Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 377
Message ID: 73
#73, RE: รักลึกลึก ไม่กล้าทึกทัก
Posted by คนอยากลึกลับ on 16-Feb-12 at 09:43 PM
In response to message #66
ตอนที่ 14 ตอนสุดท้ายแล้วครับ

หลังจากที่ละครของมหาวิทยาลัยจบลง ซัก.... ราวๆ 10 วันเห็นจะได้ ที่ผมไม่ได้เจอกับตั้นเลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบของผมเล่นเอาแทบคลานออกจากห้อง ขนาดคิดว่าวรยุทธ์ของตนพลิ้วไหวแล้วก็ยังไม่เข้าขั้นของท่านปรมาจารย์อีก แล้วจะผ่านการตัดตัวไหมเนี่ย

หาอะไรกินก่อน แวะดูของแถวนั้นอีกหน่อย ค่อยกลับหอพัก สามทุ่มกว่าแล้วสิ จะนอนให้เต็มอิ่มไปเลย

แต่จะนอนได้หรือเปล่าล่ะในเมื่อมันกลับมาคิดอีกแล้ว สุดท้ายก็เจ็บที่เราคนเดียว รู้ทั้งรู้ ผ่านโลกมาก็สมควรแล้ว ยังไม่ชินอีกหรือปั่นเอ๊ย...........
ที่หน้าหอ ผมเห็นเงาตะคุ่มๆที่โต๊ะหินอ่อนหน้าห้องพัก คงเป็นน้องข้างห้องออกมาสูบบุหรี่มั้ง ผมไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจอะไรมากมาย ขณะกำลังจะเปิดประตูเข้าไป

“เฮ้ พี่ปั่น ไม่ดูเลยนะว่าใครมานั่งรอ”

“อ้าว ตั้นเองเหรอ พี่นึกว่าคนข้างห้อง มีอะไรทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งรอ” ผมทักตั้นอย่างแปลกใจมาก ๆ

“ถ้าผมโทรมา พี่คงไม่รับหรอก ผมเข้าไปได้มั้ย”

“ทำไมจะไม่ได้ ทำเป็นเขยใหม่ไปได้”

ผมวางสัมภาระ หาน้ำมาให้ตั้นและตัวเอง ตั้นรับมาดื่มรวดเดียวหมด

“พี่ปั่น ผมขอโทษนะครับ ผมขอโทษจริงๆที่ทำอะไรที่ไม่ดีกับพี่” ตั้นพูดแล้วก็เข้ามาไหว้ที่อกผม ผมตกใจและก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย แต่ก็เอามือโอบกอดลูบหลังเบาๆ

“ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้ว่าตั้นคงจะเหนื่อย เรื่องแค่นี้ไม่ต้องขอโทษ ลูกผู้ชายขอกันกินมากกว่านี้” ผมตอบออกไป แต่ตั้นก็ยังกอดผมต่อ ผมก็กอดตอบอยู่อย่างนั้น

จิตใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รู้สึกดีมากๆ ในชีวิตนี้ตอนโตขึ้นมาผมแทบไม่เคยได้กอดใคร แม้แต่อดีตแฟนตัวเอง

“ขอบคุณพี่ปั่นมาก ที่ยังให้อภัยผม จนผมไม่รู้จะพูดอะไรดี” แล้วตั้นก็เงียบไป

“คือผมมีข่าวดีจะบอกพี่ 2 เรื่อง เรื่องแรกผมสอบทุนได้” ตั้นบอกด้วยอาการที่ดีใจ ขณะที่เรายังกอดกันอยู่

“สุดยอดมาก” ผมดันไหล่ตั้นออกเบาๆ เพื่อจะมองหน้าให้เต็มตา

“เก่งที่สุดเลย..........น้องชายพี่” ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมตั้นอย่างเอ็นดู

“แล้วเรื่องที่สองล่ะ” ผมถามต่อด้วยความตื่นเต้น

“คือ ผมกับอิ๊กเราตกลงจะกลับมาคบกันอีกครั้งครับ” ตั้นบอกด้วยใบหน้าปื้อนยิ้มเป็นที่สุด

“โอ้โห ข่าวดีทั้งคู่เลย พี่ขอแสดงความยินดีกับตั้นอีกครั้งหนึ่งเอ้า” ด้วยอารมณ์ตอนนี้ผมเป็นคนดึงตั้นเข้ามากอดอีกครั้งเหมือนกับว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้กอด

“พี่ปั่นคนนี้ ดีใจด้วยจริงๆ ตั้นจะได้มีความสุขซักที สมกับที่รอคอย ยังไงพี่จะเป็นกำลังใจให้เสมอนะ”


ผมทนไม่ไหวแล้วครับ

มันจุกอกไปหมด น้ำตาผมจะไหลแล้ว

ไม่ได้........... จะให้ตั้นเห็นน้ำตาเราไม่ได้เด็ดขาด นี่มันเป็นเรื่องน่ายินดีกับคนที่....ที่เรารัก ไม่ใช่เวลาจะมาร้องไห้ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

“เออ ตั้น เดี๋ยวพี่ขอสระผมหน่อยนะ ” ผมผละจากอ้อมกอดตั้นอย่างรวดเร็ว รีบหันหลังเดินไปห้องน้ำทันที
“เหม็นผมตัวเองมาก นั่งเล่นๆไปก่อนนะ แป๊บนึงๆ”

ผมรีบเปิดประตูห้องน้ำ เปิดน้ำให้แรงที่สุด ผมปล่อยโฮทันที

ไม่เหลือแล้วครับความอดทนทั้งหมดทั้งมวลที่เก็บกดเอาไว้
มันพังทลายหมดแล้ว ตอนนี้ เวลานี้กับน้ำตาที่กลั้นเอาไว้


.............................................
.
อยากร้องมากใช่มั้ย
เอ้า ร้องเลย ร้องซะให้พอ ร้อง ร้องเข้าไป ...........

………………………………………

..........แล้วจะร้องทำไมล่ะเนี่ย

ในเมื่อคนที่รักมีความสุขเราก็ควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอ

เอาหละ........นานแล้วเดี๋ยวผิดสังเกต หยุดเถอะ.....ปั่นไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเลย

ผมรีบสระผมจริงๆ ล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย เมื่อเห็นว่าเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็เปิดประตูออกมา รับคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมศีรษะไม่ให้เห็นร่องรอยตาที่บวมแดงอยู่ แลไปดูตั้นแว่บหนึ่ง ตั้นยังนั่งทำหน้านิ่งๆ ผมทำทีเป็นนั่งหันหลังให้และเช็ดเส้นผมไปด้วย
“ฮ้าสบายจังเลย แชมพูนี้ดีแฮะ เฮดแอนด์โชเฟอร์ ใช้แล้วหัวและไหล่ไร้รังแค ขนจั๊กแร้ก็ไม่แตกปลาย คำเตือน ห้ามดื่มขวดเกินวันละ 2 ขวด ” ผมทำตลกกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงตามที่สมองจะคิดได้ในตอนนั้น ไม่ให้ตั้นผิดสังเกตได้

“พี่ปั่น” เสียงตั้นเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย

“ครับ มีอะไรเหรอ”

“ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ทนฟังหน่อยก็แล้วกันนะ” ตั้นเห็นผมไม่พูดอะไรก็เล่าต่อ
“ผมรู้จักคน.....อยู่คนหนึ่งนะ เขาชอบทำตลกกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง เนียนด้วยล่ะ ชอบว่าตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ในทางตรงกันข้ามเขาเป็นคนดีมาก

ผมไปเมาหลับที่ร้านเขา เขาก็ไม่ไล่ แถมดูแลรถให้ด้วย ผมหกล้มเขาก็เข้าประคองหายาทาให้ ผมอกหักแทบตาย เขาก็คอยปลอบใจ มีปัญหาการเรียนภาษาก็ปรึกษาเขา

เขามีงานยุ่งเต็มไปหมด แต่เมื่อให้เขาช่วยขนของหนีน้ำท่วม เขาก็ไม่ปฏิเสธ ผมพูดไม่ดีกับเขา เขาก็ยังให้อภัยผม ผมเจอคนที่ดีขนาดนี้ .........” ตั้นหยุดพูดไปดื้อๆ

แล้วเข้ามากอดผมทางด้านหลัง

“ตั้นรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ” ผมตกใจมาก ยอมรับว่าสับสนไปหมด

“ผมรู้ตัวเสมอครับ แต่เขาคนนั้นยังไม่รู้ตัว เมื่อกี้ก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำครับ แถมมาทำตลกใส่อีก แต่ครั้งนี้ไม่เนียนเลย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเขาจะโหดเหี้ยม เลือดเย็นเหลือเกิน ไม่ยอมตอบผมซักที”
ผมไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น

“ตั้นหมายความว่าไงแน่”

“ พี่ไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าพี่รู้สึกยังไงกับผม และผม......รู้สึกยังไงกับพี่ ฮ้าพี่ปั่น”

“ตั้น อย่าเอาความอ่อนแอของพี่ มาล้อเล่นนะ”

“ล้อเล่น เหรอ เรื่องแบบนี้ผมกล้าล้อเล่นหรือพี่ปั่น”

“ถ้างั้น ..........................แล้วอิ๊กล่ะ ตั้นจะทำร้ายน้ำใจอิ๊กได้ลงคอเหรอ”

“โธ่พี่ปั่น ก็แค่มุกตื้นๆของผมเอง ที่ผมตกลงคบกับอิ๊กนั้น เราจะคบกันแบบเพื่อนน่ะครับ ที่งานละคร ผมเห็นพี่กับนุกนิกจี๋จ๋ากัน

ผมก็รู้ใจตัวเองแล้วครับ พี่ยังไม่รู้อีกหรือว่าผมน่ะ..............หึงนะ ผมแกล้งพูดไม่ดีกับพี่ก็เท่านั้นเอง อยากรู้ว่าพี่คิดยังไงกับผมบ้าง”

“ตั้นคิดดีแล้วใช่มั้ยที่พูด พี่มันคนไม่มีอะไร ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่ตั้นยังเด็ก หน้าตาดี มีคนชอบมากมาย อนาคตยังอีกไกล ตั้นจะมารักผู้ชายด้วยกันเหรอ ตั้นรับกับสังคมได้หรือเปล่า วันนี้รับได้ แต่วันข้างหน้าล่ะ ตั้นอาจอยากมีภรรยาที่น่ารักเป็นแม่ที่ดีของลูก แล้ว........”

“พอเถอะครับ ผมถามพี่ปั่นคำเดียว............................ รัก..ผมคนนี้บ้างมั้ย” เสียงตั้นมั่นคงมาก

“พี่................. พี่..........รัก............ตั้นมาก รักมากจนไม่อยากเสียตั้นไป ถึงได้ทำตัวแบบนี้ ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้ลึกสุดหัวใจ”
“พี่ปั่น” ตั้นกอดกระชับยิ่งขึ้น

“ผมดีใจจริงๆเลยนะครับที่ได้ยินคำว่ารักจากปากพี่ ถ้าเราต่างก็รักกันแล้ว ก็ต้องเชื่อใจกันนะครับ จะไปสนใจอะไรกับสังคม กับอนาคตมากมาย บางทีความรักก็ไม่ต้องการเหตุผลมาอธิบาย เพราะรักก็คือรักครับผม”

“ตั้น” ผมคราง ไหลออกมาอีกแล้วน้ำตา หันไปกอดตั้นซบตรงบ่า ทำอย่างที่ใจอยากจะทำใจจะขาด

“พี่ปั่นเชื่อผมนะ เรื่องของอนาคตก็ไว้อนาคตจะเป็นยังไงก็ช่าง ตอนนี้เรามีความสุข ก็ควรใช้ความสุขให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ดีกว่าหรือครับ ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่ามัวคิดนั่นคิดนี่ให้มันวุ่นวาย เดือดร้อนตนเองอยู่เลย”

“ตั้นขอบคุณมากนะ ขอบคุณจริงๆ” ผมไม่อยากเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้อีกแล้ว ผมกอดตั้นแน่นขึ้น สูดลมหายใจเอากลิ่นกายของเขาให้มากที่สุด

“พี่ปั่นครับ ”

“หือ”

“ ผม......ผม........

หายใจไม่ออก”

โธ่ ตั้นนะตั้น

พี่กำลังอินอยู่นะ
แล้วเราก็หัวเราะกันขึ้นมาอีก ขอบคุณมากนะตั้นที่ให้สติกับพี่ ใช่สิ ในเมื่อตั้นยังไม่แคร์กับอะไรเลย แล้วพี่จะไปแคร์ทำไมล่ะ อนาคตมันยังไม่เกิด แต่วันนี้เรามีความสุขก็ควรใช้ให้มันคุ้มค่าให้สมกับที่เกิดมาเป็นคนทั้งที

“ จะอะไรมากมายเนาะพี่ปั่น รัก ก็ รัก สิ ว่าไง”

“ครับ ตั้นว่าไง พี่ก็....รัก...ตามกัน”

เราโผเข้ากอดกันอีกครั้งให้สมกับความต้องการของหัวใจที่เคยเก็บไว้ในเบื้องลึกมานาน ที่เราทั้งคู่่ได้ปลดพันธนาการมันออกมา.....ซะที