We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 04-Mar-12 at 10:39 PM
ตอนที่ 1

ทิวไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่กับสิ่งที่กำลังเกิดตรงหน้าในตอนนี้ ใจหนึ่งเขาก็รู้สึกสนุกไปด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารคนที่ถูกแกล้งพอสมควร ย้ายมาเรียนวันแรกก็ต้องเจอฤทธิ์สุดแสบของเพื่อนๆ เขาเสียแล้ว

ปุ้ยทำทีเดินไปคุยกับเพื่อนใหม่ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าทิวพอดี ส่วนหม่าวเดินมาทางด้านหลังพร้อมกับปี๊บใส่ขนมเปล่าอันหนึ่ง มันเอาฝาปี๊บหนีบเชือกไนล่อนไว้ แล้วก็เอาปี๊บนั้นมาตั้งไว้บนโต๊ะเรียนของทิว แล้วก็แอบย่อตัวลงเอาปลายเชือกอีกด้านหนึ่งสอดเข้ากับหูกางเกงของเพื่อนใหม่ทางด้านหลัง แล้วก็ผูกไว้ นั่นหมายความว่าถ้าเพื่อนใหม่คนนั้นแค่ลุกขึ้นยืน เชือกที่ผูกไว้ก็จะดึงให้ปี๊บขนมเปล่าใบนี้ตกลงพื้นและเสียงมันคงจะดังจนน่าตกใจอย่างแน่นอน

หม่าวทำเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นหันมาจุ๊ปากใส่ทิวเป็นเชิงบอกว่าให้เงียบๆ ไว้ จังหวะนั้น ครูละเอียดซึ่งเป็นครูสอนคณิตศาสตร์วัยกลางคนเข้ามาในห้องพอดี เด็กนักเรียนที่จับกลุ่มคุยกันอยู่เมื่อสักครู่นี้ก็รีบวิ่งกลับเข้าที่นั่งของตนเองอย่างรวดเร็ว ใครๆ ก็รู้ว่าครูละเอียดคนนี้ดุขนาดไหน แค่ได้ยินเสียงก็แทบจะก้าวขาไม่ออกกันแล้ว เคยมีนักเรียนชายคนหนึ่งถึงกับฉี่ราดกางเกงเลยทีเดียวด้วยความกลัวคุณครูคนนี้

"ทั้งหมดทำความเคารพ" จุ๊บแจงซึ่งเป็นหัวหน้าห้องบอกเพื่อนๆ ให้ทำความเคารพครูที่เพิ่งเข้ามา เมื่อทุกคนลุกขึ้นยืน ไม่ทันจะได้เอ่ยสวัสดีคุณครู แผนการแกล้งเพื่อนใหม่ของปุ้ยกับหม่าวก็ทำงาน

เคร้งงงงงงงงงงงงงงงงงง

ทุกคนหันมามองบูมซึ่งเป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเป็นตาเดียวกัน สีหน้าของบูมดูตกใจมากทีเดียวเนื่องจากเจ้าปี๊บนั่นเสียงดังมาก แถมพอตอนที่มันตก ฝาของมันก็หลุดกระเด็นกลิ้งไปหน้าชั้นเรียนอีกด้วย แล้วเพื่อนๆ ทุกคนในห้องก็พากันหัวเราะชอบใจ บูมมีสีหน้าอายและโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาหันมามองด้านหลังและกวาดสายตาหาผู้กระทำผิด แต่ทุกคนก็เอาแต่ก้มหน้าหัวเราะ แม้ทุกคนจะกลัวครูละเอียดแค่ไหน แต่ทุกคนก็อดหัวเราะกันไม่ได้

"นี่มันอะไรกัน ใครเป็นคนแกล้งเพื่อน" ครูละเอียดถามเสียงดังและดุ เสียงหัวเราะของนักเรียนค่อยๆ เงียบลงจนกลายเป็นเงียบกริบ

"ครูถามว่าใครเป็นคนทำ" แต่ก็ยังคงเงียบกริบกันทั้งห้อง

"ถ้าพวกเธอไม่ยอมรับ ครูจะทำทัณฑ์บนทั้งห้องเลยดีไหม"

