We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 07-Mar-12 at 05:20 PM
ตอนที่ 6

ในที่สุดบูมก็ได้เข้ามาอยู่ในชมรมดนตรีสมใจอยาก แถมยังได้เป็นนักร้องนำคู่กับทิวด้วย แล้วก็ยิ่งโชคดีขึ้นไปอีกเมื่อทางโรงเรียนจะให้วง Zenith เป็นการแสดงของโรงเรียนอีกหนึ่งชุดที่จะไปร่วมงานของกระทรวงศึกษาธิการที่เมืองทองธานีในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า บูมกับทิวจึงต้องมาซ้อมร้องเพลงด้วยกันเพราะถูกวางตัวให้เป็นนักร้องนำดูโอ้ของวงไปเสียแล้ว

ในช่วงนี้โรงเรียนให้ลดเวลาการสอนในช่วงบ่ายลงเพื่อให้นักเรียนที่จะต้องไปแสดงในงานได้มีเวลาซ้อมการแสดง บูมจึงได้มีโอกาสฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เขาพัฒนาไปได้มากทีเดียว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าคนที่เก็บกดมักจะมีพลังอะไรบางอย่าง เมื่อมันถูกดึงออกมาใช้ในทางสร้างสรรค์จึงทำให้พัฒนาได้เร็ว ทิวไม่หวงวิชาเลย ไม่ว่าบูมจะสงสัยอะไรหรือแม้กระทั่งสิ่งที่บูมไม่ได้ถาม เขาก็จะถ่ายทอดให้จนหมด ก็อย่างที่เขาบอกนั่นแหละ เห็นคนตั้งใจแบบนี้ ทิวก็พร้อมจะเต็มที่ด้วย

------------------------------------------------------------------------

"แม่ครับ วันเสาร์นี้ ถ้าบูมเรียนพิเศษเสร็จแล้ว บูมขอไปเดินซื้อของกับเพื่อนนะครับ"

แม่ของบูมเงยหน้าขึ้นจากการกินข้าวแล้วก็มองบูมราวกับว่าเขาได้ทำสิ่งที่ผิดมหันต์ "ซื้ออะไร ซื้อไปทำไม"

ได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นบูมก็หลบตาลงต่ำ "ซื้อเสื้อผ้าครับ"

"แล้วที่มีอยู่ไม่พอหรือไง" ไม่ใช่ว่าเธอจะขี้เหนียวหรืออะไร เสื้อผ้าแต่ละตัวที่บูมใส่ก็ล้วนแล้วแต่มียี่ห้อราคาแพงๆ ทั้งนั้น เพียงแต่เธอไม่เข้าใจที่บูมต้องไปซื้อกับเพื่อน เพราะที่ผ่านมาเธอหรือไม่ก็สามีจะเป็นคนพาไปซื้อเองอยู่แล้ว

ยังไม่ทันที่บูมจะได้ตอบอะไร เสียงพี่ชายเขาก็ดังขึ้น เขาเพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยและบังเอิญได้ยินการสนทนาพอดี "แม่ ให้บูมไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างเถอะครับ บูมยังเด็ก คงอยากจะเที่ยวกับเพื่อนบ้าง"

แม่ของบูมหันขวับไปตามเสียงลูกชายคนโตทันที "แล้วไม่คิดหรือว่าน้องมันจะไปเหลวไหลที่ไหน" แม่เริ่มเสียงแหว

บีมเดินมายืนข้างๆ น้องชายแล้วก็ถอนหายใจ "โธ่แม่ แม่ไม่สงสารบูมบ้างเหรอครับ บูมยังเด็กอยู่นะครับแม่ ที่ผ่านมาบูมไม่เคยได้ทำอะไรตามที่วัยเขาควรจะได้ทำเลยนะครับ แม่ปล่อยบูมบ้างเถอะ แค่นี้บูมก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว"

บูมเงยหน้ามองพี่ชายด้วยสีหน้าราวกับจะไม่เชื่อในสิ่งที่พี่ชายพูด นี่เป็นครั้งแรกที่บีมลุกขึ้นมาเถียงแม่เรื่องนี้ให้เขา แต่จริงๆ แล้วนั้น บีมทนเห็นน้องชายถูกบังคับมานาน เขาสงสารน้องชายจนวันนี้เขารู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว

"ปล่อยให้ไปทำตัวเหลวไหลเหมือนพี่ชายมันน่ะเหรอ แม่ไม่ยอมเป็นอันขาด" แม่เริ่มเสียงดัง

"แม่" บีมร้องเสียงดังที่ถูกพาดพิง แต่เอาเถอะ ทุกวันนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว "แม่เชื่อใจบูมบ้างสิครับ ที่ผ่านมา บูมเขาตั้งใจเรียนเพื่อครอบครัวของเรามาตลอด บูมเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร วันนี้บูมเขาโตแล้ว พ่อกับแม่ควรจะให้อิสระกับน้องบ้าง บูมเป็นผู้ชายนะครับแม่ เขาควรจะมีประสบการณ์เรียนรู้ชีวิตด้วยตัวของเขาเองบ้าง"

"นี่แกสอนแม่เหรอ" ถ้าแม่ใช้คำว่า "แก" เมื่อไรนั่นแสดงว่าแม่ไม่พอใจอย่างมากแล้วล่ะ แต่วันนี้บีมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

"ผมขอโทษครับแม่ ผมไม่บังอาจถึงขนาดนั้น แต่ผมสงสารบูม แม่เห็นไหมครับว่าบูมไม่เคยยิ้ม ไม่เคยหัวเราะ ไม่เคยมีความสุขเลยเวลาอยู่บ้าน บ้านเราไม่เคยมีเสียงหัวเราะ ไม่เคยนั่งคุยกันพ่อแม่ลูกอย่างมีความสุขมานานแค่ไหนแล้ว แม่เห็นบ้างหรือเปล่า" บีมพูดไปร้องให้ไป ปากเขาก็เริ่มสั่น

ดูเหมือนว่าแม่จะอึ้งไปพอสมควรเพราะเมื่อทบทวนดูดีๆ แล้ว ในบ้านก็ไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้อย่างที่บีมว่าจริงๆ แต่เธอก็มองหน้าลูกชายคนโตราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

บูมได้แต่มองหน้าพี่ชายและแม่สลับไปสลับมา นี่เกิดอะไรขึ้นพี่ชายของเขาถึงได้หมดความอดทนจนถึงขนาดนี้ ดีนะที่วันนี้พ่อยังไม่กลับบ้าน จริงๆ ก็เป็นเหตุผลที่บูมจะคุยกับแม่ตอนที่พ่อไม่อยู่นั่นแหละ

"สงสารน้องบ้างนะครับแม่ บูมอายุแค่นี้เอง พ่อกับแม่จะบังคับเขาไปถึงไหน" บีมบอกพลางบีบไหล่น้องชายเพื่อให้กำลังใจ เขารู้ว่าน้องยังโกรธอะไรบางอย่างกับเขาอยู่ แต่เขาไม่โทษบูมหรอกที่จะคิดโกรธเคืองเขาเช่นนั้น บูมไม่ได้มีท่าทีขัดขืนแต่กลับมองหน้าพี่ชายด้วยความเข้าใจมากขึ้น

แม่ดูเงียบไปและเริ่มมีน้ำตา "ครอบครัวของเราเพิ่งผิดหวังจากแกมาไม่เท่าไร จะให้ต้องผิดหวังกับบูมอีกหรือไง" แม่พูดพลางสะอื้น บีมเห็นแล้วก็รีบเดินไปหาแม่และนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ และดึงมือแม่มากุมไว้

"แม่เชื่อใจบูมนะครับ พ่อกับแม่เลี้ยงพวกเรามาตั้งแต่เด็กๆ ก็คงจะเห็นว่าบูมไม่ใช่เด็กเกเร ให้บูมได้มีชีวิตอิสระบ้าง ผมเชื่อว่าน้องเขาไม่ทำให้พวกเราผิดหวังหรอกครับ ถ้าแม่ไม่เชื่อใจ ผมจะไปเป็นเพื่อนบูมเอง ผมจะดูแลน้องเอง ยังไงบูมก็เป็นน้องชายของผม ผมก็รักและเป็นห่วงเขาไม่ต่างจากพ่อกับแม่ ผมไม่ปล่อยให้น้องชายของผมไปทำอะไรไม่ดีให้พ่อแม่ต้องหนักใจหรอกครับ" บีมบอกพลางหันมาสบตากับน้องชาย

"พี่บีม..." บูมเรียกชื่อพี่ชายด้วยเสียงแผ่วเบา ที่ผ่านมาเขาคิดไม่ดีกับพี่ชายคนนี้มาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าบีมจะคอยเฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นและคอยเป็นห่วงเขาอยู่มากขนาดนี้ คิดแล้วบูมก็ได้แต่รู้สึกผิด

"นะแม่ ให้บูมไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แม่เชื่อใจบูมนะครับ" บีมขอร้องอีกครั้ง แม่มองหน้าลูกชายสองคนด้วยสีหน้าที่อ่อนลง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็น่าจะเป็นสัญญาณได้อย่างหนึ่งว่าแม่ได้ยอมแล้ว แม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม

-----------------------------------------------------------------------------------

บูมนั่งรถออกไปกับพี่ชายด้วยความรู้สึกสุขใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าพ่อกับแม่จะให้อิสระเขาได้มากอีกสักแค่ไหน แต่วันนี้เขาดีใจที่ได้ความรู้สึกดีๆ กับพี่ชายของเขาคืนมา อย่างน้อยมันก็ทำให้บ้านของเขาน่าอยู่มากขึ้น

"พี่รู้สึกว่าหลังๆ บูมหน้าตาสดใสขึ้นนะ มีอะไรหรือเปล่า หรือว่ามีแฟนแล้ว" บีมถามขึ้นขณะที่ขับรถ

"อ๋อ...เปล่าครับ ยังไม่มีหรอก ถ้ามีขึ้นมาพ่อกับแม่คงเอาบูมตายเลย" บูมบอกพลางขำเล็กน้อย แต่อีกใจหนึ่งมันก็ไม่ขำหรอก

"ทีหลังถ้ามีอะไรแบบนี้ บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่จะช่วยจัดการให้ พี่ไม่อยากเห็นบูมถูกพ่อกับแม่บังคับมากจนเกินไป พี่ยอมรับว่าพี่ทนดูไม่ไหวจริงๆ พี่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาแล้ว พี่เข้าใจบูมดีว่าบูมรู้สึกยังไง"

"ครับ" บูมรับคำสั้นๆ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างที่ได้ยินพี่ชายพูดแบบนี้

"ว่าแต่ไม่มีอะไรจะบอกพี่จริงๆ เหรอ" บีมถามย้ำ

"อ๋อ...คือ..."

"เล่ามาเถอะ...พี่ไม่บอกพ่อกับแม่หรอก" บีมพูดอย่างรู้ทัน

บูมจึงตัดสินใจบอกพี่ชายไปว่า "พอดี...บูมเพิ่งได้เป็นนักร้องนำของวงดนตรีที่โรงเรียนครับ"

"จริงเหรอ" บีมพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าน้องชายของเขาจะมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ "พี่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าบีมจะมีความสามารถด้านนี้"

"พอดีเพื่อนบูมที่ชื่อทิวช่วยสอนครับ บูมเรียนร้องเพลงกับทิวแทบทุกวัน แล้วทิวก็พาบูมไปสมัครที่ชมรมดนตรี แล้วเขาก็ให้บูมเป็นนักร้องนำกับทิวครับ วันนี้...ทิวก็เลยนัดบูมไปซื้อเสื้อผ้าที่จะใส่ขึ้นเวทีกันอาทิตย์หน้านี้ครับ" ดูเหมือนบูมจะพูดถึงเพื่อนด้วยสีหน้ามีความสุขจนบีมอยากจะเห็นเสียแล้วสิว่าทิวหน้าตาเป็นแบบไหนถึงได้ดีกับน้องชายเขาถึงขนาดนี้

"ดีแล้วบูม บูมจะได้ไม่เครียดแต่กับการเรียนอย่างเดียว แต่ก็อย่าให้มีผลกับการเรียนล่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะให้ย้ายโรงเรียนอีก ว่าแต่จะเล่นวันไหนล่ะ พี่จะได้ตามไปดู อยากฟังเสียงน้องชายพี่ว่าจะเสียงดีขนาดไหน" บีมพูดพลางยิ้มอย่างชื่นชม

"ครับ" บูมรับคำแล้วก็หัวเราะ

"เสร็จแล้วโทรหาพี่นะ เดี๋ยวพี่มารับ" บีมบอกน้องชายเมื่อมาส่งถึงโรงเรียนสอนพิเศษแถวๆ สยามแสควร์ "วันนี้มีเพื่อนๆ มากี่คนล่ะ เดี๋ยวพี่เป็นสารถีให้"

"รวมบูมด้วยก็ห้าคนครับ" บูมบอกพลางเปิดประตูรถออก "ขอบคุณนะครับพี่" บูมบอกพลางยิ้ม บีมพยักหนักและยิ้มให้น้องชาย บูมปิดประตูรถแล้วก็เดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องเรียนพิเศษ

----------------------------------------------------------------------------------------

บ่ายแก่ๆ บูมก็เรียนพิเศษเสร็จ เขารีบโทรหาพี่ชายทันที จากนั้นก็ออกมานั่งรอเพื่อนๆ ตรงที่นัดหมาย ไม่นานนัก ทิว ปุ้ย หม่าวและต้องก็มาถึง วันนี้ทุกคนแต่งตัวตามวัยรุ่นสมัยนี่เป๊ะเลย แต่บูมยังแต่งตัวดูเป็นคุณหนูอยู่เลย ทำไมต้องนัดกันมาซื้อเสื้อผ้าน่ะหรือ เพราะว่าบูมจะต้องไปร้องเพลงไงล่ะ ถ้าเขายังใส่ชุดนักเรียนหรือแต่งตัวเป็นคุณหนูไฮโซแบบนี้คงจะเป็นศิลปินได้ยาก

บูมทักทายกับเพื่อนๆ สักพักพี่ชายเขาก็ขับรถเข้ามา บีมลดกระจกลงแล้วถามบูมว่า "พร้อมหรือยัง"

"พร้อมแล้วครับ" บูมตอบพลางยิ้ม

"โห... เป็นบุญของกูแท้ๆ ที่จะได้นั่งบีเอ็มเป็นครั้งแรกในชีวิต" ปุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น คนอื่นๆ ก็พลอยทำเสียงฮือฮาไปด้วย

"ขึ้นมาเลยน้อง วันนี้อยากไปไหน บอกพี่มาได้เลย" บีมร้องบอกเพื่อนๆ ของน้องชาย

ใช้เวลาไม่นานนักทุกคนก็กรูกันเข้าไปอยู่ในรถ มีบูมนั่งหน้ากับพี่ชายและทำหน้าที่คอยแนะนำเพื่อนๆ ให้พี่ชายรู้จัก

จริงๆ ก็ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าที่ไหนไกลกันหรอก ก็อยู่ในบริเวณสยามนี่แหละ แต่บีมไม่ได้มาร่วมด้วยเพราะอยากให้น้องเป็นอิสระอย่างเต็มที่ ส่งเสร็จแล้วบีมก็ไปหาเดินดูอะไรตามประสาของเขา พอถึงเวลาเขาก็ขับรถไปรับ เห็นน้องชายมีความสุขแล้วบีมก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าบูมดูสนิทและทำตัวติดกับทิวมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ พอสมควร

"ไปโยนโบวล์ที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์กันไหม แล้วก็ไปกินข้าวด้วย" ทิวเสนอเมื่อเข้ามานั่งในรถ เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็เห็นดีด้วย

"กินอาหารอะไรกันดีล่ะ อาหารญี่ปุ่นดีไหม" ต้องถามเพื่อนๆ

"ไม่เอา กูไม่ชอบกินปลาดิบ จะอ๊วกว่ะ กิน MK ดีกว่า" ปุ้ยแย้ง เวลาเพื่อนๆ ไปกินอาหารญี่ปุ่นทีไร เขาก็ได้แต่นั่งดู นอกจากไม่กินปลาดิบแล้วเขาก็ไม่ชอบอาหารรสจืดๆ ด้วย แต่สุดท้ายเพื่อนๆ ก็เห็นดีด้วยตามเขา

-------------------------------------------------------------------------

ดูท่าทางบูมจะไม่เคยเล่นโบวลิ่ง ทิวจึงเป็นคนที่เข้ามาช่วยสอน ข้อดีของบูมอย่างหนึ่งก็คือ เขาเป็นคนหัวไว สอนไม่นานนักเขาก็เล่นได้ และเล่นได้ดีเสียด้วยจนเพื่อนๆ ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว บีมไม่ได้เล่นด้วยหรอก แต่เขาก็นั่งดูน้องชายกับเพื่อนๆ เล่นด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่เสียงแรงที่เขาอุตส่าห์โทรไปบอกยกเลิกนัดกับแฟนสาวในวันนี้ ดูเหมือนแฟนสาวของเขาจะเคืองๆ อยู่เหมือนกัน แต่วันนี้เขาอยากทำให้น้องชายมีความสุขบ้าง แฟนของเขาเขาพอจัดการได้อยู่

เล่นอยู่สักพัก บูมกับทิวก็ขอตัวไปห้องน้ำพร้อมกัน สองหนุ่มน้อยเดินไปคุยกันไปอย่างมีความสุข เดินไปสัก บูมก็ตัดสินใจเอามือไปกอดคอทิว ทิวมองด้วยความสงสัยเล็กน้อยแล้วก็กอดคอเพื่อนตอบ เหมือนกับจะเป็นการสัญญาว่าเขาทั้งสองคนได้ตกลงที่จะเป็นเพื่อนรักกันแล้ว จากนี้ไป ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เขาทั้งสองคนก็พร้อมจะช่วยเหลือและฟันฝ่าไปด้วยกันเสมอ วันนี้บูมอยากจะบอกทุกคนในโลกที่เขารู้จักว่าเขามีความสุขจริงๆ ถึงมันจะเป็นแค่วันเดียวที่เขาจะได้มีอิสระแบบนี้ มันก็คงเป็นอีกวันหนึ่งที่เขาต้องจดจำตลอดไป และก็เป็นวันเดียวที่มีค่ามากพอที่จะทำให้เขาต่อสู้ต่อไป

-------------------------------------------------------------------------

ทิวกับบูมแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่าจะมีคนสนใจการแสดงของเขามากถึงเพียงนี้ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเพื่อนๆ ในห้องของเขาช่วยกันป่าวประกาศทั่วโรงเรียนให้มาดูคู่หูดูโอ้ใหม่ของวง Zenith ซึ่งปกติวงนี้ก็จะมีแฟนคลับที่เป็นสาวๆ ในโรงเรียนค่อนข้างเยอะ

พอสองหนุ่มปรากฏตัวด้วยเพลงสนุกๆ เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่ม บูมดูจะตื่นเวทีอยู่บ้าง แต่สักพักเขาก็เริ่มปรับตัวได้ จากนั้นสองหนุ่มก็ผลัดกันร้องเพลงซึ้งๆ แล้วก็ตามด้วยเพลงสนุกอีก จนกระทั่งปิดท้ายด้วยเพลง "ฉันดีใจที่มีเธอ" ที่ทิวกับบูมจะร้องด้วยกันแบบ Duet โดยมีบูมร้องเสียงหลักและทิวคอยร้องประสาน ก่อนร้อง บูมก็หยิบไมค์ขึ้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"บูมอยากจะร้องเพลงนี้ ให้กับเพื่อนคนหนึ่งของบูมครับ ที่บูมเลือกเพลงนี้เพราะว่าเป็นเพลงแรกที่บูมเลือกมาสำหรับการเรียนร้องเพลง ด้วยเพลงๆ นี้ที่บูมฝึกร้องอยู่กว่าเดือนเศษๆ ก็ทำให้บูมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ แต่บูมจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ไม่ได้เลยครับถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้คอยสอนและถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างให้บูม รู้ไหมครับว่าเพื่อนคนนั้นของบูมคือใคร" บูมร้องถามแฟนคลับ แล้วก็มีเสียงตะโกนตอบมาว่า "ทิว" ตามด้วยเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับว่าพวกเขาคือศิลปินชื่อดัง

"ใช่แล้วครับ เพื่อนคนนั้นของบูมก็คือทิวนั่นเอง บูมจะร้องเพลงนี้กับทิว และบูมก็อยากจะบอกทิวว่า ฉันดีใจที่มีเธอครับ" สิ้นเสียงของบูม อินโทรเพลงฉันดีใจที่มีเธอก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงกรี๊ดอีกคำรบ

"เยี่ยมมากบูม" บีมรำพึงกับตัวเองเบาๆ ด้วยความดีใจ เขากับแฟนสาวยืนมองน้องชายที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีกับทิวด้วยความรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าพ่อกับแม่มาเห็น เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.