We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง(กระทู้ 3 ครับ)"
Posted by someone on 09-Jul-13 at 12:25 PM
“ตื่นได้แล้ว!!!!” เสียงตะโกนลั่นห้องทำเอาผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ไอ้เบสต์เองก็ผวาลุกขึ้นมาพร้อมๆกับผมทำหน้าตาเลิ่กลั่ก

“กอดกันกลมดิ๊กเลยนะพวกมึง ฮ่าๆๆ” ไอ้นัยแซวผมทำเอาหน้าผมร้อนฉ่าไปหมด ผมรีบหันมองไปทางไอ้เบสต์ มันยิ่งหน้าแดงกว่าผมอีกหลายเท่าเพราะความที่มันขาวกว่าผมมาก

“สาดดดด……ละ….แล้วทีมึงสองตัวยังนอนกอดกันได้เลย” ผมตอบออกไปด้วยความเขิน

“เอ๊า…..ก็กูเป็นแฟนกันนี่หว่าไอ้ตาล……งั้นก็แสดงว่า……” ไอ้นัยสวนมาทันควันทำเอาผมหน้าร้อนขึ้นไปอีก…….เชี่ย……พลาดแล้วดิกู

“อะ…เอ่อ…..อ่า…..” ผมติดอ่างขึ้นมาทันทีครับ เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงต่อ

“เอ่อ…..พวกมึงไม่รู้รึไงว่าไอ้ตาลมันติดหมอนข้างเว้ย” ไอ้เบสต์รีบแก้ตัวแทนผม

“ตอบแบบนี้ไม่ได้โว้ย กูสงวนลิขสิทธิ์…….ฮ่าๆ” ไอ้เอกเสริมอีกแล้วหันไปหัวเราะกับไอ้นัย “หมอนข้างดิ้นได้ว่ะนัย ก๊ากๆๆ”

“เชี่ยเอก กูไปอาบน้ำแระ” ผมรีบลุกขึ้นแล้วเดินขาปัดจะไปเข้าห้องน้ำเพราะทนเขินอยู่ต่อไม่ไหว แต่ไม่วายหันไปตบกระโหลกไอ้เอกกับไอ้นัยด้วยความหมั่นไส้

“โอ๊ย! เขินแล้วมาทำร้ายเพื่อนเหรอวะไอ้บ้า ฮ่าๆๆ” ไอ้เอกหัวเราะไม่หยุด ท่าทางคงสะใจมันเต็มที่ละไอ้เวร

ผมล็อคห้องน้ำแล้วยืนพิงประตูนิ่งๆ…….เชี่ย……ผมเขินไอ้เอกกับไอ้นัยแน่นอนผมยอมรับ……แต่อีกใจ……ทำไมผมถึงรู้สึกดีใจที่ไอ้สองตัวนั่นมันได้รับรู้เรื่องของผมกับไอ้เบสต์ละวะ…….ผมยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองนัก……ผมอยาก…..หรือไม่อยากให้พวกมันรู้กันแน่วะ กูงงตัวเองจริงๆ

ไอ้เอกเล่าบ้าง……

พวกผมไปถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้า ผมรู้สึกตื่นเต้นสุดๆเลยละครับ เพราะวันนี้จะต้องแสดงจริงแล้ว……มันรู้สึกเกร็งๆ หายใจไม่ทั่วท้องยังไงบอกไม่ถูก…….ผมกลัวจังครับว่าจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา……เอาเหอะ……ผมต้องระวังให้มากที่สุด

“พี่เอก……พี่เบสต์……กรี๊ดดดดด!!!!” เสียงกรี๊ดเริ่มดังขึ้น เมื่อพวกผมก้าวเดินผ่านโต๊ะม้าหินอ่อนที่มีกลุ่มนักเรียนหญิงกำลังนั่งคุยกันอยู่ พวกเธอรีบวิ่งกรูเข้ามาหาผมกับไอ้เบสต์จนผมตั้งตัวไม่ทัน

พอน้องกลุ่มนี้กรี๊ดเสียงดัง นักเรียนหญิงคนอื่นๆก็เริ่มมีปฏิกิริยาเดียวกัน พวกเธอพากันกรี๊ดแล้ววิ่งตรงมาที่พวกเราเหมือนกันครับ