ได้ยินอย่างนั้นนักเรียนทั้งห้องต่างก็โอดเสียงครวญเพราะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับคนที่ไม่ได้ทำความผิด

"ทิวเป็นคนทำครับคุณครู" จู่ๆ ปุ้ยมันก็โยนความผิดมาให้ทิวเสียอย่างนั้น

ทิวหน้าเหวอพลางร้องประท้วง "เฮ้ย กูไม่ได้ทำนะเว้ย พวกมึงนั่นแหละเป็นคนทำ ผมไม่ได้ทำนะครับครู" ทิวหันไปบอกครู

"ทิวเป็นคนทำครับ ผมเห็นกับตา" หม่าวโบ้ยความผิดให้เขาอีกคน ยิ่งทำให้ทิวถูกสงสัยมากขึ้น เพราะตอนที่ปุ้ยกับหม่าวแกล้งเพื่อนนั้น เด็กนักเรียนต่างก็แยกกลุ่มคุยกันหลังจากกลับจากกินข้าวเที่ยง จึงไม่มีใครสังเกตว่าสองคนนี้แกล้งเพื่อนตั้งแต่เมื่อไร

"เฮ้ย ไงพูดงั้นวะ กูไม่ได้ทำนะเว้ย พวกมึงนั่นแหละเป็นคนทำ" ทิวเถียงอีก เขาเริ่มหน้าเสีย

"พอๆๆๆ ไม่ต้องเถียงกัน" ครูละเอียดปราม ทำให้ทุกคนเงียบอีกครั้ง "พสุธน เธอมาแก้เชือกนี่ให้เพื่อนแล้วเอาปี๊บนี่ไปทิ้งถังขยะ แล้วทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นครูจำเป็นต้องทำโทษเธอ"

ทิวหรือพสุธนจึงรีบลุกจากเก้าอี้แล้วมาช่วยแก้เชือกไนล่อนออกจากหูกางเกงของบูม ดูท่าทางเพื่อนที่มาใหม่จะโกรธเขามากทีเดียว แต่ทิวก็โกรธเพื่อนของเขาเหมือนกันที่อยู่ดีๆ ก็มาโยนความผิดให้เขาเสียอย่างนั้น พอแก้ได้แล้วทิวก็หยิบปี๊บออกไปทิ้งถังขยะใบใหญ่ที่ชั้นล่างของโรงเรียน

กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งครูละเอียดก็เริ่มสอน บรรยากาศเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ทิวเดินผ่านโต๊ะบูมอย่างหวาดๆ เพราะดูท่าทางเพื่อนใหม่คนนี้ท่าจะเคืองเขาพอสมควร เขาจ้องหน้าทิวจนทิวต้องหลบสายตา

-----------------------------------------------------------------------

เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียน เด็กนักเรียนต่างกุลีกุจอเก็บกระเป๋ากันใหญ่ บางคนก็จะกลับบ้าน บางคนก็จะออกไปเดินเล่นในห้างกับเพื่อน บางคนก็จะออกไปเล่นกีฬา ส่วนทิว เขาชอบเล่นเตะฟุตบอล พอได้เวลาปุ๊บเขาก็จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปเตะบอลกับเพื่อนในสนามทันที เพื่อนที่มาเล่นด้วยก็มีทั้งเพื่อนในห้องเดียวกัน ต่างห้องกัน รวมทั้งมีรุ่นพี่และรุ่นน้องที่ชอบเล่นเตะฟุตบอลมาร่วมด้วย

"ไอ้ทิว กูขอโทษมึงจริงๆ นะเว้ยที่บอกครูว่ามึงแกล้งไอ้บูมมัน" ไอ้ปุ้ยตะโกนบอกขณะวิ่งลงสนามตามทิวไป

ทิวหยุดวิ่งแล้วหันมามอง "มึงไม่ต้องมาพูดเลย ถ้าเกิดกูโดนทำโทษขึ้นมาล่ะ"

เห็นเพื่อนโกรธอย่างนั้นปุ้ยก็หน้าเสีย แต่มันก็แก้ตัวว่า "เฮ้ย ครูเขาไม่ทำโทษมึงหรอก มึงเป็นเด็กดีจะตาย ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งโรงเรียน เห็นไหมขนาดครูละเอียดที่ว่าดุๆ เขายังไม่ทำอะไรมึงเลย"

"โธ่ ไอ้เชี่ย ช่างพูดมาได้" ทิวสบถอย่างไม่พอใจ

"เฮ้ย กูขอโทษจริงๆ ทีหลังกูจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว อย่าโกรธกูเลยนะ นะๆๆๆๆๆ" ปุ้ยทำเสียงอ้อนและมีสีหน้าว่ามันสำนึกผิดจริงๆ

"เออ" ทิวบอก แต่สีหน้าก็ยังคงโกรธอยู่ จุดอ่อนของทิวคือเป็นคนใจอ่อนและขี้สงสาร เห็นเพื่อนสำนึกผิดแบบนี้เขาก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ "ทีหลังอย่าให้มีอีกละกัน" ทิวทิ้งทาย

"อ้าว วันนี้ไอ้หม่าวไม่มาเล่นด้วยเหรอ"

"ไปเที่ยวกับสาวแล้ว" ปุ้ยว่า ทิวส่ายหัวแล้วก็วิ่งลงไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ

ดูเหมือนว่าความซวยของทิวจะไม่ได้มีเพียงเท่านี้เมื่อทิวเตะลูกบอลพลาดแล้วมันก็กระเด็นออกมานอกสนาม

ปึกกกก!!!!! โอ๊ย!!!!!!

เสียงลูกบอลพร้อมกับเสียงร้องของใครบางคนดังขึ้น ทิวรีบวิ่งมาขอโทษคนที่โดนลูกหลงทันที แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ทิวก็เบิกตาด้วยความตกใจ

"นี่มึงอีกแล้วเหรอ จะเอายังไงกับกูกันแน่ฮะ" บูมตะโกนเสียงดังอย่างโกรธจัด เขาวางกระเป๋าลงแล้วก็ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อทิวพร้อมกับกำหมัดไว้ "มึงจะเอายังไงกับกู อยากมีเรื่องเหรอ"

เพื่อนๆ ที่เล่นเตะบอลด้วยกันรีบวิ่งเข้ามาหย่าศึกพร้อมกับจับสองคนแยกออกจากกัน บูมขืนตัวบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้ถูกจับแยกออกมาแต่โดยดี

"เฮ้ย ไอ้บูม ไอ้ทิวมันไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย" ปุ้ยบอกเมื่อดึงตัวบูมออกมาได้แล้ว

"เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราไม่เห็นด้วยซ้ำว่านายกำลังเดินมา" ทิวได้โอกาศเอ่ยขอโทษ

บูมสูดหายใจลึกๆ เพื่อให้อารมณ์เย็นลง แต่ก็ยังมองหน้าทิวอย่างไม่พอใจอยู่ เขาสะบัดตัวออกจากการถูกจับตัวไว้แล้วก็หยิบกระเป๋านักเรียนเดินดุ่มๆ ออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
ทิวได้แต่ถอนหายใจมองดูเพื่อนใหม่เดินออกไปอย่างหัวเสีย

"เห็นไหมว่าเขาโกรธกูขนาดไหน มึงสองคนต้องรับผิดชอบให้กูเลยนะ อยู่ดีๆ ก็มาสร้างศัตรูให้กู ไอ้พวกนี้" ทิวหันไปว่าเพื่อน ปุ้ยทำหน้าเจื่อนด้วยความรู้สึกผิดและหัวเราะแหะๆ

เห็นสีหน้าท่าทางเพื่อนใหม่แล้วทิวก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ดูเหมือนเขาพูดน้อยและค่อนข้างซีเรียสพอสมควร ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า แต่ถ้าจะต้องเรียนด้วยกันอีกสามปี เขาคงจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ เขาไม่ชอบสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น

----------------------------------------------------------------

"โรงเรียนใหม่เป็นยังไงมั่งบูม" พ่อของบูมหันมาถามลูกชายแทบจะทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในรถ วันนี้พ่อเลิกงานเร็วจึงมารับเขาด้วยตัวเอง

"ก็น่าจะดีนะครับพ่อ ครูสอนดีครับ" บูมตอบพลางรัดเข็มขัดนิรภัยโดยไม่หันไปมองพ่อ

"ก็ดีแล้ว หวังว่าจะไม่ได้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.5 อีกล่ะ ทีนี้ พ่อว่ามันคงไม่ได้เป็นที่โรงเรียนแล้วล่ะ บูมต้องตั้งใจเรียนเข้าใจไหมลูก อย่าให้พ่อกับแม่ต้องอายคนอื่นเขา จะไปเรียนเมืองนอกเมืองนาอีกไม่กี่ปีแล้ว ทำเกรดให้มันดีๆ หน่อย พ่อฝากความหวังไว้กับบูมคนเดียวรู้ไหม" พ่อเขากำชับอีก

"ครับพ่อ" บูมรับคำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาตั้งใจเรียนมาตลอด แทบจะไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นหรือสนุกกับเพื่อนๆ เลย วันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องเรียนพิเศษ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่บูมต้องเรียนเพิ่มเติมอย่างมากเพื่อจะได้นำไปใช้เวลาที่เขาไปเรียนต่อที่เมืองนอก

ส่วนสาเหตุที่เขาต้องย้ายโรงเรียนนั้นเป็นเพราะว่าเกรดเฉลี่ยเขาตกมาอยู่ต่ำกว่า 3.5 โดยไม่ทราบสาเหตุ บูมพยายามบอกพ่อกับแม่ว่าเขาตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่แล้ว เขาอ่านหนังสือทุกวัน ไปเรียนพิเศษทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเกรดเฉลี่ยของเขาจึงออกมาแบบนั้น เมื่อหาสาเหตุไม่ได้ พ่อกับแม่ของเขาจึงโทษว่าโรงเรียนสอนไม่ดี จึงจัดการหาโรงเรียนใหม่ให้เสร็จสรรพ

แล้วรถเก๋งคันหรูจากยุโรปก็แล่นออกไป บูมแอบลอบมองเพื่อนๆ ที่เล่นเตะฟุตบอลในสนามด้วยความรู้สึกอิจฉา เขาแทบจะไม่ได้มีโอกาสเล่นอะไรสนุกๆ แบบนั้นบ้างเลย กลับไปก็ต้องอ่านหนังสือเรียนอีก เขาจึงคิดไว้ว่า ถ้าได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอกก็คงจะดีเหมือนกัน อยู่ห่างพ่อกับแม่แล้วเขาคงถูกบังคับน้อยลง นี่เป็นเพียงแรงผลักดันเดียวที่ทำให้บูมต้องตั้งใจเรียนแม้ว่าจะเหนื่อยหน่ายกับความเข้มงวดของพ่อกับแม่มากแค่ไหนก็ตาม จบ ม.6 แล้วเขาจะต้องไปเรียนต่อเมืองนอกให้ได้ ขอให้เขาได้มีชีวิตที่เป็นอิสระบ้างเถอะ

----------------------------------------------------------------

เช้าวันต่อมา ทิวมาถึงโรงเรียนแล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นบูมมาถึงโรงเรียนก่อนเขาเสียอีก แต่บูมแยกตัวมานั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนคนเดียว ไม่สนใจเพื่อนๆ ที่จับกลุ่มคุยกันบ้าง เล่นกันบ้าง ดูสีหน้าเขาเครียดๆ ชอบกลแฮะ แต่ทิวก็ไม่ได้เข้าไปทัก เพราะยังขยาดกับท่าทางเกรี้ยวกราดเอาเรื่องของเพื่อนใหม่อยู่พอสมควร นึกแล้วก็ยังโมโหเพื่อนอีกสองคนนั้นอยู่ ที่อยู่ดีๆ ก็มาสร้างศัตรูให้เขาโดยไม่จำเป็น ทิวจึงเดินผ่านเลยไปนั่งคุยกับเพื่อน

"ดูท่าทางคู่อริของมึงจะขยันน่าดูเลยนะเว้ย" นี่คือประโยคแรกที่เพื่อนๆ ทักเขา เพื่อนๆ ของทิวสี่ห้าคนขยับที่ให้ทิวลงไปนั่งด้วย ทิวนั่งลงแล้วก็หันไปมองบูมที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากนี้นัก

