We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดลับเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR (บอร์ดรูป Devil), (บอร์ดวีดีโอ Zombie) ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

PalmPlaza.us

Subject: "Hatyai Story: 9"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences Story Club Topic #475
Reading Topic #475
เจ้าบอสน้อย
Guest

"Hatyai Story: 9"
 
29-Aug-12, 04:30 PM (SE Asia Standard Time)
 
   นักรักหน้าหยก 9 ตอน สองมือ (1/9/52)
ธรรมชาติรอบกายเราคือบทเรียนแห่งการใช้ชีวิตที่ทรงคุณค่าสูงสุด มีไว้ให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตที่แสนยาก ผมคนหนึ่งที่ศรัทธาในเรื่องกาลเวลามาก เพราะเวลาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ผมอยากได้รับคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทุกๆด้านก่อนที่ชีวิตนี้จะสูญจากโลกนี้ไป อย่างเช่นกลางวันและกลางคืนมันมหัศจรรย์สำหรับผมมาก อาจใช่ดังที่วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ไว้ว่ามันเกิดจากการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งนั่นผมก็ไม่อาจค้านได้ แต่สิ่งที่ผมมหัศจรรย์ใจคือ เวลาในช่วงต่างๆของวัน ดังเช่น ช่วงเช้าเปรียบเสมือนวัยเด็ก ที่ช่างร่าเริงสดใส ช่วงสายเปรียบเหมือนวัยแรกแย้ม ที่แจ่มจรัส สดชื่น ช่วงเที่ยงเปรียบเหมือนวัยทำงานที่ร้อนแรงแข่งขัน ช่วงบ่ายดั่งวัยกลางคนที่เริ่มลงตัวกับชีวิต ช่วงเย็นเปรียบเหมือนวัยเกษียณ ที่ลุ่มลึก สุขุม ช่วงค่ำเปรียบดังวัยชราที่ความเสื่อมโทรมมืดมน ช่วงดึกดังวัยสิ้นชีพ ที่มันช่างหนาวเหน็บและหดหู่ ซึ่งถ้านำมันเปรียบเทียบโดยใช้ปัญญาคิดอย่างแยบคายก็เปรียบได้ดั่งการเป็นไปของคนในแต่ละช่วงวัย นี่แหละคือความมหัศจรรย์ข้อแรกของเวลาที่ผมสนใจเ และที่น่าพิศวงกว่านั้นเวลาเป็นตัวที่กำหนดให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎโดยพลวัติ ไม่มีใครสามารถเร่งหรือยับยั้งได้
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้กฎของกาลเวลา ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโชคชะตาของผมมันเศร้าหมองไปเสียทุกเรื่อง ยังคงมีแต่เพื่อนๆที่คณะที่คอยประคองชีวิตส่วนตัวของผมและการเรียนของผมให้ผ่านมาได้ งานที่ส่งอาจารย์บางชิ้นผมไม่ได้ทำเองเพราะสภาพจิตใจผมมันแย่เกินไป ซึ่งเพื่อนๆก็ดูออก เพื่อนๆเลยจัดการทำให้ จนท้ายที่สุดวันปัจฉิมนิเทศก็มาถึง ในวันนั้นทางคณะได้ประกาศผลการเรียนของคนที่ได้เกียตินิยมของชั้นปี ซึ่งตัวผมเองก็แอบคาดหวังว่า ผมก็คงเป็นคนหนึ่งที่สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มาประดับบารมี แต่แล้วมันไม่เป็นไปตามนั้นเมื่อเกรดเทอมสุดท้ายของผมตกมาก จนทำให้เกรดเฉลี่ยผมร่วงลงมาอยู่ที่เกียรตินิยมอันดันสอง นับว่าเป็นความน่าเสียดายมาก ซึ่งสาเหตุหลักที่ผมประเมินได้นั้นก็คือ ความรักที่ไม่ลงตัว มันเล่นงานผม จนเรื่องเรียนผมเขวตามไปด้วย และครั้งนี้ก็คงเป็นดั่งเงาแห่งความร้ายกาจที่จะคอยติดตามผมไปทุกครั้งเมื่อผมดูใบปริญญาบัตร
แล้ววัยแห่งการเรียนก็อำลาผมไปพร้อมกับเพื่อนๆที่หายไปคนละทิศละทาง บ้างก็กลับบ้านเดิม บ้างก็ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลต้นสังกัด ในหาดใหญ่นี่ยังคงมีแต่ผมคนเดียวแล้ว ผมคิด โดยที่ลืมไปว่ายังมีคนรอผมอยู่อีกคน
ฮัลโหล หมอหรอลูก พ่อผมโทรมาหาผมในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาลที่ผมทำงาน
ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับพ่อ ผมถาม
เลิกงานหรือยัง ปลายสายพูดแทรกเสียงที่ดังรบกวน
ครับๆ กำลังจะกลับบ้านครับพ่อ
อืมๆ รีบมานะลูก พ่อพูดจบก็วางสายไป
ขณะที่ผมกลับมาบ้านนั้นผมแอบคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยว่า ทำไมพ่อจึงโทรมาหา และน้ำเสียงนั้นดูแปลก เหมือนมีอะไรสักอย่าง แต่เมื่อกลับมาบ้าน ผมก็ไม่ได้พบอะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิม ไม่มีของเซอร์ไพร์เหมือนที่คิดไว้ ไม่มีเรื่องร้ายใดๆเหมือนที่แอบคิดไว้เช่นกัน เอ้ แล้วพ่อโทรมาทำไม ผมนึก พลางเดินเข้าบ้าน จนสายตาผมมาสะดุดเข้าตรง ไอ้วิว
เอ้า มาแล้วๆ พ่อพูดพลาง เดินมาที่ผม
ครับพ่อ ผมเดินตามพ่อไป
หวัดดีบอส ไอ้วิวทักทายผม และพยายามทำสีหน้าให้สดใสที่สุด
อืม ไปไงมาไง เนี้ยะ ผมทักทายด้วยสีหน้าที่ดีใจสุดๆ
ก็ ……….ไม่ทันที่ไอ้วิวจะพูดอะไรออกมา พ่อผมก็พูดแทนทัน
วิวเขาจะหมั้นกับแตง สัปดาห์หน้าแล้ว พ่อพูดพลางปลื้มใจแทนมัน
หรอ คำนี้ออกจากปากผม โดยไม่ทันตั้งใจ ความร้อนอันแปลกประหลาดมันออกมาจากข้างในตัวผม จนแสดงออกมาในรูปของหยดเหงื่อ
อืม ยังไงนายก็ไปร่วมด้วยนะ ไอ้วิวพูดพลาง แต่ไม่สบตาผม
ได้ๆๆ ผมตกลงไปโดยในหัวตอนนั้น มันอื้ออึงไปหมด
เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนนะ ผมรีบเดินขึ้นห้องทันที
สิ้นเสียงประตูปิดลง คมของความริษยา ความปวดร้าว ความสับสน ความหึงหวง มันถาโถมเข้ามากรีดลงบนก้อนหัวใจผม ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนหยาดน้ำตาที่เหมือนไฟนั้นไหลลามลงมาแผดเผาหน้าผมที่แดงแล้วให้แดงขึ้นอีก เสียงสะอื้นออกมาจากในคอผม เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นช่วงๆ ตอนนี้ผมอยากลงไปกระชากคอเสื้อไอ้วิว แล้วถามมันตรงๆว่า
มึงจะทำร้ายกูไปถึงไหน
มึงแย่งผู้หญิงที่กูรักไปทำไม
มึงรู้มั๊ยว่ากูรักมึงใจจะขาด กูเจ็บพอแล้วที่มึงทำ
ข่าวการหมั้นของมึง เหมือนข่าววันตายของกู ไอ้สัส วิว
เสียงร้องอือ เล็ดลอดออกมาจากในคอผมอีกครั้ง จนผมต้องใช้มือทั้งสองปิดมันไว้ เกือบสิบนาทีที่ผมร้องไห้โดยไร้เสียง มันอึดอัดเจียนบ้า เมื่อผมเริ่มสงบลง พลันได้ยินเสียงแม่ผมเรียกให้ลงไปหา ผมได้แต่ขานรับ บอกว่าเดี๋ยวลงไป ในใจนั้นแอบหวังว่า ไอ้วิวคงกลับไปแล้ว
