พวกผมกลายเป็นจุดสนใจของนักเรียนที่กำลังทำกิจกรรมด้านนอก เสียงวี๊ดวิ่วดังมาเป็นระยะ จนเมื่อเราเดินผ่านกลุ่มนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งเข้า พวกเธอก็มองมาแล้วพากันกรี๊ดดังสนั่นและตอนนั้นเองครับ พวกนักเรียนที่อยู่ในห้องเรียนบางห้องก็วิ่งออกมาดู แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังหนักกว่าเก่า หลายคนที่ไม่มีชั่วโมงเรียน ก็พากันวิ่งกรูตามมาดูพวกผม
พวกผมพากันเดินขาขวิดไปที่หอประชุมซึ่งพี่น้ำได้จัดสถานที่เอาไว้แล้ว
..โอย
โคตรเขินเลยวุ้ย ไอ้เบสต์เองที่เจนเวทีกว่าคนอื่น ยังดูเขินๆอยู่ไม่น้อย
หึหึ
..หนุกดีว่ะ
พวกเราไปยืนรอคิวอยู่ด้านหน้า เพราะตอนนั้นกำลังถ่ายรูปให้นักแสดงจากชมรมนาฏศิลป์อยู่ ตอนนั้น อ.สุชาติกับ อ.วรชัย ก็เดินเข้ามาคุยด้วย
หล่อกันทุกคนเลยนะเนี่ย อ.สุชาติเดินเข้ามาตบไหล่พี่อิท พลางมองปราดไปที่ทุกคน แล้วไปหยุดกึกที่ไอ้นัย
..เฮ้ย! อาจารย์จะจำไอ้นัยได้ป่าววะ
ยัยคนนี้หน้าคุ้นๆ แฮะ อ.สุชาติพูดขึ้นทำเอาผมใจคอไม่ค่อยดี
วุ้ย! จารย์ขา จะคุ้นได้ไงหนูเพิ่งมาครั้งแรก น้องแองจี้ชวนหนูมาช่วยฮ่ะ ไอ้นัยแก้สถานการณ์ด้วยการออกท่าทางสะดิ้งแบบเก้ๆ กังๆ จับผมซับหน้ากลบเกลื่อน
แม่งโคตรฮาเลยครับ ฮ่าๆ
ดีที่อาจารย์สุชาติไม่ได้สนใจอะไร ก็ชวนพี่อิทกับ อ.วรชัยคุยต่ออีกหน่อยแล้วก็เดินไปดูนักแสดงกลุ่มอื่น
พวกผมถ่ายเสร็จก็เดินกลับมาที่ห้องชมรมการแสดง พวกน้องๆ แดนเซอร์แต่งหน้าทำผมกันใกล้เสร็จแล้วครับ แต่ละคนสวยเช้งกระเด๊ะจนผมจำแทบไม่ได้
โห
ใครเป็นใครมั่งเนี่ย สวยจนพี่จำไม่ได้เลยว่ะ ผมอดที่จะออกปากชมไม่ได้ครับ
หนู
..แองจี้ไงคะ น้องแองจี้เดินเข้ามาโพสท่าต่อหน้าพวกผม
โห
..สวยว่ะ
แล้วคนอื่นๆก็พากันมาโพสท่าบอกชื่อให้ผมรู้
..โอย
..แต่งแล้วหน้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย นี่ถ้าไม่บอกผมคงจำไม่ได้แน่
กว่าน้องๆจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้วครับ
..โห
.มันอลังการงานสร้างมากๆ เพราะเมื่อทุกคนใส่ชุดเต็มยศเข้าไป แถมใส่เครื่องประดับครบชุด ก็ยิ่งทำให้ดูตระการตาจริงๆ ส่วนผมก็เปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดแบบพี่ก็อต โดยมีไอ้นัยหรืออีไนซ์ของผมเป็นคนช่วยแต่งตัวให้
หล่อที่สุด ไอ้นัยบอกผมแล้วยิ้มกว้าง
ผมออกมายืนส่องกระจกดูตัวเองยังแทบไม่เชื่อสายตา.....หน้า
ผม
..และชุดพร้อมสรรพแบบนี้ ผมก็ดูหล่อขึ้นอย่างที่มันว่าจริงๆ
อ.สุชาติเดินมาดูตอนหลังพร้อมข้าวกล่อง แกมองอย่างปลื้มใจพร้อมเอ่ยชมไม่ขาดปาก งานนี้น้องแองจี้รับความดีความชอบไปเต็มๆ
เรากินข้าวเสร็จก็รอที่จะออกไปถ่ายรูปกันครับ อ.สุชาติบอกว่าน่าจะรอให้นักเรียนเข้าห้องเรียนกันก่อน เพราะตอนนี้คนด้านนอกเยอะมาก
ไปตอนนี้ก็ดีนะคะจารย์ เป็นการโปรโมทไปในตัว น้องแองจี้พูดขึ้นด้วยความมั่นใจ ทำเอา อ.สุชาติขมวดคิ้วมอง น้องแดนเซอร์คนอื่นๆก็พากันเชียร์ให้ออกไปกันเลย
ฮืม
ก็ดีเหมือนกันนะ งั้นก็ไปกันเลย อ.สุชาติบอกพร้อมโบกมือเป็นสัญญาณเคลื่อนขบวน
เท่านั้นแหละครับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นทั้งโรงเรียน เพราะใครๆก็พากันออกมายืนดูขบวนนักแสดงกลุ่มนี้ ผมเดินนำหน้าขบวนโดยมี อ.สุชาติเดินไปข้างๆ ส่วนน้องแดนเซอร์ก็เดินตามอยู่ด้านหลัง
ผมรู้สึกสนุกและคึกคักมากมายครับ เพราะมีแต่คนเข้ามาจับไม้จับมือ
นี่กูดังแล้วใช่มั้ยวะเนี่ย
.ฮี่ๆ
.ผมหันกลับไปดูพวกน้องๆแดนเซอร์ ต่างเดินยิ้มด้วยความมั่นใจ
แต่ละคนเดินเหมือนตัวเองเป็นนางแบบยังไงยังงั้นเลย
วันนั้นหอประชุมแทบแตกเลยละครับ เพราะนักเรียนที่ยังไม่เข้าเรียน พากันไปยืนดูพวกผมถ่ายรูปกัน ผมต้องยอมรับเลยครับว่าการโพสท่าของพวกน้องๆกินขาด ชนะทุกโชว์ พวกเธอใส่กันเต็มที่ จนพี่น้ำยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองมือ
กว่าจะถ่ายรูปเสร็จ กว่าจะกลับมาเปลี่ยนชุดก็ปาไปบ่ายแก่ๆแล้วครับ ไอ้นัยคอยช่วยผมตลอดไม่ยอมห่าง จนเมื่อผมกำลังเปลี่ยนใส่กางเกงนักเรียน ไอ้เบสต์ก็รีบวิ่งกระหืดหระหอบเข้ามาหาผม
เอกๆ คืนนั้นที่พี่ไปนอนห้องเอกน่ะ สงสัยจะลืมที่ชาร์จแบตเอาไว้ว่ะ
ผมได้แต่อ้าปากค้าง เพราะตั้งตัวไม่ทัน ไอ้นัยหยุดนิ่ง มองหน้าไอ้เบสต์แล้วหันมาจ้องมองผม
เฮ้ย!
