We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 17-Apr-12 at 08:50 PM
มาแล้วครับ วันหยุดยาวก็เลยมีเวลาเขียนเยอะหน่อยครับ
ตอนหน้าอย่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ส่วนฉากอย่างว่าที่ขอนั้น...ไม่ถนัดจริงๆ ครับ พยายามจะเขียนเหมือนกันแต่มันเขิน

ป.ล.
ขอเปลี่ยนภาพเพราะว่าภาพ "ทิว" คนก่อนหายากมากๆ ว่าจะปรับให้มันดูดีขึ้นเสียหน่อยก็หาไม่ได้
ก็เลยต้องเปลี่ยนคน แต่ว่าคนนี้ก็น่ารักดีนะครับ

------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 30

ต้องจับกดข้อมือทิวไว้บนเบาะโซฟาในลักษณะขึงพืด เขาพยายามโน้มตัวลงมาไซร้ซอกคอของทิว แต่ถึงทิวจะเป็นเกย์ เขาก็ไม่ใช่คนตัวเล็กๆ ที่ต้องจะเอาชนะแรงได้ง่ายๆ เมื่อก่อนทิวชอบเล่นเตะฟุตบอลจึงทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง บวกกับขนาดตัวที่สูสีกับต้อง ต้องจึงต้องใช้กำลังต่อสู้พอสมควร

"ไอ้ต้อง กูบอกให้มึงหยุด ได้ยินไหมไอ้ต้อง มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง"

ไม่ว่าทิวจะร้องห้ามอย่างไรก็ไม่เป็นผล ต้องยังคงพยายามใช้กำลังขืนใจทิวอย่างไม่ลดละและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่

"อยู่นิ่งๆ สิวะ มึงจะดิ้นอะไรนักหนา เดี๋ยวมึงก็รู้ว่ากูกับไอ้บูมใครมันจะแน่กว่ากัน"

ต้องคุมสติไม่อยู่แล้ว เมื่อเห็นทิวดิ้นไม่หยุดเขาก็คิดหาวิธีที่จะทำให้ทิวหยุดดิ้นให้ได้ ไม่รู้ผีห่าซาตานที่ไหนเข้าสิงต้อง เขาได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ทำให้เขาเองก็ต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ต้องหันมาใช้มือบีบคอทิว เขาไม่ได้กะจะให้ทิวตายหรอก แค่จะให้หยุดดิ้นเท่านั้นเพราะทิวแรงเยอะ ถ้าไม่ทำแบบนี้สุดท้ายต้องก็คงจะสู้ไม่ไหว

"ไอ้ต้องมึง แค่กๆๆๆ" ทิวพูดไม่ออกเพราะต้องบีบคอเขาแน่น เขาพยายามแกะมือของต้องออกจากคอ เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลและด้วยสัญชาติรักตัวกลัวตาย ทิวจึงรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีตัดสินใจใช้มือผลักหน้าอกต้องสุดแรงจนต้องกระเด็นไปด้านตรงข้าม ข้าวของบนโต๊ะหล่นกระจัดกระจาย

แล้วทุกอย่างก็เงียบไปสักพัก....

ต้องก็ดูเหมือนจะหายเมาเป็นปลิดทิ้งเมื่อรู้ว่าเขาเพิ่งทำอะไรลงไป

"ไอ้ต้อง...มึงเป็นบ้าอะไรของมึง มึงจะฆ่ากูหรือไง เสียแรง...ที่กูกับมึงอุตส่าห์เป็นเพื่อนกันมาตั้งเกือบ 20 ปี ทำไมมึงทำแบบนี้" ทิวพูดไปร้องไห้ไป สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าเขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

ต้องได้สติแล้ว เขาค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นแล้วก็เดินมาหาทิวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาและเอามือลูบคอของตัวเองอยู่

"ทิว...กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ" ต้องบอกด้วยเสียงสั่นเทาและสีหน้าที่บอกว่าเขารู้สึกผิด

"ไม่ได้ตั้งใจเหรอ ถ้ามึงตั้งใจกูก็คงตายไปแล้วใช่ไหม" ทิวถามเสียงดัง

"ทิว...กูขอโทษจริงๆ มึงอย่าโกรธกูนะเว้ย ต่อไปกูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว มึงจะให้กูทำอะไรก็ได้ กูขอโทษ" ต้องบอกพลางร้องไห้เช่นกัน นึกโกรธตัวเองที่เมามายจนขาดสติถึงขนาดนี้ ขาดสติจนเกือบจะฆ่าเพื่อนรักของตัวเองตายคามือไปแล้ว

"ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยอะไรกันดีกว่า กูไม่อยากเห็นหน้ามึง"

ทิวพูดแบบนี้ก็หมายความว่าให้ต้องออกไปนั่นเอง เขาทนเห็นหน้าต้องไม่ไหวจริงๆ แม้จะเป็นเพื่อนกันมานาน แม้จะรู้ว่าต้องขาดสติ ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทิวก็ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"มึงกลับไปก่อนได้ไหมไอ้ต้อง" ทิวพูดย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นต้องยังคงยืนตะลึงอยู่

ต้องพยายามสบตากับทิวเพื่อจะบอกว่าเขาเสียใจ แต่ต้องก็รู้ว่าทิวคงไม่อยากรับรู้ นี่เขาทำอะไรลงไป เขาทำไปได้ยังไง ทิวมันต้องไม่ให้อภัยเขาแน่ๆ เลย เขาทำลายมิตรภาพที่ยาวนานกว่า 20 ปีลงภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที มันไม่ต่างจากคนที่เขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้าเลย มึงทำแบบนี้ทำไมวะต้อง...

ต้องเดินคอตกออกจากบ้านทิวไปอย่างช้าๆ เขาได้แต่ขอโทษทิวในใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเป็นคนอื่นทำก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะอธิบายให้ทิวเข้าใจ แต่นี่...เขาทำด้วยตัวเองทั้งหมด เขาจะไปโทษใครได้ ก็คงต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมและผลที่จะตามมาเท่านั้น

เมื่อต้องกลับไปแล้ว ทิวก็นั่งชันเข่าร้องไห้อยู่บนโซฟาคนเดียว เหมือนชีวิตของเขาจะไม่สามารถหนีหายจากเรื่องราวร้ายๆ ไปได้เลย เมื่อบูมกลับมา ดูเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่อีกด้านหนึ่ง...มันคือการก่อตัวของพายุลูกใหม่ต่างหาก แล้ววันนี้ จู่ๆ พายุอีกลูกก็ก่อตัวขึ้นและโถมเข้าเล่นงานเขาแบบไม่ให้ตั้งตัวและไม่คาดคิดมาก่อน เพื่อนเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้กลับเป็นคนที่ทำร้ายเขาเสียเอง ถึงจะรู้ว่าต้องไม่ได้ตั้งใจ แต่เหตุการณ์เสี่ยงต่อความเป็นความตายเมื่อกี้ก็น่ากลัวเหลือเกิน ต้องไม่น่าทำแบบนี้เลย

ทิวคิดถึงบูมเหลือเกินในเวลานี้ แต่เขาคงจะบอกเรื่องนี้กับบูมไม่ได้ เขาไม่อยากให้บูมกับต้องผิดใจกัน ไม่อยากจะทำให้เรื่องราวมันวุ่นวายมากขึ้น ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ชักจะวุ่นวายจนชีวิตจะหาความสงบสุขไม่ได้อยู่แล้ว

------------------------------------------

ดูเหมือนเรื่องร้ายๆ สำหรับทิวยังคงไม่หมดแค่เท่านี้ วันนี้บูมไม่ได้มาทำงานที่สมาคมเพราะเขาต้องไปช่วยพ่อทำงานที่บริษัท พอดีเอิร์ธว่างก็เลยขับรถมาส่งทิวที่บ้านตอนเลิกงาน แต่ก่อนจะกลับเข้าบ้าน ทิวก็พาเอิร์ธไปหาอะไรกินที่ตลาดโชคชัยสี่เสียก่อน ดูเหมือนเอิร์ธจะชอบมากทีเดียวเพราะมีของกินให้เลือกหลากหลาย ทิวกับเอิร์ธจึงกินกันเสียเปรม จุกไปตามๆ กัน

เกือบๆ สองทุ่ม เอิร์ธจึงขับรถมาส่งทิวที่บ้าน พอเอิร์ธส่งทิวเสร็จแล้ว เขาก็วิ่งรถไปอีกหน่อยเพื่อหาที่กลับรถในซอย พอหาที่กลับรถได้และขับผ่านมาทางหน้าบ้านทิวอีกครั้งก็ปรากฏว่าเขาเห็นทิวนอนทรุดกองอยู่หน้าบ้าน เอิร์ธรีบจอดรถแล้วลงไปดูทันทีด้วยความตกใจ

"เฮ้ยทิวเป็นไร ใครทำอะไรอะไรทิวน่ะ" พอเห็นหน้าตาเนื้อตัวของทิวมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียวไปหมดเอิร์ธก็ยิ่งตกใจ "อะไรเนี่ย เกิดอะไรขึ้น"

"ไม่รู้เหมือนกัน เรากำลังไขกุญแจบ้านอยู่ดีๆ ก็มีใครไม่รู้วิ่งเข้ามารุมตีเราใหญ่เลย"

"ใช่ไอ้สามคนนั่นหรือเปล่า เมื่อกี้เราเห็นแวบๆ ทางกระจกหลัง" เอิร์ธสันนิษฐาน แต่ไอ้สามคนนั้นมันก็ขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปเสียแล้ว หน้าก็จำไม่ได้ ไม่รู้จะไปแจ้งตำรวจว่ายังไง

"น่าจะใช่" ทิวตอบพลางพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ได้เพราะรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว เขาเจ็บหลายจุดจนไม่รู้ว่ามีจุดไหนของร่างกายบ้างที่ถูกตี

"เราว่านายไปหาหมอดีกว่า เดี๋ยวเราพาไป" เอิร์ธบอกแล้วก็ช่วยพยุงทิวขึ้นไปนั่งบนรถ เขาต้องค่อยๆ พยุงเพราะแขนทั้งสองข้างของทิวถูกตีอย่างแรง ทิวจึงรู้สึกเจ็บจนแทบจะไม่มีแรงเกาะเอิร์ธ

พอเข้าไปนั่งในรถได้แล้ว เอิร์ธก็หันมาถามทิวที่นั่งโอดโอยอยู่ข้างหน้ากับเขาว่า "ทิวไปมีเรื่องกับใครมาหรือเปล่า"

ทิวพยายามนึก แต่เขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเขาไปมีเรื่องกับใคร นอกจาก...แพรว หรือว่า...แม่ของบูม คงไม่ใช่หรอก...เขาไม่ควรจะคิดอกุศลแบบนั้น สองคนนั้นคงไม่ทำเรื่องแบบนี้

"ไม่มี...เขาอาจจะจำผิดคนก็ได้ เราก็เลยซวยไป" ทิวพยายามคิดในแง่นั้น แต่ในใจก็อดสงสัยเรื่องที่เขาคิดเมื่อสักครู่นี้ไม่ได้

"อืม...อาจจะเป็นไปได้ เดี๋ยวเราโทรหาบูมก่อนนะ" เอิร์ธว่าแล้วก็ขับรถออกไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาบูม

"บูม...เลิกงานหรือยัง ตอนนี้ผมกำลังจะพาทิวไปโรงพยาบาลนะ"

"ทิวเป็นอะไร ทำไมต้องไปโรงพยาบาล" บูมถามมาด้วยน้ำเสียงตกใจ

"ทิวโดนใครก็ไม่รู้ดักตีเมื่อกี้ ที่หน้าบ้าน พอดีเรามาส่งทิวที่บ้าน แล้วตอนที่เราไปกลับรถ...ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ คนร้ายมันก็ดักตีทิวจนลงไปนอนทรุดเลย"

"อะไรนะเอิร์ธ แล้วทิวเป็นอะไรมากไหม"

เสียงที่ลอดมาทางโทรศัพท์มือถือดังพอที่ทิวจะได้ยินอยู่เหมือนกัน เขาจึงได้รู้ว่าบูมเป็นห่วงเขามากแค่ไหน

"ก็ฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัวเลยแหละ แต่ทิวยังโอเคอยู่นะ แต่ดูๆ แล้วแขนทิวน่าจะโดนตีหนักสุด" เอิร์ธรายงานไปตามที่เขาเห็น

"โอเคๆ เดี๋ยวประชุมเสร็จแล้วเราจะรีบตามไป ใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ ฝากดูแลทิวหน่อยนะเอิร์ธ" นี่ถ้าบูมสามารถวิ่งออกไปจากที่ประชุมได้โดยไม่ต้องเกรงใจใครบูมก็คงทำไปแล้ว เขาได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนทำร้ายทิว

"ครับๆ ได้ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก รีบตามมาละกันนะครับ"

เอิร์ธพูดจบแล้วก็วางสายไป พอเก็บโทรศัพท์เข้าที่เรียบร้อยก็หันมาคุยกับทิวว่า

"ทิวโชคดีนะ รู้ไหมว่าบูมเขาเป็นห่วงแล้วก็รักทิวมาก"

ทิวหันไปมองเอิร์ธแต่ไม่ได้พูดอะไร แต่เอิร์ธก็คงพอสังเกตเห็นความอยากรู้ในแววตาของทิวอยู่เขาจึงพูดสืบไปว่า "รู้ไหมว่าบูมเขากลัวพวกเราเข้าใจทิวผิด เขาก็เลยนัดพวกเราไปคุยด้วย ลีน่ากับแอนเดอร์สันก็ไปด้วยนะ คุยกันอยู่นานเลยแหละ บูมเขาย้ำตลอดเลยนะว่าทิวไม่ใช่มือที่สาม เพราะว่าบูมเขารักทิวมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะมาเจอแพรวเสียอีก แต่เขาถูกพ่อแม่คลุมถุงชน ไม่น่าเชื่อนะว่าสมัยนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีก" เอิร์ธพูดติดตลกในตอนท้ายๆ

"แล้วพวกนาย...ไม่รังเกียจ...คนที่เป็นแบบเราเหรอ" ทิวถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"โอ๊ยไม่หรอก...พวกนายก็เป็นคนดี ทำประโยชน์ให้สังคมได้เหมือนๆ กันนี่หว่า เราควรจะรังเกียจพวกคนที่สร้างปัญหาให้สังคมไม่ดีกว่าเหรอ อย่างไอ้พวกเด็กแว้น เด็กสก๊อย พวกดาราที่ชอบมีข่าวฉาวๆ พวกนักการเมืองที่โกงบ้านกินเมือง หรืออะไรพวกนี้ เราว่าคนพวกนี้ต่างหากที่พวกเราสมควรจะรังเกียจ ไม่ใช่มารังเกียจพวกนาย จริงไหม" เอิร์ธย้อนถาม

ทิวพยักหน้าพลางยิ้มน้อยๆ แล้วก็ร้องโอ๊ยเพราะเจ็บปากที่ถูกหมัดของใครก็ไม่รู้ซัดเข้าให้ เอิร์ธเห็นแล้วก็อดขำนิดๆ ไม่ได้แม้ว่าจะรู้สึกสงสารมากก็ตาม

------------------------------------------

เกือบสามทุ่ม บุมก็มาถึงโรงพยาบาล เขาแทบจะน้ำตาร่วงเลยทีเดียวเมื่อเห็นสภาพคนที่เขารักมีรอยฟกช้ำดำเขียวตามเนื้อตัวและใบหน้าหลายจุด ไม่รู้ว่าไอ้คนพวกนั้นมันโกรธแค้นอะไรทิวนักหนาถึงจะต้องทำกันเจ็บถึงขนาดนี้

"ใครทำอะไรนายทิว" บูมถามพลางย่อตัวลงนั่งข้างๆ เตียงของทิว สายตาคอยมองสำรวจร่างกายของทิวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทิวต้องเข้าเฝือกแขนข้างหนึ่งเพราะค่อนข้างบวมและเจ็บกว่าอีกข้าง

"ไม่รู้เหมือนกัน...สงสัยเขาคงจะจำคนผิด เราไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลย ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปละกัน" ทิวบอกด้วยเสียงที่ฟังดูอู้อี้เพราะปากของเขาเริ่มบวมเจ่อ

ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่บูมรู้จักทิวมาเขาก็ไม่เคยเห็นทิวทำตัวเกเรเป็นนักเลง ก็ไม่น่าจะไปมีเรื่องกับใครจนต้องถูกดักตีแบบนี้ จะว่าเป็นเจ้าหนี้คนนั้นก็ไม่น่าใช่เพราะบูมก็ช่วยจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ไปหมดแล้ว

"ขอบคุณมากนะเอิร์ธที่ช่วยพาทิวมาโรงพยาบาล" บูมหันไปบอกเอิร์ธที่ยืนอยู่ข้างหลังเมื่อนึกขึ้นได้ เขามัวแต่ห่วงทิวเสียจนลืมดูว่ามีใครอยู่บ้าง

"ไม่เป็นไร...เดี๋ยววิท ลีน่าแล้วก็แอนเดอร์สันจะมาด้วยนะ ใกล้ถึงละ" เอิร์ธบอก

บูมพยักหน้าเข้าใจ แล้วก็หันมาดูทิวต่อ

"บูมกินอะไรมาหรือยัง" ทิวถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงเราหรอก ห่วงตัวเองเถอะ แล้วหมอจะให้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร"

"รอดูพรุ่งนี้อีกที ถ้าไม่มีอะไรก็น่าจะกลับไปพักที่บ้านได้"

ดูจากสภาพแล้วคนร้ายคงแค่ต้องการสั่งสอนขั้นต้นเท่านั้น ทิวจึงไม่ถึงกับเจ็บหนักมาก แต่ก็เจ็บตัวไปพอสมควร

"นายพักให้เต็มที่นะ ไม่ต้องห่วงงานหรอก ห่วงตัวเองก่อน เราพอจะหาคนมาช่วยทำชั่วคราวได้" เหมือนบูมจะนึกอะไรได้ก็เลยถามต่อไปว่า "แล้วพวกนั้นมันจะกลับมาทำร้ายนายอีกหรือเปล่าล่ะทิว นายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวก่อนไหม"

"ก็ดีเหมือนกันนะทิว อย่าเพิ่งวางใจไป ผมมีคอนโดอยู่แถวๆ รัชดา ทิวจะไปพักก็ได้นะ ตอนนี้ผมยังไม่ใช้" เอิร์ธเห็นดีด้วย

จะว่าไปแล้ว เพื่อนร่วมงานของทิวแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นคนจิตใจดีกันทั้งนั้นเลย โชคดีจริงๆ ที่ทิวได้มาเจอคนดีๆ แบบนี้

ยังไม่ทันจะได้ตอบ วิท ลีน่าและแอนเดอร์สันก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง วิทถือกระเช้าของเยี่ยมที่พวกเขาทั้งสามคนแวะซื้อมาด้วย

"เป็นไงบ้างทิว สำหรับคนป่วยนะ จากพวกเราสามคน" วิทถามแล้วก็วางกระเช้าไว้บนชั้นวางด้านบนของเตียง

"ขอบคุณมากครับ จริงๆ ไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้" ทิวบอกอย่างเกรงใจ

"Are you okay, Tiew?" แอนเดอร์สันเดินเข้ามาถาม

"I'm ok--still alive." ทิวตอบติดตลกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ถึงกับตาย

"What happened? Did they mistake you for someone else?" ลีน่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นเข้าใจว่าทิวเป็นอีกคนหรือเปล่า จริงๆ ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ก็มาจากที่เอิร์ธบอกนั่นแหละ

"I really have no idea but I guess so." ทิวตอบพลางพยายามยิ้มเท่าที่พอจะยิ้มได้ เห็นเพื่อนร่วมงานหลายคนเป็นห่วงและอุตส่าห์มาเยี่ยมถึงโรงพยาบาล ทิวก็อดตื้นตันใจไม่ได้ ตั้งแต่ออกจากมหาวิทยาลัยมา ทิวก็ไม่เคยได้เจอบรรยากาศที่มีเพื่อนๆ หลายคนแบบนี้อีกเลย

"Oh, that's too bad. I hope you get well soon, friend." แอนเดอร์สันอวยพรให้ทิวหายไวๆ

"Thank you." ทิวกล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ น้ำตามันพาลจะไหลให้ได้ที่รู้ว่าเขามีเพื่อนร่วมงานที่ดีขนาดนี้ ที่ผ่านมาทิวคิดกังวลเสมอว่าเพื่อนร่วมงานคงไม่ค่อยชอบเขาเพราะคิดว่าเขาเป็นมือที่สามระหว่างบูมกับแพรว แต่พอบูมอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ การปฏิบัติตัวของพวกเขาต่อทิวก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีจนทิวคาดไม่ถึง

"ขี้แยอีกแล้วนะ" บูมพูดพลางเอามือไปขยี้หัวทิวเล่นด้วยความเอ็นดู ทิวก็ร้องโอ๊ยเพราะหัวของทิวก็โนจากการถูกไม้ตีด้วย

"ทิว...เราขอโทษ ขอโทษนะ เราลืมไป" บูมรีบร้องบอกอย่างตกใจและหน้าเสียที่ทำให้ทิวต้องเจ็บ

"ไม่เป็นไร...ไม่เจ็บมากหรอก" ทิวบอกพลางยิ้มและขำเล็กน้อย คนอื่นๆ ก็พลอยขำตามไปด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผู้ชายกับผู้ชายอยู่ด้วยกันจะมีภาพน่ารักๆ แบบนี้ให้เห็นได้ด้วย ทิวกับบูมช่วยทำให้เพื่อนร่วมงานได้เปิดโลกทัศน์และเห็นอะไรบางอย่างที่คนทั่วไปไม่ได้เห็นในความรักระหว่างชายกับชายมากขึ้น น่าเสียดายที่เรามักมีอคติจนลืมมองเห็นความสวยงามของสิ่งที่เป็นอยู่ ในจำนวนนั้นก็มีบางคนในครอบครัวของบูมด้วย

------------------------------------------

บูมกับเอิร์ธช่วยกันเก็บข้าวของที่ขนมาจากบ้านทิวบางส่วนเข้าที่ ส่วนทิวก็ได้แต่นั่งมองอยู่บนเตียงเพราะเขายังเจ็บตัวอยู่ ช่วยอะไรไม่ได้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วบูมก็ให้ทิวมาพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมของเอิร์ธชั่วคราวก่อนเพราะยังไม่ไว้ใจในความปลอดภัยของทิว ตอนแรกทิวจะไม่ยอมแต่บูมกับเอิร์ธก็ขอร้องจนทิวต้องมา

"หมดแล้วนะ" เอิร์ธหันมาถามยืนยันกับทิวหลังจากที่เก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้ว

ทิวพยักหน้าพลางยิ้ม "ขอบใจเอิร์ธมากนะครับ"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราขอตัวกลับก่อนละกันนะ พอดีต้องไปธุระกับแม่"

"อ้าว...ไม่อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนเหรอ ผมซื้อมาเยอะแยะเลย" บูมร้องถาม

"เอาไว้คราวหน้าละกันครับ ผมติดจริงๆ วันนี้ นี่ไงแม่โทรมาตามละ" เอิร์ธบอกพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง กดรับแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับโบกมือให้เป็นสัญญาณว่าเขาต้องไปแล้ว

โชคดีเหมือนกันที่ทิวออกจากโรงพยาบาลตรงกับวันหยุดพอดี บูมจึงมีเวลาอยู่ดูแลทิวแบบเต็มๆ วันทั้งสองวัน แต่การป่วยครั้งนี้ก็ทำให้ทิวไม่ได้ไปเรียนหนังสือ

"หิวหรือยัง" บูมหันไปทิวถามหลังจากเดินไปปิดประตูห้อง

ทิวพยักหน้า

"ปะ ไปกินข้าวด้วยกันตรงนั้นดีกว่า" บูมบอกพลางเดินมาช่วยพยุงทิวไปนั่งตรงโต๊ะที่จัดไว้สำหรับนั่งกินข้าวหรือจะคุยกันก็ได้ ห้องของเอิร์ธดูกว้างขวางทีเดียว ราคาคงจะแพงไม่ใช่น้อย

บูมช่วยแกะกับข้าวแล้วจัดใส่จาน ทิวก็ได้แต่นั่งดูเช่นเคยเพราะมือข้างหนึ่งของเขายังต้องใส่ผ้าสามเหลี่ยมคล้องแขนเอาไว้อยู่ บูมเห็นทิวมองด้วยสายตารู้สึกผิดก็อดขำไม่ได้ เกือบจะเอามือไปยีหัวทิวอยู่แล้วเชียว แต่นึกพอนึกได้ว่าทิวยังเจ็บอยู่ก็เลยต้องหดมือกลับ

"อย่าคิดมากน่าทิว เมื่อก่อนนายช่วยเราตั้งเยอะตั้งแยะ ให้เราดูแลนายบ้าง ไม่ต้องกลัวหรอก...เดี๋ยวพอนายหายแล้วเราก็จะใช้นายคืนให้เข็ดเลย ดีไหม" บูมสัพยอกในตอนท้าย

"นายกินข้าวต้มไปก่อนละกันนะ จะได้กินง่ายๆ"

บูมจัดแจงอาหารเสร็จแล้วก็นั่งลงข้างๆ ทิว "เดี๋ยวเราป้อนนะ"

ทิวทำหน้าตกใจแล้วก็ร้องห้าม "ไม่เอา...เรากินเองก็ได้"

แต่เมื่อเห็นบูมทำหน้าขอร้องอ้อนวอน ทิวก็เลยต้องยอม "ก็ได้...แค่วันนี้วันเดียวนะ" แน่ะ...มีต่อรองเสียด้วย

บูมหัวเราะชอบใจแล้วก็ค่อยๆ ตักอาหารป้อนทิว

"เป่าก่อนดิ เดี๋ยวก็ลวกปากเราพอดี" ทิวทักท้วง บูมก็เลยขำแล้วก็เป่าข้าวต้มในช้อนก่อนจะป้อนเข้าปากทิวไป ดูเขาเก้ๆ กังๆ เล็กน้อยเพราะไม่ค่อยได้ทำแบบนี้เท่าไรนัก

"แล้วนายไม่กินข้าวเหรอ"

"เดี๋ยวกิน" บูมพูดจบก็ตักข้าวป้อนทิวต่อ จนกระทั่งทิวกินข้าวหมดแล้ว เขาจึงพาทิวไปนอนที่เตียงแล้วก็กลับมานั่งกินข้าว จากนั้นก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย แล้วก็มาดูแลทิวต่อ

"เราอยากอาบน้ำ" ทิวทำเสียงอ้อนเมื่อบูมกลับมา เขาไม่ชอบเลยเวลาเจ็บป่วยแบบนี้แล้วอาบน้ำไม่ได้

"อย่าเพิ่งเลย เอางี้ละกัน เดี๋ยวเราเช็ดตัวให้ นายจะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยไหม"

"ก็ดีเหมือนกัน"

บูมจึงเดินไปเลือกเสื้อผ้าที่คิดว่าทิวน่าจะใส่นอนได้สบายๆ หนึ่งชุดมาเตรียมไว้ หลังจากนั้นก็ไปหาชามใบใหญ่ใส่น้ำและผ้าเช็ดตัวมาด้วยหนึ่งผืน

"ถอดเสื้อผ้าก่อนนะ" บูมบอก แต่ทิวก็ทำหน้าอิดออด "ไม่ถอดเสื้อผ้าออกแล้วจะเช็ดตัวยังไงล่ะ จะอายทำไม เราเห็นของนายจนหมดแล้ว"

ทิวจึงต้องยอมให้บูมช่วยถอดเสื้อผ้าออกไป จนเหลือแต่ชุดชั้นในสีขาวตัวน้อย พอบูมจะช่วยถอดทิวก็รีบร้องห้าม

"อันนี้เอาไว้ก่อนก็ได้"

บูมขำแล้วส่ายหน้า "นายนี่ เราไม่ทำอะไรนายหรอกน่า เจ็บแบบนี้จะทำได้ยังไง" แล้วก็หันสบตากับทิวพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม "แต่ถ้านายต้องการก็บอกเราได้นะ เราช่วยได้"

บูมจึงถูกมือข้างที่เหลือของทิวหยิกขาเข้าให้ หยอกกันพอหอมปากหอมคอแล้วบูมก็ช่วยเช็ดตัวให้ทิวอย่างทนุถนอมเพราะกลัวจะทำให้ทิวเจ็บตัว

ระหว่างนั้นทิวก็ถามคำถามหนึ่งซึ่งเขาอยากรู้และสงสัยมานานแล้ว "บูม...นายเคย..." บูมหยุดและสบตากับทิวด้วยความสงสัย

"นายมีอะไรกับแพรวหรือยัง" ทิวกลั้นใจถามออกไปอย่างเขินๆ แต่มันก็อยากรู้จริงๆ นี่นา

บูมยิ้มเล็กน้อยแล้วก็ถามกลับ "แล้วนายคิดว่าไงล่ะ"

"ก็...ถ้าเคยเป็นแฟนกันก็น่าจะ..."

บูมขำแล้วก็ถามกลับไปว่า "ถ้าจะบอกว่าไม่ล่ะ...นายจะเชื่อไหม"

"จริงเหรอ" ทิวทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อ

"จริงสิ ก็เราไม่ได้รักเขานี่" แล้วบูมก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย "แต่ถ้ากับผู้ชายคนอื่น...ไม่แน่"

เห็นทิวตกตะลึงแล้วบูมก็ขำ สักพักทิวก็ทำหน้าม่อย

"ไม่ต้องเช็ดแล้ว เราจะนอน"

ทำเสียงแบบนี้แสดงว่างอนแน่ๆ เลย บูมไม่ได้เห็นทิวงอนมานานแล้ว สมัยเรียนนั้นทิวงอนเขาบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่เขาจีบกับน้องแป๋มอยู่ ทิวงอนจนไม่ยอมพูดกับเขาเป็นอาทิตย์เลย

"งอนเหรอ ยังขี้งอนเหมือนเดิมนะเนี่ย อ้อ...ขี้หึงด้วย" บูมยิ้มชอบใจแล้วก็ก้มหน้าลงไปใกล้ๆ กับใบหน้าของทิว

"ยังไงเราก็รักนายคนเดียวนะทิว กับคนอื่นๆ ก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่กับนาย...เรารักจริงหวังแต่งนะ"

ทิวยิ้มเขิน บูมหอมแก้มทิวเบาๆ ก็เลยยิ่งทำให้ทิวเขินไปกันใหญ่ คงจะเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะมีบ้างในตอนนี้ พายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นแล้วและพร้อมที่จะเล่นงานเขาสองคนตลอดเวลา แต่ตอนนี้ขอเวลาพักจากเรื่องร้ายๆ ก่อนละกันนะ

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.