เท้าผมย่างก้าวลงไปพร้อมตาสองข้างที่บวมเบ่ง สิ้นบันไดขั้นสุดท้าย ผมเห็นทุกสายตา ไม่ว่า ไอ้วิว น้องแตง ลุงชีพ ป้าละม้าย พ่อ แม่ และชาย หญิงอีกสองคนคาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่น้องแตง นั่งกันเต็มห้องรับแขก มองมาทางผม
บอส แม่ผมเรียกอย่างกังวลปนสงสัย
ผมมองทุกคนที่นั่งกันอยู่ตรงนั้น และยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน แล้วเดินออกไปนอกบ้านโดยไปปรานีปราศรัยความรู้สึกใครทั้งสิ้น ผมขับรถออกไปไม่ถึงสองนาทีเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น และเป็นตามที่ผมคาดว่าแม่คงโทรมา ผมเลือกที่จะตัดสายทิ้งไป และปิดโทรศัพท์
คลื่นทะเลซัดเข้ามาโอบฝั่งเบาๆคล้ายกับอยากให้ชายฝั่งนี้ได้รับความละมุนที่มันมีให้ เสียงนกทะเลบางชนิดกลับมาที่ชายฝั่ง หญิงชายสองสามคู่ นั่งนอนหนุนตักกันที่สวนสาธารณะ ใกล้ๆสะพานตินณ์ ตอนนี้ฟ้าเริ่มค่ำลงแล้ว ตาผมจดจ้องไปที่ฟองคลื่น มองตามมันซัดย้อนขึ้นย้อนลง ปล่อยใจให้มันลอยไป แล้วผมก็อดแอบคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงที่มันทำผมแทบเสียคนไม่ได้ แต่ก่อนที่ผมจะร้องออกมาอีกครั้ง คำถามหนึ่งมันพลันผุดขึ้นมาเสียก่อนว่า ผมเสียใจเพราะอะไร แม้ผมจะไม่มีคำตอบให้คำถามในใจคำนี้ แต่มันก็เป็นคำถามที่ทำให้ผมได้สติขึ้นมา
คืนนั้นผมไม่กลับบ้าน ผมนอนค้างที่รีสอร์ทแถวเกาะยอ ก่อนนอนผมโทรบอกแม่ และเหมือนแม่ผมจะรับรู้ว่าผมช้ำใจเรื่องน้องแตง แม่เลยไม่ซักถามอะไรมาก แต่แท้จริงแล้วแม่ผมคงไม่รู้ว่าคนที่ทำให้ช้ำใจสุดๆนั้นคือ ไอ้วิว
สัปดาห์ก่อนการหมั้นของไอ้วิวนั้นผมอยู่ด้วยความร้อนรนโดยไม่มีเหตุผล ที่ที่ทำงานผมก็หงุดหงิดใส่คนไข้ จนดูน่าเกลียด เพื่อนๆ พี่ๆที่ทำงานก็เริ่มสงสัยมากขึ้นในเรื่องนิสัยผมที่เปลี่ยนไป แต่ผมเลือกที่จะไม่เล่าให้ใครฟังเพราะ มันไม่น่าภูมิใจอะไรเลยที่คู่เกย์ผมจะหมั้นกับหญิงที่ผมรักจริงๆ
เมื่อกลับมาบ้านผมก็พบพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ท่านทั้งสองก็เกษียณแล้ว ออกมาอยู่บ้านและทำงานที่คลินิกอย่างเต็มตัว บ่อยครั้งที่แม่ผมเล่าเรื่องไอ้วิวให้ฟังว่า ไอ้วิวจะเรียนต่อศัลยกรรม และวางแผนจะแต่งงานเมื่อน้องแตง จบปริญญาโท และอีกมากมาย ทุกๆครั้งที่แม่เล่าเรื่องนี้แม่ก็ชอบย้อนมาที่ครอบครัวเราว่า พักนี้เหงาๆ ถ้ามีหลานก็คงจะดี ผมได้ยินคำนี้ทีไรก็เหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก
แล้ววันที่ไอ้ววิวหมั้นกับน้องแตงก็มาถึง แต่เหมือนพระเจ้าจะยังรักผม ทางโรงพยาบาลได้มีคำสั่งด่วนให้ผมไปร่วมอบรมที่ภูเก็ตในวันนั้นพอดี ผมตอบรับทันทีโดยไม่ต้องสงสัย การได้มานอกพื้นที่บ้างก็สามารถช่วยบรรเทาภาวะเครียดได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ไม่ได้ช่วยให้ความเหงาผมหมดไปเสียทั้งสิ้น ยังคงแต่เวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาผมได้
หลังจากเลิกอบรมผมเดินกลับมาที่พักคนเดียว ปล่อยให้เพื่อนๆที่มาด้วยกันไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ก่อนขึ้นโรงแรมผมมีโอกาสได้คุยกับพนักงานโรงแรมคนหนึ่งซึ่ง ตอนแรกผมแค่อยากถามเรื่องที่เที่ยวกลางคืนว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง แต่คู่สนทนาผมดันเป็นเกย์เสียอีก การสนทนาครั้งนี้เลยได้ข้อสรุปว่า คืนนี้มีคนพาผมทัวร์เมืองภูเก็ตยามค่ำคืน แต่ในทีของคู่สนทนานั้นผมก็ตามทันว่าเขาต้องการอะไร แต่คนเราแกล้งโง่เสียบ้างก็ดีเหมือนกันใช่มั๊ยครับ
หลังจากซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปทั่วแล้ว ผมก็เลยพาน้องเขาไปนั่งกินข้าวเย็นกัน ดูไปๆน้องเขาก็น่ารักดี คิ้วเข้ม ตาคม แต่ดำไปหน่อยแค่นั้นเอง เสร็จจากมื้อเย็นผมก็ให้น้องเขามาส่งที่โรงแรม แล้วให้เงินเขาไปหนึ่งพันเพื่อเป็นสินน้ำใจ แต่น้องเขามีท่าทีสนใจผมมาก พยายามพูดเปิดโอกาสตลอด แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ และวันนี้ ผมนึก เพราะวันนี้มันเป็นวันที่ผมปวดร้าวที่สุดเมื่อคนรักผมหมั้นกัน
กฎใดๆก็ไม่สามารถสู้กฎของความสมดุล ทุกอย่างในมหาจักรวาลนี้มีความสมดุลอยู่เสมอๆ หากสิ่งใดที่อยู่ในความไม่เสถียร หรือทางศาสนาเรียกว่าทุกข์แล้วไซร้ มันจะมีพลังใดๆเข้ามาปรับให้เปลี่ยนแปลงไปเสมอ และพลังที่สำคัญอีกตัวนั่นคือเวลา เก้าเดือนที่ผมเริ่มทำงานและใช้ชีวิตแต่ที่โรงพยาบาล บ้าน ห้างสรรพสินค้า และสระว่ายน้ำ ในช่วงนี้ผมก็เหงาสุดๆ ทั้งที่มีคนเข้ามาหาผมตลอดทั้งชายและหญิง แต่นั้นก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกว่ารักใครได้เลย และอีกสี่เดือนหลังจากที่ไอ้วิวหมั้นกับน้องแตง ผมอยู่ด้วยความทุกข์ใจมาตลอด นับไปนับมาก็ปีพอดีที่ผมจบมา แต่เหมือนกับมันผ่านมาราวร้อยปีได้ แต่แล้ววันแห่งโชคก็เข้าข้างผม เมื่อพ่อซื้อรถยนต์คันใหม่ให้ผม และเงินที่ผมฝากไว้กับสลากออมสินก็ดันถูกรางวัล (ขอไม่บอกนะครับว่ารางวัลที่เท่าไหร่) จนทำให้ผมมีเงินพอที่จะฟุ่มเฟือยได้อย่างสบาย ช่วงนี้ผมกลายเป็นเสี่ยน้อยกระเป๋าหนักไปเลยทีเดียว คนเรานี้ก็แปลกนะครับในยามที่เราทุกข์ใจมักไม่มีใครเข้ามาร่วมทุกข์กับเราแต่เมื่อยามเราสุข มักจะมีเหตุปัจจัยชักนำให้มีคนเข้ามาหาเราเสมอๆ
วันนั้นผมจำได้ดีว่าเป็นวันจันทร์ ซึ่งโรงพยาบาลจะเต็มไปด้วยคนไข้ที่นัดมาทั้งสิ้น รวมไปถึงคนไข้ที่มีปัญหาช่องปากในวันเสาร์ อาทิตย์ที่รอหมอ ในวันจันทร์ โรงพยาบาลจึงไม่ต่างจากตลาดวุ่นวายสิ้นดี ผมลุยงานไปเกือบบ่ายสองจึงได้ทานข้าวเที่ยง ขณะที่กำลังออกจากห้องฟัน ผมพลันหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินจูงอาม่ามานั่งรอเรียกคิวตรวจ เราสองคนสบตากันเข้าอย่างจัง พลังงานไฟฟ้าที่ต่างศักย์กันมากเกิดขึ้นระหว่างเรา เล่นเอาหน้าแดงกันไปทั้งคู่ ผมรีบหลบตา และรักษาท่าทีไว้ แล้วเดินก้มหน้าลงไปทานข้าว ในใจก็ภาวนาให้กลับมาทันคิวนี้ บ่ายสองครึ่งผมแปรงฟันเสร็จรีบออกมาเดินด่อมๆมองๆ ทำทีว่ามาตรวจดูคนไข้ว่าเหลืออีกเยอะมั๊ย พี่พยาบาลห้องฟันคนสนิทจึง ทักขึ้นว่า
หมอบอส เสร็จคิว ลุงทอง ก็หมดแล้วจ้า เสียงใสๆของพี่เขาเล่นเอาผม หดหู่เลย ก็นั้นหมายความว่า ผมอดเจอไอ้หน้าขาวนั่น
ผมออกจากห้องฟันตอนบ่ายสาม รีบตามอาจารย์ไปราวน์ต่อที่หอผู้ป่วย ดันไปเจออาม่าคนนั้นในชุดคนไข้ ความหวังอันแรงกล้านั้นก็ประดังมาหาผมอีกครั้ง เพราะผมอาจได้เจอไอ้หน้าขาวญาติอาม่า อีกครั้ง แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิดเมื่อออกไปเห็นไอ้หน้าขาวนั่นยืนคุยโทรศัพท์อยู่ริมระเบียงข้างหอผู้ป่วย ผมได้ยินเสียงมันพูดว่า
อาม่านอนโรงพยาบาลอ่ะ ม่า หมอบอกว่า รากฟันอักเสบ และน้ำตาลในเลือดสูง โอกาสติดเชื้อมีมาก
ผมแกล้งเดินไปดูอาม่าทำทีว่ามา ตรวจอาการทั้งที่ ยังไม่ถึงคิวดูเลย แต่ก็กลัวเพื่อนหมอฟันที่เรียนต่อทางศัลยกรรมช่องปากจะแย่งเคสไปเสียก่อน ทันทีที่ผมเดินมาคุยกับอาม่า ไอ้หน้าขาวก็เดินมาร่วมฟังด้วย ผมเลยแกล้งถามอาการจากมันเสียเลย (แอบเหมาว่าอาม่าแก่แล้วอาจให้ข้อมูลไม่ครบด้วยความหลงๆลืมๆ) แล้วเราสองคนก็ได้คุยกัน ในชั่วโมงนั้นผมไม่รู้จะสรรหาคำใด ประโยคใดมาพูดเพื่อให้ผมกับมันได้คุยกันนอกเหนือจากเรื่องอาม่าบ้าง เพื่อที่จะให้เราได้รู้จักกัน จะรุกเลยก็เกรงว่าดูไม่ดี เพราะยังสวมวิญญาณวิชาชีพนี้อยู่ กลัวจะเสื่อมเสีย แต่ในใจลึกๆนี้ก็ไม่ไหวจะทนกับความเรียกร้องของใจ การคุยของผมกับไอ้หน้าขาว ดำเนินไปด้วยการหยั่งเชิงกัน แต่ผมก็เดาใจมันออกนะครับว่า มันก็คงอยากคุยกับผมให้มากกว่านั้นแต่ก็ไม่กล้าเหมือนกัน จนมีผู้หญิงคุ้นตาคนหนึ่งเดินมา
เอ้า คุณหมอบอส ผู้หญิงรุ่นแม่ผม ยกมือไหว้ผมก่อน
ผมรีบรับไหว้และทักทายตามประสาคนรู้จัก สวัสดีครับ คุณ สายหยุด
คุณสายหยุดเป็นเจ้าของศูนย์จำหน่ายรถยนต์ที่พ่อผมซื้อให้ ผมกับเธอได้มีโอกาสคุยกันหลายครั้ง เรื่องรถ นี้แหละครับ เพราะผมเองไม่มีความรู้เรื่องรถหรอก อาศัยถามเขา และคุณสายหยุดนี้ก็ดีเหลือเกินแนะนำทุกอย่างทั้งเรื่องการทำประกันนั้นนี่
มาเยี่ยมญาติหรอครับ ผมถามพอเป็นพิธี
ค่ะคุณหมอ คุณสายหยุดพูดพลางเดินมาโอบหลังอาม่า
ผมก็เลยมีคุณสายหยุดเป็นตัวประสานอีกคน ในการสนทนาระหว่างผมกับไอ้หน้าขาวนี่ เสร็จจากดูอาม่าแล้ว ผมเลยขอเวลานอกคุยเรื่องรถต่อกับคุณสายหยุด โดยมีไอ้หน้าขาวนั่งป้อนข้าวอาม่าข้างๆ แต่ก่อนที่ผมจะถามอะไร คุณสายหยุดกลับบอกว่าให้ลองปรึกษา เจ้ามดลูกชายแกดู ซึ่งตอนนี้รับทำหน้าที่ดูแลกิจการแทนแล้ว โดยมีคุณสายหยุดเป็นพี่เลี้ยง อิๆๆๆ งานนี้เสร็จโก๋ ครับ ก่อนกลับบ้านวันนั้นผมได้เบอร์ติดต่อเจ้ามด นี่เรียบร้อยครับ โชคดีจริงๆ
ทุกๆวันผมจะมาตรวจดูอาการ คนไข้ทันตกรรมทุกคนก่อนไปทำงานต่อที่ห้องฟัน และก็ไม่ลืมจะมาแวะเวียนหาอาม่า ในใจก็อดอยากเจอไอ้หน้าขาว หรือเจ้ามดนี่ไม่ได้หรอกครับ แต่พักหลังมันเริ่มหายๆ ไป จนอาม่าออกจากโรงพยาบาล จึงได้เจอมันอีกที แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันนอกเหนือจากเรื่องอาม่า
เมื่ออาม่าออกจากโรงพยาบาลไปนั่นหมายความว่าเจ้ามดจะไม่มาที่นี่อีก คราวนี้ผมก็อดเจอมัน ผมเริ่มใคร่ครวญไตร่ตรองหาวิธีจีบมัน อิๆๆ แล้วความบ้าบิ่นก็ทำให้ผมตัดสินใจกดเบอร์โทรหามัน เชื่อมั๊ยครับ นอกรอบตอนที่แม่มันไม่อยู่ไอ้นี่ใช่ย่อยเลย คารมคมคาย ฝ่ายเราเองก็ไม่เบา คราวนี้เห็นทีเซียนทั้งคู่มาเจอะกันเสียแล้ว การคุยกันตอนแรกๆ ก็เรื่องรถดีล่ะครับ ต่อมาเริ่มกลายเป็นเรื่องรักแล้ว
เกือบสัปดาห์ที่เราโทรคุยกัน จนกระทั่งวันอาทิตย์เจ้ามดก็หยุดงานผมก็หยุดงานเราเลยนัดไปนั่งกินสเต็กกันที่ร้านริมอ่างเก็บน้ำแก้มลิง เจ้ามดเป็นขับรถมารับผมเอง ตอนแรกที่เจอกันผมก็อายๆมันนะครับ แต่เมื่อได้คุยกันซึ่งๆหน้าจริงๆก็พบว่าเจ้านี่มันคารมดีเหลือเกิน สนิทกับคนง่ายมาก จนผมรู้สึกผ่อนคลายไม่เขิลอายเลย ที่ร้านสเต็กหลังจากมื้อเย็น เจ้ามดก็สั่งเบียร์มาดื่ม ผมเองก็เปรี้ยวปากมาหลายวันเลยบอกมันว่าไปนั่งลานเบียร์ ย่านใกล้ๆ มหาลัยดีกว่า บรรยากาศดี สาวเชียร์เบียร์น่ารัก เป็นอันว่าเราไปนั่งต่อลานเบียร์กัน
มันแปลกตาหรือไรผมไม่ทราบแต่ สาวเชียร์เบียร์ที่เข้ามาโต๊ะเราต่างแอบยิ้มมุมปากแปลกๆ ตอนแรกก็คิดว่าเขิลแบบสาวๆเขิลกัน แต่เมื่อสังเกตดีๆ แอบเห็นว่าสาวๆ เมาท์เรากัน เอ้ ………ผมชักไม่แน่ใจประวัติเจ้ามดนี่แล้วซิ แต่ผมก็ไม่สน ถึงอย่างไรก็คงไม่มีใครว่าเราไปได้หรอก เพราะเรามาที่โล่งแจ้งไม่ได้ไปแอบทำอะไรไม่ดีสักหน่อย เรานั่งดื่ม นั่งสูบไปสักพัก ผมจึงได้รู้ว่าเจ้ามดมันเป็นหุ้นส่วนที่นี่ด้วย คราวนี้เลยถึงบางอ้อครับ แหมน่าอายจังครับ ที่ชวนเจ้าของร้านมานั่งร้านตนเอง อิๆๆ
ท่ามบรรยากาศในตอนค่ำ เสียงเพลง เบาๆ เสียงคนคุยกันเฮฮา แสงไฟนวลตา ตัดกับแสงตะเกียงน้ำมัน ที่จุดไว้เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้น่านั่ง ผมแอบมองเจ้ามดเต็มๆ โดยที่ไม่กลัวเจ้าตัวรู้ เจ้านี้มัน ตาโต ปากนิดจมูกหน่อย หน้าขาวเนียนอย่างลูกคนมีเงิน ดูๆไปอาจเหมือนผู้หญิง แต่ที่ทำให้มันเข้มขึ้นมาได้ก็คือไรหนวดและจอน ที่แต่งไว้อย่างบรรจงรับกับทรงผมสกินเฮดอย่างเท์ หุ่นมันก็คล้ายๆกับหุ่นผมคือแน่น น่าฟัด เราต่างกันตรงที่มันขาวชมพู ส่วนผมผิวน้ำผึ้ง
มองอะไร เจ้ามด เอียงหน้าทำตาเจ้าเล่ห์อย่างจับพิรุจผมทัน
ป่าวโว้ย ผมหัวเราะ แหะๆๆ
ไปห้องน้ำก่อน ผมอายมัน มาก รีบจ้ำอ้าวไปห้องน้ำทันที ก่อนพูดจบ
เมื่อกลับมาที่โต๊ะเรานั่งคุยกันต่อครู่หนึ่งจึงลุกขึ้นออกจากร้านไป
ไปไหนต่อ เจ้ามดถามผม ซึ่งตอนนี้มันหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
ไปส่งที่บ้านเหอะ ไม่ไหวแล้ว มึนหัว ผมบอกมัน พลางนอนหลับตา


