เรื่องราวในโลกนี้ จริง ๆ แล้วทุกอย่างมันเป็นเหตุเป็นผลกันหมดอย่างที่ศาสนาพุทธของเราได้สอนเอาไว้นะครับ แต่ในความที่เป็นเหตุเป็นผลที่เกิดขึ้น บางครั้งผู้คนอย่างเราก็ไม่สามารถยอมรับหรือต่อต้านได้เลยนะครับ เรื่องของผมก็เช่นกันนะครับ ความรักเกิดขึ้นระหว่างผู้ชาย จริง ๆ แล้วมันก็ยังเป็นเรื่องที่ตะขิดตะขวงใจอยู่เล็ก ๆ ภายในหัวใจ ใช่ว่าโลกนี้เปิดกว้างเรื่องความรักระหว่างชายกับชายแล้ว ผู้คนทุกก็สามารถรักกันได้อย่างไม่รู้สึกอะไร สำหรับผมมันก็รู้สึกอยู่นะครับ เอาล่ะ ผมขอพื้นที่ตรงนี้เล่าให้ฟัง แต่อาจจะเรียกว่าระบายก็ได้นะครับ เพราะว่าบางครั้งมันก็ดีใจในแบบที่เรียกว่า เต็มตื้น หรือในบางครั้งมันสุดจะเจ็บปวดในแบบ จุกอก แล้วไอ้ความเต็มตื้นกับจุกอกนี่แหละครับ มันผลักดันให้ผมทำอะไรตามที่คิดโดยปราศจากความเป็นเหตุเป็นผล ผมขอเริ่มเรื่องเลยก็แล้วกันครับผมชื่อต้าครับ ต้าเป็นผู้ชายที่คุยเก่งครับ เฮฮา เวลาเพื่อน ๆ อยู่กับต้ามักจะมีเสียงหัวเราะสนุกสนานเสมอ ผมเรียนหนังสือไม่เก่งเอาซะเลยครับ ออกไปทางโง่ด้วยซ้ำไป เรียกได้ว่าตอนเอนทรานซ์ก็ไม่ได้ตั้งใจสอบกะเขา เพียงแต่อยากจะไปในสนามสอบเฮฮากะเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง ครั้นเมื่อผมเอนไม่ติด ผมก็เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจครับ เราได้รับอิสระอย่างที่ไม่เคยได้รับในระดับมัธยม วันหนึ่งในปีแรกของการเป็นนักศึกษา ผมไปแถว ๆ มหาลัย (ผมพักอยู่ไม่ไกล สามารถเดินได้ด้วยเท้า) บังเอิญว่าวันนั้นหิวครับ ก็เลยแวะเข้าร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง ก็ชี้เค้กที่อยากกิน ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยได้กินอะไรพวกนี้เท่าไหร่ แล้วผมก็ไม่ดื่มกาแฟด้วย ก็เลยสั่งช็อกโกแลตเย็นมากิน เป็นครั้งแรกที่ผมเจอกับผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง น่ารักมากจริง ๆ นะครับ เป็นคนทำเครื่องดื่มให้ผม ตอนผมเห็นเขาที่เคาเตอร์ ผมก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ใจเต้นแรง รู้สึกถูกชะตากับคนคนนี้เป็นพิเศษ ผมมองเขาค่อนข้างบ่อยครับ และด้วยเหตุผลนั่นเอง ทำให้ผมมาดื่มช็อกโกแลตที่นี่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสหรือไม่กล้าพอ ผมไม่รู้นิครับ ว่าจะหาเหตุผลอะไรไปคุยกะเขา เห็นไหมครับว่าคนเราเกี่ยวข้องกับเหตุผลมากมายเหลือเกินจริง ๆ
มีครั้งหนึ่งผมไปซื้อช็อกโกแลตเย็น แล้วผมไม่กินในร้าน ผมก็รวบรวมความกล้าบอกกะเขาว่า ช็อกโกแลตอร่อยมากนะครับ แต่ผมกลับไม่ได้ยินเขาตอบกลับอะไรมาเลย รู้สึกหน้าแตกมาก ๆ ครับ ก็เลยเดินออกจากร้านไป พลางคิดในใจ ทำไมหยิ่งจังวะ คิดว่าตัวเองน่ารักมากรึยังไงวะ ผมคิดวนเวียนไปมาแล้วก็ฟึดฟัด เพื่อน ๆ ผมก็งง
มึงเป็นเหี้ยไรวะ ต้า แปลก ๆ
ผมก็ตอบกลับไป ป่าวนิ แล้วมึงล่ะเป็นเหี้ยอะไร
สนทนาจบลงตรงนี้ครับ เพื่อน ๆ เมินหน้าหนีกันหมดเลย 5555 แล้วผมก็ไปทำธุระในวันนั้นกะพวกเพื่อน ๆ แต่ทั้งวันนั้น กลับคิดถึงแต่เรื่องที่เขาคนนั้นไม่ตอบผมครับ เฮ้อออออ
ผมห่างหายไปจากร้านเบเกอรี่นี่หลายวันทีเดียว (ปกติก็ไม่ได้กินทุกวันหรอกนะครับ เบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผม 555) แต่วันนี้ผมอยากกินก็เลยไปซื้อ ปรากฎว่าผมไม่เจอคนนั้น เป็นผู้หญิงอีกคน ผมก็เลยชวนคุยซะเลย คิดในใจ แมร่งกะผู้หญิงคนนี้ทำไมกล้าเริ่มคุย แต่กะคนที่เราอยากรู้จัก กลับไม่กล้าที่จะเริ่มคุย ระหว่างรอผมก็เลยถามไปว่า
เอิ่ม....อ้าวผมเห็นทุกทีเป็นอีกคนนะครับ ออกไปแล้วเหรอครับ
อ่อ ไม่ได้ออกหรอกค่ะ จะออกได้ไงคะ นั่นน่ะ เจ้าของร้านนะคะ
ผมตกใจ และงง ว่านายนั่นเป็นเจ้าของร้านเลยเหรอ พอตั้งสติได้ ก็ถามต่อเลยครับ
เก่งนะครับ ยังดูวัยรุ่นอยู่เลย เป็นเจ้าของร้านแล้ว
น้องซันเขาเรียนไปด้วยและก็ดูร้านด้วย เป็นงานที่เขารักน่ะค่ะ
เอาล่ะเว้ย อย่างน้อยได้รู้ละ ว่าเขาชื่อ ซัน ผมรับเครื่องดื่ม แล้วก็กลับห้องอย่างมีความสุข มันไม่รู้เหมือนกันนะครับ ไม่รู้ว่าทุกคนเคยเป็นรึเปล่า ว่าเวลาที่ได้รู้จักชื่อใครคนหนึ่งที่เราอยากรู้จัก มันปลื้มยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก
ผมไปที่ร้านจนผมรู้ว่า ซันเขาจะมาวันไหนบ้าง ผมก็เลือก 80% ของเวลาที่อยากไป ไปเวลาซันอยู่ อีก 20% ผมไปเวลาที่พี่แก้วอยู่ เพราะผมมักจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของซันกับพี่แก้วเขา เหมือนกันความคิดที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง แต่ผมยังไม่กล้าเริ่มรบกะซันเลยเนี่ยสิ เฮ้อออ เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่แค่เห็น และทักทายกับซันบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้คุยอะไรกันเป็นจริงเป็นจัง ผมจะบอกให้นะ ผมว่าคงไม่ใช่ผมหรอกนะ ที่เข้ามากินอะไรที่ร้านนี้เพราะซัน ผมว่าคงมีคนอื่น ๆ อีกแหละ แต่ผมไม่แคร์หรอก สิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับซันเพิ่มขึ้นมาก็คือ
ซันเป็นคนขี้อายมาก คุยไม่ค่อยเก่ง เป็นเหตุผลว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนเราไม่กระเตื้อง
ซันเป็นคนทำช็อกโกแลตอร่อยมาก อันนี้ผมรับประกัน 5555
ซันเป็นคนพูดเพราะมาก
ซันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปิด และที่สำคัญเขาค่อนข้างเรียนเก่ง (พี่แก้วโม้ให้ฟัง)
บ้านของซันอยู่ไม่ไกลจากร้าน ผมไม่รู้หรอกว่าหลังไหน
นี่คือเวลาเกือบ 1 ปีนับจากได้เจอซัน ผมรู้เกี่ยวกับตัวเขาแค่เนี้ยยยย!
หลาย ๆ ครั้งที่ผมเจอซันในระแวกร้าน หลาย ๆ ครั้งเราเดินสวนกัน ก็แค่พยักหน้าให้กัน แค่นั้นเอง ผมเอาเวลาไปทำอะไรอยู่นะ และแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมเจอซันยืนซื้อผลไม้อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ในระแวกบ้าน ผมก็เข้าไปทัก แล้วถามว่าผมช่วยถือไหม
อ่อ ไม่เป็นไร ผมถือเองได้ ซันตอบ
ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่มีใรทำ ยังไม่ได้ตอบแทนที่นายทำช็อกโกแลตอร่อย ๆให้ดื่มบ่อยๆ ผมบอก
...... เขายืนงง ๆ
เอามาเถอะน่า แล้วนี่ต้องซื้ออะไรอีก ซื้อของเข้าร้านใช่ป่ะ พร้อมทั้งคว้าของที่อยู่ในมือของซันมา
ใช่ครับ ซื้อของเข้าร้าน เอ่อ ขอบคุณนะครับ ซันตอบแล้วยิ้ม
ผมโครตเขินเลย ผมคิดแล้วล่ะ ว่า ความสัมพันธ์เราคงกระเตื้องขึ้นแล้ว ในระยะเวลาที่เราเดินซื้อของด้วยกัน มันทำให้ผมสนุก และผมก็ได้รู้จักซันมากขึ้น ซันเองก็เพิ่งรู้ว่าผมชื่อต้า 5555 จะดีใจหรือเสียใจดีว่าเนี่ย ผมชวนคุยไปว่า
เห็นว่านายเรียนที่... เก่งจัง
ไม่เก่งหรอกครับ ผมเปิดร้านตั้งแต่ก่อนเอ็นทรานซ์ ก็ตั้งใจทำทั้งสองอย่างให้ดี ซันตอบผม
แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่านายเก่งจริง ๆ แล้วนี่กลับบ้านยังไงครับเนี่ย เดี๋ยวผมช่วยยกของ
ผมขับรถมาครับ ขอบคุณมากนะครับ ซันตอบ
ผมเลยไปไม่เป็นเลยทีนี้ งั้นผมช่วยถือไปที่รถก็ได้ครับ
แล้วเราก็เดินไปที่รถ เมื่อไปถึงตรงที่ที่เขาจอดรถ ก็มีรถจอดอยู่หลายคัน ผมก็เดินตาม ซันขับรถ C-class นั่นแหละครับ ผมอึ้ง ๆ ไป
รถสวยนะครับ ผมเอ่ยไป
ขอบคุณครับ เออ ผมไปส่งนายไหม อยู่แถวไหนครับ ซันถาม
อ่อ ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ ขอบคุณมากครับ ผมตอบไป
งั้น ก็กลับบ้านดี ๆ นะครับ ผมไปก่อนครับ ซันเอ่ยลา
ครั้งนั้น ก่อนที่ซันจะปิดประตูรถ ผมรวบรวมความกล้า เอ่อ ซันผมขอเบอร์นายได้ไหม?