We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค"
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 17-May-12 at 08:52 AM
ตอนที่ 16

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมาที่รวมพลอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าฐานฝึกในภาคเช้า เช้านี้กองร้อยอินทรีของผมต้องเข้าฐาน " การรบพิเศษ " ครูฝึกฐานนี้เป็นนายร้อยหนุ่มรูปหล่อผิวดำเพราะตากแดดบ่อย สูงยาวเข่าดีแต่ตูดปอด แถมเป้าตุงด้วย ผมมองเป้าของครูฝึกหนุ่มด้วยความหื่นกระหาย ท่าทางครูฝึกคนนี้จะพกอาวุธประจำกายดุ้นโตมาสอนด้วยแน่ๆ น่าแดกจริงๆ
เขาแนะนำตัวว่าเขาชื่อ " องอาจ " ครูองอาจทักทายนักศึกษาวิชาทหารทุกคนอย่างเป็นกันเอง แล้วจึงเริ่มบรรยายเกี่ยวกับการรบพิเศษว่าแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การซุ่มโจมตี และการตีโฉบฉวย
การซุ่มโจมตี เป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมในการรบแบบกองโจร เพราะไม่จำเป็นต้องยึดภูมิประเทศ และสามารถใช้หน่วยขนาดเล็กที่มีอาวุธและยุทโธปกรณ์จำกัดเพื่อรบกวนข้าศึก หรือทำลายข้าศึกที่มีขนาดใหญ่ และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ดีกว่าได้ มีความมุ่งหมายเพื่อทำลายยุทโธปกรณ์ สังหารหรือจับข้าศึก และรบกวนข้าศึก ส่วนการตีโฉบฉวย เป็นการเข้าตีแบบกะทันหัน มีความมุ่งหมายเพื่อทำลายที่ตั้งหรือพื้นที่วางกำลังของข้าศึก
ครูองอาจยังบรรยายถึงการจัดกำลังพล การเข้าจุดนัดพบ การปรับกระบวน และการเข้าที่หมาย ซึ่งมีรายละเอียดมากมายจนผมจำได้ไม่หมด ผมเองมีหน้าที่เป็นส่วนโจมตี และเป็นชุดตรวจค้นด้วย คือต้องตรวจค้นเมื่อทำลายที่มั่นของข้าศึกว่ามีใครเหลือรอดบ้าง พอครูองอาจบรรยายจบก็เริ่มฝึกโดยแบ่งกำลังพลออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนต้องวิ่งตามกันไปเรื่อยๆ ถ้าเจอข้าศึกแอบซุ่มอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ต้องโจมตีมันด้วยกระสุนปากเปล่าทันที อย่าให้เหลือรอดได้แม้แต่คนเดียว
พอครูฝึกให้สัญญาณ ส่วนของผมก็ออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่ เป็นคนวิ่งนำหน้า ผมก็วิ่งตามเพื่อนในหมู่ไปเรื่อยๆ พอวิ่งไปได้ซักพักก็เจอข้าศึกแอบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ผมไม่รอช้ารีบใช้กระสุนไม่รู้หมดทันที แหกปากลั่น
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
เพื่อนๆ ทุกคนก็ทำแบบเดียวกับผม ทุกคนแหกปากลั่น ข้าศึกก็พากันล้มลง " นอนตาย " ตรงนั้นเอง แต่มีข้าศึกเฮี้ยๆ กลุ่มหนึ่งที่สมัครใจแอบซุ่มอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พอผมและเพื่อนๆ ยิงกระสุนปากเปล่าโจมตีใส่มัน มันก็ล้มลงนอนตายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาครึ้มนั้น สบายจริงๆ นะมึง แต่ผมและเพื่อนๆ ก็ไม่มีเวลาสนใจข้าศึกพวกนี้มากนัก ต้องรีบถือปืนวิ่งต่อไป พอวิ่งไปได้ซักพัก ครูฝึกซึ่งวิ่งตามมาข้างหลังก็ตะโกนว่า