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP |
|
| boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน
Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
เจ้าบอสน้อย
Guest

1. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #0
 
29-Aug-12, 05:22 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เสียงเพลงในรถเล่นไปไม่ทันครึ่งเพลง เจ้ามดมันได้จอดรถ ตอนแรกผมเข้าใจว่าถึงบ้านแล้วจึงลืมตาขึ้น
บ้านอยู่ไหน เจ้ามดถามผม ผมอดอมยิ้มไม่ได้ในความตลกของเราสองคน
ยิ้มอะไร เจ้ามด ทำเสียงกวน
ป่าว ผมอมยิ้มต่อ
ยิ้มอารายยยยยย
ไม่ได้ยิ้ม คราวนี้ผมหัวเราะออกมา จนเจ้ามด มันใช้สองมือกระชากคอเสื้อผมทำทีเป็นหาเรื่อง
อ่ะๆๆๆ ผมหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม
อืมได้ๆๆ ไม่ยอมบอกใช่ม่ะ
ฟอดดดดดดดดดด เจ้ามดหอมแก้มผมโดยไม่ทันตั้งตัว
เง้ยยยยยย ผมทำหน้าแปลกใจให้กับความกล้าของมัน
เราสองคนนั่งสบตากันครู่ใหญ่โดยไม่พูดอะไร แต่มือเราทั้งสองคนต่างลูบไล้บนหน้าท้องที่แข็งแกร่งของกันและกัน แต่ก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไป บนถนนที่คับคั่งไปด้วยรถ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ของมดเอง เจ้ามดบอกผม
เจ้ามดคุยกับปลายด้วยด้วยท่าทีเป็นกังวลเหมือนกลัวผมจะเข้าใจผิด ซึ่งตอนนั้นผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน เพราะผมแอบได้ยินปลายสายคุยในน้ำเสียงคล้ายๆเป็นแฟนกัน
เดี๋ยวไปส่งที่คลินิกใกล้ๆ สนามกีฬาก็ได้มด ผมบอก โดยพยายามรักษาอาการให้ดูนิ่งที่สุด เจ้ามดวางสายโทรศัพท์พลางหันมาถามผมว่า
บอส มีแฟนยัง
ผมนั่งถูมือ ไม่พูดอะไร จนรถจอดที่หน้าบ้าน
เราทักทายลากันแล้วผมก็เดินเข้าบ้านไป เมื่อขึ้นถึงบนห้องผมเห็นรถเจ้ามด ยังคงจอดอยู่หน้าบ้านผม ตอนแรกก็คิดว่ามันคงธุระอะไรในรถต่อ เดี๋ยวคงไปเอง ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ก็อดที่ชะเง้อออกมมาดูรถเจ้ามดไม่ได้ คราวนี้รถมันหายไปแล้วครับ คืนนั้นผมคิดแต่เรื่องเจ้ามด ว่าจะเอากับมันยังไงดีนะ จะจีบต่อ หรือจะหยุดไว้แค่เพื่อน แล้วเจ้ามดมันหอมแก้มเรา หมายความว่าไง แล้วคนที่โทรมานั้นคือใคร ผมคิดวนไปเวียนมาจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ สัปดาห์ต่อมาผมกับเจ้ามดก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันหรอกครับ ได้แต่คุยโทรศัพท์กัน ซึ่งบางครั้งที่โทรไปเจ้ามดก็ไม่รับสาย ผมจึงแอบตัดใจว่า คงเป็นไปไม่ได้ คงจบแค่นี้ สัปดาห์ต่อมาจากนั้น เราสองคนก็ไม่ได้โทรคุยกันอีกเลย ผมเองก็เริ่มชินๆเฉยๆ ทำแต่งานอย่างเดียว ไม่ได้คิดอะไร
แต่จนแล้วจนรอด เย็นวันหนึ่งเจ้ามดมันโทรมาหาผม เล่นเอาผมมือไม้สั่น มันบอกว่าอยากเจอผม อยากปรึกษาเรื่องส่วนตัวหน่อย เจ้ากรรมจริงๆ ครับวันนั้นผมต้องอยู่เวรไม่สามารถไปหามันได้ เจ้ามดเองก็รับรู้ด้วยเสียงที่เศร้าสร้อย จากนั้นเจ้ามดก็ไม่โทรมาหาผมอีก ตัวผมเองก็ไม่กล้าโทรไปหามันเพราะกลัวแฟนมันรับสาย เอ้ออออออ
ท่ามกลางความกลัวๆกล้าๆ ที่จะเริ่มกับคนใหม่ ซึ่งเป็นคนเจ้าคารมและมีรอยยิ้มที่เย้ายวนอย่างเจ้ามดนั้น เจ้ากรรมนายเวรผมก็ตามทันอีกครั้ง เมื่อไอ้วิวหวนคืนมาอีกครั้ง คืนนั้นผมเข้านอนแล้วประมาณสี่ทุ่มไอ้วิวโทรมาหาผมบอกอยากคุยด้วยให้ออกมาเจอที่หอมันหน่อย ผมก็บ่ายเบี่ยงไม่อยากไปเจอมัน ด้วยเพราะเพิ่งทำใจได้ แต่ไอ้วิวก็ยังไม่เลิกความตั้งใจยังคงส่งข้อความมาหาในเชิงขอร้อง ตอนแรกผมอยากเอาหลักฐานนี้ให้น้องแตงดู แต่คิดไปคิดมา มันมีแต่เสียกับเสีย เลยเลิกคิดซะ แล้วขับรถออกไปหาไอ้วิว
ที่ห้องไอ้วิว ผมได้กลิ่นอโรมา น่าจะเป็นกลิ่นกล้วยไม้ แสงไฟที่โต๊ะเครื่องแป้งเปิดสว่างนวลตาเพียงดวงเดียว ไอ้วิว เดินนำหน้าผมเข้าไปในห้อง ผมมองจากข้างหลัง ผมเห็นผมมัน คอมัน แผ่นหลังในเสื้อกล้าม ต้นขาและขาอันขาวเนียนและแข็งแรงของมัน อดใจสั่นไม่ได้ เหมือนมีอะไรชื้นๆที่ดวงตา แต่ผมรีบปาดมันออกทันทีแล้วกลืนความรู้สึกนั้นลงไป
มีอะไรหรือเปล่า วิว ผมแกล้งทำเสียงให้มันรับรู้ว่าผมง่วงนอน
พรุ่งนี้ไปทำงานกี่โมง ไอ้วิวถามพลาง จัดข้าวของบนโซฟาให้ผมนั่ง
ไปอยู่เวรตอนสี่โมงเย็นอ่ะ
นายอ่ะ วิว
ว่าง พรุ่งนี้
อืมๆ ผมพยักหน้า
…………………เราเงียบไปสักพัก ไอ้วิวเดินไปรูดม่านหน้าต่าง แล้วหันมาบอกผมว่า คืนนี้นอนที่นี่นะ
ผมได้ยินมันพูดใจสั่นขึ้นมาอย่างจะทะลุออกมาทางอก ผมอยากจะห้ามใจตัวเองว่า ไม่ควรรับปากมัน เพราะมันมีคู่หมั้นแล้ว เราไม่ควรที่จะมาสานสัมพันธ์บ้าบอนี่อีก แต่นั้นก็สายไปเมื่อไอ้วิว เดินมานั่งคุกเข่าบนโซฟาใกล้ๆตัวผม พลางบรรจงจับแก้มผมสองข้างให้นิ่งๆ แล้วก็ใช้ริมฝีฝากมันเน้นลงบนริมฝีปากผม ผมไม่ตอบสนองมัน ผมพยายามบ่ายหน้าหนี แต่มันก็ฝืนแรงไว้ แล้วจัดการเลียริมฝีปากผม แล้วลามเลียลงมาที่คางผม มือพลางลูบไหล่ผม อาจู๋เจ้ากรรมผมเองดันตุงไปชนหน้าขาไอ้วิว ซึ่งไอ้วิวเองก็รับรู้ได้โดยปริยายว่าผมพร้อมแล้ว
บนที่นอนอันอ่อนนุ่ม ร่างกายเราสองคนต่างกระแทกกันอย่างจัง ก้นนิ่มๆของไอ้วิวกระแทกหน้าขาผมเป็นจังหวะ ความรู้สึกว่าฟิตและดูดมาก มันแทบให้ผมตัวลอยและร้องครางออกมาอย่างเกินห้ามใจ แต่ก่อนที่ผมจะถึงฝั่ง ไอ้วิวก็พยายามดึงอาจู๋ผมออก แล้วจัดการเสียบทางหลังผมกลับ
โอ้ย เจ็บนะวิว ผมร้อง
นา นิดเดียว
ไอ้วิวเอาคืนผมอย่างอดอยากมานาน ขณะที่ผมรอคอยให้ไอ้วิวเสร็จแล้วกะเอาคืนนั้น ความเสียวเกินทนมันทำให้ผมต้องเสียน้ำออกมาเปื้อนหน้าท้องผม แล้วไม่นานผมสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่เปียกเลอะอยู่ในร่างกายผม เรานอนกอดกันครู่หนึ่ง หลังจากที่ราคะอารมณ์ได้หมดไป ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มคืนมา ผมรู้สึกแย่มาก ไม่น่าปล่อยกายปล่อยใจเลย ไอ้วิวเองหลังจากล้างตัวแล้วก็นั่งหน้ากระจกไม่ลุกไปไหน บรรยากาศในห้องอึมครึมอีกครั้ง ผมไม่ชอบแบบนี้เลยจึงยอมเดินฝ่าความอดสูนี้ ออกจากห้องไอ้วิว ในหัวตอนนั้นคิดแต่อยากกลับบ้านอย่างเดียว เมื่อลงมาถึงที่จอดรถ ผมได้ยินเสียงไอ้วิวเรียกเบาๆ แต่ผมก็แสร้งไม่ได้ยิน แล้วก็ขับรถออกไป
เสียงข้อความจากมือถือดังขึ้น ผมเปิดออกดู
“ ความรักกับหน้าที่มันต่างกัน ถ้าเข้าใจตรงนี้เราสองคนก็คงไปได้สวย “
ชิ ผมคิด หน้าที่บ้าอะไร หน้าที่ที่มึงมาทำให้กูเสียคนดิ ผมคิดขึ้นมาแล้วนึกอยากร้องไห้ออกมาให้กับความโง่ของตัวเอง เมื่อนึกทบทวนตั้งแต่ที่ไอ้วิว เข้ามา หลายครั้งที่เลิกกันแล้วคืนดีกัน จนครั้งนี้อีก ผมคิดว่าการตัดสินใจของผมครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า
ผมจะไม่มีวันรักไอ้วิวอีกต่อไป
หลายวันผ่านไป ทั้งไอ้วิว และเจ้ามด ไม่ได้ติดต่อผมเลย ใจหนึ่งก็คิดถึงแต่อีกใจก็เข็ดขยาดในความรัก อย่ามีมันเลยถ้ามันมีแล้วทุกข์ใจ แนวคิดอันนี้ผมอ่านเจอจากหนังสืออิงธรรมะเล่มหนึ่ง ซึ่งเขียนไว้ว่า คู่รักใดที่รักแล้วรู้สึกว่าร้อนรน หรือเรียกง่ายๆว่า รู้สึกสุขแบบทุกข์ๆ คู่นั้นแหละคือคู่กรรม ข้อความนี้เมื่อผมได้อ่าน มันช่างซึบซับเข้าไปในจิตส่วนลึกเสียจริงๆ ผมจึงได้แนวคิดอย่างหนึ่งว่า ต่อไปนี้ ผมคงต้อง ปรับวิธีการรัก โดย อย่าไปหวังอะไรกับมันมาก มันมาอย่างไรก็เล่นไปตามนั้น ไม่หลอกใคร และไม่ให้ใครหลอก ปลงงงงงงง
เย็นวันหยุด วันหนึ่งหลังจากที่ผมออกจากห้องอาบน้ำที่สระว่ายน้ำผมมีโอกาสได้คุยกับเด็ก ม ปลายคนหนึ่ง น้องเขาชื่อหน่อง น่ารักดี ครับ ตัวขาวๆ แน่นๆ สูงเกือบๆเท่าๆผม ตอนแรกน้องเขาก็มองผมอยู่หลายวันแล้วแต่ผมไม่ได้สนใจอะไร จนวันนี้ผมนึกอยากสนุกขึ้นมา จึงเป็นฝ่ายเดินไปเป็นฝ่ายรุกเอง ตอนแรกน้องเขาก็เขิลนะครับตามประสาเด็ก ถามอะไรไม่ยอมตอบได้แต่พยักหน้า จนผมคิดว่าคงอดแล้วมั้ง จนคำถามหนึ่งที่น้องเขาต้องตอบคือ เรียนอยู่ที่ไหน ผมถาม แต่เมื่อน้องเขาตอบ ผมต้องหมดอารมณ์เลยครับ เพราะฟังจากเสียงสาวมาก สาวจนผมรับไม่ได้ ผมเดาได้เลยว่าเด็กนี่คือเซเลอมูนที่แปลงร่างมาเป็นผู้ชาย อิๆๆ ผมเลยปล่อยน้องเขาไป ไปแอบแมนมาใหม่นะครับแล้วค่อยเจอกัน
ขณะที่ผมขับรถออกจากสระว่ายน้ำ เจ้ามดก็โทรมาหาผม ในรอบเกือบเดือนที่หายไป
ว่าง ว่าไง มด
งั้นมาเจอเราที่ร้านกาแฟหน่อยดิ
ได้ๆ อีกสิบนาทีถึงนะ ผมบอกมันแล้ววางสาย
ที่ร้านกาแฟนั้น มีแต่คนวัยทำงานมานั่ง บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บางก็มาเป็นคู่ ผมเดินๆมองหาหนุ่มหน้าขาว หัวสกินเฮด มองไปซ้ายที ขวาที ไม่นาก็เจอ
มานานยัง ผมตบไหล่มัน เชิงบอกให้รู้ว่า กูมาในรูปแบบเพื่อนนะโว้ย
สักพักๆ มันตอบ
ไง หายหัวไปเลย ผมถาม
เจ้ามดมันเล่าให้ผมฟังว่า ที่มันหายไปนั้น มันไปงานแต่งแฟนเก่ามันที่แต่งงานที่กรุงเทพ เรื่องราวความรักของเจ้ามดที่มันเจอมานั้นคล้ายกับเรื่องที่เกิดกับผมมาก อาจต่างกันที่คนที่มาแย่งแฟนมันนั้น ไม่ได้เป็นคู่เกย์มัน แต่เป็นเพื่อนสมัยเรียนที่ กรุงเทพ ทีนี้เมื่อผมได้ฟังเรื่องเจ้ามดทั้งหมด ผมเลยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาลึกๆ อาจเพราะไม่ใช่เราคนเดียวแล้วที่เจอเรื่องแบบนี้ และที่สำคัญตอนนี้เจ้ามดมันโสด ครับ
เมื่อเจ้ามดเล่าจบผมอยากจะแชร์เรื่องชีวิตส่วนตัวกับมันบ้าง แต่คิดอีกที อย่าเลยดีกว่า เดี๋ยวเจ้ามดจะระหองระแหงใจ แทนที่จะได้เป็นแฟนกัน อาจอดก็ได้ คิดได้ดังนี้แล้วผมเลย อุบไว้ก่อน เรานั่งคุยกัน จนเกือบห้าทุ่มจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
หลังจากนั้น เจ้ามดก็โทรมาหาผมทุกวัน จนพักหลังผมเริ่มชินที่จะเอามือถืออกมาดูเมื่อมันไม่โทรมา ตามเวลาที่เคยโทร เมื่อโทรไปมันก็รับสาย ทุกครั้ง บางครั้งก็ให้เหตุผลว่าตอนนั้นรับลูกค้าอยู่ ผมก็เข้าใจมัน วัยทำงานนั้น อาจมีเรื่องอื่นที่ด่วนกว่าเรื่องส่วนตัวเสมอ ใครที่มีแฟนในวัยทำงานก็อาจเข้าใจดีนะครับ
เราสองคนสนิทกันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ความผูกพันกับเจ้ามดมันแนบแน่นและลึกซึ้งเสียเหลือเกิน เราคบกันมาจนรู้ใจกันเกือบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินที่เจ้ามดชอบอาหารญี่ปุ่น เรื่องเจ้ามดแพ้ยา amoxy เจ้ามดชอบนอนกรนและละเมอบ่อยๆ แต่เราสองคนก็ไม่เคยที่จะมีเซ็กส์กันสักครั้ง ไม่รู้ทำไม ถามว่าในใจผมคิดมั๊ยก็คิดนะครับ อยากจะชวนมัน แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้า ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนกัน หรืออาจเพราะผมไม่รู้ว่าเจ้ามดมันชอบแบบไหนมั้ง หรือเราโตเลยจุดนั้นมาแล้ว ไม่รู้สิ
ช่วงสิ้นปี ผมหยุดยาวที่บ้านผมตั้งใจจะไปเที่ยวภาคเหนือกัน แต่แล้ว ก็ต้องยกเลิกแผนเพราะ พ่อกับแม่ต้องไปร่วมงานแต่งของญาติที่ชุมพร ผมขี้เกียจนั่งรถไปด้วยจึงขออยู่เฝ้าบ้าน ในค่ำคืนของวันใกล้สิ้นปี ที่หาดใหญ่อากาศจะค่อนข้างโปร่งเย็นสบาย แสงไฟที่ประดับประดาในเมืองก็ดูแล้วละลานตาดีครับ ผมเลยชวนเจ้ามดไปเดินชมงานโคมไฟนานาชาติ ที่สวนสาธารณะเมืองหาดใหญ่ โคมไฟที่จัดไปนั้นมีหลากหลายมากเลยครับ ทั้งรูปสัตว์ ดอกไม้ ผลไม้ เราเดินกันทั่ว แล้วจึงหยุดนั่งคุยกันใกล้ๆ โคมไฟรูปสิงโต
เหนื่อยแล้วสิ หัวล้าน ผมล้อเจ้ามด
เจ้ามดหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
มันเหนื่อยๆ ผมพูดเสียงเนื่อยๆ พลางยิ้มเย้ย
อึดเฟ้ย เจ้ามด ทุบหน้าอก
จิงอ่ะ
จิงดิ เจ้ามดตอบทันที
งั้นเดินต่อ ผมบอก
เดี๋ยว เมื่อยขา เจ้ามดพูดพลางบีบนวดน่องอันแข็งแกร่งของมัน
อ่ะๆๆๆ ผมหัวเราะเสียงดัง
เจ้ามดตบกะโหลกผมแล้วลุกเดินนำหน้าไปที่รถ ผมวิ่งตามมันไป พลางทำสีหน้าล้อเลียนมัน ผู้คนที่เพิ่งมาเดินสวนเราเข้าไปในงาน เสียงเพลงดังแข่งกับเสียงจอแจของคนที่มาเดินในงาน ดูแล้วรื่นรมย์ดี ในรถเจ้ามดมองหน้าผม ผมสบตามันเป็นเชิงคำถาม
ไม่มีอะไร เจ้ามดตอบ แล้วมันก็ออกรถ
ไปไหน ผมถามมัน
ไปลีลารีสอร์ท
ที่อำเภอเทพา เนี๊ยะนะ
อืม เจ้ามดพยักหน้ารับ
จะบ้าหรอ นี่มันสองทุ่มแล้วนะ
ก็นั้นไงเลยพาไป
กินข้าวก่อน ถ้าจะไป ผมตามใจมัน
ซื้อที่เซเว่น แล้วเอาไปกินที่โน้น
ในเซเว่นเจ้ามดหยิบทั้งโค้ก เบียร์ ขนม ข้าวอีซี่โก และที่ผมอดแปลกใจคือถุงยาง ผมมองหน้ามันด้วยความสงสัยแต่ใจในก็แอบรู้ว่าซื้อทำไม แต่อารมณ์อยากให้มันเขิล เลยแกล้งถามมัน แต่กลับได้หน้าตากวนส้นตีนกลับมาแทน
เออ ๆๆๆ มันกวนตีนๆ ผมพูดทำเสียงแบบนักเลง พลางเดินตามมันออกมาก
ที่ลีลารีสอร์ท อากาศดีมาก เสียงคลื่นทะเล ซัดมาหาฝั่งเบาๆ เราเลือกห้องที่ใกล้ทะเลที่สุด เพื่อนอนฟังเสียงคลื่นกัน รีสอร์ทข้างๆเรามีกลุ่มคนมาพักกันเกือบยี่สิบคน จึงไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เราสองคนถอดเสื้อออกแล้วเดินลงไปเล่นน้ำทะเลกัน เจ้ามดเดินลงไปในทะเล ใช้อกมันโต้กับคลื่นที่ซัดมาอย่างจัง จนมันหงายหลัง ผมยืนที่ฝั่ง หัวเราะมันจนท้องแข็ง เจ้ามดขึ้นมาที่ฝั่งเพื่อจะมาบีบคอแก้แค้นผม แต่ก่อนที่เราจะฟัดกันไปมา ในตอนนั้น ก็มีเด็กน้อยสองคนลงมาเล่นน้ำด้วย เราเลยหยุดพฤติกรรมที่ เด็กๆอาจดูเป็นเยี่ยงอย่างไม่ได้ อิๆๆ เดี๋ยวเด็กจะงง
เอ้ย คันๆๆๆ เจ้ามด เกาตัวจนแดง หลังเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ ผมนอนดูทีวีอยู่ก็บอกมันว่ารู้ว่าแพ้ง่ายแล้ว ยังจะลงทะเลอีก
กินเบียร์ม่ะ จะได้หาย ผมยื่นให้มัน พลันเห็นเจ้ามดเอาผ้าเช็ดตัวสีร่องตูดมัน ผมเห็นแผ่นหลังที่ขาวเนียน มีรอยผื่นคันบางจุด แก้มก้นขาวเนียน ที่มีรอยเกาเป็นนิ้วๆ ไรขนที่ร่องก้นถูกสีกับผ้าขนหนูไปมา


