Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 277
Message ID: 98
#98, RE: คำสารภาพของเด็กขาย ของคุณดิน
Posted by ดิน on 31-Jan-12 at 00:51 AM
In response to message #0
อ่านกันต่อเลยนะครับ

.........................................................................................................

บทที่ 51 นิยายรักขาดตอน (4)

“…รักครั้งก่อน จบแล้ว เหลือเพียงซากรักลวง
รักที่ห่วง หวงกลายเป็นเพียงครั้งก่อน…”

ผมตื่นมาซื้อของใส่บาตรตอนเช้า โดยมีไอ้ชลตามมายืนอยู่ข้างๆ ผมบอกให้มันใส่บาตรด้วยกัน มันส่ายหน้า...

“วันนี้ไม่ดีกว่าดิน... กูรู้ว่ามึงใส่บาตรทำไม... มึงทำใจให้สบาย... เรามีเวลาทำบุญร่วมกันอีกเยอะ....”

... ออกไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่อกลับกรุงเทพฯ ได้ตั๋วพรุ่งนี้ตอนค่ำ โชคดี เหลือเตียงล่าง-บนอยู่คู่เดียวเท่านั้น... เสร็จแล้ว ก็ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกัน...

ผมพาไอ้ชลไปเที่ยวที่ต่างๆ ... วัดอุโมงค์ ที่มีภาพเขียนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีอยู่ในอุโมงค์... วัดพระสิงห์ที่มีหน้าบันแกะสลักสวยงาม... วัดเจดีย์หลวง... วัดพันเตา... บ่อสร้าง สันกำแพงที่ทำร่ม ไอ้ชลที่เป็นเด็กอีสาน ไม่เคยมาเที่ยวเชียงใหม่ชอบมาก ถึงกับบอกว่าอยากมาอยู่เชียงใหม่

ตอนค่ำ ผมพามันไปเที่ยว ตลาดไนท์บาซาร์ ดูของที่ละลึกต่างๆ คนไม่เยอะมากนัก อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ หรือเทศกาลวันหยุด เราสองคนก็เลยเดินดูของอย่างสบายๆ

“พี่ดิน... มาเมื่อไรคะ” เสียงทักทายมาจากทางหนึ่ง ผมหันไปมอง แล้วก็ต้อง เบิกตาโต

“อ้าวจุ๊... มาไงเนี่ยะ” จุ๊เป็นเพื่อนเรียนมัธยม กลุ่มเดียวกับน้องษา ซึ่งสนิทกับผมเป็นอันดี

“ถามแปลก... พี่ดิน... จุ๊สอบติดมช เหมือนกัน แต่คนละคณะกับ ษา พี่ดินคงลืม... พอเลิกกับษา ก็ลืมน้องๆ คนอื่นไปเลยนะ เสียแรง...” จุ๊ พูดจ้อ... แต่ผมเองสิ สะดุดกึก

“จุ๊... ว่าไงนะ... ใครบอกว่าพี่เลิกกับษา”

จุ๊ทำหน้าตกใจ... “อ้าว... ก็... ษาเค้าบอกจุ๊เอง... เดือนที่แล้วตอนปิดเทอม เค้าลงไปกรุงเทพฯ เค้าบอกว่า เลิกกับพี่แล้ว”

ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ก่อนจะดึงจุ๊ ไปที่ร้านกาแฟข้างตลาด ขยิบตาให้ไอ้ชลมันถอยไปก่อน ซึ่งมันที่ได้ยินเรื่องราวคร่าวๆ เมื่อกี้ ก็ถอยไปอย่างรู้งาน

“เล่าให้พี่ฟังซิ จุ๊... ว่าอะไรเป็นอะไร พี่งงไปหมดแล้ว... พี่ขาดการติดต่อกับษาไป เพราะเค้าไม่ตอบจดหมายพี่ จนกระทั่ง จดหมายที่พี่เขียนมาอีก ถูกตีกลับ พี่ถึงขึ้นมาเชียงใหม่ แต่ ษา ก็ย้ายหอไปแล้ว... พี่ตามหาจนไม่รู้จะตามที่ไหน จนพรุ่งนี้ ว่าจะกลับกรุงเทพฯแล้วครับ”

จุ๊ ขยับตัวอย่างอึดอัด... “พี่ดินคุยกับษาเองไม่ดีเหรอคะ”

“พี่ตามหาเค้ามาสองวันแล้วนะครับ.... เหมือนเค้าจะหลบพี่ตลอด ไปหาที่คณะก็ไม่อยู่... นะ... บอกพี่ที... อย่าให้พี่โง่เป็นไอ้ควายอยู่อย่างนี้...”

ผมมองจุ๊อย่างอ้อนวอน... จุ๊เองก็สนิทกับผมพอสมควร ตอนที่ผม...ยังคบอยู่กับ “น้องษา”

... และแล้ว เรื่องราวต่างๆ ก็ออกมาจากปากจุ๊...

“ษา... มีคนมาจีบ เป็นรุ่นพี่ วิศวะปีสาม ลูกของเศรษฐีจากลำปาง... ตั้งแต่เข้ามาเรียนใหม่ๆ... พยายามจะไปรับไปส่ง... แรกๆ ษาก็ดูเหมือนจะ ไม่เล่นด้วย... แต่รุ่นพี่คนนั้น ก็ตามตื้อทุกวันๆ เทียวไปเทียวมา... ในที่สุด... ษา ก็ยอมคุยกับเค้า...และตอบรับคำชวนขึ้นรถไปกับเค้า” จุ๊เล่าช้าๆ “นานวันเข้า ก็ดูเหมือนจะเป็นที่รู้กันกลายๆ ในคณะของษา ว่า พี่คนนั้นเป็นแฟนษา”

“แรกๆ จุ๊ก็ยังถามษา... แต่เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันเท่านั้น...”

ผมส่ายหน้า... ตาแดงก่ำ... ร้อนผ่าวไปทั้งหน้า.... เสียงจุ๊เล่าต่อ

“แต่พอจุ๊ผิดสังเกตุ ษา มากเข้า และถามถึงพี่ ษาก็ทำท่าไม่พอใจ... และไม่คุยกับจุ๊... จนกระทั่ง เมื่อเดือนที่แล้ว ษาลงไปกรุงเทพฯ ตอนปิดเทอม... ขึ้นมา เจอจุ๊ ก็บอกว่าเลิกกับพี่แล้ว”

“ไม่... พี่ไม่ได้เจอษาเลย... เค้าบอกพี่ว่า จะไปออกค่ายอาสาฯ พี่ยังเตือนเค้า ว่าให้ดูแลตัวเอง” ผมบอก...

“จุ๊ไม่รู้... พอเค้าขึ้นมา... ก็ขอย้ายหอ... แต่จุ๊รู้ว่าเค้าย้ายไปอยู่กับรุ่นพี่คนนั้น...”

...ผมนิ่งงันไป... อะไรกันนี่... เป็นความจริงหรือ... ความจริงที่ว่า ผู้หญิงที่ผมรักหมดใจ... ผู้หญิงที่เคยบอกว่ารักผมคนเดียว ... เปลี่ยนใจไปรักกับคนอื่น... ไม่บอกผมสักคำ ว่า... เกิดอะไรขึ้น.....

“พี่ดินคะ... ความจริงเรื่องนี้ ไม่น่าจะเป็นจุ๊ ที่บอกกับพี่ เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่พี่กับษา คุยกันเอง”

“พี่พยายามแล้ว... แต่ พี่ไม่รู้ว่าษาอยู่ที่ไหน... เหมือนเค้าหลบหน้าพี่”

จุ๊จับมือผมไว้ กระซิบเบาๆ... “พี่ดินค่อยๆ หันไปที่ร้านค้า ฝั่งโน้นสิคะ ค่อยๆ นะ เพราะจุ๊ว่าเค้ายังไม่เห็นเรา”

ผมใจเต้นแรง ค่อยๆ หันไปตามที่จุ๊บอก... แล้วผมก็เห็น... จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คนที่ผมคิดถึงอยู่ทุกวัน... น้องษา

ษา เดินมากับ ชายหนุ่มคนนึง คงจะเป็นรุ่นพี่ที่จุ๊พูดถึง ท่าทางจะมีความสุข เห็นษายิ้มสดใส... กับ... ผู้ชายคนนั้น... ใจผมเสียวปลาบ... ผมกำมือแน่น... ไม่ต้องสงสัยเลย... ท่าทางแบบนี้...

“พี่ดิน... ใจเย็นๆ นะคะ... อย่าทำอะไรที่มันไม่ดีกับตัวพี่เอง...” จุ๊เอ่ยเตือนเบาๆ...

ผมหันมามองจุ๊ตาแดงก่ำ... ส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ... จุ๊... ไม่มีประโยชน์... พี่ไม่ทำอย่างนั้นแน่... พี่เห็นแล้ว รู้แล้ว...”

“พี่ดิน...” จุ๊มองหน้าผม น้ำตาคลอตา...

“ขอบใจมากครับ...จุ๊ พี่ขอบใจ... พรุ่งนี้ พี่จะกลับกรุงเทพฯ แล้ว... ถ้าจุ๊เจอษา... ก็บอกเค้าด้วยละกันครับ ว่าพี่มาหา... พี่ไปก่อนนะจุ๊...”

ผมพรวดพราดลุกขึ้น เดินไปอีกทาง...เพื่อไปยังที่ๆ จอดรถอยู่... ไอ้ชลตามมาติดๆ มันไม่พูดอะไรเลย ดึงกุญแจรถมาจากมือผม ขึ้นประจำที่คนขับ... พอผมขึ้นซ้อนเสร็จ มันก็ขับออกไปเลย...

ไม่ได้ดูด้วยซ้ำ ว่ามันขับพาผมไปไหน รู้แต่ว่ามันขับวนเวียนไปมา... ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะมันไม่รู้ทาง แต่ในที่สุดมันก็มาหยุดที่นึง...

ผมเงยหน้าขึ้น... “ที่ไหนวะ ชล”

“กูไม่รู้เหมือนกัน....” ไอ้ชลส่ายหน้า

ผมมองไปรอบๆ... เจดีย์สูงๆ มีรอยถล่มอยู่บ้าง บันไดสูงทอดขึ้นไปสู่ช่องเกล... ดูเหมือนเป็นที่ประดิษฐานอะไรสักอย่าง...

“วัดเจดีย์หลวง” ผมบอกเบาๆ...

“มึงรู้เหรอ...

“อือ... กูเคยพาน้องษา มาไหว้พระที่นี่” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่หน้าเจดีย์ นั่งคุกเข่าลงพนมมือ... ไหว้องค์เจดีย์ใหญ่ ไอ้ชลมันมานั่งคุกเข่าข้างๆ พนมมือตาม...

ผมไม่รู้ว่ามันอธิษฐานอะไร แต่ผมพึมพำอธิษฐานในใจ “ผมมากราบด้วยใจอันร้อนรุ่ม... ขอพรให้ผมได้หลุดพ้นจากความรุ่มร้อนด้วยเถิด”

ก้มลงกราบสามครั้ง ก่อนจะลุกเดินออกมา ไอ้ชลเดินตามมาโอบใหล่ผม... “เข้มแข็งนะ ดิน”

ผมหันหน้ามามองมันเศร้าๆ “กูเข้มแข็งเสมอ ชล... ให้กูรู้เท่านั้นเอง ว่า...น้องเค้าไม่รักกูแล้ว...”

เดินมานั่งที่ บันไดหลังโบสถ์ใหญ่ หันหน้ามามองที่องค์เจดีย์ อยู่นานพอดู จนไอ้ชลมันถามขึ้น

“แล้วมึงจะทำยังไงต่อ...”

“พรุ่งนี้ตอนเย็น เราจะกลับกรุงเทพฯ กัน มึงอยากไปไหนอีกหรือเปล่า”

ไอ้ชลส่ายหน้า... “ช่างเหอะ ดิน... เดี๋ยววันหลังมาเที่ยวใหม่ก็ได้... มึงล่ะ”

ผมไม่ตอบ ดึงกุญแจรถมาจากมือมัน “กลับกันเหอะ ชล....”

วันรุ่งขึ้น ผม กับไอ้ชลไม่ได้ออกไปไหนจนถึงเวลาเย็น ค่อยเอารถไปคืน ก่อนจะนั่งรถสองแถวไปที่สถานีรถไฟ... ระหว่างวันไอ้ชลมันก็ไม่ได้มากวนอะไรผม... ผมว่า...ผมโชคดีมาก... ที่มีไอ้ชลเป็นเพื่อน... ไม่ใช่ว่าผมจะคิดสั้น... แต่ อย่างน้อยก็ทำให้ผมคลายฟุ้งซ่านลงไปได้บ้าง...

.........................................................................................................

“...ไว้ฟังกันก่อนนอน นิยายรักขาดตอน
ฉันก็เพียงแค่วอนให้เธอต่อเติม...”

.........................................................................................................

ตอนนั้น ถ้าถามผมว่าผมตัดใจจากน้องษาได้จริงหรือ... ไม่หรอกครับถึงแม้ผมจะดูเป็นคนเจ้าชู้... แต่ผมรักเดียว... สิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ผมคิด... กลั่นกรองแล้ว โดยเฉพาะคำว่า “รัก” ยากมากที่จะออกจากปากผม... และเมื่อผมบอกให้ใครไปแล้ว มันก็คือสิ่งที่ผมหมายความตามนั้นจริงๆ... แต่มันก็เป็นแค่... “นิยายรักขาดตอน” ของผมเท่านั้นเองครับ

เรื่องของผมกับน้องษา จบลงไปนานแล้ว... แต่นานยังไง... นึกขึ้นมาทีไร มันก็อดปลาบเสียวอยู่ในใจไม่ได้... ความรู้สึกของผมก็ยังเหมือนเรื่องที่มันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง... ความรักของผม....

.........................................................................................................

“...คิดดูให้ดี คิดดีๆ อีกที
คิดถึงรักเรามีแค่เพียงเมื่อวาน...”

.........................................................................................................

เดี๋ยววันหลังมาต่อครับ.....