"มึงรู้ไหมว่าทำไมมันย้ายมาเรียนที่นี่" ต้องถามต่อ

"ทำไมวะ" ทิวหันมาถามเพื่อนด้วยความสงสัย เขายังไม่ได้มีโอกาศคุยกับบูมเลยจึงไม่รู้อะไรมาก ต้องพยักเพยิดให้ปุ้ยเล่าเพราะปุ้ยเป็นคนที่ได้คุยกับบูมมากที่สุดเมื่อวานนี้

"มันสอบได้เกรดเฉลี่ยน้อยกว่า 3.5 ว่ะ แล้วพ่อกับแม่มันไม่พอใจ คิดว่าโรงเรียนเก่ามันสอนไม่ดี ก็เลยให้มันย้ายโรงเรียนเสียเลย" ปุ้ยบอก

"จริงเหรอ" ทิวทำสีหน้าประหลาดใจ "กูได้เกรด 3 นี่กูก็ดีใจตายห่าแล้ว" ทิวว่าพลางขำนิดๆ

"ดูท่าทางมันคงเครียดเหมือนกันนะ ตั้งแต่มันมาเรียนเมื่อวาน กูยังไม่เห็นมันเล่นกับใครเลย เอาแต่อ่านหนังสือ สงสัยพ่อแม่มันคงเฮี้ยบน่าดูเลยว่ะ" ปุ้ยว่า

"เมื่อวานกูเห็นพ่อมันมารับด้วย ขับรถเบ็นซ์ซะหรูเชียว แต่ดูท่าทางพ่อมันจะดุเหมือนกันว่ะ" หม่าวบอก

"ไอ้เชี่ย ไหนว่าไปเที่ยวกับสาวไง ยังเสือกเห็นอีกเหรอ" ปุ้ยว่าพลางตบหัวเพื่อน

"อ้าว ก็กูเห็นก่อนจะออกไปไง"

"แล้วมึงทันได้เห็นไหมว่ามันเกือบจะต่อยไอ้ทิวแล้ว ดีนะที่กูมาห้ามได้ทัน" ปุ้ยบอก

"จริงเหรอวะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นวะ" หม่าวถามอย่างตกใจ

"ก็ไอ้ทิวน่ะสิ เสือกเตะลูกบอลไปโดนมัน มันก็เลยโมโห จะต่อยไอ้ทิวอยู่แล้ว" ปุ้ยเล่าพลางขำไปด้วย

"มึงไม่ต้องมาขำเลย จำไม่ได้เหรอว่าพวกมึงสองคนทำอะไรไว้ อยู่ดีๆ ก็มาสร้างศัตรูให้กู แถมเกือบทำให้กูถูกครูทำโทษอีก" ทิวว่าเพื่อนด้วยเสียงไม่จริงจังนัก พวกนั้นจึงได้แต่หัวเราะแหะๆ

-----------------------------------------------------------------------

หลังจากกินข้าวแล้ว ทิวก็แยกตัวมาจากกลุ่มเพื่อนๆ ขึ้นมาบนห้องเรียน ห้องเรียนของเขามีประตูอยู่สองข้าง แต่เนื่องจากเขานั่งบริเวณด้านหน้าห้อง ทิวจึงต้องเดินเลยไปเข้าประตูอีกข้างหนึ่ง แต่พอเขาเดินผ่านประตูแรกไปก็มีใครบางคนยื่นขาออกมาขัดขาเขาจนทิวสะดุดและเซเกือบล้มลง

"โอ๊ย!!!"

ทิวหันไปมองคนที่แกล้งเขาก็พบว่าเป็นบูมนั่นเอง เขายืนกอดอกยิ้มเหยียดอย่างไม่แยแส แล้วก็เดินเข้าไปในห้องหน้าตาเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร ถามว่าทิวโกรธไหม ก็คงโกรธ แต่ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ให้กับเรื่องเมื่อวานก็แล้วกัน คิดได้อย่างนั้นแล้วทิวก็เดินเข้าไปในห้องเรียนตรงทางเข้าอีกข้างหนึ่ง บูมกลับมานั่งที่โต๊ะแล้ว แต่ไม่ได้อ่านหนังสือหรือทำอะไร สีหน้าเขาเรียบเฉยมาก ทิวเดินผ่านไปนั่งข้างหลังโดยไม่พูดอะไร เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็เริ่มตามเข้ามาในห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับคาบถัดไป

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.