพูดขำๆ
“เฮ้ยผู้ชายจะเสียตัวได้ไง” ปู่งง แล้วจ้องหน้าเราอีกที “รึว่าเราเป็นกระเทย” เราส่ายหน้า
“พี่โด่งชอบพูดเล่นอย่างนี้แหล่ะฮะ ไม่มีอะไรหรอกปู่” เราพยายามโกหกให้เนียนที่สุด
“แต่ย่าว่าหน้าเอ๋ เหมือนผุ้หญิงนะ ดูบางทีก็ตุ้งติ้งจนน่าสงสัย”
“ผมเป็นผู้ชายครับ” เราบังคับโทนเสียงให้ต่ำลงพี่โด่งหัวเราะก๊าก ย่าก็ขำ
“ไม่ถามแล้ว อายจนหน้าแดงหมดแล้ว กินข้าวกันเถอะ” ปู่เปลี่ยนเรื่อง พี่โด่งคอยยักคิ้วให้ตลอดเวลา มันน่านักนะบอกให้เราทำเฉยๆแล้วตัวเองก็มาคอยกัดอยู่ได้ เรื่องดูดหัวปลาช่อนก็ทีนึงแล้ว ปู่พาย่าไปนอนแล้วเรานั่งเล่นที่ริมระเบียงกับพี่โด่งสองคน แล้วค่อยๆนอนหงายมองท้องฟ้าที่มืดมิดเพราะเมฆฝนข้างๆตัวพี่โด่งมีเหล้าดองยาของปู่วางไว้เราอยากหนุนตักพี่โด่งจังแต่ก็ไม่กล้าทำเพราะเดี๋ยวใครเห็นจะเข้าใจผิดกันไปหมด ต้องไว้หน้าพี่โด่งด้วยแม้ว่าจะรักแค่ไหนก็ตามเถอะ
“พี่โด่ง ชอบทำเสียเรื่อง เดี๋ยวก็ความแตกพอดี” เราต่อว่าพี่โด่งที่กำลังเพลินกับเหล้าดองยาอยู่
“กลัวอะไร ปู่กับย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องแค่นั้นแหละ”
“แต่ก็ไม่ดี ไม่ใช่เหรอพี่ พี่โด่งเป็นหลานชายคนเดียว ถ้าแกคิดมากเดี๋ยวพี่โด่งก็กลุ้มอีก”
“ไม่มีอะไรหรอกเอ๋ อย่ากังวลเลย”พี่โด่งยกแก้วสุดท้ายกระดกรวดเดียว “ไปนอนกันเถอะ พี่ง่วงแล้ว” เราลุกตามอย่างว่าง่าย
“ไปเล่นน้ำกันเถอะเอ๋” พี่โด่งคงร้อนเพราะฤทธ์เหล้า เราต้องคอยห้ามไว้ไม่ให้แกว่ายออกไปไกลเพราะมันมืด
พี่โด่งว่ายมาประชิดที่ตีนบันไดทีเราเกาะไว้แกค่อยๆจ่อหัวปลาเข้ามาในไทร พี่โด่งไม่ใส่ถุงยางเราทำท่าจะดึงออก
“เอ๋ไม่ไว้ใจพี่เหรอ” เสียงนั้นกระเส่า จะทำยังไงได้มันเข้าไปตั้งครึ่งลำแล้วนี่เราปล่อยมือแล้วปล่อยให้แกทำตามใจอยากจนเสร็จ น้ำอุ่นๆไหลเข้ามาในตัวแล้วพร้อมกับน้ำเย็นๆของแม่น้ำ ตามมาชะล้างตอนที่แกถอยออกมา ช่างมันเถอะนะเราบอกตัวเองอย่างนั้น เราเดินขึ้นมาใส่ผ้าแล้วเดินเข้าบ้านเล็กด้วยกัน พี่โด่งยังไม่ยอมปล่อยเรานอนง่ายๆเหล้าดองยาทั้งกลมทำเอาพี่โด่งคึกไม่เลิก และแกก็งอแงไม่ยอมใส่ถุงยางอีก
“ทำไมวะ เอ๋ ต้องใส่ทำไมไม่ไว้ใจพี่เหรอ” เราพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมแก
“พี่โด่งใส่ถุงก่อน”
“ไม่ใส่” เสียงแกตวาดพร้อมๆกับเสียงฟ้าที่ร้องอยู่ด้านนอกพี่โด่งตามมาตะครุบตัวเราไว้
“จะหนีไปไหน” แกทับที่ร่างเรานี่เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกนี่พี่โด่ง
“พี่โด่งอย่ารุนแรงสิ” เราเจ็บเพราะมือที่กดตัวเราไว้แน่น
“แล้วดิ้นทำไม”แกจับเรานั่งบนตัวแกกอดเราไว้แน่นส่วนมือก็จับเคถูที่ทางเข้าไปมา เราไม่กล้ามองหน้าพี่โด่งตอนนี้
“พี่โด่ง เอ๋เจ็บนะพี่” พี่โด่งหยุดกัดที่ไหล่แล้วมองหน้าเรา
“เจ็บอะไร แค่นี้เอง”แกดันหัวเข้ามาได้แล้ว มันแข็งแรงผิดปกติเรากัดริมฝีปากตัวเองแน่น รูเปิดตั้งแต่ในน้ำแล้วแต่ยังเจ็บอยู่เพราะไม่มีหล่อลื่น พี่โด่งผลักเรานอนลงแล้วพับตัวเราครึ่งนึงแกหยิบหมอนอีกใบมารองที่หลังเราไว้
“เข้ายากจังวุ้ย” แกบ่นพึมพำแล้วกางขาเราออกกว้างในห้องมีแต่ความมืดแสงสว่างจากท้องฟ้าเราร้องเสียงดังแข่งกับเสียงฝน
“โอ๊ยพี่โด่ง เอ๋เจ็บ” เราพยายามจะกระเถิบตัวออกให้หลุดจากการล่วงล้ำแต่พี่โด่งจับขาเราดึงเข้าหาตัวแกจนมันแนบสนิทแล้วแกก็โหมกระแทกอย่างรุนแรงที่สุดนับแต่เราเคยโดนมา พี่โด่งกระชากเข้าออกอยู่นานจนสาแก่ใจของแกก่อนจะฉีดมันเข้าไปในตัวเราอีกครั้ง แกถอนตัวออกช้าๆ แล้วนอนหงายเราได้แต่นอนตาค้าง นี่เราโดนพี่โด่งข่มขืนเอาแล้วสินะ ฝนข้างนอกยังคงตกกระหน่ำพี่โด่งเสร็จแล้วก็นอนหลับสนิท ปล่อยให้เรานอนระบม เราค่อยๆดันตัวลุกขึ้นไปทำความสะอาดอีกครั้ง เรารู้สึกเหมือนข้างในมันจะฉีกขาดอย่างรุนแรง เรากลัวจนตัวสั่นกลับมานอนร้องไห้เงียบๆคนเดียวอย่างไม่มีสาเหตุ พี่โด่งรู้สึกตัวเอาขาเปลือยมาก่ายตัวเราไว้อีกครั้ง เราตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งก่อนที่จะเป็นลมหมดสติในอ้อมแขนของพี่โด่งตอนที่แกดึงเราลุกจากที่นอน เราได้ยินแค่เสียงพี่โด่งร้องเรียกเราแผ่วๆเท่านั้น
“พาน้องไปเล่นน้ำตอนกลางคืนเห็นมั๊ย ไม่สบายจนได้ ตัวเย็นเจี๊ยบเลย” ย่าเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดที่ตัว เรารู้สึกตัวอย่างช้าๆ มือของย่าเช็ดไปตามอกแล้วก็ชะงัก
“แล้วนี่รอยอะไรหล่ะโด่ง” ย่าก้มดูใกล้ๆ”ทำไมมันเขียวเป็นจ้ำๆอย่างนี้” แกเปิดดูที่ต้นคอและราวนม “เอ๋อะไรกัดเหรอลูก” เราเอามือปิดเสื้อแต่ไม่ตอบอะไร พี่โด่งดึงผ้าออกจากมือย่าแล้วบอกให้ย่าไปเอาข้าวต้มมาให้เราแกจะเช็ดตัวให้เอง
“เฮ้อ พาลูกเขามาลำบากจนได้นะโด่ง ย่าหล่ะห่วงจริงๆ พ่อแม่เขาจะว่าเอานะถ้ารู้ว่าลูกเขามาไม่สบายที่บ้านเรา”ย่าบ่นแล้วเดินออกไปหาข้าวให้เรากิน พี่โด่งจับหัวเราหนุนที่ตักแกแล้วก้มหน้าจนเกือบชิด
“พี่ขอโทษนะเอ๋” มือใหญ่ลูบผมเราเบา เหงื่อเม็ดเล็กๆมันซึมรอบโคนผมเต็มไปหมด เราหลับตาอีกครั้ง ย่าเอาข้าวมาให้
“ดูแลน้องดีๆนะ ย่าจะไปตลาดกับปู่ก่อน” พี่โด่งประคองเราลุกขึ้นนั่งพิงที่ไหล่แล้วใช้มือที่ว่างป้อนข้าวเรากินไม่ลงเบือนหน้าหนี มันเหม็นไปหมด เวียนหัว
“พี่โด่งเอ๋อยากจะนอนก่อน” เราแข็งใจกลืนยาลงคอก่อนที่จะนอนลงช้าๆ พี่โด่งลุกไปปิดประตู แล้วมานั่งใกล้อีกครั้ง เราลืมตามองพี่โด่งอีกครั้ง
“พี่โด่ง เอ๋รักพี่นะ พี่โด่งอย่าทิ้งเอ๋นะ” เราอ่อนแอจนพูดความในใจออกไปอีกจนได้ พี่โด่งเอนตัวลงนอนกอดเราไว้แน่นเหมือนเป็นคำมั่นสัญญา เราเกลียดตัวเองที่อ่อนแออย่างนี้ เราไม่อยากให้ใครมาเวทนาสงสาร เราอยากจะอยู่กับพี่โด่งด้วยความสุขมากกว่า ที่จะต้องมานอนหมดเรี่ยวแรงแบบนี้
“พี่โด่งเลยหมดสนุกเลย”
“เดี๋ยวก็หาย เอ๋แค่นอนไม่พอแค่นั้นแหละ พักก่อนนะครับ เดี๋ยวหายแล้วเรากลับกรุงเทพฯกันนะครับ”พี่โด่งจูบที่หน้าผากเราแล้วลูบผม เรามารู้ทีหลังว่าเป็นความดันต่ำทำให้หน้ามืดบ่อยๆ พี่โด่งกอดตัวเราไว้แน่นแล้วลูบที่ตัวเราเบาๆเราหลับไปเหราะฤทธิ๋ยาในอ้อมแขนพี่โด่งอีกครั้ง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
-*-
Guest

101. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #100
 
12-Aug-16, 11:26 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่ 101

“เอ๋ ดีขึ้นรึยัง”เราตื่นขึ้นมาอีกทีก็ค่ำ นอนมาเกือบทั้งวันใบหน้าที่กังวลของพี่โด่ง ทำให้เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“หายแล้ว” เราดันตัวลุกขึ้นนั่ง ยังเหนื่อยบ้างแต่ก็โล่งดี พี่โด่งอาบน้ำเสร็จแล้วนั่งหน้าขาวอยู่ต่อหน้าเรา เราขยับตัวลำบากรู้สึกเจ็บที่ก้น“แย่จังเลย โดนเอาจนเป็นไข้” เรายังติดตลก “พี่โด่งเอ๋เจ็บก้น”เราสูดปากตอนที่ขยับตัว”” “อย่าทำแบบเมื่อคืนอีกนะฮะ” เราชกที่ไหล่แกหลายที พี่โด่งทำทีเป็นหลบ
“หิวมั๊ย”
“หิวแล้ว” เรากลั้นใจลุกขึ้นยืน “พาไปกินข้าวหน่อย” พี่โด่งประคองเราเดินข้ามสะพานเล็กเข้าไปในบ้านเดินผ่านปู่กับย่าที่นั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่
“จะไปไหนกัน”
“พาเอ๋ไปกินข้าวแถวตลาดครับ”
“เออเพิ่งหายไข้ก็ยังจะตะลอนอีกนะ เดี๋ยวไข้ก็กลับหรอก”
“ไม่เป็นไรแล้วฮะ ถ้าได้ยาดีอีกสักรอบคงหายสนิท” พี่โด่งรู้ความหมายแล้วรีบเดินออกไปรอข้างนอกทันที รถเคลื่อนออกจากสวนแล้วมุ่งสู่ถนนใหญ่ทางไปตลาด เงาของต้นไม้ข้างทางดำทะมึน
“ดึกแล้วนะพี่”
“ยังไม่ดึกหรอกเพิ่งสองทุ่มเอง” เราไขกระจกให้อากาศภายนอกเข้ามาในตัวรถ สดชื่นมาก กลิ่นไอฝนโชยมาตามความเร็วของรถ เรามองไปที่ข้างทาง
“เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” พี่โด่งบอกให้เลื่อนกระจกขึ้น เรายื่นมือออกไปนอกรถ ฝนตกอีกแล้ว มันหนาเม็ดมากยังไม่ถึงตลาดเลย พี่โด่งแอบรถชิดข้างทางแล้วเอื้อมมือมาปิดกระจกฝั่งเรา
“ดื้อจริงๆ เป็นหวัดขึ้นมาจะไปไหนได้”
“ไม่เห็นจะกลัวมีเข็มฉีดยาอยู่ใกล้ๆแบบนี้” เราทะลึ่งไปคว้าที่เป้า
“ไหนว่ากลัวไง”
“พูดเมื่อไหร่” เราหัวเราะ
“มารยานักนะเรา เดี๋ยวคืนนี้เอาให้คางเหลืองเลย” เราเบ้หน้าใส่
“เชิญ” เรายังลูบคลำพี่โด่งอยู่ไม่เลิก แกแขม่วท้องให้ปมกางเกงนอนหลุดออกแล้วพยายามจับหัวเราลงไปหาเป้า
“กินไอ้นี่แทนข้าวแล้วกันเอ๋”ไฟของรถอีกฝั่งส่องมาทำให้เราสะดุ้งพี่โด่งรีบผูกกางเกงแล้วออกรถทันที เราหัวเราะอย่างสะใจ สมน้ำหน้า อยากไม่เลือกที่ เรามองหน้าพี่โด่งด้านข้างเหมือนแกอารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะ รถจอดที่ตลาดเรารีบวิ่งไปร้านขายข้าว ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆมีคนนั่งรอฝนหยุดอยู่หลายโต๊ะ กับข้าวถูกวางหลายอย่าง พี่โด่งก็สั่งเบียร์มากินอีก
“เดี๋ยวก็เมาหรอก”เรากินข้าวเยอะหิวมาก อะไรก็หมด พี่โด่งก็หมดไปหลายขวดเหมือนกัน
“พรุ่งนี้ไปไหนกันดีเอ๋” พี่โด่งถามหลังจากรับเงินทอน
“ไปเที่ยวบ้านพี่โด่งได้มั๊ย”
“บ้านไหน”
“ระนอง” เราตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ก็ดีเหมือนกัน ไปนอนที่โน่นหลายๆวัน จะพาไปทำสวนสะตอ” พี่โด่งขับรถเร็วกว่าขามาอีกแกคงมึนเล่นเอาหวาดเสียวเหมือนกัน ถึงบ้านเรารีบอาบน้ำเพราะกลัวหวัดจะกิน รีบกินยาแล้วทำเป็นนอนตะแคงตัวเข้าฝาแล้วแกล้งหลับตอนพี่โด่งไปอาบน้ำอีกรอบ แกดับไฟในห้องแล้วเอา มือเย็นๆมาจับที่หน้าผาก เราแกล้งหลับต่ออยากรู้ว่าแกจะทำอะไร พี่โด่งนอนลงข้างๆ เอาแขนพาดมาที่ตัว ดันตัวให้เรานอนพลิกมาหาที่ตัวแกเราทำตัวอ่อนขยับตัวไปตามแรงของเขา จนหัวเราหนุนอยู่ที่แขน แกจูบที่หน้าผากหลายทีขนลุกซู่เลย
“รู้นะว่าแกล้งหลับ” เราทำทีเป็นไม่ได้ยิน พี่โด่งรุกต่อไซ้ที่ซอกคอ หนวดเคราที่ไม่ได้โกนขูดไปตามเนื้ออ่อนๆที่รอบคอ แกดึงแขนออกแล้วจับหัวเราวางที่หมอนก่อนจะทับมาทั้งตัว แล้วดูดที่ซอกคอจนเราเสียวหดคอไว้ จั๊กกะจี้จนค้องดันหน้าแกออก
“มารยามากนะเรา” เราหัวเราะร่วนแล้วโอบรอบคอพี่โด่งไว้
“กอดหน่อยนะ”พี่โด่งกอดตัวเราแน่น เรากอดกันหลับ ตื่นมาตอนเช้าพี่โด่งยังไม่ตื่นเราดันตัวแกออก เราดึงกางเกงนอนออกจากตัวแกแล้วนอนคว่ำหน้าอยู่ที่ระดับเดียวกันกับเค จับมันพลิกไปพลิกมาเล่น มันน่ารักดี นะตอนที่มันยังไม่ดุแบบนี้ พ่อแกคงรักแกมากถึงให้มาซะเยอะเชียว เราจับไข่ใบโตเล่นอยากจะทึ้งให้มันหลุดทั้งพวงหมั่นเขี้ยวนัก ทำเอาเจ็บซะสลบเลยเราปล่อยมือออกจากของชอบแล้วออกไปนอกห้อง ย่ากำลังทำกับข้าวกับลูกจ้างในครัว
“มาช่วยกันหน่อยเอ๋” เราเป็นลูกมือช่วยหยิบจับเล็กๆน้อย กับข้าวเสร็จไปก็ไปอาบน้ำ แล้วเก็บเสื้อผ้าคนใจร้ายยังนอนหลับสนิท แก้ผ้าอยู่กลางห้อง พี่โด่งบิดขี้เกียจค่อยๆลืมตาแล้วก็สะดุ้ง เมื่อเห็นตัวเองแก้ผ้าเคลุกโด่
“เฮ้ย กางเกงไปไหนวะ” เรานั่งขำ พี่โด่งเดินโทงๆมาดึงกางเกงที่มือเราไปใส่
“เล่นอะไรบ้าๆ” แกหัวเสียแต่เช้า “อายนะโว๊ย” แกผูกปมกางเกงเสร็จแล้วเดินมาเขกหัวเราที
“ไปกินข้าวกันพี่ ล้างหน้าเสร็จแล้วตามไปนะ” เราวิ่งเข้าไปที่ครัวอีกพี่โด่งหน้าบอกบุญไม่รับตอนกินข้าว
“เป็นอะไรหน้ายุ่งเชียว” ย่าถาม
“จะเตะเด็กเล่นพิเรนท์สักทีวันนี้” เราทำเป็นหูทวนลม ทั้งปู่กับย่าก็งงไม่รู้เรื่องพี่โด่งชี้หน้าเราอีกทีก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
รถขับไปเรื่อยๆจนถึงระนอง แม่มีลูกจ้างทำไร่เป็นผู้ชายอยู่สองสามคนหนุ่มใต้นี่มันเร้าใจเราจริงๆ พวกนี้หน้าคมผิวคล้ำไม่เหลืองเนียนอย่างพี่โด่ง วัยกำดัดทั้งนั้น แม่ทำบ้านหลังเล็กๆที่หลังบ้านอยู่กัน ก็เป็นเด็กละแวกนั้นกินอยู่กันเสร็จที่นี่เลย พวกเขามองหน้าเราแล้วอมยิ้มพยักเพยิดกัน เอพวกนี้เรานึกในใจ มันขำอะไรกัน พี่โด่งยังงอนไม่เลิก ชวนคุยเท่าไหร่ก็ทำทีเป็นเฉย ถามคำตอบคำมาตลอดทาง ประสาทแค่นี้ก็งอน แม่ลูบหน้าลูบหลังอยู่นานแล้วจูงมือไปห้องนอนพี่โด่ง พี่โด่งยังยืนคุยกับหนุ่มคนงานในภาษาเขาเสียงดัง เรานอนเล่นอยู่ในห้อง แม่ลงไปทำกับข้าวแล้วบอกให้เรานอนพักก่อน พี่โด่งเดินขึ้นข้างบนมาเสียงดังตึงตัง เข้ามาในห้องเห็นเรานอนกระดิกเท้าอ่านการ์ตูนคงหมั่นไส้ แกปิดประตูเสียงดังจนเราสะดุ้ง
“ตัวแสบ ทำอะไรอยู่” แกนั่งลงข้างๆตัวเรา
“นอนรอพี่โด่งอยู่นะสิ อยากมาก”
“คืนนี้จะปล่อยให้นอนคนเดียวเลย เอาแต่เล่น”
“เรื่องอะไร” เราโยนหนังสือไปข้างเตียงแล้วนอนหนุนตักแกเล่น มือก็คลำที่เป้าไปมองหน้าแกไป เรานอนคว่ำหน้ารูดซิบกางเกงออกจับมันออกมาแล้วดูดแรงๆ พี่โด่งคงเสียวมากนอนหงายไปบนเตียงกำลังเพลินกันทั้งคู่ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงแตกหนุ่มของคนงานหน้าเข้ม
“กินข้าว”พี่โด่งสะด้งโหยงรีบพลิกตัวหลบ เราก็อึ้งไปเหมือนกัน เห็นหมดแล้วตายละสิ
“ลงไปก่อนเดี๋ยวตามไป” หนุ่มน้อย ยืนมองแบบงงงงก่อนจะเดินลงไป
“เป็นเรื่องอีกแล้ว” เรามองหน้าพี่โด่งแกหัวเราะแล้วมองหน้าเรา
“นางเอกหนังโป๊ ลงไปก่อนไป” พี่โด่งลุกขึ้นถอดกางเกงแล้วเปลี่ยนเป็นโสร่ง ทำเหมือนไม่มีอะไร แต่เราสิหน้าชาเมื่อต้องนั่งกินข้าวตรงข้ามกับเขา คอยหลบตา
“เอ๋เป็นอะไร กับข้าวไม่รอยเรอะ” แม่ถาม เราเลิกสนใจแล้วมองไปที่พี่โด่ง แกทำไม่รู้ไม่ชี้คุยกับแม่ไปเรื่อย หนุ่มคนงาน สะกิดเพื่อนให้มองหน้าเราบ่อยๆ กินไม่ลงแล้วสิ ไอ้พวกบ้ามองอยู่ได้ เรารีบอิ่มแล้วออกไปเดินเล่นที่หน้าบ้าน แม่ตามมานั่งคุยด้วย เด็กๆพวกนั้นเก็บถ้วยจานแล้วก็ไปออกไปซื้อเบียร์ให้พี่โด่ง พวกนี้คงราวสิบเจ็ดสิบแปด แต่รูปร่างกำยำเพราะทำงานหนักไม่ดูสะโอดสะองเหมือนคุณโด่งเจ้าของบ้านหรอก เรากับแม่นั่งดูพวกผู้ชายกินเบียร์กัน จนแม่ขอตัวไปอาบน้ำแล้วขึ้นนอน เรานุ่งโสร่งไม่เป็นมันดูเหมือนใส่ผ้าถุงมากกว่า อาบน้ำเสร็จก็รีบเข้านอน จะกินถึงกี่ทุ่มก็ตามใจเถอะพี่โด่ง ไม่รอแล้วนอนก่อนดีกว่า...................

ตอนที่ 102

เราเดินตามแม่ไปสวนแต่เช้า พ่อรูปหล่อยังนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในห้องคนอะไรเมาแล้วอย่างนี่ทุกทีสิน่า เมื่อคืนเราเลี่ยงไม่ได้อีกแล้วนอนหลับไปตั้งนานก็ถูกปลุก พี่โด่งนะพี่โด่ง แม่เดินยิ้มๆเมื่อเห็นหน้าเราซึมด้วยเม็ดเหงื่อ
“บอกแล้วให้นอนอยู่บ้าน ไม่เชื่อ” สามหนุ่มนำลิ่วไปไกลแล้ว สวนของแม่ค่อนข้างกว้างมีหลายอย่างสะตอ ลูกเนียง ทุเรียนยังมีเลยเราเพิ่งเคยเห็นทุเรียนใต้ แม่มาดูสวนทุกวันตอนเช้าแล้วกลับไปนอนเอาแรงตอนบ่ายแล้วกผู้เห็นเหตุการณ์คุยกันกับเพื่อนหัวเราะเสียงดังให้เราได้ยิน เวลาแม่เผลอก็จะทำท่าตอนที่เราดูดใส่หน้าเรา พวกนี้มันก็อายุพอๆกับโอ มันถึงห่ามนักเรานึกในใจเดี๋ยวเถอะมึง ถ้าไม่กลัวพี่โด่งเตะละก้อ แม่ทิ้งให้เราเดินเล่นในสวนคนเดียวแกกลับบ้านไปแล้วเพราะรีบไปทำกับข้าวเดี๋ยวลูกรักจะหิวตอนตื่นขึ้นมา
“น้องๆ” เราหันไปตามเสียง
“เรียกใครน้อง อย่ามาเทียบรุ่นนะ” เรากระฟัดกระเฟียดขึ้นมา หนึ่งในนั้นพูดภาษาใต้แซวเราต่อ
“พี่ชาย ให้น่องดูดไค๊ ฮ้ายเอาม๊าย”
“อยากลองเหรอ” เราตะโกนตอบ
“บ้าน่า ตัวเอง” เขาทำท่าเลียนแบบเรา เรามองค้อนแล้วเดินกลับบ้าน เสียเปรียบจริงๆโดนรุมแบบนี้ พี่โด่งนั่งหน้าหล่อรอกินข้าวแล้ว
“ไปไหนมา”
“เดินเล่นที่สวน”
”เดี๋ยวพี่จะไปข้างนอกกับแม่นะ ถ้าเพื่อนพี่มาหาเอ๋ก็ดูแลเขาหน่อยนะ”
“ใครจะมาเหรอ” เราสงสัย
“หลายคนเหมือนกัน วันนี้จะกินเหล้ากัน ไม่เจอกันนาน”
“กินเหล้าอีกแล้ว” เราเบะปาก “กินอยู่ได้ ไม่เบื่อรึไง” เรานั่งงอนอยู่ใกล้ๆ พี่โด่งลูบผม
“อายุเท่าไหร่แล้วปีนี้”
“ยี่สิบ” เราตอบ
“ทำไมยังเหมือนทำตัวเป็นเด็กอยู่นะเอ๋ โตแล้วนะ งอนแบบเด็กๆไปได้”
“ไม่เห็นเหมือนยี่สิบ แม่มาดู้หน้าเราใกล้ๆ นึกว่าเพิ่งจบมอหก” ปลื้มสิคะงานนี้
“พี่โด่งสิแก่คนเดียว แล้วจะกลับกี่โมง”
“ไปบ้านยาย หน่อยไม่นานหรอก เย็นๆก็กลับ แม่ทำกับข้าวไว้ให้แล้วนะ หิวก็กินพร้อมพวกนั้นเลยไม่ต้องรอ”
“ฮะ” พวกนั้นเหรอ ไม่อยากจะคิดว่าเราต้องอยู่กับไอ้พวกบ้านั่นเหรอ พี่โด่งพาแม่ไปออกไปแล้ว เราก็ขึ้นไปนอนเล่นบนห้อง เสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ในครัวดังขึ้นมาถึงข้างบน เราค่อยๆเดินลงมาหิวข้าวแล้วเหมือนกัน พวกนั้นเหงื่อโชกตัวเชียว ปู โย และ แอ เป็นชื่อของสามหนุ่ม คนที่เห็นเหตุการณ์ชื่อ โย เรานั่งกินข้าวด้วยกัน กินเสร็จก็ช่วยกันล้าง เสร็จแล้วเราก็ไปนอนเล่นที่หน้าโทรทัศน์ เปิดวีดีโอดู หนุ่มๆอาบน้ำกันเสร็จก็มานั่งดูใกล้ๆ เราดูหนังไม่รู้เรื่องเลย กลิ่นสาบผู้ชายมันเย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูก เลิฟซีนในหนังค่อนข้างรุนแรงจนเราหันไปมองพวกนั้นบ่อยๆ โยมองหน้าเรา เราก็มองตอบอีกสองคนยังสนใจที่ตัวนางเอกในเรื่อง จุ๊ปากไปด้วย เรานั่งงอขาขึ้นมาแล้วเอาคางเกยไว้ที่เข่า โยขยับมือแถวเป้านอกโสร่ง
“เป็นอะไร ดูแค่นี้ก็มีอารมณ์เหรอ” เราเอนหลังพีงที่ฝา “เด็ก”
“เด็กที่ไหน เอาหญิงก็ท้องได้นะ” ปูตอบแทน
“หญิงที่ไหนจะมาให้เอาง่ายๆ” เราค่อยๆเปิดทาง “ไหนว่าไม่เด็กขอดูหน่อยสิ” เราถามเอาดื๊อๆ
“เรื่องอะไร ไปดูของอาโด่งโน่น”
“แล้วมาคุย คงจะเล็กละสิ” เราเอนตัวลงนอนที่พื้นมือลูบที่ต้นขาโยเล่น เขาปัดมือ
“เดี๋ยวสวย” แอ ลุกมานั่งทับตัวเรา ทำท่าเหมือนข่มขืน เราแกะมือออก
“เล่นบ้าๆ ไม่ดูด้วยแล้ว ถ้าเพื่อนพี่โด่งมาขึ้นไปตามด้วยนะ”
“นึกว่าจะแน่” เราชะงัก แล้วหันมามองหน้าโย
“แน่ไม่แน่อยากรู้ก็ตามมาสิ”
“ไม่อยากกินถั่วดำ” โย ตอบ
“ถั่วดำอร่อยดีนะ” เราทิ้งสายตาหึเด็กๆ พูดไปก็เสียเวลาเปล่า นอนหลับไปไม่นาน โยก็เข้ามาในห้องสะกิดที่ตัวเรา
“เพื่อนพี่โด่งมาแล้วเหรอ”
“ยัง”
“แล้วมีอะไร”
“เปล่า”
“แปลกคน” เราไม่สนใจแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ
“อะไรวะ ขึ้นมาหาแล้วยังเล่นตัวอีก”
“อ้าวก็ไม่อยากกินถั่วดำนี่” เราพลิกตัวกลับมามองหน้าโยอีกครั้ง ไม่แน่ใจถ้าหากมีอะไรแล้วพี่โด่งรู้เราจะเป็นยังไงนี่
“นายเป็นไรกับอาโด่ง” โยยังไม่หายข้องใจทั้งๆที่ก็เห็นแล้วเรื่องเมื่อวานนี้ เขาเป็นญาติกันห่างๆกับพี่โด่งด้วย
”ไปถามอานายเองสิ” เราลุกขึ้นจากที่นอนเหมือนได้ยินเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน
“จะได้โดนเตะเอาสิ” เราหยุดอยู่ที่หน้าประตูบอกโยให้ลงมาไปข้างล่างด้วยกัน เขาก็ลุกจากที่นอนมือไวของเราก็คว้าหมับกางเกงในก็ไม่ใส่ เต็มมือดี พันธ็นี้ถ้าจะใช้ได้หมดทุกคนเชียว
“เฮ้ย เล่นอะไร” เราปล่อยมือแล้วก็เดินลงข้างล่าง ก็พบว่ามีคนมารอพี่โด่งที่หน้าประตูแล้วหลายคน รุ่นราวคราวเดียวกับพี่โด่งทั้งนั้น ใช้ได้ทุกคนเลย เราอาจจะชอบหนุ่มใต้ก็เป็นได้เห็นใครก็น่ากินไปหมด โยรู้จักทุกคนดี แต่เราไม่รู้จัก
“ใครวะโย”
“อาโด่งพามาจากกรุงเทพฯ ชื่อเอ๋” โยแนะนำเรากับทุกคน พี่โนชมองหน้าเรา
“เฮ้ย เป้า มึงมีคู่แข่งแล้ว” คนชื่อเป้าเพิ่งมาถึง คนนี้คงเป็นกระเทยแน่ๆเรานึกในใจ เขาแต่งตัวเหมือนเป็นข้าราชการ หน้าตาขาวผ่องผิวเนียนแบบคนใต้ แต่หน้าหวานเกินชาย
“โอย เด็กๆ ฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก กระเทยเด็ก น่าเวียนหัว” เป้าเบะปากแบบเหยียดๆใส่เรา คงคิดว่าตัวเองสวยเริ่ดซะเต็มประดา ยังไม่รู้จักกันเลยปากร้ายสะแล้วเสียดายมือที่ไหว้ไปเมื่อกี๊ เราไม่ชอบขี้หน้า คนชื่อเป้าขึ้นมาทันทีฉันก็ไม่อยากยุ่งหรอกกับหล่อนหรอกกระเทยแก่ เราปล่อยให้โยดูแลเพื่อนพี่โด่งคนเดียว เราหลบไปเดินเล่นในสวนดีกว่า แดดร่มลมตกแบบนี้ กำลังสบายเชียว โยเดินตามมา
“เอ๋ทำไมไม่อยู่ที่บ้าน”
“คนละรุ่น ไม่มีอะไรคุยด้วย” เราปีนไปนั่งบนตันไม้กับโย มองออกไปตามสวน ยอดไม้ลดหลั่นกันเป็นทิว ไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กมานานแล้ว นั่งกันอยู่นานก็เบื่อเราก็ปีนลงมา โยใส่โสร่งแต่ปีนต้นไม้ได้คล่องแคล่ว พี่โด่งเดินมาตามตอนที่เรากำลังลงจากต้นไม้พอดี
“เอ๋ มาเล่นอะไรแถวนี้ บอกให้รอเพื่อนพี่ไง”
“ก็รอแล้ว มากันหมดแล้วเลยมาเล่นในสวน”
“โย ไปช่วยแม่ไป” โยวิ่งกลับไปตามคำสั่ง
“เป็นอะไรขึ้นมาอีก” พี่โด่งมองหน้าเรา “ทำตัวแปลกๆนะเรา”
“เบื่อกระเทย” เราตอบแค่นั้นก็เดินไปจากพี่โด่ง ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด
“ว่าพี่เขาทำไม” พี่โด่งตามมาเคลียร์
“ไม่ได้ว่าใคร แค่เบื่อ” เราเดินจ้ำอ้าวจนถึงบ้าน ในครัวคุณเป้าเธอกำลังทำกับข้าวเป็นแม่ศรีเรือน หล่อนใส่โสร่งของพี่โด่งตัวเมื่อคืน เห็นแล้วยิ่งฉุนขึ้นมาอีก สนิทกันแค่ไหนนะคู่นี้ และอีกอย่างสรุปแล้วนี่พี่โด่งมีเมียกระเทยกี่คน และ เราเป็นคนที่เท่าไหร่ ......................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
( - - ) click here to view user rating
Member since 9-Nov-10
260 posts, 2 feedbacks, 4 points

102. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #101
 
20-Aug-16, 10:20 PM (SE Asia Standard Time)
Click to send private message to %28%20-%20-%20%29 Click to add this user to your buddy list  
ดัน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
POPO
Guest

103. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #101
 
13-Sep-16, 08:51 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณมากๆค่ะ คุณ -*- ที่มาช่วยต่อเรื่องราวของพี่เอ๋
มาต่อเรื่องราวต่อด้วยนะ ถ้าถึงตอนที่เรามีต่อ เราก็จะลงให้เลย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Serena
Guest

104. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #103
 
13-Feb-17, 01:45 PM (SE Asia Standard Time)
 
   อ่านแล้ว สนุกมาก ดันคับ

อยากอ่านเพิ่มอีกครับ
ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแชร์เรื่องนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

105. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 05:50 PM (SE Asia Standard Time)
 
   รอมานาน..ยังไม่มีใครมาต่อเรื่องให้ เราก็ขอลงตอนที่เราพอมี อาจจะไม่ปะติดปะต่อ
แต่ก็พอให้ได้คิดถึงเรื่องดีๆ ของพี่เอ๋


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

106. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 05:56 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนที่เรามี 229-259

229….
Wrap up เรียกน้ำตาแห่งความผูกพันได้ไม่น้อย ทุกคนโผเข้ากอดกัน เราได้มิตรภาพมากมายจากสองวันที่ผ่านมา เรานั่งนิ่งมาจนถึงกรุงเทพฯ รถจอดหน้าโรงแรมทุกคนทยอยลงเพื่อแยกย้ายกลับบ้านสองมือของแต่ละคนมีของฝากกันทั้งนั้น เราเดินลงก่อน พี่วริตที่นอนหลับตาตั้งแต่รถออกจากรีสอร์ท ไม่ได้คุยอะไรกันตั้งแต่เช้าจนมาถึงกรุงเทพฯ เราหันไปมองแกอีกครั้งแต่ก็ต้องบอกตัวเองว่า พี่วริตมีเมียมีลูกแล้วอย่านึกว่ามันจะเป็นไปได้มากกว่าที่ได้รับ อย่างไรเสียเขาก็มีเจ้าของแล้ว อย่าเผลอใจ เราบอกตัวเองอย่างนั้นแล้วกระชับข้อมือหิ้วกระเป๋าและของฝากให้แน่นขึ้น
“เอ๋ กลับทางเดียวกันนี่ ติดรถพี่ไปสิ เดี๋ยวพี่แวะส่งให้” บ้านแกเลยไปทางลำสาลี
“ไม่สบายรึเปล่า นั่งเหงามาตลอดทาง”
“ไม่มีเพื่อนคุย” เราคาดเข็มขัดแล้วหันไปตอบคำถามแก
“ทำไมหล่ะ คนออกจะเต็มรถ ข้างหลังเขาก็เล่นไพ่กัน”
“หลับแล้วยังรู้อีกเหรอ”
“แค่หลับตาเท่านั้นแหล่ะ ใครมันจะหลับได้ หนวกหูจะแย่”
“จะลงตรงไหนดี”
“พี่ผ่านหน้ารามรึเปล่า”
“ผ่าน” เราบอกที่หมาย
“ไม่เป็นไรพี่แวะส่งได้”
“อย่าเลยพี่เดี๋ยวรถติดนะ”
เราลงข้างทาง พี่วริตไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อคืน มีแต่เราเท่านั้นที่เอามาคิดว่ามันเป็นอะไร สองวันมันเหมือนสองอาทิตย์ เราเดินขึ้นห้อง ต่อนั่งกินข้าวเย็นกับวีในห้อง
“กลับแล้ว ไหนของฝาก” ต่อผละจากข้าวเย็นแล้ววิ่งมาหา “สนุกมั๊ย”
“สนุกและเหนื่อยมาก”
“ได้อะไรมั่งหล่ะ”
“ก็ได้ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนต่างแผนก” เราตอบเบาๆแล้วเปิดประตูห้อง
“เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เหนื่อย”
“กินข้าวรึยัง”
“ยังไม่หิว”
“อะไรเนี่ย ทำตัวเหมือนคนหัวใจสลาย นี่ไปแอบรักใครยะ”
เสียงของต่อทำให้วีเงยหน้ามองออกมา
“พูดเป็นเล่น ยิ่งมีคดีอยู่ แค่เหนื่อยก็แค่นั้น ขอนอนก่อนนะ” เราปิดประตูแล้วทรุดนั่งกอดเข่าที่ระเบียงมองออกไปข้างนอก อย่าให้มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของเราเลยนะ เรื่องของพี่วริต ขอให้มันจบอยู่ที่นั่นที่ผ่านมาเป็นเพียงลมพัดผ่านเบาๆเท่านั้น เราบอกกับตัวเอง อย่าอ่อนไหว...
“ว่าไงเอ๋สนุกมั๊ย กลุ่มสามวิ่งเข้ามาถามตอนที่เขากำลังต้อนขึ้นรถ”
“สนุกมาก”
“ได้ผู้ชายมั๊ย” ทีน่าไปในทริปนี้
“ไม่ได้หรอก ใครจะไปกล้า” โกหกอีกแล้ว “อีหยีมันเดินหน้ามุ่ยมาพร้อมกระเป๋าใบใหญ่
“นี่หล่อนหอบผัวใส่กระเป๋าไปด้วยเหรอยะ ไปแค่สองวันจะเอาไปทำไม”
“มีคนบอกว่ากลางคืนมีโชว์”
“ก็เขาไม่ให้พูดแล้วหล่อนรู้ได้ไง”
“แหมใครจะทนไหว ชั้นก็สืบมาเองสิจะได้เตรียมตัวไปด้วย”
“รู้แล้วมันจะสนุกอะไร” เราบอก
“นี่งั้นไอ้หนึ่งก็ว่างนะสิสองวันนี้” เราแกล้งแหย่
“อย่านะมึง”ทีน่าหัวเราะคิก ฝ่ายบุคคลมายืนจิกทีน่ากับหยีขึ้นรถไปแล้ว เราตื่นเช้าด้วยหน้าตาที่สดใส เราคล้ำไปนิดนึง สีตกเพราะแดด เดินสวนกลับพี่วริตที่แคนทีน แกก็พยักหน้าให้ พี่วริตคงปล่อยให้มันผ่านไปตามวันเวลาสินะ เราหันหลังกลับไปมองแกอย่างเสียดาย
“ไงพี่เอ๋” หนึ่งถือถาดมานั่งด้วย
“ยังไม่กลับบ้านเหรอ”
“วันนี้เข้าเช้า เพิ่งเปลี่ยนรอบ”
“แฟนไม่อยู่คงเหงาแย่”
“แฟนเฟินที่ไหน พี่หยีนะมั่ว”
“อ้าวใครก็เห็นนี่ว่าไปไหนมาไหนด้วยกัน” เราถาม
“ใครเห็นก็ช่างประไร ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย แล้วแต่จะคิด”คมนะยะหนุ่มน้อย
“พี่ไปเที่ยวสนุกมั๊ย”
“ก็ดี” เราตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก
“พี่เอ๋เลี้ยงหนังหน่อยสิ อยากดู” หนึ่งชี้หนังในหน้าหนังสือพิมพ์ให้ดู “พี่ดูรึยัง”
“ยัง ไม่ได้ดู”
“ได้มั๊ย ไม่ได้คุยกับพี่เอ๋นานแล้ว ไปดูหนังสักรอบแล้วไปหาข้าวกินกัน” เอ๊ะยังไง
“ทำไมต้องเลี้ยงหล่ะ มีแม่ยกทั้งคน”
“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ” มันจะมาไม้ไหนนี่
“ได้ ถ้าอยากดู รอแล้วกัน งานพี่เลิกเย็นนะ”
“ผมก็เลิกเย็นเหมือนกัน” เราลุกเอาถาดไปเท หนึ่งดูมีเนื้อขึ้นมาบ้างแล้วทำให้หน้าตาเขาดูดีกว่าแต่ก่อนที่ผอมเพรียว
หนังปลายโปรแกรมคนไม่ค่อยเยอะเราตั้งอกตั้งใจดูหนังโดยไม่สนใจเขา หนึ่งถามโน่นถามนี่จนเรากลัวคนจะรำคาญต้องหันไปบอก
“เดี๋ยวออกไปค่อยคุยนะ คนเขาจะด่า”เขาถึงเงียบ
เราทั้งคู่เดินออกจากโรงหนังตอนเกือบสามทุ่มหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงทำท่าเหมือนจิ๊กโก๋
“ไปไหนต่อดีพี่เอ๋”
“ไปห้องหนึ่งไง” เขาชะงักแล้วมองหน้าเรา เรามองตอบอย่างท้าทาย
“ผมอยู่กับเพื่อนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แล้ว”
“งั้นก็ไม่สะดวก”
“ห้องพี่เป็นไง”
“ห้องพี่ก็ไม่ว่าง” มือของหนึ่งถือเบียร์ที่ห่อในกระดาษไว้
“พี่เอ๋อยากไปกับผมจริงๆเหรอ”
“หนึ่งคงไม่อยากไปกับพี่มั๊ง เพราะหนึ่งคงมีคนอื่นแล้ว” เราโบกแท็กซี่ “แล้วเจอกันนะพรุ่งนี้”แท็กซี่จอดเทียบท่า เราอยากจะได้เขาเหมือนกัน แต่เราไม่อยากทำร้ายน้ำใจใครและเราก็รู้ว่าเพื่อนเรามั่วแค่ไหน ไม่อยากสืบสาวเรื่องที่มันอาจจะเกิดขึ้นเพราะความมักมาก เรามองหน้าหนึ่งผ่านกระจกแล้วโบกมือ เขายืนนิ่งมองเราเหมือนกัน
อยู่กับคนที่เขาเลือกก็ดีแล้ว เราก็อยู่ของเรา อะไรนักหนากับผู้ชายคนนี้ มีเงินอยู่ที่ไหนใจเขาก็อยู่ที่นั่นเท่านั้นเอง เราตามไม่ทันหรอก ตอนนี้โลกหมุนเร็วกว่าเดิมแล้ว สิ่งของสมัยใหม่เริ่มล่อตาล่อใจ มือถือเริ่มเป็นที่ต้องการจับต้องได้ง่ายกว่าเดิม เราเห็นหยีกัดฟันจ่ายเงินซื้อโทรศัพท์สองเครื่องพร้อมกันในขณะที่เราไม่มีความรู้สึกอยากได้เพราะไม่รู้จะโทรหาใคร แม้ตอนเพจเจอร์ฮิตเราก็ยังไม่มีกะเขาสักเครื่อง
“ทำไมไม่โทรบอกว่ากลับมาแล้ว” โมเดินเข้ามาในห้องพร้อมกลิ่นเหล้าหึ่ง
“ก็ทำงานนี่นา จะโทรไปทำไม” เรานอนเอกเขนกรอเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า
“จะรีบนอนไปไหน”
“ยังไม่ได้นอน แล้วพรุ่งนี้โมไม่ทำงานเหรอ”
“ทำ แต่จะค้างที่นี่ เสื้อของเรารีดไว้รึเปล่า” เขาเปิดดูชุดที่เขาเอามาทิ้งไว้ มันแขวนอยู่อย่างเป็นระเบียบ
“ไปอยู่ด้วยกันก็ไม่ไป ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่” โมบ่น
“อยู่อย่างนี้แหล่ะสนุกดี โม” เราตอบแค่นั้น โมส่ายหัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ
“กินเหล้าอีกแล้ว”
“ก็ไม่มีอะไรทำ ไปกับไอ้วีมัน ต่อด้วย ไม่มีคนอื่นหรอก”
“ไม่ได้ถามอย่างนั้นซะหน่อย” เราลุกขึ้นนั่งเช็ดผมให้โม เขาใส่เสื้อกับกางเกงเรียบร้อย
“เงี่ยนมั๊ยวันนี้”
“ทะลึ่ง” เราทุบหลังโมไปที “ถามอะไร ไม่ไหวก็นอนสิ” เอาผ้าไปผี่งลมที่ระเบียงกลับเข้ามาก็นอนแอ้งแม้งไปแล้วคนเมา เราจะดำเนินความสัมพันธ์กับโมไปแบบไหนกันนะ เพราะจนป่านนี้มันก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเสียที ว่าเราจะเอายังไงกะเขาดี แว่บความรู้สึกก็มีพี่วริตโผล่เข้ามาอีกจนได้ หันไปมองโมที่นอนอยู่แล้วรู้สึกแย่ ที่เราเป็นคนแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้าก็เคยเสียใจที่เขาไม่ใยดีแล้วมาคราวนี้เขากลับมาแล้วเรากลับเย็นชา เรามันบ้า ด่าตัวเองแล้วซุกตัวนอนลงใกล้ๆกับเขากอดเอวเขาไว้แน่น โมรู้สึกตัวหันหน้ามาจูบที่หน้าผากเรา
“เป็นอะไร”
“ไม่เป็นไร อยากกอดโม”
เขาพลิกตัวนอนตะแคงมาหาแล้วกอดเราตอบ เราซุกหน้าที่อกของเขา เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะเราได้ยินชัดเจน เราจะต้องทำให้ตัวเองรู้สึกดีๆกับโมให้ได้
“เป็นอะไรเอ๋ หน้าตาหล่อนดูแปลกๆ” ต่อถาม
“ไม่เป็นอะไรนี่”
“ดูหล่อนเหมือนกังวล ผัวมากกทุกคืนแบบนี้ยังไม่พอใจอีกเหรอ ไม่ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยหล่ะ”
“ชั้น” ต่อดึงแขนเราเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู
“ถ้าหล่อนไม่รักโมมันแล้ว ทำไมไม่พูดออกไปหล่ะ อย่าทำเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ มันไม่ดีนะ เขาไม่รู้หรอกว่าหล่อนคิดอะไร ในเมื่อนอนเอากันทุกวัน คนที่เขามีใจกะเราเขาก็คิดว่าเราชอบเขานะสิ”
ต่อโพล่งขึ้นมาหลังจากฟังความรู้สึกของเราจบ
“มันยากนี่ ชั้นก็กลัวเคว้งถ้าหากเขาจะทิ้งชั้นอีก”
“กลัวหาไม่ได้ หรือเสียดายอย่างอื่น” ต่อหันมาทำหน้ากวนๆ “โมก็คงไม่ใช่ย่อย ไม่งั้นมันคงเอาหล่อนไม่อยู่หรอก” ต่อหมายถึงเรื่องนั้น
“ก็ดี แต่ยังไม่จุใจ”
“อีโรคจิต ชอบให้เขาทุบเขาตีหล่ะสิ พอเขาหวานด้วยกลับรู้สึกเหมือนขาด”
“คงงั้นมั๊ง”
“คงจะชอบให้เขาแสดงอำนาจข่มหล่ะสิ จะได้ดูเหมือนนางเอกที่โดนพระเอกกดขี่”
“ไม่บ้าขนาดนั้นหรอก”
“นี่ ตัดไม่ขาดก็มองดูเขาใหม่แล้วกัน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไว้มันทนไม่ไหวแล้วก็บอกเขาไปตามตรง เขาจะไม่ต้องเสียเวลากับหล่อน
“ทำไมหล่อนไม่เหมือนชั้น”
“ก็ชั้นไม่ใช่หล่อน ชั้นเจ็บครั้งเดียวชั้นจำ ไม่ใช่พวกซาดิสม์ ที่ชอบทรมานตัวเองให้ตัวเองเจ็บอย่างหล่อนนี่ หล่อนรักใครเป็นรึเปล่า เอ๋” ต่อถาม “ที่ผ่านมาเนี่ยหล่อนเหมือนคนที่รักตัวเองมากกว่ารักคนอื่นเลยนะ พอไม่ได้ดั่งใจหล่อน หล่อนก็ฟูมฟาย พอได้ดั่งใจหล่อนก็เบื่อ อะไรกันนักหนา โตเป็นวัวเป็นควายแล้ว ผู้ชายไม่ได้มาเคาะประตูเอาหล่อนรายวันเหมือนที่หอเก่าแล้วนะ ปีนี้อายุเท่าไหร่ โตแต่ตัว หัวใจยังเป็นเด็ก แก่ขนาดนี้จะมามีพี่โด่งคอยจูงมือไปโน่นมานี่เหมือนก่อนได้ไงยะ ส่องกระจกดูตัวเองหน่อย ว่าตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกันแล้ว อย่าทะนงตัวว่าสวยเลิส กระเทยรุ่นใหม่ๆหน่ะ มันโตเร็ว ระวังเขาไปเจออะไรที่ใหม่กว่าสดกว่าเขาก็ไป มีดีอยู่กะตัวไม่ชอบ ชอบไปเห็นของคนอื่นเขาดี และชอบไปคุ้ยของที่เลิกใช้แล้วมาเก็บ” ต่อค้อน
“ว่าไปเถอะ”
“ไม่ได้ว่า แต่บอกให้รู้สึกตัว หล่อนกะชั้น คบกันมานานแล้วนะ แต่ชั้นไม่เห็นหล่อนดีขึ้นไปกว่าเดิมเลย ให้ตายสิ ถามตรงๆ หล่อนรักใครกันแน่ ถ้ารักพี่โด่งก็ไปหาเขาสิ เขาเลิกกะเมียแล้วนี่ หรือรักพี่แขกก็ไปหาเขาที่บ้าน รักไอ้นกก็ไปหามันสิ ไปแย่งมันมา” ต่อไม่รู้เรื่องพี่วริต “ให้เอาจริงๆก็ไม่เอาทั้งนั้น ตอนนี้ไอ้โมเป็นคนเดียวที่หล่อนจับต้องได้ ชั้นหล่ะดีใจแทนวีจริงๆที่มันไม่หวนกลับมาหาหล่อนอีก เพราะมันเคยบอกว่าหล่อนนะยาก ความคิดกับการกระทำหล่อนสวนทางกัน ตั้งแต่มันรู้ว่าหล่อนนอนกะพี่ภูแล้ว หล่อนมีเหตุผลและก็สรุปเองทุกอย่าง หล่อนไม่เชื่อใครหรอก นั่งฟังไปแค่นั้น ชั้นพูดกับหล่อนเป็นร้อยรอบ หล่อนก็แค่ได้ยิน แต่ไม่เอาไปคิด เพราะหล่อนมีคำตอบในใจของหล่อนแล้ว แค่อยากถามคนอื่นเท่านั้นเอง เสียเวลาหว่ะ แล้วนี่ชั้นมานั่งพล่ามเป็นอีบ้าอะไรนี่”ต่อลุกขึ้นเปิดประตูห้อง
“แล้วชั้นจะทำไง”
“ยังจะมาถามอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ไม่รู้ด้วยแล้ว”
ต่อยิ้มหวานมองหน้าวีที่เพิ่งมาถึงตอนนี้คู่นี้เป็นคู่ผัวตัวเมียกันเต็มตัวแล้ว
“กลับห้องได้แล้วผัวเมียเขาจะสวีทกัน”วีเคาะหัวต่อ
“พูดอะไร เดี๋ยวคนโสดอย่างเอ๋เขาก็น้อยใจแย่ ว่าเราทิ้งเขา” เออออตามกันเลยนะ
“อย่างนี้มันต้องดัดนิสัย ให้นอนเหงาแห้งต่อไป คนสวยก็อย่างนี้แหล่ะปัญหาเยอะ”
“มีอะไรกันเหรอเอ๋”
“จะมีอาไร้ ก็อีหรอบเดิม บ้า” ต่อเน้นคำนั้นชัดมาก
“ทะเลาะกันเหรอ” เราลุกไปที่ประตูแต่หยุดแล้วหันมาที่วี
“เดี๋ยว โมมันก็มา ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” วียังเข้าใจในทางที่เขาคิดอยู่
“ไม่ต้องไปยุ่งกะเอ๋หรอก วี เขาไม่ค่อยสบาย” ต่อปราม
“ต้องบอกโมมันหน่อยแล้ว เอ๋เป็นแบบนี้ มันไม่รู้เรื่องเลยเหรอ”
“แล้วโมไปไหนหล่ะ”
“สังสรรค์”
“อ้าว ไหงวีไม่ไปด้วยหล่ะ”ต่อแปลกใจ
“ไม่มีอะไรจะสังสรรค์กับพวกมัน” วีเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ต่อมองหน้าเราอีกที
“พอรู้ว่าเขาไปกินเหล้ากับคนอื่นไม่มาหาตัวก็หงุดหงิดสินะ” เหมือนมันทายใจเราออกจริงๆเลย
“ไปล้างรูรอเถอะ คืนนี้รับรองเจอแน่ไอ้นั่นหน่ะ” เราเดินกลับห้อง ต่อมันคงโกรธเรานะที่เป็นแบบนี้ คืนวันศุกร์แต่มันไม่สุขเลยสักนิด เราเหมือนรอโมแน่ๆ ตีสองก็ไม่โผล่ นี่มันอะไรกันเนี่ย อยากจะร้องกรี๊ดดังๆ เหล้าสำคัญกว่าชั้นเหรอเนี่ย หรือว่าไปกับใคร โอ๊ยนอนไม่หลับ...................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

107. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 05:57 PM (SE Asia Standard Time)
 
   230…
โมโผล่มาตอนฟ้าสางเราเพิ่งหลับไปได้ไม่นาน เขามีกุญแจห้องเรา รู้สึกตัวตื่นเพราะตัวของโมนอนทับเรา
“เหม็นเหล้า” เราดันตัวเขาออก
“รังเกียจเหรอ”
“ไปอาบน้ำไป” เขาไม่ยอมลุกสักที เราดิ้นจนเขาหลุดพ้นไปจากตัว ลุกขึ้นนั่งมอง
“กินอะไรนักหนาเนี่ย” โมนอนทั้งอย่างนั้นไม่ได้สนใจว่าเราต้องตื่นขึ้นมาหัวเสีย
“โม” เราเรียกเขาพร้อมกับตีที่ตัว “ลุกไปอาบน้ำก่อน”
“อะไรวะ ทำไมต้องอาบง่วง”
จะนอนก็นอนไม่ได้เล่นมานอนพาดกลางเตียงแบบนี้ รำคาญจริงๆเลย เราเอื้อมไปหยิบผ้าปูลงที่พื้นแล้วนอนลงข้างหน้าเตียง ได้ยินเสียงของโมลุกขึ้นจากที่นอน
“ไปไหนวะ”เขาลุกตามมานั่งดูเราที่พื้น เอานิ้วจิ้มไปตามตัวเราเล่น
“จะนอน”
“อารมณ์เสียอะไร คนสวย” แซวอีก”ลุกมานอนบนเตียงนี่”มือใหญ่ดึงแขนเราจนเจ็บ “มานี่”เขาบอกเหมือนตะคอก เราลุกตาม “มันอะไรนักหนาวะ กินแค่นี้ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ห้ามแต่ไม่อยากให้กินบ่อยๆ”
“เป็นแม่เราเหรอ ห้ามอยู่ได้” เราไม่ตอบแต่นอนหันหลังให้เขา โมลุกไปเข้าห้องน้ำอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามา
“หันมานี่ซิ” เราไม่หัน “เรียกไม่หันนะ”โมรั้งตัวเรากลับมาหาเขาสองมือกดแขนเราไว้
“บอกหน่อยจะเอาไง เอ๋”
“เรื่องอะไร”
“ไม่รู้เรื่อง เรารู้นะว่าเอ๋คิดอะไร ไง มีคนอื่นสิท่า ถึงทำตัวห่างเหินแบบนี้ โทรมาก็ไม่รับ ไปไหนก็ไม่บอก”
“โทรมาเมื่อไหร่”
“ทุกวันแหล่ะ ไปไหนมา” ยังจะมาถาม
“ก็อยู่ห้องทุกวัน”
“อย่าให้รู้นะว่านอกใจ เจอดีแน่”
“ไม่กลัวหรอก คนขี้เหล้า”
“ปากดี”โมเริ่มซุกไซ้ไปทั่วหน้าเรา เหม็นเราจนต้องเบือนหน้าหนี
“หันมานี่”เขาเอามือบีบที่คางเราให้หันกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“เจ็บนะ เป็นอะไรนี่เมาแล้วอาละวาดแบบนี้ ทีหลังก็ไม่ต้องกินนะ” เราดันตัวเขาออก
“จะดิ้นไปทำไม เอ๊ะ บอกให้อยู่เฉยๆ พูดไม่ฟังอีก”เขาพลิกตัวเราให้นอนคว่ำพร้อมกับดึงกางเกงเราออก โมใส่ผ้าขนหนูผืนเดียวมันหลุดออกไปแล้ว
“อย่าเพิ่งนะ ทาหล่อลื่นก่อน” เขาไม่รอเอาขาล็อคเราแล้วจ่อพร้อมทิ่มพรวด
“โอ๊ย”โมรีบเอามือมาอุดปากเราไว้ แล้วทับลงมาส่วนล่างก็กระแทกตามมาหนักๆ “จะร้องทำไม ไม่เคยโดนเหรอแบบนี้หน่ะ” เจ็บแทบแดดิ้นให้ได้ เขากระแทกด้วยความรู้สึกสะใจของเขาแต่เราสิ เจ็บต้องกลั้นหายใจ โมดันทุรังอยู่นานแล้วก็ฟุบหลับที่กลางหลังโดยมีไอ้นั่นคาอยู่ในตัวเรา เขาไม่ได้เสร็จ มันยังคงแข็งอยู่ยังไงก็ดิ้นไม่หลุด ได้แต่รอให้มันหดแต่ขาที่เกี่ยวเราไว้มันแน่นพอดู
“โม” เราเรียกเขา
“หืม”
“เอาออกเถอะ มันเจ็บ”
“ไม่เจ็บหรอกน่า”
“เจ็บจริงๆนะ”
“จริงเหรอ”
“ฮื่อ” เขารีบถอนตัวออก กว่ามันจะหลุดออกไปได้แสบจี๊ดๆเลย เรารีบลุกไปล้าง ยิ่งเจอน้ำยิ่งแสบ ริดสีดวงเล่นงานแล้วรึเปล่านี่ โอย เราต้องหายามากินเพราะอาการเจ็บมันไม่ยอมหาย กินยาเสร็จก็นอนลงข้างๆโมนั่นแหล่ะ
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“ฮื่อ” เขาหันมากอดเรา “ไม่ทำแล้ว” โมหลับไปข้างๆซอกคอของเรา ลึกๆแล้วดีใจนะเนี่ยเหมือนโดนข่มขืนเลย เราเผลออมยิ้มคนเดียว ไม่อยากมองหน้าโม เห็นทีไรก็นึกถึงพี่โด่งอีก เรารีบสลัดความคิดถึงหน้าพี่โด่งออกไปนี่มันโม คนละคนกัน เราลุกขึ้นนั่งแล้วประคองไอ้ตัวร้ายไว้ในมือ โมทำเสียงอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง ขนาดมันเท่ากันรึเปล่านะหน้าตาก็เหมือนกันแบบนี้ เราพยายามคิดถึงส่วนนั้นของพี่โด่งแล้ววางมือกะขนาดกับของโมที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกรอบ ของโมใหญ่กว่าอีก มิน่ามันถึงเจ็บ เช้านั้นเราก็ไม่ได้นอนไม่รู้เกิดอะไรขึ้น นอนหลับตานึกถึงขนาดของแต่ละคนไล่เรียงไปเรื่อยๆ ว่าใครที่ใหญ่สุด พี่จกมาอันดับหนึ่ง โอ๊ยอะไรเนี่ยในหัวมีแต่ค-ย เราด่าตัวเองก่อนจะม่อยหลับไป ดันฝันว่าโดนพี่วริตเอาอีก
“เอ๋ รู้มั๊ย ไอ้หนึ่งมันหอบข้าวของออกจากห้องนังหยีแล้วนะ”
“ทะเลาะกันเหรอ”
“ก็อีหยีมันจับได้ว่าหนึ่งพาชะนีไปเอาที่ห้องตอนมันมาทำงานนะสิ”
“มันเอาเวลาที่ไหนไปจับเขา”
“มันแกล้งลาป่วย ร้ายจริงๆนังนี่ คาตาเลย”
“แล้วมันทำไง”
“ก็อาละวาด ป่วงแตก ทำลายข้าวของตัวเอง”
“อีบ้า เรื่องแค่นี้เอง”
“อะไรนังเอ๋ หล่อนรับได้เหรอ”
“ปล่าว มันยังไม่เกิดกับตัวชั้น เพราะเขาไปเอากันที่อื่น”
“อย่างไอ้หนึ่งจะเอาเงินที่ไหนไปโรงแรม ทุกวันนังหยียังต้องจ่ายค่ารถมาทำงานเลย”
“แล้วเงินเดือนมันหล่ะ”
“ลงเหล้า ลงหอยหมดนะสิ ถามได้”
“หยีมันอยู่ไหนหล่ะ” เราอดเป็นห่วงไม่ได้
“โน่น ลาพักร้อน นอนซมอยู่ที่ห้องโน่น”
“แล้วมันทนได้ไงมาทำงานก็ต้องเจอกัน”
“ก็นั่นแหล่ะที่มันทนไม่ได้ มิหนำซ้ำอีชะนีนั่นก็พนักงานโรงแรมเราเอง”
“มันช่างกล้าจริงๆ แล้วมันไม่แคร์เหรอว่าหนึ่งเป็นผัวกระเทย”
“เรื่องอะไรมันจะแคร์ เปิดตัวซะยิ่งกว่า อีหยีกินข้าวเคล้าน้ำตาในแคนทีน นี่หล่อนไม่รู้อะไรเลยเหรอเอ๋”
“ไม่รู้ เพราะชั้นยุ่งกับปิดบัญชี อยู่นี่”
“เรื่องมันเกิดเร็วมากเลยนะ ตอนนี้นะหยีมันก็ตามไปขอคืนดีกับไอ้หนึ่งถึงบ้าน แต่ผู้ชายไม่คุยด้วย”
“ทำไมหล่ะ”
“ก็มันด่าเขาสาดเสียเทเสีย ก่นโคตรเหง้าเขามาด่า ใครมันจะดีด้วยหล่ะ”
“หล่อนอยู่ด้วยเหรอ”
“เปล่า” ทีน่าลอยหน้าลอยตา
“แล้วรู้ได้ไง”
“ก็มันเล่าให้ฟัง ตอนที่มันโดนทิ้งวันแรกมันโทรไปหาชั้น ไม่ได้นอนเลย ต้องรีบไปปลอบมันกลัวมันฆ่าตัวตาย”
“มันไม่โง่ขนาดนั้นหรอกทีน่า เห็นมั๊ยอะไรที่รู้แล้วจะเสียใจอย่าสืบเสาะเลยมันมีคำตอบอยู่แล้ว แล้วรู้ไปทำไม เสียผัว เสียใจ จำไว้นะ” เราบอกทีน่า
“เป็นชั้น ชั้นก็คงตรอมใจแน่ๆ เจ็บใจนะสิ ที่เขามีคนอื่น”
“ชั้นชินแล้ว” เรานึกถึงนกกับพี่รัตน์ขึ้นมา เหมือนแผลในใจถูกสะกิดเล่น “คนมันหมดใจ หรือหมดสนุกกับเรา ต่อให้เราจะเพียรพยายามแค่ไหนก็ไม่ดีขึ้นหรอก บอกหยีมันด้วยนะ ยิ่งดันทุรังยิ่งเสียใจ” เราพูดไปตามความรู้สึกของตัวเอง แว่บนั้นนึกด่าหนึ่งอยู่ในใจด้วย ไม่รักกันก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง แล้วกระเทยมีค่าอะไรที่จะขอร้องให้ผู้ชายมันยกย่อง เหมือนได้ยินเสียงพี่เพลินแว่วมา
“ก็ไปเทอดทูนมันเอง ยกมันเอง คนที่ทำให้ตัวเองไม่มีค่าก็ตัวเองทั้งนั้น” พี่เพลินพูดเหมือนกับตัวเองไม่เคยฟูมฟาย “คิดแค่ว่ามันเอาให้ก็พอแล้ว อย่าไปตีค่ามันให้เลิศเลอเลย มันจะเคยตัว” ก็เคยตัวไปแล้วพร้อมรถกระบะของแกไง เราอมยิ้มกับคำพูดของแก อย่างว่าแหล่ะตอนที่โกรธจนตัดใจได้ส่วนใหญ่ร้อยทั้งร้อยจะต้องพูดแบบนี้ เราก็เป็นเหมือนกัน แล้วไงพออยู่คนเดียวก็เหงา คิดถึงแต่ตอนที่มีความสุขกับเขาจนลืมคิดไปว่าตอนที่มานอนร้องไห้คนเดียวเพราะไอ้คนนั้นหน่ะ เป็นยังไง
เราเห็นหยีนอนซมเหมือนคนไร้สติ แล้วสงสารมัน
“ชั้นไม่เป็นไรหรอก ขอเวลาสักนิดให้มันโล่งซะหน่อย”
“กินข้าวมั่งรึเปล่า”
“กินไม่ลง” หยีตาลึกจนน่ากลัวคงไม่ได้นอน
“แล้วนอนมั่งรึเปล่านี่”
“ตกกลางคืนมันก็นอนไม่ได้ คิดอยู่ทุกวัน”
“อาการหนักกว่าที่คิดนะ ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะเสียใจได้ขนาดนี้ หล่อนรักมันมากเลยเหรอ”
หยีพยักหน้า “หรือว่าหล่อนเจ็บใจที่แพ้ชะนี” ทีน่ามองหน้าเราเหมือนจะให้หยุดพูด
“แยกให้ออกนะหยีว่าอารมณ์ไหน” เราลูบแขนมันเล่น “กลับมาเป็นหยีคนเดิมเถอะ อย่าไปแข่งกับอีพวกสามกองสิบเลย ถ้ามันแน่จริงมันคงไม่เอาผัวกระเทยหรอก ผู้ชายมีเป็นล้านทำไมต้องมาแย่งกัน”
หยีมองหน้าเรา เราไม่อยากปลอบมันหรอก เราเอาประสบการณ์ของตัวเองมาพูด ยิ่งเสียดแทงเท่าไหร่ยิ่งฮึดสู้เท่านั้น
“พรุ่งนึ้ไปทำงานนะ อย่าจมปลักกับสิ่งที่มันจบไปแล้วเลย” เราบอกหยีก่อนจะกลับ ทีน่ามานอนเป็นเพื่อน แต่เราไม่อยากอยู่เพราะเรากลัวจะเศร้าไปกับมันเห็นหน้าเพื่อนตอนกินข้าวแล้วหดหู่ มันกินไม่ลง มันตื้อไปหมดเรารู้ดีเสียใจอะไรก็ไม่เท่าเสียคนที่เรารักให้คนอื่น ตอนนี้หยีคงอยู่ในขั้นโทษตัวเองที่วู่วามคิดไปสารพัด ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ถ้าใจเย็นกว่านี้ มีแต่คำว่าถ้าอยู่ในหัวของหยี ทุกคำพูดที่ได้ยินมามีแต่ความหวังที่เลือนลางว่าหนึ่งจะกลับมา เรานิ่งเมื่อหยีถามก่อนจะกลับว่า
“ถ้าเขาโทรมาหาชั้น ชั้นควรจะทำยังไงดี”
“เอาไว้ให้โทรมาก่อนเถอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป จะบอกรักเขาอีกกี่ร้อยกี่พันครั้งก็บอกไป ให้มันโทรมาก่อนนะ” ทีน่ามองหน้าเราอย่างไม่เชื่อหู
“หล่อนเก่งนะที่ทำได้อย่างนั้น”
“ชั้นเจอมาเยอะแล้ว เรื่องแบบนี้ ชั้นอยู่กับคำว่า ถ้า มาหลายครั้งกว่าจะคิดได้ก็นาน เชื่อชั้นเถอะหยี นอนให้หลับพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ไม่มีอะไรมากหรอก แล้วอีกไม่กี่วันหล่อนก็จะหัวเราะได้กับสิ่งที่ทำลงไป พรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่นะ” ไม่รู้จะพูดอะไรต่อคนมันเศร้า พูดเองแล้วน้ำตาจะไหลเอง เรารีบออกไปจากห้องหยีทันที
“หวัดดีพี่เอ๋” หนึ่งเข้าลิฟต์มาพร้อมกับเรา หน้าตาดูไม่ยี่หระอะไร “สบายดีมั๊ย”
“เรื่อยๆ” มันไม่รู้จะถามอะไรรึไง
“เพื่อนพี่เป็นไงมั่ง”
“ไม่เกี่ยวกันแล้วนี่” คงอยากจะรู้ความเป็นไป หยีก็มาทำงานแล้วคงได้เจอกันบ้าง
“ปากดี ไม่เตะก็บุญแล้ว”
“เธอคงไม่มีมือ มีตีนคนเดียวหรอกนะหนึ่ง” เราว่ากลับ
“โอ๊ยแค่กระเทยจะไปสู้อะไรได้”
“เหรอ ลืมไปว่ากระเทยไม่มีทางสู้ พวกที่หลอกล่อเก่งได้หรอก” เราเดินออกจากลิฟต์ ไม่รู้สึกหรอกพวกที่ซื้อด้วยเงิน เรากับทีน่าคอยดูแลหยีจนหยีเริ่มดีขึ้น แต่บุคลิกของหยีเปลี่ยนไปไม่แรดไม่กระแต มีแต่ความนิ่ง จนสัมผัสได้ หยีมักจะปลีกตัวออกไปอยู่คนเดียวและไม่อยู่ห้องในวันหยุด รู้แต่ว่า ใจหยีมันสงบยาก หยีไปวัดเป็นประจำ
ตอนกรวดน้ำหยีอธิษฐานให้ใจของตัวเองนิ่ง แต่สายตาของหยีนั้นไม่ได้ดื่มด่ำซาบซึ้งกับผลบุญที่ทำเลย
“เห็นแก่ตัวนะพวกเรา ถ้าไม่มีความทุกข์ก็ไม่เคยนึกถึงพระ” หยีรำพัน
“ไม่ใช่หรอก อย่าคิดมากเรามาทำบุญเพื่อให้ใจสงบ ตอนนี้เป็นเวลาที่เราสงบใจได้ไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยผลบุญก็ทำให้เรารู้สึกปิติ”
“ทีน่า หล่อนอธิษฐานว่าอะไร”
“ขอให้โลกสงบสุข ขอให้พบรักแท้”
“ยังหวังอีกเหรอ”
“แน่นอน สวยๆอย่างนี้ สักวันเขาก็จะเดินเข้ามา”
“เดินเข้ามากระชากวิกหล่อนไปใส่นะสิ”หยีสวนตอบ น้ำเสียงแจ่มใสกว่าที่เคย กว่าสองเดือนที่พวกเราเยียวยาหัวใจให้กัน ทำให้เรามองเห็นอะไรในความเป็นจริงหลายอย่าง เพื่อนแม้จะกัดกันทะเลาะกัน แต่พอทุกข์แล้วมันแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ รับรู้ความรู้สึกชัดเจนมาก
“วันนี้ ชั้นได้ปล่อยใจไปแล้ว ชั้นปล่อยเขาไปแล้ว ไม่มีอะไรหลงเหลือในใจชั้นแล้ว จากวันนี้ต่อไปชั้นจะมีสติ แม้จะรู้ว่ายังตัดเขาไม่ได้ แต่ชั้นก็จะไม่ทุรนทุราย ชั้นจะเดินไปข้างหน้ากับความรู้สึกที่ดี จะนึกถึงแต่สิ่งที่ดีที่มีความสุข เขาไม่รักเรา มันก็เรื่องของเขา เรารักเขา มันก็เรื่องของเรา ดีมั๊ย เอ๋”
“แน่นอนที่สุด ไม่แปลก ตัดใจไม่ได้ก็รักมันต่อไป”
“อีพวกบ้า” ทีน่าค้อน “พูดยังกะคนปลงตก เดี๋ยวจะพาไปออฟผู้ชาย ว่าไงหยี”
“ไม่เอา” หยีส่ายหน้า “ตอนนี้ขออยู่คนเดียว เป็นโสดดีกว่า สนุกกว่ากันเยอะ เบื่อแล้วมีผัว ใครอยากมีก็ตามใจ”
หยีมองหน้าเรา “แต่ไอ้พวกผัวเยอะนี่ คงอีกความรู้สึกนึงนะ”
“แน่นอน ผัวเยอะก็ไม่มีเวลามาคิดถึงคนๆเดียว โทรหาคนโน้นคนนี้ก็หมดวันแล้ว สบายใจ”
“แล้วผัวคนอื่นนี่รวมอยู่ในนั้นด้วยมั๊ย”
”พูดอะไรทีน่า”
“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่ามีเพื่อนเราคนนึงแอบปลื้มผัวชาวบ้านอยู่เล็กๆ คงไม่ต้องบอกนะหยีว่ามันเป็นใคร”
ทั้งคู่มองหน้าเรา เราทำไม่รู้ไม่ชี้ ผัวชาวบ้านเหรอ แวะส่งเราหน้าปากซอยทุกวันหลังเลิกงาน แต่ทำไงได้มันก็แค่ผัวคนอื่น แค่มองก็มีความสุขแล้ว...........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

108. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 05:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
   231.....
เอื้ออาทรฉันที คนจะมีรักใยกางกั้น จะทำฉันใดเมื่อใจรักกันสองเรา.......................
แอบรักผัวชาวบ้านเขามันส์ดี
ทีน่าบีบเสียงในร้านคาราโอเกะอย่างโหยหวน มันร้องจบไม่ได้รับเสียงปรบมือจากเราหรอก
“นึกยังไงถึงร้องเพลงนี้”
“ก็ร้องให้หล่อนฟังไง”
“เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า ชั้นไม่ได้คิดอะไรกับพี่วริตเขาอย่างที่พวกหล่อนคิดสักนิด”
“ถ้าไม่ได้คิดก็ถือว่าเป็นการเตือนสติ”
“เก็บไว้เตือนสติตัวเองเถอะ” เราหัวเสียพอดูที่เรื่องนี้มาเป็นประเด็นเกาะแกะในใจเราในหมู่เพื่อนบ่อยๆ ชีวิตของเราตอนนี้มีแค่โมเท่านั้นแหล่ะ เราปิดกั้นตัวเองจากความคิดถึงคนอื่นๆแล้วหยุดมองที่เขา ด้วยความอดทนว่าสักวันนึง เขาจะเดินเข้ามาอยู่ในใจของเราเหมือนกับคนอื่นๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วเมื่อเราหันมาหาโม โมกลับห่างออกไปอีกก้าวทุกครั้ง จากที่เคยต้องเจอกันทุกวันหยุดกลายเป็นเราต้องตามทุกวันหยุดแทน โมมักจะมีเหตุผลง่ายๆว่าติดงาน
“ไง ผัวไม่มาเหรอวันนี้” ต่อถือแก้วกาแฟมานั่งด้วย
“ไม่มา ไม่รู้ไปไหน ไม่เห็นโทรบอก” เรายกกาแฟมาจิบตามต่อบ้าง
“มาเป็นชุด ฮิ ฮิ กรรมตามสนอง จะได้รู้จักหัวอกคนอื่นมั่ง เวลาเขามานั่งรอหล่อนหน่ะ น่าสงสารจะตาย”
“เมาแล้วหาที่นอนไม่ได้มากกว่านะสิ”
“ไม่รู้จักสำนึกอีก” ต่อทำหน้ากวนบาทาที่สุด
“ต่อ หยุดพูดเถอะ หล่อนไม่พอใจอีกเหรอ ที่ชั้นพยายามอย่างดีที่สุดแล้วนะ ชั้นไม่โทรไปอาละวาดก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“นั่นแหล่ะ ที่ควรจะทำ”
“ไม่เอาหรอก เสียเวลา เปลืองค่าโทรศัพท์”
“เป็นงั้นไป งั้นก็รอไป”ต่อตอบแบบน่าสงสัยไม่น้อย
“หล่อนรู้ใช่มั๊ย ว่าเขาไปไหน”
“ไม่รู้” ต่อลอยหน้าลอยตา
“น่ารำคาญ”เราหงุดหงิดกับท่าทีของต่อ

โมโทรมาหาเราตอนเย็น เขาบอกสั้นๆว่า
“อาทิตย์นี้ไม่ได้ไปหานะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่ว่าง มีงานด่วนต้องทำ” เราชะโงกหน้าออกไปนอกห้อง วีนอนดูทีวีพร้อมหัวเราะไปกับรายการตลก วีมันยังหยุดนี่
“งานอะไร ให้ช่วยทำมั๊ย”
“ไม่เป็นไร”
“แล้วโมอยู่ไหนหล่ะตอนนี้ อาทิตย์ก่อนก็ไม่ว่าง อาทิตย์ที่แล้วก็ไม่มา อาทิตย์นี้ก็ไม่มาอีก หรือว่า”
“แค่นี้นะเอ๋” เขาวางหูไปแล้ว แค่นี้นะ อะไรกัน เราเริ่มวิตกจริตทันที หรือว่าโมมีคนอื่นซะแล้ว เราหงุดหงิดทั้งวันทนไม่ไหว ต้องโทรหาเขาที่ห้องแต่ไม่มีคนรับสาย ส่งข้อความไปที่เพจก็ไม่โทรกลับ เริ่มกระสับกระส่ายสิทีนี้ จะเอายังไงกันแน่นายโม
“วีรู้มั๊ย ว่าโมไปไหน” วีออกจากบริษัทพี่ภูมาทำงานกับโมได้ไม่นาน
“ไม่มีอะไรด่วนนี่ มันคงมีธุระมั๊ง ทำไมเหรอเอ๋”
“เราสงสัย ว่าทำไมเขาไม่อยากมาห้องเรา นี่สามอาทิตย์แล้วนะ”
“แค่ไม่กี่วัน”ต่อพูดขึ้นมา
“ก็นัดกันไว้แล้วนี่ ถ้าไม่มาก็น่าจะบอกกันเนิ่นๆ ไม่ใช่ให้เรามานั่งรอแล้วค่อยโทรมาปฏิเสธ”
“ใครบอกให้หล่อนรอ จะทำอะไรก็ไปทำ อย่าซีเรียสนักเลย” ต่อหันมามองเราอย่างเอือมๆ
“ไอ้โมก็ยังงี้แหล่ะ มันชอบเหลิงพอมันได้อย่างใจมัน”
“เหมือนกันนั่นแหล่ะ สมกันดีออก”ต่อไม่เข้าข้างเราสักนิด
“ต่อไปว่าเอ๋ทำไมหล่ะ”
“ไม่ได้ว่า นิสัยคล้ายๆกันดีนะคู่นี้ ไม่ค่อยแคร์คนที่อยู่ใกล้ๆหรอก”
เราขี้เกียจฟังก็เลยกลับห้องตัวเอง ตัดสินใจโทรหาโมกลางดึก
“มีอะไรเอ๋” เสียงราบเรียบปกติ
“เราไปหาที่ห้องนะ”
“จะมาทำมั๊ย อยู่กับเพื่อนโน่น”
“ทำไมหล่ะ”ลืมไปว่าเราบ่ายเบี่ยงให้โมมาหาตอนที่หยีอกหักเพราะเราต้องไปโน่นมานี่กับหยีทุกวันหยุด
“ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว เพื่อนมันดีขึ้นแล้ว”
“เราก็ไม่มีปัญหา ไม่อยากเจอก็ไม่ไปหาแล้วไง”
“โม บ้ารึเปล่า นี่จะแก้แค้นเราเหรอ”
“ไม่ใช่”
”ไม่รู้หล่ะ ถ้าโมไม่มาเราจะไปบุกที่ห้องโมแทน จะได้รู้ว่าอยู่กับใคร”
“เอ๋มาเราจะได้ออกไปที่อื่น ไม่อยากเห็นหน้าหว่ะ”
“โม แน่ใจนะที่พูดแบบนี้” เราไม่เคยโดนใครหยามแบบนี้มาก่อน
“แน่ใจ”
”ก็ได้ ถ้าไม่อยากมาหาเราอีก ก็ไม่เป็นไร แค่นี้นะ” เราฉุนขาด มันอะไรกัน เรากดโทรศัพท์หาคนอื่นทันที แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่มีคนรับ หยีไปเที่ยวต่างจังหวัดกับทีน่า ห้องต่อก็ปิดประตูนอนกันแล้ว เรางุ่นง่านเหมือนหนูติดจั่น อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอกคนเดียว จุดหมายปลายทางไม่รู้ เราไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านกินเหล้าใกล้ๆกับที่ทำงาน พวกที่ทำงานตั้งวงกันอยู่แล้ว กลุ่มพี่วริต และ กลุ่มของกุ้ง กุ้งหันมาเจอเรารีบปรี่เข้ามาหา
“มาได้ไงนี่”
“เบื่อ ก็เลยออกมาเที่ยว ดีจัง คิดว่าต้องนั่งคนเดียวซะแล้ว”
“มานั่งด้วยกัน เดี๋ยวพวกนังแมนก็มา นี่รู้จักกันหมดรึยังเอ๋ พวกนี้เพื่อนเราทั้งนั้น ทำงานโรงแรมอื่น”
เราทักทายทุกคนแล้วหย่อนก้นนั่งลงข้างๆกุ้ง
“พี่วริตก็มากับพวกลูกน้องแก” กุ้งชี้ไปที่โต๊ะของพี่วริต
“ไม่ไปรวมโต๊ะกันหล่ะ”
“ไม่ได้หรอก พวกนั้นคุยแต่เรื่องบอลล์เรื่องหม้อ”
“อ้าว พี่วริตยังบ้าหม้ออยู่เหรอ”
“ใช่ย่อยที่ไหนหล่ะ รักเมีย แต่ฟาดไม่เว้นเหมือนกัน”
“เหรอ ไม่เป็นคุณพ่อที่แสนดีหรอกเหรอ”
“อู๊ย จะเอาอะไรกะพวกผู้ชาย คลำไม่มีหางก็เอาหมดแหล่ะ” กุ้งสาธยาย
“ไง เอ๋ นึกไงออกมา” พี่วริตถือแก้วมาชนด้วย
“พี่หล่ะ ออกจากคอกได้ไง”
“ก็มีบ้าง สังสรรค์กับน้องๆ” เรายกแก้วเหล้าสาดเข้าไปในลำคอ กลืนลงไปอย่างเยือกเย็น
“เบียร์ มานั่งนี่” กุ้งตะโกนเรียกเบียร์ ที่เดินนำหน้าแจ็ค
“เอ๋ มาด้วยเหรอ ไม่เคยเห็น กินเหล้าเป็นเหรอวะ”เบียร์ทัก
“เป็นสิ” เราค้อน พี่วริตเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ว ไม่นานโต๊ะนั้นก็เช็ค แล้วส่งเสียงดังถึงสถานที่ที่จะไปต่อ
“ว่าแล้ว” กุ้งบอก “พวกนี้เขาก็อย่างนี้แหล่ะ เมาทีไรก็หาที่ลง เห็นอีพวกชะนีที่นั่งด้วยมั๊ย”
“เห็น”
“ไม่รู้มันโทรไปเรียกจากที่ไหน” เรานับจำนวนชะนีตามที่กุ้งบอก ครบทุกคน แม้แต่วริตก็มีหนีบออกไปด้วย แล้วเมียกับลูกที่บ้านหล่ะ
“เขาไม่กลัวเหรอ สงสารเมียที่นอนรออยู่ที่บ้านนะ”
“มีลูกแล้วก็ต้องอดทนนะ”กุ้งตอบแทน นึกหมดศรัทธาชายผู้รักครอบครัวที่เรารู้จักวันไปเอ้าท์ติ้ง เหมือนเป็นคนละคน ทีอีพวกนี้พี่แกกลับไม่กลัว สุดท้ายผู้ชายก็มองว่าพวกอย่างเร็วเป็นตัวแพร่เชื้ออยู่ดี
“อย่าไปสนใจเขาเลย” กุ้งหันมาคุยกับเราต่อ เบียร์กับแจ็ค คุยกับเพื่อนต่างโรงแรม พวกเขาเรียนการโรงแรมมาด้วยกัน นานๆก็นัดเจอ นัดกินเหล้า มีเราเท่านั้นที่เป็นคนนอก หลุดเข้ามาแจม เสือโหยเริ่มออกลายในใจเราเรื่อยๆ เรามองหน้านายเบียร์ไปกินเหล้าไป เบียร์ก็มองตอบ แต่เราไม่รู้ความหมาย นั่งห่างกันพอสมควร พอจังหวะเพลงเปลี่ยน ความร่านของเรากับกุ้งก็แตกกระเจิง เต้นกันกระจายไม่สนอะไรจนร้านเลิก
“ไปต่อไหนดีวะ กำลังมันส์เลย”
“ไปห้องกูมั๊ย” แจ๊คเสนอไอเดีย
“ดีๆ ไม่ไกล ซื้อเหล้าแล้วไปต่อกัน”
“เรากลับก่อนนะ” เราขอตัว ไม่ไหว จะไปนั่งอัดในห้องแคบๆ “ไว้วันหลังนะ”กุ้งงอนเรารีบดันพวกมันเข้าไปในรถ เบียร์และอีกสองคนไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องทำงานเช้าต่อ
“เบียร์อยู่แถวไหนหล่ะ” เขาส่งเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นรถแล้วก็ยืนรอแท็กซี่ข้างๆเรา เขาบอกที่อยู่
“ทางผ่านนี่” เราบอก “อยู่กะเมียรึเปล่า”
“โสดทั้งแท่ง”
“ยังหลงเหลืออีกเหรอนี่”
“ทำไมเหรอ” เรามองหน้าเบียร์ เรารู้ว่าความหื่นกระหายมันออกมาจากแววตาของเราแล้ว “เอ๋มีปัญหาอะไรรึเปล่า ตั้งแต่กลับจากเอ้าท์ติ้ง พวกกลุ่มของเราสังสรรค์กันบ่อยแต่เอ๋ไม่เห็นออกมาซักครั้ง”
“เรามีธุระต้องทำหลายอย่าง” ได้ยินมาบ้างแหล่ะว่ากลุ่มนั้นต่อยอดกลายเป็นเพื่อนกันมากกว่าเดิม แต่เราไม่เคยที่จะออกมาแม้แต่ครั้งเดียวอย่างที่เบียร์พูด
“เราคงมีปัญหาการเข้ากลุ่มมั๊ง” รถแท็กซี่ขาดระยะไปนานพอดู เบียร์เลยอออกเดินไปเรื่อยๆ เพื่อให้มันถึงด้านหน้าของโรงแรมแทน
“แล้วพรุ่งนี้เข้างานเช้าเลยเหรอ”
“เปล่าหรอก แค่โกหกพวกมันเฉยๆ เราขี้เกียจไปต่อ แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรที่มันมีน้ำหนัก”
“งั้นแจ็คก็รู้ว่า เบียร์โกหกสิ”
“เราบอกมันตั้งแต่ก่อนมาแล้ว พวกมันชอบไหลกันต่อทุกที” พวกเราไปยืนอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของโรงแรม
“เราเมา เบียร์ไม่เมาเหรอ”
“แค่มึนๆ คนที่มีปัญหาจะกินเหล้าแล้วเมาเร็ว กว่าคนที่ไม่มีปัญหา กลับเองไหวรึเปล่า”
“ก็ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่หรอก” เราแกล้งพูด “พูดเล่นหน่ะ ของแค่นี้สบายมาก”
เราทั้งคู่นั่งด้วยกันที่ตอนหลัง อธิบายทางให้แท็กซี่แล้วก็หลับ โดยมีเบียร์นั่งมองทางไปเรื่อยๆ เราเริ่มอ่อนแอในใจเสียแล้ว เรารู้สึกกับการกระทำของโมว่าเหมือนหยามน้ำหน้า
ห้องของเบียร์จะถึงก่อนเรา เราตื่นเมื่อเขาสะกิด
“เรายังไม่อยากกลับห้องตอนนี้”
“แล้วเอ๋จะไปไหน”
“ให้เราไปห้องเบียร์ได้มั๊ย” เขาทำเหมือนคิดอยู่สักพัก “แค่วันนี้อยากมีเพื่อนคุย แต่ไม่เป็นไรหรอกหัวหน้าถ้าไม่สะดวก” เรียกเหมือนตอนอยู่ในกลุ่ม
“ได้ถ้าไม่คิดอะไรก็ไม่มีปัญหา” เราเลยได้ไปเยี่ยมชมห้องชายโสดอีกครั้ง เขาอยู่คนเดียว แค่เดินไปอีกไม่กี่ซอยก็ถึงห้องของเราแล้ว
“ห้องเราไม่ค่อยมีอะไรหรอกนะ มีแต่เหล้ากะเบียร์ เบียร์เปิดห้องแล้วจัดแจงเก็บของให้เข้ามุมให้เรียบร้อยเพื่อจะได้นั่งคุยกันง่ายๆ
“มีอะไรก็ว่ามา ถ้าพอจะเป็นเพื่อนรับฟังได้” เขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเบียร์กระป๋อง
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ผีมันเข้าสิง พอเมาก็อยากได้ผู้ชาย” พูดเพราะเมาแท้ๆเลย
“น่ากลัวหว่ะ แล้วคิดจะกินเราเหรอ”
“ก็แค่คิด” เรานอนหงายลงที่พื้นหลับตา
“ขอกันง่ายๆเลยนะ”
“พูดตรงๆง่ายๆนี่แหล่ะ ถ้าไม่ได้ก็ดีกว่าแอบทำแล้วโดนจับได้ทีหลัง”
“เราไม่ใช่พวกขี้เมาแล้วนอนแผ่ ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่างพวกที่เอ๋รู้จักนะ”
“เราไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ก็แค่หาเรื่องคุยให้มันดูระทึกใจก็เท่านั้น” เบียร์ค่อยๆจิบแล้วยิ้ม
“อันตราย พวกบัญชีนี่เงียบๆเฉพาะข้างนอกเท่านั้นสินะ รักษาภาพพจน์น่าดู แต่ดูไม่ได้ตอนเมา”
“อย่าเหมารวมสิ เป็นแค่เรา จะเหมือนพวก แบงค์ได้ไง” แบงค์คือชื่อย่อของbanquet “เมาได้ตลอดเลยมีเวลาปลดปล่อยอารมณ์กันได้บ่อยๆ”
“หนุ่มๆก็งี้แหล่ะ เอ๋ยังไม่เห็นเล่าเลยว่ามีเรื่องอะไร”
“ไม่มีจริงๆ แค่หิวอยากกินผู้ชาย งั้นเรากลับแล้วกันไม่กวนหัวหน้าแล้ว นอนหลับฝันดีนะ” เรารีบดันตัวให้ลุกขึ้น“ไว้วันหลังถ้าจะไปไหนก็ชวนมั่งนะ หัวหน้า” เบียร์เดินตามขึ้นมาส่ง
“หัวหน้าขออะไรอย่างได้มั๊ย” เขายืนทำหน้าสงสัย เราหอมแก้มเขาไปทีนึง
“ยังไม่ได้ขอบคุณ ที่ช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีตอนเอ้าท์ติ้ง มือก็ป่ายไปที่เป้ากางเกงของเขาด้วย
“น่ารักดีนะ ไปแล้ว” เบียร์ยืนงงกับเราพอสมควร
“ประสาท แล้วมาทำไมเนี่ย”
“มาแค่เพื่อผ่อนคลาย”
“จะกลับไหวเหรอ ค้างก่อนก็ได้นี่” ประตูยังไม่ได้เปิด
“กลัวอดใจไม่ไหว”
“แล้วจะทนไปทำไมหล่ะ” คนเมาสองคนมองหน้ากันนิ่งและนาน............................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

109. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 06:01 PM (SE Asia Standard Time)
 
   232.....
ตาที่จ้องมองมาเหมือนค้นหาคำตอบอะไรสักอย่าง เหมือนอย่างเสาะหาความหมายที่มากกว่าคำพูดที่เราได้เอ่ยออกไป เราลองที่จะทำตามความรู้สึกของตัวเองด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่ได้ใช้ไปนาน แผ่นหลังของเราพิงอยู่ที่ประตูเป็นที่มั่น มือของเราของเราแตะที่หน้าอกเขาเบาๆ
“ไม่อยากจะทน แต่ก็ต้องทนไม่ใช่เหรอ เบียร์” หน้าตาของเบียร์กวนๆ ตายาวรีของเขา ปากบาง จมูกโด่งได้รูปนี่เรามองไม่เห็นเขาได้ยังไงตั้งนานมาแล้ว หรือว่าเราเมาจนตาลาย
“เอ๋จะทำอะไรเรา”
“เบียร์นะสิจะทำอะไรเรา”เขาทนการมองของเราไม่ไหว เลยหันหลังไปนั่งที่เดิม
“มากินกันต่อ ไม่ต้องกลับหรอก” เราเดินตามอย่างว่าง่ายนั่งลงข้างๆ
“แต่เราไม่กินนะ เบียร์จะกินก็กินไป” เราโน้มตัวเข้าใกล้เขา ดึงกระป่องเบียร์ออกจากมือเขาช้าๆ
ไม่มีอะไรจะต้องพูดหรอกเราคร่อมที่ตัวเขาบนพื้นโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันแล้วจูบลงบนปากบางนั้นเบาๆ สอดลิ้นเข้าไปความขมของรสเบียร์ยังคงแผ่ซ่านไปทั่วลิ้นของเบียร์ เขาตอบสนองแผ่วเบาหากพอเราถอนริมฝีปากออกมือของเขากลับคว้าคอเราไว้ เราตกอยู่เป็นเบี้ยล่างเขาทันที เบียร์นอนทับเราทั้งตัวมือประคองหน้าเราไว้แล้วจูบอย่างดุดันตอบแทนเราจากช้าเปลี่ยนเป็นเร็วและแรง ใจของเราเตลิดไปแล้ว เสื้อของเราถูกเบียร์เลิกขึ้นมือของเขาไขว่คว้าหาหน้าอกที่เป็นฐานเล็กๆจากการกินยาคุมเล่นเป็นบางครั้ง เขาลุกขึ้นถอดกางเกงแล้วลำนั่งคร่อมที่หน้าของเรา เราดื่มด่ำกับท่อนลำยาวเล่นจนมันกลายเป็นท่อนลำเขื่องขึ้นมาแทน
“เตรียมมารึเปล่า” เราส่ายหน้า
“งั้นก็จัดการให้เสร็จแล้วกัน” เบียร์ป้อนมันเข้ามาอีกกระแทกกระทั้น บดคลึงกับปากของเราจนมันทะลักทะลาย
เราหลับไหลไม่ได้สติจนสายหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ค่ำคืนนั้นมันผ่านไปง่ายๆ เรานอนกอดเขาจนตื่น เบียร์อมยิ้ม
“อย่าพูดไปนะเอ๋”
“ไม่พูดหรอก เราต้องกลับแล้วหล่ะ เบียร์จะได้นอนอีกสักหน่อย ขอบคุณนะ”
ล้างหน้าอีกครั้งแล้วค่อยๆเดินออกจากห้องของเบียร์ ประทับใจคงยังไม่ถึง เพียงแค่ดับกระหายเท่านั้น เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าพรุ่งนี้ หรือวันต่อไปจะเป็นอย่างไร เราไม่ใช่คนที่จะถูกทอดทิ้งได้เหมือนเมื่อก่อนหรอก เราชินชาแล้วกับเรื่องเหล่านั้น โมจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา หมดเวลาที่เราจะตะเกียกตะกายหาอีกแล้ว เราเป็นคนแบบนี้ เราก็จะดำเนินชีวิตของเราแบบนี้ เราจะขีดเส้นทางของความรักของเราเองไม่รอคอยความหวังกับโชคชะตาที่จะชักพาใครให้เข้ามาพบเจออีกแล้ว เราจะเดินออกไปหยิบเจ้าความรักนั้นขึ้นมาแต่งเติมด้วยตัวเอง สายวันอาทิตย์มันค่อนข้างจะสดใสสำหรับเรา
เสียงโทรศัพท์กีดร้องทำลายความสงบของการพักผ่อนเพราะฤทธิ์อัลกอฮอล์
“วันนี้อยู่ห้องมั๊ย”
“ถามทำไม” เราตอบไปอย่างเสียไม่ได้
“ว่าจะแวะเข้าไปซะหน่อย”
“มาก็เจอ หรืออาจะไม่เจอ ยังไม่รู้จะทำอะไร เพิ่งตื่น”
“พูดดีๆ เมื่อคืนไปไหนมา”
“กินเหล้า”
“เพื่อนเยอะนะ”
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูด เราจะวางนะ จะนอนต่อ” โมเงียบเราก็เลยตัดบทด้วยการวางสายก่อน และเขาก็โทรเข้ามาอีก
“วางสายทำไม”
“จะพูดอะไรก็พูดมา”
“อยู่ห้องนะ จะออกไปแล้ว”
“ได้” เรารับคำง่ายๆ แล้วนอนต่อ ไม่นานเขาก็มาถึงห้อง เรายังคงสลบไสลไม่ได้สติอยู่ โมนั่งลงข้างๆตัวเรา แว่บความรู้สึกนั้นเหมือนมือของเขาลูบหน้าที่ผมลงมาปิดหน้ายุ่งเหยิงนั้นเบาๆ
“มาทำไม”
“คิดถึง”เขาตอบสั้นๆ “เมื่อคืนไปไหนมา”
“จะสนใจทำไม”
“เรามาหานะเมื่อคืน”
“ไม่ต้องโกหกหรอก ขี้เกียจฟัง” เราหันหลังให้เขาตายังคงจับจ้องข้างฝาไม่ได้หลับต่อเช่นเดิม
“โกรธเหรอ ถึงหนีไปเที่ยว”
“จะโกรธทำไม ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา จะโกรธให้รกสมองทำไม”
“เอ๋ทำประชดเราเหรอ”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นหล่ะ”เราขยับตัวออกจากการกอดจากด้านหลังของโม “เราพยายามแล้วที่จะทำดีกับโม แต่ความพยายามไม่เป็นผล เราควรที่จะเลิกทำได้แล้ว โมว่ามั๊ย”
“อะไร มานี่ไม่ได้มาชวนทะเลาะนะ”
“ไม่ได้ทะเลาะแค่พูดว่าคิดอะไรเท่านั้น เราไม่ชอบที่โมชอบหลอกล่อแบบนี้ ถ้าเราไม่ดี ไม่ได้อย่างใจโมก็ตัดสินใจเถอะว่าจะทำอะไรต่อ”
“พูดแปลกๆ ไปเจอใครมาเหรอเมื่อคืน”
“เรื่องของเรา” เราไม่ตอบ เบียร์ไม่ได้อยู่ในความคิดเราหรอกตอนนั้น
“ไม่พูดแล้วเรื่องเก่า หันมาคุยกันดีๆได้รึเปล่า” เราพลิกตัวกลับมาหาเขา “ไปอาบน้ำไปเหม็นเหล้า”เขาลุกขึ้นนั่งดึงแขนเราให้ลุกตาม “จะพาไปกินข้าว” เราลุกตามแรงดึงของโมแล้วจัดการชำระร่างกายช้าและนาน รอยดูดที่คอของเบียร์เห็นได้ชัดเมื่อมองตัวเองในกระจก เราลูบรอยนั้นเบาๆพยายามนึกถึงความรู้สึกของชั่วเวลานั้นแต่ก็นึกไม่ออก คงเมาจนจำไม่ได้
เขามองเห็นรอยที่คอก็ขมวดคิ้ว
“ไปกับใครมา”เราไม่ตอบ “จะรู้ไปทำไม”
“ยังไม่เลิกอีกเหรอนิสัยแบบนี้”
“ไม่เลิกหรอก” เราเช็ดหน้า ด้วยโทนเนอร์อีกครั้งก่อนจะละเลงครีมบำรุงผิวบนหน้า ขอบตามันคล้ำจนเห็นได้ชัดนี่มันดูไม่ได้เลยเหรอแค่คืนเดียวเอง
“ตอบมาดีๆ ไปนอนกับใครมา”
“จำไม่ได้หรอกว่าใคร” เราใส่เสื้อผ้า “จะไปรึยัง”
“ไม่ไปแล้ว แบบนี้มันต้องเคลียร์ก่อน” ประตูที่เปิดไว้ถูกปิด
“ไม่มีอะไรจะเคลียร์ “ เราหันไปหากาแฟแทน โมเดินมาคว้าข้อมือ
“มันมากเกินไปแล้วนะ แค่เราไม่มา เอ๋ก็ไปหาคนอื่น”
“ก็เหมือนกันนี่ ไม่มาหาเราก็คงจะขลุกอยู่กับคนอื่นเหมือนกัน เราทนหิวได้ไม่นานหรอก”
“ประชดเหรอ” โมยืนอยู่ต่อหน้า “จะบอกไว้นะถ้าไม่เลิกทำตัวแบบนี้ คราวหน้าเจ็บตัวแน่”
“เหรอ” เราแสยะยิ้มที่มุมปาก วางถ้วยกาแฟที่กินเสร็จแล้วเดินออกจากห้องทิ้งเขาไว้ทั้งอย่างนั้น โมออกจากห้องแล้วเดินตามเรามา มือบีบที่คอจากด้านหลังแน่น
“เดินไปดีๆ” เราพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จ
เขาลากเราไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างแรง ไปที่ห้องของเขา
“เราต้องทำงานพรุ่งนี้ พามาที่นี่ทำไม”
เขาผลักเราไปที่โซฟาแล้วยืนจ้องหน้าเขม็ง ฝ่ามือตบฉาดที่หน้าของเราอย่างแรงจนหูอื้อ รู้สึกเจ็บใจน้ำตามันคลอที่เบ้าตา เราจับที่มุมปากเพราะรู้สึกว่ามันเจ็บ
“พอใจแล้วสินะ” เราลุกขึ้นยืนผลักให้เขาหลบ
“ห้ามไปไหนเลยนะ นั่งลง” เขากดไหล่เราลงที่เดิมมือผลักเรานั้นทั้งบีบและกด มือเขาบีบที่คอของเราต่อ
“ปล่อย” เราตะโกนเสียงดังใส่หน้าเขา โมดันตัวเราลงบนที่โซฟาเราเพลี่ยงพล้ำลงไปนอนเขาคร่อมที่ตัวแล้วบีบคอเขย่าจนเราหายใจไม่ออก
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ เราบอกเอ๋แล้วใช่มั๊ยว่าให้เลิกทำตัวแบบนี้”
“จะปล่อยไม่ปล่อย”เรากัดที่แขนเขาแรงจนจมเขี้ยว โมเจ็บสะบัดมือมาถูกที่หน้าเราอีกครั้ง ฝ่ามือที่หวดตามมาบอกถึงความเจ็บของเขาได้เป็นอย่างดี
“ชอบมากนัก บ้ากาม ไม่รู้จักพอ เดี๋ยวจะทำให้ มันขาดไม่ได้ใช่มั๊ย ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเรื่องเดียวใช่มั๊ย” โมรวบมือที่ผลักไสเขาไว้แน่นเขาพลิกตัวเราเอามือไพล่หลังไว้ เรากระเสือกกระสนให้เขาปล่อยแต่เขาแรงเยอะกว่าเราทั้งโกรธทั้งเกรี้ยวกราด เหมือนมีของแข็งๆแหย่เข้ามาในตัวเราแต่มันไม่ใช่สิ่งคุ้นเคย ลักษณะมันกลมๆแต่ขนาดใหญ่กว่าอวัยวะเพศเจ็บแสบมาก
“ดีมั๊ย เอาให้หายอยากเลยนะ เอาให้ตายไปเลย”เรามีแต่ความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเป็นท่อนอะไรแทงเข้ามาสักพักเขาก็ดึงมันออกไปจากตัวแล้วทิ้งเราไว้ทั้งอย่างนั้น
“กลับไป” เขาโยนเสื้อผ้าของเราไว้ข้างๆตัวเรา เราลุกขึ้นพร้อมความเจ็บระบมไปทั้งตัวใจมันหวิวมือสั่นระริกค่อยๆลุกขึ้นยืนหยิบเสื้อผ้ามาใส่ ร่างกายเราไม่สามารถยืนให้ตรงได้เหมือนกับว่ามันหมดแรง ข้าวก็ยังไม่ได้กินทั้งวันมีแค่กาแฟ ตาเราลายทั้งเจ็บที่ก้นเจ็บที่หน้าและตามลำตัว เราเห็นหน้าเขาลางๆที่ยืนโกรธขึ้งอยู่เราพยายามจะคว้าตัวเขาเพื่อยึดไว้ไม่ให้ล้มแต่เขาเบี่ยงตัวออก เหมือนคว้าอากาศแล้วเราก็หน้ามืดแว่บความรู้สึกสุดท้ายนั้นเขาคว้าตัวเราไว้ทันก่อนที่จะล้มลงไปโดยไม่รู้สึกตัวอีกเลย
ในสายของวันจันทร์ตื่นขึ้นมาเห็นโน๊ตหน้ากระจกว่าโทรไปลางานให้แล้ว และมีของกินวางอยู่ที่โต๊ะ อาการเจ็บปวดมันไม่ได้ลดลงไปเท่าไหร่นัก ยิ่งขยับตัวยิ่งรู้สึกว่าระบม เราเป็นห่วงงานขึ้นมาปาไปครึ่งค่อนวันแล้วเสียงที่ได้ยินจากรองหัวหน้าเหมือนอยู่ไกลๆ
“เอ๋ เป็นอะไรมากมั๊ย เห็นเพื่อนโทรมาลาให้ พี่เป็นห่วงนะ ไปทำอะไรมาเหรอคะ”
“ปวดหัวมากฮะ” เรากุมขมับ
“แล้วนี่อยู่กับใคร เพื่อนอยู่ด้วยรึเปล่า ไปหาหมอรึยัง”
“เพิ่งตื่นฮะ”
“กินข้าวกินยาแล้วก็นอนนะ ถ้าไม่ไหวก็นอนพักอีกสักวัน รักษาตัวด้วย” รองหัวหน้าวางสายไปแล้ว ไม่สบายต่อวันหยุดเราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย เรากัดฟันกินข้าวประทังความหิวเสร็จก็แข็งใจอาบน้ำใส่เสื้อผ้า หยดเลือดที่โดนตบเป็นรอยที่เสื้ออยู่หลายจุด กลั้นใจเข้มแข็งเดินไปที่ประตู แต่เปิดไม่ได้ โมล็อคกุญแจขังเราไว้ในห้อง เราหันไปคว้าโทรศัพท์ทันที“โม ลาครึ่งวันคะบอกว่ามีธุระด่วน ออกไปเมื่อครู่นี้เอง” เรานอนอย่างคนหมดอิสรภาพอยู่ที่โซฟาตอนเขาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าของเรา
“ไม่ต้องไปไหนแล้ว มาอยู่นี่เลย” เขาโยนกระเป๋าไว้ข้างตัวเรา
“เราไม่อยู่ด้วยหรอก” เขาทำท่าจะหวดอีกครั้ง
“ไม่ฟังจะโดนดีกว่านี้นะ”
“ทำเราทำไม” เขาไม่ตอบ หนีไปยืนสูบบุหรี่คนเดียวที่ระเบียง ไม่เคยคาดคิดว่าโมจะเป็นคนแบบนี้
“อย่างที่บอก ถ้าเราไม่เขี่ยเอ๋ทิ้ง เอ๋ก็ห้ามมีคนอื่น”
“เราเป็นคนนะ เราไม่ใช่ของเล่น” ค่อยๆพูดอย่างเจ็บที่ปาก แล้วก็หยุดนิ่ง ไม่มีประโยชน์อะไร
“ลุกไหวมั๊ย จะพาไปหาหมอ”
เขาประคองเราให้เดินจนถึงโรงพยาบาล เราไม่บอกสิ่งที่โมกระทำกับเราทั้งหมดบอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องชกต่อยกันกับเพื่อนแล้วเราก็เป็นลมหมดสติ หมอส่องเข้าไปในตามองหาอะไรก็ไม่รู้
“ไม่เป็นไรมากนะ กินยาแล้วนอนเยอะๆ ที่น่าเป็นห่วงคือความดันของคุณมันต่ำมาก พักผ่อนให้เพียงพอและก็กินยา ยาหมดค่อยมาเช็คอาการดูใหม่”
หมอออกใบรับรองแพทย์ให้สามวันและรับปากว่ามันจะดีขึ้น ส่วนรอยฟกช้ำต้องใช้เวลาสักระยะ รอยเขียวเป็นจ้ำที่มุมปากเห็นชัดกว่าเดิมเสียอีก
“ดีที่ฟันไม่หัก” หมอส่ายหน้า “วัยรุ่นเลือดร้อน ทีหลังก็อย่าวู่วามนะครับ ตัวเล็กแบบนึ้คงสู้เขาไม่ไหวหรอก เจ็บตัวเปล่าๆ” หมอถามว่าเราเดินแปลกๆ เราบอกว่าแค่จุกเสียดเท่านั้น โมเดินมาให้เราจับแขนเป็นหลักไว้แล้วพาไปขี้นรถ ขับกลับห้อง เขาไม่พูดอะไร ไม่มีคำขอโทษจากปากเขาให้เราได้ยินสักคำ
“หมอบอกเป็นอะไร ทำไมยาเยอะแยะ”
“เป็นเอดส์” เราบอกไปอย่างนั้น
“ปากดีอีกแล้ว สักวันคงเป็นอย่างปาก”
“กลัวก็ไม่ต้องมาอยู่ใกล้”
“อย่าโกหก เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ความดันต่ำ” เราไม่ค่อยรู้เรื่องกับไอ้โรคบ้าของเราหรอก รู้แค่ว่าเครียดและตกใจจะหมดสติได้ก็เท่านั้น เราเคยเป็นครั้งนึงตอนอยู่กับพี่โด่ง และนี่มันมาออกอาการเพราะโมอีกรอบ
“ดันทุรังมากกว่า” โมพูดคนเดียว เขาพาเรากลับห้องบังคับให้เรานอน โดยมีเขานอนอยู่ใกล้ๆ เราหวาดระแวงว่าเขาจะทำอะไรเราอีกจนไม่กล้าหลับตา
“จะไปไหน” เราพยายามจะลุกขึ้นกลางดึก
“นอนไม่หลับ เรากลัว” เราบอกไปตามตรง “เราไม่อยากตาย” โมลุกขึ้นมาดึงตัวเราไว้เขากอดเราแน่น
“ขอโทษนะ” เสียงกระซิบที่หูเบาพร้อมกับการซุกไซ้ที่ลำคอ โมดูดรอยที่เบียร์ทิ้งเอาไว้อย่างแรง เรานั่งนิ่งปล่อยให้เขาดันตัวเรานอนลงบนเตียงตามเดิม
“เจ็บมากมั๊ย” เรารู้ว่าเขาเอาอะไรแทงเราแล้วมันเป็นขวดโรลออนที่หัวมนทู่รอยเลือดที่ขวดนั้นบอกถึงความเจ็บปวดของเราได้ดี เราโยนมันทิ้งถังขยะไปแล้ว ไม่อยากคิดถึงมันอีก ไม่รู้ข้างในของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง หน้าของเรามีแผลที่หางคิ้วเพราะนาฬิกาของโมมันครูดเอาตอนเขาสะบัดจากการกัด หมอดูแล้วบอกว่าไม่เป็นไรไม่ถึงขั้นต้องเย็บ หมดสภาพ เรานอนมองเพดานอย่างเลื่อนลอย เราจะหนีจากโมไปได้อย่างไร เราอยากจะพูดอะไรสักคำแต่มันก็พูดไม่ออก สมควรแล้วเหรอที่เราโดนกระทำอย่างนี้ มันสมควรแล้วเหรอ
“โมคิดอะไรอยู่” เราถามทั้งๆที่หลับตา
“ไม่รู้มันโกรธ จนเลือดขึ้นหน้า”
“โกรธทำไม ในเมื่อ” เขาเอามือมาปิดปากเรา
“อย่าพูดอีกได้มั๊ย เรารู้ว่าเอ๋เจ็บตัวเพราะเรา แต่เราอยากให้เอ๋จำมันไม่มีทางอื่น”
“เราจะต้องเจ็บตัวแบบนี้อีกทุกครั้งเหรอ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว พอ พอ นอนนะ” เขากอดเราแน่นจนเราอึดอัด
ฤทธิ์ยามันทำให้เราไม่มีเรี่ยวแรงที่จะช่วยเหลือตัวเองเช่นเคย โมออกไปทำงานแต่ก็ขังเราไว้เช่นเคย มีเพียงโทรศัพท์เท่านั้นที่เราจะติดต่อกับโลกภายนอกได้ พรุ่งนี้เราคงจะดีขึ้น เราจะพูดกับเขาใหม่อีกครั้ง
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสได้พูดเพราะโมไม่เปิดโอกาสให้พูดอะไร เขาพาเราไปส่งที่ทำงานและยังกำชับว่าให้รออย่ากลับเอง
“หน้าไปโดนอะไรมา”
“หกล้ม” ทีน่าไม่ยอมเชื่อ “หล่อนเหมือนโดนซ้อมเลยนะเอ๋” ทั้งๆที่พยายามจะหลบสายตาเพื่อนแล้ว
“ใครทำหล่อน”
“ไม่หรอก ชั้นล้มเอง”
เรายื่นใบลาให้หัวหน้าเซ็นอนุมัติ รองหัวหน้ามองหน้าเราแล้วแกก็ลุกไปปิดประตูห้อง
“พักร้อนเหลืออีกกี่วัน” แกถามพร้อมจรดปากกาเซ็นต์ชื่อบนใบลา
“สองอาทิตย์”
“งั้นก็ใช้มันเถอะนะ พี่ไม่อยากเห็นเอ๋อยู่ในสภาพแบบนี้ที่ทำงานนะ มันไม่น่าดูเท่าไหร่”
“ฮะ” เราก้มหน้า
“เรื่องงานไม่ต้องห่วง ลูกน้องเอ๋เขาคงพอรันได้บ้าง พี่จะช่วยดูให้” แกจ้องหน้าเรา
“พอจะบอกได้มั๊ย ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เรื่องไม่เป็นเรื่องนะฮะ”
“แฟนเราซ้อมเหรอ” เหมือนแกรู้
“เอ๋ไม่มีแฟน”
“งั้นก็แล้วไป ยังไงก็คุยกันดีๆนะ พี่ให้เอ๋หยุดพักผ่อน มีสตินะเอ๋ พวกแบบเอ๋มันรักแรงโกรธแรง อยู่กันด้วยเหตุผลนะคะ ดูแลตัวเองให้ดี ตอนนี้ถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดอะไรกัน พี่เป็นห่วงนะ ตัวแค่นี้จะไปสู้อะไรเขาได้” แกพูดอย่างกับเราตัวกะเปี๊ยก
“พี่โทรบอกเขาให้มารับแล้ว”
“ใครฮะ”
“โม ไง อย่าหาว่าพี่ยุ่งเลยนะ เขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำนะ เขาโทรมาลางานให้เอ๋ทุกวันพี่ก็เลยถามเขา ก็ปากแข็งเหมือนกันทั้งคู่ ไม่เป็นไรเคลียร์กันให้รู้เรื่องนะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย” เขาพูดไปทำไม เรานึกตำหนิโมแล้วออกจากห้องหัวหน้า พี่ๆที่ทำงานมองหน้าเราด้วยความสงสัยกันทั้งนั้นเราได้แต่ยิ้มแล้วรีบกลับทันทีหลังจากที่โอนงานที่ค้างอยู่ให้ลูกน้อง
“เอ๋ ไม่ต้องห่วงนะ พักผ่อนให้เต็มที่ พี่จะดูแลงานให้” ลูกน้องที่อายุมากกว่าตบไหล่เราเบาๆ ก่อนที่เราจะลงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เบียร์เพิ่งมาถึงเขาชะงักที่เห็นรอยเขียวช้ำที่มุมปากทั้งสองข้างของเรา
“ไปทำอะไรมา”
“ทะเลาะกับเพื่อน” เขาไม่ใช่สาเหตุ เราเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากกว่านี้
“เดี๋ยวเราโทรหานะ” เบียร์มายืนบอกใกล้ๆล็อคเกอร์
“เราไม่ได้อยู่ห้องช่วงนี้ ไว้เรากลับห้องแล้วเราจะโทรบอก เราลาพักร้อนสองอาทิตย์”
“เหรอ ว่าจะชวนไปเที่ยวด้วยกันซะหน่อย”
“ไว้คราวหน้านะ”
โมจอดรถรอที่ทางออกพนักงาน ต่างคนต่างไม่พูดอะไรจนถึงห้อง โมก็แยกไปทำงานต่อ เขาไม่ได้ขังเราเช่นเคยแต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอยู่แล้ว เรานอนหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน เรื่องแค่นี้รู้ไปถึงที่ทำงาน เราช่างไม่มีความรับผิดชอบเสียจริงๆ แล้วอนาคตเราจะเป็นยังไง มีแต่ความมืดมนอยู่ในหัวสมอง.......................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

110. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 06:03 PM (SE Asia Standard Time)
 
   233...
เราอยู่ที่ห้องของโมอย่างซังกะตายก่อนรักษาแผลที่มันเกิดขึ้น ข้างในมันคงดีขึ้นแล้วพอสมควร เขาเก็บกุญแจห้องเราไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ หาเท่าไหร่ไม่เจอ อยากจะกลับไปนอนที่ห้อง โมกลับมาตอนที่เรากำลังรื้อหากุญแจห้องอยู่
“ทำอะไร”
“กุญแจห้องเราอยู่ไหน เราจะกลับห้องเรา”
“บอกว่าไง”
“เราไม่อยากอยู่ที่นี่”เราตะโกนกลับ เขาทำท่าจะหวดเข้าใส่อีก
“วอนอีก จะกลับทำไปกลับไปก็ไปทำตัวแบบเดิมอีก”
“อยู่ที่นี่ก็ทำได้”
“จะโดนตีนนะทีนี้ ปากดี” เขาดึงมือเราจากกการรื้อค้นของในห้อง พร้อมล้วงมาในกระเป๋ากางเกงของเราดึงกระเป๋าเงินออกไป โมดูเงินในกระเป๋าแล้วดึงมันออก พร้อมทั้งบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม เขาโยนมันเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วล็อคมันไว้
“อย่ามาทำเหมือนเด็กนะโม เกินไปแล้วนะ” เราโกรธทุกครั้งที่พูดก็เจ็บที่มุมปาก รอยฟกช้ำมันหายไปแล้ว
“เมื่อไหร่จะเลิกฤทธิ์มากซะที”
“น้ำเน่า” เราตะโกนใส่หน้าเขาก่อนจะหันหน้าหนีเดินออกไปนั่งคนเดียวที่ระเบียง คิดถึงแม่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เราจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด” อาจจะเป็นไม้ตายที่พอจะคุยกันรู้เรื่อง “คืนของเรามาเถอะนะ” โมตามมายืนฟังอยู่ข้างหลัง
“ไม่ต้องกลับหรอก ยังไม่หายดี”
“แต่”เขากอดเราไว้แน่น “เราไม่อยากอยู่กับโม เพราะโมไม่ได้รักเรา โมทำร้ายเรา”
“เอ๋ ทำไมไม่มีเหตุผล”
“ใครกันแน่ไม่มีเหตุผล” อยากจะแกะมือออก เขากดคางลงที่หัวเราแรงๆ
“หายเจ็บรึยัง”
“ไม่ต้องมาพูดดีหรอก” ความรู้สึกที่มีอยู่เรียกได้ว่าหมดศรัทธาไปแล้ว ข้างในยังเจ็บอยู่บ้างตอนเข้าห้องน้ำแต่ก็ดีขึ้นกว่าวันแรกอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ เขาทั้งดึงทั้งลากให้เราไปที่เตียง เราขืนตัวแต่สู้แรงโมไม่ได้ โทรศัพท์ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกออกจากกัน โมไปรับโทรศัพท์แล้วยื่นให้เรา
“หล่อนทำไมไม่กลับห้องเอ๋” ต่อถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย “ชั้นนึกว่าหล่อนตายไปแล้วซะอีก ถ้าโมมันไม่บอกวีว่ามันลากหล่อนไปที่ห้องชั้นคงไม่รู้นะนี่ว่าหล่อนหายไปไหน”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ชั้นไม่เป็นอะไร” เราพูดคำว่าไม่เป็นอะไรพร้อมสายตาที่โกรธแค้นมองไปที่โม
“วีบอกว่าให้หล่อนระวังไอ้โมมันดีๆนะ มันวีนเก่งมาก แฟนเก่ามันโดนซ้อมบ่อย ดูแลตัวเองดีๆนะเอ๋ เป็นห่วงจริงๆ”
“ไม่ต้องเล่าหรอก ชั้นรู้แล้วว่าเป็นยังไง ขอบใจนะที่เตือน” มันสายไปแล้วหล่ะต่อ เรานึกในใจ ต่อตัดบทสนทนาแล้ววางหูไป เราเก็บเสื้อผ้าที่ซักไว้เข้าตู้ไม่รู้จะทำอะไร ห้องสี่เหลี่ยมเดินไปเดินมาก็เบื่อ
“โมพาออกไปข้างนอกหน่อยได้มั๊ย โมจับเรามาไว้ในห้องเป็นอาทิตย์แล้วนะ เราอึดอัด” เราเดินไปหาโมที่นั่งดูโทรทัศน์อย่างใจเย็น
“จะไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ เราเครียดนะไม่มีอะไรทำ”
“แผลหายแล้วเหรอ ถึงจะออกไป”
“ดีขึ้นแล้วไม่เจ็บแล้ว” เราหมายถึงหน้า
“ตรงนั้นหล่ะ”
“อย่าถามเลย มันคงฉีกขาดหมดแล้วมั๊ง”
“ตอบมาดีๆ”เขาดึงแขนให้เรานั่งลงข้างๆ โมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ใส่กางเกงนอนขาสั้นตัวเดียวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาหน้าทีวี ห้องของโมตกแต่งตามสไตล์ของเขาแม้จะเป็นห้องเช่าแต่โมก็ใช้ความรู้อินทีเรียของเขาเนรมิตมันขึ้นมาได้อย่างน่าดูไม่น้อย มือของโมสอดเข้ามาในกางเกงแล้วบีบที่ก้นเราเบาๆ เขานอนหงายลงบนโซฟาพร้อมกับดึงเราให้นอนทับลงบนตัวเขา
“หายดีก็มีอะไรกันได้แล้วสิ” มือนั้นลูบก้นเราไปมา
“อย่าเลยไม่ดีหรอก”เขาหยุดการลูบไล้พร้อมดันเราให้ลุกขึ้น และปิดโทรทัศน์ จูงมือเราไปที่เตียง
“ไม่ต้องไปไหนหรอก พรุ่งนี้วันหยุด เราอยู่เป็นเพื่อนเอ๋ทั้งวันได้” ไม่ได้อยากให้อยู่สักนิด
“หายโกรธรึยัง”
“ให้เราเอาคืนสิ จะได้หายโกรธ” เราบอกเขาตอนที่โมดันเราลงข้างล่าง ขาของเขาเกี่ยวขาเราไว้ไม่ให้เราดิ้น
“เอ๋ ไม่รักเราเลยเหรอ”
“โมก็ไม่ได้รักเรา” เราตอบเขา
“เราถามเอ๋นะ ไม่ได้ให้เอ๋ถามเรา”
“ตอบไม่ได้หรอก เราโดนแบบนี้ เราไม่ใช่พวกนางเอกนิยายที่โมจะเอามาปู้ยี่ปู้ยำแล้วมาบอกรักหรอกนะ”
“ไม่เคยเจอ หลายครั้งที่กะจะเลิกแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งหวง”ประสาท
“อย่าพูดเลย ขี้เกียจฟัง เบื่อคนพูดอะไรแล้วจำไม่ได้ เจอมาบ่อยแล้ว”มือของโมเขี่ยหัวนมเราเล่นเขาเลื่อนใบหน้าลงไปหามันแล้วใช้ลิ้นเลียมันเล่น เรารีบดันหน้าเขาออกก่อนความรู้สึกมันจะกระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้
“เริ่มต้นกันใหม่ได้มั๊ย” โมขยับมาอยู่ในระดับเดียวกับเรา
“เริ่มยังไง”
“ก็อย่างเคยไง”
“โม ไม่ได้มีเราคนเดียวนี่”
“เราไม่ใช่ผู้หญิงนะ”โมปิดปากเราไว้ ความชอบของจริงของเขายังมีอยู่ เราสังเกตได้จากการกระทำของเขา ทุกครั้งที่โมมีอะไรกับเรา มันส่ออยู่แล้ว
“วันนี้ขอได้มั๊ย ทนไม่ไหวแล้ว”
“เจ็บ” เราดันตัวเขาออก
“น่า นะ” เหมือนขอเอาชะนีไม่มีผิด โมไม่รอเราปฎิเสธ เขาลุกไปใส่ถุงยาง ยื่นหล่อลื่นให้เราทาอารมณ์ของเขามันรุนแรงอยู่ต่อหน้าเราแล้ว เราไม่ได้ทาหล่อลื่นหากแต่ถือเอาไว้พร้อมกับมองหน้าเขา ยังจะเอาเราอีกเหรอทำเราเจ็บขนาดนี้เขาจับเราหันหลัง ดึงหล่อลื่นออกจากมือแล้วบีบมันลงที่ร่องก้นของเราแต่ไม่ได้ล้วงเข้าไป เขาค่อยๆจ่อดันเจลนั้นเข้ามาในช่องของเราทีละนิดทีละนิด ความเจ็บปวดมันถูกกระตุ้นให้รู้สึกเราพยายามจะขยับตัวหนีความรู้สึกนั้น แต่โมไม่ยอมมันเข้าไปถึงครึ่งทางแล้วมีเหรอที่จะหยุด โมเหนื่อยที่เราไม่ตอบสนองอย่างเคย เขาทับลงบนตัวเราสองแขนสอดเข้ามาใต้รักแร้เราทั้งสองข้างยึดไว้แน่น
“อย่าดิ้นนะ จะหมดแล้ว”สองมือนั้นล็อคการขยับหนีไว้ได้ ส่วนขาพันกับขาเราไว้ มันค้างๆคาๆอยู่ครึ่งนึง ยิ่งเราเกร็งให้มันแน่นเขายิ่งได้ใจดันเข้ามาอีก
“เร็วๆสิเอ๋ ยิ่งขืนมันยิ่งเจ็บนะ” เราสูดลมหายใจหลับตากลั้นความเจ็บเอาไว้ปล่อยวาง มันเข้ามาจนสุดแล้ว
“เราจะค่อยๆทำนะ”โมกระซิบที่หูสะโพกก็เคลื่อนตัวช้าๆ
เจ็บ เจ็บ และ เจ็บ เราหลับตานึกออกแค่คำนี้คำเดียว เขาเริ่มเดินเครื่องแรงขึ้นเร็วขึ้นจนเขาเสร็จอยู่ข้างในเรา ถุงยางเปียกแฉะเต็มไปด้วยน้ำถูกโยนทิ้งลงถังขยะ ดีที่ไม่มีเลือดออก เราชะล้างๆมันอยู่นานเราไม่มั่นใจเพราะข้างในเรามีแผลแม้ว่าโมจะใส่ถุงยางแต่เขาเสร็จอยู่ข้างในและแช่จนมันหดตัวแบบนี้มันไม่ค่อยปลอดภัยเลย
เราตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าก่อนที่โมจะตื่น เปิดลิ้นชักทำงานหยิบกระเป๋าและกุญแจห้องของเราที่โมซ่อนไว้ด้านในสุด แล้วค่อยๆออกจากห้องให้เบาที่สุดไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าเลย แท็กซี่พาเรามาถึงหน้าอพร์ทเม้นท์ก่อนตีห้าด้วยซ้ำเราอาบน้ำแต่งตัวเอาหยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็วเท่าที่คิดว่าจะใส่ แต่ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเสียงโทรศัพท์ดัขึ้น เราปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆแล้วรีบออกจากห้องทันทีปิดประตู แล้ววิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว เรียกแท็กซี่จากปากซอยตรงดิ่งไปขนส่งด้วยความรู้สึกว่าโมกำลังตามมา ถึงหมอชิตเราทำทุกอย่างอย่างรวดเร็วนั่งรอรถคันแรกอย่างใจจดใจจ่อเมื่อไหร่มันจะออกเสียที เราเดินไปเดินมาแต่แล้วก็เหมือนคิดได้ว่า เราไม่ได้หนีโม เราเพียงแค่อยากจะไปหาแม่เราเท่านั้น ยืนชั่งใจอยู่นานก่อนที่จะหยอดเหรียญลงไปและกดเบอร์ห้องเขา กดหมายเลขห้องตามที่เครื่องรับบอกทีละเบอร์ช้าๆ
“โม อย่าเพิ่งโกรธเรานะ”เราพยายามบอกเขาทันทีที่เขาตะคอกให้เรากลับไปหาเขาตอนนี้
“ไม่เย็นแล้ว กลับมาเลยนะก่อนที่จะไปลากกลับมา”
“โม”
“อะไร”
“เราขอกลับไปบ้านสักพักนะ แล้วค่อยคุยกันอีกที ขอเราอยู่คนเดียวสักพักนะโม”
“ทำไม เราลางานมาอยู่กับเอ๋แล้วนะอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์จะไปไหน จะพาไป ทำไมไม่รอ”
“แล้วเราค่อยคุยกันนะโม เราไม่หนีไปไหนหรอก” ไม่อาจทนฟังเสียงตะคอกของเขาได้ หน้าตาหล่อๆตอนโกรธมันก็หมดหล่อได้เหมือนกัน หลับตานึกไปตลอดทางแววตาที่โกรธกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเขามันติดตาเรามากแม้ว่าเขาจะสวีทหวานกับคืนที่ผ่านมาแต่สิ่งที่เขาทำมันไม่ได้หวานอย่างเขาพูดสักนิด เขาเอาเราได้อย่างไรทั้งๆที่รู้ว่าเราเจ็บเพราะการกระทำของเขาอยู่
แม่เห็นหน้าเราก็งงที่เราไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้าเหมือนทุกครั้ง
“แล้วนี่จะอยู่กี่วัน”
“สักสองสามวันนะแม่ ไม่ค่อยสบายใจอยากเห็นหน้าแม่”
“มีเรื่องอะไรเหรอเอ๋”
“ทะเลาะกับเพื่อน” เรานอนหนุนตักแม่บนโซฟาที่ตลาด
“เพื่อนหรือแฟน” แกบีบจมูกเราเล่น
“ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอะไรกับเอ๋” เราตอบแม่โดยที่ไม่ได้โกหก”
“หน้าตาเหมือนไม่ค่อยสดชื่น มีอะไรก็เล่าให้แม่ฟังนะ ระบายออกมาบ้างจะได้ดีขึ้น” แม่เอาหมอนมารองหัวเราแล้วลุกขึ้นไปขายของปล่อยให้เราหลับอยู่บนโซฟาทั้งอย่างนั้น เราเหนื่อยจากการเดินทางมาถึงบ้านก็ตรงมาร้านที่ตลาดเลย เหมือนเด็กที่ทะเลาะกับเพื่อนแล้ววิ่งมาซบแม่เพราะทำอะไรเขาคืนไม่ได้ยังไงยังงั้น
“เอ๋ กลับมาเมื่อไหร่ครับ” เสียงคนคุยกันแว่วๆมา
“มาถึงเมื่อกลางวัน คงเหนื่อย หลับไปนานแล้ว” เราง่วงเกินกว่าจะลุกขึ้นมามองเจ้าของเสียงนั้น คลับคล้ายคลับคลา
“อย่าเพิ่งปลุกเลยครับ ให้เขานอนไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็นผมค่อยแวะมาใหม่” เสียงฝีเท้าเดินผ่านเราที่นอนอยู่ออกไปจนเงียบ จากนั้นความเงียบก็เข้ามาเยือนอีก
“เอ๋ ตื่นได้แล้วลูก เย็นแล้ว หิวรึยัง” กลิ่นของกินหอมฉุยโชยมาใกล้ๆ เตี่ยนั่งกินข้าวกับแม่อยู่ไม่ห่างจากโซฟาเท่าไหร่นัก
เราลุกขึ้นขยี้ตาแล้วเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็เดินขึ้นชั้นบนพร้อมกระเป๋า คิดว่าจะนอนที่ตลาดดีกว่าขี้เกียจเข้าบ้าน มันเย็นมากแล้ว อยากมาหาแม่กับเตี่ยก็จริงแต่ก็อยากอยู่คนเดียวเงียบๆด้วย
“แล้วไม่ไปนอนบ้านเหรอวันนี้”
“ไม่ไปแล้วกันแม่ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเข้า”
“ทำตัวแปลกๆ” เตี่ยตำหนิ แล้วเดินไปรอแม่ทีรถ พวกเราช่วยกันเก็บร้านจนเสร็จ เรานอนดูวีดีโออยู่ที่ชั้นบนตั้งแต่เย็นจนถึงดึก แล้วก็หลับลงไปอีกครั้งจนเช้ามืดเตี่ยกับแม่เปิดร้านเราถึงได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เราอยู่กับโมเรานอนหลับได้เพราะฤทธิ์ยา ทำให้หลับๆตื่นๆ แต่ที่นี่มีแต่ความปลอดภัยโล่งใจจึงทำให้หลับสนิทเต็มตา ตื่นมาอาบน้ำแล้วช่วยเตี่ยกับแม่จัดร้าน พี่แขกเดินมาตัวเปล่าแต่มีลูกน้องยกถังนมตามมาติดๆ
“ตื่นแล้วเหรอ ขี้เซา” แกเคาะหัวเราเล่น
“เสียงพี่เหรอเมื่อวาน ได้ยินแต่มันง่วง”
“ไม่รู้จักกันแล้วมั๊ง” พี่แขกนับของแล้วบอกให้ลูกน้องไปลงอีกที่
“เป็นไงมั่งหล่ะ”
“เรื่อยๆ”
“พี่โทรหาเอ๋ อาทิตย์ที่แล้วไม่มีคนรับที่ห้องสักวัน ย้ายที่อยู่แล้วเหรอ”
“ไม่ได้ย้าย แค่ไปเล่นห้องเพื่อนเท่านั้นเอง”
“เพื่อน หรือ เด็ก”
“มีพี่แขกคนเดียว” เราพยายามทำให้มันสนุก
“เพื่อนจริงๆนะ” แกหันมาย้ำอีกที เราพยักหน้า พี่แขกเดินตามลูกน้องไปเรื่อยๆ รูปร่างกำยำที่มองจากด้านหลังดูอบอุ่น ผิวพี่แขกคล้ำไปเล็กน้อย แกยิ้มให้กับแม่ค้าสาวไปตลอดทาง ไม่ผิดอะไรที่เกิดมาพร้อมสรรพแบบนี้ เหลือแต่ว่าแกจะเลือกใครไปใช้ชีวิตร่วมเท่านั้นเอง ช่วงเช้ามันวุ่นวายกับการจัดของให้ลูกค้าคนแล้วคนเล่า สนุกจนไม่ได้คิดถึงใคร พอสายก็เงียบ เราถึงไม่ชอบชีวิตค้าขายเพราะมันเหมือนยุ่งๆอยู่แป็บเดียวก็หายยุ่ง หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรจะทำนอกจากนั่งเซ็งรอลูกค้าไปเรื่อยๆ ทีละคน ทีละคน
“เอ๋ โทรศัพท์”แม่ตะโกนเรียกเราที่ยืนอยู่หลังร้านมองดูหนุ่ยขายผลไม้ข้างๆเมีย
“จะกลับเมื่อไหร่” เสียงของโมถามมา เขาช่างเสาะหาเบอร์ได้นะ
“จะอยู่จนหมดพักร้อนถึงจะกลับ”
“สบายใจรึยัง”
“ยัง” เราตอบเขาไปแทบจะทันที โมชวนคุยโน่นคุยนี่เราได้แต่ฟังโมพูดคนเดียว
…………..
“แล้วเจอกัน” เขาคงไม่มีอะไรจะคุยต่อ เพราะเราเงียบเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาถามเป็นคู่สนทนาที่แย่มาก
“แฟนโทรมาเหรอ รับสายแล้วทำหน้าเบื่อโลกแบบนี้”
“เปล่าหรอกแม่ ไม่ใช่แฟนหรอก แค่คนที่ไม่อยากเห็นหน้าเท่านั้นเอง”
“แขกมันบอกให้แวะไปที่บ้านมันหน่อยนะ เห็นว่ามีอะไรจะให้”
“จะให้อะไรเหรอ”
“การ์ดแต่งงานมั๊ง”
“จริงเหรอแม่”
“พูดเล่น ชอบมันเหรอ เห็นทำหน้าตกใจ”
“ไม่ใช่หรอก แค่เสียดาย”
“ให้มันจริงเถอะนะ เห็นดีอกดีใจเวลาที่เจอหน้าตลอด”
“ก็คนรู้จัก” เราบอกกับแม่อย่างสนุกสนาน แม่คงรู้แล้วว่าเราคืออะไร “แม่แล้วเขาจะแต่งจริงๆเหรอ”
“ไม่รู้สิ เห็นลูกสาวส.ส.ไปชอบมัน มันมาเล่าให้ฟัง น้องเมียของเพื่อนเอ๋ที่ชื่อนกไง แขกเขากำลังไปได้ดีนะคนรู้จักเยอะ ใครก็อยากได้เป็นลูกเขย พ่อแม่เขาก็อยากให้มีครอบครัวซะที”
“แล้วพี่แขกชอบเขามั๊ยหล่ะ”
“ไม่รู้สิ ถามแล้วก็ไม่ตอบ” แม่หันมายิ้มอีกครั้ง “อย่าคิดมากนะลูก ของอย่างนี้มันเรื่องปกติ ถ้าดวงเขาเป็นคู่กัน เขาก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน เราคนนอกก็ทำได้แค่ยินดีกับเขา” แม่ลูบหัวเราเล่นอีกครั้ง “แล้วเอ๋หล่ะ ไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลับมาเป็นปกติเหรอลูก น้องมันก็มีหลานให้แม่อุ้มกันแล้วนะ” แม่กับเตี่ยก็ยังมีความหวังอยู่
ไม่มีทางหรอกแม่ เราตอบแม่อยู่ในใจ แต่ภายนอกก็ได้แต่ยิ้มเท่านั้น แม่เองก็คงจะดูออก


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

111. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 06:08 PM (SE Asia Standard Time)
 
