Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 291
Message ID: 9
#9, RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ
Posted by sarawatta on 14-Jun-11 at 10:25 PM
In response to message #0

ตอนที่ 9: ชีวิตในโลกใหม่

“มึงสองคนนี่ดูเป็นเพื่อนที่รักกันดีนะ” ปั้นจั่นเอ่ยขึ้นขณะนั่งกินข้าวด้วยกัน ต้นกับสนนั่งด้วยกันฝั่งหนึ่ง นิกกับปั้นจั่นนั่งด้วยกันอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ

ต้นกับสนยิ้มเล็กน้อย เขาทั้งสองคนได้ยินคำพูดคล้ายๆ กันนี้มานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

“ถามจริงๆ เถอะ เคยทะเลาะกันบ้างไหมวะ” ปั้นจั่นถามอีก

ต้นกับสนส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน “ถ้าหมายถึงทะเลาะชกต่อยกันน่ะไม่เคย แต่ก็อาจจะมีเคืองๆ กันบ้างนิดหน่อย แต่ก็คุยกันได้ จริงไหมต้น” สนบอกพลางหันไปยิ้มกับต้น ต้นยิ้มตอบ “แล้วพวกมึงทะเลาะกันหรือเปล่า” สนถามบ้าง

“โอย บ่อยจะตาย ไอ้นี่มันกวนตีน” นิกรีบแย่งบอกบ้าง ทุกคนหัวเราะชอบใจ

“มึงนั่นแหละกวนตีนยิ่งกว่ากูอีก อย่างเมื่อเช้านี้ก็เหมือนกัน กูบอกให้ช่วยปลุกกูหน่อย แม่งพอตื่นแล้วมันก็ไปก่อนซะงั้น กูเกือบจะไปสาย เกือบโดนรุ่นพี่มันเขกกะบาลเอาแน่ะ” ปั้นจั่นแฉบ้างแล้วพูดต่อว่า “แล้วตอนอยู่ ม.5 นะ มันมีแฟนเว้ย แล้วมันก็หายหัวไปเลยไม่เคยมาดูดำดูดีเพื่อนเล้ย พอโดนแฟนทิ้งถึงได้มาหากู กูอยากล่ะอยากจะกระทืบซ้ำ” ปั้นจั่นว่าเพื่อนพลางหัวเราะ แต่ดูเหมือนต้นกับสนจะไม่ขำด้วยเพราะสนเองก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน

“แล้วมึงสองคนเคยมีแฟนเปล่าวะ” ปั้นจั่นหันมาถามต้นกับสนซึ่งต่างก็มองหน้ากันเหมือนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

“ก็มีบ้างแหละ แต่ไม่จริงจังอะไรหรอก สุดท้ายอยู่กับเพื่อนสบายใจกว่า ต้นเป็นเพื่อนที่ดีมากของกูเลยนะเว้ย เพราะฉะนั้นกูบอกไว้ก่อนว่ากูรักเพื่อนคนนี้มาก พวกมึงห้ามมาทำอะไรเพื่อนกูอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นแล้วจะหาว่าไม่เตือน มึงเคยได้ยินไหม เพื่อนสน ใครอย่าแตะ คนที่โรงเรียนเก่าเขารู้จักดี” สนเป็นฝ่ายตอบก่อนและพยายามดึงประเด็นอื่นเข้ามาแทน เขาพูดอย่างภูมิใจเสมอเวลาที่บอกว่าต้นเป็นเพื่อนที่ดีของเขาและพูดได้โดยไม่รู้สึกอาย ส่วนเรื่องที่เขาเคยมีแฟนแล้วลืมเพื่อนนั้น แม้ว่าต้นจะไม่เคยต่อว่าอะไรเขา แต่ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นเขาก็เสียใจทุกครั้ง

“แล้วต้นล่ะ มึงเคยมีแฟนหรือเปล่า” นิกหันมาถามต้น

“ไม่เคย ตอนนั้นยังเด็กอยู่นี่หว่า” ต้นบอก เขาไม่ค่อยอยากสนทนาเรื่องนี้เท่าใดนัก

“อ้าว ตอนนี้ไม่เด็กแล้ว แสดงว่าเริ่มคิดแล้วสิ” นิกแซวแล้วก็หัวเราะ

“เฮ้ย เอาอย่างนี้ สมมติว่ามึงมีแฟน แล้วมึงจะลืมเพื่อนเปล่าวะ” ปั้นจั่นถาม เพิ่มความอึดอัดให้ต้นกับสนมากยิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะเหมือนเป็นการสะกิดแผลเก่าที่มันหายไปแล้วให้กลับฟื้นขึ้นมาอีก

“ตอนนี้ยังไม่มีเว้ย ถามมาก็ตอบไม่ได้หรอก รอให้มีก่อนแล้วค่อยว่ากัน คุยเรื่องอื่นกันบ้างเหอะ ถามแต่เรื่องแฟนอยู่ได้” ต้นรีบช่วยตัดบท ต้นจะเป็นคนที่ฉลาดในการแก้ปัญหาหรือหาทางออกได้ดีเสมอ

“อะไรวะ ถามก็ไม่ได้ มีอะไรกับเรื่องแฟนหรือเปล่าเนี่ย” ปั้นจั่นว่า แต่สุดท้ายก็ยอมเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

ขณะที่กำลังกินข้าวและคุยกัน ก็มีเสียงเคาะประตูหน้าบ้าน สนอาสาเดินไปเปิดประตูแทนเพื่อนๆ

“สวัสดีจ้ะหนุ่มๆ กำลังกินข้าวกันเหรอ พี่ซื้อขนมมาฝากแน่ะ” พี่พิมพ์ หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่านั่นเอง สนรับของฝากมาพลางกล่าวขอบคุณ

พี่พิมพ์เดินเข้ามาในบ้านแล้วถาม “เป็นไงจ้ะ บ้านอยู่ได้ไหม โอเคไหม”

“โอเคครับ พวกเราชอบมาก อยู่สบายมากๆ เลยครับ” ปั้นจั่นตอบ

“ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกพี่นะ ถ้าใครลืมกุญแจก็โทรไปหาพี่ได้ ไฟดับ น้ำไม่ไหล หลังคารั่ว หรือปัญหาอะไรก็แล้วแต่ โทรบอกพี่ได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง”พี่พิมพ์บอก บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อกับแม่เธอสร้างไว้นานแล้ว ทำด้วยไม้ทั้งหลัง พอลูกๆ โตกันหมดก็แยกย้ายกันไปไม่มีใครอยู่ พอพ่อแม่เสีย พี่พิมพ์ก็ซ่อมแซมบ้านหลังนี้ใหม่เพื่อให้คนมาเช่าอยู่ รายได้ที่เกิดขึ้นก็เป็นของพี่พิมพ์ทั้งหมดเพราะพีน้องคนอื่นๆ ไปอยู่ต่างจังหวัดกันหมดและไม่มีใครอยากได้บ้านหลังนี้แล้ว ตั้งแต่เปิดให้เช่าก็มีคนมาเช่าตลอดเพราะบ้านหลังนี้อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย สามารถเดินไปได้เลย

“พี่พิมพ์กินข้าวด้วยกันไหมครับ” ต้นชวน

“ไม่หรอกจ้ะ ตามสบายเลย พี่กินมาแล้ว พี่แวะมาดูแค่นี้แหละ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรพี่ก็จะกลับละ บ๊ายบายจ้ะ ไว้มีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่นะ” พี่พิมพ์บอกแล้วก็เดินออกไป

พอกินข้าวเสร็จ หนุ่มๆ ก็แบ่งเวรกันล้างจานโดยเริ่มจากนิกก่อน แล้วจะสลับไปเป็นปั้นจั่น ต้นและสนตามลำดับ ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็ช่วยกันเก็บกวาดให้เรียบร้อย เมื่อหมดภาระแล้วจึงแยกย้ายกันไปห้องของตัวเอง

“สน ถ้าเราขี่หลังนาย แล้วนายจะขึ้นบันไดได้หรือเปล่า” ต้นถามขณะที่จะเดินขึ้นบันได

สนหันมามองแล้วท้าทายว่า “ลองดูไหมล่ะ”

ต้นจึงกระโดดเกาะหลังเพื่อนแล้วสนก็พาต้นเดินแกมวิ่งขึ้นบันไดไป นิกกับปั้นจั่นเห็นแล้วก็ได้แต่อ้าปากเหวอ

“เฮ้ย ปั้นจั่นกูขี่หลังมึงขึ้นบันไดมั่งสิ” นิกว่าพลางทำท่าจะกระโดดขี่หลังเพื่อน

“เดี๋ยวกูเตะเอา ไอ้นี่ เดินได้ก็เดินเองสิวะ” ปั้นจั่นว่าพลางทำท่าจะเตะเพื่อน

สนพาต้นขี่หลังมาจนถึงหน้าห้องแล้วก็ให้ต้นลง “กินข้าวแล้วนายตัวหนักขึ้นนะเนี่ย” สนแซวเพื่อน “เดี๋ยวเราอาบน้ำเสร็จแล้วจะมาคุยด้วยนะ นายอย่าเพิ่งนอนล่ะ”

ต้นพยักหน้าแล้วก็เข้าห้องของตัวเองไป เขาถอดเสื้อผ้าออกทิ้งใส่ตะกร้าแล้วก็เอาผ้าเช็ดตัวมานุ่ง ยังไม่ทันจะได้เข้าไปอาบน้ำ ก็มีเสียงคนมาเคาะประตู ต้นจึงเดินมาเปิด ภาพที่เห็นทำให้ต้นตกใจเล็กน้อยเพราะสนใส่กางเกงในสีขาวตัวเดียวยืนอยู่หน้าห้องเขา แม้ว่าจะเคยอาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอโตแล้วเขาก็ไม่ค่อยได้เห็นเพื่อนในสภาพแบบนี้เท่าไรนัก

“นายมีแชมพูให้เรายืมไหม เราลืมซื้อน่ะ” สนบอกสาเหตุที่เขาต้องมาในสภาพนี้

“มีสิ รอก่อนนะ นายเข้ามาข้างในก่อนสิ” ต้นบอกแล้วก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบแชมพูและครีมนวดผมสำหรับผู้ชายมาให้เพื่อน

“ทำไมไม่นุ่งผ้าเช็ดตัวมาล่ะ วิ่งออกมาแบบนี้คนอื่นเขาก็ตกใจแย่” ต้นว่าพลางขำ

“ลืมน่ะ แต่จะอายทำไมล่ะมีแต่ผู้ชายด้วยกัน” สนบอกพลางขำไปด้วย เขามองรูปร่างของต้นด้วยความสนใจ ต้นไม่ค่อยเป็นคนที่เปิดเผยรูปร่างของตัวเองมากนัก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าเพื่อนเขามีรูปร่างที่เปลี่ยนไปมากกว่าที่เคยเห็นตอนเด็กๆ ทีเดียว

“โห นายก็หุ่นดีเหมือนกันนะเนี่ย มีซิคแพ็คด้วย ตัวโตขึ้นเยอะเลย ไหนขอดูไอ้นั่นหน่อยสิว่าโตขึ้นด้วยหรือเปล่า” สนไม่พูดเปล่า แต่เดินเข้ามาแกล้งกระตุกผ้าขนเช็ดตัวที่ต้นนุ่งอยู่

ต้นดึงไว้พลางห้าม “เฮ้ย ไม่เอา”

สนจึงหยุดแล้วต่างคนก็ต่างหัวเราะ “ไปอาบน้ำละ เดี๋ยวเอามาคืนนะ” สนบอกแล้วเดินออกไป แล้วก็หยุดเหมือนนึกอะไรได้ “แล้วนายจะใช้ตอนนี้หรือเปล่า”

“ไม่เป็นไร เราสระตอนเช้าก็ได้ นายเอาไปก่อนเถอะ”

“โอเค เดี๋ยวเราเอามาให้ อ้อ เดี๋ยวเรามาคุยด้วยนะ อย่าเพิ่งนอนล่ะ” สนกำชับแล้วก็เดินออกจากห้องของต้นไป

อาบน้ำเสร็จแล้ว สนก็มาเคาะประตูห้องเพื่อน เขาใส่ยืดสีขาวบางๆ ไม่มีลายและกางเกงบ๊อกเซอร์ ต้นเดินมาเปิดประตูให้เพื่อน เขาอยู่ในชุดนอนปิจามาสซึ่งสนชอบล้อว่าเหมือนคุณชาย ต่างคนก็ต่างเป็นหนุ่มเต็มตัวกันแล้ว สำหรับสน ด้วยชุดที่เขาใส่ทำให้เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศเป็นอย่างยิ่ง ต้นจึงรู้สึกใจคอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อเพื่อนมานั่งคุยใกล้ๆ แต่สักพักก็เริ่มชิน ส่วนสนนั้น วันนี้เขารู้สึกว่าต้นเองก็มีเสน่ห์ดึงดูดอะไรบางอย่างเช่นกัน เขารู้สึกว่าต้นเป็นผู้ชายที่น่ากอด ความรู้สึกว่าอยากกอดแวบเข้ามาในความคิดเขาบ่อยๆ เวลาต้นอยู่กับเขาต้นจะดูขี้อ้อนนิดๆ ซึ่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบ โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ นี้ ต้นดูขี้อ้อนกับเขามากขึ้นจนบางทีเขารู้สึกอยากจะกอดแน่นๆ ให้ต้นหายใจไม่ออกไปเลย อารมณ์มันเหมือนคนที่เห็นอะไรน่ารักแล้วเกิดอาการหมั่นเขี้ยวนั่นเอง แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น ต้นก็มีความเป็นผู้นำสูงมากเพราะเขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องมาตลอดตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ ต้นจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่สนต้องแปลกใจ ต้นเป็นผู้นำและจัดการปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ต้นเหมือนมีอำนาจที่คนอื่นๆ จะต้องฟังและทำตามเขา จะว่าไปแล้วต้นก็เป็นต้นแบบให้สนในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการเรียน การเป็นผู้นำและการช่วยเหลือผู้อื่น

พอคุยกันจนหนำใจแล้ว สนก็เดินกลับเข้าห้องของเขาไป ในขณะที่เขาออกมาจากห้องต้นนั้น ปั้นจั่นก็บังเอิญเห็นพอดีระหว่างที่ลงมากินน้ำข้างล่างก่อนจะขึ้นไปนอน เขาอดทึ่งไม่ได้ที่สองคนนี้เป็นเพื่อนที่รักกันมาก มากจนดูออกทั้งจากสีหน้าและการกระทำ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนเช้า ต้นกับสนก็เดินไปมหาวิทยาลัยด้วยกันพร้อมกับนิกและปั้นจั่น แต่เดินไปเดินมาสุดท้ายก็แยกกันเดินเป็นคู่ๆ เหมือนไม่ได้มาด้วยกันเพราะคุยกันไปมาแล้วต้นกับสนก็ดูเหมือนจะชอบคุยกันเองมากกว่า สนเดินมาส่งต้นที่คณะของต้นเพราะถึงก่อนของเขา จากนั้นสนจึงเดินต่อไปคณะของเขาเอง ชีวิตในช่วงปีแรกของต้นกับสนก็ดำเนินไปเช่นนี้ ในตอนหลังๆ ก็เริ่มสนิทสนมกับนิกและปั้นจั่นมากขึ้น ที่จริงสองคนนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดี แต่ปั้นจั่นจะเป็นคนที่พูดตรงและโผงผาง คิดหรือสงสัยอะไรก็จะถามอย่างนั้น ส่วนนิกก็จะออกแนวคล้ายๆ กัน แต่เขาจะไม่พูดโผงผางมากเท่ากับปั้นจั่น แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเพื่อนที่ดี ไว้ใจได้

สิ่งหนึ่งที่เพื่อนใหม่อีกสองคนตระหนักก็คือความมีน้ำใจของต้น ต้นมีน้ำใจกับเพื่อนทุกคน ต้นช่วยเพื่อนทุกคนถ้าเขาช่วยได้ซึ่งต่างกับสนอยู่บ้าง สนเองก็ถือว่าเป็นคนที่มีน้ำใจแต่จะไม่ละเอียดอ่อนและใส่ใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เท่ากับต้น ความใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของต้นนี่เองที่เป็นเหตุให้นิกกับปั้นจั่นเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง แม้ว่าดูภายนอกต้นจะเหมือนผู้ชายทั่วไป เรียนวิศวะที่มีแต่ผู้ชายเต็มห้อง ไม่แต่งตัวหรือมีท่าทางที่เหมือนเกย์หรือกะเทยให้เห็น แต่เขาก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิงทั้งๆ ที่เขาก็เป็นคนหน้าตาดี ในขณะเดียวกันต้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจผู้ชายเช่นกัน คงมีแต่สนเท่านั้นที่ดูต้นจะสนิทมากกว่าใคร เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ต้นอยู่ใกล้แล้วจะมีแววตาแปลกๆ ที่ทำให้นิกกับปั้นจั่นงุนงงสงสัย รวมทั้งยังมีจุดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างที่พอสังเกตได้ซึ่งทำให้ต้นดูแตกต่างจากผู้ชายทั่วไป