คนพูดทำท่าราวกับตัวเองกำลังสร้างบุญสร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ แต่นั่นไม่ช่วยทำให้พันไมล์เกลียดเขาน้อยลงไปกว่าเดิมกลับยิ่งเกลียดมากขึ้นกับความเห็นแก่ตัว ฉวยโอกาสเอากับคนที่มีทุกข์ “แกนี่มันน่าด้าน เลวจนหาที่เปรียบไม่ได้ แกทำอย่างนี้กับคนที่พิการได้อย่างไร เอาเมียเขามาเป็นเมียแก เพื่อปลดเปลื้องความใคร่ แกถามผัวเขาแล้วหรือยัง ว่าเขาต้องการให้เป็นแบบนี้ไหม”
พันไมล์พูดด้วยท่าทางจงเกลียดจงชัง แสนก้าวยักไหล่ก่อนตอบ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่จะต้องมาโวยวายอะไร ในเมื่อผัวของอาบจันทร์ก็คือลูกน้องของเขาเอง แล้วก็มีการยินยอมพร้อมใจกันทุกฝ่าย ดังนั้นจึงไม่มีใครผิดในเรื่องนี้
“แต่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรมประจำใจ และแกควรจะมี ไม่ใช่คิดจะเอาลูกเขาเมียใครมาเป็นเมียก็ได้ โดยที่เขาไม่ยินยอม”
หนุ่มหน้าหวานพูดอย่างเหลืออด นึกถึงตัวเองที่ต้องมารับชะตากรรมจากความหื่นกระหายของโจรหนุ่ม ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดแม้แต่นิดเดียว
“การที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องทุกข์ทรมานจากการมีผัว แต่ไม่มีความสุขทางเพศนั่นน่ะเหรอ เป็นสิ่งที่นายคิดว่าดีที่สุด แล้วคิดหรือว่าถ้าไม่มีฉัน แล้วเขาจะไม่มีคนอื่น....”
แสนก้าวถลึงตาใส่คนที่กำลังต่อว่าเขา มือบีบต้นแขนสองข้างของพันไมล์บีบแน่น จนคนถูกรังแกต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาได้ฉันมาบำบัดความใคร่ให้ ดีกว่าที่เขาต้องมีชู้และทิ้งผัวปล่อยให้ช้ำใจตาย เพราะถึงอย่างไร ฉันก็ไม่เคยคิดจะพรากเมียมาจากอ้อมกอดของผัวหรอก โดยเฉพาะผัวพิการซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกน้องของฉัน”
เหตุผลของโจรหนุ่มยิ่งทำให้พันไมล์เพิ่มความรังเกียจในตัวเขามากขึ้นไปอีก สำหรับพันไมล์คิดว่ามันเป็นข้ออ้างของคนเลวคนหนึ่งที่หาประโยชน์เข้าตัวเองได้ในทุกสถานการณ์ และเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแสนก้าวอย่างมาก
“อย่ามากล่าวหาฉัน โดยที่ไม่รู้จักฉันอีก”
แสนก้าวกระแทกร่างเล็กจนติดเตียง ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงในสภาพเปลือยเปล่า
“เหมือนที่แกก็กล่าวหาฉัน โดยที่ไม่รู้จักฉันจริงๆเช่นกัน”
เสียงขมขื่นดังมาให้ได้ยินจากคนที่นั่งอยู่บนเตียง แสนก้าวชะงักกึก จากนั้นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเขา
“สักวันหนึ่งแกจะต้องเสียใจที่ทำร้ายฉันเพราะความเข้าใจผิดของแก”
พันไมล์เชื่อเช่นนั้น เขาหวังว่าเมื่อความจริงปรากฏ โจรหนุ่มจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับเขาอย่างสาสม