We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

PalmPlaza.us

Subject: "Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #472
Reading Topic #472
เจ้าบอสน้อย
Guest

"Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
 
26-Aug-12, 10:25 AM (SE Asia Standard Time)
 
   นักรักหน้าหยก ตอน 7 เดินไปกับฉัน
ความรัก คำนี้มีคนหลายคนที่จะนิยามมัน แต่ก็ไม่เคยมีใครที่จะนิยามมันได้ครอบคลุม และถูกต้อง เพราะรักคือเรื่องของใจ ที่พลิ้วไหวไปตามสิ่งต่างๆที่กระทบมัน ท้ายที่สุดจะคงอยู่หรือเลิกราไปก็อยู่ที่เจ้าของใจจะตัดสินใจเองหลายคนบอกว่ารักคือสิ่งที่ดี รักพ่อ รักแม่ รักเพื่อน รักแฟนล้วนแล้วแต่ดีทั้งสิ้น แล้วถ้าชายจะรักชายล่ะ มันไม่ดีตรงไหน ในเมื่อนั้นมันก็คือความรัก ความรักที่โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยแต่มันก็เกิดขึ้นได้ระหว่างชายสองคน นี้สิคือสิ่งที่ต้องเรียกว่ารักมหัศจรรย์
ในสมัยกรีกก่อนคริสตศาสนารุ่งเรือง เรื่องชายรักชายนั้นได้เกิดขึ้นแล้วในสมัยนั้น เพียงแต่เป็นการรักระหว่างครูกับศิษย์ มีการร่วมเพศกันเพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ระดับจิตวิญญาณกัน คนที่ดังในรุ่นๆนั้นก็คือ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช(ผมชอบเป็นส่วนตัวครับ) และคนที่มากความสามารถอีกหลายๆคนที่เป็นพวกรักร่วมเพศ
รักร่วมเพศนี้บางศาสนาบอกว่านี้คือพวกสามาน พวกนอกรีต แต่ในทัศนคติผมคือ เป็นกลไกธรรมชาติเองที่จะควบคุมประชากรโลกให้พอเหมาะพอดี โดยให้อัตราการเกิดน้อยลง และคนที่มีอยู่ก็เป็นคนที่สติปัญญาล้ำเลิศ และบางคนอาจมีแนวความคิดสร้างสรรค์อีกต่างหาก ส่วนพวกสามานคือพวกที่ชอบตีตราว่าคนนั้นคนนี้บาปตะหากครับ อาจเพราะผมเป็นรักร่วมเพศด้วยมั้งผมจึงมองไม่เห็นมุมที่คนเหล่านั้นมอง แต่อย่างไรผมก็ไม่เคยคิดที่จะอยากมอง เพราะเป็นอย่างนี้ผมก็รู้สึกดีแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่ใช่พวกไร้ความสามารถที่จะไม่สามารถมีลูกได้
ตอนนี้ผมกับน้องแตงนั้นได้ตกลงปลงใจรักกันแล้วครับ หลังจากที่น้องแตงไปทานข้าวที่บ้านผมวันนั้น แม่ผมไปเล่าให้แม่ไอ้วิวฟัง ผู้ใหญ่ทั้งสองคนดูเหมือนมีท่าทีผ่อนคลายลงไปเกือบหมดเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเรา เพราะท่านอาจคิดว่าถ้าชอบผู้หญิงได้นี้คือไม่เป็นเกย์แล้ว แต่จริงๆไม่ใช่เลยครับ ผมยังโด่ได้เรยเมื่อเจอไม้ตายของไอ้วิว
แล้ววันหนึ่งไอ้วิวก็รู้เรื่องผมพาน้องแตงกลับบ้านตอนที่มันไม่อยู่จนได้ ซึ่งคนที่เล่ามันก็คือป้าละม้ายเอง แต่ผมไม่โทษป้าละม้ายหรอกครับ เพราะป้าละม้ายเองก็รับการส่งเวรต่อจากแม่ผมอีกทีอย่างที่บอกไว้ในตอนแรก แต่ดูเหมือนไอ้วิวจะทำใจได้แล้ว มันไม่แสดงท่าทีว่าโกรธหรือรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้เลย ผมเลยแซวมันเล่นๆว่า ก็ไม่ดีหรอจะได้มีกันสามคนผัวเมีย ไอ้วิวหันมามองผมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรแล้วก็ผ่านไป
ผมเองในช่วงนี้ต้องสลับช่วงเวลาให้เพียงพอกับทั้งเรื่องเรียน ไอ้วิว และน้องแตง ครับ ตอนแรกก็วุ่นๆหรอก แต่พักหลังนี้เริ่มลงตัวมากขึ้น สิ่งที่ผมกลัวมากสุดคือกลัวว่าทั้งไอ้วิวและน้องแตงมาเจอกัน แล้วมันจะเกิดอะไร อึ๋ย ไม่อยากคิด
เคยได้ยินแต่ในหนังในละครว่ารถไฟชนกันนั้นมันน่ากลัวอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กับผมไม่เลยครับ มันไม่มีวันได้เกิดขึ้นเพราะตอนนี้ผมจัดสรรเวลาเรียนและเวลาส่วนตัวให้ย่อยเล็กลงเป็นวินาทีอีกเพื่อจะได้มีเวลาให้ทั้งน้องแตงและไอ้วิว เกือบเดือนกว่าอะไรๆจึงจะลงตัว แต่เมื่อเริ่มจะลงตัวปัญหาก็เสือกเกิดอีก เมื่อน้องแตงเธอได้ฟังเพื่อนปากบอนบอกมาว่า ผมกับไอ้วิวเป็นเกย์ เรื่องนี้ทำให้น้องแตงหวั่นไหวเลยทีเดียวแล้วเหตุการณ์ณ์สนับสนุนก็ดันมาประจักษ์ต่อหน้าเธอเข้าครั้งหนึ่ง
เรื่องนี้มันเกิดที่ห้างดังแห่งหนึ่ง หลังจากดูหนังจบ เราทั้ง2 ก็ออกมาจากโรงหนัง แล้วมีเกย์คนหนึ่งเดินตามผมมาด้วย เรียกเกย์อาจไม่ถูกทีเดียว ต้องเรียกว่ากระเทยแต่งชายจึงจะถูก มันช่างตามจริงๆครับ ทั้งๆที่เห็นผมแล้วว่ามากับแฟน เล่นเอาน้องแตงสงสัย แล้วพี่แกคงอดใจไม่ไหว เลยเข้ามาประเหลาะผมตอนที่เข้าไปเลือกหนังสือกันในร้านหนังสือ ตอนนั้นผมกับน้องแตงเลือกหนังสือกันคนละล็อค ผมพยายามเดินเลี่ยงออกมา แต่ก็ไม่ทันพ้น พี่นั้นคว้ามือผมไว้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่น้องแตงเดินมาหาผมเพื่อที่จะชวนกลับ น้องแตงเห็นเหตุการณ์นั้น เธอถึงกับเบือนหน้าหนี ซึ่งถ้าจะพูดกันจริงๆผมคิดว่านั้นมันเล็กน้อย ไม่น่าที่จะมาคิดมากหรือโกรธเอาง่ายๆ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบสลัดมือไอ้พี่นั้นออกแล้วรีบเดินตามน้องแตงไป โดยไม่หันไปมองข้างหลังอีก
เธอโบกตุ๊กๆ เพื่อจะกลับหอพัก ตุ๊กๆขับมาจอดเทียบแต่น้องแตงไม่ทันขึ้นรถ ผมดึงเธอไว้ก่อนแล้วก็ลากเธอเดินไปที่รถ ข้างหลังได้ยินเสียงตุ๊กๆมันสรรเสริญพระคุณบิดามารดาผม นี่ถ้าไม่มีน้องแตงเป็นภาระ เรื่องผมกับตุ๊กๆคงอีกยาว บนรถผมเซ็งมากที่ต้องมาง้องอนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง(แต่นึกอีกทีมันก็เป็นสินะเพราะผมมันก็เกย์จริงๆนี่หว่า) ก่อนที่ผมจะเริ่มพูดอะไรน้องแตง ก็ระบายความรู้สึกตนเองออกมาก่อน
แตงใจร้อนเองค่ะ ขอโทษนะค่ะ
ผมได้แต่จ้องหน้า และสนใจจะฟังเธอต่อ
บ้าจริง แค่เรื่องนิดเดียว ทำให้พี่บอสต้องมาโดนตุ๊กๆว่าเอาได้
ไม่เป็นไร แตงเข้าใจพี่ พี่ก็ดีใจแล้ว ผมพูดออกมาอย่างขัดกับความรู้สึก
วันนั้นตกลงว่าไม่รู้อะไรมันสั่งใจน้องแตงให้เปลี่ยนความคิดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งถ้าดูจากเค้าเรื่องแล้วน่าจะไม่จบแค่นั้น หลังจากเคลียร์ใจเสร็จผมก็จัดการพาเธอไปทานข้าว แล้วก็ไปส่งที่หอพัก กลับมาที่หอก็เจอไอ้วิวนั่งสอนการบ้านเจ้าจอม น้องฟ๋ง น้องตั้ง ผมยิ้มให้เด็กๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแล้วจึงออกมาแจมนิดหน่อย ผมกับไอ้วิวสอนไปสอนมา ดันมาเถียงกันเองเรื่องตารางธาตุ เด็กๆนั่งหัวเราะกันใหญ่ สรุปผมแพ้ครับ อิๆๆๆ ก็คนมันเรียนมานานแล้วนี่นา
เสร็จจากทำการบ้าน ไอ้วิวออกไปซื้อของกินกับน้องตั้งทิ้งผมกับเจ้าจอมและน้องฟ๋งไว้ที่หอ ระหว่างคอยไอ้วิวนั้น เจ้าจอมตัวดีมันขายเพื่อนมันให้ผมฟังว่าพวกนี้ว่าวยังไม่เป็นเลย ต้องให้มันสอนให้ แต่หลังจากนั้น เจ้าจอมบอกว่ามันเข้าห้องน้ำไม่ได้เลยเพราะห้องน้ำลื่น กลัวล้มลงหัวฟาด พูดจบเจ้าจอมหัวเราะใหญ่ เล่นเอาน้องฟ๋งเพื่อนเมตมันหน้าแดงกึ่งอายกึ่งแค้นเจ้าจอม ตอนแรกผมงง เพิ่งมาเข้าใจเอาตอนที่น้องฟ๋งอายนี่แหละ ผมได้แต่หัวเราะตามเจ้าจอมไป ผมสังเกตอะไรบางอย่างว่าเจ้าจอมมันเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เจอจริงๆ ตอนนี้ดูมันรับรู้เรื่องราวที่แท้จริงของสังคมมากขึ้น และทันคนมากขึ้นด้วย ที่สำคัญกว่านั้นมันดูแล้วหล่อวันหล่อคืน คล้ายๆไอ้วิวตอน ม.4เลยครับมองแล้วน่ารักดี
เพราะโลกใบนี้มันยังไม่หยุดหมุน คนบนโลกใบนี้จึงยังไม่คงไว้ซึ่งความเป็นอดีต มีแต่จะเปลี่ยนหมุนไปตามวันเวลา จากเด็ก โตเป็นผู้ใหญ่และตายไปในที่สุดนี่คือแก่นแท้อีกข้อหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่ผมคิดว่าเป็นความจริงเมื่อได้พิจารณาตามอย่างถี่ถ้วน และถือเอามาเป็นสาระในการเทียบเคียงกับคนใกล้ตัว จากเด็กหน้าใส หรือไอ้หน้าหล่อที่เพื่อนคนอื่นๆเคยเรียกให้ไอ้วิวอายเล่นๆตอนเรียน ม. ปลาย ตอนนี้ผมได้เห็นอีกมุมที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนครับ มันเป็นเหมือนหนังฮ่องกงอ่ะครับ (บางคนอาจไม่ทันยุคที่หนังฮ่องกงรุ่งเรือง)
ปลายเดือนกรกฎาคมที่แล้วนั้น เรา5 คน( ผม ไอ้วิว เจ้าจอม น้องตั้ง น้องฟ๋ง) มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง ซึ่งห่างออกไปจากเมืองหาดใหญ่นิดหน่อย ตอนแรกก็ตระเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ตั้งใจจะออกกันไปแต่เช้า เพื่อจะสูดอากาศสดชื่นๆจากน้ำตก แต่ดันตื่นเอาตอน 11.00น.แล้ว (ก็เมื่อคืนรุนแรงไปหน่อย อิๆ) เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็วิ่งไปเรียกห้องเด็กๆให้ลุกขึ้น หวังใจว่าพวกนั้นคงตื่นสายเหมือนกัน แต่เมือประตูเปิดออกผมก็เห็นหน้าใสๆของน้องตั้ง และข้างในมีหน้าเน่า อย่างอารมณ์เสียของเจ้าจอมที่พร้อมจะส่งกลิ่นออกมา
ผมไปเรียกตั้งหลายครั้งแล้วไม่ยอมตื่นเลย เจ้าจอมพูดอย่างน่าถีบ
ผมมองสำรวจในห้อง เห็นเด็กๆเตรียมของพร้อมสรรพ โดยที่ไม่อยากใส่ใจเจ้าจอม
อ่ะ โอเคๆ คอยพี่แป๊บเดียว
ผมเดินมาที่ห้องเห็นไอ้วิวกำลังยัดผ้าขนหนูลงในกระเป๋าสะพายข้าง
ไปได้แล้วเตรียมให้เสร็จแล้ว ไอ้วิว โบกมือให้ออกไปจากห้อง
ยังไม่อาบน้ำเลย ฟันก็ยังไม่แปรง ผมร้องเตือนความจำมัน
ไอ้วิวเดินมาผลักที่อกผม แหม มันทำให้ผมรู้สึกวาบขึ้นมาในทรวงอกเลยครับ แต่เหมือนไอ้วิวจะรู้ทันผม มันเคาะหัวผม
ไปอาบน้ำที่น้ำตกนั้นแหละ ไปเหอะๆ
สรุปว่าผมนั่งบูดเคียงข้างไอ้วิว ไปทั้งผมเผ้ารุงรัง พูดกันก็ไม่มองหน้า ไม่ได้โกรธกันหรอกครับ แต่กลัวอีกฝ่ายเหม็นปาก อิๆ ส่วนข้างหลังเฮฮาใหญ่ ผมมองทางกระจกเห็นน้องฟ๋งกำลังโดน 2 คนนั้นรุมโขกหัว


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
เจ้าบอสน้อย
Guest

1. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #0
 
26-Aug-12, 10:27 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เอ้ย เดี๋ยวโกรธกันหรอก ไอ้วิวเตือน
แต่พวกลิงนั้นไม่สนครับ เล่นกันไปได้ตลอดทาง ถึงน้ำตกโตนงาช้าง อากาศที่นี่เย็นได้ตลอดปีครับ ร้อนๆมาจากในเมือง แต่เมื่อมาถึงน้ำตกแทบจะร้องหาผ้าห่ม จอดรถเสร็จ พวกเราก็เดินไปหาอะไรกินรองท้องก่อน ขณะที่นั่งกินอะไรกันอยู่ โทรศัพท์ผมดังขึ้น หวั่นใจเหมือนกันว่าน่าจะใช่น้องแตงโทรมาชวนไปกินข้าวแน่ๆ แล้วมันก็ถูกอย่างที่คิด เมื่อไอ้วิวพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ว่า
แตงโทรมา
ผมรีบพูดและรีบวางสายไปเพราะไม่อยากทำให้อากาศบริเวณน้ำตกต้องมามัวหมอง แต่ตอนนี้หน้าไอ้วิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และกลับสู่สภาพเดิมได้อย่างปกติ (แหม นับถือมันครับ) หลังจากถอดเสื้อผ้าให้อยู่ในชุดพร้อมอาบน้ำแล้ว เราทั้ง 5 ก็เดินปีนทางชันๆลื่นขึ้นไปเล่นน้ำตกที่ชั้น3 หรือ4 นี่แหละครับ กว่าจะถึงก็เล่นเอาลื่นกันหลายรอบเหมือนกัน แต่เมื่อถึงบริเวณเล่นน้ำก็หายเหนื่อยครับ ผมสังเกตอย่างหนึ่งว่า ปัจจุบันผู้ชายส่วนใหญ่ที่ผมเห็นนะครับ ถ้าต้องมาเล่นน้ำบริเวณที่สาธารณะอย่างนี้มักจะสวมกางเกงบอลเล่นใส่เสื้อ ซึ่งจากเมื่อตอนเด็กที่เคยมา(ตอนนั้นยังไม่ลามกนะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด)ผมจะเห็นผู้ชายถอดเสื้อเล่นน้ำเต็มไปหมด ซึ่งตรงนี้มันบอกอะไรผมได้หลายๆอย่างครับ แต่ก็ไม่นำพามาเล่าตรงนี้
เราเล่นน้ำไปสักพักก็เริ่มหนาวบางคนก็มานั่งบนโขดหิน ส่วนผมกับเจ้าจอมนั้นยังคงบ้าคลั่งหนังจีน ยิงพลังใส่กระแสน้ำได้เรื่อย ไอ้วิวมันคงหนาวมากอ่ะครับ ไปนั่งห่มผ้าขนหนูอยู่บนโขดหินเช่นกัน ผมเลยแกล้งมัน เล่นเป็นเงือกหนุ่ม ถอดเสื้ออกแล้วโยนใส่มัน ไอ้วิวโวยวาย เหวยๆผมหัวเราะมันครับ แล้วก็อมน้ำแล้วพ่นใส่มันอีก (ยอมรับว่าเล่นอุบาทว์ครับ) สาวๆแถวนั้น มองเราหยอกกันใหญ่ แต่เค้าคงไม่สงสัยเราหรอกครับ เพราะยังคงส่งสายตาหวานๆมาให้ไอ้วิวได้อีก ไม้ตายผมที่จะแกล้งไอ้วิวคือกระโดดขึ้นจากน้ำแล้วดึงตัวมันจากโขดหินให้ตกลงไปในแอ่งน้ำที่ผมเล่นอยู่ แต่มันไม่เป็นไปตามคาดครับ เพราะขณะที่ผมกระโดดขึ้น กางเกงบอลเจ้ากรรมมันรูดลงครับ โชว์ขนที่หัวหนาวสีดำขลับตัดกับผิวในร่มผ้าที่ขาวเป็นพิเศษ เล่นเอาสาวๆปิดตาเลยครับ ผมอายมากรีบดึงกางเกงไว้แล้วปีนขึ้นฝั่งไปทางอื่น ส่วนไอ้วิวนั้นลุกขึ้นทันทีแล้วหัวเราะคิกคักๆรีบมาคว้ามือผมให้ขึ้นบนโขดหิน
ขณะเดียวกันนั้นผมได้ยินเสียงเจ้าจอมมัน ร้องออกมาจากโขดหินอันใหญ่ข้างหลังที่มีกระแสน้ำพุ่งแรง ซึ่งก่อนหน้านั้นเห็นมันเล่นหนังกำลังภายในอยู่ ตอนแรกนึกว่ามันตกน้ำ หรือเกิดเหตุร้ายอะไร จึงรีบฝ่าน้ำที่ไหลแรงเข้าไปดูพร้อมกับไอ้วิว ส่วนน้องตั้งและน้องฟ๋งนั้นยังคงถ่ายรูปกันตามแนวป่า
ภาพที่เห็นคือวัยรุ่นบ้านๆ 2 คน ตัวดำๆ ผมหยิกๆแดงๆ กำลังชูกางเกงเจ้าจอมขึ้น เจ้าจอมร้องขอกางเกงคืน ซึ่งตอนนี้มันยืนโป๊ะอยู่ โดยเอามือปิดอาจู๋มันไว้ แต่ก็ยังไม่วายเห็นรังไข่และขนของมันอยู่ดี ไอ้วิวรีบฝ่ากระแสน้ำไปแล้วตบหัวไอ้2 คนนั้นอย่างจังโดยไม่ถามหาสาเหตุก่อน ผมตกใจมากที่เห็นไอ้วิวแสดงบทบู้ ไอ้2 นั้นหลังจากได้สติจากการโดนตบหัวอย่างจังแล้วก็หันมาทางไอ้วิวแล้วสวนเข้าที่แก้มไอ้วิว ดังผั๊วะ ไอ้วิวล้มลงตามกระแสน้ำที่แรง อีกคนหนึ่งรีบกดหัวไอ้วิวลงในน้ำ ผมเห็นท่าไม่ดี จึงเข้าไปช่วยทันที คงด้วยความได้เปรียบทางกายภาพที่ผมตัวโตกว่าไอ้เด็กขาดสารอาหารพวกนั้นมั้ง ผมต่อยหน้ามันคนละที เลือดกลบปากเลยครับ ไอ้วิวก็รีบผุดขึ้นมาจากน้ำเพื่อหายใจ ผมสงสารไอ้วิวมากครับ หน้ามันแดงจัด สงสัยคงสำลักน้ำ ตอนนั้นผมหูอื้อได้อีกครับ เมื่อเห็นไอ้วิวดูไม่ดี ผมกะจะเข้าไปคว้าคอทั้ง2ตัวนั้นมากดน้ำให้สาใจ แต่ด้วยกระแสน้ำตรงนั้นไม่เอื้อต่อการต่อสู้ และ2ตัวนั้นมันอยู่ในชัยภูมิที่ดีกว่า มันเลยรีบวิ่งขึ้นจากแอ่งน้ำขึ้นไปทางน้ำตกชั้นบน และทิ้งกางเกงไว้ให้เจ้าจอมในที่เกิดเหตุ ผมพยุงตัวไอ้วิว เห็นแก้มมันดูช้ำ จมูกแดงจัด ลำลักน้ำยังไม่หาย ส่วนเจ้าจอมยังไม่หายตกใจ ผมได้สติกลัว2ตัวนั้นไปตามพวก จึงรีบบอกให้ทุกคนรีบกลับไปที่รถให้เร็วที่สุด
ในรถแก้มไอ้วิวที่ดูช้ำๆตอนนี้ดูคล้ำเพราะฟกช้ำชัดเจน จมูกมันยังคงแดงๆ แถมเสียงเริ่มแหบเหมือนคนเป็นหวัดเลยครับ เห็นแล้วเป็นห่วงเลยครับ ผมจับมือมันไว้นิ่งๆขณะที่ขับรถอยู่ แต่ก็พลันสังเกตเห็นจากกระจกว่าเจ้าจอมมองมือผมอยู่ ผมจึงรีบวางแล้วมาขับรถต่อ ส่วนไอ้วิวเหมือนจะรับรู้ด้วย จึงแก้ต่างโดยการให้เจ้าจอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
เจ้าจอมเล่าให้ฟังว่า 2 ตัวนั้นมันเล่นน้ำอยู่ใกล้เจ้าจอมตั้งนานแล้วและ พูดพลางมองเจ้าจอมแล้วหัวเราะแบบเย้ยๆว่าเจ้าจอมต้องเป็นกระเทยแน่ๆ จึงเข้ามาแกล้ง(ด้วยผิวพรรณหน้าตาที่คล้ายผู้หญิงด้วยมั้ง จึงทำให้หน้าเข้ 2 ตัวนั้นคิดไปเอง) มันฝ่าน้ำมาหาเจ้าจอมเลยและถามเจ้าจอมประมาณว่า เล่นอะไรอยู่ ในน้ำเสียงแซวๆ แล้วอีกคนมือไว ไปจับก้นเจ้าจอม อีกคนก็ได้ใจดึงกางเกงเจ้าจอมออก แรงจากการดึงและกระแสน้ำทำให้กางเกงเจ้าจอมหลุดออกอย่างง่ายดาย เมื่อกางเกงหลุดออกอีกคนจึงอุ้มตัวมันขึ้น(ดูมันลามก) อีกคนเลยถอดออก แล้วผมกับไอ้วิวก็มาเห็นเหตุการณ์ต่อ
หลังจากเจ้าจอมเล่าเสร็จ ไอ้วิวก็จัดการต่อว่าเจ้าจอมจนถึงตัวเมืองหาดใหญ่ ผมเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องพี่น้องเค้าอ่ะนะครับ ก็ปล่อยให้ไอ้วิวสอนลูกพี่ลูกน้องมันไป ผมแอบดูทางกระจกเห็นเจ้าจอมน้ำตาคลอๆนั่งก้มหน้า ส่วนน้องตั้งกับน้องฟ๋งก็นั่งก้มหน้ารับผิดไปด้วย ไอ้วิวยังคงพูดอยู่ทั้งๆที่เสียงมันแหบหมดแล้วก็ตาม ผมจึงหันไปมองหน้ามัน ด้วยสายตาที่บอกว่าพอเหอะสงสารเด็ก ไอ้วิวจึงหยุด และบอกให้ผมเวียนไปส่งเจ้าจอมที่บ้านพ่อแม่มัน(พ่อแม่เจ้าจอมย้ายมาหาดใหญ่แล้ว อยู่คนละสายกับทางกลับบ้านเราทั้ง2คน) ส่วนน้องตั้งกับน้องฟ๋งก็ขอนอนบ้านเจ้าจอมด้วย เป็นอันว่าเด็กๆนอนบ้านเจ้าจอมหมด
ถึงบ้านเจ้าจอม ไอ้วิวต่อว่าเจ้าจอมอีกครั้ง จนเจ้าจอมร้องไห้ออกมา มันจึงหยุด และสั่งให้ลงรถไป เจ้าจอมเดินร้องไห้เข้าบ้านมีเพื่อน2 คนเดินเก้ๆกังๆดูเหมือนอยากจะปลอบแต่ก็กลัวไอ้วิวดุ ภาพที่ออกมาเลยดูไม่ดีเท่าไหร่ ขณะขับรถกลับ แม่เจ้าจอมโทรมาหาไอ้วิว และไอ้วิวก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังโดยตัดเรทเอ็กซ์ออกไปเพื่อรักษาหน้าเจ้าจอม เหมือนแม่เจ้าจอมจะไว้ใจไอ้วิวมาก หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดก็รีบขอบใจไอ้วิวเป็นการใหญ่ก่อนที่จะวางสายไป
ขณะนั่งรถกลับหอไอ้วิวนั่งปิดตามาตลอดทาง ผมเองก็ไม่อยากกวนมัน ก่อนถึงหอพักผมแวะซื้อน้ำแข็งก้อนมาประคบแก้มมันให้ ถึงหอพักเรา2 คนรีบอาบน้ำสระผมอีกครั้ง แล้วผมก็หายามาให้ไอ้วิวกิน เสียงไอ้วิวดูแย่ลงกว่าเดิม ส่วนแก้มนั้นไม่ต้องห่วงบวมได้ที่เลย แต่โชคดีว่าพรุ่งนี้ไอ้วิวหยุดเรียนอีกวัน ส่วนผมนั้นมีเรียนได้เรื่อย (เบื่อจัด) หลังจากกินยาแล้วผมให้ไอ้วิวนอนบนตักผม แล้วผมก็ประคบน้ำแข็งที่แก้มให้มัน ตัวไอ้วิวร้อนมากครับ มันคงเป็นไข้แล้วแน่ๆ ผมคิด
คืนนั้นไอ้วิวไข้สูงมากครับ ผมดูท่าไม่ดีเลยบอกมันว่าไปหาหมอม่ะ มันบอกว่าไม่ไปอายพี่คณะมันที่แก้มมันช้ำและบวม ตี2 ไอ้วิวยังคงตัวร้อนจัด ผมจึงเช็ดตัวให้ มันบอกหนาวมาก ผมเลยหยุดและห่มผ้าให้มัน และจัดการหายาให้กินอีกโดส ผมนอนกอดมันจนเช้า ตื่นมาเห็นมันไข้ลดลง แต่ยังคงหลับอยู่ แก้มมันนั้นบวมลดลงแล้ว ทิ้งรอยช้ำๆไว้
กลับมาที่ห้อง ผมเทโจ๊กไว้ให้มันและหายามาให้ (เหมือนในรักแห่งสยามเลย ผมคิด) แล้วผมก็ไปเรียน แต่ในใจก็ยังเป็นห่วงอยู่
5โมงเย็นผมกลับมาเห็นไอ้วิวนอนหลับอยู่ โจ๊กหายไปครึ่งถ้วย แต่ยายังคงอยู่ที่เดิม ผมก็คิดว่ามันหายดีแล้วจึงชะล่าใจ ไปล้างหน้าล้างเท้า แล้วจึงกลับมานั่งลูบผมมันบนเตียง มันหลับอยู่ผมคิด จึงไม่อยากปลุกมัน ให้มันนอนต่อไปสักพัก ผมจึงมานั่งทำงานส่งอาจารย์ต่อ แต่งานมันก็ไม่รีบเกินไปเพราะกลางเดือนสิงหานี้ทางมหาลัยหยุดการเรียนการสอน ทุกคณะ แต่คณะไอ้วิวหยุดก่อน (มันช่างมาป่วยได้ตรงจังหวะ) สัก1ทุ่ม ไอ้วิวยังไม่ตื่น ผมเริ่มหิวข้าวแล้วจึงไปปลุกมัน เพื่อที่จะถามว่าจะกินอะไรมั๊ยเดี๋ยวจะออกไปซื้อให้ แต่ในใจผมลึกๆจริงๆตอนนั้นคือมีนัดกินข้าวเย็นกับน้องแตงแล้ว แต่ก็นะ มันทำใจลำบากอ่ะครับ
ผมไปขย่มตัวมันเห็นมันนอนนิ่ง จึงรื้อผ้าห่มออก ผมตกใจสุดชีวิต เมื่อเห็นกองเลือดบนผ้าปูที่นอนและเปื้อนผ้าห่มด้วย มันเป็นเลือดที่ออกมาจากปากไอ้วิวครับ ผมพลิกตัวดูหน้าดูเยื่อบุตามันชัดๆ พบว่าซีดมาก ตายห่าแล้วครับ ไอ้วิวของผมจะช็อคป่าวเนี้ยะ ผมรีบอุ้มมันขึ้นแล้วพาลงไปข้างล่าง ทุลักทุเลน่าดู ไอ้วิวเองก็สะลืมสะลือช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ผมส่งไอ้วิวที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้ง พยาบาลรีบพาไอ้วิวเข้าห้องตรวจ ผมใจไม่ดีเลยครับ ภาพอดีตมันหวนมาอีกครั้งคราวที่ผมมาหาเคส และเคสก็เสียที่นี่ แต่คราวนี้ไอ้วิวของผมต้องไม่เป็นอะไร เสียงพยาบาลเรียกหาญาติ คุณอรรณพ เศรษฐาวงศ์ ผมจึงรีบเข้าไป ก็เจอพี่หมอที่ไอ้วิวสนิทด้วยตรวจอยู่ ก็เลยวางใจหน่อยครับ ผมเล่าให้พี่หมอฟัง พี่หมอบอกว่าสงสัยเรื่องเกร็ดเลือดไอ้วิวจะต่ำแน่ๆเลยเลือดจึงไหลไม่หยุด ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า ยาลดไข้ที่กินนั้นเป็นกลุ่มยาแอสไพรินด้วย เกร็ดเลือดจึงต่ำเข้าไปใหญ่ ผมจึงรีบบอกพี่หมอ และยังเล่าให้ฟังตอนที่มีดเคยบาดมันที่บ้านตอนปอกมะม่วงด้วยว่าเลือดหยุดช้ามาก เมื่อได้ประวัติแล้วพี่หมอจึงบอกให้พี่พยาบาลเจาะแล็ป CBC, UA,PT,PTT,CHEM ,SERO พี่พยาบาลทวนชื่อแล็ปซ้ำเพื่อป้องกันความผิดพลาด และยังเสนอให้หมอสั่งแล็ป HEMO CULTURE อีกตัวเนื่องจากไอ้วิวมีไข้สูงและแผลเปิดที่กระพุ้งแก้มสกปรกจากแหล่งน้ำตกดังกล่าว
ที่ห้องฉุกเฉินที่เรานั่งรอผลแล็ปอยู่ ตอนนี้ไอ้วิวไข้สูงมากครับหนาวสั่นไปทั้งตัว หน้าแดง ฝ่ามือแดงมาก ผมนั่งจับมือมันไว้แน่น ผมเริ่มสัมผัสได้ว่าเหงื่อเย็นๆชื้นๆเริ่มออกจากฝ่ามือมันมากขึ้น ชั่วโมงกว่าๆพี่หมอคนเดิมเดินมาบอกผลแล็ปบางตัวที่ออกแล้ว บอกว่าพบค่าผิดปกติเกี่ยวกับเกร็ดเลือดที่ต่ำกว่าค่าปกติ ซึ่งพี่หมอแนะนำให้นอนโรงพยาบาล ผมฟังแล้วอันไหนที่พี่หมอว่าดีก็ออเออไป ขณะที่รอพยาบาลเคลีย์เอกสารการadmit นั้นผมโทรไปหาป้าละม้ายและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง ไม่เกิน5 นาทีก็มาถึง
ตอนนี้ไอ้วิวนอนอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเนื่องจากสามารถใช้สิทธ์บุคลากรของป้าละม้ายได้ เมื่อส่งไอ้วิวถึงห้อง ป้าละม้ายหันมาบอกให้ผมกลับไปนอนได้แล้วเพราะตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้วด้วย ผมจำใจต้องกลับห้องทั้งๆที่ใจไม่อยากกลับเพราะเป็นห่วงไอ้วิว แต่ด้วยภาระที่ผมต้องรับผิดชอบเรื่องเรียนพรุ่งนี้ และด้วยความเกรงใจให้ครอบครัวเค้าอยู่ด้วยกัน ผมจึงกลับ
คืนนั้นผมนอนคิดเกือบทั้งคืนว่า เมื่อถึงคราวที่เป็นทุกข์ดังเช่นในครั้งนี้ มันก็ได้พิสูจน์ความรู้สึกของผมที่แท้จริงว่าผมก็รักเป็น แต่ที่ไม่จริงๆจังๆหรือนอกใจบางในครั้งก่อนมานั้นอาจเป็นนิสัยผมเอง แต่ส่วนลึกผมก็รักไอ้วิว ใช่ผมรักไอ้วิว ความเลือนรางของใบหน้าไอ้วิวค่อยๆหายไปๆ
ตื่นมาตอนเช้า ผมรีบไปเรียนต่อที่คณะ วันนี้ยุ่งได้ทั้งวัน แต่ไม่ขอเล่าตรงนี้นะครับ เดี๋ยวจะพาลเบื่อไปเปล่าๆ 5โมงเย็นขณะที่ผมเดินไปที่จอดรถ แม่ผมโทรมาหาพอดี
ครับแม่ ผมส่งเสียงอ้อนดังที่เคยทำ
อืม อยู่ไหนลูก แม่เสียงเรียบๆ คงคอนเซปเดิมได้ตลอด
คณะครับ
มาเยี่ยมวิวพร้อมแม่มั๊ยลูก
ได้ครับ อืมแล้วแม่อยู่ไหนแล้ว
ตอนนี้แม่อยู่ที่ฝ่ายการ
ครับ เดี๋ยวเจอกันที่ไหนดีครับ
ที่ฝ่ายก่อนแล้วกันนะ คอยแม่ก่อน
ครับ
ผมวางสายจากแม่ไม่ทันถึง2วินาที น้องแตงก็โทรมาหาผม
พี่บอส ไปกินข้าวกันค่ะ เสียงน้องแตงสดใส
อืม พี่ต้องไปเยี่ยมเพื่อนอ่ะ พอดีไม่สบายนิดหน่อย
เอ้าจริง หรือค่ะ อืมแตงไปเป็นเพื่อนม่ะอ่ะพี่ เดี๋ยวเสร็จจากเยี่ยมเพื่อนก็ไปกินข้าวต่อเลยไง
ได้ ผมเผลอปากพูดไปด้วยความเคยชินที่ไม่เคยปฏิเสธเธอ
เดี๋ยวเจอกันที่หน้าโต๊ะยามนะค่ะ
น้องแตงวางสายทันทีที่พูดจบ ผมเดินหอบของเต็มมือมาที่นัดกันไว้ ตอนนั้นลืมนึกไปว่าผมจะไปพร้อมแม่ผมและอาจมีพ่อด้วย พูดง่ายๆคือผมจะไปกับครอบครัวผม และอีกอย่างน้องแตงเองก็ยังไม่รู้ว่าคนที่จะไปเยี่ยมคือใคร สักครู่น้องแตงมาถึง เราทักทายกันเล็กน้อย และผมก็บอกเธอว่าผมจะไปเยี่ยมไอ้วิวกับครอบครัวผม ที่ผมบอกเช่นนี้ก็แค่อยากให้เธอรู้ข้อมูลและตัดสินใจก่อนที่จะสายไปกว่านี้ แต่ดูๆเหมือนน้องแตงจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แบบว่ามาแล้วก็ไม่อยากเสียเที่ยวหรืออาจรู้สึกเกรงใจผมที่จะปฏิเสธเมื่อต้องเจอครอบครัวผม เธอจึงบอกว่าค่ะ แตงจะไป
ที่หอผู้ป่วยพิเศษ ผม แม่ พ่อ และน้องแตงเข้าไปเยี่ยมไอ้วิวกัน ในห้องนั้นมีเพียงป้าละม้าย ส่วนลุงชีพนั้นลงไปซื้อของใช้บางอย่าง ป้าละม้ายเมื่อเห็นแม่ผมมาก็ดึงมือแม่ผมไปคุยที่ข้างๆระเบียง ผมได้ยินว่าเรื่องที่คุยกันนั้นป็นเรื่องที่ฝ่าย ผมเลยไม่สนใจฟัง
ผมจับมือไอ้วิวที่หลับอยู่ มือมันเย็นๆ หน้ามันช้ำดำเหมือนเดิม ตัวยังร้อนเหมือนเดิม ผมเห็นแล้วใจมันห่อเหี่ยวครับ ตอนนี้ผมลืมไปเลยว่าพาน้องแตงมาด้วย เห็นอีกทีก็ตอนที่ป้าละม้ายเข้ามาทักกึ่งเล่นกึ่งจริงว่า
แหม พาว่าที่ลูกสะใภ้มาด้วย อิๆๆเสียงพาละม้ายหัวเราะ (ดูป้าละม้ายไม่เครียดเรื่องไอ้วิวป่วยเลยหรืออาจเฉยๆเพราะเจอมาเยอะ)
แม่ผมจ้องตา ป้าละม้าย แล้วพูดขึ้น เค้าชื่อแตง เรียนพยาบาลด้วยเธอ
เอ้าจริง ดีแล้วหนู เสียงป้าละม้ายชม
แล้วสาวๆเค้าก็ทักทายพูดคุยกันไปเรื่อย ส่วนพ่อผมก็นั่งมอง แจมไปด้วยบางครั้ง น้องแตงดูอึดอัดอีกครั้ง ขณะเดียวกันนั้นไอ้วิวก็ตื่นขึ้นมา มันเห็นทุกคน ที่มาเยี่ยมไม่เว้นแม้แต่น้องแตง นี่เป็นครั้งแรกที่ไอ้วิวได้เจอกับน้องแตง ไอ้วิวมองน้องแตงแล้วมองมาทางผม แต่ผมกลับหลบตามันทันที แม่ผมเดินมาหาไอ้วิวแล้วลูบหน้าลูบผมสอบถามอาการ มีพ่อยืนข้างๆ อีกฝั่งของเตียงเป็นป้าละม้าย ส่วนผมนั้นเดินปลีกออกไปนอกห้อง มีน้องแตงเดินตามมา
คนนี้คือพี่วิวหรอค่ะ น้องแตงถามผม
ครับ ผมตอบน้องแตงอย่างสารภาพ
แตงเจอบนวอร์ดบ่อยค่ะ พี่เค้าน่ารักดี แตงเคยช่วยพี่เค้าทำแผลให้ผู้ป่วยด้วย
หรอ ครับ ผมรับฟัง
ค่ะ เพิ่งรู้ว่าเพื่อนพี่บอสนะเนี้ยะ
ครับ เพื่อนสนิทพี่เอง
เอ้าบอส มาเยี่ยมวิวหรอลูก เสียงลุงชีพทักมาแต่ไกล
ผมหันไปมองตามเสียงนั้น
ไปๆเข้าไปในห้องกัน นี่ลุงซื้อของกินมาเยอะเลย มากินด้วยกัน
ลุงชีพโอบไหล่ผมและออกปากชวนน้องแตงเข้ามาในห้องอีกครั้ง ในห้องตอนนี้ไอ้วิวลุกขึ้นนั่งได้แล้วดูหน้ามันซีดๆเพลียๆ ก่อนที่ผมจะเดินไปคุยกับมันอีกครั้งนั้น ป้าละม้ายจับมือผมให้นั่งลงใกล้ๆเพื่อจะสอบถามเรื่องทะเลาะกันที่น้ำตกโตนงาช้าง ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ฟัง ในขณะนั้นผมเห็นน้องแตง ไปยืนคุยกับไอ้วิวข้างเตียง ดูทั้ง2 คนสนิทกันดีจัง แต่ผมอาจคิดมากไปก็ได้ เค้าคุยกันในฐานะคนรู้จักหรอก ใจหนึ่งห้ามอีกใจหนึ่ง เล่าเสร็จ ก็ถึงคิวแม่ผมที่เทศนาผมอีกรอบ เห้อออออออ
กลับจากเยี่ยมไอ้วิว พ่อก็ชวนเราไปกินข้าวเย็นกันต่อ มีน้องแตงไปด้วย ในตอนนี้ดูน้องแตงไม่อึดอัดแล้วดูเธอจะเข้าได้ดีกับพ่อผม อาจเพราะบุคลิกพ่อด้วยมั้ง ที่เป็นมิตรกับทุกคน ส่วนแม่นั้นน้องแตงดูยังเกรงๆอยู่ หลังจากทานข้าวเสร็จพ่อผมก็ขับรถเวียนไปส่งน้องแตงที่หอ และพาผมกลับบ้านโดยที่ไม่ได้ไปส่งที่หอผม พ่อผมให้เหตุผลว่าลืม ผมฟังเหตุผลพ่อแล้วก็นะ ขัดใจนิดหน่อยเพราะมันฟังไม่ขึ้น แต่ก็ไม่อยากจะโวยวายเพราะถ้านอนหอก็เหงาอีก จึงเริ่มเห็นด้วยกับพ่อ กลับมานอนบ้านดีกว่า
ที่บ้าน เมื่อผมอาบน้ำเสร็จจัดการจะนอน แม่ผมก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพ่อผม ผมได้แต่มองท่านทั้ง 2 แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่ามาไม้ไหนกัน แต่ที่รู้ในตอนนี้คือ รู้สึกว่าท่านทั้ง 2 นั้นมีท่าทีเปลี่ยนไป
อ่ะ เสร็จธุระแล้วหรอลูก พ่อผมถาม


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

2. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #1
 
26-Aug-12, 10:28 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ครับ ผมพยักหน้า และส่งสีหน้างุนงงให้ท่าน
คือ งี้ลูก แม่เค้าอยากนอนเป็นเพื่อนลูกคืนนี้อ่ะ พ่อเลยมาส่ง พ่อผมพูดพลางหันไปมองแม่ แต่แม่ผมนั้นจ้องผมและยิ้มให้อย่างนางสิงห์
ครับ ผมส่งสีหน้าแปลกใจให้ท่าน
ยังไงพ่อก็รักลูกนะ พ่อผมพูดเสร็จก็ออกจากห้องไป
ตอนนี้ผมอยู่ในห้องกับแม่ ขณะที่ผมทาครีมบำรุงผิวที่แม่ซื้อมาให้นั้น แม่ผมก็เดินดูข้าวของในห้องผม และบ่นเรื่องความสะอาดในห้องได้เหมือนเคย จากเรื่องที่ผมไม่ค่อยจัดของให้เป็นระเบียบแล้วก็ลามไปเรื่องเรียน เรื่องการใช้จ่ายเงิน และลงประเด็นที่ไอ้วิว มันเป็นไปดังที่ผมสงสัย ว่าทำไมพ่อจึงไม่พาผมไปส่งที่หอ แม่ผมดูเหมือนจะอยากรู้ความจริงเรื่องนี้ให้ได้ว่าผมกับไอ้วิวนั้นถึงขั้นไหนกัน และน้องแตงอีกว่ามันคืออะไรกันแน่
ผม ค่อยๆโน้มตัวนอนลงบนเตียง และดึงผ้าห่มมาห่ม ส่วนแม่นั้นปิดไฟกลางห้องและเปิดโคมไฟ ก่อนที่จะถามความสงสัยของแม่
บอส บอกแม่ได้มั๊ยลูกว่า บอสกับวิวนั้น เป็นอะไรกัน
เพื่อนครับแม่ ผมโกหกแม่เป็นครั้งแรก ขณะนั้นผมนอนมองดูดาวเรืองแสงที่เพดาน ครั้งที่ซื้อมาตอนเรียน ป .4
แม่เป็นแม่เรานะ อย่าโกหกแม่เลยลูก เสียงแม่ดูเยียบเย็นพิลึก แม่พูดพลางลูบหัวผม
แล้วแม่คิดว่าไงอ่ะครับ ผมย้อนถามด้วยเสียงที่รำคาญ
แม่ถามเราไม่ใช่ให้เราถามแม่ เสียงเนี๊ยบเน้นเหมือนออกคำสั่ง ออกจากปากแม่ให้ผมได้ยิน
……………………
อ่ะบอส อาจไม่อยากตอบตอนนี้ แต่วันหนึ่งบอสต้องตอบแม่นะลูก
ผมพลิกตัวหันหลังให้แม่ แม่ยังคงลูบหัวผม
แม่ครับ
อืม ว่าไง
คือผม ผมกับวิวเป็นมากกว่าเพื่อนกันครับ
อืม เสียงนิ่งอย่างน่ากลัวจากแม่ผม
ผมหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วรวบรวมความกล้าบอกแม่ว่า ผมกับวิวเป็นแฟนกันครับ พูดจบผมไม่กล้าที่หันไปมองหน้าแม่ผม ในห้องมันเงียบไปได้สัก5 นาที แต่มันเหมือนเงียบไปสัก5 ปี ผมรู้สึกว่ามันอึดอัดมาก แล้วแม่ผมก็ทำลายความอึดอัดนั้นลงด้วยคำพูดที่ดูอ่อนโยนพิลึก
เลิกกับวิวนะลูก สงสารแม่ แม่มีลูกคนเดียวคือ บอส
ส่วนเรื่องแตง แม่โอเคนะ เด็กคนนี้นิสัยดี แม่เชียร์แตงนะ แต่ไม่เชียร์วิว
บอสรู้มั๊ยลูกว่าป้าละม้ายกังวลเรื่องนี้มาก
บอสรู้มั๊ยว่าทำไมวิวต้องย้ายโรงเรียนตอน ม. ปลาย
รู้ครับ ผมตอบเบาๆ
นั้นแหละลูก อย่าทำให้ป้าละม้าย ต้องเสียใจนะลูก แม่เองก็ไม่สบายใจเรื่องนี้ไม่แพ้ป้าละม้าย
บอสอาจรู้สึกว่าแม่รบกวนชีวิตลูกมากไป แต่ที่แม่มองเห็นคืออนาคต อนาคตที่บอสจะต้องแก่และตายคนเดียว ถ้าบอสไม่มีลูกไม่มีเมีย แม่ไม่อยากให้ลูกแม่ต้องมาลำบากตอนแก่ พ่อแม่นั้นอยากเห็นลูกตนเองมีชีวิตที่ดี ก่อนที่พ่อและแม่จะสิ้นใจ
ผมนอนฟังแม่สอนทั้งน้ำตาที่ไหลพรากๆ จากเสียงเยียบเย็นของแม่ ตอนนี้มันเป็นเสียงที่นุ่มและอบอุ่นเหมือนตอนที่แม่กล่อมให้นอนตอนผมเรียนอนุบาล แม่คงเห็นว่าผมเสียใจและกังวลเรื่องนี้มาก และเหนื่อยจากเรียนมาทั้งวัน เลยหยุดพูดและหันมากอดผม ทำเหมือนผมเป็นลูกน้อยของแม่เหมือนครั้งที่ยังเป็นเด็ก
ตื่นมาตอนเช้าผมตาบวมนิดหน่อยจากเรื่องเมื่อคืน ส่วนแม่ผมนั้นอยู่ในครัวกับพี่หล่อยสาวพม่า เสียงทั้ง2 คนกำลังทำข้ามต้มกุ้งกัน พ่อผมนั้นแต่งตัวเสร็จแล้วมานั่งดูข่าวเช้า เมื่อเห็นผมลงมาจากห้อง จึงยิ้มให้ผมและบอกว่า
ไปอาบน้ำซะบอส เดี๋ยวไปคณะกับพ่อ วันนี้พ่อมีบรรยายที่คณะด้วย รู้สึกเป็นของชั้นปี5นี้แหละ
ถึงที่คณะผมก็ต้องเข้าไปฟังพ่อตัวเองบรรยายวิชาการ กว่าจะเสร็จก็เที่ยง จากนั้นผมจึงรีบขึ้นไปเยี่ยมไอ้วิว เมื่อไปถึงที่ห้องที่มันเคยนอนนั้นปรากฏว่าเป็นชื่อคนอื่นไปแล้ว อะไรกันว่ะแค่คืนเดี๋ยว ออกจากโรงพยาบาลแล้วหรอ ทำไมไม่โทรบอกกันบ้าง ผมเริ่มหงุดหงิด พอดีเห็นพยาบาลเดินมา ผมจึงถามพยาบาลว่า
โทษนะครับ นายอรรณพ ที่เคย admit ห้องนี่ไม่ทราบว่า discharge ไปตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะครับ
ออ น้องหมอวิวหรอค่ะ
ครับ
เค้าย้ายเข้า ICU เมื่อคืนค่ะ
พยาบาลพูดจบ ผมงงมาก ตอนแรกเข้าใจว่าต้องมีการจำคนผิดกันแน่ๆ แต่พยาบาลคนนั้นก็สามารถระบุคนได้ถูกต้องว่าเป็นไอ้วิวแน่ๆ
เมื่อวานเค้าอาการดีอยู่ไม่ใช่หรอครับ ผมทวนความจำให้พยาบาล
ค่ะ เมื่อตอนกลางวัน แต่ตอนค่ำๆหน่อยอ่ะค่ะ เวรดิชั้นพอดีน้องหมอวิวมีไข้สูง แล้วความดันโลหิตก็ต่ำลง ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำมาก ไม่รู้สึกตัว ค่ะ หมอเจ้าของไข้เลยใส่ท่อช่วยหายใจทางปากและส่งเข้าห้องICU ตอนนี้สงสัยกันว่า septic shock (ช็อคจากการติดเชื้อในกระแสเลือด)
เมื่อผมได้ข้อมูลจากพยาบาลคนนั้นแล้วผมก็รีบจ้ำอ้าวไปหอผู้ป่วย ICU และพลางโทรหาแม่เพื่อเป็นใบเบิกทางในการเข้าเยี่ยมไอ้วิว
ฮัลโหลแม่ วิวมันเข้าไอซียูอ่ะแม่ รู้ยังครับ
อืม แม่อยู่ที่วิวกับป้าละม้ายแล้วลูก
ครับ เดี๋ยวผมไปหานะครับ
ผมรีบวิ่งเหมือนคนบ้าไปที่นั้นทั้งๆที่รู้ว่าถึงไปก็ไม่สามรถช่วยอะไรเค้าได้หรอก แต่ใจผมสิ ใจผมที่เป็นห่วงและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งรักที่ช่วยเหลือไอ้วิวได้ ใช่แล้วครับตอนนี้ผมรู้จักกับคำว่ารักและห่วงใยแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ เหมือนมีแก้วดวงงามในมือ ที่ต้องปกป้องมันไว้ให้สุดชีวิต แต่เมื่อเข้าไปในห้องไอซียู ผมเองกลับแทบช็อคเองเมื่อได้เห็นคนที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงคุณค่าของคำว่ารักต้องนอนติดเตียง จากชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ตอนนี้นอนนิ่งสนิท มีท่อขนาดเท่านิ้วนางใส่ลงทางปาก มีเสียงเครื่องช่วยหายใจตีลมเข้าปอดดังเป็นจังหวะ ต้นแขนพันเครื่องวัดความดันไว้ตลอด ข้อพับข้อมือต่างๆมีร่องรอยการแทงเข็มแดงไปหมด และสารพัดเครื่องมือทางการแพทย์ที่จัดหามาให้ไอ้วิวได้
เมื่อป้าละม้ายเห็นผม มาถึงล็อคที่ไอ้วิวนอนอยู่นั้น ป้าละม้ายส่งยิ้มโรยแรงให้ 1 ครั้ง พอดีกับอาจารย์หมอเจ้าของไข้เดินมาพอดี เสียงอาจารย์คุยกับป้าละม้ายและแม่เรื่องแผนการรักษาต่อ ทันตะอย่างผมฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่พอจะจับประเด็นได้ว่า ไอ้วิวติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก อาจมาจากแหล่งน้ำนั้น ตอนนี้ก็รอให้ยาฆ่าเชื้อและยาอื่นๆอีกมากมาย ผมรู้สึกว่าในอกผมตอนนี้มันร้อนรนแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้ เพราะหลายๆอย่างที่มันบังคับผมอย่างมีนัย ผมจึงต้องทนเก็บความรู้สึกนี้ไว้ ผมเดินเข้าไปที่เตียงไอ้วิว เห็นมันนอนนิ่งไม่ไหวติง ในใจเจ้ากรรมของผมอดคิดไปว่าไอ้วิวตายแล้วไม่ได้ และตอนนี้หมอยืดชีวิตมันไว้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ คิดได้ดังนั้นแล้วใจผมรู้สึกวูบเหมือนคนตกเหวไม่มีผิด ผมรวบรวมความกล้าเพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่ผมคิดว่ามันถูกต้องหรือไม่ด้วยการเรียกชื่อมันและขย่มตัว สิ่งที่ตอบรับกลับมาคือ
น้องค่ะอย่ารบกวนคนไข้เลยนะค่ะ พอดีว่าคนไข้ไม่รู้สึกตัวอยู่อ่ะค่ะ neuro signs = 7 เองค่ะทางเราก็ test อยู่แล้วค่ะ และอีกอย่างคนไข้ติดเชื้อนั้นทางหอผู้ป่วยเน้นเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษมากค่ะ เสียงพยาบาลแก่ๆคนหนึ่งร้องห้ามผมและอธิบายยาวยืด ซึ่งสามารถทำให้ผมโมโหได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่อะไรจะร้ายไปกว่านั้น แม่ผมเดินเข้ามาพอดี พยาบาลคนนั้นยกมือไหว้แม่ผม ผมเองรู้สึกว่าตนเองชนะ แต่แล้วแม่กลับเข้าข้างพยาบาลคนนั้น
บอส มือไม่สะอาด ห้ามสัมผัสตัววิว นะลูก
ผมโกรธแม่อีกคนอย่างคนไร้เหตุผล และโกรธ หอผู้ป่วยไอซียูทุกคน ตอนนั้นผมเหมือนเด็กบ้าจริงๆ ผมฟังแม่เสร็จ ก็รีบเดินปั้นหน้าเป็นคนดีที่หน้าเริ่มชาๆ ออกจากห้องไอซียูอย่างเร็วที่สุด
ที่ห้องผม มีโน้ตเขียนไว้ มันเป็นลายมือผู้หญิง ซึ่งผมรู้ทันทีว่าใครกันเป็นคนแปะไว้ ผมจึงเดินไปห้องเจ้าจอม แต่มันไม่อยู่ผมเองก็ลืมไปว่ามันมีเรียน ไม่ได้หยุดเหมือนเด็กมหาลัย ผมเลยยกเรื่องนี้ให้เป็นของการทำธุระในตอนเย็น
ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มาตื่นอีกครั้งก็ตอนที่ฝนตกหนัก และมีเสียงฟ้าลั่นโครมครามปานฟ้าจะแตก มันทำให้ผมรู้สึกหวาบหวามลงไปถึงทรวงอกที่ลึกที่สุด ตอนนี้16.30 น ผมลุกขึ้นจะไปบ้วนปากพอดีกับที่มีคนเคาะประตูห้อง
พี่บอส อือๆๆๆๆๆ เสียงเจ้าจอมมันร้อง ทั้งที่เนื้อตัวมันก็เปียกปอน
ผมเห็นเจ้าจอมมันร้อง ก็อดนึกไปถึงเรื่องร้ายที่จะออกจากปากมัน ซึ่งเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากเรื่องอาการของไอ้วิว
อือๆๆๆๆๆๆ เจ้าจอมยังคงร้องต่อไป ไม่พูดอะไร ดูมันเหมือนเด็กโข่งที่ขี้แย ผมเห็นแล้วอดอายคนไม่ได้จึงลากมันเข้ามาร้องในห้องทั้งที่ตัวมันเปียกฝน ส่วนน้องตั้งและน้องฟ๋งเมื่อส่งเจ้าจอมที่ห้องผมแล้วก็ขอตัวไปเปลี่ยนผ้าก่อน
ตอนนี้ในห้องมีผมกับเจ้าจอมอยู่ ผมไม่ถามว่ามันร้องไห้เพราะอะไร ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ใส่ใจมันนะครับ แต่ผมกลัวคำตอบมากกว่า สัก5 นาทีน่าจะได้ที่เจ้าจอมมันร้องไห้อยู่ ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้มันเช็ดหัวเช็ดหน้า มันคงได้สติว่าผมเริ่มรำคาญมันนิดๆ มันจึงหยุดร้อง และบอกผมว่า
มันเป็นความผิดของจอมเองที่ทำให้พี่วิวต้องเป็นแบบนี้ เสียงมันสะอึกสะอื้น
ผมนั่งรับฟังมันต่อเพื่อรอไคลแม็กของเรื่องที่มันจะพูดด้วยความหวั่นใจ
วันนั้นถ้าจอมไม่ไปน้ำตกนั่นเรื่องร้ายๆเหล่านี้คงไม่เกิด เจ้าจอมรำพันต่อ
อ่ะ จอม มีอะไรจะบอกพี่ก็บอกมาเถอะ ส่วนเรื่องวันนั้นอย่าไปพูดถึงมันเลย มันผ่านไปแล้ว ผมเริ่มรำคาญมันจริงๆ
คือตอนนี้พี่วิว เจ้าจอมพูดเสียงตะกุกตะกักอย่างเด็กกลัว ในใจผมเองนั้นกลัวคำตอบอย่างเป็นที่สุด
ถ้าเรื่องพี่วิวเข้าไอซียูนั้น พี่รู้แล้วและพี่ก็เพิ่งไปเยี่ยมมา ผมพูดตัดบทไม่รอคำตอบจากเจ้าจอม ด้วยใจหวังว่าเรื่องที่เจ้าจอมจะบอกนั้นเป็นเรื่องนี้
ครับ พี่บอส พี่วิวเข้าไอซียู จอมเพิ่งรู้ตอนเลิกเรียนนี่เอง
แล้วมีอะไรเกี่ยวกับอาการของพี่วิวคืบหน้าที่จะบอกพี่อีกมั๊ย ผมเริ่มโล่งอกเพราะเรื่องที่เจ้าจอมกังวลนั้นเป็นเรื่องที่ผมรู้แล้ว
ก็มีเรื่อง เมื่อตอนฝนตกหนักตะกี้ที่จอมไปเยี่ยมนั้น พยาบาลเค้าไม่ให้เข้าไป ตอนแรกจอมก็สงสัยว่าทำไม พอดีเจอป้าละม้าย ป้าเลยบอกว่า จอมเข้าไปไม่ได้ตอนนี้เพราะเค้ากำลังช่วยพี่วิวอยู่ แต่จอมสังเกตเห็นว่าป้าละม้ายร้องไห้ด้วย เจ้าจอมพูดเสร็จผมพอจะเดาเรื่องได้ว่า ต้องมีการปั๊มหัวใจกันแน่ๆ ความกังวลมันถาโถมมาในอกผมอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมผู้คนมากมายที่มานั่งบ้างนอนบ้างที่หน้าโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยนั้น ต้องมีสีหน้าที่เครียดเคร่งเกินกว่าเหตุ แทนที่จะนำเวลาที่มีนั้นไปหาแหล่งข้อมูลอื่นๆเพื่อเป็นแนวทางในการรักษาต่อของญาติเขาเอง หรืออย่างน้อยก็ไปหางานทำเพื่อจะได้มีทุนในการรักษาพยาบาลต่อไป แต่เมื่อได้เจอกับตัวคราวนี้ ทั้งที่ไอ้วิวไม่ใช่ญาติผม หรือเมียผมตามกฎหมาย แต่อย่างน้อยมันก็คือคนที่ผมรัก ความเจ็บป่วยของมันคราวนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมไร้ซึ่งพลังและคิดอะไรไม่ออกนอกจากความวิตกกังวลและกลัวอย่างเช่นญาติคนไข้คนอื่นๆที่เป็นกัน
3-4 วันที่ไอ้วิวอยู่ในห้องไอซียู โดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยนั้นเล่นเอาผมโทรมเลยทีเดียวเนื่องจากผมรู้สึกว่าผมไม่หิว และไม่ง่วงเอาเสียเลย สิ่งที่ผมสนใจคือข่าวความคืบหน้าอาการของมัน จนวันที่หลังๆมาแม่ผมทักขึ้นว่าทำไมโทรมลง คิดมากเรื่องอะไรหรือเปล่า หากคิดมากเรื่องวิวนั้น แม่ขอบอกคำเดียวว่าไม่ต้องห่วงเพราะอาจารย์หมอเขาเต็มที่อยู่แล้วกับการรักษาลูกศิษย์เขาอีกอย่างป้าละม้ายกับอาจารย์หมอนั้นอยู่ภาคอายุรกรรมด้วยกัน เขาจึงสนิทกัน (ประมาณนี้ที่แม่ผมพูด อาจจำได้ไม่หมด) หลังจากฟังแม่พูดผมก็เริ่มเห็นด้วยกับแม่ และปลงใจลงได้บ้าง
เหมือนปาฏิหาริย์มีจริงเมื่อวันที่ 7 ของการนอนติดเตียงของไอ้วิวนั้นสิ้นสุดลงเพราะมันเริ่มรู้สึกตัวขึ้น ลืมตาได้เอง แต่ปากยังพูดไม่ได้เพราะมีท่อช่วยหายใจใส่อยู่ ส่วนแขนขานั้นก็ ยกเหยียดได้เอง แม่ผมบอกว่านั้นคือลางบอกเหตุที่ดี ผมแอบมีความสุขในใจว่าอย่างน้อยผมก็มีส่วนช่วยให้มันฟื้นเพราะเมื่อคืนผมสวดมนต์ชินบัญชร และพุทธชัยมงคลคาถาเพื่อขอพรพระรัตนตรัยให้มันหายดีขึ้น และมันก็เป็นจริงตามที่ผมขอ วันที่8 ไอ้วิวก็สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้ และให้ออกซิเจนทางข้างนอกแล้ว มันเริ่มพูดได้แต่เสียงมันยังคงแหบๆอยู่ พยาบาลแก่คนเดิมบอกว่า เสียงมันจะกลับมาเหมือนเดิมสัก2-3วัน ตอนนี้อาจารย์หมออนุญาตให้ย้ายไอ้วิวออกจากไอซียูแล้ว แต่ยังไม่ให้เข้าห้องพิเศษก่อนเพราะยังต้องรอประเมินอาการอีกครั้ง เนื่องจากอาการยังไม่คงที่ ไอ้วิวจึงถูกย้ายไปตึกอายุรกรรมชาย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

3. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #2
 
26-Aug-12, 10:29 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เย็นวันนั้นหลังจากที่ย้ายไอ้หมอวิวของพยาบาลสาวๆที่ตึกนั้นรียบร้อยแล้ว เจ้าจอมเลิกเรียนก็มาถึงพอดี ผมสังเกตเห็นว่าเจ้าจอมเมื่อเห็นไอ้วิวครั้งแรกมันถึงกับน้ำตาคลอในแววตานั้นสื่อให้เห็นถึงการขอโทษครั้งใหญ่ ไอ้วิวเหมือนจะรู้ใจเจ้าจอม ได้แต่ยิ้มเหมือนกับรอยยิ้มของป้าละม้ายให้เจ้าจอม ก่อนเรื่องนี้จะลงท้ายด้วยน้ำตาและเน่าอย่างหนังไทยให้เตียงข้างๆซึ่งตามนั้น ผมตัดสินใจลากเจ้าจอมออกไปก่อนโดยให้เหตุผลกับไอ้วิวและผู้ใหญ่ว่าเจ้าจอมยังไม่ได้เตรียมของที่จะไปทดลองชีวะพรุ่งนี้เลย ผมจึงต้องพามันไปหาซื้อ
ในรถขณะที่เจ้าจอมพรั่งพรูความดีใจนั้น น้องแตงก็โทรมาหาผมพอดี วางสายจากน้องแตง ผมก็ต้องขับรถกลับไปรับเธออีกคน เย็นวันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันช่างสดใสและน่าอยู่จริงๆ มันเป็นความรู้สึกกรุ่มกริ่ม เหมือนผมชนะอะไรบางอย่างที่มันใหญ่โตมากมาย ขณะที่นั่งทานข้าวอยู่นั้น น้องแตงยังอดสงสัยไม่ได้เลย ส่วนเจ้าจอมนั้นหัวเราะผมใหญ่ เพราะผมเหมือนคนเพ้อล่องลอย เมื่อผมได้สติคืนมาเรา3 คนก็หัวเราะกันใหญ่
พี่หมอวิวเป็นไงบ้างอะค่ะพี่บอส แตงไม่ได้ไปเยี่ยมหลายวัน
ออ พี่วิวหายแล้วครับ เจ้าจอมเสือกขึ้นมา
ก่อนที่จะตอบน้องแตง ผมเคาะหัวมันด้วยศอกทีหนึ่ง แล้วตอบน้องแตงว่า ออกจากไอซียูแล้ว ตอนนี้มาอยู่อายุรกรรมชายแล้วครับ
น้องแตงยิ้มชวนสงสัย ผมเลยอดถามไม่ได้ว่ายิ้มทำไม และคำตอบที่ได้คือพรุ่งนี้น้องแตงจะขึ้นฝึกปฎิบัติงานที่นั้นพอดี ผมเลยบอกว่าผมฝากดูเพื่อนผมด้วยแล้วกัน น้องแตงรีบปฎิเสธทันทีว่า แตงคงทำอะไรได้ไม่มากหรอกค่ะ เพราะแตงเป็นแค่นักศึกษาพยาบาล ไม่ใช่พยาบาลวิชาชีพอย่างพี่ๆเขา
หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมชวนน้องแตงไปนั่งเล่นที่ห้องผมก่อน แต่น้องแตงมีท่าทีอึดอัด ผมจึงขยั้นขยอต่อว่า ไม่ได้มีแค่ผมกับน้องแตง แต่มีเจ้าจอมนั่งด้วยอีกคน แต่ดูเธอก็ไม่ยอม ผมเลยต้องขับรถเข้ามหาลัยอีกครั้งเพื่อไปส่งเธอที่หอ และกลับมาที่หอพักกับเจ้าจอม คืนนั้นหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ผมนั่งอ่านหนังสือเพลินๆอยู่ เจ้าจอมก็มาเคาะห้องผม เปิดประตูก็เห็นเด็กๆทั้ง3 คนหอบผ้าห่มหมอนมาพรุงพรัง ก่อนที่ผมจะถามว่าทำไม น้องตั้งก็บอกผมอย่างเอ๋อๆว่า
เจ้าจอมมันบอกว่ามีผีตามมันจากโรงพยาบาลด้วย พวกผมจึงกลัวไม่กล้านอนห้อง
ผมหันไปมองไอ้ต้นเหตุ แต่มันกลับหันหน้าหนี ในใจก็นึกว่าดีเหมือนกันเด็กๆมานอนเป็นเพื่อนไม่เหงา จึงให้อภัยเจ้าจอมมัน
หลังจากตกลงกันได้ว่าใครจะนอนพื้น นอนเตียงนั้นก็เล่นเอาผมง่วงมากแล้ว คืนนั้นผมนอนบนเตียงกับน้องฟ๋ง ส่วนไอ้ต้นเหตุกับน้องตั้งผู้รับกรรมนั้นนอนบนพื้นห้อง คืนนี้ผมรู้สึกว่าผมอยากนอนให้หลับเต็มที่โดยเรื่องกังวลต่างๆนั้นมันแทบจะหมดไปเมื่อไอ้วิวย้ายออกจากไอซียู ก่อนหลับสนิทผมได้กลิ่นแป้งเด็กจากซอกคอน้องฟ๋ง เล่นเอาผมหวั่นไหวได้ทีเดียว ผมแอบลืมตามองน้องเค้าผ่านแสงสลัวๆในห้องเห็นเด็กชายหน้าใส นอนหลับสนิท ในใจนึกอยากแอบหอมแก้มสักฟอดใหญ่ แต่อีกใจมันห้ามไว้ว่าเก็บไว้ให้ไอ้วิวดีกว่า
ตื่นมาตอนเช้าผมรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ พวกเด็กๆกลับห้องหมดแล้ว ผมเองก็ต้องรีบแต่งตัวเพื่อไปส่งงานที่คณะ เสร็จจากที่คณะผมก็เดินไปเยี่ยมไอ้วิวที่โรงพยาบาลที่นั้นผมเจอทุกคนครบเลยทั้งพ่อ แม่ ป้าละม้าย ลุงชีพ และยังมีน้องแตงในชุดนักศึกษาพยาบาลและอาจารย์พยาบาลยืนข้างๆด้วย ผมยิ้มทักทายทุกคนอย่างอารมณ์ดี ผมสังเกตเห็นไอ้วิวหน้าตาสดชื่นขึ้นมาก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการชื่นชมและดีใจของครอบครัวไอ้วิวนั้น อาจารย์พยาบาลท่านนั้นก็พูดขึ้นว่า
ดิชั้นก็ขออนุญาตเอาเคส คุญอรรณพเป็นกรณีศึกษาของนักศึกษานะค่ะ
ยินดีค่ะเพื่อการศึกษาของนักเรียนพยาบาล ป้าละม้ายอนุญาต ให้น้องแตงซึ่งเป็นคนทำกรณีศึกษานี้นำเรื่องไอ้วิวเข้าอภิปรายทางวิชาการของรายวิชาฝึกปฏิบัติการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
เป็นอันว่าเที่ยงวันนั้น ผมและไอ้วิวนั่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยตามที่น้องแตงซักประวัติ ขณะที่เราพูดคุยกันนั้นผมรู้สึกโล่งใจยังไงไม่ทราบ อาจเป็นเพราะ ไอ้วิว น้องแตง และผมเข้ากันได้ดีอย่างเหนือความคาดหมายของผม ซึ่งเรื่องนี้ผมเป็นกังวลมาตลอด ถึงตอนนี้อาจสรุปได้ง่ายๆว่าแฟนผมทั้ง2คนต่างสมัครสมานสามัคคีกันดีจัง อดเป็นปลื้มไม่ได้ อิๆๆ ตอนบ่ายอาจารย์หมอ อนุญาตให้ไอ้วิวเข้าพักฟื้นในห้องพิเศษได้ อาจารย์บอกว่ารอให้ยาฆ่าเชื้อครบก่อนจึงจะกลับบ้านได้ ซึ่งเมื่อคิดเป็นเวลาแล้วก็ประมาณ 5 วัน ก่อนที่ไอ้วิวจะย้ายเข้าห้องพิเศษนั้นน้องแตงขออนุญาตป้าละม้ายไปเก็บข้อมูลไอ้วิวต่อที่ตึกห้องพิเศษ ฝ่ายป้าละม้ายก็ไม่มีปัญหา ผมล่ะโล่งใจแทนน้องแตง
เย็นวันนั้นหลังจากที่ผมกลับจากเยี่ยมไอ้วิว ผมก็พาน้องแตงไปทานข้าวต่อ ขณะขับรถไปรับน้องแตงนั้นในใจผมนึกกลัวว่าน้องแตงอาจจับติดว่าผมเป็นคู่ขากับไอ้วิวก็ได้ แต่อีกความคิดหนึ่งปลอบใจผมว่า เป็นไปไม่ได้หรอกน้องแตงไม่ใช่คนหาเรื่องขนาดนั้นอีกอย่างน้องแตงก็เห็นว่าครอบครัวเราทั้ง2 สนิทกันออกอย่างงั้น ฉะนั้นจึงไม่มีทางไหนที่น้องแตงจะคิดเรื่องเกย์ได้นา
ที่ร้านข้าวแกงเปิดใหม่เลยประตู108 ของมหาลัยไปหน่อยที่นั้นมีเด็กมหาลัยมาทานข้าวเต็มไปหมด อาจเพราะรสชาติอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษ ที่นี่ทำให้ผมได้เจอน้องเฟิร์นแฟนเก่าผมครั้งที่เรียน ม.ปลาย เธอมากับไอ้หนุ่มหน้าโหดคนหนึ่ง และอุ้มเด็กเล็กๆมาอีกคน ผมสบตากับเธอครู่หนึ่ง เธอก็หลบหน้าผมไปและบอกไอ้หน้าโหดนั้นว่า ไปซื้อนมให้ลูกก่อนดีกว่าเดี๋ยวร้านจะปิดซะก่อน แต่ไอ้หน้าโหดนั้นไม่ประสีประสาสนใจคำพูดเธอสักเท่าไหร่ จนน้องเฟิร์นต้องตีหลังมัน ต่อมความรับผิดชอบมันจึงจะทำงาน
ภาพนั้นมันติดตาผม มาถึงห้องทำให้ผมอดคิดถึงครั้งรักครั้งแรกของผมกับเธอไม่ได้ ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมาจับใจ ว่าผู้หญิงน่ารักๆอย่างเธอนั้นควรจะได้เรียนหนังสือและแต่งงานกับคนดีๆไป แต่เธอต้องมาอยู่กับไอ้โจรนั้น แต่ก็นะชีวิตใครใครก็เลือกเอาเอง คิดเรื่องนี้อยู่เพลินๆ น้องฟ๋งก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง และบอกผมว่า อยากไปเยี่ยมไอ้วิวกัน ขณะนั้นผมเหลือบไปเห็นเจ้าจอมมันถือตะกร้านมตราหมีสีฟ้าในมือ และทำหน้าส้นตีนให้ผมสงสารช่วยไปส่งมัน ผมก็อดใจอ่อนไม่ได้ ที่จะไปส่ง
เราเดินเล่นหัวกันมาจนถึงห้องไอ้วิว เจ้าจอมเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะประตู เล่นเอาป้าละม้ายตกใจ ส่วนลุงชีพนั้นนั่งดูทีวีสบายอารมณ์ ไม่ได้สนใจ เจ้าจอมเลยโดนป้าละม้ายและไอ้วิวเล่นงานอีกรอบ ผมได้แต่หัวเราะ แต่เจ้าจอมก็ไม่ได้สนใจที่ไอ้วิวหรือป้าละม้ายพูด แถมยังกระโดดขึ้นเตียงที่ไอ้วิวนอนอยู่จนเกือบชนเสาน้ำเกลือล้ม ตอนนี้เจ้าจอมดูเหมือนเด็กขึ้นมาอีกครั้ง(มันน่ารักดีนะผมว่า)
พี่วิว นี้ของฝากจากพวกเรา น้องฟ๋งยื่นของให้ไอ้วิว
ขอบใจ นี่เก็บเงินค่าขนมมากี่สัปดาห์ล่ะ ไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้ เสียงไอ้วิวยังคงแหบๆอยู่บ้าง
เปล่าเลยพี่ จอมมันออกเงินให้ ส่วนพวกผมนั้นแค่ไปซื้อมา และนำมาให้พี่ แบบว่าจอมมันไม่กล้ายื่นให้พี่อ่ะ น้องตั้งขายเจ้าจอมให้พวกเราฟังต่อหน้ามัน เล่นเอาเจ้าจอมเค้นยิ้มออกมาแบบอายๆ
ไอ้วิวหันหน้าไปมองเจ้าจอม แบบสงสัยว่าทำไมไม่ยอมยื่นให้เอง
เล่นเอาเจ้าจอมร้องไห้ออกมา และกอดไอ้วิว
พี่วิวจอมขอโทษที่ทำให้พี่วิวต้องไม่สบาย อือๆๆๆๆๆ
ผมล่ะ งง กับความรู้สึกของเจ้าจอมจริงๆ จะหวั่นไหวก็เล่นเอาง่ายๆ จะเข้มแข็งก็แข็งเอาดื้อๆ
เมื่อเจ้าจอมร้องไห้ เล่นเอาป้าละม้ายและไอ้วิวร้องไห้ออกมาเช่นกัน ส่วนผมนั้นตาชื้นตาแฉะกับเขาด้วย แต่ก่อนที่บรรยากาศจะถึงขีดสุด ลุงชีพพูดตัดบทมาว่า
แล้วจอมกับเพื่อนๆกินข้าวกันยังอ่ะลูก
ยังเลยครับ เจ้าจอมพูดทั้งน้ำตา
งั้นเดี๋ยวไปกินกับลุงนะ ไปล้างหน้าล้างตาซะ
ลุงชีพพาเด็กๆและป้าละม้ายออกไปทานข้าว ทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้วิวที่ห้อง จากวันที่ไอ้วิวไม่สบายจนถึงวันนี้ก็เกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่ผมกับมันไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมได้มีโอกาสอยู่กับมันอีกครั้ง ผมจึงถือโอกาสนี้ จะบอกความในใจให้มันฟัง เมื่อเห็นว่าบรรยากาศปลอดคนแล้วผมจึงลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงใกล้ๆมันและจับมือมันไว้แน่น ไอ้วิวจ้องตาผมแต่ในตามันยังคงอ่อนแรงอยู่
นายรู้ม่ะเราแทบบ้าเลยตอนที่นายเข้าไอซียู ผมพูดแบบไม่สบตามัน
หรอ เสียงมันพูดอย่างสนใจ
อืม ไม่รู้ดิ เราคิดว่าถ้านายเป็นอะไรไปเราคงอยู่ต่อไปไม่ได้ด้วยอ่ะ
ดูหนังเยอะไป ไอ้วิวพูดแก้เลี่ยน
จริงๆนะเว้ย เราเข้าใจความรู้สึกนายแล้วล่ะ ผมพยายามทำให้หวานอีกครั้ง
อืม เพิ่งเข้าใจเนอะ มันหาเรื่องได้เรื่อย
นี้แน๊ะ ไม่ยอมหวานดีนัก ผมพูดจบก็จู่โจมหอมแก้มมัน ไอ้วิวหลบทัน ปากผมจึงไปโดนเอาคางมัน เล่นเอาเรา2 คนหัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดนั้น ผู้ช่วยพยาบาลเข้ามาวัดไข้พอดี
คุณอรรณพยังคงมีไข้อยู่ค่ะ เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้นะค่ะ เสียงผู้ช่วยพยาบาลพูดอย่างหวานหยด
ไม่เป็นไรครับผมเช็ดเองได้ ขอบคุณครับ ไอ้วิวรีบปฏิเสธ
ผู้ช่วยพยาบาลพยักหน้ารับทราบ และออกไป ผมจึงหันมาถามมันว่า
เช็ดเองได้หรอ
โป๊ก ไอ้วิวเคาะหัวผม และบอกว่า
จะเช็ดได้ไง แรงจะถีบนายยังไม่มีเลย
แหมไอ้นี่ปากดี ผมนึก
อ่ะ เราเช็ดให้ก็ได้ ผมลองพูดเล่นๆ
ไม่เอา เดี๋ยวให้แม่กลับมาเช็ดให้ดีกว่า ไอ้วิวทำเสียงอ้อน
ม่ะๆๆๆ ไม่ต้องเล่นตัว คนกันเอง เราเช็ดให้นายเอง ถอดกางเกงออก ผมพูดพลางทำหน้าหื่นกาม
ไม่ต้องเลย เช็ดเองได้ ไอ้วิวพูดและทำท่าเหมือนผมจะข่มขืนมัน
ไม่ต้องมากมาย เราเห็นของนายหมดแล้ว ไอ้5 นิ้วเอ้ย ผมอดหมั่นไส้มันไม่ได้
เป็นอันว่า ผมได้เช็ดตัวให้มันสมใจ ที่อยากจะดูแลมัน ตัวมันร้อนผ่าวอยู่ เมื่อเช็ดตัวให้หมด ผิวมันเริ่มแดงๆ เพราะผมถูแรงไปหน่อย (อิๆๆ) เช็ดไปจนเหลือจุดยุทธศาสตร์ ผมจึงเอาผ้าห่อมือแล้วจะล้วงลงไป ไอ้วิวกลับขยับตัวหนี
เอ้า ไอ้นี่ จะเช็ดได้ไง เร็วอย่าหนี ผมพูดทำหน้าจริงจัง
อายโว้ย ไอ้วิวทำหน้าเป็นเด็ก
แหมๆๆๆ อายขึ้นมาเชียว ผมพูดเลียนแบบ เท่ง เถิดเทิง
ผมจัดการล้วงไปที่อาจู๋ไอ้วิวและปู้ยี่ปู้ยำ ด้วยความหมั่นไส้ จนมันหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี้ ภารกิจเช็ดตัวเสร็จสรรพ ผมจึงหันมาหางานอื่นทำ เพื่อแก้เขิลไอ้วิว ที่ตอนนี้มันนอนมองหน้าผมปานจะกลืนกินแทนผมในตอนแรก
เอ้ยอย่ามองดิ เขิลโว้ย ผมพูดพลางกุมเป้ากางเกง
บ้า ไอ้วิวชมผมสั้นๆ แต่เข้าใจง่าย
ผมนั่งปอกแอ๊ปเปิ้ลให้มันไปสักพัก ลุงชีพก็กลับมา ส่วนเจ้าจอมและเพื่อนๆนั้นลุงชีพไปส่งที่หอแล้ว ผมนั่งคุยกับครอบครัวไอ้วิวสักพัก ก็ขอตัวกลับ เพราะเห็นว่าไอ้วิวเริ่มหาวแล้ว จึงไม่อยากรบกวนมันนาน
ขณะที่ขับรถกลับ มีสายเข้ามาเป็นเบอร์แปลก ผมจึงปล่อยให้มันดังไปโดยไม่ใส่ใจ แต่เจ้ากรรมก็โทรมาอีกสาย ผมจึงรับสาย ปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย บอกผมว่าชื่อเกม เป็นเพื่อนไอ้วิว อยากสอบถามอาการของไอ้วิว ผมจึงแนะนำให้ไปเยี่ยมเองดีกว่า เพราะผมไม่แน่ใจว่าไอ้เกมนี่มาดีหรือร้าย แต่มันกลับบอกว่า อยากถามจากผมมากกว่า เพราะตอนนี้ดึกแล้ว ไม่อยากไปรบกวน ผมเริ่มลังเลที่จะบอกข้อมูลกับมัน จนมันเริ่มรับรู้ได้ มันจึงบอกผมว่า ให้หยุดรถก่อน ตอนแรกผมงง ว่าทำไมต้องหยุดรถด้วย มันเลยบอกผมว่า มันขับรถตามหลังผมอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อเหลือบมองทางกระจกก็เห็น ผู้ชายคนหนึ่ง พยักหน้าเมื่อสบตากับผม ผมจึงตัดสินใจอดรถ เพราะเห็นว่ามันคงทำอะไรผมไม่ได้หรอกเพราะย่านประตู 109 คนเยอะอยู่
เจ้าเกมนี่ดูสูงเท่ากับผมเลยทีเดียว หน้ามันตี๋เถื่อนสะใจดี ผิวสีน้ำผึ้งเหมือนผมทุกอย่าง แต่ที่ต่างกันคือเจ้านี่มันเก่งเรื่องการพูดคุยกับคนแปลกหน้า มันเล่นเอาจนผมรู้สึกว่าคุ้นหน้ามันมาแสนนาน เจ้าเกมมันแนะนำตัวว่ามันเรียน วิศวะที่นี่ แต่ตอนนี้มันยังติดอีกวิชาหนึ่งเลยยังไม่จบ มันเป็นเพื่อนกับไอ้วิวตอนปี1 ปลายๆเทอม (ตอนนั้นผมเลิกกับมัน และไม่ได้รับรู้ว่าไอ้วิวคบใครบ้าง) มันเพิ่งรู้เรื่องไอ้วิวจากเพื่อนมันเมื่อวาน ซึ่งเพื่อนมันที่มีแฟนเรียนพยาบาลอีกที ผมฟังแล้วงงดี เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจมากมาย สนแต่เพียงว่ามันบอกให้ผมหยุดรถทำไม
คืออย่างงี้ครับ เกมอยากสอบถามอาการของหมอวิวเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมาก พอดีเห็นหมอบอสขับรถออกมาเลย รีบขับถามมาเพื่อให้ชัวร์ว่าใช่หรือไม่
และตอนนี้ก็ใช่ ใช่ม่ะ ผมพูดให้ติดตลกที่สุด
ครับใช่ แล้วหมอวิวเป็นไงบ้างอ่ะครับ
ก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับ อาจารย์หมอ บอกว่าคงอีก 5 วันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้
แหมโชคดีจังนะครับ ที่มาไม่สบายเอาตอนที่หยุดเรียน และหายตอนเปิดเรียนพอดี
ครับ ไอ้วิวมันโชคดีเสมอๆแหละครับ
ผมพูดกับเจ้าเกมไปสักพักเริ่มหลงเสน่ห์มันอ่ะ (จริงๆเลยเรา) ผมจึงเผลอใจชวนมันไปนั่งคุยกันต่อที่ร้านเหล้าปั่น ไอ้เจ้านั้นก็รับปากทันที แต่มันบอกว่า ให้ผมเอารถยนต์ไปเก็บก่อน ให้ไปเวสป้าของมันดีกว่า มันให้เหตุผลว่าไม่อยากนั่งรถยนต์เพราะดูแล้วขี้โม้ยังไงไม่รู้ อีกอย่างยังได้
เหล่สาวด้วย ผมพูดแทรก
ป่าวครับเหล่ชายตะหาก มันพูดแล้วหัวเราะรวน
ไม่รู้ว่ามันจะเหล่ชายจริงๆหรือมันพูดเพื่อกัดผมกันแน่ แต่ตอนนี้มันมีคะแนนหมั่นไส้จากผม 1คะแนนแล้ว
ร้านเหล้าปั่นตอนนี้บรรยากาศดีเหลือเกินผมนั่งกับมันได้สักพัก มีชาย2-3คนเดินเข้ามาอีก เจ้าเกมจึงทักขึ้น เป็นอันว่าคืนนั้นที่โต๊ะผมมีเพื่อนมันมานั่งแจมด้วยเป็นวิศวะที่เรียนเป้อ (คนที่ไม่จบ4ปี) กันทั้งหมด ท่าทางเพล์บอยน่าดู การได้รู้จักกลุ่มคนที่แตกต่างไปจากวงการสุขภาพก็ทำให้ผมได้แนวคิดแปลกๆจากพวกนี้เยอะเหมือนกัน เรื่องราวที่เขาพูดก็ต่างจากพวกเราที่ชอบพูด ดังเช่นเรื่องโรงพยาบาล คนไข้ หรือไม่ก็โรคต่างๆ ผมฟังประสบการณ์ต่างๆจากพวกนี้แล้วก็อดอิจฉามันไม่ได้ รู้สึกว่าถึงมันจะเรียนจบกันช้าหน่อย แต่ประสบการณ์ทางชีวิตจริงมันช่างเข้มแข็งเหลือเกิน ซึ่งจากจากผมที่เก่งเฉพาะตัวหนังสือแต่อ่อนปวกเปียกทางสังคม
เรานั่งโม้กันเพลินๆจนร้านปิด เหยือกเหล้าปั่นไม่ต่ำกว่า 8 เหยือกที่กินกัน ไม่รวมของกินอื่นๆ ค่าใช้จ่ายคราวนี้เล่นเอาผมหวั่นเลยทีเดียว ไม่ได้ไม่มีตังค์นะครับ แต่ไม่ได้พกเงินมามากพอ เมื่อพนักงานเสิร์ฟมาคิดเงิน ปาเข้าไป 780 บาท ไอ้เจ้าเกมมันชักแบงค์พันออกมา แล้วบอกว่าไม่ต้องทอนเดี๋ยววันหลังมานั่งอีกขอที่ดีๆแบบนี้ก็พอ เด็กเสิร์ฟดีใจใหญ่ เจ้าเกมหันมามองหน้าผมและยิ้มให้ทั้งๆที่หน้ามันเริ่มแดงๆ (แหม เจ้านี่มันอวดเราอ่ะป่าวเนี๊ยะ ผมนึก) หลังจากลูบหัวลูบหลังเพื่อนใหม่เพื่ออำลากัน ผมก็ซ้อนท้ายเจ้าเกมนี้กลับหอพัก
เวสป้าคันงามของเจ้าเกมจอดไว้ใกล้ๆกับรถยนต์ของผม ส่วนเจ้าของมันเดินขึ้นตามผมไปบนห้อง ในใจผมรู้สึกพิลึกๆยังไงไม่รู้ เหมือนกับว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี่ผมจะทำการทรยศความรักของผมอีกครั้ง หลังจากที่ผมได้ซาบซึ้งกับมันมาตลอด 2 สัปดาห์ ห้วงสำนึกของผมยังคิดถึงไอ้วิว -น้องแตงสลับกัน แต่ผมก็ไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ได้นานเพราะ เจ้าเกมมันเริ่มในสิ่งที่ผมกังวลขึ้นแล้ว เจ้าเกมมันเริ่มโดยการเข้าไปในห้องน้ำผมแล้ว แกล้งตะโกนออกมาว่า
หมอบอส มีโฟมล้างหน้า ป่าวอ่ะครับ
มี อยู่ในตระกร้าตรงหน้ากระจกอ่ะ
ผมบอกไปด้วยในใจนึกอยากให้มันเรียกผมเข้าไปหาให้มัน และเป็นไปตามคาดครับมันเรียกผมเข้าไปในห้องน้ำจริงๆ เมื่อผมหันหลังไปหยิบให้มัน เจ้าเกมก็เริ่มที่จะลวนลามผมด้วยการจับก้นผม 2 มือแล้วขย้ำๆ ผมสะดุ้งโหย่งโดยไม่นึกว่าเจ้านี่จะกล้า ผมรีบหันมามองหน้ามัน ทันทีที่หน้าผมหันมา เจ้าเกมก็รุกเร้าเข้ามาหาผม ริมฝีปากเรา 2 คนถูกันไปมาอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นเรา 2 คนลามเลียกัน เมื่อผมเริ่มเคลิ้มตามมัน เจ้าเกมก็จัดการถอดเสื้อผ้าผมออก ถึงตอนนี้ผมล้อนจ้อนเปลือยเปล่า ตอนนั้นห้วงสำนึกแห่งความรักมันสั่นไหว แต่ก็คงแพ้แรงแห่งห้วงกามที่จ่ออยู่ตรงหน้าผม เจ้าเกมมันเริ่มลดตัวลงมาดูดหัวนมผมจั๊วจ๊าบ ฟังแล้วเสียวดี ผมก็เริ่มเกมบ้างเช่นกัน ผมปลดกระดุมกางเกงยีนส์มันลงด้วยใจหมายจะฝากรักทางหลังให้มัน เมื่อบ็อกเซอร์หลุดออก ทำให้เห็นก้นเจ้าเกมที่มีไรขนออกมาจากร่องก้นอย่างดกดำ ผมจับมันโน้มตัวลงเพื่อจะจัดการมัน ซ่าๆๆๆๆๆๆ เสียงน้ำจากฝักบัวไหลลงมารดตัวผมและเจ้าเกม เล่นเอาเปียกปอนไปตามๆกัน
เอ้ยเปิดน้ำทำไม ผมถามมัน
ก็อยากอาบน้ำอ่ะหมอ มันตอบกวน
เอ้า ผมพูดอย่างเบื่อๆ
นา อาบน้ำก่อนแล้วกัน
เป็นอันว่าสิ่งที่ผมหวังตั้งแต่ขึ้นหอนั้นต้องจบเห่กัน เพราะต้องมาลงเอยด้วยการอาบน้ำ เสร็จจากอาบน้ำ เจ้าเกมมันขอเสื้อผ้าผมมาใส่และบอกผมว่าจะขอค้างที่นี่ด้วย ผมก็ไม่ขัดมัน ทั้งๆที่ผมเพิ่งรู้จักมันในคืนนี้เป็นครั้งแรก อาจเป็นเพราะผมหวังในตัวมันอีกครั้งผมจึงยอมให้คนแปลกหน้าร่วมหลับนอนด้วย แต่ก็ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วเพราะเมื่อผมปิดไฟ เจ้าเกมก็เริ่มหลับอยากกะคนตายจนเช้า ในขณะที่ใจผมจดจ่ออยู่กับเรื่องเซ็กส์ มันช่างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนเช้าเจ้าเกมมันตื่นก่อนผม ก่อนไปมันยังบอกผมว่าเดี๋ยววันหลังจะชวนไปนั่งที่ร้านเหล้าปั่นนั่นอีกครั้ง ผมก็พยักหน้ารับคำเชิญชวนมัน หลังจากส่งแขกข้ามคืนแล้วผมก็ต้องรีบแต่งตัวไปเรียนที่คณะ วันนั้นกว่าจะเสร็จสิ้นเรื่องที่คณะก็ปาเข้าไปเกือบเย็น ผมเริ่มหิวแต่ก็ยังไม่หาอะไรกินด้วยใจหวังจะพาน้องแตงไปทานฟูจิด้วยกัน แต่ก่อนจะถึงคิวน้องแตง ผมก็ต้องแบ่งเวลาไปให้เมียหลวงผมก่อน ที่ตึกห้องพิเศษ วันนี้บรรยากาศมันดูเงียบๆ ผมเห็นแล้วรู้สึกเศร้าอย่างไม่มีเหตุผล อาจเป็นเพราอากาศช่วงนี้ด้วยมั้ง ผมนึกเล่นๆก่อนที่ลิฟต์จะเปิดออก ผมเปิดประตูห้องเข้าไปในห้องที่ไอ้วิวอยู่โดยไม่เคาะประตูเพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนสนิทจึงไม่จำเป็นต้องเคาะ แล้วภาพที่ผมเห็นนั้นก็คือยอดรักของผมทั้ง2 คนนั่งป้อนข้าวให้กันและกัน แว๊ปแรกที่เห็นนึกหึงขึ้นอยากจับใจ หน้าชาๆตึงๆอย่างบอกไม่ถูก แต่ใจหนึ่งห้ามผมไว้และบอกว่า ดีแล้วที่เขาเข้ากันได้ดี (ผมนี้บ้าจริงๆ ที่หึงทั้ง2 คนนั่น)
เอ้าพี่บอส มาพอดี น้องแตงวางช้อนลงในชามข้ามต้ม
ผมพยักหน้ารับคำทักทายของน้องแตง
ไงวันนี้ เลิกเรียนช้าจัง ไอ้ตัวโต ไอ้วิวแหย่ผมเล่น
อืม เล่นซะเราเป็นยักษ์ไปเลยนะ พูดจบเรา3 คนก็หัวเราะกันใหญ่
เรา 3 คนนั้นนั่งคุยกันจนลืมเวลา 1 ทุ่มกว่าๆป้าละม้ายกลับมาจากข้างนอกก็ซื้อของฝากมาเต็มไม้เต็มมือ สรุปว่าค่ำวันนั้นผมกับน้องแตงก็ไม่ได้ไปกินฟูจิกันตามแผนที่ผมวางไว้เพราะอิ่มหมูย่าง ข้าวเหนียวจากงานเกษตรประจำปีของมหาลัยที่ป้าละม้ายซื้อมาฝาก หลังจากเสร็จจากมื้อเย็นนั้น ผมก็ต้องรีบขอลาป้าละม้ายก่อนเพราะต้องไปจองตั๋วเครื่องบิน เพราะเสาร์หน้านี้ผมต้องไปทำธุระที่กรุงเทพกับเพื่อนๆที่คณะ เราไปกัน1 สัปดาห์ ก่อนไปผมมีท่าทีแบบชวนน้องแตงออกมาด้วยเพื่อหวังให้ไปเป็นเพื่อนผม แต่ดูเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมส่งออกไป จะพูดออกมาตรงๆก็เกรงใจไอ้วิวที่มันเริ่มสังเกตท่าทางผมออก มันสบตาผมอย่างคนรู้ใจกัน จนผมต้องหลบและกล่าวคำลาแต่เพียงผู้เดียว เมื่อผมเดินไปเปิดประตู น้องแตงเดินมาเปิดประตูให้ผม และยิ้มละมัย
เดี๋ยววันนี้แตงขอรบกวนเพื่อนพี่บอสอีกวันนะค่ะ พอดีแตงยังค้างซักประวัติพี่หมอวิวเรื่อง จิต-สังคมอ่ะค่ะ
น้องแตงพูดจบผมพยักหน้าให้และยิ้มอย่างชายชาติทหารที่มีใจเอื้อเฝื้อต่อสตรี (ตอนนั้นคิดว่าตัวเองแมนสุดๆ) หลังจากจองตั๊วเสร็จผมรู้สึกว่ามันหงุดหงิดอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เจออะไรก็รู้สึกรำคาญไปหมด แม้แต่เสียงนาฬิกาที่ห้อง เมื่อถึงเวลามันก็จะร้องบอกเวลาตามปกติของมัน แต่วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่มันจะได้ทำหน้าที่ของมันก่อนที่ลูกกอร์ฟในมือผมจะบินไปโดนกระจกมันแตกและร่วงลงมา จะหันมาเปิดเพลงฟัง ก็ยิ่งทำให้รำคาญสุดๆเพราะมุขที่ฝืดยังกะตอนที่เอากันแล้วลืมทาเค-วายของดีเจมันสร้างความรำคาญได้อย่างดี ………..รำคาญโว้ยยยยยยย
ผมจึงตัดสินใจวิสัญญีตัวเองด้วยยานอนหลับที่ไอ้วิวแอบเอามาจากโรงพยาบาลตอนขึ้นฝึก 2 เม็ด เป็นอันว่าได้ผลครับ หลับสนิทตลอดคืนแบบไม่ไหลย้อนกลับ (นั้นมันผ้าอนามัยนี่หว่า) 8 โมงเช้าวันพฤหัส ไอ้วิวโทรมาหาผมและบอกว่ามาช่วยเก็บของป้าละม้ายหน่อยพอดีวันนี้อาจารย์หมอให้มันกลับบ้านได้แล้ว ผมล่ะดีใจสุดๆ จึงรีบไปโรงพยาบาลทันทีหลังจากที่แปรงฟันเสร็จ ตะกร้าเยี่ยม ดอกไม้สดและของจิปาถะที่ผมช่วยขนลงมาเล่นเอาเต็มหลังรถเหมือนกัน
เดี๋ยวไปส่งที่ไหนครับป้า
ที่บ้านเลยลูก เดี๋ยวคืนนี้ป้าให้วิวนอนบ้านก่อนสักคืนนะ
ครับ งั้นผมนอนบ้านด้วยดีกว่า คิดถึงแม่ อิๆ ผมทำเสียงอ้อนป้าละม้าย จนไอ้วิวเหลือบมองอย่างรู้ทันว่าผมล้อมัน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

4. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #3
 
26-Aug-12, 10:30 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เสร็จจากส่งไอ้วิว ผมก็กลับมานอนบ้านจริงตามที่คุยไว้เพราะขืนนอนหอพักคนเดียวเหงาตายเลย ผมนั่งฟังข่าวตอนเย็นพลางคลอเคลียไปกับศัตรูหมายเลข 1 คือไอ้ลำดวน แมวซาตาน เล่นกับมันไปสักพักน้องแตงโทรเข้ามาพอดี ผมเลยคุยกับน้องแตงไปเท้าก็เขี่ยๆไอ้ลำดวนไป จนประโยคหนึ่งที่น้องแตงพูดจนผมต้องสะดุดกึก
พี่หมอวิวมีแฟนรึยังอ่ะค่ะ พี่บอส
โอ้ย ผมร้องออกเสียงดัง เพราะไอ้แมวนรกมันข่วนผมตรงแข้งเป็นทางยาว แต่ไม่มีเลือดออก
ผมตอบน้องแตงไปก่อนที่น้องแตงจะถามว่าเป็นอะไร และยังบอกให้น้องแตงถามไอ้วิวเองเรื่องแฟนมัน เพราะผมหวังใจว่าถ้า 2 คนนี้ได้คุยกันอีกจะเป็นการเปิดทางให้เข้าใจกันมากขึ้น และคนที่ได้ผลกำไรเต็มๆคือผม เมื่อ 2 ศรีภรรยาเข้าใจกัน อิๆๆๆๆๆๆ
หลังจากวางสายน้องแตง ผมก็จัดการคาดโทษ ฟันคอริบเรือนไอ้ลำดวน อย่างสมกับความผิดมันที่ริอาจป้องร้ายกับเจ้านายผู้แสนดีของมัน จนแม่ต้องดุผมอีก เมื่อท่านเห็นว่าผมรังลูกรักของท่าน(รักแมวมากกว่าลูก ฮึ )
เย็นวันศุกร์ผมชวนไอ้วิวที่พึ่งฟื้นจากไข้ไปว่ายน้ำกัน แต่มันไม่ยอมลงสระน้ำเพราะเกิดอาการกลัวแหล่งน้ำขึ้นมาอย่างจับใจ ปล่อยให้ผมว่ายไปคนเดียว ส่วนมันนั่งดู เป็นโค้ชให้ เหมือนโฆษณาในทีวีที่นักว่ายน้ำหล่อแต่โค้ชบ้าระห่ำ (โทษทีจำชื่อสินค้าโฆษณาไม่ได้) ที่สระน้ำวันนั้นผมได้เจอเจ้าเกมอีกครั้ง ที่รถขายน้ำผลไม้ข้างๆสระ ผมทักทายกับมันอย่างคนรู้จัก ส่วนไอ้วิวเงียบสนิท ในใจผมคิดว่ามันต้องหึงผมแน่ๆ (ไอ้นี่ๆ)
เอ้ยเมื่อกี้ ไอ้เกม วิศวะ เพื่อนนาย ทำไมไม่ทักมันหน่อยอ่ะ ทำตัวเป้นหมอขี้เก๊ก ระวังคนอื่นหมั่นไส้นะ
เพื่อนไหน ไม่รู้จักสักเกม
เอ้า วันก่อนมันยังถามอาการนายเลย ผมเริ่มงง
ไม่รู้จัก โว้ย ไอ้วิวทำหน้าจริงจัง
เอ้ หรือว่ากิ๊กเก่า อย่ามาทำไขสือนะ กิ้วๆๆๆๆ ผมล้อมัน
อย่ามาทะลึ่ง ไอ้วิวชักขุ่น
อาจจริงที่ไอ้วิวไม่รู้จักเจ้าเกม เมื่อผมประเมินจากท่าทีมัน แล้วไอ้ที่เจ้าเกมบอกผมคืนก่อนมันก็มั่วอ่ะดิ(เอาแล้วไอ้เกมนี้) มันแอบชอบผมแน่ๆเลย แหมไม่น่าเอามุขอย่างงี้มาเล่นเลย บอกกันตรงๆก็จัดให้ได้ เท่ห์ขนาดนั้น ผมนึกพลางกินข้าวพลางจนไอ้วิวสงสัย แต่ผมแกล้งยิ้มกลบเกลื่อนไปและบอกมันว่า ก็ดีใจที่ได้ทานข้าวกับนายอีกครั้ง
คืนนั้นตอนตี3 เห็นจะได้ ผมฝันเห็นพญามัจจุราชอีกครั้ง เหมือนครั้งก่อน ที่เคยมากราบผมลงกับพื้นแล้วผุดลุกขึ้นชิงดวงแก้วจากมือผมไป ผมสะดุ้งตัวตามแรงกระชากของพญามัจจุราชนั่น เล่นเอาเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด
เป็นอะไร เมน จะหมดหรอ นอนสะดุ้งซะ ไอ้วิวตื่นตามแรงลั่นของเตียง เสียงมันงัวเงีย
เปล่าๆ ฝันร้ายอ่ะ ผมบอกมันขณะที่เสียงผมยังตื่นเต้นอยู่
กินมากไปอ่ะดิ ตอนเย็นอ่ะ เลยฝันร้าย ไอ้วิวพูดเสียงอยู่ในคอ
วิว ขอกอดนายหน่อยดิ ผมอ้อนมัน
เอ้ย อึดอัด อย่ากอด
นา คนดี
ไม่เอา ไอ้วิวขัดขืน
และแล้วพญามัจจุราชที่ปลุกผมให้ตื่นขึ้นนั้น ก็ทำให้ผมต้องเสียหลังให้แก่ไอ้วิว เมื่อไอ้วิวมันเริ่มรำคาญที่ผมรบเร้ามัน มันจัดการผมซะอย่างบ้าคลั่ง จนผมหมดแรงที่จะแก้แค้นคืน เช้าวันนั้นผมไปสนามบินทั้งๆที่ยังอ่อนแรงอยู่ การไปกรุงเทพของผมครั้งนี้ผมไปกับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อติดต่อหาข้อมูลบางอย่างที่มหาลัยดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ส่วนไอ้วิวนั้นอยู่หาดใหญ่ไปตามลำพังเพราะมันมีเรียน ขณะนั่งเครื่องนั้น ผมยังคงนึกถึงเรื่องความฝันเมื่อคืน มันเป็นฝันที่ผมเคยฝันแล้วครั้งหนึ่ง นานแล้วจำไม่ได้ว่าวันไหน แต่ครั้งนี้ผมกลับฝันเรื่องนี้ซ้ำอีก มันแปลกจริงๆหรือความฝันนี้จะบอกเหตุอะไรให้ผมทราบ คิดไปคิดมาผมเริ่มฟุ้งซ่าน จนเพื่อนอีกคนสะกิดผมเพื่อคุยเรื่องงาน
ที่กรุงเทพผมกับเพื่อนนั้นวางแผนกันว่าเสร็จจากการทำธุระแล้วจะแอบเที่ยวซะให้หนำใจ แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่คิดเมื่องานที่มาทำกับช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์นั้น เริ่มไม่พอ ทำให้ผมต้องทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับงาน และไม่มีเวลาที่จะโทรหาไอ้วิว น้องแตงหรือแม้แต่แม่ผมเอง
เสร็จจากหาข้อมูลทางด้านวิชาการแล้วผมมีเวลาอีกหนึ่งคืนที่กรุงเทพ ที่จะให้ผมเที่ยวหรือทำอะไรที่อยากทำก่อนที่จะกลับหาดใหญ่พรุ่งนี้เช้า เรา3 คนตัดสินใจที่จะนอนเพราะเราเหนื่อยเกินไปที่จะออกเที่ยวได้
ผมถึงหาดใหญ่ก็ตอนบ่ายๆไปแล้ว คนแรกที่ผมโทรหาก็คืนน้องแตง ด้วยความคิดถึงและอยากได้ยินเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ แต่เธอกลับไม่รับสายผม ผมจึงให้โอกาสคนต่อไปคือ ไอ้วิว ยอดยาหยี เสียงไอ้วิเหนื่อยๆ ผมจึงถามมันว่าเป็นอะไร มันบอกผมเพียงว่าจัดของอยู่เดี๋ยวค่อยคุย ผมก็ไม่อยากกวนมันทั้งที่ใจผมอยากให้มันมารับที่สนามบิน
เป็นอันว่าผมกลับหอพักผมโดยให้เพื่อนที่คณะอีกคนมารับ เหตุที่ผมไม่โทรหาพ่อหรือแม่นั้นเพราท่าน 2 คนไม่ว่างแน่ๆขืนโทรไปท่านก็กังวลเสียเปล่าๆ เพื่อนที่คณะผมมาส่งผมที่หอแล้วเลยไปส่งอีก 2 คนที่อีกหอหนึ่ง ผมแบกกระเป๋าไปถึงห้องก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนไอ้วิว 3 คนกำลังขนของออกจากห้อง
เอ้ยทำอะไรกันอ่ะ พวกนายอ่ะ เสียงผมหงุดหงิด
อ๋อ ช่วยวิวขนของ ไอ้ตัวโย่งนั่นตอบ
เอ้า ขนไปไหนอีกล่ะ
ไอ้วิวโผล่หน้าออกมาจากห้องและยิ้มให้ผมอย่างคนอารมณ์ดีว่า เราจะย้ายเข้าหอพักข้างใน
เอ้า ทำไมอ่ะ อยู่นี่ก็ดีแล้วนี่นา
เบื่อว่ะ ไอ้วิวตอบผมสั้นๆ แบบคนไม่มีเหตุผล
ผมโมโหได้ในทันที แบบเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์กลับมาแล้วเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้อีก แต่ผมก็ไม่อยากคัดค้านอะไรมันมาก เพราะไม่อยากมีเรื่องกับมันต่อหน้าเพื่อนมัน ผมนั่งมองมันยกข้าวของออกไปทีละชิ้นๆ จนห้องผมโล่งไปถนัดตา ใจผมสั่นริกๆ เหมือนกำลังสูญเสียบางอย่าง แต่ผมก็ไม่สามารถทัดทานอะไรได้
เพื่อนไอ้วิวลงไปคอยข้างล่างหมดแล้ว ไอ้วิวขึ้นมาเอาโน๊ตบุ๊คของมันซึ่งเป็นของชิ้นสุดท้าย ก่อนออกไปไอ้วิวหันมายิ้มกับผมแล้วบอกผมว่า แล้วเจอกันนะบอส เพื่อนรัก
เดี๋ยว วิว นายพูดว่าเพื่อนรัก หรอ
อืม ไอ้วิวพยักหน้า
นี่มันอะไรกันอ่ะวิว อธิบายหน่อยดิ
ก็ย้ายหอไง ไอ้วิวเริ่มพาล
ผมก้มหน้าลงพร้อมกับหยดน้ำตาที่เป็นสาย เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางที่ไอ้วิวมันทำอย่างคนห่างเหินกัน แบบไม่มีเหตุผลมาก่อน เสียงรถยนต์เพื่อนมันแล่นออกไปจากใต้หอผม ใจผมหล่นวูบลงไปกองกับพื้น สิ่งเดียวที่ผมทำในตอนนี้คือร้องไห้ ร้องไห้เหมือนครั้งที่มันนอนห้องไอซียู ในห้องผมตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัว เศษซากนาฬิกาที่ผมปามันนั้นดูคล้ายกับฟันของปิศาจ ผมนอนร้องจนผ้าปูที่นอนผมเปียกด้วยหยดน้ำตา นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมร้อง แต่รู้ว่าตอนนี้ตามผมบวมอีกแล้ว
พี่บอสครับ เสียงเจ้าจอมมารียกหน้าห้อง
อืมว่าไงจอม ผมปาดน้ำตา
จอมเข้าไปนะครับ เสียงเจ้าจอมอบอุ่นพิลึก
อืม เข้ามาเหอะน้อง
เหมือนเจ้าจอมมันรู้อะไรบางอย่างเรื่องการย้ายหอของไอ้วิว แต่ผมก็ไม่รบเร้าจะถามมัน ผมอยากให้มันบอกผมเองมากกว่า แล้วสิ่งที่ผมอยากรู้ผมก็ได้รู้ เมื่อเจ้าจอมอธิบายว่า ตอนที่ผมไปกรุงเทพสัปดาห์หนึ่งนั้น ลุงชีพพ่อผู้ใจดีของไอ้วิวนั้นมาเตะและตีไอ้วิวถึงห้อง โดยที่เจ้าจอมมันไม่รู้ว่าลุงชีพโกรธไอ้วิวเรื่องอะไร เหมือนกัน หลังจากนั้นไอ้วิวก็ซึมๆลงไป มันถามอะไรก็ไม่พูด มีแต่น้องแตงเท่านั้นที่คอยมาปลอบไอ้วิวอยู่เกือบทุกวัน บางวันก็มาอยู่เป็นเพื่อนที่ห้อง ดึกแล้วก็ยังไม่กลับจนมันและเพื่อนๆต้องกลับห้องไปก่อน ผมฟังเจ้าจอมเล่าเสร็จก็พอจะเดาเรื่องราวได้ คราวนี้ผมไม่ร้องไห้อีกแล้ว ผมเลือกที่จะกลับบ้าน เพื่อที่จะไปถามแม่ให้รู้เรื่อง
กลับไปถึงบ้าน ไม่มีใครอยู่บ้านสักคน มีแต่พี่หล่อยกับไอ้ลำดวน มันทำให้ผมยิ่งโมโหขึ้นอีก โธ่ โว้ย ผมขวางแจกันดอกไม้ในห้องรับแขก ลงกับพื้นด้วยความโมโห เป็นจังหวะเดียวกันที่แม่ผมมาถึงบ้านพอดีและตามติดมาด้วยพ่อ แม่มาทันเสียงแจกันแตก เมื่อท่านเห็นแล้วก็พาลเงียบอย่างร้ายกาจ โดยที่ไม่ดุผมเหมือนที่เคยทำ คงมีแต่พ่อที่บอกผมว่า โมโหอะไรก็อย่าทำลายข้าวของ ฟังพ่อพูดจบ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนโดนยุให้โมโหบ้ายิ่งขึ้น ผมเถียงพ่อคำต่อคำอย่างที่ไม่เคยหยาบคายแบบนี้มาก่อน ประโยคสุดท้ายที่ผมได้พูดก่อนที่เลือดจะกลบปากคือ พ่อเคยรู้อะไรบ้าง
เปี๊ยะ เสียงฝ่ามือแม่ ฟาดลงบนแก้มผมอย่างที่ไม่ได้ทันตั้งตัว
ผมหน้าหันไปตามแรงฝ่ามือของแม่ การกระทำของแม่ในคราวนี้มันทำร้ายจิตใจผมมาก ผมทนไม่ไหวต้องรีบเดินออกจากบ้านเพื่อกลับหอ
หยุดตรงนั้นนะ หมอ เสียงพ่อผมดุ อย่างไม่คุ้นเคยอีกเช่นกัน
ผมหยุดนิ่งทันที ตอนนี้ในใจผมเต้นเหมือนกลองศึกที่พร้อมจะแตกทะลุ มือเย็นๆสั่นๆของพ่อกระชากผมเข้าไปในบ้าน ด้วยลักษณะทางกายภาพของพ่อที่เท่าๆกันกับผม ท่านจึงสามารถสู้แรงผมได้ เสียงแม่ปิดประตูบ้าน และเดินมาสมทบกับพ่อที่โซฟา ห้องรับแขก
ไหน บอกแม่สิโมโหอะไร เสียงเนี๊ยบเหมือนเดิมของแม่ขู่ผม
เปล่าครับ ผมแสดงสีหน้าอย่างเด็กหยาบคาย
อย่ามาหยาบคายนะบอส แม่ดุ
เงียบทั้ง 2 คน พ่อผมขึ้นเสียง จนไอ้ลำดวนถึงกับวิ่งหนี
หมอฟังพ่อนะ พ่อกับแม่ตามใจหมอมาทุกอย่าง ทุกอย่างที่เด็กคนหนึ่งจะได้รับ และโชคดีกว่าเด็กอีกหลายๆคน สิ่งดีๆที่พ่อให้นั้นก็หวังว่าหมอจะได้เป็นคนดี อย่างน้อยก็คนดี ของพ่อแม่ แล้วทุกวันนี้หมอทำอะไรลงไป หมอบอกพ่อสิ พ่อหยั่งเชิงผม
ผมเลือกที่จะไม่ตอบ แต่ตัวผมยังสั่นเทา
อย่าคิดว่าพ่อไม่รู้นะหมอ เราเลี้ยงหมอมาเองกับมือ พ่อกับแม่รู้จักหมอดี
ผมก็ตามใจพ่อทุกอย่างแล้วไม่ใช่ หรอ ผมเลือกเรียนหมอตามที่พ่อต้องการแล้วนี่
ใช่เพราะลูกเป็นหมอไง พ่อเลยต้องพูดเรื่องนี้ในวันนี้ หมอเขาจะต้องมีภูมิรู้ เพื่อเกียรติของวิชาชีพและเพื่อความน่าเคารพของตนเอง และเพื่อประโยชน์ของคนไข้
ผมก็ทำแล้วนี่ ผมไม่ดีตรงไหนอีก หูผมเริ่มอื้อ
ตัวเองย่อมไม่เห็นความผิดตัวเองหรอก พ่อและลุงชีพเลยต้องแก้ไขไง ในฐานะคนที่เฝ้ามอง
นี่หมายความว่า พ่อและลุงชีพบังคับให้วิวย้ายหอหรอ ผมลูบหัวอย่างหัวเสีย
ไม่มีวันที่พ่อจะแยกความรู้สึกผมกับมันได้หรอก ตาผมรื้อๆด้วยน้ำตา
มีสิก็วันนี้ไงพ่อและลุงชีพได้ทำให้ลูกแยกกันอย่างน้อยก็เรื่องที่หลับนอน พ่อผมข่มเสียงให้เย็นที่สุด
โธ่โว้ย ผมลุกขึ้นอย่างโมโหสุดๆ
ผมเหมือนจะอกแตกตาย ด้วยความโมโห แต่ด้วยสายตาที่เฉียบขาดของแม่และแววตาอบอุ่นของพ่อทำให้ผมไม่กล้าที่จะลุกออกไปจากบ้าน คืนนั้นอีกคืนที่ผมต้องนอนร้องไห้อยู่ที่บ้านคนเดียว เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ ผมตื่นขึ้นมาด้วยหวังว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น จากการนอนคิดตั้งแต่เมื่อคืนว่าผมจะต้องห่างกับไอ้วิวสักพักก่อนดีกว่า ให้เรื่องมันสงบก่อนแล้วผมค่อยสานต่อกับมัน ผมได้แต่หวังว่าไอ้วิวคงคิดเหมือนผม
ตอนบ่ายของวันนั้นผมโทรไปหาน้องแตง เธอบอกว่าเธออยู่หอผมจึงบอกว่าเดี๋ยวจะไปรับเพื่อพาไปแหลมสมิหลา แต่เธอปฏิเสธผมบอกว่ามีนัดกับเพื่อนแล้ว หลังจากน้องแตงวางสายเสร็จ ผมมานั่งคิดด้วยอารมณ์ขุ่นมัวว่าอะไรว่ะกลับมาจากกรุงเทพคราวนี้ทำไมทุกอย่างมันดูเปลี่ยนไปหมด ทั้งครอบครัวผมเอง ไอ้วิวแล้วไหนจะน้องแตงอีก นี่เรากลับมาถูกที่จริงหรือเปล่านะ ความสับสนมันวกวนในใจผมตลอด และผมก็เริ่มเหงาขึ้นมา ผมจึงตัดสินใจโทรหาเด็กๆเพื่อจะพาไปเที่ยวอย่างน้อยอยู่กับพวกนี้ก็อาจทำให้ผมสบายใจขึ้นมาบ้าง
ตอนเย็นหลังจากที่เราเดินเล่นกันที่ชายหาดและเริ่มเหนื่อยแล้ว น้องตั้งก็บอกว่าอยากไปเที่ยวเกาะยอต่อ ผมจึงขับรถพาไปเที่ยวตามคำขอ อากาศบนสะพานติณสูลานนท์ที่เกาะยอยามเย็นมันโปร่งมาก ลมทะเลพัดแรงเล่นเอาหนาวได้เลยทีเดียว ชาวประมงกำลังขับเรือผ่านไปมาใต้สะพาน รถราที่ขับบนสะพานผ่านไปมาอย่างเร่งรีบ ตอนนี้เด็กๆถ่ายรูปกันบนสะพาน ตอนอาทิตย์ตกน้ำ ผมดูแล้วช่วยให้ผมผ่อนคลายลงได้บ้าง ฟ้ามืดแล้วผมจึงขับรถกลับหาดใหญ่ ในรถเสียงดีเจเปิดเพลง เคยรักกันบ้างไหม ของเสก โลโซ ผมฟังแล้วมันสะท้อนใจตัวเอง นึกถึงคืนก่อนที่เคยออกมาสมิหลากับไอ้วิว
เอ้ย พี่วิวโทรมา เสียงเจ้าจอมพูด เพื่อให้ผมได้ยิน ตอนนี้ผมคิดว่าเจ้าจอมมันก็คงรู้ว่าผมกับไอ้วิวเป็นอะไรกัน
ครับพี่วิว อออยู่กับพี่บอสครับ
ครับ
กำลังนั่งรถกลับหาดใหญ่ครับ
ไปเที่ยวแหลมสมิหลามา สนุกดี
ครับๆๆ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

5. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #4
 
26-Aug-12, 10:31 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เมื่อเจ้าจอมวางสายจากไอ้วิว มันหันมามองหน้าผม เพื่อรอคำถามจากผม แต่ผมไม่อยากถามมันหรอก เพราะผมไม่อยากคิดเรื่องนี้ในตอนนี้ ขับรถมาถึงย่านมหาลัยเด็กๆขอลงไปซื้อข้าว ปล่อยให้ผมนั่งคอยบนรถ แว๊ปนึงที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับผ่านมา ผมจำคนขับไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่มันดูคล้ายไอ้วิว ส่วนคนซ้อนท้ายคือน้องแตง แน่นอนผมจำเธอได้ ใจผมมันร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องข่มมันไว้ก่อน เพราะผมเหนื่อยมากแล้ว ผมคิด
คืนนี้ผมกลับมานอนบ้านอีกครั้ง โดยไม่ได้โทรมาบอกแม่ก่อน กลับมาถึงบ้านผมก็เจอพ่อ แม่ ป้าละม้าย และลุงชีพ อยู่พร้อมหน้า เล่นเอาผมอายอย่างบอกไม่ถูก ผมเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปข้างบน แต่ไม่ทันเดินผ่านไป เสียงพ่อผมเรียกให้ผมมานั่งที่โซฟาใกล้ๆป้าละม้าย
ผมนั่งลงอย่างเด็กว่าง่าย ผมรู้ชะตากรรมผมดีว่าเดี๋ยวผมจะโดนถามเรื่องอะไร แล้วมันก็เป็นจริงเมื่อแม่ผมเริ่มประเด็น และคนอื่นๆก็พูดให้ฟังโดยใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุด ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับว่าใครพูดอะไรบ้าง(แต่อาจจำได้ไม่หมด แต่ก็เค้าเรื่องอย่างที่จะเล่า)
ลุงชีพ : บอส ลุงรู้เรื่องลูกทั้ง 2 คนหมดแล้วนะลูก มันไม่ใช่ความผิดใครหรอกลูกเรื่องนี้เพราะลุงเป็นคนบังคับแม่ของลูก ป้าละม้าย และวิวให้เล่าลุงเอง ลุงทำไปเพื่ออนาคตของลูกทั้ง 2 คนนะ ลุงหวังว่าบอสเข้าใจลุงกับพ่อ
ป้าละม้าย: ป้าไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องที่ลูกทั้ง2ทำนั้นมันเลวร้ายหรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่านะลูก ป้าเคยเจอเรื่องนี้แล้วตอนวิวเรียนที่กรุงเทพ ป้าห่วงแต่แม่ของบอสแหละว่าจะทำใจได้มั๊ย
พ่อ: หมอ หวังว่าหมอเข้าใจที่พ่อหวังนะลูก
แม่: ทุกคนพูดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว แม่อยากจะบอกอีกเรื่องว่า แม่หวังให้ลูกกับวิวเป็นเพื่อนตายกันนะลูก แม่ก็ทนไม่ได้ถ้าเรื่องวันนี้ทำให้ลูก 2 คนเลิกเป็นเพื่อนกัน
ผมก้มหน้ารับฟังผู้ใหญ่สอน โดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วผมก็ขอตัวไปนอนก่อนที่ป้าละม้ายและลุงชีพจะกลับบ้าน คืนนั้นผมหลับลงด้วยความกังวลใจสุดๆ ในใจยังนึกถึงภาพน้องแตงซ้อนท้ายชายคนนั้นที่ดูคล้ายไอ้วิว
เที่ยงคืนพอดีเพื่อนที่ผมไปทำงานกลุ่มโทรมาหาปรึกษาเรื่องงานที่จะนำเสนอในวันรุ่งขึ้น ผมคุยกันกับเพื่อนกว่าจะวางสายไปก็ปาเข้าตี 2 แล้ว จากนั้นผมก็นอนไม่หลับอีกเลยเพราะมัวแต่คิดเรื่องเมื่อตอนเย็น หากเป็นน้องแตงกับไอ้วิวจริง ผมจะทำยังไงดี ควรจะดีใจ หรือเสียใจดี หากจะดีใจก็คงดีใจที่ทั้ง 2 คนเข้ากันได้ดี อย่างที่ผมเคยคิดตั้งแต่ตอนแรก แต่หากจะเสียใจก็คงไม่พ้นเรื่องของการหึงหวง กลัวไอ้วิวจะแย่งน้องแตงไปจากผมเพราะด้วยเหตุผลที่ผมบังอาจนอกใจมันเหมือนที่มันเคยทำมา ยิ่งคิดมันก็ยิ่งวุ่น พาลให้ยิ่งนอนไม่หลับ ผมนอนตาสว่างจนเช้า เลยลุกขึ้นปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวแล้วก็นั่งรถมาที่คณะกับพ่อ ระหว่างนั่งรถมานั้นผมสังเกตกิริยาอาการของพ่อและแม่ผมนั้น ท่านทำเหมือนปกติทุกอย่าง เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น การแสดงออกของพ่อแม่ผมทำให้ผมรับรู้อะไรบางอย่างว่าที่ท่านพูดไปนั้นท่านคงปราถนาดีกับผมจริงๆ ไม่เช่นท่านยังคงตอแยกับผมไม่เลิก หากท่านปองร้ายกับผม
วันนี้ทั้งวันผมรู้สึกว่าเพลียมากจากงานที่โหลดจนหนักหนา อีกทั้งเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ไม่ลงตัว มิหนำซ้ำเมื่อคืนยังไม่ได้นอนอีก เอ้อ ....แต่ก็เสร็จจากงานนี้ผมก็ได้หยุดยาว 1 สัปดาห์ แต่มันก็คงไร้ค่านั้นแหละครับ ก็ผมดันมาหยุดเอาตอนที่ ไอ้วิวไม่ว่าง น้องแตงก็ขึ้นฝึกงาน คงเหลือแต่ผมคนเดียวที่ต้องร่อนเร่ไปมาในตอนกลางวัน คิดเรื่องการวางแผนชีวิตช่วงวันหยุดอยู่เพลินๆ เจ้าเกมมันก็โทรมาหาผมพอดี
เออ หมอบอสหรอ เสียงมันแจ่มใส
อืม มีไรเกม เสียงผมเบื่อๆ
ว่างป่ะ
อืมคุยได้
ป่าวไม่ได้โทรมาชวนคุย แต่จะชวนไป เป็นเพื่อนเลือกรองเท้าหน่อย
อืมได้ๆ เมื่อไหร่อ่ะ
ตอนนี้เลยครับ เสียงมันยังสดใสได้เหมือนเดิม
เป็นอันว่าบ่ายวันนั้นผมก็มีเจ้าเกมนี่มาช่วยฆ่าเวลาให้หมดไปอีกวันนึง รสนิยมการแต่งตัวเจ้านี่มันจะชอบของที่แปลกแหวกแนว ดูเรียบๆแต่โก้ ซึ่งอาจเรียกง่ายๆว่าเรื่องมากก็ไม่ผิด มันพาผมวนเวียนไปทั่วเมืองหาดใหญ่ จากห้างดังสู่ร้านรูหนูสกปรก เพื่อหารองเท้าคู่ที่ตรงใจมัน แล้วท้ายที่สุดมันก็ได้รองเท้า ที่สมใจอยากมันตรงร้านแรกที่เราเข้าไปเลือก ในใจผมนั่นอยากมะเหง็ก มันสักโป๊ก ให้สมใจ เพราะนั่งเวสป้ามันตะลอนๆนั้นก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นอีกทั้งไหนจะแดดยามบ่าย ไหนจะไฟแดงด่านมรณะ ไหนจะควันรถ นึกแล้วเอียนเลยครับ หลังจากเลือกรองเท้าราคา 1230 บาท ที่สมใจมันแล้วมันก็ตอบแทนผมด้วยการเลี้ยงไอศกรีม 1 แก้วที่ SWENSEN ขณะที่ผมนั่งพลิกๆเมนูอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นน้องแตงนั่งกับไอ้วิวที่โต๊ะถัดไป ผมแทบกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ เพราะอยากเจอ 2 คนนี้เหลือเกิน ลองคิดดูนะครับจากคนรักไป 1 สัปดาห์ ไม่ได้เจอกันเลยมันทรมานแค่ไหน ตอนนี้ผมผลักให้เจ้าเกมมันเลือกไอศกรีมครับ ส่วนผมนั้นลุกขึ้นไปที่โต๊ะที่ทั้ง 2 คนนั่งอยู่ ผมไม่ทราบว่าทั้ง 2 นั้นเห็นผมแล้วหรือยัง แต่เมื่อผมเข้าไปทักก็เล่นเอา 2 คนแปลกใจได้เหมือนกัน
เอ้า บอส มากับใคร เสียงไอ้วิวแปลกใจสุดๆ
อ๋อ มากับเกม
หวัดดีค่ะพี่บอส น้องแตงทักเสียงใส
ขณะที่ผมคุยกับน้องแตงนั้น ผมแอบเห็นไอ้วิว ชะเง้อหน้าไปมองเจ้าเกม แล้วสบตาผมอีกหนึ่งครั้ง ผมจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการชวนมานั่งด้วยกันทั้ง 4 คน เมื่อโต๊ะชนโต๊ะ หน้าชนหน้า บางสิ่งบางอย่างก็เริ่มคลี่คลายให้ผมเข้าใจขึ้นมาอีกเป็นกอง เพราะว่าเจ้าเกมนี่ เป็นแฟนเก่าน้องแตง ส่วนผมนั้นเป็นแฟนกับไอ้วิว แล้วผมก็หันมาคบน้องแตงแทนเจ้าเกมเมื่อครั้งที่ทั้ง 2 เลิกกัน แล้วเรื่องราวมันก็พลิกซ้อนอีกทีด้วยการที่เจ้าเกมหันมาเกาะแกะผม ส่วนไอ้วิวตอนนี้ที่ผมสัมผัสได้นั่นก็คือมันพยายามที่จะเอาน้องแตงไปเป็นแฟนมันให้ได้เช่นกัน เอ้อ วุ่นน่าดู
แตง มานี่กับใครอ่ะ เจ้าเกมถามน้องแตงโดยไม่มองหน้าไอ้วิว นั่นมันมีความหมายว่าเจ้าเกมไม่เป็นมิตรกับไอ้วิว
อ๋อ นี่วิวเพื่อนเราเอง ผมรีบบอกเจ้าเกมเพื่อป้องกันภัยให้ไอ้วิว
หวัดดี เสียงเจ้าเกมทักไอ้วิวอย่างขาดเสียไม่ได้
แต่สีหน้าไอ้วิวตอนนี้เหมือนคนบอกบุญไม่รับ ผมไม่รู้ว่ามันโกรธหรือหงุดหงิดใครและเรื่องอะไรกันแน่ แต่เท่าที่รู้ไอศกรีมวันนั้นไม่มีใครบอกสักคนว่าอร่อย ทุกคนต่างสีหน้าเบื่อหน่าย บางคน เช่นไอ้วิว แสดงสีหน้าอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั่งเผชิญหน้ากันสักครู่แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ ผมเองก็ต้องซ้อนท้ายเจ้าเกมกลับเหมือนเดิม ปล่อยให้น้องแต่งนั่งรถไอ้วิวกลับหอไป กลับมาถึงห้องผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นไอ้วิวมานั่งคอยผมอยู่ตรงหน้าห้อง ซึ่งในตอนนั้นเจ้าเกมก็ดันตามผมมาบนห้องอีก มันให้เหตุผลว่ามีเรื่องอยากคุยกับผมต่อ ผมเลยยอมๆมันโดยในใจยังอดลามกไม่ได้(นี่แหละนาข้อเสียผม)
หมอวิว เสียงเจ้าเกมพูดเบาๆ แต่ผมก็ยังได้ยิน
อืม วิวมาไงเนี๊ยะ ผมทักมันโดยคิดว่าคำนี้คงดีที่สุด
อ๋อ มาไม่ได้แล้วใช่ม่ะ ไอ้วิวเริ่มหาเรื่อง
เปล่าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแก้ตัว
ที่มาก็ไม่ได้ต้องการมาขัดคอใครหรอกนะ แค่ต้องการมาเอาของชิ้นสุดท้ายคืน
เข้าห้องเหอะ หมอๆ ผมอายคน เจ้าเกมพูดกวนประสาทไอ้วิว
เมื่อผมเปิดประตูออก ไอ้เจ้าเกมก็ดันทำให้ไอ้วิวสงสัยเข้าไปอีกเมื่อมันตีซี้ผมด้วยการขึ้นไปนอนบนที่นอนผม ซึ่งตรงนั้นมันเคยเป็นที่นอนของไอ้วิว ผมเองจะออกปากห้ามมันขึ้นบนที่นอนก็เกรงว่าจะไม่สุภาพกับแขกที่มาห้อง เลยปล่อยเลยตามเลยและยังแกล้งทำอารมณ์ดีอยู่เพื่อดับความร้อนของไอ้วิว
เออเมื่อกี้ นายบอกว่าจะมาเอาของนี่อะไรหรอ หรือว่าจะมาเอาเราไปอยู่ด้วย ผมแซวมันแกมจริงเพื่อให้มันรู้ว่าผมต้องการมันอยู่
เปล่า เราแค่ต้องการมาบอกนาย เพื่อให้เคลียร์ใจกันไปเลย ไอ้วิวพูดกับผมพลางหันไปมองเจ้าเกมที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนที่นอน
เรื่องอะไรอ่ะ
ก็เรื่องเรา 2 คนไง
ยังไง
ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกนายว่า เราเลิกคบกันแบบนี้อีกนะ และอีกอย่างเราขอน้องแตงด้วยล่ะกัน เรารักน้องเขาจริงๆว่ะ
ไม่มีอะไรที่มันจะเจ็บปวดได้เท่านี้อีกเมื่อคนที่เคยพยายามหัดให้เรารู้จักกับคำว่ารัก ได้ทำให้เรารักเป็น แต่เมื่อเราเริ่มรักเป็นมันกลับทิ้งเราไป ซ้ำร้ายยังเอาของที่เรารักอีกอย่างไปด้วย เรื่องนี้ผมหวั่นใจมาตั้งแต่เห็นทั้ง2 สนิทกันตอนที่ไม่สบายแล้ว แต่ก็หลอกปลอบใจตัวเองมาตลอด ถึงตอนนี้ผมไม่ร้องไห้อีกแล้วเพราะผมรู้สึกว่ามันจุกคอมากกว่า นี่หรือที่เขาเรียกกันว่าอกหัก มันเจ็บร้าวเจ็บลึก เจ็บยิ่งกว่าทฤษฎีการปวดฟันเสียอีก ผมอดรนทนนั่งฟังไอ้วิวต่อ และตอนนี้เจ้าเกมก็ลุกขึ้นนั่งกอดหมอนเพื่อฟังไอ้วิวเช่นกัน เราพูดเรื่องนี้กันโดยไม่อายเจ้าเกมแม้แต่น้อย
บอส นายรู้มั๊ยว่าเราถูกแม่เรากดดันเราแค่ไหน ภายนอกนายอาจเห็นว่าแม่เราใจดีกว่าแม่นาย แต่นายรู้มั๊ยว่าเราต้องร้องไห้ทุกครั้งที่กลับบ้าน แต่นั้นมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับพ่อทำกับเรา ซึ่งปกติพ่อไม่เคยเตะหรือตีเรา แต่อาทิตย์ที่แล้วพ่อทำ เหตุผลนะหรือก็เพราะเราคบกับนายไง เราทนไม่ไหวแล้วกับภาวะกดดันแบบนี้ บอส เราหวังว่านายรักเราและเข้าใจนะ เราจึงขอเลิกกับนายตั้งแต่วันนี้และตลอดไป
วิว เสียงผมแห้งติดคอ
แล้วนายก็เหมือนกัน ไอ้วิวหันไปมองหน้าเจ้าเกม อย่างหาเรื่อง
นายไม่ต้องมาสืบความลับระหว่างเรา2 คนเลยว่าเราเป็นอะไรกัน คิดหรือว่าเราไม่รู้แผนนาย โธ่เอ้ยแผนเน่าๆ ที่เด็กเรียนซ้ำชั้นยังรู้เลย นายอย่าหวังเลยว่าน้องแตงจะยอมกลับไปคบนายอีก อีเพราะนายบอสเป็นเกย์ หรือต่อให้น้องแตงรู้ว่าเราเป็นเกย์น้องแตงก็ไม่กลับไปหานายหรอก อย่าหวังทำคะแนนเลย
เอ้า หมอวิว พูดอย่างก็สวยดิ เสียงเจ้าเกมพร้อมเอาเรื่อง
สวยอยู่แล้ว แฟนนายอ่ะเราเลยเอาไง หรือจะดูคลิปล่าสุดเมื่อเช้านี่ เสียงไอ้วิวยียวนกวนประสาทเจ้าเกม
แล้วภาพที่ผมไม่อยากเห็นก็เกิด เมื่อเจ้าเกมลุกขึ้นต่อยหน้าไอ้วิวเข้าจริงๆ 1 หมัด ไอ้วิวเซล้มลงกับพื้นและรีบลุกขึ้นสวน หมัดมันตรงเข้าที่ปากเจ้าเกม อีก 1 หมัดเช่นกัน แต่ก่อนจะเกิดเรื่องบานปลายผมเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที ผมไล่ให้เจ้าเกมกลับไปก่อน ส่วนไอ้วิวนั้นผมรั้งไว้เพื่อขอเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง เจ้าเกมดูหงุดหงิดเหมือนหนูติดจั่น แต่มันก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น เพราะมันอาจเกรงใจผมหรืออย่างน้อยก็เกรงใจหมัดผม เสียงประตูปิดตามหลังเจ้าเกมเหมือนบานพับจะหลุด แต่ผมก็ไม่ได้สน ในเมื่อตอนนี้ไอ้วิวเองก็หน้าช้ำอีกครั้ง โหนกแก้มมันบวมปูดเป็นสีแดงอมม่วง ดูแล้วเสียหล่อเลยครับ
ไง เพื่อนใหม่นายซ่าดีนี่ ไอ้วิวพาลมาโกรธผมเพราะเรื่องนี้แทนเรื่องเมื่อตะกี้
ผมก็ได้แต่เงียบ และนั่งมองไอ้วิวงัดเอาน้ำแข็งในตู้เย็นมาประคบโหนกแก้มมัน เวลาผ่านไปจนน้ำแข็งในมือไอ้วิวละลายหมด มันจึงเริมพูดกับผมอีกครั้ง โดยเรื่องที่พูดก็เรื่องเดิมคือ ขอยุติความสัมพันธ์ของเรา 2 คน และขอน้องแตงไปเป็นแฟนมัน มันให้เหตุผลว่าน้องแตงชอบมันจริงๆ ชอบก่อนที่ผมจะรู้จักเสียอีก เพราะว่ามันกับน้องแตงขึ้นฝึกงานบนหอผู้ป่วยเจอกันบ่อย อย่างว่าล่ะครับหมอกับพยาบาล เห็นหน้าเห็นใจกันทุกวัน ส่วนทันตะอย่างผมก็คงต้องอยู่กับช่องปากแคบๆต่อไป และที่ทำให้ผมเจ็บช้ำมากกว่านั้นคือมันบอกผมว่าน้องแตงชอบผมเพื่ออยากรู้จักมัน ซึ่งตรงนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าน้องแตงพูดกับมันจริงหรือเปล่าหรือแค่มันอยากให้ผมเกลียดและตัดใจจากน้องแตงได้เร็วขึ้น
เมื่อจะมองถึงสัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องแตงก็น่าจะจริงอย่างไอ้วิวบอกก็ได้ครับ เพราะผมกับน้องแตงคบกัน อย่างมากก็แค่จับมือกันตอนนั่งในรถ อย่างอื่นนั้นไม่เลยครับ ทั้งๆที่นักรักอย่างผมควรจะได้ลิ้มลองสักครั้งอย่างที่ผู้หญิงอื่นปรารถนาจะหยิบยื่นให้ด้วยความปรีดา แต่กับไอ้วิวทำมันง่ายดายจัง(ถ้าเป็นจริงตามที่ไอ้วิวอ้างต่อหน้าเจ้าเกม) ส่วนเรื่องไอ้เจ้าเกมเพื่อนใหม่ผมนั้น ผมสงสัยอยู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเจ้านี่ต้องมีลับลมคมในอะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นคงเสร็จผมไปนานแล้วถามันเป็นเกย์จริงๆ ผมก็ไม่น่ามักง่ายโดยไม่ดูท่าทีมันเลย แต่ก็ดีครับถือว่ามันมาให้บทเรียนเรื่องนี้กับผม คราวหลังผมจะได้ระวังตัวให้มากขึ้น
เย็นวันนั้นก่อนไอ้วิวจะออกไปจากห้องผม และออกไปจากชีวิตผมตลอดไป ผมได้ขอร้องมันครั้งหนึ่งคือ ผมขอกอดมันอีกครั้ง ไอ้วิวก็ให้ผมกอดมันแต่โดยดี การกอดกันครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่ากว่าการกอดกันครั้งไหนๆ มันเป็นกอดที่อบอุ่นปนโหยหาอย่างบรรยายไม่ได้ ผมสวมกอดไอ้วิวอยู่นานพอสมควร จนไอ้วิวเริ่มลูบหลังผมเบาๆ ผมจึงผละออก และภาพที่ผมเห็นคือไอ้วิวร้องไห้ครับ ตามันแดงไม่แพ้กับรอยช้ำบนใบหน้ามัน แต่ผมไม่ครับ ผมไม่ร้องเพราะผมรู้สึกว่ามันแน่นและเจ็บอยู่ตรงอกมากกว่าจนผมรู้สึกว่าผมร้องออกมาไม่ไหว
วิว เราขอบใจที่นายมากที่พยายามทำให้เรารู้จักกับความรัก และในวันนี้ เรารู้จักมันแล้ว ผมพูดพลางเอามือไปเช็ดน้ำตาให้มัน
แต่เมื่อเรารู้จักความรัก นายก็ทิ้งเราไป ความรู้สึกจุกๆตรงคอผมมันเพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมานายอาจเห็นว่าเราผ่านใครมามากมายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมือนเราไม่ได้รักนาย แต่นายรู้อะไรมั๊ยว่าไม่มีใครทำให้เรารักเป็นสักคน นอกจากนาย
วิว รักเราคือนายว่ะ
เราก็รักนายว่ะ บอส หยาดน้ำตาอีกสายไหลออกจากตาไอ้วิว
พูดจบไอ้วิวก็ใช้มือลูบหน้ามัน แล้วก็เดินออกจากห้องผมไปอย่างรวดเร็วโดยที่ ไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย ในตอนนี้ห้องผมมีเพียงผมและความเงียบอย่างร้ายกาจ ห้องที่เคยคับแคบเพราะอยู่กัน2 คน ถึงตอนนี้มันกว้างใหญ่เสียจนน่ากลัว ผมนอนมองเพดานห้องท่ามกลางความมืด เรื่องราวต่างๆตลอดช่วงวัย 23 ปีของผมนั้นได้โลดแล่นผ่านมาในสองผม ทั้งเรื่องที่แอบปีนดูห้องน้ำหญิงตอน ป.5 เรื่องที่ผมออกไปรับรางวัลนักเรียนเรียนดีตอน ม. 2 และเรื่องเคสผู้หญิงที่แสนดีที่เสียตอนปี2 และอีกหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา ผมรู้สึกว่าในหัวผมมันโคลงเคลงๆ มือไม้อ่อนแรง แล้วแก้วยาเปล่าๆในมือผมก็ร่วงจากมือ ตอนสายของวันใหม่ ผมลุกขึ้นอาบน้ำเพื่อที่จะไปเรียนภาคทฤษฎีที่คณะ แต่ด้วยความอ่อนล้าและความไม่พร้อมที่จะไปเผชิญกับความจริงในสังคม ผมจึงขาดเรียนในวันนี้ แต่เมื่ออยู่คนเดียวความฟุ้งซ่านที่คิดถึงเรื่องราวต่างๆก็กลับมาหาผมอีก โลกไซเบอร์เท่านั้นที่สามารถทำให้ผมลืมเรื่องเหล่านี้ไปได้บ้าง ช่วงนั้นใครขอให้ผมโชว์ผมก็โชว์ให้ดูตามคำขอ เพราะผมคิดว่าจะเก็บไว้ทำไมในเมื่อมันไร้ซึ่งเจ้าของมันแล้ว (ดูผมคิดบ้าๆสิครับ) ผมเป็นบ้าแบบนี้อยู่เกือบเดือน ก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองดีขึ้น แต่ก็ไม่เต็มร้อยเพราะไปไหนมาไหนผมยังรู้สึกว่าผมเป็นขาดความมั่นใจยังไงก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมต้องนั่งกินข้าวคนเดียว ไปซื้อของคนเดียว นอนคนเดียว และคนเดียวอีกหลายๆเรื่อง แต่สักพักก็คงชินผมปลอบใจตัวเอง
จากเด็กชายมากลายเป็นเกย์ และมาอยู่ในโลกที่ต้องซ่อนเร้นปิดบัง จนวันนึงโลกแห่งเกย์ก็สร้างความเจ็บช้ำให้กับผมอย่างมากมาย และเมื่อต้องการที่จะออกจากโลกสีม่วงใบนี้มันก็ช่างยากที่จะทำใจเหลือเกิน หลายๆครั้งที่ผมพยายามไม่มองผู้ชายด้วยกันแต่มันก็ตัดใจไม่ได้สักที ในเมื่อผมเห็นนายแบบทีไรก็โด่ได้ทุกที ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เลิกพยายามเลิกที่จะเป็นเกย์ ถ้ามียารักษาโรคเกย์นี้เม็ดละ1000บาทผมยอมซื้อกินจนกว่าจะหาย แต่มันก็คงเป็นแค่เพียงการจินตนาการของผมเท่านั้นเอง แต่เมื่อมานึกอีกทีถ้าผมยังมีความสุขกับไอ้วิวเหมือนเดิม ผมก็คงไม่โทษโลกของชาวเกย์ว่ามันอย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ก็นะคนเราเมื่อไม่ได้ดังใจก็โทษคนอื่นไปเรื่อย
ทุกวันนี้ผมไม่ได้โทรหาน้องแตงแล้ว และน้องแตงก็ไม่เคยที่จะโทรหาผมเช่นกัน ผมไม่ได้โทษเธอหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าเธอไม่ว่าง เธอต้องอุทิศเวลาที่มีของเธอให้คนที่เธอรักจริงๆและนั่นก็คือไอ้วิว หลายๆครั้งที่ผมบังเอิญเห็น2 คนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เดินด้วยกันอย่างกลมเกลียว นึกแล้วหน้าผมชาๆยังไงไม่รู้ครับ ผมมันต้องแพ้ไอ้วิวทุกครั้งหรือเปล่ากับเรื่องความรักบ้าบอนี้ ความโกรธแค้นมันเริ่มก่อตัวขึ้นมานิดๆแต่ก็ต้องหายไปเพราะอานุภาพแห่งความรักที่ผมมีต่อไอ้วิวและต่อน้องแตง
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าผมจะเหงาก็จริงแต่ก็ยังพอมีพวกลิง 3 ตัวนั่นมาเล่นที่ห้องบ้าง หรือแม้แต่เจ้าเกมก็ยังโทรชวนผมไปไหนมาไหนบ้างเช่นกัน แต่ไม่ได้ไปกันในฐานะแฟนนะครับ เพราะเจ้าเกมมันบอกผมว่ามันถูกชะตาผมมากกว่า อาจเพราะเราหน้าตาคล้ายๆกัน หุ่นก็เท่าๆกันด้วยมั้ง เจ้านี่เลยรู้สึกว่าผมเป็นสำเนามันที่มันชอบจะพาผมแนบไปด้วย ถึงวันนี้เจ้าเกมมันรู้ครับว่าผมเป็นเกย์ แต่มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจผมเลย ผมเองก็มานึกว่าถึงแม้มันจะรังเกียจผมก็คงไม่มีเหตุผลเพียงพอเพราะทั้งรูปร่างหน้าตาผมจัดว่าผมอยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะทางสังคมผมก็ออกจากเป็นที่ยอมรับเพราะผมเป็นหมอ ที่สำคัญผมไม่ได้ทำให้ชาติล่มจมเหมือนรัฐบาลขวัญใจคนจน สมัคร สุนทรเวช นี่ครับ
วันเกิดเจ้าเกม ตรงกับวันที่ 25 สิงหา มันพาเพื่อนๆวิศวะทั้งรุ่นมันที่ยังเรียนไม่จบและพวกน้องๆคณะมันรวมทั้งผมในฐานะเพื่อนใหม่ไปนั่งกินเหล้าที่แหลมสมิหลา (อีกล่ะ) เราเริ่มนั่งกินกันตั้งแต่ 6 โมงน่าจะได้ เราคุยกันทุกเรื่องจากเรื่องการเมืองยันเรื่องการมุ้ง ทุกคนเมื่อเริ่มมึนๆเมาต่างก็ลามกได้ที่ ตอนนั้นไม่อยากให้ใครมาเจอจริงๆเพราจะตกใจกับว่าที่บัณฑิตของชาติ แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่ครับที่เราเมาแล้วไม่ระรานใคร วงเหล้าเราดวลกันขวดต่อขวด จนเที่ยงคืนจึงพากันกลับ ถึงตอนนี้น้องคณะเจ้าเกมนอนนิ่งคอพับมาทับไหล่ผมแล้วครับ ผมนึกในใจ แหมไอ้พวกนี้มันอาบน้ำกันบ้างมั๊ยว่ะตัวเหม็นกันทุกคน คงมีเจ้าเกมคนเดียวมั้งที่กลิ่นใช้ได้ที่สุด เฮ้อ สกั้งบอย
เจ้าเกมมาส่งผมเป็นคนสุดท้ายแถมยังขึ้นไปส่งถึงบนหออีก มันบอกว่ากับหมอบอสมันต้องคุ้มครองหน่อย เดี๋ยวสาวๆลากไปกิน ดูมันทะลึ่งครับ ถึงห้องมันก็ไม่ยอมกลับไปครับ มันนั่งรอจนผมอาบน้ำเสร็จ และมันก็ขออาบน้ำต่อ
ตกลงจะนอนห้องเราใช่ม่ะ ผมเบื่อที่จะรอให้มันบอก
เออ เก่งวุ้ย หมอยเรา เอ้ยไม่ใช่ดิ หมอเราตะหากอิๆๆ ด้วยพิษสุราทำเอาเจ้าเกมบ้าได้เรื่อย
ผมเริ่มเข้านอนก็ตอนตีหนึ่งแล้ว นอนไปคงไม่ได้20 นาที ก็ได้ยินเสียงรถโรงพยาบาลขับมาที่หอพัก เสียงเจ้าหน้าที่วิ่งขึ้นบันไดโครมครามได้ยินชัดเจน อ้าวตายห่าแล้วหอเราเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรว่ะ
ผมรีบเปิดประตูออกมาดูทั้งที่ตัวเองก็ยังมึนๆอยู่
เอ้ยห้องเจ้าจอมนี่หว่า ผมพูดเสียงดังแบบลืมตัว
ผมรีบไปดูที่ห้องเจ้าจอมซึ่งถัดออกไปจากห้องผมอีกฝั่งหนึ่งของตึก ก็ต้องพบกับน้องตั้งและน้องฟ๋งยืนร้องไห้อยู่ แต่ผมไม่เห็นเจ้าจอม
น้องฟ๋งวิ่งมาหาผมและจับมือผมไว้แน่น ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ไอ้วิวมาถึง เจ้าหน้าที่และพยาบาลต่างเคลื่อนย้ายเจ้าจอมที่นอนนิ่งไม่ไหวติงออกไปจากห้องโดยที่มือข้างขวามันมีรอยไหม้เกรียมเกือบถึงข้อศอก
เกิดอะไรขึ้นกับจอมอ่ะฟ๋งบอกพี่สิ ไอ้วิวตะคอกถามน้องอย่างรุนแรง
เสียงน้องฟ๋งร้องไห้ และบอกว่าไม่รู้เพราะตอนนั้นมันกับน้องตั้งออกไปซื้อมาม่า ข้างนอก ซึ่งก่อนออกไปนั่น ไอ้เจ้าจอมมันอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ กลับมาอีกทีก็เห็นเจ้าจอมนอนดิ้นอยู่ข้างปลั๊กไฟใกล้ๆพัดลม
เสียงอะไรอ่ะหมอ ไอ้เจ้าเกมออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ออกมาในสภาพที่ดูไม่ได้ มันใส่บ๊อกเซอร์ผมตัวเดียวออกมา และยังคงดูมึนๆอยู่ ไอ้วิวเหลือบไปเห็นเจ้าเกมแล้วหันกลับมามองผมอย่างตำหนิ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอารมณ์ในสายตามัน เพราะตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ผมคิด
แต่เราก็ไม่ได้มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องนี้นาน ผมรีบวิ่งตามรถโรงพยาบาลไป แต่ก็ไปไม่ได้เพราะลืมกุญแจห้องไว้ที่ข้างบน เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ไอ้วิว ผมจึงจำใจต้องไปกับมันในยามฉุกเฉินเช่นนี้ ในรถผมเตือนสติมันว่าโทรบอก พ่อแม่เจ้าจอมหรือยัง และป้าละม้ายล่ะบอกหรือยัง ไอ้วิวได้สติจึงรีบโทรบอกผู้ใหญ่ตามที่ผมแนะนำ
ไม่ถึง 5 นาที ญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวมากันครบที่หน้าห้องฉุกเฉิน รวมทั้งไอ้เจ้าเกมที่ตอนนี้ดูได้หน่อย มาพร้อมกับน้องตั้งและน้องฟ๋ง เสียงพยาบาลคัดกรองผู้ป่วยเรียกแม่เจ้าจอมเข้าไปข้างใน และมีป้าละม้ายเดินเข้าไปเป็นเพื่อน ทั้ง2 เข้าไปนานมากทีเดียว ปล่อยให้ทุกคนรอกันอยู่ข้างนอก ตี3 คงจะได้ป้าละม้ายออกมาเพียงคนเดียว
จอมเสียแล้วลูก ป้าละม้ายปล่อยโฮ้ออกมาอย่างไม่อายพยาบาลตรงนั้นทั้งๆที่ป้าละม้ายก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการพยาบาลที่นี่
พ่อเจ้าจอม ผมและไอ้วิว วิ่งเข้าไปที่ห้องช่วยฟื้นคืนชีพข้างใน ซึ่งผมคุ้นเคยดี เพราะผมเคยมาทิ้งหัวใจไว้ที่นี่ครั้งนึง และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อผมเห็นเจ้าจอม นอนตัวซีดเซียว มือข้างขวาไหม้เกรียมจนนิ้วก้อยและนิ้วนางหายไป พ่อเจ้าจอมขาพับขาอ่อนจนผมกับไอ้วิวต้องช่วยกันประคองไว้
คืนนั้นทั้งคืนผมต้องไปที่สถานีตำรวจเป็นเพื่อนไอ้วิว และพาน้องๆทั้ง 2 ไปให้ปากคำกับตำรวจตรงที่เกิดเหตุ เพราะญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวที่นี่มีไม่เยอะและที่มีอยู่ก็สภาพไม่พร้อมกันทั้งนั้น กว่าจะเสร็จเรื่องก็เช้าเข้าไปแล้ว ศพเจ้าจอมถูกเคลื่อนย้ายกลับเชียงใหม่ของบ่ายวันนั้น เพราะทางญาติๆเขาต้องการพาไปฌาปนกิจที่บ้านเกิด ผมกับไอ้วิวไม่ได้ตามไปส่งศพเจ้าจอมหรอกครับเพราะติดหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทางนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปตอนวันเผาเลยทีเดียว ส่วนไอ้วิวผมไม่รู้เพราะเราคุยกันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เสร็จจากเรื่องราวต่างๆ ไอ้วิวจึงขับรถไปส่งผมที่หอ ขณะนั่งรถกลับ ไอ้วิวมันร้องไห้มาตลอดทาง จนผมต้องเปลี่ยนไปขับเอง ผมเข้าใจความรู้สึกไอ้วิวดีว่ามันรู้สึกอย่างไร เพราะผมเคยเจอเรื่องนี้ครั้งที่เคสเสีย ซึ่งเธอก็เป็นคนเชียงใหม่เหมือนกับเจ้าจอม ไปถึงห้องผมยังชวนไอ้วิวขึ้นไปบนห้องผมอีก และมันก็ไปอย่างว่าง่าย เมื่อไปถึงก็เจอเด็กๆนั่งร้องไห้อยู่กับเจ้าเกมที่ตอนนี้ดูสร่างเมาแล้ว เรา 5 คน ซึ่งคนที่ 5 ไม่ใช่เจ้าจอมอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นไอ้เจ้าเกมแทน นั่งคุยเรื่องนี้กันอีกครู่หนึ่งและแยกย้ายกันกลับ ปล่อยผมทิ้งไว้ในห้องแต่เพียงคนเดียว
เรื่องราวของความรักที่มันไม่อาจเป็นดั่งที่วาดฝันไว้ก็ได้เดินทางมาถึงตอนปัจจุบันที่สุด ถึงตอนนี้หลายๆท่านที่ติดตามอ่านมาจะเห็นว่าความรักของผมนั่นมันเปี่ยมล้นไปด้วยโอกาสที่จะก่อให้เกิดเป็นความรักและชีวิตคู่ที่งดงาม แต่แล้วมันก็ต้องจบลงเพราะเหตุปัจจัยภายนอกที่มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะเหตุนั้นคือบุคคลที่ให้กำเนิดเรานั่นเอง ส่วนปัจจัยภายในที่มีผลก็คือความมั่นใจและไว้ใจกันของเราทั้ง 2 นั้นมันเปราะบางเกินไปทำให้มันร้าวเอาง่ายๆเมื่อมีปัญหา สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกความรักจงพบกับคำว่าสุข และขอไว้อาลัยให้แก่บุคคลที่เคยมีตัวตนและจากไปในเรื่องเล่านี้ “นักรักหน้าหยก”
ยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นในความรัก ขอบคุณทุกความรักที่ติดตาม
บอสน้อย
29/8/51 :15.40 น.

(ปล. ยังมีต่อภาค 8-10)


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

6. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #4
 
26-Aug-12, 10:32 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เมื่อเจ้าจอมวางสายจากไอ้วิว มันหันมามองหน้าผม เพื่อรอคำถามจากผม แต่ผมไม่อยากถามมันหรอก เพราะผมไม่อยากคิดเรื่องนี้ในตอนนี้ ขับรถมาถึงย่านมหาลัยเด็กๆขอลงไปซื้อข้าว ปล่อยให้ผมนั่งคอยบนรถ แว๊ปนึงที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับผ่านมา ผมจำคนขับไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่มันดูคล้ายไอ้วิว ส่วนคนซ้อนท้ายคือน้องแตง แน่นอนผมจำเธอได้ ใจผมมันร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องข่มมันไว้ก่อน เพราะผมเหนื่อยมากแล้ว ผมคิด
คืนนี้ผมกลับมานอนบ้านอีกครั้ง โดยไม่ได้โทรมาบอกแม่ก่อน กลับมาถึงบ้านผมก็เจอพ่อ แม่ ป้าละม้าย และลุงชีพ อยู่พร้อมหน้า เล่นเอาผมอายอย่างบอกไม่ถูก ผมเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปข้างบน แต่ไม่ทันเดินผ่านไป เสียงพ่อผมเรียกให้ผมมานั่งที่โซฟาใกล้ๆป้าละม้าย
ผมนั่งลงอย่างเด็กว่าง่าย ผมรู้ชะตากรรมผมดีว่าเดี๋ยวผมจะโดนถามเรื่องอะไร แล้วมันก็เป็นจริงเมื่อแม่ผมเริ่มประเด็น และคนอื่นๆก็พูดให้ฟังโดยใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุด ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับว่าใครพูดอะไรบ้าง(แต่อาจจำได้ไม่หมด แต่ก็เค้าเรื่องอย่างที่จะเล่า)
ลุงชีพ : บอส ลุงรู้เรื่องลูกทั้ง 2 คนหมดแล้วนะลูก มันไม่ใช่ความผิดใครหรอกลูกเรื่องนี้เพราะลุงเป็นคนบังคับแม่ของลูก ป้าละม้าย และวิวให้เล่าลุงเอง ลุงทำไปเพื่ออนาคตของลูกทั้ง 2 คนนะ ลุงหวังว่าบอสเข้าใจลุงกับพ่อ
ป้าละม้าย: ป้าไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องที่ลูกทั้ง2ทำนั้นมันเลวร้ายหรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่านะลูก ป้าเคยเจอเรื่องนี้แล้วตอนวิวเรียนที่กรุงเทพ ป้าห่วงแต่แม่ของบอสแหละว่าจะทำใจได้มั๊ย
พ่อ: หมอ หวังว่าหมอเข้าใจที่พ่อหวังนะลูก
แม่: ทุกคนพูดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว แม่อยากจะบอกอีกเรื่องว่า แม่หวังให้ลูกกับวิวเป็นเพื่อนตายกันนะลูก แม่ก็ทนไม่ได้ถ้าเรื่องวันนี้ทำให้ลูก 2 คนเลิกเป็นเพื่อนกัน
ผมก้มหน้ารับฟังผู้ใหญ่สอน โดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วผมก็ขอตัวไปนอนก่อนที่ป้าละม้ายและลุงชีพจะกลับบ้าน คืนนั้นผมหลับลงด้วยความกังวลใจสุดๆ ในใจยังนึกถึงภาพน้องแตงซ้อนท้ายชายคนนั้นที่ดูคล้ายไอ้วิว
เที่ยงคืนพอดีเพื่อนที่ผมไปทำงานกลุ่มโทรมาหาปรึกษาเรื่องงานที่จะนำเสนอในวันรุ่งขึ้น ผมคุยกันกับเพื่อนกว่าจะวางสายไปก็ปาเข้าตี 2 แล้ว จากนั้นผมก็นอนไม่หลับอีกเลยเพราะมัวแต่คิดเรื่องเมื่อตอนเย็น หากเป็นน้องแตงกับไอ้วิวจริง ผมจะทำยังไงดี ควรจะดีใจ หรือเสียใจดี หากจะดีใจก็คงดีใจที่ทั้ง 2 คนเข้ากันได้ดี อย่างที่ผมเคยคิดตั้งแต่ตอนแรก แต่หากจะเสียใจก็คงไม่พ้นเรื่องของการหึงหวง กลัวไอ้วิวจะแย่งน้องแตงไปจากผมเพราะด้วยเหตุผลที่ผมบังอาจนอกใจมันเหมือนที่มันเคยทำมา ยิ่งคิดมันก็ยิ่งวุ่น พาลให้ยิ่งนอนไม่หลับ ผมนอนตาสว่างจนเช้า เลยลุกขึ้นปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวแล้วก็นั่งรถมาที่คณะกับพ่อ ระหว่างนั่งรถมานั้นผมสังเกตกิริยาอาการของพ่อและแม่ผมนั้น ท่านทำเหมือนปกติทุกอย่าง เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น การแสดงออกของพ่อแม่ผมทำให้ผมรับรู้อะไรบางอย่างว่าที่ท่านพูดไปนั้นท่านคงปราถนาดีกับผมจริงๆ ไม่เช่นท่านยังคงตอแยกับผมไม่เลิก หากท่านปองร้ายกับผม
วันนี้ทั้งวันผมรู้สึกว่าเพลียมากจากงานที่โหลดจนหนักหนา อีกทั้งเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ไม่ลงตัว มิหนำซ้ำเมื่อคืนยังไม่ได้นอนอีก เอ้อ ....แต่ก็เสร็จจากงานนี้ผมก็ได้หยุดยาว 1 สัปดาห์ แต่มันก็คงไร้ค่านั้นแหละครับ ก็ผมดันมาหยุดเอาตอนที่ ไอ้วิวไม่ว่าง น้องแตงก็ขึ้นฝึกงาน คงเหลือแต่ผมคนเดียวที่ต้องร่อนเร่ไปมาในตอนกลางวัน คิดเรื่องการวางแผนชีวิตช่วงวันหยุดอยู่เพลินๆ เจ้าเกมมันก็โทรมาหาผมพอดี
เออ หมอบอสหรอ เสียงมันแจ่มใส
อืม มีไรเกม เสียงผมเบื่อๆ
ว่างป่ะ
อืมคุยได้
ป่าวไม่ได้โทรมาชวนคุย แต่จะชวนไป เป็นเพื่อนเลือกรองเท้าหน่อย
อืมได้ๆ เมื่อไหร่อ่ะ
ตอนนี้เลยครับ เสียงมันยังสดใสได้เหมือนเดิม
เป็นอันว่าบ่ายวันนั้นผมก็มีเจ้าเกมนี่มาช่วยฆ่าเวลาให้หมดไปอีกวันนึง รสนิยมการแต่งตัวเจ้านี่มันจะชอบของที่แปลกแหวกแนว ดูเรียบๆแต่โก้ ซึ่งอาจเรียกง่ายๆว่าเรื่องมากก็ไม่ผิด มันพาผมวนเวียนไปทั่วเมืองหาดใหญ่ จากห้างดังสู่ร้านรูหนูสกปรก เพื่อหารองเท้าคู่ที่ตรงใจมัน แล้วท้ายที่สุดมันก็ได้รองเท้า ที่สมใจอยากมันตรงร้านแรกที่เราเข้าไปเลือก ในใจผมนั่นอยากมะเหง็ก มันสักโป๊ก ให้สมใจ เพราะนั่งเวสป้ามันตะลอนๆนั้นก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นอีกทั้งไหนจะแดดยามบ่าย ไหนจะไฟแดงด่านมรณะ ไหนจะควันรถ นึกแล้วเอียนเลยครับ หลังจากเลือกรองเท้าราคา 1230 บาท ที่สมใจมันแล้วมันก็ตอบแทนผมด้วยการเลี้ยงไอศกรีม 1 แก้วที่ SWENSEN ขณะที่ผมนั่งพลิกๆเมนูอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นน้องแตงนั่งกับไอ้วิวที่โต๊ะถัดไป ผมแทบกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ เพราะอยากเจอ 2 คนนี้เหลือเกิน ลองคิดดูนะครับจากคนรักไป 1 สัปดาห์ ไม่ได้เจอกันเลยมันทรมานแค่ไหน ตอนนี้ผมผลักให้เจ้าเกมมันเลือกไอศกรีมครับ ส่วนผมนั้นลุกขึ้นไปที่โต๊ะที่ทั้ง 2 คนนั่งอยู่ ผมไม่ทราบว่าทั้ง 2 นั้นเห็นผมแล้วหรือยัง แต่เมื่อผมเข้าไปทักก็เล่นเอา 2 คนแปลกใจได้เหมือนกัน
เอ้า บอส มากับใคร เสียงไอ้วิวแปลกใจสุดๆ
อ๋อ มากับเกม
หวัดดีค่ะพี่บอส น้องแตงทักเสียงใส
ขณะที่ผมคุยกับน้องแตงนั้น ผมแอบเห็นไอ้วิว ชะเง้อหน้าไปมองเจ้าเกม แล้วสบตาผมอีกหนึ่งครั้ง ผมจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการชวนมานั่งด้วยกันทั้ง 4 คน เมื่อโต๊ะชนโต๊ะ หน้าชนหน้า บางสิ่งบางอย่างก็เริ่มคลี่คลายให้ผมเข้าใจขึ้นมาอีกเป็นกอง เพราะว่าเจ้าเกมนี่ เป็นแฟนเก่าน้องแตง ส่วนผมนั้นเป็นแฟนกับไอ้วิว แล้วผมก็หันมาคบน้องแตงแทนเจ้าเกมเมื่อครั้งที่ทั้ง 2 เลิกกัน แล้วเรื่องราวมันก็พลิกซ้อนอีกทีด้วยการที่เจ้าเกมหันมาเกาะแกะผม ส่วนไอ้วิวตอนนี้ที่ผมสัมผัสได้นั่นก็คือมันพยายามที่จะเอาน้องแตงไปเป็นแฟนมันให้ได้เช่นกัน เอ้อ วุ่นน่าดู
แตง มานี่กับใครอ่ะ เจ้าเกมถามน้องแตงโดยไม่มองหน้าไอ้วิว นั่นมันมีความหมายว่าเจ้าเกมไม่เป็นมิตรกับไอ้วิว
อ๋อ นี่วิวเพื่อนเราเอง ผมรีบบอกเจ้าเกมเพื่อป้องกันภัยให้ไอ้วิว
หวัดดี เสียงเจ้าเกมทักไอ้วิวอย่างขาดเสียไม่ได้
แต่สีหน้าไอ้วิวตอนนี้เหมือนคนบอกบุญไม่รับ ผมไม่รู้ว่ามันโกรธหรือหงุดหงิดใครและเรื่องอะไรกันแน่ แต่เท่าที่รู้ไอศกรีมวันนั้นไม่มีใครบอกสักคนว่าอร่อย ทุกคนต่างสีหน้าเบื่อหน่าย บางคน เช่นไอ้วิว แสดงสีหน้าอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั่งเผชิญหน้ากันสักครู่แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ ผมเองก็ต้องซ้อนท้ายเจ้าเกมกลับเหมือนเดิม ปล่อยให้น้องแต่งนั่งรถไอ้วิวกลับหอไป กลับมาถึงห้องผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นไอ้วิวมานั่งคอยผมอยู่ตรงหน้าห้อง ซึ่งในตอนนั้นเจ้าเกมก็ดันตามผมมาบนห้องอีก มันให้เหตุผลว่ามีเรื่องอยากคุยกับผมต่อ ผมเลยยอมๆมันโดยในใจยังอดลามกไม่ได้(นี่แหละนาข้อเสียผม)
หมอวิว เสียงเจ้าเกมพูดเบาๆ แต่ผมก็ยังได้ยิน
อืม วิวมาไงเนี๊ยะ ผมทักมันโดยคิดว่าคำนี้คงดีที่สุด
อ๋อ มาไม่ได้แล้วใช่ม่ะ ไอ้วิวเริ่มหาเรื่อง
เปล่าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแก้ตัว
ที่มาก็ไม่ได้ต้องการมาขัดคอใครหรอกนะ แค่ต้องการมาเอาของชิ้นสุดท้ายคืน
เข้าห้องเหอะ หมอๆ ผมอายคน เจ้าเกมพูดกวนประสาทไอ้วิว
เมื่อผมเปิดประตูออก ไอ้เจ้าเกมก็ดันทำให้ไอ้วิวสงสัยเข้าไปอีกเมื่อมันตีซี้ผมด้วยการขึ้นไปนอนบนที่นอนผม ซึ่งตรงนั้นมันเคยเป็นที่นอนของไอ้วิว ผมเองจะออกปากห้ามมันขึ้นบนที่นอนก็เกรงว่าจะไม่สุภาพกับแขกที่มาห้อง เลยปล่อยเลยตามเลยและยังแกล้งทำอารมณ์ดีอยู่เพื่อดับความร้อนของไอ้วิว
เออเมื่อกี้ นายบอกว่าจะมาเอาของนี่อะไรหรอ หรือว่าจะมาเอาเราไปอยู่ด้วย ผมแซวมันแกมจริงเพื่อให้มันรู้ว่าผมต้องการมันอยู่
เปล่า เราแค่ต้องการมาบอกนาย เพื่อให้เคลียร์ใจกันไปเลย ไอ้วิวพูดกับผมพลางหันไปมองเจ้าเกมที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนที่นอน
เรื่องอะไรอ่ะ
ก็เรื่องเรา 2 คนไง
ยังไง
ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกนายว่า เราเลิกคบกันแบบนี้อีกนะ และอีกอย่างเราขอน้องแตงด้วยล่ะกัน เรารักน้องเขาจริงๆว่ะ
ไม่มีอะไรที่มันจะเจ็บปวดได้เท่านี้อีกเมื่อคนที่เคยพยายามหัดให้เรารู้จักกับคำว่ารัก ได้ทำให้เรารักเป็น แต่เมื่อเราเริ่มรักเป็นมันกลับทิ้งเราไป ซ้ำร้ายยังเอาของที่เรารักอีกอย่างไปด้วย เรื่องนี้ผมหวั่นใจมาตั้งแต่เห็นทั้ง2 สนิทกันตอนที่ไม่สบายแล้ว แต่ก็หลอกปลอบใจตัวเองมาตลอด ถึงตอนนี้ผมไม่ร้องไห้อีกแล้วเพราะผมรู้สึกว่ามันจุกคอมากกว่า นี่หรือที่เขาเรียกกันว่าอกหัก มันเจ็บร้าวเจ็บลึก เจ็บยิ่งกว่าทฤษฎีการปวดฟันเสียอีก ผมอดรนทนนั่งฟังไอ้วิวต่อ และตอนนี้เจ้าเกมก็ลุกขึ้นนั่งกอดหมอนเพื่อฟังไอ้วิวเช่นกัน เราพูดเรื่องนี้กันโดยไม่อายเจ้าเกมแม้แต่น้อย
บอส นายรู้มั๊ยว่าเราถูกแม่เรากดดันเราแค่ไหน ภายนอกนายอาจเห็นว่าแม่เราใจดีกว่าแม่นาย แต่นายรู้มั๊ยว่าเราต้องร้องไห้ทุกครั้งที่กลับบ้าน แต่นั้นมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับพ่อทำกับเรา ซึ่งปกติพ่อไม่เคยเตะหรือตีเรา แต่อาทิตย์ที่แล้วพ่อทำ เหตุผลนะหรือก็เพราะเราคบกับนายไง เราทนไม่ไหวแล้วกับภาวะกดดันแบบนี้ บอส เราหวังว่านายรักเราและเข้าใจนะ เราจึงขอเลิกกับนายตั้งแต่วันนี้และตลอดไป
วิว เสียงผมแห้งติดคอ
แล้วนายก็เหมือนกัน ไอ้วิวหันไปมองหน้าเจ้าเกม อย่างหาเรื่อง
นายไม่ต้องมาสืบความลับระหว่างเรา2 คนเลยว่าเราเป็นอะไรกัน คิดหรือว่าเราไม่รู้แผนนาย โธ่เอ้ยแผนเน่าๆ ที่เด็กเรียนซ้ำชั้นยังรู้เลย นายอย่าหวังเลยว่าน้องแตงจะยอมกลับไปคบนายอีก อีเพราะนายบอสเป็นเกย์ หรือต่อให้น้องแตงรู้ว่าเราเป็นเกย์น้องแตงก็ไม่กลับไปหานายหรอก อย่าหวังทำคะแนนเลย
เอ้า หมอวิว พูดอย่างก็สวยดิ เสียงเจ้าเกมพร้อมเอาเรื่อง
สวยอยู่แล้ว แฟนนายอ่ะเราเลยเอาไง หรือจะดูคลิปล่าสุดเมื่อเช้านี่ เสียงไอ้วิวยียวนกวนประสาทเจ้าเกม
แล้วภาพที่ผมไม่อยากเห็นก็เกิด เมื่อเจ้าเกมลุกขึ้นต่อยหน้าไอ้วิวเข้าจริงๆ 1 หมัด ไอ้วิวเซล้มลงกับพื้นและรีบลุกขึ้นสวน หมัดมันตรงเข้าที่ปากเจ้าเกม อีก 1 หมัดเช่นกัน แต่ก่อนจะเกิดเรื่องบานปลายผมเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที ผมไล่ให้เจ้าเกมกลับไปก่อน ส่วนไอ้วิวนั้นผมรั้งไว้เพื่อขอเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง เจ้าเกมดูหงุดหงิดเหมือนหนูติดจั่น แต่มันก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น เพราะมันอาจเกรงใจผมหรืออย่างน้อยก็เกรงใจหมัดผม เสียงประตูปิดตามหลังเจ้าเกมเหมือนบานพับจะหลุด แต่ผมก็ไม่ได้สน ในเมื่อตอนนี้ไอ้วิวเองก็หน้าช้ำอีกครั้ง โหนกแก้มมันบวมปูดเป็นสีแดงอมม่วง ดูแล้วเสียหล่อเลยครับ
ไง เพื่อนใหม่นายซ่าดีนี่ ไอ้วิวพาลมาโกรธผมเพราะเรื่องนี้แทนเรื่องเมื่อตะกี้
ผมก็ได้แต่เงียบ และนั่งมองไอ้วิวงัดเอาน้ำแข็งในตู้เย็นมาประคบโหนกแก้มมัน เวลาผ่านไปจนน้ำแข็งในมือไอ้วิวละลายหมด มันจึงเริมพูดกับผมอีกครั้ง โดยเรื่องที่พูดก็เรื่องเดิมคือ ขอยุติความสัมพันธ์ของเรา 2 คน และขอน้องแตงไปเป็นแฟนมัน มันให้เหตุผลว่าน้องแตงชอบมันจริงๆ ชอบก่อนที่ผมจะรู้จักเสียอีก เพราะว่ามันกับน้องแตงขึ้นฝึกงานบนหอผู้ป่วยเจอกันบ่อย อย่างว่าล่ะครับหมอกับพยาบาล เห็นหน้าเห็นใจกันทุกวัน ส่วนทันตะอย่างผมก็คงต้องอยู่กับช่องปากแคบๆต่อไป และที่ทำให้ผมเจ็บช้ำมากกว่านั้นคือมันบอกผมว่าน้องแตงชอบผมเพื่ออยากรู้จักมัน ซึ่งตรงนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าน้องแตงพูดกับมันจริงหรือเปล่าหรือแค่มันอยากให้ผมเกลียดและตัดใจจากน้องแตงได้เร็วขึ้น
เมื่อจะมองถึงสัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องแตงก็น่าจะจริงอย่างไอ้วิวบอกก็ได้ครับ เพราะผมกับน้องแตงคบกัน อย่างมากก็แค่จับมือกันตอนนั่งในรถ อย่างอื่นนั้นไม่เลยครับ ทั้งๆที่นักรักอย่างผมควรจะได้ลิ้มลองสักครั้งอย่างที่ผู้หญิงอื่นปรารถนาจะหยิบยื่นให้ด้วยความปรีดา แต่กับไอ้วิวทำมันง่ายดายจัง(ถ้าเป็นจริงตามที่ไอ้วิวอ้างต่อหน้าเจ้าเกม) ส่วนเรื่องไอ้เจ้าเกมเพื่อนใหม่ผมนั้น ผมสงสัยอยู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเจ้านี่ต้องมีลับลมคมในอะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นคงเสร็จผมไปนานแล้วถามันเป็นเกย์จริงๆ ผมก็ไม่น่ามักง่ายโดยไม่ดูท่าทีมันเลย แต่ก็ดีครับถือว่ามันมาให้บทเรียนเรื่องนี้กับผม คราวหลังผมจะได้ระวังตัวให้มากขึ้น
เย็นวันนั้นก่อนไอ้วิวจะออกไปจากห้องผม และออกไปจากชีวิตผมตลอดไป ผมได้ขอร้องมันครั้งหนึ่งคือ ผมขอกอดมันอีกครั้ง ไอ้วิวก็ให้ผมกอดมันแต่โดยดี การกอดกันครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่ากว่าการกอดกันครั้งไหนๆ มันเป็นกอดที่อบอุ่นปนโหยหาอย่างบรรยายไม่ได้ ผมสวมกอดไอ้วิวอยู่นานพอสมควร จนไอ้วิวเริ่มลูบหลังผมเบาๆ ผมจึงผละออก และภาพที่ผมเห็นคือไอ้วิวร้องไห้ครับ ตามันแดงไม่แพ้กับรอยช้ำบนใบหน้ามัน แต่ผมไม่ครับ ผมไม่ร้องเพราะผมรู้สึกว่ามันแน่นและเจ็บอยู่ตรงอกมากกว่าจนผมรู้สึกว่าผมร้องออกมาไม่ไหว
วิว เราขอบใจที่นายมากที่พยายามทำให้เรารู้จักกับความรัก และในวันนี้ เรารู้จักมันแล้ว ผมพูดพลางเอามือไปเช็ดน้ำตาให้มัน
แต่เมื่อเรารู้จักความรัก นายก็ทิ้งเราไป ความรู้สึกจุกๆตรงคอผมมันเพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมานายอาจเห็นว่าเราผ่านใครมามากมายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมือนเราไม่ได้รักนาย แต่นายรู้อะไรมั๊ยว่าไม่มีใครทำให้เรารักเป็นสักคน นอกจากนาย
วิว รักเราคือนายว่ะ
เราก็รักนายว่ะ บอส หยาดน้ำตาอีกสายไหลออกจากตาไอ้วิว
พูดจบไอ้วิวก็ใช้มือลูบหน้ามัน แล้วก็เดินออกจากห้องผมไปอย่างรวดเร็วโดยที่ ไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย ในตอนนี้ห้องผมมีเพียงผมและความเงียบอย่างร้ายกาจ ห้องที่เคยคับแคบเพราะอยู่กัน2 คน ถึงตอนนี้มันกว้างใหญ่เสียจนน่ากลัว ผมนอนมองเพดานห้องท่ามกลางความมืด เรื่องราวต่างๆตลอดช่วงวัย 23 ปีของผมนั้นได้โลดแล่นผ่านมาในสองผม ทั้งเรื่องที่แอบปีนดูห้องน้ำหญิงตอน ป.5 เรื่องที่ผมออกไปรับรางวัลนักเรียนเรียนดีตอน ม. 2 และเรื่องเคสผู้หญิงที่แสนดีที่เสียตอนปี2 และอีกหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา ผมรู้สึกว่าในหัวผมมันโคลงเคลงๆ มือไม้อ่อนแรง แล้วแก้วยาเปล่าๆในมือผมก็ร่วงจากมือ ตอนสายของวันใหม่ ผมลุกขึ้นอาบน้ำเพื่อที่จะไปเรียนภาคทฤษฎีที่คณะ แต่ด้วยความอ่อนล้าและความไม่พร้อมที่จะไปเผชิญกับความจริงในสังคม ผมจึงขาดเรียนในวันนี้ แต่เมื่ออยู่คนเดียวความฟุ้งซ่านที่คิดถึงเรื่องราวต่างๆก็กลับมาหาผมอีก โลกไซเบอร์เท่านั้นที่สามารถทำให้ผมลืมเรื่องเหล่านี้ไปได้บ้าง ช่วงนั้นใครขอให้ผมโชว์ผมก็โชว์ให้ดูตามคำขอ เพราะผมคิดว่าจะเก็บไว้ทำไมในเมื่อมันไร้ซึ่งเจ้าของมันแล้ว (ดูผมคิดบ้าๆสิครับ) ผมเป็นบ้าแบบนี้อยู่เกือบเดือน ก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองดีขึ้น แต่ก็ไม่เต็มร้อยเพราะไปไหนมาไหนผมยังรู้สึกว่าผมเป็นขาดความมั่นใจยังไงก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมต้องนั่งกินข้าวคนเดียว ไปซื้อของคนเดียว นอนคนเดียว และคนเดียวอีกหลายๆเรื่อง แต่สักพักก็คงชินผมปลอบใจตัวเอง
จากเด็กชายมากลายเป็นเกย์ และมาอยู่ในโลกที่ต้องซ่อนเร้นปิดบัง จนวันนึงโลกแห่งเกย์ก็สร้างความเจ็บช้ำให้กับผมอย่างมากมาย และเมื่อต้องการที่จะออกจากโลกสีม่วงใบนี้มันก็ช่างยากที่จะทำใจเหลือเกิน หลายๆครั้งที่ผมพยายามไม่มองผู้ชายด้วยกันแต่มันก็ตัดใจไม่ได้สักที ในเมื่อผมเห็นนายแบบทีไรก็โด่ได้ทุกที ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เลิกพยายามเลิกที่จะเป็นเกย์ ถ้ามียารักษาโรคเกย์นี้เม็ดละ1000บาทผมยอมซื้อกินจนกว่าจะหาย แต่มันก็คงเป็นแค่เพียงการจินตนาการของผมเท่านั้นเอง แต่เมื่อมานึกอีกทีถ้าผมยังมีความสุขกับไอ้วิวเหมือนเดิม ผมก็คงไม่โทษโลกของชาวเกย์ว่ามันอย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ก็นะคนเราเมื่อไม่ได้ดังใจก็โทษคนอื่นไปเรื่อย
ทุกวันนี้ผมไม่ได้โทรหาน้องแตงแล้ว และน้องแตงก็ไม่เคยที่จะโทรหาผมเช่นกัน ผมไม่ได้โทษเธอหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าเธอไม่ว่าง เธอต้องอุทิศเวลาที่มีของเธอให้คนที่เธอรักจริงๆและนั่นก็คือไอ้วิว หลายๆครั้งที่ผมบังเอิญเห็น2 คนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เดินด้วยกันอย่างกลมเกลียว นึกแล้วหน้าผมชาๆยังไงไม่รู้ครับ ผมมันต้องแพ้ไอ้วิวทุกครั้งหรือเปล่ากับเรื่องความรักบ้าบอนี้ ความโกรธแค้นมันเริ่มก่อตัวขึ้นมานิดๆแต่ก็ต้องหายไปเพราะอานุภาพแห่งความรักที่ผมมีต่อไอ้วิวและต่อน้องแตง
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าผมจะเหงาก็จริงแต่ก็ยังพอมีพวกลิง 3 ตัวนั่นมาเล่นที่ห้องบ้าง หรือแม้แต่เจ้าเกมก็ยังโทรชวนผมไปไหนมาไหนบ้างเช่นกัน แต่ไม่ได้ไปกันในฐานะแฟนนะครับ เพราะเจ้าเกมมันบอกผมว่ามันถูกชะตาผมมากกว่า อาจเพราะเราหน้าตาคล้ายๆกัน หุ่นก็เท่าๆกันด้วยมั้ง เจ้านี่เลยรู้สึกว่าผมเป็นสำเนามันที่มันชอบจะพาผมแนบไปด้วย ถึงวันนี้เจ้าเกมมันรู้ครับว่าผมเป็นเกย์ แต่มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจผมเลย ผมเองก็มานึกว่าถึงแม้มันจะรังเกียจผมก็คงไม่มีเหตุผลเพียงพอเพราะทั้งรูปร่างหน้าตาผมจัดว่าผมอยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะทางสังคมผมก็ออกจากเป็นที่ยอมรับเพราะผมเป็นหมอ ที่สำคัญผมไม่ได้ทำให้ชาติล่มจมเหมือนรัฐบาลขวัญใจคนจน สมัคร สุนทรเวช นี่ครับ
วันเกิดเจ้าเกม ตรงกับวันที่ 25 สิงหา มันพาเพื่อนๆวิศวะทั้งรุ่นมันที่ยังเรียนไม่จบและพวกน้องๆคณะมันรวมทั้งผมในฐานะเพื่อนใหม่ไปนั่งกินเหล้าที่แหลมสมิหลา (อีกล่ะ) เราเริ่มนั่งกินกันตั้งแต่ 6 โมงน่าจะได้ เราคุยกันทุกเรื่องจากเรื่องการเมืองยันเรื่องการมุ้ง ทุกคนเมื่อเริ่มมึนๆเมาต่างก็ลามกได้ที่ ตอนนั้นไม่อยากให้ใครมาเจอจริงๆเพราจะตกใจกับว่าที่บัณฑิตของชาติ แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่ครับที่เราเมาแล้วไม่ระรานใคร วงเหล้าเราดวลกันขวดต่อขวด จนเที่ยงคืนจึงพากันกลับ ถึงตอนนี้น้องคณะเจ้าเกมนอนนิ่งคอพับมาทับไหล่ผมแล้วครับ ผมนึกในใจ แหมไอ้พวกนี้มันอาบน้ำกันบ้างมั๊ยว่ะตัวเหม็นกันทุกคน คงมีเจ้าเกมคนเดียวมั้งที่กลิ่นใช้ได้ที่สุด เฮ้อ สกั้งบอย
เจ้าเกมมาส่งผมเป็นคนสุดท้ายแถมยังขึ้นไปส่งถึงบนหออีก มันบอกว่ากับหมอบอสมันต้องคุ้มครองหน่อย เดี๋ยวสาวๆลากไปกิน ดูมันทะลึ่งครับ ถึงห้องมันก็ไม่ยอมกลับไปครับ มันนั่งรอจนผมอาบน้ำเสร็จ และมันก็ขออาบน้ำต่อ
ตกลงจะนอนห้องเราใช่ม่ะ ผมเบื่อที่จะรอให้มันบอก
เออ เก่งวุ้ย หมอยเรา เอ้ยไม่ใช่ดิ หมอเราตะหากอิๆๆ ด้วยพิษสุราทำเอาเจ้าเกมบ้าได้เรื่อย
ผมเริ่มเข้านอนก็ตอนตีหนึ่งแล้ว นอนไปคงไม่ได้20 นาที ก็ได้ยินเสียงรถโรงพยาบาลขับมาที่หอพัก เสียงเจ้าหน้าที่วิ่งขึ้นบันไดโครมครามได้ยินชัดเจน อ้าวตายห่าแล้วหอเราเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรว่ะ
ผมรีบเปิดประตูออกมาดูทั้งที่ตัวเองก็ยังมึนๆอยู่
เอ้ยห้องเจ้าจอมนี่หว่า ผมพูดเสียงดังแบบลืมตัว
ผมรีบไปดูที่ห้องเจ้าจอมซึ่งถัดออกไปจากห้องผมอีกฝั่งหนึ่งของตึก ก็ต้องพบกับน้องตั้งและน้องฟ๋งยืนร้องไห้อยู่ แต่ผมไม่เห็นเจ้าจอม
น้องฟ๋งวิ่งมาหาผมและจับมือผมไว้แน่น ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ไอ้วิวมาถึง เจ้าหน้าที่และพยาบาลต่างเคลื่อนย้ายเจ้าจอมที่นอนนิ่งไม่ไหวติงออกไปจากห้องโดยที่มือข้างขวามันมีรอยไหม้เกรียมเกือบถึงข้อศอก
เกิดอะไรขึ้นกับจอมอ่ะฟ๋งบอกพี่สิ ไอ้วิวตะคอกถามน้องอย่างรุนแรง
เสียงน้องฟ๋งร้องไห้ และบอกว่าไม่รู้เพราะตอนนั้นมันกับน้องตั้งออกไปซื้อมาม่า ข้างนอก ซึ่งก่อนออกไปนั่น ไอ้เจ้าจอมมันอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ กลับมาอีกทีก็เห็นเจ้าจอมนอนดิ้นอยู่ข้างปลั๊กไฟใกล้ๆพัดลม
เสียงอะไรอ่ะหมอ ไอ้เจ้าเกมออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ออกมาในสภาพที่ดูไม่ได้ มันใส่บ๊อกเซอร์ผมตัวเดียวออกมา และยังคงดูมึนๆอยู่ ไอ้วิวเหลือบไปเห็นเจ้าเกมแล้วหันกลับมามองผมอย่างตำหนิ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอารมณ์ในสายตามัน เพราะตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ผมคิด
แต่เราก็ไม่ได้มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องนี้นาน ผมรีบวิ่งตามรถโรงพยาบาลไป แต่ก็ไปไม่ได้เพราะลืมกุญแจห้องไว้ที่ข้างบน เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ไอ้วิว ผมจึงจำใจต้องไปกับมันในยามฉุกเฉินเช่นนี้ ในรถผมเตือนสติมันว่าโทรบอก พ่อแม่เจ้าจอมหรือยัง และป้าละม้ายล่ะบอกหรือยัง ไอ้วิวได้สติจึงรีบโทรบอกผู้ใหญ่ตามที่ผมแนะนำ
ไม่ถึง 5 นาที ญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวมากันครบที่หน้าห้องฉุกเฉิน รวมทั้งไอ้เจ้าเกมที่ตอนนี้ดูได้หน่อย มาพร้อมกับน้องตั้งและน้องฟ๋ง เสียงพยาบาลคัดกรองผู้ป่วยเรียกแม่เจ้าจอมเข้าไปข้างใน และมีป้าละม้ายเดินเข้าไปเป็นเพื่อน ทั้ง2 เข้าไปนานมากทีเดียว ปล่อยให้ทุกคนรอกันอยู่ข้างนอก ตี3 คงจะได้ป้าละม้ายออกมาเพียงคนเดียว
จอมเสียแล้วลูก ป้าละม้ายปล่อยโฮ้ออกมาอย่างไม่อายพยาบาลตรงนั้นทั้งๆที่ป้าละม้ายก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการพยาบาลที่นี่
พ่อเจ้าจอม ผมและไอ้วิว วิ่งเข้าไปที่ห้องช่วยฟื้นคืนชีพข้างใน ซึ่งผมคุ้นเคยดี เพราะผมเคยมาทิ้งหัวใจไว้ที่นี่ครั้งนึง และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อผมเห็นเจ้าจอม นอนตัวซีดเซียว มือข้างขวาไหม้เกรียมจนนิ้วก้อยและนิ้วนางหายไป พ่อเจ้าจอมขาพับขาอ่อนจนผมกับไอ้วิวต้องช่วยกันประคองไว้
คืนนั้นทั้งคืนผมต้องไปที่สถานีตำรวจเป็นเพื่อนไอ้วิว และพาน้องๆทั้ง 2 ไปให้ปากคำกับตำรวจตรงที่เกิดเหตุ เพราะญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวที่นี่มีไม่เยอะและที่มีอยู่ก็สภาพไม่พร้อมกันทั้งนั้น กว่าจะเสร็จเรื่องก็เช้าเข้าไปแล้ว ศพเจ้าจอมถูกเคลื่อนย้ายกลับเชียงใหม่ของบ่ายวันนั้น เพราะทางญาติๆเขาต้องการพาไปฌาปนกิจที่บ้านเกิด ผมกับไอ้วิวไม่ได้ตามไปส่งศพเจ้าจอมหรอกครับเพราะติดหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทางนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปตอนวันเผาเลยทีเดียว ส่วนไอ้วิวผมไม่รู้เพราะเราคุยกันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เสร็จจากเรื่องราวต่างๆ ไอ้วิวจึงขับรถไปส่งผมที่หอ ขณะนั่งรถกลับ ไอ้วิวมันร้องไห้มาตลอดทาง จนผมต้องเปลี่ยนไปขับเอง ผมเข้าใจความรู้สึกไอ้วิวดีว่ามันรู้สึกอย่างไร เพราะผมเคยเจอเรื่องนี้ครั้งที่เคสเสีย ซึ่งเธอก็เป็นคนเชียงใหม่เหมือนกับเจ้าจอม ไปถึงห้องผมยังชวนไอ้วิวขึ้นไปบนห้องผมอีก และมันก็ไปอย่างว่าง่าย เมื่อไปถึงก็เจอเด็กๆนั่งร้องไห้อยู่กับเจ้าเกมที่ตอนนี้ดูสร่างเมาแล้ว เรา 5 คน ซึ่งคนที่ 5 ไม่ใช่เจ้าจอมอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นไอ้เจ้าเกมแทน นั่งคุยเรื่องนี้กันอีกครู่หนึ่งและแยกย้ายกันกลับ ปล่อยผมทิ้งไว้ในห้องแต่เพียงคนเดียว
เรื่องราวของความรักที่มันไม่อาจเป็นดั่งที่วาดฝันไว้ก็ได้เดินทางมาถึงตอนปัจจุบันที่สุด ถึงตอนนี้หลายๆท่านที่ติดตามอ่านมาจะเห็นว่าความรักของผมนั่นมันเปี่ยมล้นไปด้วยโอกาสที่จะก่อให้เกิดเป็นความรักและชีวิตคู่ที่งดงาม แต่แล้วมันก็ต้องจบลงเพราะเหตุปัจจัยภายนอกที่มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะเหตุนั้นคือบุคคลที่ให้กำเนิดเรานั่นเอง ส่วนปัจจัยภายในที่มีผลก็คือความมั่นใจและไว้ใจกันของเราทั้ง 2 นั้นมันเปราะบางเกินไปทำให้มันร้าวเอาง่ายๆเมื่อมีปัญหา สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกความรักจงพบกับคำว่าสุข และขอไว้อาลัยให้แก่บุคคลที่เคยมีตัวตนและจากไปในเรื่องเล่านี้ “นักรักหน้าหยก”
ยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นในความรัก ขอบคุณทุกความรักที่ติดตาม


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
B
Guest

7. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
In response to message #6
 
27-Aug-12, 01:02 AM (SE Asia Standard Time)
 
   โอ้ย!!!!!!!! เรื่องราวมันจะอะไรกันนักเนี่ย แต่ยังไงก็ ดัน ครับ ขอให้จบแบบ Happy ending แล้วกันคับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters