We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ"
Posted by sarawatta on 14-Jun-11 at 10:27 PM

ตอนที่ 10: แฟนคนแรกของต้น

ในช่วงพักกลางวัน นักศึกษาทุกคนจากทุกคณะจะมากินอาหารกันที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย วันนี้ สนเลือกที่จะมากินข้าวกับต้นเพราะยังไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนใหม่ดีนัก ในขณะที่นั่งกินข้าวด้วยกัน บังเอิญมีสาวสวยกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา สนเผลอหันมองตามตามประสาคนวัยหนุ่มโดยไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่าต้นสังเกตดูและครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“แบบนี้สเปคนายหรือเปล่า” ต้นถาม ทำให้สนได้สติ

“อ๋อ...ก็สวยดี จริงๆ เราไม่มีสเปคหรอก ถ้าเกิดชอบก็ชอบ แต่คนจนๆ อย่างเราคงไม่มีสาวคนไหนสนใจหรอก” ประโยคท้ายสนพูดกึ่งประชดพลางแค่นหัวเราะนิดๆ

“ทำไมนายคิดอย่างนั้นล่ะสน คนที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องฐานะก็มี บางทีมีแฟนเป็นคนดีก็อาจจะดีกว่ามีแฟนเป็นคนรวยก็ได้” ต้นแย้ง

“จะมีสักกี่คนที่คิดอย่างนั้นล่ะต้น เราว่าน้อยเต็มที นายรู้ไหม ในห้องของเรามีแต่ลูกคนรวยทั้งนั้น นามสกุลดังๆ ก็เยอะ มีแต่เราที่เป็นใครก็ไม่รู้อยู่คนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะนายช่วยทั้งเรื่องเงินและความรู้ เราก็คงไม่มีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสสังคมแบบนี้หรอก” สนพูดด้วยน้ำเสียงแฝงความน้อยใจบางอย่าง

“อย่าคิดมากน่ะสน ใครจะรวยจะจนก็ช่างเขาเถอะ เราตั้งใจเรียนให้จบดีกว่า ดีไหม”

สนพยักหน้าเห็นด้วยแล้วยิ้มกึ่งเม้มริมฝีปาก

“สน” ต้นเรียกเพื่อนเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง สนหันมามอง “ถ้านายอยากจะมีแฟนหรือเจอคนที่ชอบ นายไม่ต้องห่วงเราหรอกนะ” ต้นบอกเพียงเท่านี้ซึ่งเขาคิดว่าสนคงเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

“เรายังไม่อยากคิดเรื่องนั้นหรอกต้น เรียนให้จบก่อนดีกว่า เอาตัวก็ยังจะไม่รอดเลย มีแฟนตอนนี้ก็คงยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ ว่าแต่นายเถอะ นายก็เป็นคนที่หน้าตาดีเหมือนกันนะ มีสาวๆ มาชอบบ้างหรือยังล่ะ ถ้าสนใจใครบอกได้นะเว้ย เดี๋ยวเราช่วย” สนพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

“เราก็คิดเหมือนนายนั่นแหละ เรียนให้จบก่อนดีกว่าแล้วค่อยคิด แต่ของแบบนี้มันก็เดายากนะ มันจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ ถ้ามันถึงเวลามันก็มาเองแหละ จริงๆ นายอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าบางทีเราอาจจะมีคนที่เราชอบมานานแล้ว”

ประโยคท้ายทำให้สนเกิดความอยากรู้ขึ้นมาทันที “ใครวะต้น ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ เราก็อยู่กับนายแทบทุกวัน ใครเหรอ นายแอบชอบใครเหรอ”

“เราแค่สมมติเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก” ต้นรีบแก้ตัว ชาตินี้ต้นคงไม่มีโอกาสได้บอกคนๆ นั้นอย่างแน่นอน เพราะคนที่ต้นรักนั้นคงไม่ได้คิดกับเขาอย่างนั้น และอาจจะรับไม่ได้ถ้าเกิดเขาได้รู้ความจริงบางอย่าง ความจริงที่ต้นไม่กล้าบอกใคร ได้แต่เก็บซ่อนไว้ลึกๆ แต่สนก็ยังไม่วายสงสัย แต่ก่อนจะถามอะไรต่อก็มีเสียงร้องทักมาจากข้างหลัง

