We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 7"
Posted by เจ้าบอสน้อย on 26-Aug-12 at 10:32 AM
เมื่อเจ้าจอมวางสายจากไอ้วิว มันหันมามองหน้าผม เพื่อรอคำถามจากผม แต่ผมไม่อยากถามมันหรอก เพราะผมไม่อยากคิดเรื่องนี้ในตอนนี้ ขับรถมาถึงย่านมหาลัยเด็กๆขอลงไปซื้อข้าว ปล่อยให้ผมนั่งคอยบนรถ แว๊ปนึงที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับผ่านมา ผมจำคนขับไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่มันดูคล้ายไอ้วิว ส่วนคนซ้อนท้ายคือน้องแตง แน่นอนผมจำเธอได้ ใจผมมันร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องข่มมันไว้ก่อน เพราะผมเหนื่อยมากแล้ว ผมคิด
คืนนี้ผมกลับมานอนบ้านอีกครั้ง โดยไม่ได้โทรมาบอกแม่ก่อน กลับมาถึงบ้านผมก็เจอพ่อ แม่ ป้าละม้าย และลุงชีพ อยู่พร้อมหน้า เล่นเอาผมอายอย่างบอกไม่ถูก ผมเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปข้างบน แต่ไม่ทันเดินผ่านไป เสียงพ่อผมเรียกให้ผมมานั่งที่โซฟาใกล้ๆป้าละม้าย
ผมนั่งลงอย่างเด็กว่าง่าย ผมรู้ชะตากรรมผมดีว่าเดี๋ยวผมจะโดนถามเรื่องอะไร แล้วมันก็เป็นจริงเมื่อแม่ผมเริ่มประเด็น และคนอื่นๆก็พูดให้ฟังโดยใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุด ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับว่าใครพูดอะไรบ้าง(แต่อาจจำได้ไม่หมด แต่ก็เค้าเรื่องอย่างที่จะเล่า)
ลุงชีพ : บอส ลุงรู้เรื่องลูกทั้ง 2 คนหมดแล้วนะลูก มันไม่ใช่ความผิดใครหรอกลูกเรื่องนี้เพราะลุงเป็นคนบังคับแม่ของลูก ป้าละม้าย และวิวให้เล่าลุงเอง ลุงทำไปเพื่ออนาคตของลูกทั้ง 2 คนนะ ลุงหวังว่าบอสเข้าใจลุงกับพ่อ
ป้าละม้าย: ป้าไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องที่ลูกทั้ง2ทำนั้นมันเลวร้ายหรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่านะลูก ป้าเคยเจอเรื่องนี้แล้วตอนวิวเรียนที่กรุงเทพ ป้าห่วงแต่แม่ของบอสแหละว่าจะทำใจได้มั๊ย
พ่อ: หมอ หวังว่าหมอเข้าใจที่พ่อหวังนะลูก
แม่: ทุกคนพูดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว แม่อยากจะบอกอีกเรื่องว่า แม่หวังให้ลูกกับวิวเป็นเพื่อนตายกันนะลูก แม่ก็ทนไม่ได้ถ้าเรื่องวันนี้ทำให้ลูก 2 คนเลิกเป็นเพื่อนกัน
ผมก้มหน้ารับฟังผู้ใหญ่สอน โดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วผมก็ขอตัวไปนอนก่อนที่ป้าละม้ายและลุงชีพจะกลับบ้าน คืนนั้นผมหลับลงด้วยความกังวลใจสุดๆ ในใจยังนึกถึงภาพน้องแตงซ้อนท้ายชายคนนั้นที่ดูคล้ายไอ้วิว
เที่ยงคืนพอดีเพื่อนที่ผมไปทำงานกลุ่มโทรมาหาปรึกษาเรื่องงานที่จะนำเสนอในวันรุ่งขึ้น ผมคุยกันกับเพื่อนกว่าจะวางสายไปก็ปาเข้าตี 2 แล้ว จากนั้นผมก็นอนไม่หลับอีกเลยเพราะมัวแต่คิดเรื่องเมื่อตอนเย็น หากเป็นน้องแตงกับไอ้วิวจริง ผมจะทำยังไงดี ควรจะดีใจ หรือเสียใจดี หากจะดีใจก็คงดีใจที่ทั้ง 2 คนเข้ากันได้ดี อย่างที่ผมเคยคิดตั้งแต่ตอนแรก แต่หากจะเสียใจก็คงไม่พ้นเรื่องของการหึงหวง กลัวไอ้วิวจะแย่งน้องแตงไปจากผมเพราะด้วยเหตุผลที่ผมบังอาจนอกใจมันเหมือนที่มันเคยทำมา