Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 291
Message ID: 18
#18, RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ
Posted by sarawatta on 14-Jun-11 at 10:42 PM
In response to message #0

ตอนที่ 16: กลับมาได้ไหม

ตอนเช้า เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่สนทำก็คือไปดูว่าต้นมาเรียนหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อน เขาจึงไปถามเจนี่ เจนี่ก็ไม่รู้ว่าต้นไปไหน ดูเธอก็เป็นห่วงต้นอยู่เหมือนกันเมื่อรู้ว่าต้นหายไป แต่พยายามโทรหาเท่าไรก็ไม่ติด ตอนเที่ยงสนก็มาที่คณะของต้นอีก คราวนี้เขาจึงได้รู้ว่าต้นขอลากิจสองวันทั้งวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ แต่พอถามรายละเอียดก็ไม่มีใครตอบได้ว่าต้นลากิจไปทำอะไรที่ไหน วันนี้ทั้งวันสนจึงไม่มีกะจิตกะใจเรียนหนังสือเลย

สนกลับมาบ้านเหมือนคนไร้วิญญาณ ข้าวปลาก็ไม่กิน มาถึงก็เข้าไปอยู่ในห้อง ในใจก็เฝ้าแต่คิดโทษตัวเองที่วู่วามจนเผลอทำร้ายทั้งกายและใจของเพื่อนที่เขารักมากที่สุดอย่างไม่ตั้งใจ เขาเป็นห่วงต้นเหลือเกิน เขานึกไม่ออกเลยว่าต้นจะไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่กับใคร หรือจะเกิดอะไรกับเพื่อนเขาหรือเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด ถ้าเกิดต้นเป็นอะไรจริงๆ เขาคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่สู้หน้าใครได้อย่างแน่นอน เขาเคยสัญญาไว้ว่าจะดูแลเพื่อนให้ดีที่สุด คำสัญญาที่เขาเคยพูดไว้ตั้งแต่เด็กๆ และเขาก็ไม่เคยลืมคำสัญญานั้นเลย แต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้มันเหมือนเขาได้ทำลายคำสัญญานั้นไปแล้ว

สนหยิบอัลบั้มรูปเก่าๆ มาดู มีรูปที่เขาถ่ายกับต้นอยู่หลายใบ มีภาพตอนอยู่ชั้นประถมถ่ายอยู่ริมคลองส่งน้ำหน้าบ้านของต้น มีภาพที่ต้นถ่ายให้ตอนที่เขาแสดงละครวันแม่สมัยเรียนมัธยม มีภาพที่เขาถ่ายกอดคอกันกับต้นและมีฉากหลังเป็นทะเล มีภาพเขากับเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ที่ต้นซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ทุกวันนี้เสื้อและกางเกงตัวนั้นเขาก็ยังใส่ได้อยู่เลย และอีกหลายๆ ภาพที่ล้วนแต่ทำให้เขาหวนรำลึกถึงความทรงจำดีๆ ที่ผ่านมา กี่ครั้งแล้วที่เขาทำให้เพื่อนเสียใจ แต่ต้นก็ไม่เคยถือโทษโกรธเคืองเขาเลย ให้อภัยทุกครั้ง ไม่เคยแม้แต่จะพูดให้เขาเสียใจทั้งๆ ที่ต้นจะด่าจะว่าเขาก็ได้ แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับชีวิตการเป็นเพื่อนกันเลยทีเดียว จะคบกันต่อหรือจะต้องจากกันไป อีกไม่ช้าเขาก็คงจะได้รู้คำตอบ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ผ่านไปอีกวันอย่างยากเย็น เลิกเรียนสนก็กลับบ้าน เขาไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จะทำอะไร เมื่อมาถึงบ้านก็ปรากฏว่านิกกับปั้นจั่นมาถึงก่อนแล้วและนั่งดูทีวีกันอยู่

“เป็นไง สะใจไหม” ปั้นจั่นทักด้วยน้ำเสียงประชด สนไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้วก็ขึ้นห้องไป

