ตอนที่ 13 (ต่อ)
ยังไม่ทันที่พัฒน์จะตอบ เสียงพี่แจน เลขาก็แทรกขึ้นมา
เออก้อง เมื่อกี้ทางประกันสังคมเขาโทรมาว่าเรื่องเรียบร้อยแล้วนะ ให้ก้องออกไปเอาเอกสารตอนนี้ได้เลย รีบไปเถอะเดี๋ยวเขาจะปิดซะก่อน
สรุปว่าวันนั้น ก้องเลยไม่ได้คุยกับพัฒน์ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะต้องรีบไปธุระ แม้แต่วันสุดท้ายที่ก้องมาทำงาน ก็เป็นช่วงที่พัฒน์ลาพักร้อนพอดี ทำให้ไม่มีโอกาสได้ร่ำลากัน
ไปแล้วครับพี่แจน ก้องเอ่ยลาด้วยความรู้สึกเศร้าลึก ๆ ทั้งห้องเหลือเพียงก้องกับพี่แจนเท่านั้น เพราะหัวหน้าติดประชุมด่วนไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่
จ้า โชคดีนะ ถ้าผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมพี่บ้างล่ะ เออ แล้วนี่มีใครมาช่วยก้องขนของหรือเปล่า
ไม่มีหรอกครับ ผมไม่มีของอะไรมาก ใส่แค่เป้ใบเดียวก็หมดแล้ว เดี๋ยวผมไปดูของที่โต๊ะอีกทีดีกว่า ว่าลืมอะไรหรือเปล่า
ก่อนไป ก้องแวะที่โต๊ะของพัฒน์ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งใส่ไว้ในลิ้นชักโดยที่แจนไม่ทันสังเกต
ระหว่างเดินออกมาจากโรงแรม ก้องเหลียวมองดูตัวตึกอีกครั้งด้วยแววตาเศร้า ๆ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานที่นี่ ก้องรู้สึกผูกพันทั้งสถานที่และเพื่อนร่วมงาน การได้ทำงานฝ่ายบุคคล ทำให้ก้องรู้จักผู้คนมากมาย ชื่อของพนักงานทุกคนล้วนผ่านมือก้องในการบันทึกประวัติลงคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ด้วยนิสัยสุภาพบวกกับอัธยาศัยดี เวลาพนักงานมีปัญหาจึงมักเข้ามาหาก้องก่อนเสมอ ทั้งที่บางเรื่องก็นอกเหนือไปจากหน้าที่ของก้อง ถ้าก้องเรียนจบคงไม่มีโอกาสได้ทำงานด้านนี้อีกแล้ว เพราะคนที่เรียนจบสาขานี้ส่วนใหญ่มักไปเป็นอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ของก้องคาดหวังไว้ด้วยเช่นกัน
@@@@@@@@@@@@@@
ก้องออกมาหรือยัง วิทย์โทรถามขณะเพิ่งเลิกงาน
อืม...กำลังจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านพอดี แล้วคืนนี้นายจะมาค้างบ้านเราหรือเปล่า
ช่วงนี้คงไม่ได้ว่ะ แม่เริ่มบ่นแล้ว เขาบอกไม่ชอบให้ไปค้างบ้านคนอื่น นายไม่โกรธเรานะ วิทย์กลัวก้องจะโกรธ เพราะตั้งแต่กลับจากพัทยาวันนั้น วิทย์ก็ไปค้างกับก้องบ่อย ๆ
จะไปโกรธทำไมล่ะ คนเป็นแม่เขาก็ต้องหวงลูกชายเป็นธรรมดา ก้องพูดอย่างเข้าใจ
เดี๋ยววันหลังนายมาค้างบ้านเราก็ได้ แม่เราคงไม่ว่าหรอก วิทย์พยายามหาทางออก เพื่อจะได้มีโอกาสอยู่กับก้องเหมือนเดิม