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

2. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #1
 
29-Aug-12, 05:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   วางไว้ก่อน เจ้ามดหันมาบอกผม พลางยิ้มมุมปาก
ผมกลืนน้ำลายลงคอ อาจู๋ผมโด่ออกมาอย่างเปิดเผย มันแทรกผ้าขนหนูผืนที่นุ่งออกมาโชว์หัวที่บานและแดงอมม่วง
อะไร เจ้ามดถามพลางมองอาจู๋ผม
……………
ใหญ่ว่ะ เจ้ามดพูดพลางเดินมาเปิดผ้าขนหนูผม ดูอาวุธอันยักษ์ของผม
เจ้ามดในสภาพเปลือยเปล่าที่ยืนจังก้าต่อหน้าผมโชว์หุ่นที่ฟิตแน่น หัวนมชมพู ไรขนหน้าท้องเป็นทางยาวลงมา ที่เนินหัวหน่าว ร่วมกลุ่มกันเป็นหย่อมที่ดกดื่น พันกันไปมา อาจู๋เจ้ามดไม่ตำกว่าเจ็ดนิ้ว ยื่นตรงมาที่แก้มผม หัวมันบานมาก สีม่วงก่ำ
ขลิบด้วยหรอ
อืม ตอนเด็กเลย
ขอจับเล่นหน่อย ผมพูดพลางยื่นมือไปจับ
เอ้ยๆๆ ไม่ใช่ของเล่น เจ้ามดหวงผงะตัวหนีทำที เป็นวิ่ง
ผมยิ้มแล้ววิ่งตามมัน เราฟัดกันไปมาบนที่นอน จากอารมณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกาม ตอนนี้กลับกลายไปเป็นสงครามหมอน
เอ้ยๆ ๆพอแล้ว หิวข้าว ผมบอกเจ้ามด
คืนนั้นเป็นคืนข้างคืน ดวงจันทร์เต็มดวงส่องสว่างจ้าทาบทาผืนฟ้าอันปลอดโปร่ง ลมทะเลพัดคลอเคลียใบสน ส่องเสียงดังหวีดหวิวชวนใจหาย แสงไฟวะวาบวับ ที่ห้องพักข้างๆก่อขึ้นเพื่อปิ้งอาหาร ส่งควันฟุ้งลอยไปมาตามแรงลมทะเล หลังจากกินข้าวกันแล้ว เราสองคนนั่งซดเบียร์กระป๋องจนหมด ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหน้าตึงๆ ส่วนเจ้ามด หน้าแดง รู้ได้เลยว่ามันเมาอย่างไม่ต้องสงสัย
มด มีแฟนยัง ผมถามมัน ขณะเดินบนทรายอ่อนนุ่มด้วยเท้าเปล่า
เอ้ย ระวัง หอย เจ้ามดดึงตัวผม ให้หยุด
หอยใคร ผมมองไปรอบๆ อย่างเด็กๆ
หอยทะเลโว้ย เจ้ามดยิ้มกริ่มหัวเราะผม
อ่อๆๆ ก็บอกดิว่าระวังเปลือกหอย ผมอายมัน เลยเดินก้มหน้า
……………….
……………………….
……………………………….
เราเดินเงียบกันไปนาน ปล่อยให้อารมณ์ ชิลๆ เลื่อนไหลไปตามคลื่นทะเล
นั่งก่อน ผมดึงตัวเจ้ามด นั่งบนขอนไม้สน ลับตาจากผู้คน
บอสมีแฟนยัง เจ้ามด ถามผม เกี่ยวกับเรื่องความรักเป็นครั้งแรก
เลิกไปแล้ว ครับ
มด ก็เลิกไปแล้ว เหมือนกัน
ถ้าบอสจะเป็นแฟนมด ได้ม่ะ ผมพลางเอาเท้าเขี่ยๆ พื้นทราย ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวกับคำตอบที่จะได้รับ แต่จะยังไงมันก็ทำให้ผมได้มั่นใจกับคำตอบนั้น
…………………………………………….
เจ้ามดไม่พูดอะไร เพียงลุกเดินนำหน้าผม ไปทางรีสอร์ทที่พัก ทันทีที่เจ้ามดลุกเดินออกไปนั้น เหงื่อไม่รู้มาจากไหนทั้งที่อากาศริมทะเลก็แสนจะโปร่ง ในหัวผมมันมีแต่ ความมึนงง และความโคลงเคลงคล้ายจะเป็นผม ผมไม่ได้เดินตามเจ้ามดกลับรีสอร์ท แต่ผมเลือกที่จะนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในอดีต และปัจจุบัน แล้วถามตัวเองว่าผมพร้อมที่จะมีรักใหม่หรือยัง แต่ก่อนที่ผมจะได้คำตอบ โทรศัพท์ผมดังขึ้น ตอนแรกก็นึกว่าเป็นสายของเจ้ามด
ครับแม่
อ่อ อยู่ทะเลแม่
มากับเพื่อนครับ
ครับๆๆ
กินแล้วแม่
ครับๆๆ ฝันดีนะแม่
ครับ
ทันทีที่ผมวางสาย ก็มีสายเรียกซ้อนขึ้นมา มันเป็นเบอร์ของไอ้วิว
อยู่ทะเล
อยู่กับใคร ไอ้วิวถาม ในน้ำเสียงสั่น
อยู่กับ กับ คนเดียว ผมเลิกจะโกหกมัน
ที่ไหน ไอ้วิว ถาม น้ำเสียงสั่นยิ่งขึ้น
ไม่ต้องมาหรอก แค่นี้แหละ จะนอนแล้ว
ผมกดวางสายไอ้วิว หยาดน้ำตามันรื้อๆ มาที่ดวงตาผมอีกแล้ว ทำไมผมทำใจไม่ได้สักทีนะ ทั้งที่มันทำผมเจ็บมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว ตอนนี้ผมเริ่มสับสนอีกแล้ว ผมจะทำยังไงดี กับคนสองคน คนหนึ่งทั้งรักทั้งเกลียด อีกคนก็เริ่มจะรักแต่ก็ไม่มั่นใจนัก ผมจะเดินไปทางไหนดี
บอส เสียงเจ้ามดมาเรียกผม
อืม
กลับห้องได้แล้ว
เออๆ เดี๋ยวไปๆ ผมตอบรับเจ้ามด พลางกำมือถือไว้แน่น
เอ้ยยยยยยยยยยยยย ผมตะโกนออกมาด้วยความขัดใจ แล้วก็ลุกเดินอ้าวๆ ไปที่ห้อง
หลังจากที่ผมล้างเท้าเสร็จ ก็เดินมานอนบนที่นอนที่ตอนนี้มีเจ้ามด นอนห่มผ้าอยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่ผมเปิดผ้าห่ม ผมก็เห็นทุกอย่างของเจ้ามดที่ เปลือยเปล่า ขนหน้าท้องมันดกดำลงไปทุกที เมื่อใกล้หัวหน่าว อาจู๋ขนาดเกือบข้อมือ นอนขดอยู่อย่างน่าเกรงขาม สายตาผมมองมาบนแผ่นอกอันแน่น ดวงหน้าขาวเนียนที่ตอนนี้มีรอบผดเล็กๆ บนหน้าประปราย ทรงผมสั้น กับหนวดและจอนที่แต่งไว้อย่างดี เล่นเอาผมใจสั่นได้ไม่น้อย
บอส เคยฟังเพลงคนของเธอ ของแมว จิรศักดิ์ม่ะ
อืม เคย ผมพยักหน้ารับ แต่สีหน้าผมก็ฟ้องถึงความผิดหวังจากเมื่อครู่ได้ดี
ชอบมันม่ะ
ก็ฟังได้นี่ มดถามทำไม
ป่าว แค่อยากร้องให้ฟัง
ได้ เอาสิ
แล้วเจ้ามด ก็ลุกขึ้นไปปิดไฟ แล้วเปิดไฟหัวเตียง เพิ่มความเย็นของแอร์ในห้อง แล้วมันก็เริ่มร้องเพลง คนของเธอให้ผมฟัง
……ไม่ต้องบอกฉันถึงวันที่เลยผ่าน ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง ถ้าเผื่อฉันเผลอ บังเอิญฉันถามเธอไป เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย และฉันคนนี้ก็มีที่พลาดผิด ใช่ว่าชีวิตจะดีจะงามสักเท่าไหร่ ไม่อยากให้ถาม มันไม่น่ารู้เท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นของเรา …………….ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมา ขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไร ต่อจากนี้ไปฉันจะอยู่ดูแลเธอด้วยคำว่ารักด้วยใจ………….
ไม่ทันที่เจ้ามดจะทันร้องเพลงจบ ผมก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกว่าชีวิตนี้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง คำว่ารักจากเจ้ามดอาจไม่ได้ออกมาจากคำพูดที่เสกสรร แต่จากเพลงที่มันร้องให้ผมฟังก็เพียงพอที่จะทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกมันแล้วทุกอย่าง เจ้ามดคงไม่ทันสังเกตว่าที่ดวงตาผมทั้งสองข้างตอนนี้ มีน้ำตาไหลพรากออกมาแล้ว มันเป็นน้ำตาที่ข้างหนึ่งไหลออกมาเพื่อเจ้ามด ที่ตอบรับรักผม และอีกข้างมันไหลให้กับคน ชื่อ วิว
ทันทีที่เพลงจบเจ้ามดก็เดินเข้าห้องน้ำ เสียงเปิดน้ำไหลจากอ่างล้างหน้า ดังประมาณเกือบสิบนาที ในระหว่างนั้นผมเองก็นอนน้ำตาไหลตลอด เมื่อเจ้ามดออกมา ก็พบว่า ตาสองข้างของเจ้ามด แดงก่ำ
บอส ลุกขึ้นมานี่ดิ เจ้ามดสั่งให้ผมเดินมาที่มัน
กอด มด สิ มันพูดพลางอ้าแขนออก
ผมสวมกอดเจ้ามด ทันทีที่มันอ้าแขนออก
สัญญาสิบอส ว่าจะรักมด และจะไม่ถามถึงวันก่อนว่ามดเป็นใคร มาจากไหนยังไง
ผมจูบซอกคอและกกหูมัน แล้วพูดด้วยเสียงอู้อี้เพราะร้องไห้เพิ่งเสร็จ
บอส สัญญา ครับมด
มดก็จะรักบอส นะ มดจะอยู่ข้างบอสตลอดไป คำสัญญาออกจากปากเจ้ามดโดยที่ไม่ต้องรอให้ผมทวง
เราสองคนยืนกอดกันสักพัก เมื่ออารมณ์ที่ถึงขีดสุดนั้นเริ่มลงมา เราก็พากันมานั่งมองตากันท่ามกลางแสงโคมไฟนวลตา