..อย่าเข้าใจผิดนะโว้ย มันไม่ได้มีอะไรนะมึง
มะ
..ไม่ใช่ ผมพูดได้แค่นั้นไอ้เบสต์ก็พูดต่อ
ไม่ใช่ได้ไง ไปนอนค้างตั้งสองคืน ไม่รู้ว่าลืมตอนไปนอนคืนแรกหรือคืนที่สองนะ แต่น่าจะลืมไว้ที่ห้องเรานั่นแหละ
ไอ้นัยกัดริมฝีปากจ้องมองผมด้วยสายตาแข็งกร้าวแดงก่ำ ก่อนจะโยนทุกอย่างที่มันถือลงที่พื้น แล้วรีบคว้าเป้ของมันก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องทันที
เฮ้ย! นัย จะไปไหน ฟังกูก่อน ผมตะโกนตามไปเสียงดังลั่น แต่ไม่ทันแล้วครับ ไอ้นัยวิ่งออกประตูหายไปแล้ว ผมจะวิ่งตามไปก็ไม่ได้เพราะกำลังโป๊อยู่
โอ๊ย
อะไรกันวะนี่
ผมรีบใส่กางเกงอย่าร้อนรน เลยเอาเท้าเกี่ยวขากางเกงแล้วเสียหลักล้มลงไปอีก
แม่งเอ๊ย
พี่เบสต์ ไปตามไอ้นัยที มันกำลังเข้าใจผิด ผมตะโกนลั่นห้อง จนไอ้เบสต์ทำหน้าตกใจเลิ่กลั่ก แถมน้องคนอื่นก็พากันมองอย่างสงสัย
เฮ้ย!......นั่นไอ้นัยเหรอวะ พี่ขอโทษว่ะเอก พี่ไม่รู้จริงๆ ไอ้เบสต์หน้าเสีย แล้วรีบวิ่งไล่ตามไอ้นัยไป
ผมรีบใส่กางเกงจนเรียบร้อยถึงได้วิ่งตามออกไปอีกคน
..โอย
..อย่านะโว้ยไอ้นัย มึงอย่าคิดอะไรแบบนั้น กูไม่ได้ทำอะไรนอกใจมึงเลยนะ
.เชี่ย
ผมวิ่งกุมขมับตามไปด้วยความปวดหัว
ฮือๆ
กูจะทำไงดีวะเนี่ย ไอ้นัยเข้าใจผิดเราอีกแล้ว ผมอยากชกหน้าตัวเองเหลือเกินครับ ว่าทำไมผมถึงไม่ยอมเล่าความจริงให้ไอ้นัยฟังก่อนหน้านี้ เพียงเพราะผมคิดว่าผมบริสุทธิ์ใจ แล้วก็คิดว่าจะเล่าให้มันฟังเมื่อมันกลับมาจากบ้านอาแล้ว
ผมวิ่งตามออกมาจนถึงประตูทางออก ก็เห็นไอ้เบสต์ยืนหอบแฮ่กๆอยู่ตรงนั้น
ตามไม่ทันว่ะเอก วิ่งโคตรไวเลย พี่เห็นมันขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ไอ้เบสต์บอกพลางเอามือกดท้องท่าทางจะจุก
โธ่โว้ย
! ผมเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มันอะไรกันนักหนาวะเนี่ย
ผมเอามือยีหัวตัวเองด้วยความเครียดจัด เพราะรู้ว่าไอ้นัยแม่งขี้งอนซะด้วยสิ ป่านนี้คงเข้าใจผิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ มันต้องคิดแน่ว่าผมกับไอ้เบสต์ต้องมีอะไรกันแล้ว
พี่เบสต์ เอาโทสับมาเร็ว ผมนึกได้ว่าไอ้นัยเก็บโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ผมเอาไว้
ผมรีบกดเบอร์ตัวเองกดโทรออก
..อา
..มันติดด้วยครับ
..ขอให้ไอ้นัยรับสายทีเหอะ
รับสายนะนัย กูขอร้อง
โหล เสียงไอ้นัยพูดรับสาย
นัยนี่กูเองนะ ผมรีบพูดสวนไปอย่างดีใจ แต่
ทุกอย่างก็กลับเงียบลงทันที ผมรีบยกโทรศัพท์ไอ้เบสต์ดู
..เวรกรรม
แบ็ตหมด
..ชิบหายแระ
ก็เพราะแบตจะหมดนี่แหละ พี่ถึงนึกได้ว่าลืมที่ชาร์จเอาไว้ ไอ้เบสต์นั่งลงกับพื้นข้างๆผม พี่ขอโทษจริงๆว่ะเอก ถ้าพี่รู้ว่าเป็นไอ้นัย พี่คงไม่พูดแบบนั้น
ไอ้เบสต์เอามือกอดคอผมปลอบใจ แต่อารมณ์นั้นผมอยากร้องไห้มากกว่า เลยเอาสองมือกุมขมับตัวเอง เพราะไม่รู้จะทำยังไง
เราว่าไอ้นัยมันจะไปไหนวะ ไอ้เบสต์ถามผม
..นั่นสิ มันจะไปไหนได้วะ แถมแต่งหน้าปากแดงซะขนาดนั้น จะกลับบ้านอามันก็คงไม่ได้
..หรือจะไปห้องเรา
ใช่
มันต้องไปห้องเราแน่นอน เพราะของของผมก็ยังอยู่ที่มัน
พี่เบสต์มีตังค์มั้ย กระเป๋าตังค์ผมอยู่กับไอ้นัย ผมถามไอ้เบสต์ มันรีบควักตังค์ออกมาให้ผมทันที
ผมฝากเก็บของของผมด้วยนะพี่ แล้วยังไงจะโทรหา ผมบอกพลางลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งออกประตูใหญ่
เคลียร์กันดีๆนะโว้ย ถ้ามันยังไม่เข้าใจก็โทรมาบอกพี่ เดี๋ยวพี่ช่วยพูดให้เอง ไอ้เบสต์ตะโกนบอกไล่หลังผม
ผมนั่งแท็กซี่อย่างร้อนใจ แม้แอร์จะเย็นขนาดไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใจผมเย็นขึ้นมาได้เลย ผมนั่งหลับตาด้วยความเครียด คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าผมเป็นไอ้นัยบ้างล่ะ ผมก็คงโกรธแบบนี้เหมือนกัน
นัย
อย่าเข้าใจกูผิดนะ กูขอโทษที่ไม่ได้เล่าให้มึงฟังก่อน
มึงคงเสียใจมากสินะ
ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ พลางยกมือพนมไหว้ ภาวนาให้ไอ้นัยไปรอผมอยู่ที่ห้องด้วยเถอะ ขอโอกาสให้ผมได้อธิบายให้มันฟัง ให้มันได้รู้ความจริง
และให้มันหายโกรธผม
ผมลงจากแท็กซี่ได้ ก็รีบสับเท้าวิ่งขึ้นไปที่ห้อง โอ
ห้องไม่ได้ล็อคกุญแจด้านหน้าครับ นี่แสดงว่าไอ้นัยยังอยู่ในห้องผม นี่ผมมีความหวังแล้ว
ผมรีบบิดลูกบิดประตู แต่มันดันล็อคครับ ผมเลยเอากุญแจไขออก รีบเปิดเข้าไป
.แต่
ผมก็เจอแต่ความว่างเปล่า
ผมรีบวิ่งไปดูในห้องน้ำ เปิดประตูหลังห้องออกไปมองดู แต่ก็ไม่มีวี่แววไอ้นัยเลยครับ ผมเหลือบมองไปที่หลังตู้ทำเอาผมหมดแรง ใจตกวูบไปอยู่ตาตุ่ม
เพราะกระเป๋าใบใหญ่ของไอ้นัยหายไปแล้วครับ
ผมเข่าอ่อน ทรุดลงกับพื้นห้อง
มองไปรอบๆ ข้าวของของมันก็หายไปหมดเหมือนกัน
..
โอย
.นี่ไอ้นัยมันจะไม่อยู่กับเราแล้วเหรอวะ
.มันไม่แคร์เราแล้วหรือไง
..นัย
กูไม่ให้มึงไปนะ กูไม่ยอม
ผมรีบลุกขึ้นยืน พลันสายตาก็เห็นโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ของผมวางอยู่บนเตียงนอน ผมเลยรีบคว้าเอามาแล้ววิ่งออกจากห้องอย่างไม่รีรอ เพราะคิดว่าไอ้นัยคงยังไปได้ไม่ไกล
ผมวิ่งลงบันไดจะออกไปหน้าหอ
.เหี้ยเอ๊ย
ทำไมบันไดแม่งเยอะขั้นจังวะ ผมร้อนใจเหลือเกินครับจนผมวิ่งออกมายืนด้านหน้า กวาดตามองไปตามถนน ใจก็อยากจะได้เห็นด้านหลังไอ้นัยเดินหิ้วกระเป๋าใบใหญ่อยู่ตรงไหนซักที่
แต่
.ไม่มีแม้แต่เงาของมัน
ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอยผมแล้วครับ น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมรีบวิ่งออกไปทางปากซอย สอดส่ายสายตามองไปทั่วๆ มือก็คอยกดโทรศัพท์หาไอ้นัย แต่กี่ครั้งๆ ก็กลายเป็นฝากข้อความ
นัย
..มึงรับสายกูหน่อยเหอะ กูขอร้อง
น้ำตาผมเริ่มไหลรินออกมาอย่างสุดจะห้ามได้ เพราะแค่คิดว่ามันจะไม่อยู่กับผมแล้ว ใจผมก็แทบจะขาดลงตรงนั้น
ผมวิ่งร้องไห้จนมาถึงป้ายรถเมล์ กวาดตามองไปทั่ว
แต่
.ไม่มีหนุ่มอาชีวะหน้าตี๋ที่ผมอยากเห็น นั่งหรือยืนอยู่บริเวณนั้นเลย
ไอ้นัย
มึงจะไปจากกูจริงๆเหรอวะ
ผมไม่ไหวแล้วครับ ปล่อยโฮออกมาแบบไม่อายคนที่ยืนอยู่แถวนั้นเลยสักนิด ผมไม่สนใจว่าเค้าจะมองผมว่าบ้าหรืออะไร ผมรู้แค่ว่าผมอยากร้องไห้ เพราะแฟนของผมกำลังเข้าใจผิด และผมก็ไม่มีโอกาสอธิบายให้มันฟังเลยสักนิดเดียว
ผมไม่รออะไรอีกแล้วครับ รีบโบกแท็กซี่ทั้งๆ ที่ยังร้องไห้อยู่ ผมรีบบอกจุดหมายปลายทางที่ะจะไปบ้านอาไอ้นัยเพราะรู้แค่นั้น ก่อนจะกดโทรหาไอ้ตาลเพื่อถามทางอีกครั้ง เพราะที่ถามไว้เมื่อคราวก่อน ผมจำได้บ้างไม่ได้บ้าง
แล้วมึงร้องไห้ทำไมวะ ทะเลาะกับมันเหรอ ไอ้ตาลถามผมด้วยน้ำเสียงห่วงๆ
เออว่ะ มันเข้าใจกูผิด ผมตอบไปด้วยเสียงฟืดฟาด เพราะทั้งน้ำมูกน้ำตามันไหลออกมาตลอด
ไอ้ห่านัยแม่งก็ขี้งอนด้วยดิ ไอ้ตาลพูดขึ้น งั้นบอกกูมาก่อน ตกลงมึงสองคนเป็นแฟนกันใชมั้ยวะ
ถ้ามึงคิดว่าใช่ ก็คงใช่ละวะ ผมบอกไป แม้จะเสียใจแต่ก็ยังเขินอยู่นี่ครับ
เออ
..แค่นี้แหละ ทำงุบงิบๆ ไอ้ตาลเหน็บผม งั้นมึงรอกูแถวๆสถานีรถไฟนะโว้ย กูกำลังกลับห้องพอดี เดี๋ยวกูพามึงไปหามันเอง
ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเมื่อรู้ว่าไอ้ตาลเพื่อนรักของผมมันจะพาผมไปบ้านไอ้นัย
นี่ผมคงมีโอกาสเคลียร์กับไอ้นัยแล้วสินะ
นัย
มึงอย่าโกรธกูเลยนะ
ขอร้องละ ฮือๆๆๆ