We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค"
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 09-Apr-12 at 07:06 PM
เรื่องใหม่เขียนเสร็จแล้วครับ เป็นงานเขียนอีกรูปแบบหนึ่งของผมคือเป็นกลอนล้วนๆ งานเขียนของผมแต่ละเรื่องใช้เวลาเขียนเป็นปีๆถึงหลายปีครับ เพราะต้องตรวจทานและแก้ไขความถูกต้องของต้นฉบับนานมาก งานก็เลยช้าแต่รับรองว่าสนุกครับ พอผมโพสต์เรื่องเก่าทั้ง 6 เรื่องจบแล้วจะเอาเรื่องใหม่มาโพสต์ต่อนะครับ
.......................................

ตอนที่ 5

" แถว.. หยุด ! "
ผมและเพื่อนๆ หยุดวิ่งทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งนี้ และรีบจัดแถว ขณะนี้เราวิ่งมาถึงสถานีการฝึกสงครามพิเศษแล้ว คือ สถานี " การดำรงชีพในป่า " มีป้ายขนาดใหญ่พอสมควรเขียนชื่อสถานีนี้ติดอยู่ด้านหน้า ครูฝึกประจำสถานีสั่งให้ทุกคนนั่ง แล้วก็เริ่มต้นบรรยาย การดำรงชีพในป่านี้ ผมเคยเรียนมาแล้วเมื่อตอนฝึกภาคสนามปี 3 แต่ตอนนั้นผมไม่ค่อยตั้งใจเรียน เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง ปีนี้ผมโตขึ้น รู้สึกสนใจในวิชาความรู้ทางทหารมากขึ้นกว่าเดิม ก็เลยนั่งฟังอย่างตั้งใจ ผิดกับเพื่อนๆ หลายคนที่นั่งฟังอย่างเสียไม่ได้ หลายคนแอบนั่งหลับก็มี แม้แต่ไอ้บอมและไอ้ธีระก็นั่งเหม่อลอย ไม่รู้พวกมันกำลังคิดอะไรกันอยู่ ครูฝึกก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงบรรยายต่อไปเรื่อยๆ
ที่สถานีนี้ ผมได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูผลไม้และพืชว่าชนิดไหนกินได้ หรือกินไม่ได้ โดยอาศัยหลักการต่างๆ เช่น การสอบถามชาวบ้าน หรืออาจจะลองชิมดูเลย โดยครั้งแรกให้ชิมทีละน้อยๆ แค่นิดเดียวก่อน ถ้ารู้สึกว่าฝาด หรือมีอะไรผิดปกติ ต้องทิ้งทันที ห้ามกินต่อ ไม่งั้นอาจตายได้ แต่ถ้าชิมแล้วไม่รู้สึกอะไรก็ลองชิมใหม่ คราวนี้ชิมในปริมาณที่มากกว่าเดิม และมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแน่ใจว่า มันกินได้ หรืออาจจะใช้การสังเกตุสัตว์ป่าบางชนิด เช่น ลิง ถ้าลิงกินอะไรได้ แสดงว่าคนก็กินได้
มีการบรรยายเรื่องงูชนิดต่างๆ พร้อมกับเอางูที่สต๊าฟไว้แล้วให้พวกเราดูด้วย เท่าที่เห็นก็มี งูสามเหลี่ยม งูแมวเซา และงูเขียวหางไหม้ ครูฝึกบอกว่าที่นี่มีงูเยอะ โดยเฉพาะงูเห่าและงูจงอาง มีงูเห่าพ่นพิษด้วย ถ้าโดนพ่นพิษเข้าตาจะทำให้ตาบอด อันตรายมากๆ งูที่กล่าวมาทั้งหมดมีพิษทั้งนั้น