ทำไม ตาบอส มันบาดใจมดจัง โอ้ยไม่รู้จะเรียกว่าไง นอกจาก คำว่าไอ้หน้าหยก เอ้ย เจ้ามดพูดพลางลูบใบหน้าผม
จากนั้นเจ้ามดก็เริ่มที่จะจูบหน้าผาก แล้วลามเลียลงมาที่ริมฝีปากผม เราสองคนนวดเฟ้นริมฝีปากกัน ลิ้นแลกลิ้น เรารุกเราถอยกันคนละที มือเราสองคนต่างลูบส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่ออารมณ์แห่งกามได้ประทุขึ้นเต็มที่ ผมเลยจับหน้าเจ้ามดตรึงไว้กับที่ แล้วฉายแววตาที่เปรียบดั่งเสือร้ายผ่านไฟแสงนวล เจ้ามดหรี่ตาลงไม่ได้หลบสายตานั้น กลับส่งเสียงในคอ อย่างไม่กลัวเกรง ผมจับเจ้ามดฟัดลงบนที่นอน แล้วจัดการดูดนมเจ้ามด ส่วนมือนั้นก็จับอาจู๋เจ้ามดชักขึ้นชักลง แต่ด้วยความที่มันขลิบมาทำให้ ไม่มีหนังรูด ผมเลยต้องใช้น้ำลายเป็นตัวหล่อลื่น เสียงน้ำลายในมือรูดกับอาวุธเจ้ามด ดัง แช๊ะๆๆๆๆ เจ้ามดห่อปากทำตาพริ้ม หน้าแหงนขึ้นด้วยความเสียวซ่าน ตัวมันเกร็งสั่นสะท้านเมื่อ ผมดูดหัวนมมันแรงขึ้น น้ำเหนียวๆ เมือกๆออกมาจากปลายอาจู๋เจ้ามดอย่างมาก มันทำให้ผมรู้ว่าเจ้ามดเสียวมากจนน้ำหล่อลื่นทะลัก แต่ก่อนที่มันจะเสร็จ เจ้ามดกลับมาเป็นฝ่ายจัดการผมบ้าง เจ้ามดมันเลือกที่จะเลียบริเวณบั้นเอวผม และสีข้าง จากนั้น ก็ล่ามลงไปที่ง่ามขา มันพลักอาจู๋ผมให้พ้นทาง พลางใช้มือรูดมันขึ้นลงๆ ลิ้นเจ้ามด ชอนไชไปตามง่ามขาผม เล่นเอาผมตัวเกร็ง ไม่พอแค่นั้นมันขึ้นคร่อมผมในท่าหกเก้า แล้วจัดการดูดให้ผม แรงดูดของเจ้ามด ทำให้ผมร้องโฮ้ ออกมาอย่างสุดทนจริงๆครับ แต่ผมก็ไม่เอาเปรียบมันหรอกนะครับ
ผมค่อยๆห่อปากและดูดตามจังหวะที่เจ้ามดมันกระแทกลงมา ตอนนี้ผมรู้สึกเมื่อยปากมากเพราะ ท่อนเอ็นเจ้ามดมันใหญ่กว่าของผม ใหญ่จนคับปาก ผมเลยจับท่อนเอ้นเจ้ามดด้วยมือสองมือ แล้วจัดการเลียมันอย่างบ้าคลั่ง ตัวเจ้ามดเองตอนนี้จับขาผมแยกออกแล้วเลียตรงร่องก้น มันใช้นิ้วฉีกร่องก้น แล้วใช้ลิ้นดุนๆ ในรูก้น ผ่านขนบริเวณนั้น ผมยอมรับเลยคครับว่าเสียวมากกกกกกก เรื่องอะไรที่ผมยอมเสียวคนเดียว ผมจับก้นขาวๆของเจ้ามดฉีกออก ทำให้เห็นไรร่องที่งามมาก ผมเลียรู้ก้นแดงๆของมันด้วยความสุดเสียว ราสองคนผลัดกันเสียวผลัดกันเลียอยู่ครู่ใหญ่ แล้วก็เปลี่ยนท่า มาเป็นท่านั่งดูดปาก ส่วนมือนั้นต่างแหย่ก้นกันและกันหรือบางทีก็จับอาจู๋รูดขึ้นและลง กว่า สิบห้านาทีที่เราเล้าโลมกัน จนผมเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมเลยจับเจ้ามดนอนคว่ำข้างเตียงแล้วจัดการใส่ถุงยางและใช้น้ำลายหล่อลื่น แล้วก็เสียบมันทันทีโดยที่ไม่ถามมันสักคำ
โอ้ยยยยยยยยย เสียงเจ้ามดร้อง เจ็บๆๆๆๆๆ เอาออกๆ เสียงเจ้ามดร้องขอ พร้อมๆ กับพลักผมออก
นา นิดเดียวๆ ผมพยายามปลอบมัน และลูบตัวแล้วดูดปากมันเบาๆ
เมื่อเจ้ามดเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว ผมเลยจัดการเสียบต่อ แต่เชื่อมั๊ยครับ รู้ก้นเจ้ามดมันแน่นมาก จนใส่ไม่เข้า มันเข้าได้แค่ส่วนหัว และกลางลำเล็กน้อย ผมกระแทกก้นเจ้ามดแรงขึ้นๆ จนเริ่มขยายออก เจ้ามดดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด แต่ในทีมันก็ยินดี ก้นขาวๆ ที่มีร่องรอยการเกา และผดเล็กๆบางจุด ดูแล้วเหมือนก้นเด็กกระเพื่อมๆไปตามแรงกระแทก ผมแอบดูการกระแทกของเอ็นผมกับเจ้ามด เผยให้เห็นเยื่อแดงๆ ถูกท่อนเอ็นยาวยักษ์ของผมทำร้าย เห็นแล้วแตกในถุงโดยกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ
ผมนอนฟุบบนตัวเจ้ามด หยาดเหงื่อผมไหลลงบนเจ้ามดจนมันเริ่มเหนียวตัวเลยผละจากกัน ผมจัดการไปล้างตัวพร้อมเจ้ามด เสร็จจากล้างตัวเจ้ามด เดินขึ้นเตียง แต่อาจู๋มันยังโด่ บานได้ที เมื่อเทียบกันจริงๆ ตอนนี้อาจู๋เจ้ามดยาวและใหญ่กว่าของผมเล็กน้อย แต่ของมันเอียงซ้าย หัวบานได้ใจ ถึงแม้เมื่อกี้ผมจะเสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ เจ้ามดจัดการดูดๆ เลียๆจนมันแข็งขึ้นมาอีกครั้ง ผมเองยังเหนื่อยๆอยู่เลยเลียง่ามขาเจ้ามด กลิ่นแห่งวัยหนุ่มมันเข้าจมูกดีจริงๆ ผมเลย จัดการอมอาจู๋เจ้ามด เจ้ามดมดห่อปาก ซี๊ดดดดดด ด้วยความเสียว มันเปลี่ยนท่ามาคุกเข่าเด้าปากผมแทน แล้วจากนั้นมันลากผมมานอน ริมขอบเตียงแล้วยกขาผมพาดบ่า แล้วจัดกรรเสียบผมทันที
เอ้ยมด ใส่ถุงยัง ผมถาม
ใส่แล้ว มันบอก
ผมเอามือไปคลำๆดู จึงรู้ว่าใส่แล้วจริงๆ
เจ้ามดจัดการผมซะจนร้องอั๊กออกมาด้วยความจุก มันเด้าไปดูดนมผมไป บางครั้งก็ดมๆบริเวณซอกคอผม ผมเสียวมาก จึงแอบเอามือรูดๆอาจู๋ จนในที่สุดผมน้ำแตกอีกครั้ง น้ำมันกระเด็นไปถูกอกเจ้ามด ตอนนี้ผิวขาวๆของมันเปื้อนน้ำว่าวกลิ่นคาวของผม ไม่นานต่อจากนั้นเจ้ามดก็ร้อง อ้าๆๆๆ พร้อมหายใจ สั้นๆ ยาวๆ แล้วมันก็พุ่งน้ำอุ่นๆ ออกมา เปื้อนประตูหลังผม เพราะมันเยอะมากจนล้นออกมานอกถุง คืนนั้นเราสองคนล้างเนื้อล้างตัวเสร็จเราก็นอนกอดกันจนเช้า ผมยอมรับว่าผมหลับสนิทมาก ท่ามกลางบรรยากาศของความรัก
หากเรายังเวียนวนอยู่ในทะเลระทม ไม่คิดที่จะปีนป่ายมันออกมา เราก็จะไม่มีวันที่จะพบกับความสุขใหม่ๆ ที่รอเราอยู่บนขอบฝั่งอันแสนสุข หลายๆคนเลือกที่จะจมอยู่ในทะเลระทมนี้ตลอดมา จมอยู่จนเริ่มเสพมันเข้า และแยกมันไม่ออก ท้ายที่สุด ชีวิตอันแสนสั้นนี้ก็จากไปด้วยความระทม ในหลายๆ ความคิดนั้นอาจมองว่าเขาซื่อสัตย์กับความรัก เขาเลยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แต่ในมุมมองของผม ตอนนี้ผมให้คุณค่าเรื่องนี้ว่า เป็นความเขลาของคนขลาด จงอย่ารอคอยสิ่งที่ผ่านมาแล้ว จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าและคว้าโอกาสเมื่อมันมาถึง คนที่มองเราว่าเราซื่อสัตย์นั้นก็แค่ออกปากชมอย่างเดียว ไม่ได้มาร่วมระทมกับเรา จงเลิกเสพติดอดีต แล้วมุ่งหน้าสู่อนาคตดีกว่า
หลังจากคืนสวาทนั้นที่รีสอร์ทอันแสนสุข ผมกับเจ้ามดก็เรียนรู้กันมากขึ้น เราไม่เคยถามเรื่องในอดีตกันเลย ตามเพลงที่เจ้ามดเคยร้องให้ฟัง เว้นแต่เรื่องนั้นเข้ามาประดังซึ่งๆหน้าจึงจะยอมเล่ากัน ถึงแม้บางครั้งที่เล่า ผู้ฟังก็ใช่ว่าจะอยากฟังเสียทุกครั้ง เราสองคนเลยเลิกพูดถึงมันเสีย นี่อาจใช่นิสัยของคนขี้หึงกระมัง เลยยอมไม่รู้ดีกว่ารู้แล้วทุรนทุราย ยามทำงานเราสองคนก็ติดต่อกันพอหายคิดถึง แต่พอว่างเมื่อไหร่เราก็จะมาอยู่ด้วยกันไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน และหลายๆครั้งที่เราสองคนแอบสานสัมพันธ์ ลับด้วยกัน บางครั้งเจ้ามดก็ถ่ายคลิปลงอินเตอร์เนตโดยไม่ให้เห็นหน้า ตอนแรกๆ ผมก็ไม่เห็นด้วย แต่พอเริ่มเห็นคอมเม้นท์ของคนที่มาดูก็เริ่มสนุกด้วย อิๆๆๆ
ท่ามกลางความสุขกับรักครั้งใหม่ของผม เงาแห่งรักเก่าก็ตามติดผมมาตลอด ไอ้วิวเหมือนจะรู้ข่าวเรื่องผมรักกับเจ้ามดแล้ว มันพยายามติดต่อมาทางผมทุกอย่างและทุกเวลาที่มันว่าง ผมไม่แน่ใจว่ามันคิดอะไร แต่เท่าที่ผมอ่านเกมได้คือไอ้วิว พยายามล้มชีวิตผมอีกแล้ว เอ้อออ คนเราถ้ารักกันจริงทำไมต้องทำกันถึงเพียงนี้นะ