   234……
“พี่แขกอยู่มั๊ย” เราถามคนงานที่กำลังให้อาหารปลาอยู่ เขาไม่ได้อยู่บ้านเรานึกขึ้นได้ว่าแกมีที่ทำบ่อปลาอยู่อีกที่นึงเลยขับรถต่อมาเรื่อยๆ
“อยู่ที่เล้าหมู ครับ กำลังช่วยแม่หมูออกลูก” คนงานชี้ไปที่คอกของหมู ที่เยื้องไปทางด้านหลังนี่จะเอาทุกอย่างเลยเหรอพี่แขก เราเดินแกมวิ่งหลังจากจอดรถไว้ที่หน้าบ้านพักของแกแล้ว พี่แขกกำลังแยกลูกหมูมาเช็ดรกออกช่วยแม่มันที่ร้องโอดโอยอยู่ เราเห็นเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะโผล่ออกมาดูโลกจากช่องคลอด ทันทีที่มันหลุดออกมาได้พี่แขกกับคนงานอีกคนก็ฉีกรกออกทันที ลูกหมูยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำตัวแดงแจ๋ เราเดินอ้อมไปด้านหลังนับดูได้สิบตัวแล้วที่นอนอยู่
พี่แขกหันมายิ้มให้แล้วหันไปสนใจกับแม่หมูของแกต่อ คนงานอีกคนทำความสะอาดลูกหมูคอยปัดแมงวันที่เข้ามาดม กรงอีกด้านกำลังเช็ดทำความสะอาดให้มันอยู่
“สิบห้าตัว” พี่แขกยืนนับผลงานของแม่หมูแล้วเปิดประตูเดินออกมา ตัวแกมีแต่กลิ่นคาวและกลิ่นสาบของหมู
“ไม่หล่อเลย” หน้าตาแกอิดโรย
“หล่อไม่ไหวแล้ว มันร้องทั้งคืน พี่ต้องมานอนเฝ้านี่เป็นท้องแรก มันยังออกลูกเองไม่เป็น”
“มันอยู่ในท้องได้ไง ตั้งสิบห้าตัว” เราเดินตามพี่แขกเข้ากระท่อมน้อยของแก
“พ่อพันธุ์มันดี นี่ตัวแม่มันก็เพิ่งเลี้ยงมาจนโต พี่จับคู่มันเองเลยนะ พ่อสอนให้หมด”
“ตกลงพี่แขกจะเป็นเกษตรกรเต็มรูปแบบเลยเหรอเนี่ย” เรายืนมองรอบๆกระท่อมของแกสูดลมหายใจรับเอากลิ่นไอธรรมชาติอย่างเต็มปอด พี่แขกมือเย็นปลูกอะไรก็งอกงามแกยืนชี้
“พี่เพิ่งรับจำนำทุ่งนาที่ติดกันมานะเอ๋ เห็นมั๊ยยาวไปจนถึงกระต็อบเล็กๆโน่น ต้นกล้าที่กำลังโตเขียวขจีใบของมันลู่ไปตามลมเป็นระยะ “ตอนแรกก็ไม่อยากจะทำ แต่พ่อให้รับไว้และลองปลูกดู จะได้มีข้าวไว้กิน”
“พี่แขกไม่ส่อแววเลยนะ ว่าแม่พี่เป็นคนกรุงเทพฯมาก่อน” แม่พี่แขกก็ยังทำตัวเป็นคุณนายสัตวแพทย์จังหวัดอยู่เหมือนเดิม แกยังแต่งตัวเหมือนคนกรุงเทพฯ น้องสาวแกเรียนจบและแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพฯไปแล้วและไม่คิดจะกลับมาอยู่บ้าน
“เราหล่ะ สบายดีมั๊ย”
“สบายดีพี่ เห็นแม่บอกว่าพี่มีอะไรจะให้ดูเหรอ” เราถามแก
“เห็นที่ติดกันมั๊ย” พี่แขกเดินนำเราไปที่ขอบรั้ว “เจ้าของเขาจะขาย เอ๋ยังสนใจมันอยู่รึเปล่า” เรายืนเกาะรั้วลวดหนามมองที่ดินแปลงเล็กๆติดกับที่ของแก
“เขาขายแพงมั๊ย”
“ไม่เท่าไหร่หรอก เจ้าของเขาร้อนเงิน พ่อแม่เขาตายแบ่งที่แบ่งทางให้ลูกแต่พอแบ่งแล้วมันเหลือคนละนิดเดียว ไอ้คนที่ไปอยู่ทีอื่นมันก็ไม่อยากได้ มาเสนอขายให้พี่”
“แล้วพี่ซื้อรึยัง”
“ยัง ก็ดูๆไว้อยู่”
“เอ๋ไม่มีเงินสดเยอะขนาดนั้นหรอก ตั้งหลายหมื่น”
“อะไรทำงานมานานแล้วยังไม่มีเงินเก็บอีกเหรอ”
“แหมพี่ ไม่ได้เงินเดือนเป็นแสนนี่นา อยู่กรุงเทพฯเก็บได้ขนาดนี้ก็บุญแล้ว” ถ้าให้ซื้อเงินสดมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา เพราะเราไม่ได้คิดจะกลับมาอยู่บ้าน
“สนใจเดี๋ยวให้ธนาคารมาดู ประเมินราคาแล้วเอ๋ก็กู้มาซื้อ ผ่อนไม่กี่ปีก็หมด”
“ใครจะค้ำให้เอ๋”
“เตี่ยกับแม่ไง” แกเขกหัวเราทีนึง
“ที่ตรงนี้มันสวยนะ ซื้อไว้มาอยู่ตอนแก่ไง จะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน”
“มานั่งดูพี่แขกอยู่กับลูกกับเมียเหรอ” เราหันไปถามแก “คงแสลงใจนอนร้องไห้ เฝ้ากระท่อมอยู่ทุกวันสินะ”
“ประสาท”
“ก็จริงนะสิ พี่แขกจะมีเมียแล้วไม่ใช่เหรอ เห็นว่าลูกสาวคนใหญ่คนโตมาตามจีบ”
“พวกนั้นก็พูดไป ไฮโซแบบนั้นอยู่กับดินกับทรายไม่ได้หรอก” แกเอามือล้วงเข้าไปที่กระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ “พี่ไม่ได้ชอบนะ เขามาคุยด้วยก็คุย แต่พี่รู้ว่าแต่งแล้วก็คงไปไม่รอด อยู่อย่างนี้ดีกว่าสบายใจ” ฉลาดเหมือนกันแฮะ “พี่ไม่อยากให้ใครมาจูงจมูกเหมือนเพื่อนเอ๋ อีกคนหรอก”
“นกนะเหรอ ทำไมหล่ะพี่”
“พี่ไม่ชอบเล่นการเมือง ไม่ถนัดกับการเข้าสังคมแบบนั้น” แกเดินนำหน้าเราดูที่ไปรอบๆ
“ถ้าพี่แต่งงานไปจริงๆ เอ๋คงเสียดายพี่แย่” เราเดินไปข้างๆเขา
“ทำไมหล่ะ”
“มันเหมือนกับว่าขาดคนที่รู้จักไปอีกคน เอ๋ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เพื่อนที่แต่งงานไปก็หายไปทีละคน ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เจอกันอีก กลับบ้านมาก็ไม่เจอกันสักที ตอนนี้ก็เหลือแค่พี่ที่เป็นคนโสดอยู่”
“ไม่เข้าใจ”พี่แขกถาม “เป็นเพื่อนกันก็ไปหากันสิ หรือว่าตัวเราเองคิดกับเขาเป็นอย่างอื่นเลยรับไม่ได้ที่เขามีลูกมีเมีย” แทงใจดำจี๊ดอย่างแรง
“จริงรึเปล่า” แกถามเราอีกครั้ง
“งั้นพี่ลองมีเมียดูแล้วกัน เอ๋จะพิสูจน์ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงรึเปล่า เพราะเอ๋คงชอบพี่แล้วมั๊ง”
“อย่าพูดเล่นแบบนี้นะ ใครได้ยินเข้ามันไม่ดี” แกปราม เมื่อเห็นคนงานกำลังเดินมาทางนี้ แกรอจนพวกเขาผ่านออกไปถึงพูดต่อว่า
“เก็บมันไว้ในใจนะ คิดอะไรอย่าแสดงออกประเจิดประเจ้อนัก ไปข้างในกันเถอะ” แกเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในบ้าน คนงานทยอยกลับกันหมดแล้ว ทั้งไร่มันเงียบสงบ
“แล้ววันนี้จะค้างกับพี่ หรือจะให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อนที่บ้าน” พี่แขกถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ แกเดินเล่นกับเราให้ลมไล่กลิ่นสาบออกจากตัว
“ได้ทั้งสองอย่าง” เรานั่งเล่นที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน
“งั้นนอนกับพี่ที่นี่แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ” พี่แขกยิ้มแล้วเดินไปอาบน้ำ เรารู้สึกโล่งใจที่กลับมาแล้วยังได้เจอพี่แขกคนเดิมอีกครั้ง มันบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกอย่างนี้มันเรียกว่ารักหรือไม่ แม้ตอนไม่ได้เจอก็ไม่ได้ห่วงหาอาทรอะไรนัก แต่หากเจอกันทีไรก็อบอุ่นใจทุกที ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่กับโม เวลาไม่เจอกลับหวาดระแวงกลัวว่าจะได้เจอกันอีกแต่พอได้เจอความรู้สึกนั้นก็หายไปหมดกลายเป็นความน่าเบื่อแทน เป็นตั้งแต่ก่อนที่เราจะโดนเสียอีก
พี่แขกทำให้เรามีความอยากที่จะกลับมาอยู่ที่บ้านมากกว่าใครทั้งหมด แม้แต่นกเองก็ไม่ทำให้เรารู้สึกเช่นนั้น หนึ่งในนั้นคงมาจาก เราไปไหนมาไหนกับแกได้อย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบซ่อนเหมือนนกก็เป็นได้
“ไปอาบน้ำไปจะได้นอนกัน” พี่แขกดึงแขนเราขึ้นจากแคร่หลังจากที่เรามานอนรับลมเล่นหลังข้าวเย็น
“ยังหัวค่ำอยู่เลย ลมเย็นดีออกจะรีบนอนไปไหน” เราลุกตามมือแกจัดการอาบน้ำ กางเกงเลของแกเราผูกปมไม่เป็นมันพาลจะหลุดอยู่เรื่อย เสื้อกล้ามตัวโคร่ง พี่แขกนุ่งโสร่งตัวยาวแล้วใส่เสื้อยืดไม่มีแขน กระท่อมของแกเพิ่งต่อเติมชั้นลอย เป็นห้องเป็นห้องใต้หลังคามองเห็นท้องฟ้าได้ถนัด พี่แขกเรียนศิลปะ มีความรู้แค่ศิลปะจริงๆ แกสอบเข้าไม่ได้เพราะไม่เอาเรื่องวิชาการ พอเอ็นท์ไม่ติดพ่อก็พยายามจะให้แกจับด้านอื่นยกเว้นศิลปะ เพราะพ่อไม่อยากให้แกจนอย่างศิลปินที่ไม่มีงานทำ พี่แขกหายไปจากบ้านหลายเดือนแล้วกลับมาเพราะแกหาหนทางให้ตัวเองตามใจรักไม่ได้ ดนตรีกับงานศิลป์ที่ชอบไม่สามารถทำให้แกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่กรุงเทพฯได้ เมื่อความฝันไม่เป็นใจ มันก็นำพาความรักที่หอบหิ้วตามกันไปไม่ได้ แกถึงเลิกกับคนที่ทะเลาะกับไอ้นาเพื่อนเราที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมารักษาแผลใจที่บ้าน และในช่วงนั้นที่เราได้รู้จักและจัดการแก นานมากแล้วนะ พอมาคิดดู เรามีเรื่องที่คุยกับพี่แขกตั้งเยอะแยะ ช่วงที่เราอยู่บ้านก็มีแกที่มาคุยด้วยทุกเช้าเย็น พอมีอะไรกัน ก็เขินๆกันอยู่พักแล้วแกก็วนมาอีก จนเรามาอยู่กรุงเทพฯ กลับบ้านทีไรก็ได้เจอ จนถึงวันนี้ เราผ่านอะไรมาเยอะ แต่พี่แขกก็เหมือนเดิม ยิ่งไกลแต่กลับใกล้เข้ามาทุกที พี่แขกเล่าโน่นนี่ให้ฟังหลายอย่างก่อนที่จะตะแคงข้างหันหน้ามาถามคำถามที่เราไม่กล้าตอบ
“อยู่กับเอ๋แล้วสบายใจดี พี่ได้พูดได้คุยตลอดเวลา เอ๋คุยรู้เรื่องดีนะ เข้าใจอะไรเร็ว มันจะเป็นไปได้มั๊ยถ้าเอ๋จะกลับมาที่นี่ให้บ่อยกว่านี้”
“เอ๋ต้องทำงานนี่นา พี่คิดถึงก็โทรไปคุยสิ”
“ไม่หาอะไรทำที่นี่หล่ะ ให้เตี่ยฝากงานธนาคารให้ก็ได้นี่นา”
“พอดี เห็นหน้ากันทุกวันก็เบื่อ” เราพลิกตัวแกให้นอนหงาย แล้วเอาคางเกยที่อกแกไว้
“พี่แขกเหงาเหรอ”นิ้วของเราไล้ที่แก้มแกเล่น
“มีบ้าง ที่คิดว่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก”
“ก็หาใครสักคนมาเป็นเพื่อนสิพี่”
“พี่ไม่อยากมีครอบครัว” แกพูดเบาๆ
เราโน้มตัวลงจูบที่ปากแกเบาๆ พี่แขกจูบตอบนานที่ลิ้นกระหวัดกันไม่มีอิดออดเหมือนทุกครั้ง ส่วนนั้นของแกตื่นตัวเต็มที่รอการทักทายของเราอย่างคุ้นเคย เราไล่ลิ้นไปตามลำตัวของมันอย่างอ้อยอิ่งกล้ามเนื้อต้นขาของพี่แขกเกร็งแน่นก่อนที่ปลดปล่อยความสุขออกมา เรากลืนกินมันเข้าไปทั้งหมด พี่แขกลุกขึ้นนั่งมองหน้าเราที่นอนหนุนตักแกอยู่ลูบที่ผมเราเบาๆ แววตานั้นมันมีความหมายที่เราเข้าใจ แต่เราจะไม่เข้าข้างตัวเอง ขอเก็บความรู้สึกที่ดีอันนี้กลับไปต่อสู้กับความยุ่งเหยิงที่กรุงเทพฯ ต่อสู้กับแรงปรารถนาที่ไม่มีจุดจบของตัวเอง
พี่แขกมาส่งที่ท่ารถหน้าตาของแกดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจที่จะมาส่ง
“ไม่อยากมาส่ง เพราะไม่อยากให้ไป”
“เดี๋ยวมาอีกก็ได้ ขอกลับไปทำงานก่อนนะจะได้เก็บเงินไว้ซื้อที่ต่อจากพี่แขกไง อย่าขายให้ใครนะ พี่จะทำอะไรก็ทำไปก่อน แล้วเอ๋เก็บเงินได้เมื่อไหร่จะมาซื้อ”
“ตอนนั้นจะโก่งราคา”
“คนกันเองยังจะเอากำไรอีกเหรอพี่”
“คนกันเองนี่แหล่ะ หลอกง่ายดี” เราโบกมือให้แกแล้วเดินขึ้นรถ
“นางเอก” ต่อกัดทันทีที่เห็นหน้า
“อย่าพูดเลยชั้นเครียดนะที่โมเป็นแบบนี้”
“หล่อนนะแหล่ะ ต้นเหตุ” ต่อยิ้มเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ “ชั้นคงช่วยหล่อนไม่ได้นะ”
”ชั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน ให้โมเขาจัดการเองก็แล้วกัน เราก็อยู่ของเราไปเรื่อยๆแบบนี้แหล่ะ”
“คาราคาซังกันเปล่าๆ ไม่รักก็เลิกเลยสิ”
“ไว้ให้คิดให้ดีก่อนแล้วกัน ความสุขที่จับต้องได้ หล่อนเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าเขาคือความจริงของชั้น”
“แต่ถ้าความจริงที่เป็นแบบนี้ มันน่ากลัวนะเอ๋” ต่อรู้เรื่องทั้งหมด เพราะเราไม่คิดจะปิดบังอะไร
“หล่อนคิดยังไงกับเบียร์หล่ะ”
“ไม่ได้คิดอะไรนะสิ ชั้นถึงโกรธที่โมทำกับชั้นแบบนี้ ถ้าพูดกันตามตรงโมเขาก็ดีกับชั้น และดีกว่าเบียร์ในทุกๆด้าน เพียงแต่ว่าชั้นทนไม่ได้เท่านั้นเองถ้าหากเขาจะหลอกล่อชั้นแบบนี้ มีอย่างที่ไหนพอเราหยุดก็เดินเข้ามา พอเราติดก็ถอยห่าง ชั้นไม่ชอบหรอก หล่อนกับวีก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้”
“มันจะเหมือนกันได้ไง หล่อนเป็นแบบไหนก็ได้แบบนั้น ตัวเองเริ่มก่อนนี่” ต่อหัวเราะ
“ไปหาข้าวกินกันเถอะ วีมารอข้างล่างแล้ว”
โมไปรอที่ร้านอาหารก่อนที่พวกเราจะไปถึง เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันอีก เรายิ้มให้เขา เขาก็เฉยๆกินเสร็จก็แยกย้ายไปคนละคู่ ถึงห้องก็มีแค่เรื่องเดียวโมจัดการเราทันที เซ็กส์แบบหมดใจเราไม่ได้สนุกกับโมเช่นเคย เราพยายามไม่แสดงความรู้สึกอะไรมากไปกว่าทำให้รู้สึกว่าสนุกไปกับเขาพอให้เขาเสร็จเท่านั้น ถ้าหากให้บอกเลิกมันยังคงยากสำหรับเรา แต่ให้โมเบื่อเราไปเองคงจะดีกว่า เขาชวนเราไปโน่นมานี่หลายต่อหลายที่ที่เขาไปเที่ยวกับเพื่อนเขา มีเราไปด้วย กลุ่มของโมมันหลากหลายไปวงโน้นต่อวงนี้
โมชวนเราออกอีกในคืนวันศุกร์ทันทีที่เราเขาถึงห้อง เราไม่อยากไปเพราะเบื่อไปทีไรกลับมาก็ชวนทะเลาะว่าเราไปอ่อยผู้ชายโต๊ะอื่น
“ไปเถอะ ขี้เกียจกลับมาให้คนหาเรื่องอีก”
“จะไปไม่ไป”
“ไม่ไป หาเรื่องตลอด ไปแล้วจะสนุกอะไร”
“พี่นงเขาชวนด้วยนะบอกว่าให้เอ๋ไปด้วย”
“ช่างเขาเถอะ” พี่นงเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงที่โมนับถือ เขาสอนเราวาดรูปตอนที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันครั้งที่โมยังไม่บ้า
“แกอยากเจอเอ๋” เรายังนิ่งเฉย จนโมมานั่งใกล้ๆ “นะไปเถอะ สัญญาว่าจะไม่อาละวาดอีก” เขาหอมแก้มเรา กลิ่นเหล้างี้หึ่ง คงไปไหนมาแล้วหล่ะสิ” เราตัดความรำคาญถึงยอมออกมาด้วย
ก็แค่ขอให้สนุกเท่านั้นแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นอีก เพราะความแรงของเรา เราเต้นกับเพื่อนเขาความสนุกมันทำให้เต้นเข้าขาในขณะที่โมนั้นนั่งคุยกับพี่นงและแฟนแก แต่ยังคอยมองมาที่เราที่กำลังเต้นกับกลุ่มเพื่อนเขาเป็นระยะ พอเพลงจบเรากลับนั่งลงที่โต๊ะตามฝั่งตรงข้ามกับเขา ยังไม่ทันจะยกแก้วขึ้นดื่ม โมเอื้อมมาคว้าแก้วจากมือเราแล้วสาดใส่หน้าเราทันที เพื่อนที่มาด้วยตกใจ พี่นงคว้าแขนโมที่หยิบถังน้ำแข็งเตรียมจะสาดเราไว้ทัน พลางขอโทษโต๊ะข้างๆให้
“โม เป็นอะไร ไปทำเอ๋เขาทำไม”
“ขอตัวนะ” โมลุกขึ้นมาคว้าแขนเรา เพื่อนหลบให้เราเดินออก คนในร้านมันแน่นแต่มือที่บีบเรากึ่งลากนั้นเบียดเสียดผู้คนออกมา
“มีอะไรกัน”พี่นงวิ่งตามออกมา
“มันร่านต้องเจอแบบนี้ พี่นงกลับเข้าไปเถอะ ผมจะเคลียร์กับเอ๋มัน”
“ไม่เอา โมทำแบบนี้พี่ไม่ชอบเลยนะ เอ๋เขาก็สนุกกับพวกเรา กันเองทั้งนั้น”
“พี่ไม่เห็นเหรอ ไอ้โต๊ะข้างๆที่คอยมาเต้นกับมัน พี่รู้มั๊ย มันนัดกันเข้าห้องน้ำ”
พี่นงทำหน้าเหรอหรา
“เธอบ้าหรือโม นี่มันอะไร มันมากไปรึเปล่า” เราสวนกลับทันทีแค่คนข้างๆเดินไปห้องน้ำต่อจากเรา โมก็เดินตามไปรอเราที่หน้าห้องน้ำ
พี่นงจูงมือเราออกจากโม
“เอ๋กลับไปก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” แกส่งเราที่ข้างถนนแต่ยังมีโมเดินตาม
“ชอบมันเหรอ” โมยังตามมาตะคอกเราอีก
“ไม่ได้ชอบ ไม่ได้ทำอะไร ต่างคนก็ต่างเต้น เราก็เต้นกับเพื่อนโม โมก็เห็นนี่ พี่นงก็เห็น"
“เอ๋ไม่เอา อย่าเถียง” พี่นงดึงแขนไว้
“แต่มันไม่ใช่ แล้วมันเดินตามเอ๋ไปห้องน้ำทำไม นี่ต่อหน้าต่อตาเลยนะ ยังจะเถียง” เขาคงนึกถึงภาพตอนที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วแอบหนีกลุ่มไปทำอะไรกับเขาขึ้นมาได้ พาลเอามาจินตนาการไปไกล
“โม เมาแล้วอย่าหาเรื่องนะ แล้วชวนเรามาทำไม”
“จะได้ไม่หนีไปเที่ยวเองนะสิ”
“มันมากไปแล้วนะ อย่างนี้ทุกที แล้วชวนเรามาทำไม"
“คนอื่นเขาเต้นกันเฉย แต่เอ๋มันคอยมองหาไปทั่ว"
“ไม่ไว้ใจกันทีหลัง ก็ไม่ต้องให้มาด้วยแล้วนะ”
“ไปๆ กลับๆ หมดอารมณ์แล้ว พี่นงผมกลับนะ”
พี่นงมองเราด้วยสายตาที่เป็นห่วง
“จะกลับไม่กลับ” โมคว้าแขนเราไม่ทัน
เรารีบเรียกแท็กซี่ โมวิ่งตามมา แท็กซี่จอด โมโบกให้เขาผ่านไปเขาลากเรากลับไปที่รถจนได้
“นี่เราอายคนนะ” คนเริ่มมองกันเยอะแล้ว โมถึงหยุด เปิดประตูรถแล้วดันเราให้เข้าไปนั่ง
เขาขับรถเร็วมากจนเราต้องหาที่เกาะไว้ ถึงห้องก็อาละวาดต่อ
“ไง ร่านมากเหรอ เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้เลยใช่มั๊ย” เขาขยุ้มผมเราไว้
“เจ็บนะ”เราแกะมือเขาออกพร้อมกับตบหน้าเขาไปทีนึง โมยิ่งโกรธจัดเตะเราที่ขาพับจนล้มลงที่พื้น
“ไอ้โม ไอ้เหี้ย” เราตะโกนด่า
“มึงด่ากูเหรอ”เขาคร่อมที่ตัวเราบีบคอเอาไว้อีก
“ปล่อย” เราดิ้นให้มันหลุด วันนี้ชั้นไม่ยอมอีกแล้วสองมือแกะมือที่เหมือนคีมออกจนสำเร็จ
“เลิกกันเลยแล้วกัน ไม่ทนแม่งแล้ว” เราเริ่มหยาบคายขึ้นมาทีละนิด
“เออ ไปเลย” เราผลักเขาออกจากที่ยืนขวางไว้อย่างแรง แล้วออกวิ่งลงบันไดเพราะโมปิดห้องแล้วตามมาหน้าลิฟต์ โมทำท่าจะคว้าแขนเราเอาไว้เราสะบัดเขาเสียหลักทำให้ลื่นตกบันไดโมเอามือค้ำตัวเองไว้กลิ้งตกลงตามเรามาหลายชั้นไปนอนหมดฤทธิ์ เขาเมามากในวันนี้
“โมเป็นอะไรรึเปล่า” เราทั้งโกรธทั้งสงสาร
“มือเรา” เราจับมือมันเหมือนห้อยๆยังไงไม่รู้ เรารีบพยุงเขาลุกขึ้น
“กุญแจรถอยู่ไหน” เราล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วขับรถออกจากอพาร์ทเม้นท์เขาอย่างรวดเร็ว ถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โมก็นอนร้องโอดโอยเพราะเจ็บข้อมือ ใครพูดก็ไม่ยอมหยุด พยาบาลดามแขนไว้หลังเอ็กซเรย์ พอหมอมาถึงก็เข็นเข้าห้องผ่าทันที หายไปประมาณสองชั่วโมงก็สิ้นฤทธิ์นอนเงียบกลับมา
“แขนหัก ตรงข้อมือพอดี เพราะร่างกายรับน้ำหนักตอนตกบันได” เราบอกวี
“หล่อนแก้แค้นเขาเหรอเอ๋”
“ชั้นไม่ได้ทำอะไร” เราตอบ”ถามเขาดูเอง ว่าทำอะไร” เรามองโมที่เพิ่งตื่น
“มันอะไรกันนักหนาวะคู่นื้ แกเป็นอะไรวะโม เอ๋เขาไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด เมื่อไหร่แกจะเลิกระแวงซะทีวะ” จริงเหรอวี เราคิดในใจ
“ข้าไม่เชื่อหรอก ดูตามันสิ”โมชี้มาที่หน้าเราด้วยมืออีกข้างนึง ต่อดึงแขนเราไว้ไม่ให้พูดอะไร ทั้งวีและต่อนิ่งมองหน้าเราทั้งคู่แล้วส่ายหน้า
“งั้นข้ากลับก่อนแล้วกัน” วีขี้เกียจฟังโมพล่ามด่าเราอีก
“เอ๋ จะอยู่ดูมันมั๊ย”
“ไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง” เราเดินออกไปส่งคนทั้งคู่ เจ็บแล้วยังจะซ่าส์อีก
“บอกให้กลับไปไง” เราเขวี้ยงหมอนที่หนุนหลังใส่เราอีก เราหยิบมันขึ้นมาอย่างไม่สนใจแล้วหยิบกระเป๋าของโมมาหานามบัตรของประกันชีวิตเพื่อให้มาจัดการ
“ดีนะที่มีประกัน” เราบอกเขา โมไม่พูดอะไรนอนหันหลังให้
“เอ๊ะ ทำเองแล้วจะมาโกรธเราทำไม” เจ้าหน้าที่เคาะห้องเอาข้าวมาส่ง ห้องพิเศษห้องเดี่ยวพอจะทำให้เป็นส่วนตัวอยู่บ้าง โมไม่ยอมหันมาแตะต้องอาหาร
“นี่อย่ามางอแงเหมือนเด็กนะโม ลุกมากินข้าวเดี๋ยวจะได้กินยา” เราดันตัวเขาให้ลุกขึ้นยากลำบากน่าดูกว่าจะยอมนั่ง
“โม กินข้าวนะ” เขาไม่ตอบไม่ยอมเอามืออีกข้างจับช้อนซะที
“โม อย่าทำเป็นเด็กสิ” เราผลักรถอาหารออกจากเตียงแล้วนั่งลงข้างๆเขาแขนหักแต่ยังมีแรงมาดันเราออกจากเตียงอีก
“เราขอโทษนะ ถ้าหากโมจะโกรธเราเพราะเรื่องนี้” เขาหันหน้ามามองเรา
“ไม่ได้โกรธ”
“งั้นก็อย่าอารมณ์เสียสิ หมอผ่าให้แล้วอีกไม่กี่วันก็หาย มือขวาก็ยังใช้ได้อยู่นี่นา”เขามองหน้าเรา เราขยับไปใกล้หน้าเขาแล้วจูบที่ปากเขาเบาๆ
“เราจะไม่ดื้อกะโมอีกแล้ว อย่ามัวแต่โกรธเลยนะโม” เขาทำท่าจะนอนลงไปอีก จนด้วยเกล้านี่งอนอะไรกันนักหนา เรานั่งมองเขาอย่างเหนื่อยใจแล้วผลักรถอาหารเข้าสู่ที่เดิมก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อหาอะไรอย่างอื่นทำ เราจะรับผิดชอบโมได้แค่ไหนถ้าหากเขาอารมณ์รุนแรงแบบนี้ อะไรที่ทำให้เขาอาละวาด นี่เขารักเราเหรอ เราไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองขนาดนั้นหรอก แต่มันดูแล้วเหมือนใช่ นี่โมเป็นคนประเภทไหนกันนะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

112. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 09:32 PM (SE Asia Standard Time)
 
   235.....
เรานอนเฝ้าโมที่โรงพยาบาล เพื่อนๆเขาก็ทยอยมาตอนเย็น เราจะโทรบอกพ่อแม่เขาที่ต่างจังหวัดก็โดนตวาดว่าไม่ต้องยุ่งอีก
“พ่อแม่จะได้ ตกใจนะสิ”
“โม แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีคนรู้นะอย่างน้อยแกจะได้ไม่ต้องห่วงมาก”
“คอยดูนะใครบอก” เราได้แต่นิ่ง พี่นงมองหน้าเราแล้วส่ายหน้า
“ไม่น่าเลยนะ คืนก่อนก็ยังสนุกกันอยู่เลย มันอะไรนักหนาเอ๋ ทำไมโมเขาเป็นแบบนี้” กลายเป็นเราผิดรึเปล่าเรามองแววตาพี่นง แล้วหลบสายตาแก กว่าที่ทุกคนจะกลับก็คุยจนเหนื่อย เราล้าพอสมควรขยับไปหาตัวเขา
“โมจะนอนรึยัง เช็ดตัวก่อนนะ” เขานั่งนิ่งมองเราที่ค่อยๆเช็ดไปตามหน้าตาของเขาเราปลดกระดุมเสื้อของแก เช็ดทั้งแผ่นหลัง เราถอดกางเกงคนไข้ออกแล้วเช็ดไปทั้งตัวทุกส่วน ทาแป้งลงบนไอ้ดื้อ อยู่ๆมันก็ดีดขึ้นมา เราใส่กางเกงให้เขา โมอายหลบสายตาเรา ให้เขากินยาเสร็จเราก็นอนลงที่โซฟาห่มผ้าแล้วนอน เราไม่เคยเฝ้าคนป่วยนอนไม่ค่อยหลับแปลกที่กว่าทุกครั้ง
“เอ๋” เสียงโมเรียก เรารีบลุกโมอยากเข้าห้องน้ำแต่สายน้ำเกลือมันเกะกะ เรายกน้ำเกลือไว้และประคองเขาค่อยๆเดินมือข้างเดียวมันทำอะไรได้ไม่ค่อยถนัด เราให้โมถือขวดน้ำเกลือไว้แล้วอ้อมไปข้างหลังเลื่อนกางเกงบางนั้นออกแล้วจับไอ้นั่นเขาไว้
“อย่าเพิ่งนะ เดี๋ยวมันเลอะกางเกง” เราจัดท่าให้เรียบร้อยมือก็จับมันไว้ให้เขา จนหมดสะบัดให้เขาและเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำก่อนจะประคองเขากลับไปนอน
“นอนซะนะ” โมคงระบมจากการทำแผล พอได้ยาก็หลับสนิท ตื่นมาอีกวันเขาก็ไม่พูดกับเรา เราก็ได้แต่ทำตามหน้าที่ไปเรื่อยๆ ดูแลเขาให้ดีที่สุด
“พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้นะคะ แต่ว่าคงต้องพักฟื้นสักอาทิตย์ แล้วค่อยกลับมาให้หมอดูแผลอีกที”
“เรื่องงานไม่ต้องกังวลนะคะ พอหายดีแล้วมือก็กลับมาใช้ได้เป็นปกติเหมือนเดิม” หมอบอกกับโมโดยที่มีเรานั่งฟังอยู่ เพื่อนของโมทยอยมาเยี่ยมเราก็ปลีกตัวไปอยู่ข้างนอกเงียบๆจนทุกคนกลับ เราโทรไปลางานกับหัวหน้าสำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะพาโมกลับบ้าน ที่ทำงานของโมให้โมหยุดงานจนกว่าจะหายดี
“โมจะให้ไปส่งที่ไหน ที่บ้านต่างจังหวัด หรือว่าที่ห้องโม” เราถามเขาหลังจากเคลียร์บิลล์ส่วนที่เหลือของประกันเสร็จ โมก็ไม่พูดอะไร
“โม พูดอะไรบ้างสิ เราไม่สบายใจนะที่โมเงียบแบบนี้ ถ้าทุกอย่างเราเป็นต้นเหตุ เราก็ยอมรับ แต่ขอให้โมแยกแยะนะว่า อะไรที่เป็นเรื่องของโมถ้าเราช่วยเหลือได้เราจะทำ เราโทรไปหาวีแล้วเขาต้องไปต่างจังหวัดด่วน ส่วนคนอื่นเขาก็ไม่สะดวก จะให้เราทำยังไง ถ้าหากโมไม่ต้องการให้เราดูแลต่อ เราก็ขอทำหน้าที่จนวันสุดท้ายแล้วกัน” เราเปิดประตูรถให้บุรุษพยาบาลประคองโมขึ้นรถ เขานิ่งอยู่พักแล้วถึงพูดออกมา
“เอ๋ไม่อยากจะทำ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ไม่ต้องบังคับตัวเองหรอกนะ และก็ไม่ต้องโทษตัวเองว่าผิดหรอก” เราเลี้ยวรถออกจากโรงพยาบาล
“แล้วโมจะไปที่ไหนหล่ะ”
“มีที่ไหนที่ควรจะไป” เขาหันมามองหน้าเรา
“ห้องของโม ก็ไม่มีคนดูแล” เราตอบ “พรุ่งนี้เราต้องไปทำงานแล้ว”
“เอ๋ห่วงแต่ตัวเองเหรอ” เราสะอึก
“เราไม่ได้ห่วงตัวเองหรอก แต่ว่าเราต้องรับผิดชอบ เราต้องเลี้ยงตัวเองไม่มีใครมาหาเลี้ยงเรานี่นา” เราขับรถไปเรื่อยๆ
“แล้วเราจะอยู่ยังไงคนเดียว มือก็เจ็บแบบนี้ จะทำอะไรสะดวกเหรอ”
“แต่มืออีกข้างยังใช้การได้นี่นา” เราหันไปมองหน้าเขาแล้วจอดรถที่ข้างทาง
“เราอยากให้เอ๋ดูแลเรา” เขาพูดออกมาตรงๆ “เอ๋เป็นสาเหตุให้เราเจ็บตัว” เรานิ่ง
“งั้นเหรอ” เราหันไปมองหน้าเขา
“ได้รึเปล่า เช้าเอ๋ก็ไปทำงานเอารถเราไปแล้วตอนเย็นก็รีบกลับมันไม่เห็นจะยากอะไรนี่” เขาพูดไปเรื่อยๆ “หรือมันยาก” เสียงเขาเริ่มตวัดขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ยากหรอก” เราขับรถไปต่อจนไปถึงห้องเขา อพาร์ทเม้นท์ดูเงียบเชียบเพราะคนออกไปทำงานกันหมดแล้ว
“อาบน้ำหน่อยนะจะได้สดชื่น” โมยืนให้เราถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน มือซ้ายของเขายังมีผ้าคล้องแขนอยู่
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราอาบเอง”
“อย่าเลยเดี๋ยวถูกแผล โมยืนดีๆนะคอยยกแขนไว้เราจะค่อยๆทำ” เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ให้เราค่อยๆราดน้ำลงบนตัวเขาช้าๆ แขนก็คอยยกขึ้น เราไม่เคยทำแบบนี้ให้โมหน้าเขาแดงตอนที่ต้องลุกขึ้นยืนให้เราถูสบู่ไปตามตัวของเขา เราขัดถูไปทั้งร่างไม่เว้นแม้แต่ซอกหลืบข้างหลังจนมาถึงข้างหน้า ท่อนลำที่เคยทำอย่างอื่นกันถูกเราฟอกสบู่ ปลิ้นเขาปลิ้นออก โมสะดุ้งเขายี่งอายไปใหญ่เมื่อมองลงมาหน้าและปากของเราอยู่ในระดับเดียวกันกับส่วนนั้นของเขา เราไม่มีความรู้สึกอะไรหรอกก็เหมือนอวัยวะส่วนอื่น แต่โมสิรู้สึกทั้งที่แขนเจ็บ มันกระดกอยู่ต่อหน้าเรา เขาก็หันหน้าหนี เราก็หลบสายตาไม่สนใจกับการตื่นตัวของมัน ไม่นานก็อาบน้ำเสร็จ โมพอจะแปรงฟันเองได้แต่เราต้องคอยระวังช่วยเขา
“เสร็จแล้ว” เขายืนให้เราเช็ดตัวจนแห้ง และทาแป้งให้จนเสร็จ
“นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวเราลงไปหาอะไรมาให้กินนะ” เรากำลังจะเดินออกจากประตู
“เอ๋” เราหันตามเสียงเรียก
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” เราเดินออกจากห้องขับรถไปเรื่อยๆ อย่างคนไม่มีความรู้สึก เรากำลังขัดแย้งในตัวเองเหลือเกิน เราจะอยู่กับเขา เพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าเราเป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัว มันถูกต้องแล้วหรือในเมื่อสิ่งที่เขาทำกับเรามันรุนแรงไม่ต่างกันเลย
การดูแลคนเจ็บมันเป็นงานที่ใช้ความอดทนสูงมากโดยเฉพาะการต้องดูแลคนที่มีอะไรในใจกันแบบนี้ เราตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวเตรียมของกินให้เขาแล้วออกไปทำงาน ตกเย็นก็รีบกลับจนเพื่อนสงสัยเพราะเราไม่เคยกลับเร็ว
โมนอนดูทีวีอยู่เงียบๆคนเดียว เราหอมแก้มเขาจากข้างหลัง
“กลับมาแล้วนะ วันนี้ดีขึ้นมั๊ย ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า” โมส่ายหน้า
“ร้อนมั๊ย” เขาพยักหน้า คราวนี้เขาไม่ได้หลบสายตาเราตอนที่ทำความสะอาดส่วนนั้นอย่างเบามือ มันกระดกตัวทักทายเราเช่นเคย คราวนี้เราสิเป็นฝ่ายอาย โมจ้องตาเราไม่กระพริบ เรารีบราดน้ำให้เขาแล้วเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว
“คิดอะไร อยู่ๆทำไมหน้าแดง”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“มานี่ซิ” เขาเรียกเราให้ไปนั่งข้างๆ มือที่ไม่เจ็บคล้องคอเราไว้
“เราอยากอยู่กับเอ๋นะ” เราเบี่ยงตัวหลบการจูบของเขา
“เรายังไม่ได้อาบน้ำ”
“จะเป็นไร ไม่เห็นเหม็นนี่ น้ำหอมฉีดขนาดนี้ ไม่ฉุนตัวเองเหรอ” เราติดน้ำหอม หมดพี่โด่งก็มีพี่ภู ตอนนี้รองหัวหน้าก็หิ้วมาให้บ่อยๆจากเมืองนอก
“มีอะไรเหรอ”
“เราไม่กล้าคุยกับเอ๋ เพราะเรารู้สึกผิดที่ทำให้เอ๋ลำบาก”
“อย่าพูดถึงมันเลย”
“ตอนนั้นเอ๋ คงโกรธเรามาก”
“ก็โกรธ” เรารับคำเบาๆ “โมไม่รู้จักเราดีพอ ถึงเราอาจจะเผลอไปมีอะไรกับใครหรือทำตัวอย่างที่โมว่า แต่เราไม่มีความรักให้หรอก เราเป็นนักทำสถิติ โมไม่รู้เหรอ” เราตอบไปตามตรง “เวลาเราเมาหรือเจอคนที่ถูกใจ เราห้ามตัวเองไม่ได้หรอก เราต้องการเอาชนะ เรามั่นใจในตัวเองมาก เหมือนกับตอนที่เราพยายามจะจัดการกับโมโดยที่เราไม่สนใจเพื่อนโมว่าจะสงสัยรึเปล่า เรามันนิสัยแบบนี้แหล่ะ”
“เรารู้ แต่เราไม่อยากให้ทำ มีเราคนเดียวยังไม่พออีกเหรอ”
“ไม่รู้สิ”
“เอ๋รักใครเป็นรึเปล่า” คำถามที่เรายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เรารักใครไม่เป็นหรือมากรักกันแน่
“เป็นมั๊ง” เราไม่รู้จะตอบอะไร
“อย่าพูดอีกเลย”เราพยายามแกะมือเขาออก โมบีบที่ไหล่เราแน่นแล้วกดตัวเราลง
“เราจะทำให้เอ๋อิ่มที่สุด เราจะแก้โรคประจำตัวของเอ๋ให้ได้” เขาใช้มือที่ไม่เจ็บกดหน้าเราลงที่เป้าของเขา
“เอ๋”มันตื่นตัวอยู่ในกางเกงบางๆนั้น
“โม ยังไม่สบายอยู่นะ”
“มันแขนนี่ไม่ใช่ไอ้นั่น”
“จะดีเหรอ” เขายกก้นขึ้นเอามือข้างที่ไม่เจ็บถอดกางเกงออก แล้วดันให้เราลุกขึ้นนั่งทับมันไว้ มือที่เจ็บพาดไว้ที่ไหล่ของเรา เขาทำหน้าเหยเกไม่ต่างจากเราเท่าไหร่นัก
“เบาๆนะ เราไม่ค่อยถนัด” เราหยิกที่แก้มเขา
“เจ็บแล้วไม่เจียม จะกระแทกให้หักเลยคอยดูสิ” เราหยุดการเคลื่อนไหวแล้วจูบเขาเบาๆนานและนานก่อนจะลุกขึ้นปล่อยให้มันเป็นอิสระ เราเดินไปห้องน้ำอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดแล้วกลับมาทำความสะอาดให้โม เขายังไม่เสร็จ โมเดินไปนอนบนเตียง มือที่ไม่เจ็บคอยกำกับจังหวะการขึ้นลงของปากเรา เขาครางเบาๆก่อนที่ทำนบมันจะทะลักทะลายเกือบอาทิตย์ที่เราไม่ยอมเขา โมกดหน้าเราแนบจนหยาดหยดสุดท้ายถึงได้ปล่อยเราเป็นอิสระ
ดีที่วีกับต่อมาช้าไม่อย่างนั้นโมคงจะค้างเติ่งแน่ วีพาต่อมากินข้าวกับพวกเราทุกเย็น ในบางครั้งสายตาของวีที่เราอาจจะเผลอคิดไปเองเหมือนกับเขามองเราอย่างเสียดาย

“ขับรถดีๆนะ” ถึงวันนัดดูแผล โมอาบน้ำแต่งตัวหล่อนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้เราขับ อยู่กับโมเราไม่เคยได้ขับรถให้เขาหรอก เพราะเขาไม่ชอบให้คนอื่นขับมีตอนที่เจ็บนี่แหละ
“อีกสองวันก็ใช้การได้แล้วนะคะ เก่งคะที่ทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเองตลอด สุขภาพก็ดี อารมณ์ดีมากเลยนะคะ” เรานั่งอยู่อีกฟากของห้องเพราะโมขอให้เรามาฟังด้วย เผื่อเขาอาจจะเก็บรายละเอียดที่หมอบอกไม่หมด
“ทานยาชุดสุดท้ายก็มาหาหมออีกครั้งนะคะ คราวนี้นัดยาวเลย แผลไม่มีปัญหาแล้ว อีกเดือนมาหาหมอนะคะ” คุณหมอรุ่นแม่หน้าตาเหมือนแม่พระผู้อารี เช้าวันเสาร์ที่โรงพยาบาล โมเดินตามเราต้อยๆเหมือนลูกแหง่
ที่คล้องแขนถูกเอาออกแล้วโมเป็นอิสระ เขาบีบที่ไหล่เราไปตลอดทางกลับห้อง
“ถึงเราหายดีแล้วแต่เราก็ยังอยากให้เอ๋ดูแลไปตลอดนะ เอ๋ทำได้มั๊ย” เราหันกลับไปมองหน้าโม
“ถ้าโมจะใจเย็นกับเรามากกว่าที่ผ่านมา” เราตอบไปมองทางไป
“เราจะไม่วู่วาม ขี้โมโหกับเอ๋อีก”
เราได้แต่ยิ้ม มันคงเป็นไปได้ยากมั๊ง เพราะอารมณ์ของโมเป็นอย่างไร คบกับเขามานานขนาดนี้เรารู้ดี
“ไม่ต้องไปชวนเอ๋มันหรอกเบียร์ มันมีผัวแล้ว” ทีน่าบอกเมื่อเบียร์ชวนเราไปกินเหล้ากับกลุ่มเอ้าท์ติ้ง
“ผัวก็ส่วนผัวสิ นี่หัวหน้านะ” เบียร์ไม่ได้สนใจสิ่งที่กระเทยพูดกัน “ว่าไง ไปรึเปล่า” เราตอบตกลงก่อนที่จะโทรบอกโม
“อย่าดึกแล้วกัน เรารออยู่นะ” ใจเรานึกภาวนาว่าเมื่อไหร่โมจะไปต่างจังหวัดเหมือนวีซะที เราจะได้หายใจสะดวกกว่านี้ เราอยู่กับเขาเป็นอาทิตย์จนมันเอียน เขาไม่ใช่โมที่เราคุ้นเคย เราถึงไม่สนิทใจเหมือนเป็นคนที่เริ่มทำความรู้จักกันใหม่ยังไงยังงั้น
ร้านเดิมที่เดิม แต่คราวนี้มีพี่วริตมาแจมด้วย พวกเราคุยกันถึงกิจกรรมคราวโน้นอย่างไม่รู้เบื่อ ยิ่งพูดถึงยิ่งสนุก พี่วริตตามกุ้งกับแมนมาด้วยแกไม่รู้จะไปไหนก็เลยแวะมากินแล้วก็ยาว แกนั่งติดกับเราขาสีกันบ่อยจนน่าแปลกใจ พอรู้สึกตัวก็เจอสายตาแปลกๆมองกลับ
“เอ๋กับเบียร์ ไปกลับพี่สิ ทางผ่านอยู่แล้ว” เบียร์เหมือนอยากจะแยกแต่เขาก็ต้องจำใจนั่งหลังกลับด้วย จอดส่งเบียร์ที่หน้าหอ ก็ต่อไปที่อพาร์ทเม้นท์เรา เราแกล้งบอกให้มาส่งที่นี่ เพราะเราอยากแวะมาเอาเสื้อผ้าด้วยแล้วค่อยกลับห้องโม พี่วริตมองหน้าเรา
“พี่หิวน้ำ” แกบอกแล้วเดินตามเราขึ้นห้องพัก
“ไม่ค่อยอยู่ห้องเหรอ”
“พอดี เพื่อนไม่สบายเลยไปเฝ้าเขา” เราตอบตามตรง พี่วริตขอเข้าห้องน้ำ เราหยิบเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า แกจับแก้มเราเล่น
“พี่เมานะวันนี้” เราหันไปทำหน้าสงสัย
“เมาแล้วทำไมหล่ะพี่” เรายังสนใจกับเสื้อผ้าอยู่ พี่วริตเดินไปนอนเล่นที่เตียง
“พี่ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวที่บ้านเขาเป็นห่วงนะ” แกไม่ตอบแต่มองหน้าเราอย่างเชิญชวนสติสัมปชัญญะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันขาดผึงไปพร้อมกับตอนที่เราปลดตะขอกางเกงยีนส์ของแกแล้วดึงเจ้างูตัวนั้นออกมาจากพุ่มไม้รกทึบออกมาเล่น มันแผ่แม่เบี้ยขู่เรา ลำตัวมันโงนเงนหลอกล่อไปมา เราค่อยๆคว้ามันที่หัวแล้วรูดลำตัวของมันช้าก่อนที่ขย้อนมันเข้าปากเราจะรีดพิษเจ้างูตัวนี้ให้ราบคาบเลย
“ขอถุงยางหน่อย” พี่วริตดันหน้าเราออก คนที่รักลูกรักเมียอย่างพี่วริตค่อยๆจ่อมันเข้าช้าๆ
“ช่วยกันนะ” แกทาบทับมาที่หลังของเราพร้อมกับขยับมันเข้าออกอย่างรุนแรงไปเรื่อยๆ หลายครั้งที่แกพยายามจะดูดต้นคอเราแต่เราหลบ เราไม่ต้องการให้ใครมาประทับตราให้เราอีกพี่วริตหอบหายใจถี่แกเร่งสปีดจนเราเผลอคราง แกรีบดึงถอนลำและดึงถุงยางออกละเลงลงที่ก้นเราจนเหนียวเหนอะ ก่อนจะลุกทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว
“พี่กลับก่อนนะ” แกเหมือนคิดอะไรได้เมื่อทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว เราอาบน้ำแต่งตัวแล้วหิ้วกระเป๋าเดินออกจากห้อง เรียกแท็กซี่ไปห้องโม เรานั่งคิดไปตลอดทาง เรามันเลว ที่ไม่รู้จักหักห้ามความต้องการของตัวเองของของคนอื่นก็ยังอยากได้
เราปรับสายตาให้คุ้นกับความมืดในห้องก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน
“สนุกมั๊ย ทำไมดึกจัง” เสียงงัวเงียพร้อมกับพลิกตัวมากอดเราไว้
“พอดีแวะไปเอาเสื้อผ้าที่ห้อง”
“ไม่เห็นต้องรีบเลยนี่”
“ติดรถเพื่อนมาพอดีทางผ่าน” เราบอกเขาเบาๆ “จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเอาวันพรุ่งนี้ไง”
“ฮื่อ” โมตอบแล้วซุกหน้าที่ซอกคอเราไว้ เราได้แต่ลืมตาในความมืด .......อีเลว เราด่าตัวเอง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

113. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 09:47 PM (SE Asia Standard Time)
 
   236.....
โมมีงานต่างจังหวัดทันทีที่ร่างกายเป็นปกติแต่แปลกที่เขาไม่ยอมอาบน้ำเองแม้แขนจะหายดีแล้วชอบบอกว่ามันเสียวที่ข้อมือเราเห็นว่าไม่เห็นจะมีอะไรขี้เกียจหล่ะไม่ว่า
“ไม่เอาแล้วอาบเองเถอะ” เรานอนเฉย
“ลุกมาอาบให้ก่อนเร็วเดี๋ยวเราสายนะ” โมต้องออกต่างจังหวัดเช้าวันอาทิตย์ไปสองคนกับวี ตอนนี้เขายังคงต้องอาศัยวีขับรถให้ก่อนเพราะกำลังแขนยังไม่เข้าที่ เราลุกไปอาบน้ำให้อย่างงอนๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องจนได้โมเบียดท่อนเข้าปากเราซะอย่างนั้น เขาดันเราชิดฝาแล้วซอยปากเราจนเสร็จ
“โม บ้าเหรอ” เราบ้วนมันทิ้งแล้วทุบที่ต้นขาเขาไปที
“เอ๋สิบ้า ให้อาบน้ำให้แค่นี้ก็งับมันเล่น อดไม่ไหวเหรอ”
“ทุเรศที่สุด”โมหัวเราะลั่น ฟอกสบู่ทำความสะอาดมันอีกครั้งก่อนจะแก้ผ้าโทงๆ เดินออกจากห้องน้ำไปแต่งตัว
“ห้ามไปไหนนะ” เขาคว้ากระเป๋าด้วยมือข้างที่แข็งแรงกว่า
“จะกลับห้องนะ”
“ทำไมหล่ะ”
“ก็โมไม่อยู่นี่ เราก็เหงานะ กลับห้องยังมีต่อเป็นเพื่อนนะ”
“แล้วเมื่อไหร่จะย้ายออกซะที สิ้นเปลืองเปล่าๆ”
“ไว้โมไปขอพ่อกับแม่เราก่อนนะ เราถึงจะย้ายมาอยู่ด้วย” เราพูดทีเล่นทีจริง โมทำหูทวนลม
เราขับรถมาส่งโมที่อพาร์ทเม้นท์เรา ต่อกำลังนั่งคุยกับวีสนุกหันมามองหน้าเราหลังจากที่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเดือน
“ทำไมผอมอย่างนี้หล่ะ ไม่มีอะไรให้กินเหรอที่นั่น” ต่อทำหน้าสงสัย
“ไม่ค่อยได้กินข้าวหรอก” เราตอบต่อทีเล่นทีจริงแล้วเข้าห้องตัวเอง สองหนุ่มรีบลุกและเดินตามกันลงไป โมหันมาโบกมือให้ อยู่ต่อหน้าคนอื่นโมไม่ค่อยจะแสดงอะไรออกมากนักหรอกว่าเขาสวีท แต่ถ้าอาละวาดละก้อไม่เลือกสถานที่เลย
“ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่มีอิสระเลย” เราปรารภกับต่อ
“ไม่มีอิสระ อิสระที่ว่าคือไม่ได้ล่าผู้ชายละซี้”ต่อกระเซ้า
“พูดมาก ชั้นมีผัวแล้วนะ” เราหันไปทำหน้าตลกใส่ต่อ
“เอ๋ หล่อนทำใจได้แล้วเหรอ” ต่อนั่งมองเราที่เช็ดถูห้องไปเรื่อยๆ
“เรื่อง”
“ก็เรื่องโมกับหล่อนไง บอกชั้นหน่อยสิว่าหล่อนคิดยังไง ชั้นเห็นหล่อนเงียบๆไป จะโทรไปคุยด้วยก็ไม่กล้ารบกวน”
“ยังไม่ได้คิดอะไรหรอก รู้แต่ว่าตอนนี้ ตื่นเช้าแล้วมีเขานอนใกล้ๆ มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบนะ”
“จะอ๊วก” ต่อทำเหมือนจะอ๊วกออกมาจริงๆ
“ก็ไม่ต้องคิดอะไรไง อยู่เป็นเพื่อนกันแบบนี้แหล่ะ ไม่ต้องพูดไม่ต้องคิด” เราวางอุปกรณ์ถูพื้นแล้วมานั่งลงข้างๆต่อ มองหน้าต่ออยู่นาน
“แล้วหล่อนหล่ะ”
“อะไรเหรอ”
“หล่อนกับวีหล่ะ คิดอะไรกันอยู่”
“ไม่มีอะไรให้คิด” ต่อมองออกไปทางระเบียง “แล้วแต่วันเวลาจะพาไป” น้ำเสียงดูแปลกๆ
“ทำไมพูดแปลกๆ”
“มันผ่านไปหมดแล้วหล่ะ ความหวานอะไรเทือกนั้น มีแต่อยู่เป็นเพื่อนกัน” เรามองหน้าต่ออีกครั้ง
“ทุกวันนี้ไม่ได้มีเซ็กส์กันเหมือนแต่ก่อน”
“อ้าว” เรางง
“ก็มันเป็นเหมือนผัวเมียแก่ๆที่อยู่ด้วยกันมานานแล้วนะซิ” ต่อรำพันเบาๆ ไม่น่าเชื่อนะที่ต่อคิดแบบนี้ เรายังสงสัยต่ออยู่เช่นเดิม แต่ถ้าต่อยังไม่อยากจะพูดก็ไม่มีเหตุผลที่จะรบเร้า
“เอ๋ เอ๋” เราหันไปทางด้านหลัง พี่วริตนั่นเอง
“มีอะไรเหรอพี่”
“เย็นนี้ว่างมั๊ย” เราทั้งคู่ยืนอยู่หน้าทางออกพนักงาน
“พี่มีอะไรเหรอ” เราเดินไปที่จอดรถพี่วริตก็เดินตามมาเรื่อยๆ
“อยากคุยด้วย” แกทำหน้าสงสัยที่เห็นเรามีรถ
“รถเราเหรอ แต่ก่อนไม่เห็นขับนี่”
“ของเพื่อนมันให้ยืมมาขับ”
“เหรอ ใจดีแฮะ” พี่วริตเดินเลยไปที่รถตัวเอง พร้อมตะโกนบอก “แล้วขับตามมานะ ร้านเดิม” ไม่รู้เหมือนกันเราก็ขับตามแกไปจริงๆ ที่นั่นรายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมที่ทำงาน โมไปต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์แล้วเรานับวันไปเรื่อยๆ เราไม่ค่อยกล้าที่จะกินเหล้าเพราะขับรถตอนเมาไม่ค่อยเก่ง แต่พี่วริตนี่สิโอ้โหยังกะกินน้ำ เห็นทีไม่ไหวต้องขอตัวกลับดีกว่า ไม่สนุกเลย รถจอดที่หลังร้านเรากำลังจะเปิดประตูรถ พี่วริตเดินตามมา
“เอ๋ จะรีบกลับไปไหน พรุ่งนี้ก็หยุดนี่ เนี่ยกุ้งมันยังนั่งงงอยู่เลย เราโกรธพี่เหรอ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ที่พี่รีบกลับวันนั้น” แกเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงยื่นหน้ามาถามเรา
“อะไรทำให้พี่คิดแบบนั้น เอ๋ไม่ใช่ผู้หญิงนะที่จะมาเสียใจเพราะโดนเอา” เราตอบกลับ
“ไม่มีอะไรก็แล้วไป แล้วคืนนี้หล่ะว่าไง” พี่วริตถามเอาง่ายๆ แต่เราไม่กล้าเพราะกำหนดกลับของโมไม่ชัดเจน บอกแค่ว่าหยุดเสาร์อาทิตย์หน้าไม่เหนื่อยจะแวะมาหา อาจจะมาเอารถด้วย
“ไม่ดีมั๊งพี่ เกรงใจเมียพี่ และอีกอย่างเพื่อนก็อยู่ห้อง มันไม่สะดวกหน่ะพี่” จริงเหรอ... เสียงของใครไม่รู้ดังออกมาจากจิตใต้สำนึก
“เหตุผลล้านแปด พี่ถามดีๆแล้วนะ”หน้าแกเอาเรื่องพอดู
“แล้วพี่จะให้ทำยังไงหล่ะ มันไม่สะดวกจริงๆนี่นา” เราสอดกุญแจ แล้วพวกที่นั่งอยู่ก็เฮละโลออกมาจากร้าน
“มีอะไรกันเหรอ ถึงแอบมาคุยกันตรงนี้” กุ้งส่งเสียงมาดังๆ “มีอะไรต้องสั่งต้องสอนมันอีกเหรอพี่วริต” กุ้งเดินตามมายืนเกาะที่รถของโม
“ว่าไงเอ๋ หล่อนจะเล่นตัวไปทำไมยะ พวกชั้นจะไปเที่ยวกันต่อก็ต้องมารอพี่วริตชวนหล่อน ไม่รู้อะไรนักหนา วันนี้เป็นอะไร ไม่อยู่กะร่องกะรอย ใจลอยจนพี่เขาเป็นห่วง” กุ้งยื่นหน้ามาถามเราใกล้ๆ
“ไม่มีอะไร” เราหัวเราะ “ชั้นเมา ว่าแต่ว่าพวกหล่อนจะไปไหนกันต่อหล่ะ”
“พัทยา”
“อะไรนะ ไปทำไมไกลขนาดนั้น”
“ไปค้างคอนโด แฟนนังแมน เนี่ยพวกนี้มันจะไปกันหมด” กุ้งเอานิ้วนับสมาชิกขาเมา
“ไม่ไหวหรอก ขับรถไกลขนาดนั้นและอีกอย่างชั้นต้องเอารถไปคืนเพื่อนก่อน” เราโกหก
“เอาไงดี” แมนเข้าไปนั่งประจำที่คนขับรถของมันแล้ว
“งั้นก็ตามใจ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป” กุ้งเดินไปที่รถของแมน พี่วริตโบกไม้โบกมือ
“พี่ไปไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ต้องไปรับเมียที่ต่างจังหวัด พาลูกไปบ้านแม่ยาย” แกจะบอกเราทำไม
“อย่าเล่นตัวนักเลยน่า”
“ไม่ได้เล่นตัว พี่เมาแล้วกลับไปนอนรอเมียที่บ้านเถอะนะ” เราเปิดประตูรถ พี่วริตเคาะกระจกอีกด้านให้เราเปิดแกขึ้นมานั่งคู่กับเรา ที่จอดรถนั้นห่างจากร้านมากผู้คนเริ่มทยอยกลับกันแล้ว พี่วริตคอยมองดูลาดเลาในขณะที่เราก้มๆเงยๆอยู่กับส่วนนั้นของแกจนมันเสร็จ แกลูบผมเราเล่นก่อนที่จะปล่อยเราเป็นอิสระ เรารู้สึกสะอิดสะเอียนตัวเองพอดู หยาดน้ำคาวๆติดอยู่ที่มุมปากค่อยๆถูกเช็ดออกตอนที่มองพี่วริตเดินไปที่รถของแกแล้วขับออกไป
กว่าจะข่มตานอนหลับลงไปได้ก็เกือบเช้ามัวแต่คิด คิด และคิด เราถลำลึกลงไปอีกหนึ่งขั้น ปากบอกว่าไม่ได้คิดอะไรแต่เราก็ทำลงไปทุกที แปลกดีเหมือนกันนะ พี่วริตอยู่ที่ทำงานเจอหน้าเราก็ทำเฉย แต่ทำไมตอนเมาชอบเป็นแบบนี้

เสียงดังปึงปังข้างๆห้องทำให้เราสะดุ้งตื่น มันอะไรกันนะข้างห้องทำอะไรกันแต่เช้า เราลุกขึ้นล้างหน้าแล้วเปิดประตูห้องชะโงกหน้าออกไปมอง มีคนย้ายเข้ามาใหม่ ผัวหนุ่มเมียสาวใหญ่ ดูแล้วเหมือนพี่สาวคนโตกะน้องชายคนเล็กมากกว่า ต่อก็เปิดประตูคอยชำเลืองเหมือนกัน พร้อมกับทำปากบุ้ยใบ้บอกว่ารำคาญน่าดู
“ขอโทษนะคะ ” เจ้าหล่อนขอโทษขอโพย
“ไม่เป็นไรคะ” เราชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่กำลังขนของอยู่
“อย่าคิดอะไรนะคะ น้องชายพี่เอง” น้องเหรอ หน้าไม่เหมือนกันซักนิดเราแย้ง แต่ก็ช่างเถอะ ของแค่นี้มันดูไม่ยากหรอกเดี๋ยวก็รู้เอง ว่าน้องหรือผัว เรากับต่อนั่งจิบเบียร์แก้เซ็งตามประสาคนเหงา เปิดเพลงคลอเบาๆให้พออารมณ์กระชุ่มกระชวย พี่สาวย้ายของเสร็จก็รีบไปทำงานทิ้งน้องชายนอนอยู่ห้องคนเดียว พอตกเย็นเพื่อนน้องชายก็มาเป็นโขยง ถือเหล้ามาฉลองกันด้วย เรานั่งกินที่ห้องของต่อ จากห้องต่อมองออกไปก็ทะลุไปที่ห้องพวกนั้นพอดี เสียงเพลงวัยรุ่นดังแรงขึ้นเรื่อยๆ ดีที่เป็นตอนกลางวันนะไม่งั้นข้างห้องคงจะมาด่ากันแน่ เราแง้มประตูแต่ต่อกลับจับมือเราไว้
“ไม่ต้องปิดหรอก”
“หล่อนจะประชันไปทำไม หนวกหูจะตาย”
“ใครว่าประชัน ชั้นจะอ่อยต่างหาก”
“มีอะไรให้อ่อย” เราถาม
“หล่อนไง จะมานั่งเหงารอพวกนั้นทำไม ลองใช้มารยาดูสิ ว่าหล่อนยังมีเสน่ห์อยู่รึเปล่า” ต่อแสร้งยกแก้วผ่านหน้าห้องตัวเองออกไป
“มากินด้วยกันสิพี่ กินสองคนจะสนุกอะไร”
“ไม่กล้าหรอกจ๊ะ กลัวพี่สาวเธอดุว่าชวนเธอกินเหล้า” ต่อพูดพลางเดินไปยืนที่ประตูห้อง เรายังคงนั่งนิ่ง
“พี่เพ่อที่ไหน” เพื่อนยังพูดไม่จบ หนุ่มน้อยก็เอามือปิดปากเพื่อนไว้
“พูดมาก ไอ้เวร”
“เออ เออ ไม่พูดแล้ว” เพื่อนปากเปราะบอก ต่อยืนเล่นหูเล่นตาแล้วหันมาเรียกเราเบาๆ
“อีสวย นั่งนิ่งทำไม ออกมาสิ” เราหันไปเปิดทีวีดูแทน “เอ๊ะ อีนี่เป็นอะไรนักหนา ผัวไม่กลับเล่นเอาเซื่องเลยเหรอ”
“หล่อนสนุกไปเถอะ” ต่อค้อนแล้วขยับตัวไปจนถึงหน้าห้องผู้ชายแล้วนั่งแหมะที่หน้าห้อง เสียงเพลงค่อยๆแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ เพราะเราเริ่มมึนและเคลิ้มหลับ เบียร์หมดลงไปแล้วลมเย็นๆของฝนพัดโชยมาเรื่อยๆ เราสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือเย็นๆมาจับขาเราที่นอนหันขาไปที่หน้าห้อง นังต่อนั่นเอง
“อีบ้าเล่นอะไร ตกใจหมดเลย”
“เอ๋ หล่อนหิวมั๊ย” ต่อหน้าแดงแจ๋
“หิวอะไร”
“ค-ย” ต่อตะโกนใส่หู
“หิวแต่ไม่ใช่สเป็คซักคน” เราลุกขึ้นนั่ง “มีเจ้าของห้องเท่านั้นที่ผ่าน” นึกถึงใบหน้าเข้มๆกับกางเกงยีนส์รัดรูปขายาวๆ ไรหนวดเขียวๆบางๆ อ้าวนี่เราเป็นอะไรอีก “หล่อนจิกมาส่งหน่อยสิ”
“เรื่องอะไร ชั้นก็ชอบเหมือนกัน”ต่อเดินผ่านตัวเราไปเปลี่ยนผ้าเตรียมจะอาบน้ำ
“อ้าวเลิกกินแล้วเหรอ”
“วงแตก”
“ทำไมหล่ะ”
“ก็เมียมันกลับมาแล้วนะสิ โอ๊ยอาละวาดหูแทบแตกไอ้พวกเวรนั่นกระเจิงเลย”
“เหรอ” เราคงหลับไปนาน
“หวงนักระวังเถอะ ชั้นจะงาบให้ได้เลยผัวมันหน่ะ”
“แล้วเขาทำงานอะไรเหรอ”
“ทำงานออฟฟิศ ส่วนผัวก็เรียนอย่างเดียว”
“ชาวเกาะเหรอ” ต่อหยุดแล้วเดินไปปิดประตู “ชั้นหลอกถามเพื่อนมันได้ความกระท่อนกระแท่นว่า ไอ้ผู้ชายมันก็เรียนอยู่ดีๆนะแหล่ะ ตอนไปฝึกงานแล้วเจอนังนี่เข้า ไม่รู้ไง ถึงยอมมาเป็นผัว”
“เขาคงส่งเสียละมั๊ง”
“ก็ประมาณนั้นแหล่ะ” แปลกเนาะน้องนีสมัยนี้ ไม่อยากมีแค่ผัว ชอบเป็นแม่ด้วย “จริงๆมันก็รุ่นน้องเราอีกนะนังนีหน้าแก่นั่นหน่ะ”
“อย่าไปยุ่งกะมันเลยหว่ะ สงสารเขาเถอะต่อ” เรานึกเห็นใจความพยายามของน้องนีขึ้นมา ยิ่งนับวันที่ได้เห็นได้รู้จักเธอ เรายิ่งรู้สึกผู้หญิงแก่ที่ไม่มีผัวซะทีพอมาเจอผัวเด็กก็ทั้งรักทั้งหลงก็ไม่ต่างจากกระเทยที่ซองผู้ชาย ทำดีเท่าไหร่ก็แค่นั้น ความรักสำหรับพวกที่เกาะกินพวกเรานั้นมันหาไม่ได้หรอก เรานอนฟังเสียงผัวเมียทะเลาะกันวันแล้ววันเล่า ห้องถัดจากพวกเขาไปจะรู้สึกรำคาญรึเปล่านะ บางครั้งเราก็ชะโงกหน้าผ่านระเบียงห้องเราไปดู ได้ยินเสียงล้างถ้วยชามตอนกลางดึก หลังจากวงเหล้าเลิกไปแล้ว หล่อนมีความสุขเหรอ มันติดอยู่ที่อะไรกันนะที่ทำให้คนเราต้องทนลำบากได้ขนาดนี้
น้องนีไม่ได้ทำความรู้จักสนิทสนมกับเรามากไปกว่าเพื่อนข้างห้องเท่านั้น เราขับรถออกไปทำงานทุกวัน ผัวหล่อนหันมามองตอนที่เราขับรถผ่านเขาไป เราได้แต่ยิ้มทักทายเท่านั้น อยากได้ก็อยากได้อยู่หรอก แต่พอนึกถึงหน้าน้องนีเมื่อไหร่ ก็ทำไม่ลง
“พี่ทำงานอะไรเหรอ” เขาชื่อไม้ ถามเราตอนที่เรากำลังเปิดประตูห้อง
“ทำงานโรงแรม” เราตอบ
“โอ้โฮ”พอเขารู้ที่ทำงานของเราก็อุทานออกมา คงจะพอนึกออก
“เงินคงดีหล่ะสิเนี่ย” เขาถือวิสาสะเดินเข้าห้องเรามา เราแวะไปทำงานตอนวันเสาร์แล้วกลับมาช่วงบ่าย เมียเขาไม่อยู่ ไม้มองเฟอร์นิเจอร์ในห้อง เราเห็นแววตาบางอย่างของเขา
“แฟนยังไม่กลับเหรอ”
“ยัง” เขานั่งลงที่พื้นห้อง สายตาจับอยู่ที่เครื่องเสียงตัวใหม่ที่เราเพิ่งซื้อมา
“รุ่นใหม่ซะด้วย เสียงดีมั๊ยครับ”
“พอฟังได้”
“พี่ซื้อมาเท่าไหร่ ผมกำลังอยากได้พอดี”นึกถึงเครื่องเสียงประกอบเองของเขาแล้วปวดหูขึ้นมาทันที
“ไม่เท่าไหร่หรอก” เรานั่งลงข้างๆเขา
“พี่คงทำงานเงินเดือนเยอะนะครับ มีรถขับด้วย” เราไม่ตอบคนคนนี้เริ่มมองเห็นวัตถุเป็นสรณะเสียแล้ว
“ฝากผมทำงานหน่อยสิพี่”
“เรียนอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“โอ๊ย ไม่ไหวเงินไม่พอใช้ต้องหาเงินพิเศษซะหน่อย” หน้าตาหล่อแบบนี้เรากลัวใจเราเหลือเกิน แม้จะเพิ่งนึกสงสารน้องนีแต่ว่า ความอยากมันไม่เข้าใครออกใคร เรามองหน้าไม้อย่างชั่งใจ
“แล้วจะทำอะไรได้หล่ะ เคยมีประสบการณ์อะไรบ้าง” ไม้นั่งเหยียดขากางเกงขาสั้นของเขา อวดขนขาไปตามท่อนขายาวเรียวนั้นอย่างจงใจ
“ทำมาหมดแล้ว” เขาเอื้อมมือไปหยิบม้วนวีดีโอที่วางอยู่ในชั้นวางทีวีมาดู
“พี่มีหนังด้วยเหรอ” เขาดูวีดีโอหนังโรงที่เราไปซื้อแถวคลองถมมาดูชื่อเรื่อง แล้ววางไว้ที่เดิม
“ไว้วันหลังผมจะมายืมดูมั่งนะพี่” ไม้ลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเอะอะของกลุ่มเพื่อนใกล้เข้ามา
“เฮ้ยไอ้ไม้ มึงจะไปมั๊ยวะ”
“เออ เออ” เขาลุกไปแล้ว เราได้แต่มองตาม หน้าเราร้อนผ่าว เรากำลังคิด เรากำลังคิด...........................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

114. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
12-Mar-17, 10:04 PM (SE Asia Standard Time)
 
   237.........
ไม้ทำให้เราเป็นกังวลในคืนที่เขามาขลุกกับเราแล้วแฟนเขากลับมาพอดี เธอมองหน้าเราอย่างสงสัยไม่ต่างจากเราแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากดูหนังวีดีโอด้วยกัน แต่สายตาของเมียเขามองเรานั้น เรารู้สึกแสลงใจ เพียงแค่มิตรภาพใหม่ๆเท่านั้นเอง
“เดี๋ยวหนังจบก่อนนะ” เขาบอกน้องนี ก่อนที่เธอจะหน้าง้ำเดินกลับห้องไปกินข้าวเงียบๆคนเดียว
“ไม้ เดี๋ยวแฟนก็งอนเอาหรอก”
“ช่างมัน กินข้าวแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย”
“ไม้” เธอมายืนเรียกที่หน้าห้องเราอีก
“อะไรวะ” เขาหัวเสียเดินลุกตามเข้าไป เสียงปิดประตูดังปังตามมา เราสะดุ้ง หนังที่กำลังสนุกต้องนอนดูต่อคนเดียวจนจบ เช้ามาน้องนีมองหน้าเราอย่างเหมือนกับโกรธจัด แต่จะทำไงได้เราก็แค่ดูหนังแม้ใจเราจะคิดแต่เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลย อย่ามาทำแบบนี้กับเราเลยนะ ไม่งั้นเราก็จะไม่รับผิดชอบในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
เสียงเคาะประตูถี่ยิบ พอเปิดก็ต้องสะดุ้ง โมทำหน้าแปลกใจ
“มีอะไร” เขารีบเปิดไฟที่ข้างประตูเหมือนจับผิด
“ไม่มีอะไร ทำไมจะกลับไม่โทรมาบอก” โมวางกระเป๋าลง
“ติดรถไอ้วีมา กะว่าจะให้ตกใจเล่น เผื่อเอ๋ทำอะไรไม่ดี”
“นี่ไม่ไว้ใจเราเหรอ”
“แน่นอน” โมถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ส่วนเราก็ทิ้งตัวลงนอนต่อ ใจหายหมดเลยโมมาไม่บอกกล่าวแบบนี้
พออาบน้ำเสร็จก็มานอนลงข้างๆแขนขากอดก่ายแกล้งเราเล่น
“คิดถึงกันมั่งรึเปล่านี่”
“ไม่” เราหันหน้าหนี
“ทำไม”
“กำลังติดผู้ชายเลยลืมคิดถึง” อยากจะพูดเล่นให้โมโกรธ แล้วก็โกรธจริงๆ โมบีบที่คางเราแน่น
“พูดใหม่ซิ”
“เจ็บ ปล่อยก่อน พูดเล่นไม่ได้เลยนะ”
“อย่าปากดีเดี๋ยวเจ็บตัว” โมปล่อยมือแล้วนอนหันหลังให้ อ้าวอารมณ์เสียอีกแล้ว เราคว้ามือโมมาจับดู
“หายดีแล้วนะนี่” เราบีบมันไว้ “โมไม่ค่อยโทรมาหามั่งเลยนะ” เขาเงียบ และ นิ่ง
“เราคิดถึงโมนะ” มันเป็นความจริง ยิ่งพอห่างกันเป็นเดือนแบบนี้ เหมือนกับว่าทุกอย่างมันค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจเราทีละนิด เรากดคางที่ต้นแขนของเขามองลงไปที่ตาที่หลับพริ้ม
“โม” เราเรียกเขาเบาๆ แต่ไม่มีเสียงขานรับ เราเอนตัวนอนลงข้างๆแล้วกอดเอวเขาไว้ แนบหน้ากับแผ่นหลังไว้
“อย่าไปไหน นานๆอีกนะ” เราพูดเบาๆที่ข้างหลังเขา โมพลิกตัวหันกลับมามองหน้าเรา มือเขาจับมือเราไปวางที่อกนั้น
“ทีหลังอย่าพูดเล่นอีกนะ ไม่ชอบ” เขาพูดเสียงดุ
“ฮื่อ” เรานอนเอียงหน้าซบที่ไหล่ของเขา
“คิดถึงโมนะ” เรากอดเขาแน่นขึ้นจนเขาคงรู้สึกอึดอัด
“เป็นอะไร” เราห่างเหินจากการแสดงออกแบบนี้ต่อเขาตั้งแต่โดนเขาทุบแล้ว ทุกครั้งจะมีแต่โมที่คอยดึงให้เรามากอดเขาก่อนนอน
“โม เป็นเด็กดีรึเปล่า”
“ก็มีบ้าง ที่เหลวไหล”โมพูดอย่างเป็นเรื่องธรรมดา เขานอนกระดิกเท้าเล่น ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนโมทำท่าแปลกๆเวลาที่ห่างกันนานแบบนี้มันคงทำให้โมคิดได้ในเรื่องของเรา เพราะจริงๆแล้วเขายังไม่ได้ก้าวล่วงเข้ามาสู่โลกของพวกเราอย่างเต็มตัว เรารู้เพราะว่าพี่นงเคยถามเราตรงๆว่า เรากับโมเป็นอะไรกันตั้งแต่วันที่แกไปเยี่ยมโมที่โรงพยาบาลแล้ว
“เขาเป็นเกย์ หรือว่าได้สองอย่าง” คำถามของพี่นงยังก้องอยู่ในหัวเราอยู่เสมอ เราไม่ได้ตอบคำถามพี่นงให้ชัดเจน แก่ขนาดนี้แล้วทำไมแกจะดูไม่ออก คำว่าเพื่อนสนิทมันพอจะแทนความหมายได้หลายอย่างแม้จะไม่ชัดเจนนัก
“แล้วเขาแสดงอะไรขนาดนั้นตอนที่อยู่ที่เที่ยว เพื่อนกันมันจะขนาดนั้นเหรอ”
“เขาคงไม่อยากเห็นเอ๋ทำตัวเป็นกระเทยมั๊งพี่ เขาอยากให้เอ๋เป็นผู้ชายมั๊ง”
“เข้าประเภท หวงเพื่อนเหรอ” พี่นงส่ายหน้าแล้วทิ้งสายตาที่ยังเต็มไปด้วยคำถามนั้นไว้แก่เราต่อ เสียงหัวเราะในลำคอของพี่นงเรารู้สึกนึกชิงชังเหลือเกิน
“เอ๋ อยากอยู่ที่ห้องของเอ๋ มากกว่าห้องเราอีกเหรอ”
“เราอยากอยู่แบบต่อมากกว่า ต่างคนต่างอยู่ คิดถึงกันก็มาหากัน อยู่ใกล้กันนานๆ มันอึดอัดกันทั้งคู่ โมว่ามั๊ย”
“ไม่ว่า ก็ตามใจนะ” เขาเงียบพร้อมหลับตา นี่เราพูดอะไรออกไป เราอาจจะเริ่มรักเขาแต่เราก็อยากที่จะมีอิสระมากกว่านี้ มันไม่เหมือนตอนที่เราเคยอยู่กับพี่โด่ง มันไม่เหมือนกับตอนที่อยู่กับนก เวลานั้นเราต้องการความใกล้ชิดเพราะเราคงยังเด็กมีแต่ความโดดเดี่ยว แต่เวลานี้เราโตมากแล้ว มีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ ความรักมันดูเป็นสิ่งที่ดี แต่ความอิสระในการใช้ชีวิตนั้น เรายังคงต้องการมากกว่าความรักเสียอีก
โมกอดเรากลับ มือของเขาบีบที่ต้นแขนนั้นทำให้เรารู้สึกยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก
“โม คิดอะไรอยู่เหรอ”
“เปล่า” เขาพูดแค่นั้นแล้วหยุดการสนทนา ด้วยการหลับตาลงอีกครั้ง โมหลับไปนานเพราะเหนื่อยอ่อนเขาตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วขอตัวกลับห้องตัวเอง โมขับรถออกไปแล้วโดยที่ไม่ได้ชวนเราไปด้วย เราได้แต่อึ้งกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น อะไรกัน เหมือนผิดปกติ โมมาแบบนี้อีกแล้วดูเย็นชาพิกล
“จะถามชั้นให้ได้อะไรขึ้นมา ไม่ถามตัวเขาเองหล่ะ วีก็คงตอบหล่อนไม่ได้หรอก ของอย่างนี้บางทีต้นเหตุคงคิดไม่ถึงหรอกมั๊ง ว่าทำอะไรลงไป” ต่อยืนปัดกวาดเช็ดถูห้องไปเรื่อยๆ พร้อมกับตอบคำถามเรา
“หรือ โมมีคนอื่นซะแล้ว”
“อาจเป็นได้ทั้งสองอย่าง แต่อย่างนึงที่ชั้นมั่นใจก็คือ เขาคงคิดได้แล้วหล่ะว่าหล่อนไม่ได้จริงจังที่จะคบหากับเขา” ต่อวางไม้กวาดที่มุมห้องแล้วมานั่งกับเราที่หน้าประตู
“วีเคยเปรยๆ นะว่า โมเขาก็อยากที่จะลองใช้ชีวิตแบบนี้ดู แต่นานๆเข้าเขาเองก็เบื่อเหมือนกัน เพราะเขายังไม่แน่ใจตัวเอง และหล่อนก็ไม่ทำตัวให้ดีขึ้นสำหรับเขา เหมือนเขาปรับตัวเข้าหาหล่อนฝ่ายเดียวมากกว่า ที่หล่อนทำดีเหมือนกับฝืนตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน บางทีเซ็กส์มันก็ช่วยปลดปล่อยได้บ้าง แต่เอาเข้าจริงๆนะเอ๋ ความจริงใจกับความผูกพันนั้น มันมากกว่าเรื่องอย่างว่าเสียอีก”
“ชั้นก็คิดอย่างนั้นแหละต่อ มันเลยไม่ถึงที่สุดเหมือนกับว่าชั้นเบื่อเรื่อง ความรักอะไรพวกนี้แล้ว ชั้นอยากอยู่คนเดียวไม่อยากมีใคร” เราพูดกับต่อเบาๆ
“หล่อนแน่ใจนะว่าพูดจากใจจริง”
“ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่โมจะคบชั้นต่อรึเปล่า แต่มันอยู่ที่ชั้นต่างหากที่อยากอยู่คนเดียว” บางคนอาจจะรู้สึกถึงความรู้สึกเช่นนี้ การที่เราทำอะไรโดยที่ใจเราไม่ไปในทางเดียวกันนั้น สุดท้ายคนที่เป็นฝ่ายได้รับย่อมดูออกไม่ช้าก็เร็ว
เราทิ้งให้โมเขาอยู่คนเดียวโดยที่เราไม่ได้โทรไปคุยหรือไม่คิดแม้แต่จะไปหา อาจจะมีบ้างที่บางครั้งเราคิดว่าจะโทรไปคุยกับเขา แต่พอยกหูโทรศัพท์ทีไรเราก็ได้แต่วาง มันเหมือนนึกเบอร์ไม่ออก
“เราจะโทรไปทำไมนะ” เราวางโทรศัพท์ลงที่แป้นแล้วมองมันนิ่งนาน
เราเก็บตัวทำงานไปเรื่อยๆอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำงานเสร็จก็กลับห้อง วันหยุดก็ไปโน่นไปนี่ คนเดียว มิใยที่ต่อจะชวนไปเที่ยวพร้อมกัน เราได้แต่ปฎิเสธจนวีถาม
“ทะเลาะกันเหรอเอ๋”
“ไม่มีอะไร”
“ไอ้นั่นก็เงียบ คู่นี้เป็นอะไรกันอีกหล่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอก เราอยากอยู่คนเดียวสักพัก” เราตอบวีที่ยังสงสัย “เราตอบใครไม่ได้หรอกว่าเราเป็นอะไร เราเบื่อไปหมด ไม่อยากเจอโม ไม่อยากไปไหน ขอเราอยู่คนเดียวสักพักเถอะนะ” วีทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ดี
“เอ๋ มันก็อย่างนี้แหล่ะ เราเป็นเพื่อนมันมานานแล้วบางครั้งเราก็ดูไม่ออก ระวังนะเอ๋ สักวันจะเป็นโรคจิต หล่อนเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆอีกแล้วนะ เขาเรียกตัดขาดสังคมนะแบบนี้”
“ไม่หรอกน่า แค่ชั้นไม่อยากไปไหนเท่านั้น”
“แล้วหล่อนจะมานอนซมอยู่แบบนี้ให้ได้อะไรขึ้นมา”
“ใครบอกว่าชั้นนอนซม” เราชี้ให้ดูหนังสือกองใหญ่ที่เราอ่านเล่นจนเกลื่อนห้อง
“ไปเถอะวี” วีลุกตามคำชวนของต่อแล้วเดินออกจากห้องเรา เราลาพักร้อนแล้วหมกตัวอยู่ในห้องนอนดูวีดีโอทั้งวัน มีบ้างที่ไม้จะแว่บมาดูด้วย เราปล่อยให้เขานั่งดู ไม้เริ่มเข้าห้องเราบ่อยขึ้น แต่เรานั้นไม่ได้คิดอะไรหรอก หลังจากที่เมียเขามาชักสีหน้าใส่ และสุดท้ายหล่อนก็ไม่คุยกับเรา แต่เราจะแคร์อะไรในเมื่อไม่ได้มีอะไรกันนี่
“พี่เอ๋ หยุดงานกี่วันเนี่ย เห็นนอนอยู่แต่ในห้อง อกหักเหรอพี่”
“เบื่อไม่รู้จะไปไหน”
“ไปหาเหล้ากินแก้เซ็งกันมั๊ย”
“ไม่กินหรอก ไม่ใช่อารมณ์นั้น” เราปิดเครื่องหลังจากหนังจบ “แล้วเธอไม่มีเรียนเหรอ ไม่เห็นออกไปสักวัน”
“เบื่อเหมือนกัน” เรานอนลงบนที่นอน ไม้ยังคงอยากดูหนังต่อเขาหยิบอีกเรื่องมาดู
“เรื่องนี้สนุกมั๊ย” เราพยักหน้า มันเป็นหนังอีโรติก ภาพสวยๆเคลื่อนไหวแต่ละอิริยาบถของการร่วมรัก ไม้คงจะงุ่นง่าน เขาคอยชำเลืองมองดูนาฬิกาที่ข้างฝา มันเป็นเวลาบ่ายสามโมง อีกเกือบสามชั่วโมงเมียเขาถึงกลับ
“พี่เอ๋ ดูหนังแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“จะให้รู้สึกอะไรหล่ะ ถึงรู้สึกก็ไม่มีประโยชน์” ไม้ขยับมาใกล้ๆเราที่นอนปนผ้าที่ปูแทนที่นอนบนพื้น เขาขยับตัวเพื่อไม่ให้อะไรของเขานั้นเพ่นพ่าน
“ปิดเถอะ ไม่ไหวแล้วมั๊ง” ไม้หันมามองหน้าเราที่เราบอกให้เขาปิดวีดีโอ
“พี่คิดอะไร”
“เธอนะสิคิดอะไร อยู่ดีๆมาเปิดหนังแบบนี้ดู ดูแล้วคิดถึงเมียหล่ะสิท่า เมื่อไหร่จะกลับสักทีน๊า” เราทำเสียงยานคางเล่น
“พี่เอ๋รู้ทันนี่”
“เป็นไงหล่ะ นอนกับเมียทุกวัน มีอะไรดีน๊า แฟนเธอเขาถึงทนได้ขนาดนี้ ไม่เห็นเธอจะเอาใจเขาเลย มีแต่กินเหล้า แล้วก็โวยวาย”
“มันก็ต้องมีอะไรดีบ้างหล่ะพี่” ไม้ยักคิ้ว
“อยากรู้จังว่ามีอะไรดี” เราแสร้งหัวเราะคิก ใจนั้นไม่ได้ปรารถนาแต่มือเรากลับวางที่เป้าเขาทันที ไม้ปล่อยให้เราป้วนเปี้ยนอยู่ที่เป้าเขาสักพัก จนมือของเราลากมันออกมาจากขอบกางเกงในแล้ว เราชะโงกดูส่วนนั้นที่ออกมาสูดอากาศหายใจ ปลายแดงมันเยิ้มเพราะมือของเรา เขาเชิญชวนให้เราก้มลงไปหาด้วยการถอดกางเกงออก ไม้รูดมันต่อหน้าเรา เราได้เห็นมันชัดๆ ขนยุบยับลามมาจากสะดือแผ่วงกว้างที่หัวเหน่า ไข่ใบโตเด้งตามแรงกระตุกของมือเขา
“ลองมั๊ย” ไม้มีอะไรในตัวเหลือเฟือแต่ที่เรารู้คำตอบที่ว่าทำไมน้องนีถึงอดทนได้เมื่อตอนที่เขากระแทกแบบนอนสต็อปนั่นเอง ตัวเราสะเทือนไปตามแรงโยกของไม้ เขาวาดลวดลายที่ทำให้เมียเขาติดจนเราชาไปทั้งตัวรสชาดของคนที่ผูกมัดอีกฝ่ายมันเป็นอย่างนี้เอง เหนือคำบรรยาย
“ไง พี่” เราถึงกับนอนระทวยอยู่บนที่นอน แม้จะไม่เนิ่นนานเหมือนสิ่งที่โมทำแต่มันเป็นอึดใจที่เราพูดไม่ออก เหมือนเอาหลายคนมารวมกันไว้คนเดียว
“เลี้ยงเหล้าผมนะคืนนี้” เราหยิบเงินให้เขาลงไปซื้อในสิ่งที่เขาต้องการเพื่อแลกกับความเผ็ดร้อนเมื่อครู่ ไม้ตรึงเราไว้กับความเสียวทั้งวัน เขาออกจากห้องไปพร้อมกับขวดเหล้าก่อนที่เมียเขาจะกลับห้องไม่ถึงอึดใจ เรารีบปิดประตู อย่างนี้เองเราพึมพำกับตัวเอง ไม่มีพิธีรีตองไม่ต้องพร่ำเพ้อให้มากความ เราชอบแบบนี้แล้วสินะ เหมือนตอนพี่วริต เราก็ทำแบบนี้เช่นกัน แปลกจริงที่จู่ๆเราก็เปลี่ยนจากอารมณ์สุนทรีในการมีอะไร มาเป็นแบบอาหารจานด่วนที่กินอย่างรวดเร็ว มันให้รสชาดอร่อยไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก แต่อาหารจานด่วนนั้นมันกระตุ้นอารมณ์ได้มากกว่า เราติดใจในรสชาดของมันเข้าแล้ว
ทั้งอาทิตย์ที่เราหยุดนั้น เรากินแต่ฟาสต์ฟู๊ดของไม้จนเอียน
“รถพี่ไปไหนแล้วหล่ะ” เขาถามขึ้นเมื่อชวนเราออกไปข้างนอก
“เพื่อนเอาคืนไปแล้ว” เพื่อนคนนั้นตอนนี้คงอยู่ต่างจังหวัดเช่นเคย
“แล้วเราจะไปยังไง”
“แท็กซี่” เราเดินลงจากอพาร์ตเม้นท์ แต่เจ้ากรรมที่ไม้ยังไม่ลงมาถึงเมียเขาก็เดินเข้ามาอพาร์ตเม้นท์พอดี ตายละสิที่นัดกันไว้คงจะอด เสียงหล่อนทักเมื่อเห็นไม้เดิรชนผิวปากลงมา
“จะไปไหน”
“ไปหาเพื่อน” เรายังยืนอยู่ใกล้ๆพอได้ยินเสียงโต้ตอบของคนทั้งคู่ เราแกล้งดูจดหมายที่ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์
“จะกลับกี่โมง”
“ไม่ดึกหรอกน่า ไปก่อนนะเพื่อนมันรออยู่” ไม้รีบเดินออกจากอพาร์ทเม้นท์โดยมีเมียเดินตามไป หล่อนพยายามจะเรียกแต่ไม้ได้แค่หันมาโบกมือว่าต้องไปแล้ว เราค่อยๆเดินตามพวกเขาออกมาจนเห็นทั้งหมด
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”หล่อนมองเราอีกครั้งเหมือนอยากจะมีเพื่อนระบาย
“กลับเร็วนี่วันนี้” แปลกใจ นี่ถ้ากลับมาเร็วกว่านี้สักชั่วโมงเรื่องงามหน้าคงได้ระเบิดกลางอพาร์ทเม้นท์แน่ ผัวเธอเพิ่งล่อชั้นเสร็จเมื่อกี๊นี้เอง
“ไม่รู้ พักนี้มันรู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไร พี่เอ๋ ผัวหนูมันพาใครมาที่ห้องรึเปล่า” หล่อนถามเราตรงๆ
“ไหนว่าเป็นพี่น้องกัน”
“ก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ” หล่อนค่อนข้างซีเรียส
“ไม่รู้สิ พี่ไม่ค่อยอยู่ห้อง” เราตอบแล้วมองหน้า
“ไม่รู้มันเอาเงินที่ไหนไปเที่ยวได้ทุกวัน พักนี้ทำตัวแปลกๆตกกลางคืนเป็นต้องออก”
“เขาคงเบื่อมั๊ง ก็ไม่ได้ไปไหนไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ไปไหนก็ไปเรียนหนังสือสิ” หล่อนหงุดหงิดแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป เราทิ้งระยะแล้วก็เดินออกจากอพาร์ทเม้นท์ตามไม้ออกไป วันนี้เราจะไปดูหนังด้วยกัน รู้สึกไม่ดีที่เป็นแบบนี้ แต่จะทำไงได้ ผู้ชายมันเดินเข้ามาเอง เราไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าทิปเล็กๆน้อยๆ น้องนีเอ๋ย ยังไงเขาก็ผัวหนู เลี้ยงดีอย่างนี้มันไม่ไปไหนหรอกน่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่ว่าอาจจะมีแตกแถวบ้าง ปล่อยๆบ้างเดี๋ยวคิดได้ก็กลับมาเอง เรานึกถึงหน้าน้องนีแล้วมองหน้าไม้ไปตอนที่กินข้าวด้วยกันหลังออกจากโรงหนัง
“ทำแบบนี้ ถ้าเมียเธอรู้เขาคงโกรธนะ”
“มันจะโกรธทำไม แค่ผู้ชายกะผู้ชาย”ไม้สนใจกับอาหารและเบียร์ เราทั้งคู่ออกมาไกลจากหอพอสมควร เราเลือกร้านที่คิดว่าจะไม่เจอคนที่รู้จัก
“พี่จะไปไหนต่อ”
“พอแล้ว เดี๋ยวความแตก”
“พี่เคยมีผัวมาแล้วใช่มั๊ย”
“ถามทำไม”
ไม้ไม่ตอบ “หรือเธอก็เคยมีเมียแบบพวกพี่มาก่อน” เขาก็ไม่ตอบ
“คบกับพวกพี่นี่สนุกดีนะ ไม่เรื่องมาก เสียวอย่างเดียว” แน่นอนสิจะเรื่องมากได้ไง เรื่องมากก็อด อะไรที่พอให้ได้ก็ให้ไป จบแล้วก็จบกัน เรารู้แล้วนี่คนแบบนี้ชอบความหรูหราเราก็จัดให้ ชีวิตแบบนี้ถ้าได้มีโอกาสได้ลิ้มลองเป็นผู้ชายจะเสียหายอะไร มีแต่ได้กับได้ เราคิดเช่นนั้น
“ไม้ก็ระวังหน่อยนะ เมียเธอเขาอาจจะกลับมาตอนไหนก็ได้”
“โอ๊ย มันก็บ้าอย่างนั้นแหล่ะ ตั้งกี่คนแล้วที่มันทำแบบนี้ ผมเบื่อมันจะแย่อยู่แล้ว”
”เธอจะทิ้งเขาเหรอ”
”ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร”
“เกี่ยวอะไรกับพี่”
“พี่ไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่อื่นมั่งเหรอ”
“ไม่ได้คิด”
“ทุกวันนี้ ผมทนมากนะที่ต้องอยู่กับเขา บางทีผมก็คิดว่าผมเหมือนแมงดา” ไม้พูดออกมา
“ก็น่าจะหางานทำ หาเงินใช้เอง หรือไม่ก็ ขอทางบ้าน”
“ที่บ้านเขาไม่เอาผมแล้ว” ไม้หันไปสั่งเบียร์อีกขวด
“เธอยังโชคดีนี่ที่มีเมียคอยดูแลทั้งคน”
“อย่าพูดเลยพี่” แม้เขาจะเห็นแก่ตัวแต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้สภาพของตัวเองดี ไม้เป็นคนที่มีความฝันและความทะเยอทะยาน แต่เขาไม่มีความตั้งใจและความพยายาม วันๆจมอยู่กับการหลอกตัวเอง ปล่อยชีวิตไปตามอารมณ์พอเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่มีอะไรดีก็กระโจนเข้าหาเหล้า เพื่อให้มันผ่านไปวันวัน เรียนก็สักแต่ว่าเรียน
“แล้วทำไมไม่ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆ จะได้หางานทำ”
”ปริญญาตรีเงินเดือนจะเท่าไหร่เชียว”
“แล้วเธอจะทำอะไรหล่ะ”
“อะไรก็ได้ที่ได้เงินเยอะๆ” งั้นก็ทำแบบนิ้ต่อไปเถอะ เราเลิกสนใจที่จะขุดคุ้ยชีวิตเขา เรียกเก็บเงินหลังจากที่เบียร์ขวดสุดท้ายหมด
“กลับเถอะ” เราเดินออกจากร้าน ไม้เก็บเงินทอนเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างไม่อาย เราแยกกันกลับ เดินผ่านห้องน้องนียังคงเปิดประตูรอผัวหนุ่มของเธออยู่ ส่วนต่อก็เปิดประตูรอผัวเหมือนกัน สองคนสองความหมาย ส่วนเรา เราจ้องมองที่ลูกบิด แล้วผัวเราหล่ะ คนไหนกันแน่ เรามีใครหลงเหลือให้รออย่างทั้งสองคนหรือเปล่า......................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

115. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
14-Mar-17, 06:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   238.....
เราดึงกุญแจที่ไขลูกบิดออกมาเก็บมันใส่กระเป๋าก่อนจะหันหลังกลับ
“จะไปไหนเอ๋” ต่อลุกขึ้นมามองหน้าเรา
“ไปข้างนอก” เราตอบต่อแค่นั้นแล้วเดินแกมวิ่งลงจากอพาร์ทเม้นท์เรียกแท็กซี่ใจของเราเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เรามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของโม วันนี้เราอยากเจอหน้าเขาเป็นที่สุด เรารู้ว่าเขากลับมาแล้วเพราะต่อบอกว่าวีกลับมาพร้อมกับโมตั้งแต่เมื่อวาน
โมเปิดประตูต้อนรับเรา
“กินเหล้ามาเหรอ” เขาถามเมื่อตัวเราผ่านตัวเขาเข้าไปในห้อง
“เป็นอะไร” โมยื่นผ้าเช็ดตัวให้เรา “ไปอาบน้ำไป เหม็นเหล้า” ห้องๆนี้เราเคยใช้ชีวิตอยู่กับเขาเป็นเดือน เขายังคงสนใจอยู่กับงานออกแบบบ้านที่โต๊ะทำงานเงียบๆคนเดียว เราอาบน้ำเสร็จความร้อนรุ่มในใจก็ไม่ได้ลดลงไปสักนิด ลอบมองโมเป็นระยะมันไม่มีทีท่าที่เขาจะละความสนใจจากงานที่ทำอยู่มามองหน้าเราสักนิด เราเดินไปดูใกล้ๆ ลายเส้นที่โมขีดเขียนลงไปบนกระดาษนั้น ดูละเอียดอ่อน
“ทำงานเหรอ” โมพยักหน้า
“เอ๋ จะทำอะไรก็ทำไปนะ ขอเราทำงานก่อน” เขาพูดเหมือนต้องการสมาธิ เราไม่กล้าที่จะเปิดทีวี ได้แต่หยิบหนังสือที่เคยทิ้งไว้มานอนอ่านที่โซฟา แล้วก็หลับไปทั้งที่หนังสือยังกางอยู่ วันนั้นเราคงแค่อยากจะมีใครให้อยู่ใกล้ๆอย่าง ต่อ หรือ น้องนี เราทนนอนอ้างว้างคนเดียว หลับๆตื่นๆมาเป็นเดือน นับจากวันที่โมเดินออกมาจากห้องเรา พร้อมกับความต้องการที่เราอยากจะอยู่คนเดียว เงาของคนก้มๆเงยๆอยู่ข้างๆทำให้เรารู้สึกตัว โมกำลังถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำ
เราลุกไปนอนบนเตียงซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มเพราะความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
“ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าตาเหมือนไม่มีความสุข” โมถามตอนที่เขาซุกตัวลงบนที่นอน
“โมทิ้งเราแล้วใช่มั๊ย”
“เมารึเปล่า พูดอะไรเลอะเทอะ ถ้าเมาก็นอน”
“ไม่ได้เมา ทำไมโมไม่ไปหาเรา”
“ก็เห็นบอกว่าอยากอยู่คนเดียว ไม่ดีอีกเหรอ”
“โม”
“อย่ามามารยานะเอ๋” เขาดึงมือเราออกจากการกอดเอวเขา
“เราไม่ใช่เพื่อนเล่นของเอ๋นะ อย่ามารยาเลยนะ เราตามไม่ทันหรอก” โมจับมือเราไว้แล้วมองหน้าเรา
“ไม่ได้มารยา แต่ว่า”
“แต่ว่าอะไรหล่ะ”
“เราตอบไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่”
“ตัวเองยังไม่รู้ คนอื่นมันจะไปรู้ด้วยรึไง วางแผนเก่งนัก ก็แก้ปัญหาตัวเองให้ได้แล้วกัน”
“ไม่ได้มาให้ว่านะ”
“แล้วมาทำไม ไม่อยากเห็นหน้าแล้วมาทำไม” โมหันหลังให้เรา
“เราจะมาถามโมว่า โมยังอยากจะคบกับเราอีกมั๊ย เท่านั้นแหล่ะ”
“อยากได้ยินว่าอะไรหล่ะ” เขาหันมาถาม
“จากใจจริงๆของโม”
“เอ๋ เลิกคิดเป็นพวกการ์ตูนญี่ปุ่นซะทีนะ ไอ้ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ทำไมจะต้องถาม จะคอยย้ำไปถึงไหน เราบอกไปกี่ครั้งจนไม่อยากจะคุยด้วยแล้ว จะถามอะไรนักหนา” เราเงียบทันที หันหลังให้โม จะว่าไปแล้วมันก็เหมือนคำถามปัญญาอ่อนที่ไม่ยอมหมดไปจากความคิดเราสักทีนั่นแหล่ะ แปลกนะแค่การกระทำยังไม่ยอมมั่นใจอีก จะเอาคำพูดอะไรมากมายมาการันตี ทั้งที่ไอ้คำพูดหวานๆพวกนั้นเคยได้ยินมานักต่อนักแล้ว มีมั๊ยหล่ะจะอยู่ทำตามสัญญาไว้สักคน มีมั๊ยหล่ะที่ทำอย่างที่พูดมาจนถึงทุกวันนี้ ...ก็ไม่มี
“โทษที พอดีมันว้าวุ่นไปนิด ขอโทษนะ” เราบอกกับโมหากแต่ยังนอนหันหลังให้เขาอยู่เช่นเคย
“ชอบให้หงุดหงิดอยู่เรื่อย” โมพลิกตัวกลับมาเจอเราหันหลังให้ “แล้วเป็นอะไรอีกเนี่ย หันมาซิ”เขาเหนี่ยวตัวเราหันกลับไปหา
“ร้องไห้ทำไม” โมแปลกใจที่เห็นน้ำตาของเรา เราปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันมาหาเขา
“ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงเรื่องตัวเองมากไปหน่อย ไม่เศร้าแล้ว” โมลุกขึ้นนั่ง
“อยู่กับคนบ้ารึเปล่าเนี่ย” โมดึงแขนเราขึ้นมานั่งกอด เขากอดเราจากข้างหลังมือสอดเข้ามาบีบที่ราวนมเราเล่น
“น่าจะมีบ้างนะ”
มือนั้นยังคงป้วนเปี้ยนเต้านมเล็กๆเพราะยาคุมอยู่นาน เราจับมือเขาไว้
“ไปจับของใครมาหล่ะ ถึงอยากให้เรามี”
“เอ๋ไม่คิดจะผ่าตัดเหรอ เพื่อนเรามันผ่าตัดไปหลายคนแล้วนะ อย่างเอ๋น่าจะสวยกว่าพวกนั้นอีก” เราอึ้ง
“โม ชอบเหรอ”
“ก็สวยดี”
“เหรอ” เราจับมือเขาออก “คงยากนะ เราไม่อยากอดตายหรอก ผ่าตัดมาเป็นผู้หญิง แล้วจะทำมาหากินยังไง มีอาชีพแค่ไม่กี่อย่างรองรับ เอาไว้ถูกล็อตเตอรี่สัก ร้อยล้านก่อนถึงจะผ่า”
“เราเลี้ยงก็ได้”
“ผ่าแล้วก็มีลูกให้ไม่ได้อยู่ดี ไม่เอา อย่าพูดเลยนะ ไม่อยากฟัง”
“มีอคติกับพวกแปลงเพศรึเปล่า”
“ไม่มีหรอก มีแต่อิจฉาเท่านั้นที่เขากล้าทำในสิ่งที่เราอยากแต่ไม่กล้าทำ เรายังมีห่วงอีกเยอะ มันก็เท่านั้น” เราเพิ่งไปเยี่ยมเพื่อนสาวคนนึงที่ผ่าตัดมา หล่อนนอนให้แผลมันแห้ง พร้อมอุปกรณ์สอดรูไม่ให้มันตัน ผิวพรรณสวยขึ้นเพราะฮอร์โมนเพศชายหมดไปแล้ว หน้าตาก็ดูซอฟต์กว่าเดิม
“เดี๋ยวพอหายดี ชั้นก็จะเก็บเงินสักพัก ทำหน้าใหม่อีกสักนิด”
“หน้าเดิมก็สวยแล้วนี่ ทำรอบแรกก็สวยแล้ว จะเจ็บตัวอีกทำไม”
“เจ็บจนชินแล้ว” ทีน่า เปิดดูเพศใหม่ของเพื่อนเล่น หล่อนก็กางขาให้ดูอย่างไม่อาย
“มันเป็นแบบนี้เหรอ ที่พวกผู้ชายมันอยากได้นัก” ทีน่าเอามือจับมันเบาๆ
“หล่อนอยากได้มั๊ย ทีน่า” เจ้าของจิ๋มถามกับทีน่าหลังจากที่ทีน่าปิดผ้าลงไปแล้ว
“ไม่เอาหรอก เจ็บ ชั้นได้ยินมาว่าบางคนผ่าแล้ว เวลาเอาก็เอาด้านหลังเหมือนเดิมก็มีนะ เพราะมันไม่ได้เต็มที่เหมือนของจริง”
“ทีน่าอย่าพูดให้ เวงคิดมากสิ”
“เอ๋ เรียกละเวงสิ อย่าเรียกเวงเฉยๆ” เจ้าหล่อนชื่อเชวงเป็นพนักงานจัดดอกไม้
“แล้วนี่ กลับไปทำงานจะใช้ล็อคเกอร์ชายหรือหญิงดีหล่ะ”
“ก็ล็อคเกอร์หญิงสิ”
“หล่อนแน่ใจเหรอ” ทีน่าย้อนถามอีกครั้ง
“หล่อนจะทำงานหนักได้แค่ไหนนะ” งานจัดดอกไม้ดูประดิษฐ์ประดอยก็จริงแต่ว่าก็หนักพอควรทั้งแบกทั้งขนเวลามีงานใหญ่ๆที่ต้องจัดดอกไม้โชว์
“กว่าหล่อนจะเข้าที่ไปทำงานได้”
“ไม่แน่หรอกชั้นอาจจะลาออกไปตกทองที่สิงคโปร์กับเพื่อนที่มันผ่าแล้วก็ได้”
“นี่ผ่ามาขายเหรอยะ” ทีน่าถาม
“ก็ใช่นะสิ จะผ่ามากราบไหว้รึไง เพื่อนชั้นมันเอาไปขายขายดิบขายดีจะตาย”
“ระวังน๊า ตำรวจที่นั่นจับได้เป็นซวย”
“จะเป็นกะหรี่ทั้งที กลัวทำไมโดนจับ ชั้นไปมาแล้วตอนทำนมใหม่ๆ ตกแขกได้ก็จริงแต่ว่ามันไม่มีอีรูหน้านะสิ ได้แต่แกล้งทำเป็นว่ามีให้มันล้วงนมเล่น เลยเก็บเงินมาทำให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะ”
“น่าจะไปเยอรมันนะ เพื่อนชั้นมันทำแต่นม ก็ขายได้แล้ว เขาชอบจะตาย มีทั้งนมทั้งงู”
“ชั้นไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะยะจะได้ทำแบบนั้น” เวงหัวเราะ “นี่พวกหล่อนมาช่วยกันหาชื่อหน่อยสิว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไรดี ชื่อเชวงนี่มันไม่กลางเลย เวงโยนหนังสือตั้งชื่อมาให้ช่วยเลือกพร้อมวันเกิดหล่อน
“หล่อนจะเอาวันไหนหล่ะ วันที่แม่เบ่ง หรือ วันที่หมอเฉาะ” ชีวิตใหม่ของเวงควรจะนับวันไหนดี เรามองที่ชื่อๆนึงก่อนจะยื่นให้ดู
“เอาชื่อนี้มั๊ย”
“ชีวัน” เวงอ่านดู
“ไม่เอาหรอก เชยจะตาย ไม่เร้าใจสักนิด” เวงเปิดแล้วลองออกเสียงดู ชั้นชอบชื่อนี้
“วนกร” เวงค่อยๆอ่านชื่อนี้ให้ฟัง ดูดีนะ ไม่เชยเหมือนชื่อที่เราชอบ
“เอ๋ อย่างหล่อนนี่ไม่ต้องทำอะไรมากเลยนะ ผ่าได้เลย หน้าตารูปร่างก็โอเคแล้ว เทคยาสักครึ่งปีก็เนียนแล้ว”
“แก่แล้ว ผ่ายังไงก็ไม่สวยหรอก”
“หล่อนอายุเท่าไหร่”
“ไม่กี่เดือนก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว”
“ชั้นสามสิบแล้วยังไม่เป็นไรเลย”
“ถามจริงหล่อนยี่สิบเจ็ดแล้วเหรอ”
“ฮื่อ ไม่เชื่อเหรอ” เวงกับทีน่าส่ายหน้า “หน้าเราแก่เหรอ”
“ไม่ใช่หรอก ชั้นนึกว่าหล่อนเด็กกว่านี้ต่างหาก” เราได้แต่ยิ้ม ขอบคุณเตี่ยกับแม่ที่ให้หน้าอันอ่อนเยาว์นี้มา ขอบคุณพี่โด่งที่สรรหาเครื่องประทินผิวจากเมืองนอกมาให้ทดลอง ขอบคุณนกที่ลากเราไปออกกำลังกายตอนเย็นจนมันเป็นนิสัย เราคิดถึงเรื่องเวงแล้วหันไปมองหน้าของโมอีกครั้ง
“โม อยากให้เราเป็นผู้หญิงเหรอ”
“เปล่า ก็แค่คิดเท่านั้นแหล่ะ” เขาเงยหน้ามามองเรา
“บางครั้งเราเองก็คิดว่าถ้าเอ๋ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่ เราจะรู้สึกยังไง” เรามองตาเขา ไม่มีหลักประกันหรอกว่าถ้าเราเปลี่ยนโลกไปเป็นอย่างที่เขาอยากจะให้เป็นแล้วนั้น เราจะมีวันนี้อยู่ได้อย่างไร นั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่เข้าใจโม เขาคิดแบบนี้เพราะในส่วนลึกนั้นเขาคงคิดว่าเราเป็นผู้หญิงสินะ
เรากลับห้องตัวเองแล้วได้แต่นอนนิ่ง การไปเจอกันกับโมครั้งนี้ก็ยังไม่ลงตัวอยู่ดี เขาไม่มีอะไรกับเราอย่างที่ควรจะเป็น
วนกรเป็นปัญหาจนถึงจีเอ็มเรื่องของล็อคเกอร์เพราะหล่อนขอใช้ล็อคเกอร์หญิงแต่พอเอาเข้าจริงๆพวกผู้หญิงจริงๆเขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วน
“ยังไงเขาก็เคยเป็นผู้ชายมาก่อนถึงตอนนี้เขาจะ มีอะไรทุกอย่างเหมือนกันกับผู้หญิงแต่ยังไงมันก็ไม่ใช่”
“แล้วคิดว่าควรจะทำยังไง”จีเอ็มถามในที่ประชุมผู้จัดการพบพนักงาน
“เขาก็ควรจะอยู่ล็อคเกอร์ชายเหมือนเดิม เขาก็เคยเป็นผู้ชาย แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแค่นี้ก็ไปเปลี่ยนในห้องน้ำก็ได้นี่คะ” คนที่ไม่เห็นด้วยยังเถียงหัวชนฝา เราเป็นตัวแทนแผนกมาประชุมก็ได้ยินเรื่องไม่เป็นเรื่องจนได้
“ถ้าหากว่าให้เขาไปอยู่ล็อคเกอร์ชายตามเดิม มันเหมาะสมหรือไม่ครับ” จีเอ็มย้อนถามผ่านการแปลของเลขา “หรือพวกเราคิดว่าเขาควรจะอยู่ที่ไหน” ไม่มีคำตอบ “เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่าควรจะมองที่สรีระของเขานะครับ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลยนะครับตอนนี้ อยากให้ลองพิจารณาดูนะครับว่า อย่างน้อยเราก็ครอบครัวเดียวกันควรจะเข้าใจจิตใจกันนะครับ ถ้าใคร มีทางออกทางอื่น คราวหน้าเราจะได้คุยกันอีกที” จีเอ็มตัดบทเข้าหัวข้ออื่นที่พนักงานขอหารือ พนักงานชายเห็นด้วยที่เวงควรจะได้อยู่ในล็อคเกอร์หญิง เพราะวันแรกที่เวงกลับมาทำงานก็ทำเอาล็อคเกอร์แตกตื่น เราเพิ่งเคยเห็นผู้ชายที่เคยแก้ผ้าโทงๆในล็อคเกอร์กระมิดกระเมี้ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นครั้งแรก ฝ่ายบุคคลก็เลยตัดสินใจว่าควรจะย้ายโดยที่คิดเหมือนจีเอ็ม เพราะยังไงเสียเพศมันเปลี่ยนไปแล้ว เวงสมัยยังไม่เฉาะก็แต่งหญิงสวยพริ้งกลับบ้านกับพวกผู้หญิงทุกวัน มีแต่คนชื่นชอบว่าเปรี้ยวแต่งตัวสวย แต่พอเอาเข้าจริงๆก็มีคนที่เคยปลื้มนะแหล่ะบอกว่า ยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิงอะไรกันนักหนา
“แล้วหล่อนทำไงหล่ะ”
“กับพวกเด็กๆ เพื่อนๆเขาก็เฉยๆกันนะ มีไม่กี่คนหรอกที่พูดอยู่ได้ น่ารำคาญ”
“เออน่า ทนทนไปเถอะเดี๋ยวก็ดีเอง”
“ที่ชั้นเจ็บใจนะ วันนั้นชั้นอยู่ในห้องส้วมได้ยินเต็มสองหูเลย ทำไมจะไม่รู้ว่าใครพูด”
“เขาพูดว่าไง” เราแปลกใจที่เรื่องนี้มันไม่จบ
“เขาว่าพวกกระเทยปากมากชอบนินทา มาอยู่ล็อคเกอร์หญิงคงเอาไปเม้าท์กับพวกกระเทยด้วยกันว่าแต่ละคนเป็นแบบไหน”
“เราเคยพูดเรื่องพวกนั้นกันเหรอ”
“ก็อีพวกสาวแก่ไม่มีผัวนะสิมันรับไม่ได้ ชั้นก็แปลกใจว่ามันอะไรนักหนา ชั้นทนไม่ไหวเลยรีบออกจากห้องน้ำมายืนดูหนังหน้าอีคนพูดให้เห็นกะตาเลย”
“แล้วไง”
“มันก็ค้อนชั้นแล้วเดินหนีไปนะสิ แผนกหล่อนนั่นแหล่ะเอ๋”
“ใครเหรอ”
“เขาอยู่ใต้ดิน”
“พวกสโตร์นะเหรอ” เราได้แต่ถอนหายใจ
“แต่ก็ยังดีนะที่ลูกน้องหล่อนอีกคนที่มีลูกแล้วหน่ะ เขาเดินมาตบบ่าชั้นเบาๆ เขาก็ยืนฟังอยู่ บอกชั้นว่า เป็นผู้หญิงมันไม่ได้ง่ายแค่ผ่าตัดหรอกนะ ขอให้อดทนก็แล้วกัน อีกหน่อยเขาก็เลิกพูดไปเอง”
“ชั้นว่าเห็นจะจริง” เวงถอนหายใจ เราได้แต่หัวเราะกับคนที่ไม่รู้จักปล่อยวาง จะตามตอแยให้มันหมางใจกันไปทำไมก็ไม่รู้
“อย่าคิดไปทำอะไรแบบนั้นหล่ะเอ๋” พี่ผู้หญิงที่แผนกเตือนเรา “เป็นผู้หญิงนะมันลำบากไปหมด เป็นผู้ชายสบายกว่าตั้งเยอะ”
“เอ๋ก็ว่างั้นแหล่ะ อยากเป็นผู้หญิงก็แค่ตอนเอากะผัวเท่านั้นแหล่ะพี่”
“เซี้ยวจริงเรา”
“ก็จริงนี่นา” เราหัวเราะร่า พอดีคนที่คอยจิกเวงเดินผ่านมา สนิทกันพอดู แกก็แหวใส่
“เม้าท์อะไรกัน เห็นชั้นแล้วหัวเราะ”
“เปล่าพี่ แค่ขำว่าป่านนี้นังเวงมันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรึยัง” เราแกล้งแหย่ “พี่เห็นมันมั๊ย”
“ไม่รู้” แกไม่พูดต่อเดินหนีพวกเราไปเฉย เวงหน้าหวานเช้งเดินทอดน่องออกมาหาเราที่รออยู่กับทีน่าและหยี
“ปีนี้หล่อนจะโชว์อะไรกัน” เราถาม
“ปีนื้ทุกแผนกต้องโชว์ คราวนี้หล่อนหนีไม่รอดแน่ เพราะหล่อนอยู่แผนกเดียวกับฝ่ายบุคคล เขาบอกชั้นว่าหล่อนจะต้องเป็นตัวแทนของadmin แล้วเจอกันนะนู๋เอ๋”
“ไม่เอา” เราร้องลั่น
“ไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ admin มีหล่อนกะนังหยีเท่านั้นที่เป็นกระเทย ฮิฮิ” ทีน่าพูดต่อ “ชั้นอยากดูเหมือนกันว่าหล่อนจะสวยแค่ไหน อย่าลืมนะตอนนี้ชั้นมีของจริงร่วมทีมแล้ว” ทีน่าลอยหน้าลอยตา
“ชั้นไปแจมไม่ได้หรอก เป็นผู้หญิงแล้วคงต้องเรียบร้อยหน่อย จะไปแหกแข้งแหกขาเหมือนเดิมคงลำบาก” เวงบอกกับทีน่า เรากับหยีหันไปหัวเราะร่วน
“แล้วเจอกันทีน่า งานสต๊าฟ” ชักอยากมีส่วนร่วมแล้วสิปีนี้


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Beside
Guest

116. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #115
 
24-Apr-17, 10:11 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณมากครับ คุณโปโป
ไม่ได้เข้ามานาน พอเจอเรื่องนี้มี้ลงต่อดีใจมากครับ
รออ่านตอนที่เหลืออยู่นะครับผม


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

117. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
25-Apr-17, 11:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
   239.....
เราพักเรื่องรักของเราไว้ในใจ การที่เราไปหาโมในวันนั้นเรามองเห็นความห่างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งนานเข้ามันยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ เราบอกกับตัวเองว่าหากตราบใดที่เรายังไม่สามารถบอกตัวเองได้เต็มปากว่าเรารักโมอย่างที่เราเคยคิดกับคนอื่น เราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินไปหาเขาและทำให้เขาเสียเวลาอีก แม้ว่าความรักจะเป็นสิ่งที่เราตามหา แต่ตอนนี้ปัญหามันอยู่ที่ตัวเราเองเท่านั้น
เราสนุกกับการซ้อมงานสต๊าฟ หยีไม่เอาด้วยเหลือเพียงแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่เป็นตัวตั้งตัวตีของแผนกตามที่ได้รับมอบหมายมา เราห่างเวทีนางโชว์มาก็นานแล้ว เห็นแผนกต้อนรับเขาซ้อมคิวกัน จัดแจงหน้าที่กันทำพ็อพ หาอุปกรณ์เตรียมเสื้อผ้ากันโกลาหลหลังเลิกงาน
“เอ๋ จะเล่นอะไรเหรอ” หยีถามเรา
“ถ้าไม่ไหวก็ถอนตัวดีกว่ามั๊ง”
“ไม่ได้หรอกรับปากบอสมาแล้วเงินก็ได้มาแล้ว” เรานั่งเลือกเพลงอย่างเครียดๆอยู่คนเดียว ตระเวณไปดูโชว์ก็หลายครั้ง แต่โชว์บางโชว์ก็ไม่สามารถก็อปมาแสดงงานพนักงานได้ เพราะระดับของการเที่ยวไม่เหมือนกัน เราอาจจะคิดว่าที่เราไปดูมาเริ่ด แต่มันก็ใช้ไม่ได้ เพราะพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเที่ยวแบบพวกเรา แล้วเราจะหาวิธีไหนมาแสดงดีนะ เราแอบไปดูทีน่า ที่กำลังซ้อมกับลูกทีมของหล่อน เรามืดแปดด้าน
“หล่อนจะแสดงทำไมหล่ะ หน้าที่การงานก็มาขนาดนี้แล้ว ยังไม่เลิกอีกเหรอ” ต่อถาม
“บอสเขาสั่งให้ทำ”
“ปฎิเสธก็สิ้นเรื่อง” รับปากไปแล้วจะทำได้ไง เวลาก็ล็อคเรียบร้อย เราค่อนข้างเครียด โชว์คนเดียวมันจะสนุกอะไร เราไปร้านนางโชว์แถวบางรักดูชุดแล้วก็ต้องถอยไม่มีคอนเซ็ปท์ที่อยากจะเล่น เดินดูแถวประตูน้ำไปเรื่อยๆในซอย เห็นร้านตัดชุดนางโชว์ก็นึกภาพไม่ออก ไปดูร้านเช่าชุดร้านอื่นๆก็มึนไปหมด จะเล่นอะไรดี พวกฟร้อนท์เล่นเพลงฝรั่ง ทีน่าจะเล่นหมอลำเป็นทีมเอาใจผู้ชาย เราหยิบชุดชั้นในเต็มตัวของผู้หญิงขึ้นมาดู ถ้าหากเราใส่ชุดลูกไม้แบบนี้ขึ้นเวที จะโชว์เพลงอะไรดี แล้วชุดที่จะใส่ในงานอีก เราจ่ายเงินซื้อไปแล้ว ถุงน่องสายรัดเอาให้เหมือนหนังโป๊เลย ถุงน่องตาข่าย รองเท้าส้นสูงที่เก็บไว้ในตู้ตั้งนานงัดออกมาลอง ใส่ดูแล้วไม่เลวนะแต่ลำบากตอนเก็บ ตัดทิ้งไปเลยดีมั๊ยจะได้ไม่มีปัญหา เราคิดเล่นๆที่ห้อง พอชุดพร้อมก็ต้องหาชุดใส่ในงานต้องวนไปที่บางรักเอาชุดที่เราลองแล้วไม่กล้าใส่เพราะโป๊มาจนได้ แว่บนั้นเรานึกเพลงน่ารักเพลงนึงออก นาทีสุดท้ายเลยนะเนี่ย เรารีบรื้อมรดกตกทอดการแต่งหญิงในกล่องไป เปิดเพลงหัดร้องไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนร้องได้คล่องก่อนวันงานน่าจะลองแต่งหน้าดู วิกผมมรดกที่เมทิ้งไว้ให้เราก็เอามาสระแล้วเป่าด้วยไดร์เกาะไว้ ต่อมาเคาะห้อง
“ทำอะไรร้อนจะตายชักปิดห้องอยู่ได้” ต่อเข้ามาตากแอร์ในห้องเรา มองดูเราที่ค่อยๆบรรจงแต่งหน้าตัวเอง เราชำเลืองดูหน้านางเอกหนังโป๊ ตาดำปากซีด ลองแล้วเหมือนคนป่วย เอาใหม่ทาสีชมพูเข้มดูหน้าดูสว่างดี
“ใจเอานะ” ต่อขยับผมให้เข้าที่
“ใครจะทำผมให้หล่อน”
“เดี๋ยวไปร้านทำผมแล้วก็ให้เขาจัดทรงให้ไม่ยากหรอก แค่ยกสูงแล้วทิ้งลงมา ต่อพรุ่งนี้ไปช่วยเราแต่งตัวด้วยนะ” เราได้ชุดใส่เล่นในงานแล้วแต่เก็บเอาไว้รับรองต้องฮือฮา
“แต่งแบบนี้แหล่ะ สวยดี” ต่อบอก มันคงนึกถึงตอนที่เมจับพวกเราแต่งหน้า ต่อกรีดอายไลน์เนอร์ให้เบาๆ เรายืนอยู่หน้ากระจก
“นี่หล่อนจะเต้นทั้งโล้นๆแบบนี้เลยเหรอ มันไม่ค่อยเซ็กซี่นะ มันอล่างฉ่างไป” เราชี้ไปที่ถุง
“นั่นไงอุปกรณ์” ต่อหยิบมาดู
“มีน่า เห็นเปิดเพลงนี้ทั้งวัน แล้วเทคยารึยัง”
“เรียบร้อย มาเป็นเดือนแล้ว”
“เออ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเป็นเพื่อน หกโมงใช่มั๊ย ไปนอนก่อนนะ” ต่อเดินออกไป เราก็ถอดชุดที่ใส่ลอง กำลังจะเช็ดเครื่องสำอางค์ ก็มีคนเคาะประตู เราไม่ได้ล็อคห้องแต่กำลังหลับตาแกะสก็อตเทปที่เปลือกตาออก
“มีอะไรเหรอต่อ” ไม่มีเสียงตอบ เราลืมตามองผ่านกระจก โมยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง ตกใจจนต้องปิดหน้า
“ทำอะไร” เรารีบละเลงครีมเช็ดเครื่องสำอางค์ใส่หน้าแล้วถูมันอย่างรวดเร็ว โมคงเห็นหมดแล้วสิ
“ลองแต่งหน้า พรุ่งนี้มีงานสต๊าฟต้องโชว์” โมยังกอดอกมองเราเช็ดเครื่องสำอางค์จนหมด ดีนะที่ถอดชุดเร้าใจจนเหลือแล้ว เราใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น แกะวิกออกจากหัวเบาๆ วางไว้แล้วรีบเข้าห้องน้ำ โมเดินตามเข้ามากลิ่นเหล้าแรงพอดู
“ไปไหนมาเหรอ เดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนนะ” เขาดันเราเข้าห้องน้ำ
“โม ออกไปรอข้างนอกก่อนเราจะอาบน้ำ” เราชักหวาดๆว่าโมจะเล่นพิเรนท์กับเราอีก
เขาเดินออกไปด้วยดีเรารีบอาบน้ำ โมนอนดูหนังโป๊อยู่ อีกมือถือกระป๋องเบียร์ เขาจิบไปเรื่อยๆ
“ไม่เคยเห็นแต่งหน้า ทำไมรีบลบหล่ะ”
“จะรีบนอน แค่ซ้อมมือเฉยๆ พรุ่งนี้จะแต่งเต็มยศ”
“งานจัดที่ไหนหล่ะ” เราบอกชื่อโรงแรม เป็นงานนอกสถานที่
“แล้วไปยังไง จะเอารถไว้ใช้มั๊ย” โมวางกระป๋องเบียร์ไว้ข้างๆ
“โมไม่ใช้รถเหรอ”
“พรุ่งนี้วันหยุดกะว่าจะมานอนที่ห้องเอ๋ ไม่ได้ใช้หรอก” โมนอนหงายเหยียดยาวทั้งชุดที่ใส่มา
“ไปอาบน้ำไป”
“อาบมาแล้ว” โมนอนมองหน้าเราตาแป๋ว แก้มแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์เบียร์
“เสื้อผ้ายับหมดพอดี” เราลุกไปหยิบเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นมาให้เขา โมจับมันไว้แต่ยังนอนอยู่เช่นเคย เรานั่งลงข้างๆ โมอีกครั้ง
“โมไปฉลองกันมาเหรอ”
“ปล่าว กินคนเดียวที่ห้อง ไม่รู้จะไปไหนก็เลยมานี่ ขอนอนหน่อยนะ” เหมือนเขาคงจะง่วงจริงๆพูดเสร็จก็หลับไป เราปิดไฟที่ห้องก่อนจะนอนลงข้างๆเขา เตียงมันยุบโมคงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เราหลับตาหันหน้าไปอีกด้านนึงสักพักโมก็ขยับมาทับตัวเรา
“ไม่รู้จักกันแล้วเหรอเอ๋” ปากที่มีแต่กลิ่นเหล้ากับเบียร์จูบลงมา เราเบือนหน้าออกไป โมชะงัก
“เป็นอะไรหล่ะ” เขาถาม
“โมเมารึเปล่า กลิ่นหึ่งเลย เหม็นเหล้า”เราปัดเขาออกตัวของโมไม่มีอะไรเหลือแล้วเขาไม่ยอมจับตัวเรานอนคว่ำ
“อย่าเพิ่งนะ โม” เราร้องเสียงหลงเมื่อเขากระแทกเราเข้ามารวดเดียว โมดันมันเข้าและคาไว้ครึ่งทางมือกดแขนเราทั้งสองข้างไว้ เขาแทงพรวดๆมันเจ็บปวดอยู่นานกว่าเราจะรู้สึกสนุกไปกับเขา โมหลั่งทะลักเข้ามาจนแฉะแล้วฟุบลงบนตัวเรา
“ดีมั๊ย” เราพยักหน้า มันอบอุ่นอย่างประหลาด ตอนที่เราทำความสะอาดตัวเอง เราไม่ได้กังวลอะไรมากไปกว่ารู้สึกดีอย่างที่เขาถาม ตื่นเช้ามาได้เห็นหน้าเขานอนหลับอยู่ใกล้ๆอีกครั้งแล้วสินะ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูป เรามองดูหน้าเขาเพิ่งเห็นความแตกต่างจากพี่โด่งได้ชัดเจนในวันนี้ ถึงแม้ว่าจะคล้ายแต่เราแยกออกได้แล้วว่าเป็นคนละคนกัน เราจูบที่เปลือกตาของเขา โมรู้สึกตัวกอดเราไว้
“แต่งมาให้ดูด้วยนะ” โมบอกก่อนที่เราจะออกไปพร้อมกับต่อ เขานอนเล่นที่ห้องเราทั้งวัน
“ดีนะที่ได้รถมาด้วย ไม่งั้นเสียเวลา”
ห้องแต่งตัวมันวุ่นวายเพราะคนเยอะ มีทั้งหมดห้าโชว์ ฟร้อนท์ แม่บ้าน เอฟบี ผู้บริหาร และ แอดมิน ผู้บริหารเป็นโชว์แรกเพราะอยากดูพนักงานโชว์ด้วย เราจับสลากได้เป็นโชว์สุดท้าย พวกฟร้อนท์ ได้โชว์แรก ทีมงานใหญ่โชว์เพลงฝรั่งเป็นเรื่องเป็นราว คนแสดงนับสิบ ชายจริงหญิงแท้ ลงทุนเยอะ แต่ละคนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าในโลกอนาคต
ทีน่าที่ตอนนี้อยู่ในผ้าถุงและสไบ ยืนติดดอกไม้ที่ผมของหล่อนข้างๆเราที่ยังแต่งหน้าไปเรื่อยๆ
“ไม่รู้มันเล่นอะไรกัน ของเยอะแยะไปหมดเลย” ทีน่าทำหน้ารำคาญ ทีมใหญ่ “รางวัลแค่สองพัน ดูมันทำสิเว่อร์จริงๆ”
“ต่อ ติดขนตาให้หน่อย” เรายื่นกาวทาขนตาให้ต่อ
“แล้วหล่อนจะออกไปกินอะไรก่อนมั๊ย กว่าจะโชว์ตั้งสามทุ่ม” หกโมงเย็นแล้ว
“ไปสิ เนี่ยเขียนตาเสร็จแล้ว ใกล้เสร็จแล้ว”
“ชั้นยังไม่เห็นชุดหล่อนเลย”
“เดี๋ยวก็เห็น” ทีน่ากับหยีช่วยลูกทีมแต่งตัว
“พวกเอฟบี มันไปแต่งหน้ากันที่สีลม ป่านนี้ยังไม่มาเลย”
“เขาเล่นเพลงอะไรกันเหรอ”
“ก็เพลงฝรั่งอีกนะแหล่ะ I will survive”
“คนเล่นเยอะนะเพลงนี้” ต่อพูดบ้าง
“ไม่รู้มัน ชอบกันนี่ พอเพลงนี้ขึ้นทีไรก็กรี๊ดกันลั่นทุกที” ต่อพยักหน้า
“หล่อนเล่นต่อพวกมัน น่าสงสารนะ แล้วนี่หล่อนขึ้นคนเดียวจริงๆเหรอ”
“ไม่หรอก มีผู้ชายมาเต้นด้วยตอนชั้นเดินออก”
“ไปแอบซ้อมตอนไหนยะ”
“ไม่ต้องซ้อมหรอก แค่ไกด์เขาว่าต้องทำไงเฉยๆ ก็แอดมิน รวมกับช่าง ชั้นเลยไปขอช่างหน้าตาดีๆมาช่วยเป็นพ็อพ มีไอ้หนึ่งด้วยนะ” หยีอ้าปาก
“เหรอ เก่งนะที่ชวนมันได้”
“ไม่ยอมเหมือนกัน” เราเกาะวิกเสร็จ เมสอนเรากับต่อในเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้เยอะ ต่อไดร์ผมให้ตรงบนหัวเรา เรารวบผมและเกาะไว้กลางหัว ทิ้งตามยาวลงไปเปิดหน้าผาก ตายาวนั้นคมลึกเพราะอายไลน์เนอร์ ปากสีชมพูหวานถูกแต้มลงไป ต่อหยิบชุดเดินเล่นในงานออกจากถุง
“ต๊าย นี่จะแก้ผ้าเข้างานเหรอเอ๋” ชุดลูกไม้ซีทรูสีขาว หนุนอกแน่นด้วยฟองน้ำและโปร่งบางแนบลำตัว เราใส่ชุดเสร็จ สายเอ็นไก่คล้องที่ไหล่กับชุด เราไม่มีนมจริงช่วยดันชุดต้องให้แม่ที่ร้านทำสายเอ็นเล็กๆเกาะชุดไว้
“นี่ไม่ต้องโชว์แล้วนังเอ๋ เดินแก้ผ้าอยู่ข้างล่างก็พอแล้ว” ทีน่าค้อน เพราะชุดของหล่อนเป็นชุดราตรีสั้นคันๆธรรมดาเมื่อมายืนอยู่ข้างเรา
“ลงทุนเนาะ”
“ไม่เห็นมีอะไรเลยแค่ชุดราตรีธรรมดา” ต่อเกาะเครื่องเพชรบึ้มที่คอ และหู
“โอ๊ย นี่หล่อนจะฆ่าชั้นเหรอเอ๋” ทีน่า รวบผมช่วยต่อตอนใส่สร้อยเพชรให้เรา “สวยจังเลย” ทีน่าอุทานเมื่อเราครบเครื่อง “แพงมั๊ย”
“หมดนี่ พันนึง” ทีน่าอ้าปากหวอ
“มีสปอนเซอร์ ชั้นไม่ลงทุนให้โง่หรอก ถ้าไม่มีคนจ่าย แต่งหญิงเรื่องมาก ใช้เงินเยอะ นี่แหละที่ชั้นไม่อยากจะแต่งกับพวกหล่อน”
“อยากดูอีเวงจริงๆ มีหีมีนมแล้วนี่มันจะแต่งแบบไหน” หยีลูบแป้งที่ลงตัวด้วยพัฟฟ์กับแป้งฝุ่นอีกครั้ง
“ต้องรอให้เหงื่อมันออกสักนิด ผิวที่ลงจะได้ผ่องกว่านี้” เราหมุนไปหมุนมาให้เกิดความร้อนซึมออกจากร่างกาย
“หล่อนใช้เบอร์อะไร” ทีน่าหยิบเมเยอร์มาดู
“เบอร์หนึ่ง” ทีน่าเอาไปเทียบกับของตัวเอง “ของชั้นเบอร์สาม”
“มันถึงแดงอย่างนี้นะสิ”
“แล้วจะแก้ยังไงหล่ะเอ๋” ทีน่าหน้างอที่ซื้อแป้งมาผิดเบอร์
“เอาแป้งฝุ่นเด็กลงทับแล้วกันนะ” ต่อหยิบพัฟฟ์ชุบน้ำเปล่าแล้วลูบให้ทีน่าเพื่อให้เมเยอร์มันจางลงก่อนจะลูบไปทั้งตัวเกลี่ยให้เท่ากันก่อนลงแป้งฝุ่น
“ลงตัว เขาต้องใช้มือมันถึงจะเนียน มาใช้พัฟฟ์มันก็เป็นปื้นๆนะสิ” ทีน่าขอบอกขอบใจที่กลับมาขาวกว่าเดิม ต่อเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยแล้วถือตามเรามาด้วยตอนเราเข้างาน พนักงานเริ่มมากันเยอะแล้ว เสียงเฮรับกันเป็นทอดๆอยู่ด้านในดังออกมาตอนที่เรากำลังลงทะเบียน จากห้องแต่งตัวที่เป็นห้องพักแขกต้องเดินผ่านล็อบบี้ เพื่อไปห้องบอลล์รูม ทีน่าเดินขาแทบขวิดเพราะไม่เคย เราก็ไม่ต่างกันหรอกต้องคอยเป็นกำลังใจให้กัน เราจับมือทีน่าไว้
“ยิ้มสิ จะได้ไม่เกร็ง” ทีน่าปล่อยมือแล้วหันไปยิ้มกับทุกคนที่มอง เรารู้ว่าคนมองกันเยอะ ก็ไอ้ชุดที่เราใส่มันมองเข้าไปเห็นเนื้อในนี่นา แม้ว่าลายลูกไม้จะมีไปทั่วตัวแต่ว่าดูยังไงก็เหมือนว่าแก้ผ้า ไม่ได้ใส่ชั้นในดีที่มีลูกไม้ป้ายมาบังอยู่ด้านหน้าไม่งั้นคงจะถูกว่าอนาจารแน่ๆ เวลาเดินรอยผ่าของชุดที่สูงถึงสะโพกอวดขาสวยในถุงน่อง ทุกคนยิ้มแต่ยิ้มนั่นก็มีหลายความหมาย เราไม่ใส่ใจหรอกเพราะเรามั่นใจว่าเราสวย ต่อเดินยิ้มอยู่ข้างๆ
“เอ๋มันบ้าแบบนี้แหละหยี ถ้ามันแต่งทีนะมันกล้ามาก ชั้นยังกลัวมันเลย”หยีตั้งแต่อกหักก็เลิกแต่งหญิง
“ครั้งสุดท้ายแล้วต้องให้เป็นที่เลื่องลือสิ”
“หล่อนแต่งได้อีกตั้งหลายปี ชั้นยังแต่งทุกปีเลย”
“บอสจะไม่อยู่แล้ว ให้แกดูก่อนไปดีกว่า แกกำชับตอนที่ให้ตังค์ว่า ต้องให้ดีที่สุด”
“แต่ไม่ได้หมายความว่าโป๊ที่สุดนี่ แล้วหล่อนจะโชว์อะไรไม่เห็นมาซ้อมใหญ่กับเวทีเลย”
“โชว์ของชั้นง่ายๆ สบายๆ”
”เดินแก้ผ้าบนเวทีเหรอยะ” เราหัวเราะกับคำพูดของทีน่า ชุดโชว์คิดเอาเองง่ายๆอยู่ในมือของต่อ
“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า” ทีน่ากลัวแต่โชว์เราจะไม่เด่นหล่อนเคยมาชวนเราไปแจม แต่เราปฎิเสธ พอได้ชุดมันก็นึกเพลงออก เอาที่น่ารักน่ารักไม่แรดมากก็พอ เราได้เพลงแล้วนั่งแกะนั่งร้องดูต้นฉบับเขาเต้นจำท่าที่มันเป็นมาตรฐานแล้วมาปรับให้เข้ากับตัวเอง โดยมีต่อคอยคอมเม้นท์อีกที
“คิดไม่ออกว่ามันจะออกมายังไงนะ เพราะหล่อนไม่เห็นเต้นเหมือนกันสักครั้งเลย” ต่อบ่นที่เราเปลี่ยนท่าบ่อยๆ
ถึงหน้างาน หัวหน้าฝ่ายบุคคลก็อ้าปากหวอเมื่อเจอเรา
“เอ๋ รึเปล่า ตายแล้วสวยจนจำไม่ได้ นี่ไปหาชุดมาจากไหนหล่ะเรา ตายแล้วทำไมมันโป๊แบบนี้” แกเป็นผู้หญิงยุคใหม่ก็ยังพลอยตกใจไปด้วย เราหย่อนบัตรใส่กล่องจับรางวัล แล้วยิ้มหวานให้เด็กฝึกงานหนุ่มที่เพิ่งมาทำงานไม่กี่วันคนที่เริ่มเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโรงแรมเรื่องความหล่อ ต่อเดินพาเราไปที่โต๊ะของแผนก แสงสปอตไลท์สาดตามตัวเราพร้อมการเฮรับ บอสรีบวิ่งมาให้เราเกาะแขนเดินเข้างานอย่างอารมณ์ดี อีกมุมของห้องเรามองเห็น เวงที่มาพร้อมชุดราตรีเกาะอกอวดเต้าหลายร้อยซีซีอยู่กับกลุ่มเพื่อน ต่อทำความรู้จักแล้วนั่งรอเราที่โต๊ะ หลายคนลากเราไปถ่ายรูปด้วยทีน่าคอยประกบติด ป้าๆรอบดึกก็ไม่เบาเหมือนกันขนชุดทางเหนือมาใส่กันหัวหางปักกันให้วุ่นวาย นี่สินะเวลาแห่งความสุขของกระเทย การอำพรางตัว
โชว์ผู้บริหารจบลงอย่างสนุกการจับฝรั่งมาก็อปปี้นักร้องบ้านเราแล้วออกท่าทาง เราขำร่างอ้วนของบอสส์ที่ถูกจับแต่งตัวให้เป็นนักเต้นเท้าไฟ แกก็พยายามทำท่าของนักร้องคนนั้น ดูแล้วน่ารักดี พอผู้บริหารเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งประจำที่เสร็จ โชว์อวกาศอลังการของฟร้อนท์ก็เริ่มขึ้น มีหน่วยพิทักษ์อวกาศ มีเจ้าหญิงผู้สร้างโลก มีเทพี่จักรวาลแต่ดูคล้ายเดินแบบพร้อมแสดงท่าทางตามบทที่ได้รับ เราเดินเข้าหลังเวทีพร้อมหนุ่มที่ขอแรง และต่อ ต่อทาแป้งกับลิปให้หนุ่มๆอย่างรวดเร็ว พวกเขาถอดเสื้อโชว์ทั้งกล้ามกระเปาะเล็กๆ
“ช่วยกันหน่อยนะ แค่ยืนกอดอกเหมือนที่ซ้อม นะแหล่ะ ขยับตัวตามเพลงบ้างก็ได้ จะได้สนุก”
“พี่เอ๋ ผมอายนะ” เราเป่ากากเพชรลงบนตัวของหนึ่งและเพื่อนที่หลังเวที
“มาถึงป่านนี้แล้ว ท่องเอาไว้เพื่อแผนกนะ”กว่าพวกฟร้อนท์จะเก็บอุปกรณ์เสร็จทีน่าก็หน้าหงิก การแสดงพื้นบ้านของหล่อนก็ใช่ย่อย ทีน่าไล่ต้อนลูกทีมไปรอหลังเวที ทันทีที่เพลงขึ้นทุกคนก็กรูกันออกไป เราถอดชุดราตรีแล้วใส่ชุดโชว์ง่ายๆ ต่อเอาดอกไม้ดอกใหญ่ๆมาติดที่สะโพกทั้งสองข้าง ดอกไม้สีดำเหมือนกับชุดชั้นในนั่นแหล่ะ ใส่สายรัดที่เกี่ยวกับของถุงน่อง พวกหนึ่งถึงกับอ้าปากค้าง
“พี่เอ๋ แต่งตัวแบบนี้เหรอ” เราพยักหน้า ปากถูกเช็ดออกเปลี่ยนเป็นสีแดงฉ่ำ ต่อสางผมให้เรียบร้อยอีกครั้ง เครื่องเพชรชุดราตรีเปลี่ยนเป็นโชคเกอร์เพชร หนุ่มๆค่อยๆเปลี่ยนกางเกงยีนส์เป็นกางเกงหนังสีดำมีหมุดสีเงินเป็นตะเข็บ นี่ก็เช่ามาเหมือนกัน สามวันหลังเลิกงานที่ทั้งตะล่อมทั้งเกลี่ยกล่อม ถ้าไม่ได้หนึ่งคงไม่สำเร็จ แต่วันนี้พวกเขาพูดง่ายกว่าตอนซ้อมเสียอีก ต่อยื่นแก้วเหล้าให้ทั้งสามคนอีกที หนึ่งเริ่มหนาว
“เอ้าแก้หนาว” ต่อยื่นแก้วเหล้าให้กับสามหนุ่ม แค่นี้ก็เรียบร้อย
เราสวมเสิ้อคลุมสีดำที่ออกแบบให้ถอดง่ายพาดมันไว้ที่บ่าโชว์ของทีน่าเกินเวลาไปนาน พวกเอฟบีกับชุดราตรีสวยเดินนวยนาดไปรอที่หน้าเวที
“เอ๋ เรียบร้อยแล้วนะ” กุ้งกับแมนเป็นสเตจ-โค คอยดูแลพวกนางโชว์ คนละไม้ละมือ “ปิดทำไมหล่ะ”แมนเอาวอล์คกี้ทอล์คกี้มาเขี่ยชายเสิ้อคลุมที่เราห่อตัวไว้
“ไม่ได้เดี๋ยวจืด”
“นี่หล่อนยังมีอะไรจะให้เขาดูอีกเหรอ ชุดเดินเล่นในงานก็แทบจะแก้ผ้าอยู่แล้ว”
“คอยดูก็แล้วกัน” เอฟบีก็แค่ร้องและมีคอรัสในชุดราตรี ดูคล้ายๆเรื่องทูวังฟู แป็บเดียวก็จบ
เอาอีกเอาอีก เสียงคนดูที่ยังสนุกอยู่ เราชะโงกหน้าแอบมองหน้าเวที พนักงานจับจองดูโชว์กันที่ฟลอร์แด้นซ์ นั่ง่กับพื้นหน้าสลอน ยิ่งตอนทีน่าโชว์หมอลำยังกะเปิดคอนเสิร์ท แบบที่สำนวนอิสานบอกว่า ม่วนหน่าฮ้านเลยทีเดียว
“โชว์สุดท้ายเป็นของแอดมินกับเอชแอลพีนะคะ แหมก็ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นอะไร น้องเอ๋กับหนุ่มกำลังรออยู่นะคะ พร้อมรึยังคะ” เอ็มซีซาวเสียง จากนั้นไฟหน้าเวทีก็ดับลงหนุ่มๆเดินออกไปยืนตรงจุดเรียบร้อย แมนก็ส่งสัญญาณให้เปิดเพลงและเปิดตัว ดนตรีน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มพอๆกับเสียงนักร้อง คนดูกรีดร้อง โดยเฉพาะแผนกเราส่งเสียงเชียร์ลั่น ตอนที่ทั้งเดินทั้งเต้นออกไป เราเลือกเพลงนี้เพราะ เราชอบเนื้อหา มันโดนใจ
ถ้าหากฉันมีเวทย์มนต์ เป็นแม่มดมีฤทธิ์เหมือนในนิยาย จะเสกเธอให้สนใจ ให้เธอยอมเอาใจทั้งใจให้ชั้น ........
......หากยอมเป็นคู่ใจเอาอะไรก็ว่ามาจะขี่ไม้กวาดไปหาพาบินไปด้วยกัน” ตอนนี้หนุ่มนอนราบกับพื้นโดยมีเรานั่งคร่อมและลูบไล้ไปทั้งตัว ก่อนที่เราจะลุกขึ้นเดินลงเวทีไปนั่งตักบอส.....จะไกวเปลให้ทั้งคืนจะเกาคางให้ทุกวันอย่าห่วงเลยตัวชั้นจะดูแลเธอเอง…..กรีดร้องจนแสบแก้วหู เรารีบขึ้นเวทีเข้าสเต็ปตอนฮุคสุดท้าย เต้นพร้อมกับสามหนุ่มแนวอโกโก้......หากยอมเป็นคู่ใจเอาอะไรก็ว่ามาจะขี่ไม้กวาดไปหาพาบินไปด้วยกัน.....จะไกวเปลให้ทั้งคืนจะเกาคางให้ทุกวันอย่าห่วงเลยตัวชั้นจะดูแลเธอเอง….. สองหนุ่มนั่งชันเข่าชนกันให้เรานั่งส่วนหนุ่มยืนอยู่ข้างหลังยกมือกางออกโดยมีเราเอียงหน้าแนบเป้า นั่นคือตอนจบ เหนื่อยจริงๆ พอโชว์เสร็จก็เปิดฟลอร์ให้พนักงานเต้น และอารมณ์มันก็ต่อเนื่องด้วยเพลงแม่มดอีกครั้ง ต่อเต้นกับหนุ่มของเราที่ฟลอร์เราปลีกตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำชายเพื่อเปลี่ยนชุดหนุ่มหล่อฝึกงานยืนฉี่อยู่คนเดียวเขาตกใจ แต่ก็ยิ้มตาเยิ้มเมาแล้วสิท่า เรายืนมองตัวเองที่กระจกแป็บนึงซับเหงื่อที่หน้าอกก่อนจะเดินเข้าห้องส้วมเพื่อเปลี่ยนชุด
“ว่าไงคะรูปหล่อ” เสียงเพลงดังออกมาถึงห้องน้ำ เราจูงแขนเขาเข้ามาในห้องน้ำได้ด้วยเรากล้าตั้งแต่เห็นหน้าเขาหน้างานแล้ว เขามองเราตลอดตอนที่ลงทะเบียนและตอนโชว์ เขาก็ยืนดูอย่างตั้งอกตั้งใจ เราแกล้งซบเขาตอนที่เขายืนสะบัด มันก็แค่นั้น ปลายแดงแจ๋จ่อที่ปากเราแม้จะมีกลิ่นฉี่แต่โอกาสมันมาถึงแล้ว อั้นสูดปากครางตามแรงโยกของเรา เขาเอามือค้ำที่ฝาส่วนเราชันขาบนชักโครก อั้นแทงปากเรารัวโดยไม่สนใจเสียงคนเข้าออกเราต้องคอยกดชักโครกให้รู้ว่ามีคนอยู่จนแตกคาปาก หวานดี เราและเล็มพร้อมกับช้อนตามองเขายางยืดนั้นหวานเหลือเกิน อั้นก้มลงมองหน้าเรา เราถอนปากออกช้าๆอย่างเสียดายอั้นเช็ดหัวแล้วเก็บลำมันยังอัดแน่นอยู่ที่เป้า เราลูบมันต่อ อั้นยืนให้เราลูบมันเล่นเพื่อรอจนเงียบถึงได้ออกไปพร้อมกับเรา เขายืนอยู่หน้ากระจกยิ้มหวานน้ำแตกแล้วอารมณ์ดี ปากเราเลอะเล็กน้อย กลิ่นสาปเคยังกรุ่นอยู่ที่ปลายจมูก เรายิ้มให้เขา เขาตบก้นเราเบาๆแล้วรีบเดินออกไป เรากลับไปห้องส้วมเปลี่ยนชุดอีกครั้งก่อนจะลบปากเปลี่ยนสีเป็นชมพูใส แต่งรอยเลอะให้เรียบร้อย เดินกลับเข้างาน ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่แซวมาของพวกผู้ชายที่แห่กันเข้าห้องน้ำหลังจากเพลงแด้นซ์จบ
“แรงนะยะ” ทีน่ากัด พวกเรานั่งรอลุ้นรางวัลที่หนึ่งของงาน ปีนี้ได้ไปเที่ยวภูเก็ตพร้อมตั๋วเครื่องบินสำหรับสองคน โรงแรมได้สปอนเซอร์จากโรงแรมในเครือของเจ้าของ พนักงานดีเด่นประกาศไปแล้ว โชว์ดีเด่นคือฟร้อนท์ รับไปสองพัน ลงทุนสองหมื่น เราไม่ได้อิจฉาหรอก เพราะไอเดียเขาถูกใจผู้บริหาร เราภูมิใจแค่โชว์ถูกใจพนักงานก็พอแล้ว และเราก็ได้เคด้วย เราแอบหันไปมองอั้นที่นั่งรวมกลุ่มกับแผนกเขาหลายครั้งยกแก้วให้เขา เขาก็ยกตอบกลับมา อร่อยดีนะเด็กหนุ่มๆนี่มันหวานจริงๆ
“จิกอีกแล้ว” ต่อตีมือเรา พนักงานเงี่ยหูฟังหมายเลขหางตั๋ว เรามัวแต่ส่งสายตาให้อั้นอยู่ไม่ได้ฟังจนต่อที่ถือหางตั๋วเราต้องสะกิด
“เบอร์หล่อนรึเปล่า ลองช่วยกันฟังซิ”
จีเอ็มทวนอีกครั้ง ทั้งโต๊ะบัญชีกรี๊ดสนั่นเราได้รางวัลที่หนึ่งเหรอนี่ ทั้งเดินทั้งวิ่งไปที่เวทีอย่างรวดเร็ว
“แม่มดเอ็กซ์นี่เองนะคะ ทุกคน ยินดีด้วยคะ” เรารับรางวัลถ่ายรูปกับจีเอ็ม แต่ตาเรามองไปที่โต๊ะของอั้น เราปิ๊งเขาแล้วสินี่ หล่อจริงๆคนอะไร
“จะพาใครไปด้วยดีคะ”
“ยังไม่รู้เลยคะ ตัดสินใจไม่ถูก” เรายิ้มอายๆ จีเอ็มตบบ่าเบาๆ
“ผัวเยอะไม่รู้จะพาใครไป” กุ้งตะโกนแซว
“จริงเหรอคะ”
“ไม่จริงคะ ยังโสดนะคะ กำลังเสกหนุ่มๆให้มารักอยู่คะ”
“เสกเข้าท้องนะซี้” ทีน่าเดินมาที่ขอบเวทีขอไมค์กัดเรา คนในงานก็ฮากัน งานจบด้วยกรุ๊ปพิคเจอร์ ต่อขับรถมารอเราที่หน้าโรงแรม เรามัวแต่ชะเง้อหานายอั้น อยากจะกินอีกสักรอบ
“เอ๋ กลับได้แล้ว ชะเง้อหาอะไรอยู่ เร็วง่วงแล้ว” ใจเรามันอยากแต่ก็ต้องแห้วเพราะอั้นคงไปเที่ยวต่อกับพวกเพื่อนที่มาฝึกงานด้วยกัน เขายังมองมาอีกเราได้แต่โบกมืออำลาก่อนจะขึ้นรถ
“เวลาแห่งความสุขมันสั้นนะ”
“หล่อนไปทำอะไรในห้องน้ำตั้งนาน”
“นิดหน่อย แล้วหล่อนหล่ะ” เราย้อนถาม
“หนึ่งมันเล่นกระเทยมั๊ย” ต่อถาม
“ทำไมเหรอ”
“ตอนที่ชั้นช่วยมันถอดกางเกงโชว์ ชั้นแกล้งจับมันเล่น มันแอ่นให้ชั้นคลึงจนแข็งเลย”
“มันไม่อายเหรอ”
“อายอะไรอยู่ห้องแต่งตัวแค่สองคน”
“แล้วไง”
“ไม่กล้า กลัวคนเห็น”
“ไม่กล้าก็อด”
“ปีหน้าพาชั้นมาอีกนะ ถ้าหล่อนโชว์”
“ถ้าโชว์นะ แต่ไม่รู้จะโชว์อะไรแล้ว”
“กันซีน ว่าแต่หล่อนเถอะ ไปทำอะไรในห้องน้ำ”
“อยากรู้ก็ไปถามอั้นดูสิ” ต่อไม่ได้ทำงานโรงแรมเราถึงพูดให้ฟังได้ เพราะความคงไม่แตก
“ยอดมาก ชั้นสังเกตตั้งแต่มันมองหล่อนแล้ว คนเมาแบบนั้นจะไม่เงี่ยนได้ไง เอ๋หล่อนนะเหมือนพวกที่เต้นอะโกโก้เลยนะ ตอนโชว์ ไม่เห็นน่ารักเหมือนแสงระวีตอนที่หล่อนซ้อมเลย”
“บรรยากาศมันพาไป” เราหัวเราะคิก รถมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ เราไขกุญแจเข้าห้อง โมนอนหลับอยู่ เราวางของแล้วไปนั่งที่เตียง เปิดไฟหัวเตียงเขาตื่นรู้สึกตัวทำหน้าแปลกใจ
“เป็นไง อยากเห็น แต่งมาให้ดูแล้วนะ ดูให้เต็มตาก่อนจะล้าง”
เรากับโมจ้องตากัน เราเองเป็นฝ่ายที่ก้มลงจูบเขา ก่อนกลับแปรงฟันมาแล้วคะรับรองไม่มีกลิ่นอะไรให้โมตกใจแน่นอน “ชอบมั๊ย” เราถอนปากแล้วถาม โมส่ายหน้า
“ชอบเอ๋ตัวจริงมากกว่า” เราลุกจากที่นอนรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ตัวจริงมาแล้ว” เรานั่งโมเองเลย แต่ยังคงเคลิ้มไปกับเคแดงของอั้นอยู่ คืนนี้เรามีความสุขเหลือเกิน ฮิ...ฮิ.....
.ดอก ......เสียงพี่เพลินแว่วมาอีกแล้ว


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

118. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
26-Apr-17, 00:00 AM (SE Asia Standard Time)
 
