Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 291
Message ID: 5
#5, RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ
Posted by sarawatta on 14-Jun-11 at 10:19 PM
In response to message #0

ตอนที่ 5 <2>: ไปเที่ยวทะเล

ช่วงปิดเทอมก่อนที่จะขึ้น ม. 4 ครอบครัวของต้นถือโอกาสนี้พาต้นรวมทั้งสนและครอบครัวไปพักตากอากาศด้วยกันที่อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเวลา 3 วันด้วยกัน ตอนแรกสนกับครอบครัวจะไม่ไปเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แต่พ่อกับแม่ของต้นก็เกลี้ยกล่อมจนสำเร็จโดยให้ครอบครัวของสนออกเงินช่วยเท่าที่จะช่วยได้ อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อกับแม่ของสนต้องตอบตกลงนั้นเป็นเพราะเห็นว่าสนหน้าจ๋อยมาหลายวันแล้วตั้งแต่รู้ว่าจะไม่ได้ไป สนอยากไปทะเลมากเพราะเขาไม่เคยไปเลย พอรู้ว่าจะได้ไปเท่านั้นแหละ สนก็ยิ้มออกและกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม
------------------------------------------------------------------------------------------------
ระหว่างที่เดินทาง ต้นกับสนคุยกันอย่างสนุกสนานไปตลอดทาง ดูพวกเขาทั้งสองคนตื่นเต้นกันมากทีเดียว ต้นอาจจะไม่เท่าไรเพราะเขาเคยไปเที่ยวทะเลมาแล้วครั้งหนึ่งตอนอยู่ ป. 4 คนที่ตื่นเต้นกว่าใครเพื่อนก็คือสนนั่นเอง เขาเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อให้ถึงอ่าวมะนาวไวๆ

เกือบบ่ายสาม รถตู้ก็พาทุกคนมาถึงอ่าวมะนาว แต่ก่อนจะได้ไปเล่นน้ำทะเลนั้นก็ต้องเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บบนห้องพักก่อน ต้นกับสนรีบช่วยพ่อกับแม่เอาของไปเก็บอย่างเร็วไวเพราะอยากจะเล่นน้ำทะเลกันเต็มแก่

พอเก็บของเสร็จ เด็กๆ ก็ปรี่วิ่งลงไปที่ทะเลกันอย่างรวดเร็ว ไม่ฟังเสียงเรียกให้รอของบรรดาพ่อแม่เดินตามมาอย่างช้าๆ ดูต้นกับสนจะสนุกมาก โดยเฉพาะเวลาที่มีคลื่นลูกโตๆ มา พวกเขาจะวิ่งเข้าใส่อย่างสนุกสนาน ส่วนผู้ใหญ่ก็นั่งคุยกันบ้าง เดินเล่นน้ำบ้าง ไม่ได้เล่นโลดโผนเหมือนกับเด็กๆ

“ต้น สน มาถ่ายรูปกันเร็วลูก” แม่ของต้นกวักมือเรียกเด็กๆ ให้ขึ้นจากทะเล เด็กสองคนวิ่งขึ้นมาอย่างไม่รอช้า

รูปที่ถ่ายก็มีทั้งถ่ายเดี่ยวบ้าง ถ่ายหมู่บ้าง ถ่ายเป็นครอบครัวบ้าง หรือไม่ก็ถ่ายเป็นคู่ แต่มีอยู่รูปหนึ่งที่ต้นกับสนชอบมากเป็นพิเศษ เป็นรูปที่ต้นกับสนถ่ายขณะกอดคอกันอยู่ริมทะเล สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุข ทั้งสองคนชอบมากถึงขนาดให้พ่อกับแม่เอาไปอัดใส่กรอบรูปเลยทีเดียว ต้นกับสนจึงมีรูปนี้เก็บไว้กับตัวคนละใบ

หลังจากที่เล่นน้ำกันหนำใจแล้ว ต้นกับสนก็เริ่มเหนื่อยจึงขึ้นมาเดินเล่นบนชายหาดบ้าง ตะวันกำลังใกล้จะตกดินพอดี สำหรับเด็กๆ แล้ว เดินเล่นเฉยๆ คงไม่สนุก ต้นกับสนจึงผลัดกันขี่หลังแล้วก็วิ่งเล่นบนชายหาด มีอยู่ตอนหนึ่งที่สนขี่หลังต้น ต้นวิ่งไปแล้วก็สะดุดกับอะไรบางอย่างจนล้มลง จริงๆ ต้นก็ไม่เจ็บอะไรมาก แต่ด้วยความนึกสนุกจึงแกล้งทำเป็นนอนนิ่งๆ สนตกใจจนหน้าซีด เขาเขย่าตัวเพื่อนแล้วถามด้วยน้ำเสียงตกใจระคนเป็นห่วงว่า

“ต้น นายเป็นอะไร”

สักพักต้นก็ลืมตาขึ้น ยักคิ้วหลิ่วตาด้วยความสนุกที่สามารถแกล้งเพื่อนได้ แต่ปรากฏว่าสนกลับไม่สนุกด้วย เขารู้สึกโกรธมากทีเดียวเพราะเมื่อกี้เขาตกใจจนแทบสิ้นสติเพราะนึกว่าต้นเป็นอะไรไปเสียแล้ว สนลุกขึ้นแล้วก็เดินหนีไป ต้นเห็นเพื่อนโกรธอย่างนั้นก็หน้าเสีย เขาวิ่งตามแล้วไปดักหน้าเพื่อน กางแขนกั้นไว้

“สน เราขอโทษ อย่าโกรธเราสิ เราไม่ได้ตั้งใจ”

สีหน้าของสนดูบึ้งตึงมากทีเดียว แต่พอเห็นเพื่อนสำนึกผิดแล้วสนก็คลายอารมณ์โกรธเมื่อสักครู่นี้ลงมาบ้าง “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะต้น เมื่อกี้เราตกใจมากรู้หรือเปล่า” สนพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ

ต้นหน้าจ๋อยลงอีก เขาคิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะตกใจและโกรธขนาดนั้น “เราขอโทษ เราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เราสัญญา”

เห็นต้นทำหน้าจ๋อยแบบนั้นสนก็นึกขำ ปกติเขาไม่ค่อยเห็นต้นทำหน้าแบบนี้นัก สนค่อยๆ ยิ้มให้เพื่อน ต้นจึงเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นแล้วก็ยิ้มอย่างดีใจในที่สุด ปกติเขาสองคนไม่เคยโกรธกันแบบนี้เลย นับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก

“เมื่อกี้เราตกใจมากรู้ไหมต้น เรานึกว่านายเป็นอะไรไปแล้วเสียอีก อย่าทำแบบนี้อีกแล้วกัน” สนพูด้วยเสียงอ่อนลง

ต้นพยักหน้ารับคำ “เราเข็ดแล้ว เราไม่ทำอีกแล้ว”

“ไปหาพ่อกับแม่ดีกว่า เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าวกัน” สนตัดบท แล้วก็เดินกอดคอต้นไปหาพ่อกับแม่ซึ่งกำลังรอที่จะไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกันอยู่

อาหารที่สั่งมากินเย็นนี้เป็นอาหารทะเลล้วนๆ แต่เด็กๆ ดูจะชอบกุ้งและปูนึ่งตัวโตๆ เป็นพิเศษ จึงกินกันอย่างเต็มที่ อิ่มจนแทบจะเดินกันไม่ไหว

ต้นกับสนพักห้องเดียวกัน ส่วนพ่อกับแม่ก็แยกพักเป็นครอบครัวๆ ไป ก่อนนอน ต้นกับสนออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่ระเบียงห้อง วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสเพราะเป็นหน้าร้อน ไม่มีฝน จึงเห็นดาวเกลื่อนอยู่เต็มท้องฟ้า สนจึงช่วยสอนต้นดูดาวต่างๆ บนท้องฟ้า

“นายเห็นไหมต้น ดาวหมีใหญ่ ตรงทิศเหนือ” สนว่าพลางชี้ให้เพื่อนดู ต้นก็มองตาม

“ไม่เห็นจะเหมือนหมีตรงไหนเลย เราว่ามันเหมือนจระเข้มากกว่า” ต้นแย้ง

“ถูกเผงเลย มันเป็นกลุ่มดาวเดียวกันนะ” สนบอกอย่างตื่นเต้น “นายเห็นสามเหลี่ยมฤดูร้อนนั่นไหม”

“อยู่ตรงไหน” ต้นถามอย่างอยากรู้

“นั่นไง มันเป็นดาวสามดวงที่มาจากดาวสามกลุ่ม ดาวที่สว่างที่สุดเรียกว่าดาวเวก้า อยู่ในกลุ่มดาวพิณ” สนบอกพลางชี้มือเลื่อนสูงขึ้นมาเกือบกลางฟ้า

ต้นมองเพื่อนด้วยสายตาทึ่ง “ทำไมนายรู้จักดาวตั้งหลายดวงแน่ะ”

“ก็เมื่อก่อนที่เราอยู่น่าน เราชอบดูดาวไง ตอนอยู่ ป. 4 เราเคยไปเข้าค่ายที่ดอยอินทนนท์แล้วครูก็สอนให้พวกเราดูดาว ใช้กล้องดูดาวด้วยนะ ก็เลยพอจำได้” สนอธิบาย

“โห นายเคยไปดอยอินทนนท์ด้วยเหรอ สูงไหม หนาวมากหรือเปล่า” ต้นถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“สูงสิ แล้วก็หนาวมากด้วย เราไปตอนหน้าหนาวพอดี หนาวจนแทบจะเดินไม่ออกเลยล่ะ น้ำเย็นอย่างกะน้ำแข็งแน่ะ” สนบอกพลางทำท่าทางไปด้วย

ต้นเห็นแล้วก็ขำ แล้วทั้งคู่ก็บังเอิญสบตากัน มีแววประหม่าที่พอจะสังเกตเห็นได้จากทั้งสองคน โดยเฉพาะต้น เขารู้สึกว่าสนมีพลังดึงดูดบางอย่าง ต้นเริ่มรู้สึกถึงสิ่งนั้นได้มากขึ้นทุกทีๆ ในช่วงหลังๆ มานี้

“ต้น วันนี้เรามีความสุขมากนะ ขอบคุณนายกับครอบครัวมากที่พาเรามาจนได้ ไม่งั้นเราก็คงไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวทะเลแน่ๆ แบบนี้หรอก” สนพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เขารู้สึกว่ามันแปลกไป

“อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอก เราอยากให้นายมาด้วยอยู่แล้ว ถ้านายไม่มาเราก็มาเที่ยวไม่สนุกหรอก เผลอๆ จะไม่มาด้วย” ต้นบอก “ไม่รู้สิ ตั้งแต่รู้จักกับนาย ถ้าไปไหนแล้วไม่มีนายไปด้วยก็ไม่สนุกหรอก”

“นายก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันเหรอต้น เรานึกว่าเราเป็นคนเดียวเสียอีก”

“อืม...ใช่...สงสัยชีวิตนี้เราจะขาดนายไม่ได้เสียแล้วล่ะ” ต้นว่าพลางหัวเราะเบาๆ

สนเขยิบมากอดคอเพื่อนไว้ เขามองหน้าต้นพลางยิ้ม “เราก็เหมือนกันแหละ” สนบอกและหัวเราะเบาๆ เช่นกัน

ทั้งสองคนคุยกันอยู่จนดึกดื่นกว่าจะได้เข้านอนก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว การมาเที่ยวทะเลด้วยกันสามวันนี้เป็นประสบการณ์ชีวิตที่สนุกและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง นึกถึงทีไรก็มีความสุข