Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 391
Message ID: 38
#38, RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต
Posted by sarawatta on 18-Mar-12 at 07:39 PM
In response to message #0
ตอนนี้คงจะต้องบอกว่าเป็นตอนที่สะเทือนใจที่สุดสำหรับคนเขียนครับ
เขียนไปน้ำตาไหลไปครับ แต่ก็มีเหตุผลนะครับที่ทำให้เรื่องมันดำเนินไปแบบนี้
อย่าเพิ่งนึกว่าจบนะครับ ยังไม่จบครับ

----------------------------------------------------------------

ตอนที่ 14

หลังจากที่กินจนอิ่มแล้ว บูมกับทิวก็นั่งคุยกันอย่างสบายอารมณ์ บางทีบูมก็จะเดินไปคุยกับเพื่อนๆ ที่โต๊ะอื่นบ้าง แต่ไม่นานก็จะกลับมานั่งคุยกับทิวเหมือนเดิม จนช่วงใกล้ๆ เลิกงาน บูมก็เอ่ยขึ้นมาว่า

"ทิว...เรามีอะไรบางอย่างที่สำคัญที่เราอยากจะบอกนาย"

สายตาที่ดูมีความหมายบางอย่างของบูมทำให้ทิวเกิดอาการหวั่นไหวและตื่นเต้นไม่น้อย นอกจากนี้สายตาคู่นั้นก็ทำให้ทิวรู้สึกเขินอยู่เหมือนกัน ทิวไม่เคยเห็นสายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ของทิวเลย

"อะไรเหรอ" ทิวถามพลางหลบตาแก้เขิน

"คือว่า...เรา...เราจะบอกว่าเรา..."

"บูม"

ยังไม่ทันที่จะได้พูดสิ่งสำคัญเลย เสียงใครบางคนก็เรียกมาจากข้างหลัง บูมกับทิวหันไปมองก็เห็นว่าเป็นแม่ของบูมนั่นเอง "เพื่อนๆ เริ่มกลับกันแล้ว ทำไมไม่มาส่งเพื่อนล่ะ เรานี่ก็แปลกคน" น้ำเสียงคุณทิพย์นภาดูไม่พอใจนิดๆ แต่สายตาที่เธอมองดูทิวนั้นก็ทำให้ทิวถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว จริงๆ ทิวก็เคยมาติวหนังสือที่บ้านของบูมอยู่บ้าง แม้ไม่บ่อย แต่คุณทิพย์นภาก็คุ้นเคยกับทิวพอสมควร แต่ทิวก็ไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของคุณทิพย์นภาเลย

"ไปช่วยพี่บีมส่งเพื่อนๆ สิ" แม่ดุเสียงเขียว

น้ำเสียงที่คล้ายกับออกคำสั่งนั้นทำให้บูมต้องรีบลุกขึ้นทันที "เดี๋ยวค่อยคุยกันนะทิว" บูมบอกแล้วก็รีบเดินออกไป ไม่เป็นไรหรอก บอกพรุ่งนี้ก็ได้ บูมคิดในใจ

---------------------------------------------------------------------------

พอเพื่อนๆ กลับไปหมดแล้ว แทนที่บูมจะได้พักผ่อน เขาก็ถูกพ่อกับแม่เรียกขึ้นไปหา พี่บีมก็มาร่วมด้วย เห็นสายตาของพ่อกับแม่แล้วบูมก็พอเดาได้ว่าเขาคงโดนตำหนิด้วยเรื่องอะไรบางอย่างเป็นแน่

"นั่งลง" คุณทิพย์นภาออกคำสั่ง บูมกับบีมนั่งลงพลางหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะไม่รู้ว่าจะถูกตำหนิเรื่องอะไรอีก จริงๆ งานวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีเลยนี่นา

"ทิวนี่เขาสนิทกับบูมมากแค่ไหน" คุณทิพย์นภาถาม ส่วนคุณลิขิตไม่ได้พูดอะไร จริงๆ เขาได้คุยกับภรรยาบ้างแล้วล่ะ แต่งานนี้เขาคงให้ภรรยาเป็นคนจัดการเป็นหลัก

"ก็... ทิวก็เป็นเพื่อนสนิทกับผมครับแม่" บูมตอบเหมือนไม่แน่ใจว่าคำตอบนี้จะถูกใจแม่หรือเปล่า

"แม่ถามว่าสนิทแค่ไหน" น้ำเสียงนั้นเพิ่มความเกรี้ยวกราดขึ้นไปอีกนิด

"ก็...สนิทมากครับ"

"เพื่อนคนนี้ใช่ไหมที่บูมชอบไปค้างที่บ้านเขาบ่อยๆ"

"ครับ" บูมตอบ นี่แม่ของเขากำลังสงสัยอะไรกันแน่

"จริงเหรอ" คุณทิพย์นภาขึ้นเสียงสูง "แล้วเพื่อนคนนั้นมันทำอะไรบูมหรือเปล่า"

บูมเริ่มงงกับสิ่งที่แม่พยายามจะสื่อสารกับเขามากขึ้นทุกที "แม่กำลังพูดอะไรอยู่ครับ ผมไม่เข้าใจ" บูมหันไปมองหน้าพี่ชายก็เห็นพี่บีมทำหน้างงๆ เช่นกัน

"ไม่เข้าใจได้ยังไง คบกันมาตั้งนาน ไม่รู้เหรอว่าเพื่อนคนนั้นของบูมเป็นเกย์"

บูมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นี่แม่เขาไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนกัน ตอนที่เขาพาทิวมาที่บ้านก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลย แม้กระทั่งเมื่อสักครู่นี้ก็ไม่น่ามีอะไรทำให้แม่รู้ได้ว่าทิวเป็นเกย์เลย "อะไรนะครับแม่" เสียงบูมสั่นพร่าและเบาหวิว

"แม่ขอสั่งห้ามนะบูม เลิกคบกับเพื่อนคนนั้นอย่างเด็ดขาด แม่รับไม่ได้ พ่อเขาก็รับไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่อยากมีลูกสะใภ้เป็นผู้ชายนะบูม เข้าใจไหม"

บูมทะลึ่งตัวลุกขึ้นยืนทันที เขาไม่มีวันยอมที่จะทำตามคำสั่งนี้อย่างเด็ดขาด "ไม่ครับแม่ ทิวเป็นเพื่อนของบูมนะครับ เราไม่เคยทำอะไรเสียหาย ถึงทิวเขาจะเป็น....เป็นเกย์ แต่ทิวเขาก็เป็นคนดีนะครับแม่ ผมทำตามที่แม่บอกไม่ได้"

"นี่เถียงแม่เหรอบูม แม่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นว่าเพื่อนลูกคนนี้เขาจะเป็นคนดีแค่ไหน แต่เขาเป็นเกย์ เป็นพวกวิปริตผิดเพศ วันนี้เขาไม่ทำอะไรลูก แต่ถ้าเกิดวันหน้าเขาทำขึ้นมาล่ะ คนพวกนี้มันบ้ากามมั่วเพศแค่ไหนก็เห็นๆ อยู่ จะให้พ่อกับแม่ไว้ใจได้ยังไงฮะบูม"

"แม่" บูมร้องเสียงดังและเริ่มร้องให้ บีมรีบลุกขึ้นมาบีบไหล่ให้กำลังใจน้องชายเมื่อเห็นว่าเรื่องชักจะไปกันใหญ่ เขาเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันที่พ่อกับแม่มีความคิดแบบนี้อยู่

"บูม ทำไมเสียงดังกับแม่แบบนั้น" คุณลิขิตลุกขึ้นมาตำหนิลูกชายคนเล็กอีกคน "ขอโทษแม่เขาเดี๋ยวนี้" พ่อออกคำสั่ง

บูมมองหน้าพ่อที่ดูไม่พอใจอย่างมากแล้วก็รู้ว่าถ้าเขาไม่ทำตามที่พ่อบอกคงได้เป็นเรื่องแน่ๆ "ผมขอโทษครับแม่ แต่ผมทำตามที่แม่บอกไม่ได้ ยังไงผมก็ทำไม่ได้" บูมบอกพลางสะอื้น

"ทำไมทำไม่ได้ อย่าบอกนะว่าบูมก็..." คุณทิพย์นภาถึงกับมือไม้สั่น "บูม...บูมไม่ได้เป็นแบบนั้นใช่ไหม"

"แม่... ทิวกับบูมเขาเป็นเพื่อนกันนะครับ เขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ทำไมแม่จะต้อง..." บีมเริ่มช่วยน้องชาย

"แกเงียบไปเลยนะบีม เรื่องอื่นแม่ยังพอยอมได้บ้าง แต่เรื่องนี้ยังไงแม่ก็ไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม" คุณทิพย์นภาตวาดลูกชายคนโต "ว่าไงบูม ตอบแม่มาซิ บูมไม่ได้เป็นอย่างเพื่อนคนนั้นใช่ไหม"

"ผมไม่ทราบครับแม่" บูมตอบออกมาในที่สุด "แต่ไม่ว่าจะยังไง ผมก็จะไม่ยอมเลิกคบกับทิว ทิวเป็นเพื่อนผมนะครับแม่ ทิวเป็นคนดี ทิวเขาไม่ได้ผิดอะไร"

"ก็เอาสิ ถ้าบูมไม่เชื่อแม่ ไม่ทำตามที่แม่สั่ง ก็อย่ามาเรียกแม่ว่าแม่ละกัน"

ทั้งบูมและพี่ชายต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน

"แม่" บูมเสียงแหบพร่า เขาไม่คิดเลยว่าแม่จะรังเกียจเพื่อนของเขาถึงขนาดนั้น

----------------------------------------------------------------------------

เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศสดใสทีเดียว แต่ก็อาจจะร้อนไปหน่อยเพราะเป็นช่วงหน้าร้อน ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ปิดเทอมแล้วและเป็นช่วงที่มีการสอบปลายภาค นักเรียนที่มาถึงโรงเรียนส่วนมากจึงนั่งอ่านหนังสือทบทวนการเรียนกันเป็นส่วนใหญ่เพื่อเตรียมตัวสอบ

สิ่งที่แปลกไปในวันนี้ก็คือ ทำไมอยู่ดีๆ บูมก็ย้ายที่นั่งไปอยู่ข้างหลังห้อง แถมมีสีหน้าท่าทางที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลยทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นวันเกิดมาเมื่อคืนนี้เอง ทิวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ได้แต่หวาดหวั่นในใจ นี่จะต้องมีอะไรไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าหนอ

"บูม... ทำไมนาย...ย้ายมานั่งตรงนี้ล่ะ"

บูมซึ่งกำลังนั่งเหม่อลอยมองไปที่หน้าต่างหันมามองเพื่อน สายตาของบูมมีร่องรอยของความเจ็บปวดบางอย่างที่ทิวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

"ไม่มีอะไรหรอก เราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ เผื่อจะทำให้มีสมาธิมากขึ้น" บูมตอบแล้วก็หลบหน้าไป

มีสมาธิมากขึ้นงั้นเหรอ แล้วทำไมบูมถึงเอาแต่เหม่อลอยไม่ยอมอ่านหนังสือล่ะ "มีอะไรหรือเปล่าบูม เราว่ามันแปลกๆ นะที่อยู่ดีๆ นายก็มาย้ายมานั่งตรงนี้ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า" ทิวถามอย่างเป็นห่วง

เพื่อนๆ คนอื่นๆ เริ่มทยอยออกจากห้องไปเพราะใกล้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว

"ทิว..." บูมเรียกชื่อเพื่อนโดยไม่หันมามองหน้า "เรา...เลิกคบกันเถอะนะ" บูมกัดฟันพูดออกไปอย่างเจ็บปวด เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดใจขนาดนี้มาก่อนเลย แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใด เขาเคยชินกับการถูกบังคับให้คิดและให้ทำ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะขัดขืน โดยเฉพาะเมื่อแม่ได้ยื่นคำขาดมาถึงขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินที่คนที่เป็นลูกจะเนรคุณพ่อแม่ ยังไงแม่ก็คือคนที่มีบุญคุณกับเขามากที่สุด เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักที่เขาจะไม่สามารถเรียกแม่ของตัวเองว่าแม่ได้อีก มันเป็นการบีบบังคับที่เขาไม่มีทางสู้ได้เลย

เหมือนทิวจะโดนฟ้าผ่าในหน้าร้อนเสียอย่างนั้น หรือว่าเขาจะฟังผิดไป มันไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรนี่นาที่จะทำให้บูมต้องโกรธเขาจนถึงกับบอกให้เลิกคบกันแบบนี้ "อะไรนะบูม นายพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้"

แต่บูมก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบใดๆ แสดงว่าสิ่งที่บูมพูดเมื่อกี้ก็ชัดเจนแล้ว นี่หรือเปล่าคือสิ่งที่นายอยากบอกเราเมื่อคืนนี้ ทิวอุตส่าห์จินตนาการถึงเรื่องดีๆ มีความหวังว่าบูมก็คงรู้สึกไม่ต่างจากเขา แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเลย

ทิววิ่งออกไปจากห้องทันที เขาวิ่งเข้าไปในห้องน้ำในตัวอาคารเรียนแล้วก็ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น ส่วนบูม พอเพื่อนวิ่งออกไปแล้วเขาก็ซบหน้าลงโต๊ะเรียนและร้องให้เช่นกัน สิ่งที่เขาวาดหวังไว้ทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ "ขอโทษนะทิว เราขอโทษ" บูมเอ่ยประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ แต่จะมีประโยชน์อะไรเพราะทิวไม่ได้ยิน

-------------------------------------------------------------------

ตอนเที่ยง บูมก็แยกไปกินข้าวโดยลำพัง แต่ก็มีจิ๋วตามมาคุยด้วยอีกตามเคย แน่นอน นั่นย่อมต้องทำให้ทิวเข้าใจว่าบูมคงไม่ได้คิดกับจิ๋วแค่เพื่อนแล้วล่ะ และยิ่งทำให้ทิวเข้าใจไปในทางนั้นมากขึ้นเมื่อจิ๋วกับบูมเดินออกไปด้วยกันหลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว

จิ๋วพาบูมออกมายังที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน แล้วเธอก็ตัดสินใจสารภาพบางสิ่งบางอย่างเพราะเธอเองก็ทนเก็บมันไว้ไม่ไหวเช่นกัน ยิ่งรู้ว่าบูมกำลังจะจากไปเธอยิ่งอยากบอกให้บูมรู้ก่อนที่มันจะสายเกินไป "บูมจะว่าอะไรไหม ถ้าเราจะบอกว่าเรา...ชอบบูม" จิ๋วบอกด้วยท่าทางประหม่าปนเขินอาย

อาจไม่ใช่สิ่งที่ต่างไปจากที่บูมคิดมากนัก เขาก็เลยไม่ได้ตกใจอะไรมาก แต่ตอนนี้บูมไม่มีกะจิตกะใจที่จะรักหรือไม่รักใครทั้งนั้น "เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะจิ๋ว" บูมตัดสินใจบอกไป เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับใครอีกแล้วในตอนนี้

"เหรอ... บูมคงมีใครอยู่แล้วสินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก จิ๋วก็แค่อยากบอกบูมเท่านั้นเองว่าจิ๋วคิดยังไง ก่อนที่จิ๋วจะไม่มีโอกาสได้บอกบูมอีกเลย"

บูมได้ฟังแล้วก็สะท้อนใจ อย่างน้อย จิ๋วก็ยังมีโอกาสได้บอกความรู้สึกของตัวเองกับคนที่เธอรัก แต่เขากลับไม่มีโอกาสนั้นเลย แถมยังต้องมาบาดหมางใจกันอีก

"ขอบใจนะจิ๋ว จิ๋วก็เป็นเพื่อนทีดีอีกคนของบูมนะ" บูมพยายามยิ้มทั้งๆ ที่ในใจเขาแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดแล้ว จิ๋วพยักหน้า กะพริบตาถี่ๆ แล้วก็รีบเดินจากไป ถึงเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เธอก็อดเสียใจไม่ได้ที่ถูกปฏิเสธความรักนั่นเอง

ก่อนที่บูมจะได้ไปไหน ต้องก็ตามมาเจอเขาพอดี ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงใดๆ ทั้งสิ้น ต้องรีบปรี่เข้าไปต่อว่าบูมทันที "บูม มึงเป็นบ้าอะไรของมึง ทำไมมึงทำแบบนี้วะ มึงรู้ไหมว่าทิวมันเสียใจมากแค่ไหน"

บูมหันมามองต้อง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร "มึงเป็นอะไรล่ะบูม ทำไมทำแบบนี้ ไม่สงสารไอ้ทิวมันบ้างหรือไงวะ จะจากกันไปอยู่แล้ว มีปัญหาอะไรก็พูดคุยกันได้นี่" ต้องพยายามคาดคั้น

"กูขอโทษ แต่มึงไม่ใช่กู มึงไม่รู้หรอกว่าทำไม ปล่อยกูไปเถอะ ปล่อยให้ทิวได้เจอคนที่ดีกว่ากูดีกว่า คนขี้ขลาดอย่างกูไม่เหมาะกับคนดีๆ อย่างทิวหรอก" บูมพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ต้องเห็นแล้วก็ตกใจ ถึงจะไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนพูดนักแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปคาดคั้นอะไรอีก

------------------------------------------------------------------------

วันสุดท้ายแล้วที่นักเรียนชั้น ม.6 ทั้งหมดจะได้อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ โรงเรียนที่เต็มไปด้วยความทรงจำและมิตรภาพที่สวยงามของคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ในวันนี้ นักเรียนชั้น ม.6 ทุกคนจึงทำตามธรรมเนียมปฏิบัติคือการเขียน Friendship ให้เพื่อนๆ แต่หลายคนใช้วิธีการให้เพื่อนใช้ปากกาเคมีเขียนลงบนเสื้อนักเรียนแทนที่จะเขียนในสมุด นอกจากเพื่อนในห้องแล้วก็อาจจะให้เพื่อนในห้องอื่นๆ เขียนให้ด้วย หรือรุ่นน้องบางคนก็มาเขียนให้เพื่อนรุ่นพี่ที่เขาประทับใจด้วยเช่นกัน

ทิวก็เหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ ที่จะจบแล้ว เขาเดินไปทั่วโรงเรียนเพื่อที่จะเขียน Friendship ให้เพื่อนหรือไม่ก็ให้เพื่อนๆ เขียนให้เขา แต่ไม่ว่าเขาจะไปตรงไหน เขาก็ไม่เจอบูมเลย นี่บูมถึงกับจะไม่เขียนอะไรให้เขาบ้างเลยหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ ที่ผ่านมาสามปี ที่เคยดีต่อกัน ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ไม่มีความหมายใดๆ เลยหรือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นไปได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบูมจะไม่ไยดีเขาเลย ทิวรู้สึกถึงความหวิวโหวงในใจ ใจหายเหลือเกิน ถ้าเขาเพียงแต่เจอบูมอยู่ตรงไหนสักแห่งในตอนนี้ เขาจะยอมทิ้งความเจ็บปวดขุ่นเคืองทุกอย่าง ขอแค่ให้เขาได้กอดเพื่อน ได้ร้องให้ ได้ร่ำลาและได้บอกความในใจสักครั้ง

ในส่วนของบูม หลังจากที่หลบหน้าทิวมาสักพัก เขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาฝืนหัวใจของเขาไม่ไหวแล้ว อีกแค่ชั่วโมงเดียวแม่ของเขาก็จะมารับแล้วเพราะบูมต้องบินไปอเมริกาคืนนี้เลย ไม่ได้แล้วล่ะ เขาจะต้องคุยกับทิวให้ได้ ไม่งั้นเขาจะไม่มีโอกาสอีกเลย คิดได้แล้วบูมก็วิ่งตามหาทิวไปทั่วโรงเรียน

"เห็นทิวไหม มีใครเห็นทิวบ้าง ทิว นายอยู่ไหน" บูมเดินถามเขาไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครเห็นทิวเลย จนกระทั่งเขาบังเอิญเจอต้อง บูมก็รีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนทันที "ต้อง...มึงเห็นทิวไหม กูอยากคุยกับทิว แม่กูกำลังจะมารับ กูจะต้องไปแล้ว กูอยากคุยกับทิว มึงช่วยตามหาทิวให้กูหน่อยได้ไหม"

เสียงเร่งเร้าของบูมนั้นทำให้ต้องแทบไม่ต้องใช้เวลาคิดเลย "ได้ๆ เดี๋ยวกูจะช่วยตามหาให้" ต้องบอกแล้วก็รีบออกช่วยวิ่งตามหาทิวอีกแรง ผ่านไปซักพัก คนที่เจอทิวเป็นคนแรกก็คือต้อง ทิวหลบเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำของครูที่ใต้ตึกเรียนนั่นเอง พอต้องเห็นทิวเดินออกมาจากห้องน้ำก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที

"ทิว..ไปเร็ว บูมมันตามหามึงอยู่รู้ไหม แม่มันจะมารับกลับบ้านแล้ว มันจะบินไปอเมริกาคืนนี้เลย เร็ว เดี๋ยวไม่ทัน"

ได้ฟังอย่างนั้นแล้วทิวก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตามต้องไปทันทีด้วยใจระทึก ทิวได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาได้คุยกับบูมสักครั้ง ได้เห็นหน้าบูมอีกสักครั้งเถอะ นายอย่าเพิ่งรีบไปนะบูม รอเราก่อน

"ปุ้ย เห็นไอ้บูมไหม" ต้องถามเมื่อบังเอิญเจอปุ้ยที่กำลังเดินเขียน Friendship อยู่

"แม่มันมารับแล้ว สงสัยออกไปแล้วมั้ง" ปุ้ยตอบ

ใจของทิวหล่นวูบไปอยู่ที่พื้น แต่เขาไม่มีเวลาที่จะถามหรือคร่ำครวญอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ เขารีบวิ่งสุดแรงเกิดไปที่ถนนหน้าอาคารเรียนทันที รถเก๋งยุโรปหรูหราคันนั้นทิวจำได้ดี มันกำลังแล่นออกไปและพาคนที่เขารักจากไปด้วย ทิววิ่งตามสุดชีวิตพลางตะโกนร้องเรียกเพื่อน

"บูม บูม บูม"

แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารถคันนั้นจะหยุดและจะมีใครสักคนหันมามองเขาเลย ทิวทรุดตัวลงนั่งร้องให้โฮกลางถนนเมื่อรถเก๋งคันนั้นได้วิ่งพ้นเขตโรงเรียนไปแล้ว

"บูม"

เขาเรียกชื่อเพื่อนและคนที่เขารักเป็นครั้งสุดท้ายและก็ไม่มีเสียงพูดใดๆ จากทิวอีกนอกจากเสียงที่เขาร้องให้ปานจะขาดใจ ต้องและเพื่อนๆ ที่วิ่งตามมาได้แต่ยืนมองด้วยความสงสารเพื่อนอย่างจับจิตจับใจ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทิวก็ไม่เคยได้เจอหรือได้ข่าวคราวของบูมอีกเลย ราวกับว่าได้ตายจากกันไปแล้ว เหลือแค่ความทรงจำที่บางครั้งก็นึกถึงด้วยความเจ็บปวด แต่บางครั้งก็ยิ้มมีความสุขกับเรื่องราวดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปเหมือนสายน้ำที่จะไม่มีวันไหลย้อนกลับมาที่เดิมอีกเลย

----------------------------------------------------------------

ไปเจอเพลงนี้โดยบังเอิญ คิดว่าเข้ากับตอนนี้ของเรื่องมากๆ เลย เฮ้อ เศร้าจัง
http://www.youtube.com/watch?v=_44-OSushbM

ป.ล. ผมเปลี่ยนบทนิดหน่อยนะครับ ตอนแรกตั้งใจจะให้จิ๋วกับบูมเป็นแฟนกัน แต่มันดูโหดร้ายกับทิวมากไปหน่อย ก็เลยเปลี่ยนดีกว่า