“เดี๋ยวคอยดูเถอะ จะแกล้งเอาให้สะใจเลย กูหมั่นไส้ไอ้นี่มานานละ ไอ้ต้นมันรักออกจะปานนั้น หนอยแน่...พอรู้ว่าต้นเป็นเกย์ทำเป็นรับไม่ได้ กูยังรับได้เลย” ปั้นจั่นว่าลับหลัง

“มึงจะทำอะไรมันวะ” นิกหันมาถามอย่างสงสัย

“ทำให้มันสำนึกน่ะสิ” ปั้นจั่นตอบ เสียงโทรศัพท์เขาดังขึ้นพอดี

“เฮ้ย ไอ้ต้นโทรมาว่ะ” ปั้นจั่นบอกอย่างดีใจแล้วก็รีบรับสาย

“เฮ้ยต้น มึงอยู่ไหนวะ รู้ไหมว่าพวกกูเป็นห่วงมึงแทบแย่เลยนะเว้ย” ปั้นจั่นพูดด้วยเสียงคล้ายกระซิบเพราะไม่อยากดังจนสนได้ยินและสงสัย
“อยู่กับเพื่อน มึงไม่รู้จักหรอก พวกมึงไม่ต้องห่วงกูนะ กูขอเวลาทำใจสักพักแล้วจะกลับ” เสียงต้นตอบมาตามสาย ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนต้นก็ยังไม่หายจากอาการเสียใจดีนัก

“มึงรู้ไหมว่าไอ้สนมันจะตายละ ข้าวปลาก็ไม่กิน หน้ามันอย่างกับศพแน่ะ อ้าว เฮ้ย”

“อะไร” นิกสงสัย

“มันวางสายไปละ” ปั้นจั่นบอก พอเขาลองโทรกลับไปหาต้น ต้นก็ปิดเครื่องไปเสียแล้ว

“มันปิดเครื่องแล้วว่ะ แต่มันบอกว่าอยู่กับเพื่อน ไม่ต้องห่วง ขอเวลาทำใจสักเดี๋ยวมันก็กลับ” ปั้นจั่นหันไปบอกเพื่อน พอรู้ว่าต้นไม่เป็นไร แม้ว่าจะไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พวกเขาก็สบายใจขึ้น

ปั้นจั่นยิ้มย่องเหมือนนึกอะไรออก “กูรู้ละว่ากูจะทำให้ไอ้สนมันสำนึกยังไงดี”

“ทำไงวะ” นิกสงสัยอีก

“เดี๋ยวก็รู้ มึงคอยดูเฉยๆ ละกัน” ปั้นจั่นบอกแล้วก็หันกลับมาสนใจดูทีวีต่อ

สักพักใหญ่ สนก็ลงมาข้างล่าง ดูท่าทางเขาคงจะหิวนั่นเองเพราะไม่ได้กินตามที่ร่างกายต้องการมาหลายมื้อแล้ว เขาเข้าไปหาอะไรกินในครัวโดยไม่ยอมออกมานั่งกับเพื่อนอีกสองคนเพราะสนไม่อยากฟังเสียงสองคนนี้คอยกระแนะกระแหน แต่กินได้สองสามคำสนก็หยุดกิน เขาล้างจานแล้วก็ออกมาจากห้องครัว นิกกับปั้นจั่นหันมามองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

“เมื่อกี้ต้นโทรมาแน่ะ” ปั้นจั่นบอก สนถลาเข้าไปหาเขาทันทีพลางละล่ำละลักถาม

“ต้นอยู่ไหน ต้นเป็นอะไรหรือเปล่า ต้นจะกลับมาเมื่อไหร่”

“ไม่รู้เว้ย มันไม่บอก ถ้ามันเป็นอะไรแล้วมันจะโทรมาได้ยังไงล่ะ” ปั้นจั่นเริ่มกวน สนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบ้างเพื่อจะลองโทรไปหาต้น แต่ปั้นจั่นก็รีบดักไว้

“ไม่ต้องโทรหรอก มันปิดเครื่องแล้ว”

