Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 377
Message ID: 42
#42, RE: รักลึกลึก ไม่กล้าทึกทัก
Posted by คนอยากลึกลับ on 13-Feb-12 at 08:28 PM
In response to message #41
ตอนที่ 11

เนื่องจากได้นอนเต็มอิ่ม และไม่ได้คิดเรื่องเรียน ผมจึงตื่นเช้าหน่อย ลงไปคุยกับคุณแม่ถึงสถานการณ์น้ำท่วม (ทำยังกะรายงานข่าวแน่ะ) แม่ตั้นหัวเราะ พลางบอกว่าบ้านหลังนี้น้ำไม่ท่วม 2- 3 ปีแล้วหลังจากที่ตั้นเรียนวิศวะเพราะออกแบบระบบระบายน้ำของบ้านและสวนได้อย่างถูกวิธี ดังนั้นเรื่องน้ำท่วมไม่ต้องพูดถึงเลย ผมถือโอกาสบอกแม่ว่า กะจะมาช่วยขนของซะหน่อย เห็นตั้นบอกว่าที่บ้านน้ำท่วม แม่บอกว่าโดนเจ้าตั้นหลอกซะแล้ว

ฮื่ม...........นายตั้น.......

เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จ พี่ชายตั้นบอกจะไปขนมะพร้าวแก่ไปไว้บนโรงเรือนสักหน่อย เผื่อฝนตกหนักจะได้ไม่ลอยไปกับน้ำ เพราะมะพร้าวแก่มีน้ำหนักเบาอยู่แล้ว ผมบอกตั้นให้ช่วยพี่ชายเถอะ ไม่ต้องห่วงที่จะพาผมเที่ยว ผมจะได้ช่วยอีกแรง และบอกด้วยว่าไหนๆก็ไม่ได้ขนของหนีน้ำแล้ว งั้นขนมะพร้าวแทนก็แล้วกัน ตั้นทำหน้าทะเล้นเมื่อผมรู้ทัน

คนงานก็มีมาช่วยเหมือนกัน แต่ผมก็เข้าไปช่วยด้วย เพราะชอบสร้างภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้นกับพี่ชายเป็นฝ่ายรับและเรียงไว้ข้างบน ส่วนผมและคนงานเป็นคนเก็บมะพร้าวใส่กระบุงแล้วยกให้อีกทีหนึ่ง กำลังใกล้จะเสร็จอยู่แล้วเชียว แขนผมเริ่มล้าตอนยกกระบุงที่บรรจุมะพร้าวอยู่เต็มตอนยกให้ตั้น แขนจึงยื่นไม่สุด จึงทำให้ตั้นเอื้อมมือรับไม่ถึง กระบุงจึงเอียงข้างตกลงมา แต่ผมสามารถรับไว้ทัน แต่ไม่วายยังโดนของแถมอีก 2 ลูก ที่ตกลงมาโดนแขนขวา ปึก ปึก (เสียงแน่นมาก) เซไปนิดหนึ่ง
(แค่ 4 - 5 ก้าวเอ๊ง)

“เฮ้ยเป็นไงบ้างพี่ปั่น เจ็บมั้ยเนี่ย” เสียงตั้นถามสีหน้าดูตกใจ
“แค่นี้ จิ๊บๆ โชคดีที่ฝึกวิชา ฝ่ามือทองคำพันชั่งจึงรับกระบุงได้สบาย แต่เสียดายที่ฝึกสำเร็จได้แค่ 9 ส่วน จึงโดนอาวุธลับซัดใส่ 2 ดอก แค่นี้ธาตุไฟไม่เข้าแทรกหรอกน่า” ทำท่าโคจรลมปราณประกอบ (ทำไปด้ายน้อตู)

แต่จริงๆโคตรเจ็บเลยครับ

“งั้นไม่ต้องทำละพี่ปั่น พักเหอะใกล้เสร็จแล้ว” ตั้นบอก พี่ชายก็เห็นด้วย

“ไม่เป็นไร้ ไม่เป็นไร” ผมละล่ำละลัก

“ไม่ใช่ ผมห่วงมะพร้าวตะหาก กลัวเสียหายมากกว่านี้ เดี๋ยวราคาตก”

เฮ้อ เวรกรรม.......... กรรมของปั่นคุง


ช่วงบ่ายๆตั้นพาไปเล่นน้ำในคลอง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคลองที่น้ำค่อนข้างใสในกรุงเทพฯอีก ตั้นหากางเกงขาสั้นมาให้เปลี่ยน แต่ผมไม่ถอดเสื้อ ไม่ได้อายหรอกครับ แต่ต้องการปิดรอยเขียวคล้ำที่แขนไง กลัวเจ้าของบ้านเป็นกังวล ซึ่งตั้นก็ไม่ได้ถามอะไร

“ไม่นึกว่าจะว่ายน้ำเก่งนิ เด็กภาคเหนือ”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“ก็ภาคเหนือไม่มีทะเลนี่นา”

“รู้ได้ไง พี่ว่ายวนอยู่กับ ทะเลชีวิต เป็นประจำ”

“แหวะ มุกคนแก่”
“สามหาว เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจล่ะ เตรียมรับฝ่ามือ” หลังจากใช้วาจาต่อว่า แล้วผมก็ใช้ฝ่ามือกระแทกน้ำให้เป็นสายพุ่งไปให้โดนหน้าของตั้น เหมือนกับที่เคยเล่นกับเพื่อนตอนเด็กๆเดี๊ยะ มีหรือคู่ต่อสู้จะยอม เจ้าตั้นยังมีหน้ามาหยอดอีก

“เชิญท่านพี่ชี้แนะ โปรดอย่าได้ออมมือ” ทีนี้ก็สนุกกันล่ะ น้ำคลองขุ่นก็คราวนี้ ที่นี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรล่ะครับ ต่างสาดน้ำใส่กันใหญ่เลย ยอมกันซะที่ไหน เล่นเป็นเด็กๆไปได้ ไม่ไหว ไม่ไหว

เล่นน้ำกันจนสะใจทั้งสองฝ่าย ก็ไปอาบน้ำจริงๆ จากนั้นตั้นจึงชวนไปเดินเล่นเลาะตามท้องร่อง ลมพัดเย็นสบาย คล้ายต่างจังหวัดเหมือนกันแฮะ ทำให้ผมมองเห็นเมืองหลวงอีกมุมหนึ่ง

“มะ มานอนเปลนี่พี่ปั่น” ตั้นบอกผม ให้หยุดตรงเปลแขวนระหว่างต้นมะม่วงข้างท้องร่อง

“แล้วตั้นล่ะ” ผมถามเพราะเห็นมีอยู่ที่เดียว

“พี่ปั่นนอนเถอะ ผมนั่งข้างๆพี่เอง มาเอาแขนขวามา เดี๋ยวทายาให้” ตั้นนั่งลงข้างๆ

“ทายาอะไร พี่ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย จะหลอกดูผิวขาวอมชมพูแบบเด็กทารกแรกเกิดของพี่ละซี้”

“ไม่ต้องทำเนียนหรอก รู้นะแขนช้ำอยู่” รู้ได้ไงวะ ผมสงสัย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อ
“ไม่ต้องทำไก๋ ผมเห็นตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าแว้บๆ”
“หมดกัน ขาอ่อนพี่ ตั้นก็เห็นหมดนะสิ โธ่ อุตส่าห์จะเก็บไว้ให้สาวๆได้ยลโฉม” ผมว่าไปเรื่อย ไม่อยากให้ตั้นทายาให้

“เถอะพี่ปั่น ” ตั้นฉุดให้ผมนอนลงบนเปล เอาแขนของผมพาดกับขาของตัวเขาเอง ค่อยๆถลกแขนเสื้อผมขึ้น

“เห็นมั้ยเขียวมากเลย เดี๋ยวจะปวดมากไปกว่านี้”

ผมได้ยินแล้วก็ซาบซึ้งเจงๆ

“เอาละ ตาผมมั่งที่จะเล่าเรื่องบางส่วนให้ฟัง ” ตั้นตั้งหน้าตั้งตาพูดพร้อมกับทาและนวดแขนผมอย่างเบามือ ความอบอุ่นแล่นเข้าสู่หัวใจเลยแหละ (ฟังดูคล้ายๆพิษแล่นเข้าสู้หัวใจเนอะ)

“พี่คงสงสัยสินะว่าทำไมไม่เห็นพ่อผม......” ตั้นบอก และผมก็พยักหน้าหงึกหงัก
“พ่อแต่งงานใหม่ ทิ้งเรา 4 คนแม่ลูกต่อสู้ทำสวนที่เป็นมรดกของคุณตากันตามลำพัง ตอนผมอายุซัก 8 ขวบเห็นจะได้มั้งตอนนั้นผมคิดถึงพ่อมาก คิดถึงมาก จน ต่อมาเริ่มเกลียดว่าทำไมพ่อไม่มาเยี่ยมพวกเราบ้าง แต่ตอนนี้หายโกรธ หายเกลียดแล้วล่ะ บางทีก็มีแอบคิดถึงเหมือนกันนะ” ตั้นขรึมลงถนัดตา

“เมื่อก่อนพี่ไม่เข้าใจนะที่เค้าว่า ‘เป็นเรื่องของผู้ใหญ่’ แต่พอพรรษาแก่หน่อย ก็เข้าใจคำนี้ ก็อยากจะบอกตั้นว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะ ที่เค้ามีเหตุผลต่างๆกันไป พ่อตั้นอาจมีเหตุผลบางอย่างก็ได้ ที่เด็กอย่างพวกเราไม่เข้าใจ บางทีเรื่องบางเรื่องก็ยากจะอธิบายมาเป็นคำพูดให้คนเค้าเข้าใจได้ แต่ยังไงก็ขอชมแม่ของตั้นนะที่เก่งมากๆเลยที่สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน แถมแต่ละคนก็นิสัยดีกันทั้งนั้น”

“โหพี่ปั่นพูดซะ ผมต่อไม่ได้เลย ขอบคุณครับคุณครู”
“ล้ออีกแล้ว”

“ขำๆ น่า ผมเป็นลูกคนกลางด้วยมั้ง อาจเป็นเด็กมีปัญหากว่าเพื่อน ที่มีปมเรื่องพ่อ พอมาเจอพี่คุยถูกคอกันดี ก็เลยนับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่ไง”

“โอย พี่แก่ขนาดนั้นเลยเชียว” เสียงสดใส แต่ความรู้สึกวูบๆยังไงพิกล

“พี่ปั่นเนี่ยรุ่นน้าผมเลยนะ ขอเรียกว่า คุณน้าที่รักได้หรือเปล่า”

“ไม่เอาอ่ะ ชื่อเหมือนหนังอาร์ยังไงยังงั้น”

..........................................

พอได้เวลากลับ อยู่ๆตั้นก็เดินมาจูงมือผมซะงั้น

ผมไม่พูดอะไร……………………………

ได้แต่.......เดินใช้ความคิดของตัวเอง............ไปตามทาง