Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 404
Message ID: 6
#6, RE: บันทึกรัก...บันทึกร้าว
Posted by Ex on 09-Apr-12 at 08:18 PM
In response to message #5
กรี๊๊ดดดดด ! โพสได้ งั้นเอาไปอ่านเลยค่ะ บันทึกหน้าต่อมา


9 เมษายน 2555


มาแล้วค๊า….บันทึกรักบันทึกร้าวหน้าใหม่ของเดี้ยน มีใครรออ่านกันมั้ยคะ ต๊าย! เสนอหน้ามารออ่านกันอย่างพร้อมเพียง อิอิ ขอจัดระเบียบนิดนึงนะคะ เพื่อเพิ่มกำลังใจในการเล่า

ผู้ชายนั่งหน้า ผู้หญิงนั่งกลาง กะเทยเชิญข้างหลังค่ะ ตามนี้นะคะ มีระเบียบกันนิดส์นึง

เอาล่ะได้ที่นั่งกันเรียบร้อยแล้วดิฉันจะเริ่มเล่าต่อค่ะ เมื่อวานถึงไหนแล้วนะ

“ไม่สวยแล้วยังความจำเสื่อมอีก เซ็งจริงอะไรจริงกับกะเทยแก่”
“อ๊ะ! น้ำเสียงคุ้นๆ วันนี้ก็มาเหรอจ๊ะเจ๊ป้า แหมนั่งหลังสุดก็ยังมีแรงส่งเสียงกัดดิฉันนะคะ”

“ใครป้าหล่อนยะ นั่งหลังก็เพราะหล่อนไล่มาน่ะแหละ เล่ามาเร็วๆ เข้าเหตุการณ์ที่ตาตี๋น้อยกล่าวหาว่าหล่อนไปเร่ขายตูดสนามหลวงน่ะ”

“ค๊า…ขอบคุณที่ทวนเรื่องราวให้นะคะ คุณน้องจะเล่าต่อ ณ บัดนี้ แต่คุณพี่ห้ามขัดคอนะคะ”

อีป้าหน้าปลวกเงียบเสียงแล้ว งั้นดิฉันก็ขอเล่าต่อค่ะ เหตุการณ์ที่ไอ้ตี๋น้อยมันหาว่าดิฉันไปเร่ขายตูดที่สนามหลวงถือเป็นฉากแรกที่ดิฉันได้คุยกับไอ้ตี๋น้อยค่ะ

หลังจากที่ดิฉันลอบมองมันมานานสองนาน เหตุการณ์นั้นมันผ่านมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ ตอนนั้นดิฉันอายุ 19 เป็นสาววัยเอ๊าะน่าจับมาเฉาะตูดเลยล่ะค่ะ

“อีดอกบอกสรรพคุณซะกูฮาน้ำหมากไหล”

“ระวังฟันปลอมร่วงด้วยนะคะป้า คนสวยเป็นห่วงค่ะ”

“เออ ฉันดูแลตัวเองได้ ว่าแต่หล่อนรีบเล่าต่อเถอะย่ะ”
อีป้าเร่งมาดิฉันก็จัดให้ค่ะ เรามานั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูสถานการณ์ตอนนั้นกันเถอะค่ะ

สนามหลวงตอนนี้เป็นยังไงบ้างดิฉันไม่อาจรับรู้นะคะ เพราะไม่ได้ไปเหยียบมันมานานแล้วค่ะ ข่าวคราวอะไรดิฉันก็ไม่ได้ได้ตามติด แต่ถ้าจะถามว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนเป็นยังไง ดิฉันจะสาธยายให้ฟังเท่าที่ดิฉันได้สัมผัสมาบางมุมค่ะ

สมัยนั้นตอนกลางคืนที่แห่งนี้เปิดโล่งนะคะ ใครใคร่จะเข้ามาทำอะไรได้ทั้งนั้น ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่พิสมัยจะมาเดินเล่นรอบๆ สนามหลังเลิกงาน
“ต๊าย ตาย อายุ 19 หล่อนทำงานแล้วเหรออีเอ็กซ์”
“ค่ะป้า ดิฉันทำงานแล้วค่ะตอนนั้น เป็นสาวโรงงานพิมพ์ผ้าค่ะ ฐานะทางบ้านไม่รวยนี่คะ เข้ากรุงเทพฯ มาก็มาทำงานนี่แหละค่ะ ค่าแรงตอนนั้นขั้นต่ำถ้าจำไม่ผิดวันล่ะ 170 บาทค่ะ โอทีไม่มีนะคะป้า เข้างาน 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็นค่ะ”

“หล่อนเป็นคนที่ไหน”

“คนทุกที่ค่ะ”

“อีดอก กูถามดีๆ เสือกกวน”

“อิอิ ก็ถามมาสิคะว่าดิฉันเป็นคนจังหวัดไหน แต่ถึงถามก็ไม่บอกค่ะ เพราะคนสวยชอบมีอะไรให้น่าค้นหาค่ะ”

“ค่ะอีสวย อ่ะ กูเลิกถามแล้ว เล่าต่อๆ”

อีป้าเงียบเสียง ดิฉันก็ขอเล่าต่อค่ะ ทุกวันที่ดิฉันเลิกงานตอน 5 โมงเย็น ดิฉันก็โหนรถเมล์เขียวเล็กมาที่สนามหลวงเลยค่ะ แทบจะทุกเย็น บอกรายละเอียดอีกสักนิดว่ารถเมล์สาย 6 พระประแดง-บางลำพูค่ะ เผื่ออีป้าถาม

สมัยนั้นดิฉันซุกหัวนอนอยู่แถวๆ พระประแดงค่ะ อยู่กับพี่สาวในห้องเช่าเล็กๆ ถามว่าทำไมดิฉันถึงพิสมัยที่จะมาสนามหลวง ขอตอบแบบไม่อายเลยค่ะ ว่าในความคิดของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่เข้าเมืองหลวงมาได้ไม่ถึงปี

ที่แห่งนี้คือสถานที่เที่ยวที่หรูที่สุดแล้วค่ะ มาเดินสวยๆ ภายใต้แสงสปอร์ตไลต์ใต้เงาต้นมะขาม เริ่ดค่ะ ไม่มีอะไรที่จะเริ่ดกว่านี้ได้อีกแล้วในความคิดดิฉันตอนนั้น

“อีดอกกก! ไม่รู้กูจะขำหรือสงสารในความคิดสมัยสาววัยเอาะของหล่อนดี ห่าจิก ทำกูฮาน้ำตาไหล ภายใต้แสงสปอร์ตไลต์ใต้เงาต้นมะขาม อีห่า คิดได้นะยะ”

ปล่อยให่อีป้าเดี้ยนมันขำพุงกะเพื่อมไปค่ะ ส่วนคนสวยๆ อย่างพวกเรามาตามอ่านเรื่องราวของดิฉันต่อดีกว่า

ทุกๆ วันที่ดิฉันมาเดินสวยๆ ยังสนามหลวง สิ่งที่ดิฉันมักจะเห็นเป็นประจำคือประมาณสามทุ่มเป็นต้นไปจะมีเหล่าผู้ชายมาเตะบอลกันกลางสนามค่ะ โอ้ย เล่าถึงตอนนี้เลือดกำเดาจะพุ่งค่ะคุณขา ก็อีผู้ชายพวกนั้นไม่ใช่เหล่ากรรมกรแบกหามนะคะ เท่าที่วัดดูด้วยสายตา น่าจะเป็นพวกนักเรียน นักศึกษาทั้งนั้นค่ะ

อีพวกนี้มันชอบถอดเสื้อเตะบอลค่ะ เวลาแสงสปอร์ตไลต์สาดเข้าที่ผิวมันนะคะ ดิฉันแทบฟินค่ะ กรี๊ดดดดดดด ขาวใสได้อีก สารภาพค่ะว่าดิฉันลอบมองพวกนี้บ่อยๆ ยามที่ดิฉันแสร้งเดินจงกลมรอบสนามหลวง แล้วก็มีหนึ่งคนค่ะที่สะดุดตาดิฉันมากมาย ทายสิคะว่าใคร

“ตาตี๋น้อยล่ะสิ”

ต๊าย! ฉลาดกันจัง ถูกต้องค่ะ แต่ตอนนั้นดิฉันยังไม่รู้ชื่อมันนะคะ มารู้อีกทีตอนที่เราเจอกันนี่แหละค่ะ อยากรู้มั้ยคะว่าเราเจอกันได้ยังไง

“อย่าบอกนะว่ามึงจะให้พวกกูตามอ่านตอนต่อไป”

“แหม ดักคอเดี๋ยนเลยนะคะป้า”

“แล้วมันจริงมั้ยล่ะ”

“ก็ป้ารู้ทันเดี๊ยนจะทำไปเพื่ออะไรคะ ไม่หนุกค่ะ”

“แสดงว่าหล่อนจะเล่าต่อ”

“ค่ะ”

ต๊าย! ยิ้มซะแก้มปริเชียวป้าเดี๊ยน หลายคนก็อยากอ่านต่อไม่ต่างจากอีป้าหรอกดิฉันรู้ งั้นดิฉันจะเล่าต่อค่ะ ตอนที่ดิฉันได้พูดได้คุยกับไอ้ตี๋น้อยเป็นเวลาจวนเจียนจะเที่ยงคืนค่ะ ตอนนั้นพวกที่ลงเตะฟุตบอลได้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว ดิฉันก็กำลังจะกลับค่ะ ทันใดนั่นเอง

“กลับแล้วเหรอ ขายตูดได้กี่รายล่ะเอ็ง”

มีเสียงทักมาค่ะคุณ กรี๊ดดดดดดด อีหน้าไหนมาหาว่ากูขายตูด ขอดูหน้าหน่อยเถอะ ตอนนั้นดิฉันปรี๊ดแตกจริงๆ ค่ะ แต่พอหันไปมอง อุแม่เจ้า เข่าแทบทรุดค่ะคุณขา รู้มั้ยคะว่าดิฉันเจอใคร

“ตาตี๋น้อย”

ทายกันถูกอีกละ อายจัง ค่ะดิฉันเจอไอ้ตี๋น้อยกำลังยืนถือขวดน้ำขึ้นดื่มค่ะ ในสภาพที่สวมรองเท้าผ้าใบ นุ่งกางเกงบอลขาสั้น ส่วนเสื้อพาดอยู่ที่ไหล่ กรี๊ดดดด หล่อมั่กๆ ขอโบกกก

“นะ นาย ว่าใคร” ตอนนั้นดิฉันปากคอสั่นถามแทบไม่เป็นภาษาค่ะ ก็ไม่อยากจะเชื่อนี่คะว่าคนที่ดิฉันสนใจจะมายืนอยู่ใกล้ๆ ดิฉันอย่างนี้

“ก็ว่าเอ็งน่ะแหละ เห็นเดินรอบสนามหลายรอบแล้วนี่”

ไอ้ตี๋น้อยตอบมาค่ะ ช่วยดิฉันคิดทีค่ะประโยคที่ว่าเห็นดิฉันเดินรอบสนามหลายรอบ แสดงว่ามันก็ต้องมองดิฉันอยู่ใช่มั้ยคะ

“ถูกค่ะเจ๊”

มีเสียงดังมาจากแถวชะนี เอ้ย แถวกลาง ขอบคุณที่ตอบค่ะคุณน้อง คือตอนนั้นคุณพี่โง่ค่ะ คิดอะไรไม่ทันเพราะมัวแต่อึ้งตอนเห็นหน้าหล่อๆ ของไอ้ตี๋น้อยมัน

“ผู้ชายหล่อๆ นี่ทำกะเทยโง่มาหลายรายแล้วเนาะ”

มีเสียงซุบซิบนินทา ชะนี เอ้ย แถวกลางอีกแระ เริ่มมีปากเสียงนะยะ

“หล่อนอย่าเพิ่งเหวี่ยงอีเอ็กซ์ เล่าต่อบัดเดี๋ยวนี้”

นึกว่าใบ้จะแดกอีป้าไปซะอีก ส่งเสียงกระทุ้งมาจัดให้ค่ะป้าขา

“ถามแปลกแฮะยืนอยู่สองคนจะให้ข้าว่าใครวะ” ไอ้ตี๋น้อยตอบมาแบบนั้นค่ะ คนหล่อพูดจาเถื่อนๆ นี่มันน่าร่วมเพศด้วยนะคะ

“เก็บอาการนิดนึงอีเอ็กซ์”

“ค่ะป้า ขอบคุณที่เตือนค่ะ”

เล่าต่อนะคะ ตอนที่ไอ้ตี๋น้อยตอบดิฉันมาแบบนั้น ดิฉันไปไม่เป็นเลยค่ะ ได้แต่ยืนใบ้แดกมองหน้ามัน จนมันเอ่ยว่า

“มองอะไร ที่ถามไม่ได้ตามมาซื้อโว้ย”

โอ้ย! หน้าตาขนาดนี้อีเอ็กซ์ขอแหกขาเป็นตัว V ให้ฟรีค่ะ ไม่ต้องซื้อค่ะมึง ว่าแต่สนใจมั้ยคะ?

นั่นคือความคิดค่ะ ดิฉันคงไม่กล้าเอ่ยบอกออกไปแบบนั้น เพราะดูลักษณะแล้วไอ้ตี๋น้อยมันคงจะสนใจเตะก้านคอดิฉันมากกว่าสมสู่ค่ะ เพราะอะไรน่ะหรือคะ ดิฉันรู้ตัวค่ะว่าสภาพดิฉันตอนนั้นเป็นเช่นไร

นึกภาพตามนะคะ กะเทยบ้านนอกแอ็บแมนคนนึง ยืนอยู่ใต้เงาสลัวของต้นมะงาม สวมเสื้อยืดเก่าๆ ราคาน่าจะถูก เป็นของมือสองมรดกตกทอดจากใครก็มิอาจทราบได้ เพราะพี่สาวเหวี่ยงให้ตอนเข้ากรุงใหม่ๆ ส่วนกางเกงนั้น เป็นยีนส์เน่าๆ ทรงกระบอก ราคาก็ไม่รู้อีกแหละค่ะ เพราะพี่สาวบริจาคให้ ส่วนที่เท้า อันนี้ภูมิใจนำเสนอค่ะ เพราะจ่ายเงินซื้อเอง รองเท้าหูหนีบแบรนด์ดัง “ดาวเทียม” ค่ะ

“กรี๊ดด! ต่ำตมมั่กๆ อีเอ็กซ์”

“ขอบคุณที่ชม”

“กูสมเพชค่ะ”

“นิสัยกะเทยจ้องดูถูก ไม่ใส่จีค่ะ”

“ค๊า อีเริ่ด เล่าต่อเร็ว”

เอ่ยแทรกอีกทีกูปิดบันทึกแน่อีวอก ชั่วโมงนี้คนสวยขอเหวี่ยงค่ะ กำลังเล่าอย่างเมามันดันโดนขัดคอ อารมณ์เสีย ชิส์

เล่าต่อค่ะ เมื่อกี้ถึงฉากรองเท้าหูหนีบแล้วชิมิคะ ลองมองย้อนกลับไปด้านบนนะคะ ผ่านเสื้อและกางเกงเอื้ออาทรไปบนใบหน้าดิฉันคะ อันนี้ไม่ขอวิจารณ์ถึงความอัปรีย์บนหนังหน้าตอนอายุสิบเก้าของเดี้ยนค่ะ กะเทยหน้าบ้านๆ เป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ

ช็อตเด็ดอีกที่คือบนศีรษะดิฉันค่ะ คุณขา ผมเผ้าดิฉันสมัยนั้นหยองและหยิกอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นึกสภาพสิคะ จากเดิมที่ฟูฟ่องอยู่แล้ว ยามที่ดิฉันห้อยโหนบนรถเมล์เขียวเล็กมาที่นี่ล่ะคะ สภาพมันจะกระเซิงขนาดไหน นี่ยังไม่นับรวมเวลาโดนสายลมกลางคืนพัดผ่านอีกนะคะ โอ้ย คิดดูเอาเถอะค่ะว่าสภาพที่ดิฉันยืนอยู่ต่อหน้าไอ้ตี๋น้อยตอนนั้นจะเป็นเช่นไร ฟ้ากับเหวชัดๆ เพราะไอ้ตี๋น้อยตอนนั้นมันยืนหล่อพร้อมสรรพชนิดไม่เกรงใจดิฉันเลยค่ะ อีห่าลาก หล่อซะกูอาย ดิฉันคิดแบบนั้นจริงๆ ค่ะตอนนั้น

“เราไม่ได้มาขายตัวนะ” ดิฉันตอบกลับด้วยสรรพนามน่ารักน่าเอ็นดู ขัดกับหนังหน้าร้อยแปดพันไมล์เลยล่ะค่ะ

“จริงดิ เห็นเดินรอบสนามตั้งหลายรอบเนี่ย มาทุกวันอีกต่างหาก”

มาทุกวัน! โอ๊ะ! อะไรกันนี่ คนหล่อแอบมองเดี้ยน กรี๊ดดดดดด ดิอิมพอสสิเบิล

“แน่ใจนะว่าออกเสียงถูกอีเอ็กซ์ นี่บันทึกคนอ่านเป็นร้อยหรือไม่แน่อาจเป็นพัน หล่อนอย่าริปล่อยไก่เชียว”

“ดิฉันออกเสียงไม่ถูก ก็พยายามอ่านให้มันถูกๆ สิค๊า จะมาหาสาระอะไรกับกะเทยต่ำตมล่ะคะ”

“ประชดกูซะงั้นอีนี่ เล่าต่อมาเร็ว ฉันเลิกค้านหล่อนก็ได้”

วอนให้ดิฉันปิดบันทึกซะจริงกะเทยแถวนี้ มีชะนีน้อยใหญ่รออ่านตาถลน เห็นใจเขาหน่อยสิยะ นี่ยังไม่รวมหนุ่มน้อยใหญ่ที่นั่งแถวหน้าโชว์เป้าอูมๆ อีกนะ หุบขาบ้างค่ะลูก อย่าเพิ่งอ่อยเจ๊ตอนนี้ เดี๋ยวเจ๊ฟิน ว้าย! นอกเรื่องไปกันใหญ่วกกลับเข้าฉากทำความรู้จักกันของดิฉันกับไอ้ตี๋น้อยต่อค่ะ

“นายรู้ได้ไงว่าเรามาทุกวัน” คำถามดิฉันดูฉลาดมั้ยคะ กะจับผิดหนุ่มหล่อสุดฤทธิ์

“ข้าก็มาเตะบอลทุกวันทำไมจะไม่เห็นเอ็ง” ต๊าย! คนหล่อตอบเลี่ยงๆ แอบมองดิฉันก็บอกสิคะ อุ้ยว้าย สวยมาจากนรกอย่างดิฉันก็มีเสน่ห์ได้หรือนี่ อิอิ

“อย่าหลงตัวเองครับเจ๊ พี่ตี๋เขาคงบังเอิญเห็นเจ๊มั้งครับ”

อ๊ะ! หนุ่มน้อยนั่งแถวหน้าขัดคอ ถือว่าหล่อแล้วคิดจะคิดว่าเจ๊จะไม่กล้าเหวี่ยงใส่เหรอคะคุณน้อง จบบันทึกเมื่อไหร่เจอกัน หล่อๆ แบบนี้จะด๊วบให้ซีดเชียว

“คุกค่ะอีเอ็กซ์ น้องๆ แถวหน้าอายุเท่าไหร่ยะ อย่าร่านไม่ดูตาม้าตาเรือ”

“ก็ไม่รู้ล่ะค่ะ กล้าเสนอหน้ามาอ่านบันทึกของดิฉันจนถึงบรรทัดนี้ก็เดาว่าต้องแรงพอดูล่ะคะ ใช่มั้ยคะคุณน้อง ว้ายยิ้มน่ารักอ่ะ ชื่ออะไรจ๊ะ”

ถามไม่ตอบแฮะ เอาแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ โอ้ย อยากโดนเด็กข่มขืนคะ ทำยังไงดีคะ

“เล่าเรื่องต่อสิครับ แล้วพวกผมอาจจะไปกับเจ๊”

“กรี๊ดดด! สัญญาต้องเป็นสัญญานะ”

เอาล่ะเหวย มีแรงฮึดเล่าต่อค่ะ ถึงไหนแล้วนะ อ้อ ถึงตอนที่ไอ้ตี๋น้อยมันตอบดิฉันเลี่ยงๆ

“เราก็เห็นนายเตะบอลทุกวันเหมือนกัน” ดิฉันตอบกลับสวยๆ ค่ะ

“แอบดูเหรอ” อีตี๋ตอบกลับค่ะ ส่งสายตาอ่อยดิฉันสุดฤทธิ์ค่ะ ใจสาวบ้านนอกอย่างดิฉันละลายเลยค่ะในตอนนั้น แต่ก็ยังข่มใจสนทนากับมันไปเรื่อย

“แค่บังเอิญเห็น”

“จริงอ่ะ”

“จริง”

“จริงก็จริง เออ แล้วตกลงเอ็งไม่ได้มาขายตูดแน่นะ”

“ก็จริงน่ะสิ”

“โล่งอกไปที คนอื่นมองเห็นจะได้ไม่คิดว่าข้ามาซื้อตูดเอ็ง”

"แล้วมาทักเราทำไม"

“ก็เห็นมาทุกวัน มาแล้วก็เห็นแต่เดินรอบๆ สนาม พักแถวนี้เหรอ”

“เปล่า”

“แล้วอยู่แถวไหน”

“พระประแดง”

“จริงดิ”

“อืม ทำไมเหรอ”

“ทางเดียวกัน ข้าอยู่ดาวคะนอง”

“เหรอ”

“เออ ไปล่ะนะ เพื่อนเรียกแล้ว วันหลังจะมาทักใหม่”

ฉากนี้อีตี๋เดินจากไปแล้วค่ะ เหลือแต่ดิฉันที่ยืนมองตามหลังตาละห้อย คนอะไร เตะบอลก็เท่ เดินเฉยๆ ก็เท่ วิ่งก็ยังเท่อีก แล้วเวลาได้เสียกับดิฉันจะมันส์ขนาดไหนนะ

กรี๊ดดดดดดดดดด คนสวยแอบคิดลึกค่ะ ขอเวลาตั้งสติแป็บนะคะ

อะ พร้อมเล่าต่อแล้วค่ะ

“ลีลานะอีดอก” เสียงอีป้าแซวมาค่ะ กัดดิฉันเพื่อเสริมดวงชะตาเหรอคะป้าขา

“ก็หล่อนเล่าขาดตอนทำไม กำลังสนุกเชียว”

วุ้ย ป้าสนุกเหรอค่ะ งั้นเดี๋ยวดิฉันเล่าต่อค่ะ

ฉากนี้เป็นฉากที่ดิฉันมองตามหลังไอ้ตี๋น้อยที่กำลังวิ่งไปหาเพื่อนที่มันบอกว่าเรียกมันค่ะ ตามสันดาน เอ้ย สัญชาตญาณ ดิฉันก็อดที่จะมองดูเพื่อนมันไม่ได้หรอกค่ะ จะดูซิว่าหล่อเท่าไอ้ตี๋มันมั้ย ถ้าเท่า เหมาทั้งกลุ่มค่ะ โดนรุมโทรมซักวันท่าจะซีดส์ อิอิ

“ตกลงเรื่องนี้เจ๊เป็นนางเอกหรือนางร้ายครับ เล่าถึงตอนนี้ดูแรดจัง”

โอ๊ะ โดนหนุ่มน้อยแถวหน้าต่อว่า ขอแถลงข่าวว่าเรื่องนี้เจ๊เป็นนางเอกค่ะ นำเดี๋ยวด้วยค่ะ สวยๆ เชิ่ดๆ เจิดๆ จบมั้ยคะ ว่าแต่คุณน้องสนใจเป็นพระเอกให้เจ๊มิคะ

“อะ แฮ่ม”

มาแบบนี้เสียงอีเจ๊ขาแทรกแน่นอนค่ะ ว่าแล้วไง หันมองไป เจอเคี้ยวหมากตุ้ยๆ เชียว อร่อยมั้ยคะป้าขา

ไม่มีเสียงตอบกลับเพราะหมากกำลังเต็มปากนางอยู่ค่ะ ดีค่ะ นางจะได้เงียบเสียงซะบ้าง มาค่ะ ดิฉันจะเล่าต่อ

ดิฉันมองเลยไปทางที่ไอ้ตี๋น้อยวิ่งไปเจอคนหนึ่งกำลังยืนอยู่คล้ายยืนรอไอ้ตี๋น้อยเลยค่ะ หล่อซะด้วย แต่ท่าทางดูเด็กอยู่ อายุน่าจะเท่าดิฉันค่ะ นั่นไอ้ตี๋น้อยวิ่งไปถึงเด็กนั่นแล้วค่ะ อุ้ยว้าย นั่นอะไรกันคะ นั่นอะไรกั๊นนนนนนนนนนนน!

กรี๊ดดดดดดดดด สิ่งที่ดิฉันเห็นเต็มสองตาตอนที่ไอ้ตี๋วิ่งไปถึงเด็กนั่นคือไอ้ตี๋ยกมือขึ้นคลอนศีรษะเด็กนั่นค่ะ เหมือนการหยอกล้อไม่มีผิด โอ้ย หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ถึงมาจากบ้านนอกหน้าตาเน่าๆ แต่สมองสาวน้อยอย่างดิฉันก็พอจะดูออกค่ะว่ากิริยาที่ไอ้ตี๋น้อยทำกับอีเด็กคนนั้นมันเกินกว่าเพื่อนกับเพื่อนทำกันอย่างแน่นอน

ไม่นะ ไม่ ทำไมจิตใจดิฉันเกิดร้อนรุ่มอย่างประหลาดในตอนนั้น เด็กนั่นเป็นอะไรกับไอ้ตี๋น้อยของดิฉัน มายก๊อดดดดดดดดด

ขอพักสติก่อนค่ะ แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ

ขอบคุณและสวัสดีค่ะ