Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 375
Message ID: 21
#21, RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 05-Mar-12 at 10:49 PM
In response to message #0
ตอนที่ 20

สิ้นเสียงของไอ้เด่น เห่าฟ้าทุกคนก็วิ่งมาเข้าแถวเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ทุกคนต่างก็ถือปืนในท่ายิงใต้แขน และร้อง “ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ไปด้วย เพราะว่าพวกเราไม่มีกระสุนจริงๆ กัน ก็เลยต้องใช้กระสุนปากแทน ข้าศึกก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาพวกเราอย่างช้าๆ และทำท่ายิงกราดไปเรื่อยๆ ด้วย ไม่นานพวกเราก็เดินมาประจัญหน้ากับข้าศึกพอดี แล้วทุกคนก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังมาจากหอบังคับการว่า
“ ยึดที่หมายได้แล้ว ข้าศึกร่นถอย ร่นถอย “
ข้าศึกทุกคนค่อยๆ หันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ ผมมองตามอย่างงงๆ แล้วหันมาพูดกับไอ้อ๊อตว่า
“ อะไรวะ ยึดได้แล้วเหรอ ยังไม่ทันได้เข้าตะลุมบอนกับมันเลย “
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม
“ แค่นี้ก็พอแล้วสัด นี่เป็นแค่การฝึกเท่านั้นนะ อย่าลืมสิวะ “
“ ยังไม่มันส์เลยสัด แม่ง กูนึกว่าจะได้เข้าไปยิงตะลุมบอนใกล้ๆ กับพวกแม่งซะหน่อย จะได้ถือโอกาสแอบจับตูดจับควยตอนมันเผลอซะเลย ข้าศึกแม่งมีแต่หล่อๆ ทั้งนั้น มึงก็เห็นใช่มั๊ย แต่ละคนหล่อและก็ล่ำชิบหาย กูชอบผู้ชายแบบนั้นมากเลยว่ะ หน้าไทยๆ กล้ามเยอะๆ แบบนั้น อูยยยย นึกแล้วเสียวควย “
“ พอไอ้สัตว์พอ มึงนี่ทะลึ่งจริงๆ เขาให้ไปตะลุมบอนกับข้าศึก เสือกจะไปจับโน่นจับนี่ของข้าศึก ไอ้เหี้ย “
“ แล้วมึงไม่ชอบเหรอ “
“ ชอบสิวะ ถามได้ “
“ เออ เหมือนกันเลย เสียดายไม่ได้รบแบบถึงเนื้อถึงตัวกับพวกมัน ทำได้แค่เดินเข้าไปประจัญหน้ากับพวกมันเอง โคตรเสียดายเลย “
ไอ้อ๊อตมองตาผม แล้วพูดเสียงหนักแน่น
“ กูว่านะ ถ้ามึงอยากรบแบบถึงเนื้อถึงตัวจริงๆ อย่างที่มึงพูดเมื่อกี้ รอตอนปี 4 ละกัน มึงจะได้ฝึกการตีโฉบฉวย อันนั้นจะสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย มึงจะได้มีโอกาสรบแบบใกล้ชิดกับข้าศึกหล่อๆ แบบที่มึงชอบแน่นอน รบเลยตัวต่อตัวเลยนะโว้ย กลางวันตีกับข้าศึก ส่วนกลางคืนก็นอนตีไข่กันเอง “
ผมฟังแล้วก็หัวเราะลั่น
“ 55555 ทะลึ่งจริงๆ มึงเนี่ย พูดซะตรงเลย แล้วมึงไปรู้เรื่องนี้มาได้ไง “
“ พอดีกูรู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนจบปี 5 แล้ว เคยคุยกับเขาเรื่องนี้ ก็เลยพอรู้มาบ้างว่าเขาฝึกอะไรกันบ้างตอนเข้าค่าย “
“ พูดเหมือนมึงจะเรียนปี 4 ต่ออย่างนั้นแหละ มึงจะเรียนเหรอวะ “
“ กูน่ะไม่เรียนหรอก กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่ากูเรียนไม่ไหวแน่ๆ กูทนลำบากไม่ไหวหรอก กูขอแค่เรียนจบปี 3 ก็พอแล้ว ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ที่กูพูดก็เผื่อว่ามึงอยากจะเรียนต่อ “
“ โอ๊ย กูก็ไม่เรียนต่อหรอก แค่ปี 3 นี่กูก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว ลำบากเหี้ยๆ ทรมานสุดๆ กูเองก็ขอแค่จบปี 3 ก็พอแล้ว ประสบการณ์แบบนี้ ขอแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็พอแล้วว่ะ “
“ ก็แล้วแต่มึงนะ “
ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ ภารกิจเสร็จสิ้น เห่าฟ้า เห่าฟ้า กลับที่รวมพลได้ ปฏิบัติ “
ตอนนี้ครูฝึกคนใหม่ก็เดินออกมาจากไหนก็ไม่รู้ มาสั่งให้พวกเราเข้าแถว และให้หันหลังเดินกลับไปตามทางเดิม ครูฝึกเดินปิดท้ายแถวอยู่หลังสุด ผมและเพื่อนๆ เดินกลับอย่างอ่อนระโหยโรยแรง มันเหนื่อยจริงๆ เหนื่อยแบบสุดๆ ไปเลย แต่โชคดีที่แผลที่ข้อตีนไม่เจ็บมากไปกว่านี้ คงเป็นเพราะผิวด้านไปเรียบร้อยแล้วเลยไม่รู้สึกเจ็บ เดินไปได้ครึ่งทาง แถวก็เริ่มเละ ทุกคนเริ่มเดินกันตุปัดตุเป๋มากขึ้นเพราะความเหนื่อยล้า ไอ้อ๊อตซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าผม ก็เดินช้าลงเพราะว่าเหนื่อย จนกลายมาเป็นเดินเคียงข้างผมแล้วในตอนนี้ มันหันมาพูดกับผมเบาๆ พร้อมกับหอบไปด้วย
“ เออ ไอ้หนุ่ม กูก็ลืมไป กูขอโทษนะที่เผลอขึ้นมึงกูกับมึงมานานเลย กูลืมไปว่ามึงไม่ชอบคนที่ใช้คำหยาบ “
“ เฮ้ย ไม่เป็นไรเว้ย กูเองก็ลืมตัวพูดคำหยาบกับมึงมานานเหมือนกัน กูไม่ถือหรอก เราเพื่อนกัน กูเลิกกระดากปากแล้ว พูดหยาบได้ กูไม่อยากจะใช้สรรพนามแบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกแล้ว กูอยากจะพูดภาษาเดียวกับมึง และกับเพื่อนในกลุ่ม ในเมื่อเพื่อนในกลุ่มเราพูดกูมึงกันหมด กูก็ขอพูดด้วยคนสิวะ แล้วกูว่า พูดแบบนี้มันดูจริงใจกว่าพูดแบบเก่าตั้งเยอะ “
ไอ้อ๊อตยิ้มด้วยความดีใจที่ผมไม่ถือโทษโกรธมัน ผมมองหน้ามันแล้วก็พูดต่อ
“ เออ ไอ้อ๊อต กูถามหน่อย ตกลงมึงเชื่อแล้วใช่มั๊ยว่า กูมีควย “
“ กูเชื่อแล้ว เพราะมึงแสดงให้กูเห็นว่ามึงมีความเข้มแข็งและอดทนตามวิสัยของลูกผู้ชาย มึงก็ย่อมจะต้องมีควยแน่ๆ “
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ผมพูดต่อ
“ แล้วมึงสนใจควยกูมั๊ยล่ะ “
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะตอบไม่เต็มเสียง
“ สนใจสิวะ ถามทำเหี้ยไร “
“ เปล่าว่ะ อย่าสนใจคำพูดกูเลย “
ผมพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วก็รีบก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป ใจจริงผมอยากจะมีอะไรกับไอ้อ๊อตมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส ถึงเราจะเป็นเหมือนๆ กันแต่ผมก็ไม่อยากทำอะไรกับมันเพราะเราทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมานาน ถ้ามันไม่เอ่ยปากขอ ผมก็ไม่อาจจะทำมันได้ แต่ถ้ามันขอผมแค่คำเดียว ผมยินดีจะสนองตอบอย่างเต็มที่เลย แต่วันนั้นยังไม่มาถึง ผมก็เลยยังไม่ได้มีอะไรกับมันซักที นี่ก็ลองถามลองเชิงมันดูเล่นๆ มันก็มีทีท่าว่าสนใจควยผมเหมือนกัน อย่างนี้ก็มีลุ้นนะเนี่ย ! เราไม่ได้คุยกันอีกเพราะยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย ไม่มีแรงจะคุยแล้ว เพื่อนๆ คนอื่นก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน ไม่มีใครพูดกันเลย ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างเดียว ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้สึกคอแห้งมากก็เลยเปิดฝากระติกน้ำแล้วกระดกน้ำเข้าปากเป็นครั้งที่ 3 ของวันนี้ น้ำในกระติกก็เหลืออีกไม่มากแล้ว ต้องประหยัดหน่อย ดื่มน้ำเสร็จก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานเห่าฟ้าทุกคนก็เดินมาถึงที่รวมพลด้วยความเหนื่อยอ่อน มีพวกหมวดอื่นที่ฝึกเสร็จก่อนมานั่งรออยู่ตั้งนานแล้ว ครูฝึกให้นั่งพักแป๊ปนึงแล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว มื้อกลางวันนี้ก็เหมือนเดิม ข้าวแข็งๆ กับข้าวเหี้ยๆ ใส่มาในจานหลุมให้เสร็จ แต่มื้อนี้มีกล้วยบวชชีเป็นของหวานด้วย (คงเหลือจากเมื่อวาน) ผมกินข้าวไปนิดเดียวเพราะเหนื่อยจนกินไม่ลง แถมข้าวยังแข็งมากๆ แต่กินกล้วยบวชชีจนหมด อร่อยดี เห็นไอ้อ๊อตไม่กินกล้วยก็เลยขอกินกล้วยมัน มันก็ให้ ผมก็เลยกินกล้วยของไอ้อ๊อตจนหมดเหมือนกัน ได้กินกล้วยอร่อยๆ แล้วทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
กินเสร็จแล้วพวกเราไปใช้บริการที่ “ หน่วยบริการความสดชื่น “ กันอีกครั้ง ผมซื้อน้ำอัดลมมาดื่มขวดนึง ดื่มแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น ระหว่างที่ดื่มก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนดูมีความสุขขึ้นมาก คงจะดีใจที่ผ่านการฝึกที่ยากลำบากที่สุดไปแล้ว การฝึกที่เหลือก็สบายแล้ว
ตอนบ่าย ครูฝึกเรียกรวมอีกครั้งเพื่อทำการฝึก “ ตั้งรับ “ มีครูฝึกคนใหม่ที่ไม่ใช่ครูพิชิตมาบรรยายทฤษฎีก่อน คนนี้พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จากที่ฟังๆ มาผมก็พอจะเข้าใจว่า การตั้งรับนั้นมีความมุ่งหมายเพื่อออมกำลังเอาไว้ก่อน และล่อข้าศึกเข้ามายังพื้นที่ที่เราต้องการ และเพื่อรอโอกาสกลับมาเป็นฝ่ายรุก การตั้งรับนี้เป็นการตั้งรับในพื้นที่ คือเป็นการยึดและรักษาภูมิประเทศที่ใดที่หนึ่งเอาไว้ พื้นที่ในการตั้งรับจะมี 2 ส่วน คือ “ พื้นที่ส่วนระวังป้องกัน “ เป็นพื้นที่ที่ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นยามจะต้องทำการระวังป้องกันในพื้นที่ส่วนนี้ และ “ พื้นที่การรบ “ พื้นที่การรบนั้นห้ามข้าศึกล่วงล้ำมาเด็ดขาด ซึ่งพื้นที่การรบก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ “ พื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า “ อยู่ด้านหน้า เป็นส่วนที่เราต้องไม่ให้ข้าศึกเข้ามาได้ และ “ พื้นที่กองหนุน “ เป็นส่วนที่เตรียมเอาไว้กรณีที่พื้นที่การตั้งรับไม่สามารถต้านทานกำลังของข้าศึกได้ ในการตั้งรับเราต้องดัดแปลงภูมิประเทศให้เหมาะสมโดยการทำ หลุมบุคคลคู่ หลุมบุคคลเดี่ยว หรือคูยิง แล้วแต่สภาพภูมิประเทศนั้นๆ พอการบรรยายจบลงก็ได้เวลาการฝึกปฏิบัติ ครูฝึกให้ทุกคนไปวางตัวยังหลุมบุคคลคู่ เรียกเป็นล็อคๆ ล็อคของผมมี 4 คน (ปกติหลุมบุคคลคู่ก็ต้องนั่งได้แค่ 2 คน แต่นักศึกษาวิชาทหารมีจำนวนมาก ก็เลยให้นั่งกัน 4 คนเลย) แบ่งเป็น 2 คู่ คู่แรกมีผมกับเงา (คู่ฝึกอีกหมู่) คู่ที่ 2 มีไอ้แมนกับเงา ผมกับเงาได้เป็นยามระวังเหตุ เรา 2 คนก็เลยต้องออกไปนั่งเงียบๆ หลังพุ่มไม้ที่สมมุติให้เป็นพื้นที่ส่วนระวังป้องกัน ส่วนไอ้แมนกับเงาก็นั่งอยู่ในหลุมบุคคลคู่เงียบๆ บริเวณพื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า ส่วนครูฝึกและไอ้เด่นหัวหน้าหมู่นั่งอยู่บริเวณพื้นที่กองหนุน ระหว่างนั้นไอ้เด่นจะพูดสั่งการใส่โทรโข่งไปเรื่อยๆ โดยสมมุติสถานการณ์ให้แก้ปัญหา ตามคำสั่งที่ได้รับจากครูฝึก เช่น เกิดอุบัติเหตุต้องปฐมพยาบาลด้วย ข้าศึกบุกมาให้ยามทำหน้าที่ระวังป้องกันด้วย ฯลฯ ผมกับเงาก็นั่งฟังไอ้เด่นพูดไปเรื่อยๆ ตอนนี้เรา 2 คนนั่งชิดกันมาก ผมได้กลิ่นเนื้อหนุ่มของเงาเต็มๆ มันหอมมากจริงๆ เงาเป็นผู้ชายตัวเล็ก หัวเกรียน หน้าดำๆ ขี้ก้าง แต่ก็ดูดีมีเสน่ห์แบบชายไทยแท้ หน้าของเงาอยู่ใกล้ซะจนผมอยากจะหอมแก้มซักฟอด แต่ก็ต้องอดใจไว้ เงานั่งเฉยๆ อยู่นานก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า
“ เบื่อว่ะ ตั้งรับเนี่ย ไม่มันส์เหมือนเข้าตีเลย ว่าป่ะ กูว่าเข้าตีสนุกกว่าเยอะ ได้วิ่งได้หมอบได้คลาน สนุกกว่าเยอะ กูชอบบุกมากกว่ามานั่งรอข้าศึกแบบนี้ว่ะ แม่งสะใจดี ยิงกันปังๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆ 5555 มันส์ สนุกดี “
“ กูก็ว่างั้นเหมือนกัน “
ผมตอบสั้นๆ คิดในใจว่าเงาเป็นผุ้ชายที่แมนมากเลย ท่าทางจะชอบการฝึกครั้งนี้มากเลย ดูท่าทางเขาก็ไม่โทรมมากด้วย ร่างกายเขาคงจะแข็งแรงพอสมควรและเขาก็คงชอบสนุกแบบนี้อยู่แล้วด้วย เขาจึงฝึกด้วยความสนุก ไม่ใช่จำใจฝึกแบบผม
ใช่แล้ว ถ้าเราฝึกด้วยความสนุก เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ที่ผ่านมาผมฝึกแบบจำใจต้องฝึก ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่สนุกเลย เหมือนโดนยัดเยียดให้ฝึก ร่างกายก็เลยไม่ไหวไปจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ผมคงต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ซะแล้ว คงต้องฝึกให้สนุก แล้วผมจะสนุกไปจริงๆ และไม่รู้สึกเหนื่อยมากแบบที่ผ่านมา
เอาละ ต่อไปผมจะฝึกให้สนุกก็แล้วกัน
ผมกับเงานั่งต่อไปอีกซักพัก ก็ปิดสถานการณ์ เรา 2 คนก็เลยเดินกลับไปรวมกับเพื่อนอีก 2 คนที่หลุมบุคคลคู่ หลังจากนั้นเราก็สลับตำแหน่งกันบ้าง ผมกับเงานั่งในหลุมบุคคลคู่ ส่วนไอ้แมนกับเงาไปเป็นยามบ้าง ก็นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเหมือนเดิม ไม่นานก็ปิดสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ครูฝึกเรียกรวมพล ตอนนี้เย็นมากแล้ว
“ พันไหน “ ครูฝึกตะโกนถาม
“ 32 ! “ ทุกคนตะโกนตอบพร้อมกัน
“ ไม่ได้ยิน ! พันไหน ! “
“ 32 ! “ ทุกคนตะโกนเสียงดังกว่าเดิม
“ 32 นั่ง ! “
ครูฝึกให้พวกเรานั่งพักซักพัก แล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว เตรียมตัวฝึกต่อในตอนกลางคืน พอผมกินข้าวเสร็จ ก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนหมดเวลาพัก ตอนนี้ทุกคนหายเหนื่อยกันแล้ว ต่างก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นเพราะได้นั่งพักนานตอนที่ฝึกตั้งรับ
ตกกลางคืน เราฝึกวางตัวในเวลากลางคืน ผม เงา ไอ้แมนและเงาของมัน เดินกลับไปนั่งที่หลุมเดิม ครูฝึกสั่งให้พวกเรานั่งเงียบ ๆ เราก็เลยนั่งเงียบกันอยู่อย่างนั้นนานมากๆ นานจนคิดว่าครูฝึกลืมไปแล้วหรือเปล่า ฟ้ามืดแล้ว ทุกคนในหมวดผมนั่งกันเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย จนได้เวลาสมควร ครูฝึกก็เป่านกหวีดเป็นสัญญาณให้ปิดสถานการณ์ แล้วให้เดินเงียบๆ มายังที่รวมพล ตอนกลางคืนนี้ครูฝึกสั่งให้พูดกันเบาๆ เดินกันเงียบๆ เพราะข้าศึกจะได้ไม่รู้ตัวว่าเราวางตัวอยู่ เสร็จแล้วจึงยุติการฝึกตั้งรับ ให้พวกเราเดินเรียงแถวออกจากป่า กลับที่พักได้ ผมและเพื่อนๆ รู้สึกดีใจมากที่จะได้ออกจากป่าซะทีหลังจากทนลำบากในป่ามานาน ต่างก็รีบเดินจ้ำเอาๆ เพื่อให้ถึงที่พักเร็วๆ ขากลับนี้มีแต่แสงจันทร์นำทางไม่มีคนส่องไฟฉายให้เหมือนตอนขามา แต่ก็พอมองเห็น หมวดของผมรีบเดินกันมากจนครูฝึกต้องบอกให้หยุดก่อน ตรวจดูแล้วรู้สึกว่าจะมีคนหลงกันด้วย ก็เลยต้องยืนรอหมวดอื่นๆ ก่อนและตะโกนเรียกกันอยู่ตั้งนาน กว่าหมวดอื่นจะเดินมาถึง แสดงว่าหมวดของผมเดินเร็วไปจริงๆ ฟิตมากๆ เลย เดินเร็วจนหมวดอื่นตามไม่ทัน ! พอหมวด 1 และหมวด 3 เดินมาถึงแล้ว ครูฝึกก็สั่งให้พวกเราเดินต่อไป แต่ก็ไม่ลืมกำชับว่า
“ หมวด 2 มึงไม่ต้องรีบเดินขนาดนั้นก็ได้ ที่พักไม่หายไปไหนหรอก รอเพื่อนมั่ง ไอ้เหี้ย ! “
ผมและเพื่อนๆ ในหมวด ก็เลยพยายามเดินให้ช้าลง ผมหายเจ็บข้อตีนแล้ว แถมกำลังวังชาก็กลับมาเต็มที่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจขึ้นมากที่จะได้กลับที่พัก ไอ้เทพที่ตอนนี้เดินข้างๆ ผม พูดขึ้นมาว่า
“ กูจะได้กลับไปนอนที่เต็นท์แล้ว ดีใจชิบหาย นอนในป่าแม่งไม่สบายเลย สู้นอนเต็นท์ก็ไม่ได้ มึงว่ามั๊ย “
ไอ้เทพหันมาถามผม ผมพยักหน้า ไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาบ้างว่า
“ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสินะ ที่ต้องนอนที่เขาชนไก่ พรุ่งนี้กูก็จะได้กลับบ้านแล้ว เย้ “
“ เออใช่ คืนสุดท้ายแล้ว คืนพรุ่งนี้กูก็ไม่ต้องมานอนกลางดิน กินกลางทรายแบบนี้อีกแล้ว กูจะได้นอนบนเตียงนุ่มๆ ได้อาบน้ำเย็นๆ ได้แดกอาหารฝรั่งหรูๆ ไอ้เหี้ยเอ๊ย พรุ่งนี้กูก็จะเป็นอิสระแล้ว “
ไอ้เทพพูดยาวเหยียด ผมสอดขึ้นมาว่า
“ หรูจังนะมึง เออ กูเองก็อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว มาที่นี่ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย สกปรกด้วย วันๆ คลุกดินคลุกทรายตลอด ไม่ได้ลิ้มรสความสบายบ้างเลย เนี่ยพรุ่งนี้พอกูกลับไปถึงบ้านนะ กูจะนอนแม่ง 2 วัน 2 คืนเลย ให้สมกับที่กูเหนื่อยมานาน “
ไอ้อ๊อตฟังแล้วก็ตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะพูดกับผมและไอ้เทพว่า
“ เอาน่า อดทนอีกนิดนึงเว้ยเพื่อนๆ เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้พวกเราก็สบายแล้วว่ะ การฝึกใกล้จะจบเต็มทีแล้ว ว่าแต่คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายทั้งที กูกับไอ้เทพก็เลยคิดที่จะฉลองกันหน่อย ไอ้หนุ่ม มึงจะมาร่วมฉลองกับพวกกูด้วยมั๊ยวะ “
“ ฉลองอะไรของพวกมึงวะ แล้วฉลองที่ไหน “
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองตากันแล้วก็ยิ้ม
“ เดี๋ยวมึงก็รู้เอง ว่าแต่มึงจะฉลองกับกูมั๊ยล่ะ “
ไอ้เทพถาม ผมยิ้มแล้วตบหลังไอ้เทพป้าบๆ ก่อนจะตอบมัน
“ เอาไงเอากันเพื่อน ฉลองก็ฉลอง กูก็ชอบเรื่องสนุกๆ อยู่แล้ว “
“ ได้เลยเพื่อน ตกลงเราจะฉลองกัน 3 คน นะ มึงสนุกแน่ๆ งานฉลองนี้คงไม่สนุก ถ้าขาดมึง “
ไอ้เทพพูดยิ้มๆ สายตาของมันมีเลศนัยบางอย่าง แต่ผมไม่ทันสังเกตุ ส่วนไอ้อ๊อตก็มองหน้าไอ้เทพแล้วแอบอมยิ้ม เรา 3 คนตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป ผมคุยกับเพื่อนๆ ไปตลอดทาง ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็เดินช้าลงและเกาะกลุ่มกันคุยกับผมเสียงดัง ตอนนี้ไม่มีใครเดินเป็นแถวอีกแล้ว ครูฝึกก็เดินรั้งท้ายอยู่ทำให้ไม่มีเวลาสนใจระเบียบแถว ก็เลยปล่อยให้นักศึกษาวิชาทหารเดินกันตามสบาย ผมคุยเรื่องทะลึ่งตึงตังกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ และหัวเราะกันสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ เราเดินกันประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่นานก็กลับมาถึงที่พัก
“ ถึงที่พักแล้วเว้ย พวกเราออกจากป่าแล้ว กลับมาถึงที่พักแล้วจริงๆ นั่นไงเต็นท์ของพวกเรา พวกมึงดูสิ “
ผมพูดกับเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพื่อนๆ ทุกคนมองไปที่เต็นท์ของตนเองด้วยความรู้สึกดีใจแบบสุดๆ ในที่สุด เราก็กลับมาถึงที่พักอันแสนสุขของเราซะที หลังจากที่ไปบุกป่าฝ่าดงมา 2 วันเต็มๆ
คราวนี้ก็เหลืออีก 1 วันเท่านั้น ………
ลาก่อน ! ป่าที่ผมได้อาศัยฝึกมาตลอด 2 วัน และนอนมา 1 คืน ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้กลับมาที่ป่านี้อีกหรือเปล่า