ครูฝึกยังบรรยายความรู้ในการดำรงชีพในป่าอีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องต้นไม้มีพิษอย่างต้นซาก ซึ่งคล้ายกับต้นสะเดามาก ถ้าคนกินเข้าไปอาจจะตายได้ และยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมาก แต่ผมจำได้ไม่หมด ไม่นานการบรรยายก็จบลง ครูฝึกคนใหม่ก็เข้ามาบรรยายต่อ

ต่อไปเป็นเรื่องการใช้แผนที่เข็มทิศ เราต้องเรียนทฤษฎีกันก่อนแล้วค่อยปฏิบัติจริง เข็มทิศของทหารมีชื่อว่า " เข็มทิศเล็นเซติก " ไม่เหมือนเข็มทิศที่พวกเราเคยใช้กันอยู่ เข็มทิศที่พวกเราใช้จะเป็นตลับกลมๆ แบนๆ มีเข็มทิศที่ชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ แต่เข็มทิศเล็นเซติกจะดีกว่านี้ คือ มีฝาตลับที่สามารถเปิด ปิดได้เพื่อป้องกันการชำรุดและเสียหาย
ส่วนประกอบของเข็มทิศมีอยู่ 3 ส่วน คือ (1) ฝาตลับเข็มทิศ (2) เรือนเข็มทิศ ซึ่งประกอบด้วยกรอบหน้าปัดเข็มทิศ หน้าปัดเข็มทิศกลมๆ มีลูกศรพรายน้ำชี้ไปทางทิศเหนือ และมีมาตราวัดมุม 2 ชนิด คือ องศา และ มิลเลียม เข็มทิศนี้สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะมีพรายน้ำช่วยทำให้ เกิดความสว่างอยู่ในเรือนเข็มทิศ (3) มีช่องเล็งไว้เพื่อเล็งไปยังที่หมาย และมีแว่นขยายไว้สำหรับอ่านมาตรามุมทั้งแบบองศา และ มิลเลียม หน่วยมิลเลียมจะละเอียดกว่าหน่วยองศามาก จึงเป็นที่นิยมในแวดวงทหารในการหาพิกัดที่แน่นอน ชัดเจน เพราะในการหาพิกัดจะคลาดเคลื่อนไม่ได้
ครูฝึกยังสอนให้แต่ละหมู่หัดใช้เข็มทิศวัดมุมบนแผนที่ การวัดมุมบนแผนที่นี้ค่อนข้างยาก เพราะพวกเรายังไม่คุ้นเคยกับการใช้เข็มทิศเล็นเซติกเท่าไหร่ แต่ก็พยายามวัดกันอย่างสุดความสามารถ วัดมุมบนแผนที่เสร็จแล้วก็ต้องวัดมุมสำหรับการเดินเองอีก การวัดมุมแบบนี้เรียกว่า " การเล็งประณีต " วิธีทำก็ยกเข็มทิศขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา ยกก้านเล็งให้ทำมุม 45 องศา แล้วเล็งผ่านช่องเล็งตรงไปยังเส้นเล็งและที่หมาย พร้อมกับมองที่แว่นขยายเพื่ออ่านมุมไปด้วย
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ฝึกวัดมุมบนแผนที่ และวัดมุมแบบเล็งประณีตจนพอทำได้ แล้วครูฝึกก็ให้ฝึกใช้เข็มทิศดู โดยเขาบอกพิกัดมาให้ 6 ตัว แล้วให้พวกเราเปิดแผนที่ วัดมุมบนแผนที่ แล้วก็ใช้เข็มทิศวัดมุมแบบเล็งประณีต เดินไปตามทิศนั้นๆ เอง ถ้าไปถูกทิศจะเจอหลักเสาซีเมนต์ จับเวลาด้วย ใครหาหลักเสาซีเมนต์ได้ไม่ครบจะถูกทำโทษ
พอครูฝึกเริ่มจับเวลา ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ก็รีบวัดมุมจากแผนที่ทันที ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่พยายามที่จะอ่านมุมจากเข็มทิศ แต่ดูเหมือนมันจะยังงงๆ อยู่ ไอ้ปกป้องเลยอ่านแทน ดูไอ้ปกป้องจะชำนาญเรื่องการอ่านแผนที่พอสมควร พอเราอ่านมุมจากแผนที่เสร็จแล้ว ก็ต้องวัดมุมสำหรับเดินเอง ไอ้ปกป้องขออาสาทำเอง