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
B
Guest

3. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #2
 
29-Aug-12, 06:17 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ขอบคุณครับ ไม่อยากให้จบเลย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
VANILLA
Guest

4. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #3
 
29-Aug-12, 07:43 PM (SE Asia Standard Time)
 
   รู้สึกเหมือนตอน 9 จะยังไม่จบเลยครับ มันสั้นๆน่ะ

และก็ยังไม่อยากให้จบเลยจริงๆ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

5. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #4
 
29-Aug-12, 08:33 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอน 9 ถ้าอ่านแล้วเหมือนไม่จบเพราะอย่างนี้ครับ
ขอเท้าความกลับไป ว่า

ตอนแรก ตั้งใจจะเเขียนเพียง 3 ตอน ครับ
แต่ต่อมา มี อีเมล์ ส่งมา เยอะมาก บอกว่า อยากฟังเรื่องเล่าผมต่อ
ผมเลย เขียนเพิ่มเป็น 7 ตอน

แล้ว วันนั้น มีน้องนักอ่านคนนึง เขาบอกว่า ขอร้องละ ให้ผม เล่าต่อไปอีกนิดได้ไหม ว่า ชีวิต หลังเรียนจบ เป็นอย่างไร บ้าง เพราะตอนนี้ เขาเสพติดเรื่องเล่าผม แล้ว

ผมเลยต้องเขียนเล่าต่อครับ ซึ่งตอนที่เขียนนั้น ผมไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เนื่องจากงานยุ่งมาก แต่ก็พยายามเล่าให้ เสร็จสิ้นครับ ตอน9 เลยอาจ เว้าๆ แหว่ง ๆไปบ้าง

แต่สิ่งสำคัญที่จะบอกคือ จริงๆ แล้ว เรื่องเล่านักรักหน้าหยกนี้ ที่เอาเรื่องจริงมาแต่งเป็นนิยายเรื่องเล่าปากนั้น ตอนที่ 8-9-10 นี้ ไม่เคยถูกเผยแพร่ที่ไหน อย่างสมบูรณ์

แต่สำหรับ วันนี้ ที่นี่ ที่บอร์ดปาล์ม ผมจะเอามาลงไว้ให้สมบูรณืครับ ผมสัญญา


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
VANILLA
Guest

6. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #5
 
29-Aug-12, 09:50 PM (SE Asia Standard Time)
 
   จะว่าไปผมก็เข้าขั้นเสพติดแล้วเหมือนกันครับ
แต่จากเรื่องนี้ทำให้คิดทบทวนอะไรๆได้หลายอย่าง
โดยเฉพาะปรัชญาที่แฝงเข้ามา ทำให้ต้องคิดจริงๆ

ผมก็รอต่อนะครับ ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ
แต่ขอให้สมบูรณ์ที่สุด เท่าที่ปัจจัยต่างๆจะเอื้อนะครับ

ขอบคุณครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
คูณ
Guest

7. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #6
 
30-Aug-12, 03:51 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ชอบเรื่องนี้มากครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
Dant
Guest

8. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #5
 
02-Jan-13, 03:27 AM (SE Asia Standard Time)
 
   พี่บอสคะถ้าหนูจะรบกวนขออีเมลล์หรือว่าเฟสบุคพี่หน่อยได้มั้ยอ่ะคะ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

9. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #8
 
04-Jan-13, 04:38 PM (SE Asia Standard Time)
 
   >พี่บอสคะถ้าหนูจะรบกวนขออีเมลล์หรือว่าเฟสบุคพี่หน่อยได้มั้ยอ่ะคะ

abaekung@hotmail.com


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ฺฺBaron
Guest

10. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #9
 
13-Jan-13, 09:21 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ชีวิตน่าจะดีขึ้นแล้วนะครับ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
เจ้าบอสน้อย
Guest

11. "RE: Hatyai Story: 9"
In response to message #10
 
15-Jan-13, 11:33 PM (SE Asia Standard Time)
 
   ตอนนี้โต ขึ้นเยอะแล้วครับ ความคิดเปลี่ยนแระ
มาลองอ่านย้อนหลัง แล้ว พบว่า บ้าสิ้นดี ผมทำไปได้ไง ^^


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com

Our Sponsor


Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters