We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

PalmPlaza.us

Subject: "Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #473
Reading Topic #473
เจ้าบอสน้อย
Guest

"Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
 
27-Aug-12, 09:30 PM (SE Asia Standard Time)
 
   นักรักหน้าหยก 8 เทียนกลางสายฝน (18/7/52)
หลังจากเรื่องราวความรักของผมถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลท์ ก็มีเสียงตอบรับอย่างดี จนผมเองอดดีใจไม่ได้ที่เพื่อนๆชอบ และสนใจอ่านเรื่องราวประสบการณ์ความรักของผม บางคนชอบตรงที่ผมเล่าได้เห็นภาพ บางคนก็ชอบตรงที่บางเรื่องบางตอนไปตรงกับชีวิตของตน บ้างก็อ่านเอามันส์ในบางตอนที่ผมกล่าวถึงการมีเซ็กส์ บ้างก็อ่านแล้วได้ข้อคิดต่างๆมากมายและได้สะท้อนกลับมาหาผม ทางเว็บบอร์ด อีเมล์ หรือแม้แต่โทรมาคุยเลยก็มี ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเล่าเรื่องของผมครับ หลายๆคนอยากให้ผมเล่าเรื่องราวความรักของผมต่อว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไรสนใคร่รู้ บางคนก็อยากนำไปทำเป็นหนัง เล่นเอาผมปลื้มเลยทีเดียว ผมเองอ่านคำคอมเม้นท์เหล่านั้นแล้วก็เห็นดีด้วยว่าควรเล่าต่ออีกหน่อยนึง เพราะที่เล่าไว้มันดูค้างๆอย่างไรไม่รู้ แต่ขอสัญญาต่อพระสุรัสวดี พระผู้เป็นเจ้าแห่งอักษรทั้งปวงว่า เรื่องเล่าเรื่องนี้ของข้าพเจ้าจะจบไว้แค่เพียงแค่ 10 ตอน อย่างน้อยก็เพื่อให้เกียรติแก่บุคคลในเรื่องเล่าที่ถูกกล่าวถึง ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคลถูกเผยแพร่มากจนเกินไป เริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
เวลาเป็นสิ่งเหนือจินตนาการของเหล่ามนุษยชาติ เวลาเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของสิ่งใดๆ คนแต่ละคนที่เดินผ่านไปมาตามท้องถนนหรือที่ใดๆก็ดีนั้นย่อมมีเวลาที่ไม่เท่ากัน สำหรับบางคนที่มีความสุขเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับที่เป็นทุกข์เวลาช่างเคลื่อนผ่านไปอย่างต้วมเตี้ยมเหลือเกิน ชีวิตผมในภายหลังการจากไปชั่วนิรันดร์ของเจ้าจอมนั้นผมรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความสุขของผมนั้นมอดดับตามลงไปด้วย ผมเองต้องจมอยู่ในความเศร้าอย่างไม่มีสิ่งไหนทดแทนได้อีก มันเป็นความเศร้าเกินไปที่คนๆนึงสามารถรับมันได้ ไหนจะเสียน้องแตง ไอ้วิว และเจ้าจอม แล้วภาพเหล่านั่นก็ทำให้ผมอดคิดถึงเคสผู้หญิงที่ผมเคยรักอีกคนนึงไม่ได้ ถึงตอนนี้ผมต้องนอนน้ำตาไหล ความคิดต่างๆของผมต้องจมไปในทะเลระทมอย่างไม่มีวันแหวกว่ายขึ้นมาได้ รอบกายผมมองออกไปไม่มีอะไรที่มันจะทำให้ผมสดใสขึ้นมาได้เลย
ปลายเทอมปี 5 ของผม ผ่านไปอย่างสุดเหงา เจ้าเกมเองก็เรียนจบและจากมหาลัยไปแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวจริงๆ ในช่วงปิดเรียนยิ่งทำให้ผมเบื่อได้อีก กลับไปบ้านก็มีไอ้ลำดวนตัวเดียวที่พอจะทำให้ผมมีเสียงหัวเราะได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ผมปลดปล่อยจากอารมณ์ทรมานนี่ไปได้ ผมเดินง่วนไปมาภายในบ้านจนเป็นที่สังเกตของพ่อและแม่ เมื่ท่านทั้ง 2 ถามผมก็บอกไปว่า เบื่อไม่รู้จะทำอะไรดี โดยไม่ได้บอกสาเหตุของความเบื่อ เซ็ง เหงาเหล่านั้น พ่อเลยแก้ปัญหาให้ผมโดยให้ผมช่วยงานในคลินิกแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น นอกเสียจากผมต้องออกไปกินเหล้า
เกือบทุกคืนในช่วงปิดเทอมนี้ที่ผมออกไปกินเหล้า บ้างก็ไปกับเพื่อนๆที่คณะที่ยังไม่กลับบ้าน บ้างก็ไปกับเพื่อนแถวๆบ้าน 2-3 คน กลับมาจากเที่ยวแต่ละครั้งเพื่อนๆผมก็หิ้วผู้หญิงกลับมาฟันที่หอกันอย่างเมามัน บ้างก็หมู่บ้างก็เดี่ยว นับว่าชั่วกันได้ที่เลยทีเดียว แต่ผมเองต้องขอออกตัวไว้ตรงนี้ก่อนว่าไม่เคยได้ไปร่วมวิวาเหาะกับเขาหรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ หรือไม่กล้าหรอกนะครับ แต่ผมยังทำใจไม่ได้มากกว่า จนพักหลังเพื่อนๆผมเริ่มแซวว่าอาจู๋ผมบวชพระเสียตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว หนักเข้าพวกมันเริ่มแซวมากขึ้นจนผมชักโกรธ แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษเพื่อนๆ หรือหาหญิงมาฟันให้สะใจหรอกนะครับ เพราะตอนนี้ผมไม่มีความรู้สึกอยากมีเซ็กเลยแม้แต่น้อย ชักว่าวก็ไม่เคย นานเข้าเมื่อน้ำเชื้อวัยหนุ่มของผมเต็มเปี่ยมมันก็ล้นออกมาในตอนหัวรุ่งเกือบทุกคืน และภาพพาฝันเหล่านั้นก็คือไอ้วิวนั้นเอง ตื่นมาแทนที่ผมจะรู้สึกสดชื่นกับอารมณ์สุขสมที่ธรรมชาติมอบให้นั้น ผมกลับรู้สึกเหงาใจและคิดถึง โหยหามันมากขึ้น แต่แล้ววันแห่งการปลดปล่อยความโศกาอาดูรของผมก็มาถึง
วันนั้นเป็นวันใกล้เปิดเทอมปี 6 ของผม เพื่อนๆในคณะบางคนก็กลับมาที่มหาลัยแล้ว เพื่อเตรียมตัวกับวันเปิดเรียนใหม่อีกครั้ง เรารวมกลุ่มกันไปกินเหล้าฉลองการเจอกัน หลังจากกันไปนานประมาณสัปดาห์กว่าๆ ( มันเป็นเหตุผลของคนอยากกินเหล้าอ่ะครับ) ที่ผับ คนมาเที่ยวเยอะอย่างเคย ผมก็เมาได้ที่เช่นเคย แต่วันนี้เมาหนักกว่าวันก่อนๆเพราะมากันหลายคน ขากลับก็มีคนขับรถให้ เลยปล่อยใจปล่อยกายเมาเป็นหมาไปเลยครับ เกือบตี 2 ผมเมาจนแข้งขาอ่อนแรงเลยต้องมานั่งพัก ขณะที่นั่งนั้นสายตาผมไม่ได้พักตามนะครับ ผมสอดส่ายสายตามองคนที่มาเที่ยวอย่างหนาแน่น เพื่อหาเหยื่อไปลบคำสบประมาทของเพื่อนๆ ผมมองไปเรื่อยๆจนมาสะดุดกับหญิงชายคู่หนึ่งที่ยืนกอดจูบกันข้างๆโต๊ะผม ผมนึกในใจว่าไอ้นี่มันกล้าพาเมียมันมาจูบโชว์ในผับแฮะ( เอิ้ก ม่าว ) คิดได้อย่างนั้นแล้วผมเลยยิ้มให้กับความกล้าของมันไม่ได้ คงเป็นโชคชะตาอีกครั้งแหละครับที่คอยกลั่นแกล้งชักนำให้ผมได้เป็นเกย์ เพราะทันทีที่ผมยิ้มไปนั่นเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้นั่นมันถอยจูบจากเมียมันแล้วหันมาทางผมพอดี ผมเลยแกล้งทำเนียนลุกขึ้นเต้นเร่าๆเพื่อแก้เขิล แต่ก็สายไปแล้ว เพราะไอ้นั่นมันเดินตรงมาหาผมอย่างตั้งใจ ผมนึกว่าตายห่ามีเรื่องแน่ๆคืนนี้ ผมเลยหันไปบอกเพื่อนให้เตรียมตัว เพื่อนหมอของผมก็ใจสู้กันเหลือเกิน แต่ละคนหน้าซีดยังกะไก่เซ่นเจ้าเลย
ไอ้นั้นมันเลยมาหาผม แต่ดูๆแล้วมันก็เมาไม่ต่างไปจากผม เพราะกว่าจะเดินมาถึงตัวผม มันก็เดินชนคนนั้นทีคนโน้นที เมื่อมาถึงที่ผมยืนอยู่ มันส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์มาให้ผมหนึ่งกิ๊งแล้วเสียงแหบๆของมันก็แทรกเสียงจากลำโพงในผับออกมาให้ผมได้ยิน มันเป็นคำแรกและคำสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากไอ้นั่นคือ ชื่ออะไร นั่นเป็นคำถามที่ไม่สามารถตอบได้เพราะว่าริมฝีปากผมถูกขยี้ด้วยริมฝีปากไอ้แขกมาใหม่โดยไม่ได้รับเชิญ อย่างหื่นกระหาย ทุกสายตาที่ยืนใกล้โต๊ะผมต้องหยุด กรึ๊บ แล้วมองมาที่ผมกับชายคนนี้ แต่ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไป เมียมันก็มาดึงมันออกไป เพื่อนผมก็กระชากผมออกมา ผมเซตามแรงกระชากของเพื่อนๆ แต่สายตาผมยิ้มกริ่มให้เจ้านั้นที่ตอนนี้เมียมันทั้งจิกทั้งทึ้งตัวมัน แทนที่มันจะสำนึกมันกลับใช้ฝ่ามืออันใหญ่โตนั้นพลักหน้าเมียมัน สถานการณ์ตอนนั้นเริ่มไม่ดี เพื่อนๆในกลุ่มมันจึงลากทั้งไอ้นั้นและเมียออกจากผับไป ส่วนทางด้านผมนั้นเพื่อนๆก็ด่าว่าผมกันใหญ่
มึงจะบ้าหรอบอส นั่นผู้ชายนะโว้ย ไอ้แว่นตาตี๋เพื่อนผมบอก
กูรู้ ผมตอบ
เอ้าไอ้นี่เมาแล้วมั่วว่ะ จำไม่ได้แล้ว ไหนหญิงไหนชายหรือไงว่ะ เสียงอีกคนพูด
หรือว่ามึงเป็นเกย์ อีกคนเสือกออกมาแข่งกับเสียงเพลงในผับ
เกย์หรือ ผมทวนคำ ในใจนึกรังเกียจคำๆนี้อย่างบัดซบ
ตอนนี้ผมเริ่มงงๆกับเพลงและไฟที่สลัวมากขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกอายเพื่อนๆ ที่เริ่มสงสัยในตัวผม ผมเลยต้องหลบลี้ไปห้องน้ำ เมื่อผมออกจากห้องน้ำก็ดันมาเจอกับไอ้คนที่จูบผมอีกครั้ง มันเป็นผู้ชายตึวบึ๊กมาก ผมคิดว่าผมตัวโตแล้วนะ แต่ไอ้นี่ตัวโตกว่าผมอีก หน้าตาอย่างกะโจรห้าร้อย ดูแล้วชั่วๆเลวๆยังไงไม่รู้ แต่เมื่อมันยิ้มมันมีเสน่ห์มาก เมียมันที่คอยเกาะแขนไม่ห่างนั้นหน้าตาสวยมาก แต่เธอก็ดูๆไปก็เหมือนกับผู้หญิงขายตัวมากกว่า
ชื่ออะไรอ่ะเรา ไอ้หมีควายถามผม
บอสครับ ผมตอบโดยไม่มองหน้ามัน (กูกลัวมึงไอ้หมี)
อืม เดี๋ยวมารับอย่าเพิ่งไปไหนล่ะ ไอ้หมีควายสั่งผม
รับไปไหนอ่ะครับพี่ ผมถามมัน แต่ไม่สบตา เพราะผู้หญิงคนนั้นเริ่มโววาย