ยิ่งคิดมันก็ยิ่งวุ่น พาลให้ยิ่งนอนไม่หลับ ผมนอนตาสว่างจนเช้า เลยลุกขึ้นปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวแล้วก็นั่งรถมาที่คณะกับพ่อ ระหว่างนั่งรถมานั้นผมสังเกตกิริยาอาการของพ่อและแม่ผมนั้น ท่านทำเหมือนปกติทุกอย่าง เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น การแสดงออกของพ่อแม่ผมทำให้ผมรับรู้อะไรบางอย่างว่าที่ท่านพูดไปนั้นท่านคงปราถนาดีกับผมจริงๆ ไม่เช่นท่านยังคงตอแยกับผมไม่เลิก หากท่านปองร้ายกับผม
วันนี้ทั้งวันผมรู้สึกว่าเพลียมากจากงานที่โหลดจนหนักหนา อีกทั้งเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ไม่ลงตัว มิหนำซ้ำเมื่อคืนยังไม่ได้นอนอีก เอ้อ ....แต่ก็เสร็จจากงานนี้ผมก็ได้หยุดยาว 1 สัปดาห์ แต่มันก็คงไร้ค่านั้นแหละครับ ก็ผมดันมาหยุดเอาตอนที่ ไอ้วิวไม่ว่าง น้องแตงก็ขึ้นฝึกงาน คงเหลือแต่ผมคนเดียวที่ต้องร่อนเร่ไปมาในตอนกลางวัน คิดเรื่องการวางแผนชีวิตช่วงวันหยุดอยู่เพลินๆ เจ้าเกมมันก็โทรมาหาผมพอดี
เออ หมอบอสหรอ เสียงมันแจ่มใส
อืม มีไรเกม เสียงผมเบื่อๆ
ว่างป่ะ
อืมคุยได้
ป่าวไม่ได้โทรมาชวนคุย แต่จะชวนไป เป็นเพื่อนเลือกรองเท้าหน่อย
อืมได้ๆ เมื่อไหร่อ่ะ
ตอนนี้เลยครับ เสียงมันยังสดใสได้เหมือนเดิม
เป็นอันว่าบ่ายวันนั้นผมก็มีเจ้าเกมนี่มาช่วยฆ่าเวลาให้หมดไปอีกวันนึง รสนิยมการแต่งตัวเจ้านี่มันจะชอบของที่แปลกแหวกแนว ดูเรียบๆแต่โก้ ซึ่งอาจเรียกง่ายๆว่าเรื่องมากก็ไม่ผิด มันพาผมวนเวียนไปทั่วเมืองหาดใหญ่ จากห้างดังสู่ร้านรูหนูสกปรก เพื่อหารองเท้าคู่ที่ตรงใจมัน แล้วท้ายที่สุดมันก็ได้รองเท้า ที่สมใจอยากมันตรงร้านแรกที่เราเข้าไปเลือก ในใจผมนั่นอยากมะเหง็ก มันสักโป๊ก ให้สมใจ เพราะนั่งเวสป้ามันตะลอนๆนั้นก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นอีกทั้งไหนจะแดดยามบ่าย ไหนจะไฟแดงด่านมรณะ ไหนจะควันรถ นึกแล้วเอียนเลยครับ หลังจากเลือกรองเท้าราคา 1230 บาท ที่สมใจมันแล้วมันก็ตอบแทนผมด้วยการเลี้ยงไอศกรีม 1 แก้วที่ SWENSEN ขณะที่ผมนั่งพลิกๆเมนูอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นน้องแตงนั่งกับไอ้วิวที่โต๊ะถัดไป ผมแทบกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ เพราะอยากเจอ 2 คนนี้เหลือเกิน ลองคิดดูนะครับจากคนรักไป 1 สัปดาห์ ไม่ได้เจอกันเลยมันทรมานแค่ไหน ตอนนี้ผมผลักให้เจ้าเกมมันเลือกไอศกรีมครับ ส่วนผมนั้นลุกขึ้นไปที่โต๊ะที่ทั้ง 2 คนนั่งอยู่ ผมไม่ทราบว่าทั้ง 2 นั้นเห็นผมแล้วหรือยัง แต่เมื่อผมเข้าไปทักก็เล่นเอา 2 คนแปลกใจได้เหมือนกัน
เอ้า บอส มากับใคร เสียงไอ้วิวแปลกใจสุดๆ
อ๋อ มากับเกม
หวัดดีค่ะพี่บอส น้องแตงทักเสียงใส
ขณะที่ผมคุยกับน้องแตงนั้น ผมแอบเห็นไอ้วิว ชะเง้อหน้าไปมองเจ้าเกม แล้วสบตาผมอีกหนึ่งครั้ง ผมจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการชวนมานั่งด้วยกันทั้ง 4 คน เมื่อโต๊ะชนโต๊ะ หน้าชนหน้า บางสิ่งบางอย่างก็เริ่มคลี่คลายให้ผมเข้าใจขึ้นมาอีกเป็นกอง เพราะว่าเจ้าเกมนี่ เป็นแฟนเก่าน้องแตง ส่วนผมนั้นเป็นแฟนกับไอ้วิว แล้วผมก็หันมาคบน้องแตงแทนเจ้าเกมเมื่อครั้งที่ทั้ง 2 เลิกกัน แล้วเรื่องราวมันก็พลิกซ้อนอีกทีด้วยการที่เจ้าเกมหันมาเกาะแกะผม ส่วนไอ้วิวตอนนี้ที่ผมสัมผัสได้นั่นก็คือมันพยายามที่จะเอาน้องแตงไปเป็นแฟนมันให้ได้เช่นกัน เอ้อ วุ่นน่าดู
แตง มานี่กับใครอ่ะ เจ้าเกมถามน้องแตงโดยไม่มองหน้าไอ้วิว นั่นมันมีความหมายว่าเจ้าเกมไม่เป็นมิตรกับไอ้วิว
อ๋อ นี่วิวเพื่อนเราเอง ผมรีบบอกเจ้าเกมเพื่อป้องกันภัยให้ไอ้วิว
หวัดดี เสียงเจ้าเกมทักไอ้วิวอย่างขาดเสียไม่ได้
แต่สีหน้าไอ้วิวตอนนี้เหมือนคนบอกบุญไม่รับ ผมไม่รู้ว่ามันโกรธหรือหงุดหงิดใครและเรื่องอะไรกันแน่ แต่เท่าที่รู้ไอศกรีมวันนั้นไม่มีใครบอกสักคนว่าอร่อย ทุกคนต่างสีหน้าเบื่อหน่าย บางคน เช่นไอ้วิว แสดงสีหน้าอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั่งเผชิญหน้ากันสักครู่แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ ผมเองก็ต้องซ้อนท้ายเจ้าเกมกลับเหมือนเดิม ปล่อยให้น้องแต่งนั่งรถไอ้วิวกลับหอไป กลับมาถึงห้องผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นไอ้วิวมานั่งคอยผมอยู่ตรงหน้าห้อง ซึ่งในตอนนั้นเจ้าเกมก็ดันตามผมมาบนห้องอีก มันให้เหตุผลว่ามีเรื่องอยากคุยกับผมต่อ ผมเลยยอมๆมันโดยในใจยังอดลามกไม่ได้(นี่แหละนาข้อเสียผม)
หมอวิว เสียงเจ้าเกมพูดเบาๆ แต่ผมก็ยังได้ยิน
อืม วิวมาไงเนี๊ยะ ผมทักมันโดยคิดว่าคำนี้คงดีที่สุด
อ๋อ มาไม่ได้แล้วใช่ม่ะ ไอ้วิวเริ่มหาเรื่อง
เปล่าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแก้ตัว
ที่มาก็ไม่ได้ต้องการมาขัดคอใครหรอกนะ แค่ต้องการมาเอาของชิ้นสุดท้ายคืน
เข้าห้องเหอะ หมอๆ ผมอายคน เจ้าเกมพูดกวนประสาทไอ้วิว
เมื่อผมเปิดประตูออก ไอ้เจ้าเกมก็ดันทำให้ไอ้วิวสงสัยเข้าไปอีกเมื่อมันตีซี้ผมด้วยการขึ้นไปนอนบนที่นอนผม ซึ่งตรงนั้นมันเคยเป็นที่นอนของไอ้วิว ผมเองจะออกปากห้ามมันขึ้นบนที่นอนก็เกรงว่าจะไม่สุภาพกับแขกที่มาห้อง เลยปล่อยเลยตามเลยและยังแกล้งทำอารมณ์ดีอยู่เพื่อดับความร้อนของไอ้วิว
เออเมื่อกี้ นายบอกว่าจะมาเอาของนี่อะไรหรอ หรือว่าจะมาเอาเราไปอยู่ด้วย ผมแซวมันแกมจริงเพื่อให้มันรู้ว่าผมต้องการมันอยู่
เปล่า เราแค่ต้องการมาบอกนาย เพื่อให้เคลียร์ใจกันไปเลย ไอ้วิวพูดกับผมพลางหันไปมองเจ้าเกมที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนที่นอน
เรื่องอะไรอ่ะ
ก็เรื่องเรา 2 คนไง
ยังไง
ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกนายว่า เราเลิกคบกันแบบนี้อีกนะ และอีกอย่างเราขอน้องแตงด้วยล่ะกัน เรารักน้องเขาจริงๆว่ะ
ไม่มีอะไรที่มันจะเจ็บปวดได้เท่านี้อีกเมื่อคนที่เคยพยายามหัดให้เรารู้จักกับคำว่ารัก ได้ทำให้เรารักเป็น แต่เมื่อเราเริ่มรักเป็นมันกลับทิ้งเราไป ซ้ำร้ายยังเอาของที่เรารักอีกอย่างไปด้วย เรื่องนี้ผมหวั่นใจมาตั้งแต่เห็นทั้ง2 สนิทกันตอนที่ไม่สบายแล้ว แต่ก็หลอกปลอบใจตัวเองมาตลอด ถึงตอนนี้ผมไม่ร้องไห้อีกแล้วเพราะผมรู้สึกว่ามันจุกคอมากกว่า นี่หรือที่เขาเรียกกันว่าอกหัก มันเจ็บร้าวเจ็บลึก เจ็บยิ่งกว่าทฤษฎีการปวดฟันเสียอีก ผมอดรนทนนั่งฟังไอ้วิวต่อ และตอนนี้เจ้าเกมก็ลุกขึ้นนั่งกอดหมอนเพื่อฟังไอ้วิวเช่นกัน เราพูดเรื่องนี้กันโดยไม่อายเจ้าเกมแม้แต่น้อย
