Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 416
Message ID: 60
#60, RE: Reasoning (เหตุผลหรือความรัก)
Posted by ไอ้ต้า on 14-May-12 at 07:19 PM
In response to message #58
ผมเดินตามซันเข้าร้านไปไม่นานเท่าไหร่ ทั้งนุและพี่เซนต์คงรู้ว่าผมออกไปพูดอะไรกับซันมา เพราะว่าซันเองก็ตาแดง ส่วนผมก็น้ำตาคลอเบ้า ตอนนั้นผมคิดว่าวิธีที่ผมเลือกมันดีที่สุดทั้งสองฝ่าย ทั้งซันและผมก็จะได้ยุติความสัมพันธ์แบบนี้ ผมรู้สึกทุเรศตัวเอง ส่วนไอ้นุเอง มันจะได้เลิกว่าผมเสีย ๆ หาย ๆ และผมเองก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เพื่อนกลับมาหรอกนะครับ
“ต้าเป็นไรไป โอเคไหม” น้ำเสียงของไอ้นุดูห่วงใย (จริงหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ)
“อืม ไม่เป็นไร” ผมตอบ
ตอนที่ผมตอบ ผมมองหน้าซัน ซันไม่มีท่าทางใด ๆ และไม่สบตาผมด้วย และแล้วนุก็เอามือมาโอบไหล่ผม ด้วยความตกใจ ผมก็เลยรีบเอามือของนุออก มันเป็นสัญชาติญาณน่ะครับ แต่ด้วยการกระทำแบบนั้น ซันก็หันมามองผม แล้วพูดว่า
“อย่าล้อเล่นกันได้ไหม ผมแค่ต้องการความจริง”
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นเงียบกริบ หลังจากคำพูดประโยคนั้นหลุดออกจากปากซัน น้ำตาซันก็ไหล ไหลออกมาเลยครับ ผมเห็นแบบนั้นแล้วผมรู้สึกปั่นป่วนมาก ผมเลยผละออกจากการยืนข้าง ๆ ไอ้นุ แล้วเดินอ้อมเคาน์เตอร์ไปผ่านพี่เซนต์ แล้วจับมือซันจูงออกจากร้าน ท่ามกลางความงุนงงของอีกสองคนที่เหลือ ซันเดินตามแรงจูงของผมมาโดยดี พอออกมาถึงหน้าร้านแล้ว ซันก็บอกผมว่า
“จริง ๆ แล้วผมก็ไม่เชื่อหรอกนะ ว่าต้ากับนุจะมีอะไรกัน แต่ผมแค่เสียใจที่ต้ามาโกหกผมแบบนี้”
“ผมแค่ไม่ต้องการจะเป็นเงาของใครอีกต่อไปแล้ว ผมเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะทำยังไงให้ซันอยากจากผมไป” ผมตอบ
“ผมไม่ได้ตกใจหรือเสียใจเรื่องเพื่อนต้าเลย แต่ที่ต้าพูดมานั้น มันทำร้ายจิตใจผมมากกว่านะ”
“เอ่อ ผมขอโทษนะ”
“แล้วเรื่องของเรา ต้าอยากให้มันเป็นยังไงล่ะ” ซันถาม
“ผม ผมไม่รู้”
“เอางี้ไหมต้า” ซันปาดน้ำตาตัวเอง “เราก็ดูแลกันไปอย่างนี้แหละดีไหม”
“เอ่อ.....” ผมลังเลที่จะตอบรับ “ผมว่าเราห่าง ๆ กันสักพักดีกว่าไหม” ผมตอบไปเสียงจ๋อย ๆ

ยังไม่ทันจะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ พี่เซนต์และไอ้นุก็ออกมา สงสัยว่าเพิ่งจะหายงง ไอ้นุมายืนข้างผม ส่วนพี่เซนต์ไปยืนข้างซัน พี่เซนต์บอกกับซันว่า
“ซัน ซันมีพี่อยู่ทั้งคนนะ ซันเป็นไรไป บอกพี่ได้นะ” พี่เซนต์เอามือโอบไหล่
“ตกลงตามที่ผมว่าแหละนะ ซัน” ผมบอก แล้วก็จับข้อมือไอ้นุ พร้อมบอกว่า “ไปได้แล้ว”
“ผมไปก่อนนะ” ไอ้นุลาซันกับพี่เซนต์

“มึงเลิกกันแล้วเหรอ” ไอ้นุถาม
“สะใจมึงรึยังล่ะ”
“สะใจเหี้ยอะไร ไม่เกี่ยวกับกู พวกมึงจัดการกันเอง”
“ถ้าสะใจแล้ว ก็ไปไกล ๆ ตีนกู อย่ามายุ่งกะกูอีก” ผมบอกมันแล้วก็เดินนำไปก่อนเลย
เสียงไอ้นุตะโกนมา “แดกเหล้าป่ะ” แต่ผมก็ไม่ได้หันหลังกลับ เราแยกกันตรงนั้นเลยครับ

ผมกลับมาที่ห้อง ผมนอนลงบนเตียงแล้วก็คิดทบทวน ผมสงสัยจังเลยครับว่า ทำไมในเมื่อเราทำสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง แต่ทำไมกลับไม่มีความสุขเลย ทำไมนะ ทำไมนี่ ทำไมนั่น ทำไมโน่น เยอะแยะไปหมด ผมล่ะยากที่จะเข้าใจ จนผมเองก็ม่อยหลับไป ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ จนเสียงโทรศัพท์มือถือผมดังข้ึนนั่นแหละ ผมเลยหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นซันเองครับ ผมไม่รับจนสายมันตัดไป แต่ก็โทรเข้ามาอีก ผมก็ตัดสินใจรับ
“ฮัลโหล ซัน ว่าไง”
“ผมอยู่ข้างล่าง ลงมาหน่อยได้ไหม”
“ผมบอกซันแล้วนะ ว่าเราควรจะห่างกันซักพัก”
“แต่ผมยังคุยกับต้าไม่รู้เรื่องเลยนะ ทานอะไรรึยัง ไปกินอะไรกันก่อนไหม”
“ไม่ดีกว่า ผมยังไม่หิว ซันกลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวพี่เซนต์เขาจะสงสัยเอา”
“ถ้าเราไม่คุยกัน ก็ไม่มีทางรู้เรื่องหรอกนะต้า ลงมาเถอะ ถ้าคุยรู้เรื่องแล้ว จะห่างก็ค่อยห่างแล้วกันนะ” ซันชวนผม
ผมตัดสินใจลงไปหาซัน ทันทีที่เจอกัน ซันก็เข้ามากอดผม
“ต้า ต้าอย่าเพิ่งพูดอะไรนะ อยู่เฉย ๆ ก่อนนะ”
สักพัก ผมเลยบอกกับซันว่า “ซัน ผมว่าเราควรจะห่างกันสักพัก อย่างน้อยก็ให้รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร เวลาที่ไม่มีกันและกัน”
“นั่นเป็นความคิดของต้า ผมไม่เคยคิดจะตีตัวออกห่างต้าเลยนะ”
“แต่ผมอึดอัดกับความสัมพันธ์ของเรา ผมอยากเป็นคนเดียวที่ซันรัก ไม่ใช่รักสองคนแบบนี้”
“แล้วจะให้ผมทำไงได้ล่ะ ผมรักพี่เซนต์ ในขณะเดียวกัน ผมก็รักต้าด้วย ผมผิดด้วยเหรอ ทำไมผมถึงต้องรักสองคน อย่าคิดว่าผมไม่รู้สึกอะไรนะ ผมเองก็เสียใจ แต่ผมคิดว่า เรารักกัน แค่นั้นก็พอแล้ว”
“มันไม่พอหรอกซัน ปัจจัยมันมีมากมายเหลือเกิน ตลอดเวลาที่ผมรู้จักซันมา ผมก็มีความสุขมากแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนคนนั้นสำหรับซันไม่ได้ แต่ผมจะพยายามทำใจให้ได้นะ” ผมหันหลังกลับ แต่ซันคว้ามือผมไว้
“ต้าจะทิ้งคนที่รักต้าแบบนี้เหรอ”
ผมไม่ตอบอะไร
“ต้า ต้าเห็นไหม วันนี้ผมไม่ได้ขับรถพี่เซนต์ ผมเอารถผมมา ผมตั้งใจมารับต้าไปกินข้าว ผมอยากจะดูแลต้าให้มาก ๆ นะ ให้โอกาสผมนะครับ”
“ผมว่าอย่าดีกว่านะซัน เราอย่าทำแบบนี้เลย” ผมเอามือแกะมือซันที่จับออก แล้วก็เดินกลับขึ้นห้อง
“ยังไงผมก็ไม่ยอมแพ้หรอก” เสียงซันตามมา

ทันทีที่กลับมาถึงห้อง ผมทิ้งตัวเองลงไปที่เตียงแล้วก็ร้องไห้ เพราะไม่รู้จะระบายทางไหนดี ใจของผมน่ะ อยากไปกับซันตั้งแต่ซันโทรมาแล้ว แต่ด้วยเหตุผล ทำให้ผมต้องปฎิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะที่เมื่อก่อนนี้ เป็นซันต่างหากที่คอยปฎิเสธผม แต่ผมก็เชื่อนะ ว่าซันเขารักผม แต่จะให้ทำไงได้ เพราะซันเขาไม่ได้รักผมคนเดียวนี่นา

เด๋ียวนี้ผมไปเรียนโดยที่ไม่มีพวกคอยป่วนแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังคงมองผมอยู่ แต่ก็ยังดีกว่าให้พวกไอ้หนุ่ม ไอ้บาส มันมาพูดว่าเสีย ๆ หาย ๆ ยิ่งไอ้นุด้วยแล้ว เราก็ต่างคนต่างอยู่ เวลาเจอกันเราก็แค่เดินสวนกัน ซึ่งต่างก็ไม่มีใครทักกัน ผมเองก็มีเพื่อนคนอื่นอีก ก็มีเพื่อนถามเหมือนกันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นจริงรึเปล่า ผมก็บอกว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ผมมีคนรักเป็นผู้ชายล่ะก็ อันนั้นจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องบ้าบอ อันนั้นไม่จริง แล้วแต่จะเชื่อก็แล้วกัน ระยะเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะเหงา แต่ผมก็ต้องทนอยู่ในสภาพนี้ให้ได้ เกือบเดือนแล้วสินะ ที่ผมกับซันคุยกันวันนั้น ผมยังคิดถึงซันอยู่เลย ไม่รู้ว่าซันเองคิดถึงผมบ้างไหม เวลากินข้าว ผมก็นึกถึงเวลาที่เรากินข้าวกัน เวลาขึ้นรถประจำทาง ผมก็นึกถึงความสะดวกสบายเวลามีซันขับรถให้ เวลานอนก็นึกถึงเวลาที่เรานอนข้าง ๆ กัน แค่คิดเรื่องพวกนี้ น้ำตาผมก็เอ่อแล้ว ระยะเวลาที่ผ่านไป ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น ถ้าเวลาช่วยบรรเทาความรู้สึกได้ มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันนะ ผมล่ะอยากรู้จริง ๆ