โอย…..กว่าผมจะฝ่าด่านน้องๆมาถึงห้องซ้อมของชมรมการแสดงได้ ก็ทำเอาตัวผมน่วมไปหมด เพราะพวกเธอทั้งจับมือ ทั้งดึงแขน ทั้งหอมแก้ม สารพัดที่พวกเธอจะทำได้ แต่ผมก็ปลื้มนะครับที่มีคนเครซี่ผมได้ขนาดนี้…….ฮี่ๆ นี่ขนาดงานโรงเรียนนะเนี่ย มันให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังจะเป็นศิลปินชื่อดังอย่างงั้นแหละ

ห้องชมรมการแสดงวุ่นวายมากครับ เพราะน้องๆแดนเซอร์มากันครบหมดแล้วกำลังทยอยแต่งหน้าและทำผมอยู่ พอเห็นผมพวกเธอก็ร้องทักทายกันใหญ่..……ผมยิ้มแล้วโบกมือให้ทุกคน พาลคิดไปถึงน้องแองจี้…….เฮ้อ……ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ ทำไมไม่ติดต่อกลับมาบ้างเลย

ผมถูกดึงตัวไปทำผมก่อน โดยพี่คนเดิมที่เคยทำให้ตอนถ่ายโปสเตอร์นั่นแหละครับ แกชื่อพี่ดาว

“ผมยาวขึ้นอีกหน่อยแล้วนะคะ คราวนี้ละ หล่อกว่าเดิมแน่นอน” พี่ดาวบอกทำเอาผมยิ้มหน้าบาน…..ใช่สิครับ ก็ครั้งก่อนพี่บอกผมว่าให้สระผมทุกวัน ผมจะยาวเร็วขึ้น ผมก็เลยทำตาม

“ขอบคุณนะคับพี่ดาว” ผมยกมือไหว้ขอบคุณ

“เมื่อวานนี้แองจี้โทรมาหาพี่ด้วยนะคะ” พี่ดาวบอกทำเอาผมตาโตด้วยความตื่นเต้น

“เหรอคับ…..แองจี้เป็นไงมั่งคับ อยู่ที่ไหน สบายดีมั้ยคับ” ผมโพล่งออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยไม่ได้คุยกันแค่ได้รู้ข่าวคราวก็ยังดี

“อยู่ที่ไหนแองจี้ไม่ยอมบอก แต่เธอสบายดีค่ะ โทรมากำชับพี่เรื่องชุดทั้งสองเพลงและเรื่องแต่งหน้าทำผม” พี่ดาวเล่าต่อ

“โธ่…..ยังอุตส่าห์ห่วงพวกเราอีก” ผมรู้สึกน้ำตารื้นขึ้นมานิดหน่อยเพราะซึ้งใจน้องแองจี้มากๆ

“แสดงเต็มที่เลยนะคะน้องเอกสุดหล่อ วันนี้พี่จะแต่งหน้าให้ด้วย เอาให้หล่อระเบิดไปเลย” พี่ดาวบอก…..อ้าว……นี่พี่แต่งหน้าได้ด้วยเหรอเนี่ย

………………………….

“อ่ะ เสร็จแระค่ะ” พี่ดาวพูดขึ้นหลังจากทำผมและแต่งหน้าให้ผมเสร็จเรียบร้อย “ทุกคนคะ พระเอกสุดหล่อของเราเป็นยังไงมั่งคะ” พี่ดาวพูดพร้อมดึงตัวผมลุกยืนก่อนจะจับหันไปให้ทุกคนในห้องดู

“กรี๊ดดดดด หล่อจัง” เสียงกรี๊ดและเสียงชมออกมาจากปากของพี่ๆช่างแต่งหน้าทำผมและน้องแดนเซอร์ ทำเอาผมเขินไปเลยครับ ไอ้นัยกับไอ้ตาลก็พากันมองมาแล้วยกนิ้วโป้งให้ ผมเลยรีบเดินไปส่องกระจกบานใหญ่

โหยยย……นี่ตัวกูเหรอวะเนี่ย ทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้…..ฮี่ๆ……ผมที่ยาวขึ้นถูกเซ็ทจนตั้งแข็งเป็นหนามๆแบบที่เค้ากำลังฮิตกัน ส่วนใบหน้าของผมก็ดูเข้มขึ้นมากเลยครับ พี่ดาวบอกว่าแต่งเพื่อแสดงบนเวทีต้องเข้มกว่าแต่งถ่ายรูป เพราะเวทีอยู่ไกลและมีแสงไฟสาดเข้าไปอีก ถ้าไม่แต่งให้เข้มจะทำให้หน้าดูจืดเกินไป

ไม่นานนักไอ้โนกับพี่กรก็มาถึงพร้อมกล้องดิจิตอล ผมเลยได้เต๊ะท่าถ่ายรูปไปหลายรูปเลยล่ะครับ ทั้งเดี่ยว…ทั้งคู่….ทั้งกลุ่มกับไอ้นัย ไอ้ตาล พี่กรและไอ้โน ฮี่ๆ……ไม่ค่อยเห่อเลยนะเรา

ช่วงนั้นก็มีคนมาเคาะประตูครับ ผมเลยตะโกนถามออกไปว่าเป็นใคร

“กันคับ ผมมาหาเอกคับ” เสียงไอ้กันตะโกนเข้ามาทำให้ผมยิ้มอย่างดีใจ

“พวกกูด้วย โป้งกับเก็ต” เฮ้ย! ไอ้โป้งไอเก็ตก็มาเหรอวะ ผมเลยรีบเปิดประตูรับไอ้สามคนนั่น

“โห…..หล่อจังเอก” ไอ้กันหน้าตาสดใสยิ้มให้ผม แถมชมผมซะจนตัวแทบลอย

“เพื่อนกูแม่งหล่อสุดๆเลยว่ะ” ไอ้โป้งกับไอ้เก็ตบอกแล้วเดินเข้ามากอดผม

“แน่นอนอยู่แล้ว หึหึ” ผมยิ้มอย่างภูมิใจแล้วพาพวกมันเข้ามาในห้องก่อนจะล็อคประตู

ผมพาไอ้กัน ไอ้โป้งและไอ้เก็ตเข้าไปไหว้พี่กร หวัดดีไอ้นัย ไอ้โนและไอ้ตาล ก่อนจะหันมาหาผม ผมแอบเห็นไอ้นัยกระซิบกระซาบอะไรให้ไอ้ตาลฟังก็ไม่รู้……สงสัยจะบอกไอ้ตาลว่าไอ้กันเป็นแฟนเก่าไอ้เบสต์แน่เลย

“เมื่อวานกูมีแข่งว่ะ เลยไม่ได้ดูมึงซ้อมใหญ่” ไอ้กันบอกทำหน้าเสียดาย

“ส่วนกูไม่รู้ว่ามีซ้อมใหญ่ ไอ้ห่าเก็ตแม่งลืมบอกกู” ไอ้โป้งบอกแล้วหันไปตบหัวไอ้เก็ต

“ฮี่ๆ กูมีนัดกับสาวทางเน็ทว่ะ” ไอ้เก็ตสารภาพพลางลูบหัวตัวเอง

“เฮ้ย! ไม่เป็นไร ดูวันจริงดีกว่า ชุดพร้อม…สุดอลังการ ฮ่าๆ” ผมไม่วายอวดแล้วผายมือไปยังชุดแดนเซอร์ที่แขวนอยู่บนราว

“กูทำป้ายมาเชียร์มึงด้วยนะ” ไอ้กันบอกพร้อมโชว์ป้ายขนาดกำลังดี เขียนชื่อผมด้วยสีสะท้อนแสงเด่นมากๆ

“ของพวกกูก็มี๊” ไอ้เก็ตบอกพร้อมโชว์ป้ายเชียร์ผมเหมือนกัน
“ขอบใจว่ะพวกมึง” ผมบอกขอบคุณ แล้วหันไปมองไอ้นัยก่อนจะชี้ไปที่ป้ายเหมือนจะบอกว่า……เนี่ยๆ……เห็นมั้ย ไอ้พวกเนี๊ยะมันทำป้ายมาเชียร์กูด้วยนะ

ไอ้นัยยักไหล่แล้วหันไปยิ้มกับไอ้ตาลอย่างมีเลศนัย พี่กรกับไอ้โนก็มองหน้ากันแล้วยิ้มแปลกๆ

……………………..

เสียงประกาศเชิญชวนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมดังมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซุ้มกิจกรรมต่างๆภายนอกอาคาร และการจัดแสดงทางวิชาการในห้องเรียน ซึ่งห้องเรียนบางห้องถูกเปลี่ยนเป็นห้องวิถีชีวิตแบบไทยทั้งสี่ภาค มีการขายอาหารประจำภาคอีกด้วยครับ ผมเองที่นั่งฟังอยู่ในห้องแต่งตัว ยังรู้สึกอยากเข้าไปดูให้ทั่วๆเลยครับ

ไม่นานนักก็มีเสียงประกาศยินดีต้อนรับนักเรียนจากโรงเรียน……ว่าได้เดินทางมาถึงเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนผมแล้ว…..โอยย…..ตื่นเต้นจังเลย เพราะพวกผมจะต้องแสดงให้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนดู ขออย่าให้มีอะไรผิดพลาดเลยครับ

หลังจากนั้นก็มีเสียงประกาศว่า การแสดงในหอประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว น้องๆแดนเซอร์บางคนถึงกับกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะการแสดงของพวกเราจะเป็นการแสดงปิดท้ายของช่วงเช้า

น้องๆแดนเซอร์ที่แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วก็ทยอยเปลี่ยนชุดกันใหญ่ ใครแต่งเสร็จก่อนผมก็จะดึงมาถ่ายรูปคู่กับผม ทำให้บรรยากาศคึกคักเข้าไปอีก

ตอนนี้พวกเราทุกคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วครับ…..โหย…….มันอลังการจริงๆเลยละครับ ผมก็เลยให้ไอ้โนถ่ายรูปแบบครบทีมหลายๆรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก น้องๆแดนเซอร์ก็โพสท่ากันเต็มที่ แถมยังสลับตำแหน่งเปลี่ยนท่าโพสไปเรื่อย เรียกว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว

ตอนนั้นเองไอ้นัยที่ยืนดูอยู่ด้านหน้าก็กวักมือเรียกผมพร้อมยกโทรศัพท์ของผมขึ้นโชว์

“แองจี้ส่งข้อความมา” ไอ้นัยตะโกนลั่น ทำเอาน้องๆแดนเซอร์และผมพากันวิ่งไปหามัน ผมรีบคว้ามือถือเอามาเปิดดูข้อความด้วยความตื่นเต้น

“…..หนูสบายดีค่ะพี่เอก ฝากบอกน้องๆด้วยว่า เต้นกันให้เต็มที่ สู้ๆแทนหนูด้วยนะคะ หนูเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องทำได้….”

น้ำตาผมรื้นขึ้นมาอีกแล้วครับ หันไปมองน้องๆคยอื่นก็เห็นพวกเธออยู่ในสภาพเดียวกันกับผม ผมเลยยื่นมือไปตรงกลาง น้องๆคนอื่นก็พากันยื่นมือมาประสานกันเอาไว้

“พวกเราจะไม่ทำให้แองจี้ผิดหวัง” ผมร้องบอกเสียงดัง

“สู้ๆ!!!!!!” พวกเราส่งเสียงพร้อมกันจนดังลั่นไปทั้งห้อง ต่างมองตากันด้วยความมุ่งมั่น…….เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะสู้เพื่อเธอนะแองจี้

ไอ้นัย ไอ้ตาล พี่กรและไอ้โนพากันขอตัวออกไปจองพื้นที่ในหอประชุมก่อน เพราะกลัวจะไม่มีที่ยืนดู ส่วนไอ้กัน ไอ้โป้งและไอ้เก็ตก็ทยอยกันขอตัวออกไปหลังจากนั้น

ไม่นานนัก อ.สุชาติมารับพวกเราเพื่อออกไปสแตนบายที่ด้านหลังเวที แค่เพียงพวกเราก้าวเดินออกจากห้องแต่งตัว ก็เกิดเสียงกรี๊ดสนั่นไปทั้งโรงเรียน เพราะคราวนี้นักเรียนยิ่งมากกว่าตอนถ่ายโปสเตอร์อีกไม่รู้เท่าไหร่ มีทั้งนักเรียนโรงเรียนผมที่ไม่มีการเรียนการสอนแถมยังมีมาจากโรงเรียนอื่นอีก เลยยิ่งทำให้ขบวนของการแสดงชุดนี้ ถูกรุมล้อมจับไม้จับมือ และส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับกันอย่างเกรียวกราว

พวกเราไปรออยู่นานพอสมควรครับ แต่ยิ่งใกล้เวลาเข้าไปเท่าไหร่ ผมก็ตื่นเต้นมากขึ้นทุกที พี่คนคุมคิวเดินมาบอกพวกผมว่าทั้งหอประชุมมีคนเข้ามารอดูจนแทบจะล้นออกไปด้านนอก ยิ่งทำให้พวกผมและน้องๆแดนเซอร์พากันจับมือต่อๆกัน เพื่อส่งกำลังใจไปให้กัน

“สำหรับการแสดงชุดต่อไปนะคะ จะเป็นการแสดงเต้นกำรำเคียว โดยนักเรียนชั้น ม.3 และจากนั้นจะเป็นการแสดงเซิ้งกะลา โดยนักเรียนชั้น ม.4 ค่ะ”

“แต่ยังไม่หมดนะครับ เรายังมีการแสดงชุดสุดท้ายที่รับประกันความอลังการดาวล้านดวงรออยู่อีก” พิธีกรชายพูดต่อทำให้มีเสียงกรี๊ดดังสนั่น “แต่ตอนนี้ขอเชิญพบกับการแสดงเต้นกำรำเคียวได้เลยครับ”

พวกผมยิ่งบีบมือกันอย่างตื่นเต้น เพราะจบจากเต้นกำรำเคียวก็เหลือการแสดงอีกเพียงชุดเดียวเท่านั้น……โอยย……หายใจไม่ทั่วท้องเลยจริงๆครับ

พี่ที่คุมคิวเดินมาบอกให้พวกผมไปสแตนบายที่ทางขึ้นอีกด้าน เพื่อเตรียมพร้อมขึ้นแสดงต่อจากเซิ้งกะลาซึ่งไปยืนรอแสดงอยู่คนละฝั่งเรียบร้อยแล้ว

พวกเราจับมือกันแน่นด้วยความตื่นเต้น เพราะมีนักเรียนทั้งหอประชุมกำลังรอดูพวกเราอยู่ สถานการณ์แบบนี้มันเพิ่มความกดดันให้พวกเราอย่างมากมาย พวกเราต้องทำมันออกมาให้ดี สมกับที่เค้าตั้งความหวังเอาไว้

“คิดถึงพี่แองจี้นะคะ” น้องเบลพูดขึ้นทำเอาพวกเรามองหน้ากัน

“อยากให้พี่แองจี้มาอยู่ด้วยจังเลยค่ะ” น้องนิกกี้พูดเสริมทำเอาพวกเราน้ำตาคลอเบ้าด้วยความคิดถึงเธอ

ใช่สิครับ เธอเหนื่อยกับพวกเรามาตลอด จะว่าเหนื่อยกว่าทุกๆคนก็ได้ เธอมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังกับงานนี้อย่างมากมาย แต่ในวันนี้กลับไม่มีเธอ วันที่ผลงานที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ กำลังจะปรากฏแก่สายตาของทุกคน

“จบไปแล้วนะคะ การแสดงเต้นกำรำเคียว การแสดงต่อไปก็ไม่ธรรมดานะคะ เป็นการแสดงพื้นบ้านของชาวอีสาน……..”

เสียงพิธีกรประกาศยิ่งทำให้พวกเราตื่นเต้นขึ้นไปอีก เพราะเหลือแค่การแสดงชุดนี้เพียงชุดเดียว พวกเราก็ต้องขึ้นเวทีแสดงจริงกันแล้ว

“หายใจลึกๆนะครับน้องๆ” ผมร้องบอกทุกคนทั้งๆที่ตัวเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าพวกเธอ แต่ผมต้องเป็นหลักให้กับน้องๆแทนน้องแองจี้

เสียงกลองอันเร้าใจทำนองอีสานดังกระหึ่ม ยิ่งทำให้ใจของผมเต้นเร็วกว่ากลองที่รัวอยู่…..โอยย……ตื่นเต้นชิบหายเลย ผมเสือกรู้สึกปวดเยี่ยวขึ้นมาอย่างกะทันหัน……อูยยย……ผมคำนวณดูแล้วครับว่า ถ้าผมไม่ไปเยี่ยวตอนนี้ อาจมีเยี่ยวแตกกลางเวทีได้ ผมเลยรีบบอกคนคุมคิวแล้ววิ่งออกไปห้องน้ำ

“เร็วๆนะน้อง มาให้ทันเวลานะ” พี่คุมคิวตะโกนบอกไล่หลัง

ผมรีบวิ่งปรู๊ดออกไป เพราะห้องน้ำตั้งอยู่ไม่ไกลนัก มีนักเรียนหลายคนอยู่บริเวณนั้น พากันเป่าปากวี๊ดวิ่ว ผมเลยหันไปยิ้มให้ก่อนเข้าไปในห้องน้ำ

ผมรีบเบ่งเยี่ยวอย่างรวดเร็ว……โอยยย….ค่อยยังชั่วหน่อยกู…..เฮ้อ…….

ผมเยี่ยวเสร็จก็รีบรูดซิปกางเกง แต่ด้วยความรีบ ผมเลยรูดแรงไปหน่อย ซิปเลยติดกับผ้าด้านใน ผมเลยออกแรงรูดมากขึ้น แต่สุดท้ายซิปก็แตกเข้าจนได้

ชิบหายแล้วกู!!!! ผมหน้าเสียเพราะไม่รู้จะทำยังไงได้ พยายามยัดซี่ซิปลงไปในที่รูด แต่มันก็ไม่ได้…..ตายละหว่า……ทำไงดีเนี่ย

ผมวิ่งกุมเป้าออกมาจากห้องน้ำแล้วรีบเข้าไปด้านหลังเวที ตรงไปยังพวกน้องๆแดนเซอร์ที่กำลังยืนรออยู่

“ใครมีเข็มกลัดบ้างมั้ย ซิปกางเกงพี่แตก” ผมบอกออกไปอย่างซีเรียส

“หา ซิปแตก!!!” น้องๆร้องออกมาพร้อมกัน ก่อนจะทำหน้าเครียดตามผมไปด้วย

“โอ๊ย ตายแล้ว หนูลืมไปเลยค่ะ” น้องเบลพูดขึ้น “พี่แองจี้เคยบอกหนูว่าให้หยิบเข็มกลัดติดตัวมาด้วย เพราะอาจเกิดเรื่องฉุกละหุกแบบนี้” เธอพูดพลางเอามือกุมหัวเหมือนจะตำหนิตัวเอง

“ตกลงว่าไงครับ หาเข็มกลัดได้รึยัง” พี่คุมคิวร้องถามผม “การแสดงใกล้จบแล้วด้วยสิ”

เวรแระกู……ผมหน้าเสียเพราะไม่รู้จะทำยังไง เสียงเพลงอีสานจบลงพร้อมเสียงปรบมือดังเข้ามา…….เชี่ย…….เซิ้งกะลาจบแล้ว

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปบอกพิธีกร ให้พูดถ่วงเวลาไปก่อน” พี่คุมคิวร้องบอก “หาทางแก้เฉพาะหน้าไปก่อนนะ ถ้าพร้อมแล้วตะโกนบอกพี่ด้วย”

พี่คุมคิววิ่งขึ้นไปบนเวที แต่ผมก็ยังว้าวุ่นใจเพราะยังหาเข็มกลัดไม่ได้……โอยย…..เอาไงดีวะ

“นักแสดงเซิ้งกะลา มีเข็มกลัดบ้างมั้ยคับ” ผมรีบตะโกนถามเพราะคิดว่าอาจจะมีใครมีติดมาบ้าง

“อ๋อ มีค่ะ” เสียงนักแสดงคนนึงตอบมาเหมือนเสียงจากสวรรค์

น้องๆแดนเซอร์กรี๊ดเบาๆด้วยความดีใจ และก็พาผมวิ่งเข้าไปหานักแสดงเซิ้งกะลาคนนั้น

“อยู่ด้านหลังค่ะ แกะออกได้เลย” เธอหันหลังมาให้ น้องเบลเลยจัดการแกะออกอย่างรีบร้อน

เสียงพิธีกรกำลังพูดถ่วงเวลาด้วยเรื่องอื่นดังเข้ามาให้ได้ยิน ทำเอาพวกเรายิ่งรนกันเข้าไปใหญ่

“ได้แล้วค่ะ” น้องเบลตะโกนบอกพร้อมนั่งลงด้านหน้าผม ก่อนจะเอาเข็มกลัดซ่อนปลายกลัดช่องซิปที่แตกให้เข้าหากันอย่างสนิท

“อร๊ายยยย ได้แล้วค่ะ” น้องเบลร้องลั่น พร้อมน้องๆคนอื่นๆก็พากันดีใจ

“ขอบคุณนะครับ” ผมรีบของคุณนักแสดงคนนั้นแล้วพากันวิ่งไปที่บันไดทางขึ้นเวทีพร้อมตะโกนบอกพี่คุมคิวว่าพร้อมแล้ว

“โอเค เรียบร้อยแล้วนะ” พี่คุมคิวขานรับพร้อมยกมือทำท่าโอเค แต่แทนที่แกจะขึ้นไปบอกพิธีกรว่าพร้อมแล้ว พี่แกกลับจ้องมองไปทางด้านหลังพร้อมทำตาโต ก่อนจะชี้มือไปตรงประตูทางเข้า

“นั่นใช่นักแสดงเพลงน้องรึเปล่า” พี่คนนั้นร้องบอกเลยทำให้พวกผมต้องหันกลับไปมองตามที่แกชี้

ผมขนลุกซู่เมื่อมองไปที่ประตู ด้วยแสงที่ย้อนเข้ามาในห้องเลยทำให้ผมเห็นเพียงรูปร่างของนักแสดงคนนึง ที่ใส่ชุดเหมือนแดนเซอร์ในเพลงของผมอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เธอกำลังเดินอย่างรวดเร็วเข้ามาหาพวกเราด้วยความมั่นใจ ใจผมเต้นอย่างแรงเมื่อเห็นหน้าของเธอชัดเจนขึ้น เธอยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข

“พี่แองจี้….กรี๊ดดดดดดด” น้องๆแดนเซอร์ทุกคนรวมทั้งผมต่างวิ่งเข้าไปหาเธอด้วยความดีใจ ขนในตัวผมทุกเส้นลุกตั้งด้วยความปลื้มปิติที่ได้เห็นน้องแองจี้ในตอนนี้

พวกเราต่างกอดเธอร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ น้องแองจี้เองก็ร้องไห้กอดพวกผมด้วยเช่นกัน…..เธอกลับมาแล้ว เธอกลับมารับเอาความภาคภูมิใจที่เธอได้ทุ่มเทให้ มีคำถามมากมายที่เราเคยอยากถามเธอ แต่เมื่อเห็นเธอมาอยู่ด้วยตรงนี้ เลยทำให้พวกเราไม่จะเป็นต้องถามอะไรอีกแล้ว

“ต้องแสดงแล้วนะครับ” พี่ที่คุมคิวร้องบอก “โอเครึยังครับ”

“ขอเวลาหนึ่งนาทีค่ะ หยุดร้องไห้ก่อนเดี๋ยวหมดสวยนะน้องๆ” น้องแองจี้บอกทั้งน้ำตา ก่อนจะเอาที่ทาแป้งมาซับน้ำตาของพวกเราทุกคนให้กลับมาสวยหล่อกันเหมือนเดิม

พวกเราพากันกุมมือน้องแองจี้แล้วไปยืนรอตรงบันไดทางขึ้นเวที ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้แสดงจริงและด้วยความปลาบปลื้มใจที่น้องแองจี้กลับมาเต้นกับพวกเราอีกครั้ง…..นี่คืออีกหนึ่งความดีใจที่สุดในชีวิตชองผมก็ว่าได้ ที่ผมได้เจอน้องที่ผมรักอีกครั้ง เพราะเธอเหมือนเป็นน้องแท้ๆของผมเลยก็ว่าได้

“และก็ได้เวลาของการแสดงชุดสุดท้ายของช่วงเช้าแล้วนะคะขอเชิญทุกๆท่านพบกับ น้องเอกพัฒน์ จากห้อง ม.5/1 และน้องๆแดนเซอร์สาวสวยครบทีม ในเพลง…..รักคุณยิ่งกว่าใคร เชิญรับชมได้แล้วค่า”

เสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นไปทั้งหอประชุม มันดังมากๆครับจนขนแขนผมลุกตั้งด้วยความตื่นเต้น ผมมั่นใจเหลือเกินว่าการแสดงคราวนี้มันต้องออกมาดีอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้พวกเราพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ก็น้องแองจี้ได้กลับเข้ามาเติมให้มันเต็มร้อยแล้วนี่ครับ จะมีอะไรสมบูรณ์ไปมากกว่านี้

เสียงอินโทรเร้าใจดังกระหึ่มไปทั้งหอประชุม น้องๆแดนเซอร์ทยอยวิ่งออกไปด้านหน้าเวทีแล้วเต้นกันอย่างเต็มที่ แม้ผมจะยืนอยู่ทางด้านหลังก็ยังมองเห็นถึงความสุขของพวกเธอที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก พวกเธอยิ้มออกมาจากใจ ส่งความสุขไปถึงคนดูทุกคน ผมภูมิใจในตัวพวกเธอจริงๆ

โดยเฉพาะน้องแองจี้ เธอร่าเริงเหลือเกินครับ เพราะนี่คือตัวตนจริงๆของเธอ ที่เธออยากให้ทุกๆคนยอมรับในตัวเธอ รวมถึงครอบครัวของเธอด้วย

“……รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร มอบกล่องดวงใจเอาไว้ที่คุณ”

เสียงกรี๊ดดังสนั่นอีกรอบเมื่อผมเดินร้องเพลงออกไปกลางเวที เวลานั้นผมไม่มีความประหม่าหลงเหลืออยู่สักนิด ตรงข้ามผมกลับมีความสุขที่ได้ร้องเพลงออกไปให้ทุกคนได้ฟัง บวกกับความสุขที่ผมได้น้องแองจี้กลับคืนมา

“…….แม้ใจคุณมีประตู จะเข้าไปอยู่เฝ้าดูหัวใจ
ใส่ลูกบิดแล้วเริ่มปิดกลอนแถมไม่เปิดต้อนรับใคร
อยากจะเป็นคนเดียวอยู่ใน ห้องหัวใจของคุณ……”

แสงแฟล็ชจากล้องถ่ายรูปแว๊บไปแว๊บมาจนนับไม่ถูก ผมเริ่มมองเห็นป้ายชื่อของผมถูกยกขึ้นมาด้านบน…..ไอ้กันอยู่ตรงนั้น……ไอ้โป้งไอ้เก็ตอยู่ตรงนู้น…….แล้วไอ้นัยละ อยู่ตรงไหนวะ

“…..ปิดปากคุณได้ก็จะปิดปาก เดี๋ยวคุณรับฝากความรักจากใคร
ปิดจมูกไม่ให้ได้กลิ่น ปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงใคร
ถ้าปิดประตูห้องได้ดังใจ จะอยู่ข้างในสองคนกับคุณ…..”

ตอนนั้นเองครับ ผมก็มองเห็นป้ายไฟที่ค่อยๆถูกชูขึ้นมา หลอดไฟเล็กๆถูกจัดเรียงเป็นชื่อของผม

……AKE สู้ๆ……

ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจเพราะผมรู้โดยทันทีว่านั่นต้องเป็นป้ายที่ไอ้นัยแอบทำเอาไว้เชียร์ผมแน่นอน……ก็……ผมมีแฟนเรียนช่างอิเล็คโทรนิกส์นี่นา แถมมีเพื่อนรักเรียนไฟฟ้าอีกด้วย เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว

ไอ้นัยโบกป้ายชื่อผมไปมา ผมเห็นมันยิ้มกว้างส่งกำลังใจมาให้ผมเต็มๆ และป้ายไฟอีกสามป้ายก็ถูกยกขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มีทั้งชื่อของผมเป็นภาษาไทยทั้งชื่อเล่นชื่อจริง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นพี่กร ไอ้โน และไอ้ตาล

ผมยิ้มไปร้องเพลงไปอย่างมีความสุข และเมื่อได้รู้ว่าไอ้นัยยืนอยู่ตรงไหน ผมก็มองไปที่มัน และตั้งใจร้องเพลงเพื่อจะบอกมันว่า…..ผมรักมัน…..ยิ่งกว่าใคร

".......รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร
รักคุณ.....เสียยิ่ง......กว่าใคร.........."

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.