Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 378
Message ID: 1
#1, RE: My First Boyfriend
Posted by katesnk on 04-Feb-12 at 03:06 PM
In response to message #0
ไม่อยากจะเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเองว่าหน้าตาอย่างนี้จะเป็นใบหน้าของพวกมิจฉาชีพ เขาดูไม่ใช่คนโหดร้ายอะไร ไม่มีท่าทีดุดันเหี้ยมเกรียม หรือกรรโชกโฮกฮากใส่ อายุอานามก็ไม่น่าจะมากพอที่จะทำเรื่องเลวร้าย ผมพยายามภาวนาว่าการที่เขาจับตัวผมมา อาจจะเป็นเพียงการล้อเล่น หรือเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

ในที่สุดผมก็สลัดความคิดในแง่ดีเกี่ยวกับตัวเขาทิ้งไปด้วยเกรงจะกลายเป็นมองคนร้ายกลายเป็นคนดี และพยายามจับจ้องเขาทุกอิริยาบถ เพื่อจะจำรายละเอียดให้ได้มากที่สุด อันจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เมื่อผมสามารถหลุดจากการคุมขังออกไปแจ้งความกับตำรวจได้ และหากเขาเป็นคนร้ายจริง

บอกกับตัวเองว่าจะต้องไม่ใจอ่อน เห็นแก่หน้าเปื้อนยิ้มไร้มลพิษนั่น บางทีความร้ายกาจอาจจะแฝงมาพร้อมกับความเป็นมิตรก็ได้ ในสภาวะที่ผมกำลังเป็นเหยื่อถูกจับมัด ทำให้ผมต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากที่จะต้องรักษาตัวรอด นอกเหนือไปจากการตัดสินคนที่อยู่ร่วมห้องอย่างรอบคอบ เพื่อจะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำเสียทีเอาง่ายๆ

มีผมกับเขาสองคนอยู่ในห้องตามลำพัง ผมคือคนถูกมัด ส่วนเขาคือคนที่ได้รับอิสระ เขาไม่ได้มาช่วยเหลือ แถมเมินเฉยต่อการดิ้นรนเอาตัวรอดของผม ดูตามรูปการแล้ว เขาต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ เพียงแต่จะเป็นผู้บงการ หรือเป็นแค่คนรับคำสั่งเท่านั้น

“ทานอาหารเช้าก่อนนะครับ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานนี้”

ประโยคแรกที่เขาเอ่ยปากพูดกับผมหลังจากจ้องหน้าตาหวานเยิ้ม ท่าทางที่ปฏิบัติต่อผมดูอ่อนโยนเหลือเกิน แต่ผมสนใจเรื่องนั้นเพียงเล็กน้อย รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดเขามากกว่า เพราะมันแปลความหมายได้ว่า เขาอยู่ด้วยตอนที่ผมถูกจับมาเมื่อคืนวาน

“ผมออกไปซื้อโจ๊กหมูใส่ไข่มาจากร้านอร่อยแถวตลาด แต่มันอาจจะไม่ถูกปากเท่ากับอาหารที่คุณเคยทานมา ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

คนแปลกหน้าพูดจากับผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คำพูดของเขาสุภาพไม่จาบจ้วงก้าวร้าวเยี่ยงวิสัยโจรร้ายทั่วไป จนผมเกิดความลังเลไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่จับผมมามัดไว้อย่างที่ผมสงสัยหรือไม่ ถ้าใช่ ก็แสดงว่าผมเจอเข้ากับโจรที่มีมารยาทดี หรือไม่ก็การศึกษาสูงพอสมควร ความหวังที่จะเจรจาต่อรองให้ปล่อยตัวผมคงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ผมจ้องหน้าโจรลักพาตัวเขม็ง พยายามค้นหาความจริงจากสีหน้า และกริยาอาการของเขา ซึ่งเด็กหนุ่มก็จ้องผมกลับด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มดุจเดิม

“เสียดายที่นี่ไม่มีครัว ไม่งั้นผมจะลงมือทำอาหารอร่อยๆให้คุณทาน เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับ ผมจะทำอาหารอย่างสุดฝีมือเลย รับรองคุณทานแล้วต้องติดใจแน่ๆเลยครับ”

หนุ่มลูกครึ่งยังคงพูดจาสุภาพกับผม ใบหน้ายิ้มละไม ท่าทางเป็นมิตรจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นโจร เขาคงต้องการล้อผมเล่นแน่ๆ

“ผมจะเอาผ้าออกจากปากให้นะครับ คุณจะได้ทานได้”

เขาเอื้อมมือมาดึงผ้าออกจากปากผม แล้วรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าที่ผมจะงับมือเขาได้ทัน ผมนึกอยากทำร้ายเขาด้วยความขุ่นเคืองคำพูดเขาเมื่อสักครู่ ไม่มีวันที่ผมจะยอมถูกจับมัดอีก และจะไม่ยอมกินอะไรของเขาด้วย เด็กหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นว่าปากของผมพลาดเป้า พลางทำน้ำเสียงหยอกล้อ

“ดุจังเลยนะครับ เห็นท่าทางใจดี ไม่คิดว่าจะใจร้ายอย่างนี้”

ไม่พูดเปล่า คนแปลกหน้ายังเอามือมาลูบไล้ที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบาและเลยมาที่ริมฝีปากก่อนจะชะงักค้างอยู่ตรงนั้น ท่าทางเขาพึงพอใจมากที่ได้สัมผัสผิวเนื้อของผม แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และมีประกายบางอย่าง ที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“นายเป็นคนจับฉันมามัดไว้ที่นี่หรือเปล่า”

เอ่ยปากถามให้แน่ใจ ถ้าเขาไม่ใช่คนทำ ผมก็จะได้ขอร้องให้เขาช่วย บางทีเขาอาจจะเป็นเพียงแค่ลูกน้องก็ได้ ท่าทางเป็นมิตรอย่างนี้ คงพูดง่าย และหากเขาต้องการเงินทองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ผมก็ยินดีให้ เพื่อแลกกับอิสรภาพของผม
เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มกริ่ม ผมรู้สึกผิดหวังที่เขายอมรับตรงๆ ด้วยหวังว่าเขาจะเป็นเพียงคนที่ถูกใช้มาดูแลผมเท่านั้น พร้อมๆกับรู้สึกโกรธตัวเองที่คิดกับเขาในแง่ดีเพียงเพราะเห็นหน้าตาซื่อใสและท่าทางเป็นมิตร ที่แท้เขาก็เป็นโจรอย่างที่ผมคิดไว้แต่แรก เขาเป็นคนจับผมมามัด คนที่โปะยาสลบผมก็คงเป็นเขานี่เอง ทำไมเขาต้องทำอย่างนี้กับผมทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แล้วเขาทำคนเดียว หรือมีคนอื่นๆคอยช่วยเหลือ ??

“นายเป็นใคร จับฉันมาทำไม เราเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันไหม”

ตั้งคำถาม พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง

“เปล่าครับ เราไม่เคยมีเรื่องอะไรโกรธเคืองกันแม้แต่น้อย”

เขาตอบ หน้ายังคงระรื่น ยิ่งทำให้ผมรู้สึกงุนงงแกมหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
“ถ้าเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน แล้วนายจับฉันมาทำไม นายเป็นโจรลักพาตัวหรือไง ถ้าต้องการเงินหรือรถก็เอาไปเถอะ แล้วปล่อยฉันไป รับรองฉันไม่เอาเรื่องนายหรอก”

ยื่นข้อเสนอให้เพื่อไถ่ตัวเองให้เป็นอิสระ ถ้าเขาเป็นโจรลักพาตัว เขาก็ต้องเห็นแก่เงินที่ผมหยิบยื่นให้ จะมากเท่าไหร่ ก็ยอมเสีย เงินทองของนอกกาย หาเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ชีวิตสำคัญกว่า ปรากฏว่าเขาส่ายหน้า ไม่มีทีท่าสนใจสิ่งที่ผมเสนอแม้แต่น้อย

“ผมไม่ใช่โจรเรียกค่าไถ่ครับ”

“ไม่ใช่โจร แถมไม่มีเรื่องบาดหมางกัน ถ้างั้นนายจับตัวฉันมาทำไม หรือว่าใครใช้ให้นายมาจับตัวฉัน”

ถามด้วยความงุนงง พยายามนึกว่าเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร หรือเคยทำให้คนบางคนไม่พอใจ จนถึงขนาดปองร้ายกับชีวิตของผมหรือเปล่า แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เท่าที่จำได้ผมไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง หรือทำให้ใครโกรธอย่างรุนแรง
แฟนสาวคนล่าสุดของผม เราก็จากกันด้วยดี แม้ว่าผมจะเสียใจอยู่บ้างที่เธอทรยศผมไปมีคนอื่น ทิ้งให้ผมต้องช้ำใจ แต่ผมก็ไม่คิดจะไปทำร้ายเธอหรือแฟนคนใหม่แต่อย่างใด ส่วนเธอเองก็ไม่น่าจะทำร้ายผม เพราะเธอไม่ได้เป็นฝ่ายถูกทิ้ง ผมต่างหากที่โดนหักหลัง ประเด็นของการแก้แค้นเพราะผิดหวังในความรักจึงน่าจะตัดออกไปได้

กับเจ้านายถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนจู้จี้ขี้โมโห และไม่พอใจการทำงานของผมบ้างในบางครั้ง มันก็แค่เรื่องของงานเท่านั้น เขาเป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่ง โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้เกลียดชังเขา แล้วเขาก็ไม่ได้รังเกียจผมแต่อย่างใด

เวลามีงานรื่นเริงที่บริษัท ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานทำให้ผมต้องนั่งโต๊ะเดียวกับเขาเกือบจะทุกครั้ง เราเคยดื่มเหล้าชนแก้วต่อแก้วด้วยกัน โดยปราศจากความขุ่นเคืองใจ เขามักจะคอยบอกสอนผมเรื่องงานเสมอ ผมให้ความเคารพเขา เราทำงานด้วยกันมานาน จนพอจะรู้นิสัยใจคอกัน เราไม่มีเรื่องบาดหมางกัน จึงเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เขาจะเกลียดชังจนมุ่งร้ายชีวิตผม

ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว และเพราะผมอกหัก จึงทำให้ผมทุ่มเทเอาใจใส่กับงานเพื่อให้ลืมความเจ็บปวด นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว ผมก็แทบจะไม่ได้ไปไหน หรือสังสรรค์กับใคร เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน เล่นกับหมาไปตามเรื่อง ชีวิตของผมค่อนข้างเรียบง่ายไม่ผาดโผน ไม่เป็นหนี้สินใคร ไม่เล่นการพนัน ไม่มั่วสุมอบายมุข กับเพื่อนบ้านก็อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ดังนั้นเมื่อต้องหาเหตุผลให้ตัวเองเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจึงตัดประเด็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งออกไป เหลือเพียงแค่การเรียกค่าไถ่ หรือปล้นทรัพย์อย่างเดียว ทว่าเมื่อคนลักพาตัวผมตอบปฏิเสธก็เลยทำให้ผมสับสนงุนงงมากยิ่งขึ้น

“ไม่มีใครสั่งให้ผมมาจับตัวคุณทั้งนั้นครับ นอกจากตัวผมที่สั่งตัวเองว่าจะต้องจับคุณมาให้ได้ แล้วก็ไม่มีใครร่วมมือกับผมทั้งนั้น ผมจับคุณมาด้วยตัวเองครับ”
เขาตอบด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม จับคนมามัด มาทรมานให้เขาได้รับความเดือดร้อนทั้งกายและใจ แล้วยังยิ้มอยู่ได้ แสดงว่าเลือดเย็นพอควร ไม่คิดเลยว่าคนหน้าตาดีๆอย่างเขาจะทำร้ายคนอื่นได้ลงคอ

แต่อย่างที่มีคนพูดเอาไว้ รู้หน้าไม่รู้ใจ คนที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย กลับกลายเป็นคนร้ายที่ทำเรื่องเลวทรามต่ำช้ามีอยู่เป็นจำนวนมาก มีข่าวลงหนังสือพิมพ์หรือในทีวีให้เห็นบ่อยๆ คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อก็เพราะเชื่อว่าตัวเองดูคนไม่ผิด ทำให้พวกหน้าซื่อใจคดสบช่องทางหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจ หลงเชื่อว่าเป็นคนดี เด็กคนนี้ก็คงจะใช้วิธีแบบเดียวกัน แต่ถึงจะทำดีกับผมแค่ไหน มันก็ยังลบความจริงไม่ได้ที่ว่าเขาคือโจรลักพาตัวผม