แต่สนก็ไม่ฟัง พอโทรแล้วก็ไม่มีสัญญาณตามเดิมจึงต้องล้มเลิกไป “ต้นอยู่ไหน บอกกูได้ไหม กูจะไปหาต้น” สนหันมาถามซ้ำด้วยแววตาวิงวอน

“ก็บอกว่าไม่รู้ ถ้ารู้แล้วก็จะนั่งอยู่นี่ทำไม ถ้ารู้ก็ไปหามันแล้วสิ พวกกูก็เป็นห่วงมันเหมือนกันนะเว้ย ไม่ใช่แต่มึงคนเดียว” ปั้นจั่นโวยวายบ้าง

“มึงอยากรู้ไหมว่าต้นมันคุยอะไรกับกู” ปั้นจั่นถามด้วยท่าทางที่รู้สึกว่าเขาถือไพ่เหนือกว่า สนมองด้วยความอยากรู้

“มันบอกให้กูสองคนช่วยหาหอพักให้มันใหม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะออกไปดูให้มัน” ปั้นจั่นเริ่มทำตามแผนที่เขาคิดไว้ นิกทำหน้างงๆ เพราะรู้ว่าเมื่อกี้ต้นไม่ได้คุยกับปั้นจั่นเรื่องนี้ แต่เขาก็เงียบไว้เพราะคิดว่าปั้นจั่นคงมีแผนอะไรบางอย่าง

“ต้นจะไปไหนไม่ได้ ต้นต้องอยู่ที่นี่” สนโวยวาย

“อ้าว จะให้มันอยู่ได้ยังไง ก็ดูที่มึงทำกับมันสิ เป็นกูกูก็ไม่อยู่เหมือนกัน ขนาดกูไม่ได้เป็นเพื่อนรักกับมันเหมือนมึง กูยังสงสารมันเลย มันอุตส่าห์รักมึงมากขนาดนั้น ก็ดูมึงทำกับมันสิ” ปั้นจั่นพูดย้ำ จงใจจะให้สนรู้สึกเจ็บปวดซึ่งก็ได้ผลทีเดียวเพราะสนรู้สึกเจ็บเหมือนมีใครเอามีดมากรีดที่หัวใจก็ไม่ปาน

“พวกมึงจะพาต้นไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น กูไม่ให้ไปเว้ย”

“ไม่รู้เว้ย กูไม่ได้ตัดสินใจ ต้นมันตัดสินใจเอง กูก็แค่ช่วยหาให้มันเท่านั้นแหละ มึงจะมาบอกอะไรกู ไปบอกไอ้ต้นเองโน่น” ปั้นจั่นโบ้ย

“กูบอกว่าไม่ต้องหา กูไม่ให้ต้นไปไหนทั้งนั้น” สนขึ้นเสียงดัง

“แล้วมึงจะให้มันอยู่ทำไมวะ มึงก็แสดงท่ารังเกียจมันซะขนาดนั้น มึงเห็นไหมว่ามันเสียใจแค่ไหน ก่อนจะไปมันร้องให้จะเป็นจะตาย มึงเข้าไปดูมันบ้างไหม พอมันจะไปแล้วก็จะมาห้ามมันทีหลัง สายไปแล้วมั้ง” ปั้นจั่นตะคอกกลับ แล้วก็ตอกย้ำไปอีกว่า

“เรื่องที่ไอ้ต้นมันเป็นเกย์ พวกกูรู้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยรังเกียจมันเหมือนมึง แล้วพวกกูก็รู้ว่ามันรักมึงมากแค่ไหน มันทำให้มึงได้ทุกอย่าง มึงจะทำให้มันเสียใจกี่ครั้งมันก็ไม่เคยถือโกรธ แล้วมึงเคยได้ยินสักครั้งไหมไอ้สนว่าไอ้ต้นมันเรียกร้องขออะไรจากมึง มันรักมึงแบบนั้นก็จริง แต่มันก็ไม่เคยขอให้มึงรักมันตอบแบบนั้นเลย เวลามึงมีแฟน เวลามึงไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น มึงรู้ไหมว่าไอ้ต้นมันเจ็บแค่ไหน มันเคยบอกมึงสักคำไหม มันเคยว่าอะไรมึงไหม แล้วเรื่องที่มันเป็นเกย์ ถ้ามึงไม่บังเอิญรู้เอง ชาตินี้มึงก็จะไม่ได้รู้หรอกเพราะต้นมันไม่เคยคิดจะบอกมึง แล้วมันก็กำชับพวกกูไว้ว่าห้ามบอกใคร โดยเฉพาะมึง เพราะมันกลัวว่ามึงจะรับไม่ได้ มันกลัวว่ามึงจะเกลียดมัน แล้วมึงก็เกลียดมันจริงๆ ด้วย กูไม่อยากจะเชื่อเลย” ปั้นจั่นว่าสนเสียยืดยาว

สนนิ่งอึ้งเมื่อฟังปั้นจั่นพูดจบ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเขาทำให้เพื่อนเจ็บโดยไม่รู้ตัวเวลาที่เขามีแฟนหรือไปกับผู้หญิงคนอื่น สนไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ

“ทำไมมึงถึงต้องรังเกียจมันด้วยวะไอ้สน กับอีแค่เป็นเกย์นี่มันมีอะไรน่ารังเกียจนักหนาวะ คนเหมือนกันนะเว้ย” ปั้นจั่นว่าอีก

“เมื่อไรพวกมึงสองคนจะหยุดตอกย้ำซ้ำเติมกูเสียทีหา!” สนตะโกนอย่างเหลืออด ตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าปั้นจั่นจะพูดให้เขาเสียใจอีกทำไมนักหนา ปั้นจั่นสะดุ้งตกใจแล้วก็เงียบไป

“มึงรู้ไหมว่ากูเสียใจมากแค่ไหน ต้นเป็นเพื่อนกู กูรักมันแค่ไหนมึงไม่รู้หรอก” สนระเบิดอารมณ์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “มึงคิดว่ากูไม่เสียใจหรือไง กูไม่เคยทำร้ายเพื่อนกู ไม่เคยด่าว่าต้นแม้แต่คำเดียว ที่กูทำวันนั้นกูก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่เพราะกูรังเกียจต้น มึงสองคนไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับกูบ้างกูถึงได้ไม่ชอบพวกเกย์พวกกะเทย” สนเว้นจังหวะและเริ่มสะอื้นให้ เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต

“กูทำให้เพื่อนเจ็บ กูทำให้เพื่อนร้องให้เสียใจขนาดนั้น มึงคิดว่ากูจะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง กูเสียใจแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วรู้ไหม” สนตะโกนอีกแล้วก็ค่อยเบาเสียงลง “กูเป็นห่วงต้น กูคิดถึงต้น อยากขอโทษใจจะขาดอยู่แล้ว” พูดจบสนก็สะอื้นจนตัวโยน นิกกับปั้นจั่นเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจ

“เฮ้ยสน กูขอโทษละกัน” ปั้นจั่นบอกพลางนั่งลงแล้วตบไหล่เขาเบาๆ เพื่อปลอบใจ

“ถ้ามึงมีเพื่อนอย่างต้น มึงจะเกลียดมันได้ไหม” สนถามแต่เหมือนเขาไม่ได้ต้องการคำตอบจากใคร

“ไม่มีใครเกลียดต้นหรอกสน ต้นมันเป็นคนดี ขนาดพวกกูรู้จักมันแค่สองสามปี พวกกูก็ยังรักมันเลย” ปั้นจั่นบอก
นิกย่อตัวลงมาปลอบใจสนอีกคน

“เดี๋ยวต้นมันก็กลับแล้วสน นายไม่ต้องห่วงมันหรอก มันบอกว่ามันอยู่กับเพื่อน มันขอเวลาทำใจสักพักแล้วจะกลับ มันไม่ไปไหนหรอก มันรักมึงขนาดนั้น มันจะทิ้งมึงไปได้ยังไง กูรู้ว่ามันไม่ทำอย่างนั้นแน่ๆ”

พอรู้ว่าต้นไปอยู่กับเพื่อน ก็ทำให้สนพอสบายใจขึ้นมาได้บ้าง “จริงเหรอ เพื่อนคนไหน พวกมึงรู้ไหม” สนสงสัย

