Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 391
Message ID: 189
#189, RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต
Posted by ตามอ่าน on 02-May-12 at 02:40 PM
In response to message #188
>จบแบบ Happy Ending
>คงถูกใจแฟนคลับหลายคน...
>แต่ผมอยากเห็นคุณเขียนแนวชีวิตจริงบ้างจัง ... แบบที่มันไม่ได้
>Happy Ending ไปซะทุกเรื่องอะครับ
>
>ขอบคุณมากนะครับ สำหรับความสุขที่มอบให้

เห็นด้วยครับ เสียดายฝีมือ นักอ่านบางคนก็กดดันคนเขียนเกิ๊น
ขู่จะเลิกอ่านถ้าไม่จบตามที่คิด ทำเอาคุณคนเขียนเครียด แหม ใจร้ายจริงๆ
ไม่ได้หมายความว่าคุณ sarawatta ต้องเขียนเรื่องกร้านโลกถึงจะดีนะครับ แต่อยากให้เป็นตัวเอง
คิดว่าตอนจบจะเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ได้คบกันก็ดี ไม่ได้คบกันก็ยังมีชีวิตต่อไปได้
อาจพบรักใหม่ กับคนเก่าเป็นเพื่อนกันไป ไม่ได้คบกันแต่ยังมีความทรงจำดีๆ ฯลฯ
อย่างเช่นรักแห่งสยามเป็นที่จดจำเพราะสมจริงและมีมุมมองสดใหม่ครับ
ตรงนี้คือความท้าทายในการเล่าเรื่องเลยครับ ว่าทำไงเรื่องเราถึงจะไม่จำเจ เป็นที่จดจำ

อย่างตอนที่ทิวเกือบขายตัว ผมว่าต่อให้ขายตัวไปแล้วก็ไม่เป็นไร
ทิวอาจสำนึกผิดในสิ่งที่เสียไปแล้วหวนคืนไม่ได้อีกและทำให้คิดถึงบูมยิ่งขึ้น
หรือบูมอาจจะเคยมีอะไรกับแพรวแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าให้มุมมองที่ใกล้เคียงกับชีวิตมนุษย์จริงๆ จะยิ่งทำให้โดดเด่นนะครับ
นิยายก็เหมือนศิลปะที่สะท้อนจิตวิญญาณของคนเขียน
ถ้าคุณเขียนเพราะกดดันจากที่คนอื่นหวังจะให้เป็นโน่นเป็นนี่ มันจะออกมาไม่เป็นตัวคุณครับ

ชอบคุณ sarawatta ตรงที่แทรกมุมมองชีวิตครอบครัว การทำงาน หรือสิ่งละอันพันละน้อยไปด้วย
ทำให้งานดูมีมิติแตกต่างจากนิยายเกย์ทั่วไปครับ ชอบดราม่าหนักๆ ด้วย อ่านแล้วเข้มข้นดุเดือด
แต่รู้สึกผู้หญิงในเรื่องจะร้ายไปหน่อยนะครับ ยิ่งคุณทิพย์นภาผมงงมาก
ดูโพรไฟล์คาแรคเตอร์เธอแล้วไม่น่าจะทำตัวเสียผู้ใหญ่ได้ขนาดนั้น
ต่อให้ผิดหวังเรื่องลูกก็ตาม ดูเหมือนนางร้ายละครไทยเลยครับ

จะลองยกตัวอย่างจริงนะครับ อย่างผมเคยถูกที่บ้านจับได้ว่าเป็นเกย์
แม่ไม่พูดกับผมกดดันเป็นเดือนๆ ไม่ต้องโวยวายสักคำ ผมเคยเห็นแม่แอบร้องไห้เงียบๆ
มีแขวะเบาๆ บ้าง เช่น อยากเป็นอะไรก็เป็นไปฉันไม่สนแกแล้ว โคตรเจ็บเลยครับกว่าที่บ้านจะรับได้
วันหนึ่งแม่ก็เข้ามาคุยกับผมเอง บอกว่างๆ พาคนที่คบอยู่มาทานข้าวที่บ้านสิ
ไม่มีการคุยยาวๆ ใช้ภาษาสวยๆ แต่สีหน้า ท่าทาง คำพูดไม่กี่คำทำให้ผมเข้าใจกับแม่ได้
ถ้าออกแบบตัวละครให้ใกล้เคียงกับมนุษย์จริงๆ มีดำบ้างขาวบ้าง มีผิดบ้างถูกบ้าง
มีทั้งด้านอัปลักษณ์และงดงาม ผู้อ่านก็จะยิ่งอินในความสมจริงครับ

ส่วนบทบาทตัวละครเทียบกับเรื่องต้นสน พัฒนาขึ้นมากครับ มีการสรุปที่มาที่ไปตัวละครสมทบ
อาจไม่ถึงกับต้องตามเก็บทุกคนจนเลอะเทอะยืดยาว อย่างพี่พงษ์ก็เป็นที่รู้กันว่าลาออกแล้วก็คงไม่เจอกัน
แต่อย่างลีน่า แอนเดอร์สัน มีอิทธิพลกับช่วงชีวิตปัจจุบันของทั้งคู่ ก็สมควรไปลามาไหว้กับคนอ่าน
อ่านแล้วเคลียร์ ไม่ใช่โผล่มาสมทบเนื้อเรื่อง แล้วจู่ๆ ก็หายแบบลืมไปเลยอย่างพี่มั่นคงในต้นสน
เรื่องนี้คุณทำได้ยอดเยี่ยมครับ เก็บเนื้อหาในส่วนตัวละครสมทบได้เคลียร์

สุดท้ายคือเอกภาพในเรื่องครับ ผมชอบที่คุณใส่ใจแทรกรายละเอียดปลีกย่อยในเนื้อเรื่องครับ
แต่จะสมบูรณ์กลมกล่อมยิ่งขึ้นหากคุณสามารถเชื่อมโยงให้เป็นเนื้อเดียวกับเรื่อง
มันจะลื่นและดูดีทีเดียวครับ เช่น

ฉากบูมกับแพรวให้แขกในงานวาดรูปบ่งบอกความคิดภายในใจ
แล้วเฉลยกล่องคืออีโก้ ดอกไม้คือคนในครอบครัว พายุคือปัญหา
อ่านแล้วผมไม่เก็ตว่าคำเฉลยต้องการบอกอะไรกับผู้อ่าน จะว่าบรรยายสภาพแวดล้อมก็ไม่ใช่
ตรงนี้จะดีมากถ้าคุณทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า ที่คุณใส่มามีสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องแบบมีจุดมุ่งหมาย
เช่น บูมอาจจะขอวาดด้วยคน แล้วแพรวอาจจะสังเกตเห็นภาพของบูมดูไม่ค่อยดี
จึงสะกิดถามว่าบูมมีปัญหาอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า
แบบนี้ก็จะทำให้ฉากกิจกรรมวาดรูปนั้นลื่นไหลและมีประเด็นให้คิดขึ้นมาเลยครับ

ติชมบ้างอย่าถือสาเลยครับ ผมชอบผลงานคุณครับถึงได้ตั้งใจวิจารณ์
ขอบคุณที่พิมพ์นิยายดีๆ ให้อ่านนะครับ คุณเป็นนักเขียนที่มีฝีมือ
มีไมตรีต่อนักอ่านและเป็นคนทำงานละเอียดมาก
หวังว่าจะได้อ่านนิยายที่สนุกเข้มข้นเรื่องต่อไปจากคุณครับอีกนะครับ