บอส นายรู้มั๊ยว่าเราถูกแม่เรากดดันเราแค่ไหน ภายนอกนายอาจเห็นว่าแม่เราใจดีกว่าแม่นาย แต่นายรู้มั๊ยว่าเราต้องร้องไห้ทุกครั้งที่กลับบ้าน แต่นั้นมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับพ่อทำกับเรา ซึ่งปกติพ่อไม่เคยเตะหรือตีเรา แต่อาทิตย์ที่แล้วพ่อทำ เหตุผลนะหรือก็เพราะเราคบกับนายไง เราทนไม่ไหวแล้วกับภาวะกดดันแบบนี้ บอส เราหวังว่านายรักเราและเข้าใจนะ เราจึงขอเลิกกับนายตั้งแต่วันนี้และตลอดไป
วิว เสียงผมแห้งติดคอ
แล้วนายก็เหมือนกัน ไอ้วิวหันไปมองหน้าเจ้าเกม อย่างหาเรื่อง
นายไม่ต้องมาสืบความลับระหว่างเรา2 คนเลยว่าเราเป็นอะไรกัน คิดหรือว่าเราไม่รู้แผนนาย โธ่เอ้ยแผนเน่าๆ ที่เด็กเรียนซ้ำชั้นยังรู้เลย นายอย่าหวังเลยว่าน้องแตงจะยอมกลับไปคบนายอีก อีเพราะนายบอสเป็นเกย์ หรือต่อให้น้องแตงรู้ว่าเราเป็นเกย์น้องแตงก็ไม่กลับไปหานายหรอก อย่าหวังทำคะแนนเลย
เอ้า หมอวิว พูดอย่างก็สวยดิ เสียงเจ้าเกมพร้อมเอาเรื่อง
สวยอยู่แล้ว แฟนนายอ่ะเราเลยเอาไง หรือจะดูคลิปล่าสุดเมื่อเช้านี่ เสียงไอ้วิวยียวนกวนประสาทเจ้าเกม
แล้วภาพที่ผมไม่อยากเห็นก็เกิด เมื่อเจ้าเกมลุกขึ้นต่อยหน้าไอ้วิวเข้าจริงๆ 1 หมัด ไอ้วิวเซล้มลงกับพื้นและรีบลุกขึ้นสวน หมัดมันตรงเข้าที่ปากเจ้าเกม อีก 1 หมัดเช่นกัน แต่ก่อนจะเกิดเรื่องบานปลายผมเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที ผมไล่ให้เจ้าเกมกลับไปก่อน ส่วนไอ้วิวนั้นผมรั้งไว้เพื่อขอเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง เจ้าเกมดูหงุดหงิดเหมือนหนูติดจั่น แต่มันก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น เพราะมันอาจเกรงใจผมหรืออย่างน้อยก็เกรงใจหมัดผม เสียงประตูปิดตามหลังเจ้าเกมเหมือนบานพับจะหลุด แต่ผมก็ไม่ได้สน ในเมื่อตอนนี้ไอ้วิวเองก็หน้าช้ำอีกครั้ง โหนกแก้มมันบวมปูดเป็นสีแดงอมม่วง ดูแล้วเสียหล่อเลยครับ
ไง เพื่อนใหม่นายซ่าดีนี่ ไอ้วิวพาลมาโกรธผมเพราะเรื่องนี้แทนเรื่องเมื่อตะกี้
ผมก็ได้แต่เงียบ และนั่งมองไอ้วิวงัดเอาน้ำแข็งในตู้เย็นมาประคบโหนกแก้มมัน เวลาผ่านไปจนน้ำแข็งในมือไอ้วิวละลายหมด มันจึงเริมพูดกับผมอีกครั้ง โดยเรื่องที่พูดก็เรื่องเดิมคือ ขอยุติความสัมพันธ์ของเรา 2 คน และขอน้องแตงไปเป็นแฟนมัน มันให้เหตุผลว่าน้องแตงชอบมันจริงๆ ชอบก่อนที่ผมจะรู้จักเสียอีก เพราะว่ามันกับน้องแตงขึ้นฝึกงานบนหอผู้ป่วยเจอกันบ่อย อย่างว่าล่ะครับหมอกับพยาบาล เห็นหน้าเห็นใจกันทุกวัน ส่วนทันตะอย่างผมก็คงต้องอยู่กับช่องปากแคบๆต่อไป และที่ทำให้ผมเจ็บช้ำมากกว่านั้นคือมันบอกผมว่าน้องแตงชอบผมเพื่ออยากรู้จักมัน ซึ่งตรงนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าน้องแตงพูดกับมันจริงหรือเปล่าหรือแค่มันอยากให้ผมเกลียดและตัดใจจากน้องแตงได้เร็วขึ้น
เมื่อจะมองถึงสัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องแตงก็น่าจะจริงอย่างไอ้วิวบอกก็ได้ครับ เพราะผมกับน้องแตงคบกัน อย่างมากก็แค่จับมือกันตอนนั่งในรถ อย่างอื่นนั้นไม่เลยครับ ทั้งๆที่นักรักอย่างผมควรจะได้ลิ้มลองสักครั้งอย่างที่ผู้หญิงอื่นปรารถนาจะหยิบยื่นให้ด้วยความปรีดา แต่กับไอ้วิวทำมันง่ายดายจัง(ถ้าเป็นจริงตามที่ไอ้วิวอ้างต่อหน้าเจ้าเกม) ส่วนเรื่องไอ้เจ้าเกมเพื่อนใหม่ผมนั้น ผมสงสัยอยู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเจ้านี่ต้องมีลับลมคมในอะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นคงเสร็จผมไปนานแล้วถามันเป็นเกย์จริงๆ ผมก็ไม่น่ามักง่ายโดยไม่ดูท่าทีมันเลย แต่ก็ดีครับถือว่ามันมาให้บทเรียนเรื่องนี้กับผม คราวหลังผมจะได้ระวังตัวให้มากขึ้น
เย็นวันนั้นก่อนไอ้วิวจะออกไปจากห้องผม และออกไปจากชีวิตผมตลอดไป ผมได้ขอร้องมันครั้งหนึ่งคือ ผมขอกอดมันอีกครั้ง ไอ้วิวก็ให้ผมกอดมันแต่โดยดี การกอดกันครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่ากว่าการกอดกันครั้งไหนๆ มันเป็นกอดที่อบอุ่นปนโหยหาอย่างบรรยายไม่ได้ ผมสวมกอดไอ้วิวอยู่นานพอสมควร จนไอ้วิวเริ่มลูบหลังผมเบาๆ ผมจึงผละออก และภาพที่ผมเห็นคือไอ้วิวร้องไห้ครับ ตามันแดงไม่แพ้กับรอยช้ำบนใบหน้ามัน แต่ผมไม่ครับ ผมไม่ร้องเพราะผมรู้สึกว่ามันแน่นและเจ็บอยู่ตรงอกมากกว่าจนผมรู้สึกว่าผมร้องออกมาไม่ไหว
วิว เราขอบใจที่นายมากที่พยายามทำให้เรารู้จักกับความรัก และในวันนี้ เรารู้จักมันแล้ว ผมพูดพลางเอามือไปเช็ดน้ำตาให้มัน
แต่เมื่อเรารู้จักความรัก นายก็ทิ้งเราไป ความรู้สึกจุกๆตรงคอผมมันเพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมานายอาจเห็นว่าเราผ่านใครมามากมายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมือนเราไม่ได้รักนาย แต่นายรู้อะไรมั๊ยว่าไม่มีใครทำให้เรารักเป็นสักคน นอกจากนาย
วิว รักเราคือนายว่ะ
เราก็รักนายว่ะ บอส หยาดน้ำตาอีกสายไหลออกจากตาไอ้วิว
พูดจบไอ้วิวก็ใช้มือลูบหน้ามัน แล้วก็เดินออกจากห้องผมไปอย่างรวดเร็วโดยที่ ไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย ในตอนนี้ห้องผมมีเพียงผมและความเงียบอย่างร้ายกาจ ห้องที่เคยคับแคบเพราะอยู่กัน2 คน ถึงตอนนี้มันกว้างใหญ่เสียจนน่ากลัว ผมนอนมองเพดานห้องท่ามกลางความมืด เรื่องราวต่างๆตลอดช่วงวัย 23 ปีของผมนั้นได้โลดแล่นผ่านมาในสองผม ทั้งเรื่องที่แอบปีนดูห้องน้ำหญิงตอน ป.5 เรื่องที่ผมออกไปรับรางวัลนักเรียนเรียนดีตอน ม. 2 และเรื่องเคสผู้หญิงที่แสนดีที่เสียตอนปี2 และอีกหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา ผมรู้สึกว่าในหัวผมมันโคลงเคลงๆ มือไม้อ่อนแรง แล้วแก้วยาเปล่าๆในมือผมก็ร่วงจากมือ ตอนสายของวันใหม่ ผมลุกขึ้นอาบน้ำเพื่อที่จะไปเรียนภาคทฤษฎีที่คณะ แต่ด้วยความอ่อนล้าและความไม่พร้อมที่จะไปเผชิญกับความจริงในสังคม ผมจึงขาดเรียนในวันนี้ แต่เมื่ออยู่คนเดียวความฟุ้งซ่านที่คิดถึงเรื่องราวต่างๆก็กลับมาหาผมอีก โลกไซเบอร์เท่านั้นที่สามารถทำให้ผมลืมเรื่องเหล่านี้ไปได้บ้าง ช่วงนั้นใครขอให้ผมโชว์ผมก็โชว์ให้ดูตามคำขอ เพราะผมคิดว่าจะเก็บไว้ทำไมในเมื่อมันไร้ซึ่งเจ้าของมันแล้ว (ดูผมคิดบ้าๆสิครับ) ผมเป็นบ้าแบบนี้อยู่เกือบเดือน ก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองดีขึ้น แต่ก็ไม่เต็มร้อยเพราะไปไหนมาไหนผมยังรู้สึกว่าผมเป็นขาดความมั่นใจยังไงก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมต้องนั่งกินข้าวคนเดียว ไปซื้อของคนเดียว นอนคนเดียว และคนเดียวอีกหลายๆเรื่อง แต่สักพักก็คงชินผมปลอบใจตัวเอง
จากเด็กชายมากลายเป็นเกย์ และมาอยู่ในโลกที่ต้องซ่อนเร้นปิดบัง จนวันนึงโลกแห่งเกย์ก็สร้างความเจ็บช้ำให้กับผมอย่างมากมาย และเมื่อต้องการที่จะออกจากโลกสีม่วงใบนี้มันก็ช่างยากที่จะทำใจเหลือเกิน หลายๆครั้งที่ผมพยายามไม่มองผู้ชายด้วยกันแต่มันก็ตัดใจไม่ได้สักที ในเมื่อผมเห็นนายแบบทีไรก็โด่ได้ทุกที ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เลิกพยายามเลิกที่จะเป็นเกย์ ถ้ามียารักษาโรคเกย์นี้เม็ดละ1000บาทผมยอมซื้อกินจนกว่าจะหาย แต่มันก็คงเป็นแค่เพียงการจินตนาการของผมเท่านั้นเอง แต่เมื่อมานึกอีกทีถ้าผมยังมีความสุขกับไอ้วิวเหมือนเดิม ผมก็คงไม่โทษโลกของชาวเกย์ว่ามันอย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ก็นะคนเราเมื่อไม่ได้ดังใจก็โทษคนอื่นไปเรื่อย
ทุกวันนี้ผมไม่ได้โทรหาน้องแตงแล้ว และน้องแตงก็ไม่เคยที่จะโทรหาผมเช่นกัน ผมไม่ได้โทษเธอหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าเธอไม่ว่าง เธอต้องอุทิศเวลาที่มีของเธอให้คนที่เธอรักจริงๆและนั่นก็คือไอ้วิว หลายๆครั้งที่ผมบังเอิญเห็น2 คนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เดินด้วยกันอย่างกลมเกลียว นึกแล้วหน้าผมชาๆยังไงไม่รู้ครับ ผมมันต้องแพ้ไอ้วิวทุกครั้งหรือเปล่ากับเรื่องความรักบ้าบอนี้ ความโกรธแค้นมันเริ่มก่อตัวขึ้นมานิดๆแต่ก็ต้องหายไปเพราะอานุภาพแห่งความรักที่ผมมีต่อไอ้วิวและต่อน้องแตง
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าผมจะเหงาก็จริงแต่ก็ยังพอมีพวกลิง 3 ตัวนั่นมาเล่นที่ห้องบ้าง หรือแม้แต่เจ้าเกมก็ยังโทรชวนผมไปไหนมาไหนบ้างเช่นกัน แต่ไม่ได้ไปกันในฐานะแฟนนะครับ เพราะเจ้าเกมมันบอกผมว่ามันถูกชะตาผมมากกว่า อาจเพราะเราหน้าตาคล้ายๆกัน หุ่นก็เท่าๆกันด้วยมั้ง เจ้านี่เลยรู้สึกว่าผมเป็นสำเนามันที่มันชอบจะพาผมแนบไปด้วย ถึงวันนี้เจ้าเกมมันรู้ครับว่าผมเป็นเกย์ แต่มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจผมเลย ผมเองก็มานึกว่าถึงแม้มันจะรังเกียจผมก็คงไม่มีเหตุผลเพียงพอเพราะทั้งรูปร่างหน้าตาผมจัดว่าผมอยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะทางสังคมผมก็ออกจากเป็นที่ยอมรับเพราะผมเป็นหมอ ที่สำคัญผมไม่ได้ทำให้ชาติล่มจมเหมือนรัฐบาลขวัญใจคนจน สมัคร สุนทรเวช นี่ครับ
วันเกิดเจ้าเกม ตรงกับวันที่ 25 สิงหา มันพาเพื่อนๆวิศวะทั้งรุ่นมันที่ยังเรียนไม่จบและพวกน้องๆคณะมันรวมทั้งผมในฐานะเพื่อนใหม่ไปนั่งกินเหล้าที่แหลมสมิหลา (อีกล่ะ) เราเริ่มนั่งกินกันตั้งแต่ 6 โมงน่าจะได้ เราคุยกันทุกเรื่องจากเรื่องการเมืองยันเรื่องการมุ้ง ทุกคนเมื่อเริ่มมึนๆเมาต่างก็ลามกได้ที่ ตอนนั้นไม่อยากให้ใครมาเจอจริงๆเพราจะตกใจกับว่าที่บัณฑิตของชาติ แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่ครับที่เราเมาแล้วไม่ระรานใคร วงเหล้าเราดวลกันขวดต่อขวด จนเที่ยงคืนจึงพากันกลับ ถึงตอนนี้น้องคณะเจ้าเกมนอนนิ่งคอพับมาทับไหล่ผมแล้วครับ ผมนึกในใจ แหมไอ้พวกนี้มันอาบน้ำกันบ้างมั๊ยว่ะตัวเหม็นกันทุกคน คงมีเจ้าเกมคนเดียวมั้งที่กลิ่นใช้ได้ที่สุด เฮ้อ สกั้งบอย
เจ้าเกมมาส่งผมเป็นคนสุดท้ายแถมยังขึ้นไปส่งถึงบนหออีก มันบอกว่ากับหมอบอสมันต้องคุ้มครองหน่อย เดี๋ยวสาวๆลากไปกิน ดูมันทะลึ่งครับ ถึงห้องมันก็ไม่ยอมกลับไปครับ มันนั่งรอจนผมอาบน้ำเสร็จ และมันก็ขออาบน้ำต่อ
ตกลงจะนอนห้องเราใช่ม่ะ ผมเบื่อที่จะรอให้มันบอก
เออ เก่งวุ้ย หมอยเรา เอ้ยไม่ใช่ดิ หมอเราตะหากอิๆๆ ด้วยพิษสุราทำเอาเจ้าเกมบ้าได้เรื่อย
ผมเริ่มเข้านอนก็ตอนตีหนึ่งแล้ว นอนไปคงไม่ได้20 นาที ก็ได้ยินเสียงรถโรงพยาบาลขับมาที่หอพัก เสียงเจ้าหน้าที่วิ่งขึ้นบันไดโครมครามได้ยินชัดเจน อ้าวตายห่าแล้วหอเราเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรว่ะ
ผมรีบเปิดประตูออกมาดูทั้งที่ตัวเองก็ยังมึนๆอยู่
เอ้ยห้องเจ้าจอมนี่หว่า ผมพูดเสียงดังแบบลืมตัว
ผมรีบไปดูที่ห้องเจ้าจอมซึ่งถัดออกไปจากห้องผมอีกฝั่งหนึ่งของตึก ก็ต้องพบกับน้องตั้งและน้องฟ๋งยืนร้องไห้อยู่ แต่ผมไม่เห็นเจ้าจอม
น้องฟ๋งวิ่งมาหาผมและจับมือผมไว้แน่น ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ไอ้วิวมาถึง เจ้าหน้าที่และพยาบาลต่างเคลื่อนย้ายเจ้าจอมที่นอนนิ่งไม่ไหวติงออกไปจากห้องโดยที่มือข้างขวามันมีรอยไหม้เกรียมเกือบถึงข้อศอก
เกิดอะไรขึ้นกับจอมอ่ะฟ๋งบอกพี่สิ ไอ้วิวตะคอกถามน้องอย่างรุนแรง
เสียงน้องฟ๋งร้องไห้ และบอกว่าไม่รู้เพราะตอนนั้นมันกับน้องตั้งออกไปซื้อมาม่า ข้างนอก ซึ่งก่อนออกไปนั่น ไอ้เจ้าจอมมันอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ กลับมาอีกทีก็เห็นเจ้าจอมนอนดิ้นอยู่ข้างปลั๊กไฟใกล้ๆพัดลม
เสียงอะไรอ่ะหมอ ไอ้เจ้าเกมออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ออกมาในสภาพที่ดูไม่ได้ มันใส่บ๊อกเซอร์ผมตัวเดียวออกมา และยังคงดูมึนๆอยู่ ไอ้วิวเหลือบไปเห็นเจ้าเกมแล้วหันกลับมามองผมอย่างตำหนิ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอารมณ์ในสายตามัน เพราะตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ผมคิด
แต่เราก็ไม่ได้มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องนี้นาน ผมรีบวิ่งตามรถโรงพยาบาลไป แต่ก็ไปไม่ได้เพราะลืมกุญแจห้องไว้ที่ข้างบน เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ไอ้วิว ผมจึงจำใจต้องไปกับมันในยามฉุกเฉินเช่นนี้ ในรถผมเตือนสติมันว่าโทรบอก พ่อแม่เจ้าจอมหรือยัง และป้าละม้ายล่ะบอกหรือยัง ไอ้วิวได้สติจึงรีบโทรบอกผู้ใหญ่ตามที่ผมแนะนำ
ไม่ถึง 5 นาที ญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวมากันครบที่หน้าห้องฉุกเฉิน รวมทั้งไอ้เจ้าเกมที่ตอนนี้ดูได้หน่อย มาพร้อมกับน้องตั้งและน้องฟ๋ง เสียงพยาบาลคัดกรองผู้ป่วยเรียกแม่เจ้าจอมเข้าไปข้างใน และมีป้าละม้ายเดินเข้าไปเป็นเพื่อน ทั้ง2 เข้าไปนานมากทีเดียว ปล่อยให้ทุกคนรอกันอยู่ข้างนอก ตี3 คงจะได้ป้าละม้ายออกมาเพียงคนเดียว
จอมเสียแล้วลูก ป้าละม้ายปล่อยโฮ้ออกมาอย่างไม่อายพยาบาลตรงนั้นทั้งๆที่ป้าละม้ายก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการพยาบาลที่นี่
พ่อเจ้าจอม ผมและไอ้วิว วิ่งเข้าไปที่ห้องช่วยฟื้นคืนชีพข้างใน ซึ่งผมคุ้นเคยดี เพราะผมเคยมาทิ้งหัวใจไว้ที่นี่ครั้งนึง และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อผมเห็นเจ้าจอม นอนตัวซีดเซียว มือข้างขวาไหม้เกรียมจนนิ้วก้อยและนิ้วนางหายไป พ่อเจ้าจอมขาพับขาอ่อนจนผมกับไอ้วิวต้องช่วยกันประคองไว้
คืนนั้นทั้งคืนผมต้องไปที่สถานีตำรวจเป็นเพื่อนไอ้วิว และพาน้องๆทั้ง 2 ไปให้ปากคำกับตำรวจตรงที่เกิดเหตุ เพราะญาติผู้ใหญ่ไอ้วิวที่นี่มีไม่เยอะและที่มีอยู่ก็สภาพไม่พร้อมกันทั้งนั้น กว่าจะเสร็จเรื่องก็เช้าเข้าไปแล้ว ศพเจ้าจอมถูกเคลื่อนย้ายกลับเชียงใหม่ของบ่ายวันนั้น เพราะทางญาติๆเขาต้องการพาไปฌาปนกิจที่บ้านเกิด ผมกับไอ้วิวไม่ได้ตามไปส่งศพเจ้าจอมหรอกครับเพราะติดหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทางนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปตอนวันเผาเลยทีเดียว ส่วนไอ้วิวผมไม่รู้เพราะเราคุยกันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เสร็จจากเรื่องราวต่างๆ ไอ้วิวจึงขับรถไปส่งผมที่หอ ขณะนั่งรถกลับ ไอ้วิวมันร้องไห้มาตลอดทาง จนผมต้องเปลี่ยนไปขับเอง ผมเข้าใจความรู้สึกไอ้วิวดีว่ามันรู้สึกอย่างไร เพราะผมเคยเจอเรื่องนี้ครั้งที่เคสเสีย ซึ่งเธอก็เป็นคนเชียงใหม่เหมือนกับเจ้าจอม ไปถึงห้องผมยังชวนไอ้วิวขึ้นไปบนห้องผมอีก และมันก็ไปอย่างว่าง่าย เมื่อไปถึงก็เจอเด็กๆนั่งร้องไห้อยู่กับเจ้าเกมที่ตอนนี้ดูสร่างเมาแล้ว เรา 5 คน ซึ่งคนที่ 5 ไม่ใช่เจ้าจอมอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นไอ้เจ้าเกมแทน นั่งคุยเรื่องนี้กันอีกครู่หนึ่งและแยกย้ายกันกลับ ปล่อยผมทิ้งไว้ในห้องแต่เพียงคนเดียว
เรื่องราวของความรักที่มันไม่อาจเป็นดั่งที่วาดฝันไว้ก็ได้เดินทางมาถึงตอนปัจจุบันที่สุด ถึงตอนนี้หลายๆท่านที่ติดตามอ่านมาจะเห็นว่าความรักของผมนั่นมันเปี่ยมล้นไปด้วยโอกาสที่จะก่อให้เกิดเป็นความรักและชีวิตคู่ที่งดงาม แต่แล้วมันก็ต้องจบลงเพราะเหตุปัจจัยภายนอกที่มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะเหตุนั้นคือบุคคลที่ให้กำเนิดเรานั่นเอง ส่วนปัจจัยภายในที่มีผลก็คือความมั่นใจและไว้ใจกันของเราทั้ง 2 นั้นมันเปราะบางเกินไปทำให้มันร้าวเอาง่ายๆเมื่อมีปัญหา สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกความรักจงพบกับคำว่าสุข และขอไว้อาลัยให้แก่บุคคลที่เคยมีตัวตนและจากไปในเรื่องเล่านี้ “นักรักหน้าหยก”
ยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นในความรัก ขอบคุณทุกความรักที่ติดตาม

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.