Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 375
Message ID: 46
#46, RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 27-Apr-12 at 08:33 AM
In response to message #0
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
................................

ตอนที่ 11

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวที่หน้ากองพันอย่างรวดเร็ว แล้วก็เดินไปที่เดิม บ่ายนี้เราต้องฝึก " เลื่อนมรณะ " ซึ่งหลายคนจะเรียกเล่น ว่า " โดดน้ำ " เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกับการโดดหอ เพียงแต่โดดน้ำนี่จะต้องโดดลงไปในน้ำ ในขณะที่โดดหอเป็นการโดดจากหอลงมายังพื้นดิน แต่ไม่ว่าจะโดดน้ำหรือโดดหอ ก็ทำให้คนโดดเสียวได้ทั้งนั้นเพราะต้องโดดลงมาจากจุดที่สูงพอสมควร คำว่า " เลื่อนมรณะ " เป็นการเรียกชื่อแบบทหาร ถ้าเป็นการเรียกแบบพลเรือนจะเรียกว่า " เลื่อนช่วยชีวิต " ซึ่งฟังดูดีกว่าเยอะเลย เลื่อนมรณะนี้จะมีลักษณะเป็นรอกที่ด้านล่างมีแกนอยู่ 2 ข้างสำหรับเป็นที่จับ ความสูง 35 ฟุต ตัวรอกติดกับเชือกซึ่งทอดยาวไปเหนือน้ำ เราต้องโหนลงไป แล้วพอถึงจุดที่กำหนดก็ต้องปล่อยมือจากรอก ทิ้งตัวลงน้ำทันที ตรงนี้น่ะที่เสียวไส้น่าดู ! ครูฝึกประจำฐานเลื่อนมรณะอธิบายวิธีการฝึกให้ทุกคนฟัง แล้วก็เริ่มให้พวกเราฝึก ทุกคนถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว และถอดรองเท้าด้วย เสร็จแล้วก็ตั้งแถวเพื่อจะโดดทีละคน ไอ้ธีระที่ยืนอยู่ข้างหลังผมสะกิดผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" โอย กูไม่อยากโดดน้ำเลยว่ะ ไม่ไหวเลย กูกลัวความสูง "
ผมหันไปยิ้มให้มัน แล้วตบไหล่มันเบาๆ
" เอาน่า อย่ากลัวไปเลย วัดใจกันหน่อย ใครๆ เขาก็โดดกันทั้งนั้น มึงเองก็เคยโดดหอมาแล้วนี่หว่า มันก็คล้ายๆ กันน่ะแหละ "
ไอ้ธีระยิ้มแหยงๆ
" แต่กูก็ยังกลัวอยู่ดี มันโคตรสูงเลย "
ไอ้สันติซึ่งยืนอยู่ข้างหลังไอ้ธีระ ฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
" 5555 ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย ไอ้ระ มึงอย่าป๊อดนักเลย นี่ ถ้ามึงกลัวนักนะ ตอนมึงโหนรอก มึงก็อย่ามองลงไปข้างล่างสิ แล้วมึงก็จะไม่รู้ว่ามึงอยู่สูงแค่ไหน แป๊ปเดียวมึงก็โดดลงน้ำแล้ว "
" เออ กูจะพยายามทำแบบนี้มึงบอกละกัน "
ไอ้ธีระพูด แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้เพื่อนๆ โดดกันไปหลายคนแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเวลาได้ยินเสียงเพื่อนคนที่โดดก่อนหน้าร้อง ว๋าเอี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย แล้วก็ตามด้วยเสียง ตูมมมม ! เมื่อเขาทิ้งตัวลงไปในน้ำเต็มแรง สะใจดีแท้ ! เดี๋ยวก็ถึงตาผมแล้ว
ในที่สุดก็ถึงตาผมโดด ผมติดสายยาวๆ เข้ากับตัวจนแน่น ( เป็นสายแบบเดียวกับที่ใช้ตอนโดดหอ ) สายนี้จะรัดแน่นทั้งตัว แล้วจะมีสายโยงจากด้านหลังอีก 2 เส้นเอาไว้ติดกับรอก ผมขึ้นไปยืนตรงจุดที่รอกแขวนอยู่กับเชือก ครูฝึกที่ประจำอยู่ตรงนั้นตบหลังผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" พร้อมนะ ไปได้ ! "
" ครับผม ! "
ผมตอบ แล้วเอามือ 2 ข้างจับแกนของรอกไว้ก่อนจะกระโดดออกจากแท่น ตอนนี้ตัวผมกำลังโหนรอกห้อยต่องแต่งอยู่เหนือน้ำ ผมเริ่มออกแรงดึงรอกไปข้างหน้าช้าๆ เพิ่งจะรู้ว่ารอกถึงจะอันนิดเดียว แต่หนักไม่ใช่เล่น ผมรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดดึงรอกให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นจังหวะ เมื่อยแขนมากๆ แต่ผมต้องอดทน รอกค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ ผมกัดฟันดึงรอกและโหนไปข้างหน้าเรื่อยๆ ทำไมมันหนักขนาดนี้วะเนี่ย แถมระยะทางก็ไกลมากๆ ไม่ถึงจุดที่ปล่อยมือซะที ผมดึงรอกไปจนแทบจะหมดแรง เส้นเลือดที่กล้ามแขนปูดขึ้นมาเป็นริ้วๆ เหงื่อแตกเต็มแผ่นหลัง ผมกัดฟันดึงต่อไปจนเริ่มรู้สึกว่าจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วเลยตัดสินใจดึงรอกไป ข้างหน้าสุดแรงเกิด ได้ผลครับ รอกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพอสมควร ถึงผมจะโหนรอกจนปวดแขนมากขนาดไหน แต่ผมก็ไม่มีวันที่จะปล่อยมือจากรอกตอนนี้เด็ดขาด เพราะนั่นหมายความถึงชีวิตของผมเลยทีเดียว ผมดึงรอกมาถึงจุดที่เขากำหนด แล้วก็หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ถึงเสี้ยววินาที ก็ได้ยินเสียงสัญญาณนกหวีดให้ปล่อยมือ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด......
ถึงเวลาแล้ว ! ผมตัดสินใจปล่อยมือจากแกนของรอกทันทีพร้อมกับแหกปากดังลั่น ร่างของผมดิ่งลงสู่ผืนน้ำเย็นเฉียบจนน้ำแตกกระจาย
" เอี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย "
ตูมมมมมมมมม !!!
จังหวะที่ผมทิ้งตัวลงมานี้มันเสียวไส้มากๆ เพราะว่ามันสูง ความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่โดดหอเลย แต่โดดน้ำนี่เสียวกว่าเยอะ ลงมาถึงน้ำแล้วก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลย น้ำลึกเกือบจะถึงอก แถมเย็นยะเยือกมากๆ ผมเห็นเพื่อนๆ ที่เป็นอาสาสมัครช่วยงานครูฝึกซึ่งอยู่ในน้ำว่ายเข้ามาหาผม ช่วยผมถอดสายที่ติดอยู่กับตัวออก แล้วพาไปเกาะห่วงยางช่วยชีวิตเพื่อลอยเข้าฝั่งไปอย่างปลอดภัย สนุกจริงๆ !
เมื่อผมมาถึงฝั่งแล้ว ก็ได้พัก ผมไปล้างหน้าล้างตา ดื่มน้ำจากกระติก แล้วก็นั่งตากแดดให้ตัวแห้ง ซักพักเพื่อนๆ ของผมที่โดดเสร็จแล้วก็เดินมาสมทบ ไอ้ธีระดูหน้าตาสดใสขึ้น ผมถามมัน มันก็บอกว่าตอนทิ้งตัวลงมาจากรอกน่ะมันกลัวมาก กลัวจนเยี่ยวแทบแตก แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เพื่อนๆ คนอื่นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกเสียวถึงใจมากๆ ผมก็เลยนั่งคุยเฮฮากับพวกมันไปเรื่อยๆ กว่าทุกคนจะโดดน้ำกันเสร็จก็เย็นมากแล้ว ครูฝึกเป่านกหวีดเรียกรวม แล้วพาเดินกลับกองพันเพื่อแดกข้าวเย็น จำได้ว่ามีถั่วเขียวต้มน้ำตาลเป็นของหวาน อร่อยดีแต่แข็งไปหน่อย มื้อนี้ผมแดกกับไอ้ธีระอีกครั้ง มันยังป้อนถั่วเขียวให้ผมด้วย ใจดีจริงๆ มึง !
พอทุกคนแดกข้าวเย็นและล้างหม้อเสร็จแล้ว ก็พากันไปทำกิจธุระส่วนตัว ผมบ่นกับไอ้ธีระว่าร้อน อยากอาบน้ำ เมื่อกี้ถึงจะได้ลงน้ำแต่ก็แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น อยากอาบน้ำแบบจริงๆ จังๆ ซักที ไอ้ธีระก็เห็นด้วยกับผม มันบอกว่า
" กูก็คิดเหมือนมึง เหนียวตัวชิบหาย ตั้งแต่มานี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เมื่อไหร่เขาจะให้เราอาบน้ำซักทีวะ กูร้อนๆๆๆๆ ว้อยยยย "
" นั่นสิ กูเองก็อยากอาบน้ำจะแย่อยู่แล้ว ตัวเหม็นเหี้ยๆ เลยว่ะ "
ผมพูดกับมัน แต่ใจจริงๆ คืออยากจะเห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง ภาพของหนุ่มนศท. ทั้งกองพันใส่กางเกงในตัวเดียวอาบน้ำกันแบบไม่มีใครอายกัน สะใจดีแท้ๆ ภาพนี้เคยเห็นไปหลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ ยังไม่เห็นเลย!
เมื่อไหร่จะได้อาบน้ำซักทีหนอ ?
.................

6 โมงเย็น
" ทั้งหมด รวม !!!! "
หัวหน้าชุดฝึกตะโกนลั่น ผมและเพื่อนๆ รีบลุกขึ้นวิ่งมาเข้าแถวด้วยความรวดเร็ว หัวหน้าชุดฝึกเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพาทุกคนเดินเข้าไปในป่า พอถึงที่หมายก็สั่งให้นั่ง แล้วอธิบายการฝึกในคืนนี้ คืนนี้เราต้องฝึก " การเล็ดลอดหลบหนี " ซึ่งเป็นการฝึกที่โหดมากๆ โดยให้แต่ละหมู่หาทางกลับฐานเอาเอง ไม่มีแผนที่หรือเข็มทิศให้ ห้ามใช้ไฟฉายด้วย และตามทางจะมีครูฝึกแอบซุ่มอยู่ ต้องระวังไม่ให้โดนจับได้ ถ้าเกิดโดนครูฝึกจับได้จะโดนแก้ผ้าเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว (! ) คงจะอายเพื่อนน่าดู เพราะฉะนั้นต้องระวังตัวให้ดี อย่าให้โดนจับได้เป็นอันขาด
ครูฝึกอธิบายการฝึกจนจบ แล้วก็ย้ำว่า
" เวลาเดิน เดินระวังๆ ด้วยเพราะว่าลวดหนามมันเยอะ ระเบิดก็มี แล้วก็ห้ามเดินออกไปที่ถนนใหญ่ด้วยล่ะ ถ้าเจอกองร้อยอื่นฝึกอยู่ก็ห้ามเข้าไปยุ่ง หาทางกลับฐานให้ได้ก่อนสามทุ่ม ทั้งหมด ทราบ !!!!! "
" ทราบบบบ !!!! "
ตูม !!!!!!!!!!
ผมและเพื่อนๆ ทุกคนสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงระเบิด TNT ดังขึ้น ท่าทางแถวนี้จะมีระเบิดเยอะจริงๆ การฝึกคืนนี้คงจะไม่ธรรมดาซะแล้ว.ผมคิด
" ทั้งหมด ลุก !!!! "
ทุกคนลุกขึ้น ครูฝึกตะโกนลั่น
" ขอให้ทุกคนโชคดี วิ่ง หน้า วิ่ง ! "
สิ้นคำสั่งของครูฝึก หมู่แรกๆ ก็ออกวิ่งไปทันที ไม่นานหมู่ของผมก็วิ่งตามไปด้วย ขณะที่ผมวิ่งอยู่นั้น ระเบิดก็ดังตูมตามอยู่ตลอดเวลา เหมือนเราวิ่งอยู่ในสมรภูมิรบอย่างนั้นเลย
ตูม!!!!!!!!!!!! ตูมมมมมม !!!!!!!!! ตูมมมมมมม !!!!!!!!!
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ออกวิ่งเข้าไปในป่าตามหมู่อื่น แต่ไม่นานหมู่อื่นก็วิ่งไปทางอื่น เหลือแต่หมู่ของผมหมู่เดียว ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่ หันมาสั่งลูกน้องว่า
" เอาล่ะ หยุดวิ่งได้แล้ว เดินไปช้าๆ เกาะกลุ่มกันไว้นะพวกมึง จะได้ไม่หลง แล้วก็เดินตามกูมาเรื่อยๆ "
" เออ !! "
ทุกคนรับคำ ผมเดินเกาะหลังไอ้ธีระไปตลอดทาง สองข้างทางมืดมาก มองอะไรไม่เห็นเลย แล้วก็เงียบมากด้วย มีแต่เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกรอบแกรบๆ เราเดินเกาะกลุ่มกันไปเรื่อยๆ โดยมีไอ้สันตินำหน้า ตามด้วยไอ้ปกป้อง ไอ้บอม ไอ้ธีระ ผม ไอ้โต้ง และเพื่อนคนอื่นอีกหลายคน
เดินไปไม่เท่าไหร่ ผมก็ได้ยินเสียงดังสวบ !!! ดังอยู่ข้างหลังผม ผมหันไปมองก็เห็นว่าเป็นไอ้โต้ง มันร้องลั่น
" โอ๊ยยยยย ใครก็ได้ ช่วยกูด้วย กูตกหลุม !!!!!! "
ผมเดินเข้าไปหามัน แล้วเอื้อมมือฉุดมันขึ้นมาจากหลุม ไอ้โต้งจ้องหน้าผมจนสายตาของมันชินกับความมืด พอมันเห็นว่าเป็นผม มันก็สะบัดมือออกทันที ทำหน้าบึ้ง
" ไม่ต้องมาช่วยกู ไอ้เกย์ "
ผมโมโหมาก ผลักอกไอ้โต้งจนมันเซ แล้วด่ามัน
" ไอ้เหี้ยนี่ กูอุตส่าห์ช่วย ยังจะมาพูดแบบนี้กับกูอีก สันดานเหี้ยจริงๆ รู้งี้กูไม่ช่วยดีกว่า กูอุตส่าห์ไม่ติดใจเรื่องที่มึงทำกับกูคืนที่แล้วนะ ไอ้ห่า ระยำจริงๆ กูไม่ยุ่งกับมึงแล้ว ไอ้เลว !!! "
พูดจบผมก็หันหลังกลับเดินหนีไปทันที ไอ้โต้งยังด่าไล่หลังผมอีก
" กูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมึงหรอก !! "
ผมกัดฟันกรอด ก้าวตีนสวบๆ ให้ทันไอ้ธีระ ไอ้ธีระหันมามองหน้าผมแล้วตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงนุ่ม
" อย่าไปสนใจคนพรรค์นั้นเลยหนุ่ม คนอย่างไอ้โต้งน่ะ ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่นหรอก ไม่เคยเห็นความดีของคนอื่นด้วย ถือว่าตนเองเจ๋งอยู่ตลอดเวลา อย่าไปยุ่งกับมันเลย นะเพื่อนนะ คนเรามันแตกต่างกันจริงๆ คบแต่คนดีๆ จะดีกว่า "
ผมยิ้มให้ไอ้ธีระ ไอ้ธีระพูดต่อ
" แต่กูสงสัยอย่างว่ะ ทำไมมันเรียกมึงว่าไอ้เกย์วะ "
ผมอึ้งไปนิดนึง ก่อนจะตอบค่อยๆ
" มันคงเห็นว่ากูเรียบร้อยมั๊ง ก็เลยคิดว่ากูเป็นเกย์ "
" แล้วมึงเป็นรึเปล่าล่ะ "
ผมสะดุ้ง รีบตอบทันที
" กูไม่ได้เป็นโว้ย มึงอย่าเข้าใจกูผิดนะ กูขอย้ำ กูไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ "
ไอ้ธีระแอบอมยิ้ม แล้วพูดว่า
" กูเข้าใจ "
แล้วมันก็ไม่พูดอะไรต่ออีกเลย ผมเริ่มรู้สึกเมื่อยขาขึ้นมาบ้างแล้วก็เลยชะลอฝีตีนลง กลายเป็นเดินตามหลังไอ้ธีระไป หมู่ของเรายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้างกว่าจะถึงฐานที่มั่น แต่จะเจออะไรผมก็ไม่เคยกลัว ยังไงคืนนี้จะต้องหาทางกลับฐานให้ได้