" หมอบ!!!!!!!!!!!!! "
ผมและเพื่อนๆ รีบล้มตัวลงหมอบทันที พื้นก็เป็นดินร้อนๆ ทำเอาไข่แทบสุกเลยทีเดียว แล้วครูฝึกสั่งต่อ
" คลานสูงไป เร็วๆๆๆ "
ผมกัดฟันคลานสูงโดยใช้ข้อศอกเคลื่อนตัวไปด้านหน้าตามคำสั่ง คลานสูงไปได้ไม่กี่เมตร ครูฝึกก็สั่งต่อ
" ลุก! วิ่ง หน้า ? วิ่ง ! "
ทุกคนรีบลุกขึ้นวิ่งต่อไป ผมวิ่งตามหลังไอ้ธีระไปติดๆ จู่ๆ ไอ้ธีระก็หยุดวิ่ง ทำให้ผมและเพื่อนๆ ทิ่วิ่งตามมาพลอยหยุดวิ่งไปด้วย ผมรีบถามขึ้นทันที
" หยุดวิ่งทำไมวะ "
ไอ้ธีระไม่ตอบ ผมเดินมาหาไอ้สันติซึ่งเป็นหัวแถว และเป็นคนแรกที่หยุดวิ่ง ไอ้สันติชี้ให้ดูสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ผมมองแล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือลวดหนามตาข่ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นใหญ่มากที่ขึง อยู่สูงจากพื้นดินไม่กี่นิ้ว พื้นดินก็เป็นโคลนแฉะๆ ทุกคนจ้องลวดตาข่ายแผ่นนี้ตาไม่กะพริบ
" นี่จะผ่านไปได้ไงวะเนี่ย "
ไอ้ปกป้องพูดลอยๆ ไอ้บอมมองพื้นโคลนแฉะๆ แล้วเบ้ปาก
" สกปรกเหี้ย ๆ เลย เออ นั่นสิ จะผ่านไปได้ไงวะ เดินข้ามไปก็ไม่ได้ "
ไอ้สันติพูดขึ้นว่า
" กูเคยดูในหนังว่ะ ทหารน่ะถ้าเจอลวดตาข่ายแบบนี้ เขาจะลอดผ่านไปด้านล่าง "
ทุกคนหันมามองไอ้สันติเป็นตาเดียว ไอ้บอมร้องเสียงหลง
" ไอ้เหี้ย !!!!! ลอดผ่านไปเหรอวะ ควยเหอะ มึงคิดได้ไงวะเนี่ย ถ้าลอดไปมีหวังเสื้อผ้าเลอะเทอะหมดแน่ กูไม่เอาด้วยหรอก "
ไอ้สันติหันมามองหน้าไอ้บอม
" นี่มึงยังห่วงเสื้อผ้าเลอะอีกเหรอวะ ดูสารรูปพวกเราตอนนี้ซะก่อน โสโครกจะตายห่าอยู่แล้ว ถ้าจะเลอะอีกหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก "
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอ้สันติ
" ใช่ กูเห็นด้วย ยังไงก็ต้องลอดว่ะ ไม่มีทางอื่นแล้ว รีบๆ ลอดเถอะว่ะ ขืนชักช้าเดี๋ยวครูฝึกแม่งเอาตายแน่ "
ไอ้ธีระพูดขึ้นมาบ้าง
" แล้วใครจะเป็นคนเปิดคนแรกวะ "
" กูเอง กูเป็นหัวหน้าหมู่ แล้วกูก็เป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้นมา กูเปิดเองว่ะ "
พูดจบไอ้สันติก็ทำท่านอนหงาย เอาปืนพาดไว้บนลำตัวตรงประมาณแนวหน้าอก ใช้มือข้างหนึ่งจับลวดหนามเส้นล่างสุดและยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ หนามเกี่ยว แล้วเลื่อนตัวลอดลวดหนามไปข้างหน้าโดยใช้ส้นตีนทั้งสองถีบพื้นเพื่อยันตัว ให้ขยับเลื่อนขึ้นไป ทุกคนมองไอ้สันติลอดลวดหนามด้วยความทึ่ง ไอ้ปกป้องพูดขึ้นว่า
" เอาวะ ลอดก็ลอด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไอ้ติมันลอดได้ กูก็ลอดได้วะ "
แล้วไอ้ปกป้องก็ลงนอนหงายลอดใต้ลวดหนามเป็นคนต่อไป ทุกคนทยอยลอดลวดหนามตามกันไปเรื่อยๆ ไอ้บอมซึ่งตอนแรกไม่อยากลอดเลย แต่พอมันเห็นเพื่อนๆ ลอดกันหมด ก็จำใจต้องลอดด้วย ผมเองก็ลอดตามไอ้ธีระไปห่างๆ ด้วยความยากลำบาก เพราะต้องคอยระวังไม่ให้หนามเกี่ยว แต่ยังดีที่ลวดหนามนั้นถูกขึงให้สูงจากพื้นดินพอสมควรทำให้ลอดได้สะดวก แต่ถึงกระนั้นก็ยังลำบากอยู่ดี หนามแหลมบางอันยื่นลงมาเกือบจะถึงใบหน้าของผม ทำให้ผมใจหายวาบ กลัวหนามจะเกี่ยวโดนหน้า แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี พอลอดไปซักพัก หนามก็เริ่มเยอะขึ้น ตอนที่ผมเอามือจับลวดหนามเส้นที่อยู่เหนือกบาลของผมเพื่อยกให้สูงขึ้นพอลอด ผ่านไปได้นั้น ผมเผลอเอามือไปรูดหนามแรงๆ หลายครั้งจนเลือดโชก แต่ก็กัดฟันลอดต่อไป เราใช้เวลาลอดนานมากเพราะต้องเว้นระยะห่างระหว่างคนด้วย ขณะที่พวกเรากำลังลอดอย่างทุลักทุเลอยู่นั้น ครูฝึกก็โผล่มาจากด้านหลังแล้วตะโกนลั่น
" รีบลอดไปเร็วๆ ใครลอดชักช้าโดนกูเตะกลิ้งแน่ ! "
นักศึกษาวิชาทหารทุกคนตกใจ คนที่ยังไม่ได้ลอดก็รีบนอนหงาย แล้วลอดผ่านไปด้วยความรวดเร็ว จนทุกคนลอดไปหมด เหลือครูฝึกยืนมองอยู่คนเดียว ทุกคนกำลังลอดผ่านลวดหนามอย่างยากลำบาก ครูฝึกยิ้มอย่างสะใจแล้วพูดว่า
" ช้าว่ะ นี่คงจะทำให้พวกมึงลอดได้เร็วขึ้นนะ "
ว่าแล้วครูฝึกก็โยนอะไรบางอย่างลงมาที่เหนือลวดหนาม คนที่ลอดอยู่ท้ายสุดมองสิ่งที่ครูฝึกโยนลงมาแล้วก็ตาลุกด้วยความตกใจสุดขีด มันแหกปากเสียงดัง
" ไอ้เหี้ย !! งู! โอย ลอดเร็วๆ เลยมึง เร็วๆ สิโว้ย งูจะกัดกูแล้ว มันอยู่บนตัวกู!!! ไอ้เหี้ย ๆๆๆๆๆๆๆ "
ทุกคนที่ลอดอยู่เมื่อได้ยินไอ้คนนั้นพูดว่างู ก็ตกใจรีบเร่งความเร็วในการลอดมากขึ้น พลางตะโกนเซ็งแซ่
" อะไรวะ งูเหรอวะ เหี้ย แม่งเล่นกันยังนี้เลยเหรอ กะเอากันให้ตายเลยเหรอวะ "
" เฮ้ย จริงเหรอวะ หลอกกูรึเปล่าเนี่ย "
" กูไม่เชื่อหรอกว่างู ไอ้เหี้ยอย่ามาโม้ "
" งูจริงๆ เว้ย ของจริง เร็วๆๆๆๆ โอยยย กูกลัวจะแย่อยู่แล้ว รีบลอดเร็วๆ "
ไอ้คนนั้นตะโกนแล้วรีบลอดอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้คนที่ลอดอยู่เหนือมันต้องรีบลอดด้วยความรวดเร็ว ผมเองพอได้ยินว่างูก็รู้สึกกลัวไม่แพ้กัน ทุกคนก็คงกลัวเหมือนกันทำให้ต่างคนต่างรีบลอดกันอุตลุต ไอ้ปกป้องพูดว่า
" ของจริงเหรอวะ แต่ยังไงก็รีบลอดเถอะว่ะ เสียว "
ในที่สุดไอ้สันติ คนแรกคนแรกก็ลอดผ่านลวดหนามได้สำเร็จ มันรีบลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งต่อไป คนอื่นๆ ก็ลอดผ่านไปได้ตามลำดับ จนถึงคนสุดท้าย ไม่นานทุกคนก็ลอดผ่านไปได้จนครบ แล้วลุกขึ้นวิ่งต่อไป
ไม่มีใครเห็นครูฝึกหนุ่มที่กำลังยืนหัวเราะอย่างสะใจอยู่คนเดียว พร้อมกับเอามือหยิบงูสต๊าฟตัวนั้นขึ้นมาถือไว้เลย!
พอพ้นจากด่านลวดหนามแล้ว ทุกคนก็วิ่งด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาจนถึงฐานที่มั่น แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ต่างก็หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อยกันเป็นแถบๆ มันเหนื่อยเหี้ย ๆ เลย หายใจหายคอแทบไม่ทัน ผมถอดหมวกออก วางปืนไว้ข้างตัว แล้วหลับตา เสื้อกางเกงของผมเลอะโคลนเต็มไปหมด เหงื่อแตกเต็มหลัง ไอ้ธีระก็นั่งอยู่ข้างๆ ผม มันหอบแฮ่กๆ ผมมองหน้ามันแล้วโอบไหล่เพื่อนเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดเบาๆ
" เหนื่อยเหรอวะ เพื่อน "
ไอ้ธีระตอบเสียงสั่นๆ
" เออว่ะ กูเหนื่อย วิ่งมากี่กิโลวะเนี่ย แม่งไม่มีการหยุดเลย ร้อนด้วย ไอ้หนุ่ม กูจะตายห่าอยู่แล้วว่ะ "
" เข้มแข็งไว้เพื่อน มึงต้องไม่เป็นอะไร มึงเป็นลูกผู้ชายนะ สัด "
ไอ้ธีระยิ้มแห้งๆ แล้วซบลงมาตรงไหล่ของผม ผมถอดหมวกของมันออก แล้วเอามือจับกบาลของมันเบาๆ กบาลของมันร้อนมาก ผมเลื่อนมือแตะหน้าผากของมัน รู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ออกมาจากหน้าผากมัน ผมจูบหน้าผากของมันช้าๆ ก่อนจะโอบไหล่มันเอาไว้จนแน่น
" ใจเย็นๆ เพื่อน เดี๋ยวมึงก็หายเหนื่อย ทำไมมึงเหนื่อยขนาดนี้วะ ไปทำอะไรมา เหมือนเรี่ยวแรงมึงจะไม่เหลือเลย "
ไอ้ธีระเงยหน้าขึ้น แล้วตอบผมว่า
" เมื่อคืนกูหนักไปหน่อยว่ะ "
" มึงว่าอะไรนะ "
ผมถามซ้ำเพราะได้ยินไม่ชัด ไอ้ธีระรีบกลบเกลื่อน
" อ๋อเปล่า ไม่มีอะไรหรอก กอดกูหน่อยสิวะ "
ผมได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมาก ไม่ทันฉุกคิดว่าทำไมไอ้ธีระถึงอยากให้ผมกอด แต่ด้วยความผมที่คลุกคลีกับเพื่อนชายแท้มานาน ทำให้ผมเรียนรู้ว่าจำเป็นต้องปกปิดความเป็นเกย์เอาไว้จนถึงที่สุด คือต้องไม่ให้เพื่อนชายแท้รู้ว่าผมเป็นเกย์ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ผมเลยพูดออกไปว่า
" ผู้ชายด้วยกันนะเว้ย กอดกันมันจะดีเหรอวะ "
ปากก็พูดไปอย่างนั้นเอง แต่หัวใจกำลังพองโตด้วยความตื่นเต้นที่จะได้กอดกับผู้ชายแท้ๆ
" เพื่อนกอดกันไม่เห็นเป็นไรเลย กอดกันแบบแมนๆ ไงมึง คิดไรมากมายวะ "
แล้วไอ้ธีระก็เบียดเข้ามาใกล้ผม แล้วเอนหลังลงมาพิงที่ร่องไหล่ของผม ผมรีบโอบกอดมันเอาไว้ รู้สึกอบอุ่นพิลึก ใบหน้าของผมอยู่ห่างจากหน้าของมันไม่กี่นิ้ว ผมเลยหอมแก้มมัน 1 ฟอด ใจนึงก็กลัวมันจะด่าว่าหอมกูทำไมวะ แต่ไอ้ธีระไม่ยักด่าผม มันกลับกอดผมแน่นกว่าเดิม ผมเห็นมันไม่ว่าอะไรเลยจูบหน้าผากที่เปื้อนเหงื่อของมันอีกที เหงื่อเค็มๆ ของมันเลอะปากผม ไอ้ธีระหลับตาลง ยิ้มอย่างมีความสุข
" หายเหนื่อยรึยังเพื่อน "
ผมถามมัน ไอ้ธีระหลับตาพริ้ม
" ได้กอดกับมึง กูก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ "
ผมนั่งกอดมันอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงไอ้บอมตะโกนลั่น
" โห ไอ้หนุ่ม ไอ้ระ กอดกันกลมดิกเลยว่ะ ระวังฟ้าผ่านะ "
ผมรีบคลายอ้อมกอดออก เห็นไอ้บอมเดินมากับไอ้ปกป้อง และไอ้สันติ มีเพื่อนชายแท้อยู่ด้วย งั้นผมก็ต้องทำเป็นชายแท้ไปก่อนเพื่อไม่ให้มีพิรุธ ไอ้ธีระลืมตาขึ้นแล้วผละจากอ้อมกอดผมทันที
" กอดอะไรวะ ไม่ได้กอดนะ แค่นั่งคุยกันเฉยๆ ผู้ชายด้วยกันจะมากอดกันทำไมวะ ฟ้าผ่าตายกันพอดี ใช่มั๊ยวะไอ้ระ "
ไอ้ธีระพยักหน้าช้าๆ แต่ไม่พูดอะไร ไอ้บอมอมยิ้มอย่างรู้กัน แล้วจึงนั่งลงข้างๆ ผม ไอ้ปกป้องกับไอ้สันติไม่ได้สนใจเรื่องที่ผมกอดกับไอ้ธีระ พอมันนั่งลงก็ชวนผมคุยเรื่องอื่นๆ เพื่อรอเพื่อนๆ อีกสองส่วนที่ยังมาไม่ถึง ไม่นานเพื่อนๆ อีกสองส่วนก็มากันจนครบ ทุกคนเสื้อผ้าเลอะโคลนเหมือนกันหมดเนื่องจากผ่านการลอดใต้ลวดหนามกันทั้งนั้น
เมื่อนักศึกษาวิชาทหารทุกคนมาถึงยังฐานที่มั่นครบแล้ว ก็ได้เวลาแดกข้าวกลางวันพอดี ครูฝึกก็ให้แยกย้ายกันไปแดกข้าว มื้อนี้กับข้าวเป็นแกงร้อนๆ อากาศตอนเที่ยงก็ร้อนอยู่แล้ว ต้องมาแดกกับข้าวร้อนๆ แบบนี้อีกมันสุดยอดจริงๆ แต่ทุกคนก็ฝืนแดกเข้าไปจนหมด ผมยัดข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความหิวโหย ไอ้ธีระก็ช่วยยัดแกงเข้าปากผมอีกแรง จนเรา 2 คนแดกอิ่ม ก็ช่วยกันล้างหม้อ แล้วจึงมานั่งคุยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมเพื่อรอฝึกในภาคบ่าย นั่งคุยกันซักพัก ไอ้บอม ไอ้ปกป้อง ไอ้สันติ และไอ้โรจน์ก็มานั่งคุยด้วย ผมมองออกไปที่ทุ่งโล่งที่อยู่ด้านหน้าซึ่งเราวิ่งผ่านมาเมื่อกี้ เห็นเปลวแดดยิบๆ อยู่กลางทุ่ง ต้นไม้โดนแดดเผาจนแห้งกรอบ อากาศตอนนี้ร้อนเหลือเกิน อุณหภูมิน่าจะซัก 43 องศา นี่ตอนบ่ายก็คงต้องฝึกกันกลางแดดเปรี้ยงๆ อีก ทรมานจริงๆ ดีหน่อยที่ตอนนี้ได้พักนาน ผมคิดแล้วก็หลับตาลง ปล่อยให้เพื่อนๆ คุยกันไปก่อน ตอนนี้ขอพักสายตาหน่อยดีกว่า
..................

ไม่ไกลจากฐานที่มั่นเท่าไหร่ ครูองอาจกำลังเดินตรวจภูมิประเทศที่พวกเราฝึกรบพิเศษไปเมื่อตอนเช้า เพื่อเตรียมสำหรับการฝึกในภาคบ่าย พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าสตางค์สีดำใบเล็กใบหนึ่งตกอยู่ที่พื้น ครูองอาจก้มลงหยิบกระเป๋าใบนั้นขึ้นมาเปิดดู ข้างในมีบัตรประจำตัวนักศึกษาวิชาทหารและเงินอยู่ไม่กี่ร้อย ตรงช่องพลาสติกที่เอาไว้ใส่รูปนั้น เต็มไปด้วยรูปของบรรดานายแบบหล่อๆ ใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กจิ๋ว เป้าตุงเป็นลำกันทั้งนั้น นอกนั้นก็มีแต่รูปผู้ชายล้วนๆ ไม่มีรูปผู้หญิงเลยแม้แต่รูปเดียว ครูองอาจมองรูปเหล่านั้นแล้วพึมพำเบาๆ
" ท่าทางมันจะชอบแต่แบบนี้ หึ หึ "
แล้วครูองอาจก็เอาบัตรประจำตัวนักศึกษาวิชาทหารออกมาจากกระเป๋าใบนั้น เขาอ่านชื่อที่พิมพ์ไว้บนบัตรช้าๆ
" นศท. วรเศรษฐ์ แววธรรมชาติ อืมมมมม "
ครูองอาจยิ้มอย่างมีเลศนัย ยัดบัตรเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม แล้วเดินกลับมาที่ฐาน

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.