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ มันไม่บอก พูดเสร็จมันก็วางสายแล้วปิดเครื่องไปเลย” ปั้นจั่นบอก

“ทำใจให้สบายนะสน ไปนอนพักผ่อนเหอะ กูเห็นสภาพมึงแล้วก็รู้ว่ามึงคงไม่ค่อยได้นอน กินก็ไม่ค่อยได้ ต้นมันโตแล้ว มันไม่คิดสั้นหรอก มันดูแลตัวเองได้” นิกปลอบอีก แล้วช่วยรุนหลังให้สนลุกขึ้น สนก็ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี

“ไปนอนซะ ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวต้นมันก็กลับมา” ปั้นจั่นบอก สนพยักหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอย แล้วก็เดินกลับขึ้นไปบนห้อง เขาไม่รู้หรอกว่าเขาจะนอนได้ไหม ก็คงคิดไปเรื่อยเพราะตอนนี้เขายังเครียดอยู่ แต่พอได้พูดได้ระบายแล้วก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง ณ ตอนนี้ ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้มากไปกว่ารอให้ต้นกลับมา
------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้เป็นวันอาทิตย์แล้ว สนเดาว่าต้นน่าจะกลับมาวันนี้จึงตั้งใจไม่ไปไหนเพื่ออยู่รอต้น วันนี้เขาใส่เสื้อกับกางเกงที่ต้นซื้อให้เขาเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วด้วย สนตั้งใจว่าถ้าต้นกลับมาเห็น ต้นจะได้รู้ว่าเขาไม่เคยลืมมิตรภาพและสิ่งดีๆ ที่ผ่านมาเลย ตลอดทั้งวันนี้ ไม่ว่าสนจะทำอะไร เขาก็จะคอยหันไปดูที่ประตูบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของต้นเลย กวาดบ้าน ถูบ้านก็แล้ว ดูทีวีก็แล้ว กินข้าวก็แล้ว เอางานมานั่งทำก็แล้ว ต้นก็ยังไม่กลับมาจนมืดค่ำ

นิกกับปั้นจั่นเห็นแล้วก็ได้แต่สงสาร แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าให้เจ็บมากๆ อย่างนี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน สนจะได้จำไปอีกนาน สนนั่งๆ นอนๆ รอจนสี่ทุ่มกว่าต้นก็ยังไม่กลับมา นิกกับปั้นจั่นขอตัวไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า ส่วนสนปิดไฟในห้องนั่งเล่น เปิดไฟหน้าบ้านไว้แล้วก็มานอนรอบนโซฟา

“นายอยู่ไหนต้น ทำไมไม่กลับมาเสียที รู้ไหมว่าเราคิดถึงนายใจจะขาดอยู่แล้ว” สนรำพึงเบาๆ เมื่อไม่มีวี่แววว่าต้นจะกลับมา ใจเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยว หมดความหวังลงไปทุกที สนกลัวเหลือเกินว่าต้นจะโกรธเขาจนไม่คิดจะกลับมาอีกแล้ว เขาไม่อยากคิดเลยว่าชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีต้น สำหรับสนแล้ว ไม่มีแฟนเขาก็อยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ สนคงอยู่ไม่ได้และเขาอาจจะต้องตรอมใจตายในที่สุด เหมือนในเวลานี้ สภาพของเขาไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังตรอมใจอย่างหนักเลย

ในที่สุดสนก็เผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน เขาทรมานร่างกายของตัวเองมาหลายวันแล้ว ใบหน้าของเขาเศร้าหมอง ซีดเซียวและตัวเขาก็ผ่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ตาก็เริ่มลึกโหลเพราะนอนไม่ค่อยหลับ จนเกือบเที่ยงคืน สนเริ่มรู้สึกตัวเพราะเหมือนมีคนไขกุญแจบ้านเข้ามา สนลืมตาและลุกขึ้นอย่างงัวเงีย แล้วก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ เขา แม้จะเห็นแค่เงามืดๆ สนก็รู้ว่าคนๆ นั้นคือใคร