   240……………
“มดเอ็กซ์” เสียงห้าวๆตามมาข้างหลัง นายอั้นนะเอง ตัวสูงๆขาวๆปากแดงน่าจูบชะมัด สะพายเป้ตามเราเข้ามาในโรงแรม
“ว่าไงจ๊ะรูปหล่อ”
“ไม่ว่าแล้ว กลัวโดนสาปอีก”
“ไม่ชอบรึไง”
“ชอบแต่มันเสียว” อั้นทำเสียงร่าเริง เขามาฝึกงานในชุดนักศึกษาเดินแยกจากเราไปฝ่ายบุคคล
“เอ๋ เอ๋ รอก่อน” ทีน่าวิ่งกระหืดกระหอบตามเรามา
“น้องอั้นไปไหนหล่ะ”
“แหมน้องอั้นเลยนะยะ แต่ก่อนเห็นแต่น้องหนุ่ม”
“แหวะ เขาเอาจนทั่วแล้ว” ทีน่าทำท่าแหวะจริงๆ
“แล้วได้กะเขารึยัง” ทีน่าส่ายหน้า
“กินไม่ทัน มันหมดฤดูก่อน”
“หล่อนคุยอะไรกับน้องเขาเหรอ”
“แค่ทักทายธรรมดา”
“ชั้นไม่เชื่อ หน้าซื่อตาใสแบบนี้นะ ไว้ใจไม่ได้”
“โถทีน่า ชั้นจะไปทำอะไรได้ น้องเขาก็แค่ทักทายธรรมดา”
“ไม่เชื่อ หล่อนอย่าใช้ตำแหน่งหน้าทื่การงานมาบังคับผู้ชายนะยะ”
“ประสาท ชอบเขาก็ตามเข้าไปฝ่ายบุคคลสิ” เราดันตัวทีน่าจนหลุดเข้าไปที่ฝ่ายบุคคล อั้นนั่งทำงานอยู่คนเดียว เขาเงยหน้าขึ้นมา
“มีอะไรครับพี่”
“อั้น พี่ทีน่าเขาอยากคุยด้วย” อั้นทำหน้างง
“คุยอะไรครับ” ทีน่าอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเพราะไม่คิดว่าเราจะบ้าทำแบบนี้
“เขาอยากชวนไปดูหนัง” เราพูดแทนทีน่า ทีน่าหยิกที่แขนเรา
“เย็นนี้ว่างมั๊ย”
“ไปโยนโบล์ว ดีกว่าพี่อย่าดูเลยหนังหน่ะ พรุ่งนี้วันหยุดด้วย”
“เอาไงทีน่า” เรายิ้มกับอั้น “คุยกันเองนะ น้องเขาชวนแล้ว” เราเปิดประตูเดินออกจากห้องทิ้งทีน่า หน้าม้านอยู่คนเดียว ไม่ทันไรหล่อนก็วิ่งตึกตักตามเรามา
“เอ๋ หล่อนร้ายกาจมาก”
“แล้วไง ก็ติดต่อให้แล้ว อย่าให้พลาดหล่ะ เตรียมตังไว้เยอะๆด้วยนะ เพื่อนเขาหลายคน” เราหัวเราะแล้วเดินเข้าล็อคเกอร์ เจอหนึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็วิ่งมาแบมือใส่เรา
“พี่เอ๋ ไหนหล่ะ ค่าแรง บอกว่าจะเลี้ยงเหล้ายังไม่เห็นเลี้ยงเลย เอาตังค์มาไปหากินเองก็ได้”
“โถ ใจน้อย จะไปวันไหนดีหล่ะ วันนี้เลยดีมั๊ย” เรานึกถึงต่อทันที เพื่อนกันก็ต้องส่งต่อ เราแอบนัดหมายเด็กๆทั้งสามไว้แล้ว เลิกงานก็เจอทีน่าอีก
“นี่อะไรกัน เจอหน้าหล่อนทั้งวันเลย”
“เอ๋ อั้นเขาจะไปจริงรึเปล่า”
“อ้าว ยังไม่คุยกันอีกเหรอ อะไรเนี่ย” เราเท้าสะเอวมองหน้าทีน่า
“ก็ชั้นอายนี่”
“อายก็อดนะยะ” เราทำท่าจะผลักประตูเข้าไป พอดีหัวหน้าใหญ่ฝ่ายบุคคลกำลังจะออกมาพอดี
“อะไรกันยะ สาวๆ มาชะเง้อชะแง้อะไรแถวนี้ บ้านช่องไม่รู้จักกลับ เดี๋ยวชั้นจะให้วอนนิ่ง ที่อยู่ที่ทำงานนานเกินเวลากำหนดนะยะ”
“พี่แจ่ม น้องใหม่กลับบ้านรึยัง”
“น้องใหม่ไหน พวกนี้นี่เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้เลย”
“แหมก็ไอ้พวกที่มีอยู่มันก็แก่กันหมดแล้ว ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตา” เรารู้ว่าอั้นเป็นเด็กฝากมาทำงานทางสายคนที่พี่แจ่มนับถือ แต่ไม่รู้เบื้องหลังว่าคนฝากเป็นใคร
“มันกลับไปแล้ว”
“เห็นมั๊ยหล่ะ ทีน่า หล่อนมัวแต่ช้า งุ่มง่ามผู้ชายเลยชิ่งหนีกลับก่อน”
“เลิกงานเขาก็กลับบ้านสิยะ จะมานวยนาดเหมือนพวกหล่อนทำไม” พี่แจ่มยังสนุกกัดพวกเรา
“แล้วพี่ทำไมยังไม่กลับหล่ะ หรือเป็นพวกชอบนวยนาดเหมือนกัน”
“นังนี่” พี่แจ่มไล่ทุบพวกเรา “มันยังงี้ทุกที เถียงตลอด โอ๊ยชั้นปวดหัว” แกตะโกนเสียงแปร๋นตามพวกเรามา เราหันไปไหว้แกแล้วเดินออกจากที่ทำงาน
“มัวแต่ช้า งุ่มง่าม แล้วนั่งรอที่ทางออกพนักงานไม่เจอเขาเลยเหรอ”
“ไม่เจอ”
“เขาคงแวะไปกินข้าวก่อนกลับบ้านมั๊ง นักศึกษาไม่ค่อยมีตังค์หรอก ประหยัดไว้ก่อน”
“ไปดูแล้วก็ไม่เจอ”
“ทีน่า หล่อนคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นเลยเหรอ” เราเหลือบมองนาฬิกา เรานัดหนุ่มไว้ตอนกลางคืนที่หน้าผับที่เราชอบไป
“แล้วเมื่อเช้าเขาบอกหล่อนว่าไง”
“วันนี้เขาจะไปโยนโบล์ว”
“รู้ที่ใช่มั๊ย” ทีน่าพยักหน้า
“งั้นชั้นจะพาไปส่ง” จริงๆแล้วก็เงี่ยนอยากกินของเด็กอีกนั่นแหล่ะ เรียนปีสี่ ตอนนี้ก็คงยี่สิบเอ็ด ยี่สิบสอง ห่างกันแค่สี่ห้าปีเอง ไม่น่าเกลียด เรานึกในใจ ที่โยนโบล์วอยู่แถวโรงหนังนั่นแหล่ะ เราชะเง้อมองไปทั่วร้าน เจอจริงๆแฮะ เราหลบวูบ ทีน่ามันหลบไม่ทัน
“ไงพี่ทีน่า” เขาวิ่งมาทางนี้แล้ว
“พี่มาส่งพี่ทีน่า” อั้นทำหน้าแปลกใจ “จะมาหาผมหล่ะสิ” อั้นคว้าแขนเราแล้วจูงเราไปที่โต๊ะเด็กฝึกงานทั้งน้องนีทั้งชงนั่งกันกลุ่มใหญ่
“พี่เอ๋ วันนั้นสวยจังเลย”น้องนีมากระแซะ เนี่ยไอ้อั้นมันเคลิ้มเลยนะพี่
“บ้า” อั้นหน้าแดง น่าหยิกจัง ทีน่านั่งหน้างอ
“พี่ทีน่าก็สวย โชว์ของพี่ตลกดี”
“เอ๊ะยังไงยะ สวยแต่ตลก”
“หนูไม่ได้ว่าพี่สวยแบบตลกนะ อย่าคิดมากสิคะ” เจ้าหล่อนยิ้มหน้าใส
“นึกไงคะถึงมากัน แล้วพี่มีโต๊ะยัง” เจ้าหล่อนเจ้ากี้เจ้าการ “อั้นพาพี่เขาไปเอารองเท้าสิ” ทีน่าลุกขึ้นทันที
“ไม่เคยมาเลย แล้วเขาต้องทำไงบ้าง”
“ไปเช่ารองเท้าก่อน เดี๋ยวให้อั้นพาไปพี่ มันเจ้าถิ่น”
เพื่อนหญิงคะยั้นคะยอ อั้นเดินตามทีน่าไปแล้วเราก็เดินไปใกล้ ทีน่ากับเราเลือกรองเท้าได้แล้วก็วาดลวดลาย ไม่มีฝีมือเลยนังกระเทยทั้งสอง
“พี่เอ๋ ใครแต่งหน้าให้พี่คะ ตอนที่พี่แต่งหวานๆสวยจัง หนูชอบตอนใส่ชุดขาว” ปลื้มไม่เลิกนะยะ เราเห็นรูปตัวเองที่ติดหราหน้าห้องอาหารพนักงานแล้วจะเป็นลม ทำไปได้ไงวะนี่ สงสัยผีชะนีมันเข้าสิง
“แต่งเอง”
“เหรอพี่ งั้นตอนพวกหนูรับปริญญาพี่แต่งให้ได้มั๊ย”
“พี่คิดแพงนะ” เราแกล้งพูด
“โธ่พี่ขา นักศึกษายังไม่มีรายได้ คิดราคาพิเศษนะคะ”
“จะเอาอะไรมาแลกกับราคาพิเศษหล่ะ” ตาเรามองดูทีน่าที่ยืนอยู่กับอั้น “สนใจเพื่อนหนูเหรอ”
“บ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ รู้หย่ะ ว่าเพื่อนหล่อนหล่อ แต่พี่ไม่รู้ว่าของใครของใคร ขี้เกียจทะเลาะกับชะนีเด็ก”
“จะรับวันไหนก็โทรมาก่อนแล้วกัน ไปได้จะไป นี่ชมพู่ จะอยู่กันอีกนานมั๊ย” เราดูนาฬิกาข้อมือมันจวนเจียนแล้ว ถึงแม้จะบอกสถานที่ต่อไปแล้ว แต่ต่อคงไม่กล้านั่งคนเดียวแน่
“จนร้านปิดหล่ะพี่ พรุ่งนี้หยุด”
“พวกเธอไม่ไปไหนต่อเหรอ”
“ไปไม่ได้ พวกหนูอยู่หอ ขี้เกียจมีเรื่องถ้ากลับดึก”
“อะไรยะ สมัยนี้ยังมีหอแบบนั้นหลงเหลืออยู่อีกเหรอ”
“พวกหนูเด็กเรียนนะ ไม่เหมือนอีพวกที่มาฝึกเซลล์หรอก พวกนั้นเขาไฮโซเช่าอพาร์ทเม้นท์หรูอยู่กัน” ชมพู่จีบปากจีบคอ
“ไปว่าเขา แล้วกลับกันยังไง”
“นั่งแท็กซี่แชร์กัน พวกผู้ชายมันเช่าบ้านอยู่ด้วยกันคะ” ชมพู่คายออกมาเรื่อยๆ ผู้ชายก็พยักหน้า
“พี่ฝากพี่ทีน่าได้มั๊ย เพราะพี่มีนัด”
“กำลังคุยกันสนุกเลย พี่เอ๋ จะรีบไปไหน”ชมพู่นั่นแหล่ะคุยอยู่คนเดียว เพื่อนสาวนางอื่นได้แต่ฟังหล่อนพูด ไอ้พวกผู้ชายก็แอบจิบเบียร์กัน
“ทีน่า” เราตะโกนเรียกทีน่าที่กำลังสนุกกับอั้นและเพื่อนอีกคน
“อะไร” เราเดินไปหาทีน่า
“เรามีนัดนะ จะกลับก่อน ทีน่าอยู่กับน้องๆเขานะ” เห็นหน้าอั้นมันก็หิวอีกแล้ว
“หล่อนจะไปไหน” เรามันอีตัวร้ายบอกสถานที่เสร็จสรรพ
“ถ้าหล่อนจะไปก็ตามไปนะ เพราะต่อมันรออยู่ที่นั่นแล้ว เราต้องเลี้ยงพวกไอ้หนุ่มที่มาช่วยเต้นหน่ะ” เราพูดให้อั้นได้ยิน
“แล้วพี่เอ๋ไม่เลี้ยงผมเหรอ” อั้นมายืนกระซิบกระซาบข้างๆ เรามองหน้าทีน่าแล้วแสร้งทำว่าไม่มีอะไร
“เอาไว้ตามไปแล้วกันใครจะไป ดูแลพวกผู้หญิงให้ดีหล่ะ” เราหมายถึงให้ทีน่ากันน้องนีต่างหาก
“มันไม่ตามไปหรอก พวกนั้นมันขี้กลัว เคยเที่ยวที่ไหน” เพื่อนอีกคนนึงตอบ
“ตามใจนะ เราไปแล้ว” ชมพู่ยังปากดี
“อั้นไปส่งพี่เอ๋ก่อนสิ พี่เขาเลี้ยงตั้งหลายเกมส์นะ” เราจ่ายให้จริงๆเพราะแพ้พนันต่างหาก ชมพู่เดินไปแทนที่ของอั้นพร้อมน้องนีอีกคน ทีน่าค้อนเรา “ตอแหล” หล่อนไม่ได้ออกเสียงหรอก แต่เราอ่านปากออกก็แล้วกัน
“อั้นไม่ต้องไปส่งหรอก สนุกกับเพื่อนเถอะ”
“ไม่เป็นไรพี่” เราลงลิฟต์ที่ด้านหลังเพราะห้างจวนเจียนจะปิดแล้ว อั้นเข้าลิฟต์ตามมา
“ส่งแค่หน้าลิฟต์ก็พอ” เราหยุดพูดเพราะคนในลิฟต์เริ่มสนใจเรา คงเพราะหางคิ้วที่มันเรียวจากคมมีดโกนนะสิ
กว่าลิฟต์จะถึงที่หมายเราร้อนรุ่มจนเหลือจะทานทน ก็นายอั้นนะสิยืนเบียดจนไออุ่นๆของเขามันระเหยมาถูกแผ่นหลังเรา โอยชั้นอยากเหลือเกิน
“พี่เอ๋ จะให้พวกผมไปด้วยจริงรึเปล่า” อั้นเดินตามเรามาจนถึงที่รอแท็กซี่
“อั้นอยากไปก็ไปสิ พี่ไม่ได้ห้าม พี่ทีน่าคงตามไปมั๊ง” เรามองหน้าเขา เขาคงมีเชื้อจีนผสมแน่ๆ
“เป็นเด็กเป็นเล็ก อยากกินเหล้า”
“ผมบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่มีปัญหา”
“ตามไปแล้วกันนะ ส่งเพื่อนผู้หญิงให้เรียบร้อยก่อน อย่าลากเขาไปด้วย พี่เป็นห่วง” เราเดินหลบผู้คนไปอยู่ที่มุมมืดพร้อมกับบอกอั้นว่า “และที่สำคัญอั้นน่ารักจังเลย” เราพูดอะไรคนละเรื่อง “วันนั้น”เราหยุดทันทีเพราะมันจะทำให้ผู้ชายกลัว
“วันนั้นผมเมา” เมานั่นแหล่ะดี แหมรัวซะหายใจไม่ทัน
“แล้ววันนี้จะเมาอีกรึเปล่าน๊า” เราแกล้งจี้ที่เอวเขา แล้วออกจากมุมมืดนั้น
“ถ้าไปก็เจอกันนะ” เราเรียกแท็กซี่อั้นก็วิ่งกลับเข้าห่างไป แหมดูหยิ่งๆเงี่ยนๆดีนะเรานี่ นึกขำตัวเองไปตลอดทางทีน่าเหรอ ไม่ใช่ปัญหาหรอก แม้แต่หยีก็ไม่ใช่ ของแบบนี้ต้องรุกเงียบโฉ่งฉ่างแล้วไก่ตื่นเสียชื่อเสียงหมดถ้าใครเอาไปพูด
“กว่าจะมาได้ พวกผมรอจนยุงกัดแล้ว” หนึ่งหน้าเบ้ใส่เราที่หน้าร้าน
“ทำไมไม่เข้าไปหล่ะ เดี๋ยวก็ไม่มีที่นั่งหรอก”
“ใครจะกล้า กลัวพี่เอ๋เบี้ยวนะสิ ร้านใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีเงินสักบาท” แต่มีปัญญามาจนถึงได้นะ
“งั้นรอพี่ต่อก่อนนะจะได้เข้าไปพร้อมกัน”
“หญิงเยอะมั๊ยพี่” เราหันไปทำตาเขียวใส่หนึ่งบอกให้รู้ว่ามากับใคร
“ถ้าไปวุ่นวายจิกหญิงต่อหน้า จะกลับบ้านให้จ่ายเงินเอง ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน”
“กลัวแล้วคร๊าบ แม่มด” หนึ่งทำท่าไหว้ประหลก ประหลก
“ต้องให้ได้อย่างนี้” เพื่อนหนึ่งหัวเราะกับท่าทางของเรา “กินกันแบบพี่น้องนะจ๊ะ” เราบีบเป้าหนึ่งต่อหน้าเพื่อนมันเลย เอาให้เห็น หนึ่งมันทำท่าสะดุ้งแล้วก็หลบ
“เล่นอะไรไม่รู้ตัวเอง” หนึ่งทำสะบัดมือแตกสาวใส่เรา กว่าต่อจะยุรยาตรมาได้ เราต้องพาพวกหนึ่งเข้าไปนั่งข้างในก่อน ร้านประจำคนค่อนข้างเยอะวันหยุด เรามาที่นี่ก็เพราะโมนั่นแหล่ะ แต่วันนี้โมไปต่างจังหวัดยามปลอดอีกแล้ว คนบ้านึกจะมาเอาก็มาเอา เอาเสร็จก็บอกว่าจะไปต่างจังหวัดเราหยิกไข่เขาไปทีจนโดนตีหัว
“เล่นพิเรนท์อีกแล้ว มันเจ็บรู้มั๊ย”
“มันเขี้ยว” เราหอมแก้มโมเพื่อไถ่โทษ แล้วลูบไข่ตรงที่หยิกเบาๆ โมสะดุ้งเพราะกลัวเราทำอีก
“เสียวหว่ะ” เขานอนกุมไข่ไว้ทั้งคืน โมนี่ตลกจัง
ต่อมาถึงพร้อมกับหน้าตาบอกบุญไม่รับ
“เป็นอะไร”
“ก็วีนะสิ มันโทรมาคุยด้วยกว่าจะวางหู พอจะออกอีผัวเมียข้างห้องหล่อนก็ตีกันอีก โอยลำบากชาวบ้านต้องเข้าไปช่วยห้าม เมียไอ้ไม้มันบ้าถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย” เรายืนคุยกันหน้าร้าน
“ชั้นไม่เกี่ยวนะ” เราออกตัว ไม่ได้ยุ่งกับไอ้ไม้ตั้งแต่หนีไปดูหนังด้วยกันคราวก่อน
“หล่อนไม่เกี่ยวหรอกไอ้ไม้มันพาใครไม่รู้มาเอาในห้อง เมียมันกลับมาเห็นนะสิ”
“แสดงว่านาฬิกาไม่เดิน”
“หล่อนหมายความว่าอะไร”
“ก็ไอ้ไม้มันรู้เวลาดีจะตาย ทำไมมันจะกะไม่ถูก” ห้องของไม้เป็นทั้งที่เอาของเพื่อนและเพื่อนก็เอามาเผื่ออยู่เป็นประจำ ทำไมเราจะไม่รู้ ไม่อยากจะพูด นังต่อมันไม่อยู่ห้องตอนวันหยุดนะสิถึงไม่รู้เรื่อง
“เมียมันนะสิ มีคนคาบข่าวไปบอก มันจ้างแม่บ้านช่วยดู”
“ระวังนะเอ๋ อีแม่บ้านหิวเงินปากหมา สักวันหล่อนจะโดนมั่ง”
“เกี่ยวอะไรกะชั้น”
“ชั้นรู้นะ หล่อนกะไอ้ไม้หน่ะ เอากันตอนกลางวัน ตอนที่หล่อนงอนกะไอ้โม”
“หล่อนรู้ได้ไง”
“ชั้นรู้ก็แล้วกัน จริงรึเปล่าจ๊ะ” ต่อทำหน้าเหมือนมีชัย “นิสัยชอบลักกินขโมยกินแบบนี้ไม่หายซักที” ต่อเดินเชิดเข้าร้านไปแล้ว เจอหน้าหนุ่มเธอก็กรี๊ดใส่ นั่งประกบทันที สักพักพวกเราต้องต่อโต๊ะเพราะทีน่ามาจริงๆ ผู้ชายหก กระเทยสาม ส่วนคนที่จ่ายคือเรา ไม่มีทางเลี่ยง เงินที่บอสให้มายังเหลืออยู่บ้าง แสดงว่าคืนนี้ต้องควักเนื้อแล้วหล่ะสิ เฮ้อ หน่ายกะเทย.............................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

119. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
26-Apr-17, 00:02 AM (SE Asia Standard Time)
 
   241……………….
กระเทยพออยู่กับผู้ชายเยอะๆก็วุ่นวายเหลือเกินทั้งต่อ ทีน่าและเรา ต่างสาละวนป้วนเปี้ยนกับคนโน้นทีคนนี้ที สนุกจนเกินห้ามใจไม่อยู่ เรามองหน้าอั้นที่กำลังเมาได้ที่แล้วตัดใจไม่ลง ถ้าหากว่าทีน่าทำสำเร็จเหมือนเราในวันงานแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร หรือแม้แต่หนึ่งเองแม้จะห่างหายไปนานแล้ว แต่พอได้อยู่ใกล้ๆแบบนี้มันทำให้หวนคิดถึงวันเก่าๆไม่ได้เช่นกัน ใครก็ได้ในคืนนี้ แต่ทั้งคู่นั้นถูกหมายตาจากเพื่อนสนิทเราทั้งคู่เสียแล้ว เราจะทนทำตัวเป็นนักบุญที่มองผู้ชายที่เราเคยกินแล้วทำเฉยให้เพื่อนสมหวังได้กระนั้นหรือ อั้นนั่งติดกับทีน่าโดยมีเราอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้ว่าทีน่าจะชวนอั้นคุยเท่าไหร่ก็ตามแต่สายตาของทีน่ายังคอยระแวดระวังเราเหมือนกัน
“เอ๋ ดูแปลกๆนะ ไม่ค่อยพูดเลย” ทีน่ายื่นหน้ามาถาม “มีอะไรไม่ถูกใจเหรอ”
“ไม่มีหรอก อิจฉาหล่อนต่างหากที่ได้นั่งขนาบข้างด้วยหนุ่มหล่อ”
“คนสวยก็ยังงี้แหล่ะ” ทีน่าเชิดหน้าทำสวยมองไปที่อั้นและเพื่อนอั้นคนละที “นี่ก็หล่อ นี่ก็เร้าใจ ทำไงดีน๊า”
“พี่ทีน่า พี่คิดอะไรเหรอครับ”
“คิดจะกินเธอนะสิ อั้น” เราตอบไปโดยไม่คิด
“อย่าไปเชื่อเอ๋มัน เมาแล้วเลอะเลือนพูดอะไรไม่รู้” เรามองไปที่ต่อที่แข่งกันยกกับหนึ่งและเพื่อนของเขาอยู่ด้านในสุด โต๊ะใหญ่แบบนี้ มันก็สะดุดตาคนที่เดินไปมา สาวน้อยสาวใหญ่เดินเรียกคะแนนกับหนุ่มๆโต๊ะเราเช่นกัน เรารู้สึกอึดอัดกับอารมณ์หวงของตัวเองเลยลุกขึ้นโยกกับเพื่อนของอั้นที่เคลิ้มกับเสียงเพลงอยู่คนเดียว ทีน่าไม่ยอมเช่นกันขอประชันแบบสวิงสวายนั้นด้วย ผู้หญิงมาเต้นด้วยเพราะเพื่อนอั้น ตาไวไปจิกหญิงที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ หนึ่งในนั้นมองเราจากโต๊ะที่เธอนั่งอยู่แล้วไม่คาดคิด คนที่เต้นอยู่กับเราก็เดินไปจูงมือคนที่มองเราจากที่นั่งให้ลุกมาเต้นกะเรา เราพยายามไม่แรดมากเท่าไรนักเพราะไม่มีอารมณ์อ่อยผู้ชาย
“มาเที่ยวบ่อยมั๊ย” เราไม่ได้สนใจคู่เต้นของเราหรอก เพราะตาคอยมองอั้นที่เชียร์อยู่ใกล้ๆ
“ไม่บ่อย” เราตอบ “แล้วเธอหล่ะ”
“เหมือนกัน” กลิ่นเหล้าหึ่งเลย “ชื่ออะไรเหรอ น่ารักจังเลย”
“เพื่อนเราเหรอ คนไหนหล่ะ” เราไม่เข้าใจคำถามของหล่อน
“เราหมายถึงเธอนั่นแหล่ะ ชื่ออะไร”
“เอ๋”
“เราชื่อแก้วนะ” เราพยักหน้า พอเพลงจังหวะแรงขึ้น เพื่อนของแก้วก็ลุกมาแจม ทางเดินระหว่างโต๊ะแคบๆมันทำให้เบียดกันอย่างช่วยไม่ได้ เราพยายามแกะมือที่คอยจะเกาะแขนเรา หรือบางครั้งก็โอบรอบคอเรา เราไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ แก้วท่าจะเมาหนักซบเรา เรารีบคลายวงแขนเธอออกแล้วสะกิดเพื่อนของหล่อนให้มาดึงตัวออกไป
“แก้วมันปิ๊งเธอนะ เอ๋”
“เหรอ พาเขาไปที่โต๊ะเถอะ” แก้วยังดันทุรังเต้นกับทีน่าต่อ เราลอบถอนหายใจโล่งอกที่หลุดจากการเกาะกุมนั้นได้ เราเดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านในทันที อยากจะดูหน้าตัวเองในกระจก เหลือเกินว่าสภาพเป็นยังไง ทำไมไม่มีผู้ชายมาเกาะแกะเลยคืนนี้ หน้ากระจกมันสะท้อนหน้าตาที่แดง เราไม่เคยเป็นแบบนี้ คงเพราะห่างจากการกินเหล้ามานานกระมัง ทุกทีเรากินแล้วมันจะไม่แดงแบบนี้ เราหลบหนุ่มที่คอยนวดในห้องน้ำ พอจะออกจากห้องน้ำ อั้นก็เดินเข้ามาพอดี
“พี่เอ๋ ไม่ไหวแล้วเหรอครับ”
“เปล่าหรอก รู้สึกหงุดหงิดเท่านั้น”
”มีสาวน่ารักมากอดแบบนั้นยังหงุดหงิดอีกเหรอพี่”
“พี่ไม่ชอบตีฉิ่ง” เราตอบอั้นแล้วเดินกลับโต๊ะทันที
“เอ๋” แก้วยกแก้วเหล้ายื่นให้เรา หล่อนขยับตัวไปนั่งเก้าอี้ถัดไปพร้อมกับดึงแขนเราลงนั่งข้างๆ
“มีแฟนรึยัง เราชอบนายนะ” แก้วบอกความรู้สึกผสมกับความเมาออกมาอย่างโจ้งแจ้ง มือที่วางที่ต้นขาเรา เรารู้สึกชาวาบ
“แก้ว ดูไม่ออกเหรอว่าเราเป็นแบบไหน”
“ไม่รู้ ไม่ดู เราชอบหน้าตาแบบนี้นี่” แก้วจับหน้าเราให้หันไปมองหล่อน เราแกะมือออก
“พอแล้วนะ เราจะไปที่โต๊ะเราแล้ว เพื่อนเราหลายคนยังโสด เราจะคุยให้”
“แก้ว” เสียงเพื่อนทอมของหล่อนปราม เรามองหน้าเขา แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
“เดี๋ยวก่อน” แก้วดึงมือเราไว้ เราหันไปมอง
แก้วหอมแก้มเรา เราไม่ได้รู้สึกประทับใจเหมือนตอนที่ผู้ชายหอมแก้มเราสักนิดมันรู้สึกเปียกแฉะและบอกไม่ถูก เราลุกขึ้นทันที
“สวีทนะยะ” ต่อเห็นเหตุการณ์โดยตลอด
“หล่อนคงเหมือนแมนมากๆเลยวันนี้” ทีน่ามองหน้าเรา เสื้อยืดกางเกงยีนส์ตามแบบฉบับของเรา ส่วนต่อนั้นเสื้อลูกไม้พริ้วๆ ทีน่าก็ออกแนวรุ่มร่ามแบบหญิงๆ เราอายอั้นที่เขาเองก็เห็นเช่นกัน
“พี่เอ๋ ไม่เอายกให้ผมนะ” หนึ่งแซว
“เอาสิ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จัก”
”อย่านะ เดี๋ยวจะโดน” ต่อทำมือเหมือนจะตบหน้าหนึ่งแบบน่ารักตามแบบฉบับของหล่อน
โต๊ะของแก้วเลิกมาวอแวเราแล้ว แต่สายตาหล่อนยังมองเราอยู่ไม่นานทอมหัวหน้าทีมก็เช็ค และลุกกลับ
“กลับก่อนนะเอ๋” ทอมบอกกับเราตอนที่เดินผ่าน “แล้วเจอกันใหม่ เพื่อนเรามันไม่ไหวกันแล้ว” แก้วเดินมาใกล้ๆลูบคางเราแล้วก้มหน้ามาใกล้ๆ
“ขอหอมทีนึงนะตัวเอง” แก้วแนบปากกับแก้มเราอีกครั้ง เย็นยะเยือก ลื่นๆ แฉะๆ เรารีบเอามือเช็ดแก้มหลังจากที่แก้วเดินผ่านเราต้องการให้ความรู้สึกอันไม่น่าประทับใจนั้นหายไปให้เร็วที่สุด ตอนนี้ที่นั่งมันโยกย้ายกันหมดแล้ว เรานั่งติดกับอั้นแทนทีน่า ส่วนทีน่า ไปนั่งติดกับหนึ่งและเพื่อน ทำงานที่เดียวกันเลยมีเรื่องคุยกันยืดยาว ต่อนั้นก็คุยกับเพื่อนอั้นที่นั่งถัดไป เราแอบจับมืออั้นเขาบีบมือเราตอบ ไม่แปลกใจที่อั้นทำไมไม่มีคนวอแว เพราะเพื่อนแก้วบอกกับเราว่า
“คนหล่อๆคนนั้นน่าเสียดายนะเป็นแฟนทีน่า”
”เธอรู้ได้ไง”
“ก็ทีน่ามันบอกพวกเราทุกคนว่าห้ามเด็ดขาด พอพวกเราจะไปชวนเขามาเต้น หล่อนก็กันท่าตลอด” อั้นมองหน้าเรายิ้ม เราอยากจะทำอะไรสักอย่างเหลือเกิน เด็กเริ่มเอาบิลล์มาเช็คตามโต๊ะ เรานับเงินและยื่นให้ไป ไฟในร้านเริ่มสว่างแล้ว พวกเราเริ่มลุกและเดินออกจากร้านพร้อมกับกลุ่มนักเที่ยว ทั้งฝูงยืนโงนเงนกันอยู่หน้าร้าน
“เอาไงดีเอ๋ มันจะจบยังไงเนี่ย อีทีน่ามันจะเอาใครกันแน่วะ” ต่อหัวเสีย
“ไม่รู้มัน” อั้นกับเพื่อนยืนคุยกันอยู่ไม่ห่าง
“ว่าแต่พวกเรานั่นแหล่ะ จะเอาไง จะกลับหรือว่า” ต่อมองหน้าเรา
“ถ้าแพ้อีทีน่าก็ไม่ใช่ชั้นกะหล่อนนะ ดูมันสิ” ทีน่าคะยั้นคะยอให้เด็กๆทั้งหลายตามหล่อนไปอีกที่นึงเพื่อร้องเพลง
“เอ๋ ไปด้วยกันมั๊ย แถวบ้านชั้นเองนะ”ทีน่ามือนั้นยังคล้องคอเพื่อนของหนึ่งอยู่ เราหันไปมองอั้นกับเพื่อน
“ว่าไงหล่ะ อั้นจะไปต่อกันมั๊ย” เขาส่ายหน้า
“ไม่ไหวพี่เอ๋ “ แต่เพื่อนของอั้นยังอยู่ในอารมณ์นั้นอยู่ ต่อเดินไปหาทีน่าถามสถานที่
“ชั้นจะไป” ว่าแล้วต่อก็ลากแขนเพื่อนของอั้นไปขึ้นที่เบาะหลังของแท็กซี่
“พี่เอ๋ ไปเถอะนะ เดี๋ยวผมพาไปเอง” หนึ่งเรียกแท็กซี่อีกคัน นั่งคู่กับคนขับ ตอนนี้มันแตกกลุ่มกันหมดแล้ว เรานั่งตอนหลังติดกับอั้น เรารู้ว่าเขาเมามาก
“ไอ้อั้น นี่คออ่อนน่าดู แค่นี้ก็เมา” เพื่อนเขาที่นั่งถัดไปคุยกับเรา อั้นนั่งตรงกลาง เขาหงายหน้าพิงกับเบาะหลับตาไปตลอดทาง
“ทำไมพวกเธอไม่เมาหล่ะ”
“พวกผมหน่ะระดับไหนแล้ว ว่ามั๊ยหนึ่ง”
“เออ เออ มันจะไม่เมาได้ไงหล่ะ พี่เอ๋ พี่ทีน่ามอมมันอยู่คนเดียว”
“แล้วทีน่าทำไมไม่ดูแลเขาหล่ะ”
“พี่ทีน่านะเหรอ พอเห็นอั้นมันคุยไม่รู้เรื่อง คอตกก็เลิกสนใจแล้ว พี่เอ๋ชวนมันมาต้องรับผิดชอบเองนะคร๊าบ”
“แล้วอั้นจะนั่งไหวเหรอ”
“ไปถึงก็ไหวเองแหล่ะพี่” เรามองหน้าอั้นที่หลับตาพริ้ม ยังรู้สึกถึงการบีบมือของเขาได้ดีในร้านนั้น
เพื่อนอั้นประคองเขาลงจากรถแล้วส่ายหน้า อั้นเข้าไปในร้านก็ฟุบอยู่กับโต๊ะ ต่อกะทีน่าแหกปากร้องเพลงด้วยกัน “อั้นกินชาร้อนๆก่อนนะจะได้ดีขึ้น” เราเรียกเขาแล้วยื่นถ้วยชาให้ อั้นกัดฟันกินมันจนหมดแต่มันก็ได้แค่บรรเทา
“เฮ้ยกูกลับก่อนนะ” อั้นบอกกับเพื่อน แต่เพื่อนได้แต่มอง
“มึงจะกลับยังไงหว่ะ คนเดียว พวกกูยังสนุกอยู่เลย” เพื่อนของอั้นเริ่มมีความหวังกับสาวๆพวกหาป้ายสุดท้ายเหมือนกัน
“เออ กูกลับได้” อั้นลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหน้าร้าน เรารีบเดินตามออกไป ต่อหันมาส่งซิกให้ เราเองยังอยากได้อั้นอยู่แต่ก็ห่วงเพื่อนเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปดูเอง” เราห้ามเพื่อนของเขาไม่ต้องตามออกมา
“อั้น” เขานั่งก้มหน้าอยู่ที่ข้างๆกระถางต้นไม้หน้าร้าน
“บ้านอยู่ไหนเหรอ”
“ไอ้เพื่อนเวร หลีหญิงอีกแล้ว”
“กลับไหวมั๊ย”
“ไหว” อั้นลุกขึ้นตามแรงดึงของเรา เราดันเขาเข้ารถแท็กซี่แล้วนั่งประกบที่ด้านหลัง เราเห็นทีน่าวิ่งออกมาเหมือนจะเรียกเราให้กลับเข้าไป แต่ไม่ทันแล้วหล่ะ ใครจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ เรารู้แค่ว่าเราต้องการเขา อั้นนอนคอพับอยู่ที่คอเราแล้วก็เอนลงมาที่ตัก เรามองที่กระจกมองหลังอย่างระวังแท็กซี่มือก็เลื้อยผ่านข้างลำตัวแล้วสอดเข้าไปในกางเกงของอั้นผ่านนอกผ่านในกำท่อนไว้แล้วรูดเล่นไปตลอดทางอั้นกางขาให้เรากุมไข่เขาได้ง่ายขึ้น เขาคงไม่รู้ตัวกระมัง ถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์เราทั้งลากทั้งประคองอั้นจนถึงห้องของเรา
“ที่ไหนนี่พี่ ผมจะกลับห้องผม”
“ห้องพี่เองแหล่ะ นอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ”
อั้นวิ่งเข้าห้องน้ำเขาคงรู้สึกผะอืดผะอมในที่สุดทำนบมันก็พังทลาย อั้นโก่งคออาเจียนใส่ชักโครกอย่างเอาเป็นเอาตาย เราลูบหลังเขาเบาๆ ตาของอั้นแดงเจือไปด้วยน้ำตา เรานึกสภาพน้ำขมๆที่ออกมาได้นั้นมันแทบขาดใจเหลือเกิน
“พอ พอพี่” อั้นเอามือโบกให้เราเลิกลูบหลังเขา อั้นนั่งทรุดกับพื้นห้องน้ำ อย่างหมดสภาพก่อนที่จะกดชักโครกที่เต็มไปด้วยอาเจียนอยู่หลายครั้ง เขาบ้วนน้ำขมๆในปากที่อ่างล้างหน้าอยู่นานแล้วบ้วนปากล้างหน้าแรงๆเพื่อให้สร่าง จนเสื้อผ้าเปียกพอสมควร เรายื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา อั้นเช็ดหน้าเบาๆ ตาเขายังแดงอยู่ กาแฟดำตามมา
“กินเข้าไปสักหน่อยแล้วกันจะได้ดีขึ้น” เขารับไปแล้วค่อยๆกินพร้อมทำหน้าเหยเก ความขมของกาแฟยังไงมันก็ดีกว่าขมน้ำดีก็แล้วกันง
“ดูสิเสื้อขาวเปื้อนหมดเลย” รอยกระเด็นของคราบที่มันพุ่งออกมา อั้นดูสารรูปของตัวเองในกระจกแล้วเสยผมที่มันเปียกขึ้น
“ไม่เป็นไรพี่” เรายื่นผ้าขนหนูให้เขาพร้อมแปรงสีฟันสำหรับแขก ของพวกนี้เรากับต่อจะไม่ให้มันขาดจากห้องเพราะบางทีได้ผู้ชายมาจะจูบปากผู้ชายแล้วผงะมันเลยต้องเตรียมเอาไว้
“อาบน้ำหน่อยแล้วกันจะได้รู้สึกดีขึ้น” อั้นรับมันไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เขาออกมาพร้อมกางเกงสีดำของเขา เช็ดตัวเสร็จก็จะหยิบเสื้อขาวที่ผึ่งไว้มาใส่แต่มันเปียกอยู่
“จะรีบไปไหนเหรอ” อั้นหันมามองหน้าเรา
“พี่เอ๋ พาผมมาห้องทำไมครับ”
เกลียดพวกรู้ทันที่สุด
“รอก่อนนะ” เราเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ถ้าคืนนี้มันจะวืดก็ไม่เป็นไร สายน้ำดับความรุ่มร้อนในอารมณ์ของเราได้เป็นอย่างดี อั้นนั่งสูบบุหรี่ที่ระเบียง เสื้อของเขายังไม่แห้ง เพราะเราแอบซักตอนที่เขาอาบน้ำ จัดการกับตัวเองเสร็จก็คว้าเสื้อของเขามาผึ่งกับพัดลม
“ดีขึ้นรึยัง” เรานั่งข้างๆเขา ที่ถอดเสื้ออยู่ ผิวขาวละเอียดมาก วัยมันทำให้ทุกอย่างดูดีไปหมด เราใช้นิ้วไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเขาเล่น มันเป็นรอยตามเล็บเราที่ขีดมันเบาๆ อั้นยังนิ่งเฉย
“ป่านนี้เพื่อนคงยังสนุกอยู่มั๊ง”
“พรุ่งนี้มันคงล้อผมแน่ๆ”
“ถ้าไม่ได้มีอะไร ทำไมจะต้องอายหล่ะ” อั้นมองหน้าเราอีกทีเขาขยี้บุหรี่ที่ซิงค์แล้วเดินไปในห้อง เราปิดประตูระเบียงเปิดแอร์
“เดี่ยวเสื้อก็แห้งแล้ว นั่งคุยกันไปพลางๆก่อนนะ ไม่นานเพื่อนพี่คงกลับมาพร้อมเพื่อนของอั้นนะแหล่ะ เขาบอกเดี๋ยวจะตามมาต่อที่ห้อง รอที่นี่แหล่ะจะได้กลับพร้อมกัน” อั้นเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นลูกอาจารย์ที่ปรึกษาของพี่แจ่มและพ่อเขาเป็นคนแนะนำให้มาฝึกงานพร้อมกับเพื่อนๆ ที่อยู่ก็มาเช่ากันเอง ส่วนเพื่อนผู้หญิงมาสนิทกันเพราะโอเรียนเทชั่นพร้อมกัน
“จะถอนสักหน่อยมั๊ย” เขาส่ายหน้า เรายื่นเสื้อยืดให้เขาใส่ พร้อมคิดในใจว่าทำไมมันยากกว่าคืนนั้นนัก เขาใส่เสื้อแล้วนั่งเอาหัวพาดไว้บนเตียง เขายังมึนอยู่ เราเปิดเพลงเบาๆ แล้วปิดไฟในห้อง มีห้องมีเพียงไฟจากโคมที่ให้แสงสว่าง เราขยับไปนั่งใกล้ๆเขาแล้วลูบที่ต้นขาเขาเล่น อั้นไม่ได้ถอยหนี เราย่ามใจค่อยๆไซ้ทีต้นคอของเขาเล่น
“ขนลุกไปหมดแล้วพี่ เล่นอะไรก็ไม่รู้” เราไม่หยุดการจู่โจมนั้น มือสอดเข้าไปในเสื้อเขี่ยหัวนมเขาเล่น อั้นเบี่ยงตัว หันมามองหน้าเรา ตาต่อตามองกันอยู่นาน เขาคงตัดสินใจแต่เราไม่รอแล้ว มือเราวางที่เป้าของเขาเค้นมันเบาๆ มันเริ่มแสดงอาการแม้อั้นจะพยายามแกะมือเราออก แต่ว่าเรื่องแบบนี้หากเรากะเขาไม่เคยมีอะไรกันมาก่อนมันคงยากกว่านี้ รีโมทวีดีโอเริ่มทำงานพร้อมกับภาพเคลื่อนไหวของวีดีโอที่โมเปิดทิ้งไว้ เราดันตัวอั้นให้ขึ้นไปบนเตียง เขาหลับตา เราแกะเข็มขัดมือเขาปัดป้อง
“ทำไมเหรออั้น” เรามองตาเขาอย่างตัดพ้อ แต่มือยังพยายามอยู่ เข็มขัดหลุดแล้วตะขอตามมา ซิปไหลลงเรื่อยๆ เรายังจับมันตามความยาวนอกกางเกงใน พอจะเอามือล้วง
“พอแล้วพี่เอ๋”
“นะอั้นนะ นิดเดียวเอง” เราอ้อน มือแข็งๆยังคงไม่ยอม
“มันไม่ลุกหรอก อย่าจับเลยพี่”
“โกหก”
มือเราหลุดเข้าไปได้แล้วเราชักมันเล่น ขนหยาบๆระคายมือดีจัง เราดึงกางเกงเขาลงพร้อมบอกว่า
“มันจับไม่ถนัด” กระเทยได้ห้าจะเอาสิบ อั้นเกร็งตัว เรายอมแพ้เปลี่ยนเป็นงัดมันออกมาจากกางเกงในแทน
“อ้าว เป็นงั้นไป”อั้นมองหน้าเรา มือเรายังรูดกระบองเล่นอยู่ “เห็นมั๊ยมันไม่มีอารมณ์”
“ดูหนังโป๊แล้วยังไม่มีอารมณ์อีกเหรอ” อั้นหันไปที่จอทีวี “ถ้าเป็นหญิงจริงคงคร่อมไปแล้ว” เขาพูดทีเล่นทีจริงให้มันรู้ไปสิ ว่าของปลอมอย่างเราจะทำไม่ได้ นางมารกำลังกินเหยื่อในจอ เราเลื่อนตัวลงมาที่ท่อนลำที่นอนครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างรวดเร็ว ค่อยๆดมมันเล่น
“ฮั่นแน่” อั้นจะเอามือปิด ปากเราไวกว่าครอบมันไว้แล้ว เรารีบดูดทันที อั้นเอามือปิดตาไว้แทน เขาปล่อยให้เราดึงกางเกงออกง่ายๆ ของปลอมก็เสียวได้เหมือนกันนะคะ แข็งและยาว ท่อนขาวหัวแดง เราดูดอย่างดูดดื่มอั้นเกร็งแล้วเกร็งอีก เราบีบไข่เขาสองเม็ดนั้นถูกลิ้นตวัดเล่นอย่างว่าง่าย มันหดรั้ง เขาอยู่ในสภาพพร้อมแล้วสิท่า เราเอื้อมมือหาอาวุธลับ ฉีกและครอบมันรูดมันเบาๆ แสงสว่างรางและขนาดทำให้เราเงอะงะพอสมควร
“พี่เอ๋ ทำอะไร” อั้นเหลือบมองมือเราที่รูดถุงยางลงช้าๆที่หัวจนถึงลำตัวแล้ว
“ทำอะไรดีหล่ะอั้น” ทำไมจะไม่เคยแม้มันจะยังแดงอยู่แต่เส้นสองสลึงไม่เหลือแล้วนี่ อั้นมองหน้าเราอย่างไม่แน่ใจ
“อั้นทำได้มั๊ย” เขาส่ายหน้า ไม่เป็นไรคะไม่คร่อมชั้นชั้นคร่อมเองก็ได้ เราป่ายขาข้ามตัวเขา ดึงกางเกงออกเฉพาะด้านหลังมือประคองแล้วแหย่เข้าไป หัวมันหลุดเข้าไปทีละนิด เรารู้สึกแสบพอสมควรมันใหญ่เหมือนกันนะ
“อั้นช่วยหน่อยสิ เข้าแล้ว” เขาดันสะโพกสวนขึ้นมา ปั๊วะสุดลำ สุดยอดขอบคุณพ่อพระเอกหนังในจอ ที่สอนอั้นแทงสวน จังหวะมันคล้องจองกันดีมาก จุกเล็กน้อย สักพักอั้นก็เหนื่อย เราควบแทนจนเหนื่อยเขามองทีวีตาแป๋วพอเราหยุดเขาก็สวนต่อ สนุกจัง เราโน้มตัวลงไปหาเขาจูบที่คอเขาพร้อมซุกไซ้ ท่อนยาวๆมันแทงเข้าแทงออกอย่างเอาเป็นเอาตาย จุกเสียดเหลือเกิน
“พี่เอ๋ แตกแล้วพี่” อั้นบอกเราตอนที่มันหลุดออกมา เรารีบไปหาที่หมาย ดึงถุงยางออกโดยเร็วน้ำหวานพุ่งใส่กระพุ้งแก้มเรา อั้นร้องครางเกร็งต้นขา เรายังตามโหมดูดให้มันหมดท่อนอย่างเอาเป็นเอาตายจนเขาเกร็งแล้วเกร็งอีก อั้นกุมพวงไปห้องน้ำ ตามด้วยเราล้างเช่นกัน
เสียงต่อเปิดประตูตอนตีห้า เรารีบเปิดออกไปดู
“เพื่อนผมหล่ะ”อั้นถาม
“กลับกันหมดแล้ว”
”อ้าวผมจะกลับไงเนี่ย กระเป๋าตังอยู่ในเป้ มันเอาเป้ผมกลับด้วยมั๊ยครับ”
”เขาไม่เมาจนลืมของแบบเธอหรอก รูปหล่อ” ต่อกัดอย่างอารมณ์ดี อั้นกลับเข้ามาในห้อง
เรายื่นค่ารถให้เขา ห้าร้อยบาท
“มากไปพี่” อั้นจะคืนเรามา
“เหลือแล้วค่อยมาคืนแล้วกัน ไม่มีเงินติดตัวไม่ใช่เหรอ” เราไม่รับคืน เพราะอยากสานต่อ เขาเปลี่ยนเสื้อยืดเป็นเสื้อขาวของเขา เรามองการเคลื่อนไหวของเขาอย่างเสียดาย เราอยากจะนอนดอมดมท่อนลำนี้อีกสักวัน ตอนที่เขาเผลอเราคว้ามันจากภายนอก
“ยังไม่อิ่มเหรอพี่”
“ยัง” อั้นมองหน้าเรา
“ผมกลับก่อนนะครับ”
“แล้วเมื่อไหร่จะมาหาพี่อีกหล่ะอั้น”
“เมื่อไหร่ดีหล่ะครับ” อั้นตอบแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เราเซ็ง ได้แล้วแต่ไม่อิ่มนี่มันสุดจะทำใจเนะ กระเทยสองนางไม่ได้นอน เพราะมานั่งเม้าท์กันต่อ
“ไปที่ห้องของพวกมันนั่นแหล่ะ อีทีน่างี่เง่ามันลากพวกไอ้หนึ่งไปหมดเลย บอกว่าทางเดียวกัน ชั้นก็เลยต้องติดรถเพื่อนอั้นมา”
“แล้ว”
“มันก็ต้องถอนสิจ๊ะ สองไม้ได้แต่ดูด ก็ยังไม่เสียเที่ยวนะ” ต่อเหมือนไม่ค่อยพอใจ “ไม่แตก ชั้นแกล้งนอนแล้วลุกขึ้นมาดูดพวกมันทีละคน”
“ใครจะโชคดีอย่างหล่อนหล่ะ เอ๋ ดีนะที่หล่อนลากอั้นมันมาได้พอหล่อนออกจากร้าน เพื่อนมันก็แทบวงแตกมันห่วงเพื่อนกัน จนชั้นหลอกว่าเดี๋ยวจะไปเจอกันที่ห้องหล่อน แต่ต้องกินเหล้าให้หมดก่อน ชั้นต้องขอบคุณน้องนีโต๊ะข้างๆที่ช่วยชั้นดึงเกม”
“น่ารักจัง”
“มันหน้าหม้อต้องเอาหม้อมาล่อ สรุปอีทีน่านี่เป็นโรคประสาท จะเอาใครก็ไม่รู้ มั่วไปหมด แบบนี้ไม่มีทางได้และจะพลอยนกไปทั้งฝูงด้วย” ต่อกระแทกเสียงแบบอารมณ์เสีย
เราเจอหน้าอั้นและเพื่อนในเช้าวันจันทร์ความสัมพันธ์มันไม่ได้ดูดีขึ้นแววตาของอั้นเหมือนจะไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก เพื่อนเขาแกล้งแซว แต่เขาทำหน้าเฉย
“พี่เอ๋ พามันไปไหนมาครับ”
“ไปนั่งรอพวกเธอที่ห้องนะสิ ไปไหนกันต่อเหรอ ถึงไม่ยอมตามมา ได้หญิงแล้วหนีกลับ”
“หญิงอะไรพี่”
“หญิงต่อไง”
“น่ากลัว” เพื่อนอั้นเปลี่ยนเรื่อง ก็พอกันหล่ะนะจ๊ะหนุ่มๆ
“ว่าไงเอ๋” พี่แจ่มตบบ่าเรา “อย่ามาหลอกล่อเด็กๆนะยะ” อั้นมองหน้าพี่แจ่ม
“ไม่ได้หลอก น้องเขาน่ารักก็อยากรู้จัก”
“ถามชั้นก็ได้ อยากรู้จักคนไหน ไม่ต้องจีบเอง” พี่แจ่มเท้าสะเอวมองหน้าเรา
“แหม ไม่จีบเองก็ไม่รู้จักสิ ให้คนอื่นจีบให้ พอดีโดนคาบไปหมดสิ พวกแม่ปลาช่อนน่ากลัวจะตาย” เราลุกเอาถาดไปเก็บ พร้อมเสียวแหวของพี่แจ่ม
“อีบ้า” แล้วแกก็หัวเราะ อั้นยังทำหน้าเฉย เราไม่สบายใจที่การณ์กลับเป็นแบบนี้ เสียดายนะนึกว่าจะมีตอนต่อ แต่ช่างมันเถอะ ไหนๆก็ทำไปแล้วนี่ ตอนเย็นก็สะเทือนใจอีกที่เขาเดินผ่านเราไปโดยไม่ได้ทักทายอะไรสักนิด เราได้แต่มองตามร่างสูงของเขาเดินคุยกับพวกเพื่อนที่ฝึกงานออกจากทางเข้าออกพนักงานตอนที่เรารอทีน่า
เราโบกมือให้ชมพู่ซึ่งออกมาเป็นคนสุดท้าย อั้นยืนจับกลุ่มรอกันอยู่ข้างนอก เขาไม่ได้มองหน้าเราเลยสักนิด
แย่จัง..............


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
โปโป
Guest

120. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
26-Apr-17, 00:03 AM (SE Asia Standard Time)
 
   242
“พี่เอ๋ นี่แสบมากเลยนะ” อั้นพูดกับเราเมื่ออยู่ในลิฟต์สองต่อสอง
“แสบอะไร”
“พี่คงเอาไปพูดทั่วโรงแรมแล้วสิ”
“บ้าเหรอ ใครจะเอาไปพูด มันดีนักเหรอไง” เราฉุนกำลังคิดจะพูดด้วยซะหน่อยมาว่ากันแบบนี้ได้ไงเนี่ย
“ถ้าพี่ไม่พูดเพื่อนพี่เขาจะมาแซวผมทำไม” อั้นยังดูเป็นเดือดเป็นแค้น
“ไม่เชื่อก็ตามใจ แล้วแต่เธอ” เราก็ไม่สนหรอก อะไรกันนักหนาแค่เอากะกระเทย รับไม่ได้แล้วนอนแบให้ทำไม เสียงลิฟต์เปิดระหว่างทางทีน่ากำลังเข็นผ้าไปส่งเมด พอเห็นเราทั้งคู่ก็ทำหน้าเหมือนรู้แกว
“ฮั่นแน่ จีบกันอยู่เหรอจ๊ะ ขัดคอรึเปล่าเนี่ย” อั้นยิ่งหัวเสียไปกันใหญ่เขาชี้หน้าเราตอนที่ทีน่าหันหลังให้ เรายักไหล่ไม่แคร์ต่อกิริยาของเขา พอลิฟต์เปิดก็เดินออกโดยไม่รอ อั้นต้องเอาเอกสารมาที่ฝ่ายเงินเดือนทุกวัน วันนี้บอสทั้งคู่ไม่อยู่เราต้องเซ็นต์ใบเบิกจ่ายค่ายาของพนักงานแทน พอพี่ฝ่ายการเงินให้เขาตามมาให้เราเซ็นต์ที่ห้อง เราปิดประตูจากที่เคยเปิดไว้แล้วอยู่ดูงานอย่างอื่นต่อ เสียงเคาะประตูของเลขาหัวหน้าพร้อมกับค่อยๆโผล่หน้าเข้ามาทีละนิดเพื่อขออนุญาต
“มีเอกสารให้เซ็นต์แทนนายคะเอ๋”
“มีอะไรบ้างบอกพี่เขานะ”เลขาอาวุโสเดินออกไปทิ้งไว้แต่น้องอั้น เขาปิดประตูออฟฟิศแล้วนั่งอยู่ต่อหน้าเรา เราไม่สนใจก้มหน้าตรวจเอกสารที่วางอยู่ต่อหน้าแล้วจรดปากกาลงชื่อให้เขา เราเหลือบตามองดูอั้นหลังจากที่เซ็นต์เสร็จพร้อมกับดันแฟ้มให้เขา
“มีอะไรอีกรึเปล่า”
“เห็นมั๊ยเพื่อนพี่แซวอีกแล้ว” เรามองหน้าเขา
“แล้วทำจริงรึเปล่าหล่ะ” เขาไม่ตอบหากแต่ขยับตัวจะลุกขึ้นเราเอื้อมมือจับที่แฟ้มยื้อเอาไว้
“ล้อเล่นน่า เพื่อนพี่เขาก็งี้แหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นพี่หรือเป็นใคร ถ้าอยู่กับผู้ชายตามลำพังก็จะโดนแบบนี้ ถ้าอั้นไม่คิดมากเกินกว่าเหตุก็ไม่น่าจะอารมณ์เสียนี่” เราเดินลุกไปยืนที่ข้างประตูมองออกจากกระจกไปข้างนอกห้อง ทุกคนก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานตัวเอง อั้นลุกขึ้นยืนรวบแฟ้ม
“ว่าแต่อั้นเถอะ คิดอะไรรึเปล่า แต่พี่คิดนะว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันเหมือนวันนั้นอีก” เขามองหน้าเราอย่างงุนงง เราเปิดประตูห้องให้เขา แล้วเดินออกไปค้นงานที่เอพีต่อ อั้นเดินผ่านเราจากด้านหลังลมเบาๆจากการเดินสวนมันโชยกลิ่นอ่อนๆของตัวเขาที่เราสูดดมมาทั้งคืนก่อนหน้านี้ เราเผลอมองตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้จริงๆที่มันทำให้รู้สึกวาบหวามแบบนี้ เราคงชอบเขาขึ้นมาแล้วกระมัง
“เอ๋” เสียงแหบๆของโมที่ปลายสายคอยกระตุ้นเตือนให้เราตอบคำถามของเขา เราเผลอตัวไปคิดถึงอั้นอีกจนได้
“อะไรนะ ไม่ได้ฟัง”
“ทำอะไรอยู่ใจลอยเหรอ” เราสะดุ้งจากภวังค์
“กำลังดูทีวี”
“สนใจฟังหน่อยสิ นี่คิดถึงนะถึงโทรมาหาเนี่ย ถ้าไม่ตั้งใจฟังจะได้วาง”
“แค่นี้ก็โกรธ”
“ไม่ได้โกรธ ไม่อยากเสียเวลาต่างหาก” เรารีบหันความสนใจมาที่ปลายสาย
“แล้วเมื่อไหร่จะกลับกรุงเทพฯซะที”
“ก็แล้วเมื่อไหร่จะมา”
“มันลางานลำบาก ตอนนี้มันช่วงไฮซีซั่น”
“เลี่ยงตลอด”
“โมนั่นแหล่ะ แวะมาหาซักทีสิ จะลงแดงอยู่แล้ว”
“จริงเร้อ”
“จริงๆ” เรายิ้มขันตัวเองที่ตอแหลได้แม้กระทั่งกะโม
“นะ นะ” เราอ้อนเขาเล็กน้อย
“ขอคิดดูก่อนแล้วกัน อยากจะพักสักหน่อยเหมือนกัน งานหนักชิบหาย” น้ำเสียงฟังเหมือนเหนื่อยจริงๆ
เขาวางหูไปแล้ว เราชักรู้สึกไม่ดีกับการเอาล่อเอาเถิดของเรากะโมนี่มันจะเข้าทำนองสามวันจากนารีเป็นอื่นรึเปล่านะ เราส่ายหน้า ชั้นไม่ใช่ผู้หญิง เราบอกตัวเองแบบนั้นแล้วนอนคว่ำหน้ากับหมอนหลับตานึกถึงความหวานนุ่มลิ้น รสชาดของอั้น ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่านนี่สินะหญ้าอ่อนมันก็หอมหวานอย่างนี้นี่เอง แม้จะเคยผ่านหญ้าอ่อนมาหลายต่อหลายครั้งแต่ตอนนั้น เราก็หญ้าอ่อนเหมือนกัน ถ้าเปรียบกับพี่ภูหรืออาจารย์โต เราก็คงเป็นหญ้าอ่อนสำหรับแกเช่นกัน
“ว่าไงจ๊ะ อั้น” เราเดินเข้างานพอเห็นแผ่นหลังอั้น เราก็รีบสาวเท้าให้ทันแล้วทักเขาโดยไม่หันกลับไปมองเขาอีกที่เช่นกัน กลิ่นน้ำหอมที่บรรจงเลือกให้อินเทรนด์ผู้ชายคงจะโชยผ่านจมูกเขาเหมือนกับหลายคนที่ทักอย่างชื่นชมว่าชอบกลิ่นนี้ เสียงย่ำฝีเท้าที่ตามมายังเป็นจังหวะเดิมแต่สักพักเหมือนการก้าวตามจะเร่งขึ้นเร็วกว่าเดิม
“จะรีบไปตามควายที่ไหนยะ” เราสะดุ้ง ที่แท้ก็เป็นทีน่านั่นเอง
“นึกว่าใครเหรอยะ เดินงี้น้ำหอมตลบซอย ชั้นวิ่งตามกลิ่นมานึกว่าใคร วันนี้ฉีดอะไรมาหล่ะ” นึกไม่ออกหรอก น้ำหอมหลายต่อหลายขวดที่วางในตู้เย็นฉีดไม่ซ้ำกลิ่นจนตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นกลิ่นไหน เราหันไปยิ้มอย่างเซ็งในอารมณ์กับทีน่า อั้นมันเลี้ยวไปทางไหนนะ
“เอ๋ หล่อนมีอะไรกะอั้นมันเหรอ”
“ทำไม”
“เมื่อกี๊นะ ชั้นเห็นมันเดินตามหล่อนอยู่ดีๆ พอมันหันมาเจอชั้นมันก็หยุดแล้วเดินกลับไปทางเดิม”
“ไม่มี”
“ไม่เชื่อ”
“ตามใจ”
“นี่ แล้วสำเร็จรึยังหล่ะ ที่จะติดต่อให้หน่ะ หรือว่าแดกเองไปแล้ว”
“บ้าเหรอทีน่า พูดแบบนี้ใครได้ยินเข้าไม่ดีรู้มั๊ย พี่แจ่มด้วยแกยิ่งหวงของแกอยู่”
“หวงไว้ให้อีกระเทยแผนกแกหน่ะสิ”
“ปาก”
“จริงๆ อีกระเทยที่ห้องแกนะแหล่ะตัวร้าย” วงการโรงแรมนี่มันกระเทยเยอะจริงๆ
“เขาไม่ใช่กระเทยซะหน่อย เขาเป็นเกย์”
“เกย์ อี๋นะสิ แต่งหน้าซะขาวยังงั้น นี่มันไม่ยอมรับอะไรซักอย่างหรอก มันว่ามันเป็นผู้ชายแท้ๆ ผู้ชายแท้ๆที่ไหนกันอยากจะอ๊วก”ทีน่าทำเหมือนจะอ๊วกออกมาจริงๆ
“เขาก็อยากดูดีนะแหล่ะ นี่อย่าไปแขวะชาวบ้านเขาเลยตัวเองไม่กล้าก็บอกมาเถอะ”
“กล้า”
“งั้นก็ไปนั่งกินข้าวที่แคนทีนกะอั้นให้ดูหน่อยสิ ถ้าแน่จริง” เรารู้ว่าทีน่ากลัวปากพี่แจ่ม เพราะแผนกนั้นเขามาพร้อมกันทั้งห้อง แต่ตอนเช้าทุกคนมาไม่พร้อมกัน เราเลือกนั่งอีกด้านของแคนทีนที่ประจันหน้ากับอั้นพอดี เขาทำเป็นไม่สนใจอ่านหนังสือพิมพ์ไปกินข้าวไปทีน่าวางจานข้าวต่อหน้าอั้นและบังอั้นจากสายตาเรา
เรายิ้มขำอยู่คนเดียวก่อนจะลุกเอาถาดไปเคลียร์ เดินผ่านโต๊ะของคนทั้งคู่ เราแสร้งยิ้มที่มุมปากให้อั้นเห็นเขาหลบสายตาเราไม่ทันมันก็ประสานกันแว่บนึง อั้นทำทีเป็นหัวเราะกับเรื่องที่ทีน่าชวนคุย หากแต่สายตาเขายังคอยระวังหลังเหมือนรู้ว่าเราจ้องมองจากที่เทเศษอาหาร เราเดินตัวปลิวโฉบผ่านอีกรอบแล้วออกจากแคนทีนไปทำงาน รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งแกล้งเขาเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกชอบเขาขึ้นมาเป็นทวีคูณ สมน้ำหน้าตัวเองนัก
“พี่เอ๋” ชมพู่วิ่งตึกตักตามเรามาข้างหลัง
“พี่เอ๋รู้มั๊ย วันนี้วันเกิดอั้นนะ” แล้วมาบอกชั้นทำไมนี่
“ทำไมพี่ต้องรู้ด้วยเหรอวันเกิดใคร” ข้อมูลใหม่
“แหม พอดีอั้นมันจะพาไปเลี้ยงเล็กๆน้อยๆหน่ะพี่ เห็นมันชวนพี่ทีน่าด้วย เลยมาถามพี่อีกคน พี่เอ๋คุยสนุก”
“เจ้าภาพเขาไม่ได้ชวน ใครจะกล้าไปกินของเขา ว่ามั๊ยชมพู่”
“แหมพี่เอ๋ก็ ทีพวกพี่ยังเลี้ยงโบว์ลิ่ง เลี้ยงเหล้าอั้นได้เลย”
“มันผ่านไปชาตินึงแล้วมั๊ง แล้วเขาจะมาเลี้ยงพี่คืนทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
“ระวังพี่ทีน่าจะคว้าไปนา”
“พี่ไม่กลัวหรอกทีน่าหน่ะ เขาเพื่อนพี่ พี่ไม่ได้คิดอะไรกะเขานี่” เหมือนรู้สึกว่าใครที่อยู่ข้างหลังฟังการสนทนาโต้ตอบเรากะชมพู่ผ่านทางเดินนั้นอยู่ เราหันกลับไปมอง หน้ามันชาอย่างแรงอั้นเดินอยู่ข้างหลังพร้อมกับเกย์หญิงแผนกบุคคล คนที่ทีน่าไม่ปลื้ม แม้จะอยู่โรงแรมเดียวกันแต่เขาทำตัวเชิดๆ เวลาคุยก็เหยียดๆ ตัวเองตำแหน่งอะไรนักหนา เรานึกถึงตำแหน่งของหล่อนแล้วถึงเลิกคิดโต้ตอบ จะมาอ้างว่าจบนอกแล้วมาทำท่าสูงส่งใส่เรานะเหรอ แต่เรื่องที่เม้าท์กะชมพู่นี่มันก็สมควรให้เขาเหยียดที่มุมปากหรอกนะ ชมพู่รู้สึกไม่เป็นการส่วนตัวเลยรีบจ้ำอ้าวไปอีกทางเพื่อจ่ายเอกสารแต่ละแผนก เกย์ทำท่าไฮโซเลี้ยวไปทางห้องจีเอ็ม อั้นเดินตามมาเรื่อยๆจนถึงหน้าลิฟต์ เขายืนรออย่างคนที่ใจจดจ่อ คอยมองไฟที่บอกชั้น พอลิฟต์เปิดเขาแทบจะวิ่งเข้าทันที เราตามแทบไม่ทันเพราะอั้นเหมือนจะแกล้งกดให้ลิฟต์ปิดเร็วกว่ากำหนด บานเลื่อนมันกระแทกเราจนเซ รู้สึกเจ็บที่แขนพอสมควร เรานิ่งหน้าคลำแขนตัวเองที่โดนบานเลื่อนมันชน แล้วมองหน้าเขา เขาอมยิ้มคงจะเห็นท่าที่เราตกใจเมื่อครู่ แล้วเขาก็ระเบิดหัวเราะเมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิท
“เธอแกล้งชั้น ชั้นจะไปฟ้องพี่แจ่ม” เราฉุนขาดเลยทีเดียว
“วิ่งไม่ดูตามาตาเรือเองนี่” มัวแต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกันอยู่จนไม่ได้กดชั้นที่จะไป ไฟบอกชั้นมันผ่านไปแล้วมีคนที่ชั้นบนกดเรียกอยู่อั้นรีบกดชั้นที่เป็นออฟฟิศบัญชีแต่ไม่ทัน เราได้แต่ขำ
“สมน้ำหน้า” เรายืนมองเขาจากด้านในของลิฟต์ ผู้ชายคงคิดว่าเราเป็นผีเฝ้าลิฟต์กระมัง เพราะมันวนเวียนมาเจอกันตลอดเวลาทั้งที่โรงแรมก็ออกจะกว้าง
“อยากจะอยู่กับเรานานๆละสิ” เรายังยืนแขวะเขาที่เดิม อั้นขยับตัวมามองเรา
“ใครบอก อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย”
“ระวังน๊า ยิ่งหนียิ่งเจอ”
ลิฟต์ไปจอดที่ชั้นบนสุดประตูเปิดออก ชั้นบนสุดมีสโตร์เก็บของและทางออกไปดาดฟ้าโรงแรมห้ามพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ประตูเปิดอยู่นานเพราะอั้นออกไปชะโงกดูหาคนเรียกขึ้นมา
“ระวังนะ ชั้นนี้มันเฮี้ยนนะ ขึ้นลิฟต์คนเดียวระวังมาโผล่ที่นี่นะอั้น” เรายังคงล้อเขาอีก เขากดปิด ประตูเคลื่อนปิดช้าๆตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ พอมันจะปิดสนิทบานเลื่อนก็หยุดแล้วเปิดออกอีกครั้ง อย่างเร็ว...ไม่มีใครคราวนี้เราเองกลับรู้สึกยะเยือกขึ้นมาบ้าง รีบขยับเข้ามาใกล้อั้นกว่าเดิม ลิฟต์เก่าแล้วเหมือนมันรวนๆ จู่ๆมันก็บานเลื่อนมันก็เลื่อนปิดดังปังแล้วล็อก
“น่ากลัวหว่ะ” อั้นหันมามองหน้าเรา ที่ตกใจว่าลิฟต์จะร่วงมากกว่ากลัวผีแล้ว อั้นกดชั้นบัญชีแล้วมองหน้าเราอย่างยิ้มเยาะ
“กลัวจนซีดเลยเหรอพี่เอ๋” เราไม่ตอบ ได้แต่เงียบหัวใจมันเต้นโครมครามเพราะบานเลื่อนที่กระแทกกับอีกฝั่งเมื่อครู่ต่างหาก
“กลัวลิฟต์ตก แต่ไม่เป็นไรหรอก ติดลิฟต์อยู่กับอั้นน่าจะภาคภูมิใจมากกว่า” เรารวบรวมสมาธิแล้วตอแยเขาต่อ
“ก่อนอะไรจะเกิดขึ้นผมจะหาทางออกไปให้ได้” เขายิ้มออกมาบ้างแล้ว
“Happy Birthday นะ” เราบอกกับเขาก่อนจะออกจากลิฟต์พร้อมยิ้มอย่างสดชื่นมือนั้นลูบผ่านเป้าเขาตอนเดินออกไปด้วยอั้นหลบไม่ทัน มันนูนเป็นก้อนเมื่อเราสัมผัสผ่าน อั้นรู้สึกตัวช้า เราเห็นแต่เขาชี้หน้าเราตอนที่บานเลื่อนเจ้าปัญหาปิดลงช้าๆ
“เมื่อกี๊พี่ทำอะไร” เขาโทรมาทันทีที่เรานั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน
“ทำอะไร ก็อวยพรให้แล้วนี่”
“ไม่ใช่ตอนนั้น ตอนก่อนออกจากลิฟต์”
“อ๋อ” เราไม่พูดต่อ
“ประเจิดประเจ้อ ไม่รู้จักอายคน”
“มีแต่ผีนะสิ อยู่กันแค่สองคนยังจะมาอายอีก”
“ทีหลังไม่ทำแบบนี้อีกนะ”
“แล้วนี่เธอพูดโทรศัพท์อยู่ที่ไหน ไม่กลัวใครจะได้ยินเหรอ”
“ในล็อกเกอร์ ไม่มีใครได้ยินหรอก ว่าไง รับปากรึเปล่า”
“อยากจะรับปากอยู่นะแต่มันอดใจไม่ไหวนี่”
“จะพาไปอดที่ถ้ำกระบอก”
“ไม่ต้องถึงถ้ำหรอก แค่เอากระบอกใส่น้ำมาให้สักกระบอกก็หายแล้ว” อั้นเงียบ “ว่าไงหล่ะอั้น” เขาเงียบอีกแล้วสัญญาณก็ขาดไปเหมือนวางหูแล้ว เราเอนหัวพิงพนักแล้วหัวเราะเบาๆจนลืมระวัง
“ทำงานจนเป็นบ้าแล้วเหรอ” รองบอสเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่
“ไปแกล้งใครเขาเหรอ”
“เพื่อนมันโทรมาหาเล่าเรื่องตลกให้ฟัง” รองวางงางให้ต่อหน้า
“เดี๋ยวเอ๋ ไปHR นะ ไปหาพี่แจ่ม เอาพิมพ์รีพอร์ทการเข้าออกพนักงานมาให้พี่” รองยื่นรายชื่อพนักงานที่ต้องพิมพ์รายงานการเข้าออกให้เรา
“ไม่ต้องสงสัยอะไร ทำตามที่สั่ง และเป็น confidential” แกสั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที เรารีบลงไปที่HR เข้าไปสั่งพิมพ์รายงานในห้องพี่แจ่ม น่าสงสัยนะ สี่ห้าคนนี่เป็นเพื่อนสนิทกัน เวลาเข้างานใกล้เคียงกันแต่เราเห็นแค่คนเดียวที่มาพร้อมเรา ส่วนที่เหลือไม่เคยมีสายทั้งที่ทุกคนในแผนกรู้ว่าสาย เราเป็นระดับผู้จัดการแล้วเลยไม่ต้องรูดบัตร แต่พวกลูกน้องหรือบรรดาพี่ๆในแผนกนี่แหล่ะรูดบัตรแทนกันจนเป็นเรื่อง” พี่แจ่มยืนดูเราอยู่ห่างๆ
“เอ๋ เดี๋ยวพี่ฝากฟอร์มไปด้วยนะ” พี่แจ่มหยิบกระดาษสี่ห้าใบแล้วใส่ซองยื่นให้เรา เราเดินออกจากห้องพี่แจ่ม อั้นกำลังก้มๆเงยๆกับการกรอกเอกสารให้พนักงานอยู่คนเดียวใกล้ๆทางออก เป็นเพราะวันนี้เป็นวันเกิดเขารึเปล่านะ ทำไมหน้าตาดูผ่องใสขับความหล่อให้กระจ่างกว่าเดิม
“นี่กลับห้องได้แล้ว” พี่แจ่มตามมาแหวใส่ พอดีกับเกย์สาวเดินเข้าออฟฟิศพอดี
“อะไรเหรอพี่แจ่ม” หล่อนเป็นออฟฟิสเซอร์ ทำท่าตกอกตกใจเอามือทาบอก
“นี่เดี๋ยวจะย้ายอั้นไปฝึกที่เซคคิว สาวๆพวกนี้จะได้เลิกชะม้ายชายตากะเขาซะที เอ๋ก็เป็นไปกะเขาด้วยนะ เห็นเงียบๆก็ไว้ใจไม่ได้ซักคน”
“แหมก็งี้แหล่ะพี่ พวกเนี้ยเขาเห็นผู้ชายไม่ได้หรอก” พี่แจ่มไม่แน่ใจกับประโยคที่ได้ยินจากปากลูกน้องแก ความปากไวของแกจะทำให้ลูกน้องแกไม่นับถือเราที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าเอาซะแล้ว
อีนี่ เรานึกในใจก่อนที่จะยิ้มให้พี่แจ่ม
“พวกเอ๋ก็เป็นแบบนี้แหล่ะพี่ ชื่นชมก็แสดงออกให้รู้ ไม่รู้จะเก็บกดเก็บงำไว้ทำไม เดี๋ยวคลั่งอกแตกตายพอดี ว่ามั๊ย ติ๊ด” เราถามแม่ท่าทางไฮโซที่ปฏิเสธความเป็นสาว และไม่ยอมรับความเป็นเกย์ของหล่อนด้วย เรายิ้มพร้อมกับหอบหิ้วเอกสารออกจากห้องHR กลับสู่รังของตัวเอง กะว่าจะไม่แขวะชาวบ้านแล้วแต่มันอดคันปากไม่ได้


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
มีแค่ตอนสุดท้ายที่โพสต์ไว้
Guest

121. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #120
 
10-May-17, 10:36 PM (SE Asia Standard Time)
 
   546….
เรารู้สึกเหนียวตัวจนนอนไม่หลับแม้ว่าห้องนอนจะเย็นฉ่ำเพราะแอร์แต่ก็ทนไม่ไหวเพราะฤทธิ์ของอัลกอฮอล์ทำให้ความร้อนจากในตัวมากกว่าปกติ เราขยับตัวหลายครั้งเพื่อให้ความรำคาญนั้นหมดไปแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ อั้นหลับไปแล้วมั๊งเพราะเสียงกรนเบาๆเป็นระยะ เราลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องนอนแล้วตรงไปที่ห้องน้ำที่อยู่อีกด้าน หยิบของใช้ส่วนตัวในการอาบน้ำออกมาเพื่ออาบน้ำ ห้องน้ำค่อนข้างจะเซ็กซี่ในสายตาของเราเพราะช่องลมเป็นแบบเปิดออกได้เรามองเห็นดวงจันทร์จากช่องหน้าต่างนั้น อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยสบายตัวหน่อย เรามันประเภทที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา อย่างน้อยก็มีเสื้อยืดกางเกงนอนขาสั้นพกไว้เสมอเวลาไปไหนมาไหน เครื่องประทินผิวขนาดพกพาช่วยไว้ได้เยอะ อาบน้ำแล้วค่อยสบายตัวหน่อย ประพรมน้ำหอมกลิ่นที่ชอบไนท์ครีมซึมซับไปทั้งหน้าพร้อมลิปมันแตะที่ริมฝีปาก แล้วก็กลับมานอนต่อ เสียงแมลงกลางคืนบ่งบอกถึงธรรมชาติที่ยังคงมีอยู่กลิ่นหอมเย็นๆ เราสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม และสัมผัสที่แก้มของอั้นไปมา
“นอนไม่หลับเหรอพี่เอ๋” เสียงเขาอู้อี้เล็กน้อยก่อนจะขยับตัวมาใกล้
“เหนียวตัวเลยไปอาบน้ำ”
“สบายตัวขึ้นมั๊ย”
“เยอะเลย”
”ทนเหม็นไปก่อนนะผมขึ้เกียจไปอาบเดี๋ยวนอนไม่หลับ” อั้นขยับมากอดเอวเราไว้เขาซบหน้าลงที่ไหล่ของเรา ลมหายใจอุ่นๆรดที่ต้นแขนของเรา
“ตัวเย็นดีจัง” อั้นกอดเราไว้กับตัวมากขึนเรื่อยๆ
“ตัวเหนียวเชียว”
“ไม่หรอกน่า นอนเถอะพี่” อั้นกระซิบที่ข้างหูกลิ่นไวน์ยังคงกรุ่นตอนนี้มันเริ่มแรงขึ้นแล้วไม่หอมเหมือนเมื่อครู่ซะแล้ว
“เมื่อก่อนเมายังไงก็นอนด้วยได้นี่นา”
“ไหนว่าจะนอน” เราลูบผมอั้นไปมาก่อนจะเอามือเขาออกจากเอวแล้วนอนตะแคงข้างให้เขา อั้นแนบตัวให้ชิดกับตัวเรามือยังคงวางที่สะโพกเราและเราเองก็หลับไปในที่สุด