“เฮ้ย สองคนนี้ แอบมาจู๋จี๋กันอยู่นี่เอง มากินข้าวก็ไม่ชวนกันบ้างเลย”

นิกกับปั้นจั่นนั่นเอง ทั้งสองคนเพิ่งได้หยุดพักเที่ยงตอนเกือบเที่ยงครึ่งแล้ว

“อ้าว ทำไมลงมาช้าล่ะ” สนถาม เขาไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตกับการใช้คำว่า “จู๋จี๋” ของเพื่อนเท่าไรนัก มีแต่ต้นเท่านั้นที่รู้สึกว่าสองคนนี้พูดอะไรแปลกๆ

“มีงานนิดหน่อย” ปั่นจั่นบอก

“เดี๋ยวพวกกูไปซื้อข้าวก่อน รอด้วยนะเว้ย” นิกบอก แล้วก็พาปั้นจั่นเดินไปซื้ออาหาร
------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่คนที่มีแฟนคนแรกเมื่อเรียนมหาวิทยาลัยกลับไม่ใช่สนเสียแล้ว ช่วงเทอมสุดท้ายของปีหนึ่ง ต้นบังเอิญได้รู้จักกับนักศึกษาหญิงคนหนึ่งชื่อ “เจนี่” จากคณะนิเทศศาสตร์ที่อยู่ในชมรม “จิตอาสาเพื่อสังคม” ซึ่งต้นก็เข้าไปร่วมด้วยเช่นกัน ชมรมนี้เป็นชมรมที่เน้นการทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ปลูกป่าชายเลน เก็บขยะในแม่น้ำลำคลอง ระดมทุนช่วยภัยน้ำท่วม/ภัยหนาว ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนพิการเวลาจัดงาน พาแขกต่างชาติไปเที่ยวเวลาที่มีการจัดงานระหว่างประเทศ ฯลฯ แล้วแต่ว่าใครต้องการอาสาสมัครนักศึกษาไปช่วยทำอะไรบ้าง แต่ก็มีข้อแม้ว่านักศึกษาจะไปได้นอกเวลาเรียนเท่านั้น ส่วนใครจะไปเมื่อไร วันไหน สมาชิกในชมรมจะคุยและตกลงกันเอง

ด้วยบทบาทการเป็นผู้นำที่โดดเด่นของต้นและการทุ่มเททำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้เจนี่ปลื้มเขามากทีเดียว เวลาจัดกิจกรรมก็มักจะเข้ามาคุยกับต้น ช่วยต้นทำนั่นทำนี่หลายอย่าง เจนี่เป็นคนที่ค่อนข้างติดดินแม้ว่าจะมาจากครอบครัวที่ฐานะดี ที่สำคัญเป็นคนที่จิตใจดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนต้น จึงค่อนข้างเข้ากันได้ดีทีเดียว บางทีไปเก็บขยะในคลองที่สกปรก เจนี่ก็ไปด้วยและไม่แสดงท่าทางรังเกียจแต่อย่างใด จะว่าไป ต้นก็ชอบผู้หญิงคนนี้มากทีเดียว จนความสนิทสนมกันของต้นและเจนี่ก็เริ่มเป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------
เที่ยงวันหนึ่ง สนโทรไปบอกต้นว่าเขาจะลงไปกินข้าวด้วย พอเลิกตอนเที่ยงสนก็รีบไปหาเพื่อนที่โรงอาหารทันที ต้นกับสนแยกกันไปซื้ออาหารตามที่ตัวเองอยากกิน พอสนได้อาหารที่ต้องการแล้วเขาก็ถือถาดอาหารเดินไปหาต้นที่โต๊ะที่จองไว้ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมี “เจนี่” มานั่งคุยกับต้นอยู่และนั่งแทนที่เขาไปเสียแล้ว พอต้นหันมาเห็นเขา ต่างคนก็ต่างทำหน้าเลิ่กลั่ก

“ไม่เป็นไร ตามสบายเถอะ เดี๋ยวเราไปนั่งกินตรงนั้นก็ได้” สนบอกเพื่อนแล้วก็เดินไปหาโต๊ะนั่งใหม่โดยมีสายตาของต้นมองตามมาอย่างห่วงๆ สนพอรู้ว่าสาวคนนี้คือแฟนของเพื่อนนั่นเอง เขาจึงไม่อยากรบกวน

“เพื่อนต้นเหรอ” เจนี่ถาม เธอเรียกว่า “ต้น” เฉยๆ เพราะอายุไม่ห่างกันเพียงไม่กี่เดือน

ต้นพยักหน้าตอบ “ใช่ครับ ชื่อสน เรียนคณะเทคโนฯ” ต้นบอก สายตายังแอบมองเพื่อนอยู่

“เหรอคะ แล้วทำไมเขาไม่มานั่งกับต้นล่ะ” เจนี่ถาม

“อ๋อ...ไม่มีไรหรอก เพื่อนผมเขาเป็นคนประหม่าเวลาเจอคนที่ไม่รู้จักครับ เขาขี้อาย” ต้นแก้ตัวให้เพื่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากอาบน้ำกินข้าวเสร็จแล้ว สนก็เดินไปเคาะประตูห้องต้นเพื่อจะเข้ามาคุยด้วยก่อนนอนตามปกติ บางวันก็นอนที่ห้องต้นไปเลยก็มี ต้นเดินมาเปิดประตูให้เพื่อน สนเดินตามเข้าไปในห้องแล้วนั่งลงบนเตียงของเพื่อนอย่างคุ้นเคย

“นายทำงานอยู่หรือเปล่า” สนถาม

“อ๋อ...เสร็จแล้วแหละ” ต้นบอกแล้วก็เดินมานั่งใกล้ๆ กับเพื่อน

สนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างสบายๆ “คนเมื่อกลางวันใช่แฟนนายหรือเปล่า ทำไมไม่เห็นพามารู้จักเราบ้างเลย”

ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก” ต้นตอบสั้นๆ จริงๆ เขาไม่ได้คิดอะไรกับเจนี่ถึงขั้นจะคิดเป็นแฟนอยู่แล้ว เพียงแต่เห็นว่าเจนี่เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น

“ชื่ออะไรเหรอ” สนถามด้วยความอยากรู้
“เจนี่”

“โห ชื่อน่ารักซะด้วย เราว่าเขาน่ารักดีนะ ตาคมดี เหมาะสมกับนายมากเลย” สนให้ความเห็น

“อืม...เจนี่เป็นคนน่ารัก เขาติดดินดีนะ จริงๆ เขาเป็นลูกคนรวย แต่เขาไม่ค่อยถือตัว ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราพาเขาไปเก็บขยะในคลอง ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่ไป แต่เขาก็ไปนะ แถมยังช่วยเก็บขยะอย่างดี ไม่บ่นสักคำ แต่อย่างว่าแหละ ก็คงต้องดูกันไปเรื่อยๆ” ต้นบอก

“นายชอบเขาหรือเปล่าล่ะ”

ต้นทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนตอบว่า “ก็ชอบนะ” แต่ต้นไม่ได้บอกต่อว่าชอบในฐานะเพื่อนเท่านั้น

“นั่นแน่ นายนี่ไม่ใช่เล่นนะเนี่ย เห็นเป็นเด็กเรียนเงียบๆ” สนแซวเพื่อนพลางหัวเราะ

เสียงโทรศัพท์ของต้นดังขึ้น เจนี่โทรมานั่นเอง ต้นรับสายและขอตัวเดินไปนั่งคุยตรงโต๊ะทำงานของเขา

ผ่านไปสักพัก สนก็เห็นว่าต้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดคุยโทรศัพท์จึงลุกขึ้นเดินไปบอกต้นเบาๆ ว่า “เราไม่กวนละ”

บอกแล้วสนก็เดินออกไป เขาลงมานั่งคุยกับนิกและปั้นจั่นซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ข้างล่างแทน

“อ้าว ทำไมวันนี้คุยกันแป๊บเดียวล่ะ ปกติเห็นคุยกันจนดึกดื่น” นิกถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสนมานั่งดูทีวีด้วย
“สงสัยไอ้ต้นมันคุยกับแฟนล่ะมั้ง เมื่อวานก็เห็นคุยกันเป็นชั่วโมงๆ” ปั้นจั่นว่าแล้วก็หันไปดูทีวีต่อ

สนได้แต่เงียบ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการที่เพื่อนมีแฟน จะดีใจกับเพื่อนก็ดีใจอยู่ แต่อีกใจหนึ่ง เขากลับรู้สึกเหมือนมีใครมาแย่งของรักของเขาไปเสียอย่างนั้น เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าตอนนั้นต้นรู้สึกอย่างไรที่เขามีแฟนแล้วหายหน้าไป
------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนเย็นๆ ต้นมักจะคุยโทรศัพท์กับเจนี่เป็นประจำ คุยกันทีก็คุยกันนาน จนทำให้สนรู้สึกน้อยใจขึ้นมาบ้างเพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับต้นเลย ตอนหลังๆ เขาก็เลยไม่เข้าไปห้องต้นเพราะเข้าไปทีไรต้นก็คุยโทรศัพท์กับแฟน เขาจึงทำงานในห้องของตัวเอง หรือไม่ก็มานั่งดูทีวีข้างล่าง

วันนี้ก็เช่นกัน สนลงมานั่งดูทีวีและคุยกับนิกและปั้นจั่นเหมือนหลายๆ วันที่ผ่านมา แต่เขามักจะเผลอเหลือบมองไปที่ห้องของต้นบ่อยๆ

“เป็นไรวะไอ้สน กูเห็นมึงมองขึ้นไปที่ห้องไอ้ต้นบ่อยๆ” ปั้นจั่นถามด้วยความสงสัย

“เปล่าๆ” สนปฏิเสธและพยายามทำสีหน้าให้ดูไม่มีพิรุธ

“ไม่ต้องมาเปล่าเลย กูเห็นมึงมองหลายทีละ อยากคุยกับมันล่ะสิ เดี๋ยวกูจัดการให้” ปั้นจั่นพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปเคาะประตูห้องของต้น สนห้ามไม่ทันจึงปล่อยเลยตามเลย

ต้นเดินมาเปิดประตูพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย “มีอะไรเหรอ” ต้นถามอย่างสงสัย

“คุยกับแฟนเสร็จหรือยัง ไอ้สนมันอยากคุยด้วย” ปั้นจั่นบอก ต้นมองลงมาข้างล่าง สบตากับสนแล้วก็รีบขอตัววางโทรศัพท์ทันที

“ขึ้นมาซิ” ปั่นจั่นร้องบอกสน

สนก็เดินขึ้นมา ทั้งต้นและสนมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความรู้สึกแปลกๆ

“เอ้า คุยกันซะ ไปละ” ปั้นจั่นว่าแล้วก็เดินลงไปโดยไม่หันมาสนใจต้นกับสน

“เข้ามาก่อน” ต้นเป็นฝ่ายบอกเพื่อน สนเดินเข้ามาในห้องของต้นแล้วปิดประตู ต่างคนต่างทำสีหน้าไม่ถูกเหมือนเป็นคนแปลกหน้ากัน

“เราไม่ได้บอกให้ไอ้ปั้นจั่นมาบอกนายนะต้น มันมาบอกเอง” สนอธิบาย “ถ้านายจะคุยกับแฟนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวเราจะลงไปดูทีวีข้างล่างก็ได้ เราไม่มีอะไรหรอก” สนบอก เขารู้สึกเกรงใจเพื่อนอยู่เหมือนกัน

“ไม่เป็นไรหรอก นายมีอะไรจะคุยกับเราหรือเปล่าล่ะ เราคุยได้นะสน”

“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เราไม่กวนนายดีกว่านะ” สนทำท่าจะเดินออกไป

ต้นรีบวิ่งมาขวางประตูไว้ “เดี๋ยวก่อนสิสน”

ต้นสบตากับสน ต่างคนต่างรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก “นายจะมาคุยกับเราไม่ใช่เหรอ ทำไมจะรีบกลับล่ะ”

สนเริ่มมีสีหน้าเครียดขึ้นแล้วถอนหายใจ เขาไม่รู้จะพูดกับเพื่อนยังไงเหมือนกัน จะว่าน้อยใจก็ใช่ เพราะคนเคยคุยกันก่อนนอนแทบทุกวัน แต่ช่วงนี้ต้นก็เอาแต่คุยกับแฟน แต่เขาก็เป็นผู้ชาย การจะน้อยใจเรื่องพวกนี้มันก็ดูยังไงๆ อยู่

“ก็นาย...” สนหยุดคิดเพราะไม่รู้ว่าจะพูดต่อดีหรือไม่ “นายคุยโทรศัพท์ เราก็เลยไม่อยากกวนไง”

“เราขอโทษสน...” ต้นมองหน้าเพื่อนด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจเพราะไม่รู้ว่าสนกำลังน้อยใจหรือเปล่า

“แต่ว่าเราก็อยากคุยกับนายนะ พอดีเจนี่เขาโทรมาหาเราทุกวันเลย เราก็เลยต้องคุยกับเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากคุยกับนายนะสน” ต้นพยายามอธิบาย

“เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนายเสียหน่อย” สนบอก

“แต่นายอย่าเพิ่งกลับนะ เราอยากคุยกับนาย” ต้นเริ่มทำเสียงอ้อน “นะ เรามีเรื่องคุยกับนายเยอะแยะเลยวันนี้”

“อือๆ” สนพูดเหมือนอยู่ในลำคอ แล้วก็เดินกลับ ต้นเดินตามหลังแล้วมากระโดดกอดคอเขาเป็นเชิงหยอก สนเดินมาที่เตียงแล้วก็ปล่อยเพื่อนลงด้วยการทุ่มตัวลงไปบนที่นอนเบาๆ ต้นร้องโอ๊ย สนตกใจนึกว่าเพื่อนเป็นอะไร เขาพุ่งตัวลงไปนอนข้างๆ เพื่อนแล้วถามว่า

“เป็นอะไร เจ็บเหรอ”

ต้นยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วตอบว่า “เปล่า...ร้องไปงั้นแหละ” แล้วก็หัวเราะ

“นายนี่...อีกแล้วนะ เดี๋ยวเราโกรธเหมือนตอนไปเที่ยวทะเลนะ” สนว่า ต้นหน้าเจื่อนลง สนจึงยิ้มและหัวเราะเพราะไม่อยากให้เพื่อนตกใจและคิดมาก “เราพูดเล่นต้น”

ต้นจึงค่อยยิ้มได้ ทั้งสองคนนอนคุยกันเหมือนเช่นเคย แม้ว่าจะรู้จักกันมาจนเกือบสิบปีแล้ว แต่เขาทั้งสองคนก็ไม่เบื่อที่จะคุยกัน มีเรื่องให้คุยกันได้ตลอด บางทีก็คุยกันทั้งวันทั้งคืนจนเคยมีคนสงสัยว่าคุยอะไรกันนักกันหนา อาการติดเพื่อนระหว่างทั้งสองคนไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ยิ่งคบกัน ยิ่งคุยกันก็ยิ่งผูกพัน แน่นขึ้นและแน่นขึ้นจนไม่อาจมีสิ่งใดมาตัดให้ขาดสะบั้นลงได้ง่ายๆ

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.