Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 391
Message ID: 36
#36, RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต
Posted by sarawatta on 18-Mar-12 at 07:16 AM
In response to message #0
แววดราม่าค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วนะครับ สองสามตอนต่อจากนี้ต้องอย่าพลาดครับ
สิ่งที่จะทำให้บูมรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คงไม่ใช่ทำให้ใครท้องนะครับ แต่เป็นอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้นเสียอีก อิๆ

-------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 13

ในระหว่างนั่งแท็กซี่กลับบ้าน บูมก็ได้นึกแต่โมโหตัวเองอยู่ในใจว่าทำไมเขาถึงไม่กล้าพูดความจริงออกไป เราขอโทษนายจริงๆ นะทิว บางทีอะไรๆ มันก็ไม่ง่ายอย่างที่เราคิด มีหลายครั้งที่เราอยากจะพูด แต่เรากลับไม่เคยได้พูดมันออกไปเลย ความรัก...บางทีมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพูดกันได้ง่ายๆ ยิ่งเป็นความรักแบบนี้แล้ว บูมไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป ยิ่งถ้าพ่อกับแม่ของเขารู้เข้า มีหวังเขาคงโดนย้ายโรงเรียนหรืออาจจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงกว่านั้น แต่นี่มันก็เทอมสุดท้ายแล้วที่เขากับทิวจะได้เจอกัน เขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเขากับทิวเป็นแบบนี้เลย มันคงเจ็บปวดมากที่เขากับทิวต้องจากกันไปทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจกันอยู่แบบนี้ เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างให้เร็วที่สุด

เสียงโทรศัพท์บูมดังขึ้น แจ้งเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้ามาจากเบอร์แปลกๆ ที่เขาไม่คุ้นเคย บูมเปิดอ่านข้อความก็พบว่ามันเป็นข้อความจากจิ๋วนั่นเอง

"หลับฝันดีนะบูม อย่าลืมฝันถึงจิ๋วด้วยนะ /จิ๋ว"

นี่คงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทิวเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับจิ๋วเลยจริงๆ เฮ้อ... แล้วทำไมอยู่ดีๆ จิ๋วก็เข้ามาในชีวิตของเขาตอนนี้ เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะมีทีท่าสนใจอะไรเขาเลย นี่เขาจะทำยังไงกับจิ๋วดีนะ

-----------------------------------------------------------------

"เฮ้ยพวกมึง วันศุกร์หน้ากูจะจัดงานวันเกิดที่บ้าน เชิญพวกมึงด้วยนะเว้ย ทุกคนเลย" บูมบอกเพื่อนๆ ในห้องในวันหนึ่งหลังเลิกเรียน เพื่อนๆ ในห้องส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ ปกติบูมจัดวันเกิดเงียบๆ ในบ้าน ไม่เคยชวนคนนอกมาร่วมเลย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บูมจะเชิญเพื่อนๆ มาร่วมงานวันเกิด แต่เขาก็ต้องคุยกับพ่อและแม่อยู่พอสมควร ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ ชีวิตบูมก็ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก มีเพื่อนที่สนิทที่พอคุยกันได้หลายคน เขาจึงอยากจะใช้งานวันเกิดครั้งนี้เป็นการเลี้ยงตอบแทนทุกคนที่ได้ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คิดแล้วก็น่าใจหายนะ จบแล้วเขาก็คงต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอกตามที่พ่อกับแม่ได้วางแผนและจัดการไว้หมดแล้ว เหลือแค่ให้เขาเรียนจบชั้น ม.6 แล้วก็เดินทางไปเท่านั้น

เพื่อนๆ ดูจะสนใจกันมากทีเดียวเพราะต่างก็วิ่งเข้ามาซักถามบูมกันใหญ่ว่าจะจัดงานแบบไหน ยังไง ใครมาบ้าง จะมีอะไรให้กิน ต้องแต่งตัวยังไง ฯลฯ

แน่นอน ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นๆ ทิวรีบปลีกตัวออกไปจากห้องเรียนด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนักโดยมีสายตาของบูมที่มองตามด้วยความสงสัยและเป็นห่วง ตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้พูดคุยกับบูมอีกเลย ทั้งสองคนมึนตึงกันถึงขั้นที่ทิวขอย้ายที่นั่งในห้องเรียนเลยทีเดียว

แต่ทิวก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ลงมาเตะฟุตบอลเพื่อคลายเครียด ช่วงนี้เขารู้สึกเครียดๆ มาหลายวันแล้ว บางทีหาอะไรสนุกๆ เล่นก็คงพอทำให้หายเครียดไปได้บ้าง แต่พอเล่นจนเสร็จจึงได้เห็นว่าบูมมานั่งรอเขาอยู่ ดูเหมือนว่าจะมานั่งรออยู่นานแล้ว ทิวเตรียมจะเดินหนีแต่บูมก็รีบวิ่งมาดักหน้าเขาไว้ก่อน

"ทิว คุยกันก่อนได้ไหม" บูมทำสีหน้าอ้อนวอน

".........."

"ทิว...อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วนะ เราอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม"

ทิวมีสีหน้าที่ดูเศร้ามากทีเดียว เศร้าเพราะเรื่องเมื่อวันนั้น เศร้าเพราะอีกไม่นานคนที่เขารักก็จะต้องจากไป เศร้าที่เขากับบูมต้องมาบาดหมางใจกันในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียงไม่นาน "ว่ามาเลย"

"ไปคุยกันที่อื่นดีกว่า" บูมเสนอพลางพยายามมองหาที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน จริงๆ ตอนนี้คนก็เริ่มกลับกันเกือบหมดแล้วล่ะ เหลือแค่ครูและนักเรียนอีกไม่กี่คนเท่านั้น พอเห็นที่เหมาะแล้วเขาก็เดินนำทิวไป

เมื่อนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บูมก็คุยต่อว่า "ทิว...เราขอโทษนะ นายจะให้เราทำอะไรก็ได้ ขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เรารู้สึกแย่มากเลยรู้ไหมที่เราต้องมาเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่เราก็จะต้องจากกันอีกไม่นานนี้" บูมหยุดมองดูเพื่อนที่เริ่มมีสีหน้าอ่อนลงแล้วก็พูดสืบไปว่า

"นายสำคัญกับเรามากนะทิว นายมีความหมายกับชีวิตของเรามาก ถ้าหากไม่มีนาย ชีวิตในโรงเรียนนี้ก็คงไม่มีอะไรต่างไปจากที่เราเคยเจอ เราก็คงเหงา เครียด ไม่มีเพื่อน ไม่ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยทำ ไม่ได้รู้จักมิตรภาพของเพื่อน หลายอย่างดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา เพราะว่าเรามีนายนะทิว นายรู้ไหม"

บูมพูดจบแล้วก็ดึงมือเพื่อนมาจับไว้ "เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะทิว...นะ...ชีวิตนี้เราคงไม่มีความสุข เราคงรู้สึกผิดมากถ้าเราจะต้องจากกันไปแบบนี้"

ทิวมองหน้าเพื่อนอย่างเพ่งพิจารณา คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ก็คือผู้ชายที่เคยให้อ้อมกอดที่อบอุ่นแก่เขา เคยเรียนด้วยกัน เคยร้องเพลงด้วยกัน เคยนอนคุยกัน เคยรดน้ำต้นไม้ด้วยกัน เคยติวหนังสือด้วยกัน และอีกหลายๆ ความทรงจำดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะดูเหมือนไม่นานมาก แต่ด้วยความใกล้ชิดและสนิทสนมกันที่เกินธรรมดา เขากับบูมก็กลายเป็นเพื่อนรักกันได้ไม่ยากนัก จนกระทั่งวันนี้ที่ความรักมันเลยเถิดมาไกลสำหรับเขา

ใช่... สำหรับเขาคนเดียวนี่นา บูมไม่ได้ผิดอะไรเลย เขางี่เง่าไปเอง งอนไปเอง เรียกร้องเอาจากเพื่อนมากเกินไป บูมไม่เคยเปลี่ยนไปเลย บูมก็ยังเหมือนเดิม มีแต่เขานี่แหละที่บ้าไปเอง นี่เขากลายเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไรกัน

"เรา...ก็ขอโทษนายด้วย เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะบูม" สำหรับทิวแล้ว ในตอนนี้ ไม่ว่ามันจะทำใจยากสักแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะยังมีความรู้สึกขัดเคืองใจอยู่มากแค่ไหน แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขากำลังจะจากไปอีกไม่นานนี้ เขาไม่อยากให้บูมกับเขาต้องจากกันไปแบบนี้เลย เพราะฉะนั้น เวลาที่เหลืออยู่นั้นสำคัญมากที่จะทำให้การจากกันครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับทั้งสองคน นั่นก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทิวต้องยอมและให้โอกาสให้เขากับบูมได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ทั้งสองหนุ่มลุกขึ้นแล้วก็โผเข้ากอดกัน เวลาที่เหลือจากนี้ไป เขาทั้งสองคนจะทำมันให้ดีที่สุด จะเป็นเพื่อนกันให้ดีที่สุด ไม่ใช่สิ บางทีมันอาจจะไปได้ไกลกว่านั้น ทิว...เราพร้อมแล้วรู้ไหม อีกไม่กี่วันนี้นายก็จะได้รู้ว่าที่จริงแล้ว เรากับนายก็อาจจะไม่ได้คิดต่างกันเลย

-------------------------------------------------------------------------

แล้วงานวันเกิดของบูมก็มาถึง เพื่อนๆ แต่ละคนตื่นเต้นกันมากทีเดียว ทั้งตื่นเต้นที่จะได้มาเป่าเค้กวันเกิด ได้มากินของอร่อยๆ ที่สำคัญ เพื่อนๆ ที่ได้มาเห็นบ้านของบูมต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะของคนจัดงานวันเกิดนั้นเป็นแบบไหน

บูมดูจะตื่นเต้นกับของขวัญวันเกิดกองพะเนินที่เขาได้มากทีเดียว เขาไม่เคยได้ของขวัญวันเกิดมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ของขวัญของใครก็คงไม่น่าสนใจเท่ากับของขวัญของทิวหรอก ทิวให้อะไรเขามานะ ทำไมกล่องมันไม่ค่อยใหญ่ แถมยังดูเบาๆ

"มันคืออะไรทิว" บูมถามพลางเขย่ากล่องของขวัญที่เพื่อนเพิ่งเอามาให้

"ไม่บอก รับรองนายต้องเซอร์ไพรส์" ทิวบอกพลางยิ้มมีความสุข "Happy birthday นะบูม" ทิวไม่ลืมที่จะบอกสิ่งสำคัญสิ่งนี้

"ขอบใจมากทิว จริงๆ แล้วการที่ได้รู้จักนายก็เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดแล้วล่ะ" บูมยิ้มมีความสุขเช่นกัน แต่พอคนอื่นเริ่มทยอยเข้ามา สองหนุ่มก็ต้องยุติการสนทนา ทิวแยกตัวไปนั่งกับเพื่อนๆ ที่เริ่มทยอยมาถึง ส่วนบูมก็ยืนต้อนรับแขกกับพี่บีม คุณทิพย์นภาสาละวนกับเรื่องอาหารการกิน ส่วนคุณลิขิตก็คอยดูความเรียบร้อยทั่วๆ ไป นอกจากนี้ก็ยังมีญาติๆ ของบูมอีกหลายคนที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในงานด้วย

พอเพื่อนๆ มากันครบหมดแล้ว พ่อกับแม่ของบูมก็ออกมาพูดต้อนรับและกล่าวอวยพรให้ลูกชายคนเล็กเนื่องในงานวันเกิด ปีนี้บูมอายุ 19 แล้ว จากนั้นทุกคนก็ช่วยกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้บูม จะว่าไปแล้ว บูมดูมีความสุขจริงๆ ที่ได้เป่าเค้กวันเกิดท่ามกลางเพื่อนๆ หลายสิบคน แทนที่จะเป่ากันแค่สามสี่คนเหมือนที่ผ่านมาซึ่งค่อนข้างกร่อยและน่าเบื่อสำหรับบูม หลังจากนั้นบูมก็ตัดเค้กแบ่งเพื่อนๆ มีพี่ชายและญาติๆ รุ่นราวคราวเดียวกับเขามาช่วยยกไปเสิร์ฟให้คนที่ไม่สะดวกมารับเองด้วย

จากนั้นเด็กๆ จึงแยกกันเป็นกลุ่มๆ นั่งกินอาหารกันไป อาหารที่จัดมาเลี้ยงเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกกินหลายอย่าง เพื่อนๆ ของบูมดูจะชอบกันมากทีเดียวเพราะอาหารหลายอย่างเป็นอาหารอย่างดีที่อาจจะหากินไม่ได้บ่อยๆ

"บูม" เสียงสาวน้อยคนหนึ่งเรียกดังขึ้นมา บูมหยุดกินข้าวแล้วหันไปมอง

"อ้าว จิ๋ว" บูมทักพลางยิ้มให้ จิ๋วรีบเดินเข้ามาหาแล้วก็ส่งของขวัญวันเกิดให้บูม

"โทษทีที่มาช้า พอดีรถเสีย Happy birthday นะ"

"ขอบคุณครับ" บูมรับของขวัญมาพลางยิ้มดีใจ "จิ๋วจะกินอะไรเชิญตามสบายเลยนะ เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ" บูมบอกแล้วก็เดินเอากล่องของขวัญไปวางรวมไว้กับของขวัญอื่นๆ ที่เขาได้มาบนโต๊ะ

เนื่องจากโต๊ะที่บูมนั่งมีเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว แถมจิ๋วยังไม่ค่อยสนิทกับคนอื่นๆ ในห้องของบูมมากนัก เธอจึงเลือกที่จะมานั่งกินข้าวที่โต๊ะของบูมหลังจากที่ได้เลือกของที่อยากกินมาแล้ว ด้วยความที่เป็นคนช่างพูด จิ๋วจึงชวนบูมคุยไม่หยุดโดยไม่ได้สังเกตดูเลยว่ามีใครมองด้วยความไม่พอใจหรือไม่

"อ้าวทิวจะไปไหน" บูมร้องทักเมื่อเห็นทิวลุกขึ้น

"เดี๋ยวเราไปหาเพื่อนๆ ตรงนั้นก่อน" ทิวบอกแล้วก็ลุกเดินออกไป เขาว่าจะไม่รู้สึกอะไรแล้วเชียว แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ บูมมองตามเพื่อนด้วยสายตาเป็นห่วง เขาเริ่มรู้สึกกังวลเพราะกลัวทิวจะโกรธเขาอีก แต่จิ๋วก็ชวนเขาคุยไม่หยุดเลย ถ้าจะลุกหนีไปก็คงเสียมารยาทมาก

จริงๆ ก็มีอีกโต๊ะหนึ่งที่ได้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ด้วยความไม่สบายใจด้วย ทิวกับบูมเพิ่งจะกลับมาพูดกันดีๆ เมื่อไม่กี่วันนี้เอง นี่จะต้องผิดใจกันอีกแล้วหรือ

"บูมมันไปชวนจิ๋วมาทำไมวะ รู้ก็รู้อยู่" ต้องบ่นกับปุ้ยและหม่าวอย่างไม่สบอารมณ์

"ให้มันได้อย่างนี้งี้สิ เดี๋ยวไอ้ทิวมันก็งอนเอาอีกหรอก ดูนั่นสิ มันเดินหนีไปแล้ว" หม่าวชี้ให้ดูทิวที่เดินไปนั่งคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง

"แล้วไอ้บูมมันรู้ตัวบ้างไหมนั่น ยังมานั่งคุยกับจิ๋วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก" ต้องบ่นอีก

"มึงดูไอ้ทิวสิ คอยแอบมองไอ้บูมตลอดเลยว่ะ" หม่าวชี้ให้เพื่อนสังเกตเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

"สงสารไอ้ทิวมันว่ะ มันคงรักไอ้บูมมาก ไอ้บูมนี่ก็ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย เดี๋ยวก็ยุให้ไอ้ทิวมันจับปล้ำเสียนี่" ปุ้ยพูดกะให้เพื่อนตลก แต่เขากลับจะโดนเพื่อนเขกหัวเป็นการตอบแทน

"ไอ้นี่มึง อย่าไปพูดให้ไอ้ทิวกับไอ้บูมมันได้ยินนะเว้ย" ต้องว่าพลางทำท่าจะเขกหัวเพื่อน แต่แล้วก็ต้องหยุดคุยกันเมื่อมีคนเอาน้ำอัดลมมาเสิร์ฟเพิ่มให้ แม่ของบูมนั่นเอง แต่คุณทิพย์นภาก็ไม่ได้พูดอะไร เอามาวางให้เด็กๆ แล้วก็เดินออกไป

ต้องกับเพื่อนอยากช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น จึงไปเรียกทิวมานั่งคุยที่โต๊ะด้วย สักพักต้องก็ไปตามบูมมาอีกคน แล้วก็ปล่อยให้ทิวกับบูมนั่งอยู่ด้วยกันแค่สองคน ส่วนพวกเขาก็เดินไปคุยกับเพื่อนๆ ที่โต๊ะอื่น

พอเพื่อนไปแล้ว บูมก็ลุกมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ทิว บูมพยายามสังเกตว่าทิวรู้สึกอย่างไรบ้าง ก็เห็นว่าทิวมีสีหน้าที่เศร้าเล็กน้อย บูมจึงเอามือโอบเพื่อนไว้เบาๆ เผื่อว่าจะทำให้ทิวรู้สึกอบอุ่นใจและรู้สึกดีขึ้น "ทิว นายไม่เป็นไรใช่ไหม อย่าคิดมากนะ เรากับจิ๋ว...เป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรหรอก"

บูมพูดแบบนี้อีกแล้ว เหมือนกับจะรู้ว่าทิวกำลังรู้สึกอะไรอยู่ข้างในใจ เหมือนกับจะรู้ว่าทิวไม่ได้คิดกับบูมแค่เพื่อนเท่านั้น ทิวยิ้มนิดๆ แล้วส่ายหน้า "เราไม่เป็นไรแล้วล่ะ"

บูมยิ้มให้เพื่อนด้วยความดีใจและเป็นสุข ทิวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในเวลานี้ เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะรักษาความรู้สึกของทิวไว้ จนกว่าวันที่เขาจะต้องจากไป

"นายจะกินอะไรอีกไหม เดี๋ยวเราไปเอามาให้"

"แล้วแต่นายละกัน" ทิวบอก

"เดี๋ยวมานะ" ว่าแล้วบูมก็ลุกเดินออกไปเลือกของกินของเขากับทิว พอได้แล้วก็มานั่งกินด้วยกันอย่างมีความสุข แต่บูมก็หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เขาทำเมื่อสักครู่นี้ถูกจับตามองด้วยสายตาที่ไม่พอใจของใครบางคนโดยตลอด