อากาศตอนเช้าในสวนนี่สดชื่นยิ่งนัก เราลุกขึ้นบิดขี้เกียจหลังจากหลับยาวมาทั้งคืนจนเช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยจะได้กลับห้องเสียที เช้าวันอาทิตย์ทีแสนจะรื่นรมย์ เราจิบกาแฟอยู่หน้าบ้านไม่นานอั้นก็ตื่นแล้วก็ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย
“รีบตื่นทำไม”
“ถึงเวลามันก็ตื่นขึ้นมาเอง”
“แล้วนี่จะรีบไปไหนนี่”
“กลับห้องสิ กว่าจะไปถึงก็สายพอดี”
“แล้วพี่จะทำอะไรวันนี้”
“ไม่มีแพลน คงกลับห้อง แล้วหาอะไรกิน เดินเล่นห้างมั๊ง”
“น่าเบื่อ”
“อ้าวแล้วจะให้ทำอะไรละค่ะ คุณลุงไม่มากินน้ำชาตอนเช้าเหรอ” อั้นมองหน้าเราเหมือนเคือง
“ไมมองงั้นหล่ะ”
“อย่าพูดได้มั๊ย ขี้เกียจหงุดหงิดแต่เช้า”
“อาบน้ำแล้วก็ไปส่งพี่หน่อยสิ แค่ปากซอยก็ได้” เราคว้ากระเป๋าแล้วเดินลงบันได
“จะรีบไปไหนเนี่ยยังไม่เจ็ดโมงเลย”
เราไม่สนุกแล้วเราก็อยากกลับเป็นเรื่องธรรมดาไม่เห็นต้องถามเลย
“แล้วตัวเองรีบตื่นทำไมละ ไม่นอนต่อ”
“ไม่มีคนให้กอด”
“กอดไม่ไหวหรอกเหม็น” เราแหวะใส่อั้น เราเดินลงไปจนถึงบันไดขั้นสุดท้ายไม่ได้น้อยใจอะไรหรอกก็แค่ว่ามันเหมือนแปลกๆในตัวอั้นและตัวเราเองด้วย คงจูนไม่ค่อยติดแล้วมั๊งคงเหมือนพี่กับน้องไปแล้วสิท่า
“บอกให้ขึ้นมาไง” อั้นลงมาดึงมือเรากลับไปชั้นบนเช่นเดิมแล้วกระชากประตูบ้านให้ปิดอย่างรวดเร็ว
“คนอยากจะนอนยังจะมางอแงอีก”
เราขี้เกียจจะเถียงแล้วเลยนอนลงข้างๆ อั้นจับมือเราเอาไว้แล้วหัวเราะคนเดียว เราไม่งงและไม่ถามด้วยอยากคิดอะไรก็คิดไปเถอะ
เขาโน้มตัวลงมาจูบที่ต้นคอเราและซุกไซ้ไปมา เคราแข็งๆครูดกับลำคอเราจนขนลุกเกรียวจนต้องหดคอเอาไว้แต่อั้นก็ไม่หยุดยังคงซุกไซ้ไปมาจนเราเลิกเกร็งเพราะชิน เขาเอาคางเกยที่หน้าอกของเราและจ้องตาเรานิ่ง
“พี่คบกับใครอยู่ตอนนี้”
“เรื่อยๆ”
“กับคนเก่าเหรอ ชื่ออะไรนะผมจำไม่ได้”
“อย่าไปจำเลย”
“เลิกกับคนนั้นไปแล้วเหรอ”
“ถึงเวลาก็เลิก” เราตอบสั้นๆไม่อยากรื้อฟื้นหรือคิดอะไรให้มันมากไปกว่านี้ ไม่งั้นสมองเราก็จะวนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองไม่เลิกว่าตอนนั้นมันจบลงยังไง นับแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกแม้ว่าเรากลับมาอยู่กรุงเทพอีกก็ตาม เราไม่แม้แต่จะหาคำตอบจากต่อเสียด้วยซ้ำ เขาจะยังไงอย่างไร คิดไปก็ไม่มีอะไรดีขี้น เพราะเราไม่เหลือจิดใจให้เขาแล้วก็คงเหมือนกับเขาที่ป่านนี้เรื่องราวเหล่านั้นคงเหมือนลมที่ผ่านไปในแต่ละวัน
“แล้วตอนนี้อั้นละคบกับใครอยู่”
“ก็นิดหน่อยตามประสา”
“คบกับคนแก่แล้วเหรอตอนนี้”
“หมายถึงใคร”
”ก็คุณลุงไง เมื่อคืนดูเหมือนลับลมคมในอะไรไม่รู้”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่คนแก่แกเหงาไม่มีคนคุยด้วย หึงเหรอ”
“หึง” เราทำหน้างง “เข้าใจผิดละมั๊ง อั้นทิ้งพี่ไปตั้งนานแล้ว พี่จะไปหึงเราให้เมื่อยทำไม”
“ปากแข็ง ยังไงพี่ก็ไม่มีทางลืมผมหรอก”
“เอาอะไรมาพูดจ๊ะรูปหล่อ”
“ปากแข็งไปเฮอะ ไม่งั้นจะยอมมาง่ายๆได้ไง คงรอผมง้อสิเนี่ย”
“เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วก็แค่อั้นชวนแล้วพี่ก็อยากมาเห็นเพราะว่างมันก็แค่นั้น หล่อแค่ไหนถ้ามันหมดเวลาแล้วทำไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกว่ามั๊ย”
“แล้วไม่เสียดายมั่งเหรอ หล่อๆแบบนี้”
“ตัวเองหายไปไหนมาละ ไปซะเงียบ กลับมาก็เงียบ ใครจะไปรอไหว ถึงไม่มีใครก็ไม่รอแล้ว”
“ใจแข็งด้วยนี่”
“แน่นอน” อั้นหัวเราะแล้วพลิกตัวไปนอนอีกข้างนึง
“ไม่รู้สิ อยากมาเจอพี่เอ๋เหมือนกันนะแต่ว่าทำไมถึงไม่มาก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เยื่อใยมันหมดไปแล้วก็ขี้เกียจเป็นของธรรมดา” เราก็เป็นเหมือนกัน รู้ว่าอยากเจอแต่ก็ขี้เกียจที่จะไปหาเป็นออกจะบ่อย
“ว่างๆก็มาเล่นที่นี่บ่อยๆสิ”
“ไปมาลำบาก”
“วันไหนจะมาก็รอมาพร้อมผมเก็บเสื้อผ้าไว้รอเลย”
“มาเพื่อ” เราหัวเราะ
“เผื่อว่าจะจูนกันติดอีกไง”
“ไม่มีทางหรอก อั้นไม่เหมือนเดิมแล้ว โตขึ้นเยอะแยกแยะได้มากกว่าเดิมและก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“เป็นผู้ใหญ่หมายความว่าไง”
“เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เหมือนตอนเป็นเด็กไง”
“พี่ว่าผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“มั๊ง”
“ไม่น่ากิน”
“มั๊ง หรืออีกอย่างคงลืมว่าน่ากินยังไง”
“อยากกินสิเนี่ย”
เรายิ้มแล้วโน้มตัวไปหาเขามั่ง
“เมื่อคืนก็เกือบได้กินแล้วแต่ก็อดจนได้”
”รออีกคืนสิเผื่อได้กิน”
”จะคุ้มเร้อ”
“มีเหรอที่ไม่คุ้ม” เราจ้องตากันนิ่งมันน่านัก แล้วเราทั้งคู่ก็อึ้งไปสักพัก
“พี่เริ่มต้นไม่ถูกเหมือนกันว่าจะยังไงดี”พูดเสร็จก็อายตัวเอง
“ไม่มีอารมณ์เพราะอิ่มมากกว่า”
“แล้วอั้นละ”
“ไม่รู้สิ ผมเริ่มแล้วแต่พี่ไม่คล้อยตาม”
“เริ่มแล้วเนี่ยนะ นึกว่าทำเล่นๆ”
”จะเล่นไปทำหอยอะไรละพี่ ของมันเคยแล้วหรือว่าจำไม่ได้”
“อั้นเหมือนเดิมตรงที่หล่อ แต่นิสัยไม่ค่อยเหมือน พี่ไม่คุ้นกับอั้นแบบนี้”
”แล้วคุ้นแบบไหน”
“แบบอั้นคนเดิมมากกว่า พี่คงจำได้แต่อั้นตอนนั้นไม่ใช่อั้นที่เป็นแบบนี้”
“ผมก็เหมือนเดิม ใครมั่งมันจะไม่แก่ จะให้ผมเป็นเด็กไปถึงไหน เมื่อวานก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมีเมีย จำไม่ได้เรอะ”
“ฮื่อ” เราลุกขึ้นนั่งเท้าแขนมองไปรอบห้องอีกครั้งนาฬิกาข้างฝาเหมือนเดินช้ากว่าปกติอั้นโอบเอวเราไว้แล้วดันตัวมานั่งข้างๆ
“แปลกดีนะ”
เราพยักหน้า เขาก้มลงมาจุบที่ปากเราทีนึง
“กลับก็กลับแล้วกันนอนไม่หลับแล้ว จะให้ไปส่งที่ไหน”
“ตามสะดวกที่ไหนใกล้รถแท๊กซี่ก็กลับได้”
อั้นลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจากตัวกางเกงอยู่กับบ้านหล่นลงที่พื้นแล้วเขาก็หันหน้ากลับมาหาเราและเดินเข้ามาช้าพร้อมกับการแกว่งไกวของแก่นกายกลางลำตัวของเขา มันอยู่ระดับเดียวกันกับใบหน้าของเรา ใกล้แค่อ้าปากไปหาอีกนิดเดียวก็จะถึงอั้นจับไหล่เราทั้งสองไว้ตาจ้องตาเหมือนชักชวนให้เรายินยอมแต่เจ้ากรรมทุกอย่างเหมือนหยุดชะงักเพราะเสียงออดที่หน้าบ้าน อั้นตกใจ เราคว้าเอวของอั้นไว้แล้วแนบหน้าซุกกับหน้าท้อง
“ตกใจทำไมหล่ะอั้น ก็อั้นบอกว่าอั้นยังนอนไม่ตื่นแล้วจะรีบไปไหน”
อั้นก้มลงมองหน้าเรา เขายิ้ม
“ไม่จำเป็นไม่ใช่เหรอที่จะต้องรีบออกไปเปิดประตูรับแขกแต่เช้าในเมื่อธุระของเรายังไม่ถึงไหนเลย”
เราลูบไล้ไปมาในสิ่งที่เราเคยคุ้นและเอ็นดู
“เอ หรือว่านัดกันไว้ จะไปไหน ไปวัดกันเหรอ เช้าวันอาทิตย์เนี่ย”
“พูดเล่นอยู่ได้ ปล่อยก่อนเถอะพี่ ผมรำคาญเสียงออดเต็มทนแล้ว”
คนกดน่าจะมีมารยาทนะ ที่ยังไม่มีคนไปเปิดก็ยังคงกดอยู่ได้ อั้นรีบคว้ากางเกงยีนส์มาใส่แทนกางเกงใส่เล่นที่บ้านพร้อมกับเสื้อยืด ปะผมน้ำหอมและหวีผมอย่างรวดเร็ว เราไม่ต้องทำอะไรเพิ่มนอกจากคว้ากระเป๋าสะพายใบเก๋ของเรามาคล้องที่ไหล่
“งั้นพี่กลับแล้วกันนะจ๊ะ”
เราไม่รอที่อั้นจะตอบว่าอะไร เดินผ่านด้านข้างของเขาเปิดประตูห้องนอนออกไปแล้วก็เปิดประตูบ้าน คนกดออดเป็นชายวัยกลางคนยังคงชะเง้อมองอยู่ที่ประตูรั้ว
“ทำอะไรอยู่อั้น สายแล้วนะ” เสียงแกถามมาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ดูว่าเป็นใคร คงดีใจที่เห็นประตูเปิดแล้วแต่ไมทันมองว่าไม่ใช่คนที่อยากจะคุยด้วย
เราเดินลงบันได
“อ้าวนี่ใครกันละ”
“เพื่อนอั้นฮะ” เราตอบพร้อมกับเปิดประตูรั้วให้แกเดินเข้ามาในมือมีถุงปาท่องโก๋กับโจ๊กเสียด้วย
“แล้วอั้นละหนู” แกเรียกเราว่าหนู
“เพิ่งตื่นเดี๋ยวคงลงมาฮะ” เราตอบ
“นี่ไปไงมาไงละเรา”
“มากินเหล้าตั้งแต่เมื่อวาน เมาเลยค้างที่นี่ และก็กำลังจะกลับฮะ”
เราตอบไปตามความเป็นจริง
“เดี๋ยวรออั้นแป๊บนึงนะฮะ ผมกลับแล้ว”
“อ้าว จะรีบกลับไปไหนละ ลุงแค่แวะเอาโจ๊กกับปาท่องโก๋มาให้ ไม่รู้ว่ามีสองคนเมื่อคืนอั้นไม่ได้บอกว่าเพื่อนมาค้างด้วย”
“ขอบคุณฮะ แต่ต้องกลับแล้วไว้คราวหน้ามาจะรบกวนนะฮะ” ฟังดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้
“ชื่ออะไรละเรา”
“เอ๋” อั้นตอบแทนเรา
“แวะไปตลาดมาเลยซื้อมาฝากไม่รู้ว่าเอ๋อยู่ไม่งั้นจะซื้อมาเผื่อด้วย เพื่อนน่ารักดีนะ”
ลุงมองเราทีมองอั้นที แวบในแววตาของแกมันเหมือนพวกเรา เราคิดว่าแกคงเห็นอะไรบางอย่างเพราะแววตาของแกเราดูได้ง่ายว่าไม่ได้ต่างจากเรานักหรอกน่า เราหันไปมองหน้าอั้นแล้วยิ้มอั้นรับถุงจากมือของลุงไปถือ แกกำชับให้รีบกินก่อนจะเดินไปที่บ้านของแกที่อยู่รั้วถัดไปบ้านใกล้เรือนเคียง เราอมยิ้ม
“พี่ยิ้มอะไร”
“เสน่ห์แรงนะเรา”
“พี่หมายความว่าอะไร” อั้นมองหน้าเรา
“ก็หมายความอย่างที่พูดนะสิ ถามได้” เราดึงประตูรั้วไว้
“แล้วนี่จะกลับยังไง”
“เดินไปปากซอยแล้วเรียกแท็กซี่ หรือถ้าอั้นจะใจดีไปส่งก็โอเคนะ” เรามองที่มือของอั้น “แต่ว่ารีบไปกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ก่อนเถอะ เดี๋ยวมันเย็นแล้วจะไม่อร่อย” เราหมั่นไส้อั้นขึ้นมาโดยไมมีสาเหตุแล้วผลักบานประตูปิดไว้ตามเดิม รั้วไม้สีขาวสูงแค่อกเราหันหลังให้อั้นแล้วออกเดินไปตามทางราดปูนโดยไม่หันหลังกลับไปมอง ไม่ได้ใกล้อย่างที่คิดกว่าจะถึงปากซอยก็เหงื่อซึมเหมือนกัน ออกปากซอยก็ต้องเดินไปอีกประมาณนึง จะกลับเรือหรือรถดี กลับเรือก็เดินไปอีกแต่กลับรถถนนตอนนี้ก็ไม่มีแท็กซี่ผ่านเลย
“ขึ้นสิจะไปส่ง” อั้นขับมอเตอร์ไซค์มาเทียบข้างๆเรา คงกินโจ๊กหมดแล้วออกมาแน่ๆ ปล่อยให้เราเดินซะเหงื่อตก เราขึ่นคร่อมที่อานด้านหลังอั้นยื่นหมวกสำรองให้เราใส่
“ใส่ซะ” เรารับมาใส่ตามที่บอก
“ไปแค่ท่าเรือต้องใส่หมวกด้วยเหรอ”
“ดีกว่าไม่ใส่น่า” อั้นบอกแล้วก็บิดอย่างแรง อั้นขับรถพาเราลัดเลาะออกไปจนเจอถนนใหญ่ที่ออกไปอีกทาง
“นี่จะไปไหน”
“ไม่รู้ อยากขับรถเล่น” อั้นตะโกนแข่งกับเสียงลมที่ดังอื้ออึงอยู่ข้างหูตามความเร็วของรถ เราจำอะไรไม่ได้นอกจากสายลมที่อื้ออึงพัดผ่านใบหู


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
คนหลังเขา
Guest

122. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #121
 
21-May-17, 01:42 PM (SE Asia Standard Time)
 
  

อยากได้ตอนที่ 269 ถึงตอนสุดท้าย มีใครเก็บไว้บ้างมั้ยครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
tomtom
Guest

123. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #122
 
25-Jun-17, 09:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ไม่มีใครมาต่อตอนที่เหลือเลยหรอครับ พี่เอ๋ก็เงียบไปเลย คิดถึงนะคร้าบบบ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
( - - ) click here to view user rating
Member since 9-Nov-10
260 posts, 2 feedbacks, 4 points

124. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #123
 
30-Jun-17, 01:51 PM (SE Asia Standard Time)
Click to send private message to %28%20-%20-%20%29 Click to add this user to your buddy list  


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ชอบมาก
Guest

125. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #124
 
19-Aug-17, 11:52 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แวะมาดัน รออ่านนะครับ ใครมีช่วยสงเคราะห์ที


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

126. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:38 PM (SE Asia Standard Time)
 
   243.......
วันนั้นทั้งวันเหมือนกับเป็นวันพิเศษของตัวเอง ไม่รู้เราคิดอะไรอยู่เราแอบออกจากที่ทำงานไปเดินห้างที่อยู่ใกล้ๆ เดินขึ้นลงไปเรื่อยๆที่ชั้น เรากำลังหาอะไรให้อั้นอยู่หน่ะสิ เสื้อยืดยี่ห้อดีๆสักตัวให้เขาแล้วอั้นจะรับรึเปล่าเราไม่แน่ใจเหมือนกัน เราไม่ได้ให้เขาห่อด้วยกล่องหากแต่เลือกเอาวิธีม้วนด้วยกระดาษสีธรรมดาพื้นๆ เรารู้สึกกระดากที่ทำแบบนี้หากแต่มันก็ทำลงไปแล้ว สาเหตุก็เพียงแค่ว่าเราปลื้มเขานั่นเองไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น แล้วเราจะหาโอกาสให้เขาตอนไหนเราเองยังไม่รู้เลย ทำอย่างไรความจะไม่แตกเรารู้ยี่ห้อเพราะอั้นเคยพูดถึงตอนที่คุยกับเขาในวันเผด็จศึก เรื่องสัพเพเหระที่เกี่ยวกับผู้ชายนี่มันจำได้แม่นกว่าท่องหนังสือเรียนต่อเสียอีก จำได้แม้แต่สี ขนาดที่เขาใส่ เป็นซะอย่างนั้นเลยทีเดียว วันนั้นทั้งวันเขาไม่ได้ขึ้นมาที่ออฟฟิศเราเลย จนเย็น เราทำงานด้วยความกระวนกระวายว่าของขวัญที่แอบซ่อนไว้ในล็อกเกอร์จะไม่มีคนรับ
“เอ๋ ไปรึเปล่า” ทีน่ากำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอาบน้ำขณะที่เราเปลี่ยนเสื้อผ้า เชื่อหรือไม่ว่าของขวัญที่เราเตรียมไว้ให้เขานั้นยังแอบซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าเราเป็นอย่างดี
“ไปไหน” แกล้งทำเป็นไม่รู้
“วันเกิดอั้นไง”
“เหรอ ไม่รู้สิ เขาไม่เห็นชวน”
“ทำไมเขาชั้นหล่ะ”
“ทำบุญมาผิดกันสินะ” ทีน่าทำท่าเหมือนได้อภิสิทธิ์เหนือเรา
“แล้วใครไปมั่ง”
“ก็พวกเด็กที่ฝึกงานด้วยกัน ชั้นแล้วก็อีติ๊ด”
“เหรอ”
“ทุกคนโอ หมดยกเว้นอีนั่น”
“อย่าไปจองเวรกะเขาเลยทีน่า”
“ชั้นไมชอบขี้หน้ามันนี่”
“อย่าโกรธสิ เดี๋ยวไม่สวยนะ”
“นี่อีพี่แจ่มนะ ไม่รู้ใช้งานอะไรอั้นมันนักหนา ป่านนี้ยังไม่ได้กลับเลย ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาทำก็ไม่ได้”
“พวกหล่อนจะไปที่ไหนกันเหรอ”
“แค่กินข้าวตอนเย็นร้านที่พวกเราไปนั่งนั่นแหล่ะ” เราพยักหน้า “เนี่ยพวกเพื่อนต้องล่วงหน้าไปก่อน ส่วนอีติ๊ดจะตามไปหลังไปฟิตเนส”
“เหรอ” เราคราง
“แล้วหล่อนหล่ะ ไม่ไปเหรอ”
“เขาไม่ชวน และอีกอย่างก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันขนาดนั้นนี่” จริงเหรอเอ๋ พี่เพลินบ้าที่สุด เราคิดว่าเราได้ยินเสียงแกจริงๆ
“หล่อนก็ไปรอสิ ไม่เห็นจะต้องกลัวนี่ ก็นัดกันแล้วนี่นา” เราชักคันอยากจะไปขึ้นมาแล้ว
“คอยดูนะ เจอหน้าพี่แจ่มจะกัดให้กระจุยเลย”
“ท่าจะเอาจริงแฮะ” เราขำกับท่าทางทีน่าปิดล็อกเกอร์แล้วหันไปมองทีน่า
“ไปก่อนนะ”
“แวะบอกอั้นด้วยนะว่าเพื่อนไปรอที่ร้านแล้ว”
“ได้” เรายืนรีๆรอๆอยู่หน้าห้องHR กระจกใสนั้นมองเห็นร่างสูงกำลังก้มๆเงยๆ เก็บแฟ้มพนักเข้าตู้อย่างตั้งใจ แม้แอร์จะเย็นฉ่ำแต่เรามองเห็นแผ่นหลังเขาเปียก ทุกคนที่ห้องกลับแล้ว พี่แจ่มมีงานต้องไปงานศพพ่อพนักงานพร้อมกับผู้ช่วย ติ๊ดก็ไปฟิตเนสแล้วสินะ เด็กฝึกงานที่น่าสงสารเหมือนเราตอนอยู่ออดิตเลย เบ๊ตลอดศก
เราผลักประตูเข้าไปอย่างใจเย็น อั้นรับรู้ถึงการเข้ามาของเรา เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วตอบเราว่า
“ไม่มีใครอยู่แล้วครับ”
“แล้วที่ยืนอยู่นั่นไม่ใช่คนเหรอ”
“ผมหมายถึงพนักงานคนอื่น ถ้าพี่มีอะไรก็ไว้ติดต่อพรุ่งนี้นะครับ ผมเป็นเทรนนี”
“เหรอ ไม่รับฝากด้วย พี่แจ่มเขาสอนงานแบบนี้เหรอ ไม่มีน้ำใจเลยนะ” เรานั่งลงที่โซฟารับแขกกลางห้อง
“จะรับฝากเฉพาะคนที่คุยภาษาคนรู้เรื่องครับ” อั้นยังยอกย้อน เขาเก็บแฟ้มเล่มสุดท้ายเสร็จแล้วมือปาดเหงื่อที่ซึมตามไรผมเบาๆ เขาเสยผมอวดหน้าใส
“ผมจะกลับแล้วนะพี่ รบกวนออกไปด้วยครับจะล็อกประตู” มันกวนนะ พูดตรงๆแบบหน้าตายิ้มๆ
“ทีน่าเขาฝากมาบอกว่า เพื่อนๆล่วงหน้าไปรอแล้ว ไม่มีคนมาบอกเพราะอั้นอยู่ในห้องพี่แจ่ม แค่นี้แหล่ะที่จะมาบอก” เราลุกจากโซฟาทันที
“ไม่ยักรู้ว่าเป็นคนคอยส่งสาร ทำหลายหน้าที่นี่เขาคงจ้างแพงนะ เป็นนักสืบด้วย” เขาคงหมายถึงตอนที่เราไปพิมพ์เอกสารลับในห้องพี่แจ่มอยู่นาน
“เรื่องของผู้ใหญ่” เราเดินไปที่ประตูแล้วเปิดมันออกไป กะว่าจะหวานซะหน่อยเชียว เรากำลังเปิดให้ตรวจกระเป๋า เซคคิวก็สงสัยไอ้ห่อกระดาษม้วนๆแล้วถามเราว่าอะไร เขาเดินผ่านมาพอดี
“ของขวัญซื้อให้เพื่อน” เรายื่นใบเสร็จให้เซ็คคิว เขาคลำพอเป็นพิธีก่อนจะให้เราผ่าน
“ขโมยของระวังโดนไล่ออกนะพี่” อั้นตามมาเยาะเย้ยที่ทางออก
“ใครว่าพี่ขโมยของ”
“ก็เห็นคลำๆอยู่นาน”
“ชั้นมีใบเสร็จ”
“แกล้งทำก็ได้นี่ครับ”
“นี่อั้น มันก็ของเธอนั่นแหล่ะ ที่เอามาให้” เราดึงม้วนกระดาษต้นเรื่องยื่นให้เขา “ของขวัญวันเกิด หวังว่าคงจะชอบ” ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย อะไรกัน อั้นรับม้วนกระดาษนั้นแล้วแกะมันออก ดวงตาเขาเหมือนจะยินดีอยู่บ้าง ทำท่าเหมือนไม่อยากได้
“ให้แค่เสื้อยืดเหรอ แล้วกางเกงหล่ะ” เรารู้ว่าเขาล้อเล่น
“ไม่รู้ไซส์ จะซื้อได้ไง”
“ทำไมเสื้อถึงรู้หล่ะ”
”กะๆเอา” เราอ้อมแอ้มตอบ เราไม่อยากจะกลับบ้านเลยสักนิดในตอนนั้น ทำไมเขาไม่ชวนเรานะ
“ขอบคุณครับ” อั้นม้วนมันลงในเป้อย่างรวดเร็ว พอดีกับทีน่าเดินออกมาดีที่ว่าไม่เห็นนะ
“อ้าวอั้นเพิ่งเสร็จเหรอ เอ๋หล่อนรอใครยะ” พี่วริตเดินตามหลังทีน่าออกมาพอดี เรารีบยิ้มให้แก แล้วเดินไปหา
“อ้าวเอ๋ แหมกำลังตามหาพอดีเลย วันนี้ไปที่ร้านกัน พวกไอ้เบียร์มันรออยู่แล้ว” โชคช่วย ไม่ต้องให้เธอชวนหรอกนายอั้น เชิญไปกันเถอะ หมดธุระที่คั่งค้างแล้วนี่ เราเดินตามพี่วริตผ่านสองคนนั้นไปที่ลานจอดรถ
“คืนนี้กินเสร็จ พี่ไปส่งนะ”
“ทางผ่านอยู่แล้วนี่พี่”
“หมายถึงส่งถึงห้อง” พี่วริตเลี้ยวรถออกจากลานจอดรถเข้าถนนใหญ่
“ตั้งใจมากไปรึเปล่าพี่”
“แล้วเราหล่ะ ไม่ตั้งใจเหรอ” ในซอยมันเริ่มมืดเมื่อรถเคลื่อนตัวเข้าหาที่จอดรถของร้านอาหารเจ้าประจำ เราวางมือลงบนเป้าของพี่วริตอย่างไม่สนใจว่าจะมีรถสวนออกมารึเปล่า
“จริงๆนะพี่ อย่าเมาก่อนหล่ะ” คันเป็นที่สุด
“แต่ว่า เอ๋ชักหิวแล้วสิพี่”
“ใจเย็นน้อง”
“รอไม่ไหว” อ้อนอีกนิด มือก็ขยำอีกหน่อย พี่วริตเลี้ยวเข้าจอดหัวรถชิดกำแพงด้านใน แกบิดกุญแจดับเครื่อง เรารูดซิบสอดมือเข้าไปในช่องว่างนั้น อารมณ์ของแกก็ไม่น้อยกว่าเราหรอกน่างูเห่ามันชูคอตั้งอยู่ในป่ารกชัฏแล้ว
“อย่ารูดมันเสียว เก็บก่อนนะเนี่ยเห็นมั๊ยมันลุกจนได้” เราคว่ำหน้าลงไปพี่วริตจะดันหน้าเราออกแต่ไม่ทัน
“นิดเดียวนะเอ๋” แกคงจะเหลืออดเหมือนกันปล่อยให้เราดูดอยู่สองสามคำแล้วตบที่ไหล่
“นะ ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เราเงยหน้า เรายอมรับว่าอารมณ์มันพลุ่งพล่านมากเหลือทนแล้ว เราเดินตามพี่วริตไปนั่งที่โต๊ะร่วมกับแก็งค์เอ้าท์ติ้งอย่างจำใจกลิ่นของท่อนเนื้อยังกำจายอยู่ปลายจมูก เบียร์ชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้พวกเราแลกเปลี่ยนเรื่องการทำงานของแต่ละแผนก พวกเราต้องกับมารวมกลุ่มอีกครั้งเพราะฝ่ายฝึกอบรมอยากให้มีกิจกรรมที่ต่อเนื่องสำหรับพวกที่ไปเอ้าท์ติ้งกันมาแล้ว
เจ้าของวันเกิดนั่งอยู่โต๊ะเยื้องๆกัน ทีน่ามาแจมกับพวกเราเป็นระยะ เพราะคงไม่รู้จะคุยอะไรกะเด็ก คือใจมันอยากคุยเรื่องดอเด็กมากกว่าเลยไม่มีเรื่องอื่นไปคุยกะเขา สรุปจากคืนที่ไปเลี้ยงเหล้า ทีน่าไม่ได้ใครเลยอาจจะเป็นนิสัยที่เมาแล้วไม่รู้เรื่องมากกว่า เรานั่งติดกับพี่วริตคุยกันพอกล้อมแกล้มเราเขี่ยขาพี่แกตอนที่เผลอเหมือนเร่ง แต่ยังมองไปยังอั้นอยู่ชั้นอยากได้เธออีก เราตะโกนร่ำร้องอยู่ในใจอย่างทุรนทุราย อั้นเริ่มเมาแล้วและเขาไม่ได้ระมัดระวังต่อการถูกเนื้อต้องตัวของทีน่า ดึกหน่อยติ๊ดก็เข้ามาจริงๆหล่อนมากับเพื่อนที่ฟิตเนส เพื่อนหล่อนก็ไม่ต่างจากหล่อนหรอก ทำท่าทำทีเป็นแมนเต็มตัว พูดคุยตบบ่าจับไม้จับมือกับเด็กหนุ่มทุกคนโดยเฉพาะอั้น ชมพู่หัวไวกว่าใครเพื่อนพออั้นลุกไปห้องน้ำหล่อนก็ขยับมานั่งแทนที่คุยกะสองแมน อั้นกลับมาก็กลายเป็นต้องนั่งติดกับทีน่าแทน ให้มันได้อย่างนี้สิชะนีน้องรักอย่างนี้ต้องซื้อเหล้าให้หล่อนแถมแต่งหน้าให้ฟรีด้วยเอ้า พี่วริตพอเหล้าเข้าปากก็น้ำลายแตกฟองไม่รู้คุยอะไรกันนักหนา เรานั่งมองโต๊ะของอั้นเพลินไม่สนใจเรื่องที่โต๊ะตัวเองแล้วเพราะกลายเป็นเรื่องด่านายตัวเองจนได้ ผู้ชายหนอ ไม่หม้อก็นายมีแค่สองอย่างเท่านั้นในวงเหล้า สองแมนเขาก็พยายามที่จะอวดอ้างสรรพคุณของการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเฟริ์มถูกตาต้องใจสาวๆ แต่เราว่าถูกใจพวกหล่อนมากกว่ามั๊ง
“พี่เอ๋ ไม่กลัวอีพี่ติ๊ดเหรอ มันคงอยากเขมือบอั้นใจจะขาดอยู่แล้ว” ชมพู่ดึงมือเราที่หน้าห้องน้ำให้หันไปคุยกะหล่อน
“ไม่เห็นต้องกลัว”
“หนูไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรจะให้เพื่อนไปโดนพวกนั้นปู้ยี่ปู้ยำ” เราสะอึก
“เก็บไว้กินเองเหรอ พู่”
“บ้า มันเป็นเพื่อน หนูห่วงมัน ถึงจะเพิ่งรู้จักกัน พี่เข้าใจมั๊ยมันเป็นผู้ชายนะพี่ แต่อีสองตัวนั่นเป็นเกย์”
“แล้วเธอรู้จักคำว่าเกย์แค่ไหน”
“เกย์ก็พวกที่เอากะผู้ชายด้วยกัน”
“อ้าวก็เหมือนกะพี่นะสิ เอากะผู้ชายด้วยกัน”
“ไม่ช่าย” ชมพู่ลากเสียงยาว “พี่เอ๋ไม่เข้าใจ พวกนี้มันฟันผู้ชาย มันทำให้ผู้ชายเป็นเหมือนพวกมัน”
“ชมพู่ ถ้าเขาไม่มีใจเอนเอียงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายวันยังค่ำ”
“พี่เอ๋ ไม่เข้าใจเลย” ชมพู่คงจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่อง เกย์นี่กระมัง
“เธอเคยโดนเกย์แย่งแฟนเหรอ” เราถามหล่อนไปตรงๆ
“พี่เอ๋อย่ารู้เลย รู้แค่ว่าหนูไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนที่หนูรู้จัก”ชมพู่ส่ายหน้า
“พู่เมารึเปล่า”
“ไม่ได้กินเหล้าเลย หนูพูดความจริง เพราะหนูเข้าใจพวกพี่แต่หนูไม่เข้าใจพวกที่เขาเป็นเกย์ พี่กับพี่ทีน่า เป็นเหมือนพวกหนูต่างกันแค่ร่างกายเท่านั้น แต่พวกเขาไม่ใช่หนูอธิบายไม่ได้ หนูไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนี้” ชมพู่ค้านหัวชนฝา
“งั้นก็กลับไปเฝ้าเพื่อนก่อนที่จะโดนคาบไปซะก่อนนะ” เราเดินนำหน้าชมพู่เดินผ่านโต๊ะของอั้น อั้นผายมือมาโอบเอวเราไว้
“พี่เอ๋ สักหน่อยสิครับ” อั้นคะยั้นคะยอให้เราดื่มแก้วที่เขายื่นให้เรา ต่อหน้าสองแมนนั่น
“ขมปี๋เลย” เราแทบจะบ้วนทิ้ง
”คออ่อนจังเลยนะ” ติ๊ดกัดเล็กๆ
“พรุ่งนี้ไม่ทำงานเหรออั้น”
“เขาลากลับบ้านหนึ่งอาทิตย์” แม่ติ๊ดพูดราวกับว่าเด็กของชั้น ชั้นรู้ดีอีโง่เราเห็นหน้าหล่อนเริ่มแตกสาวแล้วพอเหล้าเข้าปาก
“พี่ไปนั่งกับเพื่อนก่อนนะ” เราคืนแก้วให้อั้นแล้วขยับตัว อั้นลุกขึ้นตามมาที่โต๊ะ พวกที่โต๊ะก็รู้จักอั้นกันทั้งนั้นฝึกงานมาสักระยะแล้ว
“ผมยืมตัวพี่เอ๋หน่อยนะครับ พี่ทีน่าไม่มีเพื่อนคุย” เบียร์โบกมืออนุญาต อะไรวะเนี่ย พี่วริตยังพร่ามอะไรของแกก็ไม่รู้อั้นลากแขนเราไปนั่งข้างๆเขาจนได้ ถ้าหากว่าเรากะเขาไม่เคยเอากันเขาคงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้หรอก เนี่ยมันยิ่งกว่าเพื่อนสนิทเสียอีก มันล้ำลึกเกินกว่าที่จะใช้คำว่าสนิทคำเดียว มันเหมาะสำหรับคำว่าเพื่อนแนบสนิทมากกว่า
สองแมนเหมือนไม่พอใจที่จู่ๆแขกไม่ได้รับเชิญก็ย่างกรายมาร่วมวง
“ผมว่านะ พวกคุณน่าจะเก็บอาการบ้างเพราะเวลาคนเขามองหน่ะมันตลก อย่าสะดีดสะดิ้งมาก ไปไหนกับเพื่อนผู้ชายเขาจะได้ไม่ลำบากใจ”หนึ่งในสองแมนเก็กสอนทีน่า “ผมมีเพื่อนเหมือนพวกคุณเยอะ บางทีก็ไม่กล้าจะเดินไปไหนด้วย มันกระดากครับ”
“เหรอพี่ ก็เลยเก็กแมนแทนออกสาวเหรอคะ”
“น้องพู่พูดอะไรแบบนั้น พวกพี่ไม่ใช่อย่างที่น้องพู่คิดนะครับ”
“พี่ขาแล้วจริงรึเปล่าคะที่หนูเคยอ่านบทความของพวกอะไรม่วงๆที่เขาเขียนว่า ฟิตเนสกับซาวน่าเป็นสถานที่นัดพบของพวกเกย์ แล้วพี่ไปฟิตเนสนี่เคยเจอมั๊ยคะ ถ้าหนูจะไปสมัครเนี่ยหนูจะระวังตัวยังไงที่จะไม่โดนพวกแอบๆมันหลอก” นังพู่เอ๊ย
“เขาจะหลอกน้องทำไม ในนั้นมีแต่พวกที่ทำงานดีๆมีการศึกษาทั้งนั้น คิดดูค่าสมาชิกแพงมาก ค่ารายปีรายเดือน คนที่เขาไปหน่ะ เขาไปออกกำลังกายกันอย่างเดียว” นังพู่มันทำท่าเข้าใจเพื่อนนังติ๊ดพูด
“แหมพี่พูดมีเหตุผลนะคะ งั้นที่หนูอ่านมาก็ไม่เป็นความจริงสิคะ” พู่ทำท่าหัวอ่อน
“มันก็มีบ้างแหล่ะ พู่ เหมือนกับคนเราดีและไม่ดีมันคละกันไปหมด บางทีปลาเน่าตัวเดียวก็ทำให้เหม็นไปทั่วก็ได้” พู่พยักหน้า เข้าใจพูดกันดี
“แต่หนูชอบแบบพี่เอ๋กะพี่ทีน่านะคะ ยังไงก็ไม่อันตราย ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง คุยแล้วสบายใจ” คราวนี้เป็นทีนังติ๊ด
“บางทีไอ้สวยงามที่ฉาบไว้อาจจะไม่ใช่ก็ได้น๊า เพราะพอเราสนิทกะใครเราก็จะว่าคนที่เราสนิทด้วยหน่ะเป็นคนดีทั้งนั้น พี่ไม่ได้หมายถึงพี่เอ๋หรือพี่ทีน่า แต่พี่หมายถึงคนทั่วๆไป เราจะใช้ความสบายใจมาตัดสินไม่ได้หรอก บางทีคนดีของเราอาจจะมีอะไรซ่อนเร้นก็เป็นได้ เขาคบกับเราเขาดีกับเราบางครั้งเขาอาจจะมีความหวังอย่างอื่นแอบแฝงก็เป็นได้” สายตาของติ๊ดมองที่อั้นเป็นระยะ เรามองปากมันที่พ่นคำพูดหมาๆแล้วอยากจะเอาน้ำร้อนสาดปากซักที ทำไมต้องพูดอะไรแบบนี้ด้วย เรามองแววตาของติ๊ดด้วยความรู้สึกที่หงุดหงิดและระคายหู เราไม่รู้ว่าติ๊ดต้องการจะสื่ออะไรออกมามากกว่าด่าเราทางอ้อม เราอยากจะด่าด้วยคำพูดแสบๆออกไปแต่ต้องทนนับหนึ่งถึงสิบเพราะเราไม่ได้อยู่ในระดับที่เดียวกันกับเขาในสายงาน เราไม่อาจที่จะทำอะไรได้มากไปกว่าอดทนและหาคำพูดที่ดูแล้วเป็นการตอบโต้ออกไปบ้าง
“ฮื่อ ใช่และคนบางคนก็อาจจะว่าร้ายคนอื่นเพราะตัวเองก็มีจุดประสงค์ไม่ต่างกันเท่าไหร่ก็เป็นได้ แต่ต้องการบดบังความต้องการของตัวเองโดยการประเมินในสิ่งที่คนอื่นคิดต่ำกว่าความคิดของตัว คนเราไม่มีใครทำอะไรโดยไม่หวังผลหรอก จะมากหรือน้อยมันก็แล้วแต่ละคน แต่สำหรับพี่ พี่ก็จะบอกเขาไปตรงๆว่าพี่ต้องการอะไร ถ้าหากเขารับเราได้เขาจะคบกับเราต่อก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากเขารับไม่ได้มันก็สุดแท้แต่ใจเขา” เราหันหน้าไปมองอั้นที่มองเราบ้าง นี่พวกเพศที่สามสองเหล่าทัพกำลังตั้งกระทู้สดโต้ตอบ นังพู่เริ่มเวียนหัวกับสงครามกระทบชิ่งเล็กผ่านตัวมัน
“เปลี่ยนเรื่องเถอะพี่ ฟังแล้วเวียนหัว วันนี้วันเกิดผมนะครับยังไม่ได้ร้องเพลงให้ผมเลย” เสียงเพลงสุขสันต์วันเกิดดังขึ้นจากน้ำเสียงนังพู่ เสียงมันเข้าท่าดี เราได้แต่คลอไปตามเบาๆทุกคนยกเชียร์แล้วรวดเดียว น้องนีอีกสองและเพื่อนผู้ชายของอั้นนั่งกระจายโดยมีแขกรุ่นพี่อย่างพวกเราคั่นกันคนละคนสองคน เราเหลือบมองโต๊ะพี่วริต ต่างคนกำลังกุลีกุจอลุกขึ้น
“พี่วริต” เราเรียกแกข้ามโต๊ะ อั้นเอาขาไขว้เราไว้
พี่วริตเดินมาที่โต๊ะ
“จะกลับรึยัง” เราพยักหน้า ราตรีนี้มันจะอีกนานแค่ไหนนะ ชั้นต้องเอาอะไรให้ได้ซักอย่างแล้ว
“ขอเอ๋เข้าห้องน้ำก่อนพี่ พี่ไปรอที่รถนะ” สองแมนทำท่าเหมือนจะกลับเช่นกัน
“อั้นพวกพี่กลับก่อนนะ” อั้นลุกไปส่งแขกสองคนที่หน้าร้านเราเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ นายอั้นเพิ่งจะส่งสองแมนขึ้นรถไปพอดี
“พี่เอ๋ จะรีบกลับทำไม ไม่นั่งต่อหล่ะครับ”
“พรุ่งนี้พี่ต้องทำงาน อย่าดึกนะอั้น ฝากพี่ทีน่าด้วย” ทีน่าเมาโงนเงนไปแล้ว
“แล้วพี่ไม่ห่วงผมเหรอ”
“ห่วง แต่ก็ไม่รู้จะทำไงนี่นา แล้วเพื่อนผู้หญิงจะกลับกันเมื่อไหร่ มันจะเข้าหอลำบากนะ”
“พี่เอ๋ อย่าเพิ่งกลับนะ”
“ทำไมเหรออั้น” อั้นไม่ตอบ
“งั้นก็ตามใจพี่แล้วกัน” เขาเดินล้วงกระเป๋าเข้าร้านไปแล้ว เรามองเห็นทีน่าที่เอนหัวไปซบที่คอชมพู่แล้วสงสาร เรารีบเดินจ้ำไปที่รถพี่วริต แกติดเครื่องรออยู่
“พี่วริต กลับก่อนนะ ทีน่ามันเมามากเดี๋ยวเอ๋จะไปส่งมันที่บ้านก่อน”
“แล้วที่ตกลงกันไว้หล่ะ” เมาแล้วยังจำได้
“พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะพี่” แกยกมือบอกไม่เป็นไรแล้วขับรถออกจากลานไป พูดง่ายหน่อยคราวนี้จะจัดการลำเลียงลูกสมุนยังไงดีหล่ะ เฮ้อ เห็นสภาพเพื่อนอั้นแล้ว พวกผู้หญิงรีบลุกขอกลับทันทีที่เห็นหน้าเราวนกลับมาอีกครั้ง
“พี่เอ๋ พี่ทีน่าง่อยไปแล้ว ไม่รู้ดีใจอะไรนักหนา กินเหล้ายังกะวันเกิดตัวเอง ไอ้สองตัวนั้นอีก คอยดูนะถ้าพรุ่งนี้ไปทำงานไม่ได้แล้วจะทำไง” มันยังไม่ดึกมากแต่มันกินกันมากเลยเมากันเละเทะ
“พี่เอ๋นี่คอทองแดงเลยนะ เห็นกินตั้งหลายแก้วแต่ไม่ยักเมา”
“พี่มีวิธีกินให้ไม่เมา ไว้จะสอนให้”เราขยิบตาให้ชมพู่ เรากับอั้นยืนส่งชมพู่และเพื่อนที่หน้าร้านขึ้นรถแท็กซี่เสร็จก็กลับมาหาทีน่ากับสองเมาอีก
“อั้นให้พี่อยู่ช่วยเคลียร์พื้นที่เหรอ” อั้นจ่ายเงินแล้วยิ้ม
“เปล่าก็ผมไม่รู้ว่าจะพาพี่ทีน่าไปส่งที่ไหน”
“เห็นแก่ตัว” ชั้นเลยแห้วพี่วริตเลย
“ทีน่า” เราประคองให้ทีน่ากินน้ำชาอุ่นๆเพื่อเรียกสติ ตื่นแต่เช้าทำงานทั้งวันแล้วมาโจ้เหล้าแบบนี้ก็สมแล้วหล่ะ อั้นยืนข้างๆเพื่อนที่นั่งรอรถอยู่บนริมฟุตบาททุกคนพอจะกลับก็อาการดีขึ้น
“พี่เอ๋เลยลำบากเลย”
“อั้นร้ายมากตัวเองหยุดหลายวันแล้วหลอกเพื่อนมากินเหล้า”
“แล้วพี่เอ๋จะให้ทำไงหล่ะครับ ผมก็มีเพื่อนอีกตั้งสองคนที่ต้องดูแล”
“รักเพื่อน” เราค้อน
“ขอบคุณพี่เอ๋นะครับ” แค่นี้เองเหรอที่ชั้นต้องเอาเคพี่วริตมาแลก
“ไม่รับหรอก” อั้นขยับมาชิดแล้วพูดใกล้ๆหูเรา “แล้วพี่จะให้ผมทำไง” อั้นเหมือนอารมณ์เสีย
“พี่จะไปกับอั้น” เรายืนยันคำพูดของเราด้วยแววตาที่จริงจัง อั้นผละไปเรียกรถได้มาสองคัน เรายังไม่ยอมขึ้นรถหลังจากอั้น กึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนทั้งสองเข้าเบาะหลังไปแล้วก็มาประคองทีน่าขึ้นรถให้ เราทั้งคู่ยืนมองหน้ากันอยู่ครู่นึง
“พี่จะรออั้นที่ห้องนะ พี่ชอบอั้น”
"ผมไม่ใช่เกย์"เขาตอบกลับมาแล้วเดินไปขึ้นนั่งรถตอนหน้าพร้อมบอกแท็กซี่ให้ออกรถโดยมีเรายืนมองหน้าเขาจนรถแล่นผ่านเลยไป เราไม่ได้เมา แต่เราต้องการจะเอาชนะเขาอย่างรุนแรง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

127. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:40 PM (SE Asia Standard Time)
 
   244
ชั่วข้ามคืนแห่งความทรมานและทุรนทุรายมันผ่านไปอย่างเชื่องช้า เราไม่ได้มีความหมายต่ออั้นมากไปกว่าผู้ชายจะมองผู้ชายด้วยกันพยายามคิดให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างพี่เพลินสอน แต่ทำอย่างไรมันก็นอนไม่หลับ เราไม่น่าเผลอใจไปกับเขาเลยสักนิด ทำไมเราไม่คิดเป็นกำไรชีวิตที่ได้มาง่ายๆ กลับอยากที่จะเอาชีวิตไปผูกพัน เรานอนไม่หลับจนต้องใช้ยาคลายเครียด แต่กินเข้าไปยิ่งเครียดมากกว่าเดิม หากเขาไม่มาก็ขอเพียงแต่เขาโทรมาบอกก็ยังดี แต่เขาก็ไม่มา กว่าฤทธิ์ยาจะทำงาน มันส่งผลให้เราดูโทรมเพียงชั่วข้ามคืน เราหลบขอบตาคล้ำไม่ให้ใครผิดสังเกต ทีน่าลาป่วยเพราะลุกไม่ขึ้น เพื่อนของอั้นก็ลาป่วยไปคน อีกคนมาทำงานก็อยู่ในสภาพไม่ต่างจากเรา
กว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ วันหยุดพรุ่งนี้ขอนอนยาวเลยก็แล้วกัน ถึงห้องหัวถึงหมอนได้ไม่นานก็มีคนมารบกวนแต่ไม่ใช่ต่อเพราะบอกกันไว้แล้ว อั้นมาหาเราในสภาพที่เมากว่าเมื่อวาน
“มาทำไม” เราถามเขา
“ก็บอกให้มาก็มา มาแล้วยังจะถามอีก”
“เวลาเธอเดินช้านะ”เราเปิดประตูออกให้เขาก้าวเข้ามา อั้นยังไม่ได้นั่งที่พื้นด้วยซ้ำ เสียงโทรศัพท์ของโมก็ดังขึ้น
“มาถึงกรุงเทพฯแล้วนะ อีกครึ่งชั่วโมงจะออกไปรับเอาของไปเก็บที่ห้องก่อน” เรามองหน้าอั้นพร้อมกับฟังการบอกกล่าวของโม ตกใจจนตัวเย็นวาบ
“โม วันนี้น้องเรามาจากต่างจังหวัด มาค้างด้วย”
“เหรอ แล้วจะกลับวันไหน” โมเหมือนอารมณ์ดี
“ยังไม่รู้มาได้สองสามวันแล้ว” เราโกหกเขาอีก
“งั้นเอ๋ก็ให้น้องอยู่ที่ห้องแล้วนั่งรถมาหาเราแล้วกัน” โมบอก “เรารอที่ห้องนะ”เขาไม่รอเราที่จะให้อธิบายอะไรต่อวางหูไปแล้ว นายอั้นยังเมาโงนเงนอยู่ในห้องอยู่เลย จะทำไงดี นึกขึ้นได้ถ้าโกหกก็ต้องให้มันไปทางเดียวกัน รีบเคาะประตูเรียกต่อ ต่อทำหน้างง
“ไหนว่าจะนอนไง” ต่อเห็นรองเท้าที่ไม่ใช่ของเราวางหน้าห้อง
“โม กลับมาแล้ว บอกจะมาหา”
“แล้วไง” ต่อยังยืนเช็ดผมอยู่
“ก็ ชั้นโกหกว่าน้องมาค้างด้วย”
“แล้วไง”
“นี่ตั้งใจฟังหน่อยสิ จะได้ตอบเหมือนกัน”
“เออจะบอกให้ว่ามาหลายวันแล้ว นี่แล้วเก็บหลักฐานให้ดีหล่ะ” ต่อพาดผ้าขนหนูที่ราว “แต่ระวังนะถ้าคืนนี้หล่อนไม่ไปหาหล่อนต้องหาวิธีที่จะไม่ให้เขามาหาก็ได้ โมมันอาละวาดชั้นไม่รู้ด้วยนะ” ต่อมองหน้าเรา
“แล้วพาใครมาอีกหล่ะ”
“อั้น”
“อะไรกัน ยังไม่เลิกวุ่นวายกันอีกเหรอนายอั้นอะไรนี่”
“ก็ชั้นชอบนี่”
“มีใครที่หล่อนไม่ชอบมั่งเอ๋” ต่อทำหน้ากวนๆใส่เรา
“ไม่รู้หล่ะ ยังไงหล่อนก็ต้องหาวิธีช่วยชั้นให้ได้ เขามาหาชั้นเองนี่”
“ก็หล่อนไม่เลิกวุ่นวายนี่นา ข้ามคืนแล้วถึงมาหา ผู้ชายมันคงคิดดีแล้วหล่ะมั๊ง ว่าจะมาทำไม”
“แล้วแต่มันจะคิดเถอะ”ต่อจับที่บ่าเรา
“นี่เอ๋หล่อนจะมากระวนกระวายทำไม รีบจัดการให้เสร็จแล้วก็ไปหาโมเขา อ้างว่าคุยกันเพลินหรืออะไรก็ได้ แต่คืนนี้หล่อนต้องออกไปหาเขา อย่าทำให้เขาสงสัย ไปช้าดีกว่าไม่ไปเลย ถ้ารักจะเจ้าชู้ก็ต้องบริหารเวลาให้เป็น” เป็นครั้งแรกที่ต่อใช้คำว่าเจ้าชู้กับเรา เพราะส่วนใหญ่จะกัดว่ามักมากแทน เราออกจากห้องต่อกลับมาห้องตัวเอง
“ไปไหนมา”
“อั้นมีธุระอะไรกับพี่เหรอ” เครียดจนหายอยากไปแล้ว
“จะมานอนด้วย”
“เอ่อ”
”วันนี้อย่าเพี่งค้างเลยนะ”
“ก็จะค้าง มีปัญหาเหรอ” เอาใหญ่แล้วนายอั้น
“งั้นก็นอนแล้วกันขอพี่ไปทำธุระก่อนนะ ฝากห้องด้วย”
“ไม่ได้ ไม่ได้ พรุ่งนี้ค่อยไป”
“อั้นเมามากเลยนะวันนี้” เราถอนหายใจแล้วนั่งลงข้างๆเขา “ไปอาบน้ำก่อนไป”
“ไม่อยากอาบ พี่เอ๋เอาเหล้ามากินหน่อย” เราลุกไปหยิบผ้าขนหนูส่งให้เขา
“พี่อยากให้อาบน้ำก่อนนะ มอมแมมยังกะไปฟัดกะใครมา” เขารับผ้าแล้วตาขวางใส่เรา ถอดผ้าสลัดกางเกงไม่หลุดจนไปนั่งกองที่พื้น เราต้องช่วยดึงกางเกงให้ที่พันขาเขาออกผ้าขนหนูพันไว้หลวมๆมันกางออกจนเห็นกางเกงในสีขาวที่ซ่อนตัวปรารถนาไว้
“ตาเป็นมันเลยนะ” เขานั่งเอามือค้ำไว้ข้างหลัง “จะทำอะไรก็ทำสิพี่” ไม่เอาหล่ะถ้าจะเมือก
“ไปอาบน้ำก่อนนะ” อั้นทำทีเป็นลุกแล้วลากแขนเรากระชากไปบนเตียงอย่างแรง
“เจ็บนะ”
”ไหนบอกว่าชอบไง จะเดินหนีทำไม” เขากระเสือกกระสนให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกับเป้าของเขา กลิ่นฉี่และกลิ่นเหงื่อมันค่อนแรงจนเรากลั้นหายใจ อั้นเอาเข่าล็อคตัวด้านบนของเราไว้พร้อมกับนั่งทับ เขางัดสิ่งที่เราดอมดมอย่างหอมหวานเมื่อครั้งก่อนมาเกลี่ยที่ริมฝีปากเรามันเมือกและเหนียวเพราะฉี่เราหันหน้าหนี
“อมหน่อยพี่เอ๋ วันนั้นยังทำนี่นา” สายตาอ้อนวอนที่อั้นมองลงมา
“ไปอาบน้ำก่อนนะ”เราบอกเขาอีกครั้งอั้นเอาตัวออกจากเรา
“งั้นก็ตามใจ ให้แล้วไม่เอา”
“ก็บอกให้ไปอาบน้ำก่อน มันเหม็นขนาดนี้จะทำได้ไง”
“เหม็น” อั้นทำท่าย่นจมูกแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย เราเดินไปเคาะที่ประตู เขากำลังจะปลดผ้าขนหนู
“มีอะไรพี่”เราดันประตู “จะเอาอะไร” ห้องน้ำแคบๆอัดเข้าไปสองคน เราปลดผ้าขนหนูเขาออกและดันตัวเองให้ปิดประตู
“เฮ้ยพี่จะทำอะไร”เราคว้าเป้าเขาไว้
“ก็มันไม่เคยนี่”อั้นดิ้นหลุดแล้วดันตัวเราเข้าไปด้านในพร้อมเปิดประตูห้องน้ำวิ่งออกมาทั้งกางเกงในตัวเดียวเข้ามาในห้อง
“เล่นอะไรบ้าๆกลัวนะ” เรายืนขำที่เขาไปนั่งหอบบนเตียง
“แค่นี้ก็ตกใจ” เรายืนขำต่อหน้าเขา “ไปไป ไม่แกล้งแล้ว” อั้นระวังหลังกลัวเราจะตามเข้าไปอีก อะไรจะขนาดนี้ เขาออกมาพร้อมกับความสะอาดสดชื่น
“สร่างแล้ว” เรามองกองเสื้อผ้าของเขาที่มันมอมแมม
“ชุดที่ใส่เมื่อวานเหรอ”
เขาพยักหน้า
“กลับไปก็กินกันต่อถึงเช้า” แล้วก็นอน นึกขึ้นได้ก็รีบออกมานี่แหล่ะ น้ำก็ไม่ได้อาบ
“สกปรก ไหนว่าจะกลับบ้าน”
“ไม่กลับแล้ว พ่อจะขึ้นมาประชุมพอดี แกจะแวะมาหา”
“งั้นก็กลับไปทำงานสิ”
“ไม่เอา เหนื่อย เมื่อไหร่มันจะเสร็จซะทีนะ”
“อั้นเรียนอะไรเหรอ ถึงได้มาฝึกฝ่ายบุคคล”
“เรียนบริหาร พ่อเขาอยากให้เลิกเที่ยวแต่มันอดไม่ได้หรอก ผมเรียนเก่งนะพี่” แค่รู้ว่าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐก็โอเคแล้วนะ
“ขี้โม้จริงๆ” เราพลิกตัวมานั่งมองดูหน้าเขา
“แล้ววันนี้มีธุระอะไรเป็นพิเศษกับพี่รึเปล่า” เขาส่ายหน้า
”มาหาเฉยๆ เสื้อที่พี่ให้ผมยังอยู่ในกระเป๋าอยู่เลยนะ” เขาชี้ไปที่เป้ที่ติดตัวของเขา “โคตรรู้ใจเลย รู้ได้ไงว่ากำลังอยากได้”
“ก็เห็นพูดถึงบ่อย ตอนกินเหล้าคราวที่แล้ว” เรานึกถึงราคาแล้วก็สมควรหรอกนะที่พูดถึงบ่อยๆ
“รอมันเซล มันก็หมดก่อนทุกที”
เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง
“เฮ้ย เมื่อไหร่จะมาเนี่ย” เรามองหน้าอั้นที่เขาทำท่าแปลกใจ
“พรุ่งนี้เช้าจะไปนะ ยังคุยธุระไม่เสร็จ” เสียงโมค่อนข้างเมาและแสดงอำนาจ “เมารึเปล่า”
“ไม่ได้เมา”
“นานๆเจอกันทีมีเรื่องคุยเยอะ รับรองตื่นมาเจอเราแน่นอน”
“ให้มันจริงนะเอ๋ อย่าเล่นตลก หรือว่ามีอะไร โกหกรึเปล่า”
“ไม่ได้โกหก จะโกหกให้ได้อะไรขึ้นมา พูดไม่รู้เรื่องเราก็โกรธเหมือนกันนะ” เราทำเสียงแข็งใส่เขาคืนบ้าง
“งั้นพรุ่งนี้นะ ถ้าไม่มาน่าดูแน่”เขากระแทกหูใส่เรา อั้นทำหน้าสงสัย
“ทะเลาะกับเด็กเหรอ”
“เปล่า ทะเลาะกับผู้ใหญ่” อั้นยังยืนอยู่ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เราลุกขึ้นไปหาเขาใกล้ๆ
“เอาอีกแล้ว”เขาเบี่ยงตัวหลบแต่สายตาที่มองกลับมานั้นมันล่อหลอกเหลือเกิน
“ฮั่นแน่ ไม่ได้แอ้มหรอกทีนี้” เขาหลบได้ก็ยืนคุมเชิงหนีบชายผ้าเช็ดตัวทั้งสองข้างแน่นก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าดึงเสื้อที่เราซื้อให้มาใส่
“มีกางเกงขาสั้นมั๊ยพี่” เราลุกไปหยิบให้แต่โดยดี เขายกขึ้นดู
“มีที่สั้นกว่านี้มั๊ย” พูดเหมือนประชด
“นี่แหล่ะยาวสุดแล้ว”
“มันจะเก็บอะไรได้เนี่ย” ตัวสูงยาวของเขาคงทำให้เหมือนใส่กางเกงในมากกว่ามั๊ง อั้นลองใส่แล้วทำหน้าเบ้
“ไม่ไหวพี่มันรัด จุกไปหมดเลย”อั้นปลดผ้าขนหนูออกกางเกงขาสั้นใส่เล่นของเรามันรั้งจนแก้มก้นอั้นโผล่พอเขาหันมาเท่านั้นแหละพ่อเจ้าประคุณเอ๊ย น้ำลายเราสออีกแล้ว เราขยับไปหา
“ก็ใส่ให้มันดีๆสิ มานี่จะขยับให้ ใส่ไม่เป็นเอง” เราแกล้งหวังดีจับที่ชายกางเกง พอเขาวางใจก็สอดนิ้วเข้าไปข้างใน อั้นสะดุ้งเพราะนิ้วไปเขี่ยที่ปลายพอดี
“เล่นอีกแล้วพี่เอ๋นี่” เขาเดินหนีไปนั่งบนเตียงแล้วก็เอนตัวลงนอนเอียงข้างให้
“นวดให้หน่อยพี่ เมื่อยเอว” มารยาอีกแล้วจะเอาอะไรอีก ถ้าไม่หวังกินของหวานนะบึ่งไปหาโมนานแล้ว อั้นนอนคว่ำออกคำสั่ง
“เนี่ยปวดต้นคอ” เราก็บีบที่ต้นคอเขาเบาๆ
“มือพี่อุ่นดีนะ” เขาครางฮึมฮำอย่างสบายตัว เรานวดไล่ลงไปเรื่อยๆถึงกลางหลังสะโพก ต้นขาไล่ขึ้นไล่ลงก้นก็สอดมือเข้าไปในกางเกง อั้นพลิกตัวเมื่อนิ้วเราแซะไปตามร่องก้นของเขา
“พี่เอ๋ ชอบเล่นอะไรแปลกๆนะ” เขาไม่ยอมหันหลังกลับเปลี่ยนเป็นนอนหงายเอาหมอนมาบังลำตัวช่วงล่างไว้ เรารู้ว่ามันแข็งแน่นอน ใครมันจะไปทนได้ทั้งนวดทั้งคลึงแบบนี้
“นอนแล้วนะ”
“จะนอนเฉยๆเหรอ”
“ก็นอนนะสิ” เราดึงหมอนจากการกอดของเขาแล้วนั่งทับตัวอั้นไว้ เขาเหมือนกะสนุกกับการเล่นของเรา เบี่ยงตัวหนีมือที่ลูบไล้ตามต้นขา ที่แนวขนเริ่มเด่นชัด
“แล้วอะไรเนี่ย ทำยังกะไม่เคย” เราไม่ยอมแพ้แม้อั้นจะเอามือปิดไว้แต่เราดื้อกว่าสุดท้ายก็สอดมือเข้าขอบขากางเกงไปเจอน้องของอั้นจนได้
“แข็งขนาดนี้ยังจะเล่นตัวอีก” อั้นเอาหมอนปิดหน้า
“จะทำอะไรก็ทำเท้อ” เขาพูดทั้งๆที่หน้าอยู่ใต้หมอน เราเอามือดึงหมอนออกจากหน้าเขา มือลูบไปตามลำยาวมันแข็งลอดขากางเกงออกมาเกือบครึ่งลำ
“แล้วจะใส่ทำไมเนี่ย ไหนบอกว่าอึดอัด”เขายกก้นขึ้นโดยง่าย กางเกงหลุดออกมาแล้วพร้อมการช่วยเหลือของเขาอั้นใช้ขาทั้งสองข้างดันกางเกงออกให้พ้นตัว ลำตั้งตัวหัวยังคงเป็นสีชมพูมันวาว เราไม่ได้ปิดไฟมันแดงกล่ำอยู่กับมือเราที่ผลุบเข้าผลุบออกหนังมันร่นตามมือเราไปเรื่อยๆ
“พี่เอ๋ ไม่โม๊คเหรอ”
“ล้างรึยัง”
“ดมดูสิ” เราก้มหน้าลงช้า กลิ่นสบู่ล้างกลิ่นเหม็นของเมื่อครู่ได้ชะงัดนัก เรามองหน้าเขา อั้นพยักหน้าก่อนจะเอาหมอนมารองผงกหัวดูการกลืนเหยื่อของเรา
“ดูอะไร” เราถอนริมฝีปาก
“มันเสียวก็อยากรู้ว่าพี่ทำไง”
เราจ้องตาเขาแล้วดูดเน้นๆที่หัวแรงๆ อั้นดิ้นเอามือดันหัวเราออก
“โอ๊ย เสียว พอแล้ว” พอเราถอนปากออกมันก็หดตัว
“เสียวจนหดเลยพี่ แต่ผมชอบนะ”อั้นพยายามป้อนมันเข้าปากเราอีก
“เอาแบบเมื่อกี๊นะ” เขานอนมองเราที่ดูดดุนเครื่องเคราของเรา นานจนน้ำลายในปากมันแห้งแล้วแห้งอีกแต่เขาก็ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอย่างที่เราต้องการ
“ไม่แข็ง”
“อย่าหยุดสิพี่เพลินดี” เราไม่ไหวเพราะคอแห้งเหลือเกิน
“เหนื่อยแล้ว” แต่มือยังรูดมันเล่นอยู่ อั้นแกะมือเราออก
“พี่ดุนไข่ให้หน่อย” นี่มันเปลี่ยนจากเมื่อวานเป็นแบบนี้เพราะอะไรเนี่ย มือของอั้นกระตุกขึ้นลงตามจังหวะที่เขาต้องการโดยมีลิ้นเราทำหน้าที่ตามคำสั่ง
“กินน้ำมั๊ยพี่” อั้นยื่นปลายหัวที่กำลังยืดออกมามันเป็นสายยาวติดที่หัวแม่มือเขาบังคับมันจ่อไว้ที่ลิ้นของเราแล้วปล่อยมันออกมาเรื่อยๆจนหมด อยากจะบ้วนทิ้งแต่ความหวานมันยวนใจเรากลืนมันลงไปจนหมดแล้วโลมไล้ทำความสะอาดความเหนียวเหนอะด้วยลิ้นก่อนจะลุกไปห้องน้ำ อั้นเดินตามมาคราวนี้กลับไม่อาย ยืนแอ่นให้เราฟอกสบู่รูดเข้ารูดออกจนเราอยากมาอีก เขาตีหัวเราเบาๆเมื่อถึงที่นอนก่อนจะกอดเราแน่น
“พี่เอ๋ อยู่คนเดียวรึเปล่า” เราพยักหน้า
“มีอะไรเหรอ”
“จะเป็นไรมั๊ย ถ้าผมขอมาค้างห้องพี่สักสองสามวัน”
“ทำไมเหรอ”
“พอดี เอ่อ เพื่อนมัน” เขาหยุด “ได้มั๊ยพี่ พอพ่อผมมาแล้วผมจะย้ายที่อยู่”
แล้วเราจะทำยังไงนี่
“แต่พรุ่งนี้พี่ไปธุระทั้งวันนะ”
“ไม่เป็นไร พี่ออก ผมออก”
“แล้วอั้นจะไปอยู่ที่ไหนหล่ะ”
“ไปเดินสวนก็ได้ พี่กลับกี่โมง”
“ยังไม่รู้เลย” ที่ไม่รู้คือโมจะกลับเมื่อไหร่ต่างหาก
“งั้นผมไปหาอะไรทำแล้วกลับสักสองทุ่มนะ”
“ไม่เป็นไรแน่นะ” เขาย้ำอีกที เราพยักหน้า เราอยากอยู่กะเขาแล้วสิ มาเองนะไม่ได้ลากมา แต่ว่าทีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องของโมยังไง คิดไม่ออก แว่บนั้นเราคิดถึงพี่เพลิน กะว่าจะโทรไปหาแต่ก็ต้องชะงักไว้ก่อน ดูท่าทีของโมก่อนแล้วกัน แล้วเช้านี้เราจะไปหาโมที่ห้อง โดยแยกจากอั้นที่หน้าปากซอย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

128. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:41 PM (SE Asia Standard Time)
 
   245…..
เราเปิดประตูเข้าห้องโมอย่างเงียบที่สุด เกรงว่าจะทำให้เขาตื่น แต่เขาตื่นแล้วและกำลังอาบน้ำ กองเอกสารที่หอบมาจากไซต์ยังคงวางอย่างระเกะระกะบนโต๊ะทำงาน เครื่องคอมพ์ยังคงเปิดค้างอยู่ เราเดินเลยผ่านโต๊ะทำงานออกไปที่ระเบียงหลังห้อง มองเห็นขวดเหล้าเปล่าวางอยู่ที่พื้น เสียงน้ำฝักบัวเงียบไปแล้ว โมเดินแก้ผ้าโทงๆอยู่คนเดียวโดยคงไม่คิดว่าเราจะมาถึงประตูห้องน้ำมันอยู่ในห้องเขาเลยสะดวกที่จะแก้ผ้าโทงๆไปมาเพราะระเบียงหลังมันค่อนข้างจะมิดชิดกันอุจาดได้ ไหนจะต้นไมที่โมปลูกจนสูงเต็มระเบียง เขาไม่แปลกใจว่ามีใครเข้าห้องเพราะเราไม่ได้ส่งเสียงให้รู้ตัว เราค่อยๆเดินเข้าตัวห้องตอนที่เขาหันหลังให้ตู้เสื้อผ้าก้มลงหยิบกางเกงใน พวงไข่มันแกว่งตอนที่เขาก้มลงหยิบกางเกงในในลิ้นชัก
“ชีเปลือย” เรายืนมองเขาอยู่ข้างหลัง โมคงกำลังเพลินเขาตกใจจนสะดุ้ง หันมาแล้วเอามือกุมส่วนนั้นไว้
“ตกใจหมดเลย มาเมื่อไหร่นี่” โมยังคงเอามือกุมของสงวนไว้
“มาตั้งนานแล้ว เห็นเดินหำแกว่งอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว”
”ทะลึ่ง” โมใส่กางเกงในและกางเกงยีนส์
“อ้าวแล้วจะแต่งตัวไปไหน”
“ไปเอางานที่บ้านวี”
“แล้วเร่งให้มาทำไม ทำงานยังไม่เสร็จ”
“รอไม่ไหว”
“รอแค่นี้ก็ไม่ได้
“ไม่ได้อย่างใจ ระวังนะจะโดนทิ้ง”
“กล้าเหรอ” เรามองตาโม ผิวเขาคล้ำลงเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นยังเหมือนเดิม
“กล้า” โมจ้องหน้าเราตอบเช่นกัน เราหลบสายตาเขา มันคงจะจริงอย่างที่เขาพูดกระมัง เพราะหากคิดดูแล้ว เรากับโมไม่เจอกันกว่าสองเดือนแล้ว ถ้าโมไม่หายหน้า เราคงไม่แตกแถว ...ชั้นไม่เชื่อ พี่เพลินอีกแล้ว
“เงียบทำไม ไม่ดีใจเหรอ”
“ดีใจที่โดนทิ้งงั้นเหรอ”
“อ้าวจะได้มีอิสระไง เห็นรักความเป็นอิสระนี่” โมเดินไปหยิบเสื้อในตู้มาใส่ น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบหากแต่แฝงความเฉยชา
“ใครบอก”
“ใครบอก ลืมแล้วมั๊งพูดอะไรมั่ง” จู่ๆอารมณ์ก็เปลี่ยน “ไม่รู้จักเอาใจเรานะ ซักวันจะรู้สึก” เรานั่งลงที่เตียงแล้วเอนตัวลงนอน
“งั้นเราจะรอที่ห้องนะ”
“ไม่ต้องรอหรอก ไม่รู้จะกลับกี่โมง” โมคาดนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานบนข้อมือ
“อะไรก็ไม่รู้ โมนี่ เรากลัวนะที่โมเฉยๆแบบนี้” เราเดินไปกอดเขาจากด้านหลังแล้วจูบที่แผ่นหลังแข็งแรงนั้น
“เอ๋ ต่างหากที่เราดูไม่ออก เราคิดถึงนะถึงได้รีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับมา”
“ก็โมไม่บอกวันให้แน่นอนนี่ และอีกอย่างน้องเรามาหา จะให้เราทิ้งน้องมาได้ไง”
“ถามจริงๆเหอะ น้องจริงๆหรือคนอื่น”
“น้อง” เราตอบและพยายามจ้องตาเขาตอบ โมบีบที่ไหล่เราอีกครั้ง
“โกหก” เขาผลักเรากลับไปที่เตียงตามเดิม เรานอนหงายอยู่อย่างนั้นหวังใจว่าเขาจะกระโดดขึ้นมาคร่อมแล้วบอกว่าอำเล่น แต่ก็เปล่าโมหยิบกุญแจรถแล้วออกจากห้องไปทั้งที่เรายังนอนอยู่บนเตียง บอกไม่ถูกว่าอย่างนี้แล้วเรารู้สึกยังไง มันหวิวๆ ตื้อๆพิกล สู้ให้โมอาละวาดใช้กำลังยังจะรู้สึกดีกว่าที่เขาทำเฉยแบบนี้เสียอีก
เราออกจากห้องหลังจากที่เขาออกไปไม่นาน
ทั้งนั่งทั้งนอนจนเวลามันล่วงผ่านเวลานัดของอั้น เราเหลือบดูนาฬิกาบ่อยครั้ง หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง จนดึกขึ้นไปเรื่อยๆ สลับกับมองดูโทรศัพท์ว่าเมื่อไหร่มันจะส่งเสียงเสียที ...เงียบ มีแต่เสียงนาฬิกาท่ามกลางความเงียบนั้น เสียงต่อเปิดห้องกลางดึกเรารีบลุกไปที่ประตูหวังจะถามว่าต่อไปไหนมา
ต่อกับวีเพียงแค่พยักหน้าให้แล้วทำท่าง่วงนอน
“พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ” ทั้งคู่ปิดประตูแล้วเงียบไป เรารับปากให้อั้นค้างกับเราแต่นี่เขาไปไหน เป้ของเขายังอยู่ในห้อง เสื้อผ้าที่ใส่มาเราทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
“โม” อดทนไม่ไหวต้องโทรหาเขา
“โม โกรธเราเรื่องอะไร”
“ไม่ได้โกรธ”เขาตอบเหมือนไม่อยากคุยด้วย
“จะให้เราไปหามั๊ย”
“อยู่กับน้องเถอะ ไม่ต้องมาหรอก”
“ก็” ยังไม่ทันจะได้พูดต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง “งั้นพรุ่งนี้เราจะไปหานะ” โมวางหูไปง่ายๆ ไม่ตอบอะไร อั้นยืนยิ้มที่หน้าห้อง
“พี่นอนแล้วเหรอ”
“ไปไหนมา”
“ไปหลายที่ หาห้องด้วย” อั้นเรียนที่กรุงเทพฯ เช่าบ้านอยู่กะเพื่อน เขาอยากจะเปลี่ยนที่เพราะบ้านเช่าไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก
“กินข้าวมายัง”
“เรียบร้อย” อั้นถอดรองเท้าแล้วถือออกไปตากด้านนอกหลังห้อง เขาทำธุระส่วนตัวเงียบๆ
“ทนหน่อยนะพี่เอ๋ อีกไม่กี่วันผมก็ได้ห้องแล้ว”
“ไปอยู่กะใครเหรอ”
“พอดี อยากอยู่คนเดียวหน่ะพี่ เพื่อนมันพาผู้หญิงมาอยู่ด้วย ผมไม่อยากมีปัญหา พ่อแม่เอาตายเลย”
“แล้ว ถ้าพ่ออั้นมาอั้นจะบอกยังไง”
“ไม่ให้เจอกันหรอกน่ารับรอง ผมก็ไปค้างกับพ่อที่โรงแรมไง”
“ก็ดี”
“พี่เอ๋ วันนี้เมื่อยกว่าเมื่อวานอีก เดินทั้งวันเลย”
“พี่ก็เมื่อย” เราเมื่อยหัวใจซี่งมันล้ากว่าอั้นอีก
“ผมนวดให้เอามั๊ย”อั้นพลิกตัวมาเกาะเราที่นอนตะแคงข้างให้เขาอยู่ ฝ่ามือที่บีบลงบนต้นแขนไปมาช้าๆเนิบ
“พอแล้วจั๊กกะจี้ เล่นอะไรก็ไม่รู้อั้นนี่” เราพลิกตัวกลับมาตั้งรับ “คึกอะไรเหรอ”
“ปล่าว” เขาหัวเราะแล้วนอนหงาย เราไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ เราแกล้งโน้มหน้าลงไปหาเขาจนชิด อั้นไม่ได้หลบหากแต่มองหน้าเรากลับ เราลองใจเขาด้วยการประทับริมฝีปากลงไปที่ปากแดงของเขา อั้นยังเฉย เขาหลับตาในขณะที่เราค่อยบดริมฝีปากลงไป ปากเผยอรับลิ้นของเรา เขาเมาแน่นอนเพราะกลิ่นเหล้ายังมีโชยมาอ่อนๆ ฝ่ามือเราเลื่อนลงไปที่มั่นสุดท้ายอย่างใจเย็น มันสู้มือ อั้นลืมตาเมื่อเราดันส่วนนั้นให้ออกมาด้านนอกกางเกงขาสั้น
“.......” ไม่มีคำพูดอะไรจากปากเขา มีเพียงแค่การกระทำของเราเช่นเคย ส่วนยาวนั้นค่อนข้างยากที่จะลำเลียงมันเข้าไปหมดเพราะติดที่ความใหญ่ด้วย
“เสียวพี่” อั้นบอกเบาพร้อมกับดึงแขนให้เราทาบทับลงไป “ถอดเสื้อเถอะพี่เอ๋” เขารั้งชายเสื้อเราขึ้นแล้วถอดมันออกจากตัวเรา ความอุ่นมันแผ่ซ่านอกกับอกเบียดกันแน่น อั้นกอดเราไว้ที่อก เขากางขาออกให้การนั่งของเราได้ระดับอั้นกระแทกมันเข้ามาเบาๆ พอได้ที่เขาก็เร่งจังหวะ มันเป็นความรู้สึกที่เราอิ่มเอมเหลือเกิน นานแค่ไหนที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เราปลื้มเขามาก เราปล่อยให้อั้นดันตัวขึ้นมาจนเข้าพุ่งในถุงยาง
คืนนั้นเรานอนกอดอั้นทั้งคืน นี่มันจะเรียกว่าอะไร ไม่มีใครตอบได้แม้แต่ตัวเราเป็นความประทับใจที่ยากจะบรรยายตื่นเช้าก็มองหน้ากันเราจะจูบเขารับแสงตะวันยามเช้า อั้นขยับหนี
“อย่าเพิ่งเลยพี่ ไปแปรงฟันกันก่อนเถอะ” อั้นลุกขึ้นขยับกางเกงแล้วก้าวลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ
“พี่เอ๋ วันนี้ไปไหนมั๊ย” ไม่รู้ว่าจะไปหาโมดีรึเปล่า
“ไปดูห้องเป็นเพื่อนได้มั๊ยครับ” อั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่กลับไปเอามาจากห้องอีกกระเป๋านึง
“ไปดูที่ไหนหล่ะ”
“ก็แถวซอยถัดพี่ไปนั่นแหล่ะ”
“ไกลจากมหาลัยเธอตั้งเยอะนี่”
“นั่งเรือไปก็ได้ ตอนไปเรียน”
“แล้วทำไม” เราเกือบจะถามว่า ทำไมไม่อยู่ที่นี่เลย
“ไม่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่เอ๋ แบบนี้ มัน” อั้นมองหน้าเรา “ตอบไม่ถูกว่าผมคิดอะไรกับพี่ พี่อย่าเพิ่งถามเลยนะครับ”
เราเดินตามเขาขึ้นลงอพาร์ทเม้นท์จนเจอแบบที่เขาต้องการหากแต่ว่าต้องรออีกหนึ่งเดือนจึงจะเข้าอยู่ได้
“ไม่เป็นไร จองไว้ก่อนครับ พอดีฝึกงานเสร็จปิดเทอมกลับบ้าน ได้อยู่เทอมหน้าพอดี”
“ฝึกเสร็จเมื่อไหร่”
“พี่แจ่มว่าอยากฝึกจนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะแกยังไม่มีงบจ้างพนักงานประจำเพิ่ม”
“งั้น”
“ถ้าผมฝึกต่อ ผมอยู่กะพี่นะ” เขาหันมายิ้ม นี่เราฝันกลางวันอยู่รึเนี่ย เราเดินกลับห้องคนเดียวพร้อมกับความคิดที่แตกซ่าน อั้นขอตัวไปหาเพื่อนที่บ้านเช่า เรายื่นกุญแจสำรองให้แก่เขา อั้นทำหน้าแปลกใจ
"เผื่อพี่ไปข้างนอก อั้นจะได้เข้าห้องได้" ห้องเราไม่ได้มีสมบัติอะไรนอกจากเครื่องอำนวยความสะดวก
"ขอบคุณครับ" เขารับไปถือไว้แล้วเดินไปออกจากห้องไปอย่างที่บอก
“พี่ว่าตอนนี้เอ๋หลงอั้นแล้วหล่ะสิ”
“ไม่รู้เขาคิดอะไร” เราถามพี่เพลิน
“ไม่ได้คิดอะไรหรอก มีแต่เราแหล่ะ ที่คิด” พี่เพลินย้ำ “เราเองเท่านั้นที่คิด พี่เคยบอกแล้วว่า บางครั้งผู้ชายก็ทำอะไรที่เราไม่คาดคิดให้เราแปลกใจได้เหมือนกัน บังคับตัวเองให้ได้นะมีสติ อย่าหลงระเริงว่าเขาทำเพราะรักเรา แต่ให้คิดว่าเขาก็มีเหตุผลที่ต้องทำ และก็ไม่ต้องไปถาม ไม่นานเขาก็จะพูดออกมาเอง” พี่เพลินเหมือนกินอะไรไปพูดไป
“เคี้ยวหมากอยู่เหรอพี่”
“บ้า นี่ลามปาม”
“แล้ว” ยังไม่ทันจะถามแกก็สวนกลับ
“เรื่องของโมนะเหรอ” แกถอนหายใจ “ตอบยาก จนป่านนี้ มันก็ไม่ลงตัว เขาอารมณ์รุนแรงพอๆกับเอ๋ จริงอยู่ว่ามันคล้ายว่าเขารักเรามากเลยหวงเรามาก แต่ในความรู้สึกของพี่ พี่ว่ามันแปลกและตอบเอ๋ไม่ได้ว่ามันคืออะไร สิ่งที่เอ๋ควรทำ” แกหยุดพูดเหมือนจะดูดน้ำ “คอแห้ง”
“ดูไปก่อนนั่นแหล่ะ ถูกแล้ว ส่วนว่าถ้าเขาจะรู้เรื่องของอั้น ก็ปล่อยให้เขารู้ไปเถอะ อย่าไปโกหก แต่ไม่จำเป็นต้องบอก”
“อ้าว ถ้าเอ๋โดนเหมือนคราวที่แล้วอีกหล่ะ”
“ไม่มีทาง คนเราเขาก็มีบทเรียนที่ผ่านมาเขาทำแบบนั้นเอ๋ก็ยังไม่ทิ้งเขา พี่ว่าเขายังงอนเอ๋อยู่ที่สั่งแล้วไม่ได้อย่างใจ แต่ว่าให้เขารอไป เชื่อพี่เถอะว่าต่างคนต่างลองเชิงกันอยู่ เว้นเสียแต่ว่าเอ๋เล่าให้พี่ฟังไม่หมดเรื่องมันก็จะเป็นอีกอย่าง”
“เอ๋ไม่เข้าใจ”
“พี่ก็ไม่เข้าใจ เราไม่ใช่ตัวเขา เราตอบไม่ได้หรอก บางทีตัวเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่พี่ว่าเอ๋คงเคยมีความรู้สึกนี้บ้างนะ ความรู้สึกที่ว่า อยากจะไปหา อยากจะเจอ พอเขาไม่มาก็คิดไปต่างๆนานาว่าเขามีคนอื่นแค่เหตุผลเดียว แล้วพอเขามาก็ฉุนเฉียวที่ทำไมมาช้า ไม่มาตอนที่เราต้องการ เลยหงุดหงิด พี่เชื่อว่าพอเขากลับห้องแล้วไม่เจอเอ๋ เขาก็พอจะรู้แล้วหล่ะว่า เขาควรจะทำยังไง แต่ว่าตอนนี้เขาอาจจะยุ่งกับงานก็เป็นได้”
คำตอบพี่เพลินเหมือนจะกระจ่างแต่ก็ยังงงอยู่ดี ไม่เคลียร์
“คราวนี้ก็เรื่องของเรา เราจะเอาไงกันแน่ อย่ารักพี่เสียดายน้อง แล้วมันจะไม่ได้อะไรเลย”
“อ้าว ก็อั้นเขาไม่ได้ว่าอะไรและโมอีก”
“งั้นก็อยู่แบบนี้ไปก่อน อะไรจะเกิดก็เกิดแล้วอย่าเสียใจนะ จริงๆแล้วอย่างพวกเราเนี่ย มันก็เลื้อยไปเรื่อยแหละ เจอหลักที่ไหนก็เกาะที่นั่น ว่ามั๊ย” พี่เพลินมาแปลก สอนอะไรยากที่จะหาข้อสรุปได้ เรามองตัวเองที่หน้ากระจก ชีวิตรักของเราจะดำเนินไปแบบไหนกันนะ เราไม่ได้กลัวโมจะอาละวาด สิ่งเดียวที่เรากลัวมันก็คือหากโมกับเราตัดขาดจากกันจริงๆ เราจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนเท่านั้น แต่เราก็ยังไม่อยากทิ้งอั้นไปในตอนนี้ สองความรู้สึกที่มันรุมเร้านี้
“ไงอีสวย” ต่อเปิดประตูมาทำลายความสงบ
“ถึงกับนอนซึมเลยเหรอ” ต่อรับรู้เรื่องราวของเราแล้วมองไปที่หน้าห้อง
“จะทำไง จะเลือกใคร จะรักใคร ไม่มีอะไรแน่นอนซักคน หากินไปเรื่อยๆเถอะเอ๋” ต่อบอกเราอย่างไม่ยินดียินร้าย
“เสียดาย”
“เสียดายอะไร ทำยังกะไม่เคยได้ ตัดมาต่อกันไม่ถึงฟ้าแล้วเหรอ”
เราขำกับการเปรียบเทียบของต่อ “ทำยังกะพวกไร้เดียงสาไม่เคยได้ ผัวก็เคยมี แย่งผัวคนอื่นก็เคยทำ แอบเอาผัวคนอื่นก็บ่อย หล่อนนี่มันครบทุกหลักสูตรเลยนะ”
“เหรอ” เรายิ้ม
“ถ้าโมมันมาหาหล่อน หล่อนจะทำไงเอ๋”
“ไม่ทำไง เพราะยังไม่มาหา”
“ระวังเถอะ มันจะลากหล่อนไปขังที่ต่างจังหวัด ที่มันทำงานอยู่”
“ไม่มีทางหรอก”
“แล้วไอ้ที่โดนซ้อมคราวก่อนไม่เข็ดเหรอ” ต่อเอามือมาแตะที่หางคิ้ว รอยยาวที่ปรากฎอยู่
“เขาคงไม่ทำเราอีกแล้วหล่ะ”
“ก็ไม่แน่”
ยังไม่ทันที่ต่อจะพูดอะไรจบ โมก็มายืนอยู่หน้าประตูห้อง
“เอ๋ ออกไปข้างนอกกันหน่อย” ต่อลุกขึ้นดึงมือเรา
“เราไปด้วยได้มั๊ย” ต่อถามกับโม แต่โมส่ายหน้า แม้สายตาที่ต่อจะห่วงใยเราแค่ไหน แต่เราก็ต้องเดินตามโมไปที่รถและนั่งไปกับเขาจนถึงห้อง
ต่างคนต่างเงียบอยู่ครู่ใหญ่ แล้วโมก็ขยับตัวหันหน้ามาหาเรา ...........................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

129. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:43 PM (SE Asia Standard Time)
 
   245…..
เราเปิดประตูเข้าห้องโมอย่างเงียบที่สุด เกรงว่าจะทำให้เขาตื่น แต่เขาตื่นแล้วและกำลังอาบน้ำ กองเอกสารที่หอบมาจากไซต์ยังคงวางอย่างระเกะระกะบนโต๊ะทำงาน เครื่องคอมพ์ยังคงเปิดค้างอยู่ เราเดินเลยผ่านโต๊ะทำงานออกไปที่ระเบียงหลังห้อง มองเห็นขวดเหล้าเปล่าวางอยู่ที่พื้น เสียงน้ำฝักบัวเงียบไปแล้ว โมเดินแก้ผ้าโทงๆอยู่คนเดียวโดยคงไม่คิดว่าเราจะมาถึงประตูห้องน้ำมันอยู่ในห้องเขาเลยสะดวกที่จะแก้ผ้าโทงๆไปมาเพราะระเบียงหลังมันค่อนข้างจะมิดชิดกันอุจาดได้ ไหนจะต้นไมที่โมปลูกจนสูงเต็มระเบียง เขาไม่แปลกใจว่ามีใครเข้าห้องเพราะเราไม่ได้ส่งเสียงให้รู้ตัว เราค่อยๆเดินเข้าตัวห้องตอนที่เขาหันหลังให้ตู้เสื้อผ้าก้มลงหยิบกางเกงใน พวงไข่มันแกว่งตอนที่เขาก้มลงหยิบกางเกงในในลิ้นชัก
“ชีเปลือย” เรายืนมองเขาอยู่ข้างหลัง โมคงกำลังเพลินเขาตกใจจนสะดุ้ง หันมาแล้วเอามือกุมส่วนนั้นไว้
“ตกใจหมดเลย มาเมื่อไหร่นี่” โมยังคงเอามือกุมของสงวนไว้
“มาตั้งนานแล้ว เห็นเดินหำแกว่งอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว”
”ทะลึ่ง” โมใส่กางเกงในและกางเกงยีนส์
“อ้าวแล้วจะแต่งตัวไปไหน”
“ไปเอางานที่บ้านวี”
“แล้วเร่งให้มาทำไม ทำงานยังไม่เสร็จ”
“รอไม่ไหว”
“รอแค่นี้ก็ไม่ได้
“ไม่ได้อย่างใจ ระวังนะจะโดนทิ้ง”
“กล้าเหรอ” เรามองตาโม ผิวเขาคล้ำลงเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นยังเหมือนเดิม
“กล้า” โมจ้องหน้าเราตอบเช่นกัน เราหลบสายตาเขา มันคงจะจริงอย่างที่เขาพูดกระมัง เพราะหากคิดดูแล้ว เรากับโมไม่เจอกันกว่าสองเดือนแล้ว ถ้าโมไม่หายหน้า เราคงไม่แตกแถว ...ชั้นไม่เชื่อ พี่เพลินอีกแล้ว
“เงียบทำไม ไม่ดีใจเหรอ”
“ดีใจที่โดนทิ้งงั้นเหรอ”
“อ้าวจะได้มีอิสระไง เห็นรักความเป็นอิสระนี่” โมเดินไปหยิบเสื้อในตู้มาใส่ น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบหากแต่แฝงความเฉยชา
“ใครบอก”
“ใครบอก ลืมแล้วมั๊งพูดอะไรมั่ง” จู่ๆอารมณ์ก็เปลี่ยน “ไม่รู้จักเอาใจเรานะ ซักวันจะรู้สึก” เรานั่งลงที่เตียงแล้วเอนตัวลงนอน
“งั้นเราจะรอที่ห้องนะ”
“ไม่ต้องรอหรอก ไม่รู้จะกลับกี่โมง” โมคาดนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานบนข้อมือ
“อะไรก็ไม่รู้ โมนี่ เรากลัวนะที่โมเฉยๆแบบนี้” เราเดินไปกอดเขาจากด้านหลังแล้วจูบที่แผ่นหลังแข็งแรงนั้น
“เอ๋ ต่างหากที่เราดูไม่ออก เราคิดถึงนะถึงได้รีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับมา”
“ก็โมไม่บอกวันให้แน่นอนนี่ และอีกอย่างน้องเรามาหา จะให้เราทิ้งน้องมาได้ไง”
“ถามจริงๆเหอะ น้องจริงๆหรือคนอื่น”
“น้อง” เราตอบและพยายามจ้องตาเขาตอบ โมบีบที่ไหล่เราอีกครั้ง
“โกหก” เขาผลักเรากลับไปที่เตียงตามเดิม เรานอนหงายอยู่อย่างนั้นหวังใจว่าเขาจะกระโดดขึ้นมาคร่อมแล้วบอกว่าอำเล่น แต่ก็เปล่าโมหยิบกุญแจรถแล้วออกจากห้องไปทั้งที่เรายังนอนอยู่บนเตียง บอกไม่ถูกว่าอย่างนี้แล้วเรารู้สึกยังไง มันหวิวๆ ตื้อๆพิกล สู้ให้โมอาละวาดใช้กำลังยังจะรู้สึกดีกว่าที่เขาทำเฉยแบบนี้เสียอีก
เราออกจากห้องหลังจากที่เขาออกไปไม่นาน
ทั้งนั่งทั้งนอนจนเวลามันล่วงผ่านเวลานัดของอั้น เราเหลือบดูนาฬิกาบ่อยครั้ง หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง จนดึกขึ้นไปเรื่อยๆ สลับกับมองดูโทรศัพท์ว่าเมื่อไหร่มันจะส่งเสียงเสียที ...เงียบ มีแต่เสียงนาฬิกาท่ามกลางความเงียบนั้น เสียงต่อเปิดห้องกลางดึกเรารีบลุกไปที่ประตูหวังจะถามว่าต่อไปไหนมา
ต่อกับวีเพียงแค่พยักหน้าให้แล้วทำท่าง่วงนอน
“พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ” ทั้งคู่ปิดประตูแล้วเงียบไป เรารับปากให้อั้นค้างกับเราแต่นี่เขาไปไหน เป้ของเขายังอยู่ในห้อง เสื้อผ้าที่ใส่มาเราทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
“โม” อดทนไม่ไหวต้องโทรหาเขา
“โม โกรธเราเรื่องอะไร”
“ไม่ได้โกรธ”เขาตอบเหมือนไม่อยากคุยด้วย
“จะให้เราไปหามั๊ย”
“อยู่กับน้องเถอะ ไม่ต้องมาหรอก”
“ก็” ยังไม่ทันจะได้พูดต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง “งั้นพรุ่งนี้เราจะไปหานะ” โมวางหูไปง่ายๆ ไม่ตอบอะไร อั้นยืนยิ้มที่หน้าห้อง
“พี่นอนแล้วเหรอ”
“ไปไหนมา”
“ไปหลายที่ หาห้องด้วย” อั้นเรียนที่กรุงเทพฯ เช่าบ้านอยู่กะเพื่อน เขาอยากจะเปลี่ยนที่เพราะบ้านเช่าไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก
“กินข้าวมายัง”
“เรียบร้อย” อั้นถอดรองเท้าแล้วถือออกไปตากด้านนอกหลังห้อง เขาทำธุระส่วนตัวเงียบๆ
“ทนหน่อยนะพี่เอ๋ อีกไม่กี่วันผมก็ได้ห้องแล้ว”
“ไปอยู่กะใครเหรอ”
“พอดี อยากอยู่คนเดียวหน่ะพี่ เพื่อนมันพาผู้หญิงมาอยู่ด้วย ผมไม่อยากมีปัญหา พ่อแม่เอาตายเลย”
“แล้ว ถ้าพ่ออั้นมาอั้นจะบอกยังไง”
“ไม่ให้เจอกันหรอกน่ารับรอง ผมก็ไปค้างกับพ่อที่โรงแรมไง”
“ก็ดี”
“พี่เอ๋ วันนี้เมื่อยกว่าเมื่อวานอีก เดินทั้งวันเลย”
“พี่ก็เมื่อย” เราเมื่อยหัวใจซี่งมันล้ากว่าอั้นอีก
“ผมนวดให้เอามั๊ย”อั้นพลิกตัวมาเกาะเราที่นอนตะแคงข้างให้เขาอยู่ ฝ่ามือที่บีบลงบนต้นแขนไปมาช้าๆเนิบ
“พอแล้วจั๊กกะจี้ เล่นอะไรก็ไม่รู้อั้นนี่” เราพลิกตัวกลับมาตั้งรับ “คึกอะไรเหรอ”
“ปล่าว” เขาหัวเราะแล้วนอนหงาย เราไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ เราแกล้งโน้มหน้าลงไปหาเขาจนชิด อั้นไม่ได้หลบหากแต่มองหน้าเรากลับ เราลองใจเขาด้วยการประทับริมฝีปากลงไปที่ปากแดงของเขา อั้นยังเฉย เขาหลับตาในขณะที่เราค่อยบดริมฝีปากลงไป ปากเผยอรับลิ้นของเรา เขาเมาแน่นอนเพราะกลิ่นเหล้ายังมีโชยมาอ่อนๆ ฝ่ามือเราเลื่อนลงไปที่มั่นสุดท้ายอย่างใจเย็น มันสู้มือ อั้นลืมตาเมื่อเราดันส่วนนั้นให้ออกมาด้านนอกกางเกงขาสั้น
“.......” ไม่มีคำพูดอะไรจากปากเขา มีเพียงแค่การกระทำของเราเช่นเคย ส่วนยาวนั้นค่อนข้างยากที่จะลำเลียงมันเข้าไปหมดเพราะติดที่ความใหญ่ด้วย
“เสียวพี่” อั้นบอกเบาพร้อมกับดึงแขนให้เราทาบทับลงไป “ถอดเสื้อเถอะพี่เอ๋” เขารั้งชายเสื้อเราขึ้นแล้วถอดมันออกจากตัวเรา ความอุ่นมันแผ่ซ่านอกกับอกเบียดกันแน่น อั้นกอดเราไว้ที่อก เขากางขาออกให้การนั่งของเราได้ระดับอั้นกระแทกมันเข้ามาเบาๆ พอได้ที่เขาก็เร่งจังหวะ มันเป็นความรู้สึกที่เราอิ่มเอมเหลือเกิน นานแค่ไหนที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เราปลื้มเขามาก เราปล่อยให้อั้นดันตัวขึ้นมาจนเข้าพุ่งในถุงยาง
คืนนั้นเรานอนกอดอั้นทั้งคืน นี่มันจะเรียกว่าอะไร ไม่มีใครตอบได้แม้แต่ตัวเราเป็นความประทับใจที่ยากจะบรรยายตื่นเช้าก็มองหน้ากันเราจะจูบเขารับแสงตะวันยามเช้า อั้นขยับหนี
“อย่าเพิ่งเลยพี่ ไปแปรงฟันกันก่อนเถอะ” อั้นลุกขึ้นขยับกางเกงแล้วก้าวลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ
“พี่เอ๋ วันนี้ไปไหนมั๊ย” ไม่รู้ว่าจะไปหาโมดีรึเปล่า
“ไปดูห้องเป็นเพื่อนได้มั๊ยครับ” อั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่กลับไปเอามาจากห้องอีกกระเป๋านึง
“ไปดูที่ไหนหล่ะ”
“ก็แถวซอยถัดพี่ไปนั่นแหล่ะ”
“ไกลจากมหาลัยเธอตั้งเยอะนี่”
“นั่งเรือไปก็ได้ ตอนไปเรียน”
“แล้วทำไม” เราเกือบจะถามว่า ทำไมไม่อยู่ที่นี่เลย
“ไม่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่เอ๋ แบบนี้ มัน” อั้นมองหน้าเรา “ตอบไม่ถูกว่าผมคิดอะไรกับพี่ พี่อย่าเพิ่งถามเลยนะครับ”
เราเดินตามเขาขึ้นลงอพาร์ทเม้นท์จนเจอแบบที่เขาต้องการหากแต่ว่าต้องรออีกหนึ่งเดือนจึงจะเข้าอยู่ได้
“ไม่เป็นไร จองไว้ก่อนครับ พอดีฝึกงานเสร็จปิดเทอมกลับบ้าน ได้อยู่เทอมหน้าพอดี”
“ฝึกเสร็จเมื่อไหร่”
“พี่แจ่มว่าอยากฝึกจนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะแกยังไม่มีงบจ้างพนักงานประจำเพิ่ม”
“งั้น”
“ถ้าผมฝึกต่อ ผมอยู่กะพี่นะ” เขาหันมายิ้ม นี่เราฝันกลางวันอยู่รึเนี่ย เราเดินกลับห้องคนเดียวพร้อมกับความคิดที่แตกซ่าน อั้นขอตัวไปหาเพื่อนที่บ้านเช่า เรายื่นกุญแจสำรองให้แก่เขา อั้นทำหน้าแปลกใจ
"เผื่อพี่ไปข้างนอก อั้นจะได้เข้าห้องได้" ห้องเราไม่ได้มีสมบัติอะไรนอกจากเครื่องอำนวยความสะดวก
"ขอบคุณครับ" เขารับไปถือไว้แล้วเดินไปออกจากห้องไปอย่างที่บอก
“พี่ว่าตอนนี้เอ๋หลงอั้นแล้วหล่ะสิ”
“ไม่รู้เขาคิดอะไร” เราถามพี่เพลิน
“ไม่ได้คิดอะไรหรอก มีแต่เราแหล่ะ ที่คิด” พี่เพลินย้ำ “เราเองเท่านั้นที่คิด พี่เคยบอกแล้วว่า บางครั้งผู้ชายก็ทำอะไรที่เราไม่คาดคิดให้เราแปลกใจได้เหมือนกัน บังคับตัวเองให้ได้นะมีสติ อย่าหลงระเริงว่าเขาทำเพราะรักเรา แต่ให้คิดว่าเขาก็มีเหตุผลที่ต้องทำ และก็ไม่ต้องไปถาม ไม่นานเขาก็จะพูดออกมาเอง” พี่เพลินเหมือนกินอะไรไปพูดไป
“เคี้ยวหมากอยู่เหรอพี่”
“บ้า นี่ลามปาม”
“แล้ว” ยังไม่ทันจะถามแกก็สวนกลับ
“เรื่องของโมนะเหรอ” แกถอนหายใจ “ตอบยาก จนป่านนี้ มันก็ไม่ลงตัว เขาอารมณ์รุนแรงพอๆกับเอ๋ จริงอยู่ว่ามันคล้ายว่าเขารักเรามากเลยหวงเรามาก แต่ในความรู้สึกของพี่ พี่ว่ามันแปลกและตอบเอ๋ไม่ได้ว่ามันคืออะไร สิ่งที่เอ๋ควรทำ” แกหยุดพูดเหมือนจะดูดน้ำ “คอแห้ง”
“ดูไปก่อนนั่นแหล่ะ ถูกแล้ว ส่วนว่าถ้าเขาจะรู้เรื่องของอั้น ก็ปล่อยให้เขารู้ไปเถอะ อย่าไปโกหก แต่ไม่จำเป็นต้องบอก”
“อ้าว ถ้าเอ๋โดนเหมือนคราวที่แล้วอีกหล่ะ”
“ไม่มีทาง คนเราเขาก็มีบทเรียนที่ผ่านมาเขาทำแบบนั้นเอ๋ก็ยังไม่ทิ้งเขา พี่ว่าเขายังงอนเอ๋อยู่ที่สั่งแล้วไม่ได้อย่างใจ แต่ว่าให้เขารอไป เชื่อพี่เถอะว่าต่างคนต่างลองเชิงกันอยู่ เว้นเสียแต่ว่าเอ๋เล่าให้พี่ฟังไม่หมดเรื่องมันก็จะเป็นอีกอย่าง”
“เอ๋ไม่เข้าใจ”
“พี่ก็ไม่เข้าใจ เราไม่ใช่ตัวเขา เราตอบไม่ได้หรอก บางทีตัวเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่พี่ว่าเอ๋คงเคยมีความรู้สึกนี้บ้างนะ ความรู้สึกที่ว่า อยากจะไปหา อยากจะเจอ พอเขาไม่มาก็คิดไปต่างๆนานาว่าเขามีคนอื่นแค่เหตุผลเดียว แล้วพอเขามาก็ฉุนเฉียวที่ทำไมมาช้า ไม่มาตอนที่เราต้องการ เลยหงุดหงิด พี่เชื่อว่าพอเขากลับห้องแล้วไม่เจอเอ๋ เขาก็พอจะรู้แล้วหล่ะว่า เขาควรจะทำยังไง แต่ว่าตอนนี้เขาอาจจะยุ่งกับงานก็เป็นได้”
คำตอบพี่เพลินเหมือนจะกระจ่างแต่ก็ยังงงอยู่ดี ไม่เคลียร์
“คราวนี้ก็เรื่องของเรา เราจะเอาไงกันแน่ อย่ารักพี่เสียดายน้อง แล้วมันจะไม่ได้อะไรเลย”
“อ้าว ก็อั้นเขาไม่ได้ว่าอะไรและโมอีก”
“งั้นก็อยู่แบบนี้ไปก่อน อะไรจะเกิดก็เกิดแล้วอย่าเสียใจนะ จริงๆแล้วอย่างพวกเราเนี่ย มันก็เลื้อยไปเรื่อยแหละ เจอหลักที่ไหนก็เกาะที่นั่น ว่ามั๊ย” พี่เพลินมาแปลก สอนอะไรยากที่จะหาข้อสรุปได้ เรามองตัวเองที่หน้ากระจก ชีวิตรักของเราจะดำเนินไปแบบไหนกันนะ เราไม่ได้กลัวโมจะอาละวาด สิ่งเดียวที่เรากลัวมันก็คือหากโมกับเราตัดขาดจากกันจริงๆ เราจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนเท่านั้น แต่เราก็ยังไม่อยากทิ้งอั้นไปในตอนนี้ สองความรู้สึกที่มันรุมเร้านี้
“ไงอีสวย” ต่อเปิดประตูมาทำลายความสงบ
“ถึงกับนอนซึมเลยเหรอ” ต่อรับรู้เรื่องราวของเราแล้วมองไปที่หน้าห้อง
“จะทำไง จะเลือกใคร จะรักใคร ไม่มีอะไรแน่นอนซักคน หากินไปเรื่อยๆเถอะเอ๋” ต่อบอกเราอย่างไม่ยินดียินร้าย
“เสียดาย”
“เสียดายอะไร ทำยังกะไม่เคยได้ ตัดมาต่อกันไม่ถึงฟ้าแล้วเหรอ”
เราขำกับการเปรียบเทียบของต่อ “ทำยังกะพวกไร้เดียงสาไม่เคยได้ ผัวก็เคยมี แย่งผัวคนอื่นก็เคยทำ แอบเอาผัวคนอื่นก็บ่อย หล่อนนี่มันครบทุกหลักสูตรเลยนะ”
“เหรอ” เรายิ้ม
“ถ้าโมมันมาหาหล่อน หล่อนจะทำไงเอ๋”
“ไม่ทำไง เพราะยังไม่มาหา”
“ระวังเถอะ มันจะลากหล่อนไปขังที่ต่างจังหวัด ที่มันทำงานอยู่”
“ไม่มีทางหรอก”
“แล้วไอ้ที่โดนซ้อมคราวก่อนไม่เข็ดเหรอ” ต่อเอามือมาแตะที่หางคิ้ว รอยยาวที่ปรากฎอยู่
“เขาคงไม่ทำเราอีกแล้วหล่ะ”
“ก็ไม่แน่”
ยังไม่ทันที่ต่อจะพูดอะไรจบ โมก็มายืนอยู่หน้าประตูห้อง
“เอ๋ ออกไปข้างนอกกันหน่อย” ต่อลุกขึ้นดึงมือเรา
“เราไปด้วยได้มั๊ย” ต่อถามกับโม แต่โมส่ายหน้า แม้สายตาที่ต่อจะห่วงใยเราแค่ไหน แต่เราก็ต้องเดินตามโมไปที่รถและนั่งไปกับเขาจนถึงห้อง
ต่างคนต่างเงียบอยู่ครู่ใหญ่ แล้วโมก็ขยับตัวหันหน้ามาหาเรา ...........................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

130. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:45 PM (SE Asia Standard Time)
 
   246….
เราตกใจอากัปกิริยาของเขาทันทีที่โมยกมือขึ้นเรากลับขยับตัวออก
“เป็นอะไร” เราไม่ตอบ หากแต่ความกลัวยังระคนอยู่ในความรู้สึก
“เอ่อ”
“ทำอะไรผิดมาหล่ะสิ ถึงตกใจ บอกมาซะดีๆ” โมขยับเข้ามาชิดกว่าเดิม
“ไม่มี” เราส่ายหน้าตามองลงไปที่พื้นจับที่ปลายเท้าของตัวเองแล้วไล่ไปยังขาของโม เท้าของโมยาวมองเลื่อนขึ้นถึงน่องแม้จะอยู่ภายในกางเกงยีนส์มันก็ทำให้สะท้านได้เหมือนกันถ้าโดน โมขยับตัวมาอีกจนชิดกับเรา
“จะบอกไม่บอกว่าไปทำอะไรมา”
“อยากรู้อะไรหล่ะ อย่ามาทำเป็นจิตวิทยา” เราดันมือที่ไพล่มาโอบไหล่เราและคลึงต้นแขนเราเป็นวง มันทำให้เราหวิว เสียวไปทั้งหลัง
“เอ แปลกๆนะ” สักพักโมก็ลุกขึ้นถอดเสื้อออก เขายืนเปลือยท่อนบนก่อนจะโถมตัวลงมาหา
“อย่าเพิ่ง” มือนั้นอุดปากเราไว้ อีกมือนึงรวบแขนเราทั้งสองข้างไว้เหนือหัว
“จะพูดกันดีๆ หรือว่าให้บังคับ” เรารู้สึกกลัว ฝ่ามือที่ปิดปากนั้นบางครั้งก็บีบจมูกเรา น้ำตามันคลอเบ้าเพราะเราหายใจไม่ออก โมคลายฝ่ามือออก พร้อมกับปล่อยมือเราให้เป็นอิสระทันที่ที่เรามองเขาด้วยน้ำตา
“อย่าบีบน้ำตาซะให้ยากเลย” เขายังคงนอนทับทั้งตัวเราอยู่ “ลุกขึ้นมานี่” โมยื่นมือให้เราดันตัวเองขึ้น เขากอดรัดเราแน่นจนหายใจไม่ออก
“โม โรคจิตรึเปล่าเล่นอะไรเนี่ย” เราพยายามจะดันตัวเขาออกให้ได้แต่ไม่สำเร็จ สักพักก็ปล่อยมือแล้วเดินหนีไปที่ระเบียงห้อง เหมือนเขาจะทำอะไรสักอย่าง เรารีบไปที่ประตูจะออกจากห้อง เรากลัว คำพูดที่ต่อขู่มันพรั่งพรูเข้ามาในหัว เขาตามมาคว้าข้อมือเอาไว้
“อย่าทำอะไรเราเลยนะ เรากลัวแล้ว” เรากอดเขาแล้วเอาหน้าแนบที่อกเปลือยนั้น
“เป็นอะไร บ้าไปแล้วเหรอ” เขาดันตัวเราเขย่า แล้วระเบิดเสียงหัวเราะใส่หน้าเรา “แกล้งแค่นี้ก็กลัวไปได้”
เขายังไม่ปล่อยมือเราง่ายๆ เรายังหวาดอยู่ แล้วโมก็ผลักเราลงบนเตียงอีกครั้ง เขาไม่พูดอะไรนอกจากจูบเราแรงและกัดริมฝีปากล่างของเราจนเจ็บ เราทุบที่กลางหลังเขาเพราะความเจ็บ
“เอ๋จะเจ็บยิ่งกว่านี้ ถ้านอกใจเราอีก”
“เราไม่ได้นอกใจ” เราหันหลังให้เขา ขยับตัวไปนอนอีกด้านของเตียง
“ไม่ยอมรับอีก”
“ไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ปากแข็ง” เขาพยายามจะให้เราพูด แต่เราไม่รู้จะพูดเรื่องไหน เพราะมันไม่ใช่คนเดียวนี่ที่เราวุ่นวายอยู่ในตอนนี้ โมแกล้งเราต่อคราวนี้เขาดึงตัวเราไปกอดจากด้านหลังแกะกระดุมกางเกงยีนส์เราแล้วล้วงเข้ามาข้างใน เราดิ้นไม่ให้เขาจับส่วนนั้น เขารู้จุดอ่อนเราที่ไม่ต้องการให้ใครมาถูกส่วนนั้น มันยังนอนสงบนิ่ง โมจับมันรูดไปมาเรายังคงดิ้นรนให้มันหลุดจากการล้อเล่นของเขาให้ได้
“มีอารมณ์แล้วหล่ะสิ อะไรแฉะๆ” เราอาศัยแรงฮึดเอามือเขาออก แต่จริงๆแล้วเขาต้องการจะเอาออกเองมากกว่า แต่โมเปลี่ยนเป็นมานั่งทับตัวเราและแก้กางเกงเราออก มือของเรายังคงจับขอบกางเกงไว้แน่น โมปัดมือเราออก แล้วออกแรงจนเขาเป็นฝ่ายชนะ กางเกงเราถูกเขาถอดลงไปแล้วพร้อมทั้งเสื้อของเรา ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาทำกับเราแบบนี้
“อย่าดิ้นน้อง เดี๋ยวดีเอง” เขาไม่ยอมลุกไปจากตัวเรา แม้ว่าเราจะพยายามดิ้นให้หลุดจากการนั่งทับของเขาแค่ไหน สองมือเขาคว้าสองแขนเรากดไว้ พร้อมกับกดคางที่ยังไม่ได้โกนหนวดไถไปตามหน้าและลำคอของเรา มันเสียวซ่านเหมือนหนามแหลมๆคอยทิ่มตำทีละนิด ทีละนิด แล้วเขาก็ดูดที่ต้นคอ เราซ้ำๆนานและนาน ยิ่งทำให้เราขนลุกมากกว่าเดิม
“ยอมรึยัง” เราไม่ตอบกับเสียงขู่ของโม
“ไม่พูดอีกแฮะ” เขาปล่อยมือจากข้อมือเราแล้วขยับตัวมานั่งที่ต้นขาเราแทน เขาเร็วกว่าที่เราจะคาดคิด เป็นครั้งแรกที่เราถูกแก้กางเกงใน ไม่เคยมีใครเห็นส่วนนั้นของเรา โมรูดกางเกงในของเราอย่างรวดเร็วเราดึงไม่ทันทำได้แค่พยายามเอามือปิดเขาก็พยายามแกะมือออก
“ไหนดูหน่อย”
“อย่า”
“ทีเอยังชอบดูของเรานี่นา ปล่อยมือ” เขาแกะมือเราออก
“บอกว่าอย่า”
“ยังไม่แต่งจะหย่าได้ไง”
“โม” เขายังสนุกในการที่จะแกล้งเราต่อ “บอกให้ปล่อย” เราตะโกนเสียงขุ่น พร้อมมองหน้าเขานิ่ง มือเรายังคงเกาะกุมส่วนนั้นเอาไว้แน่น โมนิ่ง
“ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
“ใช่” เรายังตะโกนต่อ “เราไม่ชอบ เราไม่อยากให้ใครเห็น ถ้าโมจะแกล้งเรา ขออย่างเดียวอย่ายุ่งกับตรงนี้” เราตะโกนพร้อมทั้งดันตัวให้ลุกขึ้น โมนอนทับลงมาอีก เขายังกดเราไว้ด้วยครึ่งลำตัวและถอดกางเกงของตัวเองออกด้วย
“ไม่เห็นจะต้องอายเลยนี่ มันต่างกันตรงไหน” โมเอามือเราไปจับส่วนนั้นของเขาหลังจากทที่เขาวางผ้าเพื่อบังส่วนนั้นของเราตามที่เราต้องการแล้ว
“เห็นมั๊ย เรายังไม่อายเลย” โมจับมือของเรารูดไปตามลำตัวของสิ่งที่มีเหมือนกันมันค่อยๆสู้มือจนลุกเต็มที่ เขาพยักหน้าให้เราพลิกตัวหันหลังให้เขา
“ยังอีก” เราถูกเขาจับพลิก โมนอนทับเอาท่อนบนกดตัวเราไว้มือเขาประคองส่วนนั้นจ่อไว้ที่ร่องก้น
“แน่นแฮะ” เราไม่มีปฎิกิริยาตอบรับ เพราะกล้ามเนื้อมันเกร็งจากความเครียด
“นอนดีๆอย่าเกร็งสิ”เขาไม่ละความพยายามจ่อมันเข้าไปได้ก็ดันพรวด เขาครางแต่เรารู้ว่าเขาเจ็บเช่นกันเพราะมันฝืด
“อย่าเกร็งสิเอ๋ มันจะเจ็บกว่าเดิมนะ” โมเอาสองมือสอดเข้าใต้รักแร้เราไว้แน่น เขาแช่มันไว้เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตัวเองเช่นกัน เราจำใจต้องปล่อยให้เขาทำ มันรุนแรงกว่าทุกครั้งโมกดเราจนแทบจะจมลงบนเตียง เขาไม่ใส่ใจต่อการร้องขอให้เขาหยุดกระแทก
“โม หยุดก่อนเราเจ็บ”
“ไม่น่าจะเจ็บนะ” โมยังไม่หยุดท่อนลำของเขาค่อยๆคว้านอยู่ในตัวเรา เรารู้สึกแสบ
“โม เราแสบ”
“เงียบก่อนน่า”โมดันทุรังจนเขาเสร็จในตัวเรา ถึงยอมที่จะดึงมันออกมา เราลุกจากเตียง รู้สึกไม่สบายข้างในเพราะความแสบแม้แต่ตอนทำความสะอาดก็รู้สึกได้ แม้ว่าจะผ่านสมรภูมิมานับครั้งไม่ถ้วนก็ตามทีแต่ว่าถ้าหากปราศจากหล่อลื่นแล้วมันเป็นต้องเจ็บแสบทุกครั้งและโมก็ชอบเหลือเกินที่จะทำแบบนี้กับเรา เราจะออกจากห้องน้ำเขาก็ผลักเราเข้าไปอีก
“พอแล้ว” เราปัดมือเขาที่พยายามจะกอดเราไว้
“อย่าเพิ่งออกไป” เขาทำความสะอาดให้ตัวเองจนเสร็จ
“เรากลับห้องนะ”
“กลับก็เลิกกันเลย” โมบอก เราลุกขึ้นยืนแล้ว
“ตามใจ” เราบอกโม เราไม่ชอบใจที่เขาถอดกางเกงเราเพราะเราเคยบอกเขาแล้วและรวมทั้งเขาทำแบบนี้กับเรา
“เฮ้ย” โมลุกตามมาที่ประตู “โกรธอะไร”
“ไม่ได้โกรธ” มันกลับกัน “แต่ไม่ชอบที่โมทำกับเราแบบนี้”
“แบบไหน”
“แบบไม่ป้องกัน”
“อ๋อ กลัว” เรารู้ว่าเราพูดคนละเรื่องแม้ว่าจะบริจาคเลือดและตรวจบ่อยๆ เราก็ไม่มั่นใจเพราะโมไม่ชอบใส่ถุง “ถ้าเอ๋ไม่เป็นเราก็ไม่เป็น หรือไม่เชื่อใจจะให้ไปตรวจมั๊ย ไปเลยไป ลุกๆไปที่ไหน” เราสะบัดมือเขาออก
“ไม่ต้องหรอก” เรายังยืนยันที่จะกลับ
“ให้มันได้อย่างงี้สิ มานี่”โมดึงเราไปนั่งใกล้ๆ “ถ้าไม่สบายใจทีหลังเราจะใส่ถุงก็ได้”
“แล้วเรื่องอื่นหล่ะ”
“เรื่องอื่นไม่ได้”
“คราวนี้อย่าหวังว่าจะซ่าส์ได้อีกนะ อีกสองอาทิตย์งานส่วนของเราที่โน่นก็เสร็จแล้ว กลับมาคราวหน้า ถ้าไม่ทำตัวดีๆจะโดนหนักกว่าเดิม”
“เป็นเจ้าของเราเหรอ ถึงจะมาทำแบบนี้”
“รู้มั๊ยก็มันรักนี่ จะให้ต้องทำไงอีก เข้าใจมั๊ยว่ารัก”เขาตะโกนใส่หน้า
“เหรอ” เราแค่นหัวเราะ
“วันนี้ห้ามไปไหน พรุ่งนี้เราจะกลับต่างจังหวัดแล้ว”
“ไม่ได้ เราต้องกลับไปห้อง”
“มันมีอะไรนักหนาเนี่ย รู้นะว่าเอาใครมาไว้ที่ห้อง อย่าลืมนะว่าเรายังไม่ได้ทำโทษเอ๋ เรื่องพาคนเข้าห้อง”
“ไม่มี” โมทำท่าเหมือนจะท้า
“ลองดูนะ” เขาเดินไปที่โทรศัพท์กดเบอร์อย่างรวดเร็ว
“ขอสายเอ๋ ครับ” มีคนรับสาย
“เหรอ แล้วผมพูดกับใครอยู่ครับ”
“เป็นน้องเอ๋เหรอครับ” โมเออออกับปลายทาง “งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรมาใหม่” เขาไม่บอกเราว่าอั้นตอบอะไรเขาบ้าง เรื่องมันแดงออกมาแล้ว
“ไง คนโกหก” เราไม่โต้ตอบ
“ขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะเอ๋” เรามองหน้าเขา “ถ้าจะกลับก็กลับไปเถอะ” เสียงโมอ่อนลง “มันก็คงเป็นงี้หล่ะมั๊ง เราไม่ค่อยเจอกัน แล้วเราจะห้ามเอ๋ได้ไง แต่ว่าถ้าเรากลับกรุงเทพฯคราวหน้า หวังว่าเอ๋คงจะเข้าใจ”
“แล้วถ้าหากว่าเราจะเลิกกันตอนนี้หล่ะโม”
“ไม่มีทาง เรื่องอะไรเราจะให้เอ๋มีความสุขคนเดียว”
“แต่ว่า” อยากจะหาเหตุผลมาพูดให้ได้มากกว่านี้
“โม มั่นใจเหรอที่จะคบกับเราต่อ”
“เราจะพิสูจน์ให้เอ๋ดูแล้วกัน เราไม่ถือนะถ้าเอ๋จะมีใครบ้าง แต่ว่าอย่าปิดบังหรือโกหก เพราะคนอย่างเอ๋หน่ะ โกหกไม่เก่งหรอก” โมพาเรามาส่งที่ห้อง เขาเดินตามขี้นมาจนถึงหน้าห้องต่อและเรียกวีให้ออกมาหา อั้นเปิดประตูให้เราแบบงงงงที่เห็นโมยืนอยู่ข้างหลังเรา โมเดินเข้าห้องตามเรามา
“เพื่อนพี่”เราแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันแล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบจนโมเดินออกไปหาวีอีกครั้ง
โมชวนพวกเราออกไปกินข้าวมีต่อกับวีไปด้วยอั้นเป็นคนแปลกหน้าในกลุ่ม บรรยากาศมันไม่สู้ดีนักเฉพาะเราในขณะที่ทุกคนเขาคุยกันสนุกสนาน ต่อเหลือบมองเราหลายครั้งเหมือนอยากจะคุยด้วยแต่ก็ไม่ได้คุย อั้นถูกโมซักเรื่องส่วนตัวเรื่องการเรียนและแม้กระทั่งถามว่ามาอยู่กับเราได้ไง
“พอดี ผมกำลังหาห้องใหม่อยู่นะครับ เห็นห้องพี่เอ๋ก็เลยขอแกเพราะเห็นว่าอยู่คนเดียว ผมอยู่ไม่นานหรอกครับ”
“อืม” โมพยักหน้า วีมองเราเหมือนรู้ในสิ่งที่อั้นบอก จะอะไรเหรอ ทำไมวีจะไม่รู้ตอนอยู่ที่เชียงใหม่เขาก็ทำแบบนี้ แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องของงานรวมอยู่ด้วย มันไม่ดูโจ๋งครึ่มแบบนี้ต่างหาก ชวนผู้ชายเข้าห้อง เอากุญแจห้องให้ แล้วมันจะหมายความว่าอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้น ผู้ชายด้วยกันอาจจะไม่คิดอะไรมาก แต่ผู้ชายกับกระเทยถามใครแล้วตอบไม่ได้ก็คงจะโง่น่าดู
โมปล่อยให้อั้นเดินขึ้นอพาร์ทเม้นท์ไปโดยที่บอกให้เราคุยกับเขาก่อน
“คิดให้ดีนะเอ๋ ตัดสินใจทำอะไรลงไป เสียใจทีหลังมันไม่คุ้ม น้องเขาเป็นใครมาจากไหนเอ๋ยังไม่รู้เลย แค่ทำงานที่เดียวกันแต่เอ๋ไว้ใจขนาดนี้”
“เราสงสารเขา”
“ใจดีเกินไปแล้ว แล้วเราหล่ะ” โมถามเราเสียงเครียด
“อย่านึกว่าเราสนุกนะที่เป็นแบบนี้” โมพูดต่อ
“แล้วโมจะให้เราทำไง ไล่เขาหนีทั้งที่รับปากไปแล้ว”
“เอ๋ หลอกล่อเก่งนี่ แต่เราว่าเอ๋คงหวังกับอั้นมันเยอะสินะ”
“คงงั้นมั๊ง” เราตอบโม
“อะไรนะ” โมย้อนกลับมาเหมือนตวาด “ดี คิดได้แบบนี้ก็ดี เราให้เวลาเอ๋คิดนะ เราขอคำตอบตอนที่เจอกันคราวหน้า” เขาขับรถกลับไปแล้ว ทิ้งความหนาวเย็นไว้กับเรา ต่อเดินลงมาหาเราเหมือนรอเวลา
“ไปเดินเล่นกันมั๊ย” พวกเราทั้งคู่เดินทอดน่องเข้าไปในซอยแล้วไปหยุดที่สะพานข้ามคลอง ต่อพิงราวสะพานพร้อมพูดกับเรา
“ชั้นเห็นใจนะ และรู้ดีว่าหล่อนคงลำบากใจไม่น้อย ทำไมนะ ทำไมถึงไม่หยุดนิ่งกับคนดีๆแบบโม”
“ไม่รู้”
“ไม่รู้หรือไม่มั่นใจ” ต่อถอนหายใจยาว “เราเป็นเพื่อนกัน เรารู้ดีว่าเอ๋เป็นคนยังไง แต่พวกเราโตแล้วนะ ไม่เหมือนตอนเด็กๆ สิ่งที่หล่อนค้นหามันคือค-ย ไม่ใช่ความรักหรอก อย่าหลอกตัวเองอีกเลย กี่สิบคนที่หล่อนค้นหา หล่อนรักใครไม่เป็นต่างหาก อยากลิ้มอยากลองไปเรื่อย ได้คนใหม่ก็วนไปหาคนเก่า เบื่อคนนี้ก็เสาะหาคนนั้น ไม่เคยหยุด วิธีแบบนี้ มันเสี่ยงกับชีวิตของหล่อนเอง ชั้นไม่กลัวว่าใครจะมาทำร้ายหล่อนหรอก แต่ชั้นกลัวว่าหล่อนจะพลาดเหมือนเมมันต่างหาก ชั้นอยากอยู่กับหล่อนไปนานๆนะเอ๋”
“เรามั่วมากเหรอต่อ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ว่ามันง่ายเกินไปต่างหาก หล่อนว่าพวกเกย์เข้าไปมั่วกันในซาวน่าไม่มีความจริงใจ น้ำแตกแล้วแยกทาง หล่อนเองก็ไม่ต่างจากพวกนั้นหรอก” ต่อเดินเข้ามายืนใกล้ๆ
“ยังมีอะไรอีกหลายอย่างในชีวิตที่ยังไม่ได้ทำ อย่าหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้มากนัก เอาเวลามาทำอย่างอื่นบ้างก็ดีนะ”
เรานิ่งเงียบ
“โมมันโทรมาคุยกับเรา เมื่อวาน ชั้นไม่อยากโกหก เลยบอกกับเขาแค่โดยรวมเท่านั้น โมมันก็เงียบและวันนี้อีก คิดดูนะถ้าคนมันไม่รัก มันจะอยากมาดูให้เห็นกะตาทำไม”
“ชั้นไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ชั้นอธิบายนิสัยหล่อนให้เขาฟังหมดแล้ว โมมันบอกว่าไงหล่ะ ก่อนจะกลับ”
“ขอคำตอบ คำตอบอะไรในเมื่อไม่ได้ถามอะไร”
“คำตอบที่หล่อนไม่ได้ตอบมันตั้งนานแล้วนี่ คำตอบที่หล่อนถามผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ความจริงใจไง หล่อนมีให้โมรึเปล่าหล่ะเอ๋” ต่อปล่อยมือที่จับขอบสะพานแล้วเดินย้อนกลับ เรายังยืนนิ่งอยู่ที่นั่นนาน ความจริงใจงั้นเหรอ สิ่งที่มีอยู่ในหัวตอนนี้คือความว่างเปล่า มีแต่ความสนุกที่จะได้ลิ้มลองรสชาดใหม่ๆไม่ขาดสาย เรามองเห็นแค่หน้าของอั้นเท่านั้นในตอนนี้ ใครจะว่าเราเลวก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้เรามีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวอย่างที่ต่อพูดจริงๆ
.......................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

131. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:49 PM (SE Asia Standard Time)
 
   247…..
“พี่โม นี่เด็กพี่เอ๋รึเปล่า” อั้นถามเราเบาๆตอนที่เรานอนลงข้างๆเขา
“ไม่ตอบ คงจะจริง” อั้นพึมพำเบาๆ
“จะให้ตอบว่าไงดี เด็กเหรอ ยังไม่แน่ใจ”
“แต่ก็ไม่ใช่แค่เพื่อน เพราะเพื่อนคงเป็นแบบพี่วี ดูพี่ไม่ค่อยคุยกับพี่โมนะครับ ทะเลาะกันอยู่เหรอ”
“ไม่ได้ทะเลาะ ก็แค่ไม่มีอะไรจะคุย”
“อย่าสนใจเลยอั้น นอนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานสาย”
“พี่เอ๋” อั้นยังไม่หยุดการสนทนา
“ว่าไง”
“ขออะไรอย่างได้มั๊ย”
“พี่อย่าเล่าเรื่องที่ผมมาอยู่กับพี่ให้ใครฟังนะครับ”
“อาย” เราค้อนเขาไปที
“มันก็แหงหล่ะพี่”
“แล้วเพื่อนอั้นหล่ะ”
“พวกมันไม่รู้หรอกว่าผมอยู่ไหน เพราะผมบอกว่ากลับต่างจังหวัดแล้วจะไปอยู่ที่ใหม่เลย”
“โกหก เพื่อนประสาอะไรไม่บอกกัน บอกมาตามตรงดีกว่าว่าอั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่”
อั้นไม่ตอบได้แต่กรอกตาไปมา เขาขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วซุกหน้าที่คอเราออกแรงดูดเน้นจนเราขนลุกเกรียว
“พี่เอ๋อย่ารู้เลย เรื่องของผมมันไม่น่าฟังหรอก ผมไม่รบกวนพี่นานหรอกน่า อย่ากังวลไปเลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่กลัวว่าพอไปนานนานเข้า พี่จะเผลอตัวถลำลึกไปกว่าเดิมนะสิ” เราพูดกับอั้นตามตรง อั้นมองหน้าเราแล้วส่ายหัว
“มันคงไม่ขนาดนั้นมั๊งพี่ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“แต่เราก็มีอะไรกันนี่”
“ไอ้เรื่องเอากันมันของง่าย แต่เรื่องความรักมันอีกเรื่องนะพี่เอ๋”
“เธอคงคล่องแล้วสิ”
“ก็มีบ้างประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ” อั้นขยับตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“พี่เอ๋อยากเป็นแฟนผมเหรอ”
“ใครก็อยากเป็นแฟนคนหล่อทั้งนั้นแหล่ะ” เราเขินอายเล็กน้อย
“งั้นเลี้ยงผมสิ”
“บ้า พ่อแม่ตัวเองก็มี จะมาให้พี่เลี้ยงทำไม” มาไม้ไหนนี่ผู้ชาย
“เงินไม่ค่อยพอใช้ อยู่กะพี่เอ๋นี่ประหยัดได้เยอะ”
“เหรอ” เราครางเมื่อเขาซุกไซ้ที่ซอกคอเราต่อ “อย่าสิมันสยิว”
“คงไม่ค่อยโดนสิแบบนี้” อั้นไม่ใช่เด็กอย่างที่เราคิดตอนเผด็จศึกเสียแล้ว เขาขยับตัวมาคร่อมที่ตัวเรา รูดกางเกงขาสั้นออก ส่วนนั้นผงาดเชิญชวนให้ลิ้มลอง ปลายลิ้นแตะที่ส่วนปลายเบาๆ อั้นสูดปากแล้วเบียดทั้งงวงเข้าปากเรา เขากำลัง
สอยปากเราอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนวันแรก น้ำหวานหยดแรกออกมาแล้วและตามด้วยระลอกต่อมา ความหวานยังซ่านเจืออยู่ที่ปลายลิ้น แต่มันไม่ละความแข็งแรงลงไปสักน้อย อั้นหยิบถุงยางมาใส่เอง เขาจับขาเราพาดที่ไหล่ไว้ข้างนึง
“ผมไม่ใช่เด็กอย่างที่พี่คิดนะ” ลำนั้นจ่อแล้วค่อยๆดันเข้ามาทีละนิด ทีละนิดจนหมดลำอั้นถึงหยุดการเคลื่อนไหว
“อั้นหยุดทำไม”
“จะรีบไปไหน” เขาดันเนิบๆ ความพึงใจในตัวเขาบวกกับความกระหายในเพศรสที่มีกับเขาทำเอาเราคลั่งกว่าปกติ
อั้นแทงซ้ายแทงขวาหน้าตาเขาเหมือนสะใจยิ้มยั่วเรา
“อั้น อย่าทำแบบนั้นมันเจ็บ”
“งั้นเลิกทำนะ” เขาทำท่าจะถอนออก เราส่ายหน้า
“เจ็บหรือเสียวหล่ะ พี่เอ๋” อั้นหัวเราะ เรามีความสุขเหลือเกินกับการมองหน้าอั้นที่ชำเรา เราอย่างสนุกสนาน
อั้นไปพักกับพ่อที่โรงแรมอย่างที่บอกไว้ เราได้แต่นั่งดูกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา เสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักอัดแน่นอยู่ในนั้น เราถือวิสาสะดึงมันออกมาทำความสะอาดให้เขา กลิ่นอายของเขายังกรุ่นกับผ้าทุกชิ้น เราเคลิบเคลิ้มเกินทน ค่อยๆสูดทีละตัว ในซอกลึกของกระเป๋านั้นมีอัลบั้มรูปของเขา ชีวิตนักศึกษาการออกค่ายและกิจกรรมตั้งแต่รับน้องไล่เลียงไปทีละภาพ มีผู้หญิงหลายคนหลายวาระถ่ายรูปกับเขาแต่ไม่มีใครเป็นพิเศษ ค่อยโล่งใจหน่อย เราไปทำงานด้วยความรู้สึกเต็มตื้นอิ่มเอมอย่างเหลือคณานับ เราตกหลุมรักอั้นเข้าแล้วกระมัง
“เชื่อไอ้อั้น ระวังหมดตัว” คำพูดเปรยๆของเพื่อนเขาแว่วมาให้ได้ยิน
“ทำไมจะหมดตัว ไม่ได้หาเลี้ยงซักหน่อย” เราแย้ง
“พี่ไม่เชื่อผมพี่คอยดูแล้วกัน ถึงมันจะไม่พูดผมก็รู้ว่ามันไปอยู่กับพี่”
“ถามจริงๆเถอะ พวกเธอมีความลับอะไรกัน”
“ความลับไม่มีหรอกพี่ มีแต่ความจริงที่เจ็บปวด”
“พี่ไม่เข้าใจพวกเธอ”
“พี่ดูเองแล้วกัน เรื่องของพี่เงินของพี่ ถ้าพี่ไม่ระวัง มันก็ตัวพี่เอง”
“แล้วตอนนี้มันไปไหน ไม่เห็นมาทำงาน” เพื่อนเขาถามพร้อมกับแปลกใจที่เราไม่รู้ว่าทำไมอั้นยังไม่โผล่หลังจากหมดวันลา
“เห็นมั๊ย พี่ก็ไม่รู้อะไรเลย ไอ้อั้นหน่ะ ถ้าพี่คิดจะคบพี่ต้องทำใจนะ ผมบอกได้แค่นี้” เราคิดเอาเองว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรไม่ได้มากอะไรก็แค่เลี้ยงข้าวเท่านั้น แล้วสลัดความกังวลกับสิ่งที่ได้ยินออกไปให้หมด ได้แต่รอว่าเขากลับมาที่ห้องอีกครั้ง เราอาจจะชวนเขามาอยู่ด้วยก็เป็นได้ แต่ระหว่างนั้นคนที่เราไม่ได้รอกลับทำให้เรารู้สึกหดหู่ใจกับการมาหาของเขา โมเพิ่งกลับจากต่างจังหวัดพร้อมใบหน้าที่เหนื่อยอ่อน เขากอดเราหลวมๆแต่ไม่พูดอะไรจนอาบน้ำเสร็จและมีอะไรกัน เขากอดเราแน่นทั้งคืน เรานอนไม่หลับ ลังเลใจ ไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามเขาได้อย่างไรในเมื่อเรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาด ไม่อยากจะเลิกกับโม แต่ก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดอั้น จนเช้าเราได้แต่ภาวนาขอให้โมอย่าถามอะไรเลย แต่เราก็ได้แต่หวังเท่านั้น
“ได้คำตอบให้เรารึยังเอ๋” โมพูดเบาๆพร้อม สายตาที่จริงจังจ้องหน้าจนเรารู้สึกละอาย
“คำตอบอะไรหล่ะ” เราถามเขาย้อนกลับ
“เรื่องของเรา”
“ยังไม่มีคำตอบ ยังไม่ได้ตัดสินใจ” เราตอบไปตามตรง
“หมายความว่าไง” เขาทำหน้าแปลกใจ
“ก็ยังไม่มีอะไรจะตอบ” โมชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจ
“คบกันไปเรื่อยๆแบบนี้ดีกว่า โมจะเร่งรัดไปทำไม โมอยากมาหาเราก็มาเหมือนเดิม โมก็ทำแบบนั้นมาตลอดนี่นา” เรายังยืนยันที่จุดเดิม
“แต่ตอนนี้มันไม่ใช่นะเอ๋”
“ตอนนี้ตอนไหนก็เหมือนกัน เรายังเหมือนเดิมนี่โม”
“เหมือนเดิมหน่ะ คือเรา แต่เอ๋ไม่ใช่” เราหลบสายตาเขาอีกครั้ง โมคงจะไม่ใช้กำลังเช่นเคยนะ เขาเงียบไปพักก่อนจะถามขึ้นมาอีก
“แล้วอีกคนหล่ะ” คงหมายถึงอั้น
“ก็ไม่มีอะไร”
“ไม่เชื่อ แล้วทำไมเสื้อผ้ามันยังอยู่ในห้อง”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ จะซีเรียสไปทำไม ในเมื่อเราก็ไม่ได้ไปกีดกันโมนี่ ถ้าโมอยากจะคบกับคนอื่นบ้าง” แว่บนั้นนึกถึงหน้าอั้น สองใบหน้าซ้อนอยู่กับหน้าโม
“เอ๋ คนเราถ้ารักจะคบกับใครก็ไม่อยากให้คนที่เราคบด้วยไปกับคนอื่นหรอก”
“เราก็ไม่ได้ห้ามโมนี่ โมอยากทำอะไรก็ทำ ดีเสียอีก เผื่อว่าโมจะเจอคนที่ถูกใจ ไม่ดันทุรังเหมือนเรา”
“ไม่เจอหรอก คนแบบเอ๋หน่ะ ยังไงก็ไม่มีทางเจอ”
“โม” เราเรียกเขาเบาๆเช่นกัน มือขอเราคลึงที่ไหล่ของเขา ตัวเขาอุ่นจนอยากจะกอดอีกครั้ง
“ เราแค่ยังอยากอยู่แบบนี้” เราแนบหน้ากับแผ่นหลังของโม โมขยับตัวออกแล้วหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง
“แต่เราไม่คิดแบบนั้นนะ” โมส่ายหน้า
“ถ้าเอ๋คิดแบบนี้ เราคงจะไม่มาหาเอ๋อีกแล้ว” โมพูดเหมือนกระซิบ พร้อมสายตาที่ส่อแววว่าผิดหวังในการตัดสินใจของเรา
“โมจริงจังกับเรื่องของเราขนาดนี้เลยเหรอ”
“เราก็แค่” เขาพูดได้เท่านั้นแล้วก็เดินออกจากห้องเราไป เราเดินตามออกมาเห็นแค่แผ่นหลังเขาลับหายไปกับมุมตึกแล้ว เรารีบเดินตามเขาไปอยากจะอธิบายมากกว่านี้
“โม เราอยากจะเคลียร์กับโมนะ”เราฉุดข้อมือเขาไว้ เขาแกะออกอย่างสุภาพ
“มีประโยชน์อะไร” เราเดินตามเขาไปจนถึงที่จอดรถด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์
“ขอเวลาเราบ้าง” เรายังคงวิงวอน
“เพื่ออะไรหล่ะเอ๋ ให้เวลาเอ๋ เพื่อที่จะถ่วงเวลาของเราไว้งั้นเหรอ เสียเวลากันทั้งคู่”
“โมโกรธเราเหรอ โมจะเร่งรัดในตอนที่เราไม่พร้อมโมก็ไม่มีทางได้คำตอบหรอก เหมือนตอนที่เราพยายามที่จะเข้าหาโม แต่โมถอยห่างไง”
“เอ๋เลยจะแก้คืนงั้นเหรอ แต่เราเห็นแก่ตัวนะ ตอนนี้เราพร้อมแล้วที่จะคบกับเอ๋โดยไม่ต้องคิดอะไรอีก ถ้าเอ๋จะเอาเรื่องที่เราเคยทำไว้มาเป็นข้อต่อรองก็เอาเถอะ เราเข้าใจ คนเรามันบังคับกันไม่ได้นี่” น้ำเสียงของโมเยือกเย็นที่สุด
“แต่เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ”
“ก็คงงั้น” โม ก้าวเข้าไปนั่งที่คนขับแล้วติดเครื่อง เราเคาะกระจกแต่เขาไม่ได้หันมามองหน้าเราเลย เราได้แต่ยืนเก้อมองตามรถของเขาไปจนลับสายตา ทำไมนะทำไมจะต้องให้เราตัดสินใจ ทำไมจะต้องให้เราเลือก เราไม่อยากเลือกใครทั้งนั้น เราอยากมีชีวิตแบบนี้ เราไม่ต้องการแล้วชีวิตคู่ แล้วเรื่องของเรากับโมจะจบลงทั้งอย่างนี้เหรอ มีแต่คำถามนี้วนเวียนในหัว แล้วอั้นหล่ะ มันจะดำเนินไปแบบไหน เราถามกับตัวเองทั้งคืนว่าเรารักโมหรือไม่ ไม่มีคำตอบอะไรออกมาจากจิตใต้สำนึก เราเสียดายเขาหรือไม่ เราไม่มีความรู้สึกนั้นเลย สิ่งเดียวที่ใจเราร้องบอกออกมามีแค่คำถามที่ว่าเมื่อไหร่อั้นจะกลับมาหาอีกครั้ง เราคงรักอั้นมากกว่าโม แต่มันก็ใช่ว่าจะมีความสุข นึกถึงหน้าโมตอนที่เขาคุยกับเราทีไรเราไม่สบายใจเลย
“เอ๋ ทำไมหล่อนเป็นคนแบบนี้” ต่อหัวเสียทันทีที่เจอหน้ากัน มันเป็นครั้งแรกที่เราปฎิเสธผู้ชายกระมัง
“ทำไมเหรอ”
“หล่อนรู้ตัวรึเปล่า ทำอะไรลงไป”
“ก็”ไม่รู้จะตอบต่อยังไงเหมือนกัน
“ไม่น่าเลย” ต่อพึมพำ “เสียแรงที่ชั้นพูดกับหล่อนแล้ว” ต่อมองเราด้วยหางตา
“เข้าใจหล่ะ หล่อนไม่ใช่ชั้น ชั้นไม่ใช่หล่อน ตอนนี้ความหลงมันบังตา” ต่อได้แต่ถอนหายใจเบาๆ “สงสารโมหว่ะ มันอุตส่าห์ไม่ไปทำงานที่ไซต์อีก เลือกโปรเจคกรุงเทพฯ ถึงหล่อนจะไม่ใช่เหตุผลตรงๆ แต่หล่อนเองก็คงมีส่วนทำให้โมมันอยากกลับมา คนเรานะน๊าทำไมถึงเรื่องมากเหลือเกิน”
“คงเป็นแค่ชั้นคนเดียวมั๊ง”
“แล้วไหนผัวเด็กหล่ะ ไปไหน ป่านนี้ยังไม่มา”
“ไปอยู่กับพ่อ”
“หล่อนก็เชื่อ รู้จักกันดีแค่ไหนเชียว ชวนเขามาอยู่ห้อง สักวันแล้วจะรู้สึก”
“อย่าไปว่าเขาได้มั๊ย เขาไม่เกี่ยว”
“แตะต้องไม่ได้ เพื่อนหนอเพื่อน”
วันเวลาผ่านไปพร้อมความกังวลทั้งเรื่องของโมและเรื่องของอั้น เราไม่กล้าโทรหาโมเพราะเกรงว่าเขาจะไม่รับ อั้นก็ไม่ส่งข่าว นี่เขาไปไหน มีเพียงพี่แจ่มที่รู้ว่าเขาลาต่อ แรกๆเราคิดถึงเขาแต่พอห่างกันนานเข้าเรากลับเฉย เราจะเลือนๆกับใบหน้าอั้นพอพยายามจะนึกกลับกลายเป็นใบหน้าของโมแว่บเข้ามาทุกครั้งทีเดินผ่านที่จอดรถ ป่านนี้โมจะเป็นยังไงบ้างนะ
เราใจสั่นระรัวตอนที่รอเขาเปิดประตูห้อง โมมองหน้าเราอย่างคนแปลกหน้า เขาผายมือเชิญให้เราเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะไปนั่งทำงานเงียบๆคนเดียว ชั่วเวลานั้นเหมือนนาฬิกามันหยุดหมุน เราได้แต่แอบมองเขาบ่อยครั้ง แต่เขายังคงสนใจกับการทำงานตามปกติ เราอยากจะคุยกับเขา แต่เราไม่กล้า เพียงแค่จะถามเราสักคำว่ามาทำไมเท่านั้น เราคงจะพร่างพรูคำตอบออกมาทั้งหมด แต่โมก็เฉย เสร็จจากงานก็มานั่งเงียบดูทีวีอยู่ข้างๆเรา เขาทำเหมือนกับว่าเราไม่ได้อยู่กับเขาในห้อง โมดำเนินชีวิตตามปกติเหมือนเราเป็นอากาศธาตุ จนเขาหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาพร้อมส่งให้เรา
“มีธุระอะไรเหรอ” เป็นประโยคแรกที่เขาถามตั้งแต่เรามาถึง
“เอ่อ” เราลืมหมดแล้วว่าจะพูดอะไรกับเขา ได้แต่รับเบียร์มาถือไว้
“สบายดีมั๊ย” หนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกัน โมเอาหลังพิงกับพนักโซฟากางแขนออกตามความยาวของโซฟา
“สบายดี” เราตอบเบาๆ เขาหันมามองเรา แล้วยื่นกระป๋องชนกับกระป๋องของเรา
“ฉลองชีวิตโสด” สายตาเขายังมองที่ทีวีในขณะที่พูด
“เราขอโทษนะ”เราพูดออกไปเบาๆ แต่เขาก็ได้ยิน
“ทำอะไรผิด” เขาทำหน้าเฉยตอนที่ถามกลับ
“เรื่องที่โมอยากให้เราตอบ”
“ตอบมาหมดแล้วนี่”
“เรา”
“อย่าพูดเลยเอ๋ เราไม่สนุกด้วยนะ ที่เอ๋จะเล่นเกมส์อยู่แบบนี้ จะเอาไงก็ว่ามา” โมถึงได้หันหน้ามาหา
“เรา”เขาขยับตัวมาใกล้กว่าเดิมจนเราชักหวาด
“ว่าไง.......”เสียงโมเหมือนตวาดพร้อมกับมือที่คว้าต้นขาเราไว้

....................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

132. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:54 PM (SE Asia Standard Time)
 
   248….
“โม เรากลัวนะ” เราขยับตัวออกห่างจากเขา สายตายังคงระแวดระวัง
“หึ หึ” โมหัวเราะในลำคอ “กลัวเหรอ” เขายกเบียร์ขึ้นซดอึกใหญ่ แล้วมองมาที่เรา ตาขวาง “กลัวอะไร”
“ก็ โมชอบทำให้เราตกใจ”
“อย่างนี้มันน้อยไป” เขาวางกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้ว ในขณะที่เรายังไม่ได้ลิ้มรสมันด้วยซ้ำ
“งั้นเรากลับก่อนนะ โมคงจะอารมณ์ไม่ค่อยดี” เราวางกระป๋องเบียร์ไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาพร้อมมองเขาด้วยสายตาหวาดๆ
“อยู่ด้วยได้มั๊ยวันนี้” เขาถามเราโดยไม่มองหน้าเมื่อเราขยับตัวลุกขึ้น
“เอาไว้วันหลังนะ”
“อ๋อ นัดไอ้อั้นไว้สิ” โมหันมาตะคอก
“ไม่ได้นัด เขาไม่อยู่แล้ว”
“ไม่อยู่หรือยังไม่กลับ เห็นเราเป็นอะไร พอไม่มีใครก็กลับมาหางั้นเหรอ เราไม่ใช่ควายนะโว๊ย”
“โม เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวห้องข้างๆได้ยิน”
“หน้าบาง” เรานั่งเหยียดหลังตรงเมื่อเขากวาดมืออ้อมมาด้านหลัง โมเห็นเราแสดงออกยิ่งฉุนกว่าเดิม
“เป็นอะไร” เขายังถามแกมบังคับด้วยการดันตัวเราเข้าไปหาจนแนบกับด้านข้างลำตัวเขา
“ไม่ได้เป็นอะไร ไม่เอาแล้วโม อารมณ์เสียแบบนี้ เรากลับแหล่ะดีที่สุด”
“ไม่ให้กลับ”
“แล้วจะให้อยู่ทำไม ตัวเองพูดไม่รู้เรื่อง” โมถลึงตาใส่เรา
“ใครพูดไม่รู้เรื่อง ผิดคนรึเปล่า”เราเบือนหน้าไปมองอีกฝั่ง แล้วโมก็ลุก
“จะไปส่ง” เขาเปลี่ยนอารมณ์โดยเร็วจนเราตามไม่ทัน พร้อมกับดึงมือเราลุกขึ้น โมปิดห้องพร้อมกับเดินมาหาเราที่รอลิฟต์ ห้องข้างๆก็กำลังจะลงลิฟต์เหมือนกัน เรารีบเข้าไปแล้วยืนชิดกับปุ่มเปิดปิดโมต้องขยับไปชิดด้านในเพราะคนเข้ามาพร้อมกันหลายคน เราทำหน้าที่เป็นพนักงานเปิดลิฟต์จนโมเดินผ่านออกไป เราไม่กล้าหันกลับไปมองเขาตลอดเวลาสั้นที่อยู่ในลิฟต์
โมขับรถเร็วเหมือนวันที่มีเรื่องเรากลัวว่ามันจะเกิดอุบัติเหตุ บ่อยครั้งที่เขาเหยียบเบรคกระทันหันที่ไฟแดง เราทั้งคู่นั่งเงียบ รถขับไปคนละเส้นทาง มันค่อยๆห่างกรุงเทพฯออกไปเรื่อยๆ
“โม เรามาไกลเกินไปรึเปล่า โมจะไปไหนเหรอ” โมลดความเร็ว
“ไม่รู้” เขาขับช้าลง “เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกแบบนี้ เราเจ็บนะที่เอ๋ทำกับเราแบบนี้”
“เราขอโทษ” เสียงเราอ่อย น้ำเสียงของโมดังก้อง
“แต่เราไม่รู้ว่าเอ๋คิดอะไรอยู่ เราไม่แน่ใจว่าเราชอบผู้ชายด้วยกันได้ไง ตอนเด็กๆมันก็แค่สนุก แม้ว่าเราจะมีอะไรกับผู้หญิง เราก็ยังไม่เลิกความชอบแบบนี้อีก” โมจอดรถที่ข้างทางแล้วลงไปเดินบนถนนตัดใหม่ที่ยังปิดการจราจรไว้อยู่ ลมแรงจากทุ่งโล่งพัดมา เขาเดินล้วงกระเป๋าไปข้างหน้าเรื่อยๆ คืนเดือนมืดไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจนนัก เราเดินตามโมไปโดยไม่ได้ถามอะไร จนเขาหยุดแล้วหันหลังกลับมาหาเรา
“เราจะเลิกกันจริงๆเหรอ เอ๋” เรากลัวแววตาที่มองมา
“ไม่ได้เลิก” เราตอบเขา
“แต่ที่เอ๋ มีคนอื่นแบบนี้ เราก็คงไม่คิดที่จะคบกับเอ๋ต่อหรอกนะ เราไม่รู้ว่า เราจะเติมเอ๋ยังไงให้เต็ม เราอาจจะไม่มีเวลาให้ เรื่องนั้นก็คงไม่ค่อยมีให้ แต่เราก็พยายามที่จะทำให้เอ๋มีความสุขมากที่สุด เอ๋คงไม่รู้หรอกว่าบางครั้งเราก็ถามตัวเองว่าจะมาเอากะเอ๋ทำไม ผู้หญิงตั้งเยอะตั้งแยะ กระเทยสวยๆ ก็เยอะ แล้วทำไมต้องเป็นเอ๋” เราคิดตามคำพูดของโม มันก็จริงนะ หน้าตาอย่างโม หน้าที่การงานแบบนี้ มันไม่ยากที่เขาจะหา แม้แต่ตอนที่เราแต่งหญิงเขายังเฉยๆ แต่กลับบอกว่าชอบแบบปกติ
“เราอยู่กับเอ๋ เรารู้สึกดีนะ ตอนที่เราอาละวาด เราก็รู้ว่าเอ๋ห่วงเรา เราทำเอ๋เจ็บโดยที่ไม่ได้ขอโทษ แต่ตอนที่เราเจ็บเอ๋กลับเป็นฝ่ายดูแลเราจนหาย”
“โมอย่าพูดเรื่องพวกนั้นเลย มันผ่านไปแล้ว เราไม่อยากให้โมไปจำมันหรอก”
“คงเพราะเรื่องพวกนั้นใช่มั๊ยที่ทำให้เอ๋ไม่ไว้ใจเรา”
“ไม่ใช่”
“เรื่องที่เรามั่วกับผู้หญิงเหรอ”
“ก็ไม่ใช่”
“แล้วอะไร”
“ไม่ใช่อะไรสักอย่าง เราตอบตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วเราจะตอบโมได้ไง”
“งั้นเอ๋คิดอะไรอยู่”
“เราจีบโมไม่ติดแต่แรก โมหลอกล่อเราแล้วโมก็ทิ้งให้เราเก้อ นึกขึ้นได้ก็มา พออ่อนไหวโมก็หาย โมเป็นแบบนี้ เราเลยกลัว กลัวว่าถ้าเรารักโมเหมือนกับที่เคยรักคนอื่น แล้วสุดท้ายมันก็คงอีหรอบเดิม เราถึงหยุดความคิดแล้วหาอะไรทำ ไขว้คว้าหาทุกอย่างที่มันจะทดแทนความรู้สึกที่จะรักใคร เราคิดว่ายิ่งมีหลายๆคน เรายิ่งจะเข้มแข็งอยู่คนเดียวได้มากกว่า”
“ไม่ใช่หรอก เอ๋ไม่รู้จักความรักมากกว่า เอ๋รู้จักแต่คำว่าเอาชนะ พอเอ๋ได้คนไหน เอ๋ก็จะมั่นใจตัวเองมากขึ้น ยิ่งได้มาง่ายๆ เอ๋ยิ่งหลงระเริง คิดหาไปเรื่อยๆมากกว่ามั๊ง”โมล้วงกระเป๋า แล้วเดินย้อนกลับไปที่รถ เขายังไม่เปิดประตูรถทันทีหากแต่ยืนรอเราอยู่
“เรา ไม่ได้พูดอะไรกันยาวๆแบบนี้เลยนะ” โมกอดอกพิงที่ประตู
“ที่ผ่านมามีแต่เรื่องเดียว เราถึงไม่รู้จักกัน” เขายังกล่าวต่อไป
“คงมีเรื่องเดียว อยู่ในหัวเรา” เราตอบเขา เราคิดแค่ว่าจะเอาเขาเท่านั้นอย่างที่เขาพูดจริงๆ
“บางที ผู้ชายไม่พูดก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้คิดนะ”
“ส่วนใหญ่ที่คิดคงคิดว่าจะเลิกกับมันเมื่อไหร่มากกว่า” เราตอบ
“ไม่ใช่เรา” โมตอบ
“แล้วทำไม ตอนที่เราพยายามเข้าใกล้โม แต่โมกลับห่างออกไป”
“เราก็อยากศึกษาเอ๋มั่งสิ ใครมันจะรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ รู้งี้เราไม่ยุ่งกับเอ๋ก็ดีหรอก” โมเหมือนจะฉุนขึ้นมาอีก เขาหันไปเปิดประตูแล้วนั่งติดเครื่องรอให้เราอ้อมไปขึ้นอีกด้านนึง ความเงียบของถนนเหมือนกับความเงียบในใจของเราทั้งคู่ชั่วขณะ ได้แต่มองหน้ากันไปพลางแล้วหันไปมองนอกรถซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ถ้าหากโมจะทิ้งเรา เพราะเราเป็นคนแบบนี้ เราก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเองเท่านั้น มีคนที่มีน้ำใจขนาดนี้เข้ามายังไม่รู้จักรักษาเอาไว้ ครั้นเขาจะไปกลับนึกเสียดาย เราตัดโมออกไปจากใจไม่ได้หรอก ยิ่งโมเฉยตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา เรายิ่งบังคับให้ตัวเองนิ่ง ทั้งกลัว ทั้งกังวล จนเรามาถึงห้องโม โดยที่ไม่รู้ว่าจะมาเพื่ออะไร”
“คิดได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
“.....” เราพยักหน้า “น้ำเน่า ผู้ชายทีไหนจะมาสนใจอย่างพวกเรา จริงมั๊ย ได้ขนาดนี้ก็บุญแล้ว” โมติดเครื่องเขาจับที่เกียร์ เราเอื้อมมือไปกุมที่มือของเขาไว้ ความเสียดายความหวงแหนเหมือนว่าตัวเองจะถูกทอดทิ้งมันทับทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เราอึดอัดกับความรู้สึกนี้จนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ขอบตามันเหมือนรื้นขึ้นมา เราเศร้าใจเรื่องอะไรกัน เพียงแค่จะพูดอะไรต่อมันกลับเหมือนปริ่มว่าน้ำตามันจะไหลออกมา แน่นหน้าอก เราหลบสายตาของโมที่มองมือของเขาแล้วเบือนหน้าหลบซ่อนน้ำตาเอาไว้ เราเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าสิ่งที่ต่อบอกนั้นเป็นความจริง
“เวลามันจะทำให้หล่อนได้เรียนรู้ ถ้าหากโชคดี มีวาสนาในเรื่องคู่ ทำยังไงก็ไม่มีทางอ้างว้าง สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวหล่อนเอง หล่อนจับไพ่ได้แบบนี้ มันบอกว่าหล่อนเป็นคนชอบเอาชนะบนความเจ็บปวดของตัวเอง ถ้าหล่อนลดความมั่นใจในตัวเองลงบ้าง มองคนอื่นอย่างที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ เข้าใจเขาให้มากเท่ากับเข้าใจตัวเอง ตอนนั้นหล่อนก็จะมีความสุข อย่าเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ที่หล่อนพลาดมาหลายครั้งเพราะหล่อนไม่เข้าใจความรักดีพอ หล่อนยังรักคนอื่นไม่เป็น ประสบการณ์ความรักของหล่อนมันลงท้ายด้วยเรื่องอย่างว่าหล่อนยังขาดประสบการณ์ของจิตใจ และถ้าหากไม่รีบแก้ หล่อนจะต้องทนอ้างว้างไปจนตาย ค-ยเข้ามาหาเยอะก็จริง แต่สุดท้ายก็ไม่เหลือใครสักคน”
เราหันหน้าไปมองโมหลังจากที่กลั้นความรู้สึกอาดูรนั้นเอาไว้ได้
“โม” เราเรียกเขา
เขาไม่ตอบแต่มองไปข้างหน้า ถนนที่ว่างเปล่า ยิ่งทำให้ใจเงียบสงัดยิ่งนัก
“เราขอโอกาสอีกครั้งได้มั๊ย”
โมก็ยังไม่ตอบเขาเหมือนกับไม่ได้ยิน เราทั้งคู่เงียบไปจนรถมาจอดที่หน้าอพาร์ทเม้นท์เรา เขาไม่พูดอะไรเลย ได้แต่โบกมืออำลา ไม่มีรอยยิ้มจากใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น จนรถออกไปพ้นปากซอยเราถึงรวบรวมเรี่ยวแรงเดินขึ้นห้องตัวเอง ทันทีที่เปิดห้องเข้าไป เราก็พบว่ากระเป๋าของอั้นได้หายไปแล้วพร้อมกับการรื้อค้นของในตู้เสื้อผ้า โน๊ตเล็กๆอยู่บนโต๊ะวางอยู่บนกล่องใส่ทองสองบาทที่แม่ให้ไว้เราเก็บไว้ในซอกอย่างดี รวมกับแหวนที่เราซื้อไว้หลายวง มันอันตรธานหายไปพร้อมกับโน๊ตจากลายมือแบบรีบๆ
“ขอยืมก่อนนะ แล้วจะใช้คืน” ขาเราชา สร้อยที่แม่เพิ่งเปลี่ยนให้ตอนกลับบ้านคราวที่แล้ว ยิ่งทำให้เราเศร้าใจหนักกว่าเดิม เราทรุดนั่งลงข้างที่นอน อ่านประโยคนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาที่กลั้นไว้มันไหลออกมาอย่างไม่รู้เรื่อง เราเจ็บใจในสิ่งที่เกิดขึ้นมากๆพอกับการเสียความรู้สึกที่มาจากความไว้เนื้อเชื่อใจ กุญแจห้องไม่ได้คืนให้ ยิ่งคิดตอนที่แม่ใส่ตะขอให้ยิ่งรวดร้าวหนัก เราไม่ได้ใส่ไปทำงานเพราะไม่ชอบแต่เก็บไว้ว่าอย่างน้อยยังมีไว้ใส่เล่นตอนที่ไปไหนบ้างเท่านั้น จะคืนแม่หลายครั้งแม่ก็ให้เก็บเอาไว้ ซ้ำยังบอกให้ซื้อให้มากกว่าเดิมไว้เป็นสมบัติส่วนตัว
“เป็นอะไร เรียกทำไมไม่ยอมเปิด แล้วทำไมห้องถึงเป็นแบบนี้หล่ะ” ต่อมองหน้าเรา
“เอ๋ ร้องไห้ทำไม” ต่อปิดประตูตู้เสื้อผ้า มองที่โต๊ะวางของก็เข้าใจ กล่องใส่ทองวางอยู่กับโน๊ต วันก่อนต่อยังมานับแหวนของเราอยู่เลยว่ามีกี่วง พร้อมนัดกันจะเอาไปเปลี่ยนเป็นสร้อยข้อมือ
“ทั้งหมดกี่บาท” ต่อระล่ำระลักถาม เราพูดไม่ออก
“ไป ไปแจ้งความ รู้ชื่อรู้แซ่มันนี่”
“ไหนหล่ะ หลักฐาน”
“ก็นี่ไง มันฝึกงานที่โรงแรมหล่อนนี่ ไปจัดการมันเลย”
“ชั้นเพิ่งโทรไป เพื่อนมันบอกว่า มันกลับบ้านไปแล้วเลิกฝึก”
“งั้นก็แจ้งไปที่มหาลัยมัน ทำยังงี้ได้ไงนี่”ต่อเป็นเดือดเป็นแค้น
“ช่างมันเถอะ” เราสลัดน้ำตา เรารู้ว่าต่อให้ตามไปยังไงก็ไม่มีทางได้คืนหรอก เขาคงหาโอกาสที่จะเอาไปอยู่แล้ว
“เอ๋ อย่ายอมอะไรง่ายๆสิ มันเอาของเราไปนะ”
“แล้วจะไปตามที่ไหน” ต่อกระชากแขนเราลุกขึ้น ปิดห้องแล้วกึ่งลากกึ่งจูงไปจนจะเรียกแท็กซี่ เราถึงแกะมือต่อออก
“อย่าเลย เราผิดเองแหล่ะ ที่ไว้ใจคนง่าย ช่างมันเถอะ เราระวังตัวน้อยเกินไป” เราหันหลังกลับห้อง
“งั้นพรุ่งนี้ต้องเปลี่ยนกุญแจ”
“หล่อนไม่มีที่ติดต่อมันได้เลยเหรอ”
“มี”
“แล้วนั่งเป็นเบื้ออะไรหล่ะ” ต่อถามเบอร์โทรศัพท์ที่เราขออั้นไว้
“ขอสายอั้นฮะ” ต่อพูดเสร็จก็ยื่นให้เราพร้อมกับบอกว่าอั้นรับสาย
“อั้นเหรอ”
“พี่เอ๋ เหรอ”
“อั้นเอาของพี่ไปทำไม”
“ผมมีเรื่องต้องใช้เงิน แล้วผมจะหาไปคืนให้นะพี่เอ๋”
“อั้น เอามาคืนเลยไม่ได้เหรอ”
“ขายไปหมดแล้ว”
“แล้วเอาเงินไปทำอะไร”
“มีธุระจะใช้ แล้วผมจะแวะไปหานะพี่ ผมขอโทษแต่ผมต้องใช้เงินจริงๆ” เขาวางหูพร้อมดึงสายโทรศัพท์ออก เราพยายามจะกดแต่ไม่มีสัญญาณแล้ว
“เลวจริงๆ มันพูดยังงี้ได้ไง หล่อนต้องบอกหัวหน้ามันนะเอ๋ ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” เราได้ยินเสียงต่อพูดนั่นพูดนี้เหมือนมันดังแว่วมาไกลๆ สองสิ่งที่คาดหวังกลับมาแตกหักพร้อมกันหากแต่คนละรูปแบบ หนึ่งคือความไว้ใจที่กัดกร่อนทำลายความรู้สึกเรา พร้อมๆกับ ความเสียใจที่สูญเสีย ถาโถมเข้ามาประดัง เรา ปล่อยให้ต่อนอนหลับอยู่ในห้องในขณะที่เรานั่งมองฟ้ามืดที่ระเบียงอยู่อย่างนั้นด้วยสมองที่ว่างเปล่า เราไม่ได้คิดอะไรเลย มีแต่ความเงียบงัน รู้แค่ว่าเสียใจ เพียงอย่างเดียว มีแค่คำว่าเสียใจเพียงคำเดียว แล้วเราก็หมดสติ จนรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบสายน้ำเกลือระโยงระยาง นี่เราอ่อนแอขนาดนี้เทียวหรือ ต่อชะโงกหน้ามองเรา
“เอ๋ หล่อนช็อกไปนะ ชั้นเรียกเท่าไหร่หล่อนก็ไม่ยิน นี่หล่อนรู้สึกตัวรึยัง” เรากระพริบตาถี่ให้คุ้นกับแสงสว่าง
“ทำไมต้องถึงโรงพยาบาลด้วย”
“นี่ไม่ตายก็บุญแล้วนะ หล่อนรู้มั๊ยว่าหล่อน หมดสติไปนานแค่ไหน”
“คงง่วง”
“อีเก่ง” ต่อขยับมาดูหน้าเราชัดๆ “หมอเขาบอกว่าช็อก เพราะไม่ได้นอนปนกับความเครียด”
“แล้วหล่อนแบกชั้นลงมาจากอพาร์ตเม้นท์ได้ไง”
“ชั้นโทรตามโม ให้มันมาดูหล่อน”
“งั้นเขาก็รู้เรื่องหมดนะสิ”
“อ้าวก็ต้องบอกสิ” ยิ่งทำให้เรารู้สึกละอายใจกว่าเดิม เลือกนักมักได้แร่
“ทำไมต้องอาย ถือว่าซวยไปเถอะนะ ชั้นกลับไปเปลี่ยนกุญแจห้องให้หล่อนแล้วนะ ไม่รู้สิสังหรณ์ยังไงก็ไม่รู้ ชั้นเพิ่งนึกออกว่าตอนที่หล่อนไปหาโม มันเหมือนมีคนเข้าห้องหล่อนตอนที่ชั้นเปิดห้องนอนเล่นแต่เห็นรองเท้ามันถอดไว้คิดว่ากลับมาด้วยกัน ถ้ารู้ว่าจะเป็บแแบบนี้”
“ไม่ต้องพูดแล้วต่อ”
“เสียดายของหรือเสียดายคนหล่ะ” ต่อพูดเหมือนย้ำ “คนนิสัยเหี้ยๆแบบนี้ก็มีด้วย”
เหมือนต่อจะพูดอยู่คนเดียวจนเรารำคาญ เราหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่คนเดียวได้นอนเต็มตามันก็ดีขึ้นมาบ้างขาดแค่ความเสียใจเท่านั้นที่ยังไม่บรรเทา เรื่องของอั้นเราทำใจได้แล้ว เรื่องของอั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราคิดว่าเราจะต้องได้ของเราคืน เหลือแต่เรื่องของโมเท่านั้นที่ยังติดค้างอยู่ในใจ เรามองน้ำเกลือที่หยดลงทีละหยด หมดกระบอกนี้เราก็กลับได้แล้ว ต่อเปิดประตูเข้ามาพร้อมของกินและเสียงหัวเราะอย่างร่าเริง
“เข้ามาสิ โม” ต่อเรียกเขาให้ตามเข้ามา เหมือนกับโมยังยืนอยู่ที่ประตูไม่เข้ามาง่ายๆ
...........


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

133. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:55 PM (SE Asia Standard Time)
 
   249…..
“อ้าวจะกลับทำไม” เสียงต่อลอดประตูห้องที่แง้มไว้ “เข้ามาดูเอ๋มันสักนิดนะ ไหนๆก็มาแล้ว” ประตูถูกผลักออก เรายิ้มรับกับการปรากฎตัวของโม
“นึกว่าจะไม่ได้เจอโมอีกแล้ว ขอบคุณนะที่เป็นธุระพามาหาหมอ”
“ไม่เป็นไร” โมมองที่ขีดน้ำเกลือที่ยังเหลือ “เป็นไงมั่ง”
“รู้สึกมีแรงขึ้นมาเยอะเลย” ต่อตอบแทนเรา “เมื่อกี๊ยังอวดเก่งอยู่เลย โมยิ้มที่มุมปาก
“ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะ” โมหันรีหันขวางทำท่าเหมือนลังเลว่าจะตามต่อออกไปยังไงยังงั้น
“โม มีธุระจะรีบกลับเหรอ” เสียงปิดประตูเบาๆของต่อ โมหันไปมองที่ต้นเสียงก่อนจะเดินมาหยุดที่ข้างเตียงคนป่วย
“ไม่มีธุระหรอก บอกตรงๆแค่ยังไม่อยากเจอเอ๋”
เขาทำให้เราห่อเหี่ยวขึ้นมาอีก เราหลับตาพร้อมสูดหายใจจนเต็มปอด สะกดความรู้สึกแล้วผ่อนมันออกมาเบาๆช้าๆ
“ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะโม” มือที่มีสายน้ำเกลือค่อยๆขยับแต่มันตึง
“หายเร็วๆนะ รักษาตัวให้ดีด้วย อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก” โมกล่าวเสียงเรียบๆ “งั้น เราขอตัวนะเอ๋” โมมองหน้าเรา และเราก็มองหน้าเขา เขากำลังจะหันหลังเพื่อเดินออกไปนอกห้องต้องหยุดเพราะคำพูดของเรา
“โม ยังไม่ได้ให้คำตอบเรานะ”
“คำตอบนั้นเอ๋น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว”
“คงจะเป็นอย่างที่เราคาดไว้แล้ว” โมหันมามองหน้า
“เอ๋ อยากจะให้เป็นแบบไหน” เขาถามเรากลับ
“......” เราไม่กล้าที่จะตอบอย่างใจต้องการ
“ก็อย่างงี้ทุกที พอถามก็เอาแต่เงียบ ไม่พูด ดีแต่เรียกร้อง เวลาไม่ได้อย่างใจ เราขี้เกียจจะง้อเอ๋แล้ว” โมถอนหายใจแล้ว เดินมาเกาะที่ปลายเตียง “ต้องการอะไรจากเรา เราก็อยู่นี่แล้ว” โมมองหน้าเรา สายตาของเขาไม่เหมือนกับมองคนป่วยแต่เหมือนกลับมองคนทำความผิด
“เอ๋ ต้องการอะไร” ..... “พูดออกมา”
“เราต้องการโม” โมเหมือนยิ้มอย่างสมเพช
“หมดหนทางแล้วหล่ะสิ”เขาถอนมือที่ค้ำออกจากเตียง แล้วเดินออกจากห้องไป
“ทะเลาะอะไรกันอีกเนี่ย” ต่อเดินสวนกลับเข้ามาแทบจะชนกับโมที่ประตู “ฤทธิ์แรงมากนะเนี่ย เดี๋ยวชั้นมา” ต่อรีบตามโมไป พยาบาลเข้ามาปลดสายน้ำเกลือ ตรวจชีพจรวัดอุณหภูมิร่างกายอีกครั้ง
“จะกลับบ้านได้แล้วนะคะ” เที่ยงต้องเช็คเอ้าท์ยังกะโรงแรม
“ แล้วบิลล์”
“เพื่อนของคุณไปติดต่อแล้วคะ นอนพักอีกสักพักนะคะ ยังไงกดเรียก พยาบาลก่อนบ่ายโมงนะคะ จะได้ส่งคนมารับ” พยาบาลเก็บอุปกรณ์ขนเรียบร้อยแล้วกลับออกไป เราค่อยๆดันตัวลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว นั่งรอต่ออยู่นานจนเกือบถึงเวลาต้องคืนห้อง
“เสร็จแล้วเหรอ” ต่อตกใจที่เราอยู๋ในสภาพพร้อมเดินทางแล้ว
“ค่ายา จ่ายไปเท่าไหร่ เดี๋ยวลงไปกดให้ เออ ขอบิลล์มาให้รึเปล่า ชั้นเบิกได้นะ”
“เดินไหวมั๊ย” ต่อเข้ามาประคองพร้อมมือที่หอบของกินเล่น
“ไหว แค่ ไม่ได้นอน ทีหลังอย่าให้เดือดร้อนคนอื่นเขาอีกนะ บ้าจังเลย เราเนี่ย” เราบอกตัวเองพร้อมกับต่อ
“เออน่า อย่าคิดมาก นึกเสียว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน”
“อย่าไปเสียใจเลยนะ หาเอาใหม่เถอะ อะไรไม่ใช่ของของเราก็ปล่อยเขาไป” ต่อมองหน้าเราแล้วพูด ต่อบีบมือเราแรงเหมือนให้กำลังใจแบบแปลกๆ “นี่เดินไหวมั๊ย”
“ไหว ไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“ดีแล้ว เข้มแข็งไว้ ยังมีอะไรต้องเจออีกเยอะ เรื่องแค่นี้ไม่ตายง่ายๆหรอกว่ามั๊ย”
“ฮื่อ” เราตอบต่อ ไม่ตายจริงแต่ตายทั้งเป็นนะสิ ต่อผิวปากเล่นในลิฟต์ แล้วหันมามองหน้าเรา
“อารมณ์ดีอะไร”เราถาม
“ดีนะ วันหยุดได้มานอนพักโรงพยาบาล”
“ประสาท เสียเงินนะสิไม่ว่า”
“เออน่า นิดหน่อยแค่นี้เอง คราวนี้ก็ตั้งสติให้ดีแล้วกันอย่าวู่วามนะเอ๋ เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีก” ยังไม่ทันที่ต่อจะพูดอะไรอีก ลิฟต์ก็เปิดออกต่อพยุงเราเบาๆ เรายังรู้สึกตึงที่แขนเล็กน้อย ต่อโบกมือเรียกรถนั่งคนเจ็บให้มารับเรา บุรุษพยาบาลเข็นรถมาหา
“เราเดินได้”
“น่า เอาหน่อยบริการพิเศษ มานอนโรงพยาบาลทั้งที ก็ทำตัวให้สมกับเป็นคนไข้หน่อย “ เราเขินเล็กน้อยที่ต้องนั่งรถเข็น
“เข็นไปที่จอดรถเลยใช่มั๊ยครับ” บุรุษพยาบาลคุยกะต่อ เขาเข็นไปจนถึงทางออก รถคันนั้นเราจำได้ดีมันรถของโม
“ไปเอารถเขามาใช้เหรอ” เราถามต่อเมื่อไม่เห็นคนขับ
“บ้า ไม่ใช่เมียเขา เขาจะให้มาง่ายๆเหรอ”
“แล้ว” ยังไม่ทันจะพูดจบ โมก็เดินมาเปิดประตูรถให้
“จะนั่งหน้า หรือนั่งหลัง” ต่อถามเรา แต่หล่อนก็เปิดประตูด้านหลังเข้าไปนั่ง โมเปิดประตูรถด้านหน้าให้เรานั่งคู่ไปกับเขา
“เปิดเพลงหน่อยโม เงียบจังเลย” เสียงนิวแซนมาจากข้างหลัง โมทำตามคำสั่ง เราแอบมองเขาไปตลอดทาง ไม่อยากพูดอะไรอีก
“เออ โม เดี๋ยวขึ้นไปเอาเอกสารให้วีด้วยนะ อย่าลืมหล่ะ วีนี่ก็แย่จริงๆ มาทุกครั้งก็เอามาทิ้งไว้”
“วันนี้เป็นทั้งคนขับรถ ทั้งเด็กรับส่งเอกสารเลยแฮะ” เขาพูดแกมขำ
“วันนี้วันเดียวแหล่ะน่า”
“หรืออยากเป็นทุกวัน” ต่อยังสนุก
“ไม่เอาหรอก” โมหันมามองหน้าเรา เราหลบไม่ทัน สายตาของเขายังเฉยชาเช่นเดิม
“ไม่เอาก็อย่าเอา” ต่อหัวเราะคิก โมหิ้วสัมภาระของต่อ มันมาเฝ้าไข้แต่ทำอย่างกับไปเที่ยว ข้าวของของต่อมากกว่าเราด้วยซ้ำ ถึงหน้าห้องต่อก็เปิดประตูห้องให้เราพร้อมยื่นกุญแจชุดใหม่ให้ เราเดินเข้าห้อง ต่อเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“หล่อนมาทำให้เมื่อไหร่” เราไปพักที่โรงพยาบาลแค่วันเดียวนี่นา ต่อก็อยู่กะเรา
“ก็พอชั้นไปส่งก็กลับมานอนห้อง”
“งั้นชั้นนอนอยู่โรงพยาบาลคนเดียวเหรอ”
“จ้างพยาบาลเฝ้า” อะไรเนี่ย
“แล้วบิลล์ค่ายาเท่าไหร่”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า อะไรกัน ถามกี่รอบแล้ว”
“เอามา ชั้นจะเอาไปเบิกมาคืน เดี๋ยว เย็นๆจะลงไปกดเงินให้” ต่อยักไหล่ โมยืนรออยู่ที่หน้าห้อง
“ต่อ ได้รึยังเอกสาร เราจะกลับ”
“จะรีบไปไหนนี่ เข้ามาคุยกันก่อนสิ ห้องเราตอนนี้มันร้อนแดดมันส่องตอนบ่าย” ต่อเปิดแอร์ในห้องเราแล้ว ตรวจดูความเรียบร้อย “โม เข้ามาสิ แอร์ออกหมดแล้ว” ต่อจูงมือโมเข้ามาจนได้
“รอแป็บนะ” ว่าแล้วหล่อนก็ออกไปที่ห้องตัวเองพร้อมปิดประตูห้อง
“โมจ่ายค่ายาให้เราเหรอ”
“ห่วงอยู่เรื่องเดียวสิท่า” เขาดึงบิลล์ออกมา
“เรื่องอะไรจะต้องรบกวนโม เราไม่สบาย เรามีสวัสดิการก็ต้องใช้สิ” เราดูยอดแล้วหยิบกระเป๋าเงินนับเงินคืนเขา
“อะไร” เขาทำงง
“ก็คืนให้ก่อนไง เดี๋ยวเราไปเบิกเอง”โมรับเงินไป
“จะได้ไม่เป็นหนี้” โมเอาเงินใส่กระเป๋า
“ไหนว่าต่อมันจ้างพยาบาลเฝ้าเราไม่เห็นมีรายการเลย” ค่าพยาบาลพิเศษเบิกไม่ได้ เราตรวจดู มันก็ไม่กี่บาทเอง
“ไม่มีหรอก เขาพูดเล่น”
“อย่าบอกนะว่าโมเฝ้าเราแทนต่อ” เขาไม่ตอบ
“โมได้นอนมั่งรึเปล่า”
“ก็นอนอยู่ข้างๆทั้งคืน”เขาก้มหน้าตอบ
“ขอบคุณนะ” เขาเองก็เก้ๆกังๆ ที่เห็นเรายิ้มให้
“ไม่เป็นไร ชดเชยเรื่องคราวที่เอ๋เฝ้าเราก็แล้วกัน”
“เอ่อ” โมดูเปลี่ยนไปจากตอนที่อยู่โรงพยาบาล “งั้นเรากลับละนะ” เขาทำท่าจะออกไปจากห้องตามที่พูด
“โม”
“มีอะไรเหรอ”
“ถ้าโมไม่ให้โอกาสเราแล้วก็ไม่เป็นไรนะ แต่ขอให้เราเป็นเพื่อนกันนะ” เราขอเขาเป็นครั้งสุดท้าย “นะ โมนะ” เรากอดเขาจากด้านหลัง “เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้โมหายโกรธเราได้ แต่อย่างน้อยอย่าเกลียดเราเลย เรารู้สึกแย่” โมแกะมือเราออก
“เอ๋” เขาหันหน้ามามองเรา
“อย่าให้ความอ่อนแอมาทำให้เอ๋ รู้สึกผิด เราเคารพการตัดสินใจของเอ๋ เอ๋ก็มีเหตุผลที่จะทำและมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีใครเข้าใจหรอกนะ เราไม่ได้โกรธและก็ไม่ได้เกลียด เอ๋ อย่างที่เอ๋คิด”
“แล้วทำไม” โมไม่ตอบ
“โมอาจจะนึกรังเกียจพฤติกรรมของเรา”
“เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว”
“ไม่เอาแล้วเดี๋ยวต่อจะรอ ไปก่อนนะ ดูแลตัวเองให้ดีหล่ะ”
“ไม่ให้ไป” เราเอาตัวมาบังที่ประตูไว้
“เอ๋”
“เราจะไม่ให้โมไปไหนทั้งนั้น จนกว่าโมจะยอมรับคำขอโทษจากเรา”
“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ” หน้าเขาเริ่มแดงขึ้นทั้งที่แอร์มันเย็นแล้ว
เรากอดเขาแน่น “โมจะว่าเราบ้าเราก็ยอม” เราพูดในขณะที่แก้มแนบกับอกเขา โมพยายามจะดันตัวเราออก
“อย่างอแงสิเอ๋ ปล่อยเราเถอะ” โมดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุม เราถึงได้ยอมปล่อย
“อย่าร้องไห้” ตาเราแดงเพราะอัดอั้นตันใจ
“ไม่ได้ร้อง งั้นก็ตามใจโมแล้วกัน เราคงแก้ใขอะไรไม่ได้แล้ว” เราสูดลมหายใจลึกอีกครั้งนับหนึ่งถึงสิบในใจช้าๆ พร้อมกับมองหน้าเขา หากว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกันขอให้เราได้มองเขาให้เต็มตาอีกครั้งก็คงดี
“เรา ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอโมอีกรึเปล่า แม้ว่าเราจะขอให้คงความเป็นเพื่อนเอาไว้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะกล้าไปเจอหน้าโม เราละอายใจที่จะยึดเหนี่ยวโมไว้ ด้วยเหตุผลของคนเห็นแก่ตัว อภัยให้เราเถอะนะ แล้วนับจากนี้เราจะอยู่ตามประสาเรา ขอให้โมเชื่อใจว่าเราจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับโมอีก เป็นเพื่อนกันเราคงทำไม่ได้หรอก ขอให้โมโชคดีนะ” เรากอดเขาอีกครั้งคราวนี้โมปล่อยให้เรากอดไม่ได้ผลักไส เขานิ่งอยู่สักพักพร้อมกับกอดเราตอบ คางกดที่กระหม่อมเราไว้
“ขอเวลาเราสักพักนะ ให้เราตัดสินใจ”เราไม่ตอบคำขอของโม
“ไม่ต้องเสียเวลาหรอกโม ลืมเราไปเถอะ โมจะได้ใช้เวลากับคนใหม่ๆ สิ่งใหม่ อย่าเสียเวลากับคนอย่างเราเลย” เราปล่อยมือที่กอดเขา
“ไม่มีเหตุผลอีกแล้วนะ” โมเอ็ด
“อย่างงี้ทุกที ทำไมต้องทำให้อารมณ์เสีย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ จะคาดคั้นอะไรตอนนี้” โมผลักเราออกจากตัว เราเดินออกจากที่ขวางไว้
“งั้นก็ขอบคุณนะที่ผ่านมา”
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” โมเห็นเราไม่สนใจเขาต่อเขากลายเป็นฝ่ายเดินตามมาที่เรายืน พร้อมกับผลักไหล่เรา เราหงายหลังนั่งลงไปที่พื้น
“มันเป็นอะไรนักหนาเนี่ย” โมผลักเราให้นอนลงกับพื้นแล้วกดเราไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง
“ทำไม ทำไม” เราไม่ดิ้นได้แต่มองหน้าเรา “ทำไมมันถึงเข้าใจอะไรยากขนาดนี้ บอกเราหน่อย”
“เข้าใจแล้วว่าเราจะเสียโมไปแล้ว ถ้าเราปล่อยโมไป จากวันนี้เราคงไม่มีโอกาสเห็นโมอีก เราถึงไม่อยากให้โมไปง่ายๆ โมขอเวลา แล้วมันจะนานแค่ไหน ยิ่งนานมันก็ยิ่งห่าง แล้วสุดท้ายก็หายไปจริง”
“คิดอย่างนั้นเหรอ” เสียงเขาอ่อนลง พร้อมจ้องตาเรา
“ดูเอาไว้ให้ชัดๆนะ” เราหลบสายตาเขา โมปล่อยมือที่กดออกแล้วดึงแขนเราขึ้นยืนตาม “พักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาอีก เราไม่ทิ้งเอ๋หรอก” โมกดเราให้นั่งลงบนที่นอนเรากอดเขาที่ยืนอยู่หน้าเราอยู่ระดับเอวของเขา อารมณืของเรามันกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว เราเงยหน้ามองโมที่ก้มลงมองมาเช่นกัน ความคิดของเรามันตามอารมณ์ไม่ทันเราแกะตะขอกางเกงของโมออกอย่างรวดเร็ว โดยที่โมยังมองอยู่ไม่วางตา กางเกงสแล็คหลุดลงไปกองที่ปลายเท้า เรารูดกางเกงในออกตาม
“จะทำอะไร” เขาถาม เราไม่ตอบแต่เลือกที่จะกุมส่วนนั้นพร้อมกับใช้ปากกับมัน โมสะดุ้งแต่เรายังโอบเอวเขาไว้
“เอ๋ เป็นอะไร” เขาถามในขณะที่เราโยกไปตามความยาวของมัน “พอก่อน มันไม่มีอารมณ์หรอกวันนี้” เราถอนปากออกเมื่อเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ
“น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ดูดเข้าไปได้ไง ไม่เหม็นเหรอ”
เราส่ายหน้า โมผลักเราลงไปบนที่นอนแล้วเขาก็คร่อมมาทับตาม
“อยากให้ทำจริงๆเหรอ” เราพยักหน้า โมหัวเราะ “ไม่ไหวเลยนะเรา” เราอาย “พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีอารมณ์อีกจนได้”
“ก็มันเป็นแบบนี้นี่จะทำไงได้”
“แล้วไงหล่ะ”
“แล้วไงหล่ะ เรื่องไหน” เราย้อนตอบ
“ไม่รู้แล้ว” ช่วงล่างเปลือยของโมยังคงทาบทับบนตัวเรา
“จะดีเหรอ” ยังถามอยู่ได้
“ไม่พูดด้วยแล้ว” เราหันหลังให้
“มีงอนแฮะ” เขากัดที่ติ่งหูเรา “หันมาคุยกันก่อนสิ” เราไม่พลิกไปหรอก งอนจริงๆนี่
โมจับมือเราดึงไปกุมส่วนนั้นของเขา
“ว่าไง พร้อมแล้วนะ” เราหันไปตามมือที่รูดของเขา
“เอายัง”
“คนบ้าจะมาแกล้งอะไรอยู่ได้” โมดึงกางเกงเราออกพร้อมจับเรานอนคว่ำ เป็นท่าถนัดของเขา
“โอ๊ย” สุดท้ายต้องร้องเสียงหลงเพราะ เจอตอกระแทกอย่างแรง
..................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

134. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 04:59 PM (SE Asia Standard Time)
 
   250 …..
เราหลับไปทั้งอย่างนั้นหลังจากที่ได้รับความอบอุ่นแผ่ซ่านจากโม เขาเองก็เหนื่อยหอบ อารมณ์ของโมนับวันยิ่งรุนแรง เขาเผลอกัดเราตอนที่เขาจะเสร็จจนเราสะดุ้ง
“เจ็บมั๊ย” โมลืมตัว
“เจ็บ” เขาค่อยๆถอนตัวออกช้าๆ เอาขาก่ายที่ก้นเราต่างคนต่างหลับไหล
“หน้าระรื่นเลยนะ” ต่อค้อน “ถ้าไม่ได้ชั้นไม่มีทางที่หล่อนจะได้โมกลับมาหรอก แล้วปล่อยให้เขากลับห้องทำไม”
“ให้เขาทำงานทำการบ้างสิ”
“ประสาท เพิ่งจะดีกันทำไม ไม่หาเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้”
“ยังไม่ดีกันหรอก”
“แล้วทำไมเงียบ”
“เอากัน”
“อีกแล้ว เนี่ยทำไมชอบเอากันจังเลยพวกหล่อนเนี่ย ระวังเถอะโมมันจะซีด”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ชั้นกับวี ยังไม่เห็นจะขนาดนั้นเลย เดี๋ยวสักวัน โมมันก็เบื่อหล่อน”
“จะเบื่อเรื่องอะไร”
“ก็ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่น เช้าค่ำ ร่ำกามา”
“ดีออก” ต่อย่นจมูก “สรุปว่าจะเอายังไงต่อไป คุยกันดีๆรึยัง”
“ยัง ไม่ได้คุยอะไรหรอก คุยได้ไม่เท่าไหร่ โมก็อารมณ์เสีย”
“ก็ทำตัวเองทั้งนั้น แล้วเรื่องของไอ้อั้นหล่ะ หล่อนจะจัดการยังไง”
“จะให้ทำไง ไปแจ้งความประจานตัวเองเหรอ”
“อ้าว อย่างน้อยเอาไว้ขู่มัน”
“ได้แค่ขู่ ใบแจ้งความก็แค่บันทึกประจำวัน เราเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่ากระดาษแผ่นเดียว หล่อนเห็นตอนเขาเอาไปเหรอ หรือว่าหล่อนสามารถพิสูจน์ได้ว่าชั้นมีของเหล่านั้นจริงๆ” ต่อถอนหายใจ
“งั้นก็คงแล้วแต่กรรมเวรของใครของมันก็แล้วกัน มันทำกับเราไว้ยังไงก็คงได้อย่างนั้น”
“ทั้งหมดก็ สี่บาท” เราทบทวน “สองหมื่นห้า ถ้าขายตอนนี้ แพงเหมือนกันนะค่าตัวของอั้น”
“ก็แพงนะสิชั้นถึงอยากให้หล่อนเอาเรื่อง”
“ถ้านึกว่าออฟเด็ก”
“หล่อนได้กะมันกี่ทีเชียว”
“ไม่ได้นับ ไม่งั้นชั้นจะติดมันเหรอ ยิ่งวันก่อนที่มันจะหายไปคืนนั้นก็ทั้งคืน ก่อนไปอีก”
“มิน่า ผู้ชายเขากะเทหล่ะสิ แต่ว่านะ ถ้าหล่อนอยู่ห้องมันอาจจะไม่หายก็ได้”ต่อพึมพำ
“ถ้ามันหาโอกาสจะขโมย ยังไงก็ต้องหายอยู่ดี”
“เวรกรรมจริงๆ กระเทยเนี่ย เมื่อไหร่น๊า พวกผู้ชายหิวเงินมันจะหมดไปซักที”
“เมื่อหล่อนเลิกดูดค-ยนะสิ” ต่อตอบ
“อ้าว ทีโมกะวียังไม่ต้องเสียเงินเลย”
“ใครว่า”ต่อชะงักแล้วเงียบไป
“มีอะไรเหรอต่อ”
“มันก็มีบ้างหล่ะ เอ๋ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายบางครั้งก็เถลไถล ใช้เงินเกินตัว”
“งั้นก็เหมือนกันหมด”
“ผู้หญิงมันก็คงจ่ายเหมือนพวกเราละนะ”ต่อปลอบใจตัวเอง เราเห็นด้วยกับคำพูดของต่อ แล้วไม่เก็บเอามาคิดอีก ในเมื่อมันหายไปหมดแล้วเลยตั้งใจว่าจะไม่เก็บสมบัติอะไรไว้ในห้องอีก เก็บเป็นเงินฝากธนาคารไว้คงจะดีกว่า
หลังจากวันนั้นโมก็เงียบไปพักใหญ่ เราคิดว่าควรจะให้เวลาเขาอย่างที่เขาบอกก่อนไปเลยไม่ได้ตามเรื่อง ไม่ได้คิดว่าหมูในอวยแต่ทำอย่างที่เขาบอกทุกอย่าง เรื่องของความรักเราเองก็อยู่ในขั้นที่ต้องทบทวนเช่นกัน เขากลับมาหาเราอีกครั้งในวันหยุดถัดมา ต่างคนต่างไม่มีอะไรจะพูดกันนอกจากเงียบ เรารู้ว่าวันนั้นเรายังไม่ได้ยั้งคิดถึงเรื่องของความคิดเท่าไรนัก มีเพียงความเสียดายเท่านั้นที่ทำให้เราง้องอนให้โมสงสาร เหมือนว่าโมคงจะพอเข้าใจ การมาหาเราในวันนี้ โมมาแบบเปลี่ยนไป เขาพาเราไปกินข้าวเย็น
“โม เราทำเองได้” โมตักกับใส่จาน “อายคน” เราหันไปมองด้านข้าง
“ใครจะมอง ประสาท”
“กินเสร็จแล้วจะพาไปไหนต่อหล่ะ” เราถามเขา
“จะไปไหนหล่ะ ไปดูหนังมั๊ย” โมรวบช้อน
“อยากกลับห้อง”
“อีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น โมเนี่ย ชอบคิดว่าเราคิดแต่เรื่องเดียวสิท่า”
“ก็หรือไม่จริง” เขายักคิ้วแบบกวนๆ “แต่วันนี้ไม่สะดวกนะ” โมบอก
“ไม่สะดวก ก็ไม่สะดวกสิ มาหาก็ดีถมไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฮื่อ” โมยิ้ม “พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” เราเดินตามหลังเขาไปที่รถ นั่งเรียบร้อย
“งั้นก็แวะส่งเราก่อนแล้วกัน แล้วโมจะไปธุระที่ไหนก็ตามใจ” โมบิดกุญแจแล้วหันมามองหน้าเรา
“งอนรึเปล่า”
“ไม่ได้งอน” เรายิ้ม “ถ้างอนก็คงไม่พูดด้วยแล้ว”
“แต่บางทีก็กวนประสาทนี่” เราทุบที่ต้นขาเขา “แต่ว่าไปแล้วโมก็หายไปนานนะ ตั้งเป็นอาทิตย์”
“งานมันยุ่ง”
“เราก็ยุ่งเหมือนกัน”
”แล้วไม่กลัวว่าเราจะไม่มาหาอีกเหรอ”
“เรื่องของโม” เราตอบ
“ยังไง”
“ก็อยู่ที่โมตัดสินใจ ถ้าไม่อยากมาเราจะไปว่าอะไรได้หล่ะ เรื่องแบบนี้ เราคุยกันแล้ว” เราพูดชัดทุกถ้อยคำ
“ดีที่คิดได้” เขาออกรถขับไปเรื่อยๆ
“ว่าแต่โมเถอะ ทำไมพูดอะไรแปลกๆ เรื่องมาไม่มามีอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
“ไม่เชื่อหรอก มีอะไรก็บอกมาตรงๆเถอะ เรารับได้นะ” เราบอกไปด้วยความรู้สึกที่ใจหายอยู่บ้าง
“เราเบื่อกรุงเทพ อยากกลับไปทำงานที่ไซต์เหมือนเดิม รู้สึกมันอิสระดี”
“แล้วจะกลับไปเมื่อไหร่” ว่าแล้วเชียว “เพิ่งขอกลับมาเองนี่”
“เดี๋ยวแลกกับคนอื่นได้” เราหันไปมองหน้าเขา
“แล้วเราหล่ะ” เราไม่มองหน้าโมตอนที่ถามเขาประโยคนี้
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะเอาไง”
“ถ้าโมสบายใจ ตอนอยู่ที่โน่น เราก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ”
“พูดเหมือนน้อยใจเลย”
“เรื่องจริง อะไรที่โมมีความสุข เราก็ควรจะดีใจด้วย”
“เอ๋ไม่คิดจะไปทำงานที่อื่นบ้างเหรอ”
“เราเบื่อต่างจังหวัดแล้ว”
“หากินลำบากสิท่า”
“เรื่องอะไร”
“ก็ทุกเรื่อง” เขายังคงย้ำเรื่องของเราเช่นเคย
“ตอนนี้หากินง่ายแต่เจ้าของเขาจะย้ายหนีแล้วนี่”
“ไม่ไปไหนหรอกน่า พูดแค่นี้ก็ทำเป็นคิดมาก”
“ก็เชื่อนี่”
“ไปห้องเรานะวันนี้” โมบอกแล้วเลี้ยวไปอีกทางตามที่พูด
ถึงห้องโม เราต้องช่วยเขาเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นการใหญ่ ไม่รู้ทำงานหรือเปิดร้านกินเหล้ากันแน่
“เพื่อนมาหาเยอะ”
“แล้ววันนี้จะมาอีกรึเปล่า”
“ไม่แน่”
“งั้นเรากลับนะ จะได้สังสรรค์ เดี๋ยวความแตก”
“เรื่องอะไร”
“เราก็ไม่อยากให้เพื่อนโมเอาโมไปล้อนะสิ” โมดีดที่หน้าผากเรา
“มันจะล้อได้ไง ก็บอกว่าเป็นเพื่อน”
“แค่เพื่อนเหรอ”
เราจูบปากเขา โมกัดที่ปลายลิ้นเราเบาๆ แต่ก็รู้สึกเจ็บพอดู จนเราต้องทุบที่หลัง
“เล่นเจ็บๆอีกแล้ว”
“ชอบไม่ใช่เหรอ”
“ผิดคนแล้วมั๊ง” เสียงเคาะประตูทำเอาเราต้องแยกจากกันทันที
“พี่โม พร้อมยัง” เพื่อนเขาโผล่หน้าผ่านประตูเข้ามา
“ลูกน้องเรานะเอ๋”
“มากันกี่คนว่ะ”
“ห้าคน วันนี้มีคนพิเศษมาด้วยนะ”
“ใครวะ”
“น้องแป๋วไง”
“เฮ้ย ชวนมาทำไมวะ”
“ก็น้องเขาอยากมานี่พี่ ไม่เป็นไรหรอก พี่ชายมันมาด้วย”
“แต่มันเป็นผู้หญิง มัน”ยังไม่ทันที่โมจะพูดจบ คนที่ถูกพูดถึงก็มาสมทบพร้อมผู้ชายอีกสาม น้องแป๋วที่ว่าเป็นอินทีเรียที่บริษัท เป็นน้องของเจ้าของที่เป็นเพื่อนโม สาวน้อยผมสั้นรูปร่างบางทะมัดทะแมงดูเท่ หน้าตาก็สดใสเหมือนชื่อ เราลอบมองทุกคนแล้วรู้สึกได้ว่าเหมือนเราเป็นส่วนเกิน หลังจากที่แนะนำกันหมดทุกคนแล้ว ต่างคนก็ต่างจิบเรื่องที่เขาคุยกันเราฟังไม่รู้เรื่อง คนละสังคม คนละแนวคิด เราได้แต่นั่งฟังไม่แสดงความคิดเห็น ทำได้อย่างดีที่สุดคือยิ้ม น้องแป๋วของทุกคนป็อบปูล่า ผู้ชายดูเอ็นดูกันทั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่เรานั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชายแล้วกลายเป็นเพศเดียวกัน ต่างคนต่างแย่งกันเอาใจ ไม่เว้นแม้แต่โม เขามองเราทุกครั้งที่จะคุยกับแป๋ว ส่วนแม่แป๋วเองคงจะดูออกเพราะเพื่อนอีแอบที่มาด้วย คงเห็นเงาของผีออกมาจากตัวเราแน่นอน แป๋วยิ้มให้และชวนเราคุย เพื่อนอีแอบของแป๋ว มองเราด้วยสายตาที่รู้ทัน เรารู้สึกชื่นชมมาดเท่ๆของแป๋วไม่ใช่น้อย พลางลอบมองโมเวลาที่เขาคุยกับแป๋ว ความสนิทสนมนั้นมันสะกิดใจของเราพอดู
กว่าที่ทุกคนจะกลับก็ดึก โมเดินลงไปส่งทุกคนข้างล่าง ส่วนเรานั้นก็เก็บกวาดห้องอยู่คนเดียว นานพอดูกว่าที่โมจะขึ้นมาข้างบน เราไม่รู้สึกสนิทใจกับเพื่อนของโมสักคน แม้ว่าจะได้พูดคุยกันหลายเรื่องแต่ว่าเหมือนมีเส้นแบ่งของสังคมกั้นไว้อยู่ เมื่อมานึกเปรียบเทียบดูแล้ว แป๋วดูเหมือนทอมบอยที่หน้าสวย แต่จริงๆแล้วหล่อนเป็นผู้หญิงลุยคนนึงที่ทำงานร่วมกับผู้ชาย ใครจะเชื่อว่าหน้าหวานๆนั้นยกเหล้าเทเข้าปากแต่ละทีทำเอาเรากลัว
“แป๋วท่าจะชอบโมนะ” เราเปิดประเด็นเมื่อโมกลับมาที่ห้อง
“หึงเหรอ”
“ไม่หรอก แค่ดูผ่านๆหน่ะ หรือโมก็ชอบเขาเหมือนกัน”
“นานมาแล้ว”
“เหรอ” เราหันไปมองเขา
“ไม่ยักรู้”
“เอ๋จะรู้อะไร้ แค่เรื่องของเอ๋ยังไม่รู้เลย จะมีเวลามาสนใจเรื่องคนอื่นเรอะ”
“พาล” เรายุติการสนทนาแล้วชำระร่างกาย เราเองก็ควรจะกลับเช่นกัน แต่ความสงสัยนั้นเกาะกินในหัว ตลอดเวลาที่เราชำระร่างกาย น้ำเย็นๆมันช่วยทำให้ปลอดโปร่งไปได้บ้าง แต่ว่าความสงสัยนั้นยังคงมีอยู่เยอะแยะ โมคงชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกคล้ายผู้ชายมั๊ง เรายักไหล่ มันช่วยไม่ได้เลยนี่ ในเมื่อของจริงมันมาล่อตาล่อใจเขาขนาดนี้
“อีแป๋วเหรอ” ต่อพูดถึงด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยชอบใจนักที่ได้ยินชื่อนี้
“รู้จักด้วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่รู้ สาวมั่นสาวเก่ง ในกลุ่มนั้นมีใครที่ยังไม่ได้นอนกะมันมั่ง”
“ต่อพูดเกินไปรึเปล่า”
“ชั้นนะรู้หมดแหล่ะ พอเหล้าเข้าปากมันก็เก่งกว่าที่คิดซะอีก”
“เกินไป”
“ชั้นเองยังตกใจเลย ที่เห็นมันฟัดกะโมหน้าห้องน้ำตอนที่ไปเที่ยวกับพวกนี้”
“แล้วหล่อนทำไง”
“ชั้นก็เลยสืบ หล่อนคงจำได้ตอนที่ชั้นหายไปบ่อยๆ ก็ไปเฝ้าวีนั่นแหล่ะ มันแท็คทีมกะอีกระเทยเก็กชงเพื่อนมัน หนอยรู้จักชั้นน้อยไป”
“ต่อ อย่าใส่อารมณ์มาก”
“นึกถึงหน้าสวยๆของมันทีไรนะ หงุดหงิดทุกที”
“จะหงุดหงิดไปทำไม”
“หายากนะเอ๋ สวยและใจกว้างแบบนี้”
“ไปว่าเขา”
“ชั้นหล่ะห่วงไอ้โมแทนหล่อน เพราะมันติดกันเป็นตังเมอยู่พักนึง แต่ว่ามันยังทำงานด้วยกันอยู่ วัวเคยขาม้าเคยขี่ ชั้นว่าตอนโมมันเงียบๆไปก็คงจะไม่ว่างเพราะนังแป๋วนะแหล่ะ”
“ก็ดี”
“ก็ดี ชั้นไม่ยอมนะที่หล่อนจะไปยอมแพ้มัน”
“แล้วเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องไปแข่ง” เราย้อนกลับ
“อย่างน้อยโมก็เป็นของหล่อน”
“คิดไปเองนะสิ”
“อ้าวแล้วที่มันคลั่งเพราะหล่อนมั่วกะไอ้อั้นหล่ะ”
“ตอนนั้นเขาก็คงจะพลาดจากนังแป๋วอะไรของหล่อนด้วยมั๊ง พอมาเจอชั้นที่คล้ายๆกันก็เลยยิ่งโกรธ”
“เหรอ” ต่อค้อน “ถึงหล่อนจะไม่สู้แต่ชั้นก็ไม่ยอมรามือกะมันแน่ แค้นนี้ต้องชำระ”
“ทำไม”
“ก็อีแป๋วนะสิ มันฟาดวีไปแล้ว มิหนำซ้ำอีแอบนั่นก็ได้ส่วนบุญไปด้วย”
“แล้วหล่อนเฝ้ากันยังไง”
“ไม่รู้”
“หรือว่าหล่อนมัวตะมอยผู้ชายคนอื่นจนลืมผัวรึเปล่า”
“ใครจะไปคิดว่า วีมันจะแตกแถว”
“แหม นานๆได้กินอะไรใหม่ๆที ปล่อยเขาไปเถอะ”
“ถ้าเป็นอีแป๋วชั้นไม่ว่าหรอก เพราะใครไม่ได้กินก็โง่ แต่อีแอบนั่น ชั้นต้องกระชากหน้ากากมันออกมาให้ได้”
“เขาทำอะไรผัวหล่อน”
“ไม่รู้มันไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ ทำตัวเป็นธุระปะปังให้ทุกอย่าง มันวางแผนไปตอนที่ชั้นสอบ วีก็ปฎิเสธไม่ได้ พอชั้นถามว่าอยู่กันยังไง”
“วี ก็บอกว่า อยู่รวมกัน แล้ววีดันอยู่ห้องเดียวกะมันอีก หล่อนก็น่าจะรู้นะ อะไรมันจะเกิดขึ้น”
“อคตินะสิ มันผ่านไปแล้ว แล้วหล่อนจะทำยังไง”
“ชั้นรู้ว่าตอนนี้อีแป๋วมันกำลังตะล่อมโมให้อีเพื่อนมันอยู่”
“ใครบอก”
“รู้ก็แล้วกัน อีนั่นมันเล็งไอ้โมมานานแล้ว”
“นี่ต่อ แป๋วเขาเป็นอย่างที่หล่อนพูด หรือหล่อนวีนเขาจนใส่ความเขากันแน่”
“ไว้หล่อนดูเองก็แล้วกัน ตอนแรกชั้นก็คิดเหมือนหล่อน แต่พอชั้นได้รู้จักมันมากขึ้นมากขึ้น ฉันก็ได้แต่เสียดายความสวย เสียดายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง มันไม่ได้ชอบใครเป็นจริงเป็นจังสักคน แถมยังใจกว้างส่งต่อให้เพื่อนด้วย นับถือจริงๆ”
“โอ๊ย ฟังหล่อนแล้วปวดหัว อย่าไปยุ่งกะเขาเลย ของตัวเองก็ไม่ได้ไปไหนนี่ ไหนบอกว่าไม่หึงไง” เราถามต่อกลับ
“ไม่หึง แต่ไม่อยากให้ใครมายุ่ง ของใครใครก็หวงนี่หว่า”
“ชั้นจะยืมมือหล่อนจัดการอีแอบนั่นเอง เอ๋หล่อนคอยดูเถอะ”
เราได้แต่ส่ายหน้า เราไม่ยักกะมองออกตอนที่พวกนั้นมาแต่เรามารู้ทีหลังว่าตัวตั้งตัวตีก็คือคนที่ต่อพูดถึง แล้วจะให้เราทำไงดีหล่ะ จะให้เราตามโมตลอดเวลาเหมือนต่อไปเฝ้าวีงั้นเหรอ
“โม” โมพลิกตัวมาหา
“เมื่อไหร่โมจะชวนเราไปอยู่ด้วยซักที” โมทำหน้าแปลกใจ
“เป็นอะไร”
“ก็โมไม่ค่อยมาหา จะไปหาโมก็ไปกับเพื่อนตลอด”
”ไม่ไว้ใจ”
“ไม่ใช่ แค่รู้สึกว่าเราห่างๆกันยังไงไม่รู้”
“อย่ามาทำเป็นแม่เหมือนต่อมันไปคุมไอ้วี มันเลย เรารู้ทันหรอกน่า”
เราไม่พูดต่อ “หรือเอ๋สงสัย เหมือนต่ออีกคน”
“เรื่องของโมแล้วกัน เราไม่ยุ่งด้วยแล้ว” เขามาหาที่ห้อง วันนี้เราอยากลองเชิงแต่เขาไม่เล่นด้วย เรารู้สึกหน้าม้านไปเลย นังต่อนะนังต่อ มาเป่าหูอยู่ได้ทุกวัน แล้วนี่ชั้นขาดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เรื่มจากเฉย พอได้ยินบ่อยเข้าบ่อยเข้ามันก็เขวได้เหมือนกันนะ คนเรา


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
popo
Guest

135. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #0
 
21-Mar-19, 05:02 PM (SE Asia Standard Time)
 
   251 …..
“เอ๋ น้องอั้นกลับมาทำงานอีกแล้วนะ คราวนี้บรรจุเลย เป็นเวทเตอร์”
เราได้แต่อึ้งกลับคำบอกเล่าของทีน่า ที่เคยคิดว่าทำใจได้แล้วแต่พอได้ยินความเสียดายของมันก็วนกลับมาอีก
“เขาเรียนจบแล้วเหรอ”
“ใช่ก็แค่รอผล ก็จบแล้ว เด็กเส้นของHRเชียวนะ” ทีน่าบอกว่าเขาทำอยู่ห้องกริลล์
“เป็นสต๊าฟแล้วคง กินยาก” ทีน่ายังคงมีความหวังอยู่
“เหรอ” เราได้แต่พูดไปเท่านั้นแล้วก็แยกจากทีน่าไป ถ้าหากว่าเจอหน้ากันจะรู้สึกยังไงบ้างสามเดือนที่หายไปมันก็พอๆกับเวลาที่เรามาเริ่มต้นใหม่กับโมอีก มันช่างเป็นสามเดือนที่ผ่านไปอย่างไม่มีอะไรน่าจดจำ สำหรับโมนั้นแรกๆก็คิดว่ามันจะหวานแหวว พอเอาเข้าจริงโมก็เป็นเหมือนเดิม เขาไม่ได้ใส่ใจเราอย่างคำพูดเขาสักนิด วันๆจะหมดไปกับเพื่อน แต่ก็ชอบที่จะลากเราไปด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไม เราได้รู้จักกับแป๋วมากขึ้นแต่เรายังรักษาระยะห่างนั้นไว้ แป๋วเป็นอย่างที่ต่อพูดจริงๆ หล่อนไม่ได้แคร์สายตาของเราหรือใครๆ บทจะหวานกับโมหล่อนก็จะทำทันที ส่วนโมก็ได้แต่เออออหนำซ้ำยังยิ้มอย่างสนุกไปด้วยอีก
"เอ๋ คงไม่คิดมากนะ เรากะโมก็เล่นกันแบบนี้แหล่ะ" แป๋วเมาแล้วไปกอดโมที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ทำไมเราจะต้องคิดมาก" เราย้อนถามแป๋ว
"เรารู้นะว่าเอ๋ คิดอะไรกะพี่โมอยู่" แป๋วชื้หน้าเราเหมือนรู้ทัน
"รู้ว่าอะไร" เรายังอยากรู้
"รู้แล้วกัน ฮิฮิ จริงมั๊ยพี่โม" แป๋วเอามือไปลูบคางโมเล่น โมมองหน้าเราแล้วหัวเราะ แค่นั้นจริงๆ

“พี่เอ๋” เราไม่อยากหันไปมองตามเสียงเรียกของอั้น ทำไมเราจะจำเสียงเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเริ่มงานหลายวันแล้วแต่เรายังไม่เคยเห็นเขา จนวันนี้นี่แหละ เราควบคุมสติพักหนึ่งก่อนจะหันกลับไปหาอั้น
“มีอะไรเหรอ”
“เปล่า แค่ลองดูว่าพี่จะคุยด้วยรึเปล่า”
เราเองนั้นนึกอยากจะทวงสมบัติของเราคืนในทันที
“เดี๋ยวผมจะค่อยๆผ่อนให้นะ” เขาบอกออกมาเอง เราหันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง
“จะผ่อนยังไง” ไม่ใช่เงินน้อยๆ
“ขอให้เป็นอย่างที่พูดก็แล้วกัน” เราทำท่าจะเดินหนีแต่อั้นกลับดึงแขนเราไว้
“พี่เอ๋เลิกงานกี่โมง”
“จะกลับแล้ว”
“ผมไปห้องพี่ได้มั๊ย”
“ห้องพี่ไม่มีอะไรให้แล้ว จะไปทำไม”
“พี่เอ๋โกรธผมเหรอ”
“ทำกันแบบนี้ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ” เราไม่อยากทำลายอนาคตของเด็ก
“ได้มั๊ยพี่”
“ตามใจเถอะ” เราเลิกคุยกับเขาแล้วเดินหนีไปจริงๆ เมื่อถึงห้องเราได้แต่นั่งหายใจทิ้งปล่อยให้นาฬิกามันเดินไปเรื่อยๆ โมไม่โทรมาอีกแล้วเราเองพยายามที่จะกลับห้องเร็วขึ้นไม่เถลไถล แต่โมกลับไม่ให้ความสำคัญ เขาเริ่มกลับมามีนิสัยเหมือนเดิม จนเราทนไม่ไหวเลยโทรกลับ
“โม”
“ว่าไง”
“วันนี้ไม่มาหาเหรอ”
“ไม่ว่าง มีอะไรรึเปล่า”
“เปล่า แค่โทรมาถาม เห็นไม่ติดต่อมาหลายวันแล้ว”
“งานยุ่ง” คำตอบเดิม
“งั้นไปหาได้มั๊ย”
“อย่าเพิ่งเลย ไม่ค่อยสะดวก ไว้จะไปหานะ” โมตัดบท แต่เสียงที่ลอดผ่านมาทางหูโทรศัพท์นั้นมันบอกเราว่าเขากำลังสนุกกับเพื่อนอยู่ และหนึ่งในนั้นคงรวมแป๋วอยู่ด้วย เราวางหูลงที่แป้นมองดูนาฬิกาอีกครั้ง นี่มันคืออะไรกัน โมจะเอายังไงกันแน่ คำพูดเชือดเฉือนความรู้สึกของเขามันคืออะไรกัน เราอยากจะทะยานออกไปหาเขาไปพูดให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย
“จะอะไร” ต่อพยักเพยิด
“มันก็เรื่องเดียว คนเรามันก็แค่นั้น โดยเฉพาะผู้ชาย จะไปเอานิยายอะไรกับเขา”
“ชั้นคงจะเลิกกับโมแล้วหล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้”
“คิดดีแล้วเหรอ แล้วจะบอกโมว่าไง”
“ก็ไม่ต้องพูด ต่างคนต่างอยู่ ชั้นเองก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ไม่เอาใจใส่กันแบบนี้ แล้วจะให้เรารอไปทำไม”
“น่าจะคุยกันดีๆนะ”
“ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว คนชอบหลายอย่างแบบนั้นหน่ะ” เราออกจากห้องต่อกลับห้องตัวเอง เราไม่สนุกกับวิธีที่ต่อคอยเสี้ยมสอน ต่อบอกให้เราเล่นเกมส์แต่เราไม่มีทางทำแบบนั้นแน่
อั้นมาหาจริงๆหลังเลิกงาน เราคิดอยู่สักพักก่อนที่จะเปิดประตูให้เขาเข้ามา
“มีธุระอะไรกับพี่เหรอ”
“เอาของมาคืน” เขาถอดแหวนจากนิ้วมาให้ มันคงประมาณหนึ่งสลึง
“เอาแค่นี้ก่อนนะพี่” เรารับมันไว้ “เหลือแค่นี้แหล่ะพี่”
“เอาเงินไปทำอะไร”
“ก็เที่ยวเยอะ ใช้เงินเกินตัว ตอนนี้พ่อเขาก็ไม่ให้แล้ว แต่พี่เอ๋ไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะโกงพี่”
“เธอไม่ได้โกง แบบนี้มันเรียกว่าขโมย” อั้นหันมามองหน้าเราตาขวาง
“พี่อย่าใช้คำนี้ได้มั๊ย”
“ทำไมหล่ะ ในเมื่อหยิบของพี่ไปโดยไม่ได้บอก”
“รู้แล้ว แล้วจะหามาคืน” อั้นตวัดเสียงให้เรารู้ว่าเขาไม่อยากฟัง
“แล้ววันนี้มีธุระอะไร”
“อยากมาหา อยากมาอยู่ด้วย”
“อย่าเลย ไม่ดีหรอก”
“พี่เอ๋ไม่เชื่อใจผมเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่พี่เข็ด อั้นก็ทำงานไป แล้วก็เก็บเงินหามาคืนพี่แล้วกัน”
“ก็นี่ไง ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าห้อง แล้วจะได้เก็บเงินคืนพี่”
“อย่าเลย มันจะเสียมากกว่าได้” อั้นมองหน้าเราอีกครั้ง
“พี่ไปบอกพี่แจ่มเลยก็ได้นะ ที่ผมขโมยของพี่”
“จะให้คนอื่นเขาเดือดร้อนทำไม ถ้าเธอตกงานไม่มาพาลพี่อีกเหรอ”
“พี่เอ๋ จะพูดดีๆได้รึเปล่า”
“ก็พูดดีแล้ว” เรานั่งลงบนเตียง
“แล้วจะให้นอนด้วยมั๊ยเนี่ย คืนนี้”
“อยากนอนก็นอนไปสิ” อั้นถึงได้วางเป้ลงที่พื้น
“รับรองของไม่หายหรอกน่า กลัวอะไร”
“ไม่ได้กลัว ไม่มีอะไรเหลือแล้วนี่” เราทิ้งตัวลงบนที่นอน อั้นเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เราแอบค้นเป้ของเขา ค้นไปค้นมาในนั้นไม่มีอาวุธ ที่เรากลัว กลัวว่าจะมาทำอะไรเรามากกว่า กระเป๋าเงินของเขามีเงินอยู่หลายพัน คงกำลังหาห้องพักกระมัง เรารีบเก็บมันไว้ที่เดิมก่อนที่จะซ่อนกระเป๋าเงินตัวเองไว้ข้างล่างที่นอน
“หลับแล้ว ทำไมรีบนอนพรุ่งนี้ทำงานรึเปล่า”
“ไม่ทำ”
“แล้วจะรีบนอนไปไหน”
“เหนื่อย” อั้นสะกิดให้เราหันมาหาเขา แต่เราก็ยังเฉย เขาก็เอาขามาก่าย
“ร้อน เปิดแอร์เท่าไหร่นี่พี่”
“ก็อย่าดิ้นสินอนเฉยๆเดี๋ยวก็เย็นเอง”
“แปลกที่นอนไม่หลับ”
“ตอแหล” เรากัดไป
“ของขึ้นแล้วพี่” อั้นชะโงกหน้ามาบอก
“เกี่ยวอะไรกันหล่ะ”
“มาเถอะน่า จะเล่นตัวไปทำไม อุตส่าห์มาหาแล้วนะ”
“แพงไป ไม่มีปัญญาหรอก” เรายังคงเล่นแง่อยู่
”โอ๊ย จะพูดทำไมนักหนาเนี่ยเงิน ดูสิหดหมดแล้ว” อั้นดึงให้เราหันหน้าไปหาจนได้
“บอกแล้วไงจะค่อยๆคืนให้ ไว้ เงินเดือนออกก่อน เอาบัตรเอทีเอ็มไปเลยก็ได้ถ้าไม่เชื่อ”
“จะคอยดู” อั้นจับมือเราไว้แล้ววางไว้บนกลางตัวที่เปลือยเปล่าของเขา
“เป็นอะไร” อั้นพลิกตัวมานั่งคร่อมที่อกเรา
“นะพี่”มือเขารูดให้มันตื่นตัวอีกครั้ง เรามองเฉย อั้นเอามันมาตีที่ปากเราครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะเบียดมันเข้ามา
“ก็แค่นี้เล่นตัวไปได้” พอมันแข็งได้ทีเขาก็ควานหาถุงยางที่หัวเตียวก่อนจะใส่มันอย่างรวดเร็ว เรามันเตลิดไปแล้วจะทำอะไรก็ทำเถอะ อั้นกระหน่ำบนตัวเราในแบบที่เราชอบ ลมหายใจระรวยของเขารดที่ต้นคอของเราเป็นจังหวะ เขาสำเร็จไปแล้วแต่เราสิกลับไม่สุขเลยสักนิด เราทำลงไปทำไม ทั้งที่เราก็ไม่ได้อยากมากมาย หรือเป็นเพราะความเคยชิน หรือว่าใครก็ได้
วันหยุดทั้งวันอั้นนอนเล่นอยู่กับเราไม่ได้ไปไหน โมก็ไม่ติดต่อมา ต่อโผล่หน้าเข้ามาแล้วตกใจที่เห็นอั้นนอนเอกเขนกหลับปุ๋ยบนที่นอน ต่อลากเราออกจากห้องทันที
“นี่ทำอะไรลงไป รู้ตัวรึเปล่า”
เราส่ายหน้า
“คิดอะไรอยู่เนี่ย เพื่อนชั้นเป็นควายรึเปล่านี่ จะให้มันมาเอาอะไรไปอีกเหรอ”
“ไม่มีอะไรให้เอาแล้วนี่”
“ทำไมไม่รู้จักจำเอ๋ แล้วถ้าโมมันรู้ชั้นว่าหล่อนโดนเขี่ยทิ้งแน่”
“ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่”
“งั้นก็หมายความว่าหล่อนประชดเหรอ”
“ไม่ใช่”
“อย่าคิดนะว่าเด็กมันจะรักหล่อน ตอนนี้มันก็คงมีปัญหาอะไรอีกอย่าง หล่ะสิ ไม่มีที่อยู่ไม่รู้จะไปไหน เป็นชั้นไม่ได้ชั้นปิดประตูใส่หน้าไปแล้ว”
“จะว่าอะไรก็ว่าไปเถอะ” ต่อคงไม่หยุดพูดง่ายๆ
“โอ๊ยปวดหัว หล่อนช่างหนังหนาจังเลยไม่มีความคิดเลยรึไง จะให้มันมาหอบหิ้วอะไรไปอีก แค่นั้นคงน้อยไปมั๊ง ถ้าคนเรามันนิสัยเห็นแก่ได้ มักง่ายอยากได้ของคนอื่นง่ายๆ มีครั้งแรกก็มีครั้งที่สอง”เสียงต่อดังขึ้นโดยไม่ได้ระวังว่าตัวเองยืนอยู่หน้าห้องไม่ได้อยู่ในห้อง
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย ชั้นเครียดเหมือนกันนะ”
“เบื่อหน้าหล่อน ไม่อยากคุยด้วยแล้ว แล้วไม่ต้องมาปรึกษาอะไรอีกนะ คนไม่รู้จักจำ”
เสียงของต่อคงดังเข้าไปในห้องของเรา
“เพื่อนพี่มีปัญหาอะไรเหรอ”
“เขาหวังดี”
“พี่เล่าให้เขาฟังด้วยเหรอ”
“ถ้าไม่ได้เขาพี่คงตายไปแล้วมั๊ง”
“อะไรเรื่องแค่นี้ต้องบอกคนอื่น”
“พี่ไม่เคยเจอ เรื่องแค่นี้ของเธอ อย่าเอาความคิดของตัวเองมาวัดว่าคนอื่นจะคิดว่ามันง่ายเหมือนกันหมด สิ่งที่พี่รับไม่ได้คือพี่เสียใจกับการที่พี่ไว้ใจ พี่เสียใจกับการตัดสินใจของพี่” เราสวนตอบเหมือนได้ระบายความอึดอัด
“ให้ลองคิดดูก็แล้วกันว่าเป็นอั้น อั้นจะรู้สึกยังไง จริงอยู่ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เพราะไอ้คำนี้แหล่ะ ที่ทำให้ต้องมาเสียใจซ้ำซาก เสียดายของ”
“อย่าย้ำนักเลย รับรองผมหามาคืนพี่แน่ๆ” อั้นดูหน้าตาโกรธขึ้นมาบ้าง เขาชี้หน้าเรา
“พี่ไปบอกเพื่อนพี่เลยนะ เรื่องของผมกับพี่คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่ต้องมาแหกปากด่ากันแบบนี้ มีอะไรมาคุยกับผมเลย”
“ก็เดินไปบอกเขาสิ” เราหลบทางให้เขาเดินออก อั้นก็ออกไปจริงๆ แต่ต่อมันพล่ามเสร็จก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ปิดห้องเงียบ
“ปากแบบนี้ระวังเถอะจะโดนดีซักวัน” อั้นเดินกลับมา
“ยังจะมีหน้า มาอาฆาตเขาอีก” อั้นผลักเราที่หน้าอก “พี่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่เลิกพูดเรื่องเก่า” อั้นทำท่าจะตบเรา เราจ้องตาเขาตอบ สายตาปะทะกัน
“จะทำไม” เราจ้องที่ตาขณะที่ถาม ไอ้ที่คิดว่าจะหยุดพูดมันเริ่มจะพรุ่งพรวดออกมาอีกครั้ง เขาปล่อยมือลงแล้วคว้าเป้เดินออกจากห้องไปโดยไม่ตอบโต้ เรายืนมองตามอั้นไป เราผิดเหรอที่ตอกย้ำเรื่องนี้ เราไม่ผิดเลยสักนิด เรามีสิทธิ์ที่จะพูดถึงมันต่อหน้าเขา เพราะเขาทำผิดต่อเราจริงๆ
อั้นวนกลับมาอีกครั้งในตอนกลางคืน เรามองหน้าเขาเหมือนไม่ไว้ใจในสวัสดิภาพของตัวเองอีกครั้ง มองตามเขาที่เดินผ่านเข้ามาในห้อง มือของอั้นมีขวดเหล้าติดมาด้วย เงินเยอะแต่ไม่ยักคิดจะคืน
“มาทำไมอีก” เราถามเมื่อเขานั่งลงที่พื้นห้อง พร้อมกับแก้วและมิกซ์เซอร์
“มีปัญหาอะไร จะมาซะอย่าง” อั้นตอบ เราไม่อยากจะตอแยอีก ปล่อยให้เขานั่งกินเหล้าคนเดียว สักพักพออั้นเห็นเราไม่สนใจเขาก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆเราที่นอนอยู่
“ลุกมากินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อยสิ พี่เอ๋”
“ไม่เอาจะนอน”
“บอกให้ลุก”อั้นดึงแขนเราขึ้นมานั่ง
“อะไรเนี่ย พี่รำคาญแล้วนะ” อั้นผลักเราลงไปนอนตามเดิม แล้วเขาก็ลงไปนั่งกินเหล้าต่อคนเดียว เราหลับไปครู่ใหญ่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าเขานอนเหยียดยาวอยู่ข้างๆขวดเหล้า ทีวีเปิดทิ้งไว้ เราลุกไปเก็บแก้วและขวดเข้าที่แล้วปลุกอั้นให้ลุก เขาลืมตาขึ้นมองหน้า สายตาของเขามันเหมือนเขาโกรธแค้นเรานักหนา
“ผมไม่อยากให้ใครดูถูก ผมรู้ว่าผมทำไม่ดี พี่เอ๋จะว่าอะไรผม ผมไม่โกรธ แต่คนอื่นไม่มีสิทธิ์ มาดูถูกผม”
“งั้นอั้นก็ไม่ต้องมาหาพี่สิ แค่นี้เอง”
“พี่เอ๋ โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก และพี่ก็จะจำไว้ว่าอั้นขอยืมพี่ไปและจะค่อยๆใช้คืน หวังว่าคงพอใจนะส่วนเพื่อนพี่เขาจะคิดยังไงเป็นเรื่องของเขา อั้นกับพี่ยังไงก็ยังเจอกันอยู่วันยังค่ำ ถ้าอั้นไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พี่เคยเข้าใจจริงๆ พี่จะคอยดู”
เราแทงเป็นหนี้สูญไปแล้วสำหรับเรื่องนี้ เรามองหน้าอั้นที่นอนราบมองเรากลับ
“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอั้น ถ้าหากพี่มองอั้นเหมือนเห็นแก่ตัวที่ทำแบบนี้ อั้นไม่ได้จริงใจที่จะคบกัน”
“ผมบอกพี่แล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น ถึงแม้เราจะมีอะไรแต่พี่หมายถึงความบริสุทธิ์ใจที่มีให้กันต่างหาก”
“ผมพลาดไปแล้ว ผมขอโทษนะ”
เราหลบสายตาเขาไปทางอื่นอั้นดันตัวลุกขึ้นมานั่ง เขาชะโงกหน้ามามองเรา
“พวกแบบพี่มีจุดอ่อนตรงนี้ คำขอโทษมันไม่มีความหมายหรอก ต่อให้ขอโทษสักกี่พันครั้งก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันผิดตั้งแต่คิดแล้ว”
“งั้นก็แปลว่าพี่ไม่ยกโทษให้ผม”
“........” เราได้แต่เงียบแล้วลุกไปที่ระเบียง เราไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น การผูกใจเจ็บกับเรื่องนี้มีแต่บั่นทอน หากเราจะให้อภัย จิตใจเราก็จะดีขึ้น แต่ยังไงเสียรอยแผลที่กัดกร่อนความรู้สึกมันยังคงมีอยู่ เรามองไปที่ท้องฟ้ามืดมิด ไม่มีคำตอบอะไร เราต้องการอะไรจากอั้น เขามาก็รู้สึกดีแต่เราก็ยังรู้สึกเจ็บ ส่วนโมเราอยากอยู่ใกล้เขาในขณะที่เขาค่อยๆถอยห่าง ทั้งสองคนทิ้งความสับสนในใจเราตลอดเวลา เสียงในห้องเงียบไปแล้ว ไฟในห้องดับมืด อั้นคงกลับไปแล้วกระมัง เราเดินกลับเข้ามาในตัวห้องทิ้งตัวลงบนเตียง ตัวอุ่นๆของอั้นดึงแขนเราไว้
“ถึงผมจะไม่ได้รักพี่เอ๋ แต่ผมอยากอยู่ด้วย ใครจะว่าผมมาอาศัยพี่ ผมก็ยอมรับ แต่ผมอยากอยู่กับพี่จริงๆ” อั้นดึงเราไปกอดหน้าเราแนบกับอกอุ่นของเขา

.......................................


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Xxx
Guest

136. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #135
 
21-Sep-19, 09:31 PM (SE Asia Standard Time)
 
   อยากอ่านต่อ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
น้องผึ้งเอง
Guest

137. "RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
In response to message #136
 
06-Feb-22, 11:51 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ค้างค่ะ คุณพี่ กรุณามาลงต่อได้ไหมค่ะ เรื่องของคุณเอ๋อ่านมานานเท่าไหร่ก้อยังนึกถึงเสมอ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters