We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ"
Posted by sarawatta on 17-Jul-11 at 06:51 PM
ขอซ่อมตอนที่ 31 อีกรอบครับ สังเกตว่าตอนนี้เราไม่สามารถแก้ไขข้อความที่โพสต์ได้เอง เข้าใจว่าคงป้องกันปัญหาอะไรบางอย่างหรือเปล่าครับ
----------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 31: อย่างน้อยเรายังเป็นเพื่อนกัน

ความเงียบของสนทำให้นายิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ ถึงเธอจะสงสัยว่าสามีเป็นเกย์ แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นจริงอย่างที่เธอสงสัย พอสนไม่ยอมพูดอะไรมันก็เหมือนกับเขายอมรับ

“ทำไมพี่ไม่เถียงหรือไม่แก้ตัวอะไรบ้างล่ะ” นาเริ่มอดรนทนไม่ได้กับอาการนิ่งเงียบ

“นาไม่ได้ท้องใช่ไหม เราตกลงกันไว้แล้วนี่ว่าจะยังไม่มีลูกตอนนี้ บอกพี่มาตามตรงได้ไหมนา” สนไม่ตอบคำถามว่าเขาเป็นเกย์อย่างที่ภรรยาสงสัยหรือไม่ แต่สิ่งที่เขาอยากรู้จริงๆ ตอนนี้คือนาท้องจริงหรือเปล่าเท่านั้น

“ทำไมคะ แล้วถ้านาจะบอกว่านาท้องล่ะ” นาตอบพลางลุกขึ้นยืน มองหน้าสามีด้วยสายตาไม่พอใจมากขึ้น “อย่าบอกนะคะว่าถ้านาไม่ท้อง พี่ก็จะเลิกกับนาแล้วไปอยู่กับพี่ต้น พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้นะคะ นาไม่ยอมจริงๆ ด้วย เป็นตายร้ายดียังไงนาก็ไม่ยอมให้พี่ไปอยู่กับไอ้เกย์โรคจิตนั่นอย่างเด็ดขาด” นาขึ้นเสียงดังตอนท้าย

“นา” สนเสียงดังด้วยความโมโห “อย่าเรียกต้นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด”

“ทำไมคะ ทำไมจะเรียกไม่ได้ ก็มันเป็นเกย์โรคจิตจริงๆ นี่นา ไม่มีปัญหาผัวก็มาแย่งผัวคนอื่น”

“นา” สนตวาดเสียงดัง เขารู้สึกโมโหมากจนเกินจะทนไหว ถ้าหากมีอะไรที่มากกว่านี้อีก เขาอาจจะต้องกลายเป็นผู้ชายเลวๆ คนหนึ่งที่ลงมือตบตีภรรยาของตัวเองเป็นแน่

นาเริ่มลดท่าทีแข็งกร้าวลงเมื่อเห็นท่าทางโกรธจัดของสน อาการน้อยใจเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นแทน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสามีที่เธอรักจะตวาดเธอราวกับไม่ใช่คนรักกันแบบนี้

“ถามจริงๆ เถอะ พี่ยังรักนาอยู่ไหม ยังรักนาอยู่ไหม” นาตะโกนถามพลางร้องให้

สนเงียบและหันหน้าหนี เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบอย่างไร เขารู้ใจของเขาดี แต่การจะพูดออกมาตรงๆ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

“เงียบแบบนี้หมายความว่าไงคะ หมายความว่าพี่ไม่ได้รักนาอีกแล้วงั้นเหรอ ตอบมาสิคะพี่สน พี่ยังรักนาอยู่หรือเปล่า บอกมาเดี๋ยวนี้” นาถามคาดคั้น เธอเริ่มร้องให้สะอึกสะอื้น

สนกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ถึงวันนี้แล้ว เขาคงต้องพูดความจริงแล้วล่ะ บางที...ความจริงอาจจะช่วยทำให้ปัญหาให้มันจบเร็วขึ้น “นา...” สนพูดเสียงเบาและพูดต่อโดยไม่หันไปมองภรรยาว่า “พี่รักต้น”

“อะไรนะคะ” นาเบิกตากว้างราวกับจะไม่เชื่อสิ่งที่เธอได้ยินในตอนนี้

“พี่รักต้น รักมานานแล้ว นอกจากพ่อกับแม่ของพี่เอง ต้นก็คือคนที่พี่รักก่อนใครทั้งหมดเพราะพี่กับเขาผูกพันดูแลกันมาตลอด แต่พี่แค่ไม่รู้ใจตัวเองจนกระทั่งวันนี้” สนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน “ถึงแม้พี่จะรู้ว่าตอนนี้พี่มีพันธะแล้ว พี่แต่งงานแล้ว และ...พี่กำลังจะมีลูก แต่ความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือ...พี่รักต้น”

นาเดินอ้อมไปข้างหน้าเพื่อมองหน้าสน แต่สนก็พยายามหลบสายตาของภรรยา “พี่เป็นบ้าหรือไงคะ พี่สนเป็นผู้ชาย พี่จะไปรักผู้ชายด้วยกันได้ยังไง นาไม่เชื่อ พี่โกหกนาใช่ไหมคะ”

“ก็นาเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่หรือว่าพี่เป็นเกย์” สนย้อนถามด้วยเสียงที่ดังขึ้น

“ไม่จริง ไม่รู้ล่ะ แต่ต่อไปนี้ ห้ามพี่ไปหาพี่ต้นอีก ห้ามไปอย่างเด็ดขาด นาท้องแล้วนะคะ พี่สนต้องรับผิดชอบชีวิตนาและลูก พี่สนจะไปไหนไม่ได้ นาเป็นผู้หญิง นาเป็นคนที่ต้องเสียเปรียบ ถ้าพี่ทิ้งนา นาก็ต้องเป็นหม้ายให้ชาวบ้านนินทา พี่จะให้นาท้องไม่มีพ่ออย่างนั้นเหรอ”

“พี่ต้องรับผิดชอบชีวิตของนากับลูกอยู่แล้ว แต่พี่ว่ามันมากเกินไปที่นาจะมาห้ามพี่ไม่ให้ไปหาต้น พี่ทำไม่ได้” สนแย้งเสียงดัง

“แล้วจะให้นามั่นใจได้ยังไงคะว่าเวลาพี่ไปหาพี่ต้นแล้วจะไม่พากันสวมเขาให้นา จะให้นามั่นใจได้ยังไงว่าพี่จะดูแลนากับลูกไปได้ตลอดรอดฝั่ง”

“นา...” สนกลับมาพูดเสียงเบาอีกครั้ง “ถึงนาจะห้ามหรือกักขังพี่ไว้ยังไง ใจของพี่ก็อยู่ที่ต้น ถ้านาคิดว่าเราจะอยู่กันไปแบบนี้ อยากจะดันทุรังสภาพอย่างนี้ต่อไป นาก็จะได้แต่ตัวพี่ นารับได้ไหมถ้าเราจะอยู่กันอย่างฝืนใจ” สนถามพลางมองหน้าภรรยา “สำหรับลูก เขาเกิดมาแล้วเราก็ต้องดูแลและรักเขาให้มากที่สุด” สนหยุดเว้นจังหวะ “พี่รู้ว่าพี่ผิด พี่รู้ว่าพี่ทำไม่ดี พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง นาจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้ จะประณามพี่ จะบอกคนทั้งโลกก็ได้ว่าพี่เป็นคนเลว พี่ยอมทุกอย่าง แต่ไม่ว่าจะยังไง หัวใจของพี่ก็อยู่ที่ต้น พี่ก็ยังรักต้นเหมือนเดิม” สนพูดพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว

“พี่สน” นาพูดเสียงสั่น ถึงเธอจะเข้าใจสิ่งที่สนพูด แต่เธอก็ยังต้องการที่จะเอาชนะอยู่ดี “ก็คอยดูละกัน” พูดแล้วนาก็เดินสะบัดหน้าหนีเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูดังปัง

สนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะผ่านชีวิตช่วงนี้ไปได้อย่างไรหรือจะเกิดอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นอีก แล้วเขาจะไปไหนล่ะ อย่างไรเสียวันนี้เขาก็คงอยู่ใกล้ๆ กับภรรยาไม่ได้เป็นแน่ สนจึงหยิบกุญแจรถแล้วก็ออกไปข้างนอก คงจะมีต้นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะไปหาได้อย่างสนิทใจในยามนี้
------------------------------------------------------------------------------------------------
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ต้นละจากการทำงานคอมพิวเตอร์แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา แล้วเขาก็ต้องแปลกใจเนื่องจากคนที่โทรมาเป็นคนที่เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะคุยด้วยเสียเลย ต้นรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะต้องมีเรื่องที่ไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นเสียแล้วล่ะ แต่เขาก็ต้องทำใจดีสู้เสือ

“สวัสดีครับนา” ต้นพยายามทักทายด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เสียงที่ตอบกลับมาก็ทำให้ต้นตกใจมากทีเดียว

“สะใจไหมคะ ทำครอบครัวเขาแตกแยก ไม่มีปัญญาจะหาผัวเองหรือไงถึงต้องมายุ่งกับผัวของคนอื่นเขา ไอ้เกย์โรคจิต คนวิปริตผิดเพศอย่างพวกแกสมควรจะตายๆ กันไปให้หมดซะ โลกนี้ไม่มีใครเขาต้องการคนอย่างพวกแกหรอก เป็นแบบนี้แล้วยังมาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนอีก ผัวเมียเขาอยู่กันดีๆ ก็มาทำให้เขาแตกแยกกัน แกทำอย่างนี้ทำไม หา! แกทำอย่างนี้ทำไม” นาตะโกนราวกับคนบ้าคลั่ง

“นา...นาพูดอะไรของนาน่ะ” ต้นถามด้วยอาการตกใจ เขาเริ่มใจเสียที่นาด่าเขาเหมือนรู้ว่าเขาเป็น...

“ไม่ต้องมาทำไขสือ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง เอาผัวฉันไปกกมานานแค่ไหนแล้วล่ะ” นาตวาดกลับมา

ต้นหน้าชาเหมือนมีใครมาตบหน้าเขาอย่างแรง นาด่าทอราวกับเขาเป็นนางร้ายในละครที่คอยแย่งสามีของคนอื่น

“เป็นไง พูดไม่ออกเลยใช่ไหม แล้วฉันล่ะ รู้ไหมว่าฉันเจ็บแค่ไหนที่อยู่ดีๆ เพื่อนรักของผัวก็ดันกลายเป็นคู่เกย์กัน รู้ไหมว่าฉันเจ็บแค่ไหน หา! ไอ้เกย์โรคจิต คนอย่างพวกแกอยู่ไปก็รกโลก ไปตายเสียไป๊ ไอ้ลักเพศ” นาด่าพลางร้องให้สะอึกสะอื้น เธอไม่มีอะไรที่จะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเธอไม่ได้ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะได้อยู่อย่างมีความสุขเลย

เสียงตวาดแว้ดและถ้อยคำด่าทอต่างๆ ทำให้ต้นเจ็บไปถึงหัวใจเลยทีเดียว เขาตัดสินใจปิดการสนทนาและปิดเครื่องโทรศัพท์ เอามือปิดหน้าแล้วก็ร้องให้ด้วยความเสียใจ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครมาด่าเขาแบบนี้เลย เขาไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทั้งๆ ที่ก็พยายามระวังตัวมาตลอด พยายามหักห้ามใจไม่ให้ความสัมพันธ์ของเขากับสนเตลิดไปไกลแม้ว่าจะมีโอกาส พยายามที่จะเตือนสติเพื่อนให้กลับมาสนใจดูแลครอบครัว เขาไม่เคยคิดที่จะแย่งสนมาเลย แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก เพราะฉะนั้น เมื่อเหตุการณ์เลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ต้นคงไม่มีทางเลือกอะไรมากกว่า...ความเด็ดขาด ต้นคงต้องบอกสนไปตามตรงแล้วว่าไม่ให้มาเขาอีกจนกว่า...แค่คิดต้นก็เจ็บปวดร้อยเท่าพันทวี

ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ต้นพอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นสน เขาคงจะทะเลาะกันกับภรรยาของเขามาอย่างแน่นอน ต้นเดินไปเปิดประตู รวบรวมกำลังใจทุกอย่างเท่าที่พอจะมีอยู่ตอนนี้เพื่อให้เขาเข้มแข็งมากพอที่จะทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำได้

“สน นี่มันเกิดอะไรขึ้น เราเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าให้กลับไปดูแลครอบครัวของนายให้ดี ทำไมนายถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น นายไม่ควรจะทำอย่างนี้นะสน นาเขาเป็นเมียนาย ที่สำคัญ...เขากำลังจะมีลูกกับนาย นายต้องดูแลเขา” นั่นคือสิ่งแรกที่ต้นทักทายกับเพื่อน

สนแทบจะตั้งตัวไม่ทันเพราะเพิ่งทะเลาะกับภรรยามา พอมาหาเพื่อนก็กลับถูกต่อว่าซ้ำอีก แล้วต้นรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร หรือว่านาจะโทรมาต่อว่าต้น

“นายฟังเราก่อนได้ไหมต้น” สนขอร้อง

“พอเถอะสน เราไม่อยากทำให้ครอบครัวของใครต้องแตกแยก เราขอร้องล่ะ ช่วงนี้ เราอย่าเจอกันสักพักจะดีกว่า เราขอให้นายกลับไปอยู่กับครอบครัว สางปัญหาทั้งหมด ปรับความเข้าใจกัน นายกำลังจะมีลูก ไม่ต้องสนใจเรา นายกลับไปเดี๋ยวนี้เลย” ต้นยกมือปาดน้ำตาที่รินไหล รู้สึกเจ็บราวกับจะขาดใจเพราะเขาไม่เคยต่อว่าเพื่อนรุนแรงขนาดนี้มาก่อน เขารู้ว่าสนคงเจ็บไม่น้อย แต่ถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ สนก็จะยิ่งหนีปัญหาไปเรื่อยๆ

สนมองหน้าเพื่อนอย่างตกตะลึง เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าเพื่อนและคนที่เขารักจะขับไสไล่ส่งเขาอย่างไม่ปราณีปราศรัยได้ถึงขนาดนี้ “นายพูดอะไรออกมารู้ตัวไหมต้น” สนพูดเสียงเครือพร้อมกับน้ำตาคลอ สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดในหัวใจอย่างที่ต้นไม่เคยเห็นมาก่อน

ต่างคนต่างเงียบ มองหน้ากัน แล้วสนก็ตัดสินใจหันหลังเดินกลับไปอย่างช้าๆ แล้วก็เร่งฝีเท้าขึ้น ต้นปิดประตูแล้วก็ทรุดตัวลงนั่งพิงกับประตู ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น สงสารเพื่อนก็สงสารเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่มันดีกว่านี้ ในใจรู้สึกกลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะทำให้เขาต้องเสียเพื่อนและคนที่เขารักไป สนจะรับได้ไหมที่เขาขับไสไล่ส่งเพื่อนแบบนั้น คงไม่...ถ้าเป็นต้น ต้นก็คงเจ็บและไม่กล้ากลับมาสู้หน้ากันอีกเลย คิดแล้วต้นก็ใจหาย เจ็บปวดจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร นี่เขาทำอะไรลงไป มิตรภาพตลอดระยะเวลา 17 ปีจะต้องมาพังลงแล้วหรือ ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาเป็นคนที่ทำให้มันพังเสียเอง ต้นได้แต่ขอโทษเพื่อนอยู่ในใจ อารมณ์ชั่ววูบทำให้ต้นคิดถึงแต่ตัวเองมากเกินไปจนลืมคิดถึงจิตใจและความรู้สึกของเพื่อน

ต้นลุกขึ้น เปิดประตูออกไปมองข้างนอกเผื่อว่าสนจะยังอยู่ในระยะที่พอมองเห็น แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสน ใจหนึ่งต้นก็อยากจะวิ่งลงไปตามเพื่อน แต่อีกใจหนึ่งก็แย้งว่าเขาควรต้องใจแข็งเข้าไว้ ปล่อยให้สนได้เรียนรู้อะไรเสียบ้างจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าเขามัวแต่สงสารเพื่อน แทนที่จะช่วยก็อาจกลายเป็นทำร้ายและทำให้ปัญหามันยิ่งยุ่งยากมากขึ้น ต้นจึงตัดสินใจปิดประตูห้อง ปิดคอมพิวเตอร์แล้วก็เข้าไปในห้องนอน คืนนี้คงจะผ่านไปอย่างยากลำบากทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าแล้ว ต้นตื่นนอนอย่างไม่สดชื่นนักเพราะกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเขาก็แต่งตัวออกไปทำงานเหมือนเช่นเคย

ต้นหยิบสัมภาระที่จำเป็นต่างๆ แล้วก็เปิดประตูห้องออกไป กำลังจะล็อกห้อง สายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนนั่งหลับคอตกอยู่ข้างประตู

“สน” ต้นร้องอุทานด้วยความแปลกใจและตกใจ สนมานั่งหลับอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ ต้นเห็นสภาพของเพื่อนรักแล้วก็ได้แต่สงสาร เขาย่อตัวลงแล้วก็เขย่าตัวสนเบาๆ สองสามครั้ง

สักพัก สนก็ลืมตาตื่นขึ้น เขาปรับสายตาอยู่สักพักพร้อมกับขยับตัว พอสติสัมปชัญญะทุกอย่างกลับคืน สิ่งแรกที่สนทำก็คือพยายามยิ้มให้เพื่อน “ต้น...เราไม่รู้จะไปไหน ตอนนี้เราเหนื่อยมากเลย ให้เราอยู่ที่นี่กับนายได้ไหม” สนดึงมือเพื่อนมากุมไว้แล้วพูดต่อว่า “นะต้น...นายอย่าขับไสไล่ส่งเราไปไหนอีกเลย”

พอเพื่อนพูดจบต้นก็น้ำตาไหลพรากด้วยความสงสารระคนรู้สึกผิด ความรู้สึกขุ่นเคืองทั้งหลายเมื่อคืนนี้หายไปจนหมดสิ้น “เราขอโทษ...สน” ต้นพูดด้วยเสียงสั่นเครือ พอเห็นสนกลับมาหาเขาแล้วก็รู้สึกโล่งใจ เขากังวลทั้งคืนว่าสนจะไม่กลับมาอีก เขากลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียเพื่อนที่รักไป แต่สุดท้ายสนก็กลับมา ต้นดีใจเหลือเกิน ต่อไปนี้เขาจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว

“ทำไมนายตัวร้อนๆ ล่ะสน นายไม่สบายหรือเปล่า” ต้นรู้สึกได้เพราะมือของสนอุ่นผิดปกติ ต้นเอามือแตะหน้าผากเพื่อนแล้วก็อุทานว่า “นี่นายเป็นไข้นี่นา”

สนพยักหน้าเล็กน้อย “อืม...สงสัยจะใช่”

“เข้าไปในห้องก่อนดีกว่านะ นายลุกไหวไหม” ต้นถามอย่างเป็นห่วง

สนไม่ตอบแต่ยื่นมือมาจับมือต้นไว้ “ช่วยเราหน่อยนะ” สนทำเสียงอ้อน เวลาไม่สบายสนมักจะเป็นแบบนี้ แต่เขาจะเป็นเฉพาะกับต้นเท่านั้น

ต้นยิ้มขำเล็กน้อย เขาลุกขึ้นแล้วก็ดึงสนลุกขึ้นตาม

“นายนอนพักก่อนนะ เดี๋ยวเราช่วยเช็ดตัวให้” ต้นบอกขณะพาสนเดินเข้ามาในห้องนอน “สงสัยนายจะไม่ได้อาบน้ำมาทั้งคืนแน่ๆ เลย ตัวเหม็นเชียว” ต้นว่าพลางขำ สนก็ขำตามไปด้วย

สนนั่งลงกับเตียง ถอดเสื้อกับกางเกงออกเหลือแต่บ็อกเซอร์กับกางเกงใน เขาชอบใส่ทั้งสองอย่างด้วยกันเพราะจะได้ไม่รู้สึกโล่งจนเกินไป ต้นเดินไปเตรียมผ้าเช็ดตัวกับน้ำมาให้เพื่อน เก็บเสื้อผ้าที่สนถอดกองไว้ไปเก็บใส่ตะกร้าให้ จากนั้นก็เตรียมเสื้อกางเกงที่ใส่สบายๆ มาวางไว้ให้บนเตียง สนคอยมองตามพลางยิ้มละไมอย่างชื่นชม

ต้นหยิบผ้าเช็ดตัวชุบน้ำแล้วก็ช่วยเช็ดตัวให้เพื่อน เริ่มเช็ดใบหน้าก่อนแล้วจึงค่อยๆ ไล่ลงมาที่คอ แขน ลำตัวและขา

“ไม่สบายก็ดีเหมือนกันนะ เราชอบเวลาที่นายมาดูแลเรา” สนพูดติดตลกหลังจากที่เพื่อนเช็ดตัวให้เสร็จแล้ว

ต้นยิ้มแล้วก็หยิบเสื้อผ้าที่เขาเตรียมมายื่นให้

สนรับเสื้อมาอย่างเดียวแล้วก็ใส่ “เราใส่บ็อกเซอร์นอนก็ได้ ไม่เอาอันนี้”

ต้นอดขำท่าทางอ้อนเหมือนเด็กของเพื่อนไม่ได้ สองหนุ่มยิ้มให้กันอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าตอนนี้จะมีเรื่องราวร้ายๆ รออยู่ แต่ก็คงต้องพักเอาไว้ชั่วคราว

ต้นเอากางเกงไปเก็บแล้วก็เดินมาบอกเพื่อนว่า “เดี๋ยวเราจะออกไปซื้ออะไรมาให้นายกินนะ นายจะได้กินยาแล้วก็นอน แต่ว่าตอนเช้าเราจะต้องไปทำงานก่อน พอดีมีธุระด่วนที่ต้องทำ แล้วตอนบ่ายๆ เราจะกลับเข้ามานะ ถ้านายยังไม่หาย เราว่าจะลางานสักวันสองวัน ดีไหม”

สนพยักหน้าพลางยิ้มอย่างดีใจ “เราจะรอนะ”

“อ้อ นายอย่าลืมโทรไปลางานที่ทำงานด้วยล่ะ” ต้นบอกก่อนจะเดินออกไป

“ครับ...ขอบคุณที่ช่วยเตือนครับ” สนว่าพลางขำ แล้วก็ขยับตัวลงนอน

ต้นหันกลับมามองเพื่อนอย่างแปลกใจ ปกติสนจะไม่พูด “ครับ” หรือ “ผม” กับเขาเลย วันนี้ทำไมพูดแปลกๆ

“ต้น...นายมานี่แป๊บนึงสิ” สนเรียกก่อนที่ต้นจะเดินออกไปจากห้อง

ต้นเดินกลับมาหาเพื่อนแล้วก็ย่อตัวลงนั่งข้างๆ เตียง

สนจับมือต้นมากุมไว้ ยิ้มแล้วบอกเพื่อนว่า “ขอบใจนายมากนะต้นที่นายไม่ทิ้งเรา ตอนนี้ เราอาจจะทำอะไรผิดพลาดหลายอย่าง คนทั้งโลกอาจจะด่าประณามเรา แต่เราขอนะต้น” สนหยุดแล้วสบตาเพื่อน “เราขอแค่นายคนเดียวที่เข้าใจเรา ได้ไหมต้น”

ต้นพยักหน้าแล้วตอบทันทีโดยไม่ลังเลใจว่า “ได้อยู่แล้ว...อย่างน้อย นายก็เป็นเพื่อนที่เรารัก แม้ว่าความสัมพันธ์แบบอื่นจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อนของเรายิ่งใหญ่และสำคัญกว่าทุกอย่าง นายไม่ต้องห่วงนะสน ต่อไปนี้จะไม่มีเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนเกิดขึ้นอีก เราสัญญา”

สองหนุ่มยิ้มให้กันอย่างมีความหมาย สนเริ่มได้คิด ถ้าอะไรต่อมิอะไรมันยุ่งยากและเป็นไปไม่ได้จริงๆ หรือแม้ว่าวันนี้ความรู้สึกของทั้งสองคนจะเตลิดมาไกลแล้ว แต่อย่างน้อย มิตรภาพความเป็นเพื่อนของทั้งสองคนก็ยังอยู่ เป็นความรักที่บริสุทธิ์และจะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บแบบนี้อีก ที่สำคัญ ถ้าความรักมันไปต่อไม่ได้ การกลับมาตั้งต้นที่การเป็นเพื่อนกันก็จะไม่ทำให้ต้องเจ็บมาก

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.