รอนี่แล้วกัน มันเสียงแข็ง พูดแล้วดึงตัวเมียมันขึ้นรถโดยสารไป
ครับพี่ ผมตอบอย่างว่าง่าย แล้วเดินไปนั่งหน้าห้องน้ำนอกผับ แต่ไม่ได้คอยมันนะครับ แต่คอยเพื่อนผมต่างหาก เพราะหากใครเมามากก็มักออกมาคอยกันตรงนี้ โดยไม่ไปกวนเพื่อนที่กำลังสนุกอยู่ นี่คือกติกากลุ่มผมสำหรับตอนมาเที่ยว แต่ก่อนที่เพื่อนผมจะออกมา ไอ้หมีนั้นมันดันกลับมาเสียก่อน เหมือนมันมองหาผมอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าผมนั่งอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ มันเลยรีบจ้ำอ้าวมาที่ผม ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย มันเลยตอบผมว่า
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนผมหรอก เพื่อนผมเองครับ
หรอ เอิ๊ก( ผมม่าวมาก )
ไป กลับ ไอ้หมีควายดึงมือผมให้ลุกขึ้น
กลับไปไหน ผมรอเพื่อนก่อนครับพี่ ผมใช้เสียงให้นุ่มหูที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการมีเรื่อง แต่นั้นก็ไม่เป็นผล เพราะเจ้านี่ให้กำลังกาย กำลังวาจาพาผมขึ้นรถโดยสารไปเสียแล้ว
ผมนั่งรถโดยสารกลับมาพร้อมกับไอ้หมีควาย มันพาผมไปนอนโรงแรมที่มันพัก โดยที่ไม่ถามผมเลยว่าผมจะไปไหน ที่โรงแรมมันเปิดห้องไว้อยู่เพียงคนเดียว จากข้าวของที่มันพามา ผมสามารถเดาได้ว่าไอ้นี่มันไม่ใช่คนที่นี่แน่ๆ
ไปเที่ยวบ่อยหรอ มันถาม พลางถอดเสื้อโชว์เนื้อแน่นๆ ที่ไม่มีกล้าม แต่ก็ไม่ใช่ไขมัน
ป่าวครับ ผมเมาแล้วแต่ก็ยังพอโกหกคนได้อยู่
ผมชื่ออ้นนะ
ผมบอสครับ พูดพลาง ตาผมเริ่มปิดลง และค่อยฟุบลงบนเตียงนุ่มๆ
ไปอาบน้ำดิจะได้หายเมา ไอ้อ้นนี่บอกผม
ผมก็ช่างว่านอนสอนง่ายเหลือเกินในยามที่เมา ใครพาไปไหนก็ไป ใช้ทำอะไรก็ทำ (แหม บ้าจริงๆเลยเรา )หลังจากผมอาบน้ำเสร็จเจ้าอ้นก็เข้าห้องน้ำต่อ ระหว่างที่มันอาบน้ำผมนอนหลับล่วงหน้ามันไปก่อนเสียแล้ว ด้วยพิษเหล้าบวกกับแอร์เย็นๆ ผมหลับไปโดยไม่ทันรู้ตัว ตื่นมาอีกที่ ก็ตอนที่ผมรู้สึกว่าร่างกายผมมันเย็นเหลือเกิน ผมดึงผ้าห่มปลายเท้าขึ้นมาห่ม ทำให้เจ้าอ้นมันตื่นขึ้นมา
กอดหน่อย มันบอกผม จมูกโด่งๆของมันซุกไซร้ที่ซอกคอผม เสียวทีเดียว
เอ้ย ไม่ได้ผมตอบ ทำท่าหวงตัว เพราะผมประเมินแล้วว่าคืนนี้ไอ้เจานี่มันต้องการทะลวงก้นผมแน่ๆ
นา มันอ้อนผม พลางใช้มือลูบขาอ่อนผม
แง่ๆ ไม่ได้ ผมกวนอย่างงัวเงีย และดึงผ้าห่มมาปิดขา
กอดไม่ได้งั้นมาเป็นเมียผมดีกว่า เจ้าอ้นพูดพลางกระโจนโพลงออกไปจากเตียง ไปหยิบของในกระเป๋ากางเกง แล้วเอามาใส่ปากมันแล้ว รีบกระโจนขึ้นเตียงมาจูบปากผม นั้นก็เพื่อยัดยานั้นใส่ปากผมไม่ให้ผมสงสัยนั้นเอง (ไอ้นี่มันเก่ง) ผมงัวเงียๆ แต่ก็พอจะรู้ว่ามีอะไรเป็นเม็ดๆลงไปในคอ ก่อนที่ผมจะถาม เจ้าอ้นเอามือมันทำจุ๊ๆ ที่ปากผม แล้วบอกผมว่ายาหรรษา กินแล้วจะมีความสุข
เอ้ย ไม่เอา ผมจะคายทิ้ง
เจ้าอ้น ดึงผมมากอดแล้ว ตะบี้ตะบันจูบปากผม เพื่อไม่ให้ผมคายทิ้ง จนยานั้นละลายหมด ผมรู้สึกหายใจไม่ออก จากการจูบกับมันนานเกินไป ผมเลยยอมแพ้มัน อืมๆ ผมพยักหน้าอย่างรับรู้ อาจเพราะผมยังคงมึนๆอยู่ สติที่ควรจะระวังภัยย่อมด้อยประสิทธิภาพตามดีกรีเหล้าในร่างกายที่สูงอยู่
สักประมาณ 15 นาทีคงจะได้ ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวอย่างมาก มันเป็นความรู้สึกที่สนุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เจ้าอ้นนี่มันคงสักเกตว่าผมคงได้ที่แล้ว มันเลย จัดการผมอย่างชำนาญ
เอ้ย อย่านะเว้ย กูไม่ชอบเกย์ สติอันน้อยนิดที่ยังคงมี สั่งผมให้พยายามดิ้น เมื่อมันเริ่มลุกลามพื้นที่สงวนผม
ผมก็ไม่ใช่เกย์ แต่ผมเป็นเสือไบ เจ้าอ้นทำตาเจ้าเล่ห์
ฉิบหายกู (ผมนึก)
ริมฝีกปากผมกับเจ้าอ้นดูดลามเลียอย่างบ้าคลั่งด้วยฤทธิ์ของเหล้านอกอันร้อนแรง ลิ้นเราสองคนกระหวัดพัลวันบ้างดูด ปากเลียริมฝีปากและคาง ลามไปใบหน้าของกันและกัน หนวดเคราของเจ้าอ้นถึงแม้จะครูดใบหน้าของผมบ้างแต่นั้นมันกลับทำให้ผมยิ่งโหยหามันมากขึ้น ผมจูบเฟ้นมันแรงขึ้นๆ แต่ก็ยังสู้มันไม่ได้ที่ดูเหมือจะชำนาญกว่าผมมาก
ผิวหน้าเนียนนุ่มจังเลยครับ มันกระหืดกระหอบชมผม
อ้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หยุดที ผมร้อง ขณะมันกัดหัวนมและบีบอาจู๋ผมอย่างแรง
หือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงเจ้าอ้น ครางออกมาอย่างเสือร้าย พร้อมคว้าใบหน้าผมมาจ้องตาอย่างหื่นสุดชีวิต มันทำท่าเหมือนจะกัดกินผมไปทั้งตัวก็ไม่ปาน
นายเป็นพวกซาดิสหรือ ผมถามมันตรงๆ ซึ่งตอนนี้ผมหนีขึ้นไปนั่งบนหัวเตียงแล้ว แต่มันกลับไม่ตอบ กลับจับผมให้นอนกางพืดแล้วเลียผมไปทั้งตัวทั้งใบหน้า หู ซอกคอ หน้าอก หน้าท้อง น่อง และปลายเท้า หลังจากมันเลียผมแล้ว ดันกลับมาดูดปากผมอีกที ผมเองก็ดันดูดปากมันตอบ (สกปรกจริงๆ ตอนนั้น)
นาย พอเหอะ ผมรู้สึกว่าผม ปวดหัวและใจสั่นมากๆ ผมบอกมัน
อืม มันพยักหน้า
ยานายทำผมแน่ๆ ผมรู้สึกวิงเวียนมากขึ้น
อืม มันพยักหน้าอีกครั้ง แต่นั่นไม่ใช่การพยักหน้าเพื่อบอกว่ารับทราบแต่นั้นหมายถึงการเริ่มต่อต่างหาก คราวนี้มันเล่นไม้ตาย มันบอกผมว่าจะขอดมซอกก้นเนียนๆหน่อย
เอ้ย ไม่ได้ ผมหวงตัวอย่างเด็กน้อย
นา ขอหน่อยแค่ดมเอง
เอ้ย (ผมเริ่มไม่แน่ใจในรสนิยมเจ้านี่ขึ้นมาทันที)
มันไม่ฟังและไม่ขอผมต่อ กลับจับผมฉีกขายกตั้งบนหลังและบนหัวของมัน ปากก็ดูดอาจู๋ผม มันดูดได้ดีเลยทีเดียวเล่นเอาผมเคลิ้มตัวลอย จากนั้นมันก็เริ่มหันมาดมซอกขาหนีบผม ปากพลางชม เนียนจังครับ ดมไปเลียไปสักพัก มันให้ผมนอนคว่ำเอาหมอนหนุนหน้าท้อง นอนก้นโด่ ผมก็ทำตามอย่าว่าง่าย ถึงตอนนี้ยาปลุกเซ็กส์ของมันออกฤทธิ์เต็มที่แล้วครับ
ลิ้นอันนุ่มๆตวัดไปมาในช่องแคบๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสุขของผม ไรขนในซอกตูดสัมผัสกับลิ้นเล่นเอาผมครางออกมาอย่างหมดท่า ในบางครั้งเจ้าอ้น ก็เกร็งลิ้นแข็งๆ ยัดไปในตูดผม ผมรู้สึกตัวเบาหวิว ดีจังครับผมชมมัน มันเห็นว่าผมชอบ มันเลยทำแรงขึ้นเร็วขึ้น จนผมน้ำแตกโดยไม่รู้ตัว
อ้า……….. ผมร้องออกมาอย่างเป็นสุข
เมื่อเจ้าอ้นเห็นว่าผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันจึงเริ่มเกมของมันต่อ โดยก่อนที่มันจะเริ่มมันบอกผมว่า นอนนิ่งๆนะครับเจ็บนิดเดียว ด้วยความเมาบวกกับอาการเหนื่อยจากการเพิ่งเสียน้ำเชื้อไปเมื่อครู่ทำให้ผมไม่มีแรงที่จะตอบมัน ไม่แม้จะแสดงท่าทีปฏิเสธมัน เจ้าอ้นเดินลงจากเตียงไปรื้นค้นของในกระเป๋าเดินทางของมันอีกครั้ง สักพักมันหยิบถุงยางขึ้นมากล่องนึง และขวดน้ำใสๆคาดว่าน่าจะเป็นเจลหล่อลื่น แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิด
นิ้วเจ้าอ้นที่ชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่นแหย่เข้าตูดผมอย่างสุดนิ้ว เล่นเอาผมร้องอ้าก ออกมาด้วยความเจ็บ จากนั้นมันก็เดินไปเปิดไฟในห้อง
เปิดไฟทำไม ผมถามมันพลางขยี้ตา
ก็อยากเห็นหน้านายตอนโดนเย็ดอ่ะ มันพูดแบบกวน
เอ้ย ไม่เอา โดนเย็ดไม่เอา ผมร้องลั่นเมื่อเจ้าอ้นพยายามจับผมนอนคว่ำ มือผมกุมขมับไว้แน่นเพราะมึนมากๆ
เจ้าอ้นหอมแก้มผม สลับซ้ายขวา จนผมรู้สึกว่าหน้าผมช้ำไปหมดแล้ว มือมันพลางใส่ถุงยางอย่างชำนาญ วัตถุแข็งๆขนาดเท่าขวดโรออนของนีเวียไวท์ และยาวประมาณเจ็ดนิ้วเท่าของผมใส่ลึกลงไปทางหลังผม สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ผมดิ้นไปมาและบอกมันว่าช่วยเอาออกไปทีผมไม่ไหวแล้ว มันเจ็บจริงๆ เจ้าอ้นมันไม่ฟังคำขอร้องของผม แต่กลับให้ลิ้นมันมาเลียใบหน้าและซอกคอผม สักพักผมเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น มันจึงเริ่มโยกต่ออย่างเบาที่สุด ทั้งที่ปากมันยังคงบรรจงจูบผมอย่างเบาๆ
หลากหลายท่าที่เจ้าอ้นงัดมาใช้กับผม ผู้ซึ่งมีแต่ร่างกายให้มันเชยชม ส่วนวิญญาณความรู้สึกนั้นเริ่มขาดเป็นห้วงๆ เพราะฤทธิ์ของยาและเหล้าที่ทำให้ผมมึนงงอย่างที่สุด ท่าสุดท้ายที่เจ้าอ้นใช้กับผมคือ มันให้ผมนอนคว่ำและให้หัวผมห้อยลงข้างเตียงส่วนก้นนั้นนอนหนุนเตียงอยู่ ซึ่งท่านี่ตูดผมจะโด่มาก ทำให้เจ้าอ้นตะบี้ตะบันตูดผมได้อย่างเมามัน มันยัดอาจู๋ใหญ่ยักษ์ของมันใส่ตูดผมอย่างไม่ยั้ง จนบางครั้งผมรู้สึกได้ว่าตูดผมมันตึงเกินไปจนแทบฉีก เกือบ30 นาทีที่เจ้าอ้นน้ำกว่าจะแตก แต่เมื่อมันน้ำแตก มันกลับมีพฤติกรรมที่ต่างจากคนอื่นๆคือ มันจะเกร็งไปทั้งตัว แล้วจะใช้หัวมันซุกตรงที่อกของผม ฟันนั้นขบกัดกันดังกรอดๆ เหมือนมันจะหลุดออกมาจากปาก มันคงเสียวมากผมคิด