" เดี๋ยวต้องเดินไปทางทิศเหนือว่ะ แล้วเดี๋ยวไปถึงตรงนั้นต้องวัดมุมอีกที เพราะกูไม่รู้ว่ามันจะเดินตรงๆ ได้ตลอดหรือเปล่า วัดจากแผนที่นี่ มันเดินตรงได้ไม่ตลอดว่ะ เส้นทางมันมีเฉียงเป็นมุม 45 องศาด้วย "
ไอ้สันติฟังแล้วก็พูดออกมาด้วยความทึ่ง
" โห ป้อง มึงนี่เชี่ยวชาญแผนที่เข็มทิศจริงๆ ว่ะ ไปเรียนมาจากไหนวะ ขนาดกูเป็นหัวหน้าหมู่ กูยังไม่รู้เรื่องเลย ไอ้แผนที่เข็มทิศเนี่ย แม่งอะไรก็ไม่รู้ วัดมุมยากชิบหาย "
ไอ้ธีระพูดขึ้นมาบ้าง
" นั่นสิ มึงเก่งดีว่ะ บอกหน่อยมึงไปฝึกใช้มาจากไหนถึงได้ชำนาญจัง "
ไอ้ปกป้องยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ
" พ่อกูเป็นทหารว่ะ เคยสอนกูอ่านแผนที่และใช้เข็มทิศบ่อยๆ กูก็เลยใช้คล่อง แต่พวกมึงอย่าเชื่อกูมากนักเลย กูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากูจะทำถูกมั๊ย แผนที่อันนี้แม่งไม่เหมือนกับที่กูเคยใช้ว่ะ ละเอียดโคตรๆ พิกัดแต่ละตัวก็ยุ่งยากจริงๆ ถ้ากูพาพวกมึงไปผิดทางก็อย่าว่ากูนะ "
" ไม่มีใครว่ามึงหรอก ห่า อย่างน้อยหมู่เรามีคนที่เก่งแผนที่เข็มทิศแบบมึงคนเดียว ก็พอแล้ว นำทางให้พวกกูได้ ถึงว่าสิ ที่แท้พ่อมึงเป็นทหารนี่เอง ถึงได้มีพื้นฐานเรื่องนี้ นับถือๆ ว่ะ "
ไอ้บอมพูด เพื่อนคนอื่นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอ้บอม ผมรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า
" แต่กูว่าตอนนี้ เราออกเดินกันดีกว่าว่ะ ไปช้า หาเสาไม่เจอ จะโดนทำโทษนะเว้ย "
ไอ้สันติได้ยินผมพูด ก็รีบพูดเร็วปรื๋อ
" เออ จริงอย่างที่หนุ่มบอกว่ะ ออกเดินกันดีกว่า เสียเวลามามากแล้ว ไอ้ป้อง มึงเชี่ยวที่สุด กูให้มึงเดินนำหน้าเลย นำพวกกูไปให้ถูกทางล่ะ ไปสัด ไปกันเหอะ "
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่จึงเริ่มต้นออกเดินไปตามทิศที่ไอ้ปกป้องบอก โดยมีไอ้ปกป้องเดินนำหน้า มือก็ยกเข็มทิศขึ้นมาเล็งประณีตไปด้วย
..............................
หมู่ ของผมเดินไปทางทิศเหนือเรื่อยๆ ยิ่งเดินสภาพป่าก็ยิ่งรกชัฏมากขึ้น จนมาเจอกับดงหนามขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า เดินต่อไปไม่ได้อีก ไอ้ปกป้องมองแล้วก็พูดด้วยความแปลกใจ
" เฮ้ย ทำไมเจอดงหนามวะเนี่ย แล้วจะเดินต่อได้ยังไงวะ "
ไอ้ธีระพูดช้าๆ
" ครูฝึกเขาให้พวกเราหาวิธีฝ่าดงหนามไปเองรึเปล่าวะ "
ไอ้บอมรีบสอดขึ้นมา
" กูว่าไม่ว่ะ หนามขึ้นเต็มพื้นที่ขนาดนี้ ยังไงก็ผ่านไปไม่ได้ กูว่าเรามาผิดทางแล้วว่ะ "
ไอ้ปกป้องมองหน้าไอ้บอม แล้วพูดอย่างใช้ความคิด
" งั้นเหรอวะ เออ อาจจะมาผิดทางจริงๆ แหละ ว่าแต่จะไปทางไหนต่อดีล่ะ มันไม่มีทางไปแล้วนะโว้ย หนามรายรอบเต็มไปหมดเลย ไม่งั้นก็ต้องเดินกลับทางเก่า "
ผมฟังไอ้ปกป้องพูดแล้วก็โพล่งออกมา
" กลับทางเก่าไม่ได้หรอกว่ะ ยังไงเราก็ต้องเดินต่อเพื่อหาหลักเสาซีเมนต์ให้ได้ มันต้องมีวิธีฝ่าดงหนามเหี้ยนี่ไปซิวะ มันต้องมีทางไปต่อ เชื่อกูสิ "
เพื่อนๆ ในหมู่ต่างเดินไปเดินมาและพยายามหาทางที่จะไปต่อ ก็พอดีได้ยินเสียงไอ้ธีระตะโกนขึ้นมาว่า
" เฮ้ย พวกเราๆๆ ทางนี้เว้ย ทางนี้ มีทางให้ไปได้ว่ะ "
ทุกคนรีบวิ่งมาหาไอ้ธีระ ตรงที่ไอ้ธีระยืนมีทางไปจริงๆ แต่เป็นทางแคบๆ มีสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นหนาแน่นไปหมด แต่ก็พอฝ่าได้ ไอ้สันติยิ้มแล้วพูดว่า
" เจ๋งมาก ไอ้ระ ไป พวกเราไปทางนี้แหละ ทางแคบว่ะ เดินเรียงหนึ่งละกัน ไป ไอ้ป้อง มึงนำไปเลย "
ไอ้ปกป้องเดินนำแถวไปก่อน เพื่อนคนอื่นๆ เดินตามมาเป็นพรวน ทางตรงนี้เดินยากมาก มีแต่ต้นไม่ขึ้นรกทึบไปหมด พื้นที่ก็เต็มไปด้วยหินทรายและใบไม้แห้งๆ เหยียบแล้วจะเกิดเสียงดังกรอบแกรบๆ ผมเดินตามไอ้บอมไปช้าๆ คอยระวังไม่ให้เถาวัลย์เกี่ยวหน้า อากาศตอนนี้ร้อนอบอ้าวมากๆ คอผมแห้งผาก ขาก็เมื่อยน่าดู แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อไป
ไม่นานพวกเราก็เดินฝ่าป่ารกทึบมาได้สำเร็จ ป่าเริ่มโปร่งขึ้น และเจอหลักเสาซีเมนต์ต้นที่ 1 อยู่ตรงหน้า ทุกคนในหมู่ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เจอซะที ไอ้สันติเดินเข้ามาตบไหล่ไอ้ปกป้องแล้วชมว่า
" เจ๋งว่ะ เพื่อนกู มึงพาพวกกูมาถูกทางจริงๆ เหลืออีก 2 เสา พาไปให้ถูกนะเว้ย ชีวิตของพวกกูฝากไว้กับมึงคนเดียวนะ "
ไอ้ปกป้องยิ้มรับคำชม แล้วกางแผนที่ออกอีกครั้งหนึ่ง หยิบเข็มทิศขึ้นมาวัดมุม เพื่อนๆ ในหมู่เข้ามามุงรอบไอ้ปกป้อง ไอ้ปกป้องวัดมุมไปซักพักแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูดกับเพื่อนๆ
" คราวนี้กูไม่รู้แล้วว่ะ ว่าจะไปทิศไหน "
เพื่อนๆ ทุกคนร้อง เฮ้ย ! ด้วยความตกใจ ไอ้โต้งตะโกนใส่ไอ้ปกป้องด้วยเสียงอันดัง
" อ้าวเฮ้ย ไหงอย่างงี้วะ ไหนมึงบอกมึงเก่งเรื่องนี้ไง แล้วทำไมอันนี้ถึงบอกไม่รู้ล่ะ อันแรกมึงยังรู้เลย อันนี้มึงก็ต้องรู้สิวะ ลองวัดใหม่ซิ ไอ้เหี้ย "
" ก็กูไม่รู้นี่ว่าตรงที่เรายืนอยู่ตรงนี้มันอยู่ที่พิกัดไหนในแผนที่ เราเดินมั่วกันมาจนมาถึงเสาแรกนี้ได้ เราไม่ได้เดินตามแผนที่ เพราะงั้นตอนนี้กูถึงไม่รู้แล้วว่าจะไปต่อทางไหนดี "
" ไอ้เหี้ยเอ๊ย แล้วเสือกบอกว่าใช้คล่อง แล้วทีนี้เราจะทำไงต่อดีวะเนี่ย "
ไอ้โต้งบ่น ผมพูดขึ้นมาบ้าง
" ไหนขอกูกับไอ้บอมลองทำหน่อยซิ เผื่อจะหาทางไปได้ "
ไอ้ปกป้องยื่นเข็มทิศให้ผม และแผนที่ให้ไอ้บอม เรา 2 คนช่วยกันดูแผนที่และวัดมุมอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ สุดท้ายผมจึงตัดสินใจพูดออกมาว่า
" กูว่าเดินไปตามทิศเหนือต่อเหอะ เสาหลักซีเมนต์หลักที่ 2 คงอยู่ไม่ไกลจากเสาแรกเท่าไหร่ ลองเดินไปดูกันเหอะ "
ไอ้โต้งหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น แล้วมันก็พูดเย้ยผม
" โอ๊ย เชื่อมัน เดี๋ยวก็หลงทางหรอก ขนาดไอ้ป้องที่เก่งๆ ตอนนี้มันยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเลย นับประสาอะไรกับคนโง่ๆ ที่ไม่รู้เรื่องแผนที่ อย่างไอ้หนุ่ม "
ผมจ้องหน้าไอ้โต้ง ใบหน้าผมแดงก่ำด้วยความโกรธผสมเหนื่อย กำหมัดแน่น แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเนื่องจากผมเรียนรู้ที่จะหุบปากเงียบเวลาโดนคน อื่นด่า ไม่โต้ตอบ ไม่ใช้กำลัง จะได้ไม่มีเรื่อง ผมเพียงแต่แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า และแววตาเท่านั้น
ไอ้บอมเห็นท่าไม่ดี เลยรีบพูดตัดบท
" เอาน่า เอาน่า อะไรของมึงวะ ไอ้โต้งมึงอย่าปากหมาให้มันมากนักเลย ไปดูถูกไอ้หนุ่มมันทำไม ตัวมึงฉลาดนักรึไงไอ้ห่า ตอนนี้เราต้องหาทางไปให้ถึงเสาหลักซีเมนต์ก่อน เรื่องอื่นค่อยเคลียร์กันทีหลัง เอ้า ไปกันเหอะมึง "
หมู่ของผมออกเดินต่อ ไอ้ปกป้องเดินนำหน้า ผมรีบเดินตามหลังไอ้บอมไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ไอ้โต้งเดินรั้งท้ายตามหลังไอ้โรจน์เหมือนเดิม ผมรู้สึกเกลียดไอ้โต้งขึ้นมาทันที คนอะไรวะ พูดจาหมาไม่แดกมากๆ เกลียดปากมันจริงๆ มันไม่น่ามาอยู่หมู่เดียวกับผมเลย เสียอารมณ์ชิบหาย
" อย่าไปสนใจแม่งเลย ไอ้หนุ่ม คนมันปากหมา สันดานเหี้ยอยู่แล้ว คงจะเปลี่ยนสันดานมันยาก อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์เลย ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า เพื่อนคนอื่นที่นิสัยดี น่าคบ ยังมีอีกเยอะ ปล่อยแม่งไป "
ไอ้บอมปลอบผมขณะที่เดินอยู่ ผมยิ้มแห้งๆ ไม่ได้ตอบอะไรเพราะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเริ่มรู้สึกปวดขาขึ้นมาแล้วเนื่องจากเดินมานานเป็นชั่วโมงๆ ยังไม่ได้นั่งพักเลย มันทรมานเหลือเกิน
ไม่นาน ไอ้ปกป้องคนหัวแถวก็หยุดเดิน แล้วตะโกนลั่น
" สัดเอ๊ย เจอดงหนามอีกแล้วว่ะ "
เพื่อนที่เหลือรีบวิ่งมาด้านหน้า ภาพที่ทุกคนเห็นคือ ดงหนามขนาดใหญ่กว่าเดิม ขึ้นเป็นวงกว้าง แถมยังมีสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นหนาแน่นจนดูรกทึบไปหมด ไม่มีทางจะเดินต่อไปแน่ๆ ทุกคนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดินอย่างอ่อนใจ ไอ้สันติพูดเนือยๆ อย่างอ่อนแรง
" แล้วคราวนี้จะไปทางไหนดีล่ะวะ กูไม่เข้าใจว่าทำไมไปทางไหนก็เจอแต่หนาม หนาม แล้วก็หนาม แม่งเอ๊ย จะทำไงดีวะเนี่ย "
ไอ้ธีระพยายามเดินไปทางโน้นที ทางนี้ที เพื่อหาทางไปแบบเดียวกับเมื่อกี้ แต่ไม่นานมันก็เดินกลับมานั่งจ่อมอยู่ข้างๆ ไอ้บอมอย่างหมดแรง ไอ้ปกป้องเห็นไอ้ธีระกลับมาจึงเอ่ยปากถาม
" ไง ระ พอจะเจอทางลัดอีกมั๊ยวะ "
ไอ้ธีระส่ายหน้าก่อนจะตอบเสียงแหบ
" ไม่เจอเลยว่ะ รอบๆ นี่มีแต่หนามล้วนๆ เลย แค่ทำตัวลีบเดินผ่านไปยังไม่ได้เลย หนามมันขึ้นหนาแน่นจริงๆ ขืนผ่านไปล่ะโดนหนามแทงตายห่ากันหมดแน่ กูว่าเรามาผิดทางจริงๆ แล้วว่ะ ตรงนี้มันไปต่อไม่ได้แน่ๆ คงต้องกลับทางเก่าแล้วว่ะ "
ไอ้ปกป้องทำหน้าเหี่ยว พลางหยิบกระติกน้ำขึ้นมากรอกน้ำใส่ปากเพื่อดับกระหาย ผมก็ทำแบบเดียวกับไอ้ปกป้อง เพื่อนๆ ทุกคนนั่งพักดื่มน้ำอย่างหมดแรง ซักพักไอ้บอมก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดเสียงดัง
" กูว่านะ มันต้องมีทางไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งล่ะ มันไม่อับจนหนทางถึงขนาดต้องเดินกลับทางเก่าหรอกว่ะ เขาให้หาเสาหลักซีเมนต์ ถ้าเดินกลับทางเก่ามันจะไปเจอได้ไงวะ จริงมั๊ย กูเชื่อว่ามันมีทางไป แต่พวกเราอาจจะยังหาไม่ละเอียดเอง เดี๋ยวกูจะลองหาดู "
" เออ ตามสบาย อยากหาก็หาไป แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็กลับทางเก่ากันนะ เสาห่าไรไม่ต้องหามันแล้ว แม่ง เหนื่อยว่ะ "
ไอ้สันติพูด ไอ้บอมเดินออกไปดูบริเวณรอบๆ ผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ไอ้สันติตบไหล่มันเบาๆ แล้วปลอบมัน
" อย่าเพิ่งหมดความพยายามสิวะเพื่อน ลองหาให้เต็มที่ก่อน ถ้าหาทางไปไม่เจอจริงๆ ค่อยกลับทางเก่ากัน "
ไอ้สันติมองหน้าผม แล้วตบไหล่ผมตอบ
" โอเคเพื่อนหนุ่ม งั้นกูจะไปช่วยไอ้บอมมันหาด้วยละกัน ให้มันหาคนเดียวเหนื่อยแย่ มึงไปกับกูมั๊ย "
ผมพยักหน้า ไอ้สันติกับผมจึงลุกขึ้นจะเดินไปหาไอ้บอม หวังที่จะช่วยหาทางด้วย จู่ๆ ไอ้บอมก็ร้องตะโกนขึ้นมา
" เฮ้ย พวกเรา มาดูอะไรตรงนี้สิวะ "
ผม ไอ้สันติ และเพื่อนๆ ในหมู่รีบวิ่งไปตรงที่ไอ้บอมยืนทันที ไอ้บอมชี้ไปข้างหน้ามัน ทุกคนมองตาม มันคือทางเล็กๆ เรียบๆ แคบๆ พื้นเป็นดินแห้งๆ ที่ถูกปรับแต่งให้ลาดลงอย่างมาก ไม่มีหนาม เศษใบไม้หรือสุมทุมพุ่มไม้อยู่บนทางนี้เลย จะมีก็แต่ก้อนหินก้อนกรวดก้อนเล็กๆ โรยปะปนอยู่ตามพื้นเท่านั้น ทุกคนมองทางด้วยความประหลาดใจ ผมเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมาก่อน
" นี่ล่ะ นี่ล่ะ ทางไปต่อของพวกเราล่ะว่ะ "
ไอ้บอมรีบสนับสนุนผม
" ใช่เลย ไอ้หนุ่มพูดถูก นี่แหละ เราต้องไปทางนี้ ไอ้ห่า ต้องเดินลงไปตามทางนี้แน่ๆ พวกมึงดูสิ เห็นชัดๆ เลยว่าทางนี้ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้เราลงโดยเฉพาะเลย ไม่งั้นเขาไม่ทำทางให้เรียบขนาดนี้หรอก "
ไอ้ปกป้องพยักหน้า แล้วกางแผนที่ออกดู เสร็จแล้วก็ร้องว่า
" เออ ใช่จริงๆ ด้วยว่ะ นี่เป็นทางไปต่ออย่างที่พวกมึงพูดจริงๆ นี่ไงในแผนที่นี้ก็มี น่าจะเป็นตรงกากบาทอันนี้แน่ๆ แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว 5555 "
ทุกคนต่างมุงดูแผนที่ในมือของไอ้ปกป้อง ในแผนที่ทำเครื่องหมายกากบาทเล็กๆ เอาไว้ ผมมองทางลาดนั้น แล้วก็หันมามองหน้าเพื่อนๆ ทุกคน ก่อนจะถามว่า
" ลาดขนาดนี้เดินลงไหวเหรอวะ "
" เดินไม่ไหวหรอกมึง ต้องกลิ้งลงอย่างเดียว "
ไอ้ธีระพูด ทุกคนหันมาทางไอ้ธีระ ผมรีบถามมัน
" มึงหมายความว่าไง "
ไอ้ธีระกลืนน้ำลาย แล้วชี้ให้ทุกคนมองลงไปตามทาง พลางพูดไปด้วย
" ทางมันลาดลงมากขนาดนี้ พวกมึงโดยเฉพาะไอ้บอม ที่มึงบอกว่าจะเดินลงไปน่ะ คิดว่าจะเดินลงไปได้เหรอวะ เดินลงไปมีหวังลื่นไถลลงไปทั้งตัวแน่ๆ ทางตรงนี้เขาทำไว้ให้กลิ้งโดยเฉพาะเลยว่ะ พวกมึงต้องกลิ้งแบบหินก้อนนี้เลย แบบนี้ "
ไอ้ธีระเตะก้อนหินก้อนเล็กๆ ก้อนหนึ่งลงไปตามทาง มันกลิ้งหลุนๆ ลงไปข้างล่างทันที ไอ้บอมรีบแย้งขึ้นมา
" ไอ้เหี้ย เอาจริงดิวะ จะให้กูกลิ้งลงไปจริงๆ เหรอวะเนี่ย มึงบ้าไปแล้วเหรอวะ "
" กูไม่บ้าหรอก พวกมึงต้องกลิ้งลงไปจริงๆ "
" กูไม่กลิ้ง ยังไงกูก็ไม่กลิ้ง ไอ้ห่าทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วย กูเดินลงไปแบบระวังๆ หน่อยก็ได้แล้ว ไม่เห็นต้องกลิ้งลงไปให้เจ็บตัวเลย "
" แต่ข้างล่างมีครูฝึกดักอยู่นะมึง มึงไม่กลิ้งมึงโดนเล่นนะโว้ย "
ไอ้ธีระพูดเสียงดัง ไอ้บอมพูดหน้าม่อยลงทันที
" เหรอวะ เออ งั้นกูก็ต้องกลิ้งแล้วล่ะ โอย ไอ้เหี้ยเอ๊ย เวรกรรม เวรกรรมกูจริงๆ เดินมาก็เมื่อยจะตายโหงอยู่แล้วยังต้องมากลิ้งอีก "
ไอ้บอมบ่น ผมรีบพูดตัดบท
" โอเค โอเค ไม่ต้องพูดอะไรกันต่อแล้ว กลิ้งก็กลิ้ง มันไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่มั๊ย ไอ้ระ "
ไอ้ธีระมองหน้าผม แล้วมองหน้าเพื่อนทุกคน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" ไม่มีวิธีอื่นแล้ว มีวิธีเดียวที่จะผ่านไปได้ นั่นคือ ต้องกลิ้งลงไป ทีละคน ! "

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.