Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 377
Message ID: 58
#58, RE: รักลึกลึก ไม่กล้าทึกทัก
Posted by คนอยากลึกลับ on 15-Feb-12 at 10:19 PM
In response to message #54
ก็ใกล้จะจบแล้วนะครับ เพราะเนื้อเรื่องเดิมก็มีเท่านี้ เพียงแต่มาปรับบางคำ

บางสำนวน ให้ได้ใจความ และกระชับขึ้น หรือแย่กว่าเดิมก็ไม่ทราบ เพราะ

ไม่ใช่นักเขียนอาชีพนะครับ เป็นแค่นักเขียนเหลนชีพเท่านั้น และนี่ก็เป็นนิยาย

เรื่องแรกที่เขียนด้วยครับ ก็เลยขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง เหมือนคนเขียน เอ้า ต่อเลยครับ


ตอนที่ 13

อีก 2 - 3 วันละครของมหาวิทยาลัยจะเปิดทำการแสดงแล้ว ส่วนผม อาจารย์ขอเลื่อนสอบไปอีกสัปดาห์เศษๆ ก็ดีเหมือนกันอ่านหนังสือซ้ำอีกหน่อย

แต่แล้ว เจ๋งหนึ่งในทีมงานละครก็ชวนผมไปทำเกี่ยวกับ ผู้กำกับคิวข้างหลังเวที ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ไม่มีประสบการณ์ด้านงานละครเวทีเลยนอกจากละครชีวิต (ขอมุกนี้อีกทีน่า...นะ)

ทีแรกผมก็ลังเล พอเจ๋งบอกมีค่าเหนื่อยให้ด้วย ผมเซย์เยส เยส ทันที ความจริงผู้กำกับคิวเขาวางตัวไว้แล้ว แต่เขาอ้างว่างานละครนอกที่สำคัญมากๆติดต่อเข้ามาเลยขอไปช่วยทางนั้น เจ๋งว่าก็แน่ล่ะ เพราะข้างนอกให้ค่าจ้างสูงมาก เลยถึงบางอ้อ

ช่วงเวลาที่เหลือผมจึงตามเจ๋งไปศึกษางานด้านหลังเวทีเฉพาะในส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบ ก็แค่เตรียมนักแสดงให้พร้อมที่จะขึ้นเวทีก็เท่านั้น ความจริงนักแสดงก็รู้คิวของตนดีอยู่แล้ว เพียงแต่ดูแลให้เป็นระบบขึ้น

ตอนซ้อม หลังเวทียุ่งพิลึก มีปัญหากว่าที่คิดหรืออาจเป็นเพราะผมยังไม่รู้เบื้องหลังละครเวทีก็ได้ว่า ความจริงก็เป็นแบบนี้ เออ เจอนุกนิกด้วย ซึ่งมาช่วยงานเบื้องหลังเหมือนกัน ทักทายเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงาน น้องที่ถูกคัดมาแสดงก็หน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่รวมถึงตั้นกับอิ๊กด้วย(ไม่ได้เป็นพระเอก นางเอกนะครับแต่ก็เป็นตัวเด่นทั้งคู่) ผมเห็นตั้นกับอิ๊กคุยกันถูกคอดีตลอดที่ซ้อม ถ้าซ้อมบนเวทีเสร็จจะเห็นทั้งคู่คุยกันทันที


...... ผมเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วและห้ามใจตัวเองทันทีเช่นกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้

แล้ววันแสดงจริงก็มาถึง ณ หลังเวทีที่วันซ้อมวุ่นวายแล้ววันจริงยิ่งเพิ่มไปอีกหลายเท่าตัว ผมเห็นตั้นไกล ๆ อยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ใกล้ๆก็มีอิ๊กอยู่ด้วย

ผมยังไม่มีหน้าที่อะไรก็อ่านทบทวนสคริปท์ไปพลางๆก่อน นุกนิกมาพอดี เราจึงได้คุยกัน

“วุ่นวายกว่าที่คิดเนอะพี่ปั่น นักแสดงแต่ละคนเรื่องมากเหลือเกิน” นุกนิกกระซิบกระซาบกับผม

“ทำงานกับคนก็งี้แหละ” ผมตอบเรียบๆ เพราะเข้าใจดี

นุกนิกถามไถ่เรื่องอาหารการกิน ผมบอกยัง นุกนิกก็ไปจัดหามาให้ ซึ่งเธอก็ยังเหมือนกันเพราะรีบมา
“หนูลืมถามพี่ไป กินเจหรือเปล่า เห็นช่วงนี้เค้าฮิตกัน” นุกนิกถามหลังจากเตรียมน้ำกับบะหมี่หมูแดงแห้งมาให้

“กินเจเหมือนกันครับ แต่เป็นเจเพรส”

“ว้าย มุกนี้หนูรับไม่ได้”ปากพูดแต่หัวเราะคิกคัก

“เอ๊ะ ทำไม” ผมพูดขึ้นมาเมื่อกินไปได้หน่อย

“ทำไมคะพี่ อะไรเหรอ”

“ทำไม ทำไม อร่อยจัง” ยังมีหน้ามาเล่นอีก

“พี่ปั่นนี่อะไรก็ไม่รู้”

ผมกับนุกนิกกินไปคุยไปฆ่าเวลาเล่นๆ (ติดคุกป่าวเนี่ย) เหลือบไปมองตั้น
สบตากันพอดี ผมพยักหน้าทักทายและส่งยิ้มให้ แต่ตั้นทำหน้าเฉยๆล้วหันกลับไปคุยกับอิ๊กต่อ ผมละงงเลย

ก่อนแสดงจริงไม่กี่นาที ความโกลาหลวุ่นวายขนาดย่อมก็เกิดขึ้น ผมต้องคอยจัดคิว และสกรีนความเรียบร้อยอีกรอบ น้องบางคนเหงื่อแตกพลั่กๆ ผมต้องเอากระดาษไปซับให้ ความจริงผมก็เขินนะที่ทำแบบนี้ แต่มีคนบอกว่า ผมต้องดูแลส่วนนี้ด้วย เพราะช่างแต่งหน้าแต่ละคนก็ยุ่งมาก มองไปทางตั้นจะดูว่าเรียบร้อยหรือยังก็เห็นผู้จัดอีกคนหนึ่งดูแลอยู่ มีอิ๊กประกบอยู่ไม่ห่าง ฮอทจริงพี่ตั้นเรา

การแสดงรอบแรกผ่านไปได้ด้วยดี นักแสดงเข้ามาพัก แต่พวกเบื้องหลังยังคงทำงานต่อ ส่วนผมกับนุกนิกโชคดีหน่อยต้องรอนักแสดงพร้อมก่อน เลยคุยปรึกษาปัญหาการทำงานในรอบแรก เออจริงสิ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้คุยกับตั้นเลย คนก็พลุกพล่านเหลือเกิน เห็นแล้ว กำลังท่องบทอยู่นั่นเอง คงกันลืม ขยันจริง ๆ ผมจึงเดินเข้าไปหา

“ไงตั้น เหนื่อยมั้ย”

“………………แล้วไง”ตั้นตอบ ทำหน้าเฉย

“เฮ้ย เนคไทเบี้ยว” ผมกำลังเอื้อมมือจะจัดให้ แต่ตั้นปัดมือออกทันควัน

“ไม่เป็นไร ผมดึงลงเอง มันร้อน” มองหน้าแว่บหนึ่ง แล้วอ่านบทต่อ

“พี่ไม่ได้ดูแลตั้นเลยว่ะ เข้าไม่ถึง เห็นคนอื่นเทคแคร์แล้วเลยอุ่นใจ เอาน้ำมั้ย”

“ไม่หิว ผมกำลังอ่านบทอยู่” เสียงห้วนๆ

“ข้าน้อยขออภัยคร้าบผม อย่าเครียดมากล่ะ เดี๋ยวจำบทไม่.........”

“นี่พี่ปั่น ขอเวลาอ่านบทหน่อยได้มั้ย” เสียงตั้นดังขึ้น

“เอ่อ ขอโทษว่ะที่กวน”

ผมถอยทัพกลับกรุงลงกาแทบไม่เป็นขบวนทันที


…………………………….

ในที่สุดละครเวทีก็จบลงและเสร็จซะที นักแสดงเล่นเสร็จ แต่หลังเวทีต้องเก็บของกันอยู่ ผมจะกลับเลยก็ใช่ที่ ก็ช่วยเก็บบ้าง เมื่อไม่มีอะไรผมกะว่าจะกลับแล้ว เพราะเห็นตั้น เจ๋ง และอิ๊กออกไปด้วยกันเมื่อกี้

“พี่ .... พี่....... พี่ นั่นแหละ มากินเหล้าหน่อยมะ ฉลองงานเสร็จ” ไอ้น้องนิสิตที่เหลือ อยู่ 5 - 6 คนหลังเวทีชวน

“อ้อ ดีเหมือนกัน กำลังหาที่ลงพอดีเลย”

ผมนึกอยากดื่มขึ้นมาจริงๆ ให้ลืมๆอะไรๆซักหน่อยเหมือนกัน

ผมร่วมวงกับน้องๆเขาทันที ใจง่ายมากมั้ยเนี่ยเรา ( ถามด้ายย......เนอะ)รู้จักคนเพิ่มบ้างก็ดี คุยไปคุยมาไม่พ้นเรื่องผู้หญิง มีเรื่องขออิ๊กเข้ามานิดๆ อย่าตกใจไปเลยพี่น้องครับก็แค่เป็นเรื่องของน้องอิ๊กคนสวยไปขอคืนดีกับเจ้าตั้นก็เท่านั้นเอง พวกน้องๆเขาพูดกันว่า ไอ้ตั้นก็เล่นตัวอยู่ได้ แต่สุดท้ายก็คงจะตกลงละมั้ง ผมก็ฟังไปเพลินๆ (หรือเปล่า) จนถึงเวลาแยกย้ายจริงๆเกือบ 5 ทุ่มได้มั้ง(ไม่แน่ใจ ผมไม่ได้มาววววว.....)
……………………………………….

ขณะที่ผมเดินออกจากหอประชุมได้หน่อย ก็มีเสียงทักดังขึ้น

โจรปล้นสวาทหรือเปล่าเนี่ย

“กินตั้งนานไม่มีทีท่าว่าจะเมาเลยนะ คอแข็งจริงๆ” ตั้นนั่นเอง ไหนกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ มาได้ไงฟะ

“อ๋อ คอแข็งจริงๆ แต่เป็นคอของขวดนะ แต่คอคนไม่” ผมตอบ ชี้ที่คอ และส่ายหัวประกอบ

“ไม่ตลก ” เสียงตั้นตวาดขึ้น

“ไหนว่าจะไม่สนใจใครไง รอเรียนจบก่อน แต่ทำไมเห็นคุยกับนุกนิก เหมือนกับว่ามีกันอยู่สองคน งั้นแหละ” ตั้นพูดบีบเสียงประชดเต็มที่

แล้วมาพูดอะไรวะเนี่ย ..................... ผมสะอึกทันควัน
และพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

“เออ เขาเล่ากันว่า ตั้นกับอิ๊กคืนดีกันแล้วใช่มั้ย พี่ยินดีด้วยนะ” เอามือตบแขนตั้นเบาๆ

“เขาน่ะใคร ทำไมต้องเชื่อคนอื่น” เสียงหงุดหงิดเต็มที่

“เอ่อ ไม่ใช่อะไรหรอก ไม่เห็นบอกพี่ก็เท่านั้นเอง” ผมพูดขรึมๆ

“ทำไมต้องบอกล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”

ทำไมทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย

“เอ่อ จริงสิ พี่มันงี่เง่าไปหน่อย ขอโทษนะ นึกซะว่าพี่ไม่ได้ถามก็แล้วกัน” ผมข่มใจสุดๆหันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหอทันที


หายเมาเป็นปลิดทิ้งเลยว่ะ