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
เจ้าบอสน้อย
Guest

1. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #0
 
27-Aug-12, 09:31 PM (SE Asia Standard Time)
 
   หลังจากที่มันน้ำแตกแล้ว มันกระซิบกับผมว่า ให้ผมอยู่กับมัน อย่าทิ้งมันไปไหน มันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ทำให้มันมีความสุขสุดชีวิตเท่ากับผม ตอนนั้นผมกึ่งหลับกึ่งตื่น จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่รู้คือเจ้าอ้นเริ่มลุยทางหลังผมอีกครั้ง ผมเองก็ได้แต่นอนตัวอ่อนปวกปียกให้มันเชยชมอย่างวิตถารที่สุด
ตอนเช้าเมื่อผมสร่างเมา ลืมตามาเห็นเจ้าอ้นนอนหนวดเคราหน้าเข้ม ผิวดำแดง ตัวบึ๊ก นอนข้างๆเล่นเอาผมตกใจสุดตัว แต่ก็เอะใจได้ว่าก็เมื่อคืนเรามากับไอ้หมอนี้นี่หว่า ผมค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงไปล้างหน้า แต่ด้วยสัญชาตญาณระวังภัยของเจ้าอ้น มันลืมตาขึ้นทันทีที่ผมเคลื่อนไหวตัว
จะไปไหนอ่ะ มันถาม
ล้างหน้าครับ ผมตอบอย่างกลัวๆมัน
อืม พูดเสร็จมันลุกขึ้นตามผมเข้ามาในห้องน้ำ แล้วเราทั้งสองก็อาบน้ำพร้อมกันในเช้าวันนั้น แต่ขอออกตัวก่อนว่าระหว่างอาบน้ำนั้นไม่ได้มีไรกันนะครับ อาบน้ำเสร็จเจ้าอ้นบอกผมว่าหิวมั๊ยเดี๋ยวจะลงไปหาอะไรมาให้กิน ผมบอกว่าไม่อ่ะ เราสองคนเลยนอนคุยกันต่อ มันบอกผมว่ามันทำงานที่มาเลเซีย ขายของอยู่ที่โน้น รายได้ดีมากมันบอก ผมก็ได้แต่อือๆออๆ ตามที่มันเล่า ที่มาเมืองไทยรอบนี้เอาของมาส่งและขอเจ้านายมาพักร้อนด้วยเลย แต่ที่ผมสังเกตนะครับผมว่าเจ้านี่มันน่าจะค้ายาข้ามชาติมากกว่าที่จะทำอาชีพที่สุจริต หรือไม่แล้วก็น่าจะเป็นเด็กเลี้ยงของเสี่ยแก่ๆในมาเลเซีย เพราะดูจากรสชาติเซ็กส์มันแล้วไม่ต่างจากเด็กขายจริงๆ เรานอนคุยกันไปสักพัก ผมนอนจ้องตามันตลอด จนเจ้าอ้นถามว่าทำไมมองมันแบบนั้น ผมตอบว่าเปล่านี่ มันบอกว่า ก็ได้จะเล่าเรื่องจริงให้ฟังก็ได้ แล้วเจ้าอ้นก็เล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวให้ผมฟังว่ามันจบปริญญามา 2 ใบ ที่บ้าน ทำธุรกิจส่วนตัว รวยมาก มันเป็นลูกคนเดียว แต่ไม่อยากอยู่บ้านเพราะเบื่อที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ขณะที่ฟังมันเล่าผมรู้สึกว่าเรื่องที่เจ้าอ้นเล่านี้มันเหมือนนิทานมากกว่าเพราะแต่ล่ะเรื่องมันไม่น่าจะเป็นจริงเช่น หากบ้านรวยมากแล้วทำไมตัวเองต้องไปดั้นด้นทำงานต่างประเทศ และอีกมากมายที่ผมจับโกหกมันติด แต่ผมก็ไม่ได้ค้านมัน เพราะถึงจะค้านมันออกมาหรือไม่นั้นมันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นผมนึก เจ้าอ้น เล่าไปสักพักมันร้องไห้ออกมาให้ผมเห็น เอ้า เวรแล้วผมคิด
เอ้า ร้องทำไมอ่ะ ไม่เอาๆ ผมปลอบมัน
อืมๆ เจ้ายักษ์ขี้แง่เช็ดน้ำตา
นายบอส นาย เป็นแฟนกับผมได้ป่ะ ผมรู้สึกรักนายมากเลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว พูดจบมันสบตาผมไม่ละสายตา จนผมต้องตอบตามน้ำไปก่อนเพื่อไม่ให้มันร้องไห้ แต่ทั้งที่ในใจผมนั้นคิดตลอดว่าไอ้นี่มันเล่นละครหรือเปล่าว่ะ
หลังจากวันนั้นเจ้าอ้นก็ติดผมแจ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนวันนึงมันขอมาอยู่ที่หอพักผมด้วยคน มันบอกว่าอยากอยู่ใกล้ๆผม อีกอย่างไม่ต้องเปลืองเงินเช่าโรงแรม ตอนนั้นผมตอบตกลงมันไปเพราะเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมาผมสังเกตว่ามันก็นิสัยไม่เลวนี่ เทคแคร์ผมอย่างดี ตามใจผมทุกอย่าง และที่สำคัญมันคงมาอยู่ด้วยไม่กี่วันหรอกเดี๋ยวก็กลับมาเลเซียแล้ว ช่วงสัปดาห์ที่เจ้าอ้นมาอยู่กับผมนั้น มันมักจะเป็นคนเลี้ยงดูผมทุกอย่างทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะผมเองก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองเลย แต่ในเมื่อเป็นความตั้งใจจริงของมันผมก็ไม่ขัดเพราะเห็นว่ามันไม่สบายใจที่มาอยู่ด้วยโดยที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ผมเลย
สรุปว่าหลังจากนั้นผมกับเจ้าอ้นก็เป็นแฟนกัน ทั้งๆที่ใจผมนั้นไม่อยากคบใครเลย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองคว้างเคว้งไปวันๆ วันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราถ่ายเทความรู้สึกให้แก่กัน เราเรียนรู้นิสัยกันและกัน เราเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวเพราะเราทั้งคู่ไม่เรื่องมาก นิสัยขี้เล่น เล่นมุขอะไรก็รับกันติดทุกมุข แต่ที่ผมไม่ค่อยปลื้มมันอย่างเดียวคือมันชอบรุกผมแต่เพียงคนเดียว อาจู๋ผมเลยอดใช้งาน แม้ในยามที่เจ้าอ้นกลับไปมาเลย์มันก็ยังโทรมาหาผมทุกวันและสม่ำเสมอ ผมจึงเริ่มมั่นใจว่าไอ้นี่มันเอาจริงแฮะ ทั้งๆที่มันไม่ได้ทราบข้อมูลส่วนตัวผมเลยก็ตาม เราคุยกันทางไกลตลอดทั้งที่รู้ว่าค่าโทรแสนแพงแต่เจ้าอ้นมันก็เต็มใจที่จะโทรหาผมตลอด
ความรักของผมเริ่มเบ่งบานขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่วันวานอันแสนขมขื่นมันทำลายใจผมไปเกือบตายทั้งเป็น ทั้งที่ระยะทางนั้นมันมาขวางกั้นเราสองคน แต่ผมและเจ้าอ้นก็เลือกที่จะสานต่อมันและหวังใจจะเอาชนะเส้นทางระหว่างเรา ช่วงเวลาที่เราคบกันและอยู่ด้วยกันเมื่อคราวที่เจ้าอ้นกลับมาเมืองไทยนั้นมันทำให้ผมลืมคำว่าเหงาและคนชื่อวิวได้เลยทีเดียว เราไปไหนมาไหนด้วยกันในหาดใหญ่โดยที่ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับสัมพันธภาพระหว่างเราสองคนเลย อาจเนื่องจากเราทั้งสองคนมีบุคลิกภายนอกที่เป็นผู้ชายอย่างเต็มเปี่ยม ช่วงเวลา1 สัปดาห์แห่งความสุขที่เราทั้งสองมีให้กันและกันในยามที่เจ้าอ้นกลับมาหาผมนั้นเรามักจะไปเดินห้าง ดูหนัง เที่ยวทะเล หรือแม้แต่เล่นกันที่ห้องด้วยกัน ซึ่งช่วงเวลาเหล่านั้นมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เมื่อถึงวันที่ เจ้าอ้นก็ต้องกลับไปทำงานที่มาเลเซียอีกครั้ง เจ้าอ้นก็มักให้เหตุผลว่าเจ้านายโทรตามแล้ว ในความคิดผมเองนั้นกลับไม่สู้จะมั่นใจนักว่าที่โทรมาหาเจ้าอ้นนั้นเป็นเจ้านายหรือว่าใครกันแน่ เพราะทุกครั้งที่เจ้าอ้นคุยโทรศัพท์นั้นมักจะแอบไปคุยกันข้างนอกทุกครั้งไป
เดือนที่ 3 ที่เราคบกัน เมื่อถึงวันที่เจ้าอ้นกลับมาหาผมคราวนี้ ตรงกับช่วงที่ผมหยุดเรียนเกือบสองสัปดาห์ ทำให้ผมกับเจ้าอ้นไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเป็นสุขโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ บางวันเราก็ไปกินเหล้าด้วยกัน กลับมาก็สานต่อวิวาเหาะอย่างเมามัน พักหลังนี้เจ้าอ้นเริ่มยอมให้ผมเอาทางประตูหลังแล้ว และนั้นก็ทำให้ผมมีความสุขได้เป็นที่สุด แต่เมื่อจะเทียบกับไอ้วิวแล้วเจ้าอ้นเทียบไม่ติดเลย อาจเพราะมันตัวใหญ่ เอวไม่คอดเหมือนไอ้วิว ผิวก็ไม่ได้ผุดผ่องเหมือนไอ้วิวด้วย แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะต้องเอาเจ้าอ้นไปเทียบกับไอ้วิวเพราะเขาทั้งสองคือคนละคนกัน ผมปลอบตัวเอง
ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาเล่มหนึ่ง เนื้อหาได้บอกไว้ว่าหากเราคิดถึงสิ่งใดสิ่งนั้นจะถูกดึงดูดเข้ามาหาเราด้วยพลังของจักรวาล และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆครับ เพราะพักหลังๆที่ผมอยู่กับเจ้าอ้น อย่างมีความสุขนั้น ผมก็แอบคิดถึงไอ้วิวทุกทีไป แล้ววันนึงผมก็ได้เจอกับไอ้วิวเข้าจริงๆ หลังจากที่ต่างคนต่างแยกกันอยู่ แยกกันเรียน
ที่ร้านสเว่นเซ่น ขณะที่ผมกับเจ้าอ้นเดินเข้าร้านและพูดคุยหัวเราะกันนั้น ผมไม่ทันสังเกตโต๊ะข้างๆผมว่าเป็นใคร ผมก็นั่งลงใกล้มันเสียแล้ว
บอสอยากกินอะไรอ่ะ เจ้าอ้นถามผม
อะไรก็ได้ แต่ไอติมหน้าเงือกไม่กินนะ ผมแซวเจ้าอ้นและก็หัวเราะเสียงดัง
อืมๆ เดี๋ยวก่อนๆ เจ้าอ้นทำท่ากัดฟันอย่างใคร่จะแก้แค้น อย่างทะลึ่งๆ
แป๊ะ…………. เสียงเมนูหล่นลงบนพื้น เจ้าอ้นก้มลงไปเก็บเมนูพร้อมกับเจ้าคนโต๊ะข้างๆ แต่เมื่อทั้งสองเงยหน้าขึ้นมา ผมตกใจสุดตัว เพราะไอ้คนที่เก็บเมนูนั้นคือ ไอ้วิว
เอ้ย ผมอุทานออกมาเสียงดัง
อะไร เจ้าอ้นงง ตกใจหน้าเงือกหรอ เจ้าอ้นแซวผม แล้วหัวเราะต่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ใกล้มันคือคนรักเก่าของผม
ขอบคุณครับ เจ้าอ้นหันไปขอบคุณไอ้วิว
ผมสบตากับไอ้วิวเพียง 3 วินาทีผมก็รู้ได้ถึงในใจลึกของมันว่าตอนนี้มันมีความทุกข์อยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่ใช่เวลานี้ที่เราทั้งสองจะมานั่งคุยระบายความทุกข์ให้แก่กันและกัน เพราะตอนนี้เราสองคนกลายเป็นคนอื่นไปเสียแล้ว
ตกลงจะกินอะไร ห๋า เจ้าอ้นถามเสียงเข้ม
ผมไม่ทันฟังเจ้าอ้น สายตานั้นมองแต่ไอ้วิวที่นั่งหันหลังอยู่
อ๋อ ๆๆมันจะกินไอ้หน้าหล่อนี่ เดี่ยวก่อนๆ เจ้าอ้นเล่นไม่เลิก
เอ้ย ทำไร ผมถามก่อนที่เจ้าอ้นจะสะกิดไอ้วิว
ก็มองกันดีนัก จะได้ชวนมานั่งโต๊ะเดียวกันเลยไง เจ้าอ้นพูดเสียงดังพอที่จะทำให้ไอ้วิวได้ยิน
ไปกิน KFC ดีกว่าไป ผมบอกเจ้าอ้น แล้วลุกขึ้นจากไปทันที
วันนั้นกลับมาที่ห้องผมรู้สึกเศร้าๆ อย่างไม่มีเหตุผล หลายๆครั้งที่เจ้าอ้นถามผมว่าเป็นอะไรแต่ผมก็บอกมันว่าไม่มีอะไร ตื่นมาตอนเช้า เจ้าอ้นก็เตรียมเก็บของกลับไปมาเลเซีย ผมเองก็รีบแต่งตัวไปเรียนเช่นกัน เรา2คนก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเพราะต่างคนต่างก็รีบแต่งตัวเนื่องจากตื่นสายมากแล้ว ก่อนลงจากห้องเจ้าอ้นหอมแก้มผมและบอกว่า เดือนหน้าเจอกันนะเจ้าเงือก แหม ไอ้นี่มันเล่นได้ทุกที่จริงๆ ผมนึก หลังจากส่งเจ้าอ้นผมรู้สึกว่าชีวิตผมขาดอะไรไปบางอย่าง มันเหงาอย่างบอกไม่ถูก ถึงตอนนี้ผมรู้ตัวผมเองแล้วว่าผมได้หลงรักเจ้าอ้นนี่ไปเรียบร้อยแล้ว
ตลอดช่วงเดือนนั้นที่เจ้าอ้นกลับมาเลเซียไป เจ้าอ้นโทรหาผมน้อยลง บางวันก็คุยกันเพียง 5 นาทีเท่านั้นเอง มันให้เหตุผลว่าอยากประหยัดค่าโทรเอามาเป็นค่าเลี้ยงดูผมเมื่อกลับมา ผมเองก็ได้แต่เออๆออๆตามมันเพราะนั้นคือสิทธิ์ของมันนี่นา ความเหงาของผมและความเริ่มหวั่นใจในตัวเจ้าอ้นยิ่งได้รับแรงกระตุ้นมากขึ้นเมื่อผมได้มีโอกาสรู้จักคนคนนึงซึ่งเคยเป็นเพื่อนเจ้าอ้น พี่คนนี้ชื้อว่าตี๋ ผมจึงได้ทีสอบถามเรื่องราวของเจ้าอ้นที่มาเลเซียว่ามันทำอะไรที่นั้นกันแน่ แล้วความจริงที่น่าเชื่อถือจากปากพี่เขาก็ทำให้ผมแทบร้องไห้ออกมา เพราะเจ้าอ้นนี้เป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวแตกแยก ซ้ำยังทำตัวเสเพล เหตุที่ไปอยู่มาเลเซียก็เพราะว่าติดตามเสี่ยคนนึงไป เสี่ยคนนั้นรับเลี้ยงดูมันทุกอย่างหรือพูดง่ายๆว่าเลี้ยงเด็ก (นี่ผมเป็นแฟนกะเด็กขายตัวหรือนี่ ผมนึกเสียใจลึกๆ) มันไปอยู่ที่มาเลเซียไปร่วมขบวนการค้ายาข้ามชาติที่นั้น โดยหน้าที่หลักๆของมันก็คือ อยู่บ้านเป็นผัวเสี่ยแก่ๆนั้น และดูแลเรื่องการจัดส่งยาไปที่ต่างๆทั้งในมาเลเซียและไทย ที่ร้ายไปกว่านั้นบางครั้งที่เจ้าอ้นจัดปาร์ตี้กันที่นั้นมักจะเล่นเซ็กส์หมู่กัน ใครเอาใครก็เอากันได้ตามใจ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อที่พี่ตี๋เล่าให้ฟัง แต่เมื่อได้เห็นรูปที่พี่แกถ่ายมา ผมถึงกับซึมไปเลยทีเดียว ถึงตอนนี้ผมก็ได้แต่ขอบใจพี่ตี๋ที่ชี้ทางสว่างให้ผม
หลายต่อหลายคืนที่ผมนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องเจ้าอ้น ว่ามันทำตัวอย่างนั้นจริงหรือ แต่ที่แน่ๆมันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ผมต้องเชื่ออย่างปฏิเสธไม่ได้ แล้วที่ผ่านมาล่ะ คำถามเนื่องจากความรักและความผูกพันมันเกิดในสมองของผม คำรักที่มันขยันบอกผมทุกวัน ข้าวของมีค่าต่างๆที่สรรหามาให้ผม การวางตัวและการพูดจาที่ให้เกียรติผมอย่างดิบดี เหล่านี้มันทำเพื่ออะไร ในเมื่อผมเองก็ไม่ได้ตอบสนองมันในเรื่องใดๆเลย หรือว่า เจ้าอ้นมันรักผมจริงๆ ผมสับสนใจ
ไม่มีใครรู้ว่าคลื่นลมในทะเลมีที่มาและตั้งต้นจากที่แห่งใด แต่ที่รู้กันคือมันจะพัดมาหาฝั่งและบางครั้งมีแรงทำลายล้างผืนแผ่นดินได้อย่างง่ายดาย ในใจผมตอนนี้ก็ไม่มีความต่าง เมื่อผมได้ข้อมูลและการคาดคะเนอย่างเที่ยงธรรมของผม ทำให้ผมรู้สึกไปในทิศทางลบกับเจ้าอ้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลของการตัดสินใจหลักๆของผมอย่างแท้จริง เพราะเหตุผลหลักที่แท้จริงของผมคือ ไอ้วิว ต่างหาก
ในช่วงที่ผมกำลังเครียดเรื่องเจ้าอ้นอยู่นั้น ผมมีโอกาสเจอไอ้วิวบ่อยมาก จากเมื่อก่อนนั้นแทบไม่ได้เจอกันเลย จนบางครั้งผมอยากเดินเข้าไปหามันจริงๆ แต่ใจหนึ่งมันก็บอกผมว่า อย่าเลยเพราะเราสองคนกลายเป็นคนนอกกันไปเสียแล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าพ่อ แม่ ป้าละม้าย หรือลุงชีพ เราสองคนก็ยังคงแสร้งทำเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิม แต่นั้นก็คงไม่เนียนพอที่จะเล็ดลอดผ่านสายตาอันเฉียบคมของแม่ผมได้


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

2. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #1
 
27-Aug-12, 09:32 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เย็นวันนึงหลังจากเลิกเรียน ผมลงจาก รพ.ทันตกรรมเพื่อเดินไปที่ห้องทำงานของพ่อ ผมดันเจอไอ้วิวเข้าพอดี ซึ่งตอนนั้นมันกำลังเดินพูดคุยกะน้องแตงอย่างออกรส ความร้อนจากภายในหัวใจผมมันออกมาแผดเผาใบหน้าผมจนแดงอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่เดินก้มหน้าเมื่อเห็นทั้ง 2 คนเดินสวนทางผมไป และเก็บซ่อนเร้นความรู้สึกไว้ แต่ขณะที่ผมเดินก้มหน้าและเร่งฝีเท้านั้น ก็มีมือนึงมาคว้ามือผมไว้ ผมนึกทันทีว่านี้คงเป็นมือไอ้วิว ในช่วงเวลา 2วินาทีนั้นหัวใจผมพองโตอยากสุดขีด ผมรีบหันไปมองเจ้าของมือทันที
บอสมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก แม่ผมพูดพลางกุมมือผมแน่นขึ้น
ไม่นี้ครับแม่ ผมหลบสายตาแม่พร้อมกับกลบเกลื่อนความผิดหวังไม่ให้แม่เห็น
แม่ว่าบอสมีอะไรจะบอกแม่นะ แม่โอบเอวผม
เออ แม่มาได้ไงเนี้ย ผมเปลี่ยนเรื่อง
อืม.......... แม่ถอนหายใจ อย่างจับพิรุธผมติดที่ผมไม่ยอมตอบคำถาม
เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้แม่ฟังบ้างนะลูก แม่ผมพูดพลางมองลึกลงไปในหัวใจผมอย่างที่เคยทำเมื่อต้องการจะเค้นความจริงจากผม
แม่ยังไม่บอกผมเลยว่าแม่มาได้ไง ผมพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
อืม ก็พ่อโทรหาแม่ให้ไปหาที่ทำงานจ๊ะ แล้วบอสเรียนเสร็จแล้วหรอลูก
ครับ ผมก็จะไปที่พ่อเหมือนกัน
ขณะเดินไปหาพ่อนั้นผมเองอดสังสัยไม่ได้ว่าทำไมพ่อต้องโทรตามผมและแม่ไปที่ทำงานด้วยนะ หรือว่าพ่อรู้เรื่องที่ผมคบกับเจ้าอ้นอีกแล้ว หรือว่าพ่อและแม่สงสัยเรื่องผมกับไอ้วิวที่พักหลังนี้เราห่างๆกัน ผมเดินพลางนึกคำแก้ตัวต่างๆพลางจนบางครั้งไม่ได้ยินแม่ที่พยายามชวนผมคุยตลอด เมื่อมาถึงที่ห้องทำงานของพ่อ เลขาหน้าห้องก็บอกว่าพ่อผมเข้าประชุมกับคณบดี ยังไม่ออกมา ให้ผมและแม่นั่งรอในห้องทำงานพ่อก่อน หลังจากที่น้ำเปล่า 2 แก้วถูกวางลง แม่ผมก็เริ่มไต่ถามเรื่องการเรียนและชีวิตส่วนตัวผมอีกครั้ง แต่เมื่อฟังๆไปเหมือนแม่อยากจะทราบเรื่องผมกับไอ้วิวมากกว่า คำถามของแม่นั้นเริ่มทำให้ผมอึดอัดมากขึ้นจนผมรู้สึกรำคาญ แต่ก่อนที่อะไรจะน่าเบื่อไปมากกว่านั้น พ่อก็เข้ามาพอดี
อ่ะ หมอ พร้อมยัง ลุงชีพและป้าละม้ายคงคอยนานแล้วหล่ะ
ไปไหนอ่ะครับพ่อ ผมงง
เอ้าก็วันนี้ลุงชีพเขาโทรมาชวนพ่อไปนั่งร้านอาหารทะเลที่สงขลา เห็นบอกว่าจะเลี้ยงกันสักมื้อ
เอ้าหรอ ละม้ายไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่ ยัยนี่ แม่ผมพูดทำหน้าเหมือนตัวร้ายในละคร
เราสามคนพ่อแม่ลูกนั่งรถไปสงขลา ระหว่างทางพ่อและแม่ต่างก็สอบถามเรื่องเรียนและเรื่องจะเปิดคลินิกอีกที่นึงให้ผมเมื่อเรียนจบ โดยพ่อให้เหตุผลว่ารายได้ดีกว่ามาอยู่โรงพยาบาล อีกอย่างสามารถเลี้ยงตัวเองและลูกเมียในอนาคตได้อย่าสบาย แต่ผมก็แย้งไปว่าผมอยากเรียนต่ออีก แต่ดูๆเหมือนท่านทั้งสองจะจับความคิดผมได้ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ผมเองก็มีคนตอบในใจอยู่เหมือนในเรื่องที่อยากเรียนต่อเพราะช่วงเวลานั้นจะช่วยยืดเวลาเรื่องการแต่งงานของผมออกไปได้ เมื่อจะว่ากันไปแล้วช่วงหลังๆนี้ทั้งญาติฝ่ายพ่อและแม่มักถามผมว่ามีแฟนหรือยัง จะแต่งงานเมื่อไหร่ ผมเองและพ่อแม่ก็ไม่สามารถตอบคำถามญาติได้เนื่องจากผมเองเพิ่งถูกเพื่อนหรือว่าแฟนผมเองแย่งแฟนไป เอ้อ ชีวิตผม
ที่ร้านอาหารเกาะยอ จังหวัดสงขลา มีลุงชีพ ป้าละม้าย ไอ้วิว นั่งรออยู่แล้ว ทันทีที่ผมเห็นครอบครัวไอ้วิวผมรู้สึกไม่อยากเข้าไปสู้หน้ายังไงไม่รู้
โห้ บอส ผอมลงนะลูก เรียนหนักไปหรือเปล่า ป้าละม้ายเดินเข้ามากอดผมอย่างเคย
อืม ลุงว่าบอสผอมลงนะ จากครั้งก่อนที่เจอ
ครับลุง ผมยิ้มให้ครอบครัวไอ้วิว
วิวเองก็ดูเหนื่อยๆไปนะ พ่อผมลูบหัวไอ้วิว
ก็ราวน์ดึกทุกวันเลยครับ
อืม ชีวิตหมอนะลูกเนอะ พ่อผมทำทีติดตลก
ครอบครัวเราทั้งสองนั่งกินอาหารทะเลกันและคุยกันสัพเพเหระ บ้างหัวเราะบ้างเครียดตามเรื่องราวที่หยิบมาคุยกัน แต่ส่วนใหญ่ก็หลีกไม่พ้นเรื่องการเมืองและเรื่องโรงพยาบาล ลมทะเลพัดเอาไอเย็นๆจากทะเลขึ้นมาสัมผัสตัวและเส้นผมทำให้รู้สึกเย็นสบายแต่ก็เหนอะหนะ แต่นั้นก็ไม่น่าเหนื่อยหน่ายเท่ากับเรื่องสนทนาที่ป้าละม้ายยกขึ้นมาเป็นประเด็นพร้อมกับลำไยเชื่อมที่ถูกยกมาเป็นเมนูสุดท้าย ซึ่งเรื่องนั้นก็คือเรื่องผมกับไอ้วิวที่พักหลังนั้นดูห่างเหินกันไป ซึ่งผู้ใหญ่เองนั้นคาดหวังให้เราทั้ง 2 นั้นกลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่มาใช้ชีวิตด้วยกันตลอดเหมือนที่เป็นมา ซึ่งมันก็เกินคำว่าเพื่อน ถึงตอนนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจแล้วจะเอายังไงกันแน่ แต่ก่อนที่ผมจะพูดแทรกขึ้นมานั้น แม่ผมก็อธิบายเสียยาวยืดโดยมีผู้ใหญ่คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย ซึ่งจับใจความได้ว่าเพื่อนกันต้องดูแลกัน ใส่ใจกัน พูดคุยกันในทุกๆเรื่อง ครอบครัวเราทั้ง 2 ก็สนิทสนมกันมานาน ผู้ใหญ่ทั้ง2 ก็อยากให้ลูกๆรักกันเหมือนพี่น้อง ผมกับไอ้วิวนั่งก้มหน้าเขี่ยลำไยในถ้วยไปมา รอเวลาที่ผู้ใหญ่บอกว่ากลับบ้านกันเถอะ แต่กว่าคำนั้นจะออกมานั้น คำถามจากพ่อผมก็โพลงออกมาก่อน
บอส โกรธวิวหรอลูก คำถามนี้มันตรงเกินไป ผมเองเป็นผู้ถูกถามรู้สึกรับไม่ได้
ผมเลิกคิ้วขึ้นพร้อมส่ายหน้า
อ่ะ ส่ายหน้า ก็แปลว่าไม่ พ่อผมพูดยังคงไว้ลายคนอารมณ์ดีไว้เช่นเดิม
แล้ววิวล่ะลูก
ไอ้วิวตอบพ่อผมเบา ไม่นี่ครับ
อืมเป็นอันว่าทั้ง2 คนยังคงเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ไม่สบายใจจากเรื่องที่ผ่านมานะ
ครับ เราทั้ง 2 ตอบพร้อมกัน
จากการเปิดใจกันทั้ง 2ครอบครัวในตอนเย็นนั้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าโล่งอกเป็นอย่างมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสัมพันธภาพของผมกับไอ้วิวที่เปลี่ยนไป โดยการนัดกันไปนั่งทานข้าวเย็นกัน ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ผมกับไอ้วิวได้มีโอกาสกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง อาจไม่ใช่ทันทีหลังมื้ออาหารวันนั้นแต่ก็เป็นโอกาสให้กับวันถัดไปที่โอกาสมันพร้อม
หลายวันต่อมาหลังจากที่ผมเคลียร์งานต่างๆเสร็จสิ้น ทั้งส่ง case studyต่างๆที่ได้รับมอบหมาย ผมเองจึงมีเวลาให้กับตัวเองและเข้าเรียนในบางหน่วย ซึ่งถือว่าเบากว่าปี 5 มาก ทำให้ผมมีเวลาพักผ่อนและทำอะไรที่ต้องการได้ เย็นวันเสาร์ขณะที่ผมเดินดูของในห้างนั้นผมบังเอิญพบไอ้วิวเดินกับน้องแตง ทั้ง 2 คนดูรักกันดี ภาพบาดตานั้นมันทำให้ผมไม่สามารถเดินต่อไปได้ความรู้สึกเหงามันประดังเข้ามาหาผมรอบตัว ความหวั่นไหว ไม่มั่นใจก็จู่โจมผม จนผมต้องรีบกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้าน ไอ้ลำดวนแมวเก่าแก่ของบ้านก็เข้ามาเคลียคลอผมอย่างเคย ผมนึกอิจฉาแมวขึ้นมาทันที
อ่ะ ไอ้นี่ มึงไม่เหงามั้งหรอ ผมจับมันมาเขย่าๆ
อะไรอ่ะบอส แม่ผมเดินมาทันได้ยิน
เปล่าๆ ครับแม่
เอ้อ ลำดวนมานี่สิ แม่ผมเรียกไอ้ลำดวนไปเล่น
คืนนั้นผมนอนที่บ้านแต่ก็นอนไม่หลับ ผมจึงขับรถออกจากบ้านตอนเที่ยงคืนกลับมาที่หอพัก เกือบตีสามผมก็ยังไม่หลับ ผมเลยโทรหาเจ้าเกมเพื่อนเก่า แต่เบอร์มันก็โทรไม่ติด ในใจก็คิดถึงเจ้าอ้นอยากให้มันกลับมา ทันทีที่ผมนึก เจ้าอ้นก็โทรมาหาผม เมื่อได้คุยกับเจ้าอ้น ได้ยินคำหวานๆจากเจ้าอ้นมันก็ทำให้ผมใจชื่นขึ้นมาหน่อย แต่หลังจากที่วางสายผมก็นอนไม่หลับอยู่ดี ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตัดสินใจโทรหาไอ้วิวโดยให้เหตุผลกับตนเองว่าจะโทรคุยกับมันเรื่องเมื่อวันก่อนที่พ่อแม่พาไปทานข้าวที่ริมทะเล ทันทีที่โทรศัพท์ต่อสายได้ ก็มีเสียงรับสายทันที
ฮัลโหล สวัสดีค่ะ เสียงใสนี้ไม่ใช่ใคร เธอคือน้องแตงนี้เอง ผมรู้สึกใจสั่นมือสั่นแทบอยากจะวางสายทิ้ง
แตงหรอ ผมทำสียงเรียบๆ
ค่ะ พี่บอสมีอะไรหรือเปล่าอ่ะค่ะ พอดีพี่วิวอาบน้ำอยู่ค่ะ
อาบน้ำ ผมพูดเสียงดัง เพราะในใจคิดไปถึงไหนแล้ว ทำไมต้องอาบน้ำตอนตีสาม หากไม่ใช่เพิ่งเสร็จจากกามกิจ ความฟุ้งซ่านของผมทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนแผดเผา ทั้งหวงน้องแตง ทั้งหวงไอ้วิว
ไม่มีอะไรครับ แค่นี้นะครับ ผมวางสายทันทีโดยไม่รอฟังปลายสาย
จากที่คาดไว้ว่าหลังได้คุยแล้วจะนอนหลับ กลับทำให้ผมนอนไม่หลับจนเช้าเลย ความคิดผมวนเวียนแต่เรื่องน้องแตงและไอ้วิว แหม คิดแล้วมันคับข้องใจจริงๆ
แล้ววันต่อๆมาเกือบเดือนหนึ่งคงจะได้ที่ผมไปไหนมาไหนรอบๆมหาลัยผมก็เจอแต่ไอ้วิวและน้องแตงเคียงคู่กัน เห็นแล้วผมอดคิดถึงอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ แต่นึกอีกทีผมก็มีเจ้าอ้นนี่นา ใช่แล้ว เจ้าอ้น แฟนใหม่ของผม คิดได้อย่างงี้ผมก็รู้สึกอบอุ่นใจได้อย่างประหลาด แต่ก็สุขอยู่ได้ไม่นานผมก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความเหงาอีกเหมือนเดิมเพราะถึงแม้จะมีเจ้าอ้นแต่มันก็ไม่ได้มาอยู่ใกล้ตัวใกล้ใจในตอนที่ผมเหงานี่นา
โลกเรามีสัณฐานเป็นทรงเกือบกลม หมุนไปตามแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ ทำให้ฤดูต่างๆผลัดเปลี่ยนเวียนวนกันทำหน้าที่ โชคชะตาคนก็เช่นกันย่อมเปลี่ยนไป ตอนนี้ก็เกือบ7เดือนแล้วที่ผมเรียนอยู่ปี 6 ซึ่งมันก็เกือบจบแล้วเต็มที่ งานค้างๆอื่นๆก็ไม่มี หากอะไรไม่ขัดข้อง หรือเกินเหตุการณ์เหนือคาดฝันใดๆ ลูกอาจารย์หมอคนนี้ก็จะจบได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แสงสว่างเริ่มส่อเค้าให้ผมเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้างในด้านการเรียน ส่วนด้านชีวิตส่วนตัวก็เริ่มส่อเค้าดีขึ้นตามลำดับเพราะแม่และพ่อผมตอนนี้ก็เลิกติดตามเรื่องส่วนตัวผม ซ้ำยังหาโอกาสให้ผมได้พูดคุย หรือไปไหนมาไหนกับครอบครัวมากขึ้น ความดุและเข้มงวดของแม่ลดลง กว่าก่อนมาก อาจเพราะแม่อยากให้ผมหัดตัดสินใจเองบ้างเพราะผมก็เรียนจะจบแล้ว ส่วนเรื่องที่ผมใฝ่ฝันว่าอยากพูดคุยกับไอ้วิวอีกครั้งโดยที่ไม่คิดติดใจเรื่องที่ผ่านมานั้น มันก็เป็นจริงตามที่ผมต้องการ
เช้าวันอาทิตย์ผมรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปว่ายน้ำเพื่อเพิ่มมัดกล้ามเนื้อให้ร่างกายตามที่ผมทำอยู่เป็นประจำ ขณะที่ผมว่ายน้ำไปมาโดยไม่หยุดนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงซึ่งนั่งมองผมที่ริมสระตั้งแต่ผมมา แล้วจู่ๆเธอก็เดินเข้ามารอผมที่ฝั่งตรงข้ามที่ผมจะว่ายไป เมื่อไปถึงตรงนั้น เธอก็ชวนผมคุย แต่ผมแสดงท่าทีให้เธอเห็นว่าผมไม่อยากคุยกับเธอเท่าไหร่ เพราะผมต้องการมาว่ายน้ำมากกว่ามาหาผู้หญิง เสร็จจากว่ายน้ำขณะที่ผมกำลังจะขึ้นรถกลับ เธอคนนั้นก็ยังเดินตามผมมาที่รถ จนผมต้องยอมคุยกะเธอเพื่อตัดปัญหา แล้วสิ่งที่เธอต้องการก็คืออยากรู้จักผมว่าชื่ออะไร เรียนคณะอะไร มีแฟนหรือยังอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด ผมเสียเวลากับเธอคนนี้เกือบ 10 นาที แต่ก็เป็นนาทีทองสำหรับผมเพราะ ขณะนั้นก็มีผู้ชายผิวขาวผ่องหุ่นบางคนนึงเดินมาทางผม ซึ่งผมเองก็จำได้ดีว่านั้นคือไอ้วิว
อ่ะ ที่รัก กลับเหอะ มีอะไรให้ทำอีกเยอะ ไอ้วิวพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงกับผมโดยที่ไม่มองหน้าผู้หญิงคนนั้น
เอ้ย ผมอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ และดีใจปะปนระคนกันไป กับเหตุการณ์แสนบังเอิญแห่งปี
นา อีกครั้งจะเป็นไร ไอ้วิวทำหน้ากวนๆ แบบหื่นๆให้ผมแล้วหันมองหน้าผู้หญิงคนนั้น
ผมขับรถออกมาสักพักโดยมีไอ้วิว นั่งรถมาด้วย เรา 2 คน ได้แต่หันมามองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรกัน จนเกือบถึงหอผม ผมจึงหยุดรถ แล้วทำสีหน้าเคร่งขรึมว่า
จะให้ไปส่งที่ไหน ผมรักษาสีหน้าให้ธรรมดามากที่สุด แต่ในใจมันเต้นตึกตัก เหมือนจะหลุดออกมาจากทรวงอก
ก็ที่สระว่ายน้ำนั้นแหละ เพราะเราลืมรถไว้ที่นั้น พูดจบทั้งไอ้วิวและผมหันมามาสบตากัน แล้วเราทั้ง2 ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ผมหัวเราะจนน้ำตาไหล ซึ่งบางหยดของน้ำตาที่ไหลออกมานั้นมันเป็นน้ำตาแห่งความสุขใจ ส่วนไอ้วิวเองก็หัวเราะจนหน้าแดงระคนความเขิลอาย
ผู้หญิงคนนั้นคือ บิว สาวน้อยฮีททีเรียใช่ม่ะ ผมพูดพลางชี้ไปที่ไอ้วิว และหัวเราะต่อสักพัก เป็นอันว่าเช้าวันนั้นหลังจากที่ไอ้วิวช่วยผมให้พ้นเงื้อมมือของสาวโรคจิตที่ชอบดูผู้ชายว่ายน้ำนั้นมาได้ ผมก็พามันไปนั่งร้านติ่มซำเพื่อเป็นการขอบคุณมัน
นี่เราเจอครั้งแรกนะเนี้ยะ แต่ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วล่ะ ผมพูดพลางอมยิ้มอย่างมีความสุข แต่ไม่ได้มีความสุขเพราะได้เหยียดหยามหญิงที่มีปัญหาทางจิตหรอกนะครับ แต่มันเป็นสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมากกว่า
อืม เราเจอกับตัวมาแล้ว ตอนนั้นเราจำได้ดี เธอให้เราพาไปส่งที่บ้าน เชื่อม่ะบอส เธอหลอกให้เราขับรถเวียนทั้งเมืองหาดใหญ่เลย จนเราคิดว่าไม่ไหวแล้วเราเลยพาเธอไปที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาเล่าให้เพื่อนที่คณะฟัง โดนแซวใหญ่เลย ผมนั่งมองมันพูด พลางสังเกตทำหน้าขณะที่มันพูดบุคลิกของมันยังคงเหมือนเด็กเล่าเรื่องยามไปเจอสิ่งมหัศจรรย์ใจอย่างเคย
มองอะไร ไอ้วิวหน้าแดงเมื่อรู้ว่าผมจ้องมัน พลางค้นหาสิ่งแปลกประหลาดที่ผมมองบนใบหน้าและตามตัว
เปล่า นี่ ผมไม่ยอมรับ
.................................................
เรา 2 คนเงียบไปสักพัก แล้วผมเห็นว่าบรรยากาศยามเช้าเช่นนี้มันดีเหลือเกินอีกทั้งได้มาอยู่กับคนที่ผมอยากเจอด้วยมากที่สุด มันช่างทำให้ผมรู้สึกคึกคักได้อย่างดี นิสัยนี้เลิกไม่ได้จริงๆเรา
บอสยังอยู่ที่เดิมป่ะ ไอ้วิวถามผม
อืม ไม่ย้ายไปไหนเลย
หรอ
มีเรียนม่ะล่ะวันนี้ หรือว่าไปราวน์คนไข้ ผมถามพลางทำตากรุ่มกริ่ม
วันนี้ว่าง ไอ้วิว กระพริบตาถี่
ไปห้องเราม่ะ ผมหยั่งเชิง
ไม่อ่ะ ถ้าไปแล้วอดคิดถึงเจ้าจอมไม่ได้
อืม ผมเองรู้สึกสะเทือนใจอีกครั้งเมื่อไอ้วิวพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เออ หน้ามหาลัยฝั่งโน้นมีพระมารับบิณฑบาต ไปตักบาตรให้เจ้าจอมมันม่ะ ความลามกจางหายไปจากใจผม จิตอันเป็นกุศลเข้ามาแทนที่
ดีเลย ไอ้วิวลุกขึ้นทันที
เช้าวันนั้นเรา 2 คนได้ตักบาตรร่วมกัน ผมแอบอธิษฐานในใจว่าขอให้ไอ้วิวและผมได้กลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิมด้วยเถิด แต่ขณะอธิษฐานนั้นใบหน้าเจ้าอ้นก็คงลอยเข้ามาทักท้วงความเป็นเจ้าของ จนผลบุญที่ผมทำคงได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังจากวันแห่งความบังเอิญนั้นผ่านเข้ามา ผมกล้าโทรหาไอ้วิวมากขึ้น แม้บางครั้งน้องแตงจะเป็นคนรับสายก็ตาม ผมก็ยังกล้าขอสายไอ้วิว ตัวไอ้วิวเองแม้จะเกรงใจน้องแตงแต่ก็ยังยินดีที่จะพูดคุยกับผมแม้จะเป็นคำที่แสนรื่นหูก็ตาม นานวันเข้าผมกับไอ้วิวก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมในทุกสิ่งทุกอย่าง เราไปไหนมาไหนด้วยกัน อาจมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือน้องแตงเอง แต่เมื่อดูๆไปน้องแตงก็ยอมรับเรา 2 คนได้ หรือเธอคงอาจคิดว่าเรา2คนที่ผ่านมาเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

3. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #2
 
27-Aug-12, 09:33 PM (SE Asia Standard Time)
 
   แล้วโอกาสก็เข้าข้างผมอีกครั้งเมื่อวันนึงหลังจากผมลงจากคลินิก ไอ้วิวเองก็ออกมาจาก โรงพยาบาลพอดี เราเลยชวนกันไปนั่งร้านน้ำชาในตัวเมือง โดยตั้งใจจะชวนเพื่อนๆคนอื่นและน้องแตงไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครว่างไปกับเราเลยสักคน ผมกับไอ้วิวเลยไปกัน 2 คน เมื่อเราอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คนจึงมีโอกาสได้คุยเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่แค่เรื่องดินฟ้าอากาศหรือเรื่องในโรงพยาบาล ตัวผมเองนั้นพร้อมที่จะคุยเรื่องนี้กับไอ้วิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกันอีกครั้งแล้ว จนมาวันนี้มันเป็นฝ่ายเริ่มต้นที่จะหยิบเรื่องนี้มาก่อน
เป็นไงบ้าง
ก็ดี
รู้หรอเราถามเรื่องไร ไอ้วิวทำหน้ากวนๆ
ก็ ไม่รู้หรอก แค่อยากบอกว่าตอนนี้มันรู้สึกดี ผมพูดเพื่อชักนำเข้าเรื่องโดยที่ไม่อยากให้รู้สึกว่าอายปากกันทั้ง 2 คนจนเสียเรื่อง
เอ้าแล้วที่ผ่านมามันไม่ดีหรอ ไอ้วิวจับจอกน้ำชาเอามาเป่า
ไม่ดีเลย เหงาบัดซบ
อืม ได้ข่าวว่าเมาทุกวันนี้
ก็บ้าง นายรู้ได้ไง
ก็คนเขาพูดกันทั่วไป ไอ้วิวพูดพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
อืม แสดงว่ายังสนใจและเป็นห่วงเราอ่ะดิ ผมตัดสินใจยิงลูกโทษใส่ไอ้วิว ซึ่งอาจเสี่ยงต่อสัมพันธภาพระหว่างเราที่เพิ่งรื้นฟื้นขึ้นมา
.................................. ไอ้วิวหน้าแดง พลางใช้นิ้วชี้ลูบจอกน้ำชาเป็นวงกลม
แล้ว นายอ่ะ ดีม่ะที่ผ่านมา
ก็ ดี
ห้ามตอบเหมือนกัน ผมกินขนมปังพลางทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ไอ้วิว
ก็เป็นสุขดี น้องเขาก็โอเค นายเองก็มีแฟนใหม่แล้วนี่ หน้าโหดดี เปลี่ยนแนวแล้วหรอ ไอ้วิวพูดเชิงประชด
เปล่าเปลี่ยนหรอก แต่ไอ้ที่มันตรงสเป็คอ่ะ มันไปเป็นของคนอื่นซะไง ผมรู้ว่าคำนี้อาจทำให้ไอ้วิวโกรธ แต่ผมก็อยากพูดออกมาให้มันรับรู้ในเมื่อมันคือความในใจของผมที่อยากถ่ายเทออกมา ก่อนที่ความรู้สึกเหล่านั้นของผมจะจุกอกตาย
ก็.................... ช่างมันเหอะ ถ้านายลองนึกนะ นายจะรู้ว่า อะไรทำให้เรา 2 คนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ใช่ความเจ้าชู้ของนาย ไอ้วิวเอาคืนจนผมพูดอะไรไม่ออกเพราะนั้นมันคือเรื่องจริง
แล้วถ้าเราเลิกเจ้าชู้ล่ะ นายคิดว่าไอ้สเป็คของเรามันจะกลับมาม่ะ
ไม่รู้ดิ ไอ้วิวหน้าแดง
ปวดฉี่อ่ะ ไอ้วิวพูดออกตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่ไอ้วิวเข้าห้องน้ำผมคิดเรื่องดีๆ ที่จะคืนดีกับไอ้วิวได้อย่างบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ซึ่งตอนนี้ผมรู้ว่าปัญหาของเราคือต่างคนต่างมีแฟนใหม่กันแล้ว และแฟนใหม่เราทั้ง 2 คนก็แสนดีกับเราเสียจนเลิกไม่ลง แต่ในเมื่อเราเองก็ยังคงรักกันอยู่ ผมเลยปิ๊งไอเดียนี่ขึ้นมา ทั้งที่ผมก็รู้ดีว่าแผนการคืนดีนี้มันค่อนข้างจะยากสักหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของนักศึกษาคะแนนเกียรตินิยมอย่างผม
เป็นอันว่าหลังจากออกจากร้านน้ำชาผมก็ชวนไอ้วิวไปนั่งเล่นที่ห้องผม แต่เหมือนไอ้วิวมันรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่ มันเลยมีท่าทีที่ไม่ใคร่จะอยากไปสักเท่าไหร่ แต่มันก็ทนผมอ้อนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปกับผมในคืนนั้น ที่ห้องผมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆถูกเปลี่ยนที่ทางจนหมด จนไอ้วิวเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม ผมให้เหตุผลกับมันว่า ก็ไม่อยากให้อะไรมันซ้ำและจำเจ อีกอย่างผมอดคิดถึงวันและเวลาดีๆที่ผ่านมาไม่ได้ เมื่อเห็นสถานที่เดิมแต่ขาดคนเดิมๆไป ขณะที่ผมพูดไอ้วิวก็กวาดสายตาไปสะดุดกับสิ่งหนึ่งนั้นก็คือเสื้อของเจ้าอ้น ที่ผมเพิ่งซักและตากไว้
นั้นเสื้อใครอ่ะ ไอ้วิวเดินไปจับเสื้อตัวนั้นพลิกไปมา
อ๋อก็เสื้อ เออ ...... เสื้อเราเอง
ไม่มั้ง บอกมาเหอะ ไอ้วิวพูดพลางมองลึกมาในตาผม
เสื้ออ้นอ่ะ
หรอ นายอ้นนั้นเคยมาห้องนายแล้วหรอ ไอ้วิวเริ่มมีท่าทีไม่เป็นสุข
อืม ผมยอมรับ แต่โดยดี
หรอ ลึกซึ้งแล้วสินะ เสียงสั่นเครือออกมาจากปากไอ้วิว
ก็ ..................... ผมพูดอะไรไม่ออกเพราะรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเองว่าตกลงผมต้องการใครกันแน่ระหว่างสิ่งที่ผมเรียกหามาตลอดหรือสิ่งใหม่ที่เข้ามาทดแทนในยามยาก
บอส ไอ้วิวเรียกผมด้วยเสียงสั่นเครือมากขึ้น
อืม มีไร ผมพยายามทำตัวเป็นปกติ
เราหอมแก้มนายได้ม่ะ ไอ้วิวเดินตรงเข้ามาหาผมทันทีที่พูดจบ
ริมฝีปากอันคุ้นเคยค่อยๆ บรรจงจูบลงบนแก้มผม ผมเองก็ตอบสนองไอ้วิวด้วยการดึงมันมาโอบกอดไว้ และหวังใจว่าจะกอดมันให้นานที่สุด สักครู่ที่เรา 2 คนกอดกันแน่นนั้น หยาดน้ำอุ่นๆก็เปื้อนแก้มผม ผมจึงผละจากหน้าไอ้วิว ก็พบว่า ไอ้วิวร้องไห้
ผมมองตามันเชิงคำถาม
ไม่รู้สิ ไอ้วิวตอบ น้ำตายังคงไหลออกมามากขึ้น
มีอะไรจะบอกเรามั๊ย ผมประคองมันไปนั่งบนเตียงนอน และนั่งจับมือมันไม่ยอมปล่อย บรรยากาศระหว่างเราเงียบไปสักพัก แต่แล้วเสียงร้องไห้โอ้ก็ออกมาจากความรู้สึกลึกๆของไอ้วิว
ผม เอาหน้ามันมาซบตรงแผ่นอกผมที่ตอนนี้ปราศจากเสื้อแล้ว ความอบอุ่นและกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวไอ้วิว มันทำให้ผมหวั่นไหวตามอารมณ์ไอ้วิว แล้วน้ำตาอันระทมของผมก็ไหลออกมาเหมือนกัน
บอสนายรู้มั๊ยทำไมเราแย่งน้องแตงจากนายไป ไอ้วิวตาแดงก่ำและยังคงสะอื้นไม่หยุด
ผมได้แต่มองหน้ามัน เพื่อรอให้มันพูดเองโดยที่ผมไม่ต้องถาม
เพราะเรารักนายไง เราเลยต้องทำอย่างนั้น
อืม ผมพยักหน้า และลูบผมมันเบาๆ
แสงจากตุ๊กตาโคมไฟที่เจ้าอ้นซื้อมาให้ครั้งที่มันมาหาผมล่าสุดส่องแสงนวลตา บรรยากาศในห้องตอนนี้สงบลงแล้ว ลมหนาวตอนดึกพัดผ่านเข้ามาในห้อง ผ้าม่านสีเขียวลายจุดขาวปลิวไปตามแรงลมอ่อนๆ คืนนั้นไอ้วิวก็นอนที่ห้องผมอย่างที่ผมต้องการ แต่เราไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะครับ เพราะอารมณ์ตอนนั้นมันเศร้าเกินไป ไอ้วิวและผมต่างถ่ายเทความรู้สึกให้แก่กันทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไอ้วิวสารภาพการตัดสินใจของมันในการแย่งน้องแตงไปจากผมว่า มันก็แค่อยากให้ผมได้รับรู้บ้างว่าคนที่โดนความรักมันหักหลังมันรู้สึกอย่างไร แต่แล้วเรื่องมันไม่เป็นไปอย่างที่มันคิด เพราะน้องแตงกลับต้องการที่จะคบมันจริงจัง และตอนนั้นเจ้าจอมก็ดันมาเสีย มันเลยไม่มีโอกาสจะสลัดน้องแตงออกไปจากชีวิตเรื่องราวก็เลยเถิดไปตามนั้น ทางครอบครัวมันเองก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของมันที่มาแย่งแฟนเพื่อนรักอย่างผม มันยังเล่าต่ออีกว่า แม่ของผมไปที่บ้านมันเพื่อไปคุยเรื่องที่มันแย่งน้องแตงไปจากผมได้สำเร็จ มันเองรู้สึกว่าตัวเองเลวมากที่ทำไปอย่างนั้น มันไม่กล้าสู้หน้าแม่ผม แต่ด้วยความที่เราทั้ง 2 ครอบครัวสนิทกันมาก มากจนบางเรื่องที่ไม่ควรอภัยก็ยอมอภัยให้กันได้ มันเลยค่อยคลายความอัปยศนั้นได้ วันเวลาแห่งความรักของมันและน้องแตงก็ไปได้ด้วยดี ซึ่งผิดจากที่มันคาดไปมาก ถึงตอนนี้ผมเองอดถามมันตรงๆไปไม่ได้ว่า มันรักน้องแตงเข้าแล้วจริงๆหรอ แล้วคำตอบที่บาดหูก็ออกจากปากมันว่า จริง
ผมกอดไอ้วิวแน่นอีกครั้งหลังจากที่มันเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ผมฟัง คำถามบางอย่างที่ผมสงสัยและอยากรู้มาก แต่ไม่กล้าถามเพราะกลัวคำตอบนั้นมันทำลายหัวใจผมคือ เขาทั้ง 2 คน ไปถึงไหนกันแล้ว ขณะที่ผมนอนคิดที่จะถามนั้น ไอ้วิวก็กลับมาเป็นคนย้อนถามผมบ้างว่า ไปเจอเจ้าอ้นได้ยังไง และทำไมเลือกคบคนๆนี้ ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง และมันก็ตบท้ายคำถามเหมือนที่ผมถามมันว่า ผมรักเจ้าอ้นมั๊ย ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่ผมเลือกที่จะกอดมันและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้มัน
หลังจากคืนนั้น เราทั้ง 2 คนก็เริ่มโทรหากันบ่อยครั้งขึ้นเหมือนครั้งก่อนที่เราคบกัน และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันโดยมีน้องแตงเคียงข้างไอ้วิวตลอด ในบางความรู้สึกผมเองก็อิจฉาทั้งคู่ที่ดูแล้วมีความสุขดี และบางครั้งก็อดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าน้องแตงไม่มีเยื่อใยให้ผมเลยหรอทั้งที่เจอหน้าผมทุกวัน แต่ความคิดนั้นก็ไม่มีอำนาจพอที่จะให้ผมลองหยั่งเชิงน้องแตง เพราะผมรักเธอมากเกินไป อีกอย่างผมไม่อยากให้คำว่า เจ้าชู้ หรือคำว่ามั่วมันมาพัวพันผมอีก ทุกครั้งที่ผมไปไหนมาไหนกับไอ้วิวและน้องแตง เมื่อผมกลับมาที่ห้องผมจะรู้สึกเหงาอย่างบัดซบ แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเพราะผมเองก็มีคนที่รักผมไม่น้อยไปกว่าไอ้วิว นั้นคือเจ้าอ้นนั้นเอง
แต่แล้วความหวังและความรักจากต่างแดนของผมก็เดินทางมาถึงจุดที่พระเจ้าต้องการพิสูจน์ความรักของเราทั้ง 2 คน ว่าจะมั่นคงสักแค่ไหน ค่ำวันนึงเจ้าอ้นโทรมาหาผม มันบอกผมว่ามันไปทำงานกับฝรั่งมา และฝรั่งให้เงินเยอะมาก เมื่อมันได้เงินมามันอยากกลับมาหาผมมาก แล้วก็จริงอย่างที่มันพูดเมื่อผมตื่นมาตอนเช้าผมก็ได้เจอเซอร์ไพร์อย่างจัง เพราะเจ้าอ้นมันมานอนรอผมที่หน้าประตูแล้ว
เอ้า มาได้ไง ผมแปลกใจและดีใจมากเมื่อเจอเจ้าอ้น
ก็ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ล่ะ เจ้าอ้นยิ้มให้ผมสีหน้าอ่อนเพลีย
แล้วทำไมไม่เคาะประตูล่ะ เอ้อ ผมแสดงท่าทีเป็นห่วง แต่ก่อนที่มันจะตอบคำถามผม มันกลับโถมตัวเข้าใส่ผมและปิดประตูตามหลังทันที เจ้าอ้นจับผมแก้ผ้าออกอย่างเร็วและหื่นกระหาย เราสองคนนอนลงบนพื้นห้องและฟัดกันไปมาอย่างซาดิส แต่คราวนี้ผมเริ่มผิดสังเกตในหลายๆอย่างทั้งท่าทีและคำพูดของเจ้าอ้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เวลาที่ผมต้องมาใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันเสียวซ่านและสะใจสุดๆ รสรักเจ้าอ้นยังทำผมถึงสวรรค์ได้อย่างไม่มีวันเบื่อเหมือนเดิม
อ้นอยู่ห้องไปก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาตอนเย็นๆ ผมบอกเจ้าอ้น ก่อนออกไปเรียน
อืม เจ้าอ้นพยักหน้าแต่ตานั้นปิดสนิท
ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไปนั้น ผมได้ยินเสียงเจ้าอ้นตะโกนออกมาว่า อ้วน เค้ารักตัวเองนะ ผมฟังแล้วอดยิ้มกับนิสัยขี้เล่นมันไม่ได้ หลังจากเลิกเรียนผมก็รีบกลับมาหาเจ้าอ้นทันทีที่ห้องด้วยความคิดถึง แต่เมื่อเปิดประตูผมก็ต้องเจอกับสิ่งที่ว่างเปล่า ตอนแรกคิดว่าเจ้านี้คงไปกินข้าว แต่เอ้ มันน่าจะโทรบอกเราสักคำนะ ผมนึก และตอนนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมมองไปก็เห็นมือถือเจ้าอ้นวางอยู่ข้างๆที่นอน เบอร์ที่โทรมาก็เป็นเบอร์ต่างประเทศ
ฮัลโหล ผมรับสาย
อ้น อยู่ไหนครับ ปลายสายพูดอย่างกังวล
อ๋อ ตอนนี้อ้นไม่อยู่อ่ะครับ ผมให้ข้อมูล
น้องเป็นใครครับ
อ๋อ ผมเป็นเพื่อนสนิทอ้นครับ
อืมหรอ ชื่อบอสนั้นใช่ป่ะ
ครับพี่
อืม ดีล่ะ บอกแฟนพี่ด้วยนะน้อง ว่าให้กลับมามาเลเซียด่วนๆ เพราะพี่คิดถึงมาก แค่นี้นะครับ หวังว่าของคงไม่ชอบแย่งของเล่นคนอื่นหรอกนะ บายครับ
ทันทีที่วางสายผมรู้สึกหน้าชายังไงบอกไม่ถูก เมื่อความรักที่ผมหวังไว้ว่าจะต้องเติบโตและงดงามเหมือนกับความรักของไอ้วิวและน้องแตง กลับมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆมันวิ่งเข้ามาหาผมมากมายทั้งอารมณ์หึงหวง โกรธแค้น น้อยใจ ผิดหวัง
เอ้า กลับมาแล้วหรอ เจ้าอ้น ทำเสียงยานคาง
นี่ซื้อยูนิฟมาฝากด้วย
………………………..
เค้าหิวมากเลยออกไปเซเว่นอ่ะ เจ้าอ้นเดินมาพร้อมส่งน้ำผลไม้ให้ผม
ไม่อ่ะขอบใจ ผมพูดทั้งๆที่หน้ายังชาๆไม่หาย
มีโทรศัพท์เข้ามา บอกว่าให้นายกลับมาเลเซียได้แล้ว แฟนคิดถึง
แฟนที่ไหนอีกล่ะ นายอ้นทำหัวเสียทันที
ผมไม่พูดแต่ส่งโทรศัพท์ให้มัน ทันทีที่เจ้าอ้นเห็นเบอร์นั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แต่ก็ยังคงควบคุมมันไว้อย่างยากเย็น
ถ้ามีแฟนแล้วก็กลับไปหาแฟนเถอะนะ ผมพูดแต่ไม่มองหน้ามัน
นั้นไม่ใช่แฟนผม เจ้าอ้นเดินมานั่งข้างผม
………………………..
จริงๆ ไม่ใช่แฟนผม เจ้าอ้นย้ำคำเดิม
ผมได้แต่นั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไร ในใจทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผมได้เจอมาทั้งรักที่สุขสมและรักที่ปวดร้าว แล้วข้อมูลอีกอย่างที่ผมได้ฟังมาจากพี่ตี๋ก็ผุดขึ้นมา ผมโต้เจ้าอ้นด้วยข้อมูลอันนั้น จนเจ้าอ้นยอมจำนนด้วยหลักฐาน เย็นวันนั้นผมกับเจ้าอ้นไม่พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว อาจเพราะถ้าเราขืนพูดไปเราคงต้องทะเลาะและผิดใจกันไปมากกว่านั้น แต่แล้วเรื่องราวมันก็เลวร้ายไปกว่าเดิมอีก เมื่อไอ้วิวโทรมาหาผม และเจ้าอ้นก็ดันแย่งโทรศัพท์ผมไปคุยเสียเอง
ใครอ่ะ เจ้าอ้นทำเสียงขู่
ไม่อยู่โว้ย แล้วเจ้าอ้นก็วางสาย แล้วหันหน้ามาทางผม และถามถึงไอ้วิว ผมเองตอนนั้นกำลังโมโหมันอยู่ เลยจัดการพูดเสียดแทงใจดำมันให้สาสมกับที่มันทำให้ผมเจ็บใจ ผมเล่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้วิวให้มันฟังทุกเรื่อง เจ้าอ้นนั่งฟังและน้ำตาไหลพราก มันไม่พูดหรือไม่ถามอะไรผมอีกเลย จนเรา 2 คนหลับไป
ตื่นมาตอนเช้า ประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้ เจ้าอ้นก็ไม่อยู่ในห้อง ตอนแรกผมก็คิดว่ามันคงลงไปหาอะไรกินอย่างเคย แต่เมื่อผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดู ผมจึงรู้ว่า เจ้าอ้นหนีผมไปเสียแล้ว วันนั้นผมโทรลาเรียนกับที่คณะ เพราะผมไม่สามารถออกจากห้องได้เนื่องจากตา 2 ข้างของผมมันบวมเกินไปที่จะออกไปพบใครได้ ผมพยายามโทรหาเจ้าอ้นหลายต่อหลายครั้งแต่มันก็ไม่ยอมรับสาย ในใจผมนั้นแอบหวังว่าเมื่อมันหายโกรธมันคงโทรมาหาผมเอง ตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ไม่มีวี่แววของเจ้าอ้น ในใจผมตอนนั้นร้อนรนดั่งไฟเผา นี่หรือที่เค้าเรียกกันว่าความรัก ผมนั่งทบทวนเรื่องราวชีวิตว่ามันช่างเล่นตลกกับผมเสียจนผมแทบทนไม่ไหว วันนั้นทั้งวันผมนอนกุมโทรศัพท์ไว้ในมือตลอดเผื่อเจ้าอ้นโทรมาจะได้รับสายทันที แต่แล้วผมก็ต้องพบแต่เพียงน้ำตาของผมแทนเสียงคุ้นเคยจากเจ้าอ้น
สัปดาห์กว่าๆแล้วที่เจ้าอ้นจากผมไปโดยที่เราทั้ง 2 ยังไม่ได้เคลียร์ใจกันว่าจะเอายังไงกันต่อ แต่หากจะถามผมว่ารู้สึกยังไงกับมันผมตอบได้คำเดียวว่าผมรักมันนะครับ แต่ตอนนั้นที่ทะเลาะกันผมไม่นึกว่าเรื่องราวมันจะออกมาแบบนี้ ผมโทรหาเจ้าอ้นแต่มันไม่ยอมรับสายสักที บางครั้งผมโมโหจนร้องไห้เลยทีเดียว ผมรู้สึกว่าการกระทำของเจ้าอ้นครั้งนั้นไม่ต่างจากการจับผมไปขังไว้ในกรงเหล็กแห่งความคับข้องใจ ที่ไม่มีวันออกมาจากกรงนั้นได้ ตอนนี้ผมยังคงรอคอยสายจากเจ้าอ้นตลอดเวลา จนเพื่อนๆผมสังเกตถึงความเปลี่ยนไปของผม แต่ผมก็ได้ปฏิเสธไปทุกคำถามว่าไม่มีอะไร ไอ้วิวและน้องแตงเองก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผมเช่นกัน เพราะเมื่อทั้ง 2 ชวนผมไปไหนมาไหนด้วย ผมก็ปฏิเสธไปเสียทุกครั้ง นั้นก็เพราะผมไม่พร้อมที่จะออกไปพบเจอกับคนที่เขามีความรักกัน ที่มากไปกว่านั้นผมจะรู้สึกเสียความมั่นใจเสียทุกครั้ง เมื่อไปไหนมาไหนคนเดียวหรือทำอะไรคนเดียว ผมจะรู้สึกว่าผมหวาดกลัวไปเสียทุกที คงจะมีแต่เพียงเวลาเท่านั้นแหละครับที่สามารถเยียวยาผมได้
ความรักเหมือนโรคาบันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยลอุปสรรคใดๆ
ความรักเหมือนโคถึกกำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไปบ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
หากแม้จะผูกไว้ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่งบ่หวลคิดถึงเจ็บกาย
โคลงบทนี้มันใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ เพราะหลังจากที่เจ้าอ้นจากผมไป ผมรอคอยโทรศัพท์จากมันทุกวันแต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะโทรมาหาผม ผมเลยต้องออกตามหามัน ผมไปสอบถามเพื่อนๆมันที่เคยแนะนำให้ผมรู้จัก ผมไปถามแม้กระทั่งโรงแรมที่มันเคยพักว่า มันมาพักที่นี้บ้างไหม แล้วความพยายามของผมก็ต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้งไป จนตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือดูรูปมันและ ร้องไห้เพียงอย่างเดียว ผมไม่นึกเลยว่าเพียงเวลาสั้นๆนั้นจะทำให้ผมรักมันได้เพียงขนาดนี้ ผมนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเจ้าอ้น คิดแล้วอดยิ้มไม่ได้กับนิสัยขี้เล่นและเสียงประหลาดๆที่มันมักจะสรรหามาหยอกล้อผมประจำๆ หรือ แม้แต่นิสัยที่มันชอบตามใจผมทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่นอน ว่าผมจะนอนด้านซ้ายหรือด้านขวา ยิ่งคิดถึงวันเวลาเหล่านั้นแล้วยิ่งทำให้ผมอดร้องไห้ไม่ได้ ตัวผมตอนนี้เหมือนเทียนกลางสายฝน ที่โดดเดี่ยวและหนาวเหน็บ แต่ก็พยายามส่องสว่างเท่าที่ตนเองจะทนได้ ก็เพื่อรอคอยให้คนรักของผมคนนั้นได้เห็นและกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ถ้าเขาไม่กลับมาเทียนเล่มนี้ก็อาจมอดดับลงไป แล้วความมืดแห่งห้วงระทมก็จะเข้าแทนที่ตลอดกาล
สำหรับชีวิตรักที่ผ่านมานั้นผมเจอสิ่งเลวร้ายมาก็มากแต่สำหรับครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันรุนแรงมาก เพราะผมคาดหวังไว้สูงกับรักครั้งนี้ นั้นก็เพราะผมเจอมันตอนที่ผมกำลังเหงาและหดหู่ที่สุด หากจะเปรียบไปก็เหมือนกับนักเดินทางได้เจอน้ำกลางทะเลทรายอันกันดารและห่างไกล แต่ก็ได้ลิ้มลองน้ำอันใสสะอาดนั้นได้ไม่นาน เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสงแผดเผาน้ำอันเป็นความหวังนั้นจนเหือดแห้งไปหมด นี่ก็เช่นกัน เมื่อรักผมมาจบลงอย่างไม่มีคำตอบใดๆที่จะทำให้ผมมั่นใจได้ว่านั้นคือการแยกจากกันไปตลอด หรืออะไรกันแน่ เพราะสิ่งที่เจ้าอ้นทิ้งไว้ให้นั้นมันไม่มีสิ่งใดเลยที่จะบอกว่าเราเลิกกันหรือเราแยกกันสักพัก นอกเสียจากเรื่องราวทะเลาะกันเพราะหึงหวงจากวันวาน
วันแล้ววันเล่าที่ผมเลิกเรียนกลับมาห้องผมก็อดที่จะหวังเล็กๆไม่ได้สักครั้งว่าเจ้าอ้นคงจะโทรมาหาไม่ช่วงเวลาใดก็เวลาหนึ่ง ผมเลยชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้เต็มไว้เสมอๆ หนักเข้าผมก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกันกับความรู้สึกแบบนี้ ผมเลยหาทางออกให้ตัวเองโดยการกลับไปหาครอบครัว ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน แม่และพ่อต่างก็ตอนรับผมด้วยความอบอุ่นทุกครั้ง กำลังใจจากครอบครัวทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพ่อแม่ผมไม่ทราบว่าผมทุกข์ใจเรื่องอะไรแต่ท่านทั้ง 2 ก็ยินดีที่จะปลอบใจผมเสมอ พักหลังที่ผมเริ่มแข็งแรงขึ้นจากความเศร้านั้นผมก็กลับไปหาเพื่อนรักของผมคนเดียวนั้นคือ ไอ้วิว


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

4. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #2
 
27-Aug-12, 09:34 PM (SE Asia Standard Time)
 
   แล้วโอกาสก็เข้าข้างผมอีกครั้งเมื่อวันนึงหลังจากผมลงจากคลินิก ไอ้วิวเองก็ออกมาจาก โรงพยาบาลพอดี เราเลยชวนกันไปนั่งร้านน้ำชาในตัวเมือง โดยตั้งใจจะชวนเพื่อนๆคนอื่นและน้องแตงไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครว่างไปกับเราเลยสักคน ผมกับไอ้วิวเลยไปกัน 2 คน เมื่อเราอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คนจึงมีโอกาสได้คุยเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่แค่เรื่องดินฟ้าอากาศหรือเรื่องในโรงพยาบาล ตัวผมเองนั้นพร้อมที่จะคุยเรื่องนี้กับไอ้วิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกันอีกครั้งแล้ว จนมาวันนี้มันเป็นฝ่ายเริ่มต้นที่จะหยิบเรื่องนี้มาก่อน
เป็นไงบ้าง
ก็ดี
รู้หรอเราถามเรื่องไร ไอ้วิวทำหน้ากวนๆ
ก็ ไม่รู้หรอก แค่อยากบอกว่าตอนนี้มันรู้สึกดี ผมพูดเพื่อชักนำเข้าเรื่องโดยที่ไม่อยากให้รู้สึกว่าอายปากกันทั้ง 2 คนจนเสียเรื่อง
เอ้าแล้วที่ผ่านมามันไม่ดีหรอ ไอ้วิวจับจอกน้ำชาเอามาเป่า
ไม่ดีเลย เหงาบัดซบ
อืม ได้ข่าวว่าเมาทุกวันนี้
ก็บ้าง นายรู้ได้ไง
ก็คนเขาพูดกันทั่วไป ไอ้วิวพูดพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
อืม แสดงว่ายังสนใจและเป็นห่วงเราอ่ะดิ ผมตัดสินใจยิงลูกโทษใส่ไอ้วิว ซึ่งอาจเสี่ยงต่อสัมพันธภาพระหว่างเราที่เพิ่งรื้นฟื้นขึ้นมา
.................................. ไอ้วิวหน้าแดง พลางใช้นิ้วชี้ลูบจอกน้ำชาเป็นวงกลม
แล้ว นายอ่ะ ดีม่ะที่ผ่านมา
ก็ ดี
ห้ามตอบเหมือนกัน ผมกินขนมปังพลางทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ไอ้วิว
ก็เป็นสุขดี น้องเขาก็โอเค นายเองก็มีแฟนใหม่แล้วนี่ หน้าโหดดี เปลี่ยนแนวแล้วหรอ ไอ้วิวพูดเชิงประชด
เปล่าเปลี่ยนหรอก แต่ไอ้ที่มันตรงสเป็คอ่ะ มันไปเป็นของคนอื่นซะไง ผมรู้ว่าคำนี้อาจทำให้ไอ้วิวโกรธ แต่ผมก็อยากพูดออกมาให้มันรับรู้ในเมื่อมันคือความในใจของผมที่อยากถ่ายเทออกมา ก่อนที่ความรู้สึกเหล่านั้นของผมจะจุกอกตาย
ก็.................... ช่างมันเหอะ ถ้านายลองนึกนะ นายจะรู้ว่า อะไรทำให้เรา 2 คนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ใช่ความเจ้าชู้ของนาย ไอ้วิวเอาคืนจนผมพูดอะไรไม่ออกเพราะนั้นมันคือเรื่องจริง
แล้วถ้าเราเลิกเจ้าชู้ล่ะ นายคิดว่าไอ้สเป็คของเรามันจะกลับมาม่ะ
ไม่รู้ดิ ไอ้วิวหน้าแดง
ปวดฉี่อ่ะ ไอ้วิวพูดออกตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่ไอ้วิวเข้าห้องน้ำผมคิดเรื่องดีๆ ที่จะคืนดีกับไอ้วิวได้อย่างบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ซึ่งตอนนี้ผมรู้ว่าปัญหาของเราคือต่างคนต่างมีแฟนใหม่กันแล้ว และแฟนใหม่เราทั้ง 2 คนก็แสนดีกับเราเสียจนเลิกไม่ลง แต่ในเมื่อเราเองก็ยังคงรักกันอยู่ ผมเลยปิ๊งไอเดียนี่ขึ้นมา ทั้งที่ผมก็รู้ดีว่าแผนการคืนดีนี้มันค่อนข้างจะยากสักหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของนักศึกษาคะแนนเกียรตินิยมอย่างผม
เป็นอันว่าหลังจากออกจากร้านน้ำชาผมก็ชวนไอ้วิวไปนั่งเล่นที่ห้องผม แต่เหมือนไอ้วิวมันรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่ มันเลยมีท่าทีที่ไม่ใคร่จะอยากไปสักเท่าไหร่ แต่มันก็ทนผมอ้อนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปกับผมในคืนนั้น ที่ห้องผมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆถูกเปลี่ยนที่ทางจนหมด จนไอ้วิวเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม ผมให้เหตุผลกับมันว่า ก็ไม่อยากให้อะไรมันซ้ำและจำเจ อีกอย่างผมอดคิดถึงวันและเวลาดีๆที่ผ่านมาไม่ได้ เมื่อเห็นสถานที่เดิมแต่ขาดคนเดิมๆไป ขณะที่ผมพูดไอ้วิวก็กวาดสายตาไปสะดุดกับสิ่งหนึ่งนั้นก็คือเสื้อของเจ้าอ้น ที่ผมเพิ่งซักและตากไว้
นั้นเสื้อใครอ่ะ ไอ้วิวเดินไปจับเสื้อตัวนั้นพลิกไปมา
อ๋อก็เสื้อ เออ ...... เสื้อเราเอง
ไม่มั้ง บอกมาเหอะ ไอ้วิวพูดพลางมองลึกมาในตาผม
เสื้ออ้นอ่ะ
หรอ นายอ้นนั้นเคยมาห้องนายแล้วหรอ ไอ้วิวเริ่มมีท่าทีไม่เป็นสุข
อืม ผมยอมรับ แต่โดยดี
หรอ ลึกซึ้งแล้วสินะ เสียงสั่นเครือออกมาจากปากไอ้วิว
ก็ ..................... ผมพูดอะไรไม่ออกเพราะรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเองว่าตกลงผมต้องการใครกันแน่ระหว่างสิ่งที่ผมเรียกหามาตลอดหรือสิ่งใหม่ที่เข้ามาทดแทนในยามยาก
บอส ไอ้วิวเรียกผมด้วยเสียงสั่นเครือมากขึ้น
อืม มีไร ผมพยายามทำตัวเป็นปกติ
เราหอมแก้มนายได้ม่ะ ไอ้วิวเดินตรงเข้ามาหาผมทันทีที่พูดจบ
ริมฝีปากอันคุ้นเคยค่อยๆ บรรจงจูบลงบนแก้มผม ผมเองก็ตอบสนองไอ้วิวด้วยการดึงมันมาโอบกอดไว้ และหวังใจว่าจะกอดมันให้นานที่สุด สักครู่ที่เรา 2 คนกอดกันแน่นนั้น หยาดน้ำอุ่นๆก็เปื้อนแก้มผม ผมจึงผละจากหน้าไอ้วิว ก็พบว่า ไอ้วิวร้องไห้
ผมมองตามันเชิงคำถาม
ไม่รู้สิ ไอ้วิวตอบ น้ำตายังคงไหลออกมามากขึ้น
มีอะไรจะบอกเรามั๊ย ผมประคองมันไปนั่งบนเตียงนอน และนั่งจับมือมันไม่ยอมปล่อย บรรยากาศระหว่างเราเงียบไปสักพัก แต่แล้วเสียงร้องไห้โอ้ก็ออกมาจากความรู้สึกลึกๆของไอ้วิว
ผม เอาหน้ามันมาซบตรงแผ่นอกผมที่ตอนนี้ปราศจากเสื้อแล้ว ความอบอุ่นและกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวไอ้วิว มันทำให้ผมหวั่นไหวตามอารมณ์ไอ้วิว แล้วน้ำตาอันระทมของผมก็ไหลออกมาเหมือนกัน
บอสนายรู้มั๊ยทำไมเราแย่งน้องแตงจากนายไป ไอ้วิวตาแดงก่ำและยังคงสะอื้นไม่หยุด
ผมได้แต่มองหน้ามัน เพื่อรอให้มันพูดเองโดยที่ผมไม่ต้องถาม
เพราะเรารักนายไง เราเลยต้องทำอย่างนั้น
อืม ผมพยักหน้า และลูบผมมันเบาๆ
แสงจากตุ๊กตาโคมไฟที่เจ้าอ้นซื้อมาให้ครั้งที่มันมาหาผมล่าสุดส่องแสงนวลตา บรรยากาศในห้องตอนนี้สงบลงแล้ว ลมหนาวตอนดึกพัดผ่านเข้ามาในห้อง ผ้าม่านสีเขียวลายจุดขาวปลิวไปตามแรงลมอ่อนๆ คืนนั้นไอ้วิวก็นอนที่ห้องผมอย่างที่ผมต้องการ แต่เราไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะครับ เพราะอารมณ์ตอนนั้นมันเศร้าเกินไป ไอ้วิวและผมต่างถ่ายเทความรู้สึกให้แก่กันทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไอ้วิวสารภาพการตัดสินใจของมันในการแย่งน้องแตงไปจากผมว่า มันก็แค่อยากให้ผมได้รับรู้บ้างว่าคนที่โดนความรักมันหักหลังมันรู้สึกอย่างไร แต่แล้วเรื่องมันไม่เป็นไปอย่างที่มันคิด เพราะน้องแตงกลับต้องการที่จะคบมันจริงจัง และตอนนั้นเจ้าจอมก็ดันมาเสีย มันเลยไม่มีโอกาสจะสลัดน้องแตงออกไปจากชีวิตเรื่องราวก็เลยเถิดไปตามนั้น ทางครอบครัวมันเองก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของมันที่มาแย่งแฟนเพื่อนรักอย่างผม มันยังเล่าต่ออีกว่า แม่ของผมไปที่บ้านมันเพื่อไปคุยเรื่องที่มันแย่งน้องแตงไปจากผมได้สำเร็จ มันเองรู้สึกว่าตัวเองเลวมากที่ทำไปอย่างนั้น มันไม่กล้าสู้หน้าแม่ผม แต่ด้วยความที่เราทั้ง 2 ครอบครัวสนิทกันมาก มากจนบางเรื่องที่ไม่ควรอภัยก็ยอมอภัยให้กันได้ มันเลยค่อยคลายความอัปยศนั้นได้ วันเวลาแห่งความรักของมันและน้องแตงก็ไปได้ด้วยดี ซึ่งผิดจากที่มันคาดไปมาก ถึงตอนนี้ผมเองอดถามมันตรงๆไปไม่ได้ว่า มันรักน้องแตงเข้าแล้วจริงๆหรอ แล้วคำตอบที่บาดหูก็ออกจากปากมันว่า จริง
ผมกอดไอ้วิวแน่นอีกครั้งหลังจากที่มันเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ผมฟัง คำถามบางอย่างที่ผมสงสัยและอยากรู้มาก แต่ไม่กล้าถามเพราะกลัวคำตอบนั้นมันทำลายหัวใจผมคือ เขาทั้ง 2 คน ไปถึงไหนกันแล้ว ขณะที่ผมนอนคิดที่จะถามนั้น ไอ้วิวก็กลับมาเป็นคนย้อนถามผมบ้างว่า ไปเจอเจ้าอ้นได้ยังไง และทำไมเลือกคบคนๆนี้ ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง และมันก็ตบท้ายคำถามเหมือนที่ผมถามมันว่า ผมรักเจ้าอ้นมั๊ย ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่ผมเลือกที่จะกอดมันและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้มัน
หลังจากคืนนั้น เราทั้ง 2 คนก็เริ่มโทรหากันบ่อยครั้งขึ้นเหมือนครั้งก่อนที่เราคบกัน และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันโดยมีน้องแตงเคียงข้างไอ้วิวตลอด ในบางความรู้สึกผมเองก็อิจฉาทั้งคู่ที่ดูแล้วมีความสุขดี และบางครั้งก็อดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าน้องแตงไม่มีเยื่อใยให้ผมเลยหรอทั้งที่เจอหน้าผมทุกวัน แต่ความคิดนั้นก็ไม่มีอำนาจพอที่จะให้ผมลองหยั่งเชิงน้องแตง เพราะผมรักเธอมากเกินไป อีกอย่างผมไม่อยากให้คำว่า เจ้าชู้ หรือคำว่ามั่วมันมาพัวพันผมอีก ทุกครั้งที่ผมไปไหนมาไหนกับไอ้วิวและน้องแตง เมื่อผมกลับมาที่ห้องผมจะรู้สึกเหงาอย่างบัดซบ แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเพราะผมเองก็มีคนที่รักผมไม่น้อยไปกว่าไอ้วิว นั้นคือเจ้าอ้นนั้นเอง
แต่แล้วความหวังและความรักจากต่างแดนของผมก็เดินทางมาถึงจุดที่พระเจ้าต้องการพิสูจน์ความรักของเราทั้ง 2 คน ว่าจะมั่นคงสักแค่ไหน ค่ำวันนึงเจ้าอ้นโทรมาหาผม มันบอกผมว่ามันไปทำงานกับฝรั่งมา และฝรั่งให้เงินเยอะมาก เมื่อมันได้เงินมามันอยากกลับมาหาผมมาก แล้วก็จริงอย่างที่มันพูดเมื่อผมตื่นมาตอนเช้าผมก็ได้เจอเซอร์ไพร์อย่างจัง เพราะเจ้าอ้นมันมานอนรอผมที่หน้าประตูแล้ว
เอ้า มาได้ไง ผมแปลกใจและดีใจมากเมื่อเจอเจ้าอ้น
ก็ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ล่ะ เจ้าอ้นยิ้มให้ผมสีหน้าอ่อนเพลีย
แล้วทำไมไม่เคาะประตูล่ะ เอ้อ ผมแสดงท่าทีเป็นห่วง แต่ก่อนที่มันจะตอบคำถามผม มันกลับโถมตัวเข้าใส่ผมและปิดประตูตามหลังทันที เจ้าอ้นจับผมแก้ผ้าออกอย่างเร็วและหื่นกระหาย เราสองคนนอนลงบนพื้นห้องและฟัดกันไปมาอย่างซาดิส แต่คราวนี้ผมเริ่มผิดสังเกตในหลายๆอย่างทั้งท่าทีและคำพูดของเจ้าอ้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เวลาที่ผมต้องมาใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันเสียวซ่านและสะใจสุดๆ รสรักเจ้าอ้นยังทำผมถึงสวรรค์ได้อย่างไม่มีวันเบื่อเหมือนเดิม
อ้นอยู่ห้องไปก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาตอนเย็นๆ ผมบอกเจ้าอ้น ก่อนออกไปเรียน
อืม เจ้าอ้นพยักหน้าแต่ตานั้นปิดสนิท
ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไปนั้น ผมได้ยินเสียงเจ้าอ้นตะโกนออกมาว่า อ้วน เค้ารักตัวเองนะ ผมฟังแล้วอดยิ้มกับนิสัยขี้เล่นมันไม่ได้ หลังจากเลิกเรียนผมก็รีบกลับมาหาเจ้าอ้นทันทีที่ห้องด้วยความคิดถึง แต่เมื่อเปิดประตูผมก็ต้องเจอกับสิ่งที่ว่างเปล่า ตอนแรกคิดว่าเจ้านี้คงไปกินข้าว แต่เอ้ มันน่าจะโทรบอกเราสักคำนะ ผมนึก และตอนนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมมองไปก็เห็นมือถือเจ้าอ้นวางอยู่ข้างๆที่นอน เบอร์ที่โทรมาก็เป็นเบอร์ต่างประเทศ
ฮัลโหล ผมรับสาย
อ้น อยู่ไหนครับ ปลายสายพูดอย่างกังวล
อ๋อ ตอนนี้อ้นไม่อยู่อ่ะครับ ผมให้ข้อมูล
น้องเป็นใครครับ
อ๋อ ผมเป็นเพื่อนสนิทอ้นครับ
อืมหรอ ชื่อบอสนั้นใช่ป่ะ
ครับพี่
อืม ดีล่ะ บอกแฟนพี่ด้วยนะน้อง ว่าให้กลับมามาเลเซียด่วนๆ เพราะพี่คิดถึงมาก แค่นี้นะครับ หวังว่าของคงไม่ชอบแย่งของเล่นคนอื่นหรอกนะ บายครับ
ทันทีที่วางสายผมรู้สึกหน้าชายังไงบอกไม่ถูก เมื่อความรักที่ผมหวังไว้ว่าจะต้องเติบโตและงดงามเหมือนกับความรักของไอ้วิวและน้องแตง กลับมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆมันวิ่งเข้ามาหาผมมากมายทั้งอารมณ์หึงหวง โกรธแค้น น้อยใจ ผิดหวัง
เอ้า กลับมาแล้วหรอ เจ้าอ้น ทำเสียงยานคาง
นี่ซื้อยูนิฟมาฝากด้วย
………………………..
เค้าหิวมากเลยออกไปเซเว่นอ่ะ เจ้าอ้นเดินมาพร้อมส่งน้ำผลไม้ให้ผม
ไม่อ่ะขอบใจ ผมพูดทั้งๆที่หน้ายังชาๆไม่หาย
มีโทรศัพท์เข้ามา บอกว่าให้นายกลับมาเลเซียได้แล้ว แฟนคิดถึง
แฟนที่ไหนอีกล่ะ นายอ้นทำหัวเสียทันที
ผมไม่พูดแต่ส่งโทรศัพท์ให้มัน ทันทีที่เจ้าอ้นเห็นเบอร์นั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แต่ก็ยังคงควบคุมมันไว้อย่างยากเย็น
ถ้ามีแฟนแล้วก็กลับไปหาแฟนเถอะนะ ผมพูดแต่ไม่มองหน้ามัน
นั้นไม่ใช่แฟนผม เจ้าอ้นเดินมานั่งข้างผม
………………………..
จริงๆ ไม่ใช่แฟนผม เจ้าอ้นย้ำคำเดิม
ผมได้แต่นั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไร ในใจทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผมได้เจอมาทั้งรักที่สุขสมและรักที่ปวดร้าว แล้วข้อมูลอีกอย่างที่ผมได้ฟังมาจากพี่ตี๋ก็ผุดขึ้นมา ผมโต้เจ้าอ้นด้วยข้อมูลอันนั้น จนเจ้าอ้นยอมจำนนด้วยหลักฐาน เย็นวันนั้นผมกับเจ้าอ้นไม่พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว อาจเพราะถ้าเราขืนพูดไปเราคงต้องทะเลาะและผิดใจกันไปมากกว่านั้น แต่แล้วเรื่องราวมันก็เลวร้ายไปกว่าเดิมอีก เมื่อไอ้วิวโทรมาหาผม และเจ้าอ้นก็ดันแย่งโทรศัพท์ผมไปคุยเสียเอง
ใครอ่ะ เจ้าอ้นทำเสียงขู่
ไม่อยู่โว้ย แล้วเจ้าอ้นก็วางสาย แล้วหันหน้ามาทางผม และถามถึงไอ้วิว ผมเองตอนนั้นกำลังโมโหมันอยู่ เลยจัดการพูดเสียดแทงใจดำมันให้สาสมกับที่มันทำให้ผมเจ็บใจ ผมเล่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้วิวให้มันฟังทุกเรื่อง เจ้าอ้นนั่งฟังและน้ำตาไหลพราก มันไม่พูดหรือไม่ถามอะไรผมอีกเลย จนเรา 2 คนหลับไป
ตื่นมาตอนเช้า ประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้ เจ้าอ้นก็ไม่อยู่ในห้อง ตอนแรกผมก็คิดว่ามันคงลงไปหาอะไรกินอย่างเคย แต่เมื่อผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดู ผมจึงรู้ว่า เจ้าอ้นหนีผมไปเสียแล้ว วันนั้นผมโทรลาเรียนกับที่คณะ เพราะผมไม่สามารถออกจากห้องได้เนื่องจากตา 2 ข้างของผมมันบวมเกินไปที่จะออกไปพบใครได้ ผมพยายามโทรหาเจ้าอ้นหลายต่อหลายครั้งแต่มันก็ไม่ยอมรับสาย ในใจผมนั้นแอบหวังว่าเมื่อมันหายโกรธมันคงโทรมาหาผมเอง ตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ไม่มีวี่แววของเจ้าอ้น ในใจผมตอนนั้นร้อนรนดั่งไฟเผา นี่หรือที่เค้าเรียกกันว่าความรัก ผมนั่งทบทวนเรื่องราวชีวิตว่ามันช่างเล่นตลกกับผมเสียจนผมแทบทนไม่ไหว วันนั้นทั้งวันผมนอนกุมโทรศัพท์ไว้ในมือตลอดเผื่อเจ้าอ้นโทรมาจะได้รับสายทันที แต่แล้วผมก็ต้องพบแต่เพียงน้ำตาของผมแทนเสียงคุ้นเคยจากเจ้าอ้น
สัปดาห์กว่าๆแล้วที่เจ้าอ้นจากผมไปโดยที่เราทั้ง 2 ยังไม่ได้เคลียร์ใจกันว่าจะเอายังไงกันต่อ แต่หากจะถามผมว่ารู้สึกยังไงกับมันผมตอบได้คำเดียวว่าผมรักมันนะครับ แต่ตอนนั้นที่ทะเลาะกันผมไม่นึกว่าเรื่องราวมันจะออกมาแบบนี้ ผมโทรหาเจ้าอ้นแต่มันไม่ยอมรับสายสักที บางครั้งผมโมโหจนร้องไห้เลยทีเดียว ผมรู้สึกว่าการกระทำของเจ้าอ้นครั้งนั้นไม่ต่างจากการจับผมไปขังไว้ในกรงเหล็กแห่งความคับข้องใจ ที่ไม่มีวันออกมาจากกรงนั้นได้ ตอนนี้ผมยังคงรอคอยสายจากเจ้าอ้นตลอดเวลา จนเพื่อนๆผมสังเกตถึงความเปลี่ยนไปของผม แต่ผมก็ได้ปฏิเสธไปทุกคำถามว่าไม่มีอะไร ไอ้วิวและน้องแตงเองก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผมเช่นกัน เพราะเมื่อทั้ง 2 ชวนผมไปไหนมาไหนด้วย ผมก็ปฏิเสธไปเสียทุกครั้ง นั้นก็เพราะผมไม่พร้อมที่จะออกไปพบเจอกับคนที่เขามีความรักกัน ที่มากไปกว่านั้นผมจะรู้สึกเสียความมั่นใจเสียทุกครั้ง เมื่อไปไหนมาไหนคนเดียวหรือทำอะไรคนเดียว ผมจะรู้สึกว่าผมหวาดกลัวไปเสียทุกที คงจะมีแต่เพียงเวลาเท่านั้นแหละครับที่สามารถเยียวยาผมได้
ความรักเหมือนโรคาบันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยลอุปสรรคใดๆ
ความรักเหมือนโคถึกกำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไปบ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
หากแม้จะผูกไว้ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่งบ่หวลคิดถึงเจ็บกาย
โคลงบทนี้มันใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ เพราะหลังจากที่เจ้าอ้นจากผมไป ผมรอคอยโทรศัพท์จากมันทุกวันแต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะโทรมาหาผม ผมเลยต้องออกตามหามัน ผมไปสอบถามเพื่อนๆมันที่เคยแนะนำให้ผมรู้จัก ผมไปถามแม้กระทั่งโรงแรมที่มันเคยพักว่า มันมาพักที่นี้บ้างไหม แล้วความพยายามของผมก็ต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้งไป จนตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือดูรูปมันและ ร้องไห้เพียงอย่างเดียว ผมไม่นึกเลยว่าเพียงเวลาสั้นๆนั้นจะทำให้ผมรักมันได้เพียงขนาดนี้ ผมนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเจ้าอ้น คิดแล้วอดยิ้มไม่ได้กับนิสัยขี้เล่นและเสียงประหลาดๆที่มันมักจะสรรหามาหยอกล้อผมประจำๆ หรือ แม้แต่นิสัยที่มันชอบตามใจผมทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่นอน ว่าผมจะนอนด้านซ้ายหรือด้านขวา ยิ่งคิดถึงวันเวลาเหล่านั้นแล้วยิ่งทำให้ผมอดร้องไห้ไม่ได้ ตัวผมตอนนี้เหมือนเทียนกลางสายฝน ที่โดดเดี่ยวและหนาวเหน็บ แต่ก็พยายามส่องสว่างเท่าที่ตนเองจะทนได้ ก็เพื่อรอคอยให้คนรักของผมคนนั้นได้เห็นและกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ถ้าเขาไม่กลับมาเทียนเล่มนี้ก็อาจมอดดับลงไป แล้วความมืดแห่งห้วงระทมก็จะเข้าแทนที่ตลอดกาล
สำหรับชีวิตรักที่ผ่านมานั้นผมเจอสิ่งเลวร้ายมาก็มากแต่สำหรับครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันรุนแรงมาก เพราะผมคาดหวังไว้สูงกับรักครั้งนี้ นั้นก็เพราะผมเจอมันตอนที่ผมกำลังเหงาและหดหู่ที่สุด หากจะเปรียบไปก็เหมือนกับนักเดินทางได้เจอน้ำกลางทะเลทรายอันกันดารและห่างไกล แต่ก็ได้ลิ้มลองน้ำอันใสสะอาดนั้นได้ไม่นาน เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสงแผดเผาน้ำอันเป็นความหวังนั้นจนเหือดแห้งไปหมด นี่ก็เช่นกัน เมื่อรักผมมาจบลงอย่างไม่มีคำตอบใดๆที่จะทำให้ผมมั่นใจได้ว่านั้นคือการแยกจากกันไปตลอด หรืออะไรกันแน่ เพราะสิ่งที่เจ้าอ้นทิ้งไว้ให้นั้นมันไม่มีสิ่งใดเลยที่จะบอกว่าเราเลิกกันหรือเราแยกกันสักพัก นอกเสียจากเรื่องราวทะเลาะกันเพราะหึงหวงจากวันวาน
วันแล้ววันเล่าที่ผมเลิกเรียนกลับมาห้องผมก็อดที่จะหวังเล็กๆไม่ได้สักครั้งว่าเจ้าอ้นคงจะโทรมาหาไม่ช่วงเวลาใดก็เวลาหนึ่ง ผมเลยชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้เต็มไว้เสมอๆ หนักเข้าผมก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกันกับความรู้สึกแบบนี้ ผมเลยหาทางออกให้ตัวเองโดยการกลับไปหาครอบครัว ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน แม่และพ่อต่างก็ตอนรับผมด้วยความอบอุ่นทุกครั้ง กำลังใจจากครอบครัวทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพ่อแม่ผมไม่ทราบว่าผมทุกข์ใจเรื่องอะไรแต่ท่านทั้ง 2 ก็ยินดีที่จะปลอบใจผมเสมอ พักหลังที่ผมเริ่มแข็งแรงขึ้นจากความเศร้านั้นผมก็กลับไปหาเพื่อนรักของผมคนเดียวนั้นคือ ไอ้วิว


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
B
Guest

5. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #4
 
28-Aug-12, 01:03 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ดันๆ เหลืออีกสองตอนไม่อยากให้จบเลยครับ สนุกมาก อยากให้ ดีกับวิว รักกันนานๆ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
VANILLA
Guest

6. "RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8"
In response to message #4
 
28-Aug-12, 08:21 PM (SE Asia Standard Time)
 
   รอตอนต่อไปอยู่ครับ กำลังอิน
เรื่องโดนใจมากๆ
วันนี้อ่านมาตั้งแต่ตอนแรกเลย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters