We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: นวนิยายจีนกำลังภายในอิโรติค จอมกระบี่เหินบุรุษ ตอน จักจั่นบนหอน้อย"
Posted by ปิงหวิน on 14-Feb-16 at 02:18 PM
จอมกระบี่เหินบุรุษ ตอน จักจั่นบนหอน้อย 3
ช่วงหัวค่ำในที่ว่าการกรมเมืองแห่งเมืองลั่วหยาง หนานเฟยสิงเดินวกไปวนมาอยู่ภายในห้องทำงานอย่างครุ่นคิดท่ามกลางบรรยากาศขมุกขมัวของสถานที่ๆน้อยคนนักจะอยากเข้ามาเยือน

“ผลชันสูตรบอกว่า หม่าต้าหู่เจ้าบ้านสกุลหม่าตายก่อนหน้าคนอื่นๆในที่เกิดเหตุใช่หรือไม่ แล้วก่อนหน้าเท่าไหร่หรือท่าน?” หนานเฟยสิงกล่าวถามบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งยืนกอดอกครุ่นคิดอยู่ตรงหน้ามัน

“6-7 ชั่วยามทีเดียวจากผลชันสูตร และการตายก็ไม่เหมือนศพอื่นๆด้วย” ชายอีกผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในชุดมือปราบเช่นเดียวกันกับหนานเฟยสิงตอบกล่าว มันคือองเฮ้ยโส่วผู้ช่วยมือสำคัญของหนานเฟยสิงมันมีฉายาว่า “หมัดดำ” นั่นเป็นเพราะอาวุธสำคัญของมันคือหมัดที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า องค์เฮ้ยโส่วเลิกคิ้วหนาหยาบที่กั้นไว้ด้วยจมูกใหญ่โตขึ้นเหมือนครุ่นคิดหาหลักฐานชิ้นสำคัญจากบทสนทนา

หนานเฟยสิงร้อง อ้อ คำหนึ่งก่อนจะทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะทำงานพร้อมกับกล่าว “จากตอนที่ข้าเห็นศพของเขาข้าก็เหมือนจะสังเกตว่าเขาตายเพราะขาดอากาศหายใจ ไม่ได้ตายจากคมอาวุธเหมือนศพอื่นๆในคืนนั้น”

“นั่นจึงถูกต้องแล้ว จากที่ข้าตรวจสอบดูเขาขาดอากาศหายใจตายตั้งแต่ก่อนหน้าเกิดการฆาตกรรมล้างบ้านสกุลหม่าอยู่ถึง 6-7 ชั่วยามนี่ไม่ทราบเป็นเพราะสาเหตุใด แต่บนร่างมันพบจุดจ้ำๆเหมือนโดนของแข็งจี้สกัดแต่ในที่เกิดเหตุก็ไม่พบอาวุธอันใดเลย” องค์เฮ้ยโส่วกล่าวย้ำสาเหตุการเสียชีวิตของหม่าต้าหู่เจ้าบ้านสกุลหม่าผู้ลือชื่อ

บ้านสกุลหม่าประกอบกิจการคุ้มภัยแม้ไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งในลั่วหยางแต่ก็นับได้ว่ามีหน้ามีตาอยู่ในอันดับต้นๆ เทียบเคียงกันกับบ้านสกุลจี้ที่นับได้ว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญและเป็นที่จับตาว่าบ้านสกุลจี้ได้ประโยชน์อย่างมากในการตายยกครัวของหม่าต้าหู่และการสูญสลายไปของกิจการของมัน ตอนที่พบศพของหม่าต้าหู่ศพของมันอยู่ในห้องเพียงแค่ศพเดียว สภาพล้มลงตรงหน้าต่างระเบียงของห้องที่เปิดอ้าออกภายในห้องไม่พบอาวุธหรือการต่อสู้อันใด หากมองผิวเผินผู้คนยังคงคิดว่ามันเป็นโรคลมปัจจุบันเสียชีวิต

องค์เฮ้ยโส่วเงยหน้าขึ้นเดินตรงมายังโต๊ะที่หนานเฟยสิงนั่งอยู่แล้วกล่าว “อาจเป็นเพราะว่าคนร้ายทราบว่าหม่าต้าหู่มีวิชาฝีมือสูง จึงลงมือสังหารมันก่อนที่จะทำการฆ่าล้างบ้านสกุลหม่า”

“นั่นก็อาจเป็นได้แต่หม่าต้าหู่ตายก่อนที่จะเกิดการฆ่าล้างสกุลหม่าถึง 6-7 ชั่วยาม ถ้าหากคนในบ้านมาพบศพก่อนจะไม่ทำให้ผู้คนในบ้านระวังตัวมากขึ้นหรือ นี่ย่อมเป็นการปิดโอกาสตัวเองของฆาตกรข้ายังไม่อาจแน่ใจในประเด็นนี้ อีกทั้งมีเพียงศพของมันที่ไม่มีผ้าแพรแดงเหน็บที่คอหากฆาตกรลงมือและจงใจจัดฉากเหตุใดเว้นไว้เพียงศพของมันเล่า”

องเฮ้ยโส่วคิดตามต้องร่ำร้องชื่นชมในความละเอียดลออของหนานเฟยสิง เพราะถ้าหากว่าหม่าต้าหู่เสียชีวิตก่อนผู้คนในบ้านของมันจะต้องระวังป้องกันอย่างดี อีกทั้งยังอาจจะแจ้งความแก่กรมเมืองทำให้ฆาตกรไม่มีโอกาสลงมือได้ ฆาตกรจะกระทำการซับซ้อนดั่งนั้นเพื่ออะไร
“นี่อาจเป็นฆาตกรคนละพวกกัน ฆาตกรพวกแรกจงใจฆ่าเพียงหม่าต้าหู่แต่อีกพวกจงใจล้างบ้านสกุลหม่าโดยอาจทราบหรือไม่ทราบมาก่อนก็ได้ว่าหม่าต้าหู่ตายไปก่อนหน้าแล้ว ในสองเดือนมานี้เราเฝ้าคิดแต่ว่าฆาตกรเป็นพวกเดียวกันอีกทั้งรอผลชันสูตรศพของหม่าต้าหู่จึงไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นนี้” หนานเฟยสิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นพร้อมกล่าวคำสันนิษฐานอันผิดแปลกไปจากเดิม

องเฮ้ยโส่วรับฟังยังไม่ได้กล่าวต่ออันใด หนานเฟยสิงก็เหมือนดวงตาแจ่มใสขึ้นดั่งนึกอะไรออกจากสาเหตุการตายของเจ้าบ้านสกุลหม่า มันตบโต๊ะร้องคำอ้อคำหนึ่งจากนั้นหยิบกระบี่ที่วางบนโต๊ะเหน็บเข้าข้างเอว

“องค์ตี่ตี๋ นี่เป็นคดีไม่ธรรมดาหากข้อสันนิษฐานของข้าเป็นจริงนี่นับว่ามีฆาตกรอยู่เกลื่อนลั่วหยางแล้ว คนของหน่วยเราตอนนี้มีใครพอจะใช้งานได้บ้าง”

องเฮ้ยโส่วสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นพร้อมกับกล่าว “ช่วงนี้คนของกรมเมืองแทบทั้งหมดถูกส่งไปจัดแจงดูความสงบเรียบร้อยระหว่างทางไปเขาไท่ซ่านเพื่อเตรียมพิธีบูชาสรวงสวรรค์ของฮองเฮา (บูเช๊กเทียน)ที่จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้านับว่าตอนนี้เราขาดคน”

“นี่นับว่าแย่ที่สุด หากเราเอาพวกทหารเลวเข้าปะทะกับเหล่ามือสังหารพวกนี้นับว่าเอาไข่กระทบหิน” หนานเฟยสิงตบโต๊ะปังระบายความไม่พอใจจากนั้นทำสีหน้าสลดลงพร้อมกับล้วงของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ

ของสิ่งนั้นเป็นถุงแพรสีน้ำเงินเข้มสลักลวดลายวิจิตใบหนึ่งมันเปิดถุงผ้าแพรออกเผยให้เห็นแถบผ้าไหมสีม่วงเข้มแถบหนึ่งซึ่งเมื่อคลี่แถบผ้าออกปรากฏเป็นสายรัดเอวของสตรีเส้นหนึ่งแต่ดูเหมือนมันจะถูกตัดให้สั้นลงด้วยของมีคมจนเหลือความยาวประมาณเพียงแค่ศอกเดียวเท่านั้น

“นี่คือสิ่งของอันใดหรือ หนานเฮีย” องเฮ้ยโส่วเพ่งมองแถบผ้าไหมสีม่วงเข้มแถบนั้นพร้อมเอ่ยปากถาม

หนานเฟยสิงดวงตาทอแววทดท้อเหมือนไม่อยากคิดถึงอดีตอันขมขื่นมันใช้นิ้วม้วนแถบผ้าไหมนั้นเก็บกลับเข้าไปในถุงแพรจากนั้นยื่นให้แก่องเฮ้ยโส่วพร้อมทอดถอนใจก่อนจะกล่าวขึ้น
“เจ้าจงนำนี่ไปให้เจ้าวังหนี่ บอกนางว่าข้าต้องการความช่วยเหลือให้เร่งรุดมาโดยเร็ว”

องเฮ้ยโส่วร้องเพ้ยคำหนึ่งจึงกล่าว “เจ้าวังหนี่...หรือว่าจะเป็นหนี่อ้ายเหรินชู้รักเก่าของท่านหนานเฮีย”

หนานเฟยสิงหันขวับมามองหน้ามัน องค์เฮ้ยโส่วรู้สึกผิดที่กล่าวจี้ใจดำของพี่น้องคนสนิทของตนไปอย่างไม่ตั้งใจ

“ใช่..หนี่อ้ายเหรินเจ้าวังดรุณสวรรค์คนนั้นล่ะ งานนี้สำคัญอย่างยิ่งและอันตรายยิ่งข้าต้องการส่งเจ้าไปให้นางเข่นฆ่าจะได้หายปากพร่อยสักครา” หนานเฟยสิงถอนหายใจฟืดออกทางจมูกเหมือนไม่สบอารมณ์พลางทอดความคิดไปถึงวันวานครั้งก่อนกับสตรีผู้เป็นคนรักเก่า

“ข้าน้อยขออภัย แต่เรื่องที่ท่านว่าจักส่งข้าพี่น้องท่านไปตายเห็นว่าจะจริงแล้ว ข้าได้ยินมาว่านางวรยุทธ์สูงส่งยิ่งทั้งยังชมชอบเข่นฆ่าผู้ชาย นางเกลียดผู้ชายนี่เป็นความจริงหรือไม่” องเฮ้ยโส่วทำหน้าแหยๆพร้อมกับกล่าวถามหนานเฟยสิงที่ดูสีหน้าดีขึ้นหลังจากด่าว่ามัน

“ล้วนเป็นความจริง แต่เพียงเจ้าแสดงแถบผ้าไหมนี้ให้เจ้าวังหนี่เห็นนางจะไม่ทำร้ายเจ้า บอกนางให้เร่งรุดมาพบข้าเราจะต้องใช้ยอดฝีมือ ใช้คนน้อยสยบคนมาก มีเจ้าข้าและนางสามคนผีสางอันใดล้วนไม่ต้องกลัว”

“ส่วนข้ามีข้อสงสัยบางอย่างจะต้องไปเห็นด้วยตาให้หายสงสัยให้ได้ในตอนนี้ ข้าจะรุดไปที่เกิดเหตุบ้านสกุลหม่าสักหน่อย เมื่อเช้าข้าเห็นบางอย่างที่หอหมื่นอาชาพันลี้” หนานเฟยสิงสลัดความคิดคำนึงถึงหนี่อ้ายเหรินออกไปจากหัวจากนั้นเขาใช้มือจับกระบี่คู่ใจแล้วจึงเดินออกจากห้องไป

องเฮ้ยโส่วกรอกตาขึ้นทำหน้าทะเล้นพร้อมกับอมยิ้มแล้วจึงกล่าว “ใช่เห็นเด็กหนุ่มๆในหอหมื่นอาชาพันลี้จนละลานตาใช่หรือไม่หนานเฮีย เป็นท่านหนีไปเสพสุขปล่อยข้าจมปรักอยู่แต่กับทหารน่าเบื่อพวกนี้คนเดียว”

“หรือเจ้าอยากเสพสุขกับเด็กหนุ่มๆเหมือนข้าบ้างไหมล่ะองตี่ตี๋ ข้ารับรองว่าดีกว่าสตรีที่เจ้าเคยลิ้มลองหลายเท่านัก” หนานเฟยสิงยิ้มที่มุมปากพลันตอบกลับองเฮ้ยโส่ว

องเฮ้ยโส่วทำหน้าแหยทีหนึ่งเบ้ปากแล้วพลันกล่าว “ข้าคิดว่ายังคงไม่ลิ้มลองเป็นดีกว่าเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องผิดใจกับพี่น้องเช่นท่านแล้วคงไม่ใช่การดีหากแย่งคนรักคนเดียวกัน อีกทั้งข้ายังชมชอบความอ้อนแอ้อนของสตรีมากกว่าตัวหนาๆของบุรุษ”

หนานเฟยสิงร้องเพ้ยคำหนึ่งกำหมัดต่อยหน้าอกองเฮ้ยโส่วเบาๆทีหนึ่งพลันกล่าว “เจ้านี่นอกจากหมัดหนักแล้วปากยังกัดได้หนักหน่วงอีกด้วย เอาเป็นว่าเจ้าก็ไปหาทางเสพสุขกับสาวๆที่วังดรุณสวรรค์ของเจ้าวังหนี่แล้วกัน”

“ท่านคงอยากให้ข้าตายจะได้ครองสถานที่นี้แค่คนเดียวแล้วหนานเฮีย”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ใช่การตายในอ้อมอกที่เจ้าต้องการดอกหรือพี่น้องข้า”

หนานเฟยสิงกล่าวจบก็เดินตัวปลิวออกจากที่ว่าการกรมเมืองออกไป เขามุ่งหน้าไปสู่สถานที่เกิดเหตุซึ่งก็คือบ้านสกุลหม่าที่อยู่ห่างออกไปหลายช่วงตึกพลางครุ่นคิดถึงหงฉานและหน้าต่างที่ระเบียงที่เขาเห็นเมื่